Category Archives: Event

SACIT Concept 2024 : Geographical Indications of Art and Craft เปิดเวทีงานออกแบบ Craft Design Pitching & Matching 

SACIT ปลุกพลังกระตุ้นผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ GI เชิญชวนผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI เปิดเวทีงานออกแบบ Craft Design Pitching & Matching

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท. ชวนผู้ผลิต หรือ ผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI ได้แก่ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม กลุ่มสมาชิกของ สศท. ช่างฝีมือ ชุมชนหัตถกรรม ผู้ประกอบการทั่วไป ร่วมกับ นักออกแบบ ได้แก่ นักสร้างสรรค์ และนักออกแบบผลิตภัณฑ์ กลุ่มพันธมิตรเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยพร้อมบรรจุภัณฑ์ ผสานองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับนวัตกรรมด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ มีมาตราฐานสินค้าผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย เกิดคุณค่าและความยั่งยืน

นางสาวนฤดี ภู่รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวว่า โครงการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ กิจกรรม SACIT Concept 2024 : Geographical Indications of Art and Craft ดำเนินการเป็น Craft Design Matching การจับคู่กันระหว่าง ผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI กับ นักออกแบบ โดยร่วมกันออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย พร้อมบรรจุภัณฑ์ ที่เกิดจากการสืบสาน ต่อยอดองค์ความรู้งานศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิมที่ได้รับการต่อยอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น (From Root to Route) ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคุณรุ่นใหม่ให้มีความชัดเจนและพัฒนาให้เกิดความร่วมสมัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่สอดรับกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ในปีนี้ เราได้ออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด

GI Smart Craft Combinations: คราฟต์ ผสมผสาน อย่างชาญฉลาด คือ การสร้างเครือข่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมให้เพิ่มมากขึ้น ระหว่าง กลุ่มผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการด้านศิลปหัตถกรรม และนักออกแบบ เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ในรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ วัสดุ วัตถุดิบ การทำสี และการพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการศิลปหัตถกรรมไทย พร้อมยกระดับเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ให้สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ ภายใต้การกำกับดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เราคาดหวังจะได้เห็นผลงานศิลปหัตถกรรมการออกแบบใหม่ ๆ ที่ฉีกกรอบเดิม และสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ทุกผลงานที่ผ่านเข้ารอบและพัฒนาจะได้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการและทดสอบตลาด รวมถึงจัดทำหนังสือรวบรวมองค์ความรู้ จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์

โครงการนี้ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละด้านร่วมพิจารณารอบคัดเลือก และรอบจับคู่ Pitching & Matching คณะกรรมการดำเนินการ พิจารณาข้อมูลเพื่อจับคู่ ผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม จำนวน 3 ราย ต่อนักออกแบบ จำนวน 1 ราย


ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและส่งสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ – 1 พฤษภาคม 2567 ผ่านทาง https://www.sacit.or.th/th/detail/2024-04-19-17-44-37?event-project=1

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)
ที่อยู่ 59 หมู่ 4 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13290 ; โทรศัพท์. 0 3536 7054-9; โทรสาร. 0 3536 7050-1; สายด่วน. 1289; อีเมล. info@sacit.or.th

Austrian Lifestyle Week 2024

Austrian Lifestyle Week 2024 สัปดาห์แห่งการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความยั่งยืนของออสเตรีย กิจกรรมตลอดทั้งสัปดาห์ที่จะชูความโดดเด่นทางด้านอาหาร ไวน์ และแฟชั่นของออสเตรีย พร้อมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ออสเตรีย

กรุงเทพฯ 21 มีนาคม 2567 – สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย กรุงเทพฯ ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Tourist Office) และสถานเอกอัครราชทูตออสเตรียแผนกพาณิชย์ (Advantage Austria) จัดงาน ‘Austrian Lifestyle Week 2024’ โดยมี 3 ธีมที่เป็นไฮไลท์สำคัญ (ศาสตร์การทำอาหาร ไวน์ แฟชั่น) เพื่อเน้นย้ำถึงความมีชีวิตชีวาของออสเตรีย และวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 18-24 มีนาคม 2567 มีการจัดงานต่าง ๆ มากมาย เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบความสัมพันธ์ของประเทศไทยและออสเตรีย รวมถึงความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ 155 ปีระหว่างทั้งสองประเทศ และ 70 ปีของภารกิจประจำถิ่นในกรุงเทพฯ และเวียนนา ตามลำดับ

ไฮไลท์ของงาน Austrian Lifestyle Week 2024 ได้แก่ การแข่งขันทำอาหารกระชับมิตร (20 มีนาคม) ระหว่างเชฟชาวออสเตรีย Max Stiegl และเชฟชาวไทย มาโนช พึ่งพร้อม กิจกรรมชิมไวน์สุดพิเศษ (21 มีนาคม) เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น) และแฟชั่นโชว์ที่นำสมัย (22 มีนาคม)

เชฟมาโนชเชื่อว่าหัวใจของอาหารไทยคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรสชาติดั้งเดิม วัตถุดิบคุณภาพ และเทคนิคการทำอาหารขั้นสูง ความหลงใหลของเขาคือการค้นหาการผสมผสานที่ลงตัวและความสมดุลของรสชาติไทยที่มีทั้งรสหวาน เผ็ด เปรี้ยว และเครื่องเทศต่าง ๆ โดยการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น

ในขณะที่เชฟ Max สร้างสรรค์อาหารออสเตรียแบบดั้งเดิมโดยการผสมผสานประเพณีการทำอาหารฝรั่งเศสควบคู่ไปกับอาหารสไตล์บูร์เกนลันด์ (Burgenland) ที่ยั่งยืน ทำให้เกิดความสร้างสรรค์ในอาหารออสเตรียแบบดั้งเดิม เทศกาล Sautanz (หรือ ‘Sow Dance’) ประจำปีของเขาถือเป็นเรื่องในตำนาน นั่นคือการนำหมูมาประกอบอาหารในทุกส่วนเพื่อเป็นการแสดงถึงการรู้คุณของวัตถุดิบ

ชาว Epicureans รวมถึงแอนโทนี บูร์เดน (Anthony Bourdain) ผู้ล่วงลับไปแล้ว ได้เดินทางจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อลิ้มลองอาหารจานพิเศษที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเชฟ Max เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับวัตถุดิบตามฤดูกาลของภูมิภาคในการรังสรรค์เมนูของเขา ร้านอาหารของเชฟ Max เสิร์ฟเมนูปลาสดจากทะเลสาบ Neusiedl ที่อยู่ใกล้เคียง เนื้อสัตว์ป่าจากเทือกเขา Leitha เนื้อแกะจากฟาร์มของเขา สัตว์ปีกจากเพื่อนบ้านใกล้เคียง และสมุนไพรจากสวนส่วนตัวของเขาเอง

เอ็มมานูเอล เลห์เนอร์-เทลิค (Emanuel Lehner-Telic) ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย กล่าวว่า “การแข่งขันทำอาหารไทย-ออสเตรียจะเปิดโอกาสให้คนไทยได้ค้นพบประเพณีการทำอาหารอันยอดเยี่ยมของออสเตรีย การจัดงานครั้งนี้เป็นการเชิญชวนให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมหลากหลายภายในงานและสัมผัสถึงเสน่ห์ของประเทศออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเลิศรส ภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมที่มีอยู่มากมาย การท่องเที่ยวด้านอาหารของออสเตรียกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากความขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่มีคุณภาพสูงและความใส่ใจด้านความยั่งยืน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากประเทศในแถบยุโรปหลายแห่ง”

นอกจากนี้ มิชลิน ไกด์ยังได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าจะกลับมาเยือนออสเตรียอีกครั้ง พร้อมกับการคัดเลือกระดับชาติที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 รางวัลนี้ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เชฟ Max รับตำแหน่งเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก ที่ได้รับดาวมิชลิน ด้วยวัยเพียง 20 ปี และน่าจะโดนใจนักชิมชาวไทยที่ติดตามมิชลิน ไกด์ เห็นได้จากร้านอาหารหลากหลายแห่งในกรุงเทพฯ และภาคใต้ของประเทศไทยที่อยู่ในระดับดาวมิชลิน

จากอาหารไปสู่วงการแฟชั่น งานแสดงแฟชั่นโชว์ออสเตรียที่จะจัดขึ้น (Austrian Fashion Show) จะเน้นเทรนด์สไตล์ล่าสุดในโอต์กูตูร์ (Haute couture) โดยมีคอลเลกชันพิเศษจาก Conches, Plural และ Thang de Hoo จากออสเตรีย และคุณเอก ทองประเสริฐ (Ek Thongprasert), Wonder Anatomie และ Sirintra จากประเทศไทย การแสดงนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ค้นพบการออกแบบและเนื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดความยั่งยืนจากทั้งสองประเทศ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แฟชั่นระดับพรีเมียมอื่น ๆ อีกมากมาย

Austrian Lifestyle Week 2024 ยังตรงกับวันครบรอบ 155 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรีย และครบรอบ 70 ปีของภารกิจประจำกรุงเทพฯ และเวียนนา ไทยและออสเตรียเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2412 (ค.ศ. 1869) ด้วยการลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพ การค้า และการเดินเรือ งานนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมสามารถกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีและปูทางไปสู่ความร่วมมือที่มากขึ้นในด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศอีกด้วย

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.advantageaustria.org/th/events/next/en

สารส้ม นวตกรรม ภูมิปัญญาไทยยกระดับเทียบเท่านานาชาติ

เพราะแนวคิดกล้าคิด กล้าทำ กล้าเล่น ของคนขี้แพ้ รติรส จุลชาติ สาววิศวกรเคมี จึงนำธุรกิจเดิมของครอบครัวที่รู้จักดี คือ สารส้ม มาต่อยอดทางธุรกิจ สร้างแบรนด์รติ ที่เป็นผลิตภัณธ์ในกลุ่มดูแลรักษาสุขภาพที่รักษาภูมิปัญญาไทยและสิ่งแวดล้อมสร้างแบรนด์ RATI (ระ-ติ) ที่แปลว่าความรัก สร้างผลิตภัณฑ์จากความรัก ด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุดจากธรรมชาติ ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองต่อร่างกายของเราและทุกคนที่เรา “รัก”

รติรส จุลชาติ Founder & Chief Executive Officer เล่าถึงที่มาของการนำสารส้มมาผสมผสานนวตกรรมใหม่ ใช้เวลาทดลองนานกว่า 3 ปี เพื่อปรับปรุงให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกะบผู้ใช้และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ”ครอบครัว ทำโรงงานเคมีและแร่ธาตุ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีและแร่ธาตุต่างๆ และสารส้มก็เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่คุ้นเคยมาตลอด ตัวเองเป็นคนที่ชื่นชอบใช้สารส้มเองจริงๆแต่เขินทุกครั้งที่เวลานำสารส้มเป็นก้อนพกติดตัวเวลาเดินทางกับเพื่อนไปยังที่ต่างๆ ประกอบกับสังเกตเห็นว่า ผลิตภัณฑ์จากสารส้มระงับกลิ่นกายในท้องตลาดส่วนใหญ่นั้น จะเป็นเกรดที่ใช้บำบัดน้ำ ไม่ใช่เกรดที่สัมผัสอาหารได้ (Food Grade) ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า จึงได้คิดค้นและพัฒนาสเปรย์ระงับกลิ่นกายจากสารส้มขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์อย่างแรก จากการทดลองใช้เองและคำแนะนำจากผู้ใช้จริง จึงเกิดความคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยที่สุด โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัยต่อร่างกายเป็นหลัก เพราะรติ (
) เชื่อว่า อะไรที่เราทานได้ก็ย่อมต้องปลอดภัยต่อผิวหนังและร่างกายของเรา
ดังนั้น วัตถุดิบที่เราได้เลือกนำมาใช้นั้นจึงเป็นเกรดที่ดีที่สุด สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้ (Food Grade) ทำให้ปลอดภัย ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และระงับกลิ่นได้ดีที่สุด โดยไม่มีส่วนผสมอื่นที่ก่อให้อันตรายต่อร่างกายของคุณ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือ น้ำมันสังเคราะห์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองภายใต้วงแขนและเกิดรอยดำที่ไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดคราบเหลืองบริเวณเสื้อผ้า รวมถึงไม่มีกลิ่นที่จะรบกวนน้ำหอมราคาแพงที่ฉีดลงบนตัวอีกด้วย

ทั้งนี้จากแนวคิดทั้งหมดของรติ จึงได้พัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ rati Natural Deodorant Spray สเปรย์ระงับกลิ่นกายสูตรธรรมชาติ และ rati Happy Feet
สเปรย์ระงับกลิ่นกายบริเวณเท้าและรองเท้า ที่ได้คัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของผู้บริโภค

RATI Natural Deodorant Spray สเปรย์ระงับกลิ่นกายสูตรธรรมชาติ จากสารส้มเกรดที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรีย พร้อมความรู้สึก สดชื่น จากว่านหางจระเข้ และสารสกัดใบเปปเปอร์มิ้นออร์แกนิค ที่ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคือง พร้อมถนอมความชุ่มชื้น ให้ผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดี ด้วยความสดชื่นจากน้ำแร่ธรรมชาติของผืนป่าเชียงใหม่ โดยปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้และการระคายเคือง “ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น” จึงไม่ทิ้งคราบเหลืองบนเสื้อผ้าและไม่มีกลิ่นรบกวนน้ำหอมที่คุณใช้

RATI Happy Feet สเปรย์ระงับกลิ่นกายบริเวณเท้าและรองเท้า สูตรธรรมชาติ จากสารส้มเกรดที่ปลอดภัยที่สุด ประกอบด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นจากส่วนผสมของสารสกัดน้ำมันจากใบเปปเปอร์มิ้น และสารสกัดจากชาดำ ที่มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ยับยั้งแบคที่เรียที่เป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นบริเวณเท้า โดยปราศจากส่วนผสม ของแอลกอฮอล์และสารเคมี สังเคราะห์ทำให้ไม่ทำให้เกิด คราบสกปรกและความเสียหายแก่หนังและรองเท้าที่มีความบอบบางสูงของคุณ นอกจากสารส้มจะช่วยยับยั้งแบคทีเรียแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยในเรื่องป้องกันการส้นเท้าแตกได้อีกด้วย

RATI เชื่อว่าภูมิปัญญาสารส้มในเรื่องการระงับกลิ่นกายที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมนั้นมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยตามแบบธรรมชาติที่ดีมากอยู่แล้ว RATI จึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่นำวิถีภูมิปัญญาบรรพบุรุษไทย มาเล่าใหม่ในยุคโมเดิร์น และมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายจากธรรมชาติ “เพราะร่างกายที่ธรรมชาติให้มา ให้ธรรมชาติดูแล”

พบกับสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รักโลก รักสุขภาพ ในงาน STYLE Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ธีม “CHIC NATURE” ตั้งแต่วันนี้ – 24 มีนาคม 2564 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบกับสุนทรียภาพและการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนผสมผสานกันอย่างลงตัวในผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญ ของแต่งงานบ้าน แฟชั่น ไปจนถึงหัตถกรรมท้องถิ่นที่ประณีตและมีเอกลักษณ์โดดเด่น

#toptotravel

STYLE Bangkok 2024

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีเปิด “งานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2024 ” ในวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00น. โดยมีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำทีมให้การต้อนรับ ณ ฮอลล์ 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

STYLE Bangkok 2024 มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2567 แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ วันพุธที่ 20 – ศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีกวันเสาร์ที่ 23-อาทิตย์ ที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผู้ที่สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com Facebook/Instagram/TikTok : Style Bangkok Fair
หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

STYLE Bangkok 2024 ภายใต้ธีม ChicNature

เตรียมพบกับความงามที่มีสไตล์และความยั่งยืนที่เป็นรูปธรรมในงาน STYLE Bangkok 2024 ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 24 มีนาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชื่นชมกับแก่นแท้ของงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของไทย ที่จะบรรจบกับความทันสมัยในผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟท์ฝีมือระดับโลก ผู้ประกอบการมากกว่า 500 รายจากทั่วประเทศ และทั่วโลก นำผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงของขวัญ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไปจนถึงเครื่องครัว และอื่นๆ อีกมากมาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการในงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของเอเชีย STYLE Bangkok 2024

  • เผยโฉมแฟชั่นแห่งอนาคต ที่ STYLE Bangkok 2024
  • STYLE Bangkok 2024 เป็นยิ่งกว่างานแสดงสินค้า
  • สืบสานมรกดวัฒนธรรมกับความร่วมสมัยที่ STYLE Bangkok 2024
  • สำรวจอนาคตของแฟชั่นและความยั่งยืนที่ STYLE Bangkok
  • จากมวยไทยสู่แฟชั่น ที่ STYLE Bangkok
  • ยกระดับผ้าทอไทยสู่ตลาดโลกที่ STYLE Bangkok 2024
  • ขุมทรัพย์แฟชั่นสุดสร้างสรรค์ที่ STYLE Bangkok 2024
  • หัตถศิลป์ไทยที่ก้าวข้ามกาลเวลา ในงาน STYLE Bangkok
  • ฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่นกับองค์ความรู้สมัยใหม่ ใน STYLE Bangkok 2024
  • STYLE Bangkok 2024 ส่งเสริมแฟชั่นไทยบนรากฐานความยั่งยืน

สำหรับผู้ชื่นชอบมวยไทย STYLE Bangkok 2024 นำเสนอผลิตภัณฑ์จากนักมวยไทยชื่อดังระดับโลกอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ภายใต้แบรนด์ “บัวขาว แกลลอรี่” ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของกีฬาอันเป็นเอกลักษณ์ไทย มาอวดโฉมชาวไทยและชาวโลกเมื่อ ซอฟต์พาวเวอร์ของกีฬาและแฟชั่นมาบรรจบกันได้อย่างน่าทึ่ง

ไฮไลท์ยังไม่ได้จบเพียงเท่านั้น ยังมีมรดกสิ่งทอไทยอันน่าชื่นชมที่บูธ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” โครงการตามแนวพระดำริของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ฟื้นคืนความรู้จากภูมิปัญญาพื้นถิ่นมาบูรณาการร่วมกับองค์ความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เกิดเป็นผลงานการถักทอผืนผ้าและงานหัตถศิลป์ไทยที่มีความร่วมสมัยเป็นสากล ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ เป็นที่ยอมรับของตลาดภายในและต่างประเทศ

STYLE Bangkok 2024 จึงไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่เป็นการเชิดชูเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นในมิติต่างๆ จากผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรมไปจนถึงผู้ประกอบการหน้าใหม่ จากความคิดริเริ่มระดับรากหญ้าไปจนถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บทพิสูจน์ถึงความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ของหัตถศิลป์ไทย ที่มีรากฐานจากภูมิปัญญาที่สืบทอดมานานต่อยอดกับแนวคิดสมัยใหม่และความยั่งยืนที่กำหนดทิศทางอนาคตของแฟชั่นไทย ที่ STYLE Bangkok 2024

STYLE Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ธีม “ChicNature’’ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 24 มีนาคม 2567

ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ www.stylebangkokfair.com

แอนิเมชัน “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ติดเทรนด์ บน แอปพลิเคชัน ทรูไอดี

แอนิเมชัน “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ติดเทรนด์ บน แอปพลิเคชัน ทรูไอดี
ด้วยเรื่องราวและคติสอนใจเหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่
หลังจากการเปิดตัว แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ทางสตรีมมิ่ง TrueID เป็นที่แรกตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นั้น แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในรายการประเภทเดียวกัน มียอดวิวเข้าชมในขณะนี้สูงถึงกว่า หนึ่งแสนหกหมื่นวิวแล้ว เรียกว่าเข้าถึงกลุ่มผู้ชมทั้งเด็ก เยาวชน และครอบครัวยุคใหม่ ได้สมเจตนารมณ์ที่ทีมผู้ผลิตคาดหวัง


แอนิเมชันซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” สร้างจากแรงบันดาลใจ และหลักธรรมคําสอนของ “พระเมธีวชิโรดม – ว.วชิรเมธี” เป็นแนวคิดหลักของเรื่อง ผ่านตัวละครสามเณร “สติมา” เพื่อหวังปลูกฝัง Global Mindset ที่ว่า “We Are One โลกทั้งผอง เป็นพี่น้องกัน” ที่จะทำให้ประชาคมโลกอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็น และเป็นสุข โดยเล่าเรื่องราวผ่านความสนุกสนานของวิถีชีวิตเยาวชนในชนบท ภายใต้หลักธรรมที่แทรกคำคมธรรมะจาก พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี)
ดร.ชวัลวัฒน์ อริยะวรารมย์ CEO : T&B Media Global, เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และ Executive Producer ของโปรเจคนี้ ได้เปิดเผยว่า “ รู้สึกดีใจที่มีคนให้ความสนใจให้แอนิเมชัน สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ และดีใจที่ยอดวิวในการรับชมที่พุ่งขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนั่นหมายความว่า เนื้อหาของแอนิเมชันชุดนี้ ได้เข้าถึงตรงใจคนรักแอนิเมชัน และครอบครัวยุคใหม่ ที่สามารถนำไปให้ลูกหลานได้ชม เป็นหลักธรรมที่ พระเมธีวชิโรดม หรือพระอาจารย์ว.วชิรเมธี ท่านได้สอดแทรกคำสอนที่เข้าใจง่าย ซึ่งกว่าแอนิเมชันเรื่องนี้จะเสร็จสมบูรณ์ใช้เวลาถึงสิบปีเลยทีเดียว หวังว่า เนื้อหาในแต่ละตอน จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้รับชมได้นำไปเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน เพื่อให้โลกของเราได้เป็นสุขต่อไปครับ”
“สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” สร้างโดย มูลนิธิวิมุตตยาลัย มูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิอริยวรารมย์ เชลล์ฮัท เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล และ ดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น ที่ร่วมรังสรรค์ออกมาเป็นแอนิเมชัน

สำหรับเด็กเยาวชนและเหมาะกับครอบครัวยุคใหม่ สามารถรับชม แอนิเมชัน ซีรีส์ “สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ” ได้ที่ ทางสตรีมมิ่ง TrueID หรือ https://www.trueid.net/watch/th-th/animation/tvca-kids-cartoon

มองโกเลีย ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวอันแปลกใหม่สุดประทับใจ 

เตรียมตัวออกเดินทางไปยังใจกลางแห่งมองโกเลีย ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวอันแปลกใหม่สุดประทับใจ ที่ซึ่งคุณจะได้ลิ้มรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ดื่มด่ำไปกับความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ยาวนาน อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเราตั้งตารอคอยให้คุณมาร่วมเฉลิมฉลองประเพณีอันงดงามและมีชีวิตชีวาที่ซึ่งเป็นมรดกตกทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวมองโกเลียจากความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภายใต้ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อเปิดสัมผัสวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของมองโกเลียผ่านการแสดงแบบดั้งเดิมและน่าตื่นตาตื่นใจ ค้นพบประวัติศาสตร์อันยาวนานและโอกาสในการไปเยือนสถานที่อันน่าตื่นเต้นร่วมกัน

มรดกทางวัฒนธรรมมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับเอกลักษณ์ประจำชาติที่แสดงถึงตัวตนของชาวมองโกเลียอย่างแท้จริง และเรามองเห็นว่าควรนำเสนอความงดงามดังกล่าวไปสู่เวทีโลก พวกเขาจะได้มองเห็นภาพของประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงการมองไปยังอนาคต ทั้งหมดเป็นตัวกำหนดเรื่องราวในการเล่าเรื่องชาติของเรา มองโกเลียได้พยายามโอบอุ้มแก่นแท้แห่งความเป็นประเทศด้วยคำว่า “GO” อันเป็นอักษรและคำที่มีความหมายตั้งอยู่ตรงกลาง คุณจะได้เห็นการออกแบบอันฝังแน่นที่อยู่ในดีเอ็นเอของความเป็นมองโกเลีย สำรวจและค้นพบสัญลักษณ์และตัวตนอันแสนพิเศษที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจอันแตกต่างให้กับแต่ละเรื่องราวของมองโกเลีย

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คำว่า “GO” ถือเป็นหัวใจและใจกลางสำคัญของชื่อและชาติของเรา อาจมองเป็นคำง่ายๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง เพราะไม่เพียงแต่กำหนดแรงผลักดันและจิตวิญญาณในความเป็นชาติของเราเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวมองโกทุกคนบนเวทีโลกอีกด้วย เราได้รวม “GO” ไว้ในปรัชญาการสร้างความเป็นชาติของเราในแบบที่ไม่มีใครทำได้

คำว่า “มองโกเลีย” ถูกสร้างขึ้นโดยใช้สัญลักษณ์แห่งอักษรซอยอมโบ หรือ อักษรสวยัมภู ทั้งหมด โดยแต่ละองค์ประกอบนั้น ได้ถูกนำมาใช้อย่างประณีตเพื่อสร้างรูปแบบตัวอักษรที่โดดเด่น ส่งผลให้เกิดคำที่ทันสมัยและทรงพลังรูปแบบตัวอักษรมีลักษณะหนาและกว้าง โดยผสมผสานความแตกต่างเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดทางสายตา แม้จะมีองค์ประกอบการออกแบบที่ทันสมัย แต่ค่านิยม ประเพณี และความสมบูรณ์ ยังคงถูกรักษาเอาไว้อย่างแน่นเหนียว

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมใน มองโกเลีย
มองโกเลีย มีทุ่งหญ้าสเตปป์กว้างใหญ่ ภูเขาสูงตระหง่าน และวัฒนธรรมแห่งชนเผ่าเร่ร่อน ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันล้ำค่าสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาการผจญภัย ค้นพบประวัติศาสตร์ และความงามของธรรมชาติ จนเราสามารถพูดได้ว่า นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด โดยแต่ละพื้นที่มีเสน่ห์และความดึงดูดเฉพาะตัว:

1. ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายโกบี ทอดยาวไปยังทั่วภูมิภาคทางตอนใต้ของมองโกเลีย มีภูมิทัศน์อันน่าหลงใหลของเนินทรายและแนวหิน ดึงดูดนักเดินทางด้วยพืชพันธุ์และสัตว์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับเนินทรายแห่ง Kongoryn Els ที่สูงตระหง่าน ขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ Flaming Cliffs และดื่มด่ำไปกับการต้อนรับแบบพื้นเมืองของชนเผ่าเร่ร่อน

2. ทะเลสาบ Khuvsgul (คุชกุล) ทะเลสาบ Khuvsgul ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “Blue Pearl” ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาทางตอนเหนือของมองโกเลีย เป็นสถานที่พักผ่อน พร้อมด้วยอากาศอันบริสุทธิ์สำหรับนักเดินทางที่มาตั้งแคมป์ เดินป่า และชมวิถีชีวิตการเลี้ยงกวางเรนเดียร์ Tsaatan อีกทั้งยังมีน้ำทะเลใสดุจคริสตัลและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาสำรวจธรรมชาติพร้อมสัมผัสกับวัฒนธรรมอันงดงามของภูมิภาคแห่งนี้

3. อุทยานแห่งชาติ Terelj (เทเรลจ์) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันงดงามใกล้กับเมืองอูลานบาตอร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยหินแกรนิตที่ก่อตัวเป็นรูปทรงเต่าอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเงียบสงบเหมาะกับการทำสมาธิท่ามกลางทัศนยีภาพอันสวยงามและลำธารทอดยาว เดินทางเพียงไม่นานจากเมืองหลวงสู่อุทยานแห่งนี้ คุณจะได้ค้นพบความงดงามทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของมองโกเลีย

4. อนุสาวรีย์เจงกีสข่าน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับรูปปั้นคนขี่ม้าสูงตระหง่าน โดดเด่น และสง่างาม ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงริมแม่น้ำตูล หรือเป็นที่รู้จักในนามอนุสาวรีย์รูปปั้นเจงกีสข่าน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติของมองโกเลีย ด้วยทัศนียภาพอันงดงามและความโดดเด่นทางวัฒนธรรม ทำให้สถานที่เหล่านี้ดึงดูดผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์และนักท่องเที่ยวผู้กระตือรือร้นที่จะเจาะลึกไปยังอดีตของมองโกเลีย

5. Kharkhorin (คาร์คอริน) ในฐานะเมืองหลวงเก่าแห่งจักรวรรดิมองโกล Kharkhorin เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พระอาราม Erdene Zuu และซากปรักหักพังแห่ง Karakorum เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสำรวจมรดกและประวัติศาสตร์อันยาวนานของมองโกเลีย อีกทั้งยังมี พิพิธภัณฑ์ Kharkhorin ที่จัดแสดงมรดกของอดีตผู้นำเจงกีสข่าน ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์

6. ทะเลสาบ Ugii (อูกี) ทะเลสาบ Ugii ในจังหวัด Arkhangai อันเงียบสงบและงดงาม ดึงดูดผู้รักธรรมชาติด้วยผืนน้ำอันราบเรียบเงียบสงบ เหมาะแก่การดูนกและกิจกรรมสันทนาการ เช่น ตกปลาและพายเรือ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบเร่ร่อนของชาวมองโกเลียดั้งเดิม ช่วยเพิ่มสีสันและความรู้ให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

จากสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวที่เรานำเสนอ เป็นส่วนหนึ่งของภูมิประเทศที่หลากหลาย วัฒนธรรมอันเก่าแก่ และประวัติศาสตร์อันยาวนานของมองโกเลีย ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าจดจำอย่างแท้จริงสำหรับนักเดินทางที่มาเยือน

ผู้เข้าร่วมงาน The Mongolian TourismOrganization (MTO), องค์กรการท่องเที่ยวมองโกเลีย (MTO)
ก่อตั้งขึ้นในปี 2566 รับหน้าที่ดูแลนโยบายภาคการท่องเที่ยว ประกอบด้วยสมาชิกคณะกรรมการ 27 คนที่ได้รับเลือกจากภาคการท่องเที่ยว

MTO ให้บริการสมาชิกเกือบ 300 รายจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาคเอกชนและองค์กรภาครัฐเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมองโกเลียทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ร่วมสำรวจประสบการณ์อันน่าจดจำ ในวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00น. เป็นต้นไป

ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิร์ล พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 16:00 – 18:00 น.

Amazing Chiang Rai Lifestyle ชวนมาปักหมุดจุดท่องเที่ยวเชียงราย ปี2567

ทริปเชียงรายเริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นเดือน ธันวาคม 2566 ทีมงานTOPTOTRAVEL
ได้รับเกียรติเข้าร่วมชื่นชมความร่วมแรง ร่วมใจ ของชาวจังหวัดเชียงรายจาก โรงแรมเฮอริเทจ คอนเวนชั่นแอนด์สปา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย (พื้นที่รับผิดชอบ :เชียงราย ,พะเยา)
ไม่เพียงแต่ได้สัมผัสกับการเตรียมงานศิลปะต่างๆ ของขาวเมือง ยังได้ชื่นชมกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน ศิลปะ และสินค้าด้านสุขภาพ การสาธิตต่างๆ เช่น การสาธิตและการเสวนาให้ความรู้ด้านชา-กาแฟและศิลปะ รวมถึง Workshop งานคราฟต์ งานศิลปะ และการแสดงบนเวที และศิลปินนักดนตรีที่มีชื่อเสียงทุกวันตลอดการจัดงาน และสุดพิเศษภายในงาน พบกับแพ็คเกจท่องเที่ยวเส้นทางชา-กาแฟบนเส้นทาง Thailand Biennale Chiang Rai และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เริ่มต้นงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศอย่าง Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 การแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินทั่วโลก ที่นำเข้ามาเผยแพร่ในจังหวัดเชียงราย กระจายตามจุดต่างๆ โดยจัดสองปีต่อครั้ง ครั้งนี้กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมเมื่อมีการระดมทุนจากทุกภาคส่วนโดยมีหัวเรือใหญ่ โดยความตั้งใจของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินล้านนานามกระฉ่อนที่บ้านเรารู้จักกันดีร่วมกับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการและศิลปินในจังหวัดเชียงราย

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย โดย ททท.ชวนนักท่องเที่ยวมาเชียงราย เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายได้กำหนดจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวที่สำคัญหลายงาน เริ่มจากงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวหลากหลายกิจกรรม อาทิ เส้นทางชา-กาแฟ เส้นทางศิลปะ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 เส้นทาง Health & Wellness กิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน โดย ททท. สำนักงานเชียงราย ได้ยกสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว

งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และอีก 4 อำเภอได้แก่ อ.ป่าแดด อ.พญาเม็งราย อ.ดอยหลวง และ อ.แม่จัน งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2567 ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย งานสีสันดอยตุง ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 28 มกราคม 2567 (เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขตฤกษ์) ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย งานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ International Balloon Fiesta 2024 ระหว่างวันที่ 14 – 19 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สิงห์ปาร์คเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย งานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ระหว่างวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2567 ณ วัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ชวนทุกคนมาปักหมุด สถานที่ท่องเที่ยวและเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะส่วนหนึ่งของงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่เตรียมพร้อมสำหรับการรอรับผู้มาเยือน เริ่มกันที่แรก

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ถวัลย์ ดัชนี
ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์และศิลปะแบบล้านนาที่ทรงคุณค่า เกิดขึ้นจากอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชาวล้านนา บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่
ภายในสถาปัตยกรรมแบบกาแลทั้งหมด 36 หลัง ที่นี่เป็นสถานที่รังสรรค์ผลงานของอาจารย์และเป็นที่เก็บผลงานศิลปะในรูปแบบที่แปลกตา โดยเฉพาะการบรรดาหนังสัตว์ เขาควาย เขากวาง แซมแทรกในงานศิลปะเกือบทุกอณู ใครอยากมาเที่ยวที่นี่ เดินทางมาได้ทุกวัน รวมทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00- 17.00 น. ค่าเข้าชม 80 บาท

พิกัด https://goo.gl/maps/VjMP278x7S31FcKQ6
ตั้งอยู่เลขที่ 414 ตำบลนางแล อำเภอเมือง เชียงราย โทร 053 776333

ร้าน SOMETHING JOURNEY
หลังจากเดินเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำของอาจารย์ถวัลย์ กันเสร็จเรียบร้อย แวะทานอาหารกลางยังร้าน SOMETHING JOURNEY เป็นร้านที่บริหารงานโดยคนหนุ่มรุ่นใหม่ านอยู่ห่างจากตัวเมืองพอประมาณ ใกล้ๆ วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงรายมีขายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ร้านสวย บรรยากาศดี ถ่านรูปได้ทุกมุม รสชาติคุ้มราคา ร้านแห่งนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน เรียกว่ายังใหม่สดๆ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการมาจิบกาแฟชิมอาหารนั่งพักผ่อนก่อนจะเดินทางกันต่อด้วยตัวอาคารสีขาว การตกแต่งด้วยโทนอบอุ่นปูทางเดินเข้าร้านด้วยต้นไม้ทรงเตี้ย เผยให้เห็นอาคารชัดเจน และเมื่อเข้าสู่ด้านใน จะแบ่งโซนเป็นอินดอร์และเอาท์ดอร์Home12 พิกัดเที่ยวในเชียงรายบรรยากาศปิกนิคในสวนขนาดใหญ่ มีมุมสงบ มุมพักผ่อน มุมถ่ายรูปอยู่ 3 โซนในเนื้อที่กว่า 9 ไร่ มีพื้นที่หลายโซนเหมือนมาพักผ่อนอารมน์แนวประมาณมาสวนส่วนตัวเลย

เมนู Something Drip Set กาแฟคั่วอ่อน จากดอยปางขอน ที่สายกาแฟไม่ควรพลาด พร้อมสูตรและอุปกรณ์การดริปกาแฟให้มาลอองดริปกันชิลล์ๆ หรือถ้าแนวสุขภาพก็ เมนู Signature ของร้านก็ต้องเป็น “ก่ำเกิร์ต” โยเกิร์ตปั่นข้าวเหนียวดำออร์แกนิคที่สุดของความสดชื่น อร่อยลงตัวแถมได้สุขภาพดี และเมนูยอดฮิทอย่าง เห็ดเทมปุระ เห็ดออร์แกนิค จากไร่ ที่มีบริการเฉพาะวันเสาร์และวันจันทร์

ร้าน SOMETHING JOURNEY
ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
TEL : 061 936 6415 EMAIL : something.journey@gmail.com
FACEBOOK : SOMETHINGJOURNEY
เวลาเปิด-ปิด 09.00 – 21.00 น., ทุกศุกร์-อาทิตย์เปิดถึง 22.00 น.โทร. 0994655362
GPS: https://maps.app.goo.gl/ABQapEBw7LXT7Xm49?g_st=il

ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน
ไร่เชิญตะวัน อันหมายถึง สถานแห่งการเชิญธรรมะ ซึ่งเป็นดั่งดวงตะวัน เข้ามาสู่ชีวิตจิตใจ สถานที่ที่เรารู้จักกันดี เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานมูลนิธิวิมุตตายาลัย สถาบันวิมุตตยาลัย มหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (สถาบันกรศึกษาทางเลือกเพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์) เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้สนใจพระพุทธศาสนา ศิลปะ และการพัฒนาสังคม เป็นแหล่งเรียนรู้และปฏิบัติธรรมที่เปิดกว้างแก่ผู้แสวงหาความสันติและความเจริญงอกงาม

ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี กรุณาพาเยี่ยมชมสถานที่จัดแสดงงานนิทรรศการศิลปะ ซึ่งก็มีหลายจุดที่ผู้มาเยี่ยมชม เดินชื่นชมกัน เรียกว่าได้ทั้งหลักธรรมที่แทรมแซกในชิ้นงานศิลปะ และงานดีไซน์ของเหล่าศิลปินที่น่าสนใจมากๆ และเป็นที่น่ายินดีว่า งานบางชิ้นจะยังคงอยู่ถาวรในสถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ เรียนธรรมผ่านศิลปะที่ทรงคุณค่า เรียกว่าต้องใช้เวลาในการเดินเยี่ยมชมกันได้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ซุ้มประตูไร่กันเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงงานศิลปะจากศิลปินไทยแล้ว ยังมีผลงานของศิลปินต่างชาติชาวเกาหลีใต้ที่เข้ามาร่วมแสดงงานด้วย เปิดโลก เปิดสุนทรียะในพุทธศิลป์ อิ่มเอมทั้งกายและใจกลับไปอย่างแน่นอน

ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน
(Cherntawan International Meditation Center)
เปิด 8.00-17.00 น.
http://www.facebook.com/raicherntawan.cr
ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน (ว.วชิรเมธี) โทร 087 080 7779
พิกัด https://maps.app.goo.gl/fZqmqsuSsbxppmss6

หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย
ด้วยความตั้งใจจริงของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ที่สนับสนุนงบกว่าหกสิบล้านบาทเป็นจุดเริ่มต้นและด้วยศักยภาพของอาจารย์ที่ทำให้เหล่านักธุรกิจ ผู้ประกอบการ เจ้าของที่ดินนายทวี อร่ามรัศมี ที่บริจาคที่ดินถึง 17 ไร่ ภายในจังหวัดและศิลปินล้านนาที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้เกิดหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย Chiang Rai International Art Museum ( CIAM) แห่งนี้ขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แสดงงานที่ยิ่งใหญ่อย่าง Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 การสร้างหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงรายจะเป็นจุดหมายใหม่สำหรับศิลปินเชียงรายและศิลปินทั่วไทยที่จะได้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของศิลปะสมัยใหม่ที่น่าสนใจ

หอศิลป์แห่งนี้เป็นหอศิลป์ขนาดสี่ชั้นครึ่ง ประกอบไปด้วยห้องนิทรรศการ มิวเซียมช็อป คาเฟ่และสำนักงาน และยังเตรียมสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ โรงละคร หอประชุม หมู่บ้านศิลปินที่ตั้งใจจะเป็นสตูดิโอสำหรับสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินอีกด้วย

จัดแสดงผลงานของศิลปิน: ออล(โซน), อัลมากุล เมนลิบาเยวา, แฮกู ยาง, มาเรีย ฮาซซาบิ, โมวานา เฉิน, ปิแอร์ ฮุยจ์, พรีเชียส โอโคโยมอน, ซาราห์ ซี, สมลักษณ์ ปันติบุญ, โทเบียส เรห์แบร์เกอร์, โทกูดูร์ ยอนดอนแจมตส์, หวัง เหวิน จื้อ และซิน หลิว

Pavilion “The Canopy Walks” โดย เดอะ คาโนปี้ โปรเจกต์ และจัดกิจกรรม เทศกาลศิลปะการแสดงสด โดย Bangkok International Performing Arts Meeting (BIPAM)

หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย Chiang Rai International Art Museum (CIAM)ตั้งอยู่ระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนเวียงบูรพา ใกล้สนามบินแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย https://maps.app.goo.gl/6LkhFzeFzHVwGCLc9
เปิดทุกวัน 9.00 – 17.00 น. | ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์

ร้านชาสวรรค์บนดิน : SAWANBONDIN TEA HOUSE
เที่ยวเชียงราย ตามไปอีกหนึ่งจุดเช็คอิน เป็นอีกหนึ่งร้านที่การันตีความพิเศษจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “ชา” เป็นหนึ่งในศาสตร์และศิลปะแสนทรงเสน่ห์ เริ่มต้นจากฟาร์มเล็ก ๆ เสิร์ฟชากันภายในบ้านดินหลังย่อม มาวันนี้ Sawanbondin Farm & Tea House (สวรรค์บนดิน) กลายเป็นร้านน้ำชาที่มีชื่อเสียง เมื่อแรกเข้าสู่ร้านก็เห็นถึงความเรียบง่ายของพื้นที่ ภายในอาคารชั้นเดียวทรงสูงเพื่อรองรับที่นั่งชั้นลอยให้กับลูกค้า มีที่นั่งทั้งในแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ ที่นี่เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาชั้นดีฝีมือสามีภรรยาคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาในการศึกษาชาจนได้รับรางวัลการันตีรสชาติมามากมายทั้งในและต่างประเทศ ด้านนอกส่วนหนึ่งแบ่งพื้นที่ปลูกต้นชาให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และประสบการณ์เรื่องชาด้วยนอกจากนี้ยังรวมถึงขนมที่เสริฟมาคู่กับชาชั้นเลิศ ที่เจ้าของร้านบอกว่า เป็นขนมที่คนรุ่นปู่รุ่นยายทำทานกันที่บ้าน ก่อนจะปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับการทานกับชา

ที่นี่เหมาะสำหรับคนรักชาอย่างแท้จริง หากมีเวลา ลองค่อยๆ นั่งละเลียดหอมกรุ่นกลิ่นชากันทีละนิด ทีละน้อย ปล่อยใจให้ผ่อนคลายไปกับชาหลากรส หรือจะเลือกสรรผลิตภัณฑ์ชาที่ดื่มเพื่อสุขภาพร้านชาที่นี่นอกจากจะให้ดื่มชิมกับชาพิเศษแล้ว ยังให้ความรู้ในเรื่องชาท้องถิ่น ชาเมี่ยง(ชาป่า)ที่เมื่อดื่มชงแล้วจะได้กลิ่นหอมด้วย ดึงดูดผู้มาเยือนด้วยกลิ่นหอมของชาออร์แกนิกมีเมนูเครื่องดื่มมากมาย ทางร้านเลือกใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร ด้วยเหตุผลหลักที่ว่า เพื่ออุดหนุนเกษตรกรและทำให้ผู้คนรับรู้ถึงสินค้าดีดีในพื้นถิ่นว่าสามารถนำมาต่อยอดได้

คุณชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ เจ้าของร้านชาสวรรค์บนดิน

คุณชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ เจ้าของร้านชาสวรรค์บนดิน บอกถึงความพิเศษของการทำร้านชาพิเศษแห่งนี้ว่า การทำร้านชาพิเศษแบบนี้ มีโอกาสเติบโตแน่นอน โดยเฉพาะชาที่ทำออกมาเป็นชาพิเศษ หมายถึงเราดูแลต้นชา ส่งเสริมให้คนและสิ่งแวดล้อมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้นความพิเศษเหล่านั้นก็จะส่งผลให้ชาที่อยู่ตรงนั้นมีรสชาติมีกลิ่นหลากหลายซับซ้อนยิ่งขึ้น

Facebook : Sawanbondin Tea House& Experience โทร 0812053554
171/12 หมู่ 1 อำเภอเมืองเชียงราย จ.เชียงราย
โทร 081 205 3554 ·เวลา เปิด – ปิด 9.00-17.00 น.

ไฮเดรนเยีย ซัง
ทุ่งไฮเดรนเยียบนยอดดอย วิวหลักล้านอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดการเช็คอิน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสีสันและความสวยงามของดอกไฮเดรนเยีย ที่นี่ดอกไม้บานสะพรั่งอวดสีสันเต็มลานเนินภู จะเลือกมุมไหนก็ไม่ผิดหวัง เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าก็จัดสรรซุ้มสีขาวรอต้อนรับนักท่องเที่ยว มีมุมชิงช้า มุมตู้โทรศัพท์ ซุ้มดอกไม้ ซึ่งการสร้างหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงรายจะเป็นจุดหมายใหม่สำหรับศิลปินเชียงรายและศิลปินทั่วไทยที่จะได้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของศิลปะสมัยใหม่ที่น่าสนใจ

แนะนำมาถึงช่วงเช้าก่อนเก้าโมงเช้า ถ่ายรูปสวย อากาศดีมากไม่ร้อนแสบตาบรรยากาศโดยรอบ เห็นขุนเขาไกลสุดตา พื้นที่เปิดกว้างแบบวิวพานอราม่าให้เลือกถ่ายภาพแบบสวยไม่ซ้ำกัน เรียกว่าใครมาเชียงรายช่วงนี้ไม่ผิดหวัง เวลาเปิด-ปิด : 07.30-17.30 น. + ค่าเข้าชม : 80 บ./คน (มีน้ำเปล่าให้ 1 ขวด)
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท ด้านหน้ามีดอกไฮเดรนเยียให้เช่า บริการนำไปถือถ่ายรูปเล่นกันด้วย

Hydrangea san
โทร 093 275 3708 บ้านแม่มอญ ตำบล ห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงรายไฮเดรนเยียซัง #ดอยแม่มอญ #เที่ยวเชียงราย #รีวิวเชียงราย

ร้านกาแฟ YAYO FARM :หญ่าโย ฟาร์ม คาเฟ่ดอยช้าง
เดินทางกันต่อยังอีกหนึ่งจุดเช็คอิน เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่พาเราไปแวะเก็บบรรยากาศบนดอยช้างกันก่อนที่จะลัดเลาะตามเนินเพื่อไปนั่งจิบกาแฟกัน นอกจากจะไปร่วมเก็บประสบการณ์กันที่ร้านชาที่มีความพิเศษของร้านสวรรค์บนดินทีเฮาส์กันแล้ว ก็ต้องเป็นเรื่องของกาแฟบ้างร้านกาแฟ YAYO Farm เป็นร้านแบบโอเพนแอร์เปิดโล่งหลังคาสูงใช้วัสดุตกแต่งจากธรรมชาติ ออกแบบให้เปิดโล่งเห็นวิวแบบสุดลูกหูลูกตา เรียกว่าทำลานกว้างเพื่อให้ผู้มาเยือนได้เลือกเก็บเกี่ยวความงามกันอย่างเต็มที่ ใครใคร่ถ่ายภาพมุมไหนก็มีให้เลือก ไม่ต้องแย่งกัน เพราะลูกค้าที่นี่เยอะมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ดูเหมือนจะอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือกันขึ้นมาเก็บภาพ

กาแฟที่แฟร์กับทุกคน
เราอยู่กันที่ YAYO FARM ที่นี่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคอกาแฟและคนที่ไม่ใช่คอกาแฟก็สามารถเอ็นจอยได้อย่างไม่ยากเย็น หญ่าโย ฟาร์ม คาเฟ่ดอยช้างที่เป็นมากกว่าคาเฟ่ธรรมดาๆ เพราะเป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้ โรงแปรรูปกาแฟอาราบิก้าแท้ และร้านกาแฟ ในคอนเซ็ปต์ที่เปรียบตัวเองเป็นเหมือนสุภาพบุรษ เพราะที่นี่แฟร์กับทุกคน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม จุดเริ่มต้นการเพาะปลูกจนถึงปลายทางรสละมุนหอมกรุ่นในแก้วกาแฟที่อยู่วางตรงหน้า

ถ้าพูดถึงเชียงรายจะไม่พูดถึงกาแฟก็ไม่ได้ เพราะได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้ามากที่สุดในประเทศไทย ในพื้นที่กว่า 4 หมื่นไร่ นับเป็นแหล่งกาแฟพันธุ์ดีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะเป็นจังหวัดที่อากาศเย็นสบายเหมาะสำหรับการพักผ่อน คุณสุกัญญา บีซีทู เจ้าของร้าน บอกถึงความรู้สึกถึงการปลูกกาแฟว่า กาแฟโคตรแฟร์กับคนปลูก กาแฟทำให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คนดื่ม ๆ แล้วมีเอนเนอจี้ เทียบกับพืชอื่นๆ แล้วกาแฟโคตรแฟร์ ซึ่งเป็นลูกหลานของคนบนดอยช้าง หลังจากเรียนจบได้นำความรู้มาต่อยอด นอกจากกาแฟที่ขายอยู่หน้าร้านที่ปลูกเอง ยังรับซื้อกาแฟเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร การทำร้านกาแฟจึงทำให้รู้สึกดีอธิบายให้เราเห็นภาพตามว่า ทุกๆ พื้นที่ที่ปลูกกาแฟ เท่ากับเรากำลังเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับโลกใบนี้ ตามสโลแกน ‘YAYO COFFEE WE GROW GREEN’ ของทางร้าน

ที่ตั้งร้านแห่งนี้แม้จะอยู่ลึกแต่ดีต่อใจ ด้วยเพราะเป็นร้านกาแฟที่ให้มากกว่าร้านกาแฟก็ตรงวิวที่สวยงาม ที่นี่ปลูกกาแฟเอง มีโรงคั่วที่ผลิตเองนอกจากเพื่อใช้ในร้านเองแล้วยังเพื่อจำหน่ายสู่ท้องตลาด

หญ่าโย ฟาร์ม
ที่อยู่: 1001 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
เปิด-ปิด: ทุกวัน 8.30 – 17.30 น.
เบอร์ติดต่อ: 096 060 1314
Facebook: YAYO FARM
เวลาเปิดทุกวัน 08.30-17.00 น. โทร 090 0601314
#yayofarm #เที่ยวเชียงราย #รีวิวเชียงราย #ร้านกาแฟวิวหลักล้าน #cafe

อาข่า ฟาร์มวิลล์ Akha Farmville
เรายังคงอยู่กันที่ดอยช้าง คราวนี้ไปหาประสบการณ์กับแกะกัน อาข่า ฟาร์มวิว ตั้งอยู่ดอยติดกับจุดชมวิวของหมู่บ้านแสนเจริญ ทางขึ้นบ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย ริมทางหลวงชนบท กิโลเมตรที่ 5+475 (ถนนสายหลักบนดอยช้าง) ที่นี่มีการจัดการที่ดูเป็นระเบียบเป็นมืออาชีพมากๆ ตั้งแต่ลานจอดรถ ด้านนอกมีร้านรวงขายของที่ระลึก ผลไม้เมืองหนาวของชาวเขา ให้ได้จับจ่ายกัน ราคาก็ต้องต่อรองกันนิดหน่อย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว

อาข่า ฟาร์มวิลล์ เป็นฟาร์มแกะบนดอยช้าง บนเนื้อที่ 30 ไร่ ที่มีแกะสายพันธุ์ คอร์ริเดลล์ ที่สามารถให้อาหารได้ สามารถเล่นด้วยได้ นอกจากนี้ยังได้ชมความแสนรู้ของสุนัขต้อนแกะพี่วาวา พี่โอโน่ สายพันธุ์สตรองอาย ที่นี่วิวแบบพาโนราม่าแบบทิวสวยกว้างใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เลือกมุมถ่ายภาพกันได้สบายๆ และที่เราชอบคือ เมื่อซื้อตั๋วค่าเข้าคนละ 100 บาท จะสามารถนำมาสั่งเครื่องดื่มได้หนึ่งอย่างตามที่เขากำหนดฟรี เสร็จแล้วไปเลือกหามุมนั่งชื่นชมทิวภูและเจ้าก้อนกลมสีขาวน้อยใหญ่ ชมความทะเล้น ความขี้เล่นของแกะกัน “อาหารน้องแกะ มีทั้งแครอทและอาหารเม็ดคะ ถาดละ 30 บาท”

“วิธีการให้อาหาร ให้ชูถาดขึ้นข้างตัวนะคะ ไม่งั้นบางตัวที่ซนจะกระโดดโถมเข้าใส่หาอาหารคะ” และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้ฟังจากเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ต้น แต่พอถึงเวลาจริงๆ เราได้ยินเสียงกรี๊ดพร้อมเสียงหัวเราะดังลั่นฟาร์ม
เพราะมัวแต่สาละวนกับการให้อาหารแกะจากตัวหนึ่ง และอีกตัว … อีกตัว เพลินใจดีแท้ เรียกว่า มาแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ
ฟาร์มเปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เปิด- ปิด 7.30 – 17.30 โทร 095 665 2339

วันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ 7.30 -18.00 น.
สามารถวอล์คอินเข้าไปได้เลยไม่ต้องจอง
#AkhaFarmVille #อาข่าฟาร์มวิลล์เชียงราย
#อาข่าฟาร์มวิลล์ฟาร์มแกะบนดอย #ที่เที่ยวเชียงราย

SKY WALK ดอยวาว
สำหรับหมู่มวลคนไทยแล้ว สิ่งสำคัญของการเดินทางน่าจะเป็นการช้อปปิ้งนี่แหล่ะ และที่แม่สายก็เป็นหนึ่งหมุดหมายของคนมาช้อปปิ้ง ตอนนี้ร้านเปิดให้บริการเต็มพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวหลังโควิดทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมและดูจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทุกตรอกซอกซอยต่างขนสินค้าออกมาโชว์กันอย่างสนุกสนาน แม้สินค้าที่จำหน่ายคล้ายกัน แต่ก็ลองเดินดูกัน ส่วนที่สร้างใหม่และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากก็คือการ ขึ้นไปเหยียบ SKY WALK ดอยวาว

ตั้งอยู่บนพระธาตุดอยวาว สกาย วอล์ค ของดอยวาว ดูราวกับจะรับรู้ถึงความกังวลใจของคนมาเที่ยว ด้านล่างจากทางขึ้นจึงมีการเขียนและโชว์ประสิทธิภาพของกระจกที่นำมาทำทางเดินบนสกาย วอล์ค เพื่อสร้างความมั่นใจ มีถุงสำหรับสวมทับรองเท้าเอาไว้บริการ บนสกายวอล์คแห่งนี้ทางเดินกว้างขวางกว่าที่อื่นๆ ที่เราไปมาหลายแห่ง นอกจากนี้ลักษณะการก่อสร้าง โครงเหล็ก ความยาว และมุมมองเมื่อขึ้นไปเดินยังสวยงามและน่ามองกว่าที่อื่นๆ ลองมาเยี่ยมชม

วัดที่เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา เชื่อกันว่ามีความเก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการต้องเดินขึ้นบันไดไป ซึ่งข้างบนเป็นจุดชมทัศนียภาพสองฝั่ง

เวลาเปิด-ปิด 09.00 – 21.00 น., ทุกศุกร์-อาทิตย์เปิดถึง 22.00 น.
โทร. 0994655362
GPS: https://maps.app.goo.gl/ABQapEBw7LXT7Xm49?g_st=il

ร้านกาแฟดอยผาหมี
จิบกาแฟที่ไหนก็ไม่ฟินเท่าการได้อยู่ท่ามกลางทิวเขา บางครั้งการออกเดินทางก็ไม่ต้องการอะไรมากมายไปกว่า การได้นั่งจิบเครื่องดื่มชิมกาแฟเคล้าบรรยากาศสบายๆ ของขุนเขาและวิวสวยร้านวิวสวยชิลล์และเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่มาแล้ว ไม่ควรพลาด ร้านกาแฟดอยผาหมี ตั้งอยู่ที่บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเช็คอินที่ยังคงรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแบบไม่ขาดสาย ด้วยสถานที่ตั้ง การตกแต่ง ทิวทัศน์ และวิถีชนเผ่าที่น่าสนใจ

คุณผกากานต์ รุ่งประชารัตน์ เจ้าของร้านกาแฟและอาหาร ดอยผาหมี ประธานวิสาหกิจชุมชนกาแฟดอยผาหมี ลูกหลานชนเผ่าที่รวบรวมวิถี ศิลปะวัฒนธรรมอาหารการกิน และนำมาต่อยอดเป็นร้านกาแฟและอาหาร ดอยผาหมี ที่เลื่องชื่อ นอกจากจะมาแนะนำอาหารชนเผ่าอาข่าพื้นเมืองขนานแท้ใส่ในภาชนะกระบอกไม้ไผ่ ไม่ว่าจะเป็นรากชูหมู น้ำพริกหมูรากชู ผัดไข่รากชู ลาบหมูรากชู อาหารรสมือแม่ที่ทำให้เจ้าของร้านทานมาตั้งแต่จำความได้ สามารถจำหน่ายเป็นเซ็ตไว้ให้บริการสำหรับใครต้องการ

ร้านเปิดตั้งแต่ 8.00- 21.00 น.
#ร้านกาแฟดอยผาหมี #ดอยผาหมี

เฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ล แอนด์ คอนเวนชั่น
สำหรับที่โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่นแห่งนี้ ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงราย ออกแบบหรูหราผสมผสานศิลปะร่วมสมัยสะท้อนให้เห็นถึงความสง่างามของมรดกทางวัฒนธรรมอาณาจักรล้านนาที่มีมาอยางยาวนานจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นโรงแรมที่ขานรับกิจกรรมของชุมชนเมืองเชียงรายมาโดยตลอด ครั้งนี้ คุณบัณฑิต มาลัยลักษณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเฮอริเทจ เชียงรายฯ จัดสรรพื้นที่หลายจุดสำหรับการจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินล้านนาหลายคน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของงาน มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale , Chiang Rai 2023

คุณบัณฑิต มาลัยลักษณ์ กล่าวว่า โรงแรมพร้อมสนับสนุนในทุกๆ เรื่องกิจกรรมของจังหวัดเชียงราย โดยหัวใจหลักเรื่องของส่วนร่วมเราเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน เป็นห้องแกลลอรี่ ปัจจุบันเป็นรูปภาพ ในอนาคตจะเป็นรูปปั้นและการเพ้นท์กำแพงและเปิดพื้นที่หกคูหาตลอดห้าเดือนสามารถใช้ชั้นสองและชั้นสามได้ ใช้ชื่อเป็นอาคารแสดงศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรม

จุดที่ 1 เป็นการแสดงผลงานของกลุ่มศิลปินกลุ่มสตูแดง ที่นำเสนอผลงานศิลปะที่มีความหลากหลายสไตล์ มีทั้งเทคนิคการนำเสนอผลศิลปะ มีทั้งสีน้ำมัน สีอะคริลิค สีฝุ่น สีน้ำ และเทคนิคชาโคล โดยได้รวบรวมเพื่อนศิลปินนักศึกษาจากหลักสูตรพุทธศิลปกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กลุ่มศิลปินจากมหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่ม Illus Illy CEI กลุ่ม พุทธศิลป์ มจร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เชียงราย กลุ่มศิลปินสีน้ำ กลุ่มศิลปินอิสระ เชียงราย

จุดที่ 2 – Solo Exhibition Art Flame of Mind by ภัทรเศวต ภัทรจุมพตนำเสนอผลงานศิลปะสื่อมารในจิตใจ ซึ่งจะแสดงออกมาเมื่อมีกิเลสครอบงำ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ถ้าไม่กำจัดมารเหล่านี้ จะหวังเข้าสู่กระแสธรรมเพื่อนิพพานคงยาก

จุดที่ 3 Graffiti Art By MIC & MART หรือคุณลิขสิทธิ์ กันตะบุตร และคุณมาตร จงสมสกุลเดิม สื่อการปลดปล่อยพลังที่โดนกักขังไว้เนินนาน ความสุขของผู้โดนปลดปล่อย ดวงตาของการปลดปล่อยอนิทรรศการ สมดุลย์แห่งโลกิยะวิสัย นำเสนอในเรื่องจิตใจในด้านดี และด้านร้ายของมนุษย์ผ่านภาพวาดบนเฟรมที่ใช้เลือดของศิลปินมาเป็นส่วนผสม ที่มีสิ่งเร้าเป็นภาพวาดบนผนังของห้อง

โรงแรมเฮอริเทจ โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่น
โทร 052 055 888 Line ID :335tkcsv
#โรงแรมเฮอริเทจโฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่นเชียงราย

ขอบคุณทุกคน ทั้งผู้อ่าน และผู้สนับสนุน มิตรสหาย
สำหรับทริปจังหวัดเชียงราย ที่ผ่านมา

ขอขอบคุณ:
โรงแรมเฮอริเทจ โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่น

ขอขอบคุณ:
ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 หรือ TAT Call Center โทร. 1672
เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเขียงรายได้
ที่เว็บไซต์ www.tourismchiangrai-phayao.com
เพจ Facebook : ททท.สำนักงนานเชียงราย

คิง เพาเวอร์ ชวน โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ – The TOYS นำทัพศิลปินตบเท้าเฉลิมฉลองความสุขไม่รู้จบส่งท้ายปี


ในงาน “KING POWER CELEBRATION 2024 ช้อปสนุก ความสุขเป็นไปได้ไม่รู้จบ”

คิง เพาเวอร์ เดินหน้ามอบปรากฏการณ์ความสนุกไม่รู้จบส่งท้ายปี ในงาน “KING POWER CELEBRATION 2024 ช้อปสนุก ความสุขเป็นไปได้ไม่รู้จบ” สนุกสนานกับกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปินคนโปรดที่พาเหรดมามอบความสุขมากมาย อาทิ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์, THE TOYS, SARAH SALOLA, PURENESSLY, วง HYBS, วง ROOFTOP ฯลฯ พร้อมพบขบวนความสุขจากอาร์ตทอย FENNI (เฟนเน่) และโปรโมชั่นพิเศษตลอดเดือนธันวาคมนี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

สำหรับกิจกรรมไฮไลท์ เฉลิมฉลองความสุขในเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ นำทีมศิลปินชั้นนำพาเหรดมอบความสุขต่อเนื่อง ณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ในวันที่ 22-31 ธันวาคม 2566

  • ฟรีคอนเสิร์ต! ในวันที่ 22 – 25 และ 29 – 31 ธันวาคม 2566 เวลา 17.00 – 18.00 น. โดย วันที่ 22 ธ.ค.66 พบกับ PURENESSLY (เพียว-เอกพันธ์), วันที่ 23 ธ.ค.66 พบกับ SARAH SALOLA, วันที่ 24 ธ.ค.66 พบกับ CHAMOOK (ชามุก-สุชานันท์), วันที่ 25 ธ.ค.66 พบกับ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์, วันที่ 29 ธ.ค.66 พบกับ วง HYBS, วันที่ 30 ธ.ค.66 พบกับ วง ROOFTOP พร้อมนับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ในวันที่ 31 ธ.ค.66 ไปกับ THE TOYS
  • เซอร์ไพรส์! ในวันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2566 เวลา 12.00 น. / 14.00 น. / 16.00 น. / 18.00 น. พบขบวนความสุข ความสดใส แสนน่ารักส่งท้ายปีใหม่จากน้อง FENNI (เฟนเน่) ผลงานโดย คุณศิรินญา ปึงสุวรรณ หรือ Poriin ศิลปินอาร์ตทอยดีไซเนอร์ชื่อดังของเมืองไทย กับคาแร็คเตอร์ เฟนเน็กฟ็อกซ์ ตุ๊กตาสุนัขจิ้งจอกตัวน้อย ส่งมอบความสุขให้กับทุกคนที่ได้พบเจอในเทศกาลสุดพิเศษ
  • พบ WONDER BOX ช้อปสนุก เปิดกล่องความสุขไม่รู้จบ เพียงช้อปครบตามเงื่อนไข รับทันที! WONDER BOX กล่องความสุข ที่อัดแน่นไปด้วยสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำ*

ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี กับกิจกรรมความบันเทิงมากมาย ในงาน “KING POWER CELEBRATION 2024 ช้อปสนุก ความสุขเป็นไปได้ไม่รู้จบ” ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับสมาชิกก่อนช้อป เพียง Add LINE Official Account : @kingpower หรือช้อปผ่านช่องทาง CALL TO SHOP
เพียงโทร. 02-338-7870 และ CHAT TO SHOP
เพียง Add LINE : @KP_ChatToShop

TikTok Shop เปิดตัวแคมเปญ “เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop”

ตอกย้ำภาพความเป็น Trendy Ecommerce Destination ที่นำทุกเทรนด์ เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ TikTok Shop เปิดตัวแคมเปญใหม่ “เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop” ตอกย้ำความเป็น Trendy E-Commerce Platform ในงาน “Trendshopper Event เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop” เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์

บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการแจกคูปองสุดพิเศษจากทาง TikTok Shop เป็นส่วนลดสูงสุด 500 บาท มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท ให้แก่นักช็อปทุกคน เพียงแค่สแกน QR Code ที่ตะกร้า TikTok Shop Installation ยักษ์ที่เป็นพระเอกของงาน

พร้อมทั้งเหล่า Content Creator ชื่อดังที่มาร่วมพูดคุย แชร์ประสบการณ์การช้อปของอินเทรนด์สุดคุ้มบน TikTok Shop นำโดย คุณมิลค์ เจ้าของช่องแมวสุดป่วนชื่อดังอย่าง Albo and Jerry, คุณอิ๊งค์ เจ้าของแบรนด์ ingu (อิงกุ) และ คุณเป๊ป เขมิกา เจ้าแม่ไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม Tiktok เสริมทัพด้วย Creator ชื่อดังอีกมากมายที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับผู้ร่วมงาน
ในงานยังมีมินิคอนเสิร์ตสุด Exclusive จากศิลปินรุ่นใหม่ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “DIDIxDADA” “Praesun (แพรซัน)” และ “PERSES” ที่เตรียมโชว์พิเศษมาเซอร์ไพรส์ชาว TikTok Shop โดยเฉพาะ

ติดตามโปรโมชันพิเศษ สินค้าอินเทรนด์ และดีลดี ๆ จาก TikTok Shop
ได้เพิ่มเติมที่:
https://www.facebook.com/tiktokshopthailandofficial