ททท.ร่วมกับ ปณท สมาคมขัวศิลปะเชียงราย นำร่อง “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า โครงการตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชนด้วย QR Code “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ดังกล่าว สามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมาสู่จังหวัดเชียงรายได้ และตู้ไปรษณีย์เหล่านี้ถือเป็นผลงานศิลปะระดับ Master Piece ของจังหวัดเชียงราย เนื่องจากแต่ละตู้เป็นชิ้นงานที่รังสรรค์จากศิลปินเชียงราย และยังสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย อีกทั้งเป็นตู้ไปรษณีย์แห่งเดียวของประเทศไทยที่วาดภาพศิลปะลงบนตู้ไปรษณีย์

ทั้งนี้ ททท. สำนักงานเชียงราย ยังมีแผนดำเนินการประชาสัมพันธ์ตู้ไปรษณีย์และทำการตลาดส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวชมตู้ไปรษณีย์ “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ตามสถานที่ตั้งต่างๆ และให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกโดยการเช็คอินถ่ายภาพคู่กับตู้ไปรษณีย์ 5 ตู้ ต่างสถานที่กัน และต้องเป็นตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ต่างอำเภอกันอย่างน้อย 2 อำเภอ และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย แล้วรับรางวัลจาก ททท. สำนักงานเชียงราย และ ปณท ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563

         

สำหรับตู้ไปรษณีย์ดังกล่าวหลังจากการจัดนิทรรศการนี้จบลง ทาง ปณท จะได้นำไปติดตั้งตามสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญทั่วจังหวัดเชียงราย เพื่อใช้งานจริง ได้แก่

  1. วัดร่องขุ่น
  2. สิงห์ปาร์คเชียงราย
  3. หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ (หอนาฬิกาพุทธศิลป์)
  4. ตลาดไนท์บาร์ซ่า
  5. อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
  6. สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ
  7. พระตำหนักดอยตุง
  8. สามเหลี่ยมทองคำ
  9. จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย (วัดพระธาตุดอยเวา)
  10. วัดห้วยปลากั้ง
  11. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  12. ไร่ชาฉุยฟง
  13. ตลาดเชียงของ (ชายแดนไทย-สปป.ลาว)
  14. วัดแสงแก้วโพธิญาณ
  15. ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน

สอบถาม ติดต่อได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงราย
โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5
ปณท เชียงราย โทร. 0 5371 1616 ต่อ 11

58 ปี ก้าวใหม่สวนสามพราน

สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ สวนสามพราน เปิดบ้าน เล่าเส้นทางการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมเปิดโซนกิจกรรม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

สวนสามพราน   จัดกิจกรรม Open House  “58 ปี  ก้าวใหม่สวนสามพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง”  ชวนลูกค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยว  Tour Agents  ภาคีขับเคลื่อนธุรกิจและสังคม   และสื่อมวลชน มาเยี่ยมชมสถานที่ สัมผัสเส้นทางการเรียนรู้ และความเปลี่ยนแปลงใหม่ ในสวนสามพราน ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  

สวนสามพรานก่อตั้งในปี พ.ศ. 2505  โดยเป็นแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้ใกล้กรุงเทพฯ ที่ถ่ายทอดวิถีความเป็นไทย ผ่านกิจกรรมในหมู่บ้านไทยและโรงละคร  ที่นี่จึงได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ อยู่เสมอ ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทย รวมถึงกลุ่มครอบครัว  นิยมเดินทางมาสวนสามพรานเพื่อพักผ่อน สัมผัสความเป็นธรรมชาติ และเรียนรู้วิถีประเพณีวัฒนธรรม การละเล่น ศิลปะหัตถกรรมไทย และขนมไทย อย่างไรก็ตามหลังจากที่สวนสามพรานได้เป็นผู้นำร่วมขับเคลื่อนระบบอาหารยั่งยืนภายใต้สามพรานโมเดล(โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม)  เชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554   ได้นำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสวนสามพราน  โดยในปี 2561-2562   สวนสามพรานตัดสินใจปิดหมู่บ้านไทย  พร้อมปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในใหม่ทั้งหมด โดยใช้สามพรานโมเดล เป็นโมเดลหลักในการขับเคลื่อนแบรนด์สวนสามพราน  ให้เป็นแบรนด์ ที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน ภายใต้วิสัยทัศน์สร้างระบบอาหารยั่งยืน สู่เป้าหมายการมีชีวิตที่สมดุล

สำหรับการเปิดบ้าน Open House “58 ปี ก้าวใหม่สวนสาพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง   ทีมผู้บริหารสวนสามพราน นำโดย คุณสุชาดา ยุวบูรณ์ ประธานบริหาร  คุณอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ  คุณอรรจน์ ยุวบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ  และคุณอนัฆ นวราช ผู้จัดการทั่วไป ได้นำชมพื้นที่สวนสามพราน  ซึ่งมีจุดเด่นคือความเป็นธรรมชาติ  อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่  มีความครบวงจร ที่พัก ห้องประชุม ร้านอาหาร ลานกิจกรรม และมุมสวนธรรมชาติ  ที่สามารถ ปรับ จัด ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  เทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  การท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก รวมถึงกิจกรรม Team Building  การประชุมสัมมนาที่ต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลาย  ขณะที่กิจกรรมการท่องเที่ยว และการเรียนรู้ภายในสวนสามพราน นั้นเอื้อต่อการคิดนอกกรอบ  โดยทุกจุดสามารถจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลาย และมี Work Shop ให้ทดลองทำ  ที่พร้อมให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีคุณค่า รวมถึงยังสามารถเชื่อมโยงไปเยี่ยมบ้านฟาร์มเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายด้วยความโดดเด่นและแตกต่างของสวนสามพราน อันเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล เชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารอินทรีย์   ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง นั่นคือเมนูอาหาร ในห้องอาหารทั้ง 3 แห่งของสวนสามพราน  คือ อินจัน แวนด้า และห้องอาหารริมน้ำ  รวมถึงในส่วนการจัดเลี้ยง  ที่จะมีการใช้วัตถุดิบอินทรีย์ มากกว่า 70%   หรือประมาณ 15 ตันต่อเดือน  ในการทำอาหารและขนม โดยวัตถุดิบอินทรีย์ จะถูกส่งตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายสามพรานโมเดล

นอกจากดีต่อสุขภาพทุกคนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ให้ยั่งยืน  ซึ่งในแต่ละจุดของห้องอาหาร และจัดเลี้ยง จะมีภาพและชื่อเกษตรกรอินทรีย์ที่ทำงานร่วมกับสวนสามพรานพร้อมบอกผลผลิตที่ผลิตด้วย  โดยปัจจุบันมเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลจำนวน 16 กลุ่ม จำนวน 180 ครอบครัว  ในจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์

นายอรุษ นวราช  เล่าว่า  นอกจากมาท่องเที่ยว พักผ่อนแล้ว ทุกคนที่เข้ามาสวนสามพราน  จะได้แรงบันดาลใจ จากความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อาหารทั้งระบบ จากการทำงานขับเคลื่อนสามพรานโมเดลของสวนสามพรานร่วมกับเกษตรกรและภาคส่วนต่างๆ   ตั้งแต่การเพาะปลูก การผลิตปัจจัยการผลิต การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การตลาด การพัฒนาต่อยอด และบอกเล่า  โดยพื้นที่หลายส่วนมีการบริหารจัดการ ภายใต้แบรนด์ Patom  อาทิ Patom Organic Farm, Patom Organic Village, Patom Organic Café, Patom Spa,  Patom  Shop   รวมถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์ Patom    ซึ่งนำวัตถุดิบอินทรีย์จากเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล และปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม มาแปรรูปเป็นของกินของใช้ และ Body Care Products  มาตรฐาน GMP ภายใต้แนวคิด Organic Living ด้วย    โดยในด้านความรู้  ยังมีการก่อตั้งสามพรานโมเดล อะคาเดมี่  โดยมีพื้นที่สำนักงานติดกับตลาดสุขใจ  เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ประกอบการ องค์กรที่อยากจะนำ สามพรานโมเดลไปขยายผล ไปขับเคลื่อนในพื้นที่ของตนเอง”

ในวันเปิดบ้าน “58 ปี  ก้าวใหม่สวนสามพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง”    นอกจากมีการเปิดตัวภาพยนตร์สารคดี เรื่อง Change ที่พนักงาน และ เกษตรกรอินทรีย์  เป็นผู้เล่าเรื่องการเรียนรู้ การปรับตัว กับการเปลี่ยนแปลง และคุณค่าที่เกิดขึ้นกับตนเอง ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมแล้ว  ยังมีการเปิดพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเยือนได้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลง ด้วย  เริ่มจากหมู่บ้านปฐม   ที่ปรับเปลี่ยนศูนย์แสดงวัฒนธรรมไทย (หมู่บ้านไทย) มาเป็น “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ”  หมู่บ้านแปรรูปสินค้าอินทรีย์ ตามวิถีชีวิตแบบไทย ที่ยึดหลักปัจจัย 4 ผ่านการทำกิจกรรมตามเส้นทางวัตถุดิบ สร้างประสบการณ์    โดยมีกิจกรรมให้เลือกทำ เพื่อเรียนรู้ระบบอาหาร ตั้งแต่การผลิต  การทำปัจจัยการผลิต การแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่าย   โดยมี 3 เส้นทาง ให้เลือกเรียนรู้ คือเส้นทางข้าวอินทรีย์ เส้นทางกล้วยอินทรีย์   และเส้นทางสมุนไพรอินทรีย์

ปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม   ที่ได้มีพัฒนาสวนผลไม้เก่า 30 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน เป็นออร์แกนิกฟาร์ม  เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวฟาร์มที่อิงกับวัตถุดิบตามฤดูกาล  ให้เป็นที่พักผ่อนแนวธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองกิจกรรม เพื่อทำ Workshop การทำเกษตรอินทรีย์เบื้องต้น รวมถึงมาทำอาหาร   และได้สัมผัสกับรสชาติอาหารจากพืชผักธรรมชาติ สด สะอาดปลอดภัย แตกต่างจากพืชผักที่ขายในตลาดทั่วไปด้วยตนเอง  ทั้งนี้ในวันเปิดบ้านสวนสามพราน ได้มีการพานั่งเรือข้ามไปฝั่งฟาร์ม พร้อมให้ทุกคนสัมผัสแปลงอินทรีย์ ที่มีการปลูกพืชหลากหลาย    และชิม ชาสมุนไพร ออร์แกนิก  และสัมผัสประสบการณ์การเล่น สไลเดอร์โคลน  ด้วย

ตลาดสุขใจ   ภายในสวนสามพราน ทุกคนที่มาเยือนยังจะได้เรียนรู้ โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม หรือสามพรานโมเดล  นั่นคือ ตลาดสุขใจ  ที่เปิดมา 9 ปี แล้ว  ทำให้เกษตรกรอินทรีย์ กว่า 180 ครอบครัว และชุมชนรอบสวนสามพราน มีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตอินทรีย์  ได้รู้จัก เข้าใจผู้บริโภค  ขณะที่ผู้บริโภค ก็ได้เข้าถึงแหล่งอาหารอินทรีย์ด้วย 

Circular Economy  ในวันเปิดบ้าน  สวนสามพรานยังแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยนอกจากมีการพัฒนาพื้นที่ให้ปราศจากยาฆ่าแมลงและสารเคมีใดๆ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ IFOAMมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555  ภายในพื้นที่สวนสามพราน
ยังมีการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ   

ตามนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy   มีการจัดการขยะจากอาหาร (Food Waste Management)  โดยขยะจากในห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ส่วนกิจกรรม จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ทำชีวภัณฑ์ในการดูแลต้นไม้ในพื้นที่ ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ทำไบโอแก๊สใช้ในกิจกรรมย้อมผ้า ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งผู้ที่เข้ามาสวนสามพรานสามารถมาเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จากฐานสาธิต และสถานีทดลองการทำปุ๋ยหมักในหมู่บ้านปฐม   ที่มีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ พร้อมสอนทำ และแนะนำรูปแบบ  ให้นำกลับไปทำที่บ้านได้ 

ตลอด 58 ปี สวนสามพรานได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลบริหารธุรกิจ Hall of Fame ประเภทแหล่งท่องเที่ยวแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้มาอย่างต่อเนื่อง  โดยสวนสามพรานยังเปิดให้มีการศึกษาดูงานทั้งด้านการบริหารจัดการขยะ Zero Waste การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน องค์กรแห่งการเรียนรู้  การขับเคลื่อนสามพรานโมเดล หรือ โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม  สวนสามพราน บนพื้นที่ 130 ไร่  ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ยังคงแน่วแน่ และมีความตั้งใจที่จะให้ทุกพื้นที่ ทุกกิจกรรม ได้ทำหน้าที่จุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน สู่เป้าหมายการมีชีวิตที่สมดุล ครอบคลุมทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ   ผู้สนใจมาท่องเที่ยว มาพักผ่อน และมาค้นหาแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ สำหรับตนเอง ทีมงาน หรือครอบครัว

สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสวนสามพรานมาได้ที่
โทร.034-322-588-93  หรือเว็บไซต์ www.suansampran.com

Villa Market “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”

…….พาไปทัวร์ แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก
“วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”บ้านหลังที่ 2 ของคนเมือง มีอะไรกินบ้าง? ไปชมกัน

วันนี้ Toptotravel พาไปทัวร์ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก ของใหม่ที่ใครๆ ก็ต้องลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”แหล่งรวมของอร่อย ของดีจากทั่วโลกเปิดให้บริการแล้วสำหรับบ้านหลังใหม่ ของ วิลล่า มาร์เก็ท กับ สาขาหลังสวน ซึ่งการกลับมาของวิลล่าฯ หลังสวน ในครั้งนี้ทำเอาเหล่านักช็อปหัวใจพองโตกันพอดูเพราะจัดเต็มทั้งบรรยากาศที่ดูอบอุ่น หรูหรา แบ่งโซนเป็นสัดส่วน เดินง่าย และมีสินค้าอิมพอร์ตจากทั่วโลกมาให้ช็อปกันเพลินการเดินทางมาก็ง่ายแสนง่าย เพราะทำเล วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน

ตั้งอยู่ซอย 2 ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน เรียกได้ว่า สะดวกสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองที่ต้องขับรถมาทำงานและอยากจะแวะช็อปปิ้งก่อนกลับบ้านในส่วนของบรรยากาศ วิลล่า มาร์เก็ท สาขา หลังสวนตกแต่งอย่างอบอุ่นให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในครัวที่มีของให้เลือกหยิบมาทำเมนูแสนอร่อยอย่างไม่รู้จบและยังมีโซนที่เปิดโอกาสให้ได้ลิ้มลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ

โดยแบ่งออกเป็น 6 โซน สนองนีสไลฟ์สไตล์ ของทุกเจเนอเรชั่น แค่เดินลงมายังชั้น B1 ก็จะพบกับ โซน V Space
(วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus) โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถมานั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่ม นั่งพักชิลๆ

V Space (วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus)

เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่าจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯ คนรักสุขภาพ ชอบทานผัก ผลไม้ ต้องถูกใจ Fruit & Vegetables Zone (ฟรุต แอนด์ เวทเทอะเบิ้ล โซน) เพราะที่สาขานี้มีการจัดวางเรียงผัก ผลไม้ ได้อย่างล่อใจ โดยเฉพาะ ผักผลไม้ Organicนานาชนิดจากทั่วโลก เรียกว่า หากต้องการทาน องุ่นก็มีหลายหลายชนิดให้เลือกสรร ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

สายเนื้อต้องร้อง OMG! ให้กับ Butcher & Seafood Zone
(บุชเชอร์ แอนด์ ซีฟู้ด โซน) โซนนี้ถือว่าเด็ดเพราะรวบรวมเนื้อคุณภาพดีจากทั่วโลก อย่าง ออสเตรเลีย, อเมริกา,อาร์เจนติน่า และ ญี่ปุ่น ส่วนพระเอกของโซนนี้ยกให้ Tomahawk เนื้อโทมาฮอว์ก จาก ออสเตรเลีย, Ribeye เนื้อริบอาย, Tenderloin เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ มีให้เลือกมากมาย
เป็นสวรรค์ของคนรักสเต็กก็ว่าได้ และยังเก๋ด้วยป้ายราคาดิจิตอล ซึ่งจะอัพเดทราคาสินค้า ล้ำนำเทรนด์ไปอีก

อาหารทะเล ของสด และปลาน้ำจืด โซนอาหารทะเลสดๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งกุ้งแม่น้ำ ปลาทะเล ปลาหมึก ส่วนพาร์ทอาหารทะเลก็ไม่ธรรมดาละลานตาไปด้วย ปลาสดๆ หลากหลายชนิด โดยมีการใช้เทคโนโลยีเครื่องพ่นไอน้ำจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยรักษาความสดใหม่และฆ่าเชื้อโรค

“V” Make a new home โซนนี้สำหรับคนชอบดริ้ง Wine Cellar Zone (ไวน์ เซลเลอร์ โซน) โซนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พิเศษมากสาขานี้มี Wine Cellar รวมไวน์จากทั่วโลกมาไว้ในห้องนี้ ถ้ามีคำถามห้องนี้มี Wine Specialist คอยดูแลแนะนำ พิเศษสุดสำหรับสมาชิก V Plus Member ใช้ Vplus Point เพื่อลองชิมไวน์ แหล่งรวมไวน์หลากหลายชนิดจากทั่วโลก

โซนนี้นอกจากตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของสินค้าแล้วยังเก๋เลิศกับบริการให้ท่านได้ลิ้มลองรสสัมผัสไวน์ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์คอยให้คำแนะนำใครที่อยากได้เครื่องดื่มจิบคู่กับอาหารมื้อพิเศษ อยากแนะนำให้ลองมาที่ โซน Wine Cellar Zone ของ วิลล่าฯ หลังสวนรับรองได้ไวน์รสเลิศถูกใจกลับบ้านแน่นอน

Activity Zone (แอคทีวิตี้ โซน) โซนสาธิตวิธีปรุงอาหารสด และReady to Eat Zone (เรดดี้ ทู อีท โซน) เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่านจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯได้ผ่อนคลายกับช่วงเวลาแห่งความสุขบ้าง ซึ่ง Activity Zoneให้บริการปรุงอาหารสดพร้อมทานซึ่งหากต้องการทานสเต็กดีดีสักมื้อก็สามารถเดินไปเลือกเนื้อดีดีสักชิ้นในโซน Butcher & Seafood Zone
มาให้ทางเชฟปรุงได้เลย

ส่วนใครที่ชอบความรวดเร็วก็แวะ Ready to Eat Zone หาของอร่อยทานจะมื้อเช้า สาย เที่ยง เย็น ก็มีบริการ ทั้งเมนูอาหารญี่ปุ่น Omakase Set ในราคาย่อมเยาว์ อยากลิ้มลองอาหารซูชิสุดหรูแบบเชฟจัดให้ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม และอาหารสไตล์เวสเทิร์นทำคอร์สออกมาได้น่าสนใจและท้าทายมาก

ปิดท้าย การพาทัวร์บ้านหลังใหม่วิลล่าฯ สาขา หลังสวน
ด้วยความเก๋เริ่ดกับ บริการ Eat & Shop (อีท แอนด์ ช็อป) หรือบริการเลือกซื้อสิ้นค้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งสามารถเลือกช็อปปิ้งแบบไม่ต้องเดินให้เมื่อย เพียงแค่นั่งรอในโซน V Space หรือ กำลังนั่งทานอาหารใน Ready to Eat Zone แล้วอยากช็อปแต่ไม่มีเวลามากพอก็สามารถใช้บริการนี้ได้
สะดวกสบายสุดๆ ไปเลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เส้นทางถนนเพลินจิต จากนั้นเลี้ยวเข้าไปที่ถนนหลังสวน (*เดินรถเพียงทางเดียว) จาก ถ.เพลินจิต เข้าสู่ถนนหลังสวนประมาณ 700 เมตร Villa Market LangSuan จะอยู่ทางซ้ายมือ

ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับ BTS สายสีลม สามารถลงที่สถานีราชดำริ และ BTS สถานีชิดลมสำหรับสายสุขุมวิท นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการ MRT โดยใช้สถานีสีลม

อยากให้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “V” Make a new home
ได้แล้ววันนี้ที่ ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/villamarketofficial/

Brasserie 9

อยากมีฟิลลิ่งแบบนี้มั้ย?

Brasserie 9 ร้านอาหารสไตล์  Fine French Cuisine
ความอร่อยที่ เปิดให้บริการ ด้วยอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม พร้อมเสริฟด้วยหลากหลายเมนูชั้นนำ ที่ปรุงแต่งรสชาติโดยทีมเชฟฝีมือเยี่ยม พร้อมวัตถุดิบพรีเมียมที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ  พิถีพิถันทุกขั้นตอน และคงรสชาติในแบบดั้งเดิม เพื่อให้ได้อาหารฝรั่งเศสแท้ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแกะอบเสิร์ฟกับซอสไวน์แดงและราตาตุย, โทมาฮอร์ค สเต็กเนื้อริบอายติดกระดูกชั้นดี นอกจากนี้ยังมีเมนูเมนคอร์ส ซุป สลัด และของหวานหลากหลายเมนู เช่น หอยนางรม มาเรียน โอเลลอง, ปลาแซลมอนหมักสูตร Brasserie 9, แครมบลูว์เร่ราดซอสราสเบอรี่กับผลไม้สด และอีกมากมาย

ในส่วนของสถานที่นั้น  Brasserie 9 ให้ความหรูหราด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ในอาคารสีขาวหลังใหญ่สองชั้น  ด้านในได้รับการตกแต่งอย่างละเมียดละไม แบ่งเป็นโซนต่างๆ มีมุมบาร์เครื่องดื่ม

ส่วนของอาหารจะเป็นอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแกะอบเสิร์ฟกับซอสไวน์แดงและราตาตุย, โทมาฮอร์ค สเต็กเนื้อริบอายติดกระดูกชั้นดี นอกจากนี้ยังมีเมนูเมนคอร์ส ซุป สลัด และของหวานหลากหลายเมนู เช่น หอยนางรม มาเรียน โอเลลอง, ปลาแซลมอนหมักสูตร Brasserie 9, แครมบลูว์เร่ราดซอสราสเบอรี่กับผลไม้สด และอีกมากมาย

ห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่ และห้องเก็บซิการ์ไว้คอยบริการ ที่นี่รองรับการจัดงานเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ ได้ตามทุกความต้องการ บรรยากาศสบายๆ ยามเย็นระหว่างรถติดๆแวะมาเปิด Wine หรือชิวเบียร์ กันได้นะคะ

คุณต่าย ศิริโสภา ตันบุญเพิ่ม Sales Manager ร้าน Brasserie 9 เล่าส่วนของห้องไวน์ว่า ส่วนของไวน์ เนื่องจากเราเป็นร้านอาหารฝรั่งเศส ก็จะมีไวน์ฝรั่งเศสประมาณ 50% ที่เหลือก็จะคละกันไปทั้งไวน์ชิลี  ไวน์ออสเตรเลีย อเมริกา ค่อนข้างเลือกได้หลากหลาย ราคาไวน์เริ่มตั้งแต่ 1,200 ไปจนถึง 2 แสนกว่าบาท ตัวไหนน่าสนใจจะนำเข้ามาในริช ในห้องไวน์นี้ก็จะมีที่สำหรับจัดไวน์เทสติ้ง ประมาณ 6-10 ท่าน เป็นประจำ และในส่วนของห้องจัดเลี้ยงก็สามารถรองรับได้หลายขนาด ตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ ทั้งกรุ๊ปเล็ก ๆ และกรุ๊ปใหญ่

ร้านอาหารแห่งนี้ เป็นธุรกิจร้านอาหารในเครือ บริษัท กรูเมท์เฮ้าส์ จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท บางกอกแอร์เคเทอริ่ง จำกัด (BAC) ให้บริการอาหารแปรรูปเพื่อจัดจำหน่าย รวมถึงให้บริการจัดเลี้ยงและให้บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องอาหาร  เปิดให้บริการอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม พร้อมเสริฟด้วยเมนูชั้นนำที่ปรุงแต่งรสชาติโดยทีมเชฟฝีมือเยี่ยม โดยเฉพาะวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ ความพิถีพิถันไม่ต้องห่วง ทุกขั้นตอน ทั้งรสชาติในแบบดั้งเดิม

อาหารอร่อย หลากหลายเมนู เครื่องดื่มแน่นๆ พร้อมแล้ว ยามเย็นระหว่างรถติดๆ อย่าลืมกันนะคะ แวะมาเปิด Wine หรือชิวเบียร์ กันได้นะคะ

B9 Lunch Set Menu
430++ for appetizer+main or main+dessert 520++ for appetizer+main+dessert
Appetizers
Salads
• Brasserie 9 Caesar salad
• Market garden salad
• Cajun shrimp salad
• Salade Niçoise
Soups
• Chicken consommé
• “Soupe du jour”
Entrées
• Beef carpaccio
• Farmhouse charcuterie board –
Chef’s selection of imported meat, Home-made pork terrine and pickles
• Classic cheese croquettes with a mix berry sauce
• Mussels with tomato sauce or
White wine, shallots and garlic

สามารถเดินทางมาได้ถึง 2 ช่องทางคือ สาทร ซอย 6 (ใกล้ BTS ช่องนนทรี) หรือ ซอยพิพัฒน์ (สีลมซอย3) พร้อมที่จอดรถกว้างขวาง

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:30น. – 24:00 น. ( ครัวปิด 23:00 น. )
สำรองโต๊ะ สอบถามรายละเอียดของร้าน Brasserie9

เพิ่มเติมได้ที่เพจ Brasserie9 โทร 022342588
www.brasserie9.com