Category Archives: Lifestyle

คุยกับ คุณพธู ณ สงขลา เปิดความสำเร็จผู้นำด้านการท่องเที่ยวเกาหลีใต้

Toptotravel ได้มีโอกาสพิเศษที่ได้พูดคุยกับ คุณพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True world Travel ผู้นำด้านการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ เบื้องหลังความสำเร็จเกี่ยวกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นช่วงเวลาต่อไปนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยว หลายคนบอกว่าอยากไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แน่นอน…

เกาหลีใต้เป็นจุดมุ่งหมายที่หลายคนใฝ่ฝันและวางแผนการท่องเที่ยวหรือหลายคนก็ไปมาแล้ว และหากต้องการเที่ยวที่ไม่ต้องวางแผนการเดินทางเอง ไม่ต้องหาที่พักเอง ไม่ต้องหาแหล่งเที่ยวเอง ไม่ต้องหาร้านอาหารเอง มีที่หนึ่งที่อยากแนะนำ และสิ่งที่ทำให้
สามารถจัดการทุกอย่างให้ได้ทั้งหมดคือ True World Travel บริษัททัวร์ที่เปิดมายาวนานมากกว่าสิบปี โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ล่าสุดเตือนภัยจากกรณีแก๊งค์คอลเซนเตอร์ระบาดหนัก ทำอย่างไรให้ป้องกันโดนมิจฉาชีพหลอกลวง และในอนาคตจะมีปัจจัยความเสี่ยงอะไรเข้ามากระทบบ้างหรือไม่ ทำให้เราต้องบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ไปพร้อมกับการพัฒนา แก้ไขปัญหา ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

สิบกว่าปีแห่งการก่อตั้ง ทิศทางรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอย่างไร
คุณพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True World Travel ผู้นำด้านการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ เล่าให้ฟังว่า …เริ่มเดิมทีเป็นไกด์พาคนไทยเที่ยวเกาหลีใต้มาก่อน ในช่วงนั้นเราก็ได้เห็นวัฒนธรรมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ได้เห็นมุมมองแปลกๆ ได้เห็นเสน่ห์ของประเทศเกาหลีใต้ ทำให้หลงเสน่ห์เกาหลีใต้ อีกทั้งเรารู้ว่าลูกทัวร์ต้องการอะไร เรามีพาร์ทเนอร์เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เชี่ยวชาญในประเทศเกาหลีใต้ จึงจับมือกันกับแลนด์ โอปะเรชั่น ตั้งบริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล ขึ้นมา ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2555
โดยเราจัดให้คนไทยไปเมืองที่นิยมไปเที่ยว กรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ มหานครปูซาน เมืองท่าอันดับหนึ่งของเกาหลี รวมถึงเกาะมรดกโลกอย่างเกาะเจจู ดินแดนที่ใครไปก็หลงเสน่ห์ เพราะคือธรรมชาติที่แท้จริง หาได้ยากมาก

แหล่งเที่ยวในกรุงโซล สามารถรักษาอันดับการเติบโตในเชิงรายได้มากน้อยเพียงใดกรุงโซล ส่วนใหญ่เน้นช้อปปิ้ง แฟชั่น ความงาม แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อยู่ และตอนนี้เราจัดแพคเกจที่ไม่เหมือนใคร และทำขึ้นครั้งแรกกระแสตอบรับดีมาก โดยการเที่ยวกับทัวร์กึ่งเที่ยวด้วยตัวเอง โดยวันแรกมีไกด์ให้บริการและพาเที่ยว โดยที่เที่ยวที่พาไปก็เป็นแหล่งเที่ยวที่คนนิยมไปเช็คอินกันเช่น ห้องสมุด Starfield Library สายมูต้องไป พาไปไหว้พระที่ วัดพงอึนซา วัดเก่าแก่เป็นพันปี พาไปถ่ายรูปที่คลองชองกเยซอน หนึ่งในสัญญลักษณ์ของเกาหลีใต้และโรงแรมที่พักแน่นอนเราอยากให้คนไปเที่ยวเกาหลีในแบบที่ท่องเที่ยวเองสะดวก จึงเลือกโรงแรมที่คนไทยรู้จักกันดี นั่นคือย่านเมียงดง ทงแดมุน
เมื่อลงจากโรงแรมเดินไปช้อปปิ้งได้เลย และวันสุดท้ายก็ไม่ต้องกังวล ไกด์จะมารับที่โรงแรมสัมภาระเยอะขนาดไหนก็สามารถนำขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปยังสนามบินได้อย่างสะดวกสบาย เราให้คนไทยได้ไปเที่ยวกันจ่ายไม่ถึง 10,000 บาท 4 วัน 2 คืน รวมที่พัก 2 คืน ตั๋วเครื่องบิน พาเดินทางท่องเที่ยว
หรือจะท่องเที่ยวในแพคเกจแบบเดินทางกับไกด์และเที่ยวด้วยตัวเอง ก็ได้ทั้งสองแบบ เราพยายามตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคสมัยนี้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้”

ปูซาน – โพฮัง
สำหรับเมืองที่กระแสเริ่มมาแรง อีกเมืองหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ คือ “มหานครปูซาน” ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล เผยว่า “….เพราะเป็นเมืองทะเล เมืองของกินอร่อย ถ่ายรูปสวย และแพคเกจเมืองปูซาน นอกจากปูซานแล้วยังพาไปเที่ยวเมืองโพฮัง เมืองที่ไปถ่ายทำซีรีส์ เรื่อง Hometown Cha Cha ซึ่งดังมากๆ หลายคนอยากตามรอยหัวหน้าฮง ได้ถ่ายรูป ได้ไปคาเฟ่พร้อมกับไปเช็คอินที่เที่ยวที่ใหม่ล่าสุด สะพาน Space walk เราให้ลูกค้าได้นอนที่โรงแรมติดชายหาดแฮอุนแด สองคืน นอกจากเห็นวิวทะเลแล้ว ยังเดินไป walking street , food street แหล่งแฮงค์เอาท์ที่ขึ้นชื่อ และไม่พลาดพาไปยังย่านช้อปปิ้ง ย่านนัมโพดง ที่เขาเรียกว่า เมียงดงแห่งปูซาน และตรงข้ามยังมีตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ รถไฟปุ๊กปิ๊ก ซึ่งตอนนี้เขาบอกว่าถ้าไปจองเองค่อนข้างยากมากๆ ส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวเองไม่ได้ขึ้น แต่ ทรู เวิลด์ สามารถทำได้
ล่าสุด ทางทรู เวิลด์ ทราเวล จัดแพคเกจท่องเที่ยว นอกจากกรุงเทพฯไปปูซานแล้ว ยังมีบินจากเชียงใหม่ไปปูซานด้วย 4 วัน 2 คืน สามารถเช็คได้ทางช่องทางการติดต่อของบริษัทฯ

เกาะเจจู
และถ้าจะไม่พูดถึงผลงานชิ้นโบว์แดงของ ทรู เวิลด์ ทราเวล คงจะไม่ได้ นั่นคือการพานักท่องเที่ยวชาวไทยบินตรงสู่เมืองมรดกโลก เกาะเจจู
ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล ได้เล่าต่อว่า “….เกาะเจจู นอกจากได้เป็นเมืองมรดกโลกแล้ว ยังติด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เราก็รู้สึกว่าเกาะเจจูน่าเที่ยวมาก อยากให้คนไทยได้ไปสัมผัส เหมือนกับที่เราได้ไปแล้วเราตกหลุมรักที่นี่ จึงเริ่มตัดสินใจเช่าเหมาลำเครื่องบิน บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเจจูเลย โดยสายการบินเจจูแอร์ โดยไม่ต้องไปรวมกับสายการบินอื่นหรือลงที่กรุงโซลก่อน เพราะไฟล์ทปกติไม่มีบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เจจู ถ้าเราไม่ทำทุกท่านก็ไม่สามารถไปลงเกาะเจจูได้ เพราะไม่มีไฟล์ทบิน เกาะเจจูมีเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าเราไปสถานที่หนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งและกลับไปยังสถานที่เดิมในอีกเวลาหนึ่งบรรยากาศจะแตกต่างกันมาก จะไม่เหมือนกันเลย เช่นการขึ้นภูเขาฮัลลาซาน ซึ่งเป็นภูเขาที่เป็นต้นกำเนิดของเกาะเจจู สูงที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ไปฤดู Autumm ต้นไม้เปลี่ยนสี ใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งภูเขา เมื่อไปช่วง Winter จะเปลี่ยนเป็นสีขาวเพราะหิมะปกคลุมทั้งภูเขา สวยงามมาก กลายเป็นว่าลูกค้าสามารถเที่ยวเกาะเจจูได้ทุกฤดูไม่เบื่อเลย”

สุด “ว้าว…เที่ยวทีเดียวสามเมือง”
และสำหรับคนที่ต้องการเดินทางแบบสองเมือง ทางบริษัท ฯ ก็ตอบโจทย์เช่นกัน “… แพคเกจใหม่ที่เราเพิ่งออกมาใหม่ คนไทยชอบเที่ยวกรุงโซลและปูซานด้วย จึงคิดว่าทำอย่างไรให้เชื่อมต่อกันถึงกันได้ เรามองถึงรถไฟความเร็วสูง KTX เราอยากให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ จึงออกแบบการท่องเที่ยวออกมาให้พักโซลสองคืนและปูซาลสองคืน และถ้าไปเจจู ปูซาน เราก็มี บินตรงไปเกาะเจจู ลูกค้าได้ไปเที่ยวธรรมชาติ ได้ทานหมูดำ อยากไปปูซานต่อเราก็จัดให้รวมตั๋วเครื่องบินภายในประเทศและพาไปเที่ยวโพฮังด้วย เราเรียกโปรแกรมนี้ว่า” ว้าว เที่ยวทีเดียวสามเมือง” คือ เจจู ปูซาน โพฮัง พร้อมเผยแผนและมอบโปรแกรมทัวร์สุดพิเศษส่งมอบให้คนไทย ส่วนโปรเด็ดๆ ของเดือนสิงหาคม ตอนนี้คือ 1 แถม 1 จ่ายคนเดียวเที่ยวได้สองคน เที่ยวแบบประทับใจ ไม่จกตา ตรงปกแน่นอน สามารถสอบถามได้ทุกช่องทางของการติดต่อของบริษัท”

ล่าสุดอยากเตือนภัยจากแก๊งคอลเซนเตอร์
ปัญหา-อุปสรรคทางด้านการจองทัวร์ท่องเที่ยวและที่สำคัญ ที่ผ่านมามีแก๊งค์คอลเซนเตอร์ได้เข้ามาหลอกล่อนักท่องเที่ยวในการจองห้องพัก และอื่นๆ ทำให้นอกจากจะไม่ได้เดินทางแล้ว ยังต้องสูญเสียเงินอีกเป็นจำนวนหลายราย ทางผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ระวังเรื่องแก๊งค์คอลเซนเตอร์ อย่าหลงเชื่อ หรือรีบตัดสินใจคล้อยตาม หากมีการขายทัวร์ในราคาที่ต่ำกว่าโปรโมชั่นของบริษัท และยิ่งถ้ารบเร้าให้รีบโอนเงินไปบัญชีบุคคลธรรมดายิ่งอันตราย ควรระวังหากมีคนที่โทรหรือทักหาเรา จากเบอร์ส่วนตัวหรือไลน์ส่วนตัว ปกติทางทรู เวิลด์ ให้แอดมินและเซลล์ทุกคนติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางของบริษัท ไลน์แอดบริษัท รวมถึงเบอร์ออฟฟิศ และเบอร์มือถือของออฟฟิศเท่านั้น ซึ่งตรวจสอบเบอร์และช่องทางการติดต่อได้ที่หน้าเพจ และการจองทัวร์ทุกครั้ง เราจะมีการออกอินวอยเรียกเก็บ ซึ่งจะมีเลข booking มีรายละเอียดชื่อโปรแกรม วันเดินทาง ยอดเงินที่ต้องชำระ และเลขบัญชีอบริษัท “ทรู เวิลด์ ทราเวล” เท่านั้น ระวังอย่าโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลเพราะนั่นคือมิจฉาชีพแน่นอน”

มุมมองความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างไร
และแน่นอนว่าจากกระแสความนิยม….การท่องเที่ยวถือเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มพลังบวกที่ให้ความสุขกับผู้ที่เดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางที่ใด และสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปกับทัวร์แบบคุณไม่ต้องกังวล เรื่องของการหาที่พัก หาตั๋วเครื่องบิน การที่ต้องจ่ายเพิ่มกับกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ หากเดินทางด้วยตัวเองหรือหากต้องการเที่ยวด้วยตัวเองบ้างในบางวัน เขาก็มีแพคเกจให้เลือก แบบเที่ยวกับทัวร์ผสมผสานกับเที่ยวด้วยตัวเอง เรียกว่าตอบโจทย์ในความต้องการของผู้เดินทางอย่างแท้จริง เพราะการดูแลลูกค้า เราเน้นเรื่องของบริการหลังการขาย และความสะดวกรวดเร็วในการรับจองผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้เราได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ เราเชื่อว่าตลาดจะเติบโต โดยในมุมของ True World Travel

อีกมุมหนึ่งนั่นคือเรื่องของความรู้ความเข้าใจ การเลือกสรรบริษัททัวร์ ที่จะเดินทางก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่เราต้องพิจารณา ซึ่งทรู เวิลด์ ทราเวล ถือเป็นหนึ่งในบริษัททัวร์ชั้นนำที่มีผู้เชี่ยวชาญในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งการันตีได้ถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ที่มีมากกว่าสิบปี ดังสโลแกนของบริษัทที่ว่า 3 ดี นั่นคือ “เที่ยวดี พักดี และราคาถูกดี” คุณพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True world
Travel ให้สัมภาษณ์ทิ้งท้าย

สามารถสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ที่ ทรู เวิลด์ ทราเวล
Line : @gotrueworld , Facebook : True World Travel
Website : gotrueworld.com โทร 02-2121-037, 02-115-0037 กด2 (จ-ศ)
098-827-7522, 062-308-7522, (ทุกวัน)
061-273-7522, 065-502-7522 (ทุกวัน)

Gaaya by Oasis Spa สปาเปิดใหม่ใจกลางย่านสุขุมวิท

GAAYA เป็นสปาพิกัดใหม่ที่ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท 39 เมื่อเดินเข้าไปในสปาตั้งแต่ก้าวแรกสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ของศิลปะแห่งความสุข ที่ให้ประโยชน์ในด้านการพัฒนาอารมณ์ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหวของร่างกาย

กับความเป็นการเข้ามาใช้บริการในสถานที่แห่งนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง หนึ่งความรื่นรมย์และความสุขใกล้ตัว เติมเต็มวันที่แสนสุขสบายด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากการนวดของเทอราปิส ผสมผสานกับน้ำมันอาโรม่าที่มีให้เลือกหลายแบบ ถืออีกหนึ่งสถานที่นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยต้องหลงรัก ในราคารสบายๆ การออกแบบตกแต่งภายในเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในท้องถิ่น สัมผัสถึงบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกถึงความสงบ ผ่านการออกแบบตกแต่งภายในด้วยสไตล์ Thai Contemporary & Modern จนถึงการเลือกใช้เสียงภายในร้านเพื่อสร้างความผ่อนคลายจากตัวเมืองที่วุ่นวายสปาจะตั้งอยู่ภายในอาคาร คอนเซ็ปของทางร้านตกแต่ง interior และ exterior design
ไปทาง Thai Contemporary & Modern เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการให้รู้สึกสบายตาและผ่อนคลาย

GAAYA by Oasis Spa ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 สปาแบบพรีเมียมที่ไม่ได้ให้แค่ความผ่อนคลายสบายตัว แต่มาพร้อมบรรยากาศสวยงามตามแบบไทย อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำมันนวดหอมระเหย บรรยากาศอบอุ่นแต่หรูหรา และหนักแน่น พนักงานก็น่ารักทุกคนเปิดรับกลิ่นหอมๆ จากนํ้ามันอาโรม่าและรับความรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่างกาย ที่นี่เลยในใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร การเดินทางสะดวกมากๆ จากสถานีพร้อมพงษ์ หรือถ้าใครเดินทางด้วยรถส่วนตัวทางร้านนี้มีที่จอดรถบริการให้ถึง 8 คัน เปิดบริการตั้งแต่ 10:00 – 22:00 น.

สนใจจองมาก่อนบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวเต็ม GAAYA by Oasis Spa สุขุมวิท 39 มีห้องบริการถึง 11 ห้อง และรับลูกค้าได้ถึง 18 ท่าน ส่วนมากผู้ที่มาใช้บริการเป็นคนไทยและต่างชาติ ในส่วนของน้ำมันนวดได้ถูกคัดสรรมาอย่างมากคุณภาพ เพราะที่ GAAYA ใช้ของมีคุณภาพ ตั้งแต่นํ้ามันนวด Gaaya by Oasis Spa ที่มีส่วนผสมหลัก Base oil คือ Jojoba oil, Sweet almond, Safflower oil เพื่อบำรุงผิวทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น บรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและอาการบวมช้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นและคืนความสดชื่นให้ผิวทั่วร่างกาย

การนวดน้ำมันอุ่นๆ ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี เทคนิคการนวดของเทอราปิสต์ที่ฝึกมาอย่างดี เป็นการปรนนิบัติผิวอีกแบบที่ช่วยให้ผิวเนียนชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้งกร้าน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ขจัดพิษออกจากร่างกายและรักษาสมดุล มีกลิ่นให้เลือกอย่าง และกลิ่นของน้ำมันนวดนี้ยังมีให้เลือกถึง 5 กลิ่น

  1. Oriental Beauty
  2. Uniquely Thai
  3. Lanna Exotic
  4. Full Bloom
  5. Be Organic Coconut

คอร์สการนวดมีให้เลือกมากมายอาทิเช่น Thai Gaaya Massage ที่นำการนวดแผนไทยเดิมเข้ามาพัฒนาให้มีความผ่อนคลายซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้คำอธิบายแก่ลูกค้าอย่างละเอียด ด้วยการนวดที่กระฉับกระเฉงเพื่อเน้นการไหลเวียนของเลือดและความผ่อนคลายที่แท้จริงเพื่อให้สะดวกแก่การตัดสินใจเลือกใช้บริการ

คอร์สการนวดมีให้เลือกมากมาย ได้แก่ คอร์ส Relax Gaaya ใช้เวลา 2 hrs. คอร์สสองชั่วโมงเป็นการผสมผสานการนวดด้วยนํ้ามันหอมระเหย ที่ใบหน้าและตบท้ายด้วยการกดจุดที่ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับลึกมากขึ้น หรือหากต้องการนวดหน้า นวดเท้า บอดี้สครับ สปาแห่งนี้ก็แบ่งห้องแบ่งโซนห้องเป็นสัดเป็นส่วนมาผ่อนคลายใช้บริการระดับพรีเมียม

คอร์สที่สอง Release Gaaya ใช้เวลา 2.5 hrs และเหมาะกับพนักงานออฟฟิศอีกด้วย เพราะจุดประสงค์ของคอร์สนี้ ก็คือการคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งและสะสมมานาน เหมาะกับคนที่เป็นออฟฟิศซินโดรมมากๆ เพราะจะมีการนวดไปตามส่วนต่างๆและนอกจากนั้นยังมีประคบช่วยลดบวมอีกด้วย

ส่วนคอร์สที่สาม Stress away Gaaya ใช้เวลา 3 hrs มุ่งไปทางการสลายความเครียด โดยจะผสมผสานการนวดเท้าและการยืดเส้นโดยผสมผสานการนวดโยคะและการนวดออฟฟิศซินโดรม สำหรับคนที่อยากผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย และมาถึงคอร์สสุดท้าย Sabai Sabai Gaaya ใช้เวลา 3 hrs เช่นกัน ปรณิบัติกายาโดยการนวดไทยเพื่อสุขภาพ เน้นไปที่การกด คลึง บีบ กดจุด ประคบด้วยสมุนไพร และการนวดน้ำมัน รวมถึงปิดท้ายด้วยการนวดนํ้ามันมะพร้าว 100% ที่จะช่วยลดความเครียด ต้านริ้วรอย และเพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว ใครที่สนใจจองมาก่อน

GAAYA by Oasis Spa
สามารถติดต่อ โทร 02-262-2133
Location: ซอยสุขุมวิท 39
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-22.00 น.
https://oasisspa.net/destination/bangkok/gaaya39/

พิซซ่าเตาถ่าน” ร้าน​ Uncle Tom’s Pizzeria วิวสวยที่สุดในเขาค้อ

เราอยู่ที่ ร้านพิซซ่าของลุงทอม ณ ผาซ่อนแก้ว

วันหยุดนี้ Toptotravel ชวนทุกท่านที่มาเที่ยวเขาค้อ เมื่อขึ้นมาไหว้พระแ ล้วอย่าลืมแวะทานพิซซ่าเตาถ่านและผัดไทยโบราณบรรยากาศที่เงียบสงบช่วยให้นั่งพักผ่อนสบายเชื่อมต่อกับธรรมชาติ มาท่องเที่ยวเขาค้อทั้งที ถ้าอยากหาร้านอาหารในเขาค้อชมบรรยากาศสวยๆ เห็นวิวทะเลหมอก รับลมเย็นสบายจะไปที่ไหนดี ? แวะมาร้านนี้คือตั้งใจมาชมวิวโดยเฉพาะ ร้านพิซซ่าของลุงทอม พิซซ่าเตาถ่าน พิซซ่าโฮมเมด

เข้าค้อ เพชรบูรณ์ อีกที่เที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติ อากาศดีที่มีเสน่ห์ มากี่ครั้งก็ยังหลงรักไม่รู้ลืม ครั้งนี้มีโอกาสไหว้พระที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ไหว้พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เรียบร้อยมานั่งทานอาหาร มองเส้นขอบฟ้า ธรรมชาติสร้าง รายล้อมด้วยภูเขา และต้นไม้เขียวขจี อากาศดี สงบเงียบ สดชื่น บรรยากาศแบบนี้ คู่กับกาแฟดีๆ เครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่น ร้านพิซซ่าของลุงทอม (Uncle Tom’s Pizzeria)

ไก่ทอดเกาหลี กรอบนอกนุ่มใน
หมื่กรอบผัดไทยสูตรโบราณ
ผัดไทยสูตรโบราณ เป็นซอสน้ำมะขาม

พิซซ่าเตาถ่าน” ร้าน​ Uncle Tom’s Pizzeria พิซซ่าของลุงทอม ณ ผาซ่อนแก้วและร้าน ผัดไทยโบราณเมืองเพชร สูตรต้นตำรับอีกหนึ่งร้านวิวสวยบรรยากาศดีพร้อมมองวิวทิวเขาแบบไม่มีอะไรกั้น ร้านน่ารักสไตล์โรงนาฝรั่ง ท่ามกลางบรรยากาศกลางหุบเขา แถมมีมุมชิคให้ถ่ายรูปและนั่งทานอาหารมาก ทั้งด้านในและด้านนอก เมนูที่นี่มีทั้งพิซซ่าสูตรต้นตำหรับจากอิตาลี แป้งบางกรอบที่มาแล้วต้องสั่ง ผัดไทยสูตรโนราณ หรือหมี่กรอบผัดไทย ร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดผาซ่อนแก้วในช่วงหน้าฝน สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้เลยทีเดียว โดยเมนูของที่ร้านมีทั้งอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพร พร้อมระเบียงชมวิวที่สามารถนั่งจิบเครื่องดื่ม ทานอาหาร ชิลไปกับบรรยากาศข้างหน้าได้เป็นอย่างดี บอกเลยว่าห้ามพลาด นั่งชิลริมระเบียง เราสามารถเห็นวิวได้แบบ 360 องศา มุมนี้ลูกค้าแวะเวียนมาลิ้มความอร่อยแบบไม่ขาดสาย

นอกจากร้านร้านพิซซ่าเตาถ่านของลุงทอม ที่ได้บรรยากาศน่ารักอบอุ่นแล้ว เมนูของทางร้าน เป็นพิซซ่าเตาถ่าน สูตรต้นตำหรับบางกรอบ จากอิตาลี ในส่วนของอาหารไทยที่หลายท่านให้ความสนใจ ผัดไทยโบราณสูตรเมืองเพชร หมี่กรอบโบราณ แนะนำเมนูใหม่ที่คุณติ่งนำเสนอ เป็นบะกุ๊ดเต๋สูตรหาดใหญ่ บ้านเกิดของลุงทอมนั่นเอง ใช้เวลาตุ๋นนานสองชั่วโมง ได้ซี่โครงเนื้อนุ่ม น้ำหอมฟุ้งด้วยเครื่องสมุนไพร กินตอนไหนก็ฟิน เพราะอากาศที่เขาค้อเย็นสบายตลอดทั้งวันเข้ามาร้านนี้แล้ว มีเมนูให้เลือกหลากหลาย อิ่มอร่อยกันได้ ในบรรยากาศ

เมนูเครื่องดื่มของร้าน นาทีนี้ยกให้ลอง “เสาวรสโซดา” เปรี้ยว ซ่าส์ เพิ่มความสดชื่นแบบเต็มๆ และเมนูน้ำสมุนไพร “อัญชัญมะนาวสด” ดื่มแล้วไม่เพียงแค่รสชาติอร่อยลงตัว แต่เหมือนเพิ่มสนุกและความมีมิติในการทานยิ่งขึ้น เอาจริงลองแล้วคุณจะติดใจ!เครื่องดื่มที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านมอบเพื่อเติมพลัง
Passion Fruit Honey Soda อัญชัญมะนาวสด น้ำลำไย

ร้านพิซซ่าของลุงทอม (Uncle Tom’s Pizzeria) บริการ “พิซซ่าเตาถ่าน” และ “พิซซ่าแป้งบางกรอบ” อบร้อนๆทุกวัน อยู่ตรง วัดผาซ่อนแก้ว” อำเภอเขาค้อ

ร้าน​ Uncle Tom’s Pizzeria
(หลังพระใหญ่พระธาตุผาซ่อนแก้ว) 248 หมู่ 7 บ้านทางแดง
สำรอง​ที่นั่ง​หรือ​สั่งอาหารล่วงหน้าได้ที่ Tel.099 335 5565 : Madam’Ting
Tel.094 169 8299 : Uncle Tom
www.uncletomspizzeria.com

#UncleTomsPizzariaAtPhaSornKeaw #เขาค้อ #พิซซ่า #เพชรบูรณ์

UncleTomsPizzariaAtPhaSornKeaw #เขาค้อ #พิซซ่า #เพชรบูรณ์#พิซซ่าลุงทอม และ #ผัดไทยโบราณเมืองเพชร

กระท่อมน้อย..คอยรัก…บางครั้งชีวิตก็ไม่ต้องการโรงแรมหรู

กระท่อมน้อยของลุงทอม ที่นอนคืนนี้ สถานที่หลบหลีกไปพักใจ เมื่อวันหยุดไม่อยากอยู่บ้าน! ……กระท่อมน้อยของลุงทอม ณ เขาค้อฟาร์มสเตย์  ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางท่ามกลางขุนเขาทุ่งนาและป่าสน

…..ที่เขาค้อ คือ อีกหนึ่งจัดหมายปลายทางที่ Toptotravel หลงรักซ้ำๆ เรากลับมากอีกครั้งในฤดูฝนพร่ำ เขาค้อพร้อมหมอกเอื่อยๆ เป็นอีกภาพที่สวยเกินคำบรรยาย  

ครั้งนี้เราใช้เวลา 3 วัน 2 คืน บ้านพักหลังที่เข้าพักในรีวิวนี้ คือบ้านหลังที่ 1 และหลังที่ 2 พักผ่อนสบายๆ บนเนื้อที่กว้างขวาง 20 กว่าไร่  แบ่งส่วนที่พักและส่วนพื้นที่สีเขียวได้อย่างลงตัว  รองรับทุกไลฟ์สไตล์ พักสบายๆ เดินเล่นชมสวนเกษตรนั่งชิลชมวิวที่หน้าห้องพัก หรือชอบนอนดูเขา ชวนมาปล่อยใจ พักที่ กระท่อมน้อยของลุงทอม ณ เขาค้อ ได้เวลาออกไปเที่ยวเติมความสดชื่นในช่วง Green Season ในหน้าฝนนี้ สัมผัสธรรมชาติสีเขียวที่สวยที่สุดในช่วงฝนพรำ
สูดอากาศบริสุทธิ์ ชาร์จพลังกันให้เต็มที่ 

ได้โอกาสเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อนในช่วงวันหยุด  ขับรถหนีความวุ่นวาย มาผ่อนคลายที่พักโฮมสเตย์ สไตล์กระท่อมน้อย เป็นฟาร์มสเตย์ อยู่ที่ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ  จังหวัดเพชรบูรณ์….แสงสวยๆ ในยามเย็นกับบรรยากาศอันแสนสดชื่น ท่ามกลางธรรมชาติ ท่ามกลางป่าเขา สบายๆ อากาศดีดีแบบนี้หายเหนื่อย มาให้ธรรมชาติโอบกอดมาสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายอยู่สบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่แสนดี  เรื่องอาหารหารกิน กลางวันหาอาหารพื้นบ้านอย่างขนมจีน  ส่วนมื้อเย็นแนะนำเป็นหมูกระทะสั่งมาทานที่กระท่อมได้เลย ย่างแบบฟินๆ และมื้อเช้าข้าวต้มจัด สลัดผัก จัดเต็มชา – กาแฟ ผลไม้สด (ดริฟกาแฟดื่มเองก็ได้นะ)

ห้องพักบ้านดินจำนวน 7 หลัง  แต่ละหลังพักได้ 2-4 คน ห้องน้ำในตัว สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา  โอบกอดด้วยทะเลภูเขา เขียวขจีฟีลกระท่อมหลังน้อยปลายนา  ภายนอกดูธรรมดากลมกลืนกับธรรมชาติ เราชอบกิมมิคที่มีชานด้านนอกบ้าน ทำให้ออกไปนั่งเล่นชมวิวป่านสน วิวเขาและนาข้าวสีเขียวเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน พักใจ มองธรรมชาติ สีเขียวดีต่อใจ ฝนตกก็จะมีหมอกขาวๆ ใครแพลนมาเที่ยวเตรียมตัวได้เลย

ใครได้ไปแล้วจะไม่อยากกลับบ้านเลย คือทั้งอากาศทั้งวิวทั้งผู้คน เหมือนบ้านหลังที่สองที่ Uncle Tom’s Cabin At Khaokho มีโซนที่พักรถบ้านคาราวานและบ้านดินสุดชิล กลางธรรมชาติ ชานนอกบ้าน ถ่ายรูปสวย นั่งกินปิ้งย่างหมูกะทะได้สบายๆ รีบมาจัดเต็มทุกความชิลล์ มาที่นี่ มันไม่ใช่การไปเที่ยว แต่มันเหมือนไปเยี่ยมบ้านพี่ที่รู้จัก 

เวลาน้อยก็เที่ยวได้ สวย อากาศดี เดินทางสะดวก พิกัด: อยู่ระหว่างทาง ก่อนขึ้นเขาค้อเลยตลาดทุ่งสมอ 1 กม.ที่พักบ้านดินฟาร์มสเตย์ และรถบ้านคาราวานพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ชวนมาพักผ่อน สัมผัสอากาศดีๆ ชื่นชมสายหมอกเย็นสบาย ท่ามกลางธรรมชาติงดงาม อากาศดีมาก เย็นสบาย โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและเงาป่า กับกลิ่นอายของท้องทุ่งนาที่เขียวขจี อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 750 เมตร ขึ้นไป บริเวณโดยรอบกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ส่วนใหญ่อาชีพทำนา พืชไร่หมุนเวียนตามฤดูกาล สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขา มีแหล่งน้ำธรรมชาติใ..พักที่นี่นอนพักกระท่อมน้อย กลางป่าสน ที่ยินดีรับครอบครัวที่มีน้องหมาน้องแมวมาด้วยโดยจัดแยกโซน

กระท่อมน้อยของลุงทอม ฟาร์มสเตย์
อยู่ที่ตำบลทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
กระท่อมแห่งความรักและอบอุ่นสนใจที่พัก ทัก in box สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือโทรติดต่อสอบถามได้ที่

โทร.  094 1698299 :ลุงทอม
โทร. 099 3355565: ป้าติ่งTel&Line 
หรือ : 086 9923999: MadamTing

https://www.facebook.com/UncleTomCabinAtKhaokho/

#รีสอร์ทเขาค้อ #ที่พักเขาค้อ #บ้านดินฟาร์มสเตย์ #ที่พักกลางธรรมชาติ #ที่พักกลางทะเลหมอก #รีสอร์ทเขาค้อ #ที่พักเงียบสงบส่วนตัว #บ้านพักเขาค้อ
#ลานกางเต๊นท์ #แคมป์ปิ้งเขาค้อ #เขาค้อเพชรบูรณ์ #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

ภายใต้หมวกกันน็อค: เจาะลึกชีวิตของมาร์ค มาร์เกซ ทั้งในและนอกสนาม

มาร์ค มาร์เกซ นักแข่งโมโตจีพีผู้ครองแชมป์หลายสมัย เป็นที่รู้จักจากสไตล์การขี่ที่เก่งกล้าพร้อมกับความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยว ดึงดูดผู้ชมทั่วโลกด้วยสุดยอดทักษะด้านการใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ ด้วยแนวทางการแข่งรถที่ไม่เหมือนใครของมาร์เกซทำให้เขาได้รับชื่อเสียงอย่างล้นหลามจากสนามแข่งในขณะที่เขาก้าวข้ามขีดจำกัดของศักยภาพตนเองอย่างหาญกล้า ตอนนี้ แฟนๆ มีโอกาสที่จะได้เจาะลึกชีวิตและเส้นทางอาชีพอันน่าหลงใหลของนักบิดระดับตำนานคนนี้ผ่านทางสารคดีที่น่าสนใจเรื่อง “Marc Márquez: ALL IN”

สไตล์การขี่ของ มาร์เกซ คือพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ ในสนามแข่ง เขาแสดงออกถึงความดุดันไม่ยอมแพ้ซึ่งทำให้เขาแตกต่างจากคู่แข่ง การหลบหลีกที่ไร้ความกลัวและการเร่งแซงอย่างท้าทายของเขาสร้างช่วงเวลาน่าประทับใจที่ทำให้ผู้ชมแทบลืมหายใจ วิธีการขับขี่ในสนามแข่งไม่ซ้ำแบบใครนี้ทำให้มาร์เกซได้รับทั้งความชื่นชมอย่างท่วมท้นและกลายเป็นที่จับตามอง ส่งผลให้เขามีสถานะเป็นบุคคลที่น่าหลงใหลในโลกโมโตจีพี

มักจะมีผู้คนถกเถียงเกี่ยวกับมาร์เกซเสมอ บ่อยครั้งจะได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนกล้าเสี่ยงหรือคนกล้าบ้าบิ่น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แชมป์โลกโมโตจีพีที่อายุน้อยที่สุดคนนี้ก็ได้ยืนหยัดและตอบโจทย์ทุกความคาดหวัง ตอกย้ำตำนานในฐานะนักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการกีฬา

“การแข่งมอเตอร์ไซค์รายการโมโตจีพีเปรียบเสมือนการเต้นรำบนคมมีดโกน ผมพัฒนาตัวเองอย่างหนัก และท้าทายข้อจำกัดที่มีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะผลักดันตัวเองและเครื่องยนต์ให้บรรลุขีดความสามารถสูงสุด มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมแตกต่าง และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมกลับมาแข่งอีกครั้ง” มาร์เกซกล่าว

แต่คนที่อยู่เบื้องหลังหมวกกันน็อคคือใคร ในสารคดีเรื่อง “Marc Márquez: ALL IN” ผู้ชมจะได้ค้นพบด้านที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในชีวิตของนักแข่งรถหนุ่ม นอกเหนือจากการขับเคี่ยวที่ดุเดือดและรวดเร็วบนสนามแข่งแล้ว สารคดียังนำเสนอเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของมาร์เกซ แรงจูงใจของเขา และความท้าทายที่เขาต้องเอาชนะเพื่อให้ได้เป็นมือโปรแห่งโมโตจีพีที่ทุกคนรู้จักเขา ตั้งแต่อายุยังน้อยจนก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในนักบิดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬา สารคดีนี้จึงเผยให้เห็นปรากฏการณ์การแข่งรถรายการนี้ในอีกแง่มุมของความเป็นมนุษย์

อย่าพลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสกับโลกแห่งความเร้าใจของมาร์ค มาร์เกซ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ติดตามชม “Marc Márquez: ALL IN” ได้ทาง Red Bull TV Thailand แล้วคุณจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแรงผลักดันที่ไม่หยุดยั้งและจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อซึ่งเป็นตัวกำหนดเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของมาร์เกซ

HKTDC จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong

องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong ขนทัพสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมจากฮ่องกงสู่ประเทศไทย เปิดโอกาสฮ่องกงร่วมมือธุรกิจไทย ในงานแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่แห่งปี

4 กรกฎาคม (กรุงเทพ ประเทศไทย) – องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) กำลังจะมีจัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong (TBTHK) ณ ใจกลางกรุงเทพมหานครในเดือนนี้ งานดังกล่าวได้นำเสนอฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรม ที่เปิดโอกาสให้แก่ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 13-14 กรกฎาคม ณ เซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด กลุ่มธุรกิจทั้งไทยและฮ่องกง จะได้รับโอกาสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจผ่านงานแสดงสินค้า สัมมนา และกิจกรรมเฟ้นหาเครือข่ายทางธุรกิจ


นาย โรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง กล่าว “สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) มีประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ทางธุรกิจอันแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานกับฮ่องกง และเป็นคู่ค้าทางการค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสอง งาน TBTHK ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ จะนำเสนอสินค้าและบริการจากฮ่องกงในอาเซียน อีกทั้งเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมการค้าระดับภูมิภาค ค้นหาคู่ค้าเพื่อลงทุน และสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและห่วงโซ่อุปทานแบบผสมผสาน

“เป้าหมายหลักของเราคือการชูจุดแข็งของฮ่องกงในด้านสินค้าและบริการ และแนะนำเสนอการพัฒนาด้านต่างๆ ของฮ่องกง เพื่อแสดงให้กลุ่มธุรกิจไทย มองฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางธุรกิจนานาชาติชั้นนำ และในฐานะแพลตฟอร์มทางธุรกิจและการลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าอย่างสูงสุดในประเทศจีน ในขณะเดียวกัน เราต้องการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มธุรกิจไทยและฮ่องกงสามารถร่วมมือกันสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่กันและกัน และรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการค้าอย่างยาวนานได้”

“โอกาสเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยหน่วยงานรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีวิสัยทัศน์ เช่นเดียวกับข้อตกลงทางการค้า เช่น เขตการค้าเสรี (FTAs) และ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ที่ช่วยประสานความร่วมมือในระดับภูมิภาค” นายโรนัลด์กล่าว

ฮ่องกงเป็นภูมิศาสตร์สำคัญของเอเชีย และทำหน้าที่ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับนานาชาติ ด้วยข้อได้เปรียบที่เด่นชัดต่างๆ ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือด้านระบบกฎหมาย การเงิน การลงทุน และภาษี ช่วยผลิตสินค้าและบริการการค้าคุณภาพสูงและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจและพัฒนาทางธุรกิจ ที่เชื่อมไปสู่ประเทศจีน ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอื่นๆ

ฮ่องกงเป็นสะพานระหว่างประเทศจีนและส่วนอื่นๆ ของโลก โดยมีบทบาทในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับกระแสเงินทุน สินค้า ข้อมูล และผู้คน เป็นสิ่งที่สำคัญเสมอมา แผนพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการ Belt and Road Initiative และเขตเศรษฐกิจ Guangdong-Hong Kong-Macao Greater Bay Area (GBA)
แผนพัฒนาเหล่านี้ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ขยายบทบาทของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การค้า การขนส่ง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม กล่าวได้ว่า ฮ่องกงเป็นพาร์ทเนอร์ในอุดมคติของบริษัทในไทยที่ต้องการค้นหาโอกาสจากเขตเศรษฐกิจพิเศษของฮ่องกงและตลาดนานาชาติ

ในปีนี้ งาน TBTHK จะเป็นแพลตฟอร์มแบบองค์รวมที่ธุรกิจการค้าของไทยจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของฮ่องกง ในฐานะประตูสู่โอกาสในประเทศจีนและตลาดระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ทางการค้าอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและฮ่องกง งานแสดงสินค้า (Trade Expo) ในครั้งนี้จะนำแสดงสินค้าคุณภาพสูงจากกว่า 100 บริษัท รวมถึง Chow Tai Fook, Green Common, B.Duck, Vita Green, Memorigin, Smart City consortium และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทจากฮ่องกงแนะนำสินค้าเหล่านี้สู่ตลาดภูมิภาค ในขณะเดียวกัน บริษัทจากไทยจะได้โอกาสพบปะกับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อการร่วมงานกันในอนาคต

ในระหว่างการรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนในครั้งนี้ บริษัทสินค้ามากมายจากฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น บริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ บ้านและของขวัญ ความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่างได้แสดงตัวอย่างงานแสดงสินค้าให้สื่อมวลชนได้รับทราบ

สินค้าที่จัดแสดงในงานประกอบด้วย

  • กระเป๋าผ้า Kapture ซึ่งผสานเทคโนโลยีแอนตี้ไวรัส BioNTex™ และผ้า upcycled จากการผลิตผ้า
  • กระบอกน้ำสุญญากาศ Camel ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีสุญญากาศมาตั้งแต่ปี 1940
  • นาฬิกา Temporis ที่มีดีไซน์ทันสมัย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ประดับด้วยคริสตัล K1 แทนกระจกเทมเปอร์ นับเป็นการยกระดับสินค้าเมื่อเทียบกับนาฬิกาข้อมือยี่ห้ออื่นๆ ในกลุ่มราคาเดียวกัน
  • นาฬิกา Romago เป็นนาฬิกาแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เริ่มธุรกิจจากการสร้างนาฬิกาหรูแบบสั่งทำเฉพาะ ปัจจุบัน แบรนด์ให้ความสำคัญกับนาฬิกาที่โดดเด่นด้านดีไซน์โก้หรู โดยใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ในการพัฒนานาฬิกาดำน้ำ
  • Derangedsign เป็นสตูดิโอออกแบบสินค้าจากฮ่องกง ที่จะจัดแสดงชุด Coexistence ซึ่งประกอบไปด้วยถาด 2 ใบที่ถูกแกะสลักเป็นรูปทรงภูมิทัศน์ เหมาะสำหรับเสิร์ฟผลไม้ ลูกอม ถั่ว และอัญมณี ชุดถาดเซ็ทนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย
  • B.Duck เป็นแบรนด์สินค้าออกแบบลิขสิทธิ์ชื่อดังจากบริษัท Semk Products Ltd. จะนำเสนอโคมไฟรูปเป็ดอันโด่งดัง

นอกจากนี้ จะมีการจัดช่วงการเสวนา (Trade Talks) ระหว่างช่วงจัดแสดงงาน ซึ่งจะเน้นย้ำข้อได้เปรียบของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการค้า ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มสินค้าปลีก องค์กร และบริษัทนวัตกรรมที่จะมาร่วมกันในช่วงการเสวนาเพื่อพูดคุยในหัวข้อต่างๆ อาทิ การรังสรรค์อนาคตของการค้าปลีก การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยลิขสิทธิ์ การเปลี่ยนโฉม E-commerce และ การโอบรับความยั่งยืนและ ESG

วันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงาน จะมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัล ซึ่งรวมไปถึงสมาร์ทโฟน นาฬิกาTourbillon แท็บเล็ต และของรางวัลอื่นๆ ผู้ร่วมงานยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินในช่วงระยะเวลาวันงาน นอกจากนี้ ยังมีโฟโต้บูธซึ่งมีฉากหลังเป็นตึกอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง พร้อมด้วยรถตุ๊กตุ๊กติดป้าย TBTHK ที่จะทำให้ผู้ร่วมงานดื่มด่ำไปกับประสบการณ์แสนสนุก อีกทั้งเป็นการโปรโมตวัฒนธรรมของฮ่องกงและฉากอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยเข้าด้วยกันอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.hktdc.com/aboutus
ติดตามเราได้ที่ Twitter @hktdc และ LinkedIn

สยามยอชท์คลับ จุดนัดพบสุดชิคแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

สยามยอชท์คลับ คือ มิติใหม่ของร้านอาหารและบาร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผู้
มาเยือน เปิดประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ พร้อมสัมผัสกับสุนทรียรสของอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และเรื่องราววัฒนธรรมการกินของกรุงเทพฯ เมืองหลวงแห่งวิถีทางวัฒนธรรมแห่งอาหารระดับโลกได้ที่ สยามยอชท์คลับ รับประทานอาหารและพบปะสังสรรค์ที่แตกแต่งไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง สยามยอชท์คลับ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยที่ผู้มาเยือนจะได้รับประสบการณ์ครบสัมผัสทั้ง 5 ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เพื่อเติมเต็มความสุขของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ได้อย่างแท้จริง

ณัฐฑินี วิเศษชัยศิลป์
Assistant Director of Marketing Communication
Royal Orchid Sheraton Hotel& Towers

วันนี้ทีมงาน Toptotravel ได้รับเกียรติจาก คุณณัฐฑินี วิเศษชัยศิลป์ Assistant Director of Marketing Communication Royal Orchid Sheraton Hotel& Towers ด้พูดคุยกันเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในบรรยากาศสบายๆเป็นกันเอง
ได้เห็นถึงแนวคิดการออกแบบอันชาญฉลาด ของ สยามยอชท์คลับ เปิดมุมมองมิติใหม่ของร้านอาหารและบาร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อันกว้างไกลและทัศนคติที่ดี หลายหลากหลายเรื่องราวสำหรับในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้

สยามยอชท์คลับ ตั้งอยู่บนโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มองเห็นบรรยากาศที่สวยงามของทั้งฝั่งเมืองเก่าและฝั่งเมืองใหม่ได้อย่างชัดเจนแล้ว
ยังอยู่ใกล้กับถนนเยาวราชและเจริญกรุง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ผสมผสานวัฒนธรรมรวมถึงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและสมัยได้อย่างลงตัว เช่นอาคารที่ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง ไปรษณีย์กลาง

สยามยอชท์คลับ ไม่ใช่เป็นเพียงร้านอาหารและบาร์ แต่เป็น ‘จุดนัดพบสุดชิคแห่งใหม่’ ของคนกรุงเทพฯ เป็นสถานที่นัดรวมตัวกันสำหรับทุกเพศทุกวัย ทั้งกลุ่มเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะมารับประทานอาหาร พบปะสังสรรค์ ประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการ ปาร์ตี้ส่วนตัวหรือกิจกรรมอื่นสามารถนั่งดื่มนั่งชิลและเพลิดเพลินกับการฟังดนตรีสด หรือฟังเพลงจากดีเจชั้นนำได้ตามชอบ รวมไปถึงทำเลและบรรยากาศที่ดีเหมาะสมและให้บริการที่ดีที่สุด

เริ่มต้นสัมผัสแรกจากความสวยงามโดดเด่นของการตกแต่งภายใน และความสะดวกสบายรวมถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้บนโต๊ะ ตามด้วยการสัมผัสได้ถึงกลิ่นเครื่องเทศของไทยและลิ้มรสชาติอาหารที่หลากหลายไปพร้อมกับจิบไวน์ชั้นเลิศระดับโลก เติมเต็มความสุขให้ครบทุกสัมผัสกับการแสดงดนตรีสดที่คอยบรรเลงขับกล่อมที่ช่วยเพิ่มสุนทรียรสของการรับประทานอาหารให้มีอรรถรสยิ่งขึ้นดำเนินไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร

โซนการทำอาหาร ที่นี่ถูกออกแบบเป็นครัวเปิด (open-kitchen) เพื่อให้มองเห็นการทำงานของเหล่าเชฟที่ประสานสัมพันธ์กันในทุกขั้นตอนของปรุงอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่ที่ผสมผสานวิธีการปรุงแบบชาวตะวันตกให้เข้ากับวัฒนธรรมการปรุงอาหารแบบเอเชียดั้งเดิม รวมถึงกระบวนการเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายของไทยซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

Crab Paccheri

ส่วนพื้นที่สำหรับรับรอง มีโซนที่นั่งให้เลือกทั้งแบบ indoor (ห้องแอร์) และนั่ง
ชิลล์ริมแม่น้ำแบบ outdoor เพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและสัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ในแบบที่เป็นคุณตามใจปรารถนา นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพีสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกัน สยามยอชท์คลับ ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดได้ได้หลากหลายรูปแบบ

อาหารที่สยามยอชท์คลับ มีคอนเซปต์และรูปแบบโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จากการรังสรรค์ โดยฝีมือเชฟนุ ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ หัวหน้าพ่อครัว สยามยอชท์คลับ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน แอนด์ ทาวเวอร์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารในสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์ ที่ผสมผสานวิธีการปรุงอาหารระหว่างอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่กับอาหารแบบเอเชียต้นตำรับ

เชฟนุ-ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ
Cod Fish Miso Glazed
Chili Garlic White Sea Prawns

เชฟนุ-ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ
หัวหน้าพ่อครัว สยามยอชท์คลับ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน แอนด์ ทาวเวอร์
ความหลงใหลในการทำอาหารของเชฟนุ เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากคุณย่า ผู้ซึ่งมักจะเรียกใช้ให้เขาช่วยงานในครัวอยู่เสมอ เชฟนุในวัยนั้นแม้จะไม่ชอบ เพราะกลัวการสัมผัสเลือดหรือเห็นเนื้อเปื้อนเลือด แต่ด้วยความรักในการทำอาหาร และได้เรียนรู้มากขึ้นจากการไปจับจ่ายซื้อของในตลาดสด จนทำให้มีความเข้าใจและกลายมาเป็นผู้ที่ความเชี่ยวชาญในการสรรหาวัตถุดิบในทุกวันนี้

Broccolini Salad
Octopus
Black onyx Black Angus, Rangers Valley farms – Rib-eye marble
Cod Fish Miso Glazed
Boston Lobster Capellini
Banana Caramel Chocolate

เส้นทางสู่อาชีพเชฟของเชฟนุ เริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เดินทางไปศึกษาด้านไอทีที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เชฟนุมีความจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงชีพควบคู่ไปกับเรียนหนังสือ เริ่มด้วยการทำงานเป็นผู้ช่วยในครัวที่ร้านอาหารไทยซึ่งเป็นของพี่สาว มีโอกาสได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ส่วนผสม ขั้นตอนและวิธีการทำอาหารไทยจากพี่สาว จนเกิดแรงบันดาลใจและมีใจรักในการทำอาหาร ดังนั้น เมื่อจบการศึกษาด้านไอทีแล้ว เชฟนุจึงเดินหน้าตามความหลงใหลของตนเอง คิดสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ ขึ้นโดยการใช้กลิ่นและรสชาติที่คล้ายคลึงกันของส่วนผสมที่หาได้แล้วนำมาดัดแปลงให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่น

Ahi Tuna
Black onyx Black Angus, Rangers Valley farms – Rib-eye marble

นอกจากนี้ เชฟนุยังเคยเป็นหัวหน้าพ่อครัวที่โรงแรมอาหารเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ความสำเร็จของเชฟนุ นั้นมาจากการที่เชฟได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานในหน้าที่ต่าง ๆ ของคนทำครัว ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยเชฟ (Commis 1) ผู้ช่วยรองหัวหน้าเชฟ (Demi Chef) เชฟประจำห้องอาหาร (Chef de Partie) รองหัวหน้าเชฟ (Sous Chef) ในโรงแรมชั้นนำระดับห้าดาวหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เชฟนุมี เชฟกอร์ดอน แรมซีย์ เป็นไอดอลและเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์และบุคลิกที่โดดเด่น โดยคติประจำใจในการทำงานของเชฟนุคือ “เมื่อสนุกกับทุกสิ่งที่ทำและทำอย่างความสุข สิ่งนั้นก็จะนำพาความสุขและความสำเร็จมาให้เรา”

นอกจากนี้ยังมีเครื่องที่เป็นซิกเนเจอร์ของสยามยอชท์คลับ อาทิ ‘Pier No.3’
(นำวิสกี้ญี่ปุ่น คาคูบิน และเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ไซรับ มาผสมผสานกันและเสิร์ฟในผลสับปะรดสดทั้งลูก) ‘Fireboat’ (เป็นการนำเหล้าวอดก้า มาลิบู คาราเมลไซรับ ขิงสด พริกและหอมแดงมาผสมผสานกัน จนได้ค็อกเทลที่รสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและสมุนไพรไทย) ‘Maritime’ (เป็นการผสมผสานเหล้าโซจูของเกาหลี กับอเปโรล เบียงโค่ เวอร์มุต สปาร์คกลิ้งไวน์ และเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมแท่งรสผลไม้ ที่มีให้เลือก 3 รส ได้แก่เสาวรส ลิ้นจี่ สับปะรด) ‘Catamaran’ (เป็นการนำเหล้ารัมชั้นเลิศของไทย “พระยารัม” มาผสมผสานกับบลูคูราเซา น้ำเชื่อมมะม่วง น้ำเกรปฟรุต ใบสะระแหน่และเสิร์ฟพร้อมกับส้มโอชิ้นใหญ่) รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เช่น น้ำพันช์ผลไม้ สมูทตี้ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือจะเป็นสูตรเฉพาะในแบบที่คุณโปรดปราน

สยามยอชท์คลับ สถานที่แฮงค์เอาท์สุดชิลแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดรับประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ที่แตกต่างของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์สำหรับทุกคนและตอบสนองครบทุกการสัมผัสอย่างแท้จริง

สยามยอชท์คลับ ตั้งอยู่ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 01.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ https://www.sycbangkok.com
โทร. 02 266 0123 หรืออีเมล: siamyachtclub@sheraton.com

Rado Centrix เสียงกระซิบบนเนินทรายแห่งความฝัน

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ Rado ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนาฬิกาเผยโฉมผลงานใหม่ล่าสุด “Rado Centrix” มาในช่วงฤดูร้อนจัดแบบนี้ เพราะเสน่ห์อันน่าหลงใหลของนาฬิกาเรือนล่าสุดเปรียบเสมือนสายลมที่พัดผ่านทะเลทรายและความร้อนให้ความรู้สึกสบายได้อย่างน่าทึ่ง Centrix เน้นการใช้โทนสีทอง สีเหลืองสด และสีน้ำตาล สร้างสรรค์ขึ้นมาจากไฮเทคเซรามิกและคริสตัลแซฟไฟร์อันเป็นความเชี่ยวชาญของแบรนด์ ผสานรวมกับกลไกการเดินที่ล้ำสมัยและแม่นยำทำให้ Centrix รุ่นนี้พัฒนาจากรุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปีค.ศ.2010 มาไกลเหลือเกิน ทั้งวัสดุ นวัตกรรม และการดีไซน์อันงดงามส่งให้ Centrix กลายเป็นนาฬิกาเรือนหรู ที่น่าเชื่อถืออย่างไม่มีใครเทียบได้


ความโดดเด่นของ Centrix รุ่นใหม่นั้นชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น เริ่มจากรูปทรงโค้งมนดูอ่อนโยน วัสดุไฮเทคเซรามิกเบา ดูดี มีความทนทาน และที่พิเศษคือสัมผัสนุ่มนวลอันน่าหลงใหลที่เพิ่มมากขึ้นประหนึ่งเป็นเสียงกระซิบบนเนินทรายแห่งความฝัน นอกจากความอ่อนโยนที่เพิ่มขึ้นแล้ว Centrix รุ่นนี้ยังมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ช่องหน้าปัดกว้างขึ้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.5 มม. ด้านบนเสริมกระจกยาวจรดขอบตัวเรือน ขณะเดียวกันก็มีรุ่นเล็กเป็นอีกทางเลือกซึ่งมาในขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30.5 มม. ทั้งสองแบบมีความสง่างามในแบบฉบับของตัวเองตอกย้ำคำกล่าวที่ว่า “ความเรียบง่ายคือจิตวิญญาณแห่งความสง่างาม”


คริสตัลแซฟไฟร์ที่ใช้กับ Centrix รุ่นนี้เป็นคริสตัลแซฟไฟร์รูปแบบใหม่ มีความกลม ดีไซน์ขอบโค้งมน ต่างจากขอบคมๆ แบบเก่าในนาฬิกาเรือนอื่น ให้ทั้งความรู้สึกสบายตาและให้ผิวสัมผัสเรียบสบาย โดยมีการเคลือบสารกันแสงสะท้อนไว้ทั้งสองด้าน ช่วยให้มองเห็นหน้าปัดได้ชัดเจนส่วนพื้นผิวนั้นนักออกแบบใช้เทคนิคพิเศษทำเป็นรูปแบบซันเรย์ ปั๊มแล็กเกอร์จนได้พื้นผิวเรียบลื่นสมบูรณ์แบบ Centrix มีสีหน้าปัดให้เลือกตั้งแต่สีเข้มแนวหรูหรา เฉดสีเงินที่ขับผิวแบบซันเรย์ให้โดดเด่น รวมทั้งเรือนที่เล่นสีพื้นหลังให้มีทั้งความเข้มและสว่างในตัว เข้ากับดัชนีบอกเวลาของแต่รุ่นอย่างลงตัว



ความพิเศษบนหน้าปัดยังไม่หมดเท่านี้ เพราะโลโก้ Rado บน Centrix รุ่นใหม่ยังมีขนาดใหญ่ขึ้น และแบรนด์นำคำว่า “Jubilé” กลับมาอยู่บนหน้าปัดอีกครั้ง บ่งบอกถึงการนำอัญมณีล้ำค่ามาประดับไว้บริเวณดัชนีบอกเวลา ถัดลงมาด้านล่างเป็นช่องบอกวันที่ซึ่งไม่ใช่ทรงกระบอกเรียบๆ ที่หลายคนคุ้นตาอีกต่อไป เพราะ Rado ออกแบบให้มุมทั้งสี่โค้งมนสอดคล้องกับดีไซน์โดยรวมของรุ่นนี้ ส่วนตรงจุดยึดเม็ดมะยมก็มีการเลเซอร์เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น เมื่อพลิกไปด้านหลังก็จะพบกับฝาหลังดีไซน์ใหม่ ใช้เลเซอร์สลักหมายเลขซีเรียล และเช่นเดียวกับนาฬิกาออโตเมติกของ Rado ทุกรุ่นคือใช้คริสตัลแซฟไฟร์เพื่อให้เราเห็นกลไกการเดินพร้อมแฮร์สปริง NivachronTM ป้องกันสนามแม่เหล็ก สำรองพลังงานได้ 48 ชั่วโมง (รุ่นเล็ก) และ 80 ชั่วโมง (รุ่นใหญ่) ทุกเรือนผ่านการทดสอบความแม่นยำถึง 5 ตำแหน่ง สำหรับ Centrix รุ่นควอตซ์มีคุณสมบัติล้ำสมัยพร้อมเทคโนโลยีชิปคอมพิวเตอร์ ตรวจจับการเคลื่อนไหวกะทันหันหรือการกระแทกแล้วตอบสนองอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงการบอกเวลาที่น่าเชื่อถือเสมอ ปิดท้ายด้วยคุณสมบัติเด่นอีกหนึ่งอย่างของนาฬิกาควอตซ์ คือมีความแม่นยำสูงมาก ไม่ว่าอุณหภูมิหรือความชื้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ไม่มีผลใดๆ ต่อการทำงานทั้งสิ้น


นอกจากตัวเรือนแล้ว องค์ประกอบส่วนอื่นก็ได้รับการออกแบบและตรวจสอบอย่างประณีตทุกขั้นตอน แบรนด์ปรับสายนาฬิกาให้เข้ากับรูปทรงของตัวเรือนอย่างงดงาม แทนที่ตัวล็อกแบบเดิมด้วยหัวสายบักเคิ้ลแบบพับสามทบเพิ่มความปลอดภัยให้ Centrix รุ่นใหม่ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้พร้อมขึ้นแท่นเป็นนาฬิกาเรือนโปรดของทุกคนทันที

กลับมาอีกครั้ง !“เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II”

กลับมาอีกครั้ง ! ททท. เปิดอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ติดอาวุธผู้ประกอบการไทยต่อเนื่อง เจาะบทเรียนเพื่อพัฒนาทักษะต้อนรับนักท่องเที่ยวยุค Next Normal

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมอบรม หลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรม หลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com ครอบคลุมบทเรียนการทําตลาดดิจิทัล การออกแบบสินค้าและบริการ ด้านการท่องเที่ยวสอดรับเทรนด์และพฤติกรรมนักท่องเที่ยว พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ร่วมจัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตร เพื่อต่อยอดโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้โครงการ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters” ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับ ททท. เล็งเห็นความสำคัญของการมุ่งมั่นพัฒนาฝั่ง ห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมแก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้รับ ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริม ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงได้ต่อยอดกิจกรรมอบรมหลักสูตรออนไลน์ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com โดยเนื้อหาจะครอบคลุม ถึงเรื่องการเพิ่มทักษะการตลาดดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมและการบริการสู่ความเป็นเลิศ เพิ่มเจาะลึก เทรนด์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุค NEXT NORMAL เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เสริมภาพลักษณ์ และ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว เตรียมพร้อมสู่การเป็นเจ้าบ้านที่ดี

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้โครงการ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters” ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับ ททท. เล็งเห็นความสำคัญของการมุ่งมั่นพัฒนาฝั่ง ห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมแก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้รับ ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริม ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงได้ต่อยอดกิจกรรมอบรมหลักสูตรออนไลน์ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com โดยเนื้อหาจะครอบคลุม ถึงเรื่องการเพิ่มทักษะการตลาดดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมและการบริการสู่ความเป็นเลิศ เพิ่มเจาะลึก เทรนด์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุค NEXT NORMAL เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เสริมภาพลักษณ์ และ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว เตรียมพร้อมสู่การเป็นเจ้าบ้านที่ดี 
       
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” จะได้รับตราสัญลักษณ์โครงการ“เจ้าบ้านที่ดี”และได้รับสิทธิประโยชน์เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ ททท. จัดขึ้น ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับแพลตฟอร์มพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ Traveloka, Wongnai, Gowabi, Local alike และ PPT Blue Card เพื่อเพิ่ม โอกาสทางการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว และถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ตลอดจนช่วยผลักดันการขับเคลื่อน การท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตในเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน (High value and sustainability)

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II”
สามารถ ลงทะเบียนอบรมได้ทาง เว็บไซต์
www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ทาง Line Official : @Thaisuperhost

𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜

พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร หรือ คุณหมอแยม แพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและศาสตร์ชะลอวัย ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม

พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร หรือ คุณหมอแยม แพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและศาสตร์ชะลอวัย ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ด้วยประสบการณ์และฝีมือด้านความงามที่ผ่านมา สามารถการันตีด้วยรางวัลที่ปรากฏและเสียงตอบรับผลลัพธ์ของผู้ใช้จริง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงใจกับความาต้องการของลูกค้า ทำให้เสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการ ทำให้สื่อโซเชียลให้ความสนใจ จึงปรากฏเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ด้วยเทคนิคของการทำศัลยกรรมที่ไม่ยุ่งยากและตอบโจทย์ ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน สามารถมาทำศัลยกรรมและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

เรื่องสำคัญที่ผู้บริโภค ต้องคำนึงถึงเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม
คุณหมอแยม แนะนำเรื่องการทำศัลยกรรมเพื่อให้สวยขึ้นและเพิ่มความมั่นใจ เตรียมหาข้อมูลที่ตรงกับหลักการแพทย์ รู้จักเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพา่ะด้าน และจบเฉพาะทาง ซึ่งนอกจากศัลยกรรมความงามใบหน้าที่คนนิยมทำแล้ว ผู้คนยังให้ความสนใจกับการทำศัลยกรรมในส่วนอื่นๆของร่างกาย ซึ่งได้ อาทิเช่น เสริมจมูก, เสริมหน้าอก, เสริมสะโพก แก้อาการต่างๆ ที่ศัลยกรรมมาก่อน เพื่อปก้ไขปรับเปี่ยนและเสริมสร้างความมั่นใจเสริมบุคลิกภาพ เสริมจุดเด่นให้กับตนเอง เปรียบเสมือนส่วนเติมเต็มความสุข ที่ทำให้ผู้ศัลยกรรมมีความสุขมากขึ้น การให้ข้อมูลตามความเป็นจริง อธิบายข้อดี-ข้อเสีย และโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนทั้งหมดอย่างละเอียด ตามหลักการแพทย์ ปลอดภัย และติดตามอาการอยู่เสมอ เพื่อมาตรฐานและคุณภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง

เทรนด์ความงามที่ผู้บริโภคต้องใส่ใจและให้ความสำคัญที่สุด
ศัลยกรรมที่เน้นเรื่องความปลอดภัย และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน“การเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง” คือ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของโทมัส คลินิก โดยทางคลินิกจะ ควรหาข้อมูลที่ตรงกับหลักการแพทย์ รู้จักเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเฉพาะทาง โดยตรง ซึ่งหากได้รับคำแนะนำที่ดีจากศัลยแพทย์ ช่วยทำให้การตัดสินง่ายขึ้น เพิ่มความมั่นใจว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน

𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ 𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜
“เน้นการบริการแบบส่วนตัวและแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ทุกเคสให้คำปรึกษาและการดูแลโดยหมอแยมโดยตรง เพื่อคุณหมอจะได้ดูแลรักษาลูกค้าให้ตรงจุดจริง ๆ เพราะความสวยต้องสมดุลในแบบของลูกค้า ซึ่งแต่ละคนก็มี Beauty Balance ที่ต่างกันไป” ทาง โทมัส คลินิก 𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 ไม่เน้นการขายคอร์ส หรือ การขายโปรแกรมเพิ่มให้กับลูกค้า ด้านการให้คำปรึกษาด้านต่างกับลูกค้าและให้คำรึกษาโดยตรงว่าควรดูแลจุดใดเป็นพิเศษต้องให้ข้อมูลอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมาพร้อมทั้งแนะนำลูกค้าใหม่ที่เข้ารับการปรึกษาครั้งแรกให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่ให้กับทาง 𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜โทมัส ในการเข้ารับบริการ พร้อมผลลัพธ์ในการศัลยกรรมความงามที่มีความยั่งยืนและคงทน

โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะกลับมารักษา ใครสนใจดูแลสุขภาพผิวพรรณ หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ สามารถปรึกษา หมอแยม – พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร ได้ที่ 𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜
จองคิว/นัดตารางที่ไลน์แอด : @ThomasClinic

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมด้าน สุขภาพผิวพรรณ หรือ มีปัญหาสุขภาพ
สามารถปรึกษา หมอแยม-พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร ได้ที่
THOMAS CLINIC (ชั้น 2) อาคารฟิฟตี้ฟิฟ ทองหล่อ ปากซอยทองหล่อ(ซอย 2 สุขุมวิท 55) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ 063 556 9669