TRUE JJAJANG Korean Cuisine ตอบจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อีกหนึ่งร้านเด็ดย่านเจริญกรุงที่ต้องมาลอง

ร้านอาหารสไตล์คอมฟอร์ฟู้ด ชวนสัมผัสความอร่อยของเมนูและอาหารสไตล์เกาหลี ผ่านบรรยากาศสบายๆ ไปกับร้าน TRUE JJAJANG “ทรูจาจัง” Korean Chinese Cuisine เมนูอาหารแบบฉบับเกาหลีดั้งเดิม เปิดใหม่ย่าน เจริญกรุง
วัดพระยาไกร ใครอยากลองทานอาหารเกาหลีกับรสชาติแบบดั้งเดิม ต้องมาทาน บอกเลย อร่อยเหมือนไปทานที่เกาหลีพร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารเกาหลีรสชาติต้นตำรับ วัตถุดิบจากประเทศเกาหลี พร้อมรองรับทุกช่วงเวลามื้ออร่อยจากเมนูจาจังมยอน รสดั้งเดิมเส้นสด มีหลากหลายเมนู เมนูเด็ดของร้านที่ต้องห้ามพลาด

ทรูจาจัง ร้านอาหารเกาหลีย่านเจริญกรุง77 รสชาติเกาหลี จากเชฟเกาหลีเเท้ สูตรต้นตำรับ ทุกเมนูผ่านการคิดค้นสูตรจาก “เชฟเกาหลี” มั่นใจได้ในคุณภาพของวัตถุดิบ และรสชาติเข้มข้นสไตล์เกาหลีแท้ พร้อมการบริการสุดอบอุ่นหัวใจ ในราคาสุดคุ้มค่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ร้าน

สำหรับเมนูจังมยอน ที่เป็นไฮไลท์ไม่ว่าใครที่มา “ทรูจาจัง” แห่งนี้ ต้องสั่งมาลองรับประทาน ที่เสิร์ฟความอร่อยด้วยเส้นสดนุ่มหนึบ คลุกเคล้าซอสรสชาติดั้งเดิมแบบฉบับเกาหลีแท้ๆ


เมนูต่อมาคือ จัมปง เผ็ดร้อน กลมกล่อม เส้นสดเหนียวนุ่มกำลังดี คลุกเคล้ากับเส้นสดที่ทำเอง เครื่องซีฟู้ดเยอะจัดเต็ม รสชาติเข้มข้น ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนชวนหิวตั้งแต่เมนูยังไม่ลงเสิร์ฟที่โต๊ะ อร่อยครบรสได้ในจานเดียว ด้วยราคาประหยัด

ทังซูยุก หมูทอดผัดซอสเปรี้ยวหวาน #ทังซูยุค สูตรเด็ดจากเชฟเกาหลี ด้านนอกกรอบ เนื้อหมูด้านในชุ่มฉ่ำ ซอสเปรี้ยวอมหวานกำลังดีหมูสันนอกทอด ราดซอสรสชาติเปรี้ยวอมหวาน


TRUE JJAJANG : ทรูจาจัง
ในส่วนของบรรยากาศสาขาถูกออกแบบตกแต่งมาให้มีความโมเดิร์นคลาสสิก ด้วยการใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกสว่าง ผ่อนคลาย และอบอุ่นอย่างมีระดับ เพดานมีความสูงโปร่งทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกโล่งสบาย มีการใช้เฟอร์นิเจอร์ ผสมผสานกับผ้าบุโซฟา ให้ความเรียบง่าย นั่งสบาย และมีความเป็นธรรมชาติ มีโซนรองรับทั้งชั้น 1 และชั้น2 สำหรับรองรับลูกค้า ซึ่งทั้งสองโซนสามารถรองรับ ลูกค้าที่มาใช้บริการทั้งแบบมาเดี่ยว มาเป็นคู่ ตลอดจนมาเป็นกลุ่ม และอีกหนึ่งความพิเศษของ “ทรูจาจัง” ทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์เกาหลี เหมาะสำหรับผู้ที่อยากออก ไปรับประทานข้าวนอกบ้าน หรือสั่งไปทาน
ที่บ้านได้ง่ายๆ มีพื้นที่และยินดีต้อนรับให้ได้ร่วมทานอาหารกับครอบครัวได้อย่างสบายใจอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของ จาจังมยอน สืบย้อนกลับไปถึงสมัยราชวงศ์โชซ็อน เมื่อโชปิดอินช็อนเป็นเมืองท่า ชาวจีนจำนวนมากจากชานตงจึงอพยพมาอาศัยในย่านหนึ่งของเมืองซึ่งทุกวันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่ออินช็อนไชนาทาวน์ชาวจีนเป็นผู้ตั้งร้านอาหารจีนแลซ็อนเะดัดแปลงสูตรแบบดั้งเดิมให้เข้ากับความชอบของชาวเกาหลี

สำหรับเมนูที่เป็นไฮไลท์ไม่ว่าใครที่มา TRUE JJAJANG แห่งนี้ ต้องสั่งมาลองรับประทาน จาจังมยอน หรือบะหมี่ซอสดำรสชาติเข้มข้น วัตถุดิบคุณภาพดีนำเข้าเส้นสดเหนียวนุ่มกำลังดีเส้นสดคลุกเคล้าซอสราดซอส Black bean sauce รสชาติเข้มข้น

จาจังมยอน / จัมปง / ทังซูยุค
เมนูใหม่ของร้าน
เจยุค ผัดหมูแดง / เนื้อบุลโกกิ

อร่อยทุกเมนู พรุ่งนี้เจอกันที่ร้าน หรือสั่งเดลิเวอร์รี่เจอกันที่บ้าน
💚 Lineman ✅Grab 🧡Shopee
True Jjajang Korean Cuisine
ร้านอาหารเกาหลีฟีลตามสั่งร้านเด็ดย่านเจริญกรุง
พิกัด : ถนน เจริญกรุง 77 (ติดกับตึก HP Tower)
https://maps.app.goo.gl/uV9F1Nx3D9zRYdhY9
เปิดทุกวัน 11.00-21.30
โทร. 02-002-2655
Line : @truejjajang

ร้านทรูจาจัง มีที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงเดินไม่ไกลสะดวกสบาย
-ตึกHP รถยนต์ 40 บาท/ชม.
-จักรยานยนต์ 20 บาท
-มวยไทย รถยนต์ 30 บาท/ชม.

#truejjajang #นึกถึงอาหารเกาหลีนึกถึงทรูจาจัง #ทรูจาจัง
#ร้านเด็ดบอกต่อ #koreafood #ร้านอาหารใกล้ฉัน
#ร้านอาหารเจริญกรุง #จาจังมยอน #จัมปง #ทังซูยุก
#koreanfood #deliciousfood #toptotravel

ฤทธิชัย รุจรดาวรรณ Executive Chef รอยัล เมืองสมุย วิลล่า

ฤทธิชัย รุจรดาวรรณ (เชฟบ่าว)  Executive Chef รอยัล เมืองสมุย วิลล่า นำเสนออาหารไทยพื้นบ้านภาคใต้ อาหารปักษ์ใต้แม้จะเป็นอาหารที่อร่อย น่าลิ้มลอง แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจผู้คนคือความเผ็ดร้อนของรสชาติอาหารผู้คนในภาคใต้นิยมรสอาหารที่เผ็ดจัด เค็ม เปรี้ยว แต่ไม่นิยมรสหวาน รูปแบบของอาหารใต้ที่ใหม่และอาจจะหาที่ไหนไม่ได้ในเกาะสมุย และตอนนี้ได้รับความนิยมมาก

เชฟบ่าว คนใต้ที่ดูเรื่องอาหารโรงแรม Royal Muang Samui Villas ทำให้เชฟเห็นความหลากหลายของอาหารใต้ที่เชฟบ่าวรับหน้าที่ออกแบบเซตเมนู เชฟยังยืนหนึ่งในการ ปรับเปลี่ยนเมนู ทุกเดือน  อาหารประจำถิ่นภาคใต้สูตรพื้นบ้านขนานแท้ของจังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี รสเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่อง การทำอาหารและเมนูพื้นถิ่น เหมือนการทดลอง เหมือนแม่ไปเจอสูตรอาหารมาก็อยากลอง อาหารเป็นการบอกกล่าวเล่าต่อเทสต์ ชิม การปรุง แต่รสชาติสอนกันไม่ได้เพราะต่างคนต่างชอบอาหารคนละรสและมีความแตกต่าว โดยใช้วิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิมการทำอาหารแบบใหม่ๆ ถ้ามันทำให้ควบคุมรสชาติแบบที่ต้องการได้ดีกว่า

“เวลาเราไปหาวัตถุดิบ ชาวบ้านเขาก็จะสอนวิธีกินด้วย เราก็คิดเมนูจากที่ชาวบ้านเขาสอนเขาทำให้กิน อาหารบางอย่างก็เป็นอาหารเฉพาะที่ที่นั้นจริงๆ”

Spice Zone Beach Restaurant 
ความเป็นเลิศด้านการทําอาหารพร้อมกับการรับประทานอาหารริมชายหาด แนวคิดของของเชฟ ผสมผสานรสชาติที่อุดมสมบูรณ์นำอาหารไทยเข้ากับความสดใหม่ของอาหารทะเลที่มาจากท้องถิ่น อาหารอิตาเลียนที่แสนอร่อย และสัมผัสของรสชาตินานาชาติ ฝีมือเชฟฝีมือ อร่อยไทยที่ใช้สูตรแท้และวัตถุดิบ
เกรดพรีเมี่ยม ขึ้นชื่อของท้องถิ่น ตั้งแต่แกงที่มีกลิ่นหอมไปจนถึงเมนูผัดต่างๆ  แต่ละจานเป็นผลงานชิ้นเอกด้านการทําอาหารที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอาหารที่มีชีวิตชีวาของ ประเทศไทย

สําหรับการจองที่ https://www.muangsamui.com/royalmuangsamuivillas/

Step into a world of nocturnal splendor at Royal Muang Samui Villas,
where the night air is filled with luxury 

Spice Zone Beach Restaurant
Spice Zone Beach Restaurant at Royal Muang Samui Villas, where culinary excellence meets stunning beachside dining. Our concept blends the rich flavors of Royal Thai cuisine with the freshness of locally sourced seafood, tantalizing Italian dishes, and a touch of international flair.
Indulge your senses as our skilled chefs craft Royal Thai delicacies using authentic recipes and premium ingredients. From aromatic curries to savory stir-fries, each dish is a culinary masterpiece that reflects Thailand’s vibrant food culture.

#RoyalMuangSamuiVillas #KohSamui #ChoengMonBeach
#RediscoverSamui #SeeYouSoonSamui #Resort #BeachfrontResort
#Thailand #amazingthaialnd #toptotravel

GAAYA by Oasis Spa สปาหรู ราคาไม่แพง

กายา สปาหรู ราคาไม่แพง GAAYA by Oasis Spa (Sukhumvit 39)
ใครอยู่ใกล้ย่าน สุขุมวิท 39 แวะมาที่ GAAYA by Oasis Spa อีกหนึ่งสปาหรูที่อยู่กลางใจเมือง แค่เดินเข้ามารู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่ามีสปาที่บรรยากาศดีและเงียบสงบบรรยากาศอบอุ่น เหมาะกับการหลีกเร้นความวุ่นวายมาพักใจอย่างยิ่ง หากใครที่ชอบทั้งนวดไทยและน้ำมัน แนะนำสาขายน้องใหม่กายา บาย โอเอซิสสปา

GAAYA อีกหนึ่งสปาภายใต้ Oasis Spa โปรแกรม Office Syndrome Massage ของที่นี่น่าจะตอบโจทย์มนุษย์หน้าจอกันไม่น้อย ด้วยการเน้นนวดคลายความตึงกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่จากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน หรือถ้าใครที่อยากเน้นนวดน้ำมันที่นี่ก็มีโปรแกรม Relax GAAYA (60 นาที) ที่นวดครบจบทั้งผิวหน้าและผิวกายในหนึ่งเดียว กายาสปาสุดหรู นวดเพื่อสุขภาพ เปิดให้บริการทั้งหมด 11 ห้อง /นวดสปาสองชั้น ทั้งเตียงคู่ เตียงสำหรับนวดไทย ห้องอาบน้ำ และห้องน้ำ ในตัว รองรับลูกค้าได้สูงสุด 18 ท่าน ภายใน ห้องคือไพรเวท ถูกออกแบบและตกแต่งในโทนสีที่ช่วยมอบความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายเป็นส่วนตัว ลูกค้าส่วนมากเป็นชาวต่างชาติเเละคนไทย เรียกว่ามาทีเดียวได้ดูแลครบจบตั้งแต่หัวจรดเท้าใครเริ่มมองหาสปาไทยแท้ๆ ชวนไปนวดผ่อนคลายจากงานผสมผสานกับที่เป็นการผสมผสานทั้งการนวดแผนไทยกับการนวดอโรมาเข้าด้วยกัน ความโดดเด่นการตกแต่งร้านสวยแบบฉบับโอเอซิสสปา

สปาตกแต่งสไตล์เป็นสไตล์ Thai Contemporary & Modern ตอบโจทย์ใครที่มองหาประสบการณ์สปารูปแบบใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ – น้ำมันนวด Gaaya by Oasis Spa มีส่วนผสมหลัก (Base oil) คือ Jojoba oil, Sweet almond, Safflower oil เพื่อบำรุงผิว ช่วยทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น บรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและอาการบวมช้ำ คุ้มค่ากับเวลาที่มาแน่นอน – กลิ่นของน้ำมันนวดมีให้เลือก 5 กลิ่น ได้แก่ 1. Oriental Beauty 2. Uniquely Thai 3. Lanna Exotic
4. Full Bloom 5. Be Organic Coconut 100% GAAYA by Oasis Spa

บริการทรีตเมนต์สำหรับผิวกาย นวดตัว นวดหน้า แถมบรรยากาศยังผ่อนคลายสบายตา ที่ให้คุณเลือกโปรแกรมที่ชอบได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็น แพคเกจแนะนำ

1. Relax Gaaya 2 hrs ผสมผสานเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายในแบบกายาด้วยการนวดน้ำมันหอมระเหยอุ่นๆ และการนวดใบหน้า เสร็จสิ้นด้วยการนวดแบบกดจุดสร้างความผ่อนคลายให้ลูกค้าให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนเคลิ้มหลับไปเลย

2. Release Gaaya 2.5 hrs เน้นคลายกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้า การนวดออฟฟิศซินโดรมเพื่อให้บริเวณกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆของออฟฟิศซินโดรมได้คลายจากการหดเกร็งและความตึงเครียดสะสมที่มีมานาน ได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริงและยังมีการประคบเพื่อช่วยลดการปวดบวมได้เป็นอย่างดี

3. Stress away Gaaya 3 hrs ผสมผสานการนวดเท้าเพื่อสุขภาพและการยืดเส้นด้วยการผสมผสานการนวดไทยโยคะและการนวดออฟฟิศซินโดรม สำหรับคนที่ต้องการนวดผ่อนคลายทุกส่วน และใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก

4. Sabai Sabai Gaaya 3 hrs ปรณิบัติกายา ด้วยการผสมผสานการนวดไทยเพื่อสุขภาพ เน้นการ กด คลึง บีบ กดจุด ประคบด้วยสมุนไพร และการนวดน้ำมัน เป็นการนวดผ่อนคลายด้วยมือผสานกับประสิทธิภาพของน้ำมัน ผ่อนคลายทั่วร่างกาย เสร็จสิ้นด้วยการทำหน้ากดจุดนวดหน้าด้วยน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ซึ่งมีประโยชน์ในการขจัดความเครียดและกระตุ้นการเติมออกซิเจนของผิวด้วยการต่อต้านริ้วรอย

กายา บายโอเอซิสสปา
สถานที่ : ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ – มีที่จอดรถให้บริการ 8 คัน – ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ – เปิด/ปิด บริการทุกวัน 10.00-22.00

ช่องทางการติดต่อ กายา บายโอเอซิสสปา Gaaya by Oasis Spa
เบอร์โทร 02-262-2133
Facebook Fanpage : Gaayaspabyoasis
Website: https://oasisspa.net/destination/bangkok/gaaya39/
Instagram: https://www.instagram.com/gaayabyoasis/

STYLE Bangkok 2024

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีเปิด “งานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2024 ” ในวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00น. โดยมีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำทีมให้การต้อนรับ ณ ฮอลล์ 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

STYLE Bangkok 2024 มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2567 แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ วันพุธที่ 20 – ศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีกวันเสาร์ที่ 23-อาทิตย์ ที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผู้ที่สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com Facebook/Instagram/TikTok : Style Bangkok Fair
หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

เครือ รพ. พญาไท-เปาโล รุกตลาด EEC เปิดโรงพยาบาลใหม่ รพ. พญาไทศรีราชา 2

ชลบุรี – 19 มีนาคม 2567- เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เดินหน้าขยายการให้บริการด้านการแพทย์ในพื้นที่ภาคตะวันออก ล่าสุดประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา 2 สอดรับกับนโยบายภาครัฐ ที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยโดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นศูนย์กลางการแพทย์ครบวงจรของภูมิภาคอาเซียน

โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา 2 เป็นโรงพยาบาลทั่วไป สามารถรองรับผู้ป่วยนอกได้มากถึง 1500 คนต่อวัน และผู้ป่วยในจำนวนรวมทั้งสิ้น 113 เตียง โดยโรงพยาบาลแห่งนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในการให้บริการด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ชลบุรีและใกล้เคียง โดยสืบเนื่องมาจากความสำเร็จของโรงพยาบาลพญาไทศรีราชาสาขาแรก ที่ให้บริการแก่ประชาชนมาเป็นเวลากว่า 28 ปี เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ ในเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล กลุ่ม BDMS ให้บริการด้านการแพทย์เฉพาะทางในหลากหลายสาขา โดยเน้นการบริการที่ครอบคลุมและมีคุณภาพสูงสุดต่อประชาชนในพื้นที่ ทั้งผู้ป่วยทั่วไปและผู้ประกันตน จนเป็นที่ไว้วางใจและยอมรับในเขตอุตสาหกรรม EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งเป็นเขตพัฒนาพิเศษที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล เปิดเผยว่า “โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เป็นโรงพยาบาลที่ทางกลุ่มมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพการให้บริการรักษาผู้ป่วยมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเล็งเห็นว่าทุกขั้นตอนการรักษามีความสำคัญ อีกทั้งความพร้อมของทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย จะเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น”

นายอัฐ กล่าวว่า การพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์เป็นสำคัญของโรงพยาบาล โดยเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ได้สรรหาบุคลากรทางการแพทย์สาขาต่างๆ และมอบทุนการศึกษาต่อสำหรับแพทย์และพยาบาล รวมถึงจัดระบบการเรียนการสอนพิเศษสำหรับทีมสหสาขาวิชาชีพ เช่น พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ เภสัชกร และนักเทคนิคการแพทย์ เพื่อเพิ่มความชำนาญในการรักษาโรคเพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปรักษาในกรุงเทพฯ

การนำแอปพลิเคชัน Health Up เข้ามาใช้ ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่ายจบในคลิกเดียวบนมือถือ เช่น ดูประวัติการรักษา นัดหมายแพทย์ ข้อมูลความรู้สุขภาพ รวมถึงบริการ Telecare ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเขต EEC มีประชากรหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในพื้นที่กว่าสี่แสนคน และมี lifestyle ของคนยุคใหม่

นายอัฐ เผยว่า โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2538 และเริ่มเปิดให้บริการประกันสังคมครั้งแรกเมื่อปี 2542 โดยเน้นคุณภาพและมาตรฐาน ทำให้เพิ่มยอดผู้ประกันตนได้มากถึง 250,000 คน และได้รับรางวัลโรงพยาบาลประกันสังคมในดวงใจในปีที่ผ่านมา ต่อมาปีนี้ได้รับโควต้าเพิ่มอีก 115,000 คน เมื่อพิจารณาถึงความต้องการที่เพิ่มเติมของผู้รับบริการ จึงมีการขยายโรงพยาบาลเพื่อรองรับเหล่านี้ ในเขต EEC ที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจต่อเนื่อง ความต้องการในการดูแลสุขภาพก็สูงขึ้น เพื่อรองรับผู้ทำงานและกลุ่มแรงงาน ดังนั้น เครือ รพ. พญาไท-เปาโล ได้ลงทุนในการขยายโรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในเขต EEC โดยการเปิดตัวโรงพยาบาลใหม่ รพ. พญาไทศรีราชา 2 เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลเดิมและมีความตั้งใจที่จะพัฒนา รพ. พญาไทศรีราชา 2 ให้เป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศทางการแพทย์ในอนาคต ในปี 2568 เครือ รพ. พญาไท-เปาโล
ยังวางแผนลงทุนในการเปิดดำเนินการโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน จำนวน 225 เตียง เพื่อเป็นที่พึ่งพาทางด้านสุขภาพของชาวชลบุรีและบริเวณใกล้เคียงในอนาคต

ด้าน นายแพทย์ชาญชัย ลี้สมประสงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ได้ให้ข้อมูลว่า โรงพยาบาลพญาไทศรีราชาแห่งแรก ได้เปิดให้บริการมาเป็นเวลาเกือบ 3 ทศวรรษ มีการพัฒนาทักษะและความรู้ทางการแพทย์ที่ทันสมัยอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้โรงพยาบาลกลายเป็นที่พึ่งพาของประชาชนในพื้นที่ และผู้ประกันตนได้รับการบริการอย่างคุ้มค่า กล่าวว่า โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา มุ่งมั่นที่จะเป็นที่พึ่งพาของประชาชนในเขต EEC โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม มีระบบที่ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และเครือข่ายที่เข้าถึงได้ง่ายทุกพื้นที่โดยเฉพาะในภาคตะวันออกที่เป็นเขตอุตสาหกรรม เพื่อให้บริการดูแลประชากรอย่างทั่วถึง จึงมีการขยายบริการให้สามารถรองรับผู้ประกันตนประมาณ 500,000 คน โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา 2 ได้เปิดขึ้นเพื่อรองรับผู้ประกันตนและผู้ป่วยทั่วไป สำหรับ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชาแห่งแรกจะพัฒนาเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ โดยปรับปรุงพื้นที่ใหม่เพื่อรองรับผู้ใช้บริการระดับพรีเมียมและผู้ประกันตนที่ต้องการการรักษาโรคเฉพาะทางหรือโรคซับซ้อน โดยได้เริ่มให้บริการรักษาโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัด การผ่าตัดหัวใจ และขยายศูนย์การผ่าตัดผ่านกล้องทุกระบบ นอกจากนี้ยังมีการขยายศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย และอีกหลากหลายสาขา ที่มีแพทย์เฉพาะทางสาขาต่างๆ จำนวนกว่า 280 ท่าน

ในปีที่ผ่านมาศูนย์ผู้มีบุตรยากของโรงพยาบาลได้รับการรับรองคุณภาพระดับโลก AACI จากประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับประกาศนียบัตรรับรอง Trauma 3 ในการบริหารจัดการฉุกเฉิน และกำลังดำเนินการขอรับรอง TEMSA ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินที่ยึดหลักความปลอดภัยใน 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ 1. Patient Safety 2. Personnel Safety และ 3. Public Safety เพื่อพร้อมให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชาและเครือข่าย สามารถตอบโจทย์และเป็นที่พึ่งพาของประชาชนในจังหวัดชลบุรีและใกล้เคียงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ประสบสภาวะอุบัติเหตุฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีความเชื่อถือ

พญ. ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (จำกัด) มหาชน กล่าวถึงการขยายธุรกิจการแพทย์ในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) ว่า “BDMS มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรม Healthcare ของไทยสามารถดำเนินแนวทางความยั่งยืนตามมาตรฐานโลก โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของประชาชนทั่วประเทศ โดยในปัจจุบัน BDMS มีโรงพยาบาลในเครือมากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ และล่าสุดได้ขยายเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา 2 ของกลุ่มโรงพยาบาลพญาไทและเปาโล บนเขตพื้นที่ศรีราชา เพื่อตอบสนองประชาชนและรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่นี้ โดยเฉพาะในแง่ของการรับมือกับความต้องการด้านการแพทย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

การขยายธุรกิจในพื้นที่ EEC ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการในตลาดและความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับองค์กรในการเป็นผู้นำด้านบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการขยายธุรกิจของกลุ่มโรงพยาบาล นอกจากนี้ ยังมุ่งหวังที่จะช่วยพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) โดยช่วยดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศและรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทยตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งเป็นการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่มีอยู่ในระดับโลกอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

พญ. ปรมาภรณ์ กล่าวต่อว่า “BDMS ได้รับการจัดว่าเป็นองค์กรที่มีสถานะแข็งแกร่งที่สุดในพื้นที่ EEC ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนที่จะเป็นผู้นำในด้านบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่เป็นเลิศบนมาตรฐานสากล รวมถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือในวงกว้างของการให้บริการสุขภาพในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานี้ อีกทั้งยังสร้างโอกาสให้กับชุมชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาด้านการแพทย์และการลงทุนในสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เศรษฐกิจพื้นที่เติบโตในระยะยาวด้วย”

นายอัฐ กล่าวปิดท้าย “นับเป็นความภาคภูมิใจของเครือ รพ. พญาไท-เปาโล ที่สามารถขยายบริการและสนองความต้องการของประชาชนได้ทุกกลุ่ม โดยเน้นการให้บริการสุขภาพที่มีคุณภาพสูงสุด โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา 2 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่เขต EEC ให้มีความยั่งยืนต่อไป ด้วยการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยตั้งเป้าหมายในการนำเสนอประสบการณ์การรักษาที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและบริการด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพแก่ผู้รับบริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

แบรนด์แฟชั่นจิวเวลรี่ฝีมือคนไทย โดย หัสยา ปรีชารัตน์

HATSAYA แบรนด์แฟชั่นจิวเวลรี่ฝีมือคนไทย โดย คุณหัสยา ปรีชารัตน์ สืบทอดศิลปหัตถกรรมทายาทรุ่นที่ 2 ของไทยเบญจรงค์ สร้างเอกลักษณ์ที่ยากจะหาใครเหมือน ทั้งแบบโมเดิร์นและแบบไม่ทิ้งอัตลักษณ์ไทย

การทำเครื่องเบญจรงค์ถือได้ว่า เป็นงานด้านศิลปหัตถกรรมของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทยในอดีต ใช้การสั่งทำที่ประเทศจีนตามความคิดและลวดลายของไท งานเบญจรงค์เป็นศิลปหัตถกรรมแขนงหนึ่งที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งทางด้านรูปทรงและลวดลายต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันได้พัฒนาปรับเปลี่ยนรูปทรง และลวดลายให้เข้ากับยุคสมัย สามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นอย่างดี ยังคงเอกลักษณ์ของงานเครื่องเบญจรงค์ให้ยังคงอยู่ แต่ด้วยความต้องการของผู้คน โดยมีการปรับเปลี่ยน ส่งผลให้การสร้างสรรค์งานเบญจรงค์ต้องมีการปรับตัวอยู่สม่ำเสมอ เติมเต็มความสวยงามอย่างมีระดับให้
กับคุณหรือคนที่คุณรัก

เปิดประสบการณ์ความสวยงามอย่างมีระดับ HATSAYA
HATSAYA เครื่องประดับที่ออกแบบมาเพื่อคนที่รักในความสวยงามอย่างมีระดับ มิติใหม่ของเครื่องประดับ ที่จะกลายเป็นที่รักของคุณและผู้ที่พบเห็น  คุณหัสยา ปรีชารัตน์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของไทยเบญจรงค์  ผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเป็นครูช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2566 ด้านงานเครื่องเบญจรงค์ จาก sacit หรือสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) 

HATSAYA สร้างสรรค์งานเบญจรงค์ ถอดรูปแบบกรรมวิธีการผลิตที่เป็นรูปแบบเฉพาะของเบญจรงค์ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการปั้น เคลือบ เผา แบบฉบับของเบญจรงค์ ตลอดจนการเขียนลายน้ำทอง ซึ่งเป็นลายเฉพาะของ HATSAYA 

ปัจจุบัน HATSAYA  พัฒนาปรับเปลี่ยนรูปทรงและลวดลายให้เข้ากับยุคและสมัย เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นอย่างดี แต่ยังคงเอกลักษณ์ของงานเครื่องเบญจรงค์ให้ยังคงอยู่ แต่ด้วยความต้องการของผู้คนมีการปรับเปลี่ยนตลอด
ส่งผลให้การสร้างสรรค์งานเบญจรงค์ มีการปรับตัวอย่างสม่ำเสมอสร้างสรรค์เครื่องประดับที่เน้นลวดลายเครื่องเบญจรงค์ นับเป็นหนึ่งความสำเร็จของการถ่ายทอดผ่านเทคนิค ลวดลายของเครื่องเบญจรงค์ ที่สืบทอดฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์และทรงคุณค่า ต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น  จากงานเครื่องเบญจรงค์ดั้งเดิมของครอบครัว พร้อมประยุกต์เป็นแฟชั่นจิวเวลรี่ร่วมสมัย ผลงานโดดเด่นของ HATSAYA คือ เม็ดชาร์ม (Charm) ที่นำมาร้อยเรียงบนเครื่องเงินแท้โดยทำเป็น
จี้สร้อยคอ ต่างหู และสร้อยข้อมือ มีเฉดสีพรีเมียมให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีทอง
สีแพลทินัมและสีโรสโกลด์ ที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดีมีโอกาสได้ลูกค้าใหม่ๆ เมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยผู้ชื่นชอบเครื่องประดับ และต่างชาติแถบเอเชีย ดูไบ และอาหรับ นิยมซื้อสินค้าเพื่อเป็นของฝากของขวัญ

จากความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ปรับตัวต่อสถานการณ์  ทำให้คุณหัสยา ทำให้วเป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นครูช่างศิลปหัตถกรรมไทย ประจำปี 2566  ต่อยอดงานเครื่องเบญจรงค์ที่ไม่ซ้ำใคร สร้างจุดขายใหม่อยู่เสมอ โดยล่าสุดยังได้พัฒนา “เครื่องเบญจรงค์ตกไม่แตก” ใช้ดินผสมมวลสารต่างๆ เข้าไป เพิ่มความหนาแน่นของดิน สร้างความยืดหยุ่น แข็งแรง และไม่ลืมที่จะใส่รายละเอียดต่างๆ ของลวดลายที่ร่วมสมัย ซึ่งในตลาดยังไม่มีสินค้าประเภทเบญจรงค์ตกไม่แตกแบบนี้สิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งของแบรนด์ HATSAYA การนำเอาองค์ความรู้มาพัฒนาแบรนด์อย่างแท้จริง

คุณหัสยา กล่าวถึง HATSAYA ความสวยงามอย่างมีระดับ ด้วยการนำคุณค่าของเบญจรงค์ไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืน ผสมผสานระหว่างงานเบญจรงค์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องอาศัยความประณีต เพื่อให้ทุกชิ้นงานสามารถบอกเล่าเรื่องราวของงานเบญจรงค์ได้อย่างอย่างมีคุณค่า ปัจจุบันได้นำไปทดสอบตลาดในต่างประเทศฝีมือและการเลือกสรรค์วัตถุดิบพัฒนาต่อยอดสู่เครื่องประดับที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีการเรียนรู้ช่องทางการขายให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดที่ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้

เครื่องเบญจรงค์เป็นศิลปหัตถกรรมที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งทางด้านรูปทรงและลวดลายต่างๆ จึงมองว่างานหัตถศิลป์ไทยเหล่านี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากความนิยมซื้อเป็นของที่ระลึก มอบของขวัญให้แขกผู้ใหญ่ หรือของขวัญคู่ค้าต่างชาติ เพราะชิ้นงานที่บ่งบอกชัดเจนถึงความเป็นไทย

โดยระยะเวลาที่ผ่านมา HATSAYA เดินสายออก Pop-Up Store ทุกเดือน เพื่อให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังไม่หยุดพัฒนาเปิดตัว Collection ผลงานทุกชิ้นงานคงเน้นอัตลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยลวดลายเครื่องเบญจรงค์ที่มีเอกลักษณ์  อนุรักษ์ เผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยให้คงอยู่ตลอดไป

แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ความเป็นไทยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ไทยเบญจรงค์โทรติดต่อ 038-398-022

Contact HATSAYA :  081-383-3343

Line official : @hatsaya  or click https://lin.ee/hdBQE2R 
inbox : http://m.me/hatsayaofficial 

line พิมพ์ @thai_benjarong หรือกดที่ลิ้งค์ https://line.me/R/ti/p/%40thai_benjarong

เว็บไซต์  www.ibenjarong.com หรือที่ www.thaibenjarongofficial.com
สอบถามผ่านทาง inbox http://m.me/thaibenjarongofficial

#เครื่องประดับเบญจรงค์ #jewelry #jewellery #classy #beauty #Highclassjewelry#ไทยเบญจรงค์ #เบญจรงค์ #เบญจรงค์ไทย #เครื่องเบญจรงค์ #เครื่องเบญจรงค์ไทย #ศิลปะไทย #เอกลักษณ์ไทย #อัตลักษณ์ไทย

STYLE Bangkok 2024 ภายใต้ธีม ChicNature

เตรียมพบกับความงามที่มีสไตล์และความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมในงาน STYLE Bangkok 2024 ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 24 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชื่นชมกับแก่นแท้ของงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของไทย ที่จะบรรจบกับความทันสมัยในผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟท์ฝีมือระดับโลก ผู้ประกอบการมากกว่า 500 รายจากทั่วประเทศ และทั่วโลก นำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงของขวัญ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไปจนถึงเครื่องครัว และอื่นๆ อีกมากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการในงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของเอเชีย STYLE Bangkok 2024

  • เผยโฉมแฟชั่นแห่งอนาคต ที่ STYLE Bangkok 2024
  • STYLE Bangkok 2024 เป็นยิ่งกว่างานแสดงสินค้า
  • สืบสานมรกดวัฒนธรรมกับความร่วมสมัยที่ STYLE Bangkok 2024
  • สำรวจอนาคตของแฟชั่นและความยั่งยืนที่ STYLE Bangkok
  • จากมวยไทยสู่แฟชั่น ที่ STYLE Bangkok
  • ยกระดับผ้าทอไทยสู่ตลาดโลกที่ STYLE Bangkok 2024
  • ขุมทรัพย์แฟชั่นสุดสร้างสรรค์ที่ STYLE Bangkok 2024
  • หัตถศิลป์ไทยที่ก้าวข้ามกาลเวลา ในงาน STYLE Bangkok
  • ฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่นกับองค์ความรู้สมัยใหม่ ใน STYLE Bangkok 2024
  • STYLE Bangkok 2024 ส่งเสริมแฟชั่นไทยบนรากฐานความยั่งยืน

สำหรับผู้ชื่นชอบมวยไทย STYLE Bangkok 2024 นำเสนอผลิตภัณฑ์จากนักมวยไทยชื่อดังระดับโลกอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ภายใต้แบรนด์ “บัวขาว แกลลอรี่” ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของกีฬาอันเป็นเอกลักษณ์ไทย มาอวดโฉมชาวไทยและชาวโลกเมื่อ ซอฟต์พาวเวอร์ของกีฬาและแฟชั่นมาบรรจบกันได้อย่างน่าทึ่ง

ไฮไลท์ยังไม่ได้จบเพียงเท่านั้น ยังมีมรดกสิ่งทอไทยอันน่าชื่นชมที่บูธ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” โครงการตามแนวพระดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ฟื้นคืนความรู้จากภูมิปัญญาพื้นถิ่นมาบูรณาการร่วมกับองค์ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เกิดเป็นผลงานการถักทอผืนผ้าและงานหัตถศิลป์ไทยที่มีความร่วมสมัยเป็นสากล ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ เป็นที่ยอมรับของตลาดภายในและต่างประเทศ

STYLE Bangkok 2024 จึงไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่เป็นการเชิดชูเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นในมิติต่างๆ จากผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมไปจนถึงผู้ประกอบการหน้าใหม่ จากความคิดริเริ่มระดับรากหญ้าไปจนถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บทพิสูจน์ถึงความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ของหัตถศิลป์ไทย ที่มีรากฐานจากภูมิปัญญาที่สืบทอดมานานต่อยอดกับแนวคิดสมัยใหม่และความยั่งยืนที่กำหนดทิศทางอนาคตของแฟชั่นไทย ที่ STYLE Bangkok 2024

STYLE Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ธีม “ChicNature’’ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 24 มีนาคม 2567

ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ www.stylebangkokfair.com

บีไชน์ เนเจอร์ซี วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด บำรุงผิวใส

 “บีไชน์ เนเจอร์ซี” วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด บำรุงผิวใสจัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม เหลือเพียง 189 บาท ช้อปได้ที่ 7-Eleven 

“บีไชน์ เนเจอร์ซี” (B Shine NaturC) วิตามินซีจากธรรมชาติ อะเซโรลา เชอร์รี่ สกัดเข้มข้น  ผสานคุณประโยชน์ของผลไม้สกัด ที่อุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์และสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยดูแลสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และภูมิแพ้ พร้อมช่วยบำรุงผิวใส สุขภาพดี “บีไชน์ เนเจอร์ซี” เป็นวิตามินซีธรรมชาติ 100% จึงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี และคงอยู่ในร่างกายได้นาน ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทั้งยังมีซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูงที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายให้ดียิ่งขึ้น บีไชน์ เนเจอร์ซี แบบเม็ด ทานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพทั้งวัยหนุ่ม สาวและผู้สูงอายุ 

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด “บีไชน์ เนเจอร์ซี” มีสารสกัดที่มีประโยชน์จากผลไม้และผักหลากชนิด รับประทานเพียงวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร มื้อเช้าหรือเย็น เพิ่มประสิทธิภาพเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดีต่อผิวพรรณและสุขภาพ ทุกคนต้องหมั่นดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นภูมิต้านทานที่ดีต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย และมลภาวะที่เป็นพิษที่อยู่รอบตัวเรา อยากให้ทุกคนพร้อมดูแลตัวเองและช่วยดูแลคนรอบข้างที่เรารักให้มีร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยความปรารถนาดีจากบีไชน์  

“บีไชน์ เนเจอร์ซี” วิตามินซีธรรมชาติ 100% ขนาดบรรจุ 30 เม็ด แถมฟรีอีก 5 เม็ดในขวด รวมเป็น 35 เม็ด จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 189 บาท จากปกติ ราคา 249 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 23 มีนาคม 2567 หาซื้อได้ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bshine.co.th,
FB : https://www.facebook.com/naturcacerolacherry และ Line : @Bshine

“วราวุธ“ เปิด “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน”

วันที่ 13 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานแถลงข่าวเปิด “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ และพัฒนาศักยภาพผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน พร้อมสร้างกลไกการดูแลผู้สูงอายุครอบคลุมทุกมิติในระดับพื้นที่

โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาสตราจารย์ ดร. นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุและผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ

นายวราวุธ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตของโครงสร้างประชากร โดยสัดส่วนประชากรวัยสูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับอัตราการเกิดใหม่ของประชากรวัยเด็กและประชากรวัยแรงงานที่มีจำนวนลดลง โดยในปี 2566 พบว่า ประเทศไทย เข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีจำนวนผู้สูงอายุมากถึง 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20.08 ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่เด็กเกิดใหม่มีเพียง 5.18 แสนคน ส่งผลกระทบต่ออนาคตของประเทศในการเผชิญกับปัญหาภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ รวมถึงปัญหาผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง ขาดผู้ดูแล

ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการสร้างระบบ กลไก และโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลและคุ้มครองผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่น โดยเป้าหมายสำคัญมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขที่บ้านของตนเอง (Ageing in Place) ซึ่งครอบครัวเป็นกลไกสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงชุมชนท้องถิ่น อาทิ รพ.สต. อปท. อาสาสมัคร ชมรมผู้สูงอายุ เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนและการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผ่านกระบวนการปฏิบัติงานของผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในการทำหน้าที่ช่วยเหลือ ดูแล คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุครอบคลุมในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2567 กระทรวง พม. ได้ดำเนินการโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน จำนวน 19 พื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ลพบุรี สิงห์บุรี สกลนคร อุบลราชธานี สงขลา และปัตตานี มีผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 35 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิ จำนวน 240 ชั่วโมง โดยมุ่งหวังให้ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุกลุ่มนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการปกป้องคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นของตนเอง จำนวนทั้งสิ้น 73,642 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุทั้งหมดในพื้นที่นำร่อง

และในปี 2568 ได้มีแผนขยายผลโครงการฯ จำนวน 3,886 พื้นที่ ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และจะมีการสร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 7,772 คน ซึ่งจะมีผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลและคุ้มครองทางสังคมจำนวนทั้งสิ้น 6,174,854 คน โดยระยะยาว 4 ปี ตั้งเป้าผลักดันให้เกิดระบบการคุ้มครองผู้สูงอายุด้วยผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุครอบคลุมให้ทั่วทุกพื้นที่ จำนวน 75,032 พื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 150,064 คน ซึ่งจะมีผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลและคุ้มครอง จำนวนทั้งสิ้น 15,900,000 คน

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) มีความยินดีที่จะเปิดตัวโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งวันนี้เราได้รับความร่วมมือจากพี่น้องทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน และใต้ เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ในการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราทำงานในหลายจังหวัด ในการที่จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปในแต่ละชุมชนเพื่อดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งทุกวันนี้ประเทศไทยของเราเป็นสังคมสูงอายุเต็มรูปแบบเรียบร้อยแล้ว และในอนาคตปริมาณผู้สูงอายุในประเทศไทยก็จะเพิ่มมากขึ้นทุกปี ดังนั้นการที่ทุกฝ่ายจะต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายและจิตใจ มิติทางด้านสังคม ด้านที่พักอาศัย รวมไปถึงเรื่องเทคโนโลยีต่างๆให้กับผู้สูงอายุ เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราในวันนี้ ได้รับการฝึกอบรมและจะนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ไปขยายต่อในการดูแลผู้สูงอายุ

ซึ่งทั้งหมดที่เราทำในวันนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการที่จะแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่กระทรวง พม. ได้ทำ Workshop ไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมิติการดูแลผู้สูงอายุนั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบ่งเบาภาระของคนรุ่นใหม่ ที่มีความกังวลว่าคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้สูงอายุในครอบครัวนั้น ใครจะเป็นผู้ดูแล และถ้าหากว่าจะต้องเลือกระหว่างการมีบุตรและการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวนั้น คนรุ่นใหม่ในวันนี้เลือกที่จะดูแลผู้สูงอายุก่อน ดังนั้น การที่กระทรวง พม. ได้เริ่มโครงการนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่แบ่งเบาภาระและสร้างความมั่นใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการที่จะมีครอบครัวและมีบุตรต่อไปในอนาคต และเป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่ประเทศไทยกำลังจะประเชิญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ด้านสถานการณ์ผู้สูงอายุในไทย ขณะนี้เรามีผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 13 ล้านคน คาดว่าอีกประมาณ 4-5 ปี จากนี้ไป ประเทศไทยจะมีแนวโน้มผู้สูงอายุเพิ่มเป็นประมาณ 15-17 ล้านคน แต่ไม่เกิน 10 ปี นี้เราจะมีผู้สูงอายุเกือบ 20 ล้านคน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุขั้นสุดยอดเหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่น และการที่เราเป็นสังคมผู้สูงอายุขั้นสุดยอดนั้น จะก่อสร้างภาระให้กับคนวัยทำงานอย่างมหาศาล เพราะว่าอัตราส่วนในการแบกรับผู้สูงอายุจะกลายเป็นคนทำงานเพียงแค่สองคนต่อผู้สูงอายุหนึ่งคนเท่านั้น ดังนั้น การดูแลให้ผู้สูงอายุให้มีสุขภาพทั้งกายและใจที่สมบูรณ์และแข็งแรง ก็จะเป็นการแบ่งเบาภาระทางด้านงบประมาณ ด้านสาธารณสุข และบุคลากรทางสาธารณสุข และในทางเดียวกันนั้นก็ยังสามารถเพิ่มผลผลิต สร้างศักยภาพให้ผู้สูงอายุนั้นเป็นกลไกสำคัญในการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับรากหญ้าขึ้นมา

สำหรับเจ้าหน้าที่ตอนนี้จุดเริ่มต้นโครงการ มีอยู่ 36 คน กระจายกันอยู่ทั่วแต่ละจังหวัดในประเทศไทย แต่ยังไม่ครบทุกจังหวัด เนื่องจากเพิ่งเป็นการเริ่มต้นโครงการ แต่เป้าหมายของเรานั้นจะต้องมีให้ครบทั้ง 76 จังหวัด ให้ครบทุกอำเภอ และแต่ละอำเภอนั้นอย่างต่ำก็จะมีเจ้าหน้าที่ 2,000-4,000 คน ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ของเรานั้นจะเพิ่มปริมาณขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปีหน้านั้น อาจจะมีถึง 6,000 คน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ต้องประมาณกว่า 10,000 คน ที่จะต้องดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ของเราก็มีหน้าที่ในการเข้าไปตรวจเยี่ยมให้ความรู้และขยายผลต่อไป

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. จะมีเจ้าหน้าที่ พมจ. ในทุกจังหวัด ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ในการดูแลคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุ และที่สำคัญโครงการนี้ จะเป็นกลไกสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่ตนได้พูดไว้ สำหรับประชาชนที่สนใจเข้ามาเป็นเครือข่ายนักบริบาลผู้สูงอายุ สามารถติดต่อได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) โดยมีค่าตอบแทนอยู่ที่ 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเราอยากจะแสดงให้เห็นว่าการดูแลผู้สูงอายุนั้นสามารถทำเป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้ แต่จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรม 240 ชั่วโมง จะมีการสอนทั้ง 5 มิติ เมื่อมีภาคทฤษฎีแล้ว ต้องมีภาคปฏิบัติด้วยเช่นกัน

#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #แถลงข่าว #บริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน #การดูแลผู้สูงอายุ

Urban Oasis Spa สปาที่หรูย่านทองหล่อ

Oasis Spa สาขาทองหล่อ หรือ เรียกว่า Urban Oasis Spa
วันนี้ Tototravel อยู่ที่ Urban Oasis Spa ซอยทองหล่อ 20 ที่นี้เดินทางง่าย สามารถเดินทางได้ทั้งซอยทองหล่อ และเอกมัย หลีกหนีความวุ่นวายแล้วมาพักผ่อนเอนกาย เลือกแพ็กเกจผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่ทั้งหรูหราและหลากหลาย สถานที่ตกแต่งได้หรูหราทันสมัย บริการนวดแผนไทยด้วยการกดจุด การใช้ศอก การดัดยืด ที่สามารถลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ และเน้นหนักเฉพาะจุดได้ โดยเฉพาะบริเวณ ส่วนหลัง บั้นเอว ไหล่ที่สาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือต้องการบำรุงหน้ากับบำรุงผมและผิวพรรณให้นุ่มนวล

“เออเบิ้ล โอเอซิส สปา” ตั้งอยู่ย่านทองหล่อ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ให้บริการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ มอบความเป็นส่วนตัวภายในห้องสปาทรีทเมนต์ขนาดใหญ่ ตกแต่งสไตล์ โอเรียนทอล โดดเด่นด้วยโทนสีแดงดำ ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางเพื่อค้นหานิยามแห่งความผ่อนคลาย และเติมพลังให้กับชีวิต เชิญคุณมาสัมผัสการพักผ่อนที่สมบรูณ์แบบด้วยบริการจากเทอราปิสมืออาชีพ และสปาทรีทเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเอซิส

สปาทรีทเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเอซิส สปา ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสปา เลือกที่จะใช้บริการคอร์ส สครับเกลือหิมาลายัน มีประโยชน์ต่อผิวพรรณช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยลดปัญหาสิว ผดผื่น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นผิวสะอาดดูมีออร่า พร้อมนวดสปา บ่า หลัง ไหล่ ให้คลายเมื่อย นวดกดจุดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนผิวหน้าและผิวกาย ส่งผลให้ผิวสะอาด เปล่งปลั่ง และ ดูสุขภาพดีขึ้นทันทีหลังจบทรีตเมนต์กลิ่นที่ได้รับการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีใช้เวลาทั้งหมด 2 ชม. เป็น 1 ใน Oasis Signature Massage เลือกกลิ่นตามสภาะผิว
กลิ่นน้ำมันหอมระเหยสมุนไพรจากการ นวดอโรมาเทอราพี คลายเครียดด้วยสครับขัดผิว เป็นการนวดแบบสวีดิชที่จะใช้ฝ่ามือลูบไล้ เคล้นคลึง การบิดสับผิวกาย ผสมผสานกับอโรมาเทอราปีทำให้ผ่อนคลาย หยุดพักร่างกายและจิตใจเพื่อเติมพลัง

KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า

ภายหลังจากนวดเสร็จ สปา เทอราปิสแนะนำให้แต่งตัวตามสบาย ก่อนจะเชิญเรากลับมาที่ Lobby เพื่อทำแบบประเมินความพึงพอใจหลังการนวด​ พร้อมทั้งเสริฟชาสมุนไพร เพื่อปรับสมดุลย์ ปรนิบัติผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยสปาแพคเกจสุดหรูจากโอเอซิสสปา ที่ช่วยผ่อนคลายและสลัดความเหนื่อยล้าออกจากร่างได้อย่างปลิดทิ้ง

ไม่ใช่แค่เพียงประสบการณ์สปา แต่เหนือกว่าด้วยบริการ มีบริการรับส่งฟรีระหว่างสปาและสถานีรถไฟฟ้า โอเอซิสสปา เปิดให้บริการทั้งหมด 6 สาขา อยู่ใกล้สาขาไหนแวะไปใช้บริการได้เลย

เออเบิ้ล โอเอซิส สปา
59 ซอยทองหล่อ 20 (เอกมัย 21), คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
บริการรถรับส่งฟรีจาก BTS พร้อมพงษ์*
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02-262 2122
เวปไซต์ www.oasisspa.net
การเดินทาง : https://goo.gl/maps/ipyAKVVT4oc2BgnL8

ThaiMassageBliss #HerbalHealing #RelaxationJourney #OasisSpa #HolisticWellness #ThaiSpaMagic #Relaxation #Thailand
#ThaiSpa #GroupPromotion