การบินไทยร่วมกับไทยสมายล์ เปิด 2 เที่ยวบินใหม่

กรุงเทพ-เกาสง และ กรุงเทพ-หลวงพระบาง เริ่ม 1 ตุลาคม ศกนี้

การบินไทยร่วมกับสายการบินไทยสมายล์ เปิดตัวเส้นทางบินตรงล่าสุด 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-เกาสง เมืองท่าและศูนย์กลางธุรกิจทางภาคใต้และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของไต้หวัน และ กรุงเทพ-หลวงพระบาง เมืองมรดกโลกแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่นักเดินทางจากนานาชาติต่างหลงใหลและพร้อมมาใช้ชีวิตแบบสโลว์ ไลฟ์ โดยจะเริ่มเที่ยวบินปฐมฤกษ์วันที่ 1 ตุลาคม ศกนี้ ตอกย้ำแผนยุทธศาสตร์การขยายเส้นทางบินและเครือข่ายเชื่อมต่อกับการบินไทย ด้วยมาตรฐานบริการยอดเยี่ยมระดับโลก มุ่งรองรับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยว นักผจญภัยระดับกลางถึงระดับบนที่ต้องการความสะดวกสบายจากการเดินทางด้วยมาตรฐานการให้บริการเต็มรูปแบบที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง

เกาสง เป็นเมืองท่าและศูนย์กลางธุรกิจทางภาคใต้และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของไต้หวัน นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สักการะพระศากยมุนีที่พุทธอุทยาน โฝ กวง ซาน เยี่ยมชมตึกที่สูงเป็นอันดับ 2 ของไต้หวันที่ Kaohsiung 85 Building ตื่นตาตื่นใจไปกับ Dome of Light ประติมากรรมกระจกที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลก และพลาดไม่ได้กับการช้อปปิ้งของฝาก ลิ้มรสอาหารทะเลท้องถิ่นที่ลั่วเหอ มาร์เก็ต ตลาดคนเดินกลางคืนชื่อดังในเกาสง

หลวงพระบาง อดีตราชธานีเก่าแก่แห่งอาณาจักรล้านช้าง ชื่อเดิม “เมืองเชียงทอง” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง แม่น้ำคานและแม่น้ำอู หลวงพระบางมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย รวมทั้งยังมีอาคารเก่าในยุคอาณานิคมกระจัดกระจายอยู่ในเขตต่างๆ ของเมือง หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากยูเนสโก ที่หลวงพระบางนักท่องเที่ยวจะได้ใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมอันงดงาม ศิลปะล้านช้าง และบ้านเมืองสไตล์ โคโลเนียล ชื่นชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตกกวางสี และช้อปปิ้งถนนข้าวเหนียว

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า สายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของการบินไทยมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่สู่เมืองเกาสง สาธารณรัฐไต้หวัน และหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็น 2 เมืองใหญ่ที่สำคัญ และมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว โดยเกาสง เป็นเมืองใหญ่รองจากไทเป ซึ่งมีทั้งความทันสมัยผสมผสานไปกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนอาหารการกิน และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจ และกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ในขณะที่หลวงพระบาง เป็นเมืองที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีถึงความเป็นมรดกโลกที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ วิถีชีวิต บ้านเมือง และวัฒนธรรมที่น่าค้นหาเหมาะสำหรับการพักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายจากชีวิตประจำวัน ทั้งสองเส้นทางบินตรงใหม่นี้ ต่างมีศักยภาพอย่างมากและเป็นเส้นทางที่เป็น Exotic Getaway ของไทยสมายล์ ซึ่งประสบความสำเร็จและ เปิดตัวมาอย่างต่อเนื่อง

นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์

ทั้งนี้ ความร่วมมือในการเปิดเส้นทางบินใหม่ทั้ง 2 เส้นทาง ระหว่างการบินไทยและไทยสมายล์ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญ เพื่อให้เห็นรูปแบบธุรกิจที่กำลังดำเนินไปในฐานะสายการบินบริษัทแม่และสายการบินบริษัทลูกที่มีการขยายเส้นทางบินใหม่และเชื่อมต่อเครือข่ายการบินอย่างเต็มรูปแบบ และล่าสุดกับการเปลี่ยนมาใช้ระบบสำรองที่นั่งและออกบัตรโดยสาร “อะมาดิอุส อัลเทีย” )Amadeus Altéa Suite) เพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างทั้งสองสายการบินสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยการให้บริการเส้นทางบิน 2 เส้นนี้ การบินไทยจะนำเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบการขายและการทำการตลาดของการบินไทย ซึ่งรูปแบบธุรกิจลักษณะนี้จะเกิดขึ้นในอีกหลายเส้นทางบินของการบินไทยและไทยสมายล์ ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ โดยความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารที่ต้องเดินทางระหว่างเมืองต่างๆ ที่ การบินไทย และไทยสมายล์ ยิ่งไปกว่านั้นจะนำไปสู่การสร้างรายได้และการเติบโตให้กับทั้งสองสายการบินอย่างยั่งยืน”

สำหรับเที่ยวบิน กรุงเทพ – เกาสง เปิดให้บริการทุกวันส่วนเที่ยวบิน กรุงเทพ – หลวงพระบาง เปิดให้บริการ 4 วัน / สัปดาห์ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ซึ่งให้บริการชั้นโดยสาร 2 คลาสได้แก่ “Premium Economy Class” หรือ “Smile PLUS Class” ที่ให้พื้นที่โดยสารกว้างขวางสะดวกสบายกว่า และ “Smile Class” ชั้นโดยสารที่ให้ความคล่องตัว โดยผู้โดยสารทั้งสองคลาส จะได้รับน้ำหนักสัมภาระถึง 30 กิโลกรัม และ 20 กิโลกรัมตามลำดับ สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางใน Premium Economy Class หรือ Smile PLUS Classจ ะได้รับสิทธิพิเศษในการรับกระเป๋าเดินทางก่อน ทำการบินโดยเครื่องบินแอร์บัส A320-200 ที่พร้อมพรั่งไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงในเที่ยวบินที่เหนือกว่า ทั้งยังอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อผู้โดยสารโดยเฉพาะ พร้อมทั้งสะสมไมล์กับ Royal Orchid Plus อีกด้วย

สายการบินไทยสมายล์ เป็นสายการบินลูกของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสายการบินภูมิภาคในระยะพิสัยใกล้และระยะพิสัยกลาง ภายใต้รหัสสายการบิน “WE” และมีเป้าหมายเป็นสายการบินภูมิภาคชั้นนำของทวีปเอเชีย ไทยสมายล์เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิส ที่มุ่งเน้นในมาตรฐานการให้บริการที่เยี่ยมยอดควบคู่ไปกับความคุ้มค่าของราคา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้านักเดินทางระยะสั้น แต่ขณะเดียวกัน ยังคงให้ความสะดวกสบายสูงสุด สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการบริการที่เป็นเลิศ สายการบินไทยสมายล์ให้บริการด้วยเครื่องบินลำตัวแคบ (Narrow-body Fleet) จำนวน 20 ลำ โดยมีฐานปฏิบัติการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สายการบินไทยสมายล์ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการในหลากหลายมิติเพื่อสอดรับกับความต้องการของนักเดินทาง โดยปัจจุบันเรามีแนวคิดหลักในการให้บริการ คือ FLY SMART, FLY SABAI, FLY THAI SMILE.

ปัจจุบัน สายการบินไทยสมายล์ให้บริการ 10 เส้นทางภายในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงราย หาดใหญ่ อุบลราชธานี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และกระบี่ นอกจากนี้ ไทยสมายล์ยังให้บริการเส้นทางข้ามภาคระหว่างเชียงใหม่และภูเก็ต พร้อม 16 เส้นทางบินต่างประเทศสู่ เสียมราฐ, ปีนัง, ฉางซา, ฉงชิ่ง, เจิ้งโจว, คยา, พาราณสี, ชัยปุระ, ลัคเนา, ย่างกุ้ง, พนมเปญ, กัวลาลัมเปอร์,เวียงจันทน์, มัณฑะเลย์ และ 2 เส้นทางใหม่ เกาสง และ หลวงพระบาง โดยมีแผนที่จะเพิ่มความถี่การบินในเส้นทางในประเทศและเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ระหว่างประเทศต่อไปในอนาคต

เส้นทางกรุงเทพฯ-เกาสง บินตรงทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน
พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิส
ในราคาเริ่มต้นที่ 4,680 บาท/ท่าน/เที่ยว (รวมทุกอย่างแล้ว)
สำรองที่นั่งแล้ววันนี้ – 31 ตุลาคม 2560 เดินทางได้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2560

BKK-KHH (Bangkok-Kaohsiung) v.v.

BKK-KHH WE688 / TG2688 Daily 10.00 14.20

KHH-BKK WE689 / TG2689 Daily 15.20 17.50

เส้นทางกรุงเทพฯ-หลวงพระบาง บินตรง 4 วัน / สัปดาห์
โดยให้บริการในวันจันทร์,วันพุธ, วันศุกร์ และวันอาทิตย์
วันละ 1 เที่ยวบิน พร้อมบริการแบบฟูลเซอร์วิส ในราคาเริ่มต้นที่ 2,600 บาท/ท่าน/เที่ยว (รวมทุกอย่างแล้ว)

สำรองที่นั่งแล้ววันนี้ – 24 มีนาคม 2561เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป

BKK-LPQ (Bangkok-Luang Prabang) v.v.

BKK-LPQ WE576 / TG2576 Mon,Wed,Fri,Sun 12.25 14.00

LPQ-BKK WE577 / TG2577 Mon,Wed,Fri,Sun 14.50 16.25

บินไปกับสายการบินที่หนึ่งของเอเชียแปซิฟิก การันตีด้วย 3 รางวัล จาก TripAdvisor Travelers’ Choice Awards 2017

สำรองที่นั่งได้ที่ www.thaismileair.com
และ Smile Travel Agents ใกล้บ้านคุณ
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ปาร์ตี้สุดหรูท๊อคออฟเดอะทาวน์!! ที่ดีที่สุด

แฟชั่นแบรนด์ดัง มิลิน พร้อมดีเจชื่อดังทั้งไทยและเทศร่วมผสานแรงบันดาลใจผ่านดนตรีและแฟชั่นไว้อย่างอลังการ

ผ่านพ้นไปแล้ว.. สำหรับปาร์ตี้ทอล์คออฟเดอะทาวน์แห่งปี  FLY BEYOND TONIGHT โดย  เกรย์  กูซ  ได้มอบความเป็นที่สุดแห่งที่สุดประสบการณ์ปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ผสานเอาแรงบันดาลใจทางดนตรีและแฟชั่นเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรกของเมืองไทย

นายกสิณสุข   มะกล่ำทอง  SENIOR  CUSTOMER  MARKETING MANAGER เผยว่า  เกรย์ กูซ ตั้งใจจะเฉลิมฉลองประสบการณ์ปาร์ตี้ที่สุดแห่งที่สุด ที่ผสานเอาแรงบันดาลใจของเสียงเพลงและ แฟชั่นไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรก ด้วยการรวมศิลปินชื่อดังในวงการเพลงทั้งไทยและเทศถึง 6 คน เริ่มจากศิลปินไทยอย่าง KYMC (เควายเอ็มซี) , PAKA(ผกา) ศิลปินเจ้าของรางวัลชนะเลิศจากเวทีประกวดระดับนานาชาติอย่างเรดบูลคอมเพททิชั่น, เสริมทัพด้วยดีเจหนุ่มหล่อ NOXRO (น็อก์ซโร) และเพิ่มความพีคด้วย ลิเดีย ศุรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา เปิดโชว์ในเพลงพิเศษ LIKE A GREY GOOSE FLY สุดเซอร์ไพร์ซ  ที่สะกดคนทั้งฮอลล์ไว้ด้วยน้ำเสียงทรงพลัง และการดีไซน์ร้องที่เป็นเอกลักษณ์

หลังจากนั้น มิลิน ยุวจรัสกุล ดีไซนเนอร์ชื่อดัง เปิดตัวคอลเล็กชั่นสุดพิเศษ Autumn/ Winter 2017  Collection :  REHAB SEASON (รีแฮพ ซีซั่น)
จากแรงบันดาลใจบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของโลกแฟชั่น ผสานเข้ากับเทคโนโลยี แสง สี เสียง สุดล้ำสมัย บนเวที

ครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมเอาเซเลบ ดารา และผู้คนในวงการแฟชั่นไว้อย่างคับคั่งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยทีเดียว

เกรย์ กูซ ซูเปอร์พรีเมียมวอดก้าชื่อดังระดับโลก จากแคว้นคอนยัค ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความตั้งใจที่จะรังสรรค์เครื่องดื่มวอดก้าที่ดีที่สุดในโลก จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ผสานเข้ากับที่สุดของวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่ได้รับการบรรจงปลูกและเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถันผ่านกระบวนการกลั่นเฉพาะตัวให้ได้มาซึ่งวอดก้าที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ปราศจากสีและกลิ่น แต่ยังอุดมไปด้วยรสสัมผัสแบบธรรมชาติ บรรจุลงขวดแก้วดีไซน์โดดเด่น สมกับคุณค่าของความเป็นที่สุดของซูเปอร์พรีเมียม

ปิดท้ายด้วย  ความมันส์ขั้นสุดกับ 3 ดีเจชื่อดังระดับโลกอย่าง HEROBUST(ฮีโร่บัสท์) , HEATBEAT(ฮีทบีท) และ  BASSMODULATOR (เบสโมดูเรเตอร์) ทำให้ความแรงของคืนนั้นสูงขึ้นจนจบงาน โดยมี เกรย์ กูซ มิกซ์โซโลจิส คอยรังสรรค์เครื่องดื่ม บอกเล่าเรื่องราวของค่ำคืนความเป็นที่สุดแห่งที่สุด  GREY GOOSE FLY BEYOND BANGKOK   (เกรย์ กูซ ฟลาย บิยอน แบ็งค็อก) ด้วยการนำเอกลักษณ์ของประเทศเขตร้อน ผ่านส่วนผสมอย่าง GINGER LIQUEUR (จิงเจอร์ ลิคเกอร์) และ น้ำสัปปะรดสด เสิร์ฟพร้อมกับเกรย์ กูซ วอดก้า อย่างสดชื่นและนุ่มลึกอย่างลงตัวที่สุด เฉกเช่นเดียวกับกับปาร์ตี้ FLY BEYOND TONIGHT ที่จะเกิดขึ้นต่อไปตามมหานครอื่นๆของโลกต่อไป

เกิดปรากฎการอันน่ามหัศจรรย์ งานเททองหล่อพระพิฆเนศ

โทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง บอกบุญ

พร้อมแล้วสร้าง พิธีหล่อพระพิฆเนตร (ปางลีลาประทานพรเงินล้าน ๘ พระกร) พร้อมคณะศิษย์ คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง ณ วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร

พระพิฆเนศ หรือ พระพิฆเนศวร ก็มีความหมายว่า เทพผู้ปัดเป่าอุปสรรค “พระพิฆเณศ”เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ


 

ต้องอึ้งกับแรงศรัทธาในพระพุทธศานา และแวดวงการบันเทิงของไทย คุณธวัชชัย โอสถานนท์ หรือคุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง ชื่อดัง ประธานในพิธี ผู้ศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ ซึ่งนับเป็นพิธีกรรมที่สร้างความเป็นสิริมงคลอย่างมาก คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง บูชาพระพิฆเนศเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ  ซึ่งการจัดงาน ที่วัดท่าไม้  สมุทรสาคร เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ติดแม่น้ำท่าจีน ธรรมชาติร่มรื่น  Toptotravel เพิ่งไปครั้งแรกประทับใจมากและจะกลับไปอีกแน่นอน

ปรากฎการอันน่ามหัจรรย์งานเททองหล่อพระพิฆเนศปางลีลาประทานประทานพรเงินล้าน8พระกร

โดยภายในงานพระครูปลัดอุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เป็นประธานในพิธีเททองหล่อใหญ่จัดสร้างองค์พระพิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน 8พระกร  ในวันอาทิตย์ที่  24.ก.ย. 2560 ที่  วัดท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมี ท่านญาณภัทร ภททจาโร สถานปฎิบัติธรรมอารามผาหมื่น จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยคุณธวัชชัย โอสถานนท์ หรือ คุณโทนี่  นักเต้นอมิตตาทาทายัง ประธานในพิธี ได้ร่วมทำพิธีมหาบุญใหญ่ปลดปล่อย 2199 ชีวิตพร้อมลอยกระทงเปิดวังองค์พญานาค จุดเทียนเปิดทรัพย์ที่แม่น้ำท่าจีน และพิธีขอขมากรรมต่อครูบิดามารดาครูอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์  เป็นการเปิดจิตเพื่อรับบุญใหญ่ก่อนพิธีเททองหล่อใหญ่จัดสร้างองค์พระพิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน8พระกร โดยในงานเริ่มจาก

การทำพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน

พิธีเททองพระใหญ่ จุดเทียน
9 นพเคราะห์ บูชาเทียน เชิญพระพิฆเณศมาประทับ ณ.องค์หล่อทอง

พิธีเคราะห์เศียรพระพิฆเณศ

จบพิธีด้วยการรับพรพร้อมรับของที่ระลึก

สำหรับความเชื่อพระพิฆเนศมหาสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป กิจการทุกอย่างจึงสำเร็จลุล่วง ถือว่าเป็นพุทธคุณรอบด้านครอบจักรวาล ในด้านการทำมาค้าขายให้โชคให้ลาภ เรียกโชคลาภ หรือ ลูกค้าเข้าร้าน ทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้า ทำธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เจริญขึ้นไปไม่มีเสื่อม มั่งคั่งมั่นคง ปกป้องคุ้มครองป้องกันภัย ทำให้ร้ายกลับกลายเป็นดี
ใครพบเห็นก็บังเกิดความรักใคร่เอ็นดู หากบูชาดีจะมีแต่โชคมีลาภไม่ขาด ค้ำคูณเจ้าของ มีฤทธิ์ทำให้เกิดโชคลาภน้อยใหญ่ บันดาลทรัพย์สินเงินทองจากหน้าที่การงาน เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น มีโชคบอกลาภอยู่เป็นประจำ ช่วยเหลือกิจการหน้าที่การงานต่างๆ ปรับดวงเสริมดวงแก้ดวงตกต่ำ ได้เป็นอย่างดี

คุณธวัชชัย โอสถานนท์ หรือคุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง เททองหล่อใหญ่จัดสร้างองค์พิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน8พระกรประสบความสำเร็จทุกวันนี้ได้เพราะมาจาการ บูชาพระพิฆเนศมาตลอดหลายสิบปี อย่างต่อเนื่อง บรรยากาศงานเททองหล่อ วัดท่าไม้ ริมแม่น้ำท่าจีน เกิดปรากฎการณ์ที่มหัศจรรย์ ก่อนเริ่มทำทำพิธี มีลมแรงมาก ฝนตั้งเค้าจะตกหนัก เริ่มพิธีก็มีก้อนเมฆลอยตัวรวมกันลงไปที่พระอาทิตย์ทำให้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ

โอมศรีศรี คเณษายะ มาร่วมสร้างพระพิฆเณศกับครูโทนี่ ธวัชชัย โอสถานนท์ เททองหล่อ มหาเทพ พระพิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน 8 พระกร ผู้ยิ่งใหญ่ใน 3 ภพ สร้างพ่อเททองพิธีบรวงสรวง เททองหล่อท่านพ่อคุรุเทพมหาคเนษศวร ปางนาถราถ ลีลาประทานทรัพย์ ณวัดท่าไม้ อานิสงส์การสร้างผลบุญที่ได้นี้มันต่อเนื่อง เมื่อมีคนไปกราบไปไหว้หลวงพ่อที่หนึ่ง สายบุญเหล่านั้นก็จะไหลไปยังเทพบุตรเทพธิดาอย่างต่อเนื่องเหมือนสายน้ำตก แกก็ลองนึกดูเถิดว่าวัน ๆ หนึ่งมีคนไปกราบหลวงพ่อเหล่านั้นมากเพียงไร คณะใดกลุ่มใดมีศรัทธาจะสร้างเพื่อเป็นกุศลต่อตนเองและส่วนรวม

วัดท่าไม้ ริมแม่น้ำท่าจีน อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านที่ประชาชนนิยมเดินทาง
เข้ามาเคารพสักการะนั้น ได้แก่ ราหู กวนอิม พระพิฆเนศ พระอินทร์ พระพรม
เจ้าแม่ตะเคียน นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา สำหรับถาวรวัตถุที่สำคัญภายในวัดท่าไม้ ณ ปัจจุบัน มีดังนี้

พระอุโบสถ มีพระพุทธชินราชจำลองหน้าตัก 69 นิ้ว เป็นพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งมีพระเชียงแสน พระสุโขทัย และพระอู่ทอง ร่วมประดิษฐานในพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ มีพระพุทธหิรัญราช เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ปางประทานพร เป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ ศาลาชินบัญชร เป็นสถานที่รองรับพุทธศาสนิกชนในการปฏิบัติธรรมรักษาศีลเจริญสติปัฏฐานสี่ ศาลาบูรพาจารย์ เป็นศาลาที่ประดิษฐานพระเกจิดังในเมืองไทย ซึ่งทางวัดท่าไม้ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ 4 รูป

1. หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
2. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
3. พระไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง ติสสโร) เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำท่าจีน
4. หลวงพ่อยี

ศาลาเทวาพิทักษ์ เป็นที่ประดิษฐานพระราหูเป็นศาลาประกอบพิธีกรรมการสวดดาวนพเคราะห์ย้ายรวมถึงใช้เป็นศาลาอเนกประสงค์ต่างๆ ศาลาพระธรรมจักรแก้ว ศาลาเจ้าแม่กวนอิม เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ศาลาพระแม่สิริมหามายา หอฉัน หอกลอง หอระฆัง หอวัตถุมงคลและของที่ระลึก

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบูชาเพื่อเป็นกุศล ในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2560
ณ วัดท่าไม้  ( งานเริ่มเวลา 14.00.น  เป็นต้นไป-เวลา 16.00.19  นาที)
ตรงกับเดือนเกิดของพระองค์ท่าน วันดี ฤกษ์มงคล สวรรค์ เทพเทวดา อํานวยอวยพรชัยให้ชีวิตของทุกคนที่มาร่วมงาน พบความสําเร็จความรุ่งเรือง
ความรํ่ารวย ความรุ่งโรจน์ตลอดไป

ประธานในพิธี  คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง

บุญกุศลอันเป็นต้นบุญเชื่อมต่อด้วยสะพานบุญไปถึงทุกๆ ท่าน ขอปฏิหารย์จงบังเกิดแก่ทุกท่าน แสงแห่งพุทธบารมี เปิดทางชีวิต  เปิดดวงชะตา
ให้รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ด้วยเทอญ สาธุ

ไหว้พระอิ่มบุญ แล้วก็มาอิ่มท้อง มาเลี้ยงปลา”ทานอาหาร”ไหว้พระสวดมนต์”มาปฏิบัติกรรมฐาน”มาสร้างบารมี “ทำทาน “พักผ่อนจิตใจมุมสงบ”  เพื่อเราจะได้สติ “เกิดปัญญา เดินถึงจุดมุ่งหมายด้วยกัน

โดยประธานในพิธี  คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง กราบนมัสการครูบาญานภัทร ขอบพระคุณ ครอบครัวนักเรียนทุกท่าน ประชาชน ได้ร่วมพิธีทองทองหล่อครั้งนี้ ขอบคุณดารานักแสดงเด็ก และสื่อมวลชนทุกท่านที่ร่วมทำบุญเททองหล่อและเพื่อน Fc ตลอดไป  จนถึงกาลยามิตรทั้งหลาย
มีแต่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

ร่วมสร้างบุญใหญ่ทันใจ!!ทำบุญแผ่นทอง เงิน นาค หรือก้อนทอง ตามกำลังศรัทธา ณ. วัดท่าไม้ วันอาทิตย์ 24 กันยายน 2560

ขอขอบคุณข้อมูลจากวัดท่าไม้ : wattamai.org
ขอขอบคุณประธานในพิธี:
คุณธวัชชัย โอสถานนท์  หรือคุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง และครอบครัว

เที่ยวใกล้กรุงฯ เจอเสน่ห์ชลบุรี กับ วิถี 2วัฒนธรรม

ชุมชนบ้านชากแง้ว และ ชุมชนตะเคียนเตี้ยจ.ชลบุรี

ทริปการเดินทางครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งทริปที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยว แบบชุมชน อีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ เพราะนอกจากจะได้ไปเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนที่เรียบง่ายมีเอกลักษณ์เฉพาะชุมชน เยี่ยมชมบ้านร้อยเสา สวนมะพร้าวกับลมหายใจรวยรินของชาวสวน สวนเศรษฐกิจพอเพียงของ ป้ามิก ณ.ชุมชนตะเคียนเตี้ย

นักท่องเที่ยวจำนวนมาก หันมาสนใจการท่องเที่ยวแบบเรียนรู้วิถีชุมชนไปปั่นจักรยาน ชมสวนมะพร้าวเรียนทำขนมหวาน ตัดพวงมโหตรและทำกุหลาบใบเตย และยังได้เรียนรู้แนวทางการดำเนินชีวิตหรือกิจกรรมของชุมชนที่เป็นที่นิยมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว ในเมืองไทยของเราก็มีอีกหลายกิจกรรมท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชุมชน ซึ่งมีอีกหลายๆ ที่ ที่แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวในเมืองไทยเองก็อาจจะไม่เคยได้สัมผัสแบบใกล้ชิด

ทริปการเดินทางนี้สืบเนื่องมากจากกิจกรรมทัวร์ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ด้วยการเดินทางร่วมกับสื่อมวลชน และ CELEB (น้องอาย) BLOGGER(อมยิ้ม) พร้อมช่างภาพนิ่งออกจาก กทม.-ชุมชนตะเคียนเตี้ย โดยมีฐานการเรียนรู้ มากถึง 6 ฐาน

ฐานที่ 1 ต้อนรับโดย พี่สาโรช โรจน์สกุลพานิช
ประธานวิสาหกิจชุมชน คนรักษ์มะพร้าว ตะเคียนเตี้ย ที่จะพาเราไปค้นพบสวนมะพร้าวของพี่สาโรช และ ปล่อยแตนเบียนร่วมกัน

ฐานที่ 2 ต้อนรับโดย ป้าลมุล
โชว์และพูดเกี่ยวกับขนมหวานและการแสดงรำตัด

ปล่อยแตนเบียน

ฐานที่ 3 นำทางโดย พี่สาโรช โรจน์สกุลพานิช ปั่นจักรยานชมสวนมะพร้าวป้าชื่น สวนมะพร้าวกับลมหายใจรวยรินของชาวสวนสวนเศรษฐกิจพอเพียงของ ป้ามิก สวนฟ้าใส ไอโกะ

ฐานที่ 4  ต้อนรับโดย  พี่วันดี-พี่เกด  เยี่ยมชมบ้านร้อยเสา ​ แวะพักที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน ข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ ตำรายารักษาโรค ตำราโหราศาสตร์ ปีนักษัตรไทย การดูฤกษ์ยาม ครกบดยา ภาชนะทองเหลืองสลักลาย และพระเครื่อง ดูแล้วของทุกชิ้นมีเรื่องราวมากด้วยคุณค่า โชคดีที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยีอนได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น

ฐานที่ 5 ณ บ้านใจดี ต้อนรับโดย พี่แป๊ด แข่งขันทำอาหาร (แกงไก่กะลา)
ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ยังเป็นชุมชน วิถีไทย ใช้ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียงของในหลวง ในการดำรงชีวิต มีผลิตภัณฑ์แนะนำ อาทิ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น , ขนมทองพับ , ท๊อฟฟี่ otop 4 ดาว และ อาหารขึ้นชื่อ “ไก่แกงกะลา” ซึ่งเป็นอาหารที่หากินได้ยาก ใครมาเยี่ยมชุมชนแห่งนี้ ห้ามพลาดในการชิมเมนูนี้เด็ดขาด

คนตัดสินโดย พี่แป๊ด และมอบของรางวัลจากทางชุมชน

ฐานที่ 6 นำโดย พี่แป๊ด ตัดพวงมโหตรและทำกุหลาบใบเตย วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ผ่านการดำรงอยู่ สรรสร้างขึ้นมาเป็นแบบแผนการประพฤติปฏิบัติ ถือเป็นมรดกทางความคิดของบรรพบุรุษอันล้ำค่า


​ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ในอดีตชุมชนตะเคียนเตี้ยมีอาชีพทำนา มีน้ำท่าสมบูรณ์ตลอดทั้งปี แต่เมื่อเวลาผันผ่าน น้ำที่ใช้ทำนาเริ่มไม่เพียงพอ ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงหันไปปลูกมะพร้าว เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว จนปัจจุบันมีการทำสวนเกษตรหลากหลายมากขึ้น แต่สวนมะพร้าวยังถือเป็นอาชีพหลักของชุมชน เพื่อให้ชุมชนตะเคียนเตี้ยมีความแข็งแกร่ง นำรายได้เข้าสู่ชุมชน

เที่ยวท่องล่องชมวิถีชุมชนบ้านชากแง้ว
ชุมชนชากแง้ว เป็นชุมชนที่มีมายาวนานกว่าร้อยปี ชุมชนยังอยู่ห่างจากทะเลไม่ ทำให้ชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดิน น้ำ และป่าไม้ โดยชุมชนเริ่มก่อตั้งมาจากการที่มีชาวจีนโล้สำเภาหนีความแห้งแล้งมายังประเทศไทย ทำให้ชาวจีนหลายครอบครัวตั้งรกรากสร้างครอบครัวที่บ้านชากแง้ว หลังจากที่ทำงานเก็บเงินซื้อที่ดินทำกิน ในปัจจุบันมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 300 หลังคาเรือน อาคารบ้านเรือนจะเปลี่ยนแปลง แต่ยังคงพบเห็นความรุ่งเรืองในอดีตของชากแง้ว ที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันทรงคุณค่า และอัตลักษณ์เปี่ยมเสน่ห์ของชุมชนจีนโบราณ

สามารถเยี่ยมชมได้ในทุกๆ วันเสาร์ตั้งแต่เวลา 15.00 น. – 21.00 น

เดินทางไปชุมชนบ้านชากแง้ว  วันหยุดทั้งที่ช้ชีวิตสุดคุ้ม เมื่อมาถึงต้องห้ามพลาดเดินชมบรรยากาศความเก่าแก่นับร้อยปีของ โรงหนังชากแง้วราม่าโรงหนังโบราณ หรือ ชากแง้วราม่า เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียงของคนในชุมชนรวมไปถึงภายในจังหวัดชลบุรี โรงหนังชากแง้วก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2497 เพื่อเป็นสถานบันเทิงให้คนในชุมชนพักผ่อน หย่อนใจ โรงหนังโบราณอยู่บริเวณหน้าตลาดที่อายุเก่าแก่กว่า50ปี โดยโรงหนังทำจากไม้ทั้งหลัง เหมาะแก่การเก็บภาพอย่างยิ่ง เพราะมีเหลือให้เห็นน้อยเต็มทีในปัจจุบัน

เดิน เที่ยว ชม กิน ของในตลาดเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไปชมบ่อน้ำ และ ถ่ายภาพกับโรงเตี๊ยม

ปิดท้ายด้วยสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิม หากใครได้ไปเยือนชุมชนบ้านชากแง้ว พลาดไม่ได้ที่จะเดินเที่ยวชมภายในหมู่บ้าน เริ่มที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่ชาวชุมชนเคารพนับถือมาช้านาน ถือเป็นศาลเจ้าของชาวจีนทั่วโลก เพื่อบูชาเทพธิดาแห่งท้องทะเลที่คุ้มครองผู้เดินทางทางเรือ เจ้าแม่ทับทิมที่ชุมชนชากแง้วนี้มีมายาวนานกว่า 100 ปี ความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์เจ้าแม่นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าหากผู้ที่มีความประพฤติปฏิบัติดีนั้น เมื่อมากราบไหว้ขอพรจากเจ้าแม่จะสมหวังทุกครั้งไป

พูดถึง​ชุมชนบ้านชากแง้วและบ้านตะเคียนเตี้ย ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ และตำบลตะเคียนเตี้ย เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ผ่านการดำรงอยู่ สรรสร้างขึ้นมาเป็นแบบแผนการประพฤติปฏิบัติ ถือเป็นมรดกทางความคิดขอบรรพบุรุษอันล้ำค่าสมควรแก่การสืบสานและอนุรักษ์ไว้อย่างงดงาม

นอกจากนี้ ในบริเวณชุมชนยังมีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย มาถูกวันจริงๆ ถูกทั้งตังค์ในแกระเป๋า และช่วงเวลาที่ดีเอามากๆ

ขอขอบคุณ ​จังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมดีดีส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว“ทัวร์เมืองเก่า เสน่ห์ชลบุรี วิถี 2 วัฒนธรรม”
ณ ชุมชนบ้านชากแง้ว และชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย โดยพาคณะสื่อมวลชน บล็อกด้านการท่องเที่ยว และ น้องอาย กมลเนตร เรืองศรี ร่วมทำกิจกรรม

ร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม

สุดยอดผ้าไหมประจำถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน

ผ้าไหมทอมือ ถือเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของทางภาคอีสาน ที่มีความละเอียดอ่อนชมการแสดงผ้าไหมอันวิจิตร หาดูยาก และสาธิตถึงกระบวนการผลิตแบบใกล้ชิด พร้อมชมแฟชั่นโชว์ผ้าไหมโดยนางแบบชื่อดัง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์”

ไหมกลายเป็นสินค้าที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของประชาชน รวมทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์

นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวว่า ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์จากไหมเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกิดขึ้นมายาวนานหลายร้อยปี ในสมัยอดีตผ้าไหมและการทอผ้าไหม เป็นเพียงการผลิตใช้ภายในครัวเรือนเท่านั้น

ปัจจุบัน ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์จากไหมกลายเป็นสินค้าที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของประชาชน รวมทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ คือจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และ จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้รับมอบหมายการส่งเสริม สนับสนุนผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผ้าไหมให้มีการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพิ่มช่องทางการตลาดโดยการประชาสัมพันธ์ นำผลิตภัณฑ์ไหมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้นวัตกรรมใหม่ๆ  มาให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ รวมทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผ้าไหม มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น พบปะและแข่งขันทางธุรกิจ ตลอดจนการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่กลุ่ม จังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์

นายสฤษดิ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ได้จัดโครงการยกระดับผ้าไหมกลุ่มจังหวัดสู่การเป็นศูนย์กลางออกแบบผลิตภัณฑ์จากไหมในภูมิภาค จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไหม และ ผลิตภัณฑ์ OTOP ในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะจัดกิจกรรมโรดโชว์ขึ้น
2 ครั้ง  โดยจัดขึ้น
ครั้งแรกระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ
ครั้งที่สองระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน และ 1 ตุลาคม ณ เซ็นทรัลบางนา



โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหม และผลิตภัณฑ์จาก
ไหมกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเพิ่มช่องทางการตลาด สร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายทางการค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ OTOP และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นการผลิตผ้าไหมในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์จากไหม และ ผลิตภัณฑ์ OTOP ในพื้นที่ต่างจังหวัด ครั้งแรกระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ ครั้งที่สองระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน และ 1 ตุลาคม ณ เซ็นทรัลบางนา

กิจกรรมในวันงานทั้งสองครั้งจะมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติผ้าไหมไทย พร้อมจัดแสดงผ้าไหมที่ได้รับรางวัลทองคำพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และการแสดงโชว์ผ้าไหมแพรวา มูลค่ากว่า 600,000 บาท


นอกจากนี้  ยังมีการสาธิตการเลี้ยงหม่อนไหม การขึ้นลายผ้าของ  แต่ละจังหวัด และการทอผ้าไหมแพรวาของจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยการแสดงแฟชั่นโชว์ โดยนางแบบชื่อดัง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” พระเอกชื่อดังอย่าง “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” กางเกงมวยผ้าไหมตัวแรกของโลกโดยเต็งหนึ่ง Thai Fight, พร้อมด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกทุ่งอย่าง รุ่ง สิริยา, จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ, ลำไย ไหทองคำ, โอ๋-เอ๋ พจนา, หญิง ธิติกานต์, นุช วิลาวัลย์ และวงโปงลางอินเตอร์

 

เมนูเล่มแรก ภัตตาคารเล่งหงษ์ อายุกว่า 55 ปี

เล่งหงษ์ คิทเช่น และ ลิวโฮ ซูชิ บายเล่งหงษ์ ลุยตลาดปี 2561

เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 55 ของ เล่งหงษ์ฯ ทางร้านจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนเราเสมอมา ด้วยโปรโมชั่น

เป็ดปังกิ่งต้นตำรับ 55 ปี จากเล่งหงษ์ฯ
จากราคาปกติ 900 บาท ลดพิเศษเหลือเพียง 599 บาท
และโปรฯ ข้าวหน้าเป๋าฮื้อ จากปกติ 400 บาท ลดพิเศษเหลือ 299 บาท (สำหรับ 1-2 ท่าน)

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูชื่อดัง ต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น ไก่แช่เหล้า, หูฉลามน้ำแดง, กุ้งทอดราดซอสวาซาบิ, เนื้อปูก้อนผัดผงกระหรี่, หมี่เล่งหงษ์ และขนมหวานขึ้นชื่ออย่าง คู่หูคู่เฮง ไว้รอต้อนรับในทุกวันอีกด้วย

นิก เล่งหงษ์ ลูกชายคนเล็ก เล่าถึงเรื่องราวของ ภัตตาคารเล่งหงษ์  ที่มีความอร่อยแบบบอกต่อรุ่นสู่รุ่น ด้วยระยะเวลายาวนาน 55 ปี  โดยในส่วนของการ บริหารภัตตาคารเล่งหงษ์  มีการประชาสัมพันธ์ร้านอย่างต่อเนื่อง ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ   และตัวผมเอง  ทำรายการกินเที่ยวอะราวเดอะเวิลด์
ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00 น.  ทางช่อง 3SD ช่อง 28

ด้วยประสบการณ์ ทำรายการกินเที่ยวอะราวเดอะเวิลด์  ทำนิก มีโอกาสได้
ไปชิมอาหารเมนูแปลกใหม่ และก็มีการนำมาปรับใช้กับเมนูของ  เล่งหงษ์ โดยจะมีการคิดเมนูพิเศษเดือนละ 1 เมนู เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสชิมอาหารรสชาติใหม่ๆ ไม่จำเจ ลูกค้าประจำของร้านก็จะได้ตื่นเต้นไปกับเมนูใหม่ของร้านอยู่เสมอ โดยทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันช่วยบริหารงานจากคนในครอบครัว โดย แน๊ต เล่งหงษ์ ลูกสาวคนโต ช่วยดูแลด้านการตลาดและจัดซื้อ, โน้ต เล่งหงษ์ ลูกสาวคนกลาง ดูแลด้านผลิตภัณฑ์, การเงิน และรายการทีวี, นิก เล่งหงษ์ ลูกชายคนเล็ก ดูแลด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งหมด และอีกกำลังสำคัญ คุณหงส์  เล่งหงษ์ ภรรยาผม ที่ช่วยบริหารงานร้านทั้ง 2 สาขาจนเติบโตและสำเร็จมาถึง 55 ปีนี้

คุณหงส์  เล่งหงษ์ (ภรรยาเฮียซ้ง เล่งหงษ์ ประธานบริหาร ภัตตาคารเล่งหงษ์)

นิก เล่งหงษ์ ลูกชายคนเล็ก เล่าถึงเรื่องราวของ ภัตตาคารเล่งหงษ์  ที่มีความอร่อยแบบบอกต่อรุ่นสู่รุ่น ด้วยระยะเวลายาวนาน 55 ปี  โดยในส่วนของการ บริหารภัตตาคารเล่งหงษ์  มีการประชาสัมพันธ์ร้านอย่างต่อเนื่อง ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ   และตัวผมเอง  ทำรายการกินเที่ยวอะราวเดอะเวิลด์
ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00 น.  ทางช่อง 3SD ช่อง 28

ด้วยประสบการณ์ ทำรายการกินเที่ยวอะราวเดอะเวิลด์  ทำนิก มีโอกาสได้
ไปชิมอาหารเมนูแปลกใหม่ และก็มีการนำมาปรับใช้กับเมนูของ  เล่งหงษ์ โดยจะมีการคิดเมนูพิเศษเดือนละ 1 เมนู เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสชิมอาหารรสชาติใหม่ๆ ไม่จำเจ ลูกค้าประจำของร้านก็จะได้ตื่นเต้นไปกับเมนูใหม่ของร้านอยู่เสมอ โดยทุกความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันช่วยบริหารงานจากคนในครอบครัว โดย แน๊ต เล่งหงษ์ ลูกสาวคนโต ช่วยดูแลด้านการตลาดและจัดซื้อ, โน้ต เล่งหงษ์ ลูกสาวคนกลาง ดูแลด้านผลิตภัณฑ์, การเงิน และรายการทีวี, นิก เล่งหงษ์ ลูกชายคนเล็ก ดูแลด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งหมด และอีกกำลังสำคัญ  คุณหงส์  เล่งหงษ์ ภรรยาผม ที่ช่วยบริหารงานร้านทั้ง 2 สาขาจนเติบโตและสำเร็จมาถึง 55 ปี

นายณธีพัฒน์ อรุณศิริสกุล หรือ เฮียซ้ง เล่งหงษ์ (กลาง)

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2560 ภัตตาคารเล่งหงษ์จัดงานฉลองสุดยิ่งใหญ่ครบรอบ 55 ปี ในฐานะภัตตาคารอาหารจีนแต้จิ๋วรสชาติดั่งเดิมที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ชูจุดแข็งคุณภาพและวัตถุดิบสำคัญที่สุด รสชาติต้องคงความเป็นจีนแต้จิ๋ว บริการต้องเป็นเลิศ ให้ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมแตกไลน์ธุรกิจเตรียมเปิด “เล่งหงษ์ คิทเช่น” ร้านอาหารจีนแนวโมเดิร์น และ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับ 5 ดาว ลุยตลาดหวังจับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ แถมจัดโปรสุดคุ้มเนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปี

ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงคนเดียว นายณธีพัฒน์ อรุณศิริสกุล หรือ เฮียซ้ง เล่งหงษ์ ประธานบริหาร ภัตตาคารเล่งหงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันภัตคารเล่งหงษ์ มี 2 สาขา คือ สาขาพระรามสอง และสาขาสุขุมวิท 62 โดยกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มครอบครัว และนักธุรกิจ ด้วยจุดแข็งของรสชาติที่คงเอกลักษณ์ต้นตำรับจีนแต้จิ๋ว อีกทั้งการให้ความสำคัญของวัตถุดิบและความสดของอาหารต้องมาเป็นอันดับ 1 พร้อมทั้งการให้บริการที่เป็นเลิศ และมุ่งเน้นให้ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าไม่เปลี่ยนแปลง จึงทำให้เล่งหงษ์มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในปัจจุบันที่ภาพรวมเศรษฐกิจซบเซาทางร้านก็ไม่ได้รับผลกระทบ ลูกค้ายังคงมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ร้านจึงเติบโตอย่างมั่นคงมาโดยตลอดจนเข้าปีที่ 55 แล้ว ทั้งนี้ทางร้านยังให้ความสำคัญกับการปรับตัวให้เท่าทันยุคเพื่อเป็นร้านอาหารจีนที่ทันสมัย พร้อมทั้งนำระบบคอมพิวเตอร์บริหารงานทั้งหลังร้านและหน้าร้านเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำในการให้บริการ อีกทั้งเพิ่มช่องทางการติดต่อให้มากขึ้น อาทิ เฟสบุ๊ค, ไลน์แอด และ แอปพลิเคชัน Panda Food เพื่อตอบรับกับยุคดิจิตอล

คุณณธีพัฒน์ (นิก) อรุณศิริสกุล เล่งหงษ์ ลูกชายคนเล็ก บริหารงานด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ของภัตราคารเล่งหงษ์

“แผนการขยายไลน์ธุรกิจของเล่งหงษ์ฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นคือ “เล่งหงษ์ คิทเช่น” เป็นธุรกิจร้านอาหารจีนแนวโมเดิร์น จะทำเป็นอาหารย่อส่วนในราคาที่สัมผัสได้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น เน้นเปิดตามห้างสรรพสินค้า และอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราก้าวข้ามออกมาจากสายธุรกิจอาหารจีน คือ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม คุณภาพระดับ 5 ดาว ในราคาที่ใครๆ ก็สามารถมาลิ้มลองได้ โดยพื้นที่ในการเปิดร้านเป็นแบบร้านเดียวอยู่ในบริเวณห้างฯ หรือนอกห้างฯ แล้วแต่โลเคชั่นที่เหมาะสม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการวางแผนงาน คาดว่าน่าจะเริ่มเห็นทั้ง 2 แบรนด์ในปี 61 นี้แน่นอน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เล่งหงษ์ฯ เน้นความเป็นร้านอาหารของครอบครัวเสมอมาส่งต่อความรักความอบอุ่นจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนานถึง 55 ปี

สิ่งที่ควรคงไว้เพื่อรักษาความดั้งเดิมเรารักษา สิ่งที่ควรพัฒนา เราก็ไม่หยุดยั้ง เพราะความพอใจของลูกค้า คือความสุขของเรา

อร่อยเว่อร์วังตามระเบียบ  กับเมนู คู่หูคู่เฮง การรวมตัวของของเฮงๆอร่อยๆ
อย่าง เผือกกวนชุบเมล็ดแตงโม และบัวลอยไส้งาดำทอดชุบงาขาว
ทานกับน้ำขิงร้อนๆของทางร้าน

เมนูนี้ เฮียซ้ง เล่งหงษ์ การันตี ถ้าไม่สั่งเมนูนี้ เฮียซ้งตีตาย
เปิดบริการ ทุกวัน 11.00-22.00น.
สำรองที่นั่ง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
สาขาพระราม2 โทร.02-4165000 , 02-4168872
สาขาสุขุมวิท62 โทร. 02-3116155 , 02-3116156
(ไม่มีสาขาอื่น)

ดาราพาเที่ยว วิถีไทย ชุมชนตะเคียนเตี้ย บางละมุง

ท่องเที่ยววิถีชีวิตไทยใกล้กรุงเทพ

ระยะทางที่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปเพียงไม่มาก แต่กลับมีแหล่งชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว และคงรูปรูปแบบการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม การเกษตรแบบพึ่งพาตนเองใช้ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียงของในหลวง ในการดำรงชีวิต มีผลิตภัณฑ์แนะนำ อาทิ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น , ขนมทองพับ , ท๊อฟฟี่ otop 4 ดาว และ อาหารขึ้นชื่อ “ไก่แกงกะลา” ซึ่งเป็นอาหารที่หากินได้ยาก ใครมาเยี่ยมชุมชนแห่งนี้ ห้ามพลาด

แนวคิดและรูปแบบการท่องเที่ยววิถีไทย โดยมีผู้แทนชุมชนท่องเที่ยว ณ ชุมชนตะเคียนเตี้ย

ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ท่องเที่ยววิถีชุมชน ท่องเที่ยวไทย ในอดีตชุมชนตะเคียนเตี้ยมีอาชีพทำนา มีน้ำท่าสมบูรณ์ตลอดทั้งปี แต่เมื่อเวลาผันผ่าน น้ำที่ใช้ทำนาเริ่มไม่เพียงพอ ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงหันไปปลูกมะพร้าว เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว จนปัจจุบันมีการทำสวนเกษตรหลากหลายมากขึ้น แต่สวนมะพร้าวยังถือเป็นอาชีพหลักของชุมชน เพื่อให้ชุมชน ตะเคียนเตี้ยมีความแข็งแกร่ง และนำรายได้เข้าสู่ชุมชนได้มากขึ้น

ณ บ้านร้อยเสา แหล่งรวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน ข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ ตำรายารักษาโรค ตำราโหราศาสตร์ ปีนักษัตรไทย การดูฤกษ์ยาม ครกบดยา ภาชนะทองเหลืองสลักลาย และพระเครื่อง เป็นต้น ซึ่งของทุกชิ้นมีเรื่องราวมากด้วยคุณค่า ผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมเยีอนยังมีโอกาสได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกด้วย

ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ยังเป็นชุมชน วิถีไทย ใช้ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียงของในหลวง ในการดำรงชีวิต มีผลิตภัณฑ์แนะนำ อาทิ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น , ขนมทองพับ , ท๊อฟฟี่ otop 4 ดาว และ อาหารขึ้นชื่อ “ไก่แกงกะลา” ซึ่งเป็นอาหารที่หากินได้ยาก ใครมาเยี่ยมชุมชนแห่งนี้ ห้ามพลาดในการชิมเมนูนี้เด็ดขาด

ชุมชนบ้านชากแง้วและบ้านตะเคียนเตี้ย ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ และตำบลตะเคียนเตี้ย เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ผ่านการดำรงอยู่ สรรสร้างขึ้นมาเป็นแบบแผนการประพฤติปฏิบัติ ถือเป็นมรดกทางความคิดของบรรพบุรุษอันล้ำค่าสมควรแก่การสืบสานและอนุรักษ์ หากได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแล้วจะเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนนำทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง

นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จัดพิธีเปิดกิจกรรม ดาราพาเที่ยว วิถีไทย ชุมชนตะเคียนเตี้ย

ภายใต้การจัดงาน กิจกรรม ดาราพาเที่ยววิถีไทย พักใจที่บางละมุง ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สัมผัสและเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและรูปแบบการท่องเที่ยววิถีไทย โดยมีผู้แทนชุมชนท่องเที่ยว ณ ชุมชนตะเคียนเตี้ย




จังหวัดชลบุรี นำโดย นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้จัดพิธีเปิดกิจกรรม ดาราพาเที่ยว วิถีไทย ชุมชนตะเคียนเตี้ย ณ อาคารอเนกประสงค์ ชุมชนตะเคียนเตี้ย และมอบรางวัลให้ผู้ชนะกิจกรรมการประกวดตั้งชื่อ “ถนนวัฒนธรรมตะเคียนเตี้ย”ซึ่งเป็นถนนสายหลักของชุมชน และเปรียบเสมือนศูนย์กลางของคนในชุมชนตะเคียนเตี้ย โดยมีการเชิญผู้เข้าร่วมงานทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย อาทิ การปั่นจักรยานเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน , ชมการสาธิตทำแกงไก่กะลา , กิจกรรมปล่อยแตนเบียน , ชิมกาแฟมะพร้าว , แข่งทำพวงมะโหตร , พับกุหลาบใบเตย , ชมบ้านร้อยเสา , เรียนรู้ปลูกผักสมุนไพร , สาธิตกัวซาหน้า ฯลฯ

พิเศษสุดกับกิจกรรม Meet & Greet กับหนุ่มสุดชิว
“จูเนียร์ เดอะสตาร์” กรวิชญ์ สูงกิจบูลย์

ท่องเที่ยวภาครัฐ ยกทัพเที่ยวทั่วไทย

ททท.เปิดกลยุทธ์กระตุ้นปลายปี
ท่องเที่ยวภาครัฐยกทัพเที่ยวทั่วไทย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
แถลงความพร้อมจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวภาครัฐ ภายใต้แนวคิดหลัก
ท่องเที่ยวภาครัฐ ยกทัพเที่ยวทั่วไทย  ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 ณ ฮอลล์ 1 อิมแพคเมืองทองธานี จ.นนทบุรี มุ่งกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศปลายปีในรูปแบบงานส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างโอกาสให้กับหน่วยงานภาครัฐได้นำสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวมาเสนอขายและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และส่งเสริมให้เกิดกระแสเที่ยวทั่วไทยโดยผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐที่มีแหล่งท่องเที่ยวกว่า 60 หน่วยงาน อีกทั้ง เปิดโอกาสประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้ท่องเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนราว 66% คาด 3 วันมีผู้เข้าชมงานประมาณ 1.5 แสนคน กระจายคนสู่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศเพิ่ม 10%

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท. ได้ดำเนินโครงการเที่ยวเมืองไทยใครๆ ก็เที่ยวได้ ภายใต้แผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสวัสดิการสังคม กลยุทธ์สร้างความเข้มแข็งให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ตามแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2560 วัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวให้กับประชาชนคนไทย เกิดการเรียนรู้ภูมิใจในความเป็นไทย สร้างเสริมประสบการณ์และนำความรู้ไปใช้ในการดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวทั้งในท้องถิ่นของตนเองและพื้นที่อื่น ๆ ตลอดจนสร้างโอกาสในแง่ของรายได้ เศรษฐกิจชุมชน นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้การจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 เวลา 10.00 น. – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 1 อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ภายในงานแบ่งออกเป็นโซนท่องเที่ยวกับภาครัฐ โซนอาหารถิ่น โซนสาธิตสินค้า รวมแล้วกว่า 100 บูท และกิจกรรมการแสดงมากมาย

สำหรับหน่วยงานที่ร่วมออกงานในครั้งนี้ อาทิเช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย /สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ อ แม่ริม จ เชียงใหม่/กองทัพเรือ จัดทัพที่เที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่หลากหลายแนว พร้อมการแสดงพายและเห่ เรือราชพิธีจำลอง

ด้านกองทัพบก ยกทัพพร้อมทั้งที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำ เช่น ท่องเที่ยวทางทหารที่โรงเรียนนายร้อย จปร.จ.นครนายก สถานพักฟื้นและพักผ่อนที่สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบฯ และ สถานพักฟื้นและพักผ่อนล้านนา จ.เชียงใหม่ / มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ / บ้านสวนแผ่นดินแม่ สุพรรณ / กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนตำบลบ้านแหลม / พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ มาพร้อมกับกิจกรรมทำเครื่องบินกระดาษ /

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช) /กิจการน้ำพุร้อนสันกำแพง / Museum Siam /โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริ /องค์การสวนสัตว์ / ไปรษณีย์ไทย / และ บูทผู้ประกอบการจากกรมการค้าภายในและกรมพัฒนาชุมชน อีกคับคั่ง

พร้อมด้วยร้านอาหารอร่อย ท้องถิ่น ชื่อดังอาทิ ขนมไทยแม่แฉล้ม อยุธยา / กระหรี่ 2 ปั๊บ สุโขทัย / กุ้ยช่ายบ้านนา /ขนมถ้วยฟูสมุนไพร / กระยาสารท ต้นตำรับ สระบุรี / ห่อหมกทะเลย่าง ประจวบฯ / ข้าวยำสมุนไพร /เต้าคั้ว /ส้มตำไก่ย่างเขาสวนกวาง / ผัดไทยสุโขทัยฯ / โกอ่างเส้นปลา / ลอดช่องวัดเจษฯ/ หมี่กรอบเมืองกาญจน์ / หม่ำคำตัน ชัยภูมิ / ซาลาเปาทับหลี / ไก่กอแระมาเต๊ะ /จำปาดะทอด /ข้าวขาหมู จุฬา และร้านอาหารชื่อดัง ประจำถิ่นตบเท้าพร้อมปรุงรสเด็ดมากมายภายในงาน
นางสุจิตรายังเปิดเผยด้วยว่า การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐเป็นอย่างดี ประชาชนที่มาร่วมงานยังจะได้รับความสนุกสุดคุ้มในโซนดนตรี ได้ชมการแสดง จาก 3 ศิลปินชื่อดัง เบิร์ดกะฮาร์ท , สุเมธ แอนด์ เดอะปั๋ง และ บี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว หรือ บี้เดอะสตาร์ ร่วมด้วยการแสดงจาก ดุริยางค์ทหาร , สุนัขตำรวจ k9 (เคนาย) พร้อมรับชมไฮไลท์การแสดง พายและเห่ เรือ พระราชพิธีจำลองจากกองทัพเรือ แวะชิมอาหารถิ่นของอร่อยจากร้านดังทั่วประเทศ นอกเหนือจากนั้นยังได้ชมโชว์สาธิตการทำเมนูท้องถิ่น จากเชฟบุ๊ค

ผู้เข้าชมงานสามารถเลือกช้อปแหล่งท่องเที่ยวและบริการในราคาพิเศษ
ซึ่งมีโปรโมชั่นให้แบบจุใจ โดยเมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท ภายในงานนี้ สามารถร่วมสนุกชิงรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ภายในประเทศ วันละ 3 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง

จึงอยากเชิญชวนให้มาร่วมงานกัน คาดว่า 3 วันของการจัดงานจะมีนักท่องเที่ยวที่มาชมงานประมาณ 50,000 คนต่อวันหรือประมาณ 150,000 คน
ใน 3 วัน และมีเงินสะพัดกว่า 20 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวเดินทางกระจาย
ตัวสู่แหล่งท่องเที่ยวในประเทศช่วงปลายปีเพิ่มขึ้น 10 %

อนึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
งานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 เวลา 10.00 น. – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 1 อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
โทร. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย

SCB Abacus

ไทยพาณิชย์ตั้งบริษัทลูก SCB Abacus 

SCB Abacus ถูกแยกออกมาเป็นบริษัทลูกเพื่อให้ทำงานได้คล่องตัว โดยจะยังเน้นให้บริการเฉพาะบริษัทภายในเครือไทยพาณิชย์เป็นหลัก ตัวอย่างโครงการที่ SCB Abacus จะเข้ามามีบทบาทสนับสนุนธุรกิจของไทยพาณิชย์ ได้แก่พัฒนาระบบ Recommendation Engine ช่วยแนะนำบริการในแอพ SCB Easy, นำ AI มาช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยที่เหมาะสมกับลูกค้าเป็นรายบุคคล โดยใช้อุปกรณ์ IoT มาช่วยเก็บข้อมูล, นำ AI มาช่วยคาดเดาปัญหาที่ลูกค้าจะโทรเข้ามายังคอลล์เซ็นเตอร์ เพื่อโอนสายไปยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง

SCB Abacus ได้ ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โดยก่อนหน้านี้ ดร.สุทธาภา เป็นรองผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุดของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ของธนาคารไทยพาณิชย์ ประวัติของ ดร.สุทธาภา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และระดับปริญญาเอกจากสถาบัน MIT ก่อนมาร่วมงานกับไทยพาณิชยื ดร.สุทธาภา เคยทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ที่กรุงวอชิงตันดีซี และผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังมาก่อน

จุดแข็งของ SCB Abacus คือการดึงตัวผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI ที่เคยทำงานในบริษัทระดับโลกมาร่วมทีม, การมีข้อตกลงกับสถาบัน MIT เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้งาน รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลของกลุ่ม SCB ที่มีอยู่แล้ว

SCB Abacus ยังตั้งคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายธุรกิจ เช่น ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล (อดีตผู้อำนวยการ สวทช.), ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร (ซีอีโอ ปตท.), คุณวิลาสินี พุทธิการันต์ (อดีตผู้บริหารระดับสูง AIS ส่วนงานบริการลูกค้า) และ ศ.ดร.เบ็นจามิน แวนรอย (มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด)

ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)

ส่วนแนวทางการตั้ง SCB Abacus มองโจทย์ว่าบริษัทมีข้อมูลปริมาณมาก ทำอย่างไรจึงจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้ จึงตั้งใจแยกบริษัทออกมาทำงานขนานกับ DV โดยมีเป้าหมายเพื่อทดลองเรื่อง AI กับ Big Data เป็นหลัก ตอนนี้ข้อมูลที่ธนาคารมียังเป็นข้อมูลแบบ traditional ที่ธนาคารเคยเก็บไว้ เป็นข้อมูลทั่วๆ ไปว่าลูกค้าเป็นใคร ทำอะไรบ้าง ถือว่าเป็นข้อมูลพื้นๆ แต่ในอนาคต Abacus จะต้องไปไกลกว่านี้ ต้องมีข้อมูลแบบ unstructured ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของลูกค้า เพื่อนำไปต่อยอดบริการให้ได้กว้างไกลขึ้น เพื่อสร้าง predictive และ insight ใหม่ๆ ที่ธนาคารไม่เคยมีมาก่อน

การนำข้อมูล big data มาใช้บริหารความเสี่ยง จะยังช่วยให้ธนาคารบริหารสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาก มีอัตราหนี้เสีย (NPL) ไม่ถึง 2% ซึ่งธนาคารในประเทศไทยไม่เคยทำได้มาก่อน ในอีก 6 เดือนจากนี้น่าจะเห็นผลงานของ SCB Abacus

 

คุณคิดว่า…ดาราวัยรุ่นชายคนไหน พูดถึงแล้วนึกถึงเวสป้าที่สุด!

กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
ตัวแทนคนรุ่นใหม่กับสไตล์อันโดดเด่น

สาวกเวสป้าและนักสะสม ร่วมงานเปิดตัวเวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น พร้อมร่วมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการถือกำเนิดสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมดีไซน์ไอคอน ในแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ ที่เสนอความต่างแห่งปี  NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU?  รถสกู๊ตเตอร์สุดคลาสสิกในตำนานกับ  Vespa PX Touring Edition จำนวนจำกัดเพียง 200 คันทั่วประเทศ   ทุกคันประดับเพลทเหล็กโลโก้เลขไทยตกแต่งด้านหน้าตัวรถ และเพลทเหล็กลิมิเต็ด อิดิชั่น ออกเดินทางอย่างมีสไตล์ด้วยเซตพรีเมี่ยมจัดพิเศษมากมาย  ทั้งกระเป๋าสะพายข้าง ธงติดรถ แก้วน้ำ เซตเข็มกลัด เซตโปสการ์ด หมวกกันน็อคสกรีนโลโก้ เข้าชุด วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 224,900 บาท

สำหรับ เวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น มาพร้อมดีไซน์สุดคลาสสิกเหนือกาลเวลาด้วยรายละเอียดการออกแบบ  ที่เน้นความเรียบง่าย โดยสานต่อแรงบันดาลใจจากเวสป้ารุ่น พีเอ็กซ์ ในตำนานที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุค 70  ซึ่ง
ยังคงครองใจและเป็นที่รักของสาวกเวสป้า ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
สะดุดตาด้วยสีพิเศษ  สีฟ้าเงิน  Azzurro 70

โดดเด่นด้วยวัสดุโครงเหล็กแบบดั้งเดิม  ที่มอบความแข็งแรงทนทาน ให้ความรู้สึกอยากออกเดินทางในรูปแบบที่สะท้อนความเป็นตัวเอง มาพร้อมกับชิวด์สั้นบังลม สามารถบรรทุกสัมภาระด้วยตะแกรงโครเมี่ยมทั้งด้านหน้า-หลัง พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการประดับเพลทเหล็กโลโก้เลขไทย   “๔๐” ในตำแหน่งด้านหน้ารถ ผลิตมาเพื่อจัดจำหน่ายในตลาดประเทศไทยเพียง 200  คันเท่านั้น

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบสี่สิบปี ของการผลิตและจัดจำหน่ายเวสป้ารุ่นดังกล่าว และตกแต่งด้วยเพลทเหล็ก ลิมิเต็ด อิดิชั่น ต้องมนต์เสน่ห์ในทุกการเดินทางไปกับฟีเจอร์ดั้งเดิมในตำนาน  ที่แฟนพันธุ์แท้เวสป้าต่างรอคอย อาทิ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ เกียร์มือ 4 สปีด เบรกหลังที่เท้า ยางและล้ออะไหล่ที่ตัวถังด้านซ้าย โดยเวสป้า  พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 224,900 บาท สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา

เปิดตัวสาวกเวสป้าคนใหม่ล่าสุด  คุณกรรณ สวัสดิวัตน์  ณ อยุธยา ในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่รักและหลงใหลในการขับขี่เวสป้า เผยโฉมอย่างเป็นทางการด้วยสุดยอดสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสุดคลาสสิกในตำนาน “เวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น (Vespa PX Touring Edition)” ที่ครองใจสาวกเวสป้า
มาตั้งแต่ยุค 70 ให้ทุกการเดินทางเปรียบเสมือนต้องมนต์เสน่ห์แบบเหนือกาลเวลาตามแบบฉบับความเป็นแบรนด์ไอคอนของคนทั่วโลก

ในโอกาสเดียวกันนี้  ยังร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการถือกำเนิดเวสป้า รุ่น  “พีเอ็กซ์  (PX) ” ซึ่งเป็นที่นิยม  ของสาวกเวสป้าทั่วโลกอีกด้วย และตอกย้ำ  แคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี   NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU?  ภายใต้บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เป็นเอกลักษณ์ด้วยกลิ่นอายการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างแท้จริงณ โมโตเพล็กซ์ แบงค็อก

สาวกเวสป้าและนักสะสมที่ชื่นชอบเวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ เตรียมพบกับกิจกรรมความสนุกจากเวสป้าได้เร็วๆ นี้ ผม… ในฐานะหนึ่งในสาวกเวสป้าและตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางในสไตล์ที่เป็นตัวเอง และต้องมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกไร้ซึ่งกาลเวลาของรถเวสป้า พร้อมที่จะพาทุกท่านร่วมออกเดินทางและสัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างแท้จริง” คุณกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา กล่าวทิ้งท้าย

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้จากตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน
Let the journey begin!
#VESPATHAILAND
#VESPAisit4u

www.vespa.co.th  หรือ
www.facebook.com/vespathailand