All posts by Shanya

จุ๊บ – นัยนา ยังเกิด เปิดฟาร์มเห็ดพร้อมแบ่งปันความรู้ให้ผู้ที่มาเยือนได้ลองทำอะไรสนุกๆ


วันนี้ toptotravel มีโอกาสมาเยี่ยมชม กระท่อมเห็ดฟาร์ม แอนด์ คาเฟ่ @ ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี และทานอาหารเมนูพิิเศษจากเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ บรรยากาศร้านดูร่มรื่น ขนาดของร้านไม่ได้ใหญ่มากนัก ด้านหน้าทางเข้าเจอกระท่อมที่ใช้ในการปลูกเห็ดเรียงรายอยู่รอให้เพื่อนๆ และเด็กๆ เข้ามาเก็บเห็ด พร้อมโซนกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับครอบครัว และโซนคาเฟ่ สำหรับสายชิล เป็นกิจกรรมที่ให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน

มัชรูม คอตเทจ ฟาร์มเห็ด ที่นี่เกิดขึ้นจากความคิดของ คุณนัยนา ยังเกิด กรรมการผู้จัดการ ที่นี่มีจุดเริ่มต้นมาจากเดิมตัวเองเป็นพนักงานสถาบันการเงินและได้ใช้เวลาว่างการการทำงานมาทำเกษตรเพาะเห็ด Mushroom Cottage Farm จากฟาร์มเห็ดเล็ก ๆ ในจังหวัดนนทบุรี  เริ่มจากเป็นธุรกิจเล็ก ๆ เมื่อก่อนนี้ ก็เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนทั่ว ๆ ไป แต่คิดว่างานประจำไม่มีอะไรแน่นอนเลยมองหาอาชีพเสริมไว้รองรับเพื่อความมั่นคง ความที่เราชอบทานเห็ดเลยอยากทำในสิ่งที่เราชอบ ก็เริ่มไปหาความรู้ ไปเข้าศึกษาหลักสูตรสั้น ๆ ใน ม.เกษตร ฯ  หลังจบปี 2555 ตัดสินใจลงทุนทำฟาร์มเห็ดกับเพื่อนคุณปรียนันท์ แสงดี เริ่มจากเช่าพื้นที่แถวบางบัวทอง 300 ตรว. ก่อนจะมาซื้อที่ดินที่นี่ 2 ไร่ ซึ่งเลยเซ็นทรัลเวสต์เกท เพียงสิบกว่ากิโลเท่านั้น”

คุณจุ๊บ – นัยนา ยังเกิด ต่อยอดสู่ธุรกิจจากเห็ดแบบครบวงจร ศูนย์การเรียนรู้ นำเห็ดนานาสายพันธุ์ มารังสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูเห็ดสุดครีเอทีฟที่ไม่เคยลองมาก่อน รวมไปถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร รวมไปถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมาย

กระท่อมเห็ด ฟาร์ม นอกจากจะเป็นศูนย์เรียนรู้การเพาะเห็ดและสร้างอาชีพแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระดับดีมากจ.นนทบุรี ( ปี 2565-2568 ) และล่าสุด Mushroom Cottage Farm ได้เข้าร่วมการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ( Agro Genius DIPromt 2566 ) จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยการนำ “เห็ดนางนวลสีชมพู” หาสารสกัดที่มีความโดดเด่นแตกต่างกว่าสินค้าเกษตรอื่นๆสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เซรั่มบำรุงผิวหน้าจากเห็ดนางนวลสีชมพู ที่พัฒนาร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้รับรางวัล ‘The Best Success Case’ จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 

นัยนา ยังเกิด ก่อตั้ง Mushroom Cottage Farm ในปี พ.ศ. 2555 จากความชอบรับประทานเห็ดเป็นการส่วนตัว เริ่มต้นจากการทำกระท่อมเห็ดจิ๋ว ควบคู่กับการแบ่งปันความรู้การเพาะเห็ดเบื้องต้น และเปิดหลักสูตรอบรมสำหรับผู้ประกอบการฟาร์มเห็ดรุ่นใหม่ พร้อมทั้งขยายพื้นที่ เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องการเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ เข้ามาทำกิจกรรมและเรียนรู้เรื่องราวของเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากเพาะเห็ด ก็เปิดหลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการเพาะเห็ดสมัยใหม่ให้มีประสบการณ์ มีโรงเรือนแบบ SMART MUSHROOM COTTAGE มีเครื่องควบคุมอุณหภูมิ การรักษาความชื้น ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เพื่อผลผลิตที่สม่ำเสมอและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ เป็นโรงเรือนแบบปิด
ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ ที่นี่เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องของการเกษตรเชิงท่องเที่ยว อยากให้เด็ก ๆ ได้เข้ามาเรียนรู้เห็ดสายพันธ์ต่างๆ และยังสามารถเก็บเห็ดใส่ในตะกร้า แล้วกลับบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพเกษตรปลอดภัยด้วยสินค้าและการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์จากกระท่อมเห็ด ฟาร์ม แอนด์ คาเฟ่ มีบริการหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่ฟาร์มหลัก อ.ไทรน้อย , ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ ที่ สยามพารากอน (โซนกรูเม่ มาร์เก็ต) อีกทั้งเตรียมรุกตลาดต่างประเทศ ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่าง ๆ ก้อนเห็ดคุณภาพสูงพร้อมให้ผลผลิตเร็วและสม่ำเสมอสูตรเฉพาะของฟาร์ม อัตราการออกดอกดี คุ้มค่าในการลงทุนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น ให้คำแนะนำและสอนดูแลโรงเรือนแวะมาเยี่ยมชมและเรียนรู้เทคนิคการดูแลเห็ดที่ง่าย โตไว ออกดอกสวยได้ที่ฟาร์ม เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่จำหน่ายก้อนเห็ด แต่ยังสอนการดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้มือใหม่เพาะเห็ดได้อย่างมั่นใจ

Mushroom Cottage Farm and Cafe 
มัชรูม คอตเทจ ฟาร์ม และ คาเฟ่
ตั้งอยู่ที่ไทรน้อย นนทบุรี เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์)
ติดต่อที่ 097 3246155
หรือแอดไลน์: @mushroomcottage

ฉลองครบรอบ 2 ปี “โรงแรมลิลิต บางลำพู”

สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมมือกับ “กลุ่มลูกเหรียง” รังสรรค์เชฟเทเบิลสุด Authentic

เรียกว่าเป็นโรงแรมที่มีความ Authentic และความนำสมัย ให้บริการครบรอบมา 2 ปีแล้ว สำหรับ โรงแรม “LILIT BANG LUMPHU” (ลิลิต บางลำพู) ในการยืนหยัดให้ประสบการณ์แบบ The Best of Both World ผสมผสานย่านเมืองเก่าและความทันสมัยของยุคใหม่ พร้อมกับให้ทุกคนสามารถมาค้นพบเรื่องราว Find Your Story in Every Stay ที่ลิลิต ทั้งประสบการณ์เข้าพักระดับ Luxury ทุกการเข้าพัก โดยล่าสุดได้ ครีเอต “ลิลิต บางลำพู x ครัวลูกเหรียง” ร่วมมือกันในการรังสรรค์ เชฟเทเบิล สุดพิเศษโดยนำเอาวัตถุดิบจากทางภาคใต้และวัตถุดิบจากย่านบางลำพูมาผสมผสานร่วมกัน เริ่มตั้งแต่ 27 มิถุนายน – 26 กรกฎาคม 2568 เอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 4 รอบเท่านั้น โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับกลุ่มลูกเหรียง

คุณวรินดา ดำรงผล หรือ ดีเจ.ดาด้า ผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมลิลิต บางลำพู กล่าวว่า ลิลิต บางลำพู แห่งนี้เกิดขึ้นจากใจของทุกคนในตระกูลดำรงผล พวกเราเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่เป็นเจ้าของพื้นที่แห่งนี้ จึงมานั่งตกผลึกกันว่าอยากพัฒนาอาคารเหล่านี้ที่มีอายุกว่า 60 ปี ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสบรรยากาศในย่านโอลด์ทาวน์ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสบาย Facility ครบครัน ด้วยตัวคอนเซ็ปต์โรงแรมเองเราอยากเล่าย้อนไปถึงย่านเมืองเก่า ที่แถบนี้จะมีต้นลำพู มีหิ่งห้อย ฉะนั้นในโลโก้ของเราจะมีแฝงความสว่างของหิ่งห้อยอยู่ในนั้นด้วย ส่วนชื่อ ลิลิต ที่หมายถึงหนังสือที่แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทโคลงและร่าย ก็เป็นการเล่าย้อนไปยังอดีตของย่านนี้ด้วยเช่นกัน อยากให้ทุกคนที่มาพักได้สัมผัสประสบการณ์ของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้อย่างครบครัน สำหรับลิลิต บางลำพู เรามีการจัดเชฟเทเบิลเป็นประจำในทุกๆ ปี แต่ในปีนี้ความพิเศษในโอกาสครบรอบ 2 ปี จึงคุยกันกับทางกลุ่มลูกเหรียง เพราะมีเรื่องราวที่น่าสนใจ มีการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับโรงแรม ที่มีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารที่ครัวลูกเหรียงได้รังสรรค์ขึ้นนั้น มีความแปลกใหม่เสมอ เราจึงร่วมมือกันในพัฒนาเมนู และใช้วัตถุดิบทางภาคใต้และวัตถุดิบจากย่านบางลำพูมาผสมผสานออกมาเป็นเมนูสุดพิเศษในครั้งนี้

ด้าน คุณวรรณกนก เปาะอีแตดาโอะ หรือ คุณชมพู่ นายกสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หรือกลุ่มลูกเหรียง กล่าวว่าสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หรือกลุ่มลูกเหรียง เติบโตจากการรวมตัวของเด็กเยาวชนที่สูญเสียบุคคลในครอบครัวจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จชต. รวมตัวกันเพื่อเยียวยาและดูแลกัน จากจุดเริ่มต้น คุณแม่ชมพู่ ผู้ก่อตั้งบ้านลูกเหรียง สูญเสียครอบครัว 4 คนจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ท่ามกลางการสูญเสียและความรับผิดชอบที่ต้องดูแลเด็กๆหลายคน จนก่อตั้งเป็นบ้านลูกเหรียงในวันนี้ โดยในส่วนของครัวลูกเหรียง เอง เราตั้งใจทำอาหารเพื่อให้อาหารมื้อนี้ทำมาเพื่อคุณเป็นพิเศษ จากวัตถุดิบ ผัก ผลไม้ อาหารที่มีอยู่ในท้องถิ่น เป็นเมนูดั้งเดิมในพื้นที่ชายแดนใต้รังสรรขึ้นมาให้แบบฟิวชั่น ครัวเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ดำเนินการโดยคนที่ทำงานเพื่อสังคม มีเชฟชุมชนที่ทำอาหารอร่อย พัฒนาเมนูต่างๆจากวัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าทางอาหาร นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้วยังอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือผู้คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไปด้วย

สำหรับเมนูพิเศษของ “ลิลิต บางลำพู X ครัวลูกเหรียง” ในการสร้างสรรค์ขึ้นมานั้น มีหลากหลายได้แก่ ตูปะซูตง อาหารกึ่งคาวกึ่งหวานของชาวไทยมุสลิม มีลักษณะเป็นปลาหมึกยัดไส้ข้าวเหนียว นิยมรับประทานในแถบจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส, เมี่ยงปูมะม่วงเบา ที่ให้รสชาติแบบออริจินัล แต่เซอร์ไพรส์รสชาติที่คุณคาดไม่ถึง, ข้าวยำข้าวตัง, ไก่สะเตะซอสถั่วโรตีบากา, ตาลโตนดโซดา, ชาชัก ฯลฯ

นอกจากนั้น ภายในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้น นอกเหนือจากทีมผู้บริหารที่มาร่วมภายในงานแล้ว ยังมีเหล่าคนดัง ที่มาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 2 ปี อาทิ เอ – ศุภชัย, ป้าตือ – สมบัษร ถิระสาโรช, ดีเจ.ต้นหอม – ศกุนตลา, ดีเจ.บุ๊คโกะ – ธนัชพันธ์, ดีเจ.มะตูม – เตชินท์, ดีเจ.อ๋อง – เขมรัชต์, นานา ไรบีนา, ดีเจ.บอย – ฌาฆฤณ คุณชลรัศมี งาทวีสุข ฯลฯ ในครั้งนี้อีกด้วย

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์เชฟเทเบิลสุดเอ็กซ์คลูซีฟรสฝีมือจาก ลิลิต บางลำพู และครัวลูกเหรียง ที่รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปช่วยพัฒนาให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและสร้างสันติสุข
โดยจัดทั้งหมด 4 รอบ ได้แก่ 27 – 28 มิถุนายน 2568 และ 25 – 26 กรกฎาคม 2568 รอบละ 30 ที่นั่งเท่านั้น (Early Booking ภายใน 31 พฤษภาคม 2568 พิเศษเพียง 2,900 บาท จากราคาปกติ 3,200 บาท)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองที่นั่งได้แล้ววันนี้ทาง
โทร. 061 879 3436 หรือ 02 026 6949

ม.ราชภัฏเพชรบุรีร่วมกับ บพข. จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

เมื่อวันที่ 25-26 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยอาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี อาจารย์ ดร.มลทิชาโอซาวะ และ อาจารย์ ดร.อัจฉราวรรณ เพ็ญวันศุกร์ จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดเพชรบุรี “วัฒนธรรมละมุน ธรรมชาติละไม เที่ยวสุขใจที่พริบพรี” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่อง การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ภายใต้แผนงานวิจัยการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยครั้งนี้ได้นำภาคีที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และคณะนักท่องเที่ยว เยือนชุมชนบางตะบูน ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ จำนวนกว่า 50 ราย โดยมี ผอ. ดวงใจ คุ้มสอาด ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี ร่วมเดินทาง

อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ผู้รับผิดชอบกิจกรรมในครั้งนี้ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการทดสอบกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อประเมินเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้ออกแบบขึ้นมา ศึกษาความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและภาคีที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การพัฒนาและส่งเสริมเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เหมาะสมของจังหวัดเพชรบุรี

หลักการของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีทั้งหมด 7 อ. ได้แก่ อ.1 คือ อาหาร รับประทานอาหารของท้องถิ่นที่ผ่านการปรุงและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น มีคุณค่าทางโภชนาการ ปลอดสารและปลอดภัย เช่น อาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเค็ม ความหวาน เป็นต้น

อ.2 อากาศ อยู่ในพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่อากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ มีความเป็นธรรมชาติ สร้างความสดชื่นเพื่อช่วยให้ปอดได้พักและรับออกซิเจน พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไม่แออัดและไม่มีมลพิษสูง เช่น ฝุ่น PM 2.5, ควัน, และสารเคมีโลหะหนัก เป็นต้น

อ.3 ออกกำลังกาย การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเพื่อบริหารร่างกายให้เกิดการเคลื่อนไหว ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดี เพิ่มการกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำบัดความเครียด ลดอาการเจ็บปวดบางอย่าง และช่วยให้ระบบประสาททำงานดีขึ้น

อ.4 อารมณ์ มีอารมณ์รื่นเริง ยินดี มีความสุข ผ่อนคลาย สนุกสนาน มีจิตแจ่มใส และเพลิดเพลิน จากการทำกิจกรรมหรือการได้รับประสบการณ์ในการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน

อ.5 อดิเรก ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เพิ่มพูนคุณค่า มีคุณค่าทั้งร่างกายและจิตใจ สร้างความสุข และสนุกสนาน

อ.6 อนามัย แหล่งท่องเที่ยว สินค้า และบริการที่มีความสะอาดและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย

อ.7 อนุรักษ์ ใส่ใจและตระหนักการสร้างพฤติกรรมที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลาสติก การจัดการขยะ การรักษาธรรมชาติ การสนับสนุนวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการกระตุ้นจิตสำนึกในการดูแลโลกและตัวเอง”

อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี กล่าวต่อว่า ทางคณะผู้จัดการทดสอบได้กำหนดลงพื้นที่ชุมชนเพื่อทำกิจกรรมไว้ 3 ชุมชน คือบางตะบูน อำเภอบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งด้านศักยภาพในการจัดการท่องเที่ยวและมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ในทั้ง 7 อ. ดังที่กล่าวมาแล้ว

อย่างชุมชนบางตะบูน จัดให้มีการล่องเรือเพื่อชื่นชมและเพลิดเพลินไปกับวิถีชุมชนชาวประมง นอกจากทางนักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือสัมผัสกับบรรยากาศของผืนน้ำและชุมชนสองฝั่งแม่น้ำ ยังมีการจัดให้ชมการเลี้ยง หอยนางรม หอยแครง หอยแมลงภู่ บริเวณปากอ่าวบางตะบูน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเลี้ยงหอยอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งบริเวณท่าน้ำวัดปากอ่าวบางตะบูนมีเรือสำหรับนำนักท่องเที่ยวโดยไต๋เรือชาวชุมชนคอยให้การต้อนรับ

ผู้จัดกิจกรรมกล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ก่อนที่จะล่องเรือ ทางคณะผู้จัดฯ ได้นำสู่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลตำบลบางตะบูน เพื่อทำเวิร์คช็อป การทำผ้ามัดย้อม การนำวัสดุเหลือใช้เช่นแห อวนมาถักทอเป็นกระเป๋าใส่ของใช้ การทำขนมโบราณ การใช้ปลิงบำบัดนำเสนอการรักษาสุขภาพโดยปลิง

ร้านยุ้งเกลือ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ที่บ้านแหลม ที่ที่ไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารที่มีวิวสวยแต่อาหารอร่อย แต่ถือเป็นร้านที่มีตำนานของชุมชนนาเกลือที่ทำนาเกลือมากว่าแปดสิบปี และบอกเล่าเรื่องราวผ่านพิพิธภัณฑ์ของทางร้านโดยคนรุ่นที่สี่

การเยือนชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง เริ่มต้นกิจกรรมจากที่พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย ด้วยการเวิร์คช็อปเรียนรู้การตอกกระดาษ ก่อนจะพาคณะเดินชมชุมชนเก่าริมน้ำ เดินชมสตรีทอาร์ทและวิถีชุมชน นมัสการหลวงพ่อวัดมหาธาตุ ก่อนจะกลับมาทานอาหารในแบบขันโตกโดยนำเสนออาหารเชิงสุขภาพ พร้อมกับรับชมหนังใหญ่และการฝึกเชิดหนังใหญ่ การแสดงละครชาตรีละครพื้นบ้านที่ส่งต่อทางวัฒนธรรมจากเด็กๆ และชาวชุมชน โดยพี่น้อย – คุณรมยกรณ์ เอราวัณ

ในวันถัดมา เป็นการทำกิจกรรมที่ชุมชนถ้ำเสือที่ขึ้นชื่อด้านชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ จัดให้ร่วมกิจกรรมสาธิตทำทองม้วนเงินล้าน ทองม้วนน้ำตาลโตนด โดย คุณยายวรรณา อินมี ผู้คิดสูตร เรียนรู้กิจกรรมเสือปั้นไข่ สอนการทำไข่เค็มหมักดอกอัญชัญ การร่วมอนุรักษ์ป่าด้วยการนำเมล็ดพันธ์พืชไม้ยืนต้นไปปั้นดินยิงหนังสติ๊กเพื่อปลูกป่าโดย พี่น้อย – คุณสุเทพ พิมพ์ศิริ เป็นกิจกรรมสุดท้าย”

ทั้งนี้ หลังจากการทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางคณะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้จะนำข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นต่างๆ จากผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อนำไปปรับปรุงและนำเสนอแก่หน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อไป

JEJU Comeback นักท่องเที่ยวไทยบินตรงแบบเช่าเหมาลำสู่เกาะเชจู

ประสบความสำเร็จล้นหลาม ! JEJU Comeback นักท่องเที่ยวไทยบินตรงแบบเช่าเหมาลำสู่เกาะเชจู คึกคัก “ทรู เวิลด์ ทราเวล” เผยเตรียมเปิดบริการอีกครั้งวันฉัตรมงคลนี้

สายการบินโลว์คอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ Jeju Air บริษัท เจจูแอร์ จำกัดสายการบินราคาประหยัดแห่งแรกและที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ที่มีฐานการบินหลักที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู และมีสำนักงานใหญ่ในนครเชจูประกาศความร่วมมือกับบริษัททัวร์อันดับต้นๆ ของไทย ทรู เวิลด์ ทราเวล ทำสัญญาเช่าเหมาลำนำคนไทยเที่ยวเกาะเจจูแบบบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเจจู กลับมาอีกครั้งรอบสองปี เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา

นาย ยุนโฮ ชอย ผู้จัดการประจำภูมิภาคเชจูแอร์ สำนักงานในประเทศไทย (Mr. Yoonho Choi Regional Manager Jeju Air) เผยว่า “สายการบิน เชจูแอร์ สายการบินโลวคอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ มีความยินดีที่จะประกาศการกลับมาให้บริการเส้นทาง กรุงเทพ–เชจู อีกครั้งในรอบ 2 ปี ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเชจู ซึ่งเป็นเกาะที่สวยที่สุดของเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องแวะพักหรือเปลี่ยนเครื่องให้ยุ่งยากอีกต่อไป

เส้นทางสู่เกาะเชจูได้เปิดให้บริการขึ้นอีกครั้ง ภายใต้สัญญาเช่าเหมาลำร่วมกับบริษัททัวร์ทรูเวิลด์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลียอดนิยมของ Netflix เรื่อง “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน ” ขอเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมความงดงามของเชจูด้วยกันนะครับ

นางสาวพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True World Travel กล่าวว่า “เกาะเชจูมีจุดเด่นตรงที่เป็นเกาะมรดกโลก ที่ใครหลายๆ คนอยากไปเที่ยว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่เป็นเมืองธรรมชาติ มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทุ่งดอกไม้สวยงาม เช่นทุ่งโบกอม โดยเฉพาะเป็นเมืองที่อากาศดี อากาศที่บริสุทธิ์ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงการที่มี ซีรี่ส์เกาหลีหลายๆ เรื่องไปถ่ายทำกันที่นั่น เราก็ไม่หลุดเทรนด์ ก็จัดให้คนไทยได้ไปเที่ยวเกาะเชจูด้วยกัน

เกาะนี้ไม่ใช่เส้นทางใหม่ของบริษัทฯ สายการบินไม่ได้เปิดบินตรงมาสองปี รอบนี้กลับมา เรียกว่า Come back ให้กลับไปเที่ยวเกาะเชจูกันได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องแวะเมืองอื่น ทำให้คนไทยที่คิดถึงเกาะเชจูอยู่ได้ไปเที่ยวเกาะนี้ได้สมใจแบบสะดวกสบายเกาะเชจูรอบนี้ เปิดไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทแรก คือช่วงสงกรานต์ และไฟล์ทที่สองเป็นวันฉัตรมงคล ในวันที่ 2-5 พฤษภาคม 2568

ส่วนนักท่องเที่ยวต้องการท่องเที่ยว สามารถเที่ยวจองตรงกันได้บินตรงเหมือนกันและ หลังจากนั้นเดือนมิถุนายน สายการบินเปิดกันแบบระยะยาวไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า บินทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ไฟล์ท ให้คนไทยได้ไปเที่ยวกันอย่างเต็มที่

นอกจากเกาะเจจูแล้ว ทางทรู เวิลด์ ทราเวล ยังมีบริการเส้นทางหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นปูซาน กรุงโซล และเส้นทางใหม่ที่หลายคนบอกว่า ปังมากคือการไปเที่ยวเกาหลีคู่กับญี่ปุ่น ตอนนี้เปิดสองเส้นทาง เกาหลีใต้คู่กับเมืองมัตสึยามะและเกาหลีใต้คู่ฮอกไกโด


ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับผู้ที่สนใจ อยากไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้กับทรู เวิลด์ ทราเวล ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไร สามารถเดินทางได้ในแบบสบายกระเป๋า ได้เที่ยวจริง ไม่มีจกตา True World Travel รับจัดทัวร์ที่ประเทศเกาหลี ทัวร์ที่แรกที่ไปเกาะเซจูแบบบินตรงไปลงที่เซจู โปรแกรมท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ของประเทศเกาหลี

สามารถจองผ่าน Facebook Fanpage : trueworldtravel และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ในราคาเท่ากับที่ทรู เวิลด์ ทราเวล

“Sheep” เคสสัญชาติไทย เปิดตัว 75 Years of Peanuts™ Collection

Sheep x True รุกเดินหน้าขยายฐานลูกค้า เปิดตัว 75 Years of Peanuts™ Collection คอลเล็กชันสุดพิเศษที่ทรูช็อปเท่านั้น

Sheep ผนึก True ขยายช่องทางการจำหน่ายใน True Shop ครอบคลุมลูกค้าที่หลากหลาย หลังจากเปิดตัวคอลเล็กชันครั้งใหญ่แห่งปี Peanuts™ x Sheep: Snoopy & The Peanuts™ gang เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ย้ำภาพเคสแบรนด์ไทยคุณภาพสากล นำเสนอคาแรกเตอร์น่ารักสดใสในดวงใจของคนทั่วโลก โดยแบรนด์ Sheep ยังมอบความพิเศษให้กับลูกค้า True Shop โดยการปล่อย 75 Years of Peanuts™ Collection (Limited Edition) สะท้อนความหรูหราเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเอ็กซ์คลูซีฟที่ True Shop เท่านั้น พร้อมเดินหน้าครีเอทสินค้าใหม่

“Sheep” เคสสัญชาติไทย ผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของสินค้าและคำนึงถึงภาพลักษณ์การใช้งานของผู้ใช้ ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าไทยจากร้าน AppleSheep แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และไอที ล่าสุดได้ประกาศความร่วมมือกับ True ในการวางจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Sheep ใน True Shop

นายอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์ Founder&CEO บริษัท ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ Sheep เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า “แบรนด์ Sheep ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและคุณภาพสินค้าที่เหมาะสมกับราคา เรามั่นใจในคุณภาพของแบรนด์ เพื่อตอกย้ำและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนไทย เราจึงอยากให้ลูกค้าคนไทย ได้สัมผัสสินค้า ได้เข้าถึงสินค้าของเราง่ายขึ้น รวมถึงต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ เนื่องจากทรูถือเป็นเครือข่ายอันดับ 1 ที่มีช่องทางให้บริการที่แข็งแกร่ง แต่ละวันมีผู้เข้าใช้บริการใน True Shop เป็นจำนวนมาก เราเชื่อว่าการที่ Sheep มาอยู่ใน True Shop จะช่วยส่งเสริมความตั้งใจของแบรนด์ที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานระหว่างแบรนด์และผู้ใช้สินค้า รวมถึงเป็นการขยายฐานลูกค้าของเราอีกด้วยครับ

ปัจจุบันสินค้าประเภทเคส อุปกรณ์เสริม และสินค้าไอทีหลากหลายรายการภายใต้แบรนด์ Sheep วางจำหน่ายใน True Shop รวม 48 สาขา ครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศไทย และอนาคตมีเป้าหมายขยายสาขาใน True Shop รวมทั้งการนำเสนอสินค้าที่เหมาะกับผู้ใช้บริการของ True Shop และการคัดสรรสินค้าที่เหมาะสมเข้าสู่ช่องทาง Hyper Market ใน True Shop เช่น พาวเวอร์แบงก์ หูฟัง และ อื่นๆ ซึ่งไม่มีขายในช่องทางหลักของเรา Sheep ยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์สินค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ Peanuts™ x Sheep: Snoopy & The Peanuts™ gang ถ่ายทอดความน่ารักสดใสอันเป็นเอกลักษณ์จากการ์ตูน Peanuts กับคาแรกเตอร์ Snoopy ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนในดวงใจที่ครองใจคนทุกวัยทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ประกอบด้วยเคสมือถือ (ไอโฟน 11 – 16 และซัมซุง S23 Ultra – S25 Ultra) พร้อมขบวนอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone, iPad และ MacBook อาทิ MagSafe Griptok , MagSafeWallet, และ Phone Charm รวมทั้งสินค้าอื่น ๆ อีกหลายรายการ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวคอลเล็กชันครั้งใหญ่สำหรับปีนี้

สำหรับ Collection Snoopy ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่น จากโทนสีที่เลือกมาอย่างพิถีพิถัน ตอบโจทย์ทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายเท่ หรือสายสดใส พร้อมคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เพิ่มลูกเล่นด้วยการประสานความเป็น Snoopy กับมาสคอตของแบรนด์ อย่างการนำหมวกของ Rambie มาใส่ในตัว Snoopy นอกจากจะได้พบความน่ารักสดใสของ Snoopy และเหล่าแก๊ง Peanuts ในสินค้าต่าง ๆ แล้ว Sheep ยังได้เตรียมตกแต่งดิสเพลย์ภายในร้านเพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมถ่ายภาพ เพิ่มบรรยากาศของความสุขเมื่อเข้ามาใช้บริการความร่วมมือระหว่าง Sheep และ True ยังนำเสนอผ่านการเฉลิมฉลอง ครบรอบ 75 ปีของ Peanuts™ โดยจะวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับ คอลเล็กชันพิเศษ 75 Years of Peanuts™ Collection ที่ True Shop 48 สาขาเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจ ส่งต่อความสนุกสดใสให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ประกอบด้วย Phone Charm, MagSafe Wallet และ MagSafe Griptok จุดเด่นของคอลเล็กชันพิเศษนี้คือสีทองที่เพิ่มความหรูหราพรีเมียมเป็นเอกลักษณ์ โดยจะมีการจัดแสดงคอลเล็กชันพร้อมทั้งดิสเพลย์ในร้าน True Shop อีกด้วย

นายอภินันท์ กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการสร้างสรรค์สินค้าลิขสิทธิ์ระดับสากลมาหลายคอลเล็กชัน รวมทั้งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Sheep เข้าใจความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอสินค้าที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความเป็นตัวตนให้กับผู้ใช้งาน ความร่วมมือกับ True Shop จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตต่อไป

ทางด้านคุณสุจิตรา อมิตรพ่าย หัวหน้าสายงานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ ทรู รีเทลช็อป บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ทรูมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกมิติ ไม่ใช่เพียงแค่บริการโทรคมนาคมที่แข็งแกร่ง แต่ยังรวมถึงการคัดสรรสินค้าไอทีและอุปกรณ์เสริมเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ ดีไซน์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างให้ True Shop เป็นมากกว่าร้านค้า แต่เป็น ‘One Stop Lifestyle Destination’ ที่ลูกค้าจะรู้สึกสนุก มีแรงบันดาลใจ และอยากแวะเข้ามาอยู่เสมอ

การร่วมมือกับแบรนด์ Sheep ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของทรูในการมองหาแบรนด์ไทยคุณภาพ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีจุดยืนชัดเจนด้านดีไซน์และความใส่ใจในรายละเอียดของสินค้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้า ทรูไม่เพียงเปิดพื้นที่ให้สินค้าไทยได้แสดงศักยภาพ แต่ยังสร้างโอกาสให้คนไทยได้ร่วมสนับสนุนแบรนด์ที่พร้อมเติบโตสู่เวทีสากลสินค้าของ Sheep ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่เข้ามาซื้อสมาร์ตโฟน จ่ายค่าบริการ หรือนั่งพักผ่อนที่ร้าน TrueCoffee เพราะเรามองว่าทุกจุดสัมผัสภายใน True Shop ควรมีคุณค่าและสร้างแรงบันดาลใจได้ ความหลากหลายของสินค้าไลฟ์สไตล์เช่นนี้ ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทุกการใช้บริการ และสะท้อนภาพลักษณ์ของทรูในฐานะผู้นำเทคโนโลยีที่ใส่ใจในรายละเอียดของชีวิตประจำวันของผู้คน

คอลเล็กชันพิเศษ ‘75th Years of Peanuts™ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัส เพราะนอกจากความน่ารักของตัวการ์ตูน Snoopy แล้ว ยังมีดีไซน์ที่สื่อถึงความพรีเมียม ความสุข และความทรงจำที่ดี เป็นสินค้าลิมิเต็ดที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ True Shop 48 สาขาทั่วประเทศ อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง ทั้งบรรยากาศการจัดดิสเพลย์ในร้าน และประสบการณ์สินค้าที่แบรนด์ Sheep ถ่ายทอดร่วมกับศิลปินแบรนด์ดังจากทั่วโลก เพราะทุกการเลือกสรรและบริการจากเราคือความตั้งใจที่อยากให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุข

พบกับความน่ารักสดใสในคอลเล็กชั Peanuts™ x Sheep: Snoopy & The Peanuts™ gang ได้ที่ AppleSheep ทุกสาขา และ True Shop 48 สาขา รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่ www.applesheepth.com, Line: @applesheep, Facebook: AppleSheep เคส ipadpro มีที่เก็บปากกา, Instagram: applesheepth, Tiktok: applesheepth

โสฬสคลินิก ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ค

Toptotravel อยู่ที่ สถานีสุขภาพดีที่พาราไดซ์ พาร์ค จุดหมายของคนรักสุขภาพ ศูนย์การค้าที่รวบรวมไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเองทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย คลินิกเสริมความงาม ร้านนวด คลินิกกายภาพบำบัด และคลินิกแพทย์ทางเลือกอย่าง โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ครักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

วันนี้ ทีมงาน Toptotravel อยู่สถานีสุขภาพที่พาราไดซ์ พาร์ค โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) คลินิกรักษาไมเกรนและโรคกล้ามเนื้อเรื้อรังมีโอกาสใช้บริการและคุณหมอโสฬส (กวินทัศน์ รัฐรวีธนาฤทธิ์ ) ผู้ก่อตั้งโสฬสคลินิก
ให้เกียรติต้อนรับและ กล่าวถึง คลินิกรักษาโรคไมเกรนและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หมอโสฬส จบการศึกษาโรงเรียนแพทย์อายุรเวทศิริราช รุ่น 19 (แพทย์อายุรเวท รุ่น 21 เริ่มก่อตั้ง หลักสูตรปริญญาตรี สาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล) นำองค์ความรู้การแพทย์แผนไทย ซึ่งถือว่าเป็นองค์ความรู้ของชาติ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา

วิธีการรักษา ทีมแพทย์โสฬสคลินิก จะใช้เพียงแค่นิ้วมือในการรักษาด้วยวิธี
“กดจุดลีกปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (Deep Acupressure and Muscle Restructuring)” ผสมผลานกับ “การบำบัด

Trigger Points คืออะไร ทำไม? จึงสำคัญต่อการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง”พร้อมสาธิตวิธีทดสอบความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกข้อต่อเบื้องต้น

จุดกดเจ็บ (Trigger Points Therapy) เป็นเทคนิคเฉพาะที่ได้ประยุกต์และพัฒนาจากประสบการณ์การรักษา ซึ่งเป็นอีกทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดย ไม่มีการบิด ดัด กระดูก ไม่มีการใช้ยา ไม่มีการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆซึ่งการรักษาส่วนใหญ่มักจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่อาจจะไม่หายปวด 100% เนื่องจากผู้ป่วยมักมี

อาการปวดมาระยะเวลานาน จนมีการสะสมความตึงตัว แข็งเกร็ง ของปม Tigger Points ดังนั้น ในช่วงแรกของการรักษาแพทย์จึงแนะนำให้ผู้ป่วยมารักษาต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกลับไปตึงตัว ในระดับเดิมอีกสำหรับระยะเวลาในการรักษาของแพทย์ จะไม่มีการจำกัดเวลา แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาการรักษาครั้งละประมาณ 30-50 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของปม Trigger Points ระยะเวลาของตัวโรค และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

โดย “หมอแต๊ก” สุธีรา ภูมิภักดี  การศึกษาปริญญาโท สาขาเภสัชวิทยา คณะบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาตรี สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ปัจจุบัน –  แพทย์แผนไทยประยุกต์ โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) คลินิกรักษาโรคไมเกรนและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

การรักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ออฟฟิสซินโดรม โดยไม่ใช้ยา คลินิกการแพทย์ทางเลือก ที่มีประสบการณ์ในการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังและไมเกรนโดยไม่ใช้ยา ด้วยวิธีการรักษาแบบการกดจุดและการปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อ (Deep Acupressure and Muscle Restructuring) ผสมผสานกับทฤษฎี การบำบัดจุดกดเจ็บ (Trigger Point Therapy) และการบำบัดปมกล้ามเนื้อ (Muscle Knot Therapy)

สุธีรา ภูมิภักดี ( หมอแต๊ก ) จบการศึกษาปริญญาโท สาขาเภสัชวิทยา คณะบัณฑิกล่าวถึงแนวทางการรักษา ไม่เกรนโดยไม่ใช้ยาการรักษาแบบแพทย์แผนไทยจะอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ  แต่ควรดำเนินการรักษากับแพทย์แผนไทยที่มีใบประกอบโรคศิลปะที่ถูกต้องตามกฎหมาย และหากกำลังดำเนินการรักษาอยู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็นโรคเดียวกันกับที่ต้องการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนไทย หรือโรคอื่น ๆ จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ทั้ง 2 ฝั่งให้ครบถ้วน

และนี่คือ โสฬสคลินิก บริการตรวจ วินิจฉัย รักษา โรคไมเกรนและกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น ปวดต้นคอ บ่า สะบัก ปวดหลัง ปวดสะโพก ปวดเข่า โดยทีมแพทย์อายุรเวทศิริราช ซึ่งมีประสบการณ์รักษามามามากกว่า 20 ปี

สามารถเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ประเมินอาการและวางแผนการรักษา ได้ฟรี ทุกวัน
เวลา 11.00 -20.00 น. โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC)

ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ค

สนใจปรึกษาแพทย์หรือนัดทำการรักษาได้ทุกวัน
0841546253 , 0612629725
ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
เปิดบริการทุกวัน 10.30 – 20.00 น.
รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลงสถานี สวนหลวง ร.9 ทางออก 2

ททท. ชวนสายลุยเปิดประสบการณ์ใหม่ Exciting South

ททท. ชวนสายลุยเปิดประสบการณ์ใหม่ Exciting South : ปักษ์ใต้ แอดเวนเจอร์ ท้าทายทุกขีดจำกัด กระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้พร้อมประกวดหนังสั้น ชิงรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปลุกอะดรีนาลีน ชวนนักเดินทางสายผจญภัยสัมผัสประสบการณ์สุดมันส์ในดินแดนปักษ์ใต้ กับโครงการ “Exciting South : ปักษ์ใต้ แอดเวนเจอร์” พร้อมกิจกรรมประกวดหนังสั้น “Exciting South Short Film Challenge” ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท

ภาคใต้ : สวรรค์ของนักผจญภัย
ภาคใต้ไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวย หาดทรายขาว แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ของกิจกรรมผจญภัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งทะเล ป่าเขา น้ำตก และวัฒนธรรมที่โดดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปี 2566 พบว่ามีการเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้สูงถึง 70% และเพิ่มขึ้นอีก 25.73% ในปี 2567 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยววัย 18-35 ปี ที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ รักกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และพร้อมแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย 7 หมวดกิจกรรมสุดมันส์ : ท้าทายทุกขีดจำกัด

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า “ททท. มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและน่าจดจำ ภายใต้แคมเปญ ‘สุขทันที ที่เที่ยวไทย’ โครงการ “Exciting South : ปักษ์ใต้ แอดเวนเจอร์” จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อชวนนักท่องเที่ยวสายลุยไปพิชิตจุดหมายใหม่ ๆ และสนุกกับ 7 หมวดกิจกรรมกระตุ้นอะดรีนาลีน ได้แก่

• Trekking & Hiking: เดินป่า ปีนเขา สัมผัสธรรมชาติอันงดงาม

• Water Adventure: กีฬาทางน้ำ ดำน้ำ สำรวจโลกใต้ทะเล

• Rock Climbing & Rappelling: ปีนหน้าผา โรยตัว ท้าทายความกล้า

• Off-road & ATV: ขับรถลุย สนุกกับเส้นทางสุดโหด

• Zipline & Paragliding: โหนสลิง บินร่ม สัมผัสความตื่นเต้นเหนือจินตนาการ

• Caving & Spelunking: สำรวจถ้ำ ลอดถ้ำ ผจญภัยในโลกใต้ดิน

• Eco Adventure: ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

การท่องเที่ยวแนวผจญภัยไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้น แต่ยังส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ททท. จึงมุ่งมั่นประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อกระตุ้นการจองและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจท่องเที่ยวในภาคใต้”

“Exciting South Short Film Challenge : โชว์ไอเดียสุดสร้างสรรค์”
ททท. ชวนนักเดินทางสายผจญภัย ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการท่องเที่ยวสุดมันส์ในภาคใต้ ผ่านกิจกรรมประกวดหนังสั้น ภายใต้แนวคิด “ตะลุยให้โลกจำ” ความยาว 3-10 นาที ชิงรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท เปิดรับผลงานทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีม เปิดรับผลงาน วันนี้ – 16 พฤษภาคม 2568 และประกาศผล 1 มิถุนายน 2568

อ่านกติกาและเงื่อนไขร่วมกิจกรรม รายละเอียดรางวัล และช่องทางส่งผลงานทาง🔗 https://linktr.ee/exciting.south

4 เส้นทางแอดเวนเจอร์ : รอให้คุณไปพิชิต เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดท้าทายในดินแดนปักษ์ใต้ 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
• Facebook Page: Exciting South – ปักษ์ใต้แอดเวนเจอร์
• LINE Official Account : @exciting.south

#ท้าทายทุกเส้นทางAdventureทุกMoment
#ExcitingSouth #ปักษ์ใต้แอดเวนเจอร์

บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส ซื้อ 1 ฟรี 1 ซอง เพียง 39 บาท

หน้าร้อนนี้ผิวดี พร้อมข้อเข่าแข็งแรง ซื้อได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่น

ซัมเมอร์ เมษานี้ บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มเพื่อสาวๆ “บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ขนาดซองบรรจุ 7,200 มิลลิกรัม เข้มข้นด้วยสารสกัดที่จะช่วยดูแลผิวและข้อเข่า ซื้อ 1 ซอง ฟรีอีก 1 ซอง พิเศษเพียง
39 บาท จากปกติราคา 78 บาท และสมาชิก All Member รับ 1 เหรียญ สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 23 เมษายน 2568 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ใกล้บ้าน เป็นคอลลาเจน เกรดพรีเมี่ยม อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีและรับประกันคุณภาพจากบีไชน์ อยากให้ทุกคนได้ลองทาน ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย 

“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ขั้นสุดของคอลลาเจนที่ดี ดูแลได้มากกว่าผิว ผสาน 5 คุณประโยชน์เน้นๆ ได้แก่ ไดเปปไทด์คอลลาเจนจากปลา 7000 มิลลิกรัม นวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด ดูดซึมได้ดีที่สุด โดยคอลลาเจนไดเปปไทด์สกัด เฉพาะ 2 คู่ ที่เรียกว่า PO และ OG ทำให้
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับไดเปปไทด์ทั่วไป ผสาน สารสกัดจากซีบัคธอร์น, สารสกัดจากว่านหางจระเข้, วิตามินซี และวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวให้สวยเนียนใส ตึงกระชับ ลดริ้วรอย พร้อมเสริมข้อเข่าให้แข็งแรง สุขภาพดี เพิ่มมวลกระดูกให้มากขึ้น ลดอาการปวดเข่าจากข้อเข่าอักเสบ รับประทานวันละ 1 ซอง ก่อนอาหารเช้า อย่างน้อย 30 นาที วิธีชง : ชงละลายน้ำดื่ม 200 มล. สามารถผสมกับเครื่องดื่มและอาหารได้หลากหลายตามที่ต้องการ เช่น น้ำเปล่า ชา กาแฟ นม น้ำผลไม้ หรือเติมปรุงในอาหารต่างๆ เช่น ซุป โยเกิร์ต น้ำสลัด โดยไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลง

“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” คอลลาเจนแท้จากปลา นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น   เกรดพรีเมี่ยม ละลายง่าย ไม่คาว ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่มีไขมัน ไม่เติมน้ำตาล ปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ทานได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จนถึงคนที่มีอายุ 40+ ขึ้นไป เติมสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ บำรุงทั้งผิว และช่วยปัญหาข้อเข่าเสื่อม บรรเทาอาการปวดและกลับมาแข็งแรงเดินได้อย่างมั่นคง 

สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและดูข้อมูลเพิ่มเติมของ
“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ได้ที่ www.bshine.co.th, FB : https://www.facebook.com/BnpHealth และ Line : @Bshine

บางกอกแอร์เวย์ส กางแผนปี 68 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน

บางกอกแอร์เวย์ส กางแผนปี 68 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคนยอดจองล่วงหน้าเส้นทางสมุยโต 14% ยกระดับแบรนด์มัดใจนักเดินทางทั่วโลก ตอกย้ำการเป็นสายการบินชั้นนำในภูมิภาค

กรุงเทพฯ, 28 มีนาคม 2568 – บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นำโดย นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แถลงทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจบริษัทฯ ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี และ นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด โดยปี 2568 ตั้งเป้ายอดผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน พร้อมแผนรองรับอุปสงค์การเดินทางที่เพิ่มขึ้นในมิติที่สำคัญ ตลอดจนแคมเปญการตลาด ความร่วมมือกับหลากพันธมิตรชั้นนำ เพื่อพัฒนาแบรนด์ สร้างรายได้ และการเดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืน

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมการบินโลกว่ามีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ระบุว่า หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอุปสงค์การเดินทางทางอากาศเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลก และแนวโน้มนี้ก็สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯ คาดการณ์จำนวนเที่ยวบิน 48,077 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 82% ขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยประมาณ 4,200 บาทต่อที่นั่ง ทั้งนี้ แนวโน้มการเดินทางในปีนี้ เส้นทางสมุย ยังคงเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในช่วงเดือนมีนาคม – กันยายน 2568 เพิ่มขึ้น 14% โดยบริษัทฯ วางแผนกลับมาให้บริการเส้นทาง สมุย-กัวลาลัมเปอร์ วันละ 1 เที่ยวบิน ในไตรมาส 4 เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารจากยุโรปที่เดินทางผ่านทางสนามบินกัวลาลัมเปอร์
ปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการเที่ยวบินสู่ 19 จุดหมายปลายทาง ประกอบด้วยภายในประเทศ 11 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) เกาะสมุย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ตราด ลำปาง แม่ฮ่องสอน สุโขทัย หาดใหญ่ อู่ตะเภา และจุดหมายปลายทางต่างประเทศ 8 แห่ง ได้แก่ มัลดีฟส์ สิงคโปร์ เสียมเรียบ พนมเปญ หลวงพระบาง ฮ่องกง เฉิงตู ฉงชิ่ง

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสายการบิน ปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partners) รวมทั้งสิ้นจำนวน 30 สายการบิน และมีสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) กว่า 70 สายการบินทั่วโลกด้านบริหารจัดการฝูงบินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้นรวม 25 ลำ และมีแผนจะปรับฝูงบิน (Re-fleet) เครื่องบินรุ่น ATR72-600 รวมทั้งสิ้น 12 ลำ โดยมีกำหนดทยอยส่งมอบระหว่างปี 2569 ถึงปี 2571 นายพุฒิพงศ์ กล่าว

ในส่วนการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสนามบิน บริษัทฯ มีแผนปรับปรุงอาคารผู้โดยสารของสนามบินสมุย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนสนามบินตราดมีแผนขยายรันเวย์ เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินแบบไอพ่นได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ

สำหรับแผนการลงทุนโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภานั้น ล่าสุด บริษัทฯ และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อยกระดับความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำศักยภาพสายการบินชั้นนำระดับภูมิภาค บริษัทฯ เตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับนานาชาติ “AAPA Assembly of President 2025” ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 14 -15 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้นำระดับสูงของสายการบินสมาชิกกว่า 250 ท่าน จาก 18 สายการบิน รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรกำกับดูแลระดับโลกอย่าง ICAO และ IATA หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบิน ผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำ และพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก เข้าร่วมงาน ซึ่งการประชุมนี้นับเป็นเวทียุทธศาสตร์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค

นายพุฒิพงศ์ ยังกล่าวถึงนโยบายด้านความยั่งยืนของบริษัท ฯ ในปี 2568 ที่ยังคงยึดหลักแนวคิด ESG ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบใน 3 ด้าน ด้านสิ่งแวดล้อม ได้สานต่อโครงการ Low Carbon Skies by Bangkok Airways มุ่งเน้นลดการปล่อยคาร์บอน สอดรับพันธกิจภาคการบินโลกสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon Emission 2050 การบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ล่าสุด เข้าร่วมโครงการมุ่งสู่ Net Zero ด้วยวิธี Science Based Target เพื่อสร้าง Roadmap ที่ชัดเจน ด้านสังคม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้ การดูแลสิทธิมนุษยชน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ขณะที่ ด้านธรรมาภิบาล ยังคงเน้นความโปร่งใส การปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct) ความพึงพอใจของลูกค้า และการนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการยกระดับคะแนนประเมินความยั่งยืน FTSE Russell ESG Scores ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณานำมาใช้ โดยมีกำหนดเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2569


นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ภาพรวมผลการดำเนินการด้านการเงินของปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 26,041 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวม 20,638 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 3,798 ล้านบาท ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 เป็นจำนวน 5,454 ล้านบาท อัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) อยู่ที่ 28% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทในปี 2567 ที่ 2.53 เท่า

นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ด้านแผนการขายในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายและรายได้ คาดการณ์ส่วนแบ่งช่องทางการขายบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์เป็นสัดส่วน 28% และช่องทางอื่น 72% (BSP Agent, Online Travel Agent, Call Center, Etc.) โดยเป็นการขายผ่านช่องทางเชื่อมต่อตรงผ่านระบบ 32% ตลาดภายในประเทศ 18% และตลาดต่างประเทศ 50% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยยังมีความต้องการสูงและยังคงแข็งแกร่ง โดยวางแผนการขายเชิงรุกสำหรับตลาดต่างประเทศกลุ่มใหม่ อาทิ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประเทศในแถบละตินอเมริกา และตุรกี โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงาน GSA รวมทั้งสิ้น 26 แห่งทั่วโลก

สำหรับกลยุทธ์การขายมี 4 แนวทาง ได้แก่ การมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะการต่อยอดการขาย จากกระแสซีรีส์ “White Lotus Season 3” โดยจับกลุ่มลูกค้าที่ตามรอยซีรีส์ เน้นกลุ่มประเทศ อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ออสเตรเลีย นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นตลาดที่เติบโตสูง เช่น คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย ตลาดที่มีฟรีวีซ่า เช่น อินเดีย และจีน ขยายการเชื่อมต่อตรงผ่านระบบกลุ่ม API/NDC/Direct Connect ให้มากขึ้นเพราะเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับสายการบินในยุคดิจิทัล ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เนื่องจากแนวโน้มปัจจุบันลูกค้านิยมซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา (Metasearch) และตัวแทนจำหน่ายตั๋วออนไลน์ (OTA) ช่วยให้สายการบินกระจายการขายตั๋วไปยังตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขายผ่านแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร ซึ่งเป็นการขายร่วม (Codeshare) บนบัตรโดยสารของสายการบินพันธมิตรผ่านช่องทางบนระบบแบบเชื่อมต่อตรง ช่วยขยายช่องทางการขาย และเพิ่มฐานลูกค้าแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร เริ่มจากสายการบินแควนตัสบนระบบ QDP และพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อขยายความร่วมมือต่อไป เช่น สายการบิน Thai Airways, British Airways, Lufthansa Group, Emirates, Etihad, Eva Air เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เตรียมปรับโฉมระบบสำรองที่นั่งออนไลน์ใหม่ เป็น RefX (Reference Experience) หรือ Digital Commerce พัฒนาโดยบริษัทอะมาดิอุส เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าถึงข้อมูลเที่ยวบิน ราคา และบริการเสริมได้ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้น
ไฮไลท์กลยุทธ์สื่อสารการตลาดปี 2568 เปิดตัวภายใต้ธีม “Awesome Experience” มุ่งสร้างการเดินทางสู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่มีความหมายกับผู้โดยสารทุกกลุ่ม โดยเน้นการบริการที่พิเศษ สะดวกสบาย และให้ความสำคัญกับความยั่งยืน พร้อมส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิด “ดีต่อใจ” โดยแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ “ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์” เริ่มเผยแพร่บนทุกช่องทางแล้ววันนี้

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของปีนี้ ได้เตรียมจัด Pop-up Boutique Experience ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สมุย ตราด สุโขทัย และเชียงใหม่ โดยนำเสนอประสบการณ์อาหารที่หลากหลาย ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือประเพณีอันแท้จริงของชุมชนเอาไว้ อาทิ ในเดือนเมษายน สนามบินสุวรรณภูมิ จะให้บริการไอศกรีมที่รังสรรค์รสชาติจากจินตนาการ (Jin – Ta Icecream)

และพลาดไม่ได้ กับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา Bangkok Airways Boutique Series 2025 รายการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พบกับ 3 เส้นทางวิ่งใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (สมุย) ตราด สุโขทัย เสื้อวิ่งออกแบบโดยศิลปินอิสระ ‘Underhatdaddy’ ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแต่ละจุดหมายปลายทาง และร่วมวิ่งไปกับ 3 ศิลปินชื่อดัง ‘ตู่ ภพธร’ 22 มิถุนายน ที่เกาะสมุย ‘โตโน่ ภาคิน’ 17 สิงหาคม ที่จ.ตราด และ ‘เทศน์ ไมรอน’ 28 กันยายน ที่จ.สุโขทัย

อีกหนึ่งกลยุทธ์แบรนด์เพื่อเข้าถึงใจลูกค้า และตอกย้ำภาพลักษณ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่สามารถครองใจผู้โดยสารทั่วโลก กับแชมป์ 8 ปีซ้อน Skytrax Award สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก และสายการบินระดับภูมิภาคดีที่สุดในเอเชีย ล่าสุดจับมือกับ PUMA สปอร์ตแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Be The First Move For Better Together” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับการให้บริการ

Mr.Nandor von der Luehe เจ้าของและผู้บริหาร The Barrel House

นันดอร์ ฟอน เดอร์ ลือเหอ เจ้าของและผู้บริหาร The Barrel House พัทยาให้เกียรติต้อนรับ Toptotravel สู่บ้านพันส่วนตัวโครงการบ้านหรู 100 ล้านบาท ย่านพัทยา บนทำเลทองของเขาพระตำหนัก ใกล้ชายหาด และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ บ้านพักเห็นวิวทะเล วิวเมือง และวิวภูเขาแบบพาโนรามา เป็นบ้านพักที่ได้สัมผัสความเป็นส่วนตัว และคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเส้นทางอาชีพของ Mr.Ferdinand (Nandor) von der Luehe  ตั้งแต่จุดเริ่มที่มีโอกาสทำงานในเมืองไทย จนประสบความสำเร็จในเมืองไทย Mr.Ferdinand (Nandor) von der Luehe ทำธุรกิจเมืองไทยมา 30 กว่าปี อดีต รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและประธานคณะทำงานป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชั่น หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน ผู้บริหารของ The Barrel House พัทยา

เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา เฟอร์ดินานด์ (นันดอร์) ฟอน เดอร์ ลือเหอ  ประธานบริหารThe Barrel House พัทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญและเป็นตลาดยุทธศาสตร์ในเอเซียอย่างมาก การทำร้านอาหารเหมือนการเล่าเรื่อง เรื่องเล่าของร้าน เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา ที่เต็มไปด้วยความสุข และยังเป็นสถานที่คนทั่วโลกนิยมมาท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยเป็นทำเลหรือประตูสู่เอเซียทั้งหมด และที่พัทยาเป็นหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวและการบริการที่เฟื่องฟูที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งยังมีศักยภาพในการพัฒนาที่แข็งแกร่งสำหรับการทำธุรกิจอีกด้วย

“นันดอร์ ฟอน เดอร์ ลือเหอ เล่าต่อว่า การบริหารงานโดยวางตำแหน่งของพัทยาเป็นธุรกิจในการรุกตลาดลูกค้าไทย และลูกค้านักท่องเที่ยวต่างประเทศ การขยายตัวจากนี้ไปของ เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา ตามแผนการลงทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจของตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

 ปัจจุบันเดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา เสริฟเครื่องดื่มเยอรมันรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านเพลิดเพลินและผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ เต็มอิ่มไปกับความสนุกสนานที่ร้านแฮงเอาต์ดี ๆ พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและเบียร์สูตรพิเศษ รวมถึงอาหารสไตล์ European & Thai


การออกแบบร้าน ถูกตกแต่งโดดเด่นสะดุดตาด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อทำให้มีกลิ่นอาย แฝงบรรยากาศสบาย ๆ โดยมีโซนที่นั่งหลากหลายให้สามารถเลือกแฮงเอาต์โซนด้านหน้ากึ่ง Outdoor  รับลมชมวิวอันแสนสบาย หรือโซนด้านในที่พร้อมให้มาดื่มด่ำกับเสียงดนตรีสดจาก Live Music  เติมเต็มโมเมนต์แห่งการแฮงเอาต์สำหรับเมนูอาหารของทางร้านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีทั้งแบบ Local และนำเข้ามาในไทย สู่การรังสรรค์อย่างพิถีพิถันและใส่ใจโดยเชฟมากประสบการณ์ https://thebarrelhouse.co.th/menu-images/

การทำธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตอธิบายถึงแนวคิดการลงทุน จากประสบการณ์ทำงานร่วมกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ปรับปรับวิธีการพัฒนาตนเอง ซึ่ง สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อที่เราจะได้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จและเป็นผู้เชี่ยวชาญ 

The Barrel House Pattaya
333/38-40 Nong Prue Bang Lamung – Pattaya Cityinfo@thebarrelhouse.co.th097 932 9659