Category Archives: Travel

Travel-Food-Drink-Party

ททท. จัดกิจกรรม Mega Fam Trip เพื่อตอกย้ำคำพูดที่ว่า ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ประจวบคีรีขันธ์

เมื่อวันที่ 27-29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง นำโดย นายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อํานวยภูมิภาค ภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นำคณะสื่อมวลชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวร่วมห้าสิบกว่าชีวิต เพื่อเดินทางไปสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวกับกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเพื่อตอกย้ำคำพูดที่ว่า … ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมค้นหาแหล่งเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ การเดินทางที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติและสภาพอากาศและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ กิจกรรมนี้จะช่วยเร่งผลักดันการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทยของพื้นที่

เช้าตรู่ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 รถตู้ 8 คัน เตรียมพร้อมด้านหน้าอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หลังเช็คชื่อเสร็จก็ต้องถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกก่อนออกเดินทางและแล้วก็ได้เวลาล้อหมุน นำพาขบวนรถตู้ มุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยจุดแรก วัดอ่าวน้อย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอ่าวน้อย ตำบลอ่าวน้อย
วัดอ่าวน้อย วัดสวย ประจวบคีรีขันธ์ สักการะ ขอพร ถ้ำพระนอน โดดเด่นด้านความงดงามของอุโบสถไม้สัก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวจากเมียนมา มีภาพวาดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนารอบผนังโบสถ์และมีรูปปั้นพญานาคล้อมรอบอุโบสถส่วนฝั่งตรงข้ามบนภูเขาด้านติดทะเลอ่าวน้อย จะมีถ้ำพระนอน อ่าวน้อยคือ ถ้ำพระนอน ที่ตั้งอยู่บนภูเขาฝั่งติดทะเลอ่าวน้อย นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นไปตามบันได พร้อมชมวิวทะเลจากมุมสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีจุดพักให้หนึ่งจุดสำหรับคนที่เดินระยะยาวไม่ไหว …

หากจะขึ้นไปสักการะก็เดินขึ้นไปตามขั้นบันไดราว 10-15 นาที ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ศิลปะร่วมสมัยอู่ทอง-รัตนโกสินทร์ ห่มจีวรเหลืองลักษณะเดียวกันเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามและหาชมได้ยาก ในอดีตถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่ชาวเรือมักเข้ามาอาศัยหลบพายุฝนอีกด้วย

วัดอ่าวน้อย
215 ตำบล อ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์ 77000
พิกัด : https://goo.gl/maps/9GyvLLnwv9434Qrb9
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ (Prachuap Khiri Khan City Pillar Shrine)
หลังจากทานอาหารมื้อแรกกันที่ อ่าวน้อยซีฟู้ด ก็เดินทางกันต่อไปยัง ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสละชีพ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด เป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ และยังเป็นศาลหลักเมืองที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ที่นี่ คุณสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะผู้ดูแลศาลหลักเมืองและผู้บริหารของเมือง ให้การต้อนรับคณะของเราอย่างอบอุ่น พร้อมกับเตรียมข้อมูลประวัติความเป็นมาของศาลหลักเมืองให้ผู้มาเยือนได้รับรู้ถึงความสำคัญของสถานที่

โดยศาลแห่งนี้ ออกแบบเป็นศิลปะแบบลพบุรี มีจตุรมุขยอดปรางค์ 9 ชั้นตามแบบสยามลพบุรี ชั้นสูงสุดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและชั้นที่เหลือประดิษฐานองค์เทพต่าง ๆ ส่วนหน้าบันแรกนั้น เป็นรูปรอยตราพญาราหูอมจันทร์ และหน้าบันที่เหลือประดิษฐานองค์เทพล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วสองชั้นองค์หลักเมืองมีนามว่า “จตุโชค” ทำจากไม้ตะเคียน ส่วนยอดแกะเป็นรูป 4 เศียร 4 พักตร์ ศิลปะศรีวิชัย และลงรักปิดทองด้วยอัญมณีทั้งองค์ ศาลหลักเมืองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในสมัย ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในขณะนั้น และวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2536 ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์เป็นประธานศาลหลักเมืองแห่งนี้

ศาลหลักเมือง ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/uHGx3NNeC1fSwMTY8
เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.

คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ & ร่อนทองบางสะพาน ทองนพคุณ

หลังจากสักการะศาลหลักเมืองเป็นสิริมงคลแก่คณะกันแล้วก็เริ่มเดินทางกันต่อ คราวนี้ไปยังพื้นที่ที่มีการร่อนทองแถบบางสะพาน ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีแหล่งร่อนทองหลายแห่ง แต่ที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งร่อนทองแล้ว ยังพัฒนาสถานที่ผืนดินแห่งนี้ให้เป็นที่กางเต๊นท์ และบริการร่อนทองพร้อมกับเปิดร้านกาแฟเล็กๆ รองรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเข้ามาสัมผัสกับชุมชนวิถีในอดีตด้วย บริหารโดย คุณพัชรินทร์ สุขสุรัตน์ หรือแอปเปิ้ล เจ้าของคาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ อดีตพนักงานแบงค์ที่ผันตัวเองมาเริ่มต้นธุรกิจในบ้านเกิด

จากข้อมูลตำนานการร่อนทอง… เล่ากันต่อมาว่า มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบรมโกศ ปี 2289 ผู้ตั้งเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก 3 ตำลึง ถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์จึงเกณฑ์ไพร่จำนวน 2,000 กว่าคน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็นเวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก 90 ชั่งเศษ คิดเป็นน้ำหนัก 54 กิโลกรัม หรือ 3,600 บาทในสมัยนั้น จากนั้นนำทองทั้งหมดไปแผ่เป็นทองแผ่นใหญ่หุ้มยอดมณฑป พระพุทธบาทสระบุรี

สำหรับคุณสมบัติของทองบางสะพานหรือทองบางตะพานมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ทองนพคุณ’ หรือ ‘นพคุณเนื้อเก้า’ เป็นทองที่พบในธรรมชาติ ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องถลุงจะเห็นเป็น ‘Nuggest’

“เตรียมอุปกรณ์ร่อนทองเอาไว้ทางนี้เลยคะ” คุณแอปเปิ้ล บอกกับคณะหลังจากกล่าวต้อนรับและบอกเล่าถึงความเป็นมาของ “คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์”

“วิธีร่อน แบบนี้นะคะ” เจ้าของแคมป์คนเดิม เดินลงมาชี้แนะ ให้กับนักท่องเที่ยว ที่ต่างขะมักเขม้นกับการเริ่มร่อนทอง สำหรับการมาร่อนทอง เพียงแค่คุณเตรียมชุด เป็นกางเกงขาสั้น เท่านั้น เรียกว่ามาแต่ตัว อื่นๆ ที่นี่เตรียมไว้ให้ทั้งหมดหากใครที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้โชว์ท่าร่อน แต่อยากได้ทองนพคุณไว้ครอบครอง ทางคุณแอปเปิ้ลก็มีให้บริการ โดยเลี่ยมใส่กรอบเอาไว้ให้สำหรับการบูชา เนื่องจากเป็นทองนพคุณ สนนราคาก็ไม่แพง ส่วนจะเท่าไหร่ หรืออย่างไรสามารถติดตามได้ทางเพจ คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์

ร่อนทองบางสะพาน ถือว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในไทย เพราะ สถานที่แห่งนี้ มี สิ่งล้ำค่า อยุ่ในดิน คือทองบางสะพานนั่นเอง เป็นพื้นที่เดียวที่มีทองให้ร่อน สามารถหาทองได้ตามคลองบริเวณนั้น สามารถหาทองโดยการร่อนไม่ต้องผ่านการถลุง

1.เป็นทองบริสุทธ์ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หาเจอได้ด้วยการร่อน
2.เป็นทองคำที่ดีทีสุดในประเทศไทยและในโลก
3.เป็นทองที่มีเนื้อทองอ่อน สุกปลั่ง 100%
4.เป็นทอง100% ทองเนื้อเก้า
5.เชื่อกันว่าสามารถป้องกันภัยอันตราย. และภูตผีปีศาจ.
6.เชื่อกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ บูชาแล้วรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้น
7.หายากมาก และในอนาคตอาจไม่มี

การติดต่อร่อนทอง
1. กำหนดวันกับผู้ร่วมทริป แล้วแจ้งแอดมินทางเพจ. ล่วงหน้า1-2วัน เพื่อแอดมินจัดคิววิทยากรให้ท่านได้ เมื่อได้คิววิทยากรแล้ว แอดมินจะแจ้งเบอร์โทรวิทยากรให้ได้บริการความสะดวกลูกค้า

2. ค่าบริการ เช่าเพียงอุปกรณ์ 100บาท/วัน (พร้อมสอนวิธีการร่อน การดูดิน การสังเกตุทอง )
-เตรียมชุดพร้อมเลอะพร้อมเปียก. หมวก เสื้อแขนยาว มาให้เรียบร้อย

3.สถานที่กางเต้น ค่าใช้จ่ายการแคมป์ปิ้ง
ค่ากางเต้นท์. หัวละ. 50 บาท. / คืน

ค่าใช้จ่ายการร่อนทอง

5 ค่าบริการปิคนิค. หัวละ 50 บาท รายได้เป็นของวิทยากรที่ช่วยสอนซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชนเป็นการช่วยหารายได้ให้ชาวบ้านคาเฟ่บ้านฝั่งคลอง ถือว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในไทย เพราะ สถานที่แห่งนี้ มี สิ่งล้ำค่า อยุ่ในดิน คือทองบางสะพานนั่นเอง เป็นพื้นที่เดียวที่มีทองให้ร่อน สามารถหาทองได้ตามคลองบริเวณนั้น สามารถหาทองโดยการร่อนไม่ต้องผ่านการถลุง นอกจากมีทองให้ร่อนกันแล้ว ยังมี เสาไฟฟ้าแรงสูงที่่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพราะ ตรงที่เสาลงนั้นเป็นเสาหักมุม เลยต้องมีขนาดใหญ่กว่าเสาอื่นๆ มีแหล่งน้ำคลองไหลผ่าน ให้เราได้เล่นคลายร้อน ในคาเฟ่ มีน้ำ มีขนม เปิดให้กางเต้นท์นอนกอดธรรมชาติ นอนให้ธรรมชาติกอด เพราะคาเฟ่เราอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ ฝากคาเฟ่เล็กๆคิดจะพักคิดถึงคาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์

สำหรับลูกค้าที่ต้องการร่อนทองมีค่าบริการ

  • เช่าเพียงอุปกรณ์ 100บาท/วัน (สอนวิธีการร่อน การดูดิน การสังเกตุทอง )
  • เตรียมชุดพร้อมเลอะพร้อมเปียก. หมวก เสื้อแขนยาว มาให้เรียบร้อย
    เส้นทาง=เกาะยายฉิม เลี้ยวเข้าซอย รร.ธนาคารออมสิน แล้วตรงมา 7 กิโล
    เลยหมูทะใบเหลียง. ข้ามสะพาน เลี้ยวขวา ตรงไป 200 เมตร

https://maps.app.goo.gl/LZjVMp9xPr41toXW9
โทร. 0997028068
Line:banfangklong

หลังจากนั้นปิดทริปวันแรกกันด้วย ร้านอาหารหนูโภชนา ก่อนจะเข้าพักผ่อนกันที่ บ้านกรูด อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา โดยมี คุณ อัจจิมา โชคกิจการ MD บ้านกรูด อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปาให้การต้อนรับ

เริ่มต้นทริปเช้าวันที่สองสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip
เริ่มต้นด้วยการสักการะกราบพระเพื่อเป็นศิริมงคล
ที่ วัดทางสาย วัดสวย ที่สร้างขึ้นจาก พลังแห่งศรัทธา

เริ่มเช้าวันใหม่ เดินทางกันต่อไปสักการะ พระพุทธกิติสิริชัย ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปที่ทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบโดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธานถวายนามว่า “พระพุทธกิติสิริชัย” ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าบนยอดเขาธงชัย เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางสมาธิแบบคันธาระ ศิลปะอินเดีย ลักษณะประทับขัดสมาธิดอกบัว หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล ใกล้กัน เป็นทางขึ้นสู่ วัดทางสาย วัดสวย ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสวยห้ามพลาด

ไฮไลท์คือ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เจดีย์เก้ายอด
สวยอลังการยิ่งใหญ่ ของ วัดทางสาย ศ เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่ในหลวงร.9 ทรงพระราชทานชื่อให้ เป็นสถาปัตยกรรมไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพระมหากษัตริย์ โดยไม่ใช้เงินของทางราชการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลโดยเฉพาะในวโรกาสครองราชย์ครบรอบ 50 ปี โดยเจดีย์ทรงระฆังนี้ จะตั้งอยู่บนฐานไพที รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีอาคารสูง 5 ชั้น ที่หมายถึง การครองราชย์ครบ 50 ปี หรือมีความหมายถึงขันธ์ 5 และมีเจดีย์หมู่ 9 องค์ ที่หมายถึงวัดประจำรัชกาลที่ 9

วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/KyUU8qooBH4Ypmzu6
เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.

วัดเขาถ้ำม้าร้อง (Wat Khao Tham Ma Rong)
หลังจากสักการะองค์หลวงพ่อใหญ่กันแล้ว คณะเราก็เดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ วัดเขาถ้ำม้าร้องวันนี้ นายอำเภอ “สุทิน ประเสริฐศักดิ์” แห่งบ้านม้าร้อง และชาวชุมชนท่องเที่ยวม้าร้องซิตี้หรือบ้านม้าร้อง ร่วมกันต้อนรับขับสู้ทั้งอาหารคาวหวาน กาแฟ และผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านผลิตมาจำหน่ายด้วยตัวเอง นอกจากจะจัดอาหารพื้นถิ่นแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นใบเหลียงผัดไข่ คั่วเคย โดยเฉพาะแกงไก่เหมงมะพร้าว อาหารพื้นบ้านที่ใช้ผลมะพร้าวอ่อน(ซึ่งยังไม่สร้างเนื้อมะพร้าว) นำมาแกงไก่ใส่กะทิ อร่อยเลิศจนต้องขอเพิ่มมีผลิตภัณฑ์ชุมชนเช่นไข่เค็มสมุนไพรบ้านม้าร้อง หมวกถัก น้ำผึ้งป่า บาล์มสมุนไพร น้ำยาอเนกประสงค์ ส่วนด้านการท่องเที่ยวก็มีกิจกรรมเช่น มีรถซาเล้งพานำชมสวนป่าชุมชน มีนำเที่ยวถ้ำม้าร้อง มีฐานผึ้งโพรง กิจกรรมทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ต่างๆ เหล่านี้
สามารถสอบถามได้ที่ คุณประวิทย์ รัตนพงศ์ 081 292 8141

ได้เวลา ขึ้นสู่วัดเขาถ้ำม้าร้องด้วยเพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ที่แห่งนี้มีความสวยงามของหินงอก หินย้อย บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และหินย้อยที่รูปร่างลักษณะคล้ายหัวม้าอยู่ภายในถ้ำ วัดเขาถ้ำม้าร้อง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหลายคูหา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ และพระพุทธรูปปางพุทธไสยาสน์ตามจุดต่างๆ ภายในถ้ำ มีแสงไฟส่องสว่างและทางเดินที่สะดวกสบาย ทำให้เราได้เข้าไปกราบไหว้พระและชมความงามภายในถ้ำได้อย่างสบายใจค่ะ ไฮไลท์ของวัดเขาถ้ำม้าร้องก็คือ หินงอกหินย้อยรูปหัวม้า บริเวณขวามือของทางเข้าถ้ำ
จึงเป็นที่มาของชื่อ ถ้ำม้าร้องที่วัดแห่งนี้เป็นที่พักสงฆ์มาตั้งแต่สมัยชาวศรีลังกาและชาวอินเดียเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในไทยและพม่า ใช้เป็นที่พักพิง ต่อมาในรัชสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ออกปราบโจรตามหัวเมืองเมื่อราว 2385 ได้นำทัพมาพักที่หนองหัดไทย ปรากฏว่าม้าของท่านหายไปแต่หาไม่พบ ได้ยินแต่เสียงม้าร้อง จึงเรียกภูเขานี้ว่า เขาถ้ำม้าร้อง

ที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกแห่งหนึ่ง ภายในถ้ำด้านหนึ่งเป็นที่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ จำนวนมาก เรียงรายลดหลั่นภายใต้การสาดแสงจากโคมไฟขณะที่บนเพดานถ้ำแลเห็นค้างคาวจำนวนมาก เกาะหัวห้อย สยายปีกผับ ๆ อวดโฉมให้ผู้มาเยือนได้ยลแบบไม่ยี่หร่ะต่อสายตา แต่บางคนอาจจะโชคดีได้ขี้ค้างคาวหล่นใส่เป็นสิริมงคลเพิ่มเติมก็เป็นได้บริเวณตรงกลางโถงถ้ำพบโพรงปล่องขนาดกว้างราวเมตรกว่า ทำให้แสงลอดลงมาตามทางสวยงาม เดินถัดขึ้นไปนิดเดียวก็จะพบกับหินย้อยที่มีรูปร่างคล้ายหัวม้าและมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่นำไปใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เมื่อมีพิธีสำคัญ ๆ ทางวัดจะจัดพิธีตักน้ำทิพย์เพื่อนำไปถวายแด่ในหลวง เช่นงานพิธีครบรอบ 60 พรรษา และ 72 พรรษา ที่สำคัญน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่เคยเหือดแห้ง

วัดเขาถ้ำม้าร้อง
วัดเขาถ้ำม้าร้อง ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ตำบลพงค์ประสาสน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/Bj7ZGU7opjbauZeVA
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด

หลังจากเมื่อวานเราไปเมล่อน เมล่อนกัน วันนี้ได้เดินทางยังศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ที่นี่มี หนุ่มโจ้ –จิรฐกรณ์ อิสระพาณิชย์ ชาวอำเภอบางสะพาน ที่หลงใหลเรื่องราวของทองบางสะพานมานานหลายปี พร้อมกับเริ่มสะสมทองและศึกษาความเป็นมา ศูนย์เรียนบ้านทองเม็ด เป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงอัตตลักษณ์ของจังหวัด ไว้สำหรับมาเรียนรู็วิถีชีวิตการร่อนทองบางสะพาน จำหน่ายเครื่องประดับจากทองบางสะพาน ปรับพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่ ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด” มีการนำทองบางสะพานในรูปแบบต่างๆ ทั้งทองผง-ทองเกล็ด-ทองเม็ดและทองอมหิน พร้อมข้อมูลที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของทองบางสะพานมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับทองจำหน่ายให้ผู้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย

ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โจ้ บ้านทองเม็ด โทร 0875565697

วัดกุยบุรี ( Wat Kuiburi )

ด้วยเวลาที่มีไม่มากนัก คณะของเราเริ่มเดินทางกันต่อไปยัง วัดกุยบุรี ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่สวยงาม และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นอย่างมาก

วัดกุยบุรี เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พร้อมกับการสร้างเมืองกุยบุรี เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจในสมัยนั้น ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชน เดิมชื่อว่าวัดกุย ตั้งอยู่ในอำเภอกุยบุรีติดกับแม่น้ำกุยบุรีชาวเมืองให้ความเลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะอดีตเจ้าอาวาสวัดกุยบุรี หลวงพ่อมากหรือบุญมาก หรือชาวมักเรียกว่าท่านว่า “หลวงพ่อในกุฏิ” เนื่องจากเมื่อท่านว่างเว้นจากภารกิจต่างๆของทางวัดแล้ว จะนั่งบำเพ็ญภาวนาเป็นประจำเล่ากันว่าบางครั้งจะเข้าสมาธิวิปัสสนาอยู่แต่ในกุฏิตลอด 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง โดยจะไม่ลุกและออกจากกุฏิไปไหนเลย ด้วยเหตุอันนี้เอง จึงได้มีคำเรียกท่านอีกคำหนึ่งว่า “หลวงพ่อในกุฏิ“

หลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้เคร่งครัดในด้านวิปัสสนากัมมัฎฐาน จนทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าหลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้มีวาจาสิทธิและมีวิชาอาคมแกร่งกล้า เป็นผู้มีเมตตาจิต ช่วยเหลืออนุเคราะห์และสงเคราะห์กับคนทุกเพศ ทุกวัย เป็นที่พึ่งอาศัยของคนทั้งหลายหลังจากหลวงพ่อในกุฏิได้มรณภาพไป ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างรูปเหมือนของท่านและบรรจุอัฐิของท่านไว้ภายใน ให้ชาวบ้านได้ระลึกถึงและสักการะบูชา…

วัดกุยบุรี
https://maps.app.goo.gl/yJGCYw27KSJjoqos5

หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังที่พักในอำเภอหัวหิน ที่ โรงแรมเวล หัวหิน WHALE HUAHIN โดย คุณธีระเมฆ เศียรศิลาเจริญ หรือคุณบุ๊ค MD ให้การต้อนรับก่อนจะไปรับประทานอาหารค่ำกันที่ ชิมวิว ซีฟู้ด ชะอำ- หัวหิน ที่ที่ทางททท.ภูมิภาคภาคกลางและททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง

DAY 3 สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip

วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest)
ย่างเข้าสู่วันที่สามของการร่วมทริป สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip กันแล้ว วันนี้ก่อนกลับกรุงเทพมหานคร ทางททท.ได้พาเราไปชมพื้นที่ป่าโกงกางขนาดใหญ่ ชมป่าชายเลน วนอุทยานปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันในวันนี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเที่ยวทั้งครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ตั้งอยู่ใน ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ และบริเวณของชายหาด มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น เป็นโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่มีเส้นทางให้เดินศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นระยะทางยาวกว่า 1,000 เมตร

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ป่าชายเลนด้านทิศเหนือของแม่น้ำปราณบุรี ได้ถูกบุกรุกทำลายกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ในปี พ.ศ. 2517 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร บริเวณหมู่บ้านปากน้ำปราณบุรี ทรงมีความสนพระทัยเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ป่าชายเลน และทรงมีพระราชเสาวนีย์สนับสนุนให้มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ บริเวณชายทะเลปากน้ำปราณบุรี เพื่อพัฒนาเป็นป่าอเนกประโยชน์ผลิตไม้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ป้องกันลมพายุ และเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงอนุบาลสัตว์น้ำกรมป่าไม้ จึงได้จัดทำ โครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น ในปี 2517 ครอบคลุมพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า คลองคอย ประกอบด้วย ป่าชายเลน และมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ป่า ซึ่งภายหลังได้มีการจัดตั้งเป็น “วนอุทยานปราณบุรี” เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2525

…. ณ ปัจจุบัน ผืนป่าโกงกางที่งดงามแห่งนี้ ถือแหล่งเรียนรู้ด้านระบบนิเวศน์ป่าชายเลนอันสำคัญ ที่เป็นมรดกส่งต่อให้กับลูกหลานคนไทยได้ร่วมกันสืบทอดเจตนารมณ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่านี้ต่อไปตราบนานเท่านาน

วนอุทยานปราณบุรี
ที่อยู่ : วนอุทยานปราณบุรี 14 ผาสุกวนิช 16 ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/BkhG9dpcsnpudRnC7
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

“ประจวบคีรีขันธ์ เมืองมหัศจรรย์สามอ่าวของท้องทะเลอ่าวไทย เป็นจังหวัดตอนใต้สุดของภาคกลาง มีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้กว่า 212 กิโลเมตรจนได้ชื่อว่า ประจวบย๊าวยาว แต่ยังคงมีสถานที่น่าสนใจและสวยงามซุกซ่อนเอาไว้รอให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นหาและรับรู้ว่าประจวบคีรีขันธ์ มีอะไรให้เที่ยว ให้ชม ให้อร่อย”

ข้อมูลจากททท.แนะนำการท่องเที่ยวของทริป Mega Fam Trip ครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากปราศจากซึ่งผู้มาเยือน … ผู้มาร่วมค้นหา… ผู้มาร่วมติดตามรับรู้ความเป็นเมืองมหัศจรรย์ประจวบคีรีขันธ์ ….แล้วคุณล่ะพร้อมหรือยัง ? กับการตามรอย ทริป “ประจวบ…ย๊าว…ยาว”

ขอขอบคุณ :
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ผอ.อัครวิชย์ เทพาสิต
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์
ชาวบ้านชุมชนวัดเขาม้าร้อง นายอำเภอ สุทิน ประเสริฐศักดิ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมคิด จันทมฤก
รองผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ
ทีมงาน ททท. น้องแพค น้องเก้า น้องตั๊กและอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม

Aviyana Hua Hin เปิดตัว! รีสอร์ทใหม่ริมชายหาดชะอำพร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนสุดชิลล์”

อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรีสอร์ทติดทะเลแห่งใหม่อย่างเป็นทางการโดยมี คุณสุมาลี คูรานา ประธานกรรมการผู้จัดการรีสอร์ท ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีตัดริบบิ้นและกล่าวเปิดงานร่วมกับ คุณชาญชัย ปรีชา ผู้จัดการทั่วไปและคุณณิชาภัทร ศรีสำราญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมในงาน ณ ห้อง AVOWS Ballroom

คุณสุมาลี กล่าวว่า “ความตั้งใจของรีสอร์ทแห่งนี้คือการสร้างสถานที่สำหรับคนทุกเจเนอเรชันสามารถมาพักผ่อนและสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน เราต้องการให้ อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) เป็นรีสอร์ท ที่ผู้คนสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่น ความสุข และความสงบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน” เราจึงเลือกทำเลบนพื้นที่ชายหาดชะอำ เพราะเราอยากให้ผู้ที่เข้ามาพักได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เปรียบเสมือนสวรรค์แห่งการพักผ่อน และยังให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสำหรับทุกคนที่มาเยือน โดยกลยุทธ์การลงทุนของทางรีสอร์ทคือการเลือกโลเคชั่นที่เห็นวิวดี ความสวยงามของวิวธรรมชาติติดทะเล เป็นจุดขายสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมถึงการเดินทางที่สะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

คุณชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางรีสอร์ทฯให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้เข้าพักเป็นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนสามารถมาพักผ่อนอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการมาพักผ่อนกับครอบครัว การจัดงานแต่งที่เนรมิตความโรแมนติกในบรรยากาศริมทะเล หรือการจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยงและสัมมนา โดยทางรีสอร์ทมีพื้นที่ให้บริการสำหรับการจัดงานในโอกาสพิเศษ คือ Siamara พื้นที่จัดงานเลี้ยงบนด้านฟ้ากลางแจ้งแบบไพร์เวท และ AVOWS Ballroom ห้องบอลรูมสำหรับการประชุมและงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับแขกได้มากถึง 300 คน คุณชาญชัยยังกล่าวเสริมว่า “ทางรีสอร์ทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในหัวหิน ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วยพื้นที่สำหรับการรองรับในการทำกิจกรรม”

คุณณิชาภัทร เผยว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในหัวหินขณะนี้มีการแข่งขันที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้ ทางรีสอร์ทจึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมเชิงลึกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อหาจุดเด่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด เธอระบุว่า “นอกจากคนไทยจะชื่นชอบอาหารรสจัดแล้ว เรายังพบว่านักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น” ด้วยแนวคิดนี้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ จึงเน้นย้ำจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่านร้านอาหารของรีสอร์ทอย่าง Miss T Beach Café และ Pomelo All-Day Dining ซึ่งยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย เช่น กะปิ สาโท และใบชะคราม ให้กลายเป็นเมนูหรูหราที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
“ที่นี่เราภูมิใจที่จะบอกว่าลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอาหารฟิวชั่นสไตล์นานาชาติริมชายหาด พร้อมฟังเสียงคลื่นทะเลที่สงบพร้อมดื่มด่ำกับรสชาติอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ” คุณณิชาภัทรกล่าว

ด้วยการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่กลมกลืนไปได้อย่างลงตัวกับธรรมชาติอันงดงามของอ่าวไทย รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 115 ห้อง โดยมีห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือกดังนี้:
• ห้อง Superior ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 37 ห้อง
• ห้อง Deluxe Sea View ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 62 ห้อง
• Oasis Beachfront Villa ขนาด 53 ตร.ม. จำนวน 8 ห้อง
• Ambassador Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 247 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต (2 ห้อง)
• Ocean View Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 165 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต (2 ห้อง)
ราคาที่เริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อคืน

นอกจากนี้ รีสอร์ทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำท่ามกลางวิวทะเลแบบพาโนรามา โดยผู้เข้าพักสามารถเดินลงจากที่พักเพื่อเดินเล่นบนชายหาดได้ทันที รวมถึงรีสอร์ทยังมีห้องอาหารและบาร์สำหรับให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ ร้าน Pomelo All-Day Dining ที่ให้บริการอาหารเช้าร่วมถึงยังมีบริการขายอาหารตลอดทั้งวัน, ร้าน Miss T Beach Café สุดชิลล์ที่สามารถรับประทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยายริมทะเลไปพร้อมกัน และ Nest Pool Bar ที่สายค็อกเทลห้ามพลาด สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนสุดชิลล์ ณ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin)

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 032-512-311
อินสตาแกรม: @aviyanahuahin
จองห้องพักได้ที่: booking@aviyanahuahin.com
🌐 Website: https://aviyanahuahin.com/
🌐 Facebook: Aviyana Hua Hin
📍 พิกัด: No. 1515 Phet Kasem Rd, Sai Tai, Cha-am District,
Phetchaburi, Thailand, Phetchaburi

ครั้งแรก “ทรู เวิลด์ ทราเวล” ร่วมกับ “แอร์ปูซาน” จัดทริปเที่ยว 2 ประเทศเปิดเส้นทางใหม่ที่เดียวในไทย

กลับมาอีกครั้งกับงานที่ทุกคนรอคอย ฤดูกาลท่องเที่ยวเกาหลี 2024-2025
ต้อนรับฤดูการท่องเที่ยวเกาหลี ถึงอีกครั้ง “ทรู เวิลด์ ทราเวล” ร่วมกับ “แอร์ปูซาน” จัดทริปเที่ยว 2 ประเทศ “ปูซาน – มัตสึยามะ” เปิดเส้นทางใหม่ที่เดียวในไทยพร้อมต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยว ยกระดับจุดหมายทางการท่องเที่ยวระดับโลก มีความสวยงามหลากหลายแบบหลายมุม แตกต่างกันไป

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล ร่วมกับ สายการบิน ปูซานแอร์ไลน์ เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเกาหลี NEW SEASON OPENING ชวนคนไทยท่องเที่ยวฉ่ำๆ สองประเทศ เกาหลีและญี่ปุ่น ครั้งแรกในเมืองไทย โดยมีนักท่องเที่ยวและเอเยนซี่ ร่วมเปิด season อย่างคับคั่ง

Mr. Kim Jongcheol General Manager Bangkok Branch Air Busan

Mr. Kim Jongcheol General Manager Bangkok Branch Air Busan กล่าวว่า “แอร์ปูซาน ยินดีต้อนรับผู้โดยสารคนไทยทุกท่าน แอร์ปูซาน เรามีเส้นทางการบิน กรุงเทพ-อินชอน และกรุงเทพ-ปูซาน และนี่เป็นการเปิดเส้นทางใหม่ครั้งแรก ร่วมกับกับบริษัททรู เวิลด์ ทราเวล คือ ปูซาน – มัตสึยาม่า ปูซาน เมืองใหญ่ที่น่าเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ และเมืองมัสสึยะมะซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่น”

นางสาว พธู ณ สงขลา ผู้บริหาร บริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล จำกัด

ด้านนางสาว พธู ณ สงขลา ผู้บริหาร บริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล จำกัด กล่าวถึง การเปิดเส้นทางใหม่ เที่ยวสอworldงประเทศในครั้งนี้ว่า NEW SEASON OPENING ปี 2024-2025 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวเกาหลีกลับมาอีกครั้ง รอบนี้ทรู เวิลด์ ทราเวล มาเปิดตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินแอร์ปูซาน เป็นการร่วมมือครั้งแรกของทรู เวิลด์ ทราเวล ซึ่งซีซันที่ผ่านมา ปี 2023-2024 ทรู เวิลด์ ทราเวล พาคนไทยไปเที่ยวเกาหลีรวม 50,000 กว่าคน และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีมาก ๆ กระแสตอบรับล้นหลาม ทำให้ครั้งนี้ ทรู เวิลด์ ทราเวล เปิดทริปเที่ยวเกาหลีเพิ่มเติมขึ้นมา เป็นทริปพิเศษ นอกเหนือจากทริปที่เป็นซิกเนเจอร์ของ ทรู เวิลด์ ทราเวล ไม่ว่าจะเป็น ปูซาน โซลพลัสที่ให้เที่ยวอิสระ เป็นเคทีเอ็กซ์ให้เที่ยวทั้งปูซานและกรุงโซล รวมถึงเกาะเจจูรอบนี้เปิดด้วย และรอบนี้พิเศษสุดๆ กับทริปที่เที่ยวสองประเทศในครั้งเดียว คือไปทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นในคราวเดียว

โดยบินกับแอร์ปูซาน สายการบินที่บินทั้งสี่ไฟล์ทเป็นอินเตอร์ทั้งหมด ที่ญี่ปุ่น เที่ยวที่เมืองมัตสึยามา หลายคนยังไม่รู้จัก เพราะประเทศไทยไม่มีบินตรงไปที่นั่น ใครอยากเที่ยว เมืองเก่าแก่ ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ต้องบินไปกับเรา เพราะเราพาบินจากปูซานไปมัตสึยาม่า ใช้เวลาบินแค่ห้าสิบนาที ทริปของเรา 6 วัน 4 คืน เที่ยวสองประเทศ จุกๆ รับรองว่าประทับใจแน่นอน ญี่ปุ่นของเราเริ่มเดินทางวันนี้ วันที่ 20 สิงหาคม 2567 และออกเดินทางทุกวันอังคาร ยาวไปถึง เดือนธันวาคม ใครอยากเที่ยวฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหิมะตก เตรียมพร้อมจองทัวร์กันได้เลย ส่วนซีซันใหม่ของเราเริ่มวันนี้วันแรก เช่นเดียวกัน มีทั้ง ปูซาน 4 วัน 2 คืน ปูซาน 5 วัน 3 คืน โซลพลัส 4 วันและ โซลพลัส 5 วัน รวมถึงเจจู พบกันแน่ๆ เร็ว ๆ นี้คะ ถ้าไปเที่ยวเกาหลี แค่มี KETA สามารถเข้าไปท่องเที่ยวเกาหลีได้ ถ้าใครเลือกทริปเกาหลี – ญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่น ใช้ visit Japan ลงทะเบียนตอนนี้ ทรู เวิลด์ ทราเวล ลงทะเบียนให้ด้วย แค่คุณมีพลาสปอร์ต และ KETA และ visit Japan สามารถไปเที่ยวกับได้แล้ว

สามารถจองผ่านบริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล หรือ ตัวแทนจำหน่าย
บริษัทเอเยน ซีทั่วประเทศไทย สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง
facebook : True World Travel และ www.gotrueworld.com

เริ่มแล้ว! Disney Toy Expo Thailand 2024 วันแรกสุดคึกคัก

แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ตบเท้านำของเล่นของสะสมมาโชว์เต็มลานเซ็นทรัลเวิลด์

( 15 สิงหาคม 2567 ) เปิดฉากวันแรกอย่างยิ่งใหญ่ สิ้นสุดการรอคอยงานใหญ่แห่งปีของสาวกแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์แห่ร่วมงานคับคั้ง เรียกว่าหลายคนที่มาร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้จัดเต็มทำถึง เพราะเป็นครั้งแรกในไทยและในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยกกองทัพของเล่นของสะสมทุกคาแรคเตอร์
ที่แฟนๆ ชื่นชอบจาก Disney ,Pixar ,Marvel และ Star Wars ภายใต้ชื่องาน Disney Toy Expo Thailand 2024 งานที่รวบรวมสินค้าลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการมากมาย ของสะสมจากแบรนด์ระดับโลกสินค้ารุ่นลิมิเต็ด คอลเลคชันใหม่จากความร่วมมือของศิลปินชื่อดัง พร้อมเสริฟความบันเทิงใกล้ชิดเหล่าคาแรคเตอร์ดิสนีย์ที่มามอบความสุขสนุกสนานส่งตรงจากต่างประเทศ งานนี้เนรมิตพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น1ถึงชั้น3 ให้เป็นแหล่งรวมความสุขสนุกสนานและย้อนความทรงจำในวัยเด็ก ตลอด4วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่15-18สิงหาคมนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการงานของเล่นของสะสมเลยทีเดียว

คุณปรีชา อาชามงคล ผู้อำนวยการลิขสิทธิ์สินค้าอุปโภคบริโภคประจำประเทศไทยและเวียดนาม และคุณชาญวิทย์ วิทยสัมฤทธิ์ Chief Executive Officer บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมพบกับนักแสดง และนักร้องสุดฮอต โฟร์ท- ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ การเป็นแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์ และสนุกสุดฟินกันแบบฉ่ำๆ กับการแสดงมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN ปิดท้ายด้วย Mickey & Friends คาแรคเตอร์จะออกมาทักทายแฟนๆอีกด้วย

โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจาก บริษัท อาซากิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน), บริษัท เอส เอฟคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ขวัญชนกโปรดักชั่น จำกัด,บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด

ภายในงานบรรยากาศสนุกสุดฟินที่แต่ละแบรนด์ต่างครีเอตบูธและสินค้าได้อย่างน่าตื่นตาและน่าสนใจทั่วทุกบริเวณงานทั้ง 3ชั้น มีแบรนด์ชั้นนำเผยโฉมสินค้าแปลกใหม่ของหายาก และเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่สุดพิเศษจากแบรนด์ ต่างๆอาทิ Royal Selangor มาพร้อมกับ BE@RBRICK IRONMAN เปิดตัวครั้งแรกของโลก AppleSheepที่เตรียมเปิดตัวสินค้าจากการร่วมมือสุดพิเศษกับศิลปินชื่อดังระดับโลก ซิโมเน่เล็กจ์โน่ Simonelegno ( Tokidoki) ไอคอนสตรีทอาร์ตที่มีคาแรคเตอร์เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ นำลายเส้นสไตล์น่ารักอันเป็นเอกลักษณ์มาสู่ Mickey & Friends ด้วย Collection เสื้อผ้าเครื่องประดับหลากหลายอย่างที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน ,แบรนด์Sheepเปิดตัวเคสโทรศัพท์ ลาย Spider-Man โดยมี วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร มาร่วมงาน และ Asaki ที่มาพร้อมกับ Box Set สุดพิเศษ ปิดท้ายด้วย Wongdek Toysland ที่มาพร้อมการเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดจากแอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Cars จาก Pixarพร้อมพบกับบรรดาแบรนด์ของเล่นของสะสมชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิเช่น LEGO,Royal Selangor, Threezero,funko,Loungefly ,URDU,BEAST KINGDOM, Makeitloud และ AppleSheep รวมร้านค้าทั้งหมดมากกว่า 40 บูธ นอกจากได้พบสินค้าแล้วยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การแจก Voucher ผ่าน Shopee Live และโปรโมชั่นประจำบูธลุ้นรับของรางวัลมากมาย

Meet & Greet กับ Mickey &Friends ที่มาสร้างความสนุกสนานอบอุ่นหัวใจให้กับผู้ชมทั่วโลกมานานหลายทศวรรษเตรียมเปิดรับโอกาสสุดพิเศษที่จะได้พบปะ และทักทายกับ Mickey พร้อมผองเพื่อนที่พวกเขาจะปรากฏตัวตลอด 4 วัน ภายในงาน DisneyToy Expo Thailand 2024 เพื่อพบกับแฟนๆ ชาวไทย

กิจกรรมพิเศษจากกลุ่มแฟนชาวไทย การแสดงร้องเพลงจากกลุ่มแฟนๆโดย DMCT จะทำการแสดงขับร้องบรรดาเพลงฮิตของดิสนีย์อันเป็นที่รักของทุกคน ผ่านกลุ่มแฟนๆมากความสามารถพวกเขาตัวกันด้วยความหลงใหลในดนตรีของดิสนีย์โดยพวกเขาเคยถ่ายทำเพลงดิสนีย์เวอร์ชั่นของตัวเองมาแล้วด้วย มาร่วมย้อนสู่วัยเด็กที่ชวนคิดถึงและร้องเพลงท่วงทำนองที่คุ้นเคยผ่านเพลงโปรดของแฟนๆ

บูธจากกลุ่มแฟนๆ โดย 501st Thailandหากคุณเป็นแฟนของ Star Wars ห้ามพลาดบูธของ 501st Legion Thailand กลุ่มแฟนๆที่จะแต่งกายด้วยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลใน Star Wars พร้อมเปิดโอกาสในการถ่ายรูปรับของที่ระลึกตามธีม และอื่นๆ อีกมากมายการแสดงคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN กลุ่มศิลปินบอยแบนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยโดยพวกเขาจะมาสร้างสีสัน มอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ และผู้เข้าร่วมงาน

พบกับงาน Disney Toy Expo Thailand 2024 ตลอด 4 วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่วันนี้ – 18สิงหาคม 2567 ภายในพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ Instagram DTX Thailand 2024

สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย ขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Touris


สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย จับมือ ททท. ส่งเสริม “ท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ Organic Tourism” ต่อเนื่องสานพลังเกษตรกรและผู้ประกอบการ สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลก ผ่านเมนูอินทรีย์ และ
Earth Points

สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Tourism
ให้เป็นเสน่ห์และจุดขายทางการท่องเที่ยวใหม่ของประเทศ พร้อมสานพลังผู้บริโภค เกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และนักวิชาการ ร่วมขยายสังคมอินทรีย์ทั้งระบบ ชูจุดเด่น คุณค่าของการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ที่ทรงคุณค่า ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ และสัมผัสได้ด้วยตนเองทันที ผ่าน TOCA Platform กิจกรรมสะสมคะแนน “Earth Points” และกิจกรรมสร้างความรู้ สร้างแรงบันดาลใจต่างๆ ที่จะช่วยนำทางให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมดูแลโลก และเริ่มลงมือทำจาก “การกินอาหารอินทรีย์และท่องเที่ยววิถีอินทรีย์” ที่ดีต่อทั้งกาย ดีต่อใจ และดีต่อโลก

นายอรุษ นวราช นายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย เปิดเผยว่า จากการทำงานอย่างต่อเนื่องร่วมกัน ของสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (Thailand Organic Consumer Association หรือ TOCA) และเครือข่ายพันธมิตรตลอดห่วงโซ่สังคมอินทรีย์ ทั้งเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร นักวิชาการ และเครือข่ายผู้บริโภคอินทรีย์ ในจังหวัดต่างๆ ที่ TOCA ได้เข้าไปดำเนินงานเชื่อมโยง และจากการพัฒนา แอปพลิเคชัน “TOCA Platform” ให้เป็นจุดเชื่อมต่อคนในสังคมอินทรีย์ทั้งระบบ เป็นที่น่าดีใจที่ปัจจุบันผู้บริโภคในประเทศไทยมีความตระหนักรู้และเข้าใจคุณค่า ประโยชน์ของการบริโภคอาหารอินทรีย์ ในหลากหลายมิติมากขึ้น คือ นอกจากจะบริโภคอาหารอินทรีย์เพื่อสุขภาพแล้ว
ยังให้ความสำคัญถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และสถานการณ์โลกที่ร้อนขึ้นทุกวัน เพื่อขยายคุณค่าของเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นการผลิตที่ไม่มีการใช้สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง ทำให้มีอาหารปลอดภัย ทั้งยังช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้กับโลก และสังคมอินทรีย์ที่มุ่งสร้างระบบอาหารยั่งยืน และความมั่นคงทางอาหาร บนฐานการค้าที่เป็นธรรม TOCA จึงได้ร่วมกับ ททท. ภายใต้โครงการ “Amazing Organic Tourism for Sustainable Living ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Tourism ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีการทำงานเชิงรุกในการสร้างความร่วมมือของเครือข่ายสังคมอินทรีย์ทั้งห่วงโซ่ คือทั้งเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร นักวิชาการ และผู้บริโภค โดยในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่ 2 จังหวัดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายทางการท่องเที่ยวของคนทั่วโลก คือ จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เริ่มทำงานร่วมกับชุมชนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566

“เชื่อมั่นว่าจากการทำงานเชิงรุกร่วมกัน เราจะสามารถได้แนวทางใหม่ๆ เพื่อพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์หรือ Organic Tourism ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าประทับใจและเปี่ยมคุณค่ามากมาย ทั้งวิถีชีวิต ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทาง ที่ล้วนเป็นเสน่ห์และสามารถใช้เป็นจุดขายใหม่เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย”

ด้าน นางน้ำฝน บุณยะวัฒน์ รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท. กล่าวว่า แนวคิดและกิจกรรมท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ นั้นสอดคล้องและตรงกับกับนโยบายของรัฐบาล และยุทธศาสตร์ของ ททท. ภายใต้ BCG Economy Model เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบัน ภายใต้แคมเปญ Amazing Organic ททท. มีการสื่อสารและจัดกิจกรรมหลากหลาย เพื่อจุดประกาย ให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก ที่สามารถร่วมได้ทันที และทำได้ง่ายมาก คือ เริ่มจาก เปลี่ยนมากินอาหารอินทรีย์ และหันมาท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ที่ในกระบวนการผลิตนอกจากเกษตรกรอินทรีย์ จะไม่ใช้สารเคมีในการทำเกษตรแล้ว ยังช่วยดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ ให้กับโลก

“อยากให้เริ่มจากเรื่องง่ายก่อน นั่นคือ การบริโภคอาหารอินทรีย์ ที่ดีต่อสุขภาพ จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปทำความรู้จักกับเกษตรกรอินทรีย์ ที่ใส่ใจและดูแลผลผลิตของตนเพื่อรักษาคุณภาพ ให้ท่านเล่าเรื่องของท่านให้ฟัง แล้วเราก็จะรู้ว่า อาหารจานหนึ่ง ทำให้เรารู้จักสภาพแวดล้อมและเข้าใจถึงการทำงานของท่านเหล่านั้น เราจะเป็นอีกหนึ่งกำลังที่ช่วยสนับสนุนคนที่ทำดี ซึ่งสิ่งนี้มีความหมายและสำคัญมาก”

ตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยววิถีอินทรีย์นำร่อง ซึ่งนักท่องเที่ยวหรือผู้บริโภค สามารถดูข้อมูล ความเป็นมา จุดเด่น และสถานที่ติดต่อบน TOCA Platform ได้แล้ว เช่น ชุมชนแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ที่ทุกคนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิต ภูมิปัญญา การส่งต่อแนวคิดอนุรักษ์จากรุ่นสู่รุ่น ได้รู้จักพื้นผักพื้นบ้าน ผักตามฤดูกาล และการใช้ประโยชน์และรักษาสิ่งแวดล้อม และได้รับประทานอาหารเหนือจากวัตถุดิบอินทรีย์ของชุมชน ขณะที่ชุมชนบ้านบางโรง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ยินดีเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ไปสัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตชุมชน อาหารพื้นถิ่น พร้อมนำชมธรรมชาติที่งดงามของทะเลใต้ เป็นต้น

“ขอบคุณความร่วมมือของ ททท. และเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ และผู้ประกอบการ นักวิชาการทุกภาคส่วนต่างๆ ที่ร่วมกันส่งเสริมผลักดัน ให้เราสามารถสร้างและขยายแหล่งท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ รวมถึงตลาดชุมชน ให้เข้ามาร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังยินดีเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ดังเช่น สวนผักฮักร้องขุ้ม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่, ออนใต้ฟาร์ม อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่, โซนสินค้าอินทรีย์ ตลาดจริงใจ Farmers Market เชียงใหม่, ตลาดนัดฅนดี เกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต, Pansook Eco Store &Tea Room อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ และตลาดสุขใจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นต้น”

สำหรับการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการ เป็นที่น่าดีใจที่ มีผู้ประกอบการที่เข้าใจมาร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์กับทาง TOCA มากขึ้น พร้อมยินดีให้สิทธิพิเศษเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคได้ร่มกิจกรรม Earth Points เช่น ร้านอาหารเอื้องคำสาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนโยบายใช้วัตถุดิบอินทรีย์ในทุกเมนูให้มากที่สุด มีการติดป้าย โปรโมท Earth Points เพื่อเราเพื่อโลก ตั้งแต่หน้าร้านและในร้าน พร้อมให้สิทธิประโยชน์ จากการแลกคะแนน Earth Points เป็นส่วนลดเครื่องดื่ม

ผู้สนใจร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ใช้TOCA Platform หรือคะแนน Earth Points สามารถสมัครเป็นสมาชิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย) โดยดาวน์โหลด TOCA Platform จาก App Store หรือ Play Store หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย www.tocaplatform.org หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ Facebook: TOCA Platform และในวันที่ 15-18 สิงหาคม 2567 นี้

TOCA จะไปร่วมออกบูธในงาน Amazing Green Fest 2024 ซึ่งจัดโดย ททท. และ The Cloud “สามารถมาพบกับเราเพื่อรู้จักเรามากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ไปด้วยกัน ได้ที่พารากอนฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร”

กรมการท่องเที่ยว เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ตอกย้ำเที่ยวไทย วางใจไปกับช้างชูงวง

กรมการท่องเที่ยวเปิดเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Standard) นำสื่อมวลชนสัมผัสบริการท่องเที่ยว เครื่องหมายรับรอง “ช้างชูงวงเริงร่า” ในเมืองน่าเที่ยว ตอกย้ำภารกิจยกระดับ Supply Side สู่ความยั่งยืน เดินหน้าตามนโยบาย รมว.เสริมศักดิ์ เที่ยวไทยได้ทุก Season

ช้างชูงวงเริงร่า

วันที่ 16 – 17 กรกฎาคม 2567 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้านโยบายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทุก Season” เปิดเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ภายใต้แคมเปญ “Trust me วางใจไปกับช้างชูงวง” ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เครื่องมือยกระดับ Tourism Supply Side
เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างมูลค่า (Value) ให้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย
ช้างชูงวงเริงร่า เป็นที่นิยม ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่มาตรฐาน ตลอดจนประชาสัมพันธ์สถานที่ หน่วยงาน และสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวและสาธารณชน นำสื่อมวลชนร่วม
Press Trip ลงพื้นที่ตามเส้นทางกรุงเทพมหานคร ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนนทบุรี



โดยมีนักแสดงชื่อดัง นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต ร่วมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์การบริการอย่างมีคุณภาพ จากสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยจากกรมการท่องเที่ยว ทั้ง รีสอร์ท ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตลอดจนรถตู้ปรับอากาศ เรือรับจ้าง และห้องน้ำสาธารณะ

นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต

รถตู้ปรับอากาศ Van 1-4
บริษัท ธนัชวิชญ์ แทรเวล กรุ๊ป จำกัด
มาตรฐานการบริการรถตู้ปรับอากาศ สำหรับนักท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 1
เรื่องของโอ่ง จ.ราชบุรี
มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (ห้องน้ำโอ่งมังกรเขียว)

จุดแวะที่ 2
Cook & Coff @ เรือนจำกลางราชบุรี จ.ราชบุรี
มาตรฐานบริการร้านอาหารเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 3
วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
แหล่งท่องเที่ยวมูเตลู เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

จุดแวะที่ 4
โรงแรมบ้านอัมพวา รีสอร์ทแอนด์สปา จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทรีสอร์ท

จุดแวะที่ 5
ร้านอาหาร The Pomelo อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ร้านอาหารอื่น เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

จุดแวะที่ 6
ล่องเรือชมหิ่งห้อย ตามลำน้ำแม่กลอง โดย ท่าเรือคุณย่า จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานเรือรับจ้างเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 7
วิสาหกิจชุมชนบ้านบางพลับ จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระดับดีเยี่ยม
มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ระดับดีเยี่ยม

จุดแวะที่ 8
ร้านท่าเรือภัตตาคาร 2507 จ.สมุทรสาคร
มาตรฐานบริการร้านอาหารเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 9
ปตท. เจษฎาบดินทร์ออยล์ จ.นนทบุรี
มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (ห้องน้ำชาย/ห้องน้ำหญิง )

ทั้งนี้ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการบริหารจัดการและการให้บริการที่ดีมีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและสร้างความยั่งยืนสู่ผู้ประกอบการ มีทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน อายุการรับรองมาตรฐาน 3 ปี ครอบคลุมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก สินค้าและบริการท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ด้านแหล่งท่องเที่ยว และด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ผู้ได้รับการรับรองมาตรฐาน
ได้รับประโยชน์ในการยกระดับคุณภาพการให้บริการ และการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ สร้างรายได้และเกิดความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ช่วยเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการสถานประกอบการท่องเที่ยว ชุมชน โฮมสเตย์ และมัคคุเทศก์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ด้วยความมั่นใจ คุ้มค่า

โดยสามารถค้นหาสถานที่ และสถานประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ผ่านทางเว็บไซต์ tts.dot.go.th และเฟซบุ๊ก Thailand Tourism Standard สำหรับผู้ที่สนใจก้าวเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 02 141 3235 และ อีเมล tsactourism@gmail.com

กินอาหารเป็นยาดีกว่ากินยาเป็นอาหาร กับ เชฟตวง เขาค้อ

ร้านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ
Toptotravel พาคุณไปชิมอาหารถูกปากคนไทย ถูกใจนักชิม ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ รังสรรค์เมนูสุดพิเศษ โดยเชฟคนไทย ปรับเปลี่ยนรสชาติและเมนูใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองลิ้มลองรสชาติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน รับรองว่ารสชาติอร่อย และที่สำคัญไร้ผงชูรส น่ารับประทานจนเลือกไม่ถูก
อร่อยเด็ดทุกจาน ไฟลุกทุกเมนู

ร้านอาหาร เขาค้อ เพชรบูรณ์ โดยเชฟตวงเขาค้อ ร้านอาหารโบราณนิยม ภายในร้านตกแต่งสบาย ๆ เหมือนนั่งรับประรับประทานอาหารอยู่บ้าน พบครัวแบบเปิดอยู่กลางร้านที่มีลีลาผัดไฟแรงและผัดเร็วๆ ด้วยกระทะจีน สะท้อนความอร่อย
ปรับเปลี่ยนรสชาติและเมนูใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองลิ้มลองรสชาติใหม่
ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน รับรองว่ารสชาติอร่อย และที่สำคัญไร้ผงชูรส  บรรยากาศสบาย ตัวร้านตกแต่งแบบย้อนยุค เหมือนได้นั่งกินข้าวบ้านคุณยาย ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั้งหมู่คนไทยและทั่วโลก ปัจจุบันมีเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่งกว่าสองร้อยรายการ โดยเชฟตวง เป็นดิเอนเนอร์และเอกเซ็กคลูทีฟเชฟ เป็นผู้ควบคุมทุกอย่างในร้านแห่งนี้ เชฟนำเสนอเมนูอาหารจากความทรงจำ ที่คุณยายของผมกิน ผมไม่อยากให้เมนูหลายอย่าง ตายไปกับคุณยาย และอยากอนุรักษ์เมนูต่างๆ ที่คุณยายทำเอาไว้ในโลกนี้ต่อไป

เข้าครัวไปพูดคุยกับ เชฟตวง เจ้าของร้านอาหารโบราณนิยม ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทรนด์การรับประทานอาหารที่เขาค้อ ด้านวัตถุดิบทางร้านเชื่อมโยงกับเขาค้อ เชฟตวงการันตีความอร่อย บอกว่า การรู้ที่มาของวัตถุดิบอาหารจะมีความสำคัญต่อผู้บริโภค รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งอุปโภคและบริโภค วัตถุดิบโดยเฉพาะพืชผักสดเรา
ใช้จากเขาค้อเป็นหลัก เพราะอยากอุดหนุนเกษตรกร และพ่อค้าแม่ค้าบนพื้นที่เขาค้อ รถพุ่มพวงต่างๆ อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารไทยอย่างเต็มที่ การปรับตัว
เพื่อรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยนไป เน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้นักเดินทาง ยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย พร้อมสื่อสารสร้างความเชื่อใจ และอิ่มอร่อยเดินทางท่องเที่ยวต่อได้อย่างสบายใจ

การที่เชฟอุดหนุนชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ แม้แต่แก๊สสั่งกับรถพุ่มพวง ร้านอยู่ได้ชุมชนอยู่ได้ เรียกว่าร้านอยู่อย่างมีความสุขกับชุมชน ยังช่วยสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนของเมนูที่สะท้อนความเป็นเขาค้อ เป็นเมนูโบราณ
ที่คุณยายทำให้เรากินอาหารจำพวกหลน แกงคั่ว อาหารจำพวกต้มหมูโบราณเช่น ต้มหมูสัปปะรด แกงรัญจวน ปิดท้ายด้วยขนมหวาน สาคู และ เฉ๊าก๊วย

ปัจจุบันหาคนที่มีภูมิรู้ด้านนี้น้อยลง
เชฟอยากอนุรักษ์ทุกเมนู ไม่เคยหวงสูตร อาหารไทยมีเสน่ห์ เด่นเรื่องรสชาติ เพื่อถ่ายทอด เชฟไลฟ์สด เปิดกรุ๊ปให้ทุกคนได้ชม เพื่อนำไปทำทานกัน หรือจะนำไปต่อยอดอาชีพก็ยินดี เชฟถือว่า กิ๊ฟแอนด์เทค เป็นหัวใจหลักในการเป็น
เชฟตวง อยากทำอาหารที่ดี ใจรัก สิ่งที่มีสองอย่างที่ขาดไม่ได้คือหนึ่ง ภูมิรู้
คือภูมิรู้ดั้งเดิม โตมากับสังคมแบบไหน เคยไปกินอะไรมา นี่คือภูมิรู้ที่เคยกิน
ถ้าบ้านไหนไม่กินปลาไหลลูกหลานก็ไม่ได้กินปลาไหลแต่สิ่งสำคัญคือการใฝ่รู้ คือการไปฝึกฝนเพิ่มเติมศึกษาในโซเชียลก็ได้ กูเกิลหรือยูทูบ แต่ไม่ได้กลิ่นได้รส ได้แค่รู้หรือไม่ก็ไปซื้อเขากิน ฉะนั้นภูมิรู้และใฝ่รู้ต้องคู่กัน อยากให้ทุกท่านได้สัมผัสอรรถรสความอุดมสมบูรณ์ในเรื่อง อาหาร

ร้านอาหารโบราณนิยม @เขาค้อ รายการอาหาร รวมถึง รสชาติ และวิธีการ ได้รับมรดกตกทอดจาก คุณยายขวัญชื่น ( เสมรสุต ) พุ่มบัว หรือคุณยายตุ๋ย หลานสาวหลวงวิชิตสรไกร (โต) ข้าราชการกลาโหมในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีความสามารถในการปรุงอาหารแบบโบราณดั้งเดิม ออกแบบเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่ง ทุกชนิดไม่ใส่ผงชูรส การปรุงอาหารทุกจานไม่ใส่ผงปรุงรสทั้งสิ้น รสชาติเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งชาวไทย รวมถึง มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และแม้แต่ไต้หวัน ที่แวะเวียนมาที่ร้านแทบทุกวัน จนมีวันนี้ โบราณนิยมขึ้นสู่ปีที่เก้า

ใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวเขาค้อในฤดูหนาวนี้ แอดมินอยากแนะนำ ร้านโบราณนิยมให้เป็นหนึ่งในร้านอาหาร ที่ต้องมาทานให้ได้สักครั้งเมื่อมาท่องเที่ยวเขาค้อ เชฟตวงรอต้อนรับทุกคน และขอทำหน้าที่แทนคนไทย ทุกครั้ง ที่มี นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนที่ร้าน านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ เชฟมอบความประทับใจให้ทุกครั้ง เพื่อหน้าตาของประเทศชาติ
เชฟตวง กล่าวทิ้งท้าย

มาเที่ยวเขาค้อ ร้านโบราณนิยม เขาค้อ … ยินดีต้อนรับ
ร้านอาหารที่เพียบพร้อม ทั้งอาหารคาว หวาน ทั้งแบบโบราณและร่วมสมัย รวมถึงเครื่องดื่มนานาชนิด เบียร์นานาชาติ

สามารถติดต่อ เพจเฟซบุ้ค: ร้านโบราณนิยม เขาค้อ (อินบ็อก)
โทรติดต่อ 062 565 0535

FB ร้านโบราณนิยม เขาค้อ Boranniyom Khao Kho Restarant
โทร 062 656 0535 และ 083 068 8635

พิกัดร้าน
https://maps.app.goo.gl/DUL35QDPSFLDxirF6
ทล.2325ทางไปน้ำตกศรีดิษฐ์ ปากซอย The Sense
ก่อนถึง แทนรัก ทะเลหมอก รีสอร์ท เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

เมนูออนไลน์ กดลิงค์ที่นี่
https://online.anyflip.com/vtzpu/kefw/mobile/index.html

ร้าน อีท ดริ๊งก์ เลิฟ โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ เดินหน้าสร้างประสบการณ์ที่เหล่านักชิมไม่ควรพลาด

ต้อนรับเดือน กรกฎาคมคม ด้วยคอนเทนท์ใหม่ล่าสุด ต้องไม่พลาดมาลองชิม 2 Course Western Set สัมผัสความอร่อยสไตล์ ที่มอบบรรยากาศ สำหรับผู้ที่มองหาความอร่อย ด้วยการเติมสีสันและบรรยากาศของร้านบวกกับความร่วมสมัยให้ตัวร้านและเมอาหารน่าสนใจ พร้อมต้อนรับทุกคนให้เข้ามาสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิก

นำเสนอในรูปแบบอาหารตะวันตก ที่คุ้มค่าทั้งราคา และความอร่อย
1 set อาหาร 4 อย่าง ประกอบไปด้วย

  1. สลัด Smoked Salmon Salad ช่วยให้สลัดแซลมอนจานนี้ได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น
  2. ซุป มีให้เลือก 2 อย่าง คือ Mushroom Soup และ Lobster Bisque Soup เลือกได้ท่านละ 1 ซุป
  3. อาหารหลัก มีให้เลือก 2 เมนู (สูตรลับเฉพาะของเชฟ )
  • Pork tenderloin wrapped bacon&spinach with mashed potatoes and mushroom jus. และ
  • Pan Seared seabass with spinach&ricotta cheese cannelloni and sun-dried tomato sauce.
  • ของหวาน Crêpes Suzette
  • เลือกได้ท่านละ 1 เมนู ราคาเซ็ตละ 850 บาท/net.
Smoked salmon salad

Smoked salmon salad
สำหรับใครที่ชอบทานซีฟู้ดทางร้านแนะนำให้ลอง ปลาแซลมอนรมควัน เสิร์ฟพร้อมสลัด ทานคู่กับน้ำสลัดหอมแดง
รสชาติสุดกลมกล่อมอย่างลงตัว ในจานนี้ถือเป็นจานสลัดเพื่อสุขภาพ ความหอมจากตัวปลาแซลมอนรมควันและยังมี fennel (ยี่หร่าฝรั่ง) เพิ่มความสดชื่นน่าทานพร้อมกับผักสลัดที่มีความสดกรอบ ตัดกับน้ำสลัดที่มีความเปรี้ยวและหวานจากหอมแดงเมื่อทานด้วยกันแล้วมีความลงตัว จนรู้สึกอยากจะทานจานต่อไป

Mushroom soup : ซุปข้นเห็ด
หรือจะลองเป็นซุปอีกตัวเลือกหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน
เราใช้เห็ดแชมปิญองในการทำ จึงมีความข้นเป็นพิเศษ และเพิ่มความหอมจากน้ำมันทรัฟเฟิล เลยทำให้ซุปตัวนี้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเรามากๆ

Lobster bisque soup

Lobster bisque soup : ซุปล๊อบเตอร์
ซุปของเรามีความหอมจากหัวกุ้งและเปลือกที่นำไปอบจนหอม และนำไปเคี่ยวอีกหลายชั่วโมงจึงทำให้ซุปตัวนี้เข้มข้นและมีความหอมมากเสริฟพร้อมกุ้งเนื้อแน่นและล๊อบเตอร์โฟม

เนื้อหมูสัน ในห่อด้วยผักโขมและเบคอน

Pork tenderloin wrapped bacon & spinach with mashed potatoes and mushroom jus
เนื้อหมูสัน ในห่อด้วยผักโขมและเบคอน นำไปเซียร์บนกระทะจนสุกกรอบ แต่เนื้อหมูข้างในนั้นยังคงชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมมันบดเนื้อเนียนและถั่วลันเตา และเพิ่มความเข้มข้นจากซอสเห็ดที่ทำจากเห็ดหอม เมื่อทานทุกอย่างเข้าด้วยกันจะมีความลงตัวเป็นอย่างมาก

ปลากะพงขาวเนื้อแน่นนำมาย่างหนังกรอบเสริฟพร้อมกับแป้งพาสต้า

Pan Seared seabass with spinach&ricotta cheese cannelloni and sun-dried tomato sauce.
ปลากะพงขาวเนื้อแน่น นำมาย่างหนังกรอบ เสริฟพร้อมกับแป้งพาสต้าที่นำมาห่อกับผักโขมและชีสริคอตต้า ในสไตล์อิตาเลี่ยน ที่เรียกว่า แคนเนลโลนี่ (cannelloni) และนำไปอบกับพามีซานชีส เพื่อเพิ่มความหอมซึ่งชีสริคอตต้าทางเราได้ทำเองโดยการนำนมมาแยกโปรตีนออกจากกัน ทานคู่กับซอสมะเขือเทศอบแห้งมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน จึงทำให้จานนี้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีความเป็นอิตาเลี่ยน จึงเป็นรสชาติถูกปากใครหลายๆคน

Crêpes Suzette (แคร็ปซูว์แซ็ต)

Crêpes Suzette (แคร็ปซูว์แซ็ต)
ปิดท้ายกันด้วยเมนูขนมหวานจากฝรั่งเศษกับรสชาติที่หอมหวาน และความอร่อยที่โดดเด่นของซอสส้ม ทานคู่กับเส้นเครปแป้งบางให้รสชาติที่หวานนุ่มอมเปรี้ยวละมุนอร่อยอย่างลงตัว ปิดท้ายมื้อพิเศษได้อย่างน่าประทับใจ

ส่วนใครที่อยากเติมความสดชื่น แวะมาเติมพลังกันต่อด้วยเมนูคาวหวานสไตล์โฮมเมด ที่ Cuppers จิบเครื่องดื่ม Refreshing ที่แนะนำว่าต้องลอง

Eat Drink Love Suvarnabhumi : โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
599/1 ถ.ลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร. 02 119 2188
พิกัด. https://maps.app.goo.gl/oMV5KNJuitsWJBnB7

#theparkninehotel #theparkninesuvarnabhumi
#ร้านอร่อยใกล้สนามบิน #ร้านอาหารใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

กรมการท่องเที่ยวชูมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

กรมการท่องเที่ยวชูมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เดินหน้ายกระดับ Supply Side ชวนเที่ยวไทยมั่นใจไปกับช้างชูงวง ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน

กรมการท่องเที่ยว เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ใช้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย “ช้างชูงวงเริงร่า”สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ตอกย้ำภารกิจยกระดับสินค้าและบริการครอบคลุมตลอดทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มุ่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว บริการท่องเที่ยว บุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนการอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ รวมถึงการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ตั้งเป้าสู่การเป็น Tourism Hub ของโลก

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดงานแถลงข่าวกรมการท่องเที่ยว ก้าวย่างอย่างยั่งยืน “ท่องเที่ยวไทยมั่นใจไปกับ DOT” ณ ลานอีเดน ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึง การจัดงานในครั้งนี้
“กรมการท่องเที่ยวเดินหน้ายกระดับ Supply Side ชวนเที่ยวไทยมั่นใจไปกับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย สัญลักษณ์ช้างชูงวงเริงร่าประกอบลาย ประจำยาม ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับผู้ประกอบการและชุมชนให้
มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม การให้บริการที่ดีกับนักท่องเที่ยว รวมถึงสิ่งสำคัญในปัจจุบันคือเรื่องสิ่งแวดล้อม มีทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน ครอบคลุมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก สินค้าและบริการท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ด้านแหล่งท่องเที่ยว และด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งผู้ที่ได้รับรองมาตรฐานจะเป็นสถานประกอบการที่ภาครัฐรับรองว่ามีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้รองรับนักท่องเที่ยวได้ ตามเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวของรัฐบาล”

นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้กล่าวเสริมถึงการยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยว ว่า “กรมการท่องเที่ยว ดำเนินการเรื่องการออก
ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การยกเลิก หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว การประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ และการขึ้นทะเบียนผู้นำเที่ยว
โดยมีสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขา จำนวน 8 แห่ง ในภูมิภาคต่าง ๆ ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา หนองคาย สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และภูเก็ต อีกทั้ง ให้บริการออกใบอนุญาตนอกสถานที่และระบบ e-Service
ในอนาคต สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยผ่านการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ บูรณาการการปฏิบัติงาน ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว คุ้มครองการประกอบธุรกิจนำเที่ยว และการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ของคนไทย พร้อมกันนี้มีการพัฒนาศักยภาพการให้บริการด้วยการฝึกอบรม การตรวจประเมินมาตรฐานธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐานมัคคุเทศก์ มีการประกาศกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวในท้องถิ่นหรือชุมชน ให้มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นได้ตามกฎหมาย”

นายบุญเสริม กล่าวเพิ่มเติม ถึงการดำเนินงานด้านต่างประเทศ ว่า
“เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเอเชีย มีการพัฒนาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสัมพันธ์
อันดีกับต่างประเทศตามกรอบความร่วมมือต่างๆ โดยส่งเสริมให้มีการพัฒนามาตรฐานสมรรถนะตลอดจนรับรองมาตรฐานสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตามข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียนและข้อตกลงอื่นที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ดำเนินมาตรการคืนเงินให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์ที่มีเงินลงทุนถ่ายทำในประเทศไทยสูง ส่งผลให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้ไปยังธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์
รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในประเทศไทย และประชาสัมพันธ์ภาพแหล่งท่องเที่ยวของไทยสู่ทั่วโลก”

นางณัฏฐิรา แพงคุณ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึงภารกิจด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบริการท่องเที่ยว “เพื่อให้เกิดการเดินทางและเกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวจากเมืองท่องเที่ยวหลัก ไปสู่เมืองน่าเที่ยวการพัฒนา
แหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ได้คำนึงถึงการออกแบบสิ่งจำเป็นตามโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลหรือ Tourism for All ให้สามารถรองรับและตอบโจทย์
นักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย นอกจากนี้ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้กับชุมชนทั่วประเทศ ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สำหรับการพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ได้จัดทำ
มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยและตรวจประเมินมาตรฐาน ผ่ากระบวนการ
ที่เป็นสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริการทั้งหมด 36 มาตรฐาน แบ่งเป็นมาตรฐานที่พัก มาตรฐานบริการท่องเที่ยว และมาตรฐานกิจกรรมท่องเที่ยว จนมีสถานประกอบการด้านบริการที่อยู่ระหว่างการรับรองมาตรฐานไม่น้อยกว่า 1,293 แห่ง สร้างมูลค่าเพิ่มผ่านอัตลักษณ์ สินค้า บริการ และกิจกรรมของชุมชนที่ได้มาตรฐาน ต่อยอดเพื่อสร้างจุดขายให้กับนักท่องเที่ยว ตอบโจทย์ Tourism Trend มีการอบรมเสริมสร้างองค์ความรู้ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ ตลอดจนจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ การท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิม เพื่อส่งเสริมและบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคี
เครือข่ายในการพัฒนาการท่องเที่ยวตามประเด็นต่าง ๆ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการและชุมชนที่ได้รับมาตรฐาน ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว

ซึ่งการจัดพิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 จัดขึ้นในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน”

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพัฒนาห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยวสร้างความยั่งยืนสู่ผู้ประกอบการ ชุมชน นักท่องเที่ยว รวมทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนินการตาม 5 กลยุทธ์ภายใต้นโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ของรัฐบาลเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Tourism Hub มุ่งหวังให้การท่องเที่ยวไทยก้าวย่างอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ได้รับบริการท่องเที่ยวที่ดี พร้อมท่องเที่ยวไทยมั่นใจไปกับ DOT

รู้จัก โรงแรมแอทพิงค์นคร จากแรงบันดาลใจของ สุนทรี ดอนท้าวไพร

ชวนเพื่อนๆ ไปเช็กอิน แอทพิงค์นคร เชียงใหม่ โรงแรมในอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เมืองที่ขับเคลื่อนด้วยวัฒนธรรม ศิลปะ ประวัติศาสตร์ เห็นวิวตัวเมือง ภูเขามีแต่คนต่างถิ่นเข้ามาเป็นเจ้าของ จึงอยากสร้างโรงแรมที่เป็นของคนเชียงใหม่จริงๆ ซึ่งมีเหลืออยู่ไม่กี่แห่ง แอทพิงค์นครเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดของเชียงใหม่ ตกแต่งที่สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะและวัฒนธรรมของเชียงใหม่แถมยังใกล้แหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย

… เชียงใหม่ ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลก เมืองขนาดใหญ่ที่สุด มีวัฒนธรรมที่สำคัญของภาคเหนือ เป็นส่วนผสมความงดงามระหว่างศิลปะวัฒนธรรมล้านนาและธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์จากศิลปะร่วมสมัย การคงอยู่ของชุมชนเก่าผสานชุมชนใหม่อย่างลงตัว ที่นี่จึงถือเป็นเมืองหมุดหมายที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเยือนกันอย่างไม่เคยห่างหาย เทศกาลงานเมืองสำคัญๆ ยังคงถูกกล่าวถึงในปฏิทินท่องเที่ยวระดับโลก ที่ต่างกล่าวกันว่า สักครั้ง… ต้องมาเยือน เมืองล้านนา .. เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้วัฒนธรรมและศิลปะล้านนา

… จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เหตุใดจึงตอบไม่ได้ว่า มาเชียงใหม่กี่ครั้ง บอกเลยว่านับจำนวนครั้งไม่ได้เช่นเดียวกับที่โรงแรมแอทพิงค์นครที่เราเคยได้เข้ามาพักและได้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของการดีไซน์ การออกแบบในแทบจะทุกจุดของโรงแรม พบกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานที่น่าสนใจนี้ไปพร้อมกันเลย …

เรื่องราวความเป็นมาของโรงแรมแอทพิงค์นครริเวอร์ไซด์ โดยได้รับเกียรติจาก คุณสุนทรี ดอนท้าวไพร ประธานกรรมการบริหาร (เจ้าของโรงแรม) ผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารงาน โรงแรมแอทพิงค์นครเชียงใหม่ At Pingnakorn Hotel Nimman โรงแรมแอทพิงค์นครห้วยแก้ว At Pingnakorn Huaykaew Chiang Mai (บริษัท แอทพิงค์นคร จำกัด ) โรงแรมแอทพิงค์นครริเวอร์ไซด์ AtPingnakorn Riverside ( บริษัท แอทพิงค์นครริเวอร์ไซด์ จำกัด) และห้างหุ้นส่วนจำกัดพิงค์นครก่อสร้าง ภายใต้การบริหารของ คุณสุนทรี ดอนท้าวไพร

เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ทำให้คนในจังหวัดตัวเอง มีความรู้สึกว่าอยากกลับมาอยู่เสมอ การเล่าเรื่องรวมร้อยเรียงสิ่งที่เกิดขึ้นโดย คุณสุนทรี หนึ่งในผู้ร่วมสร้างโรงแรมดาราเทวี โดยโรงแรมแห่งนี้ เคยเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ต้อนรับบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงมากมายจากทั่วโลก ด้วยประสบการณ์การการทำธุรกิจ ได้มีโอกาสออกก่อสร้างโรงแรมใหญ่ ๆ คุณสุนทรี ดอนท้าวไพร ผู้บริหารโรงแรมแอทพิงค์นครเชียงใหม่ นิมมาน , โรงแรมแอทพิงค์นครห้วยแก้ว ,โรงแรมแอทพิงค์นครริเวอร์ไซด์ และห้างหุ้นส่วนจำกัดพิงค์นครก่อสร้าง และได้รับพระราชทานปริญญาบัตร มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา

… หลังจากเดินดูความเรียบร้อยภายในห้องอาหารของโรงแรม พี่สุน – คุณสุนทรี เปิดโอกาสให้ทีมงาน Toptotravel ได้พูดคุย สนทนาเรื่องราวต่างๆ ตามเวลานัดหมาย “พี่เป็นคนเชียงใหม่ ไม่ได้มีมรดกอะไร ทุกอย่างสร้างขึ้นมาใหม่ โชคดีเกิดมาจนทำให้เป็นคนขยัน” พี่สุน – สุนทรี เล่ายิ้มๆ ให้ฟังเมื่อเราถามถึงที่มาของการเข้าสู่วงการโรงแรม

ก่อนเริ่มเล่าต่อว่า “… พี่เรียนจบอาชีวะเชียงใหม่ ด้านบัญชี ส่วนสามีจบสถาปนิก พี่จบออกมาเริ่มทำงานออฟฟิศก่อน ส่วนสามีทำงานเขียนแบบก็จะรับเหมาก่อสร้าง จนออกจากงานมาเพื่อช่วยบัญชีทำ สามีรับเหมาดูแลหน้างาน สถาปนิกเขาจะไม่ค่อยละเอียดเรื่องบัญชี เรื่องซื้อของ เราก็ออกมาช่วยกัน จังหวะช่วงนั้นก่อสร้างบูม พี่ดูแลทางด้านบัญชี และดูแลพนักงาน ค่อนข้างต้องเซฟทุกอย่าง ลุยกัน มีกู้แบงค์มาหมุน จังหวะพี่เจอเจ้าของดีดีหลายคนที่จ้างทำงาน”
ต่อมา บริษัทพิงค์นครก่อสร้าง การออกแบบต้องตอบโจทย์เรื่องพื้นที่ได้เข้ารับเหมาก่อสร้าง โรงแรมดาราเทวีโรงแรมระดับหกดาวที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น ซึ่งบริษัทฯ เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่เข้ามารับงาน ใช้เวลาในการทำงานถึงห้าปี

“โชคดีมีโอกาสไปก่อสร้างโรงแรมดาราเทวี ทำให้ได้เห็นการทำงานโรงแรมทุกอย่าง ช่วงนั้นเป็นช่วงยุคเฟื่องฟู มีหลายผู้รับเหมา ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ก่อสร้างโรงแรม หลังจากนั้นก็ไปก่อสร้างโรงแรมอีกหลายแห่งในเชียงใหม่”
… เกือบยี่สิบปีก่อนระหว่างทำโรงแรมดาราเทวี ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างอยู่เกือบ 5 ปีจึงแล้วเสร็จ ระหว่างนั้นทางพิงค์นครก่อสร้าง ก็ได้เริ่มทำโรงแรมของตนเองที่ถนนนิมมานเหมินทร์เป็นที่แรกประมาณ ปี 2549 ทั้งหมดมี 46 ห้อง โดยแรกเริ่มทำเป็นอพาร์ทเมนท์ ต่อมาเมื่อปี 2550 ย่านนิมมานเหมินทร์ บูมมาก จึงรีโนเวทปรับโฉมใหม่เพื่อดำเนินกิจการโรงแรม

ก่อนจะเป็นโรงแรมแอทพิงค์นคร
ด้วยความเป็นคนเชียงใหม่ อยากให้ที่นี่เป็นบ้านที่เจ้าของพร้อมเปิดบานประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือนเสมือนเพื่อนคนหนึ่ง ออกแบบและก่อสร้างอาคาร และมาตรฐาน รับเหมาก่อสร้างโรงแรมหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ การทำธุรกิจโรงแรม ก่อนอื่นจะต้องเริ่มคิดและมองในมุมมองของลูกค้าก่อน ว่าลูกค้าชอบอะไรและมีความต้องการประมาณไหน หรืออาจจะสังเกตจากเวลาที่เราไปเที่ยว จึงทำให้เกิดความคิดที่จะทำโรงแรมขึ้นที่สามารถบอกได้ว่าการบริหารงาน การออกแบบ และการต้อนรับตามแบบฉบับคนเชียงใหม่แท้ๆ นำเสนอเรื่องราวที่เชื่อมโยงไปกับการออกแบบและการตกแต่งของโรงแรมในจุดต่างๆซึ่งในปัจจุบันโรงแรมในเชียงใหม่ มีคนพื้นที่เป็นเจ้าของเหลือเพียงไม่ถึง 10 % นอกนั้นเป็นคนต่างถิ่นเข้ามาเทคโอเวอร์บ้าง สร้างขึ้นมาใหม่บ้าง

“พอเราได้ทำโรงแรมดาราเทวี ด้วยความเป็นคนเชียงใหม่ ก็อยากทำโรงแรมขึ้นมา เพราะคิดว่าอยากให้เชียงใหม่มีโรงแรมที่เป็นของคนเชียงใหม่จริงๆ นำเสนอภูมิปัญญาด้านสมุนไพรและวิถีชีวิตของชาวล้านนาโบราณ ในแบบบุคลิกของคนเชียงใหม่ มีการต้อนรับขับสู้ผู้เข้าพักในสไตล์คนล้านนาดั้งเดิม ใช้บุคลิกของคนล้านนาในการให้บริการ การดูแลแขก ดูแลอาหารและห้องที่สะดวก เพราะการไปรับเหมาก่อสร้างก็เดินทางไปหลายที่ หลายประเทศ ได้เห็นสถานที่ต่าง ๆ เมื่อจะสร้างโรงแรมของตนเองจึงออกแบบและบริหารเอง เน้นเรื่องความปลอดภัย”
เพื่อสนับสนุนเชียงใหม่ สู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืน

โรงแรมของคุณสุนทรี ความตั้งใจให้ เป็นโรงแรมล้านนาโคโลเนียลในเชียงใหม่ ได้เห็นความเป็นศิลปะเชียงใหม่ตั้งแต่ที่ล็อบบี้ เปิดให้บริการทั้งสามแห่ง พราะเชียงใหม่มีอะไร เก๋ ๆ เยอะการออกแบบตกแต่งที่สวยงามบรรยากาศภายในจึงคล้ายกับบ้านเก่าในยุโรป มากกว่าให้ความรู้สึกเหมือนห้องพัก ในโรงแรม การ
ใช้เฟอร์นิเจอร์ ที่คลาสสิคทุกมิติของการออกแบบ เป็นหมุดหมายของการมาเยือนเชียงใหม่ จนเป็นที่กล่าวขวัญถึง และได้รับความชื่นชมจากนักท่องเที่ยว เรื่องความรื่นรมย์จากการใช้ชีวิตในโรงแรม ที่ให้ความรู้สึกเหมือนพักผ่อนอยู่
บ้าน จนไม่อยากออกไปไหน

คุณสุนทรี เล่าต่อว่า “ ความที่เป็นคนชื่นชอบของเก่า พอมีโจทย์ว่าจะทำโรงแรม เริ่มหาเฟอร์นิเจอร์เก่า ของเก่าเพื่อนำมาแต่ง มาปรับปรุงใหม่ โดยเริ่มหาของเก่าพวกนี้ก่อน รวมไปถึงด้านงานตกแต่งภายในแทบทั้งหมด รวมไปถึงการแบ่งพื้นที่ใช้สอยของห้อง ออกแบบสัดส่วนและรูปแบบของบานประตูหน้าต่าง เลือกเครื่องใช้และวัสดุที่นำมาตกแต่งเป็นอย่างมาก ดูเองว่าเมื่อนำมาแต่งแล้วจะเป็นอย่างไร? ซึ่งเป็นจังหวะที่เดินทางไปรับเหมายังที่ต่างๆ รวมถึงได้มีโอกาสไปเห็นการออกแบบของสถานที่อื่น ๆ อีกหลายแห่ง ก็เก็บเล็กผสมน้อยมาดีไซน์ให้กับโรงแรมโรงแรม นำศิลปะของเชียงใหม่มาประดับไว้มุมนั้นมุมนี้ของห้อง เพื่อให้ที่นี่เป็นอีกหมุดหมายของการพักผ่อนในเชียงใหม่”

ด้วยศักยภาพของการออกแบบตกแต่งแล้ว ผู้บริหารแอทพิงค์นคร เชียงใหม่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวยั่งยืน ด้วยการทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อสนับสนุนชุมชนใกล้เคียง สนับสนุนการสร้างงานของคนเชียงใหม่ เปิดรับนักเรียนนักศึกษาที่จบการศึกษา เปิดโอกาสให้เข้าทำงานในโรงแรม แม้ไม่ได้ตรงกับสาขาด้านการโรงแรม รวมถึงการการเรียนรู้เรื่องอาหาร และเก็บรักษาคุณค่าความเป็นอาหารเหนือในรสชาติดั้งเดิม

“…อาหารเช้าจะทำเป็นอาหารเหนือ ที่ยังคงความเป็นเชียงใหม่ไว้ รสชาติเป็นเชียงใหม่แท้ต้นตำรับ โดยเชฟที่มีประจำทั้งสามแห่งเป็นคนเหนือ เพราะฉะนั้นคุณภาพ รสชาติของอาหารเหนือจะเหมือนกันทั้งสามแห่งเด็กที่อยู่ ด้วยเราจะสอนการให้ มีสูตรของโรงแรมที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เด็กจบใหม่ ไม่ได้ตรงกับสาขาด้านการโรงแรม เปิดโอกาสให้อาชีพทุกคนที่มาฝึกทำงานที่โรงแรม โดยฝึกให้เด็กทำเป็นทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่ห้องครัว ปูผ้า เรียนรู้เสมือนเราเป็นเจ้าของโรงแรมเอง เด็กต้องทำเป็นทุกน้าที่ความรับผืดชอบ เด็กฝึกงานพนักงานทุกคนต้องช่วยกันเหมือนคนในครอบครัว โดยเด็กฝึกงานหรือพนักบางท่านมีโอกาสไปเติบโต ไปมีครอบครัวที่ดี พอถึงที่วันดำหัว หลายท่านก็กลับมาเยี่ยมเยือน ที่นี่เหมือนกับเป็นมหาวิทยาลัย หลายคนสามารถจบออกไปทำงานในโรงแรมได้

ส่วนของการดูแลโรงแรมทั้ง 3 โรง ภายหลังจากสถานการณ์โควิด ความที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง มีช่างฝีมืออยู่ในมือ ทำให้โรงแรมทั้งสามได้รับการดูแลอย่างดี “ พี่มีช่างอยู่ในมืออยู่แล้ว ด้วยความชื่นชอบเพราะเป็นผู้รับเหมาและในที่สุดก็มาลงตัวในการลงทุนธุรกิจโรงแรม เราจะดูแลอย่างดี ช่วงหลังจากผ่านสถานการณ์โควิด จึงไม่ได้มีการลงทุนอะไรมาก ตอนนี้รักษาลูกน้องไว้ก่อน
“อยากให้สนับสนุนคนเชียงใหม่ที่เป็นเจ้าของ ที่แอทพิงค์นครริเวอร์ไซด์ อยู่ริมแม่น้ำปิง มีบริเวณ มีพื้นที่สำหรับการจัดงาน สถานที่ตรงนี้เคยจัดงานลอยกระทงที่เป็นสไตล์ล้านนา เรายังคงความเป็นล้านนา ซึ่งนอกจากนี้ก็รับจัดงานแต่งงาน งานเลี้ยงต่างๆ ที่ผู้เข้ามาใช้บริการต้องการ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ การจัดโปร แพคเกจพิเศษสำหรับผู้เข้าพักเป็นต้น ” คุณสุนทรี กล่าว

แม้โลเกชั่นและการตกแต่งของแอทพิงค์นคร จะอยู่ในระดับแถวหน้าของโรงแรมในเชียงใหม่ แต่ราคากลับไม่ได้สูงดังเช่นโรงแรมเชนต่าง ๆ ในจังหวัด
“เรื่องราคาเป็นอีกอย่างหนึ่งที่เราคิดทำโรงแรมขึ้น เพราะอยากให้คนแตะต้องได้ในราคานี้ พี่เป็นคนเชียงใหม่ พื้นฐานเรารู้ว่าคนเชียงใหม่ใช้จ่ายเงินประมาณไหน จะมาใช้บริการได้หรือไม่ และนักท่องเที่ยวคนไทยสามารถเข้ามาสัมผัสโรงแรมแบบนี้ในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม อยากคงความเป็นเชียงใหม่ไว้เพื่อส่งต่อความสุขให้คนไทยมีโอกาสเข้ามาพัก มาทานอาหารมาทานข้าวซอย ที่เป็นรสชาติเชียงใหม่ต้นตำรับ ในราคาที่จับต้องได้”

และเมื่อถามว่า มีแนวโน้มจะเปิดสาขาเพิ่มหรือไม่ ?
คุณสุนทรี เล่าต่อถึงบรรยกาศการสนทนาในวันนั้น “จากวันนั้น……ถึงวันนี้ ถือว่า
โรงงแรมแอทพิงค์นคร มาไกลแล้วทั้งสามแห่ง อยากให้คงอยู่และเติบโตไป ไม่มีความคิดที่จะเพิ่มสาขา แต่อยากปรับปรุงทั้งสามแห่งให้ดีขึ้น ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น อยากทำอะไรอีกเยอะ แต่ตอนนี้ต้องพยุงให้อยู่ให้ได้ในเวลาที่เศรษฐกิจที่ยังไม่ดี” โดยในช่วงโควิดหลังการปรับปรุงโรงแรม คาดหวังว่าจะทำให้โรงแรมมีความใหม่ขึ้น ในสายตาของผู้ใช้บริการ

เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าหลักของโรงแรมมาจากกลุ่มการสัมมนา ซึ่งจะเป็นหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก แต่หากขยายฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเอกชนมากขึ้น ทำให้การปรับราคาทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้รวมของโรงแรม

คุณสุนทรี ทิ้งท้ายว่า การทำธุรกิจ อันดับแรกมองเป็นธุรกิจที่ทำแล้วมีความสุข ธุรกิจที่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองรัก ที่ทำแล้วมีความสุขไปพร้อม ๆ กับการสร้างรายได้…เชื่อมั่นในสิ่งที่เราทำ

วันนี้… โรงแรมแอทพิงค์นครทั้งสามแห่ง ทั้งที่ริเวอร์ไซด์ ริมแม่น้ำปิง ที่ถนนห้วยแก้ว และถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย12 นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเริ่มกลับมาเยือนอีกครั้ง
ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยงามของงานดีไซน์สถานที่ ไม่ใช่เพียงเพราะราคาที่จับต้องได้ ไม่ใช่เพียงเพราะมีอาหารแสนอร่อยเสริฟ … แต่ด้วยเพราะ … การบริการด้วยหัวใจในแบบล้านนาของเธอ สุนทรี ดอนท้าวไพร แอทพิงค์นคร

โรงแรม แอทพิงค์นครริเวอร์ไซด์
ตั้งอยู่เลขที่ 381 ถนนเจริญราษฎร์ ฟ้าฮ่าม ต.วัดเกตุ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่
โทร. 053 249 222
โทร. 093 130 1382
Line Official Account: 093 130 1382

#โรงแรมเชียงใหม่ #ที่พักเชียงใหม่ #เที่ยวเชียงใหม่ #ที่พักเชียงใหม่2023 #รีวิวเชียงใหม่ #แอ่วเชียงใหม่ #เมืองเชียงใหม่ #เชียงใหม่ #เที่ยว #chiangmai #travel #reviewchiangmai #lovechiangmai #hotelchiangmai #hotelcnx #toptotravel
#thailand #แต่งงานเชียงใหม่ #สถานที่แต่งงานเชียงใหม่