กลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออก ชวนเที่ยวงานสีสันตะวันออก ครั้งที่ 15

ท่องเที่ยวหลากสีสัน เมืองชายทะเลนานาชาติ
The Colors of the Vibrant Sea

​สีสันตะวันออก ครั้งที่ 15 ประจำปี 2561 ภายใต้คอนเซปต์  “The Colors of the Vibrant Sea ท่องเที่ยวหลากสีสัน เมืองชายทะเลนานาชาติ”
จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 2 กันยายน 2561 ภายในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 48 ณ เพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่ง 4 จังหวัดนี้ สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวทั้งแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลนานาชาติ เชิงนิเวศ เชิงเกษตร เชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ได้กำหนดกลยุทธ์การพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน

โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว การสร้างความหลากหลายของกิจกรรมการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งภายในงานนี้ ได้รวมธุรกิจผู้ประกอบการชั้นนำ มากคุณภาพ ทั้งผู้ประกอบการ การท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก และสินค้าท้องถิ่นของภาคตะวันออก มากมายกว่า 76 บูธ อาทิ แพ็คเกจที่พักจาก โรงแรมซีวิว รีสอร์ท ระยองชาเล่ต์, การ์เด้น ซีวิว รีสอร์ท, เกาะกูด คาบาน่า บัตรเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว จาก Frost Magical Ice of Siam, Teddy Bear Museum, Oasis Sea World และยังสามารถเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นคุณภาพ อาทิ ผลไม้แปรรูป, ผลไม้สดจากสวน, ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร, น้ำมันเหลือง, เพชร พลอย จิวเวลรี่ เอกลักษณ์เฉพาะของภาคตะวันออกเรียกได้ว่า มางานเดียว เที่ยวครบ 4 จังหวัด พร้อมโปรโมชั่น ช้อปครบตั้งแต่ 3,000 บาท เป็นต้นไป แลกรับผลิตภัณฑ์โอท็อปจากภาคตะวันออก พร้อมลุ้นรางวัลโรงแรม ที่พัก จำนวน 20 รางวัล และ รางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 รางวัล

พิธีเปิดงานจัดขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม 2561 เวลา 18.00 น. โดยประธานในพิธี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี หัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก พร้อมด้วยตัวแทนจากจังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ให้เกียรติร่วมงานพร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน กับการแสดงพิธีเปิด “Colors of the vibrant sea ท่องเที่ยวหลากสีสัน เมืองชายทะเลนานาชาติ” สื่อถึงสีสันในฤดูหนาวและฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยสีสันของกิจกรรมริมชายหาดและทางทะเล สัมผัสประสบการณ์สีสันของเมืองชายทะเลนานาชาติที่โด่งดังระดับโลก นอกจากนี้ยังมีโซนนิทรรศการ การท่องเที่ยวชายทะเลนานาชาติ และกิจกรรมทางทะเลของภาคตะวันออก พร้อมชมการแสดงสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นเอกลักษณ์เฉพาะภาคตะวันออก อาทิ สาธิตเกลือสปาและสมุนไพรดับกลิ่น สูตรเฉพาะจากจังหวัดชลบุรี, การทำยาดมจากลูกกระวาน สมุนไพรท้องถิ่นของจังหวัดจันทบุรี และ สาธิตการทำสบู่เหลวกฤษณาและยาดมสมุนไพรแท้จันดารานาสิก จากจังหวัดระยอง และ การทำตะลิงปลิงแช่อิ่มและสาธิตการสานกระเป๋าจากพลาสติก จากจังหวัดตราด และในทุกวันงานชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม พร้อมถ่ายรูปคู่กับแลนด์มาร์คสีสันตะวันออก ไลค์ & แชร์ รับของรางวัล ตลอด 4 วันงาน

​วางแผนเที่ยวรับลมทะเลกันที่ งานสีสันตะวันออก ครั้งที่ 15 “The Colors of the Vibrant Sea ท่องเที่ยวหลากสีสัน เมืองชายทะเลนานาชาติ”

วันที่ 30 สิงหาคม – 2 กันยายน 2561 งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 48
ณ เพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์​

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/colorsoftheeastbyimc

ทริปนี้ไม่เบลอไปเจออะไรมา! ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่

Traveloka พาเที่ยว  :
LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI

สวัสดีเพื่อนๆ Toptotravel ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความใหม่ๆ กับ ทริปนี้ไม่เบลอ ไปเจออะไรมาบ้าง??  ลาลา มูก้า  แปลว่าผ่อนคลาย มาจากภาษาของชนเผ่าในแอฟริกาใต้ เพื่อนว่าจริงมั้ย เวลาไปเที่ยวต้องเน้นเรื่องกิน ฟินเรื่องพักผ่อน นอนหลับสบาย สบาย  ที่พักใหม่ เส้นทางท่องเที่ยว กับสถานที่ยอดฮิตของเขาใหญ่  LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI   บอกเลยว่าได้ลองไปพักสักครั้ง… ประสบการณ์นอนเต็นท์ซาฟารีแบบ Glamping ไม่ต้องไปไกลถึง แอฟริกา เอาเป็นว่าอย่ารอช้าเลยมาต่อกัน
เลยเถอะ

ทริปนี้ของเรา  เริ่มจาก Traveloka พาเที่ยว ซาฟารีมีสไตล์ที่ กินฟรี เริ่มทริปโดยพาสื่อมวลชน  ท่องเที่ยวร่วมทริปเขาใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตใกล้กรุงเทพฯ ด้วยการออกเดินทางจากกรุงเทพ ประมาณ 9 โมงเช้า  ของวันที่ 16 สิงหาคม 2018  อย่าถามทาง!!  เพราะเราก็ไม่ถามใคร มุ่งตรงสู่เขาใหญ่
ที่ไม่ได้ไกลจากกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

เนื่องจากทริปนี้เน้นเรื่องกิน ฟินเรื่องพักผ่อน ดังนั้น สถานที่แรกที่เราทำการเช็คอินคือ ร้านจันผา เขาใหญ่ ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังในเขาใหญ่ไม่ว่าใครได้มาเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะแวะลิ้มรสชาติความอร่อยเด็ดขาด

หลังจากอิ่มท้องกันแล้วก็มุ่งตรงสู่ที่พักและเพื่อให้สื่อมวลชนทุกท่านได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในรูปแบบประสบการณ์ที่แตกต่าง ที่พักจึงเป็นแบบ Glamping หรือที่พักแบบเต็นท์หรูติดแอร์ ณ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ ที่ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นผสานกลิ่นอายซาฟารีอย่างลงตัว โดยในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน นี่จึงเป็นที่พักอีกรูปแบบหนึ่งด้วยบรรยากาศแบบซาฟารีที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายไปกับต้นไม้ใบหญ้า  สำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดธรรมชาติและดื่มด่ำการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบภายในเต็นท์หรู

เมื่อมาถึง  การบริการต้อนรับด้านหน้า จึงมีการออกแบบให้มีกลิ่นอายความเป็นชนเผ่าด้วยการใช้ไม้ไผ่พันด้วยเชือกป่านเส้นใหญ่และก่อฐานเสาที่ให้อารมณ์เหมือนดินธรรมชาติ

อีกอย่างห้องพักของ  LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI
แบ่งออกเป็น 3 โซน ตามความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์ เริ่มเริ่มต้นจาก

โซน อีโค ซาฟารี (Eco Safari Tents) ห้องพักเต็นท์แบบอีโค ห้องน้ำรวม ,

ดีลักซ์ ซาวานนา เต็นท์ (Deluxe Savanna Tents) ห้องพักเต็นท์ที่มีห้องน้ำในตัว เพื่อความเป็นส่วนตัว

ลอท์ฟ ทรี เฮาส์   (Loft Tree House)  บ้านต้นไม้ ที่เหมาะมากเหลือเกิน สำหรับนักเดินทางแบบครอบครัวนั่งฟินเกินจิตนาการมาก ณ. จุดนี้

ไหนๆ ก็ไหนๆ ในช่วงกรีนซีซั่นนี้ ทริปนี้ไม่เบลอ ไปเจออะไรมาบ้าง ?
ที่ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ แน่นอนว่าที่นี่พร้อมให้ทุกท่านมาสัมผัส ประสบการณ์นอนเต็นท์ซาฟารีแบบ Glamping เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ณ ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ กริ่นมาขนาดนี้แล้วคงจะอยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า ลาลา มูก้า เต็นท์ รีสอร์ท เขาใหญ่ มีอะไรดี ตามาตามา

คุณณัฐพล กาญจนวรนันท์  ผู้บริหารฝ่ายการตลาดจาก Traveloka

มาเพิ่มเติมในส่วนของแขกรับเชิญพิเศษ และกล่าวถึงรายละเอียดส่วนอื่นของทริปนี้  เริ่มต้นด้วย คุณณัฐพล กาญจนวรนันท์  ผู้บริหารฝ่ายการตลาดจาก Traveloka ต้อนรับสื่อมวลชน

เรามาดูกันดีกว่าว่า  คำถามที่ส่งไปและคำตอบที่ได้มามีอะไรบ้าง

Q : แนวทางธุรกิจ Traveloka เป็นอย่างไร ?
A :  Traveloka (ทราเวลโลก้า) ผู้ให้บริการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ชั้นนำ (Online Travel Agency หรือ OTA) และยังเป็นอันดับหนึ่ง บริษัทด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Q : Traveloka ในประเทศไทยเป็นอย่างไร?

A : Traveloka ประเทศไทย ปรับเรื่องคุณภาพการให้บริการอบย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเป็นฐานที่สำคัญอยู่แล้ว รองรับลูกค้าทุกระดับอายุ และให้ความสะดวกสบายแบบคุณภาพที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้าที่ใช้บริการและส่งข้อเสนอแนะเข้ามา

Q : Traveloka ให้ความสำคัญกับตลาดนอกประเทศไทยยังไงบ้าง ?
A : Traveloka (ทราเวลโลก้า) ลงทุนเพื่อผู้ใช้บริการทั่วโลก

ต่อจากกิจกรรมพูดคุยเรื่องต่างๆ  ทั้งหลายแล้ว  มาถึงช่วงบ่าย  กับกิจกรรม
ที่ทุกคนรอคอย โดยทาง Traveloka มีกิจกรรม DIY สนุกๆ เพิ่มเติมในทริปนี้ด้วย ริมสระว่ายน้ำ LALA MUKHA TENTED RESORT

นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ และเพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การตอบรับ Traveloka อย่างดีเสมอมา

นอกจากทริปนี้ ทุกท่านกินฟรี นอนฟินแล้ว ยังมีกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ร่วมสนุกพร้อมจับสลากเล่นเกม  เพื่อชิงรางวัลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท  อาทิ ตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-สิงคโปร์ จาก  มาเลเซีย แอร์ไลน์   (Malaysia Airlines) บัตรของขวัญแทนเงินสดจองตั๋วเครื่องบินและที่พักจาก Traveloka และของที่ระลึกอีกมากมายเช่นกัน

ขอขอบคุณกิจกรรมสนุกๆ จาก Traveloka (ทราเวลโลก้า) ผู้ให้บริการจอง
ตั๋วเครื่องบินและที่พักออนไลน์ชั้นนำ (Online Travel Agency หรือ OTA) อันดับหนึ่งของบริษัทด้านเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุด ในในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดกิจกรรม Traveloka พาเที่ยว นอนฟิน กินฟรี ทริปนี้ที่ LALA MUKHA TENTED RESORT KHAO YAI กิจกรรม การจัดทริปพาสื่อมวลชนไปเที่ยวเป็นครั้งแรกของ Traveloka

 

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด   เป็นการเลี้ยงฉลองปิดทริป 2 วัน 1 คืน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป  จบทริปการท่องเที่ยวของเราสนุกกันอย่างสมบูรณ์แบบ ก็ต้องขอขอบคุณทาง Traveloka  ที่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้

เอาเป็นว่าทิ้งท้ายบทความนี้ไปด้วยภาพบรรยากาศของ Traveloka พาเที่ยว นอนฟิน กินฟรี กันดีกว่านะ

เห็นรีวิวนี้แล้ว อยากจอง ง่ายมาก!!
คลิกไปเช็คราคาและห้องว่าง หรือจะติดตามโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ www.traveloka.com/th
www.facebook.com/TravelokaTH
โหลดแอปด่วน Traveloka ที่ www.traveloka.com/x/fbapp

สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์

โชว์ศักยภาพเมืองประมง อุตสาหกรรม เกษตร ท่องเที่ยว ใจกลางกทม.

เปิดแล้ว!  งานยิ่งใหญ่ สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์  (SAMUTSAKHON ON THE SHOW) โชว์ภาพลักษณ์เมืองประมง แหล่งท่องเที่ยว ที่เพียบพร้อมด้วยศักยภาพอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม พร้อมรวบรวมผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน รวมทั้งอาหารและของดีประจำจังหวัด

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวในพิธีเปิดงาน “สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์” (SAMUTSAKHON ON THE SHOW) ว่า  จังหวัดสมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพเพียบพร้อม ทั้งในด้านอุตสาหกรรม การประมง เกษตรกรรม หัตถกรรม การท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สมดังคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์”

นอกจากนี้ยังมีทำเลที่ตั้งที่ติดกับกรุงเทพมหานคร สะดวกง่ายดายต่อการเดินทาง และในแผนพัฒนาจังหวัด ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๔ ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเอาไว้ว่า “เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เกษตรและอาหารปลอดภัย ท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ สังคมเป็นสุข”

จังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การประมง และการเกษตรกรรม จากข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดสมุทรสาครยังคงขยายตัวจากปีก่อน และยังเป็น ๑ ใน ๑๐ ของจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัวอยู่ในระดับสูงตลอดมา

ในด้านของการท่องเที่ยว จังหวัดสมุทรสาครมีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เหมาะกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรือแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่บันทึกในประวัติศาสตร์เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ผู้ซื่อสัตย์ จงรักภักดี และป้อมวิเชียรโชฎก ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เพื่อป้องกันข้าศึกทางทะเลเหมาะแก่การเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์

ดังนั้น  จังหวัดสมุทรสาครจึงร่วมกับภาคเอกชนเตรียมจัดงาน “สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์”   (SAMUTSAKHON ON THE SHOW)   ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๑  ณ. ลานกิจกรรมสแควร์ ซี ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และบริเวณชั้น ๓ โซน  Atrium  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นงานมหกรรมที่นำเสนอของดีจังหวัดสมุทรสาคร
ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้สัมผัส ณ กลางใจเมือง ในรูปแบบทันสมัยและแปลกใหม่ที่ผู้เข้าชมงานจะต้องอัศจรรย์ใจ

บรรยากาศ ภายในงานจะนำเสนอศักยภาพด้านอุตสาหกรรมประมงและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่โดดเด่นของสมุทรสาคร จำหน่ายผลิตภัณฑ์เด่น ที่คัดเลือกมาแล้วว่าเป็นของที่ขึ้นชื่อภายในจังหวัด รวมกันไว้ในที่เดียว มีให้ชม ชิม ช้อปกันตามอัธยาศัย นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางท่องเที่ยว ที่แบ่งตามความสนใจของกลุ่มที่มีความชอบแตกต่างกัน เช่น เส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชน เส้นทางแสนอร่อยสำหรับนักชิม เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร ฯลฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น ท่าฉลอม ซึ่งยังคงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์ของชุมชนดั้งเดิม และเป็นก้าวแรกของชุมชนจีนในสยาม หรือบ้านแพ้ว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน และยังจะได้ชมการประดิษฐ์งานฝีมือเบญจรงค์ที่ผสานไว้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างลงตัว ในงานยังมีวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านที่งดงาม รวมทั้งอาหารและของดีประจำจังหวัด มานำเสนอให้ได้ชมกัน

ในงานนี้จะมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ได้รับการคัดเลือกมาร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าจำนวน ๖๐ คูหา โดยผลิตภัณฑ์เด่นจะมีทั้ง อาหารทะเลแปรรูป ปลาสลิดแดดเดียว มะพร้าวน้ำหอม ปลาทูซาเตี๊ยะนึ่งเค็ม เค้กสบันงา น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และ ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะพร้าว หมี่กรอบบ้านแพ้ว กะปิ และลอดช่องชื่อดัง ทั้งลอดช่องวัดเจษ และลอดช่องสยาม ในส่วนของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ก็มีมาให้ช้อปเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น แชมพู เกลือขัดผิว
สบู่ ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ กระเป๋าหนัง ผลิตภัณฑ์จากกระดาษ เป็นต้น

“การจัดงาน  SAMUTSAKHON ON THE SHOW  ในวันนี้เป็นเสมือนการนำผู้เข้าร่วมชมงานเยี่ยมชมจังหวัดสมุทรสาคร โดยได้สัมผัสทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์เด่น อาหารการกิน ของดีพื้นถิ่น รวมทั้งข้อมูลด้านการท่องเที่ยวที่ครบครัน เพื่อสร้างกระแสการรับรู้และเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ใกล้กรุงเทพฯ” ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้าย

งาน SAMUTSAKHON ON THE SHOW
ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๑
ณ ลานกิจกรรมสแควร์ ซี และบริเวณชั้น ๓ โซน Atrium
ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

จ.ชลบุรี เชิญร่วมประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “บางเสร่ยิ้มได้”

ร้อยเรื่องราวบางเสร่ …
ชุมชนชายทะเลที่เราหลงรัก

กระทรวงวัฒนธรรม และจังหวัดชลบุรี จัดประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “บางเสร่ยิ้มได้” ในโครงการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชุมชนบางเสร่ “เที่ยววิถีเท่ บางเสร่ โดยชุมชน” เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกันของทุกภาคส่วน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

กิจกรรมประกวดภาพถ่ายในหัวข้อ “บางเสร่ยิ้มได้” เน้นแนวความคิด ร้อยเรื่องราวบางเสร่ ชุมชนชายทะเลที่เราหลงรัก ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ผู้สนใจสามารถส่งภาพถ่ายฟิล์มหรือดิจิตอลได้ไม่เกินท่านละ 3 ภาพ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 4 – 15 สิงหาคม 2561

พร้อมดูรายละเอียดเพิ่มเติม และวิธีสมัคร ได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี โทร 038 276407 ต่อ 12 หรือFacebook Fanpage : ถนนสายวัฒนธรรม ชุมชนประมงพื้นบ้าน หมู่ 4 ตำบลบางเสร่ – ตลาดดีวิถีชุมชน

การประกวดถ่ายภาพ
๑. หัวข้อการประกวด”บางเสร่ยิ้มได้”
๒. ระดับการประกวด ประชาชนทั่วไป
๓. กติกา
• เป็นภาพถ่ายสีจากกล้องฟิลม์ขนาด ๓๕ มม. หรือกล้องดิจิตอลความละเอียด ๕ ล้านพิกเซล ขึ้นไป โดยจะต้องส่งภาพพร้อมฟิลม์หรือ ไฟล์ภาพบันทึกลงแผ่น CD โดยไม่อนุญาตให้มีการตกแต่งภาพ
• ผู้ส่งภาพประกวดสามารถส่งภาพเข้าประกวดได้ประเภทละไม่เกิน ๓ ภาพ
• ภาพที่ส่งเข้าประกวดจะต้องเป็นภาพของตนเอง ซึ่งไม่เคยเผยแพร่ ในที่สาธารณะหรือเคยได้รับรางวัลมาก่อน
• ผู้ส่งภาพเข้าประกวดจะต้องระบุรายละเอียดของการถ่ายภาพ ชื่อภาพ และระบุการถ่ายภาพโดยใช้กล้องประเภท ใด ชนิดเลนส์สถานที่ถ่ายภาพ รูรับแสง ความไวชัตเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆพร้อมทั้งบรรยายประกอบภาพ พอสังเขป
• ผู้ส่งผลงานจะต้องกรอกรายละเอียดให้ชัดเจน ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อความสะดวกในการติดต่อกลับภายหลัง
• รวบรวมภาพถ่ายและรายละเอียดภาพ ฉายผ่านจอ ทีวีขนาด ๕o นิ้ว แก่คณะกรรมการ
• การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่มอบรางวัลหนึ่งรางวัลใด กรณีที่เห็นว่าไม่เหมาะสม
๔. เกณฑ์การตัดสิน
• ๑. การจัดองค์ประกอบของภาพถ่าย ๒๐ คะแนน
• ๒. วามคมชัดและความสวยงามของภาพถ่าย ๒๐ คะแนน
• ๓. การสื่อความหมายของภาพถ่าย ๒๐ คะแนน
• ๔. ความเหมาะสมของรายละเอียดภาพ ๒๐ คะแนน
• ๕. ชื่อภาพสอดคล้องกับภาพถ่าย ๑๐ คะแนน
• ๖. ความคิดสร้างสรรค์ ๑๐ คะแนน
รวมทั้งหมด ๑๐๐ คะแนน
๔.การใช้ภาษา (กะทัดรัด เข้าใจง่าย ชัดเจน) ๑๐ คะแนน
ภาษา กะทัดรัด เข้าใจง่าย ชัดเจน
๕. สํานวนภาษาสละสลวย ถูกต้องเหมาะสม ๑๐ คะแนน
รวมทั้งหมด ๑๐๐ คะแนน

โครงการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชุมชนบางเสร่

เน้นสร้างรายได้ให้ชุมชน พร้อมพัฒนา
สู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

​วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี นำโดย นายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี จัดงาน แถลงข่าว โครงการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชุมชนบางเสร่ “เที่ยววิถีเท่ บางเสร่ โดยชุมชน” เน้นสร้างรายได้ให้ชุมชน พร้อมพัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีวัฒนธรรมจังหวัด ชลบุรี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานราชการต่างๆ เข้าร่วมงานแถลงข่าว ณ ลาน กิจกรรมชุมชนบางเสร่ ถนนสายวัฒนธรรมชุมชนประมงพื้นบ้าน ม.4 บางเสร่ ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

​จังหวัดชลบุรี มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคตะวันออก มีสถานที่ท่องเที่ยว และ กิจกรรมที่มีความหลากหลาย เช่น แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และแหล่งท่องเที่ยวกิจกรรมผจญภัย ซึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัด ชลบุรีเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกถือว่าจัดอยู่ในระดับหนึ่งของกลุ่มจังหวัด

การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เกิดขึ้น เรื่องราวของวัฒนธรรม ประเพณี เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ของตนเอง คือ ชุมชนชายทะเล มีวิถีชีวิตในการทำประมงพื้นบ้าน จูงใจ ให้นักท่องเที่ยว กลุ่มที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมให้เข้ามาชมและศึกษาวัฒนธรรมต่างๆ และศักยภาพของพื้น
ที่ สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ มีเส้นทางเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบเอง หรือพัทยา ซึ่งสามารถพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวได้ สิ่งเหล่านี้จะสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

ตลาดดีวิถีชุมชน ด้วยการพัฒนาแหล่งเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชุมชนบางเสร่ เป็นกิจกรรมการสานพลังความร่วมมือ ระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจ สนับสนุน และเสริมสร้าง เศรษฐกิจ รากฐานให้เจริญเติบโต ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จทางด้านรายได้ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของ ชุมชน โดยในปีนี้มีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้

​1. กิจกรรมการประกวดวาดภาพ หัวข้อ “เล่าเรื่องบางเสร่ จากวันวาน สืบสานอย่างยั่งยืน”
​2. กิจกรรมการประกวดการเขียนเรียงความ หัวข้อ “บางเสร่ บ้านฉัน” ​​3. การประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “บางเสร่ยิ้มได้” ​
​4. กิจกรรมประกวดวงดนตรีลูกทุ่งประกอบหางเครื่อง ระดับประเทศ ​
​5. กิจกรรมเดิน-วิ่ง บางเสร่ (Rally ที่บางเสร่) ​
​6. กิจกรรมประกวดวงดนตรีไทย ระดับจังหวัด ​
​7. กิจกรรมเปิดลานวัด ตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม ​



ใครอยากหาเวลาไปชิลล์ เปลี่ยนที่นอนเพื่อชาร์จแบท ลองไปกันดูค่ะ ​สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมต่างๆ ในโครงการพัฒนา และปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชุมชนบางเสร่ สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติม ได้ที่ เว็บไซต์ : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี

สอบถามได้ที่ โทร 03 827 6407 ต่อ 12
Facebook Fanpage : ถนนสายวัฒนธรรม ชุมชนประมงพื้นบ้าน หมู่ 4
ตำบลบางเสร่ – ตลาดดีวิถีชุมชน

ทำไม Bell & Ross จึงมีราคาแพงระดับรถสปอร์ตระดับหรูหรา ระดับโลก

เบลล์ แอนด์ รอส 

Bell & Ross แบรนด์นาฬิกาสุดยอดนาฬิกาที่แฟนพันธุ์แท้ นาฬิกามากับทรงสี่เหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย Bell & Ross ซึ่งยึดแบบของมาตรวัดที่ปรากฏอยู่บนหน้าปัดของเครื่องบิน และเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาโดยตลอด แต่แทนที่จะเป็นการใช้วัสดุอย่างเหล็ก ไทเทเนียม หรือคาร์บอนไฟเบอร์

แบรนด์ที่สุดคลาสสิคอย่าง Bell & Ross เน้นการพัฒนาตัวเรือนที่ผลิตจาก Sapphire และประสบความสำเร็จ การใช้ Sapphire สำหรับผลิตตัวเรือนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะด้วยเหตุที่ Sapphire มีกระบวนการตกผลึกที่ไม่เสถียรการสร้างสีสันให้กับวัสดุประเภทนี้จึงเป็นเรื่องยาก Bell & Ross ติดตั้งกลไกที่ขึ้นชื่อในเรื่องของราคาที่แรงและแพงปัจจุบันมาตรฐานระดับสูงของ เบลล์แอนด์รอส ได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการทหารต่างๆ ให้เป็นผู้ผลิตเครื่องบอกเวลาอย่างเป็นทางการ

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2018 ณ ห้องรับรอง The Cocoona Lounge ที่ชั้น 19 Gaysorn Village เปิดตัวและจัดแสดงคอลเลกชั่นนาฬิการุ่นล่าสุดแห่งปี โดยได้เชิญสื่อมวลชนชั้นนำมาร่วมงานการเปิดตัวและจัดแสดงดังกล่าว ภายในงานนอกจากจัดแสดงนาฬิการุ่นล่าสุดของแบรนด์เช่น
BR 01 Laughing Skull, BR-X1 RS18, BR V2-94 RS18, BR 03-92 Diver Blue, BR 03-92 Diver Bronze, BR V2-94 Racing Bird และอื่นๆ อีกมากมาย

Mr. Tong Chee Wei, General Manager Asia แห่งแบรนด์ในภูมิภาคเอเชียอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ Miss Adelyn Kong, Senior Marcom Manager แห่งแบรนด์ Bell & Ross ได้ก่อตั้งขึ้น ความตั้งใจคือออกแบบนาฬิกา Bell & Ross ได้หยิบเทคโนโลยีทางวัสดุจากรถสูตรหนึ่งเข้ามา โดยตัวเรือนนั้นทำจากเซรามิก หน้าปัดทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ตรงขอบสเกลจับเวลาจะใช้อลูมิเนียมและในส่วนสีเหลืองนั้นชุบสีด้วยกรรมวิธีอโนไดซ์

ทั้งนี้ Cortina Watch แห่งประเทศไทยเชื่อมั่นว่า Bell & Ross จะประสบความสำเร็จในประเทศและสามารถทำให้นักสะสมและผู้หลงใหลนาฬิกาชาวไทยรับรู้ถึงแก่นแท้และจิตวิญญาณแห่งแบรนด์ได้อย่างกว้างขวาง

ณ ห้องรับรอง The Cocoona Lounge ที่ชั้น 19
ศูนย์การค้า Gaysorn Village

วางขายที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงการจำหน่ายออนไลน์ www.bellross.com

ทรู ไอดีซี ผนึกกำลัง บีบีไอเอ็กซ์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว “บีบีไอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์)”

ปั้นไทยเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลมาตรฐานสากลในเอเชีย

ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (ทรู ไอดีซี) ผู้นำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ครบวงจรในประเทศไทย ประกาศร่วมทุนกับ บีบีไอเอ็กซ์ ประเทศญี่ปุ่น (BBIX Inc. Japan) ผู้ให้บริการศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Internet Exchange Point: IXP) อันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น (ถือหุ้นโดยซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป คอร์ป 100%) เพื่อก่อตั้ง บริษัท บีบีไอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์) จำกัด (BBIX (Thailand) Company Limited) ให้เป็นศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นกลางตามมาตรฐานสากล นำไปสู่การพัฒนาการใช้งานอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการสื่อสารในประเทศไทย และต่างประเทศ ผลักดันประเทศก้าวข้าม
สู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) อย่างสมบูรณ์แบบ

ศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไป และประธานคณะผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูไอดีซี

ศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไป และประธานคณะผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูไอดีซี กล่าวว่า “เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน รวมถึงธุรกรรมต่างๆ และจากการใช้งานอย่างก้าวกระโดดนี้ ก่อให้เกิดการรับส่งข้อมูล (Content/Media) บนเครือข่ายมหาศาล ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการรับส่งข้อมูลบนโครงสร้างพื้นฐานปัจจุบัน ทรู ไอดีซี ยังคงมุ่งมั่นผลักดัน และตอบสนองนโยบายรัฐบาล Thailand 4.0 ในการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานทางไอที (Infrastructure) อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริหาร จัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดมหาศาล (Data Analytic) นำไปสู่กระบวนการทำงานแบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ที่ชาญฉลาด

เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตให้กับคนยุคใหม่อย่างลงตัวและการร่วมมือกับบริษัท บีบีไอเอ็กซ์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ในการพัฒนาศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่เป็นกลางตามมาตรฐานสากลขึ้นในประเทศไทย ให้รองรับการทำงานสำหรับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ ภาครัฐบาล ภาคเอกชน ผู้ให้บริการเครือข่าย และผู้ให้บริการคอนเทนต์ พร้อมต่อยอดไปยังผู้ให้บริการในต่างประเทศ”

มร.เคอิชิ มากิโซโน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีไอเอ็กซ์ และ บริษัท บีบีไอเอ็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

 

มร.เคอิชิ มากิโซโน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีไอเอ็กซ์ และ บริษัท บีบีไอเอ็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เผยว่า “เนื่องจากเศรษฐกิจดิจิทัลประเทศไทยมีแนวโน้มในการเติบโตสูง แต่การให้บริการเชื่อมต่อข้อมูลอินเทอร์เน็ตยังพัฒนาไม่เต็มประสิทธิภาพ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา ระบบของ BBIX สามารถรองรับการขยายตัวได้มากกว่า 50 เท่า อย่างมีประสิทธิภาพ จากประสบการณ์ในการพัฒนารูปแบบบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ต (Traffic) ทำให้เราเล็งเห็นว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตด้านอินเทอร์เน็ตอีกมาก เราจึงตัดสินใจร่วมมือกับทรูไอดีซี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลาง และมีมาตรฐานระดับโลก ก่อตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตด้วยการ ใช้เทคโนโลยีระดับสากล โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้กว่า 15 ปี เราจึงมั่นใจว่า บีบีไอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์) จะเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตที่ทันสมัยและมีศักยภาพที่สุดในประเทศ”

จากการผนึกกำลังข้ามชาติระหว่างสองผู้นำในตลาดไอที ก่อให้เกิด บีบีไอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์) มีหลักในการพัฒนาการ ให้บริการอินเทอร์เน็ตภายใต้ 3 แนวคิด คือ ลดความยุ่งยากและซ้ำซ้อน (Simple) เพิ่มความเร็ว (Low Latency) และลดค่าใช้จ่าย (Cost) ด้วยการเปลี่ยนการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) แบบ peering มาเชื่อมต่อกับศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลของบีบีไอเอ็กซ์ (ไทยแลนด์)

โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้สามารถรองรับปริมาณการรับส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ใช้ โดยทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล ภาพ และเสียงได้สะดวก รวดเร็ว นำไปสู่การเปิดกว้างในการเลือกใช้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างเสรี ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยที่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญ ด้วยกันนี้บีบีไอเอ็กซ์ มีแผนขยายต่อยอดบริการเพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับอาเซียน โดยเริ่มต้นจากประเทศใกล้เคียง ได้แก่ ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชาอีกด้วย

The Ville Jomtien Pool Villa

ไปพัทยากับยู!  บอกงี้กับแฟนเลยนะ

ความ Cool Pool Villa ที่ทำเอาใจสั่น ชื่อก็บอกซื่อๆ อยู่แล้วว่า  The  ville Jomtien poolvilla  แต่เราไม่เร่งสรุปความเป็นพูลวิลล่า  (หมายถึง อย่าให้เรียกว่าโรงแรม เรียกว่าที่พักตากอากาศสไตล์ รีสอร์ทที่มีพูลวิลล่า ส่วนตัวทุกหลัง น่าจะง่ายกว่า) แค่ชื่อก็ให้ความรู้สึกเหมือน  วิลล่าเก่าบนเทือกเขาแถบฟลอเรนซ์   ช่วยตัดสินระดับความพอใจที่พร้อมจะเซอร์ไพรส์เราทันที

จังหวัดชลบุรี เมืองที่สามารถเที่ยวได้ทุกวัน การเดินทางสะดวก สบาย วิลล่าตั้งอยู่ใจกลาง Pattaya ที่พักดี มี Pool Villa ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ และเพราะอยากฟิน  กินดื่ม เล่นน้ำ กับเพื่อนๆ นี่แพงแค่ไหนก็ยอมไปแล้วเพราะมันโคตรจะฟินส์ นัดกันมาเปลี่ยนที่นอน กับบรรยากาศใหม่ๆ เอาจริงๆ มาท่องเที่ยว หรือมาทำธุระในเมือง แวะกิน ชิม ช็อป ไปตามสถานที่ต่างๆ ใน พัทยา ชลบุรี  เพราะที่นี่มีที่ท่องเที่ยวอยู่มากมาย ทั้งใจกลางเมือง และนอกเมืองทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ไม่ต้องลางานให้วุ่นวาย ก็มาเที่ยวได้แล้ว

ถ้ากำลังมองหาที่มันส์ๆ ไว้ไปแฮงค์เอ้าท์กับกลุ่มเพื่อน เฮฮาได้แบบเต็มสูบ ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม เป็นบ้านพักที่อยู่ในหมู่บ้าน การเข้าเช็คอิน ต้องเช็คอินที่ออฟฟิศนอกหมู่บ้านที่พักขึ้นเหนือกันไปเลย!

วิลล่าหรูพร้อมสระส่วนตัวสไตล์หมู่บ้านจานวน 53 หลัง ซึ่งเหมาะกับการมาพักผ่อนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนแบบส่วนตัว ครอบครัว หรือหมู่คณะ โดยแต่ละหลังจะมาพร้อมกับมุมพักผ่อนตามอิริยาบถต่างๆ   อาทิ ห้องนอน ห้องน้า ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และสระว่ายน้าส่วนตัว ซึ่งมีห้องพักให้เลือกตั้งแต่ขนาด 2 ห้องนอน จนถึง 6 ห้องนอน ได้แก่

Plunge Pool 2 Bedroom Villa
วิลล่า 2 ห้องนอน 2 ห้องน้า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 2.3 x 3 เมตร มีเตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 4 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi เหมาะสาหรับครอบครัวเล็กๆ บรรยากาศอบอุ่นและเป็นส่วนตัว มีพื้นที่ใช้สอยรวม 114 ตารางเมตร

Deluxe 2 Bedroom Villa
ดีลักซ์ 2 ห้องนอน วิลล่า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 2.5 x 6 เมตร มีเตา BBQ และครัวพร้อมอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 4 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศเป็นกันเองและเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน มีพื้นที่ใช้สอยรวม 131 ตารางเมตร

Deluxe 3 Bedroom Villa
ดีลักซ์ 3 ห้องนอน วิลล่า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 2.5 x 6 เมตร มีเตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 6 ท่าน ฟรี Wi-Fi อินเตอร์เน็ต บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อนสังสรรค์กลุ่มเล็ก มีพื้นที่ใช้สอยรวม 145 ตารางเมตร

Grande 3 Bedroom Villa
แกรนด์ 3 ห้องนอน วิลล่า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาดใหญ่ 3 x 8 เมตร ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง มีเตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 6 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะแก่การพักผ่อนสังสรรค์ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 235 ตารางเมตร

Double Pool 4 Bedroom Villa
ดับเบิ้ล พูล 4 ห้องนอน บ้านแฝด พร้อมสระว่ายน้า ไซส์ 2.5 x 6 เมตร 2 สระ มีโต๊ะพูล เตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 8 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศเป็นส่วนตัว พักได้หลายครอบครัว หรือกลุ่มใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 262 ตารางเมตร

Grande 4 Bedroom Villa
แกรนด์ 4 ห้องนอน วิลล่า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 3.5 x 12 เมตร มีเตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 8 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับการสังสรรค์กลุ่มใหญ่อย่างหรูหรา มีพื้นที่ใช้สอยรวม 270 ตารางเมตร

Luxury 4 Bedroom Villa
ลักซ์ชัวรี่ 4 ห้องนอน วิลล่า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 3.5 x 12 เมตร มีเตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 8 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับการสังสรรค์กลุ่มใหญ่อย่างหรูหรา มีพื้นที่ใช้สอยรวม 317 ตารางเมตร

Double Pool 5 Bedroom Villa
ดับเบิ้ล พูล 5 ห้องนอน วิลล่า บ้านแฝด พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 3.1 x 6 เมตร (2 สระ) มี โซฟาเบด เตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 11 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน การตกแต่งบ้านพักแบบทันสมัย สิ่งอานวยความสะดวกครบครัน มีพื้นที่ใช้สอยรวม 373 ตารางเมตร

Double Pool 6 Bedroom Villa
ดับเบิ้ล พูล 6 ห้องนอน วิลล่า บ้านแฝด พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 2.5 x 7 เมตร (2 สระ) ระเบียงกว้าง มี โต๊ะพูล เตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 12 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศส่วนตัว เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน การตกแต่งบ้านพักแบบทันสมัย สิ่งอานวยความสะดวกครบครัน มีพื้นที่ใช้สอยรวม 331 ตารางเมตร

Grande 6 Bedroom Villa
แกรนด์ 6 ห้องนอน วิลล่า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 2.5 x 12 เมตร มีโต๊ะพูล เตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ 12 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อนกลุ่มใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 361 ตารางเมตร

Luxury 6 Bedroom Villa
ลักซ์ชัวรี่ วิลล่า 6 ห้องนอน 5 ห้องน้า พร้อมสระว่ายน้าส่วนตัวขนาด 12 x 4 เมตร มีเตา BBQ ครัวและอุปกรณ์ สามารถเข้าพักได้ถึง 15 ท่าน ฟรีอินเตอร์เน็ต Wi-Fi บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อนกลุ่มใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 406 ตารางเมตร

สนใจแบบไหนเอาเลือกกันให้เหมาะกับปาร์ตี้  รีบจองนะจ้ะ เ พราะที่นี่ได้รับความนิยมมากในพัทยา  ไหนความสะดวกสบาย  บรรยากาศเอย โดยเฉพาะในห้องพักนะ กว้างมาก อ่างอาบน้ำติดกระจก  แถมด้วยอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่ง ชัดเจน เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพียบลงตัวทั้งบรรยากาศและการออกแบบที่เหมาะมากสำหรับการฉลอง anniversary แถมยังเป็นส่วนตัวมากอีกต่างหาก ภายในห้องพักตกแต่งอย่างโมเดิร์น หรูหรา อบอุ่นและโรแมนติกรับรองว่าดีกรีความหวานไม่มีตก

ถ้าถามความรู้สึกสัมผัสครั้งแรกของ เดอะ วิลล์ จอมเทียน พูลวิลล่า (The Ville Jomtien Pool Villa) วิลล่าสไตล์โมเดิร์น มีรั้วล้อมรอบในวิลล่าแต่ละหลัง ทำให้มีความส่วนตัวเหมาะกับการพักผ่อนมากๆ ห้องที่เรามาพักกันในครั้งนี้คือห้อง Villa Three Bedrooms Three Bathrooms สามารถพักได้สูงสุดถึง 8 ท่าน Villa หลังนี้ชื่อ A 79  โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีต้นไม้โดยรอบให้ความรู้สึกร่มรื่น เหมาะกับการมาผ่อนคลาย พักผ่อนในวันหยุดสบายๆเป็นอย่างยิ่ง จะมีที่ไหนที่มีครบที่พักตากอากาศสไตล์รีสอร์ทที่มีพูลวิลล่าส่วนตัวทุกหลัง

บรรยากาศภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสบายตา แต่ละห้อง  มีมุมสบายๆ สำหรับไว้ดูทีวีดู มีโซฟาให้นั่งผ่อนคลายสบายๆ สิ่งที่เราชอบมากๆ อีกอย่างก็คือ มาที่นี่ไม่ต้องพกอะไรมาให้วุ่นวายเลย มีให้พร้อมทุกอย่างทั้งไดร์เป่าผม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณผู้หญิงที่เวลาไปไหนมาไหนก็ต้องพกไดร์ไปด้วย   ผ้าเช็ดคัวแยกระหว่างอาบน้ำ กับส่วนที่ใช้บริเวณสระว่ายน้ำ  ส่วนห้องน้ำกว้างขวางทั้ง  3 ห้อง มีอ่างอาบน้ำให้แช่กันฟินๆ สวยงาม โปร่ง โล่งสบายจริง แบ่งโซนเป็นอย่างดี พักที่นี่มีห้องกั้นสำหรับอาบน้ำไม่เลอะเทอะเปียกพื้นอย่างแน่นอน

ไฮไลท์อย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนที่นี่คือ ตอนเย็น เราสามารถสั่ง set บาบีคิว มาทำบาบีคิวทานกันในบริเวณ Villa ได้ด้วยอาหารก็อร่อย บรรยากาศก็ดี ชิลล์มากๆ ส่วนบรรยากาศรอบๆ ที่พักนั้นค่อนขว้างกว้างขวางและร่มรื่น มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวสบายตา

ทิ้งท้ายกันด้วยโซนสุดท้าย โซนสระว่ายน้ำ จะมีทั้งหมดสองสระด้วยกัน ของเด็กกับของผู้ใหญ่อยู่ติดกันเลย แล้วจะรู้ว่าไปแค่ The Ville Jomtien Pool Villa ก็ ฟินส์ ได้นะเธอ

มื้อค่ำ อยากปิ้งย่างแบบพวกเรา  ทางThe Ville Jomtien  มีบริการ ชุดซีฟู้ด
Seafood BBQ Set. 3,500 บาท ปู 2 กิโลกรัม กุ้งแม่น้ำ 1 กิโลกรัม หมึก 1 กิโลกรัม หอยหวาน 1 กิโลกรัม น้ำจิ้มซีฟู๊ด 2 ถุง ถ่าน 2 ถุง น้ำอัดลม 1.5 L 1 ขวด น้ำดื่ม 0.6 L 8 ขวด น้ำแข็งยูนิต 2 ถุง​ Seafood BBQ Set. 4,800 บาท ปู 3 กิโลกรัม กุ้งแม่น้ำ 2 กิโลกรัม หมึก 2 กิโลกรัม หอยหวาน 1.5 กิโลกรัม น้ำจิ้มซีฟู๊ด 4 ถุง ถ่าน 4 ถุง น้ำอัดลม 1.5 L 2 ขวด น้ำดื่ม 0.6 L 15 ขวด น้ำแข็งยูนิต 4 ถุง

ถ้าอยากไปก็ไป เดอะ วิลล์ จอมเทียน พูลวิลล่า  เพลิดเพลินในแต่ละวันกับความสะดวกสบายเกินคำบรรยายของที่พักอันสงบเงียบเป็นส่วนตัวในห้องพักชั้นเลิศความประทับใจจากการมาเยือนที่นี่ นอกจากห้องพักที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัวแล้ว ยังประทับใจกับการบริการจากพนักงานทุกๆ คนและในส่วนของ เดอะ วิลล์ จอมเทียน ลองมาชมภาพความประทับใจจากการไปเยือนเดอะ วิลล์ จอมเทียน พูลวิลล่า ผ่านทางภาพถ่ายในมุมมองของ Toptotravel

พูลวิลล่า พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว เลือกสนุกได้ทุกวัน

เอาล่ะ มีที่พักดีๆกันแล้ว สำหรับคนที่อยากหาที่เที่ยวผ่อนคลายใกล้ๆที่พักตั้งอยู่ย่านจอมเทียน พัทยา ที่นี่เป็นที่พักสไตล์เรสิเดนซ์ จึงให้บรรยากาศเหมือนบ้านพักตากอากาศส่วนตัว ด้วยทำเลที่ตั้งที่  อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อย่างเช่น สวนน้ำ Cartoon Network, สวนน้ำ Ramayana,
Mimosa Pattaya, Ocean Marina Yacht Club, Pattaya Dolphin World, Phonix Gold Golf & Country Club, Yansangwararam Temple, Viharm Sien, Cartoon Network Amazone, Thai Thani Arts and Cultural Village, Nong Nooch Garden, Swiss Sheep Farm Pattaya, Buddha Mountain, Ramayana Water Park และ Silver Lake Vineyard
โรงแรมอยู่ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้งชั้นนา ได้แก่ Central Festival Pattaya, King Power Pattaya Complex, Walking Street และ Outlet Mall Pattaya

ส่วนจุดด้อยในมุมมองคงเป็นที่ภายในวิลลาไม่เห็นวิวอะไรมากนักเพราะอยู่บนพื้นราบและมีกำแพงล้อมรอบที่จอดรถสะดวก สบายแน่นอน

เดือนพิเศษลดราคาพิเศษเพื่อครอบครัวสุดพิเศษ
จูงมือคุณแม่ จับมือคุณพ่อ มาพักผ่อนกันทั้งครอบครัว
พูลวิลล่า พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว เลือกสนุกได้ทุกวัน ตั้งแต่วันธรรมดา
จนถึงวันหยุด

พูลวิลล่าสุดหรู ไซส์เดียว ราคาเดียว!
Grande- 3 Bedroom Villa (8-10 คน) ราคาเดียว 6,500 ฿/คืน
จองได้ตั้งแต่วันนี้ – 20 ส.ค. 2561
เข้าพักตั้งแต่วันนี้ – 31 ส.ค. 2561
ชมห้องพัก https://goo.gl/GhmjBx

-เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด
-Extra Person +990, เฉพาะวันศ.-ส.-อา. +1,000 บาท
#พูลวิลล่าส่วนตัว #หาดจอมเทียน #พัทยา #PATTAYA

Luxurious Private Pool Villa 2-6 Bedrooms 7-Mins to Jomtien beach close to Pattaya attractions. Daily, Weekly, Monthly Rental available.

ใครสนใจที่พักสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมกันที่
The Ville Jomtien
สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่ 172/167 ซอยชัยพฤกษ์ 2 ตำบลหนองปรือ
บางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150

sales@thevillepoolvilla.com
http://www.thevillepoolvilla.com
โทร. 083 241 9292

 

เกษตรอินทรีย์วิถีไทย

จังหวัดนครปฐม และ 18 จังหวัดภาคกลาง
จัดยิ่งใหญ่ งาน   มหกรรมเกษตรอินทรีย์
วิถีไทย 2561  ครั้งที่ 1

​จังหวัดนครปฐมร่วมกับ 18 จังหวัดภาคกลาง จัดงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีไทย 2561” ครั้งที่ 1 โดยมีพิธีเปิดงานวันที่ 3 สิงหาคม 2561 โดย นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ลาน Exhibition Hall โซน C ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ



นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ปี 2561 และยังกำหนดให้เกษตรอินทรีย์เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องการ ให้ทุกหน่วยงานร่วมดำเนินการขับเคลื่อนภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 ถึง 2564

เพื่อให้มีการบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมทั้งกระบวนการผลิตรวมถึงการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกับทุกภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ให้ขยายตัวในเชิงพื้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคในประเทศสามารถเข้าถึงสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้ง่ายขึ้น

​การจัดงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีไทย 2561” ครั้งที่ 1 ถือเป็นการจัดงาน ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และนโยบายของกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ในด้านของการรวบรวมผลผลิตเกษตรอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเกษตรอินทรีย์ อาหารอินทรีย์ และท่องเที่ยวและบริการเกี่ยวกับอินทรีย์ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอินทรีย์ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งอยู่ในขั้นเตรียมความพร้อมสู่เกษตรอินทรีย์ของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการ จาก 19 จังหวัดในภาคกลาง มาจัดแสดงและให้บริการ เพื่อเป็นการส่งเสริมและเพิ่มช่องตลาดให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบ ได้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ พร้อมทั้ง เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่จะได้บริโภคอาหารที่ปลอดจากสารเคมีทางหนึ่ง

​นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายทอดความรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ จากเกษตรกรผู้เชี่ยวชาญ นิทรรศการให้ความรู้ และคลินิกให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร และผู้ที่สนใจ ทั้งทางตรงและทางอ้อม อันจะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดการรับรู้และสร้างความเข้าใจในการทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มยิ่งขึ้น

​นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ด้วยจังหวัดในกลุ่มภาคกลาง 19 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดนครนายก จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดราชบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนครปฐม ได้รับงบประมาณจากยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคกลางให้จังหวัดนครปฐมดำเนินการจัดงาน เพื่อกระตุ้นให้ภาคกลางพัฒนาสู่ภูมิภาคที่มีอาหารและสินค้าเกษตรให้ทันสมัย เพื่อเป็นฐานการผลิตที่ได้มาตรฐานโลก และเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารของประเทศและสนับสนุนยุทธศาสตร์ การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศให้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 5 ล้านไร่ ภายในปี 2564 จึงได้จัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์วิถีไทย 2561 ครั้งที่ 1 โดยนำผลผลิตเกษตรอินทรีย์และบริการอินทรีย์จากเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการ จาก 19 จังหวัดภาคกลาง มาจัดแสดงและจำหน่าย โดยแบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ 1) โซนมาตรฐานอินทรีย์ 2) โซนเตรียมความพร้อมสู่เกษตรอินทรีย์ 3) โซนท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องกับอินทรีย์ และ 4)โซนร้านอาหารอินทรีย์

 

​นอกจากนี้ยังจะได้เพลิดเพลินกับการแสดงศิลปะพื้นบ้านสุดตระการตา การเสวนาของผู้รู้ด้านเกษตรอินทรีย์ การสาธิตการทำอาหารอินทรีย์ รวมทั้งซื้อสินค้านาทีทอง ในส่วนของนิทรรศการให้ความรู้นั้น มีทั้งส่วนที่เป็นนิทรรศการมีชีวิตแสดงถึงผลสำเร็จของการส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทางและปลายทาง ขณะเดียวกันยังมีส่วนบริการข้อมูลเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ด้านเกษตรอินทรีย์ และข้อมูลผู้ประกอบการที่เกี่ยวกับอินทรีย์ โซนให้ความรู้และคลินิกเกษตร ซึ่งจะคอยให้คำปรึกษา แนะนำ และความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจท่านใดมีปัญหาด้านการเกษตร สามารถปรึกษาที่โซนคลินิกเกษตรภายในงานได้

​สำหรับงาน “มหกรรมเกษตรอินทรีย์ วิถีไทย 2561” ครั้งที่ 1
ระหว่างวันที่ 3 – 5 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 -20.00 น
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

สมุทรสาครเตรียมจัดงานยิ่งใหญ่ “สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์”

โชว์ศักยภาพเมืองประมง อุตสาหกรรม เกษตร ท่องเที่ยว ใจกลาง กทม.

จังหวัดสมุทรสาคร เตรียมจัดงานยิ่งใหญ่   “สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์” (SAMUTSAKHON ON THE SHOW) โชว์ภาพลักษณ์เมืองประมง แหล่งท่องเที่ยว  ที่เพียบพร้อมด้วยศักยภาพอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม พร้อมรวบรวมผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน  รวมทั้งอาหารและของดีประจำจังหวัด มานำเสนอ

จังหวัดสมุทรสาครเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีศักยภาพทั้งทางด้านอุตสาหกรรม การประมง และการเกษตรกรรม จากข้อมูลสถิติผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พบว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดสมุทรสาครยังคงขยายตัวจากปีก่อน และยังเป็น ๑ ใน ๑๐ ของจังหวัดที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัวอยู่ในระดับสูงตลอดมา

สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์  SAMUTSAKHON ON THE SHOW  ในด้านของการท่องเที่ยว จังหวัดสมุทรสาครมีป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ เหมาะกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรือแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ

นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่บันทึกในประวัติศาสตร์เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ผู้ซื่อสัตย์ จงรักภักดี และป้อมวิเชียรโชฎก ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เพื่อป้องกันข้าศึกทางทะเลเหมาะแก่การเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์

นอกจากนี้ สมุทรสาครยังมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนสินค้า OTOP เครื่องปั้นดินเผา ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ผล สำหรับในด้านตัวเลข ในปี ๒๕๕๙ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดสมุทรสาครทั้งไทยและต่างชาติรวมทั้งสิ้น ๑,๔๔๓,๗๔๖ คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ๒.๓๘% และมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น ๒,๓๐๕ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ๕.๘๙%

ในด้านของสินค้า OTOP จังหวัดสมุทรสาคร มีผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน ๒๖๘ ราย รวม ๕๓๒ ผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดก็คือ เครื่องเบญจรงค์ จังหวัดสมุทรสาครมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ OTOP ในปี ๒๕๖๐ รวมทั้งสิ้น ๓,๒๗๔ ล้านบาท ซึ่งเฉพาะเครื่องเบญจรงค์อย่างเดียวก็ทำรายได้ถึง ๑๐๘ ล้านบาท

จังหวัดสมุทรสาครจึงร่วมกับภาคเอกชนเตรียมจัดงาน “สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์” (SAMUTSAKHON ON THE SHOW) ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๑ ณ ลานกิจกรรมสแควร์โซน C ด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และบริเวณชั้น ๓ โซน Atrium  ซึ่งเป็นงานมหกรรมที่นำเสนอของดีจังหวัดสมุทรสาคร ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้สัมผัส ณ กลางใจเมือง ในรูปแบบทันสมัยและแปลกใหม่ที่ผู้เข้าชมงานจะต้องอัศจรรย์ใจ

โดยภายในงานจะนำเสนอศักยภาพด้านอุตสาหกรรมประมงและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่โดดเด่นของสมุทรสาคร จำหน่ายผลิตภัณฑ์เด่น ที่คัดเลือกมาแล้วว่าเป็นของที่ขึ้นชื่อภายในจังหวัด รวมกันไว้ในที่เดียว มีให้ชม ชิม ช้อปกันตามอัธยาศัย นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางท่องเที่ยว ที่แบ่งตามความสนใจของกลุ่มที่มีความชอบแตกต่างกัน เช่น เส้นทางท่องเที่ยววิถีชุมชน เส้นทางแสนอร่อยสำหรับนักชิม เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร ฯลฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น ท่าฉลอม ซึ่งยังคงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์ของชุมชนดั้งเดิม และเป็นก้าวแรกของชุมชนจีนในสยาม หรือบ้านแพ้ว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน และยังจะได้ชมการประดิษฐ์งานฝีมือเบญจรงค์ที่ผสานไว้ทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างลงตัว ในงานยังมีวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านที่งดงาม รวมทั้งอาหารและของดีประจำจังหวัด มานำเสนอให้ได้ชมกัน

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพเพียบพร้อม ทั้งในด้านอุตสาหกรรม การประมง เกษตรกรรม หัตถกรรม การท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สมดังคำขวัญของจังหวัดที่ว่า “เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์” นอกจากนี้ยังมีทำเลที่ตั้งที่ติดกับกรุงเทพมหานคร สะดวกง่ายดายต่อการเดินทาง และในแผนพัฒนาจังหวัด ปี ๒๕๖๑-๒๕๖๔ ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเอาไว้ว่า “เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เกษตรและอาหารปลอดภัย ท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ สังคมเป็นสุข”

สมุทรสาคร ออน เดอะ โชว์ (SAMUTSAKHON ON THE SHOW)
โชว์ภาพลักษณ์เมืองประมง แหล่งท่องเที่ยวที่เพียบพร้อมด้วยศักยภาพอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม พร้อมรวบรวมผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ วัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน
รวมทั้งอาหารและของดีประจำจังหวัด มานำเสนอในงานระหว่างวันที่ ๒๐-๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๑

ณ ลานกิจกรรมสแควร์โซน C และบริเวณชั้น ๓ โซน Atrium ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร