5 องค์กรพันธมิตร หนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างยั่งยืน

งานเริ่มขึ้นโดยการแสดงชุดพิเศษ จากศูนย์วัฒนธรรมไทดำ บ้านไผ่หูช้าง

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น . สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), สมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม , สมาคมท่องเที่ยว จ.นครปฐม ชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ. นครปฐม ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.นครปฐม และสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แถลงข่าวการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพ และกระจายรายได้สู่ชุมชนประกอบด้วย นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ร่วมงาน โดยมีนางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว นำคณะสื่อมวลชนร่วมงาน ซึ่งการแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นี้ ณ สนามกอล์ฟ ไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม กล่าวถึง การจัดงานในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของหลายองค์กร เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างแท้จริง ซึ่งจังหวัดนครปฐมประกอบด้วย 7 อำเภอ กิจกรรมนี้ถือเป็นการนำร่อง
ซึ่งสนามกอล์ฟ ฯ แห่งนี้นอกจากใกล้กรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีการออกแบบอย่างสวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ และมีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับโลกและพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมมอบของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยได้รับการสนับสนุนจากทางสนามกอล์ฟและจากองค์กรต่างๆ

ด้านนายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่สำเร็จในการขยายโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ไม่ใช่แค่เรื่องกอล์ฟ แต่สำหรับทุกภาคส่วน นครปฐมมี 7 อำเภอ เราทุกภาคส่วนจะหาทางช่วยเหลือว่าทำอย่างไร จึงจะให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เป้าหมายของเราต่อไป เราจะเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนและขยายโครงการต่างๆ เพื่อสร้างกิจกรรมให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้จะมีการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในแบบการพักค้างคืน อาจจะแบบมาเที่ยว 2 วัน 1 คืน โดยมีการเข้ามาเที่ยว มาพักและมาทานอาหารตามสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการตลาด ด้านการท่องเที่ยว ด้านวัฒนธรรมขณะที่นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย
จ. นครปฐม กล่าวว่า ทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมในการเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในจังหวัด ซึ่งเอสเอ็มอี ในจังหวัด มีผลิตภัณฑ์
มีร้านอาหาร และสินค้าต่างๆ เรามีสินค้าแบรนด์ระดับประเทศ มีแบรนด์วีแกน และยังมีเอสเอ็มอี อีกหลายพันรายที่ ที่ต้องการการสนับสนุนเพื่อเชื่อมโยงในการสร้างสิ่งใหม่ๆ แก่ชุมชน

นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ กล่าวว่า สนามกอล์ฟ ฯ มีความยินดีในการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง
ซึ่งต้องบอกว่า เอสเอ็มอี เป็นเสาหลักของประเทศจริงๆ การก่อร่างสร้างตัวประเทศที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งได้ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ส่วนหนึ่งมาจากเอสเอ็มอีที่มีความมั่นคง ผมดีใจที่เอกชนมาช่วยกันเรื่องนี้ ก็ให้กำลังใจ เรารับรู้กันอยู่แล้วว่า ถ้าหากรัฐบาลไม่ได้หันหน้ามามอง จะเหนื่อยมากๆ แต่ผมจะเป็นกำลังใจให้ ร้านค้าต่างๆ ของตำบล อำเภอ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก แต่วันนี้เราได้เห็นแล้วว่า ได้มีองค์กรที่มาช่วยกันดันเอสเอ็มอี ในชุมชนต่างๆของจังหวัดนครปฐมขึ้นมา เรายืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า พร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ นี้อย่างเต็มที่และจะสนับสนุนไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ในจังหวัดอีกด้วย

ด้านนาง วรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมดีดีที่จะส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาได้ สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นสนามกอล์ฟตัวอย่างที่เป็นที่ชื่นชอบของนักกีฬากอล์ฟระดับโลกที่เข้ามาแข่งขันแล้ว และมีความพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว

การแข่งขันกอล์ฟครั้งที่ 1 เปิดรับสมัครนักกอล์ฟสมัครเล่น ทีมละ 5 ท่านดวลวงสวิง โดยมีค่าสมัครทีมละ 15,000 บาทเพื่อหาทีมชนะเลิศชิงถ้วยรางวัลจาก พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง สมาชิกวุฒิสภาซึ่งแบ่งประเภทรางวัลและรางวัลพิเศษดังนี้ ถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภททีม 1 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ GROSS SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ NET SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลบู้บี้ 1รางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ 1รางวัล จากคุณประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ผู้บริหาร สนามกอล์ฟไดนาสตี้ฯ เป็นบัตรรับประทานอาหารฟรี ในวันธรรมดาจำนวน 2 รางวัล รางวัลละ4 ท่าน มูลค่ารวมเป็นเงิน 5,600 บาท พร้อมด้วยรางวัลจากผู้ให้การสนับสนุนอีกมากมาย การแข่งขันในครั้งนี้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งรายได้จากการจัดการแข่งขันส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้กับผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ตามความเหมาะสมต่อไป

ภายหลังจากการแถลงข่าว การแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 ทางชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ยังได้นำคณะสื่อมวลชนไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการ
ศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา นครปฐม ซึ่งเปิดอบรมหลักสูตรนวดวัดโพธิ์และบริการนวดแผนโบราณต้นตำรับวัดโพธิ์ โดยมีคุณเสรัชร์ ตั้งตรงจิตร ผู้บริหารให้การต้อนรับ

#toptotravel
#ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว

ปาร์ตี้ฉลองวันเกิด Happy Birthday เอิร์ธ สายสว่าง

เป็นอีกวันแห่งความอบอุ่นและปลาบปลื้มในโอกาส ร่วมฉลอง Birthday celebration ให้กับ เอิร์ธ สายสว่าง Professional PR เป็นที่ปรึกษาดูแลและภารกิจ มากมาย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ณ ร้านอำแดงไต้ฝุ่น

โดยมีเพลงอวยพรวันเกิดจาก ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ (คุณใหญ่)
(เจ้าของร้านอำแดงไต้ฝุ่น)ประจำปี 2566 สุดอบอุ่นท่ามกลางเพื่อนๆ โดยมีศิลปินดารานักแสดงและเซเลบริตี้ชื่อดังในวงการมากมายอวยพรอย่างเป็นกันเอง พร้อม มอบให้เจ้าของวันเกิดคุณเอิร์ธ สายสว่าง ที่ยิ้มรับอย่างอารมณ์ดีด้วยความสุขกายและสุขใจ สุขภาพแข็งแรง เป็นที่รักของทุกๆ คนตลอดไป

ปิดท้ายความสนุกสนามของงานนี้ ที่ร้านอำแดงไต้ฝุ่น by The River เน้นเมนูอาหารไทย-จีนสูตรตำรับโบราณเป็นแนวคิดดั้งเดิมร้านบรรยากาศดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ภายในโครงการบางกอกสแควร์ถนนพระราม 3 โดยปัจจุบันได้รับการการันตีเรื่องความอร่อยเด็ดจาก Michelin Guide ประเภท The Plate ถึง 2 ปีซ้อน (2020 และ 2021)

อำแดงไต้ฝุ่น By the River
ให้บริการทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
สำรองที่นั่ง โทร. 095 716 4712
Line: Amdangtyphoon
Instagram: amdangtyphoon
เส้นทาง: https://shorturl.asia/jZXaC

กลิ่นไอดิน คาเฟ่ ของ เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ สไตล์ธรรมชาติกลางป่ากลางเขา บรรยากาศสุดกรีน

กาแฟกลิ่นไอดิน Cafe & Restaurant ฟีลธรรมชาติ บรรยากาศดี
ในวันที่แดดจ้ากำลังดี เรื่องมันมีอยู่ว่า กลิ่นไอดิน ชื่อของคาเฟ่ มีกลิ่นอายที่ทำให้เรารู้สึกดีในธรรมชาติ ย้ำเตือนให้ระลึกถึงความทรงจำของการเชื่อมโยงกับธรรมชาติซึ่งกลิ่นแต่ละกลิ่นที่ออกมาจะมีความสมบูรณ์ในตัวของมันเอง rเจ้าของร้านต้อนรับเราด้วยเวลคัมดริงก์ สีสดใสทั้งแบบร้อนและเย็นชื่นใจให้เรานั่งพักคลายร้อนจากการเดินทาง เสมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ท้ายที่สุดมันก็เลยออกมาเป็นพื้นที่ที่ผสมผสานสิ่งที่ทุกคนอยากทำเข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว

วันนี้เราตั้งใจปักหมุดไปที่ ร้านกาแฟที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า ท่ามกลางบรรยากาศร่มครึ้มของต้นไม้ที่ขึ้นตามริมถนน อีกหนึ่งร้านกาแฟที่จังหวัดกำแพงเพชร ไม่ได้มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่ดี ยังมีกาแฟกลิ่นไอดิน ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่น่าสนใจพาตัวเองออกไปหาความสุข ด้วยการนั่งจิบกาแฟ พักผ่อนชิลๆ เป็นลานระเบียงแบบเก้าอี้ โต๊ะไม้ มองเห็นวิวบ่อปลาด้านล่าง ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านท้ายที่สุดมันก็เลยออกมาเป็นพื้นที่ที่ผสมผสานสิ่งที่ทุกคนอยากทำเข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว บรรยากาศโดยรอบของที่นี่ยังคงให้ความรู้สึกสุขและสงบนิ่งทำให้คาเฟ่แห่งนี้ ทวีความอบอุ่นมากขึ้น

วันนี้ toptotravel พาทุกคนไปชิมกาแฟของ ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน พอเดินเข้ามาด้านในที่นี่เป็นทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟ เป็นคาเฟ่ที่มีทั้งเมนูเครื่องดื่มทั่วไปตามแบบฉบับของร้าน ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกำแพงเพชร (ระยะห่างประมาณ 3 กิโลเมตร) เกิดขึ้นจากความตั้งใจจากคอกาแฟชาวกำแพงเพชร ตัดสินใจกลับบ้านมาดูแลครอบครัว พี่หนุ่ยก็อยากมาช่วยแฟนและสร้างความมั่นคงไปด้วยกันที่นี่เป็นร้านกาแฟน่ารักๆ ในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนนั่งจิบกาแฟอยู่ที่บ้าน ทุกมุมในร้านสามารถเป็นมุมถ่ายรูปได้สวยเก๋ไม่ซ้ำใคร ร้านนี้เกิดจากความชอบและตัวตนของเจ้าของร้าน เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ (โอ๋ ) ชาวกำแพงเพชร และภรรยาเป็นชาวกำแพงเพชร คาเฟ่บนที่ดินของครอบครัว ทั้งคู่ตั้งใจให้ร้านนี้เป็นคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ บรรยากาศเหมือนห้องรับแขกต้อนรับเพื่อนฝูง เหมาะกับการอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงาน เราสะดุดตากับเปียโนเก่า เปียโนอังกฤษโบราณปลายยุคคลาสสิค ทุกอย่างในมุมนั้นดูเรียบแต่ว่ามีเสน่ห์ สไตล์ร้านและสวนโดยรอบเป็นการรวมความชอบของทุกคนในครอบครัว ล้อมรอบไปด้วยสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งมีสไตล์ต่างออกไปจากที่เคยเห็น ตามมุมสวนตกแต่งด้วยของพื้นเมืองที่หาได้ในพื้นที่ ของสะสมของครอบครัว และต้นไม้หลากหลายชนิด พื้นที่สนามหญ้า และสวนรอบๆ ปลูกต้นไม้จัดสวนเต็มพื้นที่ ด้วยความตั้งใจว่าอยากทำให้บ้านนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รายละเอียดทุกอย่างในร้านเต็มไปด้วยเรื่องเล่าที่ พี่โอ๋ เสฏฐวุฒิ หนุ่มอารมณ์ดีคนนี้อยากแชร์บรรยากาศที่บรรจุรายละเอียดไว้เต็มๆ

ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน บรรยากาศภายในร้านมีความเป็นกันเอง สะดวกสบาย เป็นคาเฟ่ที่ไม่เหมือนคาเฟ่ทั่วไป ไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่ต้องเป็นคนต้องการธรรมชาติ รักความสงบ เพราะร้านไม่พลุกพล่าน ตั้งอยู่บนโลเคชั่นธรรมชาติสนามหญ้าเขียวๆ กลางไร่อ้อน บรรยากาศดี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ร้านถูกตกแต่งไปด้วยกระจกบานใหญ่ สามารถมองวิวทิวทัศน์โดยรอยได้ บรรยากาศดี ร่มรื่น น้ำในบึงที่มีสปริงเกอร์หมุนวนก็ช่วยลดอุณหภูมิ ที่นี่จึงเหมาะแก่การนั่งชิลๆ พักผ่อนสบายๆ ภายในร้านมีที่นั่งทั้งโซนด้านนอกและด้านใน ให้ลูกค้าเลือกนั่งตามสบาย ใครอยากนั่งโซนในห้องแอร์ที่มีวิวกระจกบานใหญ่มองเห็นบรรยากาศรอบๆ ไร่อ้อย-ไร่มันอันกว้างใหญ่ เมนูอาหารของทางร้านที่ตั้งใจทำทุกขั้นตอนในเมนูสไตล์ไทย และเครื่องดื่มที่มีให้เลือกหายเมนู สดชื่นหวานซ่าในเมนูโซดา หรือจะจิบเข้มๆ กับกาแฟ

เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ (โอ๋ )
เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ และความอบอุ่นของครอบครัว ที่เคียงข้างด้วย คุณพรทิพย์ ภรรยา
และน้องธันยาภัทร์ บุตรสาว

ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน เลือกใช้เมล็ดกาแฟไทยเป็นหลัก และมีเมล็ดพิเศษหมุนเวียนมาให้ลูกค้าลองกันเรื่อยๆ ส่วนอาหารสไตล์โฮมมี่ที่ขายในร้านจะเน้นเมนูที่กินง่ายและรสชาติถูกปากคนไทย เสิร์ฟทั้งอาหารและเครื่องดื่ม หลากเมนูเด็ดไทย-อีสาน ปรุงแบบเชฟบ้านๆ มาแบบจานใหญ่ให้เยอะ และอาหารจานหลักที่ทำจานต่อจาน คุ้มค่า คุ้มราคา กับกาแฟดีๆ อาหารอร่อย บรรยากาศโดยรอบท่ามกลางบรรยากาศชาวสวนชาวไร่ มองไปมีทั้งสวนมะพร้าว ไร่อ้อย ไร่มัน เป็นอีกเสน่ห์ที่ต่อยอดมูลค่าของท้องถิ่นสำหรับคนที่ชอบนั่งรับลมธรรมชาติเย็นๆก็มีซุ้มส่วนตัว ให้นั่งชิลๆ ดูปลา มองท้องฟ้าเพลินๆ พร้อมชื่นชมบรรยากาศสวยๆ ได้ ใครสายที่เน้นการถ่ายรูปบอกเลยว่าที่ร้านมีมุมสวยน่ารัก มากมาย อยากให้ทุกคนได้มาลิ้มลองกัน

เมนูแนะนำ : กุ้งถังทะเล
เมนูแนะนำ : ขาหมูเยอรมัน
เมนูแนะนำ : ตำกลิ่นไอดิน
เมนูแนะนำ : สายใยกลิ่นไอดิน

ใครแวะมาเที่ยวกำแพงเพชร ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด มาเยือนมาสัมผัสกับความอบอุ่นของร้านแห่งนี้ วันหนึ่งคงจะเห็นสนามฟุตบอล สนามกีฬาสำหรับเยาวชนในชุมชนแห่งนี้ การกลับมาบ้านเกิดของครอบครัวนี้
ถือเป็นอีกหนึ่งบริบทของคนที่เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในเมือง และพร้อมแล้วที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดด้วยหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเยาวชนและชุมชน ของจังหวัดกำแพงเพชร หากวันไหนที่คุณอยากผ่อนคลาย จิบเครื่องดื่มอร่อยๆ สักแก้ว
และเริ่มต้นบทสนทนาดีๆ พื้นที่หน้าบาร์ของ กลิ่นไอดิน ยินดีต้อนรับคุณเสมอ

ใครแวะมาเที่ยวจังหวัดกำแพงเพชร ลองมาแวะที่ ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน
ทเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด
ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน Earthy Coffee
ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
กาแฟสด เปิด 07:00-18:00 น.
ครัวเปิด 10:00-20:00 น.
เบอร์โทร 082 4959798 และ 061 9428996

ร้านอยู่ ซอยสุขุมวิท1 ข้างอนามัยบ้านใหม่
พิกัด : https://goo.gl/maps/2yzv7sAVmDEjcEmaA

#คาเฟ่กำแพงเพชร
#ร้านอาหารกำแพงเพชร
#kamphaengphet
#คาเฟ่กลิ่นไอดิน
#toptotravel

ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ ร้านขนมเปี๊ยะของฝากในรูปแบบสถาปัตยกรรมโมเดิร์นไชนีส

ทีเส็บ เดินหน้าโชว์ศักยภาพภาคตะวันออก จัดกิจกรรมแฟมทริป สัมผัสเส้นทางในพื้นที่อีอีซีกิจกรรมแฟมทริปในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด FAM TRIP
One More Step of a Prosperous EEC ก้าวไปอีกขั้น…มุ่งสู่ความสำเร็จ

โดยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการไมซ์ และ สื่อมวลชนกว่า 30 ราย ร่วมเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านความหลากหลายของ
อัตลักษณ์เชิงพื้นที่และสัมผัสกับประสบการณ์ตรงที่มีคุณค่าทั้งในด้านความพร้อมเชิงโครงสร้างของภาคตะวันออก ความพร้อมของการจัดงานไมซ์ รวมถึงการสัมผัสกับสินค้าและการใช้บริการไมซ์ในพื้นที่ดังกล่าว อาทิ การเยี่ยมชม ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ ร้านขนมเปี๊ยะของฝากในรูปแบบสถาปัตยกรรมโมเดิร์นไชนีส ซึ่งออกแบบโดยอาจารย์ชาตรี ลดาลลิตสกุล ศิลปินแห่งชาติ พร้อมการเรียนรู้และเข้าใจวิธีการทำขนมเปี๊ยะ และเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเราตัดสินใจที่จะทำ คือ คุณชาตรีบอกว่าไม่ได้อยากทำร้านขนมเปี๊ยะ แต่เขาอยากทำกล่องเก็บความภาคภูมิใจให้ครอบครัวคนทำขนมเปี๊ยะ

ขนมเปี๊ยะคลาสสิคไส้ฟักถั่วไข่ตั้งเซ่งจั้ว มีต้นกำเนิดมากจากประเทศจีนในชุมชนคนแต้จิ๋วเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว เป็นขนมเปี๊ยะรสชาติดั้งเดิม ที่ตั้งอยู่ กม.13 ทางหลวงสายฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทราในช่วงแรกคุณปิยะพรคิดว่า เมื่อร้านสร้างเสร็จแล้วคงจะสวยและมีชื่อเสียงในระดับจังหวัด “แต่คุณชาตรีบอกว่าไม่ใช่หรอก มันจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาทำให้เราเห็นถึงพลังของการออกแบบที่ขับเคลื่อนพวกเราให้ไปไกลได้มากกว่าที่คิด

ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ อลังการริม ถ.บางปะกง-ฉะเชิงเทรา
ขนมเปี๊ยะคลาสสิคไส้ฟักถั่วไข่ตั้งเซ่งจั้ว มีต้นกำเนิดมากจากประเทศจีนในชุมชนคนแต้จิ๋วเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว เป็นขนมเปี๊ยะรสชาติดั้งเดิม สัมผัสกับสินค้าและการใช้บริการไมซ์ในพื้นที่ดังกล่าว อาทิ การเยี่ยมชม “ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ” โดยคุณปิยะพร ตันคงคารัตน์


สิ่งที่ทำให้ครอบครัว ตัดสินใจที่จะทำ คือ คุณชาตรีบอกว่าไม่ได้อยากทำร้านขนมเปี๊ยะให้เรา แต่เขาอยากทำกล่องเก็บความภาคภูมิใจให้ครอบครัวคนทำขนมเปี๊ยะ” ในช่วงแรก คุณปิยะพร คิดว่า เมื่อร้านสร้างเสร็จแล้วคงจะสวยและมีชื่อเสียงในระดับจังหวัด “แต่คุณชาตรีบอกว่าไม่ใช่หรอก มันจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาทำให้เราเห็นถึงพลังของการออกแบบที่ขับเคลื่อนพวกเราให้ไปไกลได้มากกว่าที่คิด

ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ
เวลาเปิด – ปิด
จ. – พฤ เวลา 08.00-17.30 น.
ศ. – อา เวลา 08.00-19.00​ น.

พิกัด ตำบลแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา
https://maps.app.goo.gl/PNEPB62AhJ1Fvzg39?g_st=ic

สั่งซื้อสินค้าออนไลน์
Shopee: https://shopee.co.th/tsj1932
Line : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=tsj1932
https://www.facebook.com/tsjsaenphudat
ig : https://instagram.com/tsjsanphudat
tiktok : https://www.tiktok.com/@tsj1932sanphudat

#toptotravel #MICE #minieecfair2024
#TCEB #CENTRALEASTERNMICE #ECCMICEFAMTRIP2024
#EEC #eccmicefamtrip2024

Mini EEC Fair 2024 เปิดงานยิ่งใหญ่

ดึงทุนสู่ EEC พร้อมผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการค้าการลงทุนระดับโลก

พัทยา 8 ตุลาคม 2567 – สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หรือ สกพอ. จัดงาน Mini EEC Fair 2024 ระหว่างวันที่ 8-9 กันยายน ชูแนวคิด “EEC Opportunities: Investment Solutions Towards Sustainable Locals”

ตั้งเป้าดึงเม็ดเงินลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์แห่งอนาคตเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ณ โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา จังหวัดชลบุรี มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 2,500 คนจากทั้งในและต่างประเทศ

ดร. จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวในพิธีเปิดงานว่า “Mini EEC Fair 2024 เป็นเวทีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของพื้นที่ EEC ในการรองรับการลงทุน ทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายสนับสนุน และการให้สิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ที่จูงใจ มั่นใจว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนครั้งใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างก้าวกระโดด

พื้นที่ EEC ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักลงทุน ปัจจุบันการดึงการลงทุนจึงต้องวางแผนและรับเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย เพราะการลงทุนถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยฟื้นและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ซึ่งพื้นที่ EEC มีความพร้อมทั้งเรื่องของสิทธิประโยชน์ในรูปแบบใหม่ ข้อกฎหมาย โครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิติกส์ สาธารณูปโภค และสภาพแวดล้อม ที่จะสามารถดึงเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในประเทศได้”

ด้านนายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการทีเส็บ กล่าวว่า “งาน Mini EEC Fair 2024 เป็นการใช้การจัดงานหรือไมซ์ ช่วยขับเคลื่อนศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุน การจัดประชุมและนิทรรศการในภูมิภาค พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลไกไมซ์ในการเชื่อมโยงนักลงทุนและผู้ประกอบการ มั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญของการใช้อุตสาหกรรมไมซ์ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ ๆ ในพื้นที่ EEC ทั้งใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายเดิมและ 5 อุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรมสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญของประเทศ การผลักดันอุตสาหกรรมเหล่านี้จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน”

กิจกรรมสำคัญของงานวันนี้เริ่มต้นด้วยปาฐกถาพิเศษโดย ดร. จุฬา สุขมานพ ในหัวข้อ “EEC Opportunities: Investment Solutions Towards Sustainable Locals” นำเสนอวิสัยทัศน์และทิศทางการพัฒนาของ EEC ในอนาคต ที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในระยะยาวและความยั่งยืนของชุมชนท้องถิ่น ต่อด้วยการเสวนาเรื่อง “บทบาทภาคการเงินในการสนับสนุนการลงทุนใน EEC” โดยผู้แทนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้นำเสนอมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับโอกาสทางการเงินสำหรับนักลงทุนในพื้นที่ EEC ในช่วงบ่าย มีการนำเสนอหัวข้อ “5 Clusters Business Opportunities: Status/Eco System/New Trend” ครอบคลุมโอกาสทางธุรกิจใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล BCG การแพทย์ และอุตสาหกรรมบริการ โดยผู้อำนวยการจากสำนักต่าง ๆ ของ สกพอ. การนำเสนอนี้ได้เผยให้เห็นถึงสถานะปัจจุบัน ระบบนิเวศ และแนวโน้มใหม่ของแต่ละอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาเกี่ยวกับปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ EEC ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ เช่น EECi, การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, และการใช้งาน 5G ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับระบบ EEC OSS: การบริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

การสัมมนาภายใต้หัวข้อ “Trends for Enhancing Country’s Competitiveness” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย การบรรยายเรื่อง “Increase High Business Potential for Future Competitiveness” จาก TMA Center for Competitiveness และการเสวนาหัวข้อ “Support for Start-up in EEC” โดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการเงินชั้นนำ บริษัท Fintech ที่ประสบความสำเร็จ และกองทุนที่ลงทุนในนวัตกรรม การสัมมนานี้นำเสนอแนวทางการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและการสนับสนุน Start-up ในพื้นที่ EEC ครอบคลุมประเด็นสำคัญทั้งด้านการเงิน เทคโนโลยี และการลงทุน เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มพูนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือกิจกรรม “Thailand EEC Wellness MICE Destination” ซึ่งมีการจัดสัมมนาพิเศษในหัวข้อ “Shaping the Future of Wellness Investment in EEC” โดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในวงการ การสัมมนานี้นำเสนอวิสัยทัศน์และโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพและสุขภาวะ พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ EEC ในการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการจัดงานไมซ์ระดับโลก

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอแนวคิด “EEC Medical & Wellness Hub for the Future” ซึ่งมุ่งสร้างศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพในพื้นที่ EEC ให้ก้าวสู่ระดับโลก โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข การส่งเสริมนวัตกรรมทางการแพทย์ และการยกระดับคุณภาพการบริการด้านสุขภาพ เพื่อรองรับทั้งผู้ป่วยในประเทศและนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์จากทั่วโลก พร้อมมีการนำเสนอผลงานนวัตกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากสถาบันการศึกษาชั้นนำในภาคตะวันออก และการเสวนาเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการเติบโตของ EEC

งาน Mini EEC Fair 2024 จะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานในวันสุดท้าย สามารถลงทะเบียนได้ที่หน้างาน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) โทร. 02-694-6000 และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โทร. 02-033-8000

นิทรรศการ งานรำลึกศาสตรเมธี การแสดงความกตัญญูกตเวที ผ่านรูปแบบ Art Exhibition “ชูเพชร”

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00-17.00 น. ที่ผ่านมา มีการจัดงานนิทรรศการ รำลึกศาสตรเมธี การแสดงความกตัญญูกตเวที ผ่านรูปแบบ Art Exhibition “ชูเพชร” แสดงผลงานและประวัติ ครูปัญญา เพ็ชรชู ได้สำเร็จสมบูรณ์ สานฝันครูปัญญา เพ็ชรชู ที่วันหนึ่งอยากมีพื้นที่กว้างๆ จิบกาแฟ และชมภาพศิลปะไปด้วยกัน โดยมี คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เป็นประธานเปิดงาน At Whispering Garden Café Sampran Nakhonprathom สามพราน นครปฐม
งานรำลึกศาสตรเมธี การแสดงความกตัญญูกตเวที เริ่มขึ้นในช่วงเช้าเวลา 10.00-11.00 เป็นการสนทนากัลยาณมิตร กับพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ ที่เมตตาให้ข้อธรรม และ ทำไมต้องมีครู ในความหมายของการสร้างคน เพื่อสร้างสังคม ที่เป็นที่อยู่ของผู้ทำประโยชน์ ภาคบ่าย เริ่ม เวลา 13.30-15.00 เขียนทราย ประวัติผลงาน ครูปัญญา เพ็ชรชู โดย อาจารย์ก้องเกียรติ กองจันดี ศิลปินเล่าประวัติ ครูปัญญา เพ็ชรชู ผ่านการเขียนทราย ผู้เล่าเรื่องจากเม็ดทรายได้อย่างประณีตและมหัศจรรย์ สลับกับการเล่าเรื่องครูผ่านลูกศิษย์ลูกหามากมาย ที่มาพร้อมกัน เพื่อเล่าเรื่องครูในความทรงจำ ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงเพราะครู
ตัวอย่างเช่น ศิลปินเขียนภาพเหมือน ลาภ อำไพรัตน์ ถึงขนาดกล่าวว่า ถ้าไม่ครูปัญญา จะไม่มีวันมี ลาภ อำไพรัตน์ ณ วันนี้ ปัจจุบัน ครูผู้เป็นผู้ให้โอกาสและสร้างศิลปินอย่างแทัจริง ปัจจุบัน ลาภ อำไพรัตน์ ตำแหน่งนายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน สังกัดกลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร

ต่อมามีการแสดงดนตรีชุด “ชูเพชร” ครูปัญญา เพ็ชรชู โดย วงจีวันแบนด์ ศิลปินดินป่า จีวัน เล่าถึงครูปัญญา ผ่านบทเพลง ที่รังสรรค์ แด่ครูปัญญา เพ็ชรชู 4เพลงคือ ครูผู้เสียสละ ปฐมบท ครูปัญญาเพ็ชรชู ภูมิใจในความเป็นครู ครูผู้เปลี่ยนแปลงชีวิตศิษย์ เป็นการสรุปเรื่องราว ความคิด ชีวิตของครู ได้อย่างชัดเจนสั้นกระชับ และเต็มไปด้วยความหมายผ่านตัวโน๊ต ท่วงทำนอง และเนื้อหาของเพลง ที่แต่งโดย ดินป่า จีวัน ศิลปินจิตรกร นักแต่งเพลงบทเพลงธรรม และในช่วง เวลา 16.00 อาจารย์วัชระ ประยูรคำ ผู้ปั้นรูปครูปัญญา เพ็ชรชู กล่าวถึงความเป็นมา “เพาะช่างเน้นหนัก ความเป็นครู ผู้สร้าง ศิษย์ ให้เป็นช่าง ผู้สร้างชาติ ครูปัญญา เพ็ชรชู คือประจักษ์พยานที่แท้จริง ของการเป็นครูที่แท้ “ครูของครู” ครูผู้สร้างคนให้รับใช้สังคม และช่วยเหลือผู้อื่น”

คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เล่าให้ฟังถึงคุณแม่ที่เป็นครู และความหมายของครูผู้สร้างคน ซึ่งมีค่ากว่าการสร้างวัตถุ งานจบลงด้วยดีและสมบูรณ์แบบ ของความเข้าใจจิตวิญญาณของครู ดั่งตัวอย่างครูต้นแบบ ที่ควรเป็นแบบอย่างของครูในทศวรรษนี้ และในอนาคต การสร้างมนุษย์ ให้เป็นผู้รักษาโลก รักษาความดี ความงาม ความเสียสละ ที่จำเป็นอย่างยิ่งในยามนี้ ยามที่สังคม กำลังขาดแคลน

ศิลปะสอนมากกว่าที่มองเห็นความงาม
ศิลปะคือความงามแห่งการดำเนินชีวิต”
-ปัญญา เพ็ชรชู ครูเพาะช่าง

“วันนี้ได้แรงบันดาลใจ ในการเป็นครูมากๆครับ ขอบคุณครับ ”
จากคำพูดของครูคนหนึ่งหลังจากชมงาน งานนิทรรศการ ชูเพชร ครูปัญญา เพ็ชรชู จะดำเนินการแสดง ตั้งแต่วันที่ 5-27 ตุลาคม 2567 โดนผู้สนใจสามารถติดต่อที่ whispering garden cafe ขอเข้าชมผลงาน และประวัติครู ได้ตลอดทั้งเดือน ในทุกอาทิตย์ ของวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 0626289549 หรือที่ Whispering garden cafe สวนสา