สมาย มิวสิคแอนด์มีเดีย จัดงานแสดงความยินดีแด่ผู้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต

ปลาบปลื้มใจกับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกับ 2
ด็อกเตอร์ คนใหม่

สมาย มิวสิคแอนด์มีเดีย จัดงานแสดงความยินดีแด่ผู้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต กับ ด็อกเตอร์ คนใหม่ ท่าน ดร. ศรศักดิ์ ชูดำ ดุษฎีบัณฑิต จากการทุ่มเท  เวลาเรียน เพื่อคว้า  ปริญญาเอก และ รับพระราชทานปริญญาบัตร ปรัชญดุษฎีบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์   สาขาวิชา รัฐประศาสนศาสตร์  จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ด็อกเตอร์ คนใหม่ ท่าน ดร. ศรศักดิ์ ชูดำ ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

 

ดร. ศรศักดิ์ ชูดำ ดุษฎีบัณฑิต ปริญญาบัตร ปรัชญดุษฎีบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์   สาขาวิชา รัฐประศาสนศาสตร์  จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ในตอนเย็นวันที่ 29 มิถุนายน 2560  สมาย มิวสิคแอนด์มีเดีย ได้จัดงานเลี้ยงแสดงความยินดี  แด่ผู้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต   ณ.ครัวพฤกษา เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา กรุงเทพฯ

พิธีการเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. ณ ครัวพฤกษา เลียบทางด่วนรามอินทรา
ได้รับเกียรติจาก หม่อมราชวงศ์  จิราคม  กิติยากร  ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน  โดยการกล่าวขอแสดงความยินดี  กับผู้ที่ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต
ทุกท่านทั่วประเทศ  ความสำเร็จเป็นของคนที่ใช้ความพยายาม   ในความวิริยะ อุสาหะ มานะ พากเพียร จนประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ขอให้ใช้ความ
รู้ที่มี พัฒนาชาติไทยให้เจริญ



หม่อมราชวงศ์ จิราคม กิติยากร  แสดงความยินดีต่อ ผู้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต ดร. ศรศักดิ์ ชูดำ และ ดร.อาภาภัทร หินซุย ประธานบริษัท สมาย มิวสิคแอนด์มีเดีย จำกัด ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การทำงาน ในหน้าที่สำคัญต่างๆ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง ในฐานะแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจการ บริษัท สมาย มิวสิคแอนด์มีเดีย จำกัด   ให้ก้าวหน้าต่อไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ สมาย มิวสิคแอนด์มีเดีย ในการรักษาความเป็นผู้นำใน ด้านมิวสิคแอนด์มีเดีย อย่างแข็งแกร่ง พร้อมด้วย คุณเวชท์ หินซุย ประธานกรรมการบริษัท เค เอส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และแขกกิติมศักดิ์ และเพื่่อนๆ หลายท่าน รวมทั้งสื่อมวลชน เข้าร่วมงานแสดงความยินดี


ดร. ศรศักดิ์ ชูดำ ปัจจุบันท่านทำงาน  บริษัทการบินไทย จำกัด  (มหาชน)
ตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญ สายการบิน ท่านจบปริญญาเอก ปรัชญดุษฎีบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์   มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ในเรื่องการศึกษา
-ปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคาแหง

– ปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์
สาขาวิชาเอกการปกครอง วิชาโทกฎหมาย มหาวิทยาลัยรามคำแหง

-ประธานนักศึกษาปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ประธานนักศึกษาปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

-The Best Practices To Grow Your Business And Wealth by
JAY ABRAHAM 14-15 June 2016 Muang Thai GMM Live House,
Central World.

พร้อม ด้วยทีมที่ปรึกษา พร้อมผ่านการอบรมหลักสูตรมามากมาย อาทิ
วิชาและหัวข้อที่บรรยาย
การสร้างผู้นำในองค์กร
การสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร
การเพิ่มมศักยภาพผู้นำยุคใหม่
การเพิ่มมศักยภาพผู้บริหารยุคใหม่
การฝึกอบรมระบบค่ายด้วยกิจกรรมสานสัมพันธ์, กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ Family Rally, Rally Activity และ Jungle Rally สาหรับการพัฒนา
นักบริหาร เป็นต้น

ดร.อาภาภัทร หินซุย ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราว หลายคนอาจจะรู้จักแต่อีกด้านของเธอ ดร.อาภาภัทร หินซุย (แม็ก)  ดำรงตำแหน่ง  ประธานบริษัท สมาย มิวสิคแอนด์มีเดีย จำกัด ด้วยดีกรีปริญญาดุษฎีบัณฑิต ในวันนี้ ดร.อาภาภัทรมีโอกาสร่วมพัฒนาร่วมผลักดันให้โอกาส ด้านการศึกษา  ของบ้านเราเปิดกว้าง เธอมักจะให้  ข้อคิดเรื่องแนะแนวการศึกษา และการใช้ชีวิต ปัญหาของการพัฒนาประชากร  สนับสนุนให้รู้จักใช้ทรัพยากรและโอกาสอย่างเต็มที่  ขยายพื้นที่ความคิดในเรื่องการศึกษา ให้กับความเจริญของประเทศ

และในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีแก่ ดร. ศรศักดิ์ ชูดำ และ ดร.อาภาภัทร หินซุย ในความตั้งใจ มุ่งมั่น  ในการบริหารงาน และ การสร้างรากฐานที่มั่นคง แข็งแกร่ง จนประสบความสำเร็จ ตามแนวคิดของ  ดร.อาภาภัทร  หินซุย
ที่ว่า……

อย่ากังวลกับสิ่งที่มาไม่ถึง…แต่ให้คำนึงถึงสิ่งที่กำลังทำ…สิ่งที่มองไม่เห็นคือใจคน…สิ่งที่ต้องอดทนคือใจเรา หนึ่งครั้งที่ผิดพลาด…อาจทำให้…ไม่มีโอกาสได้แก้ไข…คิดก่อนที่จะทำอะไรลงไป…จะได้ไม่ต้องมาเสียใจในสิ่งที่ทำ…คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต…บางคนเป็นมิตร…บางคนเป็นศัตรู…แต่ทั้งหมดล้วนเป็นครู

ภาพบรรยากาศงานเลี้ยงดร. ศรศักดิ์ ชูดำ  และ ดร.อาภาภัทร หินซุย

ในโอกาสนี้ ผู้บริหารจากคณะ/หน่วยงานต่างๆ ได้มอบของที่ระลึก พร้อมช่อดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีต่อผู้ได้รับพระราชทานปริญญาบัตร พร้อมด้วยคุณเวชท์  หินซุย  ประธานกรรมการ  บริษัท เค เอส เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด   และ
แขกกิติมศักดิ์   จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อน และ  สื่อมวลชน เป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นบรรยากาศงานที่เป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อผู้ได้รับพระราชทานดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และเป็นความภาคภูมิใจ

ข่าว/ภาพ : ชัญญา จันทะรังษี

3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน สาวๆ แห่สมัครล้น กระแสดีเกินคาด

3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน  จัดออดิชั่นรอบพิเศษ สำหรับภาคกลางอีก 1 รอบ!

บริษัท โคเมดี้ ไลน์ จำกัด โดย “เป็ด เชิญยิ้ม” จับมือ หมอมวลชน จัดการประกวด “โครงการ 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน” เพื่อเปิดโอกาสให้สาวๆจากทั่วประเทศทั้ง 3 วัย (วัยใส อายุ 18 – 23ปี, วัยทำงาน อายุ 24-35 ปี, วัยมากประสบการณ์ อายุ 36 ปีขึ้นไป) ได้มีโอกาสเป็น 1 ใน 3 พรีเซนเตอร์หน้าใหม่ของหมอมวลชน และร่วมเป็นนักแสดงในรายการก่อนบ่ายคลายเครียด ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท

หลังจากได้ไปเฟ้นหา 3 สาว 3 วัย มากความสามารถจากทั่วประเทศครบทั้ง 4 ภาค จนได้ตัวแทนสาว 3 วัยแต่ละภาค ที่ผ่านการออดิชั่นมาแล้วนั้น แต่ด้วยกระแสตอบรับในรอบออดิชั่นจากสาวๆ ทั่วประเทศทีมีอย่างล้นหลาม


ทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมสมัครกันอย่างถล่มทลาย เราจึงเปิดออดิชั่นรอบพิเศษขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้สาวๆ มาแสดงความสามารถกันอีกครั้ง โดยในรอบออดิชั่นพิเศษนี้เราจะคัดเลือกผู้เข้ารอบอีกจำนวน 3 ท่าน

ในวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2560  ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น1
เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต

สาวๆ ท่านใดที่พลาดโอกาสในครั้งก่อน สามารถดูกติกา
และติดตามรายละเอียดการรับสมัครได้ที่
Facebook Fanpage : 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน

รีบมาสมัครกันเยอะๆ นะคะ

ทริปอมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต

แอ่วล้านนาหน้าฝน ยลเมืองหละปูน
แลเขลางค์นคร

สวัสดีหน้าฝน   จะไปไหนมาไหน  หลายคนมักจะบ่นเป็นเสียงเดียวว่ากลัวเปียก กลัวแฉะ ไม่อยากไปไหนเลย แต่ถ้าจะบอกว่าเราอยู่ใต้ฟ้าจะกลัวไป
ใยกับน้ำฝน หากเรามีการเตรียมความพร้อมซะอย่าง เราก็ไปได้ทุกที่ ถ้ามองอีกมุม หลังฝนตกคราใดท้องฟ้าก็จะแจ่มใส ใบไม้ใบหญ้า ก็มีความเขียวขจีขึ้นมาทันที ที่เราๆ ได้ยินได้ฟังภาษาของการท่องเที่ยวก็คือ Green Season นั่นเอง

เมืองต้องห้าม….พลาด จังหวัดลำปาง เขลางค์นคร เมืองแห่งรถม้า เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา   มาถึงลำปางแล้ว  เราต้องรู้ ต้องเห็น ต้องมาสัมผัสให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะไปได้ทางลัดของเรานั่นคือนั่งรถรางชมเมือง จุดนัดพบกันที่ วัดประตูป่อง นั่งรถรางเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่ามะโอ ย่านเมืองเก่าของจังหวัดลำปางซึ่งนับว่ามีอายุเก่าแก่นับ 100  ปี  ที่นี่ในอดีตเป็นย่านการค้าไม้ของจังหวัดลำปาง ชมประวัติศาสตร์ที่สำคัญๆ  ชมวัดสำคัญๆ  อันงดงาม ตามรอยอารยธรรมล้านนาตะวันตก อาทิ วัดปงสนุก, วัดพระแก้วดอนเต้า, กราบสังขารหลวงพ่อเกษม เขมโก, วัดประตูต้นผึ้ง, วัดประตูป่อง

วันนี้  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  สำนักงานลำปาง ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทางมาที่ จ.ลำพูน และ ลำปาง เพื่อมาสัมผัส  กลิ่นอายดินแดนอารยธรรมเก่าแก่แห่งล้านนา อายุมากกว่า 1400 ปี น่าสนใจจนต้องบอกต่อ
ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บวกกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั่งเดิม ทำให้ที่นี่มีมนต์เสน่ห์ที่ใครได้มาแล้วต้องหลงรัก

กิจกรรมครั้งสำคัญในชีวิตในวันแม่ 12-14 สิงหาคม 2560 ขอบอกได้เลยว่า “ทริปอมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” ต้อง…ห้ามพลาด ทริปนี้มีอะไรดีๆ บ้าง เชิญตามมาเลยค่ะ

ที่นี่จังหวัดลำพูน เมื่อเดินทางมาถึง จ.ลำพูนแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดวาอาราม โบราณสถานที่สำคัญๆ ที่เราไม่ควรพลาด

พระธาตุหริภุญชัย
พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองลำพูน และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีระกาตามคติของชาวล้านนา พระธาตุองค์นี้สร้างขึ้นใน พ.ศ.1651 ในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์องค์หนึ่งของอาณาจักรหริภุญชัย ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ ปัจจุบันกลายเป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ เป็นที่เคารพสักการะของชาวลำพูนและนักท่องเที่ยวมากมาย

วัดจามเทวี
วัดเก่าแก่ก่อตั้งคู่ดินแดนล้านนามาอย่างยาวนาน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า
“วัดกู่กุด” สัณนิฐานว่าพระนางจามเทวีสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1298 โดยใช้ช่างฝีมือชาวละโว้ ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยา  ในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืน ปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆ ภายในเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ตามตำนานเล่าว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิของพระนางเมื่อ ปี พ.ศ. 1298 เดิมมียอดห่อหุ้มด้วยทองคำ ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบชัด ยอดพระเจดีย์หักหายไปชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ นอกจากนั้นยังมี รัตนเจดีย์ซึ่งตั้ง อยู่ทางขวาของวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ฐานล่างสุดเป็นรูป 8 เหลี่ยม มีเส้น ผ่าศูนย์กลาง 4.40 เมตร สูงจรดยอด 11.50 เมตร องค์เจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมแต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนก่ออิฐถือปูนทั้งองค์



อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งอยู่ตำบลในเมือง บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม มีความสามารถ พร้อมทั้งความกล้าหาญ อีกทั้งเป็นผู้นำพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฏราชกุมารได้เสด็จมาทรงเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2525

กู่ช้าง-กู่ม้า
เป็นโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของชาวลำพูน กู่ช้างเป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชื่อ “ภูก่ำงาเขียว” ซึ่งหมายถึงช้างผิวสีคล้ำ งาสีเขียวที่ทรงอานุภาพและ อิทธิฤทธิ์ในสงคราม และมีเรื่องเล่ากันว่าเมือเกิดศึกสงครามเจ้าช้างเชือกนี้มองไปที่ผู้ใดจะทำให้ผู้นั้นมีอันเป็นไปหรือเสียชีวิต ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสของพระนางจามเทวี

 

วัดมหาวัน
ประดิษฐานพระศิลาดำไว้ที่นี่ ต่อมาหริภุญชัยเกิดสงครามกับขุนลัวะวิลังขะ พระฤๅษีจึงใช้พระศิลาดำเป็นต้นแบบสร้างพระเครื่องรางแจกจ่ายชาวเมืองเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการออกศึก พระเครื่องส่วนที่เหลือบรรจุไว้ในเจดีย์ที่วัดมหาวัน ต่อมาเมื่อเจดีย์หักพังลง ชาวบ้านจึงนำพระเครื่องเหล่านี้ไปบูชาและพบอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ พระเครื่องเหล่านั้นได้ชื่อว่า “พระรอด” และที่วัดมหาวันนี้เป็นวัดสำคัญต้นกำเนิดพระรอดลำพูน หนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ที่มีราคาแพงที่สุดองค์หนึ่ง ประกอบด้วย พระสมเด็จวัดระฆัง, พระรอดมหาวัน, พระนางพญา, พระผงสุพรรณ และพระซุ้มกอ
สำหรับเซียนพระดังๆ จะรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดี และในทริป “อมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” จะพาทุกท่านเข้าร่วมพิธีศักิด์สิทธิ์ และที่สำคัญทุกท่านจะได้ร่วมสร้างพระรอดลำพูนให้แม่ หรือแม่ให้ลูกแบบ DIY. ( Do It Yourself ) พระรอดทุกองค์ที่ท่านสร้างจะมีเพียงองค์เดียวในโลก ที่บรรจุเส้นเกศาของมารดาผู้เป็นแม่ของทุกคน และทุกท่านจะได้ร่วมแผ่พลังอภิจิตอธิฐานอานุภาพแห่งพุทธคุณลงในองค์พระ พร้อมกับพิธีพุทธภิเสกกับพระคุณเจ้าเพื่อเป็นมรดกอันล้ำค่าต่อไป

วัดสร้างขึ้นในสมัยที่พระนางจามเทวีครองเมืองหริภุญชัย ตำนานเล่าว่า
เมื่อพระนางจามเทวีเสด็จมาครองเมืองหริภุญชัยนั้น พระองค์ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย 2 องค์ คือ พระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) และพระพุทธสิกขิ (พระศิลาดำ) พระองค์ทรงสร้างวัดมหาวันขึ้นและ

วัดพระยืน
วัดพระยืน เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งสันนิษฐานว่าพระนางจามเทวีทรงสร้างขึ้นในราว พ.ศ.1213 ชื่อของวัดพระยืนมาจากองค์

พระพุทธรูปยืนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1606 ในสมัยพระเจ้าธรรมมิกราช (กษัตริย์องค์ที่ 32 แห่งหริภุญชัย) และต่อมาใน พ.ศ.1712 พระยากือนา ผู้ครองนครเชียงใหม่และลำพูน ได้สร้างพระพุทธรูปยืนเพิ่มเติมขึ้นอีก 3 องค์
เจดีย์วัดพระยืน มีลักษณะโดดเด่นตรงที่เป็นศิลปกรรมพม่า คล้ายกับเจดีย์วัดสัพพัญญูในเมืองพุกาม สร้างยกพื้นลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ มีบันไดเดินขึ้นสู่ลานประทักษิณชั้นบนที่ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว และมีเจดีย์บริวารองค์เล็กอยู่ทั้ง 4 มุม องค์เจดีย์งดงามน่าชมยิ่งนัก

วัดประตูป่อง
วัดประตูป่อง อยู่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูปลงรักปิดทอง โบราณสถานมีเจดีย์และวิหารซึ่งสร้างขึ้นสมัยเจ้าญาณรังษี เจ้าผู้ปกครองนครลำปาง สร้างขึ้น พ.ศ. 2409
ส่วนวัดประตู่ป่องสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2120 ตามประวัติเมืองลำปางในเขตตำบลเวียงเหนือนี้ สมัยโบราณคือ เมืองนครเขลางค์ สร้างขึ้นราว พ.ศ. 1223 มีลักษณะคล้ายรูปหอยสังข์ มีกำแพงชั้นบน เป็นอิฐ ชั้นล่างเป็นคันดิน คาดว่าชั้นอิฐเป็นกำแพงที่สร้างเสริมในรุ่นหลัง ความยาวโดยรอบราว 4,400 เมตร พื้นที่ราว 600 ไร่

วัดปงสนุก
วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน
ที่ผ่านมา พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พึ่งรับมอบรางวัลดี (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation  จากองค์การ UNESCO

วัดพระแก้วดอนเต้า
วัดพระแก้วดอนเต้า มีตำนานกล่าวว่า นางสุชาดา ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (หมากเต้า) และนำมาถวายพระเถระรูปนั้นจึงจ้างช่างให้นำมรกตนั้นไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูปซึ่งก็คือ พระแก้วดอนเต้า ซึ่งต่อมาได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงสาเหตุจากตำนานบอกว่า มีผู้ไปฟ้องเจ้าเมืองลำปางในขณะนั้นว่า พระเถระและนางสุชาดาคบหาในลักษณะชู้สาว เจ้าเมืองลำปางจึงให้จับนางสุชาดาไปประหารชีวิตริมน้ำ ก่อนสิ้นพระนางได้หันกลับมามองวัดพระแก้วดอนเต้า ความทราบถึงเจ้าเมืองจึงดำริให้สร้างวัดเป็นอนุสรณ์ ณ จุดประหาร และได้ตั้งชื่อว่าวัดนางเหลียว ส่วนพระเถระองค์นั้นทราบข่าวก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปหนีไป โดยได้นำไปฝากไว้ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน

กราบสังขารหลวงพ่อเกษม เขมโก ณ สุสานไตรลักษณ์
หลวงพ่อเกษม เขมโก หรือ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก (นามเดิม เจ้าเกษม ณ ลำปาง) เป็นพระเถระและเกจิอาจารย์ ผู้เคร่งครัดในธุดงควัตร ปลีกวิเวก พุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำปาง และชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นพระเถราจารย์ปูชนียบุคคลรูปหนึ่งของประเทศไทย และมีผู้มีความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน อีกทั้งท่านยังเป็นเจ้านายในราชวงศ์ทิพย์จักร ที่ออกผนวชอีกด้วย

หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนาธุระ ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนม์ชีพ เป็นพระที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ติดยึดในกิเลสทั้งปวง สรีระของท่านนั้นก็ยังความอัศจรรย์ด้วยเนื่องจากไม่เน่าเปื่อยเหมือนอย่างสังขารทั่วไป ทั้งยังเขียนป้ายบอกผู้ที่มาเคารพสรีระท่านด้วยว่า ให้พนมมือไหว้ที่หน้าอกเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ต้องกราบนะคะ

ชุมชนแกะสลักบ้านหลุก
หมู่บ้านหลุกเป็นชุมชนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง หมู่บ้าน OTOP แห่งนี้ได้รับรางวัลทั้ง 4 ดาวและ 5 ดาว เพื่อเป็นการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในครัวเรือนด้านการท่องเที่ยว และสินค้าหัตถกรรม โดยมีการนำไม้จามจุรี หรือไม้ฉำฉา และไม้สักมาแกะสลักเป็นรูปต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่สามารถนำมาให้ประโยชน์ในบ้านได้ อย่างเช่น แกะสลักไม้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ ตั้งแต่ตัวเล็กๆ จนถึงขนาดใหญ่ เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เครื่องประดับต่างๆ จำหน่ายราคาขายส่ง สามารถซื้อเป็นของฝาก หรือจะสั่ง Order ทางชุมชนแห่งนี้ก็จัดหาให้ได้เช่นกัน รายละเอียดสอบถามแต่ละบ้านกันเองได้เลย

เที่ยวลำปาง เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา ด้วยเวลาที่จำกัดช่วงเวลาแห่งความสุขแห่งดินแดนล้านนาที่เดินทางมากัน 3 วัน 2 คืน ก็ต้องหมดลง แต่มนต์ขลังยังคงติดตราตรึงใจ มิเสื่อมคลาย มาเที่ยวแล้วก็ยังอยากมาเที่ยวอีก ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนล้านนาด้วยกัน ที่สำคัญกับภารกิจ “อมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” ตามโครงการแอ่วล้านนาหน้าฝน ยลเมืองหละปูน แลเขลางค์นคร เพื่อร่วมสร้างพระรอดลำพูนให้แม่ หรือแม่ให้ลูกแบบ DIY. ( Do It Yourself ) ซึ่งทางคณะจะเดินทางไปวันที่ 12-14 สิงหาคม 2560   รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถาม 095 950 1559

ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานลำปาง โทร.  054  222 2214-5
Travel Line : 089 108 8484,  095 950 1559
ภาพ : www.phototechthailand.com

มะหมาชวนวิ่ง ณ. เมืองโบราณ สมุทรปราการ

งานวิ่งที่จะพาคุณท่องชมสถานที่สำคัญต่างๆในประเทศไทย

อาทิตย์นี้แล้วตื่น 04.30 น. เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า ล้างตา เปลี่ยนชุด เสร็จ นักกีฬาหลายท่านกล่าวว่า การออกกำลังกายตอนเช้าเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนัก และออกกำลังกายตอนเช้า เป็นเวลาที่ดี เพราะว่าช่วงเราตื่นใหม่ๆ สดชื่น งาน มะหมาชวนวิ่ง เที่ยวท่องล่องทั่วไทย พาเพื่อนซี้สี่ขา เจ้าตูบคู่ใจหันมาดูแลสุขภาพกาย และใจ ไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ไปกับน้องหมาคู่ใจพบกับกิจกรรมรูปแบบใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทย ออกกำลังกายตอนเช้าเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนัก

งานวิ่ง ที่จะพาคุณท่องชมสถานที่สำคัญต่างๆในประเทศไทย
งานวิ่ง ที่ท่านสามารถพาน้องหมามาร่วมกิจกรรมได้
งานวิ่ง ที่ทำให้ท่าน มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม เนื่องจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด จะนำไปสร้างสนามฝึกสุนัขกู้ภัย

  

เคนิครอส ครั้งที่ 1  มะหมาชวนวิ่ง เที่ยวท่องล่องทั่วไทย ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ  เปิดโอกาสให้ท่านได้พาน้องหมา เที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในเมืองโบราณเป็นครั้งแรก   พบกับเซเลบน้องหมา และเกมส์ชิงรางวัลมากมาย  ในวันที่ 25 มิถุนายน 2560  ณ เมืองโบราณ สมุทรปราการ  รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย นำไปสร้่างสนามฝึกสุนัขกู้ภัย เพื่อพัฒนาศักยภาพการทำงานของสุนัขค้นหาในเหตุภัยพิบัติโอกาสดีๆที่จะทำให้ท่านได้ท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย และทุกสายพันธ์ุไปกับตูบคู่ใจ ระยะการแข่งขัน – 3 กม.!

กิจกรรม Canicross เป็นกีฬาวิ่ง Cross Country กับสุนัข เริ่มต้นขึ้นในทวีปยุโรป โดยเป็นการฝึกซ้อมสุนัขลากเลื่อนนอกฤดูกาล ต่อมาจึงกลายเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมในยุโรป โดยเฉพาะประเทศอังกฤษ การวิ่ง Canicross สามารถวิ่งได้กับสุนัข 1 หรือ 2 ตัว โดยสุนัขจะต้องอยู่ในสายจูงซึ่งถูกผูกติดกับเจ้าของสุนัข

แรกเริ่มนั้น สุนัขที่นิยมใช้ในการวิ่ง Canicross คือ สุนัขลากเลื่อน แต่ในปัจจุบันสุนัขไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ทาง สุนัขพันธุ์เล็กจนกระทั่งสุนัขพันธุ์ใหญ่ ก็สามารถนำมาวิ่ง Canicross เจ้าของสุนัขทุกเพศ ทุกวัย ก็สามารถวิ่ง Canicross ได้เช่นกัน

กลุ่มไทยอาสาสมัครสุนัขกู้ภัย จึงเลือกจัดกิจกรรม Canicross ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ทั้งคนและสุนัข ได้ทำกิจกรรมร่วมกันและเป็นการออกกำลังการเพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นการจัดกิจกรรม Canicross ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยเลือกจัดกิจกรรม ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้วิ่งชมสถานที่สำคัญต่างๆในประเทศไทย เสมือนได้วิ่งท่องเที่ยวกับสุนัขไปจังหวัดต่างๆหลายจังหวัด ในระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร ดังนั้นทั้งคนและสุนัขทุกเพศทุกวัย ก็สามารถร่วมกิจกรรมนี้ได้

กิจกรรมฉีกกฎงานวิ่งด้วยกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างคนกับสุนัข เคนิครอส ครั้งแรก ณ. เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์เอกชนกลางแจ้งแห่งสยามประเทศ เชิญประชาชนทุกเพศทุกวัยชวนคู่ซี่ 4 ขาทุกสายพันธุ์ ร่วมวิ่งสานสัมพันธ์ด้วยระยะทาง 3 กม. ท่องเที่ยวไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศไทยในเมืองโบราณ พร้อมนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อสมทบทุนสร้างสนามฝึกซ้อมสุนัขค้นหา กลุ่มไทยอาสาสมัครสุนัขกู้ภัย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณศศิวิมล เหมือนปิ๋ว (ตั๊ก)
โทร. 0 2610 2372, 081 133 002

 

 

#canicross #tvsd #เมืองโบราณสมุทรปราการ

EEC แนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
จัดปาฐกถาพิเศษ EEC ในแนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยและแนวทางการปรับตัวภาคอุตสาหกรรมในยุค 4.0

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจมุ่งมั่น ความร่วมมือร่วมใจ และความเสียสละ ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจ ของกลุ่มผู้ที่เคยไปศึกษาและดูงานโดยทุน ABK & AOTS ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมี ฯพณฯ สมหมาย ฮุนตระกูล เป็นประธานคณะกรรมการก่อตั้ง และสำเร็จด้วยความช่วยเหลืออย่างดี จาก อาจารย์ โงอิจิ โฮซูมิ อดีตประธานกรรมการ สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ญี่ปุ่น-ไทย (JTECS) โดยได้
รับความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนจาก กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ
และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีพันธะผูกพันใด ๆ ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มกราคม 2516

มีวัตถุประสงค์เพื่อ นำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย มากว่า 40 ปี ผ่านกิจกรรมและบริการอันหลากหลายสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดหลักสูตรฝึกอบรม-สัมมนา,การเทียบโอนการศึกษาระดับปริญญา, การศึกษาทางไกล, การสอนภาษาต่างประเทศ โดยโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. การ
จัดประกวดให้รางวัลคุณภาพ บริการวินิจฉัยและให้คำปรึกษาสถานประกอบการ บริการสอบเทียบและวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม ศูนย์ทดสอบทางวิชาการและวิชาชีพอุตสาหกรรม ตลอดจนการผลิตตำราสนับสนุนวิชาการต่างๆ มากมายภายใต้สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. อีกทั้งได้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาขึ้น
ในนาม สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า
Thai-Nichi Institute of Technology ที่รู้จักโดยย่อว่า TNI  มุ่งสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะทางขึ้น  เพื่อป้อน
บุคลากรให้แก่สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทย

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. จัดปาฐกถาให้ความรู้แก่เหล่าสมาชิกและบุคคลทั่วไป

โดยคุณเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และ Mr.HIROKI MITSUMATAประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ( JETRO ) ว่าด้วยเรื่องแนวทางการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทย และแนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ที่มีต่อศักยภาพของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
( EEC )  ภายใต้งานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560

 

การปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท.ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อโครงสร้างในการพัฒนาและขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยและเศรษฐกิจไทยโดยผู้ร่วมงานจะได้พบกับเหล่าขุนพลระดับประเทศบนเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้ เริ่มต้นด้วยร่วมเปิดมุมมองการค้า การลงทุนของญี่ปุ่นสู่ไทย โอกาส และศักยภาพของไทยในการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)  เพื่อให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย ที่จะสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน กับบรรยายพิเศษในหัวข้อ  Eastern Economic Corridor : EEC – Investment trends of Japanese companies
ให้เกียรติโดย  Mr.HIROKI MITSUMATA President of JETROJapan External TradeOrganization (JETRO), ต่อเนื่องด้วยการบรรยายพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม คุณเจน  นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ   Eastern Economic Corridor : EEC และแนวทางการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยในยุค 4.0”

สิ่งที่น่าสนใจของเสวนาในครั้งนี้คือ นอกจากผู้ที่ได้ร่วมรับฟังจะได้ทราบถึงทิศทางของอนาคตอุตสาหกรรมไทยว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดและ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)  จะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตของระบบเศรษฐกิจประเทศไทยสู่สากลได้อย่างไรแล้วงานนี้ยังเป็นการรวมตัวของเหล่าบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจและนักวิชาการจำนวนมากที่มาร่วมงาน

รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) กล่าวว่า “จากนโยบาย

ของภาครัฐว่าด้วยเรื่องการผลักดันภาคตะวันออกของประเทศไทย เพื่อให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย ที่จะสนับสนุนการเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการยกระดับ คุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน ภายใต้บทบาทและพันธกิจของ ส.ส.ท.ที่มุ่งส่งเสริมและมุ่งพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรม พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเรามั่นใจว่าการเชื่อมโยงและผลักดันศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”

นายฮิโรกิ  มิทสึมะตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ผู้บรรยายในหัวข้อ แนวโน้มและยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย กล่าวว่า “ไทยและญี่ปุ่น มีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะใน ด้านการลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นเป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ จากญี่ปุ่น ได้เข้ามาลงทุนครบทุกรายแล้ว และได้ช่วยดึงให้ผู้ผลิตชิ้นส่วน รายสำคัญ และอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ ตามเข้ามาลงทุนเพื่อป้อนให้ ผู้ผลิตรายใหญ่จำนวนมาก ดังนั้น หากเราสามารถดึงดูดให้บริษัทญี่ปุ่นใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในระดับต้นๆ ของโลก เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น บริษัทเหล่านี้จะเป็น แม่เหล็กช่วยดึงโครงการลงทุนอื่นๆ ตามเข้ามาในอนาคต ซึ่งอุตสาหกรรม เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญของประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0”

 คุณเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ผู้บรรยาย ในหัวข้อ แนวทางการปรับตัวภาคอุตสาหกรรมในยุค 4.0
กล่าวถึงจุดเด่นของ  อุตสาหกรรม 4.0  ว่าการผลิตที่เปลี่ยนจาก
Mass Production เป็น Mass Customization นั่นก็คือ โรงงานในยุค 4.0 หรือ Smart Factory จะมีกระบวนการผลิตที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยการใช้ระบบไซเบอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ครบวงจร ควบคุมการสื่อสาร ทำให้เกิดการผลิตสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกันในแต่ละราย ในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับการผลิตในอุตสาหกรรม 3.0 ที่ผลิตสินค้าได้จำนวนมาก แต่สินค้าจะเป็นรูปแบบเดียวกัน ซึ่งกระบวนการผลิตของยุค 4.0 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย เพราะเป็นระบบการผลิตที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า คือ ประหยัดเวลา ใช้แรงงานน้อยลง และกระบวนการผลิตมีความแม่นยำน่าเชื่อถือ

สำหรับปาถกฐาพิเศษในครั้งนี้ จะเป็นการนำเสนอข้อมูลและสาระสำคัญอันเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยสู่ความเจริญก้าวหน้าของประเทศในเรื่องใดนั้นยังคงเป็นหน้าที่สำคัญ
ที่สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่ผลักดันและส่งเสริมความรู้ควบคู่การพัฒนาบุคลากรอันเป็นเจตนารมณ์สำคัญ มาตลอดระยะเวลา 45 ปี ต่อไปด้วยความภาคภูมิใจที่ได้อยู่เคียงคู่อุตสาหกรรม  และสังคมไทยตลอดมา

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ | สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) www.tpa.or.th
โทร. 0-2258-0320 ต่อ 1111/ 1113

ติดต่อ : คุณพีระพันธุ์   คนคง (ก๊อต)
โทร. 080 072 9477
E-mail.  peerapan@tpa.or.th

คุณศันสนีย์ กันอ่วม  (แอน)
โทร. 081 308 0474
E-mail: sansanee@tpa.or.th

คุณอริศรา คำพยา  (โบว์)
โทร. 089 992 2633
E-mail : arissara@tpa.or.th

เปิดรับสมัครอีกเวที Mrs. Noble Queen Thailand 2017

คุณยุ้ย เชิญชวนประกวดฯ
Mrs. Noble Queen Thailand 2017

ดร. กันธิชา ฉิมศิริ Mrs. International 2016 (คุณยุ้ย) ทั้งสวยทั้งใจดี  เป็นนางงามผู้มากไปด้วยความสามารถมากมาย  นอกจากจะทำงานด้านวงการบันเทิง  พิธีกร และทำหน้าที่คุณแม่แล้ว  คุณยุ้ยยังเป็นนักแข่งรถหรูซุปเปอร์คาร์อย่างรถ  Ferrari  ตำแหน่งล่าสุดของเธอ คือ แบรนด์แอมบาสเดอร์โรงพยาบาลบางมด และโรงพยาบาลบางมด ยังเป็นสปอนเซอร์หลักสนับสนุนขการประกวด Mrs. Noble Queen Thailand 2017 อีกด้วย

นอกจากนี้  ดร กันธิชา ฉิมศิริ  ยังร่วมมือกับเพื่อนๆ นางงามอีกหลายชาติ ร่วมกันทำงาน กิจกรรมเพื่อสังคม เป็นจิตอาสา การทำความดี  อุทิศตนเองเพื่อตอบแทนสังคมมากมาย  อย่างเช่นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากสาวๆ อย่าง  Beauty  Queen  International  Charity โดยการพาเพื่อนๆนางงามออกงานสังคม เลี้ยงอาหารตามสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน หรือสถานสงเคราะห์คนชรา ซึ่งแล้วแต่จังหวะและเวลา เพราะเธองานยุ่งมาก มีภาระกิจล้นตัว แต่เธอก็ยังปลีกเวลามาใส่ใจตัวเอง ครอบครัวและสังคม สมกับสโลแกนนางงามที่งามจากภายใน สู่ภายนอก ใกล้จะหมดวาระการครองตำแหน่ง  Mrs.International 2016  อีกไม่กี่เดือน เธอจะต้องอำลาตำแหน่งแล้ว แต่ภาระกิจเพื่อสังคมเธอยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง  อีกหนึ่งงานประกวดดีๆ  คือ  Mrs Noble Queen Thailand 2017   ที่เราชาวไทยจะได้ตัวแทนสาวไทยไปประกวด  Mrs Asia Noble Queen International 2017 ที่ประเทศเมียนมาร์ในวันที่ 3 กันยายน 60 ศกนี้ คุณยุ้ย ฝากเชิญชวนสาวงามที่ผ่านการมีครอบครัวแล้วมาสมัครประกวดเวทีน้องใหม่ แต่มีมาตรฐานสากล

“ยุ้ยอยากเชิญชวนสาวงามที่มีความสวยและมั่นใจ มาประกวด Mrs. Noble Queen Thailand 2017 เป็นเวทีที่ให้โอกาสดีๆ ผู้ชนะ เกียรติยศ ชื่อเสียง อย่างสมเกียรติ ได้มีโอกาสเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก เวทีประกวดผู้หญิงแต่งงานแล้วอาจจะมีหลายเวทีแต่ละเวทีก็มีจุดมุ่งหมายไม่ต่างกัน กับการทำงานอุทิศตนเพื่อสังคม”

โอกาสดีๆ มาถึงแล้ว รีบมาสมัครกันเยอะๆนะคะ ช่วงอายุ 27- 48 ปี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 20 กรกฎาคม 2560  ทางแฟนเพจ Mrs. Noble Queen Thailand 2017 และจะทำกิจกรรมเก็บตัวกับกองประกวดในวันที่ 1-2 สิงหาคม 2560
ประกวดรอบสุดท้ายวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ที่หัวหินเมืองทะเลชื่อดังที่ใครๆ ก็รู้จัก ผู้ชนะจะได้มงกุฎเกียติยศ สายสะพายพร้อมเงินสด 30,000 บาท และรองอันดับหนึ่งทั้ง 2 ท่าน จะได้รับสายสะพาย พร้อมเงินสดลดหลั่นกันไป
รวมไปถึงรางวัลพิเศษอีกมากมายจากผู้สนับสนุนการประกวดฯ

คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด Mrs.Noble Queen Thailand 2017

1. มีสัญชาติไทย โดยเกิดในประเทศไทย หรือได้รับการเปลี่ยนสัญชาติเป็นสัญชาติไทยแล้ว

2. ผ่านการใช้ชีวิตคู่มาแล้ว ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรส

3. อายุครบ 27 ปี บริบูรณ์ในวันสมัคร และ ไม่เกิน 48 ปี

4. มีบุคลิกดี กิริยาท่าทางดี เฉลียวฉลาด มีความรอบรู้  ไหวพริบและมีมนุษยสัมพันธ์ดี รูปร่างหน้าตางดงาม

5.ไม่ป่วยเป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการประกวดและดำรงตำแหน่ง

6.ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือประกอบอาชีพผิดกฎหมายหรือมีความประพฤติหรือประวัติความประพฤติอันเป็นที่รังเกียจของสังคมอันจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ตำแหน่งใดๆ ในการประกวด Mrs.Noble Queen Thailand 2017

7.ผู้เข้าประกวดยินดีที่จะเข้าร่วมกิจกรรมของกองประกวดขณะเข้ากองประกวดและหลังได้รับตำแหน่ง

ผู้ชนะ Mrs. Noble Queen Thailand 2017 คนใหม่จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวด Mrs Asia Noble Queen International 2017 ที่ประเทศเมียนมาร์ ในเดือน กันยายน 2560

 

ห้ามพลาด มาสมัครกันเยอะๆ นะคะ ยุ้ยพร้อมเป็นกำลังใจ และจะเป็นเทรนเนอร์ให้น้องๆ ที่เข้าร่วมประกวด โอกาสดีๆ ที่จะให้สาวงาม
มาร่วมสานฝัน สู่ตำแหน่งที่มีเกียรติ กันค่ะ

Mrs. Noble Queen Thailand 2017 เป็นการประกวดที่เฟ้นหาสาวงาม
อายุระหว่าง 27- 48 ปี เพื่อค้นหาตัวแทนประเทศไทยในการประกวด Mrs.Asia Noble Queen International 2017 ที่ประเทศเมียนมาร์ เงินรางวัลผู้ชนะ 30,000 บาท ทั้งมงกุฎ สายสะพาย รองอันดับ1 เงินรางวัล 20,000บ.พร้อมสายสะพาย รองอันดับ2 เงินสด 10,000 บาท และรางวัลพิเศษจากสปอนเซอร์ อีกหลายรางวัล พร้อมสายสะพาย โอกาสดีๆ ทั้งชื่อเสียงเกียรติยศมากมายที่ท่านจะได้รับจากการประกวดในครั้งนี้

การจัดการประกวดจะมีขึ้นในวันที่ 1-3 สิงหาคม 2560 ณ.เมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 20 กรกฎาคม 2017
รายละเอียดต่างๆ ติดตามได้ทางเพจ FB: Mrs.Noble Queen Thailand

https://www.facebook.com/MrsNoble-Queen-Thailand

#เวทีเกียรติยศ #โปร่งใส #มีมาตรฐานสูง
#MrsNobleQueenThailand 2017

เคล็ดลับ การบริหารหัวใจให้แข็งแรง

รพ. หัวใจกรุงเทพ เผยพบโรคซับซ้อนทางด้านหัวใจคร่าชีวิตคนไทยเพิ่มขึ้น 

ปัจจุบัน โรคหัวใจในไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเองทุกปี จากกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันทำให้เป็นโรคไขมันในเลือดสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีภาวะอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังมีโรคที่เกิดขึ้นกับหัวใจอีกมากมาย ซับซ้อนจากเดิม ซึ่งเป็นปัญหาใหม่ระดับโลกและระดับประเทศ โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ จึงแนะแนวทางการรักษาโรคซับซ้อนทางด้านหัวใจ สำหรับผู้ป่วยที่เข้าข่ายเสี่ยง รวมไปถึงวิธีการรักษาด้วยยาและการผ่าตัด เพื่อเตรียมรับมือกับโรค
ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นพ.ประดับ สุขุม (กลาง) ผู้อำนวยการ รพ.หัวใจกรุงเทพ

นพ.ประดับ  สุขุม  ผู้อำนวยการ  รพ.หัวใจกรุงเทพ เปิดเผยว่า พบสถิติผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้น  โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจมากที่สุด
ถึง 40 % และมีแนวโน้มว่าตัวเลขนี้จะสูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป อีกทั้งยังมีแนวโน้มเกิดโรคซับซ้อน   ทางด้านหัวใจมากขึ้นเช่นกัน ทำให้การรักษาโรคหัวใจในปัจจุบัน ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์ รวมถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อช่วยให้การวินิจฉัยอย่างแม่นยำและการผ่าตัดรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการผ่าตัดแบบแผลเล็ก ทางเลือกใหม่ที่สะดวกปลอดภัย ฟื้นตัวได้ไวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติในเวลาอันใกล้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีอัตราการอดชีวิตสูงขึ้น ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยโรคหัวใจยอดฮิตอย่างโรคเส้นเลือดแดงโป่งพอง และผู้ป่วยที่จำเป็นต้องการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ  ทั้ง 2 อาการนี้สามารถรักษาได้ หากได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

นพ.ทวีศักดิ์   โชติวัฒนพงษ์ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก รพ.หัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า โรคลิ้นหัวใจรั่ว เป็นโรคที่พบมากในอายุ 40  ปีขึ้นไป ปัจจุบันเสี่ยงมาจากการติดเชื้อ เกิดภูมิต้านทานผิดปกติ  การเสื่อมสภาพของหัวใจเมื่ออายุมากขึ้น หรือบางรายเกิดจากภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบ  จนกล้ามเนื้อหัวใจตาย ซึ่งผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์  ด้วยอาการหอบ เหนื่อย ไม่มีแรง หน้ามืดเป็นลมบ่อยๆ  อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของลิ้นหัวใจ เนื่องจากลิ้นหัวใจเสื่อมสภาพ กรอบ แข็ง ความยืดหยุ่นน้อย และมีไขมันหินปูน เกาะ ทำให้ลิ้นหัวใจเปิดหรือปิดไม่สนิท ส่วนใหญ่ลิ้นที่มีปัญหา คือ  Mitral Valve/Aortic Valve  ซึ่งเป็นลิ้นหัวใจฝั่งซ้าย ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ มีบางครั้งพบในเด็ก แพทย์จะทาการวินิจฉัยและเลือกแนวทางการรักษา ในบางรายไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่เปิดหน้าอก  เพื่อเปลี่ยนลิ้นหัวใจ แต่สามารถผ่าตัดแบบแผลเล็กที่มีความแม่นยำและปลอดภัยได้ ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น ความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนก็น้อยลง ในรายที่ลิ้นหัวใจ Rheumatic ลิ้นหัวใจแข็ง มีการตีบ การรั่ว เกิดจากแคลเซียมไปเกาะตัวที่ลิ้นหัวใจทำให้เป็นพังพืด วิธีการซ่อมลิ้น  สามารถทำโดยการลอกแคลเซียมที่จับตัวออก และหาเนื้อเยื่ออื่นมาซ่อมแทน เพื่อให้ลิ้นหัวใจทำงานได้ใกล้เคียงปกติ หรือเหมือนเดิม แต่ในกรณี Degenerative ลิ้นหัวใจเสื่อมสภาพตามวัย เช่น เอ็นยึด ลิ้นหัวใจที่ยืด หรือขาด ลิ้นหัวใจรั่ว จำเป็นต้องใช้เทคนิค  หรือวิธีการผ่าตัดมาซ่อมแก้ไขให้กับมาทำงานได้ ตามเดิม “ด้วยเทคนิคการรักษาที่มีมาตรฐานและทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การผ่าตัด ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลการผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจส่วนใหญ่ทำให้คนไข้อาการดีขึ้น เหนื่อยน้อยลง ละผลระยะยาวจะดีกว่าการเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เนื่องจากไม่ต้องกังวลกับภาวะแทรกซ้อนจากการกินยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด

นพ.วิฑูรย์  ปิติเกื้อกูล  รองผู้อำนวยการศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก รพ.หัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า โรคหัวใจและหลอดเลือด  พบได้บ่อย คือ โรคหลอดเลือดแดใหญ่โป่งพอง เกิดจากหลอดเลือดแดงใหญ่เออร์ต้า (Aorta) เป็นหลอดเลือดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ออกมาจากขั้วหัวใจทอดยาวจากช่องอกสู่ช่องท้องและให้แขนงเป็นหลอดเลือด  ที่นำเลือดแดงไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญต่างๆ ในร่างกายหลายแห่ง โรคหรือภาวะบางอย่างอาจทำให้ผนังหลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้ามีความอ่อนแอ เกิดการโป่งพองขยายขนาดจนใหญ่กว่าปกติขึ้น (Aneurysm) ซึ่งเมื่อมีการโป่งขยายจนถึงระดับหนึ่งก็จะแตกทำให้เสียเลือดจำนวนมากกะทันหัน  จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ปัจจุบันการวินิจฉัยจนไปถึงกรผ่าตัดทำได้รวดเร็ว
ด้วยทีมแพทย์ผ่าตัดที่มีความเชี่ยวชาญ  ช่วยเสริมประสิทธิภาพและความแม่นยำของการรักษาที่ต้องผ่าตัดในระยะเวลานาน

โรคเส้นเลือดแดงโป่งพองมักไม่มีอาการนำมาก่อน  ดังนั้นผู้ป่วยมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการที่หนักแล้ว การวินิจฉัยและการรักษาจึงต้องทำอย่างทันท่วงที การตรวจสุขภาพ เอ็กซเรย์ หรืออัลตราซาวด์ การตรวจคัดกรองถือว่ามีประโยชน์มากในการช่วยวางแผนการักษาและการป้องกัน ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการตรวจคัดกรองความเสี่ยงทางหลอดเลือดทั้งร่ายกาย ได้แก่ การตรวจ ABI เพื่อดูสภาพเส้นเลือดที่ขา,การตรวจ Carotid dropper เพื่อดูเส้นเลือดแดงบริเวณที่คอที่ไปเลี้ยงสมอง,การตรวจ Aneurysm Screening เพื่อดูเส้นเลือดแดงใหญ่เอออร์ต้าโป่งพองขึ้นกับความเสี่ยงในการแตกสูง เช่น ปวดท้อง หรือเจ็บหน้าอก หรือมีอาการจากการที่หลอดเลือดเอออร์ต้ากดเบียดอวัยวะข้างเคียง ก็นับเป็นข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดเช่นเดียวกัน ถ้าหลอดเลือดเอออร์ต้ายังมีขนาดไม่ใหญ่ถึงขั้นที่จะต้องผ่าตัดก็แนะนำให้ตรวจติดตามต่อร่วมกับให้ยาลดความดันโลหิตเพื่อลดแรงดันเลือดที่กระทำต่อผนังหลอดเลือด

สำหรับกาผ่าตัดเปิด (Open Repair) หรือใส่โครงลวดเพื่อรักษาหลอดแดงใหญ่ผิดปกติ (ConventionalSurgery) รพ.หัวใจกรุงเทพ มีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย เครื่องมือในการรักษาต่างๆ  อาทิ  FMS   (Fluid Management Systim) เครื่องให้เลือด และน้ำเกลือ ด้วยความเร็วสูงพร้อมใช้ในกรณีที่มีการฉีกขาดของหลอดเลือดแดงใหญ่ และ  เสียเลือดจำนวนมาก Cell Saver  เป็นเครื่องมือที่นำเลือดผู้ป่วย นำกลับมาให้เพื่อลดการให้เลือดจากแหล่งอื่น ๆ ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการให้เลือดจากแหล่งอื่น ๆ รวมไปถึงห้องผ่าตัด Hybrid Operation Room ห้องผ่าตัดเทคโนโลยีสูง ที่สามารถผ่าตัดและฉีดสีได้ไปพร้อม ๆกัน เพื่อความแม่นยำในการใส่ขดลวดค้ำยัน  ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ฯลฯ


นพ.อรรถภูมิ สู่ศุภอรรถ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก เชี่ยวชาญเรื่องการผ่าตัด  โรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง  รพ.หัวใจกรุงเทพ   กล่าวเสริมว่า เทคโนโลยีการผ่าตัดในปัจจุบันทำได้ดีขึ้นนอนกจากการผ่าตัดเปิดเพื่อเย็บ (Endovascular Aortic Aneurysm Repair หรือ EVAR)  คือเหมาะสมกับผู้ป่วยกลุ่มที่อายุมาก มีปัจจัยเสี่ยงสูง โดยวิธีการนี้ภาวะแทรกซ้อนจะน้อยกว่าการผ่าตัดใหญ่เพื่อซ้อมหลอดเลือดโป่งพอง ซึ่งการผ่าตัดแผลเล็กนั้น จะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลต่ำ อย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ

พญ.ปราณิศา เหลืองรัศมีรุ่ง  แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูหัวใจ รพ.หัวใจกรุงเทพ กล่าวว่า  การออกกำลังกายในผู้ป่วยโรคหัวใจ  จะส่งผลดีต่อสมรรถภาพร่างกายที่ดีช่วยลดอาการต่าง ๆ ของโรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงช่วยป้องกันและควบคุมเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความผิดปกติของรับดับไขมันในเลือด เพิ่มความสามารถการละลายลิ่มเลือดและปรับปรุงการทำงานของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ทำให้สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น มีสภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตดีขึ้นด้วย ปัจจุบันการการบริหารร่างกายป้องกันโรคหัวใจ (Primary Prevention)  ถูกนำมาใช้มากขึ้น  ในช่วงทำกายภาพหลังผ่าตัด ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้เร็ว และป้องกันการกลับมาของโรคหัวใจได้อีกครั้ง การทำกายภาพ   จะแตกต่างไปตามลักษณะของผู้ป่วย และประเภทของโรคหัวใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์เป็นหลัก

โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพมุ่งเน้นในการรักษา คือ การเพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัด รักษา ดูแลด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัย ลดภาวะแทรกซ้อนน้อยที่สุด มีเครือข่ายโรงพยาบาลครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถให้คำปรึกษา หรือทำการผ่าตัด  ให้ได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งยังมีแพทย์
ผู้เชี่ยวชาญในการฝึกอบรมให้ความรู้แก่แพทย์ด้วยกันอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นการให้บริการด้านโรคหัวใจในทุกด้าน ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับ
ไปใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง

 

ความไว้วางใจของคุณ คือ กำลังใจของเรา
รพ.หัวใจกรุงเทพ  
เลขที่ 2 ซ.ศูนย์วิจัย 7 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
กรุงเทพมหานคร 10310

Highlights info row image
โทร. : 02 310 3000 หรือ 1719

E-mail : HEART@BANGKOKHOSPITAL.COM

ลาโกบี้ เปิดตัวช๊อปปิ้งออนไลน์

ลาโกบี้ เปิดตัวช๊อปปิ้งออนไลน์ LGBT

คุณรัฐสภา วัฒนอุตสาหพงศ์ (ประธานกรรมการบริหาร) แถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ช๊อปปิ้งออนไลน์เฉพาะกลุ่ม LGBT แห่งแรกในเอเชีย เว็บไซต์ช๊อปปิ้งออนไลน์เฉพาะกลุ่ม LGBT กับคอนเซปที่ว่า 1 Fashion Marketplace For LGBT in Asia ด้วยกลุ่ม LGBT เป็นกลุ่มที่ยังไม่มีเว็บไซต์ช๊อปปิ้งที่ตอบสนองกลุ่มโดยตรง

จึงขอทำหน้าที่เป็นห้างสรรพสินค้าแบบออนไลน์ ของ LGBT แห่งแรกในเอเชีย โดยมีจุดประสงค์หลักคือ การบริการกลุ่มลูกค้า LGBT ในด้านการช๊อปปิ้ง แฟชั่นโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวก รวดเร็วและพอใจ เพราะเล็งเห็นถึงปัญหาหลายๆประการของลูกค้ากลุ่มนี้ในการเลือกซื้อ เลือกหาเสื้อผ้า

เช่นกลุ่มลูกค้าที่เป็นทอมจะหาเสื้อผ้าผู้ชายในขนาดที่พอดีตัวใส่ยาก เราก็จะคัดสรร รูปแบบเสื้อผ้า ขนาดที่พอดี ในแบบที่กลุ่มทอมต้องการ มานำเสนอในเว็บไซต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า โดยเราจะพยายามคัดสรร สินค้าที่มีคุณภาพ แฟชั่นที่กำลังนิยม เป็นความต้องการของตลาดมานำเสนออยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าของเรา “ไม่ตกเทรน”

เว็บไซต์ www.lagobe.com จะเริ่มออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 เวลา 7.17 น. โดยในวันแรกของการออนไลน์จะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้ามาช็อปสินค้าออนไลน์แบบพิเศษสุดๆคือ ในเวลา 07.17 – 07.35 น. และ 17.17 – 17.35 น. (เท่านั้น) ลูกค้าจะได้รับส่วนลดจากการซื้อสินค้าทุกรายการ 17% (จากราคาปกติ) และโชคชั้นที่สอง สำหรับลูกค้าที่ซื้อครบ 777 บาท รับฟรีทันทีถุงผ้า Lagobeและโชคชั้นที่สาม เมื่อซื้อสินค้าครบ 3,333 บาท รับของกำนัลสุดน่ารักฟรีทันที เป็นตุ๊กตาหมี Lagobe

สำหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ได้ที่ www.lagobe.com (วันที่ 7 กรกฎาคม 2560 เวลา 7.17 น.) และเตรียม
รอช๊อปกันแบบเต็มที่ได้ในช่วงนาทีทอง

(เวลา 07.17 – 07.35 น. และ 17.17 – 17.35 น. (เท่านั้น)
www.lagobe.com

ฝนเทกี่ทีไม่มีคำว่าเหงา Singing In The Rain

ข้ามผ่านจากฤดูร้อน…
สู่จังหวะความท้าทายในฤดูแห่งสายฝน

ฝนตกทีไรก็ดูเหมือนจะยิ่งห่างไกลคำว่า “เหงา” ออกไปทุกที หน้าฝนนี้
ชวนเพื่อนซี้คนดี ออกมาเปลี่ยนฤดูเหงา ให้เป็นฤดูของเรา ใน Chang Music Connection Presents Singing In The Rain 2Gether  สุดยอดเทศกาลดนตรี อารมณ์ดีไม่กลัวฝน อยากชวนทุกคนโดดออกจากความเหงา แล้วมาฟังเพลงสนุกไปด้วยกัน  บนบรรยากาศสนามหญ้านุ่มๆ สุดๆ  สีเขียวชอุ่มสุดชิลล์  สนุกเต็มอิ่มไปกับเสียงดนตรี อารมณ์ดีสุด Fin กับกองทัพ Fin Food Market และกิจกรรมสุดชิคมากมาย



เรียกว่า  ต่อให้ฝนเทกี่ที ก็ไม่มีคำว่าเหงา  กับงานดนตรี   Chang Music Connection Present  Singing In The Rain 2Gether  อยากให้มาเปิดประสบการณ์การฟังดนตรีที่สนุก แบบไม่ซ้ำใคร ไปกับประสบการณ์ความ
ชุ่มฉ่ำ ในบรรยากาศสุดชิลล์บนพื้นหญ้าสนามกอล์ฟที่น่าทิ้งตัวทุกตารางนิ้ว ชวนคุณและเพื่อนซี้โดดออกจากความเหงาเปลี่ยนวันเศร้า ๆ ให้มีแต่เราไปด้วยกันในแบบ  2gether ข้ามผ่านจากฤดูร้อนสู่จังหวะความท้าทายในฤดูแห่งสายฝน ที่ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรีคลับ นครราชสีมา

วันนี้กับงานแถลงข่าวสุดชิว  Singing in the rain 2gether  โดย บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการจัดคอนเสิร์ต  ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ แถลงข่าว  เปิดคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ  ในวันที่ 14 มิถุนายน 2560   ณ Billboard Café @ Siam Discovery ณ Billboard Café @ Siam Discovery  พร้อมตัวแทนศิลปิน อาทิ วง Mild , Tattoo Colour , Jelly Rocket  กอดคอร่วมพูดคุยบนเวที

​คุณญาณกร อภิราชกมล กรรมการบริหาร  บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด กล่าวว่า เทศกาลดนตรีท่ามกลางสายฝน บนสนามที่จัดงานสุดชิลล์ Singing In The Rain 2Gether เป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง จากการจัด Season of Love Song 6.1 จากการฉีกรูปแบบการจัดคอนเสิร์ตบนเวทีกลางแจ้ง อย่างไม่กลัวฝน  แฟนคอนเสิร์ตผู้รักเสียงเพลงเตรียมกรี๊ดสนั่น! ไปกับเหล่าศิลปิน 9 วง ได้แก่ Room 39, Lula , Sqweez Animal, Scrubb, Paradox , Tattoo Colour , Jelly Rocket , Mild , Two Popetorn (ตู่ ภพธร) จะมาร้องเพลงสร้างความอิ่มเอม เสิร์ฟพร้อมความอิ่มอร่อยจากร้านเด็ด เมนูดังในโซนอาหารสุดฮิปที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี สร้างความอิ่มอกอิ่มใจและอิ่มท้องได้ในงานเดียวบนพื้นหญ้าที่เขียวชอุ่มของ  สนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์คันทรีคลับ   จังหวัดนครราชสีมา





ในปีนี้ บริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด มีความมุ่งหวังที่จะจัดโชว์บิซหรือคอนเสิร์ตอีเวนต์ ที่มุ่งการพัฒนาคอนเทนส์ใหม่ ๆ ที่แหวกแนวและแตกต่าง เพื่อเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภค  ที่ต้องการสร้างสีสัน  ความสนุกให้กับชีวิตอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานคอนเสิร์ต เก่ ๆ ที่จะเปลี่ยนวันเหงาๆให้เป็นวันของสองเรา “Chang Music Connection Present “Singing In The Rain 2Gether” ในวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม นี้ ชวนเพื่อนรัก…มาซื้อบัตรราคา 1,200 บาท และพิเศษกว่าถ้ามาคู่ 2gether ซื้อบัตร 2 ใบ ราคาใบล่ะ 1,000 บาท เฉพาะ วันที่ 17 มิถุนายน 2560 เท่านั้น

Chang Music Connection Present “Singing in the rain 2gether”
เตรียมเปิดประสบการณ์การฟังดนตรีที่สนุก ไม่ซ้ำใคร ในเทศกาลดนตรีกลางสายฝนปีที่ 2 และเตรียมกรี๊ดสนั่นไปกับเหล่าศิลปินสุดป๊อป
Artist : Room 39 / Lula / Sqweez Animal / Scrubb / Paradox /
Tattoo Colour / Jelly Rocket / Mild / Two Popetorn

Singing in the rain 2gether มาเปลี่ยนฤดูเหงา…ให้เป็นฤดูของเรา
สอบถามข้อมูลและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
โทร. 02 105 3833, 08 9811 1901
แฟนเพจ www.facebook.com/singingintherainfest
Singing in the rain 2gether
August 5 @ 6:00 pm – 10:00 pm.

วันจัดการแสดง : วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560
สถานที่ : สนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรีคลับ จังหวัดนครราชสีมา (เขาใหญ่-ปากช่อง)
ผู้จัด : CREATE INTELLIGENCE

Chang Music Connection Presents Singing In The Rain 2Gether
สถานที่แสดง : แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ต แอนด์ คันทรีคลับ, นครราชสีมา,
ประตูเปิด : ก่อนการแสดงเริ่มประมาณ 30 นาที
วันจำหน่ายบัตร : ตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2560 เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป
ราคาบัตร : 1,200 บาท

 

 ilovePAY ทำดีเพื่อสังคม

แอพพลิเคชั่น  ilovePAY ทำดีเพื่อสังคม

บริษัท บางกอกบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด ผู้ดำเนินงานธุรกิจหยอดเหรียญและ ตู้เติมเงินมือถือออนไลน์อีกทั้งยังมี แอพพลิเคชั่น  ilovePAY บริการระบบเติมเงิน ชำระบิล ที่ครอบคลุมทุกบริการตลอด 24 ชม.ที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 100,000 ไอดี  เลิฟทุกค่าย จ่ายทุกบิล แอพพลิเคชั่นเติมเงินมือถือ และ ชำระบิล 24 ชม.

 

จัดเลี้ยงอาหารกลางวันผู้สูงอายุ ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดปทุมธานี (รังสิตคลอง 5)

ภายใต้การบริหารงานของคุณ วีรสุภางค์ ศศิอานนท์
เจ้าของและกรรมการผู้จัดการ

โอกาสนี้ทางบริษัทฯ ได้ทำการคืนกำไรสู่สังคม โดยทั้งผู้บริหารและพนักงานในบริษัทฯร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม IloveIdo ครั้งที่ 2
ในธีม  รักษ์ไทย (ผู้หญิงนุ่งผ้าซิ่น ผู้ชายผ้าขาวม้าคาดเอว)
มีวงดนตรีเพื่อสร้างความบันเทิง และ มอบสิ่งของทั้งของกินของใช้ที่จำเป็น พร้อมด้วยการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันผู้สูงอายุ ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จังหวัดปทุมธานี (รังสิตคลอง 5)

การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกๆ เดือน




งานนี้มี คุณอนุสรณ์ ยอดปราง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เป็นแม่แรงในการจัดงาน ถือโอกาสนี้เลี้ยงฉลองวันเกิดพีอาร์สาวสวย พี่หนุ่ย สาวน้อยร้อยกิโล เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์คนเก่ง ได้ทั้งทำบุญและเลี้ยงลูกน้องในโอกาสเดียวกัน