All posts by Shanya

JEJU Comeback นักท่องเที่ยวไทยบินตรงแบบเช่าเหมาลำสู่เกาะเชจู

ประสบความสำเร็จล้นหลาม ! JEJU Comeback นักท่องเที่ยวไทยบินตรงแบบเช่าเหมาลำสู่เกาะเชจู คึกคัก “ทรู เวิลด์ ทราเวล” เผยเตรียมเปิดบริการอีกครั้งวันฉัตรมงคลนี้

สายการบินโลว์คอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ Jeju Air บริษัท เจจูแอร์ จำกัดสายการบินราคาประหยัดแห่งแรกและที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ที่มีฐานการบินหลักที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู และมีสำนักงานใหญ่ในนครเชจูประกาศความร่วมมือกับบริษัททัวร์อันดับต้นๆ ของไทย ทรู เวิลด์ ทราเวล ทำสัญญาเช่าเหมาลำนำคนไทยเที่ยวเกาะเจจูแบบบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเจจู กลับมาอีกครั้งรอบสองปี เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา

นาย ยุนโฮ ชอย ผู้จัดการประจำภูมิภาคเชจูแอร์ สำนักงานในประเทศไทย (Mr. Yoonho Choi Regional Manager Jeju Air) เผยว่า “สายการบิน เชจูแอร์ สายการบินโลวคอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ มีความยินดีที่จะประกาศการกลับมาให้บริการเส้นทาง กรุงเทพ–เชจู อีกครั้งในรอบ 2 ปี ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเชจู ซึ่งเป็นเกาะที่สวยที่สุดของเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องแวะพักหรือเปลี่ยนเครื่องให้ยุ่งยากอีกต่อไป

เส้นทางสู่เกาะเชจูได้เปิดให้บริการขึ้นอีกครั้ง ภายใต้สัญญาเช่าเหมาลำร่วมกับบริษัททัวร์ทรูเวิลด์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลียอดนิยมของ Netflix เรื่อง “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน ” ขอเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมความงดงามของเชจูด้วยกันนะครับ

นางสาวพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True World Travel กล่าวว่า “เกาะเชจูมีจุดเด่นตรงที่เป็นเกาะมรดกโลก ที่ใครหลายๆ คนอยากไปเที่ยว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่เป็นเมืองธรรมชาติ มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทุ่งดอกไม้สวยงาม เช่นทุ่งโบกอม โดยเฉพาะเป็นเมืองที่อากาศดี อากาศที่บริสุทธิ์ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงการที่มี ซีรี่ส์เกาหลีหลายๆ เรื่องไปถ่ายทำกันที่นั่น เราก็ไม่หลุดเทรนด์ ก็จัดให้คนไทยได้ไปเที่ยวเกาะเชจูด้วยกัน

เกาะนี้ไม่ใช่เส้นทางใหม่ของบริษัทฯ สายการบินไม่ได้เปิดบินตรงมาสองปี รอบนี้กลับมา เรียกว่า Come back ให้กลับไปเที่ยวเกาะเชจูกันได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องแวะเมืองอื่น ทำให้คนไทยที่คิดถึงเกาะเชจูอยู่ได้ไปเที่ยวเกาะนี้ได้สมใจแบบสะดวกสบายเกาะเชจูรอบนี้ เปิดไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทแรก คือช่วงสงกรานต์ และไฟล์ทที่สองเป็นวันฉัตรมงคล ในวันที่ 2-5 พฤษภาคม 2568

ส่วนนักท่องเที่ยวต้องการท่องเที่ยว สามารถเที่ยวจองตรงกันได้บินตรงเหมือนกันและ หลังจากนั้นเดือนมิถุนายน สายการบินเปิดกันแบบระยะยาวไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า บินทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ไฟล์ท ให้คนไทยได้ไปเที่ยวกันอย่างเต็มที่

นอกจากเกาะเจจูแล้ว ทางทรู เวิลด์ ทราเวล ยังมีบริการเส้นทางหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นปูซาน กรุงโซล และเส้นทางใหม่ที่หลายคนบอกว่า ปังมากคือการไปเที่ยวเกาหลีคู่กับญี่ปุ่น ตอนนี้เปิดสองเส้นทาง เกาหลีใต้คู่กับเมืองมัตสึยามะและเกาหลีใต้คู่ฮอกไกโด


ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับผู้ที่สนใจ อยากไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้กับทรู เวิลด์ ทราเวล ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไร สามารถเดินทางได้ในแบบสบายกระเป๋า ได้เที่ยวจริง ไม่มีจกตา True World Travel รับจัดทัวร์ที่ประเทศเกาหลี ทัวร์ที่แรกที่ไปเกาะเซจูแบบบินตรงไปลงที่เซจู โปรแกรมท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ของประเทศเกาหลี

สามารถจองผ่าน Facebook Fanpage : trueworldtravel และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ในราคาเท่ากับที่ทรู เวิลด์ ทราเวล”

“Sheep” เคสสัญชาติไทย เปิดตัว 75 Years of Peanuts™ Collection

Sheep x True รุกเดินหน้าขยายฐานลูกค้า เปิดตัว 75 Years of Peanuts™ Collection คอลเล็กชันสุดพิเศษที่ทรูช็อปเท่านั้น

Sheep ผนึก True ขยายช่องทางการจำหน่ายใน True Shop ครอบคลุมลูกค้าที่หลากหลาย หลังจากเปิดตัวคอลเล็กชันครั้งใหญ่แห่งปี Peanuts™ x Sheep: Snoopy & The Peanuts™ gang เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ย้ำภาพเคสแบรนด์ไทยคุณภาพสากล นำเสนอคาแรกเตอร์น่ารักสดใสในดวงใจของคนทั่วโลก โดยแบรนด์ Sheep ยังมอบความพิเศษให้กับลูกค้า True Shop โดยการปล่อย 75 Years of Peanuts™ Collection (Limited Edition) สะท้อนความหรูหราเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเอ็กซ์คลูซีฟที่ True Shop เท่านั้น พร้อมเดินหน้าครีเอทสินค้าใหม่

“Sheep” เคสสัญชาติไทย ผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของสินค้าและคำนึงถึงภาพลักษณ์การใช้งานของผู้ใช้ ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าไทยจากร้าน AppleSheep แหล่งรวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และไอที ล่าสุดได้ประกาศความร่วมมือกับ True ในการวางจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Sheep ใน True Shop

นายอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์ Founder&CEO บริษัท ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ Sheep เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า “แบรนด์ Sheep ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและคุณภาพสินค้าที่เหมาะสมกับราคา เรามั่นใจในคุณภาพของแบรนด์ เพื่อตอกย้ำและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าคนไทย เราจึงอยากให้ลูกค้าคนไทย ได้สัมผัสสินค้า ได้เข้าถึงสินค้าของเราง่ายขึ้น รวมถึงต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ เนื่องจากทรูถือเป็นเครือข่ายอันดับ 1 ที่มีช่องทางให้บริการที่แข็งแกร่ง แต่ละวันมีผู้เข้าใช้บริการใน True Shop เป็นจำนวนมาก เราเชื่อว่าการที่ Sheep มาอยู่ใน True Shop จะช่วยส่งเสริมความตั้งใจของแบรนด์ที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานระหว่างแบรนด์และผู้ใช้สินค้า รวมถึงเป็นการขยายฐานลูกค้าของเราอีกด้วยครับ

ปัจจุบันสินค้าประเภทเคส อุปกรณ์เสริม และสินค้าไอทีหลากหลายรายการภายใต้แบรนด์ Sheep วางจำหน่ายใน True Shop รวม 48 สาขา ครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศไทย และอนาคตมีเป้าหมายขยายสาขาใน True Shop รวมทั้งการนำเสนอสินค้าที่เหมาะกับผู้ใช้บริการของ True Shop และการคัดสรรสินค้าที่เหมาะสมเข้าสู่ช่องทาง Hyper Market ใน True Shop เช่น พาวเวอร์แบงก์ หูฟัง และ อื่นๆ ซึ่งไม่มีขายในช่องทางหลักของเรา Sheep ยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์สินค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ Peanuts™ x Sheep: Snoopy & The Peanuts™ gang ถ่ายทอดความน่ารักสดใสอันเป็นเอกลักษณ์จากการ์ตูน Peanuts กับคาแรกเตอร์ Snoopy ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนในดวงใจที่ครองใจคนทุกวัยทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ประกอบด้วยเคสมือถือ (ไอโฟน 11 – 16 และซัมซุง S23 Ultra – S25 Ultra) พร้อมขบวนอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone, iPad และ MacBook อาทิ MagSafe Griptok , MagSafeWallet, และ Phone Charm รวมทั้งสินค้าอื่น ๆ อีกหลายรายการ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวคอลเล็กชันครั้งใหญ่สำหรับปีนี้

สำหรับ Collection Snoopy ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่น จากโทนสีที่เลือกมาอย่างพิถีพิถัน ตอบโจทย์ทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายเท่ หรือสายสดใส พร้อมคอนเซ็ปต์ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เพิ่มลูกเล่นด้วยการประสานความเป็น Snoopy กับมาสคอตของแบรนด์ อย่างการนำหมวกของ Rambie มาใส่ในตัว Snoopy นอกจากจะได้พบความน่ารักสดใสของ Snoopy และเหล่าแก๊ง Peanuts ในสินค้าต่าง ๆ แล้ว Sheep ยังได้เตรียมตกแต่งดิสเพลย์ภายในร้านเพื่อให้ลูกค้าได้ร่วมถ่ายภาพ เพิ่มบรรยากาศของความสุขเมื่อเข้ามาใช้บริการความร่วมมือระหว่าง Sheep และ True ยังนำเสนอผ่านการเฉลิมฉลอง ครบรอบ 75 ปีของ Peanuts™ โดยจะวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ กับ คอลเล็กชันพิเศษ 75 Years of Peanuts™ Collection ที่ True Shop 48 สาขาเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจ ส่งต่อความสนุกสดใสให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ประกอบด้วย Phone Charm, MagSafe Wallet และ MagSafe Griptok จุดเด่นของคอลเล็กชันพิเศษนี้คือสีทองที่เพิ่มความหรูหราพรีเมียมเป็นเอกลักษณ์ โดยจะมีการจัดแสดงคอลเล็กชันพร้อมทั้งดิสเพลย์ในร้าน True Shop อีกด้วย

นายอภินันท์ กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการสร้างสรรค์สินค้าลิขสิทธิ์ระดับสากลมาหลายคอลเล็กชัน รวมทั้งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Sheep เข้าใจความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า และยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอสินค้าที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความเป็นตัวตนให้กับผู้ใช้งาน ความร่วมมือกับ True Shop จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตต่อไป

ทางด้านคุณสุจิตรา อมิตรพ่าย หัวหน้าสายงานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ ทรู รีเทลช็อป บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ทรูมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในทุกมิติ ไม่ใช่เพียงแค่บริการโทรคมนาคมที่แข็งแกร่ง แต่ยังรวมถึงการคัดสรรสินค้าไอทีและอุปกรณ์เสริมเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ ดีไซน์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ เพื่อเสริมสร้างให้ True Shop เป็นมากกว่าร้านค้า แต่เป็น ‘One Stop Lifestyle Destination’ ที่ลูกค้าจะรู้สึกสนุก มีแรงบันดาลใจ และอยากแวะเข้ามาอยู่เสมอ

การร่วมมือกับแบรนด์ Sheep ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของทรูในการมองหาแบรนด์ไทยคุณภาพ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีจุดยืนชัดเจนด้านดีไซน์และความใส่ใจในรายละเอียดของสินค้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่มีความหมายให้กับลูกค้า ทรูไม่เพียงเปิดพื้นที่ให้สินค้าไทยได้แสดงศักยภาพ แต่ยังสร้างโอกาสให้คนไทยได้ร่วมสนับสนุนแบรนด์ที่พร้อมเติบโตสู่เวทีสากลสินค้าของ Sheep ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าที่เข้ามาซื้อสมาร์ตโฟน จ่ายค่าบริการ หรือนั่งพักผ่อนที่ร้าน TrueCoffee เพราะเรามองว่าทุกจุดสัมผัสภายใน True Shop ควรมีคุณค่าและสร้างแรงบันดาลใจได้ ความหลากหลายของสินค้าไลฟ์สไตล์เช่นนี้ ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทุกการใช้บริการ และสะท้อนภาพลักษณ์ของทรูในฐานะผู้นำเทคโนโลยีที่ใส่ใจในรายละเอียดของชีวิตประจำวันของผู้คน

คอลเล็กชันพิเศษ ‘75th Years of Peanuts™ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัส เพราะนอกจากความน่ารักของตัวการ์ตูน Snoopy แล้ว ยังมีดีไซน์ที่สื่อถึงความพรีเมียม ความสุข และความทรงจำที่ดี เป็นสินค้าลิมิเต็ดที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ True Shop 48 สาขาทั่วประเทศ อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง ทั้งบรรยากาศการจัดดิสเพลย์ในร้าน และประสบการณ์สินค้าที่แบรนด์ Sheep ถ่ายทอดร่วมกับศิลปินแบรนด์ดังจากทั่วโลก เพราะทุกการเลือกสรรและบริการจากเราคือความตั้งใจที่อยากให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุข

พบกับความน่ารักสดใสในคอลเล็กชั Peanuts™ x Sheep: Snoopy & The Peanuts™ gang ได้ที่ AppleSheep ทุกสาขา และ True Shop 48 สาขา รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่ www.applesheepth.com, Line: @applesheep, Facebook: AppleSheep เคส ipadpro มีที่เก็บปากกา, Instagram: applesheepth, Tiktok: applesheepth

โสฬสคลินิก ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ค

Toptotravel อยู่ที่ สถานีสุขภาพดีที่พาราไดซ์ พาร์ค จุดหมายของคนรักสุขภาพ ศูนย์การค้าที่รวบรวมไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเองทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย คลินิกเสริมความงาม ร้านนวด คลินิกกายภาพบำบัด และคลินิกแพทย์ทางเลือกอย่าง โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ครักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

วันนี้ ทีมงาน Toptotravel อยู่สถานีสุขภาพที่พาราไดซ์ พาร์ค โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) คลินิกรักษาไมเกรนและโรคกล้ามเนื้อเรื้อรังมีโอกาสใช้บริการและคุณหมอโสฬส (กวินทัศน์ รัฐรวีธนาฤทธิ์ ) ผู้ก่อตั้งโสฬสคลินิก
ให้เกียรติต้อนรับและ กล่าวถึง คลินิกรักษาโรคไมเกรนและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หมอโสฬส จบการศึกษาโรงเรียนแพทย์อายุรเวทศิริราช รุ่น 19 (แพทย์อายุรเวท รุ่น 21 เริ่มก่อตั้ง หลักสูตรปริญญาตรี สาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล) นำองค์ความรู้การแพทย์แผนไทย ซึ่งถือว่าเป็นองค์ความรู้ของชาติ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา

วิธีการรักษา ทีมแพทย์โสฬสคลินิก จะใช้เพียงแค่นิ้วมือในการรักษาด้วยวิธี
“กดจุดลีกปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (Deep Acupressure and Muscle Restructuring)” ผสมผลานกับ “การบำบัด

Trigger Points คืออะไร ทำไม? จึงสำคัญต่อการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง”พร้อมสาธิตวิธีทดสอบความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกข้อต่อเบื้องต้น

จุดกดเจ็บ (Trigger Points Therapy) เป็นเทคนิคเฉพาะที่ได้ประยุกต์และพัฒนาจากประสบการณ์การรักษา ซึ่งเป็นอีกทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดย ไม่มีการบิด ดัด กระดูก ไม่มีการใช้ยา ไม่มีการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆซึ่งการรักษาส่วนใหญ่มักจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่อาจจะไม่หายปวด 100% เนื่องจากผู้ป่วยมักมี

อาการปวดมาระยะเวลานาน จนมีการสะสมความตึงตัว แข็งเกร็ง ของปม Tigger Points ดังนั้น ในช่วงแรกของการรักษาแพทย์จึงแนะนำให้ผู้ป่วยมารักษาต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกลับไปตึงตัว ในระดับเดิมอีกสำหรับระยะเวลาในการรักษาของแพทย์ จะไม่มีการจำกัดเวลา แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาการรักษาครั้งละประมาณ 30-50 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของปม Trigger Points ระยะเวลาของตัวโรค และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

โดย “หมอแต๊ก” สุธีรา ภูมิภักดี  การศึกษาปริญญาโท สาขาเภสัชวิทยา คณะบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาตรี สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ปัจจุบัน –  แพทย์แผนไทยประยุกต์ โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) คลินิกรักษาโรคไมเกรนและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

การรักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ออฟฟิสซินโดรม โดยไม่ใช้ยา คลินิกการแพทย์ทางเลือก ที่มีประสบการณ์ในการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังและไมเกรนโดยไม่ใช้ยา ด้วยวิธีการรักษาแบบการกดจุดและการปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อ (Deep Acupressure and Muscle Restructuring) ผสมผสานกับทฤษฎี การบำบัดจุดกดเจ็บ (Trigger Point Therapy) และการบำบัดปมกล้ามเนื้อ (Muscle Knot Therapy)

สุธีรา ภูมิภักดี ( หมอแต๊ก ) จบการศึกษาปริญญาโท สาขาเภสัชวิทยา คณะบัณฑิกล่าวถึงแนวทางการรักษา ไม่เกรนโดยไม่ใช้ยาการรักษาแบบแพทย์แผนไทยจะอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ  แต่ควรดำเนินการรักษากับแพทย์แผนไทยที่มีใบประกอบโรคศิลปะที่ถูกต้องตามกฎหมาย และหากกำลังดำเนินการรักษาอยู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็นโรคเดียวกันกับที่ต้องการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนไทย หรือโรคอื่น ๆ จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ทั้ง 2 ฝั่งให้ครบถ้วน

และนี่คือ โสฬสคลินิก บริการตรวจ วินิจฉัย รักษา โรคไมเกรนและกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น ปวดต้นคอ บ่า สะบัก ปวดหลัง ปวดสะโพก ปวดเข่า โดยทีมแพทย์อายุรเวทศิริราช ซึ่งมีประสบการณ์รักษามามามากกว่า 20 ปี

สามารถเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ประเมินอาการและวางแผนการรักษา ได้ฟรี ทุกวัน
เวลา 11.00 -20.00 น. โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC)

ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ค

สนใจปรึกษาแพทย์หรือนัดทำการรักษาได้ทุกวัน
0841546253 , 0612629725
ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
เปิดบริการทุกวัน 10.30 – 20.00 น.
รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลงสถานี สวนหลวง ร.9 ทางออก 2

ททท. ชวนสายลุยเปิดประสบการณ์ใหม่ Exciting South

ททท. ชวนสายลุยเปิดประสบการณ์ใหม่ Exciting South : ปักษ์ใต้ แอดเวนเจอร์ ท้าทายทุกขีดจำกัด กระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้พร้อมประกวดหนังสั้น ชิงรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปลุกอะดรีนาลีน ชวนนักเดินทางสายผจญภัยสัมผัสประสบการณ์สุดมันส์ในดินแดนปักษ์ใต้ กับโครงการ “Exciting South : ปักษ์ใต้ แอดเวนเจอร์” พร้อมกิจกรรมประกวดหนังสั้น “Exciting South Short Film Challenge” ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท

ภาคใต้ : สวรรค์ของนักผจญภัย
ภาคใต้ไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวย หาดทรายขาว แต่ยังเป็นขุมทรัพย์ของกิจกรรมผจญภัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งทะเล ป่าเขา น้ำตก และวัฒนธรรมที่โดดเด่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปี 2566 พบว่ามีการเดินทางท่องเที่ยวภาคใต้สูงถึง 70% และเพิ่มขึ้นอีก 25.73% ในปี 2567 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยววัย 18-35 ปี ที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ รักกิจกรรมกลางแจ้ง ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และพร้อมแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย 7 หมวดกิจกรรมสุดมันส์ : ท้าทายทุกขีดจำกัด

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า “ททท. มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและน่าจดจำ ภายใต้แคมเปญ ‘สุขทันที ที่เที่ยวไทย’ โครงการ “Exciting South : ปักษ์ใต้ แอดเวนเจอร์” จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อชวนนักท่องเที่ยวสายลุยไปพิชิตจุดหมายใหม่ ๆ และสนุกกับ 7 หมวดกิจกรรมกระตุ้นอะดรีนาลีน ได้แก่

• Trekking & Hiking: เดินป่า ปีนเขา สัมผัสธรรมชาติอันงดงาม

• Water Adventure: กีฬาทางน้ำ ดำน้ำ สำรวจโลกใต้ทะเล

• Rock Climbing & Rappelling: ปีนหน้าผา โรยตัว ท้าทายความกล้า

• Off-road & ATV: ขับรถลุย สนุกกับเส้นทางสุดโหด

• Zipline & Paragliding: โหนสลิง บินร่ม สัมผัสความตื่นเต้นเหนือจินตนาการ

• Caving & Spelunking: สำรวจถ้ำ ลอดถ้ำ ผจญภัยในโลกใต้ดิน

• Eco Adventure: ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

การท่องเที่ยวแนวผจญภัยไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้น แต่ยังส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ททท. จึงมุ่งมั่นประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการท่องเที่ยวผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อกระตุ้นการจองและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจท่องเที่ยวในภาคใต้”

“Exciting South Short Film Challenge : โชว์ไอเดียสุดสร้างสรรค์”
ททท. ชวนนักเดินทางสายผจญภัย ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการท่องเที่ยวสุดมันส์ในภาคใต้ ผ่านกิจกรรมประกวดหนังสั้น ภายใต้แนวคิด “ตะลุยให้โลกจำ” ความยาว 3-10 นาที ชิงรางวัลรวมกว่า 100,000 บาท เปิดรับผลงานทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีม เปิดรับผลงาน วันนี้ – 16 พฤษภาคม 2568 และประกาศผล 1 มิถุนายน 2568

อ่านกติกาและเงื่อนไขร่วมกิจกรรม รายละเอียดรางวัล และช่องทางส่งผลงานทาง🔗 https://linktr.ee/exciting.south

4 เส้นทางแอดเวนเจอร์ : รอให้คุณไปพิชิต เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดท้าทายในดินแดนปักษ์ใต้ 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
• Facebook Page: Exciting South – ปักษ์ใต้แอดเวนเจอร์
• LINE Official Account : @exciting.south

#ท้าทายทุกเส้นทางAdventureทุกMoment
#ExcitingSouth #ปักษ์ใต้แอดเวนเจอร์

บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส ซื้อ 1 ฟรี 1 ซอง เพียง 39 บาท

หน้าร้อนนี้ผิวดี พร้อมข้อเข่าแข็งแรง ซื้อได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่น

ซัมเมอร์ เมษานี้ บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด จัดโปรโมชั่นสุดคุ้มเพื่อสาวๆ “บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ขนาดซองบรรจุ 7,200 มิลลิกรัม เข้มข้นด้วยสารสกัดที่จะช่วยดูแลผิวและข้อเข่า ซื้อ 1 ซอง ฟรีอีก 1 ซอง พิเศษเพียง
39 บาท จากปกติราคา 78 บาท และสมาชิก All Member รับ 1 เหรียญ สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 23 เมษายน 2568 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ใกล้บ้าน เป็นคอลลาเจน เกรดพรีเมี่ยม อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขายดีและรับประกันคุณภาพจากบีไชน์ อยากให้ทุกคนได้ลองทาน ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย 

“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ขั้นสุดของคอลลาเจนที่ดี ดูแลได้มากกว่าผิว ผสาน 5 คุณประโยชน์เน้นๆ ได้แก่ ไดเปปไทด์คอลลาเจนจากปลา 7000 มิลลิกรัม นวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด ดูดซึมได้ดีที่สุด โดยคอลลาเจนไดเปปไทด์สกัด เฉพาะ 2 คู่ ที่เรียกว่า PO และ OG ทำให้
มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับไดเปปไทด์ทั่วไป ผสาน สารสกัดจากซีบัคธอร์น, สารสกัดจากว่านหางจระเข้, วิตามินซี และวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวให้สวยเนียนใส ตึงกระชับ ลดริ้วรอย พร้อมเสริมข้อเข่าให้แข็งแรง สุขภาพดี เพิ่มมวลกระดูกให้มากขึ้น ลดอาการปวดเข่าจากข้อเข่าอักเสบ รับประทานวันละ 1 ซอง ก่อนอาหารเช้า อย่างน้อย 30 นาที วิธีชง : ชงละลายน้ำดื่ม 200 มล. สามารถผสมกับเครื่องดื่มและอาหารได้หลากหลายตามที่ต้องการ เช่น น้ำเปล่า ชา กาแฟ นม น้ำผลไม้ หรือเติมปรุงในอาหารต่างๆ เช่น ซุป โยเกิร์ต น้ำสลัด โดยไม่ทำให้รสชาติของอาหารเปลี่ยนแปลง

“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” คอลลาเจนแท้จากปลา นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น   เกรดพรีเมี่ยม ละลายง่าย ไม่คาว ไม่ใส่สี ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งรส ไม่มีไขมัน ไม่เติมน้ำตาล ปลอดภัยไม่มีสารตกค้างในร่างกาย ทานได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว จนถึงคนที่มีอายุ 40+ ขึ้นไป เติมสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ บำรุงทั้งผิว และช่วยปัญหาข้อเข่าเสื่อม บรรเทาอาการปวดและกลับมาแข็งแรงเดินได้อย่างมั่นคง 

สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและดูข้อมูลเพิ่มเติมของ
“บีไชน์ ไดเปปไทด์ คอลลาเจน พลัส” ได้ที่ www.bshine.co.th, FB : https://www.facebook.com/BnpHealth และ Line : @Bshine

บางกอกแอร์เวย์ส กางแผนปี 68 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน

บางกอกแอร์เวย์ส กางแผนปี 68 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคนยอดจองล่วงหน้าเส้นทางสมุยโต 14% ยกระดับแบรนด์มัดใจนักเดินทางทั่วโลก ตอกย้ำการเป็นสายการบินชั้นนำในภูมิภาค

กรุงเทพฯ, 28 มีนาคม 2568 – บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นำโดย นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แถลงทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจบริษัทฯ ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี และ นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด โดยปี 2568 ตั้งเป้ายอดผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน พร้อมแผนรองรับอุปสงค์การเดินทางที่เพิ่มขึ้นในมิติที่สำคัญ ตลอดจนแคมเปญการตลาด ความร่วมมือกับหลากพันธมิตรชั้นนำ เพื่อพัฒนาแบรนด์ สร้างรายได้ และการเดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืน

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมการบินโลกว่ามีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ระบุว่า หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอุปสงค์การเดินทางทางอากาศเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลก และแนวโน้มนี้ก็สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯ คาดการณ์จำนวนเที่ยวบิน 48,077 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 82% ขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยประมาณ 4,200 บาทต่อที่นั่ง ทั้งนี้ แนวโน้มการเดินทางในปีนี้ เส้นทางสมุย ยังคงเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในช่วงเดือนมีนาคม – กันยายน 2568 เพิ่มขึ้น 14% โดยบริษัทฯ วางแผนกลับมาให้บริการเส้นทาง สมุย-กัวลาลัมเปอร์ วันละ 1 เที่ยวบิน ในไตรมาส 4 เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารจากยุโรปที่เดินทางผ่านทางสนามบินกัวลาลัมเปอร์
ปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการเที่ยวบินสู่ 19 จุดหมายปลายทาง ประกอบด้วยภายในประเทศ 11 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) เกาะสมุย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ตราด ลำปาง แม่ฮ่องสอน สุโขทัย หาดใหญ่ อู่ตะเภา และจุดหมายปลายทางต่างประเทศ 8 แห่ง ได้แก่ มัลดีฟส์ สิงคโปร์ เสียมเรียบ พนมเปญ หลวงพระบาง ฮ่องกง เฉิงตู ฉงชิ่ง

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสายการบิน ปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partners) รวมทั้งสิ้นจำนวน 30 สายการบิน และมีสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) กว่า 70 สายการบินทั่วโลกด้านบริหารจัดการฝูงบินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้นรวม 25 ลำ และมีแผนจะปรับฝูงบิน (Re-fleet) เครื่องบินรุ่น ATR72-600 รวมทั้งสิ้น 12 ลำ โดยมีกำหนดทยอยส่งมอบระหว่างปี 2569 ถึงปี 2571 นายพุฒิพงศ์ กล่าว

ในส่วนการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสนามบิน บริษัทฯ มีแผนปรับปรุงอาคารผู้โดยสารของสนามบินสมุย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนสนามบินตราดมีแผนขยายรันเวย์ เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินแบบไอพ่นได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ

สำหรับแผนการลงทุนโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภานั้น ล่าสุด บริษัทฯ และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อยกระดับความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำศักยภาพสายการบินชั้นนำระดับภูมิภาค บริษัทฯ เตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับนานาชาติ “AAPA Assembly of President 2025” ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 14 -15 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้นำระดับสูงของสายการบินสมาชิกกว่า 250 ท่าน จาก 18 สายการบิน รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรกำกับดูแลระดับโลกอย่าง ICAO และ IATA หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบิน ผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำ และพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก เข้าร่วมงาน ซึ่งการประชุมนี้นับเป็นเวทียุทธศาสตร์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค

นายพุฒิพงศ์ ยังกล่าวถึงนโยบายด้านความยั่งยืนของบริษัท ฯ ในปี 2568 ที่ยังคงยึดหลักแนวคิด ESG ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบใน 3 ด้าน ด้านสิ่งแวดล้อม ได้สานต่อโครงการ Low Carbon Skies by Bangkok Airways มุ่งเน้นลดการปล่อยคาร์บอน สอดรับพันธกิจภาคการบินโลกสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon Emission 2050 การบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ล่าสุด เข้าร่วมโครงการมุ่งสู่ Net Zero ด้วยวิธี Science Based Target เพื่อสร้าง Roadmap ที่ชัดเจน ด้านสังคม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้ การดูแลสิทธิมนุษยชน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ขณะที่ ด้านธรรมาภิบาล ยังคงเน้นความโปร่งใส การปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct) ความพึงพอใจของลูกค้า และการนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการยกระดับคะแนนประเมินความยั่งยืน FTSE Russell ESG Scores ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณานำมาใช้ โดยมีกำหนดเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2569


นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ภาพรวมผลการดำเนินการด้านการเงินของปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 26,041 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวม 20,638 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 3,798 ล้านบาท ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 เป็นจำนวน 5,454 ล้านบาท อัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) อยู่ที่ 28% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทในปี 2567 ที่ 2.53 เท่า

นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ด้านแผนการขายในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายและรายได้ คาดการณ์ส่วนแบ่งช่องทางการขายบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์เป็นสัดส่วน 28% และช่องทางอื่น 72% (BSP Agent, Online Travel Agent, Call Center, Etc.) โดยเป็นการขายผ่านช่องทางเชื่อมต่อตรงผ่านระบบ 32% ตลาดภายในประเทศ 18% และตลาดต่างประเทศ 50% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยยังมีความต้องการสูงและยังคงแข็งแกร่ง โดยวางแผนการขายเชิงรุกสำหรับตลาดต่างประเทศกลุ่มใหม่ อาทิ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประเทศในแถบละตินอเมริกา และตุรกี โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงาน GSA รวมทั้งสิ้น 26 แห่งทั่วโลก

สำหรับกลยุทธ์การขายมี 4 แนวทาง ได้แก่ การมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะการต่อยอดการขาย จากกระแสซีรีส์ “White Lotus Season 3” โดยจับกลุ่มลูกค้าที่ตามรอยซีรีส์ เน้นกลุ่มประเทศ อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ออสเตรเลีย นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นตลาดที่เติบโตสูง เช่น คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย ตลาดที่มีฟรีวีซ่า เช่น อินเดีย และจีน ขยายการเชื่อมต่อตรงผ่านระบบกลุ่ม API/NDC/Direct Connect ให้มากขึ้นเพราะเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับสายการบินในยุคดิจิทัล ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เนื่องจากแนวโน้มปัจจุบันลูกค้านิยมซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา (Metasearch) และตัวแทนจำหน่ายตั๋วออนไลน์ (OTA) ช่วยให้สายการบินกระจายการขายตั๋วไปยังตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขายผ่านแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร ซึ่งเป็นการขายร่วม (Codeshare) บนบัตรโดยสารของสายการบินพันธมิตรผ่านช่องทางบนระบบแบบเชื่อมต่อตรง ช่วยขยายช่องทางการขาย และเพิ่มฐานลูกค้าแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร เริ่มจากสายการบินแควนตัสบนระบบ QDP และพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อขยายความร่วมมือต่อไป เช่น สายการบิน Thai Airways, British Airways, Lufthansa Group, Emirates, Etihad, Eva Air เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เตรียมปรับโฉมระบบสำรองที่นั่งออนไลน์ใหม่ เป็น RefX (Reference Experience) หรือ Digital Commerce พัฒนาโดยบริษัทอะมาดิอุส เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าถึงข้อมูลเที่ยวบิน ราคา และบริการเสริมได้ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้น
ไฮไลท์กลยุทธ์สื่อสารการตลาดปี 2568 เปิดตัวภายใต้ธีม “Awesome Experience” มุ่งสร้างการเดินทางสู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่มีความหมายกับผู้โดยสารทุกกลุ่ม โดยเน้นการบริการที่พิเศษ สะดวกสบาย และให้ความสำคัญกับความยั่งยืน พร้อมส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิด “ดีต่อใจ” โดยแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ “ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์” เริ่มเผยแพร่บนทุกช่องทางแล้ววันนี้

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของปีนี้ ได้เตรียมจัด Pop-up Boutique Experience ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สมุย ตราด สุโขทัย และเชียงใหม่ โดยนำเสนอประสบการณ์อาหารที่หลากหลาย ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือประเพณีอันแท้จริงของชุมชนเอาไว้ อาทิ ในเดือนเมษายน สนามบินสุวรรณภูมิ จะให้บริการไอศกรีมที่รังสรรค์รสชาติจากจินตนาการ (Jin – Ta Icecream)

และพลาดไม่ได้ กับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา Bangkok Airways Boutique Series 2025 รายการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พบกับ 3 เส้นทางวิ่งใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (สมุย) ตราด สุโขทัย เสื้อวิ่งออกแบบโดยศิลปินอิสระ ‘Underhatdaddy’ ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแต่ละจุดหมายปลายทาง และร่วมวิ่งไปกับ 3 ศิลปินชื่อดัง ‘ตู่ ภพธร’ 22 มิถุนายน ที่เกาะสมุย ‘โตโน่ ภาคิน’ 17 สิงหาคม ที่จ.ตราด และ ‘เทศน์ ไมรอน’ 28 กันยายน ที่จ.สุโขทัย

อีกหนึ่งกลยุทธ์แบรนด์เพื่อเข้าถึงใจลูกค้า และตอกย้ำภาพลักษณ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่สามารถครองใจผู้โดยสารทั่วโลก กับแชมป์ 8 ปีซ้อน Skytrax Award สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก และสายการบินระดับภูมิภาคดีที่สุดในเอเชีย ล่าสุดจับมือกับ PUMA สปอร์ตแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Be The First Move For Better Together” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับการให้บริการ

Mr.Nandor von der Luehe เจ้าของและผู้บริหาร The Barrel House

นันดอร์ ฟอน เดอร์ ลือเหอ เจ้าของและผู้บริหาร The Barrel House พัทยาให้เกียรติต้อนรับ Toptotravel สู่บ้านพันส่วนตัวโครงการบ้านหรู 100 ล้านบาท ย่านพัทยา บนทำเลทองของเขาพระตำหนัก ใกล้ชายหาด และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ บ้านพักเห็นวิวทะเล วิวเมือง และวิวภูเขาแบบพาโนรามา เป็นบ้านพักที่ได้สัมผัสความเป็นส่วนตัว และคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเส้นทางอาชีพของ Mr.Ferdinand (Nandor) von der Luehe  ตั้งแต่จุดเริ่มที่มีโอกาสทำงานในเมืองไทย จนประสบความสำเร็จในเมืองไทย Mr.Ferdinand (Nandor) von der Luehe ทำธุรกิจเมืองไทยมา 30 กว่าปี อดีต รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและประธานคณะทำงานป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชั่น หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน ผู้บริหารของ The Barrel House พัทยา

เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา เฟอร์ดินานด์ (นันดอร์) ฟอน เดอร์ ลือเหอ  ประธานบริหารThe Barrel House พัทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญและเป็นตลาดยุทธศาสตร์ในเอเซียอย่างมาก การทำร้านอาหารเหมือนการเล่าเรื่อง เรื่องเล่าของร้าน เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา ที่เต็มไปด้วยความสุข และยังเป็นสถานที่คนทั่วโลกนิยมมาท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยเป็นทำเลหรือประตูสู่เอเซียทั้งหมด และที่พัทยาเป็นหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวและการบริการที่เฟื่องฟูที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งยังมีศักยภาพในการพัฒนาที่แข็งแกร่งสำหรับการทำธุรกิจอีกด้วย

“นันดอร์ ฟอน เดอร์ ลือเหอ เล่าต่อว่า การบริหารงานโดยวางตำแหน่งของพัทยาเป็นธุรกิจในการรุกตลาดลูกค้าไทย และลูกค้านักท่องเที่ยวต่างประเทศ การขยายตัวจากนี้ไปของ เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา ตามแผนการลงทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจของตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

 ปัจจุบันเดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา เสริฟเครื่องดื่มเยอรมันรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านเพลิดเพลินและผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ เต็มอิ่มไปกับความสนุกสนานที่ร้านแฮงเอาต์ดี ๆ พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและเบียร์สูตรพิเศษ รวมถึงอาหารสไตล์ European & Thai


การออกแบบร้าน ถูกตกแต่งโดดเด่นสะดุดตาด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อทำให้มีกลิ่นอาย แฝงบรรยากาศสบาย ๆ โดยมีโซนที่นั่งหลากหลายให้สามารถเลือกแฮงเอาต์โซนด้านหน้ากึ่ง Outdoor  รับลมชมวิวอันแสนสบาย หรือโซนด้านในที่พร้อมให้มาดื่มด่ำกับเสียงดนตรีสดจาก Live Music  เติมเต็มโมเมนต์แห่งการแฮงเอาต์สำหรับเมนูอาหารของทางร้านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีทั้งแบบ Local และนำเข้ามาในไทย สู่การรังสรรค์อย่างพิถีพิถันและใส่ใจโดยเชฟมากประสบการณ์ https://thebarrelhouse.co.th/menu-images/

การทำธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตอธิบายถึงแนวคิดการลงทุน จากประสบการณ์ทำงานร่วมกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ปรับปรับวิธีการพัฒนาตนเอง ซึ่ง สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อที่เราจะได้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จและเป็นผู้เชี่ยวชาญ 

The Barrel House Pattaya
333/38-40 Nong Prue Bang Lamung – Pattaya Cityinfo@thebarrelhouse.co.th097 932 9659

The Barrel House Pattaya

ร้านลับใหม่ล่าสุด ในพัทยา ที่นี่เราได้พบกัยเครื่องดื่มที่ปรุงแบบเยอรมันต้นตำรับ วันนี้จะพามารู้จักกับร้านลับใหม่ล่าสุดที่พัทยา เป็นร้านอาหารสเปน ในบรรยากาศค่ำคืนที่เอาตัวเองไปอยู่ในต่างประเทศ ชื่อร้าน The Barrel House นำเสนอการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของอาหารเลิศรส ไวน์ชั้นดี และเบียร์ฝีมือดี ซึ่งคัดสรรโดยเชฟจอร์ดี ฟรานเกส กีเตราส เชฟใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ  เดอะบาเรลเฮ้าส์ บรรยากาศเหมือนหลุดไป Night Club สไตล์ต่างประเทศ เต็มอิ่มไปกับความสนุกสนานที่ร้านแฮงเอาต์ดี ๆ พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและเบียร์สูตรพิเศษ รวมถึงอาหารสไตล์ European & Thai แสนอร่อยให้เอ็นจอยในทุก ๆ ค่ำคืน

ร้าน The Barrel House อันเป็นที่มาของชื่อร้านแห่งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความประณีต พิถีพิถัน และรายละเอียดอันงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านทุกองค์ประกอบของร้าน ซึ่งสะท้อนถึงความประณีต พิถีพิถัน และรายละเอียดอันงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านทุกองค์ประกอบของร้าน การออกแบบร้าน ถูกตกแต่งโดดเด่นสะดุดตาด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อทำให้มีกลิ่นอาย แฝงบรรยากาศนั่งแบบสบายๆ โดยมีโซนที่นั่งหลากหลายให้สามารถเลือกแฮงเอาต์กันได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น โซนด้านหน้า Outdoor ที่พร้อมให้นั่งชิลล์ ๆ รับลมชมวิวอันแสนสบาย หรือโซนด้านในที่พร้อมให้มาดื่มด่ำกับเสียงดนตรีสดจาก Live Music
ได้แบบเพลิน ๆ เติมเต็มโมเมนต์แห่งการแฮงเอาต์ให้ลงท้ายด้วยความประทับใจ

โดยเชฟจอร์ดี ฟรานเกส กีเตราส พร้อมรังสรรค์เมนูพิเศษความอร่อยสไตล์สเปนมีประสบการณ์มากมายจากร้านอาหารมิชลินสตาร์ รังสรรค์หลากหลายเมน มีสไตล์การปรุงอาหารที่โดดเด่น และเน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบตามฤดูกาล ที่นำเมนูขึ้นชื่อของสเปน มาเสนอหรืออาหารเรียกน้ำย่อย สูตรเฉพาะของทางร้าน แต่ขอบอกว่าอิ่มอร่อยด้วยรสชาติถึงรสแน่นอน นอกจากนี้ทางร้านยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ นำข้าจากต่างประเทศ ผสมผสานไปกับวัตถุดิบท้องถิ่นของประเทศไทย ดื่มด่ำเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มเยอรมันไปกับเบียร์สูตรพิเศษ และเมนูไวน์หลากหลาย รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เครื่องดื่มที่ปรุงแบบเยอรมันต้นตำรับ จับคู่กับอาหารรสเลิศ

สำหรับเมนูอาหารของทางร้านโดดเด่นด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ทั้งแบบ Local และนำเข้ามาในไทย สู่การรังสรรค์อย่างพิถีพิถันและใส่ใจ โดยเชฟมากประสบการณ์ นำเสนอเมนูอาหารสไตล์ European & Thai ตอบโจทย์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เหมาะแก่การนำมา Pairing คู่กับเครื่องดื่มแก้วโปรดที่ช่วยชูรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น The Barrel House

The Barrel House เป็นร้านแฮงค์เอาท์ที่เสมือนนั่งอยู่ต่างประเทศที่เปิดทุกวันพิกัด ย่านนาจอมเทียน ถนนทัพพระยา ก่อนถึงทางขึ้นเขาพระตำหนัก
เปิดทุกวัน 15.00 – 00.00 น.

Location: The Barrel House Pattaya, Thappraya Rd. https://maps.app.goo.gl/qM5ZyJpyds58RRJ79

To make a reservation: m.me/TheBarrelHousePattaya

โทร. 083 948 4737 และ 097 932 9659
www.thebarrelhouse.co.th🕝

Menu: https://thebarrelhouse.co.th/menu-images/#TheBarrelHouse#TheBarrelHousePattaya#Pattaya#PattayaRestaurant#PattayaTravel#BeerLovers#CraftBeer#barrelhouse#toptotravel

เปลี่ยนทุกวันให้แสนพิเศษที่ Café de Oasis & Toby’s Pizza

CAFE DE OASIS & TOBY’S PIZZA เสิร์ฟกาแฟ เบเกอรี่ เน้นอาหารจานเดียวที่เป็นเมนูเด่นของทางร้าน โดยเสิร์ฟตั้งแต่เมนูอาหารเช้าแบบฝรั่ง ข้าวต้ม ไข่กระทะ และอาหารจานเดียว อย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ผัดกะเพราเนื้อ ข้าวผัดกากหมู พิซซ่าอบจากเตาร้อนๆ เมนูยอดนิยมของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทุกจานมีคุณภาพและรสชาติอร่อย

ภาคิน พลอยภิชา ประธานกรรมการ บริษัท เดสทินี่เอ็นเตอร์ไพร์ซ จำกัด ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งโอเอซิส สปา (Oasis Spa) จังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติทีมงาน กล่าวถึง โอเอซิส สปา สปาแถวหน้าเบอร์หนึ่งของเมืองไทยและเอเชีย รวมไปถึง Cafe de Oasis & Toby’s Pizza ธุรกิจในเครือ ที่ทำรายได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยทำเลอยู่ใกล้ศูนย์ประชุมฯ ใกล้ศูนย์ราชการ และการเดินทางสะดวก ประกอบกับเน้นบริการเป็นสิ่งสำคัญ โดยนอกจากเมนูที่คัดสรรมากกว่า 100 เมนูแล้ว ยังได้ขยายเวลาเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น

ด้วยศักยภาพของ Cafe de Oasis & Toby’s Pizza มีความผสมผสานระหว่างความเป็น Oasis กับความทันสมัย คงคอนเซปต์ของความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่และสวนสวย มีที่นั่งสบายๆ หลายโซน ทั้งห้องส่วนตัวเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติ
สีเขียวที่มีต้นไม้ล้อมรอบ มีพื้นที่การจัดวางโต๊ะอาหารที่มีระยะห่างที่มีความเป็นส่วนตัว

สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่นั่งด้านนอกใต้ร่มไม้ ที่นั่งในห้องแอร์เย็นสบาย และยังมีสวนด้านหลัง ที่สามารถจัดอีเวนต์เล็กๆ ขยายพื้นที่ให้บริการจำนวนที่นั่ง และพื้นที่การจัดประชุม เพิ่มจำนวนโต๊ะรองรับลูกค้าสังสรรค์ มาเป็นกลุ่ม โดยที่นั่งเน้นความเป็นส่วนตัว

Sourdough Bread ของ Cafe de Oasis & Toby’s Pizza

คาเฟ่ เดอ โอเอซิส ขอแนะนำ เมนูอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึง เมนูพิซซ่า (อิตาเลียนสไตล์) เบเกอรี่ ไอศกรีม และเมนูอาหารมากกว่า 100 เมนู ส่วนเมนูเครื่องดื่ม ชากาแฟ มีทั้งอาหารไทย และพิซซ่าโฮมเมด และกาแฟสูตรเฉพาะเมนูทั้งหมดใช้วัตถุดิบพืชผักปลอดภัยที่ผ่านกระบวนการล้างอย่างดี เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าอาหารทุกจานนอกจากรสชาติอร่อยแล้วยังปลอดภัยต่อสุขภาพ
หลังมื้ออาหารแสนอร่อย

Reserve your spot now!
!Cafe de Oasis & Toby’s Pizza
Line: @cafedeoasis
Call: 053-920-191

Rooftop วิวดี The Press Sky Bar

ร้านดาดฟ้าน่านั่ง The Printing House Poshtel  Luxury Hostel ถนนดินสอ เยื้องศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อันเป็นที่ตั้งของ The Printing House Poshtel – Luxury Hostel สไตล์ Industrial Loft  มีมุเดาดฟ้าน่านั่ง บรรยากาศรับลมเย็นๆ วิวสวยยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า กับวิวธรรมชาติ 360 องศา ทอดยาวสุดสายตา ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ลับเหลี่ยมฟ้า เราเดินขึ้นบันไดวนเล็กๆ ชั้น 6 เพื่อชื่นชมบรรยากาศรอบๆ เกาะรัตนโกสินทร์  อีกด้านเป็นสะพานพระราม 8 มองไปอีกฝั่งเป็นภูเขาทอง วัดราชนัดดาวรวิหาร หันด้านขวาเห็นศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถัดไปเป็น เสาชิงช้า วัดสุทัศน์ฯ ฉากหลังที่สวยงามเหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์  ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลายท่ามกลางทิวทัศน์กรุงเทพยามค่ำคืน จิบค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ที่นึ่กลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกคนเพลิดเพลินไปกับวิวกลางแจ้งและเส้นขอบฟ้า ในช่วงเย็นขณะชมพระอาทิตย์ตกดิน หรือช่วงที่มีวงดนตรี ดนตรีไพเราะ บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาทำให้หลายท่านที่มาที่นี่ชื่นชอบ

The Letter Press Café & Restaurant ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเน้นสีสันสดใสในสไตล์โมเดิร์น เน้นแสงสีคอนทราส ให้ความรู้สึกอบอุ่น รองรับลูกค้าได้ประมาณ 45 คน เรียบง่ายแฝงความหรูหรา ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่แต่ละล็อคจะมีทีวีส่วนตัว พร้อมอุปกรณ์การฟังเส่วนตัวห้องพักมีทั้งหมด 15 ห้อง 6 แบบ โดยแบ่งออกเป็น  Family Suiteจำนวน 1 ห้อง, Private room จำนวน 3 ห้อง, Six Bunk Beds Ladies, Four Bunk Beds share Bathroom, Six Bunk Beds share bathroom, Eight Bunk Beds

เมนูอาหารหลากหลายพร้อม  ดื่มด่ำบรรยากาศแบบสบายๆ และมีบาร์เสริฟเครื่องดื่มตลอด ส่วนชั้น 6 เป็น rooftopเห็นวิวรอบๆเกาะรัตนโกสินทร์ทิวทัศน์ 360 องศา สามารถนำเครื่องดื่ม ไปจิบเบาๆเคล้าบรรยากาศได้อีกด้วย ศุกร์-เสาร์ พบกันวงดูโอที่จะมาให้ความเพลิดเพลินอย่างจุใจ และในค่ำคืนนี้เป็นการแนะนำเมนูใหม่ที่จะให้ลูกค้าได้เลือกสรรแบบไม่ซ้ำ

เมนูใหม่ที่ The Press Sky  Bar  อยู่บริเวณชั้น 5 และชั้น 6ของ The Printing House Poshtel เป็น open bar ท่ามกลางบรรยากาศกรุงเทพ  เหมาะมากกับการนัดปาร์ตี้เบาๆ ชมชิลวิวภูเขาทอง หรือทานข้าวมื้อเย็นเป็นหมู่คณะหรือมาแบบส่วนตัว เครื่องดื่ม หลากหลาย   ทั้งไม่มีแอลกฮอล์และมีแอลกฮอล์ สามารถนำเครื่องดื่มขึ้นมาจิบเบา ๆ เคล้าบรรยากาศได้อีกด้วย และช่วงวันศุกร์ วันเสาร์ พบกับวงดูโอที่มาให้ความเพลิดเพลินอย่างจุใจ และในค่ำคืนนี้เป็นการแนะนำเมนูใหม่ที่จะให้ลูกค้าได้เลือกสรรแบบไม่ซ้ำ เครื่องดื่ม Cocktail และ Moctail ที่เป็น Singnature ล้วนแล้วแต่คิดค้นขึ้นมาเองจึงหาดื่มเฉพาะที่นี่เท่านั้น และ Press Twilight ม๊อคเทลสูตรพิเศษ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาสำหรับที่นี่

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ 099-439-1331
หรือ 094-934-4848​
The Press Sky Bar เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์
ตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.00 น.

𝐓𝐡𝐞 𝐏𝐫𝐞𝐬𝐬 𝐒𝐤𝐲 𝐁𝐚𝐫 𝐌𝐚𝐩
https://goo.gl/maps/o197w8jyNtP3nsxo7 

𝐃𝐞𝐥𝐢𝐯𝐞𝐫𝐲 . 𝐋𝐢𝐧𝐞 𝐌𝐚𝐧: https://wongn.ai/21ZX49

𝐆𝐫𝐚𝐛 𝐋𝐢𝐧𝐤: https://grab.onelink.me/2695613898?pid=inappsharing