IRDP เปิดการฝึกอบรม หลักสูตร Leadership Succession Program รุ่นที่ 15

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (IRDP) จัดพิธีเปิดการฝึกอบรม หลักสูตร “Leadership Succession Program” (LSP) รุ่นที่ 15 ระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม Holiday Inn พัทยา โดยมี ศาสตราจารย์ ดร. วรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ IRDP และ ประธานกรรมการบริหารหลักสูตร ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีและกล่าวรายงานความเป็นมาของโครงการ โดยมี ดร. เสรี นนทสูตร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส IRDP ดำเนินกิจกรรมแนะนำตนเอง และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ชัยวัฒน์ วงศ์อาษา เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกล่าวปฐมนิเทศแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม

ในการนี้ ศาสตราจารย์ ดร. วรภัทร โตธนะเกษม ได้กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการว่า ในยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และนำมาซึ่งความท้าทายที่หลากหลาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร จะต้องพัฒนาตนเองตลอดเวลา เพื่อให้มีองค์ความรู้ และทักษะที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน สำหรับผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรนั้น ปัจจุบันมีโครงการฝึกอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เปิดโอกาสให้เข้าศึกษาหาความรู้และพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายของผู้บริหารในระดับเดียวกัน ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนความเห็นและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อกัน และยังเอื้อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกด้วย อย่างไรก็ตามความจำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่องค์กรสมัยใหม่เห็นความสำคัญมากยิ่งขึ้น ก็คือการวางแผนสร้างบุคลากรในระดับรองและผู้ช่วยผู้บริหารสูงสุด เพื่อให้มีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นรับตำแหน่งสูงสุดขององค์กร (Succession Plan) ด้วยเหตุผลที่กล่าวมานั้น มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ (IRDP) จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “Leadership Succession Program” (LSP) เพื่อสนองความต้องการนั้นและนับตั้งแต่ปี 2556 และได้จัดหลักสูตร LSP มาแล้วจำนวน 15 รุ่น ดังนั้นจึงขอให้ผู้เข้ารับการอบรมตั้งใจรับฟังการบรรยายและเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์จากท่านวิทยากรที่ให้เกียรติมาบรรยายเพื่อจะได้นำความรู้และประสบการณ์มาปรับใช้ในการปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป

วศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษํท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด

สำหรับโครงการดังกล่าว IRDP จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงขององค์กร รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานราชการ องค์การมหาชน หรือ บริษัทจดทะเบียน และบริษัทเอกชนต่าง ๆ อาทิเช่น “คุณสุโชติ เปี่ยมชล ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย” “คุณมงคล ตรีกิจจานนท์ รองผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” “คุณวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษํท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด” “คุณปกิต ภาคธรรม ผู้ช่วยผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค” “คุณนิยม จินดาปทีป รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านระบบดิจิตอล บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด” คุณณภัทรา สุวรรณเดช ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง” “คุณสุนันท์ นิ่มฟัก ผู้อำนวยการใหญ่(บริหารจราจรทางอากาศ) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด” เป็นต้น

ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องพัฒนาตนเองตลอดเวลา เพื่อให้มีองค์ความรู้ และทักษะที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน สำหรับผู้บริหารระดับสูงสุดขององค์กรนั้น ปัจจุบันมีโครงการฝึกอบรมทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เปิดโอกาสให้เข้าศึกษาหาความรู้และพัฒนาศักยภาพ รวมทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายของผู้บริหารในระดับเดียวกัน ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนความเห็นและประสบการณ์อันจะเป็น สามารถนำความรู้จากเรื่องที่ได้รับการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ต่อการป้องกันหรือแก้ไขปัญหาของแต่ละองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

SKAL International Bangkok

SKAL International Bangkok สกาลสมาคมผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวสากลกรุงเทพฯ นำโดยเจมส์ เธอร์ลบี้ (อดีตนายกสมาคมสกาลสากลกรุงเทพฯ)ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกสมาคมสกาลสากลประเทศไทย เมื่อเร็วๆนี้ ..จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันและการประชุมสามัญประจำปี 2567 โดยมีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ โดยมี กนกรส วงศ์เวคิน (ผู้อำนวยการ เลอมาร์กอม)  ได้รับการโหวตให้เป็นนายกสมาคมคนใหม่ พร้อมคณะกรรมการอีก 8 ท่าน ณ ห้องอาหารสเปคตรัม โรงแรมไฮแอทรีเจนซี่สุขุมวิท กรุงเทพฯ 

โดยมีเจ้าของธุรกิจ บุคคลที่มีชื่อเสียง ผู้บริหารระดับสูงในวงการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมงานกัน อย่างคับคั่ง อาทิ  เอิร์ธ สายสว่าง (ประธานชมรมสื่อสารการตลาดโรงแรมแห่งประเทศไทย)
แอนดรูว์ เจ. วู้ด อดีตนายกสมาคมสกาลเอเซีย แซมมี่ โคโลรุส ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมไฮแอทรีเจนซี่สุขุมวิทกรุงเทพฯ ฟราสซิส ซิมเมอร์แมน ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมแลนด์มาร์คกรุงเทพฯ มาร์วิน บีมานด์,ไมเคิล แบมเบิร์ก, พิชัย วิสูตรีรัตน์, จอนห์น นุ้สซี่ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมชาเทรียมเรสซิเดนซ์สาธร ดร.สก็อต สมิธ, กานต์พิชา คงสมบัติ, พรดา เพ็งสมบัติ เป็นต้น ทั้งนี้กนกรส วงศ์เวคิน (เป็นนายกสมาคมหญิงคนแรก) ตั้งแต่สมาคมสกาลสากลกรุงเทพฯ ก่อตั้งมาเป็นเวลา 30 ปี กนกรสและคณะกรรมการชุดใหม่มีวาระ 2 ปี

สมาคมสกาลสากลกรุงเทพฯ (SKAL Bangkok) จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันและค็อกเทลในโรงแรมระดับ 5 ดาวใจกลางเมือง สลับกันเป็นประจำทุกเดือน โดยเชิญวิทยากรที่มีชื่อเสียงมาบรรยายในหัวข้อที่เป็นประโยชน์กับการท่องเที่ยวไทย เพื่อให้สมาชิกและบุคคลที่สนใจได้มีโอกาสเสริมสร้างวิสัยทัศน์ด้านต่างๆ และมีความสัมพันธ์ที่ดีในการทำธุรกิจร่วมกัน …สมาคมสกาลอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นสมาคมผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก (ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2477 ) โดยมีสาขาอยู่ทั่วโลกทั้งในยุโรป และเอเซีย สำหรับในประเทศไทย มีสาขาอยู่ในจังหวัดที่เป็นยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว เช่น กรุงเทพฯ หัวหิน ภูเก็ต สมุย กระบี่ เชียงใหม่ เป็นต้น

สนใจสมัครเป็นสมาชิกสมาคม ติดต่ออีเมล์ : memberships@skalbangkok.com

แอนิเมชัน “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ติดเทรนด์ บน แอปพลิเคชัน ทรูไอดี

แอนิเมชัน “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ติดเทรนด์ บน แอปพลิเคชัน ทรูไอดี
ด้วยเรื่องราวและคติสอนใจเหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่
หลังจากการเปิดตัว แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ทางสตรีมมิ่ง TrueID เป็นที่แรกตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นั้น แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในรายการประเภทเดียวกัน มียอดวิวเข้าชมในขณะนี้สูงถึงกว่า หนึ่งแสนหกหมื่นวิวแล้ว เรียกว่าเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทั้งเด็ก เยาวชน และครอบครัวยุคใหม่ ได้สมเจตนารมณ์ที่ทีมผู้ผลิตคาดหวัง


แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” สร้างจากแรงบันดาลใจ และหลักธรรมคําสอนของ “พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี” เป็นแนวคิดหลักของเรื่อง ผ่านตัวละครสามเณร “สติมา” เพื่อหวังปลูกฝัง Global Mindset ที่ว่า “We Are One โลกทั้งผอง เป็นพี่น้องกัน” ที่จะทำให้ประชาคมโลกอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น และเป็นสุข โดยเล่าเรื่องราวผ่านความสนุกสนานของวิถีชีวิตเยาวชนในชนบท ภายใต้หลักธรรมที่แทรกคำคมธรรมะจาก พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี)
ดร.ชวัลวัฒน์ อริยะวรารมย์ CEO : T&B Media Global, เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และ Executive Producer ของโปรเจคนี้ ได้เปิดเผยว่า “ รู้สึกดีใจที่มีคนให้ความสนใจให้แอนิเมชัน สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ และดีใจที่ยอดวิวในการรับชมที่พุ่งขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนั่นหมายความว่า เนื้อหาของแอนิเมชันชุดนี้ ได้เข้าถึงตรงใจคนรักแอนิเมชัน และครอบครัวยุคใหม่ ที่สามารถนำไปให้ลูกหลานได้ชม เป็นหลักธรรมที่ พระเมธีวชิโรดม หรือพระอาจารย์ว.วชิรเมธี ท่านได้สอดแทรกคำสอนที่เข้าใจง่าย ซึ่งกว่าแอนิเมชันเรื่องนี้จะเสร็จสมบูรณ์ใช้เวลาถึงสิบปีเลยทีเดียว หวังว่า เนื้อหาในแต่ละตอน จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้รับชมได้นำไปเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน เพื่อให้โลกของเราได้เป็นสุขต่อไปครับ”
“สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” สร้างโดย มูลนิธิวิมุตตยาลัย มูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิอริยวรารมย์ เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล และ ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น ที่ร่วมรังสรรค์ออกมาเป็นแอนิเมชัน

สำหรับเด็กเยาวชนและเหมาะกับครอบครัวยุคใหม่ สามารถรับชม แอนิเมชัน ซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ได้ที่ ทางสตรีมมิ่ง TrueID หรือ https://www.trueid.net/watch/th-th/animation/tvca-kids-cartoon

บีไชน์ เนเจอร์ซี วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด บำรุงผิวใส

 “บีไชน์ เนเจอร์ซี” วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด บำรุงผิวใสจัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม เหลือเพียง 189 บาท ช้อปได้ที่ 7-Eleven 

“บีไชน์ เนเจอร์ซี” (B Shine NaturC) วิตามินซีจากธรรมชาติ อะเซโรลา เชอร์รี่ สกัดเข้มข้น  ผสานคุณประโยชน์ของผลไม้สกัด ที่อุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์และสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยดูแลสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และภูมิแพ้ พร้อมช่วยบำรุงผิวใส สุขภาพดี “บีไชน์ เนเจอร์ซี” เป็นวิตามินซีธรรมชาติ 100% จึงสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี และคงอยู่ในร่างกายได้นาน ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทั้งยังมีซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูงที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายให้ดียิ่งขึ้น บีไชน์ เนเจอร์ซี แบบเม็ด ทานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพทั้งวัยหนุ่ม สาวและผู้สูงอายุ 

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด “บีไชน์ เนเจอร์ซี” มีสารสกัดที่มีประโยชน์จากผลไม้และผักหลากชนิด รับประทานเพียงวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร มื้อเช้าหรือเย็น เพิ่มประสิทธิภาพเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดีต่อผิวพรรณและสุขภาพ ทุกคนต้องหมั่นดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นภูมิต้านทานที่ดีต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย และมลภาวะที่เป็นพิษที่อยู่รอบตัวเรา อยากให้ทุกคนพร้อมดูแลตัวเองและช่วยดูแลคนรอบข้างที่เรารักให้มีร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยความปรารถนาดีจากบีไชน์  

“บีไชน์ เนเจอร์ซี” วิตามินซีธรรมชาติ 100% ขนาดบรรจุ 30 เม็ด แถมฟรีอีก 5 เม็ดในขวด รวมเป็น 35 เม็ด จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มลดราคาพิเศษ เหลือเพียง 189 บาท จากปกติ ราคา 249 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 23 มีนาคม 2567 หาซื้อได้ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bshine.co.th,
FB : https://www.facebook.com/naturcacerolacherry และ Line : @Bshine

คิทโด้ วิตามินเม็ดเคี้ยว 2 สูตร 2 รสชาติ ประโยชน์เน้นๆ ทานได้ทุกวัย

วัน สูตรแรก “คิทโด้ ไอมู อะเซโรลา ซี พลัส มัลติวิตามิน” ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และ สูตรที่สอง “คิทโด้ โปร ดีเอชเอ พลัส บิลเบอร์รี่” บำรุงสมองและสายตา ไม่ว่าจะซื้อเป็นของฝากให้หนูๆ น้องๆ หรือซื้อทานเองก็อร่อยถูกใจทุกเพศทุกวัย ทานได้ทุกวัน อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ ปลอดภัย มีงานวิจัยรองรับ และการรับรองจาก อย. ประเทศไทย

“คิทโด้ ไอมู อะเซโรลา ซี พลัส มัลติวิตามิน” (KITDO IMU Acerola C Plus Mutivitamin) วิตามินเม็ดเคี้ยว รสส้ม ประกอบด้วย วิตามินซีจากธรรมชาติ อะเซโรลา เชอรี่ สกัด นำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีงานวิจัยรับรองว่าเป็นวิตามินซีที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็ว และคงอยู่ในร่างกายได้นานกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ทั่วไป โดยวิตามินซีธรรมชาตินี้จะไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและไต และไม่ทำลายสารเคลือบฟัน ผสานกับ ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์, ซิงค์ และวิตามินรวม 13 ชนิด เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อหวัด ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด ลดอาการภูมิแพ้ และป้องกันการขาดวิตามินในร่างกาย เพิ่มความแข็งแรง

“คิทโด้ โปร ดีเอชเอ พลัส บิลเบอร์รี่” (KITDO Pro DHA plus Bilberry) วิตามินเม็ดเคี้ยว รสมิกซ์เบอร์รี่ ประกอบด้วย น้ำมันปลาทูน่าบริสุทธิ์ นำเข้าจากออสเตรเลียที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 (Omega 3) ได้แก่ ดีเอชเอ (DHA) ที่มีคุณสมบัติทำให้การเชื่อมต่อและสื่อสารระหว่างเซลล์สมองมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเซลล์สมองมีการเชื่อมต่อได้มากขึ้น ส่งผลให้การเรียนรู้เร็วขึ้นและความจำดีขึ้น ผสานกับ โคลีน ที่ช่วยเพิ่มสารสื่อนำประสาท พร้อมด้วย แอล-ไลซีน และ วิตามินบีรวม 7 ชนิด ได้แก่ วิตามินบี 1, วิตามินบี 3, วิตามินบี 5, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, กรดโฟลิค และไบโอติน ผสานกับ สารสกัดจากบิลเบอร์รี่, เบอร์รี่รวม 6 ชนิด และวิตามินเอ เพื่อการดูแลสมองและสายตา เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง บำรุงสายตา ช่วยในการมองเห็น ลดอาการตาแห้ง ลดความอ่อนล้าจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน เช่น ใครที่ใช้สายตาจ้องมือถือ iPad คอมพิวเตอร์บ่อยๆ ต้องลองสูตรนี้ 

เพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณสารอาหารและวิตามินครบถ้วนในแต่ละวัน แนะนำให้รับประทานคิทโด้สูตรละ 1-3 เม็ดต่อวัน เม็ดเคี้ยว อร่อยดีมีประโยชน์ ทานง่าย หอมกลิ่นผลไม้ ไม่เติมน้ำตาล ไม่ใส่สารกันเสีย เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว 

โปรโมชั่นสุดคุ้ม คิทโด้ วิตามินเม็ดเคี้ยว 2 สูตร 2 รส เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง บำรุงสมองและสายตาที่ดีของน้องๆ หนูๆ และทุกคน ด้วยราคาพิเศษ คิทโด้ 1 ซอง บรรจุ 12 เม็ด แถมฟรีอีก 3 เม็ด (แถมในซอง) รวมเป็น 15 เม็ด/ซอง พิเศษซองละ 39 บาท จากปกติ 49 บาท ช่วยประหยัดถึง 10 บาท หาซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 23 มีนาคม 2567 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของ “คิทโด้” ทั้ง 2 สูตร 2 รสชาติ
เว็บไซต์ www.bshine.co.th/kitdo/, FB : https://www.facebook.com/kitdoclub  และ Line : @Kitdo

“วราวุธ“ เปิด “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน”

วันที่ 13 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานแถลงข่าวเปิด “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ และพัฒนาศักยภาพผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน พร้อมสร้างกลไกการดูแลผู้สูงอายุครอบคลุมทุกมิติในระดับพื้นที่

โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาสตราจารย์ ดร. นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุและผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ

นายวราวุธ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตของโครงสร้างประชากร โดยสัดส่วนประชากรวัยสูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับอัตราการเกิดใหม่ของประชากรวัยเด็กและประชากรวัยแรงงานที่มีจำนวนลดลง โดยในปี 2566 พบว่า ประเทศไทย เข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ ซึ่งมีจำนวนผู้สูงอายุมากถึง 13 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20.08 ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่เด็กเกิดใหม่มีเพียง 5.18 แสนคน ส่งผลกระทบต่ออนาคตของประเทศในการเผชิญกับปัญหาภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ รวมถึงปัญหาผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง ขาดผู้ดูแล

ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการสร้างระบบ กลไก และโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลและคุ้มครองผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่น โดยเป้าหมายสำคัญมุ่งหวังให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขที่บ้านของตนเอง (Ageing in Place) ซึ่งครอบครัวเป็นกลไกสำคัญในการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงชุมชนท้องถิ่น อาทิ รพ.สต. อปท. อาสาสมัคร ชมรมผู้สูงอายุ เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุนและการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผ่านกระบวนการปฏิบัติงานของผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในการทำหน้าที่ช่วยเหลือ ดูแล คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุครอบคลุมในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2567 กระทรวง พม. ได้ดำเนินการโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน จำนวน 19 พื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ลพบุรี สิงห์บุรี สกลนคร อุบลราชธานี สงขลา และปัตตานี มีผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 35 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิ จำนวน 240 ชั่วโมง โดยมุ่งหวังให้ผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุกลุ่มนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการปกป้องคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนท้องถิ่นของตนเอง จำนวนทั้งสิ้น 73,642 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุทั้งหมดในพื้นที่นำร่อง

และในปี 2568 ได้มีแผนขยายผลโครงการฯ จำนวน 3,886 พื้นที่ ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และจะมีการสร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 7,772 คน ซึ่งจะมีผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลและคุ้มครองทางสังคมจำนวนทั้งสิ้น 6,174,854 คน โดยระยะยาว 4 ปี ตั้งเป้าผลักดันให้เกิดระบบการคุ้มครองผู้สูงอายุด้วยผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุครอบคลุมให้ทั่วทุกพื้นที่ จำนวน 75,032 พื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จำนวน 150,064 คน ซึ่งจะมีผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลและคุ้มครอง จำนวนทั้งสิ้น 15,900,000 คน

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) มีความยินดีที่จะเปิดตัวโครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งวันนี้เราได้รับความร่วมมือจากพี่น้องทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน และใต้ เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ในการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เราทำงานในหลายจังหวัด ในการที่จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปในแต่ละชุมชนเพื่อดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งทุกวันนี้ประเทศไทยของเราเป็นสังคมสูงอายุเต็มรูปแบบเรียบร้อยแล้ว และในอนาคตปริมาณผู้สูงอายุในประเทศไทยก็จะเพิ่มมากขึ้นทุกปี ดังนั้นการที่ทุกฝ่ายจะต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายและจิตใจ มิติทางด้านสังคม ด้านที่พักอาศัย รวมไปถึงเรื่องเทคโนโลยีต่างๆให้กับผู้สูงอายุ เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราในวันนี้ ได้รับการฝึกอบรมและจะนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ไปขยายต่อในการดูแลผู้สูงอายุ

ซึ่งทั้งหมดที่เราทำในวันนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการที่จะแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่กระทรวง พม. ได้ทำ Workshop ไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมิติการดูแลผู้สูงอายุนั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบ่งเบาภาระของคนรุ่นใหม่ ที่มีความกังวลว่าคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้สูงอายุในครอบครัวนั้น ใครจะเป็นผู้ดูแล และถ้าหากว่าจะต้องเลือกระหว่างการมีบุตรและการดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในครอบครัวนั้น คนรุ่นใหม่ในวันนี้เลือกที่จะดูแลผู้สูงอายุก่อน ดังนั้น การที่กระทรวง พม. ได้เริ่มโครงการนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่แบ่งเบาภาระและสร้างความมั่นใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการที่จะมีครอบครัวและมีบุตรต่อไปในอนาคต และเป็นการแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่ประเทศไทยกำลังจะประเชิญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ด้านสถานการณ์ผู้สูงอายุในไทย ขณะนี้เรามีผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 13 ล้านคน คาดว่าอีกประมาณ 4-5 ปี จากนี้ไป ประเทศไทยจะมีแนวโน้มผู้สูงอายุเพิ่มเป็นประมาณ 15-17 ล้านคน แต่ไม่เกิน 10 ปี นี้เราจะมีผู้สูงอายุเกือบ 20 ล้านคน ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุขั้นสุดยอดเหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่น และการที่เราเป็นสังคมผู้สูงอายุขั้นสุดยอดนั้น จะก่อสร้างภาระให้กับคนวัยทำงานอย่างมหาศาล เพราะว่าอัตราส่วนในการแบกรับผู้สูงอายุจะกลายเป็นคนทำงานเพียงแค่สองคนต่อผู้สูงอายุหนึ่งคนเท่านั้น ดังนั้น การดูแลให้ผู้สูงอายุให้มีสุขภาพทั้งกายและใจที่สมบูรณ์และแข็งแรง ก็จะเป็นการแบ่งเบาภาระทางด้านงบประมาณ ด้านสาธารณสุข และบุคลากรทางสาธารณสุข และในทางเดียวกันนั้นก็ยังสามารถเพิ่มผลผลิต สร้างศักยภาพให้ผู้สูงอายุนั้นเป็นกลไกสำคัญในการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับรากหญ้าขึ้นมา

สำหรับเจ้าหน้าที่ตอนนี้จุดเริ่มต้นโครงการ มีอยู่ 36 คน กระจายกันอยู่ทั่วแต่ละจังหวัดในประเทศไทย แต่ยังไม่ครบทุกจังหวัด เนื่องจากเพิ่งเป็นการเริ่มต้นโครงการ แต่เป้าหมายของเรานั้นจะต้องมีให้ครบทั้ง 76 จังหวัด ให้ครบทุกอำเภอ และแต่ละอำเภอนั้นอย่างต่ำก็จะมีเจ้าหน้าที่ 2,000-4,000 คน ฉะนั้น เจ้าหน้าที่ของเรานั้นจะเพิ่มปริมาณขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปีหน้านั้น อาจจะมีถึง 6,000 คน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ต้องประมาณกว่า 10,000 คน ที่จะต้องดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ของเราก็มีหน้าที่ในการเข้าไปตรวจเยี่ยมให้ความรู้และขยายผลต่อไป

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ กระทรวง พม. จะมีเจ้าหน้าที่ พมจ. ในทุกจังหวัด ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ในการดูแลคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุ และที่สำคัญโครงการนี้ จะเป็นกลไกสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรที่ตนได้พูดไว้ สำหรับประชาชนที่สนใจเข้ามาเป็นเครือข่ายนักบริบาลผู้สูงอายุ สามารถติดต่อได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) โดยมีค่าตอบแทนอยู่ที่ 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเราอยากจะแสดงให้เห็นว่าการดูแลผู้สูงอายุนั้นสามารถทำเป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้ แต่จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรม 240 ชั่วโมง จะมีการสอนทั้ง 5 มิติ เมื่อมีภาคทฤษฎีแล้ว ต้องมีภาคปฏิบัติด้วยเช่นกัน

#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ศรส #พม #แถลงข่าว #บริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน #การดูแลผู้สูงอายุ

Urban Oasis Spa สปาที่หรูย่านทองหล่อ

Oasis Spa สาขาทองหล่อ หรือ เรียกว่า Urban Oasis Spa
วันนี้ Tototravel อยู่ที่ Urban Oasis Spa ซอยทองหล่อ 20 ที่นี้เดินทางง่าย สามารถเดินทางได้ทั้งซอยทองหล่อ และเอกมัย หลีกหนีความวุ่นวายแล้วมาพักผ่อนเอนกาย เลือกแพ็กเกจผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่ทั้งหรูหราและหลากหลาย สถานที่ตกแต่งได้หรูหราทันสมัย บริการนวดแผนไทยด้วยการกดจุด การใช้ศอก การดัดยืด ที่สามารถลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ และเน้นหนักเฉพาะจุดได้ โดยเฉพาะบริเวณ ส่วนหลัง บั้นเอว ไหล่ที่สาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือต้องการบำรุงหน้ากับบำรุงผมและผิวพรรณให้นุ่มนวล

“เออเบิ้ล โอเอซิส สปา” ตั้งอยู่ย่านทองหล่อ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ให้บริการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ มอบความเป็นส่วนตัวภายในห้องสปาทรีทเมนต์ขนาดใหญ่ ตกแต่งสไตล์ โอเรียนทอล โดดเด่นด้วยโทนสีแดงดำ ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางเพื่อค้นหานิยามแห่งความผ่อนคลาย และเติมพลังให้กับชีวิต เชิญคุณมาสัมผัสการพักผ่อนที่สมบรูณ์แบบด้วยบริการจากเทอราปิสมืออาชีพ และสปาทรีทเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเอซิส

สปาทรีทเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเอซิส สปา ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสปา เลือกที่จะใช้บริการคอร์ส สครับเกลือหิมาลายัน มีประโยชน์ต่อผิวพรรณช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยลดปัญหาสิว ผดผื่น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นผิวสะอาดดูมีออร่า พร้อมนวดสปา บ่า หลัง ไหล่ ให้คลายเมื่อย นวดกดจุดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนผิวหน้าและผิวกาย ส่งผลให้ผิวสะอาด เปล่งปลั่ง และ ดูสุขภาพดีขึ้นทันทีหลังจบทรีตเมนต์กลิ่นที่ได้รับการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีใช้เวลาทั้งหมด 2 ชม. เป็น 1 ใน Oasis Signature Massage เลือกกลิ่นตามสภาะผิว
กลิ่นน้ำมันหอมระเหยสมุนไพรจากการ นวดอโรมาเทอราพี คลายเครียดด้วยสครับขัดผิว เป็นการนวดแบบสวีดิชที่จะใช้ฝ่ามือลูบไล้ เคล้นคลึง การบิดสับผิวกาย ผสมผสานกับอโรมาเทอราปีทำให้ผ่อนคลาย หยุดพักร่างกายและจิตใจเพื่อเติมพลัง

KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า

ภายหลังจากนวดเสร็จ สปา เทอราปิสแนะนำให้แต่งตัวตามสบาย ก่อนจะเชิญเรากลับมาที่ Lobby เพื่อทำแบบประเมินความพึงพอใจหลังการนวด​ พร้อมทั้งเสริฟชาสมุนไพร เพื่อปรับสมดุลย์ ปรนิบัติผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยสปาแพคเกจสุดหรูจากโอเอซิสสปา ที่ช่วยผ่อนคลายและสลัดความเหนื่อยล้าออกจากร่างได้อย่างปลิดทิ้ง

ไม่ใช่แค่เพียงประสบการณ์สปา แต่เหนือกว่าด้วยบริการ มีบริการรับส่งฟรีระหว่างสปาและสถานีรถไฟฟ้า โอเอซิสสปา เปิดให้บริการทั้งหมด 6 สาขา อยู่ใกล้สาขาไหนแวะไปใช้บริการได้เลย

เออเบิ้ล โอเอซิส สปา
59 ซอยทองหล่อ 20 (เอกมัย 21), คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
บริการรถรับส่งฟรีจาก BTS พร้อมพงษ์*
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02-262 2122
เวปไซต์ www.oasisspa.net
การเดินทาง : https://goo.gl/maps/ipyAKVVT4oc2BgnL8

ThaiMassageBliss #HerbalHealing #RelaxationJourney #OasisSpa #HolisticWellness #ThaiSpaMagic #Relaxation #Thailand
#ThaiSpa #GroupPromotion

อเมซิ่งสุดอันซีน ฝูงนกยูงหนึ่งเดียวในพะเยาที่วัดถ้ำเทพนิมิต

ข่วงนกยูงไทย ณ​ วัดป่าถ้ำเทพนิมิต ต.ห้วยลาน​ อ.ดอกคำใต้​ จ.พะเยา

ข่วงนกยูง  วัดถ้ำเทพนิมิต บ้านห้วยต้นตุ้ม หมู่ 9 ตำบลห้วยลาน อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา พร้อมชาวบ้านและเทศบาลตำบลห้วยลาน ได้ร่วมกันทำสถานที่ดูชม นกยูง หรือข่วงนกยูง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมในฤดูท่องเที่ยวหรือช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม 2563-กุมภาพันธ์ 2564 นี้
โดยเฉพาะช่วงนี้นกยูงกำลังจับคู่ผสมพันธุ์ เล่นกันบริเวณข่วงนกยูง ทางวัดจึงทำ แนวกั้นดูชมนกยูง รองรับนักท่องเที่ยวได้ดูชมอย่างใกล้ชิด เพียง 10-20เมตร 

พระอาจารย์ศรีไพร เขมาภิรโต เจ้าวาสวัดป่าถ้ำเทพนิมิต​ บอกกับว่าฝูงนกยูงที่นี่เป็นฝูงนกยูงป่า​ ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ​ ​มักออกมาหากินบริเวณชายป่า ข่วงกิ่งแก้ว  สำหรับนกยูงที่เห็นอยู่นี้เป็นไข่นกยูงที่ชาวบ้านเก็บมาให้ท่านช่วยเหลือดูแล​ เพราะนกยูงเป็นนกที่มีหูตาว่องไวมาก​ เมื่อได้ยินเสียงเขาจะรีบบินหนีไป ท่านได้ช่วยเหลือตามวิธีธรรมชาติโดยให้แม่ไก่ฟัก​ ปัจจุบันท่านเจ้าอาวาสได้ซืัอเครื่องฟักไข่มาหนึ่งเครื่อง​ สามารถฟักได้​ 30 ฟอง​ อนาคตอาจจะต้องเพิ่มเครื่องฟักไข่เพิ่มอีก​ เพราะนกยูงตามธรรมชาติที่นี่มีถึงหลักพันตัวทีเดียว​ หากใครมีจิตศรัทธาก็สามารถร่วมทำบุญกับท่านได้​  เป็นค่าอาหารนกยูง เพื่อเป็นการอนุรักษ์นกยูงของไทยต่อไปฝูงนกยูงสายพันธุ์ไทย มักออกมาหากินบริเวณชายป่า นกยูงเป็นไก่ฟ้าขนาดใหญ่ พบในป่าเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะของนกยูงไทย คือ นกยูงไทยเพศผู้มีหงอนบนหัวตั้งตรงเป็นกระจุก หนังข้างแก้มเป็นสีฟ้าและสีเหลือง ขนส่วนคอ หลัง ตลอดไปถึงปลายหางเป็นสีเขียว ส่วนนกยูงเพศเมียมีมันวาวน้อยกว่าและไม่มีแววมยุรา ทางพื้นที่ได้จัดทำข่วงนกยูงหลายแห่งเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชม ได้แก่ ข่วง 69 ข่วงกิ่งแก้ว และข่วงห้วยยางขาม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมนกยูง คือ เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี 

สามารถเข้าดูชมนกยูงได้อย่างใกล้ชิดกว่าสถานที่อื่นอีกทั้งภายในบริเวณวัดยังมีนกยูง เชื่อง ให้ดูชมอย่างใกล้ชิดอีกด้วย เส้นทางการเดินทางเข้ามาดูชมนกยูงวัดถ้ำเทพนิมิต ใช้เส้นทาง อำเภอดอกคำใต้-อำเภอจุน ระหว่างบ้านห้วยตุ้ม บริเวณสามแยก หนองลาว หมู่ 9 ตำบลห้วยลาน อำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยา ซึ่งสามารถขับรถเข้าไปตามเส้นทาง สะดวก ถึงวัด ชมนกยูงได้ตลอดทั้งวันและ นกยูงที่วัดแห่งนี้เป็นนกยูงพันธุ์ไทย

ทั้งนี้ ภายในบริเวณข่วงนกยูงวัดถ้ำเทพนิมิตจะมีฝูงนกยูงป่าบินลงมาจิกกินอาหารกันตลอดทั้งวัน จนได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีนกยูงมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา เวลาชมนกยูงมีกฎสำคัญ อย่าส่งเสียงและใช้แฟลชในการถ่ายภาพเพราะถ้านกยูงตกใจจะบินกลับเข้าป่าในทันทีช่วงเวลาในการชมนกยูงแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงเช้าเวลา 6:00 น – 8:30 น และช่วงบ่ายเวลาบ่าย 14.00 น. -​ 16.30 น.

ข่วงนกยูงไทย ณ​ วัดป่าถ้ำเทพนิมิต ต.ห้วยลาน​ อ.ดอกคำใต้​ จ.พะเยา
สามารถติดต่อวัดถ้ำเทพนิมิตร​ : 0811697122

#สุขทันทีที่เที่ยวพะเยา   
#ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว(ช.ส.ท)
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงราย
#จังหวัดพะเยา #toptotravel