Category Archives: Lifestyle

สลินน์จัดโปรพิเศษ ซื้อ 1 แถมฟรีอีก 1 ซอง ที่ 7-Eleven ทุกสาขาใกล้บ้าน

“สลินน์” อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่ใส่ใจดูแลรูปร่างให้สมส่วน และมีสุขภาพดี จากสารอาหารที่หลากหลาย มั่นใจ ปลอดภัย เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานผลิตอาหารที่ได้รับการรับมาตรฐานการผลิตที่ดี “GMP/GHPs/HACCP/ISO22000:2018 ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรอันทันสมัย มีการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน

“สลินน์” มีส่วนผสมที่สำคัญประกอบด้วย ได้แก่ 1. แอล-คาร์นิทีน ช่วยนำไขมันที่สะสมในร่างกายมาเผาผลาญให้เกิดเป็นพลังงาน เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้กระชับ 2. สารสกัดจากถั่วขาว มีสารฟาซิโอลามีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการย่อยแป้งเป็นน้ำตาลได้ถึง 66% ทำให้ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย 3. สารสกัดจากกระบองเพชร ให้เส้นใยอาหารที่ดูดจับโมเลกุลของไขมันในกระเพาะอาหาร ทำให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าผนังลำไส้เล็ก 4. สกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ และเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ทำให้รูปร่างเพรียวกระชับ 5. สารสกัดจากผลส้มแขก มีสารไฮดรอกซี่ ซิตริก แอซิด จะออกฤทธิ์ยับยั้งน้ำตาลส่วนเกินไม่ให้ถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน เก็บเป็นพลังงานสำรองในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสดชื่นไม่อ่อนเพลีย 6. สารสกัดจากเคลป์ คือ สาหร่ายเคลป์ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลในร่างกาย เพื่อสร้างเป็นพลังงาน 7. วิตามินบี 6 ทำงานร่วมกับ แอล-คาร์นิทีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันให้ดียิ่งขึ้น 8. โครเมียม พิโคลิเนต ช่วยดึงไขมันที่สะสมตามเนื้อเยื่อต่างๆ มาเผาผลาญให้เกิดเป็นพลังงาน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และยับยั้งความอยากอาหาร

วิธีทาน “สลินน์” ให้ได้ผลดีด้วยวิธีง่ายๆ แค่รับประทานวันละ 1-2 เม็ด ก่อนอาหารมื้อหนัก 15 – 30 นาที ที่ทานเยอะ เช่น กลางวัน หรือเย็น ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น

“สลินน์” ขนาดแบบซองบรรจุ 5 เม็ด (แถมฟรีอีก 2 เม็ดในซอง) จัดโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 1 ซอง แถมฟรีอีก 1 ซอง เพียง 69 บาท จากปกติ 138 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 23 กันยายน 2567 หาซื้อได้ที่ร้าน 7-Eleven ทุกสาขาใกล้บ้าน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bshine.co.th,
FB : https://www.facebook.com/BnpHealth
Line : @Bshine

ครั้งแรกในไทย หอมนสิการจัดแสดงจิตรกรรมภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิม

ครั้งแรกในไทย หอมนสิการจัดแสดงจิตรกรรมภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิมอันวิจิตร มูลค่านับพันล้าน โดยปรมาจารย์หวัง ฉางลี่ ผู้รังสรรค์สัญลักษณ์มงคลแห่งพระราชวังต้องห้ามอันลือนามที่สุดแห่งงานจิตรกรรมอันวิจิตรงดงามและหาชมยากยิ่งแห่งทศวรรษ กับนิทรรศการภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลและหอมนสิการ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมผสานด้วยพุทธศาสนาอย่างลงตัว หนึ่งในสถานที่ซึ่งได้รับการโหวตได้รับคะแนนสูงสุดให้เป็นสุดยอด Unseen น่าเที่ยวประจำจังหวัดสระบุรี ขอชวนทุกท่านร่วมชมงานนิทรรศการภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิม ครั้งแรกในประเทศไทย ชมสุดยอดฝีมือไฟน์อาร์ต ท่ามกลางหุบเขางดงาม โดยศิลปินฝีมือลือเลื่องในระดับสากล ปรมาจารย์หวัง ฉางลี่ ศิลปินผู้ฝากผลงานไว้ในพระราชวังต้องห้าม ณ ประเทศจีน ซึ่งท่านได้ให้เกียรตินำงานศิลป์ที่บรรจงวาดพระโพธิสัตว์กวนอิม โดยมีเทคนิคพิเศษหนึ่งเดียวในโลก ขนาดยักษ์

สุุดถึง 4 เมตร มาจัดแสดงมากถึง 6 ภาพ มูลค่ารวมกว่าหนึ่งพันล้านบาท จัดงานแสดงนิทรรศการภาพเขียน “THE PROFOUND BEAUTY ART EXHIBITION” โดยอาจารย์หวัง ฉางลี่ ศิลปินนักวาดภาพพระพุทธศาสนาระดับหอเกียรติยศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้นำศิลปะแห่งศรัทธาจากฝั่งตะวันออก ได้รับความนิยมจากฝั่งตะวันตก จากความสำเร็จในการแสดงภาพวาดที่โรม ฟลอเรนซ์ ซิดนีย์ ลอนดอน และปารีส ผลงานโดยอาจารย์หวัง ฉางลี่ จึงได้รับการยกย่องจากวงการศาสนาว่าเป็นบุคคลที่สร้างผลงานให้มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ทั้งรูปแบบโบราณและสมัยใหม่ จนทำให้พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ พากันสะสม และหลายชิ้นถูกนำไปเป็นของขวัญแห่งชาติ มอบแด่ผู้นำของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ในปี 2014 อาจารย์หวัง ฉางลี่ได้ออกแบบมังกรและหงส์น่ารักคู่หนึ่งชื่อว่า “จ้วงจ้วงและเหม่ยเหม่ย” และได้รับเลือกเป็นสัญลักษณ์มงคลของพระราชวังต้องห้ามอีกด้วย

จากการที่อาจารย์ได้มีโอกาส มาเยือนหอมนสิการ แล้วเกิดความประทับใจในความสงบงามของสถานที่ อาจารย์จึงตัดสินใจนำภาพเขียนสุดพิเศษทั้ง 6 ภาพนี้มาจัดแสดง จึงเกิดงาน แสดงนิทรรศการภาพเขียนต้นฉบับพระโพธิสัตว์กวนอิม ครั้งแรกในประเทศไทย นิทรรศการภาพเขียนพระโพธิสัตว์ครั้งนี้ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิดชูคุณธรรมอันสูงส่งของพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา คอยขจัดปัดเป่าทุกข์โศก บันดาลพรและความสุขให้มวลมนุษย์ พระองค์เป็นที่ศรัทธาอย่างยิ่งโดยเฉพาะชาวจีน และเพื่อสานสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมอันงดงามระหว่างไทยและจีน ผ่านงานศิลปะชั้นสูงที่มีความเป็นสากล โดยสุดยอดฝีมือศิลปินชาวพุทธประจำชาติระดับหอเกียรติยศของสาธารณรัฐประชาชนจีน กับผลงานศิลปะพู่กันจีนที่ถูกยกย่องให้เป็นจิตรกรรมวิจิตรลายเส้นที่งดงามและทรงคุณค่า

อาจารย์หวัง ฉางลี่ ได้สร้างสรรค์เทคนิคพิเศษเพียงหนึ่งเดียว ทั้งกระดาษและสีที่ทำขึ้นเอง ด้วยเคล็ดลับเฉพาะตัวที่ไม่มีการถ่ายทอดให้แก่ผู้ใด ปณิธานของอาจารย์ที่ตั้งมั่นคือการวาดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมจำนวนทั้งหมด 33 ปาง ปัจจุบันท่านได้วาดเสร็จแล้วจำนวน 11 ปางด้วยกัน และจะนำมาจัดแสดงให้ทุกท่านเข้าชมในครั้งนี้จำนวนมากถึง 6 ปาง
ปางที่ 1. พระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่า ผู้มีพลังอันไร้ขอบเขต และเปี่ยมด้วยคุณงามความดีที่นำมาซึ่งประโยชน์และความมั่งคั่งแก่โลก
ปางที่ 2. พระโพธิสัตว์กวนอิมเหลียนอั้ว ผู้ทรงมีโพธิญาณแห่งการนำโชค สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งทางกายและใจ ช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงอย่างไม่มีอุปสรรค
ปางที่ 3. พระโพธิสัตว์กวนอิมหยางหลิ่ว ผู้สามารถขจัดภัยพิบัติและโรคภัยทั้งปวง บันดาลลมฝนสม่ำเสมอตกต้องตามฤดูกาล ผลผลิตทางการเกษตร ผลิดอกออกผล ประเทศชาติมั่งคั่ง ประชาชนผาสุก
ปางที่ 4. พระโพธิสัตว์กวนอิมหยวนกวง ผู้ทรงขจัดปัดเป่าภัยพิบัติและความยากลำบากในชีวิตให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย นำพาซึ่งความสงบสุขและความยินดีมาให้
ปางที่ 5. พระโพธิสัตว์กวนอิมเต๋อหวัง สัญลักษณ์ของคุณธรรมอันล้ำเลิศ หรือ ธรรมราชา เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าในงานราชการ ตำแหน่งสูงส่ง และอำนาจยิ่งใหญ่ ประชาชนทุกคนเคารพนับถือ
ปางที่ 6. พระโพธิสัตว์กวนอิมฉือเหลียน ปกปักคุ้มครองลูกหลานให้มีความสามารถโดดเด่นเป็นเลิศ เจริญรุ่งเรือง

ภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมทุกภาพ สร้างสรรค์ชิ้นงานบนกระดาษและสีที่สร้างขึ้นเฉพาะด้วยเคล็ดลับที่จะไม่มีวันถ่ายทอดให้กับผู้ใด ยิ่งไปกว่านั้นด้วยอัจฉริยภาพของศิลปินที่สามารถเขียนภาพพระโพธิสัตว์ให้มีใบหน้างดงาม เปี่ยมล้นด้วยกระแสเมตตาและรายละเอียดในองค์ประกอบน้อยใหญ่ ทำให้ผลงานของอาจารย์หวัง ฉางลี่ มีมูลค่าสูงเริ่มต้นตั้งแต่สองล้านเหรียญสหรัฐ ถูกจัดว่าเป็นภาพวาดที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคนี้อย่างแท้จริง

การได้ชมภาพวาดชั้นสูงในนิทรรศการ “THE PROFOUND BEAUTY ART EXHIBITION” ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามอันลงตัวของความสงบงามและทิวทัศน์ของหุบเขาพระพุทธบาทน้อย ที่สวยงามลงตัวของ “หอมนสิการ” หนึ่งเดียวใน จังหวัดสระบุรี ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากนักท่องเที่ยวในโครงการ UNSEEN NEW CHAPTER 2023 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังสามารถเข้าชมนิทรรศการหลักของหอมนสิการ “Journey to the Life of Buddha” ที่จัดแสดงประวัติองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ครั้งอดีตกาลจนถึงปัจจุบันกาลในรูปแบบสื่อผสม พร้อมเข้าสักการะองค์ “พระบรมโลกนาถ” พระพุทธรูปปิดทองคำแท้เนื้อสัมฤทธิ์ที่ประดิษฐานภายในหอจัตุรัสเพื่อความเป็นสิริมงคล

กำหนดการจัดแสดงนิทรรศการ เริ่มวันที่ 1 กันยายน ถึง 14 ตุลาคม 2567 เปิดใจให้ศิลปะชั้นสูงที่เปี่ยมด้วยพระมหาเมตตา งดงามยิ่งขององค์พระโพธิสัตว์ นำความเป็นสิริมงคลและความปลื้มปิติ พิสูจน์ความงามที่ถูกจิตรกรเสกสรรจะเปล่งประกายเอิบอาบจิตใจของผู้คนได้เพียงใด เชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสด้วยตนเอง ณ อาคารรับรองหอมนสิการ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
นอกจากนี้ผู้ชมยังสามารถเข้าชมหอมนสิการนิทรรศการจำลองมรรคา Journey to the Life of Buddha ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในรูปแบบสื่อผสมอีกด้วย
บัตรเข้าชมจำหน่ายในราคา:

  • คนไทย: 250 บาท
  • ชาวต่างชาติ: 500 บาท
  • เด็กต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เพียงครึ่งราคา
    ซื้อบัตรล่วงหน้าได้ที่
    https://megatix.in.th/events/wang-changli-at-manasikarn

ททท. จัดกิจกรรม Mega Fam Trip เพื่อตอกย้ำคำพูดที่ว่า ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ประจวบคีรีขันธ์

เมื่อวันที่ 27-29 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง นำโดย นายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อํานวยภูมิภาค ภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ททท. ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ นำคณะสื่อมวลชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวร่วมห้าสิบกว่าชีวิต เพื่อเดินทางไปสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวกับกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเพื่อตอกย้ำคำพูดที่ว่า … ความสุขง่าย ๆ หาได้ที่ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมค้นหาแหล่งเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ การเดินทางที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติและสภาพอากาศและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ กิจกรรมนี้จะช่วยเร่งผลักดันการเสนอขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทยของพื้นที่

เช้าตรู่ของวันที่ 27 สิงหาคม 2567 รถตู้ 8 คัน เตรียมพร้อมด้านหน้าอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หลังเช็คชื่อเสร็จก็ต้องถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกก่อนออกเดินทางและแล้วก็ได้เวลาล้อหมุน นำพาขบวนรถตู้ มุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยจุดแรก วัดอ่าวน้อย เป็นวัดที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอ่าวน้อย ตำบลอ่าวน้อย
วัดอ่าวน้อย วัดสวย ประจวบคีรีขันธ์ สักการะ ขอพร ถ้ำพระนอน โดดเด่นด้านความงดงามของอุโบสถไม้สัก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหยกขาวจากเมียนมา มีภาพวาดเกี่ยวกับพระพุทธศาสนารอบผนังโบสถ์และมีรูปปั้นพญานาคล้อมรอบอุโบสถส่วนฝั่งตรงข้ามบนภูเขาด้านติดทะเลอ่าวน้อย จะมีถ้ำพระนอน อ่าวน้อยคือ ถ้ำพระนอน ที่ตั้งอยู่บนภูเขาฝั่งติดทะเลอ่าวน้อย นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นไปตามบันได พร้อมชมวิวทะเลจากมุมสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีจุดพักให้หนึ่งจุดสำหรับคนที่เดินระยะยาวไม่ไหว …

หากจะขึ้นไปสักการะก็เดินขึ้นไปตามขั้นบันไดราว 10-15 นาที ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ศิลปะร่วมสมัยอู่ทอง-รัตนโกสินทร์ ห่มจีวรเหลืองลักษณะเดียวกันเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามและหาชมได้ยาก ในอดีตถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่ชาวเรือมักเข้ามาอาศัยหลบพายุฝนอีกด้วย

วัดอ่าวน้อย
215 ตำบล อ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ประจวบคีรีขันธ์ 77000
พิกัด : https://goo.gl/maps/9GyvLLnwv9434Qrb9
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ (Prachuap Khiri Khan City Pillar Shrine)
หลังจากทานอาหารมื้อแรกกันที่ อ่าวน้อยซีฟู้ด ก็เดินทางกันต่อไปยัง ศาลหลักเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ถนนสละชีพ ตรงข้ามศาลากลางจังหวัด เป็นหลักชัยคู่บ้านคู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ และยังเป็นศาลหลักเมืองที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ที่นี่ คุณสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และคณะผู้ดูแลศาลหลักเมืองและผู้บริหารของเมือง ให้การต้อนรับคณะของเราอย่างอบอุ่น พร้อมกับเตรียมข้อมูลประวัติความเป็นมาของศาลหลักเมืองให้ผู้มาเยือนได้รับรู้ถึงความสำคัญของสถานที่

โดยศาลแห่งนี้ ออกแบบเป็นศิลปะแบบลพบุรี มีจตุรมุขยอดปรางค์ 9 ชั้นตามแบบสยามลพบุรี ชั้นสูงสุดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและชั้นที่เหลือประดิษฐานองค์เทพต่าง ๆ ส่วนหน้าบันแรกนั้น เป็นรูปรอยตราพญาราหูอมจันทร์ และหน้าบันที่เหลือประดิษฐานองค์เทพล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วสองชั้นองค์หลักเมืองมีนามว่า “จตุโชค” ทำจากไม้ตะเคียน ส่วนยอดแกะเป็นรูป 4 เศียร 4 พักตร์ ศิลปะศรีวิชัย และลงรักปิดทองด้วยอัญมณีทั้งองค์ ศาลหลักเมืองแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในสมัย ร.ต.อำนวย ไทยานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในขณะนั้น และวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2536 ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์เป็นประธานศาลหลักเมืองแห่งนี้

ศาลหลักเมือง ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/uHGx3NNeC1fSwMTY8
เปิดให้เข้าชม : 08.00-19.00 น.

คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ & ร่อนทองบางสะพาน ทองนพคุณ

หลังจากสักการะศาลหลักเมืองเป็นสิริมงคลแก่คณะกันแล้วก็เริ่มเดินทางกันต่อ คราวนี้ไปยังพื้นที่ที่มีการร่อนทองแถบบางสะพาน ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีแหล่งร่อนทองหลายแห่ง แต่ที่นี่นอกจากจะเป็นแหล่งร่อนทองแล้ว ยังพัฒนาสถานที่ผืนดินแห่งนี้ให้เป็นที่กางเต๊นท์ และบริการร่อนทองพร้อมกับเปิดร้านกาแฟเล็กๆ รองรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเข้ามาสัมผัสกับชุมชนวิถีในอดีตด้วย บริหารโดย คุณพัชรินทร์ สุขสุรัตน์ หรือแอปเปิ้ล เจ้าของคาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์ อดีตพนักงานแบงค์ที่ผันตัวเองมาเริ่มต้นธุรกิจในบ้านเกิด

จากข้อมูลตำนานการร่อนทอง… เล่ากันต่อมาว่า มีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบรมโกศ ปี 2289 ผู้ตั้งเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก 3 ตำลึง ถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์จึงเกณฑ์ไพร่จำนวน 2,000 กว่าคน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็นเวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก 90 ชั่งเศษ คิดเป็นน้ำหนัก 54 กิโลกรัม หรือ 3,600 บาทในสมัยนั้น จากนั้นนำทองทั้งหมดไปแผ่เป็นทองแผ่นใหญ่หุ้มยอดมณฑป พระพุทธบาทสระบุรี

สำหรับคุณสมบัติของทองบางสะพานหรือทองบางตะพานมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ทองนพคุณ’ หรือ ‘นพคุณเนื้อเก้า’ เป็นทองที่พบในธรรมชาติ ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องถลุงจะเห็นเป็น ‘Nuggest’

“เตรียมอุปกรณ์ร่อนทองเอาไว้ทางนี้เลยคะ” คุณแอปเปิ้ล บอกกับคณะหลังจากกล่าวต้อนรับและบอกเล่าถึงความเป็นมาของ “คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์”

“วิธีร่อน แบบนี้นะคะ” เจ้าของแคมป์คนเดิม เดินลงมาชี้แนะ ให้กับนักท่องเที่ยว ที่ต่างขะมักเขม้นกับการเริ่มร่อนทอง สำหรับการมาร่อนทอง เพียงแค่คุณเตรียมชุด เป็นกางเกงขาสั้น เท่านั้น เรียกว่ามาแต่ตัว อื่นๆ ที่นี่เตรียมไว้ให้ทั้งหมดหากใครที่ไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้โชว์ท่าร่อน แต่อยากได้ทองนพคุณไว้ครอบครอง ทางคุณแอปเปิ้ลก็มีให้บริการ โดยเลี่ยมใส่กรอบเอาไว้ให้สำหรับการบูชา เนื่องจากเป็นทองนพคุณ สนนราคาก็ไม่แพง ส่วนจะเท่าไหร่ หรืออย่างไรสามารถติดตามได้ทางเพจ คาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์

ร่อนทองบางสะพาน ถือว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในไทย เพราะ สถานที่แห่งนี้ มี สิ่งล้ำค่า อยุ่ในดิน คือทองบางสะพานนั่นเอง เป็นพื้นที่เดียวที่มีทองให้ร่อน สามารถหาทองได้ตามคลองบริเวณนั้น สามารถหาทองโดยการร่อนไม่ต้องผ่านการถลุง

1.เป็นทองบริสุทธ์ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หาเจอได้ด้วยการร่อน
2.เป็นทองคำที่ดีทีสุดในประเทศไทยและในโลก
3.เป็นทองที่มีเนื้อทองอ่อน สุกปลั่ง 100%
4.เป็นทอง100% ทองเนื้อเก้า
5.เชื่อกันว่าสามารถป้องกันภัยอันตราย. และภูตผีปีศาจ.
6.เชื่อกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ บูชาแล้วรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้น
7.หายากมาก และในอนาคตอาจไม่มี

การติดต่อร่อนทอง
1. กำหนดวันกับผู้ร่วมทริป แล้วแจ้งแอดมินทางเพจ. ล่วงหน้า1-2วัน เพื่อแอดมินจัดคิววิทยากรให้ท่านได้ เมื่อได้คิววิทยากรแล้ว แอดมินจะแจ้งเบอร์โทรวิทยากรให้ได้บริการความสะดวกลูกค้า

2. ค่าบริการ เช่าเพียงอุปกรณ์ 100บาท/วัน (พร้อมสอนวิธีการร่อน การดูดิน การสังเกตุทอง )
-เตรียมชุดพร้อมเลอะพร้อมเปียก. หมวก เสื้อแขนยาว มาให้เรียบร้อย

3.สถานที่กางเต้น ค่าใช้จ่ายการแคมป์ปิ้ง
ค่ากางเต้นท์. หัวละ. 50 บาท. / คืน

ค่าใช้จ่ายการร่อนทอง

5 ค่าบริการปิคนิค. หัวละ 50 บาท รายได้เป็นของวิทยากรที่ช่วยสอนซึ่งเป็นชาวบ้านในชุมชนเป็นการช่วยหารายได้ให้ชาวบ้านคาเฟ่บ้านฝั่งคลอง ถือว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในไทย เพราะ สถานที่แห่งนี้ มี สิ่งล้ำค่า อยุ่ในดิน คือทองบางสะพานนั่นเอง เป็นพื้นที่เดียวที่มีทองให้ร่อน สามารถหาทองได้ตามคลองบริเวณนั้น สามารถหาทองโดยการร่อนไม่ต้องผ่านการถลุง นอกจากมีทองให้ร่อนกันแล้ว ยังมี เสาไฟฟ้าแรงสูงที่่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เพราะ ตรงที่เสาลงนั้นเป็นเสาหักมุม เลยต้องมีขนาดใหญ่กว่าเสาอื่นๆ มีแหล่งน้ำคลองไหลผ่าน ให้เราได้เล่นคลายร้อน ในคาเฟ่ มีน้ำ มีขนม เปิดให้กางเต้นท์นอนกอดธรรมชาติ นอนให้ธรรมชาติกอด เพราะคาเฟ่เราอยู่ท่ามกลางหุบเขา มีภูเขาล้อมรอบ ฝากคาเฟ่เล็กๆคิดจะพักคิดถึงคาเฟ่บ้านฝั่งคลองแคมป์

สำหรับลูกค้าที่ต้องการร่อนทองมีค่าบริการ

  • เช่าเพียงอุปกรณ์ 100บาท/วัน (สอนวิธีการร่อน การดูดิน การสังเกตุทอง )
  • เตรียมชุดพร้อมเลอะพร้อมเปียก. หมวก เสื้อแขนยาว มาให้เรียบร้อย
    เส้นทาง=เกาะยายฉิม เลี้ยวเข้าซอย รร.ธนาคารออมสิน แล้วตรงมา 7 กิโล
    เลยหมูทะใบเหลียง. ข้ามสะพาน เลี้ยวขวา ตรงไป 200 เมตร

https://maps.app.goo.gl/LZjVMp9xPr41toXW9
โทร. 0997028068
Line:banfangklong

หลังจากนั้นปิดทริปวันแรกกันด้วย ร้านอาหารหนูโภชนา ก่อนจะเข้าพักผ่อนกันที่ บ้านกรูด อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา โดยมี คุณ อัจจิมา โชคกิจการ MD บ้านกรูด อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปาให้การต้อนรับ

เริ่มต้นทริปเช้าวันที่สองสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip
เริ่มต้นด้วยการสักการะกราบพระเพื่อเป็นศิริมงคล
ที่ วัดทางสาย วัดสวย ที่สร้างขึ้นจาก พลังแห่งศรัทธา

เริ่มเช้าวันใหม่ เดินทางกันต่อไปสักการะ พระพุทธกิติสิริชัย ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปที่ทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบโดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกประธานถวายนามว่า “พระพุทธกิติสิริชัย” ประดิษฐานอยู่ด้านหน้าบนยอดเขาธงชัย เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางสมาธิแบบคันธาระ ศิลปะอินเดีย ลักษณะประทับขัดสมาธิดอกบัว หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล ใกล้กัน เป็นทางขึ้นสู่ วัดทางสาย วัดสวย ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวสวยห้ามพลาด

ไฮไลท์คือ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เจดีย์เก้ายอด
สวยอลังการยิ่งใหญ่ ของ วัดทางสาย ศ เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่ในหลวงร.9 ทรงพระราชทานชื่อให้ เป็นสถาปัตยกรรมไทยในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อพระมหากษัตริย์ โดยไม่ใช้เงินของทางราชการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลโดยเฉพาะในวโรกาสครองราชย์ครบรอบ 50 ปี โดยเจดีย์ทรงระฆังนี้ จะตั้งอยู่บนฐานไพที รูปสี่เหลี่ยมจตุรัส มีอาคารสูง 5 ชั้น ที่หมายถึง การครองราชย์ครบ 50 ปี หรือมีความหมายถึงขันธ์ 5 และมีเจดีย์หมู่ 9 องค์ ที่หมายถึงวัดประจำรัชกาลที่ 9

วัดทางสาย ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/KyUU8qooBH4Ypmzu6
เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.

วัดเขาถ้ำม้าร้อง (Wat Khao Tham Ma Rong)
หลังจากสักการะองค์หลวงพ่อใหญ่กันแล้ว คณะเราก็เดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆอีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ วัดเขาถ้ำม้าร้องวันนี้ นายอำเภอ “สุทิน ประเสริฐศักดิ์” แห่งบ้านม้าร้อง และชาวชุมชนท่องเที่ยวม้าร้องซิตี้หรือบ้านม้าร้อง ร่วมกันต้อนรับขับสู้ทั้งอาหารคาวหวาน กาแฟ และผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านผลิตมาจำหน่ายด้วยตัวเอง นอกจากจะจัดอาหารพื้นถิ่นแสนอร่อย ไม่ว่าจะเป็นใบเหลียงผัดไข่ คั่วเคย โดยเฉพาะแกงไก่เหมงมะพร้าว อาหารพื้นบ้านที่ใช้ผลมะพร้าวอ่อน(ซึ่งยังไม่สร้างเนื้อมะพร้าว) นำมาแกงไก่ใส่กะทิ อร่อยเลิศจนต้องขอเพิ่มมีผลิตภัณฑ์ชุมชนเช่นไข่เค็มสมุนไพรบ้านม้าร้อง หมวกถัก น้ำผึ้งป่า บาล์มสมุนไพร น้ำยาอเนกประสงค์ ส่วนด้านการท่องเที่ยวก็มีกิจกรรมเช่น มีรถซาเล้งพานำชมสวนป่าชุมชน มีนำเที่ยวถ้ำม้าร้อง มีฐานผึ้งโพรง กิจกรรมทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ต่างๆ เหล่านี้
สามารถสอบถามได้ที่ คุณประวิทย์ รัตนพงศ์ 081 292 8141

ได้เวลา ขึ้นสู่วัดเขาถ้ำม้าร้องด้วยเพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ที่แห่งนี้มีความสวยงามของหินงอก หินย้อย บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และหินย้อยที่รูปร่างลักษณะคล้ายหัวม้าอยู่ภายในถ้ำ วัดเขาถ้ำม้าร้อง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหลายคูหา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ และพระพุทธรูปปางพุทธไสยาสน์ตามจุดต่างๆ ภายในถ้ำ มีแสงไฟส่องสว่างและทางเดินที่สะดวกสบาย ทำให้เราได้เข้าไปกราบไหว้พระและชมความงามภายในถ้ำได้อย่างสบายใจค่ะ ไฮไลท์ของวัดเขาถ้ำม้าร้องก็คือ หินงอกหินย้อยรูปหัวม้า บริเวณขวามือของทางเข้าถ้ำ
จึงเป็นที่มาของชื่อ ถ้ำม้าร้องที่วัดแห่งนี้เป็นที่พักสงฆ์มาตั้งแต่สมัยชาวศรีลังกาและชาวอินเดียเข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในไทยและพม่า ใช้เป็นที่พักพิง ต่อมาในรัชสมัยพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ออกปราบโจรตามหัวเมืองเมื่อราว 2385 ได้นำทัพมาพักที่หนองหัดไทย ปรากฏว่าม้าของท่านหายไปแต่หาไม่พบ ได้ยินแต่เสียงม้าร้อง จึงเรียกภูเขานี้ว่า เขาถ้ำม้าร้อง

ที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกแห่งหนึ่ง ภายในถ้ำด้านหนึ่งเป็นที่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ จำนวนมาก เรียงรายลดหลั่นภายใต้การสาดแสงจากโคมไฟขณะที่บนเพดานถ้ำแลเห็นค้างคาวจำนวนมาก เกาะหัวห้อย สยายปีกผับ ๆ อวดโฉมให้ผู้มาเยือนได้ยลแบบไม่ยี่หร่ะต่อสายตา แต่บางคนอาจจะโชคดีได้ขี้ค้างคาวหล่นใส่เป็นสิริมงคลเพิ่มเติมก็เป็นได้บริเวณตรงกลางโถงถ้ำพบโพรงปล่องขนาดกว้างราวเมตรกว่า ทำให้แสงลอดลงมาตามทางสวยงาม เดินถัดขึ้นไปนิดเดียวก็จะพบกับหินย้อยที่มีรูปร่างคล้ายหัวม้าและมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำที่นำไปใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เมื่อมีพิธีสำคัญ ๆ ทางวัดจะจัดพิธีตักน้ำทิพย์เพื่อนำไปถวายแด่ในหลวง เช่นงานพิธีครบรอบ 60 พรรษา และ 72 พรรษา ที่สำคัญน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ไม่เคยเหือดแห้ง

วัดเขาถ้ำม้าร้อง
วัดเขาถ้ำม้าร้อง ประจวบคีรีขันธ์
ที่อยู่ : ตำบลพงค์ประสาสน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/Bj7ZGU7opjbauZeVA
เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.

ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด

หลังจากเมื่อวานเราไปเมล่อน เมล่อนกัน วันนี้ได้เดินทางยังศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ที่นี่มี หนุ่มโจ้ –จิรฐกรณ์ อิสระพาณิชย์ ชาวอำเภอบางสะพาน ที่หลงใหลเรื่องราวของทองบางสะพานมานานหลายปี พร้อมกับเริ่มสะสมทองและศึกษาความเป็นมา ศูนย์เรียนบ้านทองเม็ด เป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงอัตตลักษณ์ของจังหวัด ไว้สำหรับมาเรียนรู็วิถีชีวิตการร่อนทองบางสะพาน จำหน่ายเครื่องประดับจากทองบางสะพาน ปรับพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่ ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเป็น “ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด” มีการนำทองบางสะพานในรูปแบบต่างๆ ทั้งทองผง-ทองเกล็ด-ทองเม็ดและทองอมหิน พร้อมข้อมูลที่รวบรวมประวัติความเป็นมาของทองบางสะพานมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับทองจำหน่ายให้ผู้เข้าเยี่ยมชมอีกด้วย

ศูนย์เรียนรู้บ้านทองเม็ด ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โจ้ บ้านทองเม็ด โทร 0875565697

วัดกุยบุรี ( Wat Kuiburi )

ด้วยเวลาที่มีไม่มากนัก คณะของเราเริ่มเดินทางกันต่อไปยัง วัดกุยบุรี ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่สวยงาม และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นอย่างมาก

วัดกุยบุรี เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พร้อมกับการสร้างเมืองกุยบุรี เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจในสมัยนั้น ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชน เดิมชื่อว่าวัดกุย ตั้งอยู่ในอำเภอกุยบุรีติดกับแม่น้ำกุยบุรีชาวเมืองให้ความเลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะอดีตเจ้าอาวาสวัดกุยบุรี หลวงพ่อมากหรือบุญมาก หรือชาวมักเรียกว่าท่านว่า “หลวงพ่อในกุฏิ” เนื่องจากเมื่อท่านว่างเว้นจากภารกิจต่างๆของทางวัดแล้ว จะนั่งบำเพ็ญภาวนาเป็นประจำเล่ากันว่าบางครั้งจะเข้าสมาธิวิปัสสนาอยู่แต่ในกุฏิตลอด 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง โดยจะไม่ลุกและออกจากกุฏิไปไหนเลย ด้วยเหตุอันนี้เอง จึงได้มีคำเรียกท่านอีกคำหนึ่งว่า “หลวงพ่อในกุฏิ“

หลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้เคร่งครัดในด้านวิปัสสนากัมมัฎฐาน จนทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าหลวงพ่อในกุฏิเป็นผู้มีวาจาสิทธิและมีวิชาอาคมแกร่งกล้า เป็นผู้มีเมตตาจิต ช่วยเหลืออนุเคราะห์และสงเคราะห์กับคนทุกเพศ ทุกวัย เป็นที่พึ่งอาศัยของคนทั้งหลายหลังจากหลวงพ่อในกุฏิได้มรณภาพไป ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างรูปเหมือนของท่านและบรรจุอัฐิของท่านไว้ภายใน ให้ชาวบ้านได้ระลึกถึงและสักการะบูชา…

วัดกุยบุรี
https://maps.app.goo.gl/yJGCYw27KSJjoqos5

หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังที่พักในอำเภอหัวหิน ที่ โรงแรมเวล หัวหิน WHALE HUAHIN โดย คุณธีระเมฆ เศียรศิลาเจริญ หรือคุณบุ๊ค MD ให้การต้อนรับก่อนจะไปรับประทานอาหารค่ำกันที่ ชิมวิว ซีฟู้ด ชะอำ- หัวหิน ที่ที่ทางททท.ภูมิภาคภาคกลางและททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง

DAY 3 สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip

วนอุทยานปราณบุรี (Pran Buri Forest)
ย่างเข้าสู่วันที่สามของการร่วมทริป สำรวจเส้นทางท่องเที่ยว Mega Fam Trip กันแล้ว วันนี้ก่อนกลับกรุงเทพมหานคร ทางททท.ได้พาเราไปชมพื้นที่ป่าโกงกางขนาดใหญ่ ชมป่าชายเลน วนอุทยานปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันในวันนี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเที่ยวทั้งครอบครัว สถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ตั้งอยู่ใน ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ และบริเวณของชายหาด มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น เป็นโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่มีเส้นทางให้เดินศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นระยะทางยาวกว่า 1,000 เมตร

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ป่าชายเลนด้านทิศเหนือของแม่น้ำปราณบุรี ได้ถูกบุกรุกทำลายกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ในปี พ.ศ. 2517 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎร บริเวณหมู่บ้านปากน้ำปราณบุรี ทรงมีความสนพระทัยเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ป่าชายเลน และทรงมีพระราชเสาวนีย์สนับสนุนให้มีการปลูกพันธุ์ไม้ต่าง ๆ บริเวณชายทะเลปากน้ำปราณบุรี เพื่อพัฒนาเป็นป่าอเนกประโยชน์ผลิตไม้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ป้องกันลมพายุ และเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงอนุบาลสัตว์น้ำกรมป่าไม้ จึงได้จัดทำ โครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น ในปี 2517 ครอบคลุมพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า คลองคอย ประกอบด้วย ป่าชายเลน และมีแม่น้ำปราณบุรีไหลผ่านตอนกลางของพื้นที่ป่า ซึ่งภายหลังได้มีการจัดตั้งเป็น “วนอุทยานปราณบุรี” เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2525

…. ณ ปัจจุบัน ผืนป่าโกงกางที่งดงามแห่งนี้ ถือแหล่งเรียนรู้ด้านระบบนิเวศน์ป่าชายเลนอันสำคัญ ที่เป็นมรดกส่งต่อให้กับลูกหลานคนไทยได้ร่วมกันสืบทอดเจตนารมณ์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อมที่ทรงคุณค่านี้ต่อไปตราบนานเท่านาน

วนอุทยานปราณบุรี
ที่อยู่ : วนอุทยานปราณบุรี 14 ผาสุกวนิช 16 ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/BkhG9dpcsnpudRnC7
เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.

“ประจวบคีรีขันธ์ เมืองมหัศจรรย์สามอ่าวของท้องทะเลอ่าวไทย เป็นจังหวัดตอนใต้สุดของภาคกลาง มีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้กว่า 212 กิโลเมตรจนได้ชื่อว่า ประจวบย๊าวยาว แต่ยังคงมีสถานที่น่าสนใจและสวยงามซุกซ่อนเอาไว้รอให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นหาและรับรู้ว่าประจวบคีรีขันธ์ มีอะไรให้เที่ยว ให้ชม ให้อร่อย”

ข้อมูลจากททท.แนะนำการท่องเที่ยวของทริป Mega Fam Trip ครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากปราศจากซึ่งผู้มาเยือน … ผู้มาร่วมค้นหา… ผู้มาร่วมติดตามรับรู้ความเป็นเมืองมหัศจรรย์ประจวบคีรีขันธ์ ….แล้วคุณล่ะพร้อมหรือยัง ? กับการตามรอย ทริป “ประจวบ…ย๊าว…ยาว”

ขอขอบคุณ :
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ผอ.อัครวิชย์ เทพาสิต
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ผอ.อาชวันต์ กงกะนันทน์
ชาวบ้านชุมชนวัดเขาม้าร้อง นายอำเภอ สุทิน ประเสริฐศักดิ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมคิด จันทมฤก
รองผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง นางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ
ทีมงาน ททท. น้องแพค น้องเก้า น้องตั๊กและอีกหลายท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม

Aviyana Hua Hin เปิดตัว! รีสอร์ทใหม่ริมชายหาดชะอำพร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนสุดชิลล์”

อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรีสอร์ทติดทะเลแห่งใหม่อย่างเป็นทางการโดยมี คุณสุมาลี คูรานา ประธานกรรมการผู้จัดการรีสอร์ท ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีตัดริบบิ้นและกล่าวเปิดงานร่วมกับ คุณชาญชัย ปรีชา ผู้จัดการทั่วไปและคุณณิชาภัทร ศรีสำราญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมในงาน ณ ห้อง AVOWS Ballroom

คุณสุมาลี กล่าวว่า “ความตั้งใจของรีสอร์ทแห่งนี้คือการสร้างสถานที่สำหรับคนทุกเจเนอเรชันสามารถมาพักผ่อนและสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน เราต้องการให้ อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) เป็นรีสอร์ท ที่ผู้คนสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่น ความสุข และความสงบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน” เราจึงเลือกทำเลบนพื้นที่ชายหาดชะอำ เพราะเราอยากให้ผู้ที่เข้ามาพักได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เปรียบเสมือนสวรรค์แห่งการพักผ่อน และยังให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสำหรับทุกคนที่มาเยือน โดยกลยุทธ์การลงทุนของทางรีสอร์ทคือการเลือกโลเคชั่นที่เห็นวิวดี ความสวยงามของวิวธรรมชาติติดทะเล เป็นจุดขายสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมถึงการเดินทางที่สะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

คุณชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางรีสอร์ทฯให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้เข้าพักเป็นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนสามารถมาพักผ่อนอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการมาพักผ่อนกับครอบครัว การจัดงานแต่งที่เนรมิตความโรแมนติกในบรรยากาศริมทะเล หรือการจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยงและสัมมนา โดยทางรีสอร์ทมีพื้นที่ให้บริการสำหรับการจัดงานในโอกาสพิเศษ คือ Siamara พื้นที่จัดงานเลี้ยงบนด้านฟ้ากลางแจ้งแบบไพร์เวท และ AVOWS Ballroom ห้องบอลรูมสำหรับการประชุมและงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับแขกได้มากถึง 300 คน คุณชาญชัยยังกล่าวเสริมว่า “ทางรีสอร์ทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในหัวหิน ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วยพื้นที่สำหรับการรองรับในการทำกิจกรรม”

คุณณิชาภัทร เผยว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในหัวหินขณะนี้มีการแข่งขันที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้ ทางรีสอร์ทจึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมเชิงลึกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อหาจุดเด่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด เธอระบุว่า “นอกจากคนไทยจะชื่นชอบอาหารรสจัดแล้ว เรายังพบว่านักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น” ด้วยแนวคิดนี้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ จึงเน้นย้ำจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่านร้านอาหารของรีสอร์ทอย่าง Miss T Beach Café และ Pomelo All-Day Dining ซึ่งยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย เช่น กะปิ สาโท และใบชะคราม ให้กลายเป็นเมนูหรูหราที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
“ที่นี่เราภูมิใจที่จะบอกว่าลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอาหารฟิวชั่นสไตล์นานาชาติริมชายหาด พร้อมฟังเสียงคลื่นทะเลที่สงบพร้อมดื่มด่ำกับรสชาติอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ” คุณณิชาภัทรกล่าว

ด้วยการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่กลมกลืนไปได้อย่างลงตัวกับธรรมชาติอันงดงามของอ่าวไทย รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 115 ห้อง โดยมีห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือกดังนี้:
• ห้อง Superior ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 37 ห้อง
• ห้อง Deluxe Sea View ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 62 ห้อง
• Oasis Beachfront Villa ขนาด 53 ตร.ม. จำนวน 8 ห้อง
• Ambassador Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 247 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต (2 ห้อง)
• Ocean View Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 165 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต (2 ห้อง)
ราคาที่เริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อคืน

นอกจากนี้ รีสอร์ทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำท่ามกลางวิวทะเลแบบพาโนรามา โดยผู้เข้าพักสามารถเดินลงจากที่พักเพื่อเดินเล่นบนชายหาดได้ทันที รวมถึงรีสอร์ทยังมีห้องอาหารและบาร์สำหรับให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ ร้าน Pomelo All-Day Dining ที่ให้บริการอาหารเช้าร่วมถึงยังมีบริการขายอาหารตลอดทั้งวัน, ร้าน Miss T Beach Café สุดชิลล์ที่สามารถรับประทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยายริมทะเลไปพร้อมกัน และ Nest Pool Bar ที่สายค็อกเทลห้ามพลาด สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนสุดชิลล์ ณ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin)

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 032-512-311
อินสตาแกรม: @aviyanahuahin
จองห้องพักได้ที่: booking@aviyanahuahin.com
🌐 Website: https://aviyanahuahin.com/
🌐 Facebook: Aviyana Hua Hin
📍 พิกัด: No. 1515 Phet Kasem Rd, Sai Tai, Cha-am District,
Phetchaburi, Thailand, Phetchaburi

Sheep ปล่อยใยมัดใจแฟนพันธุ์แท้ยอดมนุษย์แมงมุม ชูลายเคสเรืองแสง&ขยับได้

พร้อมยกระดับงานคอลแลปส์ ดึงศิลปินระดับโลก Tokidoki  ออกแบบลาย Mickey & Friends เปิดตัวพร้อมกัน 2 คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

แบรนด์ “Sheep” เคสสัญชาติไทยผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ต ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดรวมถึงการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และตัวตนของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าจากร้าน AppleSheep ที่รวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และไอทีเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ล่าสุดปล่อยหมัดเด็ด ยกระดับงานคอลแลปส์พร้อมกัน 2 คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ   ด้วยการประกาศเข้าสู่จักรวาล Marvel ต้อนรับการมาขอ Avenger Phrase 2 ออกเคสโทรศัพท์ที่สัมผัสถึงพลังของซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel  ลาย Spider-Man    และอีกคอลเลคชั่นเป็น อุปกรณ์ตกแต่งมือถือ จากผลงานการออกแบบลาย Mickey&Friends และ Winnie The Pooh  จาก Global Artist อย่าง Simone Legno (Tokidoki)  ที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sheep and Friends โดยเปิดตัวในงาน  Disney Toy Expo Thailand 2024          

นายอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์  Founder&CEO บริษัท  ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด กล่าวว่า “การร่วมงานกับ Marvel (Spider-Man) เป็นการปูทางสำหรับ Marvel Phrase 2 ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายงานออกแบบเป็นอย่างมาก เนื่องจากการออกแบบแต่ละครั้งเราต้องคำนึงว่าจะทำอย่างไรเราจึงจะดึงภาพจำและเอกลักษณ์ของ Character นั้นๆ มานำเสนออย่างดีที่สุด ในขณะเดียวกันเราต้องให้ความสำคัญอย่างมากที่สุดต่อภาพพจน์ของผู้ใช้งานสินค้า เป้าหมายของแบรนด์ Sheep ทำให้ผู้ใช้สินค้าต้องดูดีและเข้ากับสไตล์ของผู้ใช้เป็นอย่างดี โดยแน่นอนว่าแฟนตัวยงของ Spider-Man นั้นจะเป็นผู้ชายเป็นส่วนมาก ซึ่งจะเป็นนักสะสมของเล่น เราตีโจทย์ว่าจะต้องทำลายที่มีความพิเศษสุดๆแต่ดูเรียบง่ายไม่หวือหวา เหมือนกับ Spider-Man ที่กลางวันเป็นเด็กธรรมดาแต่กลางคืนกลับกลายเป็นยอดมนุษย์ที่มีพลังลึกลับน่าสนใจโดยรอบนี้เราเลยหยิบเทคนิคการพิมพ์ลายแบบพิเศษมาใช้โดยทำให้ภาพบนเคสขยับได้และเรืองแสงในที่มืดซึ่งเป็นการนำเสนอความเป็น Spider-Man ได้อย่างลงตัว และเป็นลายที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยพลังพิเศษที่ผู้ใช้เท่านั้นถึงจะสัมผัสได้  เคสคอลเลคชั่นนี้รองรับโทรศัพท์ iPhone 13ไปจนถึงเคส iPhone 15และเคสซุมซุง S23/S24 Ultra   นอกจากนั้นยังมีเคส iPad , Macbook, Airpods, Magsafe Wallet, Phone Charm, และ Mousepad และอีกคอลเลคชั่นที่เปิดตัว เป็นอุปกรณ์ตกแต่งมือถือจากผลงานการออกแบบลายโดยไอคอนสตรีทอาร์ตระดับโลก ซิโมเน่ เล็กจ์โน่ (Simone Legno) ซึ่งหยิบ Mickey&Friends และ Winnie The Pooh มาวาดใหม่เป็น Version Tokidoki  ซึ่งผมและทีมรู้สึกสนุกและภูมิใจมากๆทุกครั้งที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ รอบนี้เรายกระดับไปอีกขั้นจริงๆ

จากการร่วมมือสองฝ่าย เป็นการร่วมมือสามฝ่าย คือ  Sheep x Tokidoki  x Disney ซึ่งความยากของการทำงานสามฝ่ายคือการทำให้ทุกฝ่ายโดดเด่นเท่ากัน ไม่มีฝ่ายไหนหายไปหรือใครเด่นกว่าใคร ซึ่งจะยากกว่าการทำงานแบบสองฝ่ายอย่างแน่นอน เพราะเราต้องแบ่งสัดส่วนให้ดี โดยผลงานที่ออกมาจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่งมือถือ Mickey&Friends และ Winnie The Pooh ที่มีลายเส้นการวาดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Tokidoki โดยมีฟังก์ชั่นแบบ Sheep Style สินค้าที่เป็นไฮไลท์รอบนี้คือ Spinning Magsafe Griptok ที่เราทำหมุนได้ 360 องศา เป็นวงล้อสุ่ม Characters ซึ่งเราตั้งใจเปลี่ยน Gadget ธรรมดาๆให้เป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกในวงเพื่อนพ้องที่ชื่นชอบ Disney และทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงกลิ่นไอความรู้สึกของการดูการ์ตูน Mickey&Friends และ Winnie The Pooh ที่เหล่า Character จะมาล้อมวงเล่นสนุกกันตลอดเวลา

นายอภินันท์กล่าวต่อว่า “สำหรับแบรนด์ Sheep การหยุดนิ่งเท่ากับถอยหลัง เพื่อเป็นหนึ่งในวงการ และเป็นตัวแทนของแบรนด์ไทยและสินค้าไทย เราจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าให้คุ้มค่าต่อเงินทุกบาทที่ลูกค้ามอบให้เรา เมื่อเทียบกับสินค้าที่ราคาเท่ากันแล้ว สินค้าของแบรนด์ Sheep ต้องดีที่สุดทั้งในเชิงของ การใช้งาน ความสวยงาม และภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน ในปีที่ผ่านมาเราออกสินค้าคอลเลคชั่นใหม่แทบทุกเดือน นอกจากจะเพิ่มตัวเลือกใหม่ให้ลูกค้าเดิมแล้ว การออกคอลเลคชั่นใหม่คือการแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า แบรนด์เราไม่เคยหยุดพัฒนา ทุกครั้งที่มีการออกคอลเลคชั่นใหม่ นั้นคือเรามีการพัฒนาคุณภาพสินค้าควบคู่ไปด้วย

ปัจจุบันเรามีสินค้าหลักเป็นอุปกรณ์เสริม เคสมือถือ เคส iPad, เคส Macbook, เคสAirpods, และทำสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์หลากหลายมากขึ้น รวมถึงกล่องสุ่มสินค้าไอทีด้วยครับ   ปัจจุบันSheep ถือเป็นแบรนด์อันดับต้นๆในไทย ที่มีผลงานการออกแบบร่วมกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกับ  Esther Bunny , Disney, Sanrio, Care Bears, One Piece, Doraemon, Shinchan, และ อื่นๆอีกมากมายซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดีซึ่งนอกจากการจัดจำหน่ายในร้าน AppleSheep แล้ว แบรนด์ Sheep ยังได้รับความไว้วางใจจากร้านค้าชั้นนำระดับประเทศมากมายไม่ว่าจะเป็น Loft, Matchbox, Freak, Seek and Keep Club, Medium and More, Banana, Studio7, B2S, Yumeya, True Shop และ จากทิศทางผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์เดินหน้าบุกขยายตลาดต่างประเทศเริ่มจากในภูมิภาคอาเชียน เพื่อขยายฐานลูกค้า  เป็นการตอกย้ำว่าแบรนด์ไทยเรามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ   เราจะนำเสนอสินค้าสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ” คุณอภินันท์กล่าวทิ้งท้าย  

ปัจจุบัน AppleSheep มีหน้าร้านในห้างสรรพสินค้าอยู่ 10 แห่งด้วยกัน ร้าน Sheep Exhibition Store ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์  และ Flagship Store  อีก 9แห่ง เซ็นทรัลเวิลด์,เซ็นทรัลลาดพร้าว ,เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลรามอินทรา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ,เมกา บางนา , ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, และอีกสองสาขาต่างจังหวัด เซ็นทรัลเหาดใหญ่ , เซ็นทรัลขอนแก่น ติดต่อช่องทางออนไลน์ได้ที่  www.applesheepth.com,
Line: @applesheep, FB :AppleSheep เคส ipadpro มีที่เก็บปาก, IG applesheepth, Tiktok applesheepth

เริ่มแล้ว! Disney Toy Expo Thailand 2024 วันแรกสุดคึกคัก

แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ตบเท้านำของเล่นของสะสมมาโชว์เต็มลานเซ็นทรัลเวิลด์

( 15 สิงหาคม 2567 ) เปิดฉากวันแรกอย่างยิ่งใหญ่ สิ้นสุดการรอคอยงานใหญ่แห่งปีของสาวกแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์แห่ร่วมงานคับคั้ง เรียกว่าหลายคนที่มาร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้จัดเต็มทำถึง เพราะเป็นครั้งแรกในไทยและในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยกกองทัพของเล่นของสะสมทุกคาแรคเตอร์
ที่แฟนๆ ชื่นชอบจาก Disney ,Pixar ,Marvel และ Star Wars ภายใต้ชื่องาน Disney Toy Expo Thailand 2024 งานที่รวบรวมสินค้าลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการมากมาย ของสะสมจากแบรนด์ระดับโลกสินค้ารุ่นลิมิเต็ด คอลเลคชันใหม่จากความร่วมมือของศิลปินชื่อดัง พร้อมเสริฟความบันเทิงใกล้ชิดเหล่าคาแรคเตอร์ดิสนีย์ที่มามอบความสุขสนุกสนานส่งตรงจากต่างประเทศ งานนี้เนรมิตพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น1ถึงชั้น3 ให้เป็นแหล่งรวมความสุขสนุกสนานและย้อนความทรงจำในวัยเด็ก ตลอด4วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่15-18สิงหาคมนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการงานของเล่นของสะสมเลยทีเดียว

คุณปรีชา อาชามงคล ผู้อำนวยการลิขสิทธิ์สินค้าอุปโภคบริโภคประจำประเทศไทยและเวียดนาม และคุณชาญวิทย์ วิทยสัมฤทธิ์ Chief Executive Officer บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมพบกับนักแสดง และนักร้องสุดฮอต โฟร์ท- ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ การเป็นแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์ และสนุกสุดฟินกันแบบฉ่ำๆ กับการแสดงมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN ปิดท้ายด้วย Mickey & Friends คาแรคเตอร์จะออกมาทักทายแฟนๆอีกด้วย

โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจาก บริษัท อาซากิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน), บริษัท เอส เอฟคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ขวัญชนกโปรดักชั่น จำกัด,บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด

ภายในงานบรรยากาศสนุกสุดฟินที่แต่ละแบรนด์ต่างครีเอตบูธและสินค้าได้อย่างน่าตื่นตาและน่าสนใจทั่วทุกบริเวณงานทั้ง 3ชั้น มีแบรนด์ชั้นนำเผยโฉมสินค้าแปลกใหม่ของหายาก และเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่สุดพิเศษจากแบรนด์ ต่างๆอาทิ Royal Selangor มาพร้อมกับ BE@RBRICK IRONMAN เปิดตัวครั้งแรกของโลก AppleSheepที่เตรียมเปิดตัวสินค้าจากการร่วมมือสุดพิเศษกับศิลปินชื่อดังระดับโลก ซิโมเน่เล็กจ์โน่ Simonelegno ( Tokidoki) ไอคอนสตรีทอาร์ตที่มีคาแรคเตอร์เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ นำลายเส้นสไตล์น่ารักอันเป็นเอกลักษณ์มาสู่ Mickey & Friends ด้วย Collection เสื้อผ้าเครื่องประดับหลากหลายอย่างที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน ,แบรนด์Sheepเปิดตัวเคสโทรศัพท์ ลาย Spider-Man โดยมี วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร มาร่วมงาน และ Asaki ที่มาพร้อมกับ Box Set สุดพิเศษ ปิดท้ายด้วย Wongdek Toysland ที่มาพร้อมการเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดจากแอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Cars จาก Pixarพร้อมพบกับบรรดาแบรนด์ของเล่นของสะสมชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิเช่น LEGO,Royal Selangor, Threezero,funko,Loungefly ,URDU,BEAST KINGDOM, Makeitloud และ AppleSheep รวมร้านค้าทั้งหมดมากกว่า 40 บูธ นอกจากได้พบสินค้าแล้วยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การแจก Voucher ผ่าน Shopee Live และโปรโมชั่นประจำบูธลุ้นรับของรางวัลมากมาย

Meet & Greet กับ Mickey &Friends ที่มาสร้างความสนุกสนานอบอุ่นหัวใจให้กับผู้ชมทั่วโลกมานานหลายทศวรรษเตรียมเปิดรับโอกาสสุดพิเศษที่จะได้พบปะ และทักทายกับ Mickey พร้อมผองเพื่อนที่พวกเขาจะปรากฏตัวตลอด 4 วัน ภายในงาน DisneyToy Expo Thailand 2024 เพื่อพบกับแฟนๆ ชาวไทย

กิจกรรมพิเศษจากกลุ่มแฟนชาวไทย การแสดงร้องเพลงจากกลุ่มแฟนๆโดย DMCT จะทำการแสดงขับร้องบรรดาเพลงฮิตของดิสนีย์อันเป็นที่รักของทุกคน ผ่านกลุ่มแฟนๆมากความสามารถพวกเขาตัวกันด้วยความหลงใหลในดนตรีของดิสนีย์โดยพวกเขาเคยถ่ายทำเพลงดิสนีย์เวอร์ชั่นของตัวเองมาแล้วด้วย มาร่วมย้อนสู่วัยเด็กที่ชวนคิดถึงและร้องเพลงท่วงทำนองที่คุ้นเคยผ่านเพลงโปรดของแฟนๆ

บูธจากกลุ่มแฟนๆ โดย 501st Thailandหากคุณเป็นแฟนของ Star Wars ห้ามพลาดบูธของ 501st Legion Thailand กลุ่มแฟนๆที่จะแต่งกายด้วยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลใน Star Wars พร้อมเปิดโอกาสในการถ่ายรูปรับของที่ระลึกตามธีม และอื่นๆ อีกมากมายการแสดงคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN กลุ่มศิลปินบอยแบนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยโดยพวกเขาจะมาสร้างสีสัน มอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ และผู้เข้าร่วมงาน

พบกับงาน Disney Toy Expo Thailand 2024 ตลอด 4 วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่วันนี้ – 18สิงหาคม 2567 ภายในพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ Instagram DTX Thailand 2024

กรมการท่องเที่ยว เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ตอกย้ำเที่ยวไทย วางใจไปกับช้างชูงวง

กรมการท่องเที่ยวเปิดเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Standard) นำสื่อมวลชนสัมผัสบริการท่องเที่ยว เครื่องหมายรับรอง “ช้างชูงวงเริงร่า” ในเมืองน่าเที่ยว ตอกย้ำภารกิจยกระดับ Supply Side สู่ความยั่งยืน เดินหน้าตามนโยบาย รมว.เสริมศักดิ์ เที่ยวไทยได้ทุก Season

ช้างชูงวงเริงร่า

วันที่ 16 – 17 กรกฎาคม 2567 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้านโยบายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทุก Season” เปิดเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ภายใต้แคมเปญ “Trust me วางใจไปกับช้างชูงวง” ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เครื่องมือยกระดับ Tourism Supply Side
เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างมูลค่า (Value) ให้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย
ช้างชูงวงเริงร่า เป็นที่นิยม ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่มาตรฐาน ตลอดจนประชาสัมพันธ์สถานที่ หน่วยงาน และสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวและสาธารณชน นำสื่อมวลชนร่วม
Press Trip ลงพื้นที่ตามเส้นทางกรุงเทพมหานคร ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนนทบุรี



โดยมีนักแสดงชื่อดัง นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต ร่วมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์การบริการอย่างมีคุณภาพ จากสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยจากกรมการท่องเที่ยว ทั้ง รีสอร์ท ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตลอดจนรถตู้ปรับอากาศ เรือรับจ้าง และห้องน้ำสาธารณะ

นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต

รถตู้ปรับอากาศ Van 1-4
บริษัท ธนัชวิชญ์ แทรเวล กรุ๊ป จำกัด
มาตรฐานการบริการรถตู้ปรับอากาศ สำหรับนักท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 1
เรื่องของโอ่ง จ.ราชบุรี
มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (ห้องน้ำโอ่งมังกรเขียว)

จุดแวะที่ 2
Cook & Coff @ เรือนจำกลางราชบุรี จ.ราชบุรี
มาตรฐานบริการร้านอาหารเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 3
วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
แหล่งท่องเที่ยวมูเตลู เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

จุดแวะที่ 4
โรงแรมบ้านอัมพวา รีสอร์ทแอนด์สปา จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทรีสอร์ท

จุดแวะที่ 5
ร้านอาหาร The Pomelo อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ร้านอาหารอื่น เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

จุดแวะที่ 6
ล่องเรือชมหิ่งห้อย ตามลำน้ำแม่กลอง โดย ท่าเรือคุณย่า จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานเรือรับจ้างเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 7
วิสาหกิจชุมชนบ้านบางพลับ จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระดับดีเยี่ยม
มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ระดับดีเยี่ยม

จุดแวะที่ 8
ร้านท่าเรือภัตตาคาร 2507 จ.สมุทรสาคร
มาตรฐานบริการร้านอาหารเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 9
ปตท. เจษฎาบดินทร์ออยล์ จ.นนทบุรี
มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (ห้องน้ำชาย/ห้องน้ำหญิง )

ทั้งนี้ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการบริหารจัดการและการให้บริการที่ดีมีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและสร้างความยั่งยืนสู่ผู้ประกอบการ มีทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน อายุการรับรองมาตรฐาน 3 ปี ครอบคลุมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก สินค้าและบริการท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ด้านแหล่งท่องเที่ยว และด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ผู้ได้รับการรับรองมาตรฐาน
ได้รับประโยชน์ในการยกระดับคุณภาพการให้บริการ และการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ สร้างรายได้และเกิดความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ช่วยเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการสถานประกอบการท่องเที่ยว ชุมชน โฮมสเตย์ และมัคคุเทศก์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ด้วยความมั่นใจ คุ้มค่า

โดยสามารถค้นหาสถานที่ และสถานประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ผ่านทางเว็บไซต์ tts.dot.go.th และเฟซบุ๊ก Thailand Tourism Standard สำหรับผู้ที่สนใจก้าวเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 02 141 3235 และ อีเมล tsactourism@gmail.com

กินอาหารเป็นยาดีกว่ากินยาเป็นอาหาร กับ เชฟตวง เขาค้อ

ร้านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ
Toptotravel พาคุณไปชิมอาหารถูกปากคนไทย ถูกใจนักชิม ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ รังสรรค์เมนูสุดพิเศษ โดยเชฟคนไทย ปรับเปลี่ยนรสชาติและเมนูใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองลิ้มลองรสชาติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน รับรองว่ารสชาติอร่อย และที่สำคัญไร้ผงชูรส น่ารับประทานจนเลือกไม่ถูก
อร่อยเด็ดทุกจาน ไฟลุกทุกเมนู

ร้านอาหาร เขาค้อ เพชรบูรณ์ โดยเชฟตวงเขาค้อ ร้านอาหารโบราณนิยม ภายในร้านตกแต่งสบาย ๆ เหมือนนั่งรับประรับประทานอาหารอยู่บ้าน พบครัวแบบเปิดอยู่กลางร้านที่มีลีลาผัดไฟแรงและผัดเร็วๆ ด้วยกระทะจีน สะท้อนความอร่อย
ปรับเปลี่ยนรสชาติและเมนูใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองลิ้มลองรสชาติใหม่
ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน รับรองว่ารสชาติอร่อย และที่สำคัญไร้ผงชูรส  บรรยากาศสบาย ตัวร้านตกแต่งแบบย้อนยุค เหมือนได้นั่งกินข้าวบ้านคุณยาย ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั้งหมู่คนไทยและทั่วโลก ปัจจุบันมีเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่งกว่าสองร้อยรายการ โดยเชฟตวง เป็นดิเอนเนอร์และเอกเซ็กคลูทีฟเชฟ เป็นผู้ควบคุมทุกอย่างในร้านแห่งนี้ เชฟนำเสนอเมนูอาหารจากความทรงจำ ที่คุณยายของผมกิน ผมไม่อยากให้เมนูหลายอย่าง ตายไปกับคุณยาย และอยากอนุรักษ์เมนูต่างๆ ที่คุณยายทำเอาไว้ในโลกนี้ต่อไป

เข้าครัวไปพูดคุยกับ เชฟตวง เจ้าของร้านอาหารโบราณนิยม ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทรนด์การรับประทานอาหารที่เขาค้อ ด้านวัตถุดิบทางร้านเชื่อมโยงกับเขาค้อ เชฟตวงการันตีความอร่อย บอกว่า การรู้ที่มาของวัตถุดิบอาหารจะมีความสำคัญต่อผู้บริโภค รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งอุปโภคและบริโภค วัตถุดิบโดยเฉพาะพืชผักสดเรา
ใช้จากเขาค้อเป็นหลัก เพราะอยากอุดหนุนเกษตรกร และพ่อค้าแม่ค้าบนพื้นที่เขาค้อ รถพุ่มพวงต่างๆ อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารไทยอย่างเต็มที่ การปรับตัว
เพื่อรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยนไป เน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้นักเดินทาง ยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย พร้อมสื่อสารสร้างความเชื่อใจ และอิ่มอร่อยเดินทางท่องเที่ยวต่อได้อย่างสบายใจ

การที่เชฟอุดหนุนชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ แม้แต่แก๊สสั่งกับรถพุ่มพวง ร้านอยู่ได้ชุมชนอยู่ได้ เรียกว่าร้านอยู่อย่างมีความสุขกับชุมชน ยังช่วยสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนของเมนูที่สะท้อนความเป็นเขาค้อ เป็นเมนูโบราณ
ที่คุณยายทำให้เรากินอาหารจำพวกหลน แกงคั่ว อาหารจำพวกต้มหมูโบราณเช่น ต้มหมูสัปปะรด แกงรัญจวน ปิดท้ายด้วยขนมหวาน สาคู และ เฉ๊าก๊วย

ปัจจุบันหาคนที่มีภูมิรู้ด้านนี้น้อยลง
เชฟอยากอนุรักษ์ทุกเมนู ไม่เคยหวงสูตร อาหารไทยมีเสน่ห์ เด่นเรื่องรสชาติ เพื่อถ่ายทอด เชฟไลฟ์สด เปิดกรุ๊ปให้ทุกคนได้ชม เพื่อนำไปทำทานกัน หรือจะนำไปต่อยอดอาชีพก็ยินดี เชฟถือว่า กิ๊ฟแอนด์เทค เป็นหัวใจหลักในการเป็น
เชฟตวง อยากทำอาหารที่ดี ใจรัก สิ่งที่มีสองอย่างที่ขาดไม่ได้คือหนึ่ง ภูมิรู้
คือภูมิรู้ดั้งเดิม โตมากับสังคมแบบไหน เคยไปกินอะไรมา นี่คือภูมิรู้ที่เคยกิน
ถ้าบ้านไหนไม่กินปลาไหลลูกหลานก็ไม่ได้กินปลาไหลแต่สิ่งสำคัญคือการใฝ่รู้ คือการไปฝึกฝนเพิ่มเติมศึกษาในโซเชียลก็ได้ กูเกิลหรือยูทูบ แต่ไม่ได้กลิ่นได้รส ได้แค่รู้หรือไม่ก็ไปซื้อเขากิน ฉะนั้นภูมิรู้และใฝ่รู้ต้องคู่กัน อยากให้ทุกท่านได้สัมผัสอรรถรสความอุดมสมบูรณ์ในเรื่อง อาหาร

ร้านอาหารโบราณนิยม @เขาค้อ รายการอาหาร รวมถึง รสชาติ และวิธีการ ได้รับมรดกตกทอดจาก คุณยายขวัญชื่น ( เสมรสุต ) พุ่มบัว หรือคุณยายตุ๋ย หลานสาวหลวงวิชิตสรไกร (โต) ข้าราชการกลาโหมในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีความสามารถในการปรุงอาหารแบบโบราณดั้งเดิม ออกแบบเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่ง ทุกชนิดไม่ใส่ผงชูรส การปรุงอาหารทุกจานไม่ใส่ผงปรุงรสทั้งสิ้น รสชาติเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งชาวไทย รวมถึง มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และแม้แต่ไต้หวัน ที่แวะเวียนมาที่ร้านแทบทุกวัน จนมีวันนี้ โบราณนิยมขึ้นสู่ปีที่เก้า

ใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวเขาค้อในฤดูหนาวนี้ แอดมินอยากแนะนำ ร้านโบราณนิยมให้เป็นหนึ่งในร้านอาหาร ที่ต้องมาทานให้ได้สักครั้งเมื่อมาท่องเที่ยวเขาค้อ เชฟตวงรอต้อนรับทุกคน และขอทำหน้าที่แทนคนไทย ทุกครั้ง ที่มี นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนที่ร้าน านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ เชฟมอบความประทับใจให้ทุกครั้ง เพื่อหน้าตาของประเทศชาติ
เชฟตวง กล่าวทิ้งท้าย

มาเที่ยวเขาค้อ ร้านโบราณนิยม เขาค้อ … ยินดีต้อนรับ
ร้านอาหารที่เพียบพร้อม ทั้งอาหารคาว หวาน ทั้งแบบโบราณและร่วมสมัย รวมถึงเครื่องดื่มนานาชนิด เบียร์นานาชาติ

สามารถติดต่อ เพจเฟซบุ้ค: ร้านโบราณนิยม เขาค้อ (อินบ็อก)
โทรติดต่อ 062 565 0535

FB ร้านโบราณนิยม เขาค้อ Boranniyom Khao Kho Restarant
โทร 062 656 0535 และ 083 068 8635

พิกัดร้าน
https://maps.app.goo.gl/DUL35QDPSFLDxirF6
ทล.2325ทางไปน้ำตกศรีดิษฐ์ ปากซอย The Sense
ก่อนถึง แทนรัก ทะเลหมอก รีสอร์ท เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

เมนูออนไลน์ กดลิงค์ที่นี่
https://online.anyflip.com/vtzpu/kefw/mobile/index.html

เอิร์ธ สายสว่าง ชวนมาทำความรู้จัก Cuppers Cafe โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ


The Cuppers by The Park Nine Suvarnabhumi วันนี้ คุณเอิร์ธ สายสว่าง ชวนมาทำความรู้จัก Cuppers Cafe (โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ) คาเฟ่เรียบเท่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้พาทุกคนมาชิลที่ มาช่วงนี้บอกเลยบรรยากาศดีมาก

Cuppers Cafe (โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ) ตกแต่งดีไซน์ที่ผสมผสานความเป็นโมเดิร์นเข้าไว้กับความคลาสสิก จิบกาแฟ แนะนำผู้ที่ชื่นชอบขนมอบใหม่ๆ หอมกรุ่นทุกวัน วัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้เป็นเมล็ดกาแฟชั้นเยี่ยมจากประเทศบราซิล ทำให้ขนมอบมีกลิ่นหอมที่โดดเด่น และมีรสชาตินุ่มกลมกล่อม นั่งจิบกาแฟยามบ่ายพร้อมกับเค้กและขนมอบที่ The Cuppers หรือนั่งพบปะสังสรรค์พูดคุยกับเพื่อน นั่งทำงานโดยที่นี่ให้บริการเครื่องดื่ม ค็อกเทล และของว่างเบาๆ ที่โดดเด่นทั้งบรรยากาศ และรสชาติเครื่องดื่ม รับรองประทับใจอย่างแน่นอน

ที่ร้านถ้าหากมองมาจากด้านนอก คล้ายว่าจะถูกคุมโทนด้วยต้นไม้เขียวขจี แต่เมื่อเปิดประตูแล้วก้าวเข้ามาด้านใน เราจะพบสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์นิเจอร์ผสมผสานความเป็นโมเดิร์นเข้าไว้กับความคลาสสิกได้อย่างลง เบรกด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟCUPPERS ชื่อร้านที่อยากชักชวนให้ทุกคนได้ลองทำความรู้จัก CUPPERS ให้มากขึ้น

คาเฟ่สวยใกล้สนามบิน บรรยากาศร่มรื่น มื้อเช้า มื้อเที่ยง มื้อเย็น มาทานกาแฟหรือมานั่งทำงานบรรยากาศชิลๆ มาอัพเดทโปรไฟล์ หรือ พาครอบครัวมาทานอาหาร ก็สามารถแวะมาหากันได้ เรียกว่า สุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติ

เมนูจากร้านThe Cuppers โรงแรม The Park Nine Suvarnabhumi มีให้เลือกมากมาย และมีรสชาติที่อร่อยเป็นมาตรฐานทุกเมนู โดยเมนูเครื่องดื่มยอดนิยม มีเมนูเครื่องดื่มกาแฟ ชา น้ำผลไม้ปั่น และโซดา ให้เลือกครบครัน พร้อมด้วยเมนูอาหาร และขนมทานเล่นมากมาย

เมนูเด่นของร้าน Cีuppers คือ เมนูกาแฟต่าง ๆ ทั้งแบบร้อน-เย็น ครัวซองต์
ขนม เค้ก หอมอร่อย ทุกชิ้น

ร้านอาหารและร้านกาแฟในที่เดียวกัน ระหว่างรอขึ้นเครื่อง แวะจิบกาแฟ จิบกาแฟพร้อมเค้กหลากหลายรส ท่ามกลางธรรมชาติ หรือ ทานอาหารก่อนบินที่ Eat Drink Love สุวรรณภูมิ หลีกเลี่ยงร้านอาหารแออัดและราคาสูงในสนามบิน มาเพลิดเพลินกับมื้ออาหารแสนสบาย อยู่ติดถนนใหญ่ มีโซนห้องแอร์ และโซนด้านนอก มีที่จอดรถกว้างขวาง

อีกหนึ่งจุดนัดพบที่ดี กับมื้ออร่อยที่คุณจะประทับใจก่อนเริ่มการเดินทาง
The Cuppers โรงแรม The Park Nine Suvarnabhumi
เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
The ParkNine Suvarnabhumi
สำรองที่นั่งโทร. 02-119-2188
พิกัด: https://g.page/eat-drink-love-suvarnabhumi

#theparkninehotel #TheParkNineSuvarnabhumi
#EatDrinkLoveSuvarnabhumi #toptotravel

กรมการท่องเที่ยวชูมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

กรมการท่องเที่ยวชูมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เดินหน้ายกระดับ Supply Side ชวนเที่ยวไทยมั่นใจไปกับช้างชูงวง ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน

กรมการท่องเที่ยว เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ใช้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย “ช้างชูงวงเริงร่า”สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ตอกย้ำภารกิจยกระดับสินค้าและบริการครอบคลุมตลอดทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มุ่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว บริการท่องเที่ยว บุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนการอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ รวมถึงการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ตั้งเป้าสู่การเป็น Tourism Hub ของโลก

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดงานแถลงข่าวกรมการท่องเที่ยว ก้าวย่างอย่างยั่งยืน “ท่องเที่ยวไทยมั่นใจไปกับ DOT” ณ ลานอีเดน ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึง การจัดงานในครั้งนี้
“กรมการท่องเที่ยวเดินหน้ายกระดับ Supply Side ชวนเที่ยวไทยมั่นใจไปกับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย สัญลักษณ์ช้างชูงวงเริงร่าประกอบลาย ประจำยาม ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับผู้ประกอบการและชุมชนให้
มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม การให้บริการที่ดีกับนักท่องเที่ยว รวมถึงสิ่งสำคัญในปัจจุบันคือเรื่องสิ่งแวดล้อม มีทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน ครอบคลุมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก สินค้าและบริการท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ด้านแหล่งท่องเที่ยว และด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งผู้ที่ได้รับรองมาตรฐานจะเป็นสถานประกอบการที่ภาครัฐรับรองว่ามีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้รองรับนักท่องเที่ยวได้ ตามเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวของรัฐบาล”

นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้กล่าวเสริมถึงการยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยว ว่า “กรมการท่องเที่ยว ดำเนินการเรื่องการออก
ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การยกเลิก หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว การประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ และการขึ้นทะเบียนผู้นำเที่ยว
โดยมีสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขา จำนวน 8 แห่ง ในภูมิภาคต่าง ๆ ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา หนองคาย สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และภูเก็ต อีกทั้ง ให้บริการออกใบอนุญาตนอกสถานที่และระบบ e-Service
ในอนาคต สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยผ่านการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ บูรณาการการปฏิบัติงาน ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว คุ้มครองการประกอบธุรกิจนำเที่ยว และการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ของคนไทย พร้อมกันนี้มีการพัฒนาศักยภาพการให้บริการด้วยการฝึกอบรม การตรวจประเมินมาตรฐานธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐานมัคคุเทศก์ มีการประกาศกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวในท้องถิ่นหรือชุมชน ให้มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นได้ตามกฎหมาย”

นายบุญเสริม กล่าวเพิ่มเติม ถึงการดำเนินงานด้านต่างประเทศ ว่า
“เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเอเชีย มีการพัฒนาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสัมพันธ์
อันดีกับต่างประเทศตามกรอบความร่วมมือต่างๆ โดยส่งเสริมให้มีการพัฒนามาตรฐานสมรรถนะตลอดจนรับรองมาตรฐานสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตามข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียนและข้อตกลงอื่นที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ดำเนินมาตรการคืนเงินให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์ที่มีเงินลงทุนถ่ายทำในประเทศไทยสูง ส่งผลให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้ไปยังธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์
รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในประเทศไทย และประชาสัมพันธ์ภาพแหล่งท่องเที่ยวของไทยสู่ทั่วโลก”

นางณัฏฐิรา แพงคุณ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึงภารกิจด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบริการท่องเที่ยว “เพื่อให้เกิดการเดินทางและเกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวจากเมืองท่องเที่ยวหลัก ไปสู่เมืองน่าเที่ยวการพัฒนา
แหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ได้คำนึงถึงการออกแบบสิ่งจำเป็นตามโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลหรือ Tourism for All ให้สามารถรองรับและตอบโจทย์
นักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย นอกจากนี้ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้กับชุมชนทั่วประเทศ ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สำหรับการพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ได้จัดทำ
มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยและตรวจประเมินมาตรฐาน ผ่ากระบวนการ
ที่เป็นสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริการทั้งหมด 36 มาตรฐาน แบ่งเป็นมาตรฐานที่พัก มาตรฐานบริการท่องเที่ยว และมาตรฐานกิจกรรมท่องเที่ยว จนมีสถานประกอบการด้านบริการที่อยู่ระหว่างการรับรองมาตรฐานไม่น้อยกว่า 1,293 แห่ง สร้างมูลค่าเพิ่มผ่านอัตลักษณ์ สินค้า บริการ และกิจกรรมของชุมชนที่ได้มาตรฐาน ต่อยอดเพื่อสร้างจุดขายให้กับนักท่องเที่ยว ตอบโจทย์ Tourism Trend มีการอบรมเสริมสร้างองค์ความรู้ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ ตลอดจนจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ การท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิม เพื่อส่งเสริมและบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคี
เครือข่ายในการพัฒนาการท่องเที่ยวตามประเด็นต่าง ๆ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการและชุมชนที่ได้รับมาตรฐาน ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว

ซึ่งการจัดพิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 จัดขึ้นในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน”

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพัฒนาห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยวสร้างความยั่งยืนสู่ผู้ประกอบการ ชุมชน นักท่องเที่ยว รวมทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนินการตาม 5 กลยุทธ์ภายใต้นโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ของรัฐบาลเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Tourism Hub มุ่งหวังให้การท่องเที่ยวไทยก้าวย่างอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ได้รับบริการท่องเที่ยวที่ดี พร้อมท่องเที่ยวไทยมั่นใจไปกับ DOT