เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีนฯ
โรงหนังหรู จับตรงจุด ยึดกลยุทธ์พันธมิตรขยายฐานผู้ชม ปีนี้เพิ่มอีก 3 ราย
ล่าสุดพร้อมรับส่งผู้ชมผ่านบริการ Movie Limo Service ด้วยรถลิมูซีนมูลค่า 40 ล้านบาท คาดส่งยอดขายตั๋วผ่านพันธมิตรทะลุ 60% ของยอดตั๋วทั้งหมด
มั่นใจทั้งปีรายได้รวมโตง่ายๆ อีก 10%
นายไบรอัน ฮอลล์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็กซ์เซกคิวทีฟ ซีนิม่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้ของโรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี ดิโพลแมท สกรีนฯ ในปี 2560 นี้เชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 10% มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ พันธมิตรจากเดิม 8 ราย ปีนี้จะเพิ่มอีก 3 ราย, สถานที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี เปิดให้บริการครบทุกพื้นที่ เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการมากขึ้น และรายชื่อภาพยนตร์เข้าฉายในปีนี้เป็นหนังทำเงินค่อนข้างมาก
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ทำการตลาดหนักกว่าปีนี้เพื่อสร้างฐานผู้ชมให้มากขึ้น ส่งผลให้ปีก่อนมีการเติบโตถึง 18% แต่ในปีนี้จากฐานผู้ชมและพันธมิตรที่ดีขึ้น
รูปแบบการทำตลาดทำได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับปีก่อน บวกกับปัจจัยบวกต่างๆ จึงทำให้ปีนี้การเติบโต 10% มีความเป็นไปได้สูงมาก ส่วนสำคัญมาจากกลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อและยังพร้อมใช้จ่ายกับการชมภาพยนตร์ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ก็ตาม
รูปแบบการจับมือกับพันธมิตรเพิ่มมูลค่าบริการพิเศษให้แก่ลูกค้า ถือเป็นรายได้ที่บริหารความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ปีนี้บริษัทมุ่งจับมือกับพันธมิตรอีกอย่างน้อย 3 ราย ในกลุ่ม ยานยนต์, ไอศกรีม แลอสังหาริมทรัพย์ หรือกลุ่มโรงพยาบาล ในระดับพรีเมียม มั่นใจว่าจะทำให้ยอดตั๋วหนังที่เกิดจากพันธมิตรยังมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 60% และอีก 40% มาจากการเข้ามาซื้อที่หน้าโรงเช่นปีที่ผ่านมา จากปกติต่อเดือนจะจำหน่ายตั๋วหนังได้ราว 8,000 ที่นั่ง ปีนี้จะเพิ่มเป็น 10,000 ที่นั่ง หรือเฉลี่ยต่อโรงมียอดเข้าชมที่ 40% จากราคาตั๋วหนังตั้งแต่ 900-1,400 บาท กับโรงภาพยนตร์ 5 โรง รวม 208 ที่นั่ง และกำลังพยายามเพิ่มอีก 20 ที่นั่ง
ล่าสุดปีนี้ได้จับมือกับบริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด รุกทำตลาดรูปแบบมูฟวี มาร์เกตติ้ง เปิดตัวแคมเปญ World Class Experience by Jaguar Land Rover X Embassy Diplomat Screens
ร่วมมือระหว่างยนตรกรรมระดับโลกรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์กับโรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี ดิโพลแมทสกรีน ให้บริการ Movie Limo Service ด้วยรถลิมูซีนมูลค่า 40 ล้านบาท รับส่งลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ระดับซูเปอร์พรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูงในกลุ่มลูกค้า VIP ซื้อบัตร Embassy Gift Card มูลค่า 12,000 บาท รวมถึงทำมูฟวี มาร์เกตติ้งในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนำเสนอสื่อโฆษณาแนวสร้างสรรค์ โปรโมชันส่วนลดบัตรชมภาพยนตร์ตลอดทั้งปี
จากแผนในปีนี้ที่จะเน้นทำ CRM มีการทำดาต้าเบส แมเนจเมนต์ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าอย่างมีระบบเพื่อให้ลูกค้าประทับใจการให้บริการแบบเพอร์ซันนัลลิสต์เซอร์วิส โดยแต่ละเดือนจะมีโปรแกรมสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าด้วยโปรแกรม Because you’re special!
ใน ขณะเดียวกัน จากกระแสดิจิตอล ดิสรัปทีฟ จึงมีการอินทิเกรตสื่ออนไลน์ออฟไลน์ นำเสนอช่องทางและรูปแบบสื่อสารมัลติ แพลตฟอร์ม ที่สามารถสร้าง Brand Excitement ให้กับสินค้าของลูกค้า เชื่อว่าทั้งปีจะมีรายได้รวมโตขึ้นอย่างน้อย 10% มาจาก 3 ส่วนหลัก คือ 65-70% มาจากตั๋วหนังและเครื่องดื่ม 30%มาจากสปอนเซอร์และโฆษณา และอีก 5% มาจากงานอีเวนต์ที่จัดในโรงภาพยนตร์