Category Archives: Lifestyle

The Oasis Spa : ดิโอเอซิสสปา สุขุมวิท 31 

อยากชวนไปพักผ่อนสบายๆ หยุดพักจากชีวิตที่เร่งรีบและให้เวลาตัวเองได้เพลิดเพลินไปกับการนวดแผนไทยที่สปาที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 สัมผัสความงามจากสระบัว ที่ให้ความรู้สึกสงบ รายล้อมด้วยแมกไม้น้อยใหญ่เขียวขจีพร้อมบรรยากาศสวนสวยที่ร่มรื่นซ่อนอยู่ใจกลางเมือง


Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 การพักผ่อนที่ดีที่สุดกับห้องสปาทรีทเมนต์ จำนวน 12 ห้อง ที่พร้อมให้บริการ ทั้งชาวเวอร์กลางแจ้ง อ่างอาบน้ำสำหรับแช่ตัว และเตียงนวดพักผ่อนในบรรยากาศสวนสวยที่ร่มรื่นซ่อนอยู่ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ในบ้านสีขาวตกแต่งกลิ่นอายล้านนาท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่ และสระบัว แบบสวนในบ้านของโมเนต์รู้สึกเหมือนมาเที่ยวรีสอร์ทหรู ย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอชวนคุณดื่มด่ำกับบรรยากาศในโอเอซิสแห่งนี้ไปด้วยกัน

ทันทีที่เข้ามาภายในบริเวณ ดิโอเอซิสสปา พนักงานต้อนรับดูแลเป็นอย่างดี
นั่งพักผ่อนใหในบริเวณส่วนรับรอง พร้อมจิบเครื่องดื่มสมุนไพรที่เป็น welcome drink สำหรับลูกค้าทุกท่าน จากนั้นพนักงานจะให้ท่านกรอกข้อมูลด้านสุขภาพ
และเลือกทรีตเมนท์แพคเกจตามต้องการ

ไฮไลท์ King of Oasis ยืน 1 ในใจ
แพ็กเกจ King of Oasis เป็นการนวดไทยผสานการนวดแบบอโรม่า เทคนิคการนวดแก้อาการปวดเมื่อยเพื่อฟื้นฟูร่างกาย การนวดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกแบบหนึ่งของ โอเอซิส สปา มุ่งเน้นการปรับสมดุลร่างกาย กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ศีรษะ และส่วนที่สำคัญเพื่อบำบัดอาการเจ็บหรือตึงเครียดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนของนักบําบัดผู้เชี่ยวชาญ บอกเลยนวด 2 ชั่วโมง สบายตัวจนอยากนวดต่อ!! หลังจบทรีตเมนต์ ตัวเบาสบาย รู้สึกเลยว่าได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่ตึงเครียด จากนั้นเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งรอในห้อง พนักงานจะนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้อีกครั้ง

Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 ปัจจุบันเปิดถึงเที่ยงคืน
พิกัด : https://goo.gl/maps/LSGTNJFMhCmrdmzP6

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-24.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม : https://oasisspa.net
สาขาสุขุมวิท 31 ซอยสวัสดี แยก 4 สุขุมวิท 31 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

(มีที่จอดรถสำหรับคนที่นำรถส่วนตัว หรือสามารถใช้บริการรถรับส่งฟรี
จาก BTS สถานีพร้อมพงศ์ สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถสาธารณะ)

#ThaiMassage #OasisSpa #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

สยามอะเมซิ่งพาร์ค X โค้ก ลดแรงปังเวอร์ เที่ยวทั้งวันเพียง 240.-

 ฉลอง “44 ปี สยามอะเมซิ่งพาร์ค”

สยามอะเมซิ่งพาร์ค  จับมือโค้ก  จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี “44 ปี สยามอะเมซิ่งพาร์ค” ได้เวลาชวนเพื่อนและครอบครัวไปเที่ยวสนุกสุดมันส์กับเครื่องเล่นตัวท็อปมาตรฐานสากล อาทิ บูมเมอแรง (Boomerang) / ล่องซุงมหาสนุก (Log Flume) / ไซ-แอม ทาวเวอร์ (Si-Am Tower เปิดโลกแห่งการผจญภัย Choo Choo Adventure ขบวนรถไฟแห่งความสุขที่จะพาทุกคนท่องไปในโลกแฟนตาซีทั้ง5ของมาสคอตไซ-แอม  อีกทั้งสวนน้ำขนาดยักษ์ ชุ่มฉ่ำกับทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก รับรองโดยกินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส  เที่ยวฟรี โซนใหม่สุดอลังการ “บางกอกเวิลด์” และสวนป่าเมืองบางกอก&คาเฟ่  พักผ่อนกับธรรมชาติให้อาหารสัตว์น่ารัก                                                                                       

เดือดจัดกับโปรฯ จองออนไลน์  ลดไฟลุกสูงสุดเป็นปรากฎการณ์เกือบ 80%  บัตรผู้ใหญ่รวมทุกอย่าง ผ่านประตู+สวนสนุก+สวนน้ำ ไม่จำกัดรอบทั้งวัน เพียง 240 บาท (ปกติ 1,000 บาท)  พิเศษยิ่งขึ้นเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป รับไปเลยโค้กแคนอีก 6 กระป๋อง เปิดจองแล้ววันนี้ เข้าใช้บริการภายในวันที่ 1 มกราคม 2568  คลิ้กเลยที่ ticket.siamamazingpark.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/siamamazingpark และ line @siamamazingpark                        

ลุฟท์ฮันซ่าฉลองครบรอบ 65 ปี แห่งการบินเชื่อมไทย-เยอรมนี

ในวันนี้ ลุฟท์ฮันซ่ามีความภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับอีกก้าวสำคัญของกลุ่มสายการบิน ในโอกาสครบรอบ 65 ปีของเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากฮัมบูร์กมายังกรุงเทพฯ ความสำเร็จอันยาวนานนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของสายการบินต่อตลาดไทยและภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยช่วยเชื่อมโยงวัฒนธรรม ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างเยอรมนีและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 เที่ยวบินแรกของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าสู่ประเทศไทยได้ออกเดินทางจากเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ เที่ยวบิน LH640 ซึ่งในขณะนั้นรู้จักกันในชื่อ Super Constellation ได้ออกเดินทางสู่ตะวันออกไกลจากเมืองฮัมบูร์ก ผ่านดัสเซลดอร์ฟแฟรงก์เฟิร์ต โรม ไคโร การาจี และกัลกัตตา ก่อนถึงประเทศไทย โดยการเดินทางครั้งนั้นใช้เวลาเกือบสองวัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สายการบินได้ขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย ปัจจุบัน ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการเที่ยวบินระหว่างยุโรปและประเทศไทยหลายเที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยให้บริการที่ยอดเยี่ยมและความสะดวกสบายแก่นักเดินทางผ่านฐานการบินที่มิวนิกและแฟรงก์เฟิร์ต นอกจากนี้ สายการบินของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่ายังมีเที่ยวบินเชื่อมต่อระหว่างไทยไทยกับยุโรปผ่านฐานการบินอื่น ๆ ทั้งในซูริกและเวียนนาอีกด้วย โดยมีเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและยุโรปสูงสุดถึง 31 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

คุณเฟลิเป้ บอนิฟาตติ รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและกิจการร่วมค้าในภูมิภาคตะวันออก กล่าวว่า

“วาระครบรอบ 65 ปีในครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของเราในการบริการลูกค้าและเชื่อมโยงผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลก กรุงเทพฯ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับเรา และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการของเราอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการฉลองความสำเร็จอันยาวนานของลุฟท์ฮันซ่าในประเทศไทยกว่าหกทศวรรษ ปัจจุบันเราให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยมากกว่ากลุ่มสายการบินในยุโรปอื่น ๆ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 ไปยังกรุงเทพฯ อีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว”

ความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ลุฟท์ฮันซ่าใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาบริการของสายการบิน ตั้งแต่การปรับปรุงยกระดับเครื่องบินให้ทันสมัยไปจนถึงการริเริ่มโครงการต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลุฟท์ฮันซ่ามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือชั้น มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และน่าประทับใจให้กับผู้โดยสารชาวไทยไปพร้อมกัน

ลุฟท์ฮันซ่ามีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้น่าประทับใจสำหรับผู้โดยสารทุกคน เพื่อรักษาความเป็นเลิศในการบริการบนน่านฟ้าต่อไปอีก 65 ปี

5 องค์กรพันธมิตร หนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างยั่งยืน

งานเริ่มขึ้นโดยการแสดงชุดพิเศษ จากศูนย์วัฒนธรรมไทดำ บ้านไผ่หูช้าง

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลา 10.30 น . สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), สมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม , สมาคมท่องเที่ยว จ.นครปฐม ชมรมกีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ. นครปฐม ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.นครปฐม และสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แถลงข่าวการแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุขภาพ และกระจายรายได้สู่ชุมชนประกอบด้วย นายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย จ. นครปฐม นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ร่วมงาน โดยมีนางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว นำคณะสื่อมวลชนร่วมงาน ซึ่งการแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นี้ ณ สนามกอล์ฟ ไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

นางวรินทร ทองพูน ประธานชมรมกีฬาและท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ จ.นครปฐม กล่าวถึง การจัดงานในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของหลายองค์กร เพื่อร่วมมือกันในการผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและขับเคลื่อนด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างแท้จริง ซึ่งจังหวัดนครปฐมประกอบด้วย 7 อำเภอ กิจกรรมนี้ถือเป็นการนำร่อง
ซึ่งสนามกอล์ฟ ฯ แห่งนี้นอกจากใกล้กรุงเทพมหานครแล้ว ยังมีการออกแบบอย่างสวยงาม มีความเป็นธรรมชาติ และมีมาตรฐานได้รับการยอมรับในระดับโลกและพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมมอบของรางวัลต่างๆ มากมาย โดยได้รับการสนับสนุนจากทางสนามกอล์ฟและจากองค์กรต่างๆ

ด้านนายกันตพงษ์ ธนเนืองโรจน์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่สำเร็จในการขยายโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดนครปฐม ไม่ใช่แค่เรื่องกอล์ฟ แต่สำหรับทุกภาคส่วน นครปฐมมี 7 อำเภอ เราทุกภาคส่วนจะหาทางช่วยเหลือว่าทำอย่างไร จึงจะให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เป้าหมายของเราต่อไป เราจะเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนและขยายโครงการต่างๆ เพื่อสร้างกิจกรรมให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้จะมีการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในแบบการพักค้างคืน อาจจะแบบมาเที่ยว 2 วัน 1 คืน โดยมีการเข้ามาเที่ยว มาพักและมาทานอาหารตามสถานที่ต่าง ๆ ของจังหวัด ซึ่งทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการตลาด ด้านการท่องเที่ยว ด้านวัฒนธรรมขณะที่นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์ เอสเอ็มอี ไทย
จ. นครปฐม กล่าวว่า ทางจังหวัดนครปฐมมีความพร้อมในการเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในจังหวัด ซึ่งเอสเอ็มอี ในจังหวัด มีผลิตภัณฑ์
มีร้านอาหาร และสินค้าต่างๆ เรามีสินค้าแบรนด์ระดับประเทศ มีแบรนด์วีแกน และยังมีเอสเอ็มอี อีกหลายพันรายที่ ที่ต้องการการสนับสนุนเพื่อเชื่อมโยงในการสร้างสิ่งใหม่ๆ แก่ชุมชน

นายประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ประธานบริหารสนามกอล์ฟไดนาสตี้ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ กล่าวว่า สนามกอล์ฟ ฯ มีความยินดีในการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง
ซึ่งต้องบอกว่า เอสเอ็มอี เป็นเสาหลักของประเทศจริงๆ การก่อร่างสร้างตัวประเทศที่ยิ่งใหญ่และเข้มแข็งได้ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ส่วนหนึ่งมาจากเอสเอ็มอีที่มีความมั่นคง ผมดีใจที่เอกชนมาช่วยกันเรื่องนี้ ก็ให้กำลังใจ เรารับรู้กันอยู่แล้วว่า ถ้าหากรัฐบาลไม่ได้หันหน้ามามอง จะเหนื่อยมากๆ แต่ผมจะเป็นกำลังใจให้ ร้านค้าต่างๆ ของตำบล อำเภอ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาอย่างยากลำบาก แต่วันนี้เราได้เห็นแล้วว่า ได้มีองค์กรที่มาช่วยกันดันเอสเอ็มอี ในชุมชนต่างๆของจังหวัดนครปฐมขึ้นมา เรายืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า พร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ นี้อย่างเต็มที่และจะสนับสนุนไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ในจังหวัดอีกด้วย

ด้านนาง วรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬากอล์ฟครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมดีดีที่จะส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกรูปแบบหนึ่ง คาดว่าจะดึงนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาได้ สนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นสนามกอล์ฟตัวอย่างที่เป็นที่ชื่นชอบของนักกีฬากอล์ฟระดับโลกที่เข้ามาแข่งขันแล้ว และมีความพร้อมสำหรับการรองรับนักท่องเที่ยว

การแข่งขันกอล์ฟครั้งที่ 1 เปิดรับสมัครนักกอล์ฟสมัครเล่น ทีมละ 5 ท่านดวลวงสวิง โดยมีค่าสมัครทีมละ 15,000 บาทเพื่อหาทีมชนะเลิศชิงถ้วยรางวัลจาก พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง สมาชิกวุฒิสภาซึ่งแบ่งประเภทรางวัลและรางวัลพิเศษดังนี้ ถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภททีม 1 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ GROSS SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลชนะเลิศ NET SCORE 3 รางวัล ถ้วยรางวัลบู้บี้ 1รางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ 1รางวัล จากคุณประสิทธิ์ ภักดีพาณิชพงศ์ ผู้บริหาร สนามกอล์ฟไดนาสตี้ฯ เป็นบัตรรับประทานอาหารฟรี ในวันธรรมดาจำนวน 2 รางวัล รางวัลละ4 ท่าน มูลค่ารวมเป็นเงิน 5,600 บาท พร้อมด้วยรางวัลจากผู้ให้การสนับสนุนอีกมากมาย การแข่งขันในครั้งนี้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งรายได้จากการจัดการแข่งขันส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้กับผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ตามความเหมาะสมต่อไป

ภายหลังจากการแถลงข่าว การแข่งขันกีฬากอล์ฟ ครั้งที่ 1 ทางชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ยังได้นำคณะสื่อมวลชนไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการ
ศูนย์สุขภาพเชตวัน ศาลายา นครปฐม ซึ่งเปิดอบรมหลักสูตรนวดวัดโพธิ์และบริการนวดแผนโบราณต้นตำรับวัดโพธิ์ โดยมีคุณเสรัชร์ ตั้งตรงจิตร ผู้บริหารให้การต้อนรับ

#toptotravel
#ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว

ปาร์ตี้ฉลองวันเกิด Happy Birthday เอิร์ธ สายสว่าง

เป็นอีกวันแห่งความอบอุ่นและปลาบปลื้มในโอกาส ร่วมฉลอง Birthday celebration ให้กับ เอิร์ธ สายสว่าง Professional PR เป็นที่ปรึกษาดูแลและภารกิจ มากมาย เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ณ ร้านอำแดงไต้ฝุ่น

โดยมีเพลงอวยพรวันเกิดจาก ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ (คุณใหญ่)
(เจ้าของร้านอำแดงไต้ฝุ่น)ประจำปี 2566 สุดอบอุ่นท่ามกลางเพื่อนๆ โดยมีศิลปินดารานักแสดงและเซเลบริตี้ชื่อดังในวงการมากมายอวยพรอย่างเป็นกันเอง พร้อม มอบให้เจ้าของวันเกิดคุณเอิร์ธ สายสว่าง ที่ยิ้มรับอย่างอารมณ์ดีด้วยความสุขกายและสุขใจ สุขภาพแข็งแรง เป็นที่รักของทุกๆ คนตลอดไป

ปิดท้ายความสนุกสนามของงานนี้ ที่ร้านอำแดงไต้ฝุ่น by The River เน้นเมนูอาหารไทย-จีนสูตรตำรับโบราณเป็นแนวคิดดั้งเดิมร้านบรรยากาศดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ภายในโครงการบางกอกสแควร์ถนนพระราม 3 โดยปัจจุบันได้รับการการันตีเรื่องความอร่อยเด็ดจาก Michelin Guide ประเภท The Plate ถึง 2 ปีซ้อน (2020 และ 2021)

อำแดงไต้ฝุ่น By the River
ให้บริการทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
สำรองที่นั่ง โทร. 095 716 4712
Line: Amdangtyphoon
Instagram: amdangtyphoon
เส้นทาง: https://shorturl.asia/jZXaC

กลิ่นไอดิน คาเฟ่ ของ เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ สไตล์ธรรมชาติกลางป่ากลางเขา บรรยากาศสุดกรีน

กาแฟกลิ่นไอดิน Cafe & Restaurant ฟีลธรรมชาติ บรรยากาศดี
ในวันที่แดดจ้ากำลังดี เรื่องมันมีอยู่ว่า กลิ่นไอดิน ชื่อของคาเฟ่ มีกลิ่นอายที่ทำให้เรารู้สึกดีในธรรมชาติ ย้ำเตือนให้ระลึกถึงความทรงจำของการเชื่อมโยงกับธรรมชาติซึ่งกลิ่นแต่ละกลิ่นที่ออกมาจะมีความสมบูรณ์ในตัวของมันเอง rเจ้าของร้านต้อนรับเราด้วยเวลคัมดริงก์ สีสดใสทั้งแบบร้อนและเย็นชื่นใจให้เรานั่งพักคลายร้อนจากการเดินทาง เสมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ท้ายที่สุดมันก็เลยออกมาเป็นพื้นที่ที่ผสมผสานสิ่งที่ทุกคนอยากทำเข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว

วันนี้เราตั้งใจปักหมุดไปที่ ร้านกาแฟที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า ท่ามกลางบรรยากาศร่มครึ้มของต้นไม้ที่ขึ้นตามริมถนน อีกหนึ่งร้านกาแฟที่จังหวัดกำแพงเพชร ไม่ได้มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่ดี ยังมีกาแฟกลิ่นไอดิน ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่น่าสนใจพาตัวเองออกไปหาความสุข ด้วยการนั่งจิบกาแฟ พักผ่อนชิลๆ เป็นลานระเบียงแบบเก้าอี้ โต๊ะไม้ มองเห็นวิวบ่อปลาด้านล่าง ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านท้ายที่สุดมันก็เลยออกมาเป็นพื้นที่ที่ผสมผสานสิ่งที่ทุกคนอยากทำเข้าไว้ด้วยกันในที่เดียว บรรยากาศโดยรอบของที่นี่ยังคงให้ความรู้สึกสุขและสงบนิ่งทำให้คาเฟ่แห่งนี้ ทวีความอบอุ่นมากขึ้น

วันนี้ toptotravel พาทุกคนไปชิมกาแฟของ ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน พอเดินเข้ามาด้านในที่นี่เป็นทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟ เป็นคาเฟ่ที่มีทั้งเมนูเครื่องดื่มทั่วไปตามแบบฉบับของร้าน ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกำแพงเพชร (ระยะห่างประมาณ 3 กิโลเมตร) เกิดขึ้นจากความตั้งใจจากคอกาแฟชาวกำแพงเพชร ตัดสินใจกลับบ้านมาดูแลครอบครัว พี่หนุ่ยก็อยากมาช่วยแฟนและสร้างความมั่นคงไปด้วยกันที่นี่เป็นร้านกาแฟน่ารักๆ ในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนนั่งจิบกาแฟอยู่ที่บ้าน ทุกมุมในร้านสามารถเป็นมุมถ่ายรูปได้สวยเก๋ไม่ซ้ำใคร ร้านนี้เกิดจากความชอบและตัวตนของเจ้าของร้าน เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ (โอ๋ ) ชาวกำแพงเพชร และภรรยาเป็นชาวกำแพงเพชร คาเฟ่บนที่ดินของครอบครัว ทั้งคู่ตั้งใจให้ร้านนี้เป็นคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ บรรยากาศเหมือนห้องรับแขกต้อนรับเพื่อนฝูง เหมาะกับการอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงาน เราสะดุดตากับเปียโนเก่า เปียโนอังกฤษโบราณปลายยุคคลาสสิค ทุกอย่างในมุมนั้นดูเรียบแต่ว่ามีเสน่ห์ สไตล์ร้านและสวนโดยรอบเป็นการรวมความชอบของทุกคนในครอบครัว ล้อมรอบไปด้วยสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งมีสไตล์ต่างออกไปจากที่เคยเห็น ตามมุมสวนตกแต่งด้วยของพื้นเมืองที่หาได้ในพื้นที่ ของสะสมของครอบครัว และต้นไม้หลากหลายชนิด พื้นที่สนามหญ้า และสวนรอบๆ ปลูกต้นไม้จัดสวนเต็มพื้นที่ ด้วยความตั้งใจว่าอยากทำให้บ้านนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รายละเอียดทุกอย่างในร้านเต็มไปด้วยเรื่องเล่าที่ พี่โอ๋ เสฏฐวุฒิ หนุ่มอารมณ์ดีคนนี้อยากแชร์บรรยากาศที่บรรจุรายละเอียดไว้เต็มๆ

ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน บรรยากาศภายในร้านมีความเป็นกันเอง สะดวกสบาย เป็นคาเฟ่ที่ไม่เหมือนคาเฟ่ทั่วไป ไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่ต้องเป็นคนต้องการธรรมชาติ รักความสงบ เพราะร้านไม่พลุกพล่าน ตั้งอยู่บนโลเคชั่นธรรมชาติสนามหญ้าเขียวๆ กลางไร่อ้อน บรรยากาศดี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ร้านถูกตกแต่งไปด้วยกระจกบานใหญ่ สามารถมองวิวทิวทัศน์โดยรอยได้ บรรยากาศดี ร่มรื่น น้ำในบึงที่มีสปริงเกอร์หมุนวนก็ช่วยลดอุณหภูมิ ที่นี่จึงเหมาะแก่การนั่งชิลๆ พักผ่อนสบายๆ ภายในร้านมีที่นั่งทั้งโซนด้านนอกและด้านใน ให้ลูกค้าเลือกนั่งตามสบาย ใครอยากนั่งโซนในห้องแอร์ที่มีวิวกระจกบานใหญ่มองเห็นบรรยากาศรอบๆ ไร่อ้อย-ไร่มันอันกว้างใหญ่ เมนูอาหารของทางร้านที่ตั้งใจทำทุกขั้นตอนในเมนูสไตล์ไทย และเครื่องดื่มที่มีให้เลือกหายเมนู สดชื่นหวานซ่าในเมนูโซดา หรือจะจิบเข้มๆ กับกาแฟ

เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ (โอ๋ )
เสฏฐวุฒิ นิธิโชคประเสริฐ และความอบอุ่นของครอบครัว ที่เคียงข้างด้วย คุณพรทิพย์ ภรรยา
และน้องธันยาภัทร์ บุตรสาว

ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน เลือกใช้เมล็ดกาแฟไทยเป็นหลัก และมีเมล็ดพิเศษหมุนเวียนมาให้ลูกค้าลองกันเรื่อยๆ ส่วนอาหารสไตล์โฮมมี่ที่ขายในร้านจะเน้นเมนูที่กินง่ายและรสชาติถูกปากคนไทย เสิร์ฟทั้งอาหารและเครื่องดื่ม หลากเมนูเด็ดไทย-อีสาน ปรุงแบบเชฟบ้านๆ มาแบบจานใหญ่ให้เยอะ และอาหารจานหลักที่ทำจานต่อจาน คุ้มค่า คุ้มราคา กับกาแฟดีๆ อาหารอร่อย บรรยากาศโดยรอบท่ามกลางบรรยากาศชาวสวนชาวไร่ มองไปมีทั้งสวนมะพร้าว ไร่อ้อย ไร่มัน เป็นอีกเสน่ห์ที่ต่อยอดมูลค่าของท้องถิ่นสำหรับคนที่ชอบนั่งรับลมธรรมชาติเย็นๆก็มีซุ้มส่วนตัว ให้นั่งชิลๆ ดูปลา มองท้องฟ้าเพลินๆ พร้อมชื่นชมบรรยากาศสวยๆ ได้ ใครสายที่เน้นการถ่ายรูปบอกเลยว่าที่ร้านมีมุมสวยน่ารัก มากมาย อยากให้ทุกคนได้มาลิ้มลองกัน

เมนูแนะนำ : กุ้งถังทะเล
เมนูแนะนำ : ขาหมูเยอรมัน
เมนูแนะนำ : ตำกลิ่นไอดิน
เมนูแนะนำ : สายใยกลิ่นไอดิน

ใครแวะมาเที่ยวกำแพงเพชร ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด มาเยือนมาสัมผัสกับความอบอุ่นของร้านแห่งนี้ วันหนึ่งคงจะเห็นสนามฟุตบอล สนามกีฬาสำหรับเยาวชนในชุมชนแห่งนี้ การกลับมาบ้านเกิดของครอบครัวนี้
ถือเป็นอีกหนึ่งบริบทของคนที่เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในเมือง และพร้อมแล้วที่จะกลับมาพัฒนาบ้านเกิดด้วยหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเยาวชนและชุมชน ของจังหวัดกำแพงเพชร หากวันไหนที่คุณอยากผ่อนคลาย จิบเครื่องดื่มอร่อยๆ สักแก้ว
และเริ่มต้นบทสนทนาดีๆ พื้นที่หน้าบาร์ของ กลิ่นไอดิน ยินดีต้อนรับคุณเสมอ

ใครแวะมาเที่ยวจังหวัดกำแพงเพชร ลองมาแวะที่ ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน
ทเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด
ร้านกาแฟกลิ่นไอดิน Earthy Coffee
ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
กาแฟสด เปิด 07:00-18:00 น.
ครัวเปิด 10:00-20:00 น.
เบอร์โทร 082 4959798 และ 061 9428996

ร้านอยู่ ซอยสุขุมวิท1 ข้างอนามัยบ้านใหม่
พิกัด : https://goo.gl/maps/2yzv7sAVmDEjcEmaA

#คาเฟ่กำแพงเพชร
#ร้านอาหารกำแพงเพชร
#kamphaengphet
#คาเฟ่กลิ่นไอดิน
#toptotravel

ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ ร้านขนมเปี๊ยะของฝากในรูปแบบสถาปัตยกรรมโมเดิร์นไชนีส

ทีเส็บ เดินหน้าโชว์ศักยภาพภาคตะวันออก จัดกิจกรรมแฟมทริป สัมผัสเส้นทางในพื้นที่อีอีซีกิจกรรมแฟมทริปในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด FAM TRIP
One More Step of a Prosperous EEC ก้าวไปอีกขั้น…มุ่งสู่ความสำเร็จ

โดยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการไมซ์ และ สื่อมวลชนกว่า 30 ราย ร่วมเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านความหลากหลายของ
อัตลักษณ์เชิงพื้นที่และสัมผัสกับประสบการณ์ตรงที่มีคุณค่าทั้งในด้านความพร้อมเชิงโครงสร้างของภาคตะวันออก ความพร้อมของการจัดงานไมซ์ รวมถึงการสัมผัสกับสินค้าและการใช้บริการไมซ์ในพื้นที่ดังกล่าว อาทิ การเยี่ยมชม ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ ร้านขนมเปี๊ยะของฝากในรูปแบบสถาปัตยกรรมโมเดิร์นไชนีส ซึ่งออกแบบโดยอาจารย์ชาตรี ลดาลลิตสกุล ศิลปินแห่งชาติ พร้อมการเรียนรู้และเข้าใจวิธีการทำขนมเปี๊ยะ และเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเราตัดสินใจที่จะทำ คือ คุณชาตรีบอกว่าไม่ได้อยากทำร้านขนมเปี๊ยะ แต่เขาอยากทำกล่องเก็บความภาคภูมิใจให้ครอบครัวคนทำขนมเปี๊ยะ

ขนมเปี๊ยะคลาสสิคไส้ฟักถั่วไข่ตั้งเซ่งจั้ว มีต้นกำเนิดมากจากประเทศจีนในชุมชนคนแต้จิ๋วเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว เป็นขนมเปี๊ยะรสชาติดั้งเดิม ที่ตั้งอยู่ กม.13 ทางหลวงสายฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทราในช่วงแรกคุณปิยะพรคิดว่า เมื่อร้านสร้างเสร็จแล้วคงจะสวยและมีชื่อเสียงในระดับจังหวัด “แต่คุณชาตรีบอกว่าไม่ใช่หรอก มันจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาทำให้เราเห็นถึงพลังของการออกแบบที่ขับเคลื่อนพวกเราให้ไปไกลได้มากกว่าที่คิด

ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ อลังการริม ถ.บางปะกง-ฉะเชิงเทรา
ขนมเปี๊ยะคลาสสิคไส้ฟักถั่วไข่ตั้งเซ่งจั้ว มีต้นกำเนิดมากจากประเทศจีนในชุมชนคนแต้จิ๋วเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว เป็นขนมเปี๊ยะรสชาติดั้งเดิม สัมผัสกับสินค้าและการใช้บริการไมซ์ในพื้นที่ดังกล่าว อาทิ การเยี่ยมชม “ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ” โดยคุณปิยะพร ตันคงคารัตน์


สิ่งที่ทำให้ครอบครัว ตัดสินใจที่จะทำ คือ คุณชาตรีบอกว่าไม่ได้อยากทำร้านขนมเปี๊ยะให้เรา แต่เขาอยากทำกล่องเก็บความภาคภูมิใจให้ครอบครัวคนทำขนมเปี๊ยะ” ในช่วงแรก คุณปิยะพร คิดว่า เมื่อร้านสร้างเสร็จแล้วคงจะสวยและมีชื่อเสียงในระดับจังหวัด “แต่คุณชาตรีบอกว่าไม่ใช่หรอก มันจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาทำให้เราเห็นถึงพลังของการออกแบบที่ขับเคลื่อนพวกเราให้ไปไกลได้มากกว่าที่คิด

ตั้ง เซ่ง จั้ว แสนภูดาษ
เวลาเปิด – ปิด
จ. – พฤ เวลา 08.00-17.30 น.
ศ. – อา เวลา 08.00-19.00​ น.

พิกัด ตำบลแสนภูดาษ อำเภอบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา
https://maps.app.goo.gl/PNEPB62AhJ1Fvzg39?g_st=ic

สั่งซื้อสินค้าออนไลน์
Shopee: https://shopee.co.th/tsj1932
Line : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=tsj1932
https://www.facebook.com/tsjsaenphudat
ig : https://instagram.com/tsjsanphudat
tiktok : https://www.tiktok.com/@tsj1932sanphudat

#toptotravel #MICE #minieecfair2024
#TCEB #CENTRALEASTERNMICE #ECCMICEFAMTRIP2024
#EEC #eccmicefamtrip2024

นิทรรศการ งานรำลึกศาสตรเมธี การแสดงความกตัญญูกตเวที ผ่านรูปแบบ Art Exhibition “ชูเพชร”

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00-17.00 น. ที่ผ่านมา มีการจัดงานนิทรรศการ รำลึกศาสตรเมธี การแสดงความกตัญญูกตเวที ผ่านรูปแบบ Art Exhibition “ชูเพชร” แสดงผลงานและประวัติ ครูปัญญา เพ็ชรชู ได้สำเร็จสมบูรณ์ สานฝันครูปัญญา เพ็ชรชู ที่วันหนึ่งอยากมีพื้นที่กว้างๆ จิบกาแฟ และชมภาพศิลปะไปด้วยกัน โดยมี คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เป็นประธานเปิดงาน At Whispering Garden Café Sampran Nakhonprathom สามพราน นครปฐม
งานรำลึกศาสตรเมธี การแสดงความกตัญญูกตเวที เริ่มขึ้นในช่วงเช้าเวลา 10.00-11.00 เป็นการสนทนากัลยาณมิตร กับพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ ที่เมตตาให้ข้อธรรม และ ทำไมต้องมีครู ในความหมายของการสร้างคน เพื่อสร้างสังคม ที่เป็นที่อยู่ของผู้ทำประโยชน์ ภาคบ่าย เริ่ม เวลา 13.30-15.00 เขียนทราย ประวัติผลงาน ครูปัญญา เพ็ชรชู โดย อาจารย์ก้องเกียรติ กองจันดี ศิลปินเล่าประวัติ ครูปัญญา เพ็ชรชู ผ่านการเขียนทราย ผู้เล่าเรื่องจากเม็ดทรายได้อย่างประณีตและมหัศจรรย์ สลับกับการเล่าเรื่องครูผ่านลูกศิษย์ลูกหามากมาย ที่มาพร้อมกัน เพื่อเล่าเรื่องครูในความทรงจำ ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงเพราะครู
ตัวอย่างเช่น ศิลปินเขียนภาพเหมือน ลาภ อำไพรัตน์ ถึงขนาดกล่าวว่า ถ้าไม่ครูปัญญา จะไม่มีวันมี ลาภ อำไพรัตน์ ณ วันนี้ ปัจจุบัน ครูผู้เป็นผู้ให้โอกาสและสร้างศิลปินอย่างแทัจริง ปัจจุบัน ลาภ อำไพรัตน์ ตำแหน่งนายช่างศิลปกรรมชำนาญงาน สังกัดกลุ่มจิตรกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร

ต่อมามีการแสดงดนตรีชุด “ชูเพชร” ครูปัญญา เพ็ชรชู โดย วงจีวันแบนด์ ศิลปินดินป่า จีวัน เล่าถึงครูปัญญา ผ่านบทเพลง ที่รังสรรค์ แด่ครูปัญญา เพ็ชรชู 4เพลงคือ ครูผู้เสียสละ ปฐมบท ครูปัญญาเพ็ชรชู ภูมิใจในความเป็นครู ครูผู้เปลี่ยนแปลงชีวิตศิษย์ เป็นการสรุปเรื่องราว ความคิด ชีวิตของครู ได้อย่างชัดเจนสั้นกระชับ และเต็มไปด้วยความหมายผ่านตัวโน๊ต ท่วงทำนอง และเนื้อหาของเพลง ที่แต่งโดย ดินป่า จีวัน ศิลปินจิตรกร นักแต่งเพลงบทเพลงธรรม และในช่วง เวลา 16.00 อาจารย์วัชระ ประยูรคำ ผู้ปั้นรูปครูปัญญา เพ็ชรชู กล่าวถึงความเป็นมา “เพาะช่างเน้นหนัก ความเป็นครู ผู้สร้าง ศิษย์ ให้เป็นช่าง ผู้สร้างชาติ ครูปัญญา เพ็ชรชู คือประจักษ์พยานที่แท้จริง ของการเป็นครูที่แท้ “ครูของครู” ครูผู้สร้างคนให้รับใช้สังคม และช่วยเหลือผู้อื่น”

คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร เล่าให้ฟังถึงคุณแม่ที่เป็นครู และความหมายของครูผู้สร้างคน ซึ่งมีค่ากว่าการสร้างวัตถุ งานจบลงด้วยดีและสมบูรณ์แบบ ของความเข้าใจจิตวิญญาณของครู ดั่งตัวอย่างครูต้นแบบ ที่ควรเป็นแบบอย่างของครูในทศวรรษนี้ และในอนาคต การสร้างมนุษย์ ให้เป็นผู้รักษาโลก รักษาความดี ความงาม ความเสียสละ ที่จำเป็นอย่างยิ่งในยามนี้ ยามที่สังคม กำลังขาดแคลน

ศิลปะสอนมากกว่าที่มองเห็นความงาม
ศิลปะคือความงามแห่งการดำเนินชีวิต”
-ปัญญา เพ็ชรชู ครูเพาะช่าง

“วันนี้ได้แรงบันดาลใจ ในการเป็นครูมากๆครับ ขอบคุณครับ ”
จากคำพูดของครูคนหนึ่งหลังจากชมงาน งานนิทรรศการ ชูเพชร ครูปัญญา เพ็ชรชู จะดำเนินการแสดง ตั้งแต่วันที่ 5-27 ตุลาคม 2567 โดนผู้สนใจสามารถติดต่อที่ whispering garden cafe ขอเข้าชมผลงาน และประวัติครู ได้ตลอดทั้งเดือน ในทุกอาทิตย์ ของวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 0626289549 หรือที่ Whispering garden cafe สวนสา

สลินน์จัดโปรพิเศษ ซื้อ 1 แถมฟรีอีก 1 ซอง ที่ 7-Eleven ทุกสาขาใกล้บ้าน

“สลินน์” อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่ใส่ใจดูแลรูปร่างให้สมส่วน และมีสุขภาพดี จากสารอาหารที่หลากหลาย มั่นใจ ปลอดภัย เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานผลิตอาหารที่ได้รับการรับมาตรฐานการผลิตที่ดี “GMP/GHPs/HACCP/ISO22000:2018 ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรอันทันสมัย มีการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน

“สลินน์” มีส่วนผสมที่สำคัญประกอบด้วย ได้แก่ 1. แอล-คาร์นิทีน ช่วยนำไขมันที่สะสมในร่างกายมาเผาผลาญให้เกิดเป็นพลังงาน เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้กระชับ 2. สารสกัดจากถั่วขาว มีสารฟาซิโอลามีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งกระบวนการย่อยแป้งเป็นน้ำตาลได้ถึง 66% ทำให้ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย 3. สารสกัดจากกระบองเพชร ให้เส้นใยอาหารที่ดูดจับโมเลกุลของไขมันในกระเพาะอาหาร ทำให้ไม่สามารถดูดซึมเข้าผนังลำไส้เล็ก 4. สกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ และเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ทำให้รูปร่างเพรียวกระชับ 5. สารสกัดจากผลส้มแขก มีสารไฮดรอกซี่ ซิตริก แอซิด จะออกฤทธิ์ยับยั้งน้ำตาลส่วนเกินไม่ให้ถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน เก็บเป็นพลังงานสำรองในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสดชื่นไม่อ่อนเพลีย 6. สารสกัดจากเคลป์ คือ สาหร่ายเคลป์ ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและน้ำตาลในร่างกาย เพื่อสร้างเป็นพลังงาน 7. วิตามินบี 6 ทำงานร่วมกับ แอล-คาร์นิทีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันให้ดียิ่งขึ้น 8. โครเมียม พิโคลิเนต ช่วยดึงไขมันที่สะสมตามเนื้อเยื่อต่างๆ มาเผาผลาญให้เกิดเป็นพลังงาน ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และยับยั้งความอยากอาหาร

วิธีทาน “สลินน์” ให้ได้ผลดีด้วยวิธีง่ายๆ แค่รับประทานวันละ 1-2 เม็ด ก่อนอาหารมื้อหนัก 15 – 30 นาที ที่ทานเยอะ เช่น กลางวัน หรือเย็น ควบคู่กับการออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลที่ดียิ่งขึ้น

“สลินน์” ขนาดแบบซองบรรจุ 5 เม็ด (แถมฟรีอีก 2 เม็ดในซอง) จัดโปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 1 ซอง แถมฟรีอีก 1 ซอง เพียง 69 บาท จากปกติ 138 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 23 กันยายน 2567 หาซื้อได้ที่ร้าน 7-Eleven ทุกสาขาใกล้บ้าน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bshine.co.th,
FB : https://www.facebook.com/BnpHealth
Line : @Bshine

ครั้งแรกในไทย หอมนสิการจัดแสดงจิตรกรรมภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิม

ครั้งแรกในไทย หอมนสิการจัดแสดงจิตรกรรมภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิมอันวิจิตร มูลค่านับพันล้าน โดยปรมาจารย์หวัง ฉางลี่ ผู้รังสรรค์สัญลักษณ์มงคลแห่งพระราชวังต้องห้ามอันลือนามที่สุดแห่งงานจิตรกรรมอันวิจิตรงดงามและหาชมยากยิ่งแห่งทศวรรษ กับนิทรรศการภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลและหอมนสิการ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมผสานด้วยพุทธศาสนาอย่างลงตัว หนึ่งในสถานที่ซึ่งได้รับการโหวตได้รับคะแนนสูงสุดให้เป็นสุดยอด Unseen น่าเที่ยวประจำจังหวัดสระบุรี ขอชวนทุกท่านร่วมชมงานนิทรรศการภาพเขียนพระโพธิสัตว์กวนอิม ครั้งแรกในประเทศไทย ชมสุดยอดฝีมือไฟน์อาร์ต ท่ามกลางหุบเขางดงาม โดยศิลปินฝีมือลือเลื่องในระดับสากล ปรมาจารย์หวัง ฉางลี่ ศิลปินผู้ฝากผลงานไว้ในพระราชวังต้องห้าม ณ ประเทศจีน ซึ่งท่านได้ให้เกียรตินำงานศิลป์ที่บรรจงวาดพระโพธิสัตว์กวนอิม โดยมีเทคนิคพิเศษหนึ่งเดียวในโลก ขนาดยักษ์

สุุดถึง 4 เมตร มาจัดแสดงมากถึง 6 ภาพ มูลค่ารวมกว่าหนึ่งพันล้านบาท จัดงานแสดงนิทรรศการภาพเขียน “THE PROFOUND BEAUTY ART EXHIBITION” โดยอาจารย์หวัง ฉางลี่ ศิลปินนักวาดภาพพระพุทธศาสนาระดับหอเกียรติยศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้นำศิลปะแห่งศรัทธาจากฝั่งตะวันออก ได้รับความนิยมจากฝั่งตะวันตก จากความสำเร็จในการแสดงภาพวาดที่โรม ฟลอเรนซ์ ซิดนีย์ ลอนดอน และปารีส ผลงานโดยอาจารย์หวัง ฉางลี่ จึงได้รับการยกย่องจากวงการศาสนาว่าเป็นบุคคลที่สร้างผลงานให้มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ทั้งรูปแบบโบราณและสมัยใหม่ จนทำให้พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ พากันสะสม และหลายชิ้นถูกนำไปเป็นของขวัญแห่งชาติ มอบแด่ผู้นำของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ในปี 2014 อาจารย์หวัง ฉางลี่ได้ออกแบบมังกรและหงส์น่ารักคู่หนึ่งชื่อว่า “จ้วงจ้วงและเหม่ยเหม่ย” และได้รับเลือกเป็นสัญลักษณ์มงคลของพระราชวังต้องห้ามอีกด้วย

จากการที่อาจารย์ได้มีโอกาส มาเยือนหอมนสิการ แล้วเกิดความประทับใจในความสงบงามของสถานที่ อาจารย์จึงตัดสินใจนำภาพเขียนสุดพิเศษทั้ง 6 ภาพนี้มาจัดแสดง จึงเกิดงาน แสดงนิทรรศการภาพเขียนต้นฉบับพระโพธิสัตว์กวนอิม ครั้งแรกในประเทศไทย นิทรรศการภาพเขียนพระโพธิสัตว์ครั้งนี้ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเชิดชูคุณธรรมอันสูงส่งของพระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา คอยขจัดปัดเป่าทุกข์โศก บันดาลพรและความสุขให้มวลมนุษย์ พระองค์เป็นที่ศรัทธาอย่างยิ่งโดยเฉพาะชาวจีน และเพื่อสานสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมอันงดงามระหว่างไทยและจีน ผ่านงานศิลปะชั้นสูงที่มีความเป็นสากล โดยสุดยอดฝีมือศิลปินชาวพุทธประจำชาติระดับหอเกียรติยศของสาธารณรัฐประชาชนจีน กับผลงานศิลปะพู่กันจีนที่ถูกยกย่องให้เป็นจิตรกรรมวิจิตรลายเส้นที่งดงามและทรงคุณค่า

อาจารย์หวัง ฉางลี่ ได้สร้างสรรค์เทคนิคพิเศษเพียงหนึ่งเดียว ทั้งกระดาษและสีที่ทำขึ้นเอง ด้วยเคล็ดลับเฉพาะตัวที่ไม่มีการถ่ายทอดให้แก่ผู้ใด ปณิธานของอาจารย์ที่ตั้งมั่นคือการวาดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมจำนวนทั้งหมด 33 ปาง ปัจจุบันท่านได้วาดเสร็จแล้วจำนวน 11 ปางด้วยกัน และจะนำมาจัดแสดงให้ทุกท่านเข้าชมในครั้งนี้จำนวนมากถึง 6 ปาง
ปางที่ 1. พระโพธิสัตว์กวนอิมจ้งเป่า ผู้มีพลังอันไร้ขอบเขต และเปี่ยมด้วยคุณงามความดีที่นำมาซึ่งประโยชน์และความมั่งคั่งแก่โลก
ปางที่ 2. พระโพธิสัตว์กวนอิมเหลียนอั้ว ผู้ทรงมีโพธิญาณแห่งการนำโชค สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งทางกายและใจ ช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จลุล่วงอย่างไม่มีอุปสรรค
ปางที่ 3. พระโพธิสัตว์กวนอิมหยางหลิ่ว ผู้สามารถขจัดภัยพิบัติและโรคภัยทั้งปวง บันดาลลมฝนสม่ำเสมอตกต้องตามฤดูกาล ผลผลิตทางการเกษตร ผลิดอกออกผล ประเทศชาติมั่งคั่ง ประชาชนผาสุก
ปางที่ 4. พระโพธิสัตว์กวนอิมหยวนกวง ผู้ทรงขจัดปัดเป่าภัยพิบัติและความยากลำบากในชีวิตให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย นำพาซึ่งความสงบสุขและความยินดีมาให้
ปางที่ 5. พระโพธิสัตว์กวนอิมเต๋อหวัง สัญลักษณ์ของคุณธรรมอันล้ำเลิศ หรือ ธรรมราชา เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าในงานราชการ ตำแหน่งสูงส่ง และอำนาจยิ่งใหญ่ ประชาชนทุกคนเคารพนับถือ
ปางที่ 6. พระโพธิสัตว์กวนอิมฉือเหลียน ปกปักคุ้มครองลูกหลานให้มีความสามารถโดดเด่นเป็นเลิศ เจริญรุ่งเรือง

ภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมทุกภาพ สร้างสรรค์ชิ้นงานบนกระดาษและสีที่สร้างขึ้นเฉพาะด้วยเคล็ดลับที่จะไม่มีวันถ่ายทอดให้กับผู้ใด ยิ่งไปกว่านั้นด้วยอัจฉริยภาพของศิลปินที่สามารถเขียนภาพพระโพธิสัตว์ให้มีใบหน้างดงาม เปี่ยมล้นด้วยกระแสเมตตาและรายละเอียดในองค์ประกอบน้อยใหญ่ ทำให้ผลงานของอาจารย์หวัง ฉางลี่ มีมูลค่าสูงเริ่มต้นตั้งแต่สองล้านเหรียญสหรัฐ ถูกจัดว่าเป็นภาพวาดที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคนี้อย่างแท้จริง

การได้ชมภาพวาดชั้นสูงในนิทรรศการ “THE PROFOUND BEAUTY ART EXHIBITION” ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามอันลงตัวของความสงบงามและทิวทัศน์ของหุบเขาพระพุทธบาทน้อย ที่สวยงามลงตัวของ “หอมนสิการ” หนึ่งเดียวใน จังหวัดสระบุรี ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากนักท่องเที่ยวในโครงการ UNSEEN NEW CHAPTER 2023 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังสามารถเข้าชมนิทรรศการหลักของหอมนสิการ “Journey to the Life of Buddha” ที่จัดแสดงประวัติองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ครั้งอดีตกาลจนถึงปัจจุบันกาลในรูปแบบสื่อผสม พร้อมเข้าสักการะองค์ “พระบรมโลกนาถ” พระพุทธรูปปิดทองคำแท้เนื้อสัมฤทธิ์ที่ประดิษฐานภายในหอจัตุรัสเพื่อความเป็นสิริมงคล

กำหนดการจัดแสดงนิทรรศการ เริ่มวันที่ 1 กันยายน ถึง 14 ตุลาคม 2567 เปิดใจให้ศิลปะชั้นสูงที่เปี่ยมด้วยพระมหาเมตตา งดงามยิ่งขององค์พระโพธิสัตว์ นำความเป็นสิริมงคลและความปลื้มปิติ พิสูจน์ความงามที่ถูกจิตรกรเสกสรรจะเปล่งประกายเอิบอาบจิตใจของผู้คนได้เพียงใด เชิญทุกท่านมาร่วมสัมผัสด้วยตนเอง ณ อาคารรับรองหอมนสิการ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
นอกจากนี้ผู้ชมยังสามารถเข้าชมหอมนสิการนิทรรศการจำลองมรรคา Journey to the Life of Buddha ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในรูปแบบสื่อผสมอีกด้วย
บัตรเข้าชมจำหน่ายในราคา:

  • คนไทย: 250 บาท
  • ชาวต่างชาติ: 500 บาท
  • เด็กต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เพียงครึ่งราคา
    ซื้อบัตรล่วงหน้าได้ที่
    https://megatix.in.th/events/wang-changli-at-manasikarn