Category Archives: Event

สารส้ม นวตกรรม ภูมิปัญญาไทยยกระดับเทียบเท่านานาชาติ

เพราะแนวคิดกล้าคิด กล้าทำ กล้าเล่น ของคนขี้แพ้ รติรส จุลชาติ สาววิศวกรเคมี จึงนำธุรกิจเดิมของครอบครัวที่รู้จักดี คือ สารส้ม มาต่อยอดทางธุรกิจ สร้างแบรนด์รติ ที่เป็นผลิตภัณธ์ในกลุ่มดูแลรักษาสุขภาพที่รักษาภูมิปัญญาไทยและสิ่งแวดล้อมสร้างแบรนด์ RATI (ระ-ติ) ที่แปลว่าความรัก สร้างผลิตภัณฑ์จากความรัก ด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุดจากธรรมชาติ ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองต่อร่างกายของเราและทุกคนที่เรา “รัก”

รติรส จุลชาติ Founder & Chief Executive Officer เล่าถึงที่มาของการนำสารส้มมาผสมผสานนวตกรรมใหม่ ใช้เวลาทดลองนานกว่า 3 ปี เพื่อปรับปรุงให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกะบผู้ใช้และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ”ครอบครัว ทำโรงงานเคมีและแร่ธาตุ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีและแร่ธาตุต่างๆ และสารส้มก็เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่คุ้นเคยมาตลอด ตัวเองเป็นคนที่ชื่นชอบใช้สารส้มเองจริงๆแต่เขินทุกครั้งที่เวลานำสารส้มเป็นก้อนพกติดตัวเวลาเดินทางกับเพื่อนไปยังที่ต่างๆ ประกอบกับสังเกตเห็นว่า ผลิตภัณฑ์จากสารส้มระงับกลิ่นกายในท้องตลาดส่วนใหญ่นั้น จะเป็นเกรดที่ใช้บำบัดน้ำ ไม่ใช่เกรดที่สัมผัสอาหารได้ (Food Grade) ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า จึงได้คิดค้นและพัฒนาสเปรย์ระงับกลิ่นกายจากสารส้มขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์อย่างแรก จากการทดลองใช้เองและคำแนะนำจากผู้ใช้จริง จึงเกิดความคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยที่สุด โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัยต่อร่างกายเป็นหลัก เพราะรติ (
) เชื่อว่า อะไรที่เราทานได้ก็ย่อมต้องปลอดภัยต่อผิวหนังและร่างกายของเรา
ดังนั้น วัตถุดิบที่เราได้เลือกนำมาใช้นั้นจึงเป็นเกรดที่ดีที่สุด สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้ (Food Grade) ทำให้ปลอดภัย ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และระงับกลิ่นได้ดีที่สุด โดยไม่มีส่วนผสมอื่นที่ก่อให้อันตรายต่อร่างกายของคุณ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือ น้ำมันสังเคราะห์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองภายใต้วงแขนและเกิดรอยดำที่ไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดคราบเหลืองบริเวณเสื้อผ้า รวมถึงไม่มีกลิ่นที่จะรบกวนน้ำหอมราคาแพงที่ฉีดลงบนตัวอีกด้วย

ทั้งนี้จากแนวคิดทั้งหมดของรติ จึงได้พัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ rati Natural Deodorant Spray สเปรย์ระงับกลิ่นกายสูตรธรรมชาติ และ rati Happy Feet
สเปรย์ระงับกลิ่นกายบริเวณเท้าและรองเท้า ที่ได้คัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของผู้บริโภค

RATI Natural Deodorant Spray สเปรย์ระงับกลิ่นกายสูตรธรรมชาติ จากสารส้มเกรดที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรีย พร้อมความรู้สึก สดชื่น จากว่านหางจระเข้ และสารสกัดใบเปปเปอร์มิ้นออร์แกนิค ที่ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคือง พร้อมถนอมความชุ่มชื้น ให้ผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดี ด้วยความสดชื่นจากน้ำแร่ธรรมชาติของผืนป่าเชียงใหม่ โดยปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้และการระคายเคือง “ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น” จึงไม่ทิ้งคราบเหลืองบนเสื้อผ้าและไม่มีกลิ่นรบกวนน้ำหอมที่คุณใช้

RATI Happy Feet สเปรย์ระงับกลิ่นกายบริเวณเท้าและรองเท้า สูตรธรรมชาติ จากสารส้มเกรดที่ปลอดภัยที่สุด ประกอบด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นจากส่วนผสมของสารสกัดน้ำมันจากใบเปปเปอร์มิ้น และสารสกัดจากชาดำ ที่มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ยับยั้งแบคที่เรียที่เป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นบริเวณเท้า โดยปราศจากส่วนผสม ของแอลกอฮอล์และสารเคมี สังเคราะห์ทำให้ไม่ทำให้เกิด คราบสกปรกและความเสียหายแก่หนังและรองเท้าที่มีความบอบบางสูงของคุณ นอกจากสารส้มจะช่วยยับยั้งแบคทีเรียแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยในเรื่องป้องกันการส้นเท้าแตกได้อีกด้วย

RATI เชื่อว่าภูมิปัญญาสารส้มในเรื่องการระงับกลิ่นกายที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมนั้นมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยตามแบบธรรมชาติที่ดีมากอยู่แล้ว RATI จึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่นำวิถีภูมิปัญญาบรรพบุรุษไทย มาเล่าใหม่ในยุคโมเดิร์น และมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายจากธรรมชาติ “เพราะร่างกายที่ธรรมชาติให้มา ให้ธรรมชาติดูแล”

พบกับสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รักโลก รักสุขภาพ ในงาน STYLE Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ธีม “CHIC NATURE” ตั้งแต่วันนี้ – 24 มีนาคม 2564 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบกับสุนทรียภาพและการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนผสมผสานกันอย่างลงตัวในผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญ ของแต่งงานบ้าน แฟชั่น ไปจนถึงหัตถกรรมท้องถิ่นที่ประณีตและมีเอกลักษณ์โดดเด่น

#toptotravel

STYLE Bangkok 2024

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีเปิด “งานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2024 ” ในวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00น. โดยมีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำทีมให้การต้อนรับ ณ ฮอลล์ 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

STYLE Bangkok 2024 มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2567 แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ วันพุธที่ 20 – ศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีกวันเสาร์ที่ 23-อาทิตย์ ที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผู้ที่สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com Facebook/Instagram/TikTok : Style Bangkok Fair
หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

STYLE Bangkok 2024 ภายใต้ธีม ChicNature

เตรียมพบกับความงามที่มีสไตล์และความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมในงาน STYLE Bangkok 2024 ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 24 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชื่นชมกับแก่นแท้ของงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของไทย ที่จะบรรจบกับความทันสมัยในผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟท์ฝีมือระดับโลก ผู้ประกอบการมากกว่า 500 รายจากทั่วประเทศ และทั่วโลก นำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงของขวัญ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไปจนถึงเครื่องครัว และอื่นๆ อีกมากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการในงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของเอเชีย STYLE Bangkok 2024

  • เผยโฉมแฟชั่นแห่งอนาคต ที่ STYLE Bangkok 2024
  • STYLE Bangkok 2024 เป็นยิ่งกว่างานแสดงสินค้า
  • สืบสานมรกดวัฒนธรรมกับความร่วมสมัยที่ STYLE Bangkok 2024
  • สำรวจอนาคตของแฟชั่นและความยั่งยืนที่ STYLE Bangkok
  • จากมวยไทยสู่แฟชั่น ที่ STYLE Bangkok
  • ยกระดับผ้าทอไทยสู่ตลาดโลกที่ STYLE Bangkok 2024
  • ขุมทรัพย์แฟชั่นสุดสร้างสรรค์ที่ STYLE Bangkok 2024
  • หัตถศิลป์ไทยที่ก้าวข้ามกาลเวลา ในงาน STYLE Bangkok
  • ฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่นกับองค์ความรู้สมัยใหม่ ใน STYLE Bangkok 2024
  • STYLE Bangkok 2024 ส่งเสริมแฟชั่นไทยบนรากฐานความยั่งยืน

สำหรับผู้ชื่นชอบมวยไทย STYLE Bangkok 2024 นำเสนอผลิตภัณฑ์จากนักมวยไทยชื่อดังระดับโลกอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ภายใต้แบรนด์ “บัวขาว แกลลอรี่” ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของกีฬาอันเป็นเอกลักษณ์ไทย มาอวดโฉมชาวไทยและชาวโลกเมื่อ ซอฟต์พาวเวอร์ของกีฬาและแฟชั่นมาบรรจบกันได้อย่างน่าทึ่ง

ไฮไลท์ยังไม่ได้จบเพียงเท่านั้น ยังมีมรดกสิ่งทอไทยอันน่าชื่นชมที่บูธ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” โครงการตามแนวพระดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ฟื้นคืนความรู้จากภูมิปัญญาพื้นถิ่นมาบูรณาการร่วมกับองค์ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เกิดเป็นผลงานการถักทอผืนผ้าและงานหัตถศิลป์ไทยที่มีความร่วมสมัยเป็นสากล ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ เป็นที่ยอมรับของตลาดภายในและต่างประเทศ

STYLE Bangkok 2024 จึงไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่เป็นการเชิดชูเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นในมิติต่างๆ จากผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมไปจนถึงผู้ประกอบการหน้าใหม่ จากความคิดริเริ่มระดับรากหญ้าไปจนถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บทพิสูจน์ถึงความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ของหัตถศิลป์ไทย ที่มีรากฐานจากภูมิปัญญาที่สืบทอดมานานต่อยอดกับแนวคิดสมัยใหม่และความยั่งยืนที่กำหนดทิศทางอนาคตของแฟชั่นไทย ที่ STYLE Bangkok 2024

STYLE Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ธีม “ChicNature’’ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 24 มีนาคม 2567

ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ www.stylebangkokfair.com

แอนิเมชัน “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ติดเทรนด์ บน แอปพลิเคชัน ทรูไอดี

แอนิเมชัน “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ติดเทรนด์ บน แอปพลิเคชัน ทรูไอดี
ด้วยเรื่องราวและคติสอนใจเหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่
หลังจากการเปิดตัว แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ทางสตรีมมิ่ง TrueID เป็นที่แรกตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นั้น แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในรายการประเภทเดียวกัน มียอดวิวเข้าชมในขณะนี้สูงถึงกว่า หนึ่งแสนหกหมื่นวิวแล้ว เรียกว่าเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทั้งเด็ก เยาวชน และครอบครัวยุคใหม่ ได้สมเจตนารมณ์ที่ทีมผู้ผลิตคาดหวัง


แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” สร้างจากแรงบันดาลใจ และหลักธรรมคําสอนของ “พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี” เป็นแนวคิดหลักของเรื่อง ผ่านตัวละครสามเณร “สติมา” เพื่อหวังปลูกฝัง Global Mindset ที่ว่า “We Are One โลกทั้งผอง เป็นพี่น้องกัน” ที่จะทำให้ประชาคมโลกอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น และเป็นสุข โดยเล่าเรื่องราวผ่านความสนุกสนานของวิถีชีวิตเยาวชนในชนบท ภายใต้หลักธรรมที่แทรกคำคมธรรมะจาก พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี)
ดร.ชวัลวัฒน์ อริยะวรารมย์ CEO : T&B Media Global, เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และ Executive Producer ของโปรเจคนี้ ได้เปิดเผยว่า “ รู้สึกดีใจที่มีคนให้ความสนใจให้แอนิเมชัน สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ และดีใจที่ยอดวิวในการรับชมที่พุ่งขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนั่นหมายความว่า เนื้อหาของแอนิเมชันชุดนี้ ได้เข้าถึงตรงใจคนรักแอนิเมชัน และครอบครัวยุคใหม่ ที่สามารถนำไปให้ลูกหลานได้ชม เป็นหลักธรรมที่ พระเมธีวชิโรดม หรือพระอาจารย์ว.วชิรเมธี ท่านได้สอดแทรกคำสอนที่เข้าใจง่าย ซึ่งกว่าแอนิเมชันเรื่องนี้จะเสร็จสมบูรณ์ใช้เวลาถึงสิบปีเลยทีเดียว หวังว่า เนื้อหาในแต่ละตอน จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้รับชมได้นำไปเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน เพื่อให้โลกของเราได้เป็นสุขต่อไปครับ”
“สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” สร้างโดย มูลนิธิวิมุตตยาลัย มูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิอริยวรารมย์ เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล และ ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น ที่ร่วมรังสรรค์ออกมาเป็นแอนิเมชัน

สำหรับเด็กเยาวชนและเหมาะกับครอบครัวยุคใหม่ สามารถรับชม แอนิเมชัน ซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ได้ที่ ทางสตรีมมิ่ง TrueID หรือ https://www.trueid.net/watch/th-th/animation/tvca-kids-cartoon

มองโกเลีย ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวอันแปลกใหม่สุดประทับใจ 

เตรียมตัวออกเดินทางไปยังใจกลางแห่งมองโกเลีย ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวอันแปลกใหม่สุดประทับใจ ที่ซึ่งคุณจะได้ลิ้มรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ดื่มด่ำไปกับความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ยาวนาน อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเราตั้งตารอคอยให้คุณมาร่วมเฉลิมฉลองประเพณีอันงดงามและมีชีวิตชีวาที่ซึ่งเป็นมรดกตกทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวมองโกเลียจากความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภายใต้ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อเปิดสัมผัสวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของมองโกเลียผ่านการแสดงแบบดั้งเดิมและน่าตื่นตาตื่นใจ ค้นพบประวัติศาสตร์อันยาวนานและโอกาสในการไปเยือนสถานที่อันน่าตื่นเต้นร่วมกัน

มรดกทางวัฒนธรรมมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับเอกลักษณ์ประจำชาติที่แสดงถึงตัวตนของชาวมองโกเลียอย่างแท้จริง และเรามองเห็นว่าควรนำเสนอความงดงามดังกล่าวไปสู่เวทีโลก พวกเขาจะได้มองเห็นภาพของประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงการมองไปยังอนาคต ทั้งหมดเป็นตัวกำหนดเรื่องราวในการเล่าเรื่องชาติของเรา มองโกเลียได้พยายามโอบอุ้มแก่นแท้แห่งความเป็นประเทศด้วยคำว่า “GO” อันเป็นอักษรและคำที่มีความหมายตั้งอยู่ตรงกลาง คุณจะได้เห็นการออกแบบอันฝังแน่นที่อยู่ในดีเอ็นเอของความเป็นมองโกเลีย สำรวจและค้นพบสัญลักษณ์และตัวตนอันแสนพิเศษที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจอันแตกต่างให้กับแต่ละเรื่องราวของมองโกเลีย

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คำว่า “GO” ถือเป็นหัวใจและใจกลางสำคัญของชื่อและชาติของเรา อาจมองเป็นคำง่ายๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง เพราะไม่เพียงแต่กำหนดแรงผลักดันและจิตวิญญาณในความเป็นชาติของเราเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวมองโกทุกคนบนเวทีโลกอีกด้วย เราได้รวม “GO” ไว้ในปรัชญาการสร้างความเป็นชาติของเราในแบบที่ไม่มีใครทำได้

คำว่า “มองโกเลีย” ถูกสร้างขึ้นโดยใช้สัญลักษณ์แห่งอักษรซอยอมโบ หรือ อักษรสวยัมภู ทั้งหมด โดยแต่ละองค์ประกอบนั้น ได้ถูกนำมาใช้อย่างประณีตเพื่อสร้างรูปแบบตัวอักษรที่โดดเด่น ส่งผลให้เกิดคำที่ทันสมัยและทรงพลังรูปแบบตัวอักษรมีลักษณะหนาและกว้าง โดยผสมผสานความแตกต่างเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดทางสายตา แม้จะมีองค์ประกอบการออกแบบที่ทันสมัย แต่ค่านิยม ประเพณี และความสมบูรณ์ ยังคงถูกรักษาเอาไว้อย่างแน่นเหนียว

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใน มองโกเลีย
มองโกเลีย มีทุ่งหญ้าสเตปป์กว้างใหญ่ ภูเขาสูงตระหง่าน และวัฒนธรรมแห่งชนเผ่าเร่ร่อน ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันล้ำค่าสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาการผจญภัย ค้นพบประวัติศาสตร์ และความงามของธรรมชาติ จนเราสามารถพูดได้ว่า นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด โดยแต่ละพื้นที่มีเสน่ห์และความดึงดูดเฉพาะตัว:

1. ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายโกบี ทอดยาวไปยังทั่วภูมิภาคทางตอนใต้ของมองโกเลีย มีภูมิทัศน์อันน่าหลงใหลของเนินทรายและแนวหิน ดึงดูดนักเดินทางด้วยพืชพันธุ์และสัตว์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับเนินทรายแห่ง Kongoryn Els ที่สูงตระหง่าน ขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ Flaming Cliffs และดื่มด่ำไปกับการต้อนรับแบบพื้นเมืองของชนเผ่าเร่ร่อน

2. ทะเลสาบ Khuvsgul (คุชกุล) ทะเลสาบ Khuvsgul ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “Blue Pearl” ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาทางตอนเหนือของมองโกเลีย เป็นสถานที่พักผ่อน พร้อมด้วยอากาศอันบริสุทธิ์สำหรับนักเดินทางที่มาตั้งแคมป์ เดินป่า และชมวิถีชีวิตการเลี้ยงกวางเรนเดียร์ Tsaatan อีกทั้งยังมีน้ำทะเลใสดุจคริสตัลและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาสำรวจธรรมชาติพร้อมสัมผัสกับวัฒนธรรมอันงดงามของภูมิภาคแห่งนี้

3. อุทยานแห่งชาติ Terelj (เทเรลจ์) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันงดงามใกล้กับเมืองอูลานบาตอร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยหินแกรนิตที่ก่อตัวเป็นรูปทรงเต่าอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเงียบสงบเหมาะกับการทำสมาธิท่ามกลางทัศนยีภาพอันสวยงามและลำธารทอดยาว เดินทางเพียงไม่นานจากเมืองหลวงสู่อุทยานแห่งนี้ คุณจะได้ค้นพบความงดงามทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของมองโกเลีย

4. อนุสาวรีย์เจงกีสข่าน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับรูปปั้นคนขี่ม้าสูงตระหง่าน โดดเด่น และสง่างาม ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงริมแม่น้ำตูล หรือเป็นที่รู้จักในนามอนุสาวรีย์รูปปั้นเจงกีสข่าน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติของมองโกเลีย ด้วยทัศนียภาพอันงดงามและความโดดเด่นทางวัฒนธรรม ทำให้สถานที่เหล่านี้ดึงดูดผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์และนักท่องเที่ยวผู้กระตือรือร้นที่จะเจาะลึกไปยังอดีตของมองโกเลีย

5. Kharkhorin (คาร์คอริน) ในฐานะเมืองหลวงเก่าแห่งจักรวรรดิมองโกล Kharkhorin เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พระอาราม Erdene Zuu และซากปรักหักพังแห่ง Karakorum เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสำรวจมรดกและประวัติศาสตร์อันยาวนานของมองโกเลีย อีกทั้งยังมี พิพิธภัณฑ์ Kharkhorin ที่จัดแสดงมรดกของอดีตผู้นำเจงกีสข่าน ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์

6. ทะเลสาบ Ugii (อูกี) ทะเลสาบ Ugii ในจังหวัด Arkhangai อันเงียบสงบและงดงาม ดึงดูดผู้รักธรรมชาติด้วยผืนน้ำอันราบเรียบเงียบสงบ เหมาะแก่การดูนกและกิจกรรมสันทนาการ เช่น ตกปลาและพายเรือ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบเร่ร่อนของชาวมองโกเลียดั้งเดิม ช่วยเพิ่มสีสันและความรู้ให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

จากสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวที่เรานำเสนอ เป็นส่วนหนึ่งของภูมิประเทศที่หลากหลาย วัฒนธรรมอันเก่าแก่ และประวัติศาสตร์อันยาวนานของมองโกเลีย ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าจดจำอย่างแท้จริงสำหรับนักเดินทางที่มาเยือน

ผู้เข้าร่วมงาน The Mongolian TourismOrganization (MTO), องค์กรการท่องเที่ยวมองโกเลีย (MTO)
ก่อตั้งขึ้นในปี 2566 รับหน้าที่ดูแลนโยบายภาคการท่องเที่ยว ประกอบด้วยสมาชิกคณะกรรมการ 27 คนที่ได้รับเลือกจากภาคการท่องเที่ยว

MTO ให้บริการสมาชิกเกือบ 300 รายจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาคเอกชนและองค์กรภาครัฐเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมองโกเลียทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ร่วมสำรวจประสบการณ์อันน่าจดจำ ในวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00น. เป็นต้นไป

ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิร์ล พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 16:00 – 18:00 น.

Amazing Chiang Rai Lifestyle ชวนมาปักหมุดจุดท่องเที่ยวเชียงราย ปี2567

ทริปเชียงรายเริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นเดือน ธันวาคม 2566 ทีมงานTOPTOTRAVEL
ได้รับเกียรติเข้าร่วมชื่นชมความร่วมแรง ร่วมใจ ของชาวจังหวัดเชียงรายจาก โรงแรมเฮอริเทจ คอนเวนชั่นแอนด์สปา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย (พื้นที่รับผิดชอบ :เชียงราย ,พะเยา)
ไม่เพียงแต่ได้สัมผัสกับการเตรียมงานศิลปะต่างๆ ของขาวเมือง ยังได้ชื่นชมกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน ศิลปะ และสินค้าด้านสุขภาพ การสาธิตต่างๆ เช่น การสาธิตและการเสวนาให้ความรู้ด้านชา-กาแฟและศิลปะ รวมถึง Workshop งานคราฟต์ งานศิลปะ และการแสดงบนเวที และศิลปินนักดนตรีที่มีชื่อเสียงทุกวันตลอดการจัดงาน และสุดพิเศษภายในงาน พบกับแพ็คเกจท่องเที่ยวเส้นทางชา-กาแฟบนเส้นทาง Thailand Biennale Chiang Rai และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เริ่มต้นงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศอย่าง Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 การแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินทั่วโลก ที่นำเข้ามาเผยแพร่ในจังหวัดเชียงราย กระจายตามจุดต่างๆ โดยจัดสองปีต่อครั้ง ครั้งนี้กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมเมื่อมีการระดมทุนจากทุกภาคส่วนโดยมีหัวเรือใหญ่ โดยความตั้งใจของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินล้านนานามกระฉ่อนที่บ้านเรารู้จักกันดีร่วมกับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการและศิลปินในจังหวัดเชียงราย

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย โดย ททท.ชวนนักท่องเที่ยวมาเชียงราย เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายได้กำหนดจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวที่สำคัญหลายงาน เริ่มจากงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวหลากหลายกิจกรรม อาทิ เส้นทางชา-กาแฟ เส้นทางศิลปะ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 เส้นทาง Health & Wellness กิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน โดย ททท. สำนักงานเชียงราย ได้ยกสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว

งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และอีก 4 อำเภอได้แก่ อ.ป่าแดด อ.พญาเม็งราย อ.ดอยหลวง และ อ.แม่จัน งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2567 ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย งานสีสันดอยตุง ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 28 มกราคม 2567 (เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขตฤกษ์) ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย งานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ International Balloon Fiesta 2024 ระหว่างวันที่ 14 – 19 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สิงห์ปาร์คเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย งานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ระหว่างวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2567 ณ วัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ชวนทุกคนมาปักหมุด สถานที่ท่องเที่ยวและเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะส่วนหนึ่งของงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่เตรียมพร้อมสำหรับการรอรับผู้มาเยือน เริ่มกันที่แรก

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ถวัลย์ ดัชนี
ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์และศิลปะแบบล้านนาที่ทรงคุณค่า เกิดขึ้นจากอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชาวล้านนา บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่
ภายในสถาปัตยกรรมแบบกาแลทั้งหมด 36 หลัง ที่นี่เป็นสถานที่รังสรรค์ผลงานของอาจารย์และเป็นที่เก็บผลงานศิลปะในรูปแบบที่แปลกตา โดยเฉพาะการบรรดาหนังสัตว์ เขาควาย เขากวาง แซมแทรกในงานศิลปะเกือบทุกอณู ใครอยากมาเที่ยวที่นี่ เดินทางมาได้ทุกวัน รวมทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00- 17.00 น. ค่าเข้าชม 80 บาท

พิกัด https://goo.gl/maps/VjMP278x7S31FcKQ6
ตั้งอยู่เลขที่ 414 ตำบลนางแล อำเภอเมือง เชียงราย โทร 053 776333

ร้าน SOMETHING JOURNEY
หลังจากเดินเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำของอาจารย์ถวัลย์ กันเสร็จเรียบร้อย แวะทานอาหารกลางยังร้าน SOMETHING JOURNEY เป็นร้านที่บริหารงานโดยคนหนุ่มรุ่นใหม่ านอยู่ห่างจากตัวเมืองพอประมาณ ใกล้ๆ วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงรายมีขายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ร้านสวย บรรยากาศดี ถ่านรูปได้ทุกมุม รสชาติคุ้มราคา ร้านแห่งนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน เรียกว่ายังใหม่สดๆ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการมาจิบกาแฟชิมอาหารนั่งพักผ่อนก่อนจะเดินทางกันต่อด้วยตัวอาคารสีขาว การตกแต่งด้วยโทนอบอุ่นปูทางเดินเข้าร้านด้วยต้นไม้ทรงเตี้ย เผยให้เห็นอาคารชัดเจน และเมื่อเข้าสู่ด้านใน จะแบ่งโซนเป็นอินดอร์และเอาท์ดอร์Home12 พิกัดเที่ยวในเชียงรายบรรยากาศปิกนิคในสวนขนาดใหญ่ มีมุมสงบ มุมพักผ่อน มุมถ่ายรูปอยู่ 3 โซนในเนื้อที่กว่า 9 ไร่ มีพื้นที่หลายโซนเหมือนมาพักผ่อนอารมน์แนวประมาณมาสวนส่วนตัวเลย

เมนู Something Drip Set กาแฟคั่วอ่อน จากดอยปางขอน ที่สายกาแฟไม่ควรพลาด พร้อมสูตรและอุปกรณ์การดริปกาแฟให้มาลอองดริปกันชิลล์ๆ หรือถ้าแนวสุขภาพก็ เมนู Signature ของร้านก็ต้องเป็น “ก่ำเกิร์ต” โยเกิร์ตปั่นข้าวเหนียวดำออร์แกนิคที่สุดของความสดชื่น อร่อยลงตัวแถมได้สุขภาพดี และเมนูยอดฮิทอย่าง เห็ดเทมปุระ เห็ดออร์แกนิค จากไร่ ที่มีบริการเฉพาะวันเสาร์และวันจันทร์

ร้าน SOMETHING JOURNEY
ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
TEL : 061 936 6415 EMAIL : something.journey@gmail.com
FACEBOOK : SOMETHINGJOURNEY
เวลาเปิด-ปิด 09.00 – 21.00 น., ทุกศุกร์-อาทิตย์เปิดถึง 22.00 น.โทร. 0994655362
GPS: https://maps.app.goo.gl/ABQapEBw7LXT7Xm49?g_st=il

ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน
ไร่เชิญตะวัน อันหมายถึง สถานแห่งการเชิญธรรมะ ซึ่งเป็นดั่งดวงตะวัน เข้ามาสู่ชีวิตจิตใจ สถานที่ที่เรารู้จักกันดี เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานมูลนิธิวิมุตตายาลัย สถาบันวิมุตตยาลัย มหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (สถาบันกรศึกษาทางเลือกเพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์) เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้สนใจพระพุทธศาสนา ศิลปะ และการพัฒนาสังคม เป็นแหล่งเรียนรู้และปฏิบัติธรรมที่เปิดกว้างแก่ผู้แสวงหาความสันติและความเจริญงอกงาม

ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี กรุณาพาเยี่ยมชมสถานที่จัดแสดงงานนิทรรศการศิลปะ ซึ่งก็มีหลายจุดที่ผู้มาเยี่ยมชม เดินชื่นชมกัน เรียกว่าได้ทั้งหลักธรรมที่แทรมแซกในชิ้นงานศิลปะ และงานดีไซน์ของเหล่าศิลปินที่น่าสนใจมากๆ และเป็นที่น่ายินดีว่า งานบางชิ้นจะยังคงอยู่ถาวรในสถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ เรียนธรรมผ่านศิลปะที่ทรงคุณค่า เรียกว่าต้องใช้เวลาในการเดินเยี่ยมชมกันได้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ซุ้มประตูไร่กันเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงงานศิลปะจากศิลปินไทยแล้ว ยังมีผลงานของศิลปินต่างชาติชาวเกาหลีใต้ที่เข้ามาร่วมแสดงงานด้วย เปิดโลก เปิดสุนทรียะในพุทธศิลป์ อิ่มเอมทั้งกายและใจกลับไปอย่างแน่นอน

ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน
(Cherntawan International Meditation Center)
เปิด 8.00-17.00 น.
http://www.facebook.com/raicherntawan.cr
ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน (ว.วชิรเมธี) โทร 087 080 7779
พิกัด https://maps.app.goo.gl/fZqmqsuSsbxppmss6

หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย
ด้วยความตั้งใจจริงของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ที่สนับสนุนงบกว่าหกสิบล้านบาทเป็นจุดเริ่มต้นและด้วยศักยภาพของอาจารย์ที่ทำให้เหล่านักธุรกิจ ผู้ประกอบการ เจ้าของที่ดินนายทวี อร่ามรัศมี ที่บริจาคที่ดินถึง 17 ไร่ ภายในจังหวัดและศิลปินล้านนาที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้เกิดหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย Chiang Rai International Art Museum ( CIAM) แห่งนี้ขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แสดงงานที่ยิ่งใหญ่อย่าง Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 การสร้างหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงรายจะเป็นจุดหมายใหม่สำหรับศิลปินเชียงรายและศิลปินทั่วไทยที่จะได้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของศิลปะสมัยใหม่ที่น่าสนใจ

หอศิลป์แห่งนี้เป็นหอศิลป์ขนาดสี่ชั้นครึ่ง ประกอบไปด้วยห้องนิทรรศการ มิวเซียมช็อป คาเฟ่และสำนักงาน และยังเตรียมสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ โรงละคร หอประชุม หมู่บ้านศิลปินที่ตั้งใจจะเป็นสตูดิโอสำหรับสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินอีกด้วย

จัดแสดงผลงานของศิลปิน: ออล(โซน), อัลมากุล เมนลิบาเยวา, แฮกู ยาง, มาเรีย ฮาซซาบิ, โมวานา เฉิน, ปิแอร์ ฮุยจ์, พรีเชียส โอโคโยมอน, ซาราห์ ซี, สมลักษณ์ ปันติบุญ, โทเบียส เรห์แบร์เกอร์, โทกูดูร์ ยอนดอนแจมตส์, หวัง เหวิน จื้อ และซิน หลิว

Pavilion “The Canopy Walks” โดย เดอะ คาโนปี้ โปรเจกต์ และจัดกิจกรรม เทศกาลศิลปะการแสดงสด โดย Bangkok International Performing Arts Meeting (BIPAM)

หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย Chiang Rai International Art Museum (CIAM)ตั้งอยู่ระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนเวียงบูรพา ใกล้สนามบินแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย https://maps.app.goo.gl/6LkhFzeFzHVwGCLc9
เปิดทุกวัน 9.00 – 17.00 น. | ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์

ร้านชาสวรรค์บนดิน : SAWANBONDIN TEA HOUSE
เที่ยวเชียงราย ตามไปอีกหนึ่งจุดเช็คอิน เป็นอีกหนึ่งร้านที่การันตีความพิเศษจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “ชา” เป็นหนึ่งในศาสตร์และศิลปะแสนทรงเสน่ห์ เริ่มต้นจากฟาร์มเล็ก ๆ เสิร์ฟชากันภายในบ้านดินหลังย่อม มาวันนี้ Sawanbondin Farm & Tea House (สวรรค์บนดิน) กลายเป็นร้านน้ำชาที่มีชื่อเสียง เมื่อแรกเข้าสู่ร้านก็เห็นถึงความเรียบง่ายของพื้นที่ ภายในอาคารชั้นเดียวทรงสูงเพื่อรองรับที่นั่งชั้นลอยให้กับลูกค้า มีที่นั่งทั้งในแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ ที่นี่เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาชั้นดีฝีมือสามีภรรยาคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาในการศึกษาชาจนได้รับรางวัลการันตีรสชาติมามากมายทั้งในและต่างประเทศ ด้านนอกส่วนหนึ่งแบ่งพื้นที่ปลูกต้นชาให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และประสบการณ์เรื่องชาด้วยนอกจากนี้ยังรวมถึงขนมที่เสริฟมาคู่กับชาชั้นเลิศ ที่เจ้าของร้านบอกว่า เป็นขนมที่คนรุ่นปู่รุ่นยายทำทานกันที่บ้าน ก่อนจะปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับการทานกับชา

ที่นี่เหมาะสำหรับคนรักชาอย่างแท้จริง หากมีเวลา ลองค่อยๆ นั่งละเลียดหอมกรุ่นกลิ่นชากันทีละนิด ทีละน้อย ปล่อยใจให้ผ่อนคลายไปกับชาหลากรส หรือจะเลือกสรรผลิตภัณฑ์ชาที่ดื่มเพื่อสุขภาพร้านชาที่นี่นอกจากจะให้ดื่มชิมกับชาพิเศษแล้ว ยังให้ความรู้ในเรื่องชาท้องถิ่น ชาเมี่ยง(ชาป่า)ที่เมื่อดื่มชงแล้วจะได้กลิ่นหอมด้วย ดึงดูดผู้มาเยือนด้วยกลิ่นหอมของชาออร์แกนิกมีเมนูเครื่องดื่มมากมาย ทางร้านเลือกใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร ด้วยเหตุผลหลักที่ว่า เพื่ออุดหนุนเกษตรกรและทำให้ผู้คนรับรู้ถึงสินค้าดีดีในพื้นถิ่นว่าสามารถนำมาต่อยอดได้

คุณชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ เจ้าของร้านชาสวรรค์บนดิน

คุณชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ เจ้าของร้านชาสวรรค์บนดิน บอกถึงความพิเศษของการทำร้านชาพิเศษแห่งนี้ว่า การทำร้านชาพิเศษแบบนี้ มีโอกาสเติบโตแน่นอน โดยเฉพาะชาที่ทำออกมาเป็นชาพิเศษ หมายถึงเราดูแลต้นชา ส่งเสริมให้คนและสิ่งแวดล้อมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้นความพิเศษเหล่านั้นก็จะส่งผลให้ชาที่อยู่ตรงนั้นมีรสชาติมีกลิ่นหลากหลายซับซ้อนยิ่งขึ้น

Facebook : Sawanbondin Tea House& Experience โทร 0812053554
171/12 หมู่ 1 อำเภอเมืองเชียงราย จ.เชียงราย
โทร 081 205 3554 ·เวลา เปิด – ปิด 9.00-17.00 น.

ไฮเดรนเยีย ซัง
ทุ่งไฮเดรนเยียบนยอดดอย วิวหลักล้านอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดการเช็คอิน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสีสันและความสวยงามของดอกไฮเดรนเยีย ที่นี่ดอกไม้บานสะพรั่งอวดสีสันเต็มลานเนินภู จะเลือกมุมไหนก็ไม่ผิดหวัง เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าก็จัดสรรซุ้มสีขาวรอต้อนรับนักท่องเที่ยว มีมุมชิงช้า มุมตู้โทรศัพท์ ซุ้มดอกไม้ ซึ่งการสร้างหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงรายจะเป็นจุดหมายใหม่สำหรับศิลปินเชียงรายและศิลปินทั่วไทยที่จะได้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของศิลปะสมัยใหม่ที่น่าสนใจ

แนะนำมาถึงช่วงเช้าก่อนเก้าโมงเช้า ถ่ายรูปสวย อากาศดีมากไม่ร้อนแสบตาบรรยากาศโดยรอบ เห็นขุนเขาไกลสุดตา พื้นที่เปิดกว้างแบบวิวพานอราม่าให้เลือกถ่ายภาพแบบสวยไม่ซ้ำกัน เรียกว่าใครมาเชียงรายช่วงนี้ไม่ผิดหวัง เวลาเปิด-ปิด : 07.30-17.30 น. + ค่าเข้าชม : 80 บ./คน (มีน้ำเปล่าให้ 1 ขวด)
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท ด้านหน้ามีดอกไฮเดรนเยียให้เช่า บริการนำไปถือถ่ายรูปเล่นกันด้วย

Hydrangea san
โทร 093 275 3708 บ้านแม่มอญ ตำบล ห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงรายไฮเดรนเยียซัง #ดอยแม่มอญ #เที่ยวเชียงราย #รีวิวเชียงราย

ร้านกาแฟ YAYO FARM :หญ่าโย ฟาร์ม คาเฟ่ดอยช้าง
เดินทางกันต่อยังอีกหนึ่งจุดเช็คอิน เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่พาเราไปแวะเก็บบรรยากาศบนดอยช้างกันก่อนที่จะลัดเลาะตามเนินเพื่อไปนั่งจิบกาแฟกัน นอกจากจะไปร่วมเก็บประสบการณ์กันที่ร้านชาที่มีความพิเศษของร้านสวรรค์บนดินทีเฮาส์กันแล้ว ก็ต้องเป็นเรื่องของกาแฟบ้างร้านกาแฟ YAYO Farm เป็นร้านแบบโอเพนแอร์เปิดโล่งหลังคาสูงใช้วัสดุตกแต่งจากธรรมชาติ ออกแบบให้เปิดโล่งเห็นวิวแบบสุดลูกหูลูกตา เรียกว่าทำลานกว้างเพื่อให้ผู้มาเยือนได้เลือกเก็บเกี่ยวความงามกันอย่างเต็มที่ ใครใคร่ถ่ายภาพมุมไหนก็มีให้เลือก ไม่ต้องแย่งกัน เพราะลูกค้าที่นี่เยอะมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ดูเหมือนจะอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือกันขึ้นมาเก็บภาพ

กาแฟที่แฟร์กับทุกคน
เราอยู่กันที่ YAYO FARM ที่นี่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคอกาแฟและคนที่ไม่ใช่คอกาแฟก็สามารถเอ็นจอยได้อย่างไม่ยากเย็น หญ่าโย ฟาร์ม คาเฟ่ดอยช้างที่เป็นมากกว่าคาเฟ่ธรรมดาๆ เพราะเป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้ โรงแปรรูปกาแฟอาราบิก้าแท้ และร้านกาแฟ ในคอนเซ็ปต์ที่เปรียบตัวเองเป็นเหมือนสุภาพบุรษ เพราะที่นี่แฟร์กับทุกคน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม จุดเริ่มต้นการเพาะปลูกจนถึงปลายทางรสละมุนหอมกรุ่นในแก้วกาแฟที่อยู่วางตรงหน้า

ถ้าพูดถึงเชียงรายจะไม่พูดถึงกาแฟก็ไม่ได้ เพราะได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้ามากที่สุดในประเทศไทย ในพื้นที่กว่า 4 หมื่นไร่ นับเป็นแหล่งกาแฟพันธุ์ดีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะเป็นจังหวัดที่อากาศเย็นสบายเหมาะสำหรับการพักผ่อน คุณสุกัญญา บีซีทู เจ้าของร้าน บอกถึงความรู้สึกถึงการปลูกกาแฟว่า กาแฟโคตรแฟร์กับคนปลูก กาแฟทำให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คนดื่ม ๆ แล้วมีเอนเนอจี้ เทียบกับพืชอื่นๆ แล้วกาแฟโคตรแฟร์ ซึ่งเป็นลูกหลานของคนบนดอยช้าง หลังจากเรียนจบได้นำความรู้มาต่อยอด นอกจากกาแฟที่ขายอยู่หน้าร้านที่ปลูกเอง ยังรับซื้อกาแฟเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร การทำร้านกาแฟจึงทำให้รู้สึกดีอธิบายให้เราเห็นภาพตามว่า ทุกๆ พื้นที่ที่ปลูกกาแฟ เท่ากับเรากำลังเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับโลกใบนี้ ตามสโลแกน ‘YAYO COFFEE WE GROW GREEN’ ของทางร้าน

ที่ตั้งร้านแห่งนี้แม้จะอยู่ลึกแต่ดีต่อใจ ด้วยเพราะเป็นร้านกาแฟที่ให้มากกว่าร้านกาแฟก็ตรงวิวที่สวยงาม ที่นี่ปลูกกาแฟเอง มีโรงคั่วที่ผลิตเองนอกจากเพื่อใช้ในร้านเองแล้วยังเพื่อจำหน่ายสู่ท้องตลาด

หญ่าโย ฟาร์ม
ที่อยู่: 1001 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
เปิด-ปิด: ทุกวัน 8.30 – 17.30 น.
เบอร์ติดต่อ: 096 060 1314
Facebook: YAYO FARM
เวลาเปิดทุกวัน 08.30-17.00 น. โทร 090 0601314
#yayofarm #เที่ยวเชียงราย #รีวิวเชียงราย #ร้านกาแฟวิวหลักล้าน #cafe

อาข่า ฟาร์มวิลล์ Akha Farmville
เรายังคงอยู่กันที่ดอยช้าง คราวนี้ไปหาประสบการณ์กับแกะกัน อาข่า ฟาร์มวิว ตั้งอยู่ดอยติดกับจุดชมวิวของหมู่บ้านแสนเจริญ ทางขึ้นบ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย ริมทางหลวงชนบท กิโลเมตรที่ 5+475 (ถนนสายหลักบนดอยช้าง) ที่นี่มีการจัดการที่ดูเป็นระเบียบเป็นมืออาชีพมากๆ ตั้งแต่ลานจอดรถ ด้านนอกมีร้านรวงขายของที่ระลึก ผลไม้เมืองหนาวของชาวเขา ให้ได้จับจ่ายกัน ราคาก็ต้องต่อรองกันนิดหน่อย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว

อาข่า ฟาร์มวิลล์ เป็นฟาร์มแกะบนดอยช้าง บนเนื้อที่ 30 ไร่ ที่มีแกะสายพันธุ์ คอร์ริเดลล์ ที่สามารถให้อาหารได้ สามารถเล่นด้วยได้ นอกจากนี้ยังได้ชมความแสนรู้ของสุนัขต้อนแกะพี่วาวา พี่โอโน่ สายพันธุ์สตรองอาย ที่นี่วิวแบบพาโนราม่าแบบทิวสวยกว้างใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เลือกมุมถ่ายภาพกันได้สบายๆ และที่เราชอบคือ เมื่อซื้อตั๋วค่าเข้าคนละ 100 บาท จะสามารถนำมาสั่งเครื่องดื่มได้หนึ่งอย่างตามที่เขากำหนดฟรี เสร็จแล้วไปเลือกหามุมนั่งชื่นชมทิวภูและเจ้าก้อนกลมสีขาวน้อยใหญ่ ชมความทะเล้น ความขี้เล่นของแกะกัน “อาหารน้องแกะ มีทั้งแครอทและอาหารเม็ดคะ ถาดละ 30 บาท”

“วิธีการให้อาหาร ให้ชูถาดขึ้นข้างตัวนะคะ ไม่งั้นบางตัวที่ซนจะกระโดดโถมเข้าใส่หาอาหารคะ” และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้ฟังจากเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ต้น แต่พอถึงเวลาจริงๆ เราได้ยินเสียงกรี๊ดพร้อมเสียงหัวเราะดังลั่นฟาร์ม
เพราะมัวแต่สาละวนกับการให้อาหารแกะจากตัวหนึ่ง และอีกตัว … อีกตัว เพลินใจดีแท้ เรียกว่า มาแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ
ฟาร์มเปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เปิด- ปิด 7.30 – 17.30 โทร 095 665 2339

วันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ 7.30 -18.00 น.
สามารถวอล์คอินเข้าไปได้เลยไม่ต้องจอง
#AkhaFarmVille #อาข่าฟาร์มวิลล์เชียงราย
#อาข่าฟาร์มวิลล์ฟาร์มแกะบนดอย #ที่เที่ยวเชียงราย

SKY WALK ดอยวาว
สำหรับหมู่มวลคนไทยแล้ว สิ่งสำคัญของการเดินทางน่าจะเป็นการช้อปปิ้งนี่แหล่ะ และที่แม่สายก็เป็นหนึ่งหมุดหมายของคนมาช้อปปิ้ง ตอนนี้ร้านเปิดให้บริการเต็มพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวหลังโควิดทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมและดูจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทุกตรอกซอกซอยต่างขนสินค้าออกมาโชว์กันอย่างสนุกสนาน แม้สินค้าที่จำหน่ายคล้ายกัน แต่ก็ลองเดินดูกัน ส่วนที่สร้างใหม่และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากก็คือการ ขึ้นไปเหยียบ SKY WALK ดอยวาว

ตั้งอยู่บนพระธาตุดอยวาว สกาย วอล์ค ของดอยวาว ดูราวกับจะรับรู้ถึงความกังวลใจของคนมาเที่ยว ด้านล่างจากทางขึ้นจึงมีการเขียนและโชว์ประสิทธิภาพของกระจกที่นำมาทำทางเดินบนสกาย วอล์ค เพื่อสร้างความมั่นใจ มีถุงสำหรับสวมทับรองเท้าเอาไว้บริการ บนสกายวอล์คแห่งนี้ทางเดินกว้างขวางกว่าที่อื่นๆ ที่เราไปมาหลายแห่ง นอกจากนี้ลักษณะการก่อสร้าง โครงเหล็ก ความยาว และมุมมองเมื่อขึ้นไปเดินยังสวยงามและน่ามองกว่าที่อื่นๆ ลองมาเยี่ยมชม

วัดที่เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา เชื่อกันว่ามีความเก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการต้องเดินขึ้นบันไดไป ซึ่งข้างบนเป็นจุดชมทัศนียภาพสองฝั่ง

เวลาเปิด-ปิด 09.00 – 21.00 น., ทุกศุกร์-อาทิตย์เปิดถึง 22.00 น.
โทร. 0994655362
GPS: https://maps.app.goo.gl/ABQapEBw7LXT7Xm49?g_st=il

ร้านกาแฟดอยผาหมี
จิบกาแฟที่ไหนก็ไม่ฟินเท่าการได้อยู่ท่ามกลางทิวเขา บางครั้งการออกเดินทางก็ไม่ต้องการอะไรมากมายไปกว่า การได้นั่งจิบเครื่องดื่มชิมกาแฟเคล้าบรรยากาศสบายๆ ของขุนเขาและวิวสวยร้านวิวสวยชิลล์และเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่มาแล้ว ไม่ควรพลาด ร้านกาแฟดอยผาหมี ตั้งอยู่ที่บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเช็คอินที่ยังคงรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแบบไม่ขาดสาย ด้วยสถานที่ตั้ง การตกแต่ง ทิวทัศน์ และวิถีชนเผ่าที่น่าสนใจ

คุณผกากานต์ รุ่งประชารัตน์ เจ้าของร้านกาแฟและอาหาร ดอยผาหมี ประธานวิสาหกิจชุมชนกาแฟดอยผาหมี ลูกหลานชนเผ่าที่รวบรวมวิถี ศิลปะวัฒนธรรมอาหารการกิน และนำมาต่อยอดเป็นร้านกาแฟและอาหาร ดอยผาหมี ที่เลื่องชื่อ นอกจากจะมาแนะนำอาหารชนเผ่าอาข่าพื้นเมืองขนานแท้ใส่ในภาชนะกระบอกไม้ไผ่ ไม่ว่าจะเป็นรากชูหมู น้ำพริกหมูรากชู ผัดไข่รากชู ลาบหมูรากชู อาหารรสมือแม่ที่ทำให้เจ้าของร้านทานมาตั้งแต่จำความได้ สามารถจำหน่ายเป็นเซ็ตไว้ให้บริการสำหรับใครต้องการ

ร้านเปิดตั้งแต่ 8.00- 21.00 น.
#ร้านกาแฟดอยผาหมี #ดอยผาหมี

เฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ล แอนด์ คอนเวนชั่น
สำหรับที่โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่นแห่งนี้ ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงราย ออกแบบหรูหราผสมผสานศิลปะร่วมสมัยสะท้อนให้เห็นถึงความสง่างามของมรดกทางวัฒนธรรมอาณาจักรล้านนาที่มีมาอยางยาวนานจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นโรงแรมที่ขานรับกิจกรรมของชุมชนเมืองเชียงรายมาโดยตลอด ครั้งนี้ คุณบัณฑิต มาลัยลักษณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเฮอริเทจ เชียงรายฯ จัดสรรพื้นที่หลายจุดสำหรับการจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินล้านนาหลายคน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของงาน มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale , Chiang Rai 2023

คุณบัณฑิต มาลัยลักษณ์ กล่าวว่า โรงแรมพร้อมสนับสนุนในทุกๆ เรื่องกิจกรรมของจังหวัดเชียงราย โดยหัวใจหลักเรื่องของส่วนร่วมเราเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน เป็นห้องแกลลอรี่ ปัจจุบันเป็นรูปภาพ ในอนาคตจะเป็นรูปปั้นและการเพ้นท์กำแพงและเปิดพื้นที่หกคูหาตลอดห้าเดือนสามารถใช้ชั้นสองและชั้นสามได้ ใช้ชื่อเป็นอาคารแสดงศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรม

จุดที่ 1 เป็นการแสดงผลงานของกลุ่มศิลปินกลุ่มสตูแดง ที่นำเสนอผลงานศิลปะที่มีความหลากหลายสไตล์ มีทั้งเทคนิคการนำเสนอผลศิลปะ มีทั้งสีน้ำมัน สีอะคริลิค สีฝุ่น สีน้ำ และเทคนิคชาโคล โดยได้รวบรวมเพื่อนศิลปินนักศึกษาจากหลักสูตรพุทธศิลปกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กลุ่มศิลปินจากมหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่ม Illus Illy CEI กลุ่ม พุทธศิลป์ มจร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เชียงราย กลุ่มศิลปินสีน้ำ กลุ่มศิลปินอิสระ เชียงราย

จุดที่ 2 – Solo Exhibition Art Flame of Mind by ภัทรเศวต ภัทรจุมพตนำเสนอผลงานศิลปะสื่อมารในจิตใจ ซึ่งจะแสดงออกมาเมื่อมีกิเลสครอบงำ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ถ้าไม่กำจัดมารเหล่านี้ จะหวังเข้าสู่กระแสธรรมเพื่อนิพพานคงยาก

จุดที่ 3 Graffiti Art By MIC & MART หรือคุณลิขสิทธิ์ กันตะบุตร และคุณมาตร จงสมสกุลเดิม สื่อการปลดปล่อยพลังที่โดนกักขังไว้เนินนาน ความสุขของผู้โดนปลดปล่อย ดวงตาของการปลดปล่อยอนิทรรศการ สมดุลย์แห่งโลกิยะวิสัย นำเสนอในเรื่องจิตใจในด้านดี และด้านร้ายของมนุษย์ผ่านภาพวาดบนเฟรมที่ใช้เลือดของศิลปินมาเป็นส่วนผสม ที่มีสิ่งเร้าเป็นภาพวาดบนผนังของห้อง

โรงแรมเฮอริเทจ โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่น
โทร 052 055 888 Line ID :335tkcsv
#โรงแรมเฮอริเทจโฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่นเชียงราย

ขอบคุณทุกคน ทั้งผู้อ่าน และผู้สนับสนุน มิตรสหาย
สำหรับทริปจังหวัดเชียงราย ที่ผ่านมา

ขอขอบคุณ:
โรงแรมเฮอริเทจ โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่น

ขอขอบคุณ:
ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 หรือ TAT Call Center โทร. 1672
เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเขียงรายได้
ที่เว็บไซต์ www.tourismchiangrai-phayao.com
เพจ Facebook : ททท.สำนักงนานเชียงราย

คิง เพาเวอร์ ชวน โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ – The TOYS นำทัพศิลปินตบเท้าเฉลิมฉลองความสุขไม่รู้จบส่งท้ายปี


ในงาน “KING POWER CELEBRATION 2024 ช้อปสนุก ความสุขเป็นไปได้ไม่รู้จบ”

คิง เพาเวอร์ เดินหน้ามอบปรากฏการณ์ความสนุกไม่รู้จบส่งท้ายปี ในงาน “KING POWER CELEBRATION 2024 ช้อปสนุก ความสุขเป็นไปได้ไม่รู้จบ” สนุกสนานกับกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปินคนโปรดที่พาเหรดมามอบความสุขมากมาย อาทิ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์, THE TOYS, SARAH SALOLA, PURENESSLY, วง HYBS, วง ROOFTOP ฯลฯ พร้อมพบขบวนความสุขจากอาร์ตทอย FENNI (เฟนเน่) และโปรโมชั่นพิเศษตลอดเดือนธันวาคมนี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ เฉลิมฉลองความสุขในเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ นำทีมศิลปินชั้นนำพาเหรดมอบความสุขต่อเนื่อง ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในวันที่ 22-31 ธันวาคม 2566

  • ฟรีคอนเสิร์ต! ในวันที่ 22 – 25 และ 29 – 31 ธันวาคม 2566 เวลา 17.00 – 18.00 น. โดย วันที่ 22 ธ.ค.66 พบกับ PURENESSLY (เพียว-เอกพันธ์), วันที่ 23 ธ.ค.66 พบกับ SARAH SALOLA, วันที่ 24 ธ.ค.66 พบกับ CHAMOOK (ชามุก-สุชานันท์), วันที่ 25 ธ.ค.66 พบกับ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์, วันที่ 29 ธ.ค.66 พบกับ วง HYBS, วันที่ 30 ธ.ค.66 พบกับ วง ROOFTOP พร้อมนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ในวันที่ 31 ธ.ค.66 ไปกับ THE TOYS
  • เซอร์ไพรส์! ในวันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2566 เวลา 12.00 น. / 14.00 น. / 16.00 น. / 18.00 น. พบขบวนความสุข ความสดใส แสนน่ารักส่งท้ายปีใหม่จากน้อง FENNI (เฟนเน่) ผลงานโดย คุณศิรินญา ปึงสุวรรณ หรือ Poriin ศิลปินอาร์ตทอยดีไซเนอร์ชื่อดังของเมืองไทย กับคาแร็คเตอร์ เฟนเน็กฟ็อกซ์ ตุ๊กตาสุนัขจิ้งจอกตัวน้อย ส่งมอบความสุขให้กับทุกคนที่ได้พบเจอในเทศกาลสุดพิเศษ
  • พบ WONDER BOX ช้อปสนุก เปิดกล่องความสุขไม่รู้จบ เพียงช้อปครบตามเงื่อนไข รับทันที! WONDER BOX กล่องความสุข ที่อัดแน่นไปด้วยสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำ*

ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี กับกิจกรรมความบันเทิงมากมาย ในงาน “KING POWER CELEBRATION 2024 ช้อปสนุก ความสุขเป็นไปได้ไม่รู้จบ” ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับสมาชิกก่อนช้อป เพียง Add LINE Official Account : @kingpower หรือช้อปผ่านช่องทาง CALL TO SHOP
เพียงโทร. 02-338-7870 และ CHAT TO SHOP
เพียง Add LINE : @KP_ChatToShop

TikTok Shop เปิดตัวแคมเปญ “เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop”

ตอกย้ำภาพความเป็น Trendy Ecommerce Destination ที่นำทุกเทรนด์ เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ TikTok Shop เปิดตัวแคมเปญใหม่ “เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop” ตอกย้ำความเป็น Trendy E-Commerce Platform ในงาน “Trendshopper Event เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop” เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์

บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการแจกคูปองสุดพิเศษจากทาง TikTok Shop เป็นส่วนลดสูงสุด 500 บาท มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท ให้แก่นักช็อปทุกคน เพียงแค่สแกน QR Code ที่ตะกร้า TikTok Shop Installation ยักษ์ที่เป็นพระเอกของงาน

พร้อมทั้งเหล่า Content Creator ชื่อดังที่มาร่วมพูดคุย แชร์ประสบการณ์การช้อปของอินเทรนด์สุดคุ้มบน TikTok Shop นำโดย คุณมิลค์ เจ้าของช่องแมวสุดป่วนชื่อดังอย่าง Albo and Jerry, คุณอิ๊งค์ เจ้าของแบรนด์ ingu (อิงกุ) และ คุณเป๊ป เขมิกา เจ้าแม่ไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม Tiktok เสริมทัพด้วย Creator ชื่อดังอีกมากมายที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับผู้ร่วมงาน
ในงานยังมีมินิคอนเสิร์ตสุด Exclusive จากศิลปินรุ่นใหม่ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “DIDIxDADA” “Praesun (แพรซัน)” และ “PERSES” ที่เตรียมโชว์พิเศษมาเซอร์ไพรส์ชาว TikTok Shop โดยเฉพาะ

ติดตามโปรโมชันพิเศษ สินค้าอินเทรนด์ และดีลดี ๆ จาก TikTok Shop
ได้เพิ่มเติมที่:
https://www.facebook.com/tiktokshopthailandofficial

พะงัน เดินหน้าเตรียมจัดเทศกาล Awakenest Festival ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลอมรวมพลังจันทราสร้างแรงบันดาลใจ

ทริปเพิ่มพลังให้ชีวิต เพื่อไไปยัง เกาะแห่งพลังจันทรา เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา Toptotravel มีโอกาสเดินทาง ท่องเที่ยว พบปะชาวเกาะพะงัน ที่กำลังร่วมแรงร่วมใจกันจัดการแถลงข่าว ชื่องานภายใต้ชื่องาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา”

โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่อย่าง สมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน สเตย์ฟลายสตูดิโอ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย บริเวณลานตัวหนอน ท้องศาลา อำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน บางครั้งอาจใช้เวลานานกว่าจะได้ชื่อ งานที่มีความหมายที่ดี หรือโดนใจสมาชิกท่ามกลางพลังแห่งจันทรา ที่หลอมรวมผู้คนเข้าด้วยกันตอกย้ำ
อัตลักษณ์ของเกาะพะงันไปพร้อมกับ การเปิดมุมมองใหม่เพื่อประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นเพื่อสุขภาวะองค์รวมและความยั่งยืน กับธรรมชาติ ชีวิตและวิถีชีวิตและชุมชน

… โดยเช้าตรู่ของวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา คณะสื่อมวลชนรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ลงตรงยังเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ก่อนจะลงเรือต่อไปยังเกาะพะงัน โดยเรือขนาดใหญ่ ทันสมัยและปลอดภัยของ Lomprayah High Speed Ferries Co, Ltd. ภายใต้การบริหารงานของคุณวนิชชา สุขเชตุ Secretary to the President Marketing Manager ภายในเรือมีโซนหลายโซนให้นักท่องเที่ยวได้เลือกนั่งพักผ่อน ทั้งดาดฟ้ารับแดดรับลมกันเต็มๆ หรือจะอยู่ในห้องแอร์ หรือจะเป็นโซนวีไอพีที่มีเอาไว้สำหรับไพรเวทแอร์เรีย ก็มีให้เลือกและแล้วก็มาถึงเกาะพะงัน

กินห่อก่อกำเนิดฟูลมูน วัฒนธรรมการกินห่อ กินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์
วัฒนธรรมการกินห่อ กินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์ (ในสมัยก่อน)

การเดินทางอย่างมีจุดเริ่มต้น สถานที่แรกของวันคือ ร้าน NIRA’S HOME BAKERY มีโอกาสได้ชิม ข้าวผัดปลาทู นอกจากจะนำปลาทูมาผลัดคลุกเค้าเข้ากันกับข้าวนุ่มๆแล้ว นำปลาทูฉีกเนื้อครึ่งซีกวางบนข้าวสวย ยังมีเครื่องเคียงเอาไว้ให้ปรุงรสด้วย หอมกรุ่นชวนทาน เสริฟพร้อมกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่บอกว่า ให้ความสดชื่นเป็นอย่างมากที่นี่เราได้พบ กับ คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยว เกาะพะงัน และ คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย และ
คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยว เกาะพะงัน
ร้าน NIRA’S HOME BAKERY มีโอกาสได้ชิม ข้าวผัดปลาทู
คุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน

โดยคุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันหนึ่งในคณะจัดงาน บอกว่า “การที่เราอยู่ในโลกใบนี้กับทุกสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิต ที่เราคิดว่ามีความจำเป็น เราลืมบางอย่างในชีวิตไป วันนี้เป็น Journey ที่ให้คุณเดินทางเข้ามาค้นพบในตัวตนของเอง แล้วเริ่มต้นชีวิตที่สมบูรณ์กับความสุขข้างใน จะก่อให้เกิดความสุขข้างนอก และก่อให้เกิดการดำเนินชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

สิ่งหนึ่งที่จะเห็นในค่ำคืนนี้ คือ เป็นการผสมผสานระหว่างอาร์ตติสจากทั่วโลกที่อยู่บนเกาะพะงันมาร่วมคอมบายด์ กินห่อก่อกำเนิดฟูลมูน ซึ่งวัฒนธรรมการกินห่อ เป็นการกินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์ ซึ่งมีนานหลายสิบปีของชุมชนที่นี่”

… “เดี๋ยวเราไปเช็คอินเข้าโรงแรมกันก่อนนะคะ” เจ้าหน้าที่ททท.บอกกับเรา วันนี้เราได้รับโอกาสเข้าพักที่โรงแรม จันทรมาส โรงแรมที่สวยงามทั้งบรรยากาศและชายหาด ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยงามของเกาะพงัน  เพียบพร้อมด้วยการบริการเหนือระดับพิถีพิถัน อบอุ่นและมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยในทุกมิติ ประกอบด้วยห้องพักทั้งสิ้น 48 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักประเภทดีลักซ์ พูลวิลล่า และพูลวิลล่าสวีท ภายในรีสอร์ทครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก  ไฮไลท์ก็คือสระว่ายน้ำวิวทะเล ผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำการพักผ่อนภายในรีสอร์ตอย่างไม่รู้เบื่อ กับอาหารอร่อยล้ำที่ร้านอาหารและบาร์ของรีสอร์ตที่มีให้เลือกหลากหลาย

จันทรมาส รีสอร์ท แอนด์ สปา หรูหรา มีหลากหลาย Type ภายในห้องพัก มีอ่างอาบน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ กว้างขวาง สะอาด มีความส่วนตัว และเหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง กิจกรรม โรงแรมจะมีพื้นที่สำหรับ Co – Working Space” ติดทะเล ผู้พักสามารถเข้าไปใช้ทำกิจกรรมในการทำงาน อ่านหนังสือ ประชุมได้อย่างเต็มที่ และมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมบริการในระหว่างทำงานอีกด้วย ภายในรีสอร์ทมี สระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหารติดทะเล มี อาหารไทย ฝรั่ง และ ค็อกเทลพร้อมให้บริการ สำหรับผู้พักทุกท่าน
จันทรมาส รีสอร์ท แอนด์ สปา หรูหรา มีหลากหลาย Type ภายในห้องพัก มีอ่างอาบน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ กว้างขวาง สะอาด มีความส่วนตัว และเหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง กิจกรรม โรงแรมจะมีพื้นที่สำหรับ Co – Working Space” ติดทะเล ผู้พักสามารถเข้าไปใช้ทำกิจกรรมในการทำงาน อ่านหนังสือ ประชุมได้อย่างเต็มที่ และมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมบริการในระหว่างทำงานอีกด้วย ภายในรีสอร์ทมี สระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหารติดทะเล มี อาหารไทย ฝรั่ง และ ค็อกเทลพร้อมให้บริการ สำหรับผู้พักทุกท่าน

Private Pool Villa Sea View

  • Supreme Deluxe with Jacuzzi
  • Supreme Deluxe
  • Deluxe Room with Bathtub

บริหารงานโดยคุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นช็อปที่นำสินค้าน่ารักๆ มาไว้บริการ มีมุมสปา มุมฟิตเนส สระว่ายน้ำ มุมสันทนาการของห้องอาหารริมหาดขาวนวล บอกเลยว่า มันว้าว! มากจริงๆ

คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ

Happy – Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา
บริเวณถนนเลียบชายหาด ท้องศาลา วันนี้มีการจัดตลาดนัดด้วยจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนชาวพะงัน ร้านรวงส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นถิ่น ผลไม้หลากชนิดและเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึกใกล้กัน บริเวณ ลานตัวหนอน ถูกเนรมิตให้ เป็นลานจัดการแถลงข่าว Happy Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา พื้นที่แบ่งเป็นโซน มีการออกบูธจัดแสดงงานวิถีพื้นถิ่น มีการแสดงดนตรีโดยศาสตร์ ปรับสมดุลด้วยความถี่เสียงและแสง (Sound Healing Journey) การฝึกลมหายใจ (Breathwork) รวมทั้งการเเสดงศิลปะ วัฒนธรรมไทย อาทิ รำโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง ด้านวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นเพื่อสุขภาพ และการสาธิตการสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติและงานแสดงผลงานศิลปะแขนงต่างๆ
การตระเตรียมลานสำหรับรับพลังแห่งจันทรา เป็น Circle และก่อนจะเริ่มงาน ได้มีการจัดกินห่อ ซึ่งเป็นวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเกาะพะงัน อาหารที่เราล้อมวงนั่งกินห่อ เป็นอาหารพื้นถิ่น ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดฟูลมูนปาร์ตี้

Happy Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา

กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2531 ปาร์ตี้ที่เริ่มขึ้นจากมิตรภาพ ความรัก ความผูกพันของชาวบ้านกับนักท่องเที่ยวที่มาพักอาศัยเลี้ยงส่งเพื่อนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในเกาะพะงัน โดยพาราไดซ์ บังกะโล หาดริ้น เป็นสถานที่แรกที่ฟูลมูนปาร์ตี้จัดขึ้น โดยคุณสุทธิ เกื้อสกุล ครั้งนั้นจัดงานเลี้ยงส่งแฟนสาวและเพื่อนที่มาพักที่บังกะโล มีการทำอาหาร ปิ้งปลา ก่อกองไฟเล็กๆ หน้าชายาด เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านทำกันเป็นประจำหรือที่เรียกกันว่า กิจกรรมกินห่อ ประกอบกับคืนนั้นเป็นคืนขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ทุกคนต่างดื่มด่ำกับบรรยากาศและเต็มไปด้วยความสนุกสนา ร้องเพลง เล่นดนตรี หลังกจากนั้นก็มีการจัดขึ้นอีกในวันขึ้น 15 ค่ำของเดือนถัดมา เพื่อรำลึกถึงเพื่อนๆ บรรยากาศ เดิมและต่อมาก็ขยายพื้นที่สร้างความสนุกสนานกันตลอดมา และวันนี้เราก็มีโอกาสนั่งร่วมวง ชิมอาหารแบบกินห่อของชาวเกาะพะงัน ซึ่งประกอบด้วย หมูโค ซึ่งสมัยก่อนไม่มีตู้เย็นการถนอมอาหารที่ทำได้และเก็บไว้ได้นาน คือ หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่เกลือแล้วใส่น้ำตั้งไฟ เคี่ยวจนกระทั่งแห้ง น้ำในหมูกับน้ำมันหมูก็จะอกมา น้ำมันติดกระทะเอาข้าวลงไปคลุกก็ได้ข้าวผัดมันหมูอีกถัดมาเป็นยำสาหร่ายข้อกับหอยกลม การหาหอยกลมเป็นกิจกรรมที่ชาวบ้านแถบตะวันตกของเกาะนิยมยามน้ำทะเลหน้าบ้านลดลง ส่วนสาหร่ายข้อมีค่อนข้างจำกัด ถ้าน้ำสูงหน้าลมว่าช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมจะหายาก สาหร่ายข้อเป็นอาหารปลาบางประเภทด้วย มีรสชาติอร่อย นำมายำกับมะพร้าวทึนทึก มะพร้าวคั่ว ใส่มะขามเปียก

นอกจากนี้ยังมี วายต้มยอดมะขาม โวยวายหรือปลาหมึกสายประจำถิ่นที่พะงัน พันธุ์ที่นำมาต้มนี้ใช้วายทรายหรือวายแดง พบในรูปโขดหินน้ำตื้น ปลาคั่ว เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของคนพะงัน นอกจากนี้ยังมีชะลอมนำใส่ขนมรวมกันมาให้ได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นขนมขี้หมาต้วง ขนมโบราณของชาวเกาะ ขนมไข่ปลา ขนมเทศกาลทำบุญเดือนสิบหรือวันตายาย ขนมเหนียวกวน ขนมถั่วแปบไส้มะพร้าวทึนทึก“เชิญนั่งล้อมวงเลยคะ กินห่อกัน” พี่โป่ง เรียกให้เราจับจองที่นั่งล้อมวงเติมข้าวกันอย่างสนุกสนานหลังจากนั้นพิธีการต่างๆ จึงเริ่มขึ้น ณ บริเวณ ลานตัวหนอน สถานที่ถูกจัดเป็นวงกลม การแสดงดนตรีแผ่วเบาจากชาวต่างชาติ ผสมผสานกับดนตรีที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมแดนใต้ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์รำมโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง การเล่นดนตรีไทย ร้องดนตรีไทยผสานดนตรีสากล การร่ายรำเพื่อรับพลังจากแสงจันทรา

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย เล่าถึงที่มาของงานว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ของเกาะพะงันที่ไม่ได้มีแค่ฟูลมูนปาร์ตี้ แต่พะงันยังมีวิถีชุมชน วิถีชาวเล วิถีมะพร้าวที่นี่ได้รับจีไอของประเทศไทยมีประเพณีกินห่อ หลังจากทำงานเสร็จก็จะมานั่งทานอาหารร่วมกัน และในวันนี้เรามาเที่ยวเกาะ จะมีหาดทรายที่สวยงาม ช่วงที่ไม่มีปาร์ตี้ ทรายขาวละเอียดอย่างไร? และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อย่างเช่น น้ำตกธารเสด็จ ที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นถึงสิบครั้ง
วิถีชุมชนในส่วนของการนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติให้สวยงาม ยั่งยืนเพื่อลูกหลานต่อไปในอนาคต

นอกจากนั้นแล้วที่นี่เป็นเหมือนชุมชนที่รวมพลังจากคนทั่วโลกที่เข้ามาหลอมรวมอยู่ร่วมกัน เราเคยเป็น workation เป็น work peace นอกเหนือจากที่ทำงานปกติ ติดอันดับหนึ่งของโลกมาแล้ว ว่าทำไมคนจากทั่วโลกจึงเลือกที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ มารวมกลุ่ม มาเป็นชุมชน มาเป็นครอบครัวเดียวกันที่นี่ จากต่างชาติต่างภาษา อีกทั้งเรื่องของอาหารการกิน ด้วยวัตถุดิบคุณภาพของพื้นถิ่น อาหารทะเลสดๆ ผักผลไม้สดๆ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้สุขภาพของเราดีทั้งกายและใจ ที่นี่ถือว่าเป็นเกาะแห่งแรงบันดาลใจ ซึ่งนอกเหนือจากจุดหลัก ของจุดขายเรื่องฟูลมูน พลังแห่งจันทรา มารับพลังเพื่อไปทำงานต่อ พลังต่อไปในการต่อสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิต มาพะงันแล้วจะรู้สึกถึงวิถีที่เรียบง่าย มาแล้วทุกคนจะหลงรัก …พะงัน”

…. เมื่อแสงแห่งจันทราเจิดจรัส พลังแห่งแรงศรัทธาถาโถมกลางใจ นานนับชั่วโมง จากเสียงดนตรีกระแทกกระทั้น สลับแผ่วเบา หลายคนเริ่มปลดปล่อย จิตวิญญาณ ผ่านจังหวะของดนตรี ผู้คนจากทั่วสารทิศ ทั่วทุกมุมโลกที่อาศัยอยู่บนเกาะพะงัน ต่างเดินทางมาร่วมงาน ดื่มด่ำหลอมรวมหัวใจไว้ด้วยกัน
นับเป็นครั้งแรกของการได้เห็นถึงพลังศรัทธาที่หลอมรวมจิตวิญญาณของผู้คนที่มารวมกันที่นี่ บอกเลยว่า พลังแห่งจันทรา แรงกล้าจริงๆ

ด้าน คุณ สาว – ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่าเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมาเยือนเกาะพะงันเป็นเวลากว่า 35 ปี มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของเกาะพะงัน สถานที่น่าสนใจ และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์
ทั้งนี้ เกาะพะงันยังมีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของป่า ภูเขา ทะเล หาดทรายและน้ำตกที่มหัศจรรย์ ชุมชนชาวพะงันยังมีวิถีชาวเกาะที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น ความเชี่ยวชาญ ที่หลากหลาย รวมถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชน เหล่านี้ที่ทำให้เกาะพะงันคงมนต์เสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน มากขึ้นทุกปี

เกาะพะงันยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนในมิติจิตวิญญาณและสุขภาวะองค์รวม (Spiritual, Wellness and Well-being) ยังจะเห็นได้จากการที่ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาค้นหาตัวตน และจิตวิญญาณอันล้ำลึก มาเรียนรู้ผ่านศาสตร์ และศิลป์ เยียวยาบำบัด รวมถึงเชื่อมโยงกับตัวเองผ่านเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
และธรรมชาติเพื่อสมดุลแห่งสุขภาวะองค์รวม “หลังวิกฤติโควิด-19 การดูแลสุขภาวะองค์รวม กายและใจเป็นทางเลือกที่สังคมโลกหันกลับมาใส่ใจมากขึ้น กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในเกาะพะงันจึงต้องการที่จะสร้างภาพความทรงจำและประชาสัมพันธ์เกาะพะงันในอีกมิติหนึ่ง นอกเหนือจากภาพเทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้ เพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงันที่ยั่งยืน โดยมีสุขภาวะทางใจและกายที่สมดุล

นอกจากนี้ เกาะพะงันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ผสมผสานความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของชุมชนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชาวพะงันให้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันวิถีชาวเกาะ เช่น วัฒนธรรม อาหาร ศิลปะการเเสดง ดนตรี ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย มีความเป็นเอกลักษณ์ ให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมทั้งกระจายรายได้ให้ชุมชนเกาะพะงัน”

… ค่ำคืนนี้ จึงเป็นค่ำคืนที่บอกเลยว่า อะเมซิ่งคะ สุดอะเมซิ่งจริงๆ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกกับการร่วมงาน นี่ขนาดแค่งานแถลงข่าวยังจัดเต็มและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แล้วเมื่อถึงวันเทศกาลในต้นปีหน้าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนหนอ ( เราแอบคิดในใจ)

… เช้าวันใหม่ การตระเวนรอบเกาะพะงันเพื่อสัมผัสวิถีของชุมชน เริ่มขึ้นที่แรกคือไปยังท่าเรือ โฉลกหลำ บริเวณใกล้เคียงมีร้านรวงจำหน่ายอาหารทะเลแห้ง หมึกกะตอยแห้ง ปลาอินทรีย์ ร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ แต่ด้วยเพราะหมึกกะตอยแห้งที่นี่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก ทำให้มีการจับจองกันจน …
“เหลืออยู่ถุงเดียวคะ” นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาไปหาแหล่งจำหน่ายใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ไม่ไกลกันนัก รถตู้ก็พาเรามาหยุดณ บ้านหลังหนึ่ง เรียกว่าเข้าหลังบ้านกันเลยทีเดียว เพราะที่นี่มีสินค้าที่หลายคนอยากได้ เสียงต่อรองราคากันโขมงโฉงเฉง
“หนูเอาโลนึง”
“ซื้อโลแล้วมาแบ่งกันมั๊ย”
“ปลากุเลา และปลาอินทรีย์ แบบตากแห้ง น่าทานมาก”

สมาชิกคณะเดินทางส่งเสียงกันฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง สถานนีต่อไปไร่ เตียวิเศษหลังจากอุดหนุนชุมชนกันคนละถุงสองถุง เราก็เดินทางกันต่อไปยัง ไร่เตียวิเศษ RAITIAVISET ORGANIC FARM ที่นี่ คุณดวงเด่น เตียวิเศษ พาคณะเดินชมพลางเล่าให้ฟังถึงที่มาของ ไร่เตียวิเศษว่า “เมื่อ 14 ปีก่อน เริ่มจากการทำเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มองว่า เรามีพื้นที่ว่าง 3 ไร่ ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์และลดค่าใช้จ่ายได้ ก็เริ่มปลูกผักแล้วหลังจากนั้นก็ไปอบรมเรื่องการปลูกผัก โชคดีได้เจออาจารย์จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ปี 2560 ก็รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จีพีเอสเกาะพะงัน และอบรมให้กลุ่มสมาชิกของเรา ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกสิบราย มีการรวบรวมผลผลิตมาวางขายที่ไร่เตียวิเศษ

ไร่เตียวิเศษ RAITIAVISET ORGANIC FARM

ภายในไร่แบ่งโซนเป็นฐานเรียนรู้ทั้งหมด 11 ฐาน มีบ้านที่อยู่อาศัยและบ้านเช่าห้าหลัง ในพื้นที่ที่เราทำเกษตรอินทรีย์แนวคิดเกษตรพอเพียง มีเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่โดยผักตบชวา มีการทำน้ำมันมะพร้าว ทำผลิตภัณฑ์ มีช็อปสำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อป ผลิตภัณฑ์น้ำมันตะไคร้ไล่ยุง ฐานทำน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งทางไร่เน้นการหมุนเวียนทรัพยากรที่เหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือไม่ให้เหลือทิ้ง”หลังจากคณะเยี่ยมชมและอุดหนุนผลิตภัณฑ์เรียบร้อย เราก็เดินทางกันต่อไปยัง Longtail Beach Resort ที่นี่ห้องหับส่วนใหญ่จะถูกตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหลือใช้ ทั้งโคมไฟ ที่แขวนเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาจากงานแฮนด์เมดแทบทั้งสิ้น ที่นี่เปิดบริการมานานและเป็นหนึ่งในสถานที่พักที่รองรับนักท่องเที่ยวที่มาอยู่เกาะพะงันและติดเกาะอยู่ในช่วงโควิด รวมถึง “จันทรมาส” รีสอร์ทแอนด์สปา ของคุณฉันทนา นายกสมาคมฯ และ โรงแรมอื่นๆ ภายในเกาะพะงัน ด้วย
ช่วงเดินเลาะเลียบริมหาดของ Longtail Beach Resort บริหารงานโดย พี่โอ๋

Longtail Beach Resort บริหารงานโดย พี่โอ๋

คุณนฤมล ใหม่โสภา ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงัน อดีตนายกสมาคมโรงแรมฯ เล่าให้ฟังถึงการจัดการในช่วงโควิด ปี 2562 ว่า “ในช่วงโควิด มีนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนเกาะพะงันราวสองพันกว่าคน เขากลับประเทศไม่ได้ ทางสมาคมฯ จึงร่วมกับทางหน่วยงานของรัฐ ดูแลเรื่องที่พักโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดูแลเหมือนเขาเป็นคนในครอบครัว ปลูกผักก็ปลูกด้วยกัน เก็บผักไปทำอาหารด้วยกัน เกาะพะงันไม่เคยปิด ยังเปิดรับตลอดเพียงแต่มีเครื่องสแกนการเข้าออกเพื่อป้องกัน

โดยเป็นงบของทางภาคเอกชนลงเงินช่วยกันซื้อเครื่อง สแกนตั้งแต่ทางเข้าหน้าบ้านคือที่ท่าเรือ ทำเหมือนสนามบิน มีรายงานทุกวัน โดยแยกว่า คนไทยจำนวนเท่าไหร่ จึงมีการสำรวจเพิ่มเติมว่า มีฝรั่งตกค้างอยู่ที่เกาะพะงันจำนวนเท่าไหร่ พอทราบจำนวนจึงมีการหาอาหาร และหาอะไรให้เขาทำระหว่างนั้นเพื่อไม่ให้เครียด เราทำสองจุดคือ เรื่องดูแลที่อยู่ อีกจุดหนึ่ง คือ เพ้นท์สีบนลูกมะพร้าว เป็นที่มาของ “อาร์ตติดเกาะ” ตลาดชื่ออาร์ตติดเกาะ

”อาร์ตติดเกาะ” นำเอาทางมะพร้าวที่มีหัวช่วงบนไปเพนท์เป็นหน้ากากหรือรูปคนเพื่อตกแต่งและนำฝรั่งไปเพ้นท์ ตอนนั้นฝรั่งไม่รู้จะทำอะไรก็นำไปเพ้นท์เพื่อผ่อนคลายและแลกกับการเลี้ยงชีพ มีการเลี้ยงอาหาร เป็นการช่วยเหลือกันและกัน อีกกลุ่มหนึ่ง คือฝรั่งที่อยู่ในเกาะเราพาไปปลูกผักก็เกิด “ไร่วิถีพะงัน”
หลังจากนั้นพี่ก็ประสานไปทาง ททท. ซึ่งเราต้องดูแลคนกลุ่มนี้ จริงๆ เราจะมีการรวมกลุ่มตั้งวอร์รูมที่ท่าเรือ มีจุดที่จะแจกอาหารใกล้ท่าเรือหนึ่งจุด และทางสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันจะสำรวจหมดเลย เราไม่เคยปิดเกาะ ใครเข้าก็ได้ แต่เรามีเครื่องมือในการสแกนคนเข้าเกาะ มีกลุ่มอสม. ภาครัฐเอกชนประชุมด้วยกัน และมีติดตามสำหรับประเทศกลุ่มสีแดง เหลืองเขียว มีระบบติดตาม ต้องทำรายงานให้อสม ทุกวันสิ่งที่เกิดขึ้น 3 สิ่งในช่วงโควิด และมาจนถึงปัจจุบัน คือ ไร่วิถีพะงัน อาร์ตติดเกาะ และ Community ของ workation รวมถึง
มีการตั้งทีม Trash Hero คือกลุ่มคนไทยและต่างชาติที่รวมตัวกันช่วยกันเก็บขยะ จะมีกิจกรรมทุกๆ 15 วัน”

โรงแรมปานวิมาน โรงแรมระดับสี่ดาวแห่งแรกในเกาะพะงัน

เสร็จสรรพก็เดินทางกันต่อ โรงแรมปานวิมาน โรงแรมระดับสี่ดาวแห่งแรกในเกาะพะงัน โดยมีจีเอ็มให้การต้อนรับ พร้อมดูแลสนับสนุนอาหารมื้อกลางวันหน้าตาสวยงามแบบ warmly welcome โดยเสริฟเป็น เมนู เมี่ยงคำ เสต็กปลากะพงซอสพริกแกง แกงเลียง ไข่ตุ๋นผักรวม ข้าวไรส์เบอร์รี่ ตามด้วยของหวาน กล้วยต้ม มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย งาดำและงาขาว

หลังจากนั้นไปเยี่ยมชมหาดทรายขาวชื่อดัง หาดริ้น เป็นชายหาดที่สวยและมีชื่อเสียงของเกาะพะงัน ความยาวของหาดประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณหาดมีร้านอาหาร ร้านสปา บาร์ต่างๆ มากมาย สถานที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งมีการบริหารจัดการทำความสะอาดหาดทรายหลังจากการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ เป็นไปอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมาก โดยมีเครื่องมือการทำความสะอาดพื้นทรายนำเข้ามาประเทศเยอรมันในการทำความสะอาดพื้นผิวทราย เรียกว่า เข้ามาจะมองแทบไม่ออกเลยว่า เมื่อค่ำวานนี้ มีงานปาร์ตี้ที่มีคนจำนวนมากมายมากระโดดกันแทบเกาะถล่ม แต่เช้ามา กลับมองไม่เห็นสิ่งสกปรกใดๆ บนหาดทรายขาว อะเมซิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวกับการได้พบเจอ

ก่อนขึ้นเรือ Lomprayah High Speed Ferries กลับยังสนามบินเกาะสมุย ทีมงานได้มีโอกาสเยี่ยมชมและกินไอติมมะพร้าว ที่ร้าน ซาติมิ บริหารงานโดย คุณสารภี ธิติภาทร เป็นไอศกรีมทำเองสัญชาติไทย ไอศกรีมมะพร้าวเกาะงัน ตั้งอยู่ที่เกาะพงัน เนื้อสัมผัสไม่เหนียวและไม่เบาจนเกินไป ไอศกรีมไม่ใส่สีแต่งกลิ่น และเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ด้วยราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

… ต้องบอกตรงนี้เลยว่า การเปิดประสบการณ์หลังผลกระทบจากโควิด19 มาสัมผัสบรรยากาศริมทะเล งาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา” ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการเที่ยวเกาะพะงันของเราไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเรื่องของการเที่ยวในแบบธรรมชาติ แบบสุขภาพเพื่อสุขภาวะแบบองค์รวมและจิตวิญญาณ หรือจะเป็นการเที่ยวในแบบชุมชนวิถี หลายสิ่งที่เกิดขึ้น…หลายสิ่งที่ได้สัมผัส เผยให้เห็นถึงศาสตร์และศิลป์ของพะงันที่งดงามไม่ใช่เพียงแค่หาดทรายขาว …ท้องทะเลแสนสวย รวมไปถึงความน่ารักของชุมชนคนบนเกาะพะงัน ที่หลอมรวมความรักความหวงแหนแผ่นดินแห่งนี้เอาไว้ด้วยกัน …และที่สำคัญ ในปลายเดือนมกราคม 2567 เกาะพะงัน เตรียมเปิดเกาะรับเทศกาล Awakenest Festival ยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกของไทย ถือเป็นงานที่รวบรวมกิจกรรมแห่งศาสตร์และศิลป์ เพื่อบำรุงกาย ใจ และจิตวิญญาณ เพื่อการสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ให้ตัวเอง ชุมชน และธรรมชาติ

…. และความงดงามจะยิ่งใหญ่ อลังการขนาดไหน เมื่อผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกจะมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อรับพลังแห่งแรงบันดาลใจ พลังแห่งแสงจันทร์ดังที่เราได้เห็นสัมผัสกับบรรยากาศเมื่อค่ำวาน … ความอัศจรรย์ใจเกิดขึ้นทุกขณะของการได้ชม … เอาเป็นว่า ลง book เอาไว้เรียบร้อย… จะพลาดได้ไง งานระดับโลกครั้งแรกของประเทศแบบนี้ มาแล้วบอกเลยว่า …คุณจะหลงรัก …พะงัน

HKTDC จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong

องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong ขนทัพสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมจากฮ่องกงสู่ประเทศไทย เปิดโอกาสฮ่องกงร่วมมือธุรกิจไทย ในงานแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่แห่งปี

4 กรกฎาคม (กรุงเทพ ประเทศไทย) – องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) กำลังจะมีจัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong (TBTHK) ณ ใจกลางกรุงเทพมหานครในเดือนนี้ งานดังกล่าวได้นำเสนอฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรม ที่เปิดโอกาสให้แก่ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 13-14 กรกฎาคม ณ เซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด กลุ่มธุรกิจทั้งไทยและฮ่องกง จะได้รับโอกาสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจผ่านงานแสดงสินค้า สัมมนา และกิจกรรมเฟ้นหาเครือข่ายทางธุรกิจ


นาย โรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง กล่าว “สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) มีประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ทางธุรกิจอันแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานกับฮ่องกง และเป็นคู่ค้าทางการค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสอง งาน TBTHK ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ จะนำเสนอสินค้าและบริการจากฮ่องกงในอาเซียน อีกทั้งเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมการค้าระดับภูมิภาค ค้นหาคู่ค้าเพื่อลงทุน และสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและห่วงโซ่อุปทานแบบผสมผสาน

“เป้าหมายหลักของเราคือการชูจุดแข็งของฮ่องกงในด้านสินค้าและบริการ และแนะนำเสนอการพัฒนาด้านต่างๆ ของฮ่องกง เพื่อแสดงให้กลุ่มธุรกิจไทย มองฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางธุรกิจนานาชาติชั้นนำ และในฐานะแพลตฟอร์มทางธุรกิจและการลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าอย่างสูงสุดในประเทศจีน ในขณะเดียวกัน เราต้องการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มธุรกิจไทยและฮ่องกงสามารถร่วมมือกันสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่กันและกัน และรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการค้าอย่างยาวนานได้”

“โอกาสเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยหน่วยงานรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีวิสัยทัศน์ เช่นเดียวกับข้อตกลงทางการค้า เช่น เขตการค้าเสรี (FTAs) และ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ที่ช่วยประสานความร่วมมือในระดับภูมิภาค” นายโรนัลด์กล่าว

ฮ่องกงเป็นภูมิศาสตร์สำคัญของเอเชีย และทำหน้าที่ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับนานาชาติ ด้วยข้อได้เปรียบที่เด่นชัดต่างๆ ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือด้านระบบกฎหมาย การเงิน การลงทุน และภาษี ช่วยผลิตสินค้าและบริการการค้าคุณภาพสูงและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจและพัฒนาทางธุรกิจ ที่เชื่อมไปสู่ประเทศจีน ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอื่นๆ

ฮ่องกงเป็นสะพานระหว่างประเทศจีนและส่วนอื่นๆ ของโลก โดยมีบทบาทในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับกระแสเงินทุน สินค้า ข้อมูล และผู้คน เป็นสิ่งที่สำคัญเสมอมา แผนพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการ Belt and Road Initiative และเขตเศรษฐกิจ Guangdong-Hong Kong-Macao Greater Bay Area (GBA)
แผนพัฒนาเหล่านี้ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ขยายบทบาทของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การค้า การขนส่ง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม กล่าวได้ว่า ฮ่องกงเป็นพาร์ทเนอร์ในอุดมคติของบริษัทในไทยที่ต้องการค้นหาโอกาสจากเขตเศรษฐกิจพิเศษของฮ่องกงและตลาดนานาชาติ

ในปีนี้ งาน TBTHK จะเป็นแพลตฟอร์มแบบองค์รวมที่ธุรกิจการค้าของไทยจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของฮ่องกง ในฐานะประตูสู่โอกาสในประเทศจีนและตลาดระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ทางการค้าอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและฮ่องกง งานแสดงสินค้า (Trade Expo) ในครั้งนี้จะนำแสดงสินค้าคุณภาพสูงจากกว่า 100 บริษัท รวมถึง Chow Tai Fook, Green Common, B.Duck, Vita Green, Memorigin, Smart City consortium และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทจากฮ่องกงแนะนำสินค้าเหล่านี้สู่ตลาดภูมิภาค ในขณะเดียวกัน บริษัทจากไทยจะได้โอกาสพบปะกับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อการร่วมงานกันในอนาคต

ในระหว่างการรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนในครั้งนี้ บริษัทสินค้ามากมายจากฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น บริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ บ้านและของขวัญ ความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่างได้แสดงตัวอย่างงานแสดงสินค้าให้สื่อมวลชนได้รับทราบ

สินค้าที่จัดแสดงในงานประกอบด้วย

  • กระเป๋าผ้า Kapture ซึ่งผสานเทคโนโลยีแอนตี้ไวรัส BioNTex™ และผ้า upcycled จากการผลิตผ้า
  • กระบอกน้ำสุญญากาศ Camel ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีสุญญากาศมาตั้งแต่ปี 1940
  • นาฬิกา Temporis ที่มีดีไซน์ทันสมัย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ประดับด้วยคริสตัล K1 แทนกระจกเทมเปอร์ นับเป็นการยกระดับสินค้าเมื่อเทียบกับนาฬิกาข้อมือยี่ห้ออื่นๆ ในกลุ่มราคาเดียวกัน
  • นาฬิกา Romago เป็นนาฬิกาแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เริ่มธุรกิจจากการสร้างนาฬิกาหรูแบบสั่งทำเฉพาะ ปัจจุบัน แบรนด์ให้ความสำคัญกับนาฬิกาที่โดดเด่นด้านดีไซน์โก้หรู โดยใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ในการพัฒนานาฬิกาดำน้ำ
  • Derangedsign เป็นสตูดิโอออกแบบสินค้าจากฮ่องกง ที่จะจัดแสดงชุด Coexistence ซึ่งประกอบไปด้วยถาด 2 ใบที่ถูกแกะสลักเป็นรูปทรงภูมิทัศน์ เหมาะสำหรับเสิร์ฟผลไม้ ลูกอม ถั่ว และอัญมณี ชุดถาดเซ็ทนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย
  • B.Duck เป็นแบรนด์สินค้าออกแบบลิขสิทธิ์ชื่อดังจากบริษัท Semk Products Ltd. จะนำเสนอโคมไฟรูปเป็ดอันโด่งดัง

นอกจากนี้ จะมีการจัดช่วงการเสวนา (Trade Talks) ระหว่างช่วงจัดแสดงงาน ซึ่งจะเน้นย้ำข้อได้เปรียบของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการค้า ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มสินค้าปลีก องค์กร และบริษัทนวัตกรรมที่จะมาร่วมกันในช่วงการเสวนาเพื่อพูดคุยในหัวข้อต่างๆ อาทิ การรังสรรค์อนาคตของการค้าปลีก การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยลิขสิทธิ์ การเปลี่ยนโฉม E-commerce และ การโอบรับความยั่งยืนและ ESG

วันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงาน จะมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัล ซึ่งรวมไปถึงสมาร์ทโฟน นาฬิกาTourbillon แท็บเล็ต และของรางวัลอื่นๆ ผู้ร่วมงานยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินในช่วงระยะเวลาวันงาน นอกจากนี้ ยังมีโฟโต้บูธซึ่งมีฉากหลังเป็นตึกอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง พร้อมด้วยรถตุ๊กตุ๊กติดป้าย TBTHK ที่จะทำให้ผู้ร่วมงานดื่มด่ำไปกับประสบการณ์แสนสนุก อีกทั้งเป็นการโปรโมตวัฒนธรรมของฮ่องกงและฉากอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยเข้าด้วยกันอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.hktdc.com/aboutus
ติดตามเราได้ที่ Twitter @hktdc และ LinkedIn