VESPA เผยเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจ ตระกูล GTS รุ่นใหม่

ค้นหาความหมายของชีวิต
ในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ผ่านการเดินทางเวสป้าตระกูล GTS รุ่นใหม่

อนันดา เอเวอริงแฮม, ธาดา วาริช และ รักกิจ ควรหาเวช ชายหนุ่มผู้มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นเผยเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจ ให้ชวนค้นหาความหมายของชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนใครผ่านการเดินทาง กับเวสป้าตระกูล GTS รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมมุมมองในการใช้ชีวิตที่ไม่จำเจจาก
เป๋า วฤธ  และ อาร์ม  วรท ที่จะปลุกให้ออกไปใช้ชีวิตอย่างสนุกและสร้างสรรค์ ในงาน The Launch of Vespa’s Masterpieces, Vespa GTS and Vespa Sprint Sport Edition

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยม
สกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่”  สัญชาติอิตาเลี่ยน  แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

ร่วมเปิดเผยเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจพร้อมกระตุ้นให้ออกเดินทางไปกับเหล่าดาราและศิลปินชั้นนำผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางในรูปแบบที่หลากหลาย ให้ชวนค้นหาความหมายของชีวิตอย่างมีเอกลักษณ์ผ่านการเดินทาง นำโดย นักแสดงฝีมือดีที่สวมบทบาทมาแล้วมากมาย “อนันดา เอเวอริงแฮม” พร้อมด้วยกราฟิกดีไซเนอร์และศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดัง ที่ ณ ตอนนี้ หลายๆ มุมเมืองล้วนมีงานของเขาประดับอยู่เป็นแลนด์มาร์คไปแล้วเรียบร้อยกับผลงานของ “รักกิจ ควรหาเวช” ร่วมด้วยช่างภาพแฟชั่นที่มีงานเป็นเอกลักษณ์และชัดเจนที่สุดคนหนึ่งของวงการ “ธาดา วาริช” ที่มาร่วมเผยความเป็นตัวตนให้ออกไปใช้ชีวิตอย่างอิสระผ่านสมรรถนะที่แร็ว แรง และปลอดภัยยิ่งกว่ากับเวสป้าตระกูล GTS  รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้ง “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์  300 ABS (Vespa GTS Super 300 ABS)” และ “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 150 i-Get ABS (Vespa GTS Super 150 i-Get ABS)”พร้อมถ่ายทอดมุมมองในการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ในเมืองแบบไม่จำเจกับ“เป๋า วฤธ” และ “อาร์ม วรท”ผ่าน
“เวสป้า สปริ้นท์ 150 i-Getสปอร์ต อิดิชั่น (Vespa Sprint 150 i-Get Sport Edition)”ในงาน The Launch of Vespa’s Masterpieces, Vespa GTS and VespaSprint Sport Edition

ภายในงาน คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับการเปิดตัวรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์เวสป้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมตอบโจทย์ชายหนุ่มที่หลงใหลการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในระยะไกลและการขับขี่ในเมืองที่คล่องตัว ทั้งเวสป้าตระกูล GTS และ Vespa Sprint Sport Edition ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU? ซึ่งเป็นแคมเปญไลฟ์สไตล์ที่ต้องการส่งผ่านเอกลักษณ์และความเป็นแบรนด์ไอคอน เชื่อมโยงถึงผู้ที่รักความโดดเด่นและแตกต่างอย่างมีสไตล์ตามแบบฉบับของตัวเอง โดยแคมเปญได้เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ สาวกเวสป้าอย่างอบอุ่นวันนี้ บริษัทฯ จึงภูมิใจนำเสนอยานพาหนะสองล้อทั้งสองรุ่นที่เปี่ยมด้วยความสง่างามในทุกการเคลื่อนไหวในเมืองใหญ่และสามารถพาคุณท่องเที่ยวไปได้ทุกที่ ขับขี่ได้อย่างสนุกในทุกๆ เส้นทางที่ท้าทาย โดยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากดาราและศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย ได้แก่ “อนันดา เอเวอริงแฮม” และ “รักกิจ ควรหาเวช” ผู้เป็นตัวแทนของผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางด้วย “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 ABS” ที่มอบสมรรถนะความเร็วแรงไร้ขีดจำกัดผสานความสะดวกสบายทุกขณะขับขี่ เติมเต็มสุนทรียภาพการออกเดินทางสไตล์ทัวร์ริ่งอย่างเหนือชั้น และ “ธาดา วาริช” ที่ควงคู่มากับ “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 150 i-Get ABS”โดดเด่นด้วยความหรูหราสไตล์สปอร์ตบนความปลอดภัยเหนือระดับกับฟังก์ชั่นและฟีเจอร์หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของชายหนุ่มอย่างครบถ้วนลงตัว นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่ถือเป็นขวัญใจของสาวกเวสป้า กับ “เวสป้า สปริ้นท์ 150 i-Get สปอร์ต อิดิชั่น” มาพร้อม 2 สีใหม่พิเศษสำหรับปี 2560 ให้สัมผัสแห่งการขับขี่สไตล์สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม ร่วมถ่ายทอดการใช้ชีวิตแบบไม่จำเจโดย  “เป๋า วฤธ” และ “อาร์ม วรท”

อนันดา เอเวอริงแฮม พระเอกแถวหน้าของประเทศไทย  ที่ควบเก้าอี้มือโปรดิวเซอร์ผลิตงานละครดัง เผยถึงวิธีคิดในการใช้ชีวิตว่า “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือความสุขง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในทุกๆ วัน” นอกเหนือจากบทบาทดังกล่าวแล้ว อนันดายังเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของ boutique hotel บนถนนนิมมานเหมินทร์ อีกด้วย ดูเหมือนว่าในตัวตนของเขานั้นมีบทบาทที่หลากหลายและแตกต่างเป็นอันมากที่สามารถสร้างความสมดุลระหว่างความเป็นศิลปินและนักธุรกิจควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เขาสามารถสร้างความสมดุลในชีวิตได้ นั่นคือ “การเดินทาง” อนันดากล่าวว่า

“การที่รู้สึกถึงสายลมปะทะบนใบหน้าผมนั้น มันคือความสุขง่ายๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกและสัมผัสได้ถึงการมีชีวิตชีวา ไม่ว่าสายลมนั้นจะเป็นลมแรงด้วยความเร็วที่ 120 กม.ต่อชั่วโมงก็ตาม หรือจะเป็นสายลมเอื่อยๆ ที่ทำให้ผมละเลียดไปกับวิวจากสองข้างทางก็ตาม ล้วนสร้างอิสระและความสนุก เพราะความสุขง่ายๆ ที่เกิดขึ้นจากการเดินทางในทุกๆ ครั้งนั้นมันช่วยเป็นแรงผลักดันให้ผมลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ ที่ผมต้องทำต่อไป เพราะเรารู้ว่าชีวิตมันมีสิ่งที่สวยงามรอเราอยู่”

อีกหนึ่งคนที่ชีวิตถูกขับเคลื่อนด้วยการเดินทางเช่นกัน สำหรับ รักกิจ ควรหาเวช เจ้าของผลงานกราฟฟิตี้ด้วยเทคนิคสเตนซิล  (stencil)  ที่มีเส้นสายกราฟิกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนมีผลงานมากมายทั้งในระดับประเทศและระดับโลก บอกเล่าความหมายของชีวิตผ่านวิถีการทำงานของตนเองไว้ว่า “เมื่อได้ทำงาน 1 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ นั่นหมายความว่านี่คือโอกาสในการให้คนอื่นได้เห็นถึงตัวตนของเรา ผลงานมันจะสะท้อนถึงความตั้งใจ ความทุ่มเทของเราที่มีต่องานชิ้นนั้น ส่วนตัวแล้วผมชอบทำงานที่ท้าทาย ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และสนุกไปกับงานนั้นๆ อย่างเวลาเรา
ได้พื้นที่มาส่วนหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่มีขนาดจำกัด หรือบางพื้นที่อาจมีอุปสรรคขัดขวางขณะเราทำงาน เราจะต้องออกแบบงานเราอย่างไรเพื่อให้สุดท้ายงานสามารถไปอยู่บนพื้นที่นั้นได้อย่างกลมกลืน  และเป็นที่จดจำ    ” จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นบนหนทางสตรีทอาร์ทของรักกิจ ทำให้เขาต้องเดินทางไปสร้างสรรค์ผลงานในหลายๆ เมืองทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ “ผมรู้สึกแฮปปี้มาก  ที่ผลงานของผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่ง ของการท่องเที่ยว นำพาให้คนได้ออกไปสนุกในพื้นที่นั้นๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบสตรีทอาร์ทฝีมือคนไทย” สำหรับตัวตนของรักกิจที่มักจะได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวที่รายล้อมตัวเขานั้น “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 ABS” คือตัวเลือกที่ลงตัวและเหมาะสมที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ของผู้รักการเดินทางเพื่อออกไปค้นหาแรงบันดาลใจ

ทั้งคู่กล่าวตรงกันว่า  ถ้าจะต้องเลือกออกเดินทางท่องเที่ยว เวสป้า จีทีเอส
ซูเปอร์ 300 ABS คือพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ที่ตอบทุกความต้องการที่สุดด้วยดีไซน์ที่หรูหรา ให้ลุคที่ดูดุดัน แข็งแกร่ง และยังคงความเท่คลาสสิคในแบบฉบับของเวสป้า อีกทั้งยังให้สมรรถนะที่เร็ว แรง ตอบสนองได้ดั่งใจปรารถนาอีกด้วย โดยรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 ABS มีให้เลือก 3 สี วางจำหน่ายในราคาพิเศษช่วงแนะนำ ได้แก่

สีขาว (Montebianco) ราคา195,900บาท
สีเขียวเมทัลลิก(Verde Speranza) ราคา 195,900 บาท
สีเทาด้าน (GrigioTitanio) ในราคา 196,900 บาท

สำหรับ จอร์จ-ธาดา วาริช ช่างภาพแฟชั่นชั่นนำของเมืองไทย คืออีกหนึ่งคนที่สร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่จดจำด้วยการทำงานที่ไร้กรอบ แหกกฎของการถ่ายแฟชั่นบนหน้านิตยสารในประเทศไทยด้วยสไตล์ที่เน้นการดึงตัวตนของนางแบบและถ่ายทอดเสน่ห์ของบรรยากาศของสถานที่ถ่ายทำนั้นๆ ออกมาอย่างละเอียดที่สุด และสวยที่สุดในแบบที่เป็น ทำให้เกิดกระแสของการถ่ายภาพแฟชั่นในแนวเดียวกันนี้ในบ้านเราอยู่ช่วงหนึ่งโดยภาพส่วนใหญ่ของธาดาจะแสดงอารมณ์ความดิบ ไม่เน้นความสมบูรณ์แบบ ถือเป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดขายของช่างภาพมากประสบการณ์ผู้นี้ ธาดาเปิดเผยถึงการทำงานของเขาว่า “ภาพถ่ายของผมมันก็จะสะท้อนการใช้ชีวิตหรือประสบการณ์ในช่วงนั้นๆ ของผม เช่น “ถ้าผมต้องการหาสถานที่แปลกใหม่ในกรุงเทพเพื่อถ่ายงาน ผมก็จะเฟ้นหาสถานที่แปลกใหม่ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของชิ้นงาน งานผมมันก็จะสื่ออารมณ์ออกมาตามสิ่งที่ผมพบเจอ สำหรับผมแล้ว การเดินทางใช้ชีวิตในเมืองมันช่วยทำให้เราเข้าใจและเข้าถึงว่าความคล่องตัวนั้นสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน“ดังนั้นเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 150 i-Get ABS คือตัวเลือกที่ลงตัวและเหมาะสมที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ในเมืองและให้ความปลอดภัย มั่นใจ ในทุกๆการเดินทางด้วยระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง โดยมีให้เลือก 3 สี จำหน่ายในราคาพิเศษช่วงแนะนำ ได้แก่ สีขาว
(Montebianco) ราคา 149,900 บาท
สีดำ (Nero Vulcano) ราคา 149,900 บาท
สีแดงด้าน (Rosso Matt) ราคา 150,900 บาท

สำหรับในรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์เวสป้าตระกูล GTS ทั้งสองรุ่นนี้ ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ล้วนมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าและยังเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับเวสป้าตระกูลนี้ ได้แก่ ระบบ Tilt Sensor ตรวจจับการเอียงของรถเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ รีโมทคอนโทรลสำหรับเปิดเบาะนั่ง และระบบค้นหาตัวรถ (Bike Finder) ซึ่งอำนวยความสะดวกในการค้นหาเวสป้า GTS  ท่ามกลางรถมากมายในลานจอดรถ นอกจากนี้  ยังมีระบบ USB Port ซึ่งสามารถชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงชุดไฟ LED  (LED Daytime Running Light) เพิ่มความโดดเด่นขณะขับขี่ในเวลากลางวัน และล้ำสมัยด้วยชุดหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาดกะทัดรัดที่ระบุข้อมูลที่เกี่ยวกับการเดินทางอันครบถ้วน อาทิ มาตรวัดความเร็ว แผงควบคุมดิจิทัลแบบมัลติฟังก์ชั่น ล้อมรอบด้วยไฟเตือนมากถึง 6 สัญญาณ และแสดงปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมมาตรวัดระยะทาง 2 ตัว
ในงานนี้ยังได้ร่วมพูดคุยไปกับอีกสองหนุ่มเซเลบริตี้ ได้แก่ “เป๋า วฤธ”และดาราหนุ่มหน้าใหม่มากความสามารถ “อาร์ม วรท” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตโดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของทั้งคู่ในการสร้างสีสันให้ชีวิตเป็นประจำ เพื่อให้ทุกๆ นาทีไม่จำเจอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ การสังเกตุสิ่งต่างๆ รอบตัว คิดบวกในทุกๆ เรื่องเพื่อให้เป็นพลังบวกทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง รวมถึงการออกไปทำในสิ่งที่ตัวเองรักและหลงใหล เช่น กีฬาฟุตบอล ล้วนแล้วอาจจะเป็นหนทางของการดำเนินชีวิตของใครหลายๆ คน โดยทั้งสองหนุ่มต่างได้จุดประกายไฟแห่งแรงบันดาลใจ ปลุกให้ทุกๆ คนได้ออกไปใช้ชีวิตแบบไร้ขอบเขตผ่านเวสป้า สปริ้นท์
150i-Get สปอร์ต อิดิชั่น ให้สัมผัสอันโดดเด่นและแตกต่างด้วยเฉดสีพิเศษ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเงินด้าน (GialloGelosia) และสีเหลืองด้าน (ArgentoOpaco) ให้ทุกๆ การเคลื่อนไหวมีสไตล์ เท่ และไม่เหมือนใคร และยังโดดเด่น  ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษสีดำด้าน ทั้งล้อแม็กหน้า-หลัง กระจกมองข้าง กรอบหน้าตัวรถ ที่ครอบท่อไอเสีย และตะแกรงหลัง พร้อมชิวด์สั้นสีสโม้ค เสริมความเร้าใจสไตล์สปอร์ตสุดแอคทีฟด้วยลายเส้นกราฟิกด้านข้างตัวถังรถ พร้อมรับชุดของพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ อาทิ หมวกกันน็อคสีเข้าคู่กับตัวรถ หมวกแก๊ป ผ้าเช็ดหน้า และกระเป๋า URFACE เสริมการเดินทางให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น โดยเวสป้า สปริ้นท์ 150i-Get สปอร์ต อิดิชั่น จำหน่ายในราคา 132,900 บาท

สำหรับเวสป้าตระกูล GTS ทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ และ
เวสป้าสปริ้นท์ 150 i-Get สปอร์ต อิดิชั่น

เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่  เดือนสิงหาคม 2560
ที่ตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทุกสาขาทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ที่
www.vespa.co.thหรือ www.facebook.com/vespathailand
และอินสตาแกรม @vespathailand

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท มัลดีฟเมืองไทย เปิดตัวที่พักโซนใหม่

The Day of Adventure
@ Lake Heaven Resort

ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่และสุดประทับใจ กับงาน รับลมริมเขื่อนที่ เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort)สถานที่พักผ่อนตากอากาศที่บรรยากาศดีในทุกฤดู ด้วยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ  ไม่นานนักได้อารมณ์  โรแมนติกนิดๆ

Lake Heaven Resort จัดงานขอบคุณสื่อมวลชน ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2560  ทีมงาน Lake Heaven  สร้างสรรค์ความบันเทิงหลากหลายภายใต้บรรยากาศโลกแห่งความสุขสีฟ้า ประชันชุดราตรีสีฟ้า กับปาร์ตี้โฟมสุดสุดชิค   ในธีม   “Thank Press 2017…  BLUE  PARTY”
ของ  โรงแรม Lake Heaven Resort แบบโซนบนฝั่งที่พักสไตล์มัลดีฟ

เมื่อทีมสื่อมวลชน มาถึงทางเข้าที่พัก เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort) ได้ชมบรรยากาศที่เปรียบเสมือนมัลดีฟส์ในเมืองไทย มีทุ่นแบบมาตรฐานที่ช่วยให้ เรือนแพลอยบนผิวน้ำ  ได้อย่างมั่นคง แข็งแรง  และปลอดภัยมาก ที่พักทุกห้อง สามารถใช้ไฟฟ้าได้ ตลอด 24 ชั่วโมง มีน้ำสะอาดให้เราใช้ได้ตลอดเวลา

ครั้งนี้เราพักกันที่ ที่นี่  โรงแรมแบบโซนบนฝั่ง ที่พักสไตล์มัลดีฟ ในสวนใกล้ชิดติดธรรมชาติ กับความทรงจำ 2 วัน 1 คืน กับความลับน้อยที่เราคอยไปพบท่ามกลางโค้งน้ำที่สวยที่สุด ม่านหมอก แมกไม้ สายลม และ ขุนเขา ดีจังได้มาสัมผัสมหัศจรรย์ความสวยงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ สะดวกสบายด้วยห้องพักเเบบบังกะโลที่เเยกเป็นหลังๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด พร้อมให้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ด้วยพื้นที่แบบเนินสูง ต่ำสลับกันไปมา มองเห็นวิวเขื่อนศรีนครินทร์  ต้นไม้ และหน้าผา ภูเขาอันสวยงาม ในแต่ละห้องประกอบไปด้วย 1 เตียงใหญ่ หรือในแบบ  2 เตียงเล็ก อีกทั้งแต่ละห้องยังมีห้องน้ำในตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้  วยชุดสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้บริการอย่างครบครันเหมาะสำหรับการพักผ่อน แบบส่วนตัว หรือการพักผ่อนแบบหมู่คณะ ซึ่งทางโซนใหม่ของรีสอร์ท  มีสระว่ายน้ำแล้ว  สำหรับบางท่านที่ไม่กล้าลงเล่นน้ำในเขื่อน

โรงแรมที่มีสวนน้ำ โดยแบ่งให้เลือกถึง 3 แบบ การตกแต่งห้องพักเป็นหลังๆ ในรูปแบบวิลล่า เหมือนประเทศมัลดีฟดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบๆ ที่พัก และวิวภูเขา ล้อมรอบด้วยผืนน้ำกว้าง เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้เรารู้สึกราวกับมาพักที่มัลดีฟจริงๆ เลยค่ะ  มีโซนพักผ่อนที่เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายภาพสวยๆ ถูกออกแบบมาได้อย่างโดดเด่นและสง่างาม ใครมาเห็นต้องอดใจไม่ไหว หยิบกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์แบบไม่ยั้ง

ได้รับการรังสรรค์แนวคิดในการตกแต่งจากธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว และมีห้องประชุมสัมนาแบบสมบูรณ์แบบ  สำหรับหลากหลายกิจกรรมที่ต้องการ การเดินทางมาพักผ่อน และยังได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมสันทนาการที่ทางรีสอร์ทสไตล์มัลดีฟส์เมืองไทย รับรองสวยและบรรยากาศดีจนไม่อยากกลับเลย

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท ประกอบไปด้วยที่พัก 2 โซน ด้วยกัน  คือ

โซนบนฝั่ง ที่พักสไตล์มัลดีฟ ในสวนใกล้ชิดธรรมชาติ
เล่นกิจกรรมเหนื่อยทั้งวัน เรามานอนพักผ่อนกันให้เต็มที่ พร้อมสระว่ายน้ำบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในห้องพัก ห้องพักมี 2 แบบ บ้านราชาวดี(ทรงเหลี่ยม) และบ้านราชพฤกษ์(ทรงกลม) เดินลงไปพบกับ

โซนในน้ำ ที่พักสไตล์มัลดีฟ บนน้ำ
พร้อมเครื่องเล่นและกิจกรรมมากมาย สามารถโดดเล่นน้ำหน้าบ้านตัวเองได้เลย ถ้าจะนั่งเรือข้าม 5 นาที ไปก็จะเป็น เฮฟเว่น เบย์ รีสอร์ท

เฮฟเว่น เบย์ รีสอร์ท ที่พักบนน้ำใกล้ชิดธรรมชาติิอย่างแท้จริง
ด้านหน้าติดแผ่นน้ำด้านหลังติดภูเขา พร้อมเครื่องเล่นมากมายไม่แพ้ฝั่ง เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท บ้านพักเป็นแบบพัดลมมทั้งหมด สงบเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสุดเหวี่ยง!กับเครื่องเล่น Water Park ภูเขาจำลองสูง 5 เมตร สไลเดอร์น้ำ จักรยานน้ำ เจ๊ตสกี   เพิ่มเข้ามาอีก 2 ชิ้น   ได้แก่ บิ๊กสไลเดอร์อและเขาวงกตน้ำ เรียกว่าคุณ คุณพลาดไม่ได้ที่จะมาลองกันสักตั้งเลยทีเดียว ขอบอกว่ามันส์สุโค่ยกันเลยทีเดียว

มาชมบรรยากาศ Thanks Press At Lake Heaven Resort
มัลดีฟ  เมืองไทย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี  โดยประธานกรรมการบริหาร ในเครือ ฟังก์ชั่น กรุ๊ป พร้อมคณะผู้บริหารในกลุ่มฟังก์ชั่น กรุ๊ป คุณวิกร ภูวพัชร์ เชิญคณะนักข่าวลงพื้นที่สัมผัสบรรยากาศพร้อมกันในงาน Thanks Press At Lake Heaven Resort  มัลดีฟ  เมืองไทย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์ ที่พักโซนใหม่ของรีสอร์ทฯ ที่มีความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำ อ่างจากุซซี่ อาหาร และกิจกรรมมากมาย พร้อมเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ 2 ชิ้นขนาดใหญ่ และปลายปีนี้เตรียมพบกับ คอนเสิร์ตโอบสายน้ำกอดขุนเขาปี 2 กับ 4 ศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทย อ๊อฟ ปองศักดิ์ บอย Peacemaker ป้าง นครินทร์และ Moderndog

แพเปียก นักท่องเที่ยวทุกท่านได่ชมวิวทะเลสาปรอบเกาะเหนือเขื่อนศรีนครินทร์

 

คุณวิกร ภูวพัชร์ ประธานกรรมการบริหาร ในเครือ ฟังก์ชั่น กรุ๊ป

แดดร่ม ลมเย็น อยากออกไปเล่นเป็นธรรมดา ทีมงาน Lake Heaven
จัดกิจกรรมสนุกๆ สุดพิเศษที่ Water Par สื่อมวลชนได้ตะลุย   ผ่าด่านสุดมันส์ กับเครื่องเล่นต่างๆ ภายในรีสอร์ท ถือว่าหลากหลายนนี้เล่นกิจกรรมเหนื่อยได้ตลอดทั้งวัน

จุดเด่นของที่นี่คือ สไลเดอร์ สูงขนาด 12 เมตร/15 เมตร สำหรับกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด ที่ไม่ใช้น้ำมัน ทางรีสอร์ทให้เล่นฟรี! เล่นได้ มั่นใจ ปลอดภัย มีทีมงานดูแลด้านความปลอดให้ตลอดทริป

อาหารค่ำคืนนี้  พร้อมปาร์ตี้โฟมจัดเต็ม ธีม   “Thank Press 2017  BLUE  PARTY”   พร้อมแจกของรางวัลมากมายจากเลค เฮฟเว้น รีสอร์ท   และ เครื่องสำอาง ISE Cosmetic (อิเซ่ คอสเมติกส์) พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กันน้ำได้จริง! ลองแล้ว…เค้าออกแบบมาสำหรับสาวๆ ที่ชอบกีฬาทางน้ำ

ขอบคุณเรามานอนพักผ่อนกันให้เต็มที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort) อากาศบริสุทธิ์ สูดเข้าเต็มปอด มีกิจกรรมทางน้ำสนุกๆ ให้เล่นเพื่อผ่อนคลายสมอง ส่วนเรื่องอาหารก็มีให้รับประทานทุกมื้อ เยอะมาก  หลากหลายเมนู  ตื่นเช้าคณะสื่อมวลชนร่วมกันใส่บาตรทำบุญ


ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ สไลเดอร์ สูง 12 เมตร สำหรับกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด Lake Heaven Resort ให้เล่นฟรี!
Water Park ลุยกัน ผ่าด่านสุดมันส์

มาชม  2 เครื่องเล่นใหม่  บิ๊กสไลเดอร์  และ เขาวงกตน้ำพร้อมเส้นทางท่องเที่ยวผจญภัยของรถ ATV และ เรือลาก Banana Boat  ที่จะพาคุณลุยไปสัมผัสสนุกสุดเหวี่ยง กับอีกด้านหนึ่งของชีวิต  ส่วนกิจกรรมอื่นๆ  ที่มีในรีสอร์ท สไตล์มัลดีฟได้แก่

ราคารถ ATV 250 บาท / 1 รอบ
Jet Ski 1,600 บาท / ชั่วโมง
เรือ Mini Boat 800 บาท/ ชั่วโมง
เรือลาก Banana Boat, โดนัท ( เรือ AB ) 1,600 บาท / ชั่วโมง
ขี่ม้า 200 บาท / รอบ
นวดแผนไทย 450 บาท/ 2 ชั่วโมง
จักรยาน  60 บาท / ชั่วโมง
คาราโอเกะ คอมพิวเตอร์  2,500 บาท
แคมป์ไฟสุดเกร์  1,000  บาท

ความสุขแทนคำขอบคุณจากใจ  สำหรับมิตรภาพของสื่อมวลชน  ที่มอบให้กับ เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort)  เป็นความทรงจำที่ไม่มีวัน
ลบเลื่อนจากใจ

พลาดไม่ได้เลยนะ เครื่องเล่นภายในรีสอร์ท ถือว่าหลากหลาย กับรีสอร์ทสวย ที่พักดีดี เครื่องเล่นสุโค่ย

ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่และสุดประทับใจ
ขอขอบคุณผู้บริหาร และ ทีมงาน Lake Heaven Resort
และทีมงาน เครื่องสำอาง ISE Cosmetic (อิเซ่ คอสเมติกส์)
ที่ให้การดูแลสื่อมวลชน ตลอดทริปแบบยิ้มกว้างกันทุกท่าน

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก สื่อมวลชนทุกท่าน

ติดต่อสอบถาม: ติดตามกิจกรรมดีดี
เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
โทร. 08-4387-6771, 08-4387-6773
www.lakeheaven.com

6 ชิ้นติดอันดับ เมคอัพกันน้ำพร้อมลุย

อีเซ่ (ISE) แบรนด์ไทยน้องใหม่จัดเต็ม
ที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท แอนด์ ปาร์คเลค 

2 วันกับการพักผ่อนที่ เลค เฮฟเว่น มัลดีฟแห่งแรกของเมืองไทย รีสอร์ท ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยที่สุด  ดีที่สุดท่ามกลางผืนน้ำ ขุนเขา และท้องฟ้า สุดมันส์ท่ามกลางเขื่อนศรีนครินทร์ สถานที่ซึ่งรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยว วันนี้มาตะลุย Lake heaven resort จ.กาญจนบุรี   วิวด้านหน้าเห็นเป็นเครื่องเล่นนานาชนิด ที่คอยล่อตา  ล่อใจ  คอยให้เราเข้าไปสัมผัส สำหรับเพื่อนๆ  ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ท่ามกลางสายน้ำ แสดแดด ขุนเขา ถ้าคุณเลือก
มาที่นี่พักผ่อนที่นี่ รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ

เริ่มอยากจะเจอท้องฟ้าแบบนี้ทุกทริปเลย  ร้อนแบบนี้ ฤดูแห่งการเล่นน้ำมาแล้ว แต่หนุ่มๆ สาวๆ ฟังทางนี้นะ !  ผิวหน้าบอบบางเกินกว่าจะตากแดดแรงได้ สาวๆ อย่างเราก็ต้องหาตัวช่วยโดยด่วน

เมื่อมาถึงก็ลงเล่นน้ำกลางแดด จนถึงแทบจะ คลานกันลงมา ก่อนออกมาเล่นน้ำ ได้ทดสอบการแต่งหน้า เชื่อได้เลยว่าครีมกันแดดปกป้องแดดขั้นเทพ เป็นครีมกันแดดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเกินคุ้ม ลองดูว่ากันแดดแบบไหนที่เหมาะกับการเล่นน้ำ อีเซ่ (ISE) แบรนด์ของไทย ซึ่งในตอนนี้มีจำหน่ายแล้ว แต่ก่อนหน้านี้หลายคนบอกว่าหาซื้อยากพอสมควร

อากาศไม่ร้อนมากแต่แดดแรงเปรี้ยงๆ อสจจะส่งผลหน้าหมองคล้ำได้ และ หนีไม่พ้นปัญหา หน้ามันเยิ้มตามมาอย่างแน่นอน ไม่ต้องกลัวค่ะ  สาวๆ เรามีไอเท็มเครื่องสำอางคุณภาพดีที่ช่วยปกป้อง พร้อมคุณสมบัติดี๊ดี คือ  ติดทน กันเหงื่อ กันน้ำ มาแนะนำกันค่ะ ต่อให้ร้อนเหงื่อไหลท่วมตัว หรือจะลงไปเล่นน้ำที่ท่องเที่ยวแค่ไหน ใช้แล้ว หน้าคองคุณก็ยังโดดเด้ง สวยเป๊ะกับกิจกรรมทางน้ำตลอดวัน

คุณณัฐรมณ์ ประเสริฐชัยศิริ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัฑณ์

วันนี้ Toptotravel  พักเลค เฮฟเว่น บนฝั่ง มัลดีฟแห่งแรกของเมืองไทย และได้รับเกียรติจาก นูดิบรานซ์   Nudibranch ผลิตภัณฑ์เครื่องีสำอางกันน้ำ ที่เหนือกว่าอัญมณีสีสันแห่งท้องทะเล ที่มีจุดเด่นเป็นเครื่องสำอางกันน้ำอย่างแท้จริงจาก อีเซ่ คอสเมติก ความงามที่ไม่มีวันลบเลือน

แนะนำแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่  เน้นงานวอเตอร์พรูฟลงน้ำ ลงทะเล เรียกได้ว่า นวัตกรรมเครื่องสำอาง ที่ช่วยปกป้องให้สวยกระจ่างใสได้ยาวนาน อากาศร้อนๆ แบบนี้ ถ้าไม่อยากให้ผิวหน้าโดนทำร้าย กันแดดเป็นพระเอกตัวช่วยสำคัญ ที่จะมาช่วยปกป้องใบหน้าเราจากรังสี UV ได้ดีค่ะ


เหตุผลดีๆ ทำไมต้องเลือก อีเซ่ (ISE) เพื่อความสวยเป๊ะมากๆ  แบบไม่กลัวน้ำและมาดูความพิเศษของ อีเซ่ (ISE) แบรนด์ไทย ที่มีรองพื้นสูตรน้ำเนื้อบางเบาไม่หนักหน้า สีเบจกลืนกับทุกสีผิวทันที ปกปิดดีเยี่ยม แต่งหน้าติดทนตลอดวัน ที่จะมาช่วยเนรมิตรผิวหน้า ให้แลดูสวย ใสเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ทิ้งคราบ ช่วยอำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้า ให้ดูจางลง รูขุมขนดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ กระจ่างใสยาวนานตลอดวัน มอบสัมผัสที่นุ่มลื่น และปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ


ลองทั้งที่  จัดเต็มสะเลย เริ่มด้วย ด้วย ISE Princess Pressed Powder ที่มี ควบคุมความมั นและ กันแดด   Nudibranch Foundation SPF15 PA++ แป้งเพรสรุ่น ซิลกี้ สมูท รับรองความเบาจริงๆ และสุดพิเศษด้วยไมโครบีดส์ในเนื้อแป้ง ที่ไม่ทำให้หน้าแห้ง ชอบตรงที่แพคเกจเรียบหรูเก๋ไก๋ ดีไซน์จากญี่ปุ่น แป้งโปร่งแสงเนื้อเนียนละเอียด ตลับนี้จะช่วยให้ใบหน้าเราเปล่งปลั่งกระจ่างใสตลอดวัน แถมช่วยควบคุมความมันได้อย่างดีเลิศ ให้หน้าเราเป๊ะ เติมคิ้วด้วย Nudibranch Brow Professional Palette แปลกดีที่ปัดคิ้วเนื้อเจลสูตรเฉพาะ ที่ทนต่อน้ำและเหงี่อ ทำให้สีสวยติดทนนาน ต่อด้วย Nudibranch Smothing Eyeshadow อายแชโดว์แบบแท่งที่มีเนื้อสัมผัสเนียน นุ่ม ลื่น ตอบโจทย์ความสวยแบบอยู่หมะด ตามด้วยอายไลน์เนอร์ชนิดเจลพร้อพู่กันสูตรพัฒนามาใหม่ล่าสุด Nudibranch Long-Wear Gel Eye Liner แห้งเร็วไม่เลอะเป้อน สูตรกันน้ำ เรียบเนียนอย่างไร้ที่ติให้ ปิดท้ายด้วย Nudibranch Longlasting Lipgloss สุดยอดเนื้อแมตต์ ให้สำผัสเบาสบายแต่คงสีแบบเข้มๆ กับผิวหน้าตลอดวันเล่นน้ำไป 2 ชั่วโมง ตัวเปื่อยแต่หน้าเป๊ะ หน้าแน่นไม่มีหลุดเลยค่ะ ชอบตรงที่กันน้ำจืดได้ดี จะเล่นน้ำทะเล หรือสระน้ำก็ไม่กลัวค่ะ

ทดสอบการกันน้ำ เมื่อทาครีมกันแดดลงบนผิว ต่อให้ร้อนเหงื่อไหลท่วมตัว หรือลงไปเล่นน้ำแค่ไหนหน้าคองคุณก็ยังโดดเด้ง สวยเป๊ะ

คอสก้า คอสเมติก จำกัด เปิดตัวแบรนด์ อีเซ่  (ISE)  อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยโฉม New Collection  สินค้าใหม่ล่าสุด  Nudibranch อัญมณีสีสันแห่งท้องทะเล ณ. เลค เฮฟเว่น มัลดีฟแห่งแรกของเมืองไทย

บริษัท คอสก้า คอสเมติก จำกัด หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านเครื่องสำอาง  ภายใต้แบรนด์  ISE Cosmetic   เปิดตัวแบรนด์ อีเซ่  (ISE) อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยโฉม New Collection สินค้าใหม่ล่าสุด Nudibranch อัญมณีสีสันแห่งท้องทะเลอีกขั้นของ นวัตกรรม กับประสิทธิภาพใหม่ของเครื่องสำอาง ISE
ที่ช่วยปกป้องให้คุณสาวๆ สวยกระจ่างใสได้ ยาวนานเหนือกว่าทุก สถานการณ์โดยจัดมาในชุด Nudibranch Extreme Waterproofที่มีทั้งหมด 6 Collection มาให้สาวๆ ได้เลือกประกอบไปด้วย

1.Nudibranch Brow Professional
ชุดที่ปัดคิ้วเนื้อเจล สูตรเฉพาะที่ทนต่อน้ำและเหงื่อ ให้สีที่สวยติดทนนานระหว่างวัน กรูมขนคิ้วสวยจัดทรงได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ ให้คุณได้เลือกมากกว่า 3 เฉดสีเพื่อความกลมกลืนหรือแต่งแต้มได้หลากสีสันอย่างที่ต้องการในราคา 495 บาท

2. Nudibranch Long-Wear GelEyeLiner
อายไลน์เนอร์ชนิดเจลพร้อมพู่กันสูตรพัฒนาใหม่ สุดยอดของความคมเข้มยาวนาน เพื่อเสน่ห์ดวงตาคมเข้มยาวนานยิ่งกว่า เขียนได้คมชัดเรียบเนียน แห้งเร็ว ไม่เลอะเปื้อนด้วยสูตรกันน้ำ กันเหงื่อและความมันบนใบหน้า ติดทนยาวนานตลอดวันราคา 295 บาท

3.NudibranchFoundation SPF15++
รองพื้นผสมกันแดด SPF15++ ขอแนะนำ รุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการคุมมัน กันน้ำ ซึมเร็ว ทาก่อนแต่งหน้า ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้น เป็นครีมกันแดดราคาถูกขับต้องได่ คุณภาพดี กันแดดและกันน้ำด้วยสุดยอด นวัตกรรมใหม่ที่สามารถให้การปกปิดได้อย่างแนบเนียน ด้วยระดับการปกปิดแบบปานกลางถึงระดับสูงสุดได้อย่างไร้ที่ติ ติดทนนานระหว่างวันและทนต่อความชื้นจากเหงื่อและน้ำ ไม่เลอะเปรอะเปื้อน และยังช่วยคงความชุ่มชื่นของผิวให้นุ่มนวลราคา590 บาท

4. Nudibranch Longlasting ipgloss
สุดยอดนวัตกรรมสำหรับผู้ตกหลุมรัก เนื้อแมตต์ ให้สัมผัสแห้งเบาสบายแต่ยังคงเนื้อสีแบบเต็มเข้มข้น ด้วยลิปสติกหลากเฉดสี ให้สีชัดจัดแน่น ไม่ว่าจะเลือกสีโทนไหน ก็จัดจ้านหรือดรามาติคได้หลากอารมณ์ ทุกเฉดให้เนื้อสีที่ฉ่ำแน่นในรูปแบบของลิควิดที่ให้สัมผัสนุ่มลื่น แห้งเนียนแนบไปกับเรียวปากได้อย่างยาวนาน ราคา 320 บาท

5.NudibranchSmoothing Eyeshadow
อายแชโดว์แบบแท่งที่มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มลื่น ให้ความสวยของสีละเอียดขั้นสูงในการลงสีเพียงครั้งเดียว มาในรูปแบบใหม่ Jumbo Pencil ที่ใช้ได้อย่างง่ายดาย  และสามารถใช้ได้หลากหลายความต้องการ ไม่ว่าคุณจะต้องการอายแชร์ฟุ้งหนา หรือจะเป็นอายลายเนอร์แบบเก๋ๆ ก็ตอบโจทย์ทุกความสวยได้อยู่หมัด ให้ความสวยคงทนยาวนาน ราคา 320 บาท

6. Nudibranch Cheek & Lip
เมคอัพเนื้อครีมหนึ่งเดียวที่แต่งแต้มได้ทั้งพวงแก้มและริมฝีปาก  ที่ให้สีสวยเนื้อนุ่มเกลี่ยง่ายและติดทนนานระหว่างวัน ด้วยความละเอียดของเนื้อแป้งที่มากขึ้น จึงให้สีที่สวยชัดติดทนและบางเบา ดูไม่หนักจนเกินไป ตอบโจทย์การแต่งหน้าได้หลากหลาย ให้ผลลัพธ์ที่เนียนสวย ไปกับผิวได้อย่างลงตัว ราคา 295 บาท

ลองสักครั้งจะติดใจในคุณภาพ อีเซ่ (ISE) แบรนด์ไทยที่เน้นคอนเซป… ไม่ต้องเชื่อที่รีวิวทั้งหมดอยากให้เพื่อนๆตัดสินใจและลองสินค้าด้วยตัวเอง อยากแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ

อีกหนึ่งไอเท็มที่ช่วยให้สาวๆ ดูดีได้ง่าย และเร็วได้ในพริบตา
เชื่อว่ายังไงก็น่าจะคุ้มค่ากับการจ่ายเงินไปในการซื้อ NUDIBRANCH อัญมณีสีสันแห่งท้องทะเลพร้อมสัมผัสความสวยกระจ่างใสได้ยาวนานเหนือกว่าทุกสถานการณ์ แวะลองได้แล้ววันนี้ที่ร้าน
Eveandboy , Stardust , Beauty Market

ทุกสาขาและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ ติดตามรับข้อมูลพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.vcoska.com

ติดตาม Fanpage  พร้อมร่วมกิจกรรมได้ที่ https://www.facebook.com/ISE.Cosmetics

ขอบคุณภาพสวยๆ กลุ่มช่างภาพสื่อมวลชนงาน
Thanks Press At Lake Heaven Resort

3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 Gether Run & Ride for Life

การรวมตัวครั้งแรกและครั้งสำคัญ
ของ 3 สถาบันการแพทย์

จัดงานพิธีเปิดโครงการ 3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run&Ride for Life  ด้วยการรวมตัวครั้งแรกและครั้งสำคัญของ 3 สถาบันการแพทย์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,  คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อ
ผู้ป่วยยากไร้ใน 3 ภูมิภาค ซึ่งกิจกรรมทั้ง 7 วัน  รวมระยะทางกว่า 2,700 กิโลเมตร  เพื่อรณรงค์ให้ประชาชน  เห็นความสำคัญของการวิ่ง หรือ  ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และได้ร่วมกันทำความดี ด้วยการรณรงค์รับบริจาคเงินตลอดเส้นทาง เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปใช้สำหรับผู้ป่วยในแต่ละภูมิภาค

โครงการ “3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run & Ride for Life”
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2560

โดยตัวแทนของทั้ง 3 สถาบันจะเริ่มต้นออกวิ่งพร้อมกัน ในวันที่ 22 กรกฏาคม 2560 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แล้วมุ่งหน้าสู่ 3 สถาบันการแพทย์ใน 3 ภูมิภาคของประเทศไทย โดยสายเหนือมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สายตะวันออกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสายใต้มุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

โดยกำหนดสิ้นสุดกิจกรรม  ในวันที่ 28 กรกฏาคม 2560 ที่สถาบันแพทยศาสตร์ในจังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น

รศ.นพ. พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

รศ.นพ. พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ป่วยโรคยากและซับซ้อน ใน 14 จังหวัดภาคใต้ มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องใช้ทุนทรัพย์ในการรักษาที่ค่อนข้างสูง จึงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาการรักษาตัว “อาคารเย็นศิระ” จึงเกิดขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ซึ่งตอนนี้อาคารเย็นศิระ 1 – 2 รองรับผู้ป่วยและครอบครัวได้ประมาณ วันละ 500 คน แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นเกินที่ศักยภาพของทั้ง 2 อาคารจะรับได้ เงินบริจาคจากโครงการที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ทางคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงตั้งใจสมทบร่วมสร้าง อาคารเย็นศิระ 3” ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะรอรับผู้ป่วยและครอบครัวได้มากถึง 500 คนต่อวัน “เย็นศิระ” อาจไม่ใช่ที่ที่สะดวกสบาย แต่เป็นสถานที่พักพิง เป็นเหมือนบ้านอีกหลังที่พร้อมจะพยาบาลผู้ป่วยและครอบครัวด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ให้สมกับคำว่า ที่นี่ คือ “ที่ฝากชีวิตของคนในภาคใต้”

ศ.นพ. บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทางด้าน  ศ.นพ. บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เงินบริจาคที่ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะได้รับในครั้งนี้ ทางเราจะนำไปสร้างศูนย์ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้ายของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Palliative Care Center) เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งและโรคเรื้อรัง ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทั้งจัดตั้งโครงการธนาคารอุปกรณ์ สำหรับให้ผู้ป่วยที่ต้องดูแลแบบประคับประคองหรือโรงพยาบาลในเขต 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้มีโอกาสยืมไปใช้ในการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวในด้านค่าใช้จ่ายการเดินทางนำผู้ป่วยกลับไปดูแลระยะท้ายของชีวิตที่บ้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตด้านอื่น ๆ และจัดการฝึกอบรมพัฒนาแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครชุมชน ให้มีความรู้และทักษะในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้าย ซึ่งจะนำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยและครอบครัวต่อไป


รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการจัดโครงการนี้ว่า การร่วมมือของ 3 สถาบันในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะพัฒนาวงการแพทย์ในเขตภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งใจนำเงินบริจาคจากโครงการไปใช้พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของระบบบริการทางการแพทย์ให้สามารถดูแลผู้ป่วยที่มีความยุ่งยากซับซ้อนได้ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมของชาติได้ อีกทั้งจะพัฒนาเครือข่ายผู้ดูแลผู้ป่วย ทางทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกรและทีมวิชาชีพให้มีศักยภาพที่สูงขึ้นมีความสามารถดูแลผู้ป่วยในทุกระดับได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนอีกด้วย

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดงานพิธีเปิดโครงการ “3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run&Ride for Life” งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฏาคม 2560

สำหรับผู้ที่สนใจ ร่วมบริจาคได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนวิ่ง/ปั่นมุ่งหน้าสู่จุดหมาย 3 ภูมิภาค และ สามารถบริจาคได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 641-3-009595
ชื่อบัญชี : 3 สถาบันแพทย์
วิ่ง- ปั่น ปันน้ำใจ เพื่อผู้ยากไร้ / 3 gether: Run & Ride for Life

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของโครงการ
“3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether: Run & Ride for Life”
https://www.facebook.com/3getherRunRideforLife

ใครคือสุดยอดเชฟชุมชนประจำจังหวัดระยอง

ลุ้นแทบขาดใจ…10 เมนูอร่อยนี้ที่ระยอง
BY เชฟชุมพล แจ้งไพร
กับสุดยอดวัตถุดิบหลักประจำจังหวัดระยอง

ใครคือสุดยอดเชฟชุมชนประจำจังหวัดระยอง สายนักชิม สายซีฟู้ด สายนักเดินทาง สายไหนๆ ต้องไม่พลาด ลองสักครั้งหลงรักอาหารระยองแน่นอน

งานประกาศผลและมอบรางวัลแด่ผู้ชนะเลิศในโครงการ “เชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง” เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560  ภายใต้โครงการ  เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน ณ ร้าน Heaven Bangkok อาคาร  Zen World กรุงเทพมหานคร

ไปเที่ยวระยองแล้วนึกถึงร้านอาหารอร่อยๆ ขึ้นชื่อ ร้านอาหารคุ้นลิ้น เรื่องความอร่อยมาได้นานร้อยกว่าปีแล้ว บอกเลยว่าต้องไม่พลาดแวะมาชิม 8 ร้านเด็ดที่ใครได้มากินเป็นต้องประทับใจ ไปแล้วต้องแวะสักครั้ง ไประยองทั้งที่ร้านต้องห้ามพลาด ชวนลิ้ม ชิมรส  8 เมนูเด็ด จาก 8 สุดยอดเชฟจากโครงการเชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชนบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) ร่วมกับจังหวัดระยองและการท่องเที่ยวแห่ประเทศไทย สำนักงานระยอง(ระยอง-จันทบุรี) จัดงานประกาศผล  และมอบรางวัลแด่ผู้ชนะเลิศในโครงการ เชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง


ผู้ที่เข้ารอบสุดท้ายจากการประกวด 10 เมนู ส่งประกวดซึ่งได้ผ่านการพัฒนาแล้วจากเชฟชุมพล และค่ำของวันนี้เราได้ร่วมชิมเมนูเด็ดร่วมพิสูจน์เมนูที่ได้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 8 เมนูเด็ด จากสุดยอดเชฟชุมชน  ประจำจังหวัดระยอง ได้สัมผัสวัตถุดิบท้องถิ่นแท้ๆ ซึ่งหาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากระยองที่เดียวเท่านั้น 8 เมนูสุดยอด  จากเชฟระยอง  ในโครงการ  เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน By PTTGC

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจะยกระดับอาหารท้องถิ่นของชุมชน  จังหวัดระยอง ให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ พร้อมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวตามรอยอาหารเมนูท้องถิ่นที่พลาดไม่ได้ ต่อยอดการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง โดยได้รับความร่วมมือจาก เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญเมนูอาหารไทยมาช่วยพัฒนาสูตรอาหารพื้นถิ่น พร้อมทั้งรังสรรค์สูตรอาหารจานใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่นในชุมชนจังหวัดระยองให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ตลอดจนการสร้างเชฟชุมชนจังหวัดระยองเพื่อนำไปสู่การร่วมสร้างสรรค์อาหารชุมชนขึ้นชื่อประจำจังหวัดต่อไป โดยทุกเมนูจะ ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นระยอง เพื่อสร้างเชฟชุมชนต่อยอดการท่องเที่ยวเมืองระยอง


เมนูที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีส่วนผสมที่มาจากวัตถุดิบที่กำหนดอย่างน้อย 1 อย่างจาก 19 วัตถุดิบท้องถิ่นของจังหวัดระยอง ซึ่งได้แก่ กะปิน้ำปลา ชะมวง ผักกูด หน่อกระทือ หอยแมลงภู่ ปลา ปู ปลากะพง ปลาหมึกแห้ง ปลาเค็มแดดเดียว กล้วยน้ำว้า (รสชาติ 3 น้ำ) พุทรา 3 รส ทุเรียน แขนงสับปะรด เส้นจันทร์ เงาะ กระชับ ระกำ และ มังคุด ภายใต้โครงการเชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชนby PTTGC ท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร  ชวนเที่ยวเมืองไทย

หมูชะมวงเนินสว่าง ร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง

8 Signature Dish สุดยอดเมนูอาหารถิ่นประจำจังหวัดระยอง หลังจากได้ 8 สุดยอดเชฟผู้เข้ารอบสุดท้ายของโครงการ “เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน by PTTGC” ที่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจัดขึ้นเพื่อต้องการยกระดับอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบท้องถิ่นใน จ.ระยอง ให้เทียบเท่ากับระดับสากล ซึ่งยังเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวมาชม 8 สุดยอดเมนูจากเชฟระยอง

1. หมูชะมวงเนินสว่าง
ร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง
คุณสุวรรณา ชัยพฤกษ์

2. ซี่โครงหมูราย็องซอสชะมวงฮิ
ร้าน Steak @ Good
คุณวาทิต สิงห์ทอง

3. ยำสัมพันธ์ 5 สหาย
ร้าน Lacapanna
คุณขนิษฐา บาร์โบนี

4. เส้นหมี่น้ำแดงโบราณ
วิสาหกิจชุมชนไม้กฤษณาตำบลกระเฉด
คุณพิกุล กิตติพล

5. ยำผักกระชับทอดกรอบ
ร้านชุมชนหมู่บ้านทะเลน้อย
คุณสารภี ถวิล

6. กุ้งทอดซอสใบชะมวง
ร้านบ้านบุญเพ็ชร
คุณภานุพงษ์ ควรหา

7. แกงคั่ว เล พลาฮิ
ร้านครัวพิศมัย
คุณพิศมัย พิลึก

8. แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดองผักกระชับ
ร้านมีดีฟาร์มปูนิ่ม
คุณปฤษชนก สุวรรณโชติ

งานประกาศผลและมอบรางวัลแด่ผู้ชนะเลิศในโครงการ “เชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง” เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560  ภายใต้โครงการ  เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน ณ ร้าน Heaven Bangkok อาคาร  Zen World กรุงเทพมหานคร

 

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดระยอง-จันทบุรี

ผู้ที่ได้รับการโหวตเป็นเชฟผู้ชนะเลิศในโครงการนี้คือ
เชฟสุวรรณา ชัยพฤกษ์ ได้รับการการันตีว่าเมนู “หมูชะมวงเนินสว่าง” เป็น “Signature Dish ของร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง” พร้อมทั้งเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท

เชฟสุวรรณา ชัยพฤกษ์ ได้รับการการันตีว่าเมนู “หมูชะมวงเนินสว่าง” เป็น “Signature Dish ของร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง” พร้อมทั้งเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท

รู้ผลกันแล้วว่าใครจะได้เป็นสุดยอดเชฟ
เชฟหน้าใหม่ไฟแรงประจำจังหวัดระยอง

ขอแสดงความยินดีกับสุดยอดเชฟชุมชน
ประจำจังหวัดระยอง
เชฟนุช – คุณสุวรรณา ชัยพฤกษ์
เจ้าของเมนูอร่อย : หมูชะมวงเนินสว่าง
จากวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง

เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน อย่าให้ความอร่อยอยู่แค่ในครัวคุณ
สอบถามเกี่ยวกับโครงการได้ที่
http://www.facebook.com/rayongchef

เมื่อแจ็ค จารุพงศ์ เผยแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน

ERNEST CAFÉ & BAR ยิ่งเสพ ยิ่งสร้างสรรค์

วันที่ Toptotravel ได้ไปเยี่ยมชม ERNEST CAFÉ & BAR คาเฟ่แอนด์บาร์สุดชิค มาดูมุม Check point ที่มีการสัมภาษณ์ แจ็ค แบล็คแจ็ค หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ทุ่มทุนเปิดร้าน ERNEST CAFÉ & BAR  บรรยากาศ  Cultured Space เขาบอกเหตุผลที่เลือกตกแต่งสไตล์ลอฟท์สุดเท่ คาเฟ่รูปแบบใหม่เอาใจสายอาร์ต เพราะติดใจในรสชาติของกาแฟ เต็มอิ่มกับงานศิลป์ เคล้าอาหารและเครื่องดื่มรสเยี่ยม ในบรรยากาศสุดคูลคาเฟ่สายอาร์ทสำหรับคนเสพศิลปะ เปิดพื้นที่ให้สำหรับคนโชว์งานศิลปะฟรี จึงหยิบมาเป็นแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน

ส่วนแนวคิดเรื่อง Bkk cultured space แจ๊คตั้งใจมาก เพื่อให้เป็นพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้จินตนาการ และความสนุกของชิ้นงาน ผลงาสร้างสรรค์แปลกใหม่ เพราะเราเข้าใจกฎเกณฑ์และระบบ กฎเกณฑ์อาจไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่คิด แต่อาจเป้นตัวแปรสำคัญในการสร้างผลงานที่มหัศจรรย์ได้

จะเป็นอย่างไร?  เมื่อหนุ่ม แจ็ค-จารุพงศ์ เผยถึงแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน ERNEST CAFÉ & BAR  ออกแบบคล้ายเรือนกระจกที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ  และสวนหย่อมแสนเก๋ นอกจากจะชื่นชอบการดื่มกาแฟ และหลงใหล การเสพงานศิลป์เป็นชีวิตจิตใจ  จากวันนั้นจนถึงวันนี้ทุ่มทุนเปิดร้าน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความชอบเดียวกัน ให้ได้ร่วมเอนจอยไปกับอาหารและเครื่องดื่ม  แจ็ค-จารุพงศ์  ยังได้เปิดพื้นที่ให้ศิลปินหน้าใหม่ได้แสดงผลงานภายในร้าน ทั้งรูปถ่าย  รูปวาด  รูปปั้น  เรียกได้ว่าแทบยกร้านให้ตกแต่งกันเต็มที่!! โดยจะสลับเปลี่ยนผลงานทุกสองอาทิตย์ เหมือนเป็นการเปลี่ยนธีมร้านอยู่ตลอด

ERNEST CAFÉ & BAR   ร้านอาหาร และ  คาเฟ่ ที่รวบรวม งาน ศิลปะ จาก ศิลปิน หลายสัญชาติ Bkk cultured space มาโชว์ไว้ในร้าน ศิลปะทุกชนิดมากมาย  ผลงานจะเปลี่ยน ทุกๆสองอาทิตย์ พื้นที่เปิด Artist หรือ นักศึกษา สามารถเอาผลงานมาแสดง หรือใช้พื้นที่ ที่ร้าน จัด Workshop ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  (ตามข้อตกลงของทางร้าน ) และทางร้านมีที่จอดรถ

เมนูเครื่องดื่มแนะนำ:  เครื่องดื่มเราปลื้มกัน กับสายชา โดยเฉพาะ Long Island Apple Tea  สูตรกลมกล่อมไม่บาดคอ  Fovorite Ernest Festive Drink
Long Island Apple Tea
Blood Orange
Berries & Beet Smoothie
Easy Sparkling Blueberry Lemonade

แนะนำเมนูเครื่องดื่ม: Ernest’s Frappe Menu:
1. Coffee Frappe
2. Chocolate Frappe
3. Caramel Macchiato Frappe
4. Mocha Frappe
5. Green Tea Frappe

และถ้าง่วงๆ แบบนี้ เจอกับกลิ่นกาแฟมาแต่ไกล  ใจก็เอาไม่อยู่ ขอรับกาแฟทางร้านมีเมนูกาแฟให้เลือกลองด้วยเช่นกัน  ฟินมากมานั่ง กินคาปูชิโน่หลายๆ แก้ว กินเค้กหลายๆ ชิ้น มีสวนต้นไม้ และมีดาดฟ้า นั่งรับลมเย็น ๆ ด้านนอก  หรือนั่งภายในร้านเลือกที่ชอบ  ส่วนที่นั่งมีทั้งโซนด้านใน   และโซนเอาท์ดอร์ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ นี่คือหนึ่งในร้านกาแฟที่สามารถเข้ามานั่งได้ไม่จำกัดเวลานะคะ แต่งฮิปๆ แบบลอฟต์สไตล์
มีมุมให้เลือกนั่งเยอะเลย อีกอย่าง!!!  ร้านนี้เจ้าของร้านใจดีมากๆ

แจ็ค-จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม

เพราะติดใจในรสชาติของกาแฟ และหลงใหลในงานศิลป์เป็นทุนเดิม ล่าสุด แจ็ค- จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม แจ็ค-แบล็คแจ็ค จึงตัดสินใจทุบกระปุก ร่วมทุนเนรมิตรร้าน ERNEST CAFÉ & BAR คาเฟ่ บาร์ ร้านอาหาร และ Art Space สงบและร่มรื่น  ท่ามกลางสวนสวย  ย่านเลียบด่วนเอกมัยรามอินทรา

ในบรรยากาศ Cultured Space ตกแต่งสไตล์ลอฟท์สุดเท่  เพรียบพร้อมไปด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย และยังเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม  รวมไปถึงยังนำเสนอแรงบันดาลใจ ภายใต้คอนเซปต์ EAT.DRINK.CREATE และได้นั่งชิลล์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศชิลล์ๆ  ทำให้ลูกค้าอิ่มท้อง สมองลื่น พร้อมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ได้ทุกวัน โดยจัดงานโอเพนเฮาส์แนะนำร้านในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ที่ร้าน ERNEST CAFÉ & BAR  ร้านอาหาร รวมไปถึงบาร์คราฟท์เบียร์  ให้แวะไปนั่งชิลกันได้สบายๆ นั่งพักผ่อนกับเพื่อนๆ อีกด้วย

ให้บริการอาหารหลากหลาย ทั้งเมนูอาหารไทย และเมนูอาหารฝรั่ง ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เน้นความอร่อย สะอาด และราคาไม่แพง ที่หนุ่ม แจ็ค คอนเฟิร์มว่า อร่อย จัดจ้านทุกเมนู รวมถึงหมวดเครื่องดื่มกาแฟ ซึ่งเป็นอีกเมนูไฮไลท์  ที่ลูกค้าสายชิลล์ห้ามพลาด เรียนเชิญมาร่วมพิสูจน์ความอร่อยในร้าน ERNEST CAFÉ & BAR

ขอขอบคุณ ERNEST CAFÉ & BAR คาเฟ่แอนด์บาร์สุดชิค ขายอาหาร กาแฟ ขนม และ Alcohol Free Wifi


ร้าน ERNEST CAFÉ & BAR

ตั้งอยู่ใน ซอยโยธินพัฒนา 11 ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา
(ด้านหลัง Chic Republic)
บรรยากาศดิบเท่มีสไตล์ รายล้อมด้วยผลงานสุดอาร์ต ได้แล้วที่ร้าน ERNEST CAFÉ & BAR เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 – 24.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 086-992-9582
Line :: @ernestcafeandbar
Facebook: ernestcafeandbar
Instagram :: @ernestcafeandbar

#bkkculturedspace #ernestcafe #eatdrinkcreate
#Repost @jackiblackjack

ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย จังหวัดสมุทรสงคราม

ภายใต้โครงการเที่ยวสุขใจ วิถีชุมชน สมุทรสงคราม เมืองสายน้ำ  สามเวลา

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทยและ  PHOTOTECH   ประกาศผลรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย

โครงการประกวดภาพถ่าย จ.สมุทรสงคราม  หัวข้อ  ”เมืองสายน้ำสามเวลา”

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)  ได้ดำเนินการตามแผนการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2560 ภายใต้แนวคิด  เมืองต้องห้ามพลาด

เพื่อส่งเสริมการเดินทาง  ท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เมืองสายน้ำสามเวลา

คำนิยามของ  สายน้ำสามเวลา  คือ วิถีชีวิตของคนที่นี้ใช้สายน้ำในการดำเนินชีวิต   และที่นี่  มีสามอำเภอ คืออำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนทีจังหวัดสมุทรสงคราม    เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของการท่องเที่ยว  ในจังหวัดหลัก

นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม

นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม  (สมุทรสงคราม  สมุทรสาคร)   เปิดเผยว่า   การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับบริษัทมีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด , สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย , ชมรมถ่ายภาพสมุทรสงคราม กำหนดจัดกิจกรรม  การประกวดภาพถ่าย  ในจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ  เมืองสายน้ำ…สามเวลา ซึ่งในเวลาเช้า ตักบาตรพระสงฆ์ , เวลากลางวัน เที่ยวตลาดน้ำ-ตลาดบก ไหว้พระทางน้ำ หรือล่องเรือนวด , เวลาเย็น-ค่ำ  ล่องเรือชมหิ่งห้อย   ในโครงการเที่ยวสุขใจ  วิถีชุมชน สมุทรสงคราม เมืองสายน้ำสามเวลา ตามแผนการตลาดของสำนักงาน ประจำปี  ๒๕๖๐   กลยุทธ์ที่ ๓    กระจายพื้นที่ท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด
เมืองต้องห้ามพลาด

โครงการ ประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ “เมืองสายน้ำสามเวลา” มีช่างภาพ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจังหวัดสมุทรสงครามเป็น ๑ ใน ๑๒ เมืองต้องห้าม…พลาด   มีผู้สนใจส่งภาพถ่ายเข้าประกวด จำนวน ๗๔ คน มีภาพถ่ายส่งเข้าประกวด จำนวน ๓๒๕ ภาพ ซึ่งแต่ละภาพ
มีความสวยงามที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน หลักเกณฑ์การตัดสิน ๕ ประการ ดังนี้

๑. สวยด้วยแสง บรรยากาศสภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม และมีการแสดงออกซึ่งความสวยงามของสถานที่

๒. แรงด้วยสี อารมณ์ และสีสันของภาพที่ถ่ายทอดออกมา
อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการต้องการเดินทางท่องเที่ยว

๓. ดีด้วยองค์ประกอบ มีความครบถ้วนองค์ประกอบภาพ
ตามหลักการวิจิตรศิลป์

๔. ตอบโจทย์ได้ มีความสอดคล้ององค์ประกอบภาพถูกต้อง
ตามหัวข้อการประกวด คือ เที่ยวสุขใจ วิถีชุมชน สมุทรสงคราม
เมืองสายน้ำ…สามเวลา

๕.ใช้ในการประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวได้ ซึ่งสามารถเผยแพร่
ต่อสาธารณชน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ   ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม

รางวัลชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย คุณอำนาจ  ประเสริฐเขียว   ชื่อภาพ ใส่บาตรพระ

เป็นการกระจายพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไปยังชุมชนต่างๆในจังหวัดสมุทรสงคราม ก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนเพิ่มมากขึ้น และทาง ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม ได้เห็นความสำคัญและต้องการต่อยอดการประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งจากคนในท้องถิ่น จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวทั่วไป รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการรับรู้และเข้าใจในอัตลักษณ์ของการเป็น “ เมืองสายน้ำสามเวลา ”  ของจังหวัดสมุทรสงครามซึ่ง
มีผลทำให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

โครงการ ประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ
เมืองสายน้ำสามเวลา” มีช่างภาพ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ส่งภาพเข้าประกวดจำนวน 74 ท่าน  (กทม. 28  ปริมณฑลและต่างจังหวัด 46 )

จำนวนภาพรวมทั้งหมด 325 ภาพ  ประเภทภาพแบ่งเป็น 4 หัวข้อ

1.ภูมิทัศน์  115 ภาพ

2.สถาปัตยกรรม  82 ภาพ

3.วัฒนธรรมประเพณี  27 ภาพ

4.วิถีชีวิต 100 ภาพ

  1. อื่น ๆ 1 ภาพ

คณะกรรมการตัดสินภาพ หัวข้อ เมืองสายน้ำสามเวลา

ประธานจัดงานการประกวดฯ

คุณอินทิรา วุฒิสมบูรณ์   ผู้อำนวยการสำนักงานสมุทรสงคราม ( ททท. )
ประธานการตัดสินภาพถ่าย    

คุณสวัสดิ์  ปฏิภาณประเสริฐ ประธานสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย

คณะกรรมการตัดสิน    

คุณสุรพล   สุภาวัฒนกุล
ผู้ชำนาญการด้านภาพถ่าย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท )

คุณสมุทร  ชูสกุล  ประธานชมรมถ่ายภาพสมุทรสงคราม

คุณเกรียงจิตร  มิตรยอดวงศ์  บรรณาธิการฝ่ายกิจกรรม PHOTOTECH

รางวัลชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย

คุณอำนาจ  ประเสริฐเขียว   ชื่อภาพ ใส่บาตรพระ
“ใส่บาตรพระ” รางวัลชนะเลิศ ประกวด  เมืองสายน้ำสามเวลา
เงินรางวัล ๒๕,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๑
คุณกมล ชัยมงคลสวัสดิ์   ชื่อภาพ ตลาดน้ำโบราณ
รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๑ ประกวด ”เมืองสายน้ำสามเวลา”
เงินรางวัล ๑๕,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๒
คุณวินนิวัตร ไตรตรงธนรัตน์  ชื่อภาพ  มนต์เสน่ห์อัมพวา
รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๒ ประกวด ”เมืองสายน้ำสามเวลา”
เงินรางวัล ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชมเชย ๕ รางวัล รับประกาศนียบัตร พร้อมเงินรางวัล ๑,๐๐๐ บาท

รางวัลชมเชย คือ คุณศรนนท์  สวงโท  ชื่อภาพ เคี่ยวน้ำตาล

รางวัลชมเชย คือ คุณธนพงษ์  อระวีพร  ชื่อภาพ ดารารถราง

รางวัลชมเชย คือ คุณธีรธัช  โน๊ตศิริ  ชื่อภาพ สนุกสนาน

รางวัลชมเชย คือ คุณสุรีย์  พึ่งฉ่ำ  ชื่อภาพ ยามเย็นที่วัดบางกุ้ง

รางวัลชมเชย คือ คุณชัยวัฒน์  กัณหดุล  ชื่อภาพ ตลาดน้ำยามค่ำ

จากการจัดกิจกรรมประกวดภาพถ่ายในปี ๒๕๖๐ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากหลายภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งภาพที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ ทาง ททท.สำนักงานสมุทรสงครามจะได้นำภาพไปใช้ในการประชาสัมพันธ์และขยายผลทางด้านการตลาดต่อไปในอนาคต

การรับสมัครและตัดสินภาพส่งเข้าประกวด 

เปิดรับภาพ    วันที่ 15 เมษายน – 14 มิถุนายน 2560  ทั้งนี้ หากส่งทางไปรษณีย์ จะถือวันที่ประทับตราฯ  วันที่ 14 มิถุนายน 2560 เป็นสำคัญ

ตัดสินภาพ     วันที่ 22 มิถุนายน 2560
ณ กนกรัตน์ รีสอร์ท   จังหวัดสมุทรสงคราม

ประกาศผล  วันที่ 29 มิถุนายน 2560
www.phototechthailand.com
เฟสบุ๊ค:  นิตยสาร โฟโต้เทค

วันที่  19  กรกฎาคม  2560
ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานสมุทรสงคราม จัดโครงการประกวดภาพถ่ายขึ้น พร้อมทั้งขอแสดงความยินดี  กับช่างภาพที่ได้รับรางวัล  โครงการประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ  เมืองสายน้ำสามเวลา  และขอเป็นกำลังใจให้ช่างภาพทุกท่านที่ร่วมส่งภาพเข้าประกวดในครั้งนี้

นวัตกรรมใหม่ของ นมโคสดแท้100% ไม่ผสมนมผง

นมคิดดี นมดีที่คุณแม่รอคอย นวัตกรรมใหม่ของนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง
ภายใต้ตราสินค้า ไทย-เดนมาร์ค

อ.ส.ค.สร้างปรากฏการณ์ใหม่ เปิดตัวผลิตภัณฑ์นมเด็ก  ตราไทย-เดนมาร์ค “คิดดี” แกะกล่องนวัตกรรมระดับพรีเมียมเพื่อกลุ่มคุณแม่ที่ฉลาดซื้อสำหรับลูกวัย 3-8 ขวบ ชูจุดเด่นช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองและสายตา ตั้งเป้าปีแรกทำยอด 25 ล้านบาท

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและตอบโจทย์ให้กับกลุ่มคุณแม่หรือผู้ปกครองที่แสวงหาผลิตภัณฑ์นมที่เติมสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและการเจริญเติบโตของลูก พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างความหลากหลายให้กับสินค้าแบรนด์ไทย-เดนมาร์ค ซึ่งจะขยายโอกาสทางการตลาดและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อ.ส.ค.จึงร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. ตราไทย-เดนมาร์ค “คิดดี” (Kid-D) ขึ้นโดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดระดับพรีเมียม มีจุดเด่นและแตกต่างจากนมยี่ห้ออื่นตรงที่ผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ไม่มีน้ำมันพืชผสม

และที่สำคัญยังเติมสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการด้านสมองและสายตาของวัยเด็ก ทั้งดีเอชเอ, ลูทีน, โคลีน. และวิตามินรวม ซึ่งเหมาะสำหรับเด็กอายุระหว่าง 3-8 ขวบโดยเฉพาะอ.ส.ค. ได้ใช้โรงงานนม อ.ส.ค. ภาคเหนือตอนล่าง จังหวัดสุโขทัย เป็นฐานการผลิตนม ยู.เอช.ที. ตราไทย-เดนมาร์ค “คิดดี” เนื่องจากมีเครื่องจักรแบบไฮสปีด (High Speed) ที่ทันสมัย สนองต่อการผลิตที่รวดเร็วและขนส่งสะดวก ทั้งยังมีความพร้อมเรื่องสถานที่ในการบริหารจัดการสินค้าด้วย เบื้องต้น อ.ส.ค.มีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. คิดดี ป้อนเข้าสู่ตลาดวันละ 20 ตัน หรือประมาณ 3,300 หีบ/วัน โดยมีช่องทางกระจายสินค้ากว่า 10 ช่องทาง เพื่อให้กลุ่มคุณแม่หรือผู้ปกครองที่มีกำลังซื้อสามารถเข้าถึงสินค้าได้สะดวกและง่ายขึ้น ได้แก่ ห้างแม็คโคร, เดอะมอลล์ (โฮมเฟรชมาร์ท) ทุกสาขา, สยามพารากอน, ดิเอ็มโพเรียม, เทอมินอล21,Lazada


“นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์นมคิดดียังมีวางจำหน่ายที่ร้านนมสดไทย-เดนมาร์ค สาขาตลาด อ.ต.ก. กรุงเทพฯ(ตรงข้ามสวนจตุจักร), ร้านค้าที่ตึก TOT ถนนแจ้งวัฒนะ, สหกรณ์ร้านค้าไทย-เดนมาร์ค และร้านฟาร์มท่องเที่ยวไทย-เดนมาร์ค อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เป็นต้น ซึ่งในช่วงปีแรก อ.ส.ค.ตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์นมคิดดีไว้ไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท คาดว่า ผลิตภัณฑ์นมพรีเมียมนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น โดยส่วนแบ่งการตลาดจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องในปีถัดไป” ดร.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าว

ผอ.อ.ส.ค.กล่าวถึงสถานการณ์การตลาดนม ยู.เอช.ที.สำหรับวัยเด็กว่า โดยภาพรวมตลาดนมเด็กมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งปริมาณและมูลค่า ซึ่งในช่วงปี 2559ที่ผ่านมา นม ยู.เอช.ที. สำหรับเด็กมีมูลค่าตลาดรวม 4,631.64 ล้านบาท อนาคตคาดว่า นม ยู.เอช.ที. ตราไทย-เดนมาร์ค “คิดดี” จะเป็นทางเลือกใหม่ของกลุ่มคุณแม่หรือผู้ปกครองวัย 26-35 ปี ที่ฉลาดซื้อเพื่อลูก ด้วยคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ไม่ผสมน้ำมันพืช และยังมีสารอาหารที่จำเป็นและมีคุณประโยชน์เหมาะสำหรับวัยเด็ก ประกอบกับชื่อเสียงของแบรนด์ไทย-เดนมาร์คที่คุ้นเคย คาดว่าจะทำให้กลุ่มคุณแม่และผู้ปกครองตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นมคิดดีเพิ่มมากขึ้น ทำให้นมคิดดีเป็นที่ยอมรับและติดอยู่ในใจของกลุ่มคุณแม่ สามารถชิงส่วนแบ่งตลาดนมเด็กได้

“ปัจจุบันเด็กมีการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีด้วยอุปกรณ์สื่อสารต่างๆมากขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและแท็ปเล็ต ทำให้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคทางสายตาที่ผิดปกติ และส่งผลต่อระบบการพัฒนาของสมองที่อยู่ในช่วงแห่งการเจริญเติบโต ผลิตภัณฑ์นมคิดดีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของสมองและช่วยบำรุงสายตาสำหรับเด็ก แนะนำให้ดื่มอย่างน้อยวันละ 2 กล่อง ร่วมกับการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู้

ร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ นมคิดดี…นมดี ที่คุณแม่รอคอย
นมไทย-เดนมาร์ค  งานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

นมคิดดี…นมดี ที่คุณแม่รอคอย นมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง

วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2560 ณ. ศูนย์การเรียนรู้นานมีบุ๊คส์ (ชั้น 2)
สุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี)  ถนนสุขุมวิท ตั้งแต่เวลา 10.00 – 12.00 น

กองทัพอากาศกับศาสตร์พระราชา

น้อมนำศาสตร์พระราชา
มาเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศ

กองทัพอากาศ จัดงาน กองทัพอากาศกับศาสตร์พระราชา
กองทัพอากาศ แสดงความจงรักภักดี เชิดชูพระเกียรติคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์บดินทรเทพยวรางกูร  ทรงมีต่อพระบรมราชชนก น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระราชทานแนวทาง  การพัฒนาผ่านโครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ รวมถึง  หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

พลอากาศเอก จอม  รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานในงานแถลงข่าว กองทัพอากาศกับศาสตร์พระราชา

พลอากาศเอก จอม  รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ  เปิดเผย กองทัพอากาศ ได้สานต่องานพ่อ จึงได้จัดงาน กองทัพอากาศกับศาสตร์พระราชา ขึ้น เพื่อแสดงผลงานนิทรรศการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศ ที่น้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เริ่มตั้งแต่การโปรยสารฝนหลวงจากเครื่องบินกองทัพอากาศ เพื่อให้ตกลงในพื้นที่ป่าต้นน้ำ รวมทั้งนอกเขตชลประทาน จากนั้น  เป็นการสร้างฝายบนดอยสูงเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนป่าต้นน้ำ น้ำที่อยู่ในระบบชลประทาน คลอง หนอง บึง ก็มีน้ำมันไบโอดีเซล พลังงานทดแทน  ที่ผลิตจากน้ำมันพืชใช้แล้ว สูบน้ำเข้าสู่ไร่นาของราษฎรและในฤดูแล้งที่น้ำตามแหล่งเก็บกักต่างๆเหือดแห้งลง  ไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้

กองทัพอากาศ  จึงได้หาวิธีที่จะนำน้ำของพระราชาที่ซึมลงไปอยู่ใต้ดินขึ้นมาใช้ โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นกำลังหลักในการสูบน้ำขึ้นมาใช้ เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้อย่างพอเพียง  ภายใต้ชื่อโครงการ  เทพประทานธารา ในขณะเดียวกัน ในภารกิจที่กองทัพอากาศ  ออกช่วยเลือประชาชน
ยังได้นำปราชญ์ชาวบ้านในสาขาต่างๆ  ไปถ่ายทอดความรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมายตามความจำเป็นและสอดคล้องกับสภาพปัญหา เพื่อที่จะให้ราษฎรเหล่านั้นพึ่งพาตนเองได้ มีการนำปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ซึ่งกองทัพอากาศถือว่าเป็นภารกิจสำคัญที่เข้าไปสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนเกิดความกินดีอยู่ดี ในวิถีพอเพียง

ในโอกาสนี้ กองทัพอากาศ จึงได้รวบรวมผลงานการนำศาสตร์พระราชาไปใช้ในหน่วยงานของกองทัพอากาศและสนับสนุนเกษตรกรเครือข่ายชุมชนจนประสบความสำเร็จ  จัดแสดงในงาน   กองทัพอากาศกับศาสตร์พระราชาซึ่งจะจัดขึ้น  ในวันที่ 27 ก.ค. – 6 ส.ค. 2560  ณ.  สนามกีฬากองทัพอากาศ
(ธูปะเตมีย์) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.

ภายในงาน  จัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ดังนี้ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ร้อยเรียงเรื่องราวการน้อมนำศาสตร์พระราชาในกองทัพอากาศ อาทิ นิทรรศการฝนหลวง การรีไซเคิลน้ำมันที่ใช้แล้วเป็นพลังงานไบโอดีเซล   การปรับใช้พลังงานแสงอาทิตย์  ภายใต้โครงการเทพประทานธารา และการส่งเสริมเกษตรกรเครือข่ายให้ประสบความสำเร็จด้วยศาสตร์พระราชา ผลงานการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในหน่วยงานของกองทัพอากาศ เช่นตามกองบินต่างๆ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช จนสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับกำลังพลและครอบครัว การแสดงผลงานเกษตรกรเครือข่ายที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศจนประสบความสำเร็จ เกิดความกินดีอยู่ดี แก้ปัญหาหนี้สินในครัวเรือนและเป็นแบบอย่างของการทำเกษตรแบบยั่งยืน

การถ่ายทอดความรู้ศาสตร์พระราชา  จากปราชญ์ชาวบ้านที่เดินตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 กิจกรรมการออกร้านจำหน่ายสินค้ากลุ่มแม่บ้านทหารอากาศ การออกร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรต่างๆ  จากทั่วประเทศไทย เช่น พันธุ์ไม้นานาชนิด อุปกรณ์การเกษตร แวะชิมอาหารปลอดสารพิษจากเครือข่ายเกษตรทุกภูมิภาคการฝึกอบรมอาชีพฟรีให้กับผู้ที่สนใจ อาทิ หมูสะเต๊ะสูตรลับทหารอากาศ    พร้อมเรียนรู้สูตรลับชากาแฟ 8 สูตร   ฝึกอาชีพทำปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ และเรียนรู้การทำตลาดสินค้าออนไลน์ พบกับวิถีเกษตรคนเมือง เช่น การปลูกและการขยายพันธุ์พืชแบบง่ายๆ การสอนแปรรูปสินค้าเกษตรแบบครัวเรือน โดยทีมวิทยากรจาก มูลนิธิเกษตรพอเพียงและเครือข่าย เพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์กองทัพอากาศ  และศิลปินชื่อดังทุกวัน

ประชาสัมพันธ์งาน กองทัพอากาศกับศาสตร์พระราชา
http://www.rtaf.mi.th/th/Pages/default.aspx
CR.ภาพ : ประชาสัมพันธ์กองทัพอากาศ Royal Thal Air Force

 

VIERA OLED TV ที่สุดของคุณภาพ การันตีโดยทีมฮอลลีวูด

VIERA OLED TV  ความเป็นพรีเมียม ด้วยคุณภาพญี่ปุ่น (Premium Products with Japan Quality) แห่งเทคโนโลยีด้านภาพ เอกลักษณ์เฉพาะพานาโซนิค

พานาโซนิคเดินหน้าทำตลาดผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง รับกระแส 4K เติบ
โตต่อเนื่อง ส่ง Panasonic VIERA 10 ซีรี่ย์ 24 รุ่น รุกขยายฐานลูกค้าระดับกลางถึงไฮเอ็นด์ ด้วยความเป็นพรีเมี่ยม คุณภาพญี่ปุ่น พร้อมเปิดตัว

Panasonic VIERA OLED TV  ที่สุดของคุณภาพทางด้านภาพที่แท้จริงจากมุมมอง ของผู้สร้างภาพยนต์  สู้ศึกตลาดจอภาพ  ชูจุดขายดำสนิท
ทุกพิกเซล คมชัดทุกเฉดสี ดึงทีมฮอลลีวูด  ร่วมปรับแต่งสีสันให้ตรงกับมาตรฐานของอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากที่สุด   พร้อมทัพผลิตภัณฑ์
เพื่อความบันเทิง  ที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์  ของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง

Panasonic VIERA OLED TV  ที่ได้นำนวัตกรรมจอภาพ OLED ผสานกับ 4K Hexa Chroma Drive Pro ที่สุดแห่งเทคโนโลยีด้านภาพ เอกลักษณ์เฉพาะพานาโซนิค ควบคู่ไปกับการพัฒนาร่วมกันกับทีมสร้างภาพยนตร์จากฮอลลีวูด  ทำให้ได้ภาพที่ดำสนิท สีสันคมชัดทุกเฉดสี สมจริง  ดังที่ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องการ  หรือตรง  กับมาตรฐานของอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากที่สุด ขณะเดียวกันพานาโซนิคยังได้ นำเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ มาพัฒนาในผลิตภัณฑ์ LED TV รุ่นอื่นๆ เพื่อนำเสนอคุณภาพที่ดีที่สุดต่ อผู้บริโภค ส่วนผลิตภัณฑ์  Home Audio  พานาโซนิคยังคงเน้นคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม เต็มอิ่มทุกความหนักแน่นของดนตรีทุกรูปแบบ มีความง่ายในการเชื่อมต่อ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด 4K  เพิ่มมากขึ้น จึงได้แนะนำผลิตภัณฑ์  Ultra HD Blu-ray Player เข้าสู่ตลาด


ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ พานาโซนิค เวียร่า จำนวน 10 ซีรี่ย์ 24 รุ่น ตั้งแต่ขนาด 32 นิ้ว ถึง 77 นิ้ว โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ คือ
Panasonic VIERA OLED TV รุ่น TH-65EZ1000T ขนาด 65 และ 77 นิ้ว ภายใต้คอนเซ็ปท์ COLOUR ALIVE in TRUE BLACK ที่มีคุณสมบัติเด่น คือ  ปรับแต่งสี (Tuning) โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสี จากฮอลลีวูดเพื่อให้ได้
คุณภาพของสีสมจริงตรงกับที่ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องการ ระบบประมวลผลเฉดสี (Processor) ด้วยเทคโนโลยี 4K Hexa Chroma Drive Pro ซึ่งแสดงผลของเฉดสีได้ถึง 6 สี แบบ 3 มิติ ให้รายละเอียดในทุกความสว่างตั้ งแต่ดำสนิทที่สุดในระดับ 0 ถึงจนถึงสว่างที่สุดถึง 1,000 nit เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่อย่าง HEXA AI  เพื่อปรับปรุงสีให้ สดใส แสดงสีผิวได้ดียิ่งขึ้น  และ  HEXA Boost ซึ่งสามารถสั่งใช้งานได้ผ่านรี โมทคอนโทรล เพื่อปรับสีให้สดใส  จอภาพ (Panel)  Master HDR OLED  ทำให้ได้ภาพจากเทคโนโลยี  OLED  ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มฟังก์ชั่ น HDR Multi Support เพื่อให้สามารถรองรองรับภาพระดั บ HDR (High Dynamic Range) ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิตอล ภาพยนตร์จากเครื่องเล่นบลูเรย์ และจากการส่งสัญญาณของสถานีโทรทัศน์  ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมภาพที่มี
รายละเอียดเต็ม 100% จากต้นฉบับ และคมชัดในทุกองศาของจอภาพ

คุณหลุยส์ สก็อต มาร่วมโชว์พร้อมสร้างสีสันสุดอลังการ

นายฮิเดคาสึ อิโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงาน   PANASONIC COLOUR ALIVE in TRUE BLACK เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มภาพและเสียงว่า ในปีที่ผ่านมา กลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงของพานาโซนิค มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด  ด้วยแนวคิด ความเป็นพรีเมียม  ด้วยคุณภาพญี่ปุ่น (Premium  Products  with  Japan Quality)  เพื่อตอบรับความต้องการ
และทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์นั้น
มาพร้อมกับจุดเด่นด้าน “คุณภาพ (Quality) และ ดีไซน์ (Design) อันเป็นเอกลักษณ์ของพานาโซนิค

ด้าน  นายโยสุเกะ อิชิกาวะ ผู้อำนวยการส่วนการขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้คาดว่าความต้องการจอภาพในกลุ่ม 4K จะมีโอกาสเติบโตกว่า 140% โดยในส่วนของพานาโซนิคจะมุ่งเน้นที่กลุ่มพรีเมียม (Premium Marketing) ให้มากยิ่งขึ้นและตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 10% มีการทำตลาดกลุ่มจอภาพที่เป็น Strategic Product คือ 4K และ OLED ผ่านดีลเลอร์หรือพาร์ทเนอร์ที่ มีศักยภาพ และสื่อสารถึงคุณสมบัติที่เหนือกว่าด้านคุณภาพญี่ปุ่น  (Japan Quality)  และเทคโนโลยี 4K Hexa Chroma Drive Pro ซึ่งเป็นเทคโนโลยี เฉพาะของพานาโซนิค

ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ พานาโซนิค เวียร่า จำนวน 10 ซีรี่ย์ 24 รุ่น ตั้งแต่ขนาด 32 นิ้ว ถึง 77 นิ้ว  โดยมีผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ คือ  Panasonic VIERA OLED TV รุ่น TH-65EZ1000T ขนาด 65 และ 77 นิ้ว ภายใต้คอนเซ็ปท์ COLOUR ALIVE in TRUE BLACK ที่มีคุณสมบัติเด่น คือ การปรับแต่งสี (Tuning) โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสี จากฮอลลีวูดเพื่อให้ได้คุณภาพของสีสมจริงตรงกับที่ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องการ ระบบประมวลผลเฉดสี (Processor) ด้วยเทคโนโลยี 4K Hexa Chroma Drive Pro ซึ่งแสดงผลของเฉดสีได้ถึง 6 สี แบบ 3 มิติ ให้รายละเอียดในทุกความสว่างตั้ งแต่ดำสนิทที่สุดในระดับ 0 ถึงจนถึงสว่างที่สุดถึง 1,000 nit เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่อย่าง HEXA AI เพื่อปรับปรุงสีให้ สดใสและแสดงสีผิวได้ดียิ่งขึ้น และ HEXA Boost ซึ่งสามารถสั่งใช้งานได้ผ่านรี โมทคอนโทรล เพื่อปรับสีให้สดใส และ จอภาพ (Panel) Master HDR OLED ทำให้ได้ภาพจากเทคโนโลยี OLED ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มฟังก์ชั่ น HDR Multi Support เพื่อให้สามารถรองรองรับภาพระดั บ HDR (High Dynamic Range) ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องดิจิตอล ภาพยนตร์จากเครื่องเล่นบลูเรย์ และจากการส่งสัญญาณของสถานี โทรทัศน์ ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมภาพที่มี รายละเอียดเต็ม 100% จากต้นฉบับ และคมชัดในทุกองศาของจอภาพ

ดีไซน์ Panasonic VIERA OLED TV มาพร้อมกับ Dynamic Blade Speaker Sound bar ที่ติดตั้งแบบ built in บริเวณฐานขาตั้งของทีวี ให้เสียงกังวานคมชัดเหนือกว่า และในผลิตภัณฑ์ 4K รุ่นอื่นๆ อาทิ  EX750 EX600 และ ES680  ยังมีการออกแบบขาตั้งให้สามารถป รับทิศทางหรือระดับความสู งของขาตั้งให้เข้ากับการตกแต่ งห้องได้หลากหลายสไตล์

พานาโซนิคเอาใจคนรัก 4K มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยแคมเปญสำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ พานาโซนิคเตรียมไว้เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผลิตภัณฑ์กลุ่ม 4K ได้แก่ กิจกรรม “4K Double Excite” ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2560 โดยมอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซี ฟ* เพียงสั่งจอง Panasonic VIERA OLED TV รุ่นTH-65EZ1000T รับฟรีตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 2 ที่นั่ง มูลค่า 48,310 บาท และรับเครื่องเล่นบลูเรย์ 4K Player มูลค่า 13,990 บาท นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิ์ผ่อนสิ นค้า 0% สูงสุด 15 เดือนผ่านบัตรเครดิตที่ร่ วมรายการ รับคะแนนสะสม Club Panasonic ทันที 2 เท่า และรับชมภาพยนตร์ผ่าน MONOMAXXX ฟรีถึง 2 เดือน

ภายในงานนอกจากจะมีทีมผู้บริหารระดับสูงจากพานาโซนิคร่วมพิธีเปิด พร้อมแถลงนโยบายต่างๆ แล้ว ยังมีหนุ่มมาดเท่อย่าง คุณหลุยส์ สก็อต มาร่วมโชว์พร้อมสร้างสีสันสุดอลังการ ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด รัชดา

#Panasonic #VIERA #OLED #TV” #4KDoubleExcite