พระพิฆเณศปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในโลก องค์ปูนปั้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

อุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายก ฉลองครบ 10 ปี

อุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายก ฉลองครบ 10 ปี พระพิฆเนศ หรือพระพิฆเนศวร ถือได้ว่าเป็นเทพที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์มาก วันนี้เรามีโอกาสเข้าร่วมงานไหว้ขอพรพระพิฆเนศ งานครบรอบ 10 ปี อุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายก เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพิฆเณศปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในโลก

วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2561 ม.ล.ภัทรสุดา กิติยากร เป็นประธาน ในงานครบรอบ 10 ปี อุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายก เชิญชวนประชาชนเสริมบารมีรับปีใหม่ เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพิฆเณศปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีหน้าตักกว้าง 9 เมตรสูง 15 เมตร เมตร และได้รับการยกย่องจากเลขาธิการศาสนสัมพันธ์ฮินดูโลกว่าเป็นพระพิฆเณศที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมกันนั้นก็จะประกอบพิธีเบิกเนตรองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ผู้ซึ่งมีมหาเมตตามหากรุณาต่อสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ พร้อมเชิญชวนทุกท่านมาเสริมความเป็นสิริมงคลเสริมดวงชะตาราศีรับปีใหม่กันที่อุทยานพระพิฆเณศจังหวัดนครนายก ตลอดปี 2562


สุพัชชา สมบูรณ์ฐานะ ผู้จัดการอุทยานพระพิฆเณศ จ.นครนายก กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยนอกจากจะมีการไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ภายในอุทยานฯ แล้ว ในช่วงการจัดงานยังมีพิธีสำคัญโอกาสครบรอบ 10 ปี ของการก่อตั้ง ทาง อุทยานพระพิฆเณศ จะกำหนดให้มีการจัดงานบวงสรวงสักการะ องค์พระพิฆเณศองค์ใหญ่ และพระโพธิสัตว์กวนอิม และยังมีการกำหนดให้มีพิธีสวดโซฮา ขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม เป็นพิธีสำคัญในการเสริมก็ตาต่อบารมีให้กับประชาชนทั่วไป มีความเชื่อกันว่าบุคคลใดที่ได้เข้าไปอยู่ในพิธีสวดโซฮาและ ชีวิตจะเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทำงานประสบความสำเร็จครอบครัวพบแต่ความสุข

ม.ล.ภัทรสุดา กิติยากร กล่าวถึงพิธีการบวงสรวงองค์พระพิฆเณศ ณ อุทยานพระพิฆเณศ

ม.ล.ภัทรสุดา กิติยากร กล่าวถึงพิธีการบวงสรวงองค์พระพิฆเณศ ณ อุทยานพระพิฆเณศ ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลกับผู้ที่มาร่วมพิธีและเดินทางมาสักการะขอพรในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมด้วยพิธีเบิกเนตรองค์พระแม่กวนอิม ปางประธานพร ผู้ซึ่งมีมหาเมตตามหากรุณาต่อสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์ เพื่อผู้ที่มาขอพรที่อุทยานพระพิฆเณศได้พ้นจากความทุกข์ในชีวิตด้วยมหาเมตตาแห่งองค์พระโพธิสัตว์และประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองจากการสักการะเทพเจ้าแห่งความสำเร็จเทพเจ้าแห่งการประทานพร พระพิฆเนศวร ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง พร้อมกล่าวอวยพร เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2562 ขอให้ทุกท่านมีความสุขสวัสดี สมความปราถนาทุกประการ พร้อมกล่าวเชิญชวนทุกท่านมาเสริมความเป็นสิริมงคลเสริมดวงชะตาราศีรับปีใหม่กันที่อุทยานพระพิฆเณศ จังหวัดนครนายก

ม.ล.อรุณกลม วรวุฒิ กล่าวถึง ความประทับใจ ณ อุทยานพระพิฆเณศ
ที่มีความงดงาม พร้อมด้วย องค์พระแม่กวนอิม ปางประธานพร ที่ได้เบิกเนตรในวันนี้ และขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ สร้างทานบารมี เสริมดวงชะตา รับปีใหม่ 2562 และเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2562 ขออวยพรให้
ทุกท่านมีความสุขสวัสดี สมความปราถนาทุกประการ

อุทยานพระพิฆเณศ นครนายก สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ประดิษฐานเทวรูปพระพิฆเณศขนาดใหญ่มหึมา ที่มีความสูงถึง 9 เมตร เป็นองค์ปูนปั้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2551 ซึ่งในปีพ.ศ.2561

โดยภายในอุทยานฯ แห่งนี้จะมีพระพิฆเณศองค์ใหญ่ 2 ปาง ตั้งอยู่ใกล้กัน ซึ่งทุกท่านจะพบกับความสวยงามและความยิ่งใหญ่อลังการอย่างที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมองค์พระพิฆเณศปางต่าง ๆ จำนวน 108 ปาง ที่ครบสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตลอดจนหอมหาเทพ ซึ่งประดิษฐานมหาเทพสูงสุดทั้ง 3 พระองค์ ได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ รูปปั้นฤๅษีปางต่าง ๆ ตำหนัก3 มหาราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ให้ประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาได้เข้ามาสักการบูชาขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตกันอีกด้วย

เพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเองและครอบครัว เที่ยวกันได้ทุกเพศทุกวัย

อุทยานพระพิฆเณศ จังหวัดนครนายก ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร ‭088-914-1987‬




หนีไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจากริมทะเลที่ WINDOW@ SEA CHA-AM

เดินทางสะดวก ไม่เสียเวลามากมาย เราไปชมบรรยากาศกันขับรถเพียงไม่นานเราก็เดินทางมาถึง ชายหาดชะอำ สถานที่พักสุดชิลของเราในทริปนี้ คือ WINDOW@ SEA CHA-AM โรงแรม เบย์ วินโดว์ แอท ซี
เริ่มกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้วสำหรับ เทศกาล ปิ้งหอย..คอยเธอ โครงการ Outing @ Cha-am 1s st  ซึ่งงานนี้จัดขึ้น บริเวณริมหาดชะอำ ด้านทิศเหนือ จ.เพชรบุรี โดย ททท.สำนักงานเพชรบุรี วันธรรมดาน่าเที่ยว โดยความร่วมมือจากเทศบาลเมืองชะอำ , หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี , สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี , ผู้ประกอบการโรงแรม หน่วยงานภาครัฐและชุมชน คนริมเลชะอำ

คุณอัครวิทย์ เทพาสิต ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี

โดยกิจกรรมจัดขึ้น Beach Food ตลาดริมเล เวทีการแสดงดนตรี ชมหนังกลางแปลงสุดชิลริมชายหาด ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกวันอังคาร และพุธ เวลา 16.00 – 23.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมาไปจนถึง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 โดย คุณอัครวิทย์ เทพาสิต ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี การันตีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ฉะนั้นใครชอบอาหารทะเล ต้องไม่พลาดกิจกรรมนี้

ทริปนี้ Toptotravel มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม BAY WINDOW@ SEA CHA-AM มาทำความรู้จัก หนึ่งในผู้ประกอบการโรงแรมน้องใหม่ของชะอำ

คุณภัทรพล ดีปานแก้ว ที่มาบอกเล่าถึง ความพิเศษของโรงแรม และการเตรียมพร้อมสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บนบรรยากาศชายหาดอันแสนเงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่สุดในย่านชายหาดชะอำ

สระว่ายน้ำมีทั้ง สระเด็ก และสระผู้ใหญ่ มีเกมส์รูม มีห้องคิดส์คัพ ในห้องจะมีโต๊ะพูล โต๊ะโกลว์ มีเพลย์สเตชั่น มีคอมพิวเตอร์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ให้ครอบครัวได้อยู่ร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ของชะอำที่ปกตินักท่องเที่ยวจะออกไปทานอาหารด้านนอกโรงแรม หรือเที่ยวบริเวณโดยรอบ แต่สำหรับที่ เบย์ วินโดว์ แอท ซี แล้ว สามารถพักผ่อนได้ตลอดทั้งวันไปพร้อมกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงแรมที่มีให้มากมาย รวมถึงด้านนอนริมทะเล รับลมเย็นๆ เดินเล่นชายหาดได้เลย

สระใหญ่ 20 เมตรคูณ 25เมตรลึก 1.20 เมตร
สระเล็ก 8เมตรคูณ 18.5 เมตร ลึก 90 เซ็นติเมตร ระบบน้ำเกลือ มีสไลเดอร์ 2 ตัว

BAY WINDOW@ SEA CHA-AM Family Hotel
บริเวณสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของโรงแรม คุณภัทรพล ดีปานแก้ว ผู้จัดการทั่วไป เปิดเผยถึงคอนเซ็ปต์ของโรงแรมว่า โรงแรม BAY WINDOW@ SEA , CHA-AM เป็นโรงแรมในรูปแบบของ Modern Style ประกอบไปด้วยห้องพักทั้งหมด 144 ห้อง ห้องประชุมสามารถรองรับได้ 300 ท่าน โรงแรมน้องใหม่ของชะอำ ซึ่งเตรียมจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปีหน้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ ให้เป็นโรงแรมสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำที่มีสไลเดอร์สำหรับการเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน

เมื่อถามถึงร้านอาหาร 7 SEA ของโรงแรมที่กำลังจะเปิดตัวในไม่ช้า ผู้จัดการทั่วไปบอกว่า “ทางโรงแรมตั้งใจให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องของสนนราคาและรสชาติอาหาร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และ เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน วัตถุดิบต่าง ๆ เป็นการสั่งตรงจากชาวประมงท้องถิ่นโดยตรง

คุณภัทรพล ยังกล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของโรงแรมแห่งนี้ว่า …การตั้งกลุ่มเป้าหมายหลักที่ครอบครัว เพราะทางผู้บริหารของโรงแรมรู้สึกว่าโรงแรมส่วนใหญ่ในอำเภอชะอำ สร้างขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มธุรกิจหรือกลุ่มทัวร์แต่สำหรับกลุ่มครอบครัวแล้วยังมีน้อยมาก จึงสร้างโรงแรมที่เป็น Family Hotel ขึ้น

สำหรับช่วงของการเปิดตัวโรงแรม ระหว่างวันนี้ไปจนถึง วันที่ 31 มีนาคม 2562 ราคาห้องพักราคาเริ่มต้นเพียง 1,700 บาท พร้อมอาหารเช้า ส่วนห้องที่เป็นไฮไลท์ สามารถเปิดประตูออกมาก็ลงสระได้เลยราคาเริ่มต้นที่ 2,200 บาท
ห้องพักของ โรงแรม เบย์ วินโดว์ แอท ซี มีหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย ห้องซูพีเรียร์ ห้องธรรมดา และ ห้องพูลแอคเซส สามารถเดินลงสระได้ Family Room เป็นห้องขนาดใหญ่กว่าปกติสามารถพักได้ 3-4 คน ห้องจูเนียร์สวีทส์ เป็นห้องพักและห้องนั่งเล่น และอีกหนึ่งห้องที่พิเศษมาก ๆ รองรับครอบครัวขนาดกลาง ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง 1 ห้องนั่งเล่น แต่ละห้องแยกทุกห้อง มี 4 ห้องน้ำ

Toptotravel ถามถึง การรักษาความปลอดภั ยสำหรับนักท่องเที่ย;พักที่นี่ คุณภัทรพล กล่าวว่า “ ด้านระบบการรักษาความปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่โรงแรมได้ 2 เส้นทาง คือจากทางถนนเจ้าลาย ซึ่งเป็นทางเข้าหลักและทางเข้าทางด้านหลัง ส่วนระบบการรักษาความปลอดภัย เราใช้เจ้าหน้าที่ประจำจุดเต็มรูปแบบ และมีการรถ วัตถุระเบิดต่าง ๆ ในส่วนที่จอดรถ ฝั่งเจ้าลาย จะเปิดปิดเป็นเวลาหลัง 20.00 จะปิดให้ผู้เข้าพักเท่านั้น ที่จะสามารถเข้ามาได้ในส่วนของการบริการ ถือเป็นอีกหนึ่งหลักสำคัญของทางโรงแรม เพราะนอกจากจะทำให้โรงแรมให้การบริการได้ในระดับมาตรฐาน สิ่งสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการประทับใจและพร้อมที่จะกลับมาใช้บริการอีก ดังนั้นการบริการถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทางเรามีการเทรนด์พนักงานไว้อย่างเป็นระบบ แม้แต่จะขอหมอนหนึ่งใบ ไม่จำเป็นต้องขอกับทางแม่บ้าน พนักงานทุกคนต้องสามารถให้บริการและรับรู้ระบบทั้งหมดได้”

ยกครอบครัวไปลุยทริปนี้ได้เลย

แนวคิดการบริหารโรงแรม 90% กลุ่มลูกค้า คือคนไทย
ในส่วนของการทำตลาด คุณภัทรพล กล่าวว่า “ตลาดของ อำเภอชะอำ 90 % เป็นคนไทย ส่วนนัดท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่อนข้างน้อย โดยต่างชาติที่เข้าคือมาพักระยะยาว เช่น กลุ่มลูกค้าที่เกษียณอายุงาน เนื่องจากค่าครองชีพของชะอำค่อนข้างต่ำ และในส่วนของคนไทย เกินครึ่งจะมาเฉพาะวันหยุดที่เป็น weekend หรือ long weekend

ลูกค้าอีกครึ่งหนึ่ง มาจากการสัมมนา ตอนนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประสานกับภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะโรงแรม ได้นำตลาดใหม่เข้ามา สิ่งที่ต้องเติมเต็มจริงๆ คือ วันธรรมดา หลังจากที่เราได้ไปทำ road show ที่มาเลเซีย ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย เริ่มเข้ามาแล้ว
มีทั้งไฟล์ทบินตรงจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์มาลงที่สนามบินหัวหิน และที่กำลังมาแรง คือ ประเภทขับรถยนต์มาเองจากปีนัง ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ แวะ ระนอง หัวหิน ชะอำ กรุงเทพฯ บางคณะเดินทางไปถึงภาคเหนือของไทย
ในปัจจุบันประเทศมาเลเซียสามารถขอใบอนญาติขับในไทยได้ 30 วัน

ด้านตลาดจีน
ตลาดจีนซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของการท่องเที่ยวไทย แม้หลายแห่งจะพบกับปัญหาแต่เกือบทุกแห่งก็พร้อมจะรองรับนักท่องเที่ยวเหล่านั้น คุณภัทรพล กล่าวถึงความพร้อมในการต้อนรับว่า “ ผมเคยทำงานที่รองรับตลาดจีนที่เป็นตลาดแมสที่สุดจนถึงระดับบน คนจีนสิ่งที่เห็นบางทีเป็นแค่วัฒนธรรม อยู่ที่เรา educate ถ้าสามารถใส่ข้อมูลให้เขาว่าโรงแรมเราเป็นแบบนี้ ผมเชื่อว่าเขาสามารถรับได้

สมัยที่ผมทำงานอยู่ที่โรงแรมเดิมระดับห้าดาว (โรงแรมเซนทารา) ของจังหวัดขอนแก่น ผมรับตลาดจีนวันละ 90% แต่ 40-50 คน บริเวณล็อบบี้มีความเป็นระเบียบ สามารถบอกเขาได้ว่าเราต้องการความสงบ ใส่ความเป็นตัวตนของโรงแรมเข้าไป เขาก็สามารถทำตามที่บอกได้ แต่ถ้าโรงแรมนั้น ๆ ไม่บอกลูกค้า เขาก็จะทำตามวัฒนธรรมของเขา ตรงนี้อยากฝากด้วย เขาไม่ได้ผิดอะไร 70 % ของเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยว มาจากประเทศจีน

ฉะนั้น ผู้ประกอบการเองตั้งแต่ระดับโรงแรมไปจนถึงชุมชน ต้องฝากว่า ถ้าอยากให้เขาอยู่กับโรงแรมแบบไหน และปฏิบัติกับสิ่งของๆ โรงแรม หรืออุปกรณ์เราอย่างไร สื่อให้เขาเห็น เขาจะทำได้แน่นอน”

โรงแรม เบย์ วินโดว์ แอท ซี ที่พักของเราในค่ำคืนนี้เป็นที่พักที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและทันสมัย จุดเด่น สระว่ายน้ำตรงกลางที่พัก อยู่ห่างจากทะเลเพียงนิดเดียว ห้องพักถูกตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ เรียบหรู สะอาดตา
มีอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน

ท้ายสุด คุณภัทรพล กล่าวถึง การเตรียมใช้สื่อ Social เข้ามาเพื่อการประชาสัมพันธ์ ในปัจจุบันโรงแรมต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับ  เรื่องนี้มากขึ้น “เราวางแพลนเอาไว้สำหรับทุกส่วนของ Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook Instagram Twister ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อความเหมาะสม หลังจากนี้ มีการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังในทุกช่องทาง

โดยตั้งเป้าไว้ว่า ลูกค้าที่มาพักหรือมารับประทานอาหารจะผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่า 20% ในส่วนของห้องพักโรงแรมจะมีโปรโมชั่นให้ติดตาม
ภายใต้ชื่อเดียวกัน คือ Bay Window @ Sea…..”

หากพูดถึง Bay Window @ Sea คุณล่ะเดินทางไม่ยาก แค่ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟันเดินทางจากรีสอร์ทแค่แป๊บเดียว เดินเท้าเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเล ง่ายกว่านี้จะมีอีกมั้ย! พร้อมไปสัมผัสกับบรรยากาศชิลๆ ริมหาดชะอำ กับเทศกาล “ปิ้งหอย…คอยเธอ”กันแล้วหรือยัง ??

ยกครอบครัวไปลุยทริปนี้ได้เลย ที่สำคัญ อย่าลืมแวะเวียนเข้าไปทายทักกับ Bay Window @ Sea โรงแรมน้องใหม่ที่การันตีความเพอร์เฟคสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง

โรงแรม BAY WINDOW @Sea Cha-am
312 ซอย ร่วมจิตร ตำบล ชะอำ อำเภอ ชะอำ เพชรบุรี 76120
โทรศัพท์: 082 687 6680


มหกรรมฮาลาลใหญ่ส่งท้ายปี งาน “ThailandHalal Assembly 2018”

ฉลอง 20 ปี มาตรฐานฮาลาลไทย ภายใต้แนวคิด “บูรณาการฮาลาลแม่นยำยุคเศรษฐกิจฐานชีวภาพ ยกระดับกิจการฮาลาลไทยสู่ยุคสมัยแห่งการฮาลาลแม่นยำ

ฉลองครบรอบ 20 ปี มาตรฐานฮาลาลไทย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย  (สมฮท.)

จัดการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ “THAILANDHALAL ASSEMBLY 2018” ปีที่ 5 ภายใต้แนวคิด “บูรณาการฮาลาลแม่นยำยุคเศรษฐกิจฐานชีวภาพ” ยกระดับกิจการฮาลาลไทยสู่ยุคสมัยแห่งการฮาลาลแม่นยำกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2561 ณ.ไบเทค บางนา โดยมี นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นประธานเปิดงาน

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานจัดงาน ThailandHalal Assembly 2018 กล่าวว่า การจัดงาน “Thailand HalalAssembly” หรือ THA นั้นเริ่มจัดขึ้นในปี 2014 โดย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ในฐานะเจ้าภาพหลักร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย (สมฮท.) ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและองค์กรศาสนาอิสลามมาโดยตลอด
จึงทำให้งาน THA ถือเป็นงานประชุมวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลนานาชาติที่นับว่าดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งงานดังกล่าวเป็นการจัดงานที่รวบรวมงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบรนด์ฮาลาลประเทศไทยมารวมเข้าด้วยกันเพื่อเจตนารมณ์เชิงกลยุทธ์ที่จะแสดงศักยภาพของกิจการฮาลาลประเทศไทยให้ประชาคมโลกได้รับรู้ถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นในระบบและกระบวนการดำเนินงานภายใต้หลักการ ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับอันเป็นผลให้ผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทยเป็นที่เชื่อถือในตลาดโลก

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานจัดงาน ThailandHalal Assembly 2018

การจัดการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ  “Thailand Halal Assembly 2518” หรือ THA 2018ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5
ระหว่างวันที่ 14 – 16ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม
ไบเทค (BITEC)กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด “Precision Halalization in TheBioeconomy Era” หรือ “บูรณาการฮาลาลแม่นยำในยุคเศรษฐกิจชีวภาพ”เพื่อส่งเสริมให้กิจการฮาลาลประเทศไทยพัฒนาสู่ยุคสมัยแห่งการฮาลาลแม่นยำซึ่งการบูรณาการฮาลาลแม่นยำ คือ ระบบที่บูรณาการมาตรฐาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีนวัตกรรม เข้ากับกระบวนการฮาลาล โดยความสำเร็จครั้งนี้ย่อมนำประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจฐานชีวภาพที่คำนึงถึงคุณค่าของสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นคงทางอาหารรังสรรค์ประเทศไทยสู่ความมีประสิทธ์ภาพควบคู่ความพอเพียง

การบูรณาการฮาลาลแม่นยำเป็นความพยายามของไทยในการผสมผสานเทคโนโลยีเพื่อการรับรองฮาลาล ไม่ว่าจะการตรวจทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ฮาลาลโดยนำระบบ H-number ที่พัฒนาขึ้นใหม่เข้ามาใช้
เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอาหารสามารถเลือกวัตถุดิบฮาลาลได้อย่างถูกต้องไม่จำเป็นต้องตรวจการปนเปื้อนในวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อีกต่อไปและเลือกใช้ห้องปฏิบัติการเฉพาะที่จำเป็น ในระบบการมาตรฐานฮาลาลมีการพัฒนาระบบ HAL-QPlus เพื่อให้การดำเนินงานการมาตรฐานฮาลาลเป็นไปอย่างจำเพาะโดยใช้เวลาสั้นและเลือกทำเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนหะรอมเท่านั้น

โดยกิจกรรมภายในงาน THA 2018 ประกอบด้วยงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรมและธุรกิจฮาลาลครั้งที่ 11 (Halal Science, Industry and Business InternationalConference; 11th HASIB 2018) รวมกับงานแสดงสินค้า ThailandInternational Halal Expo 2018 (TIHEX) ที่รวมผู้ประกอบการฮาลาลทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 350 บูท, การประชุมวิชาการนานาชาติว่าด้วยมาตรฐานฮาลาลจากหน่วยงานตรวจรับรองฮาลาลทั่วโลก,การประชุมคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย, กิจกรรมธุรกิจภิวัฒน์,การจับคู่เจรจาทางธุรกิจฮาลาล, การจัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องรวมถึงการนำเสนอผลงานทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล ที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนงานด้านฮาลาลต่อไป


รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานจัดงาน ThailandHalal Assembly 2018

และพิเศษสุดภายในปีนี้กับ นิทรรศการ “ฉลอง 20ปี มาตรฐานฮาลาลไทย” จากจุดเริ่มต้นในการกำหนดมาตรฐานฮาลาล CODEK มาสู่มาตรฐานฮาลาลของประเทศไทยโดยการบูรณาการศาสนบัญญัติอิสลามเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาล ภายใต้แนวทาง“ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ” มุ่งหวังผลักดันผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลไทยให้ก้าว
ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอาหารโลกรูปแบบความร่วมมือที่ชื่อว่า “ฮาลาลเพชรจากประเทศไทย” หรือ ThailandDiamond Halal เพื่อแสดงถึงความเป็นที่หนึ่งในโลกของฮาลาลประเทศไทยด้วยมาตรฐานฮาลาลของประเทศรศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย

กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2561
ณไบเทค บางนา 

บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ในราคาที่คุณเอื้อมถึง

BlueSpice Dining Room @Grande Centre Point Sukhumvit 55
ร้านอาหารสไตล์ร่วมสมัยที่ไม่ธรรมดา

วันนี้ขอเอาใจสายกินบุฟเฟ่ต์โรงแรม อิ่มอร่อยกับบุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งใจกลางทองหล่อที่ร้าน BlueSpice Dining Room สุดหรู!!  ในโรงแรม Grande Centre Point Sukhumvit 55 ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนในย่านทองหล่อ บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งเจ้าเดียวในทองหล่อ ภายในร้านตกแต่งสุดหรู การบริการดีระดับโรงแรม 5 ดาว

BlueSpice Dining Room มีเมนูอาหารทั้งของคาวและของหวาน นำเอาความเป็นสากลของอาหารต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง เข้ามาเป็นตัวชูโรงให้รสชาติของ BlueSpice นำเสนอ “ข้าวต้มกุ๊ย” ไม่ธรรมดาเพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ระดับโรงแรม ซึ่งทางร้านมีเมนู “ข้าวต้ม” ให้เลือกทานหลากหลายแบบจัดเต็ม ทั้งข้าวต้มธัญพืช ข้าวต้มเผือก ข้าวต้มข้าวกล้อง ข้าวต้มมันเทศ หรือข้าวต้มธรรมดา มาพร้อมกับเครื่องเคียงสูตรดั้งเดิมให้ได้เลือกสรร โดดเด่นด้วยเมนูหลากหลายรสชาติ

บรรยากาศภายในร้านโด่ดเด่นด้วยดีไซน์และการตกแต่งด้วยศิลปะ โดยใช้เฉดสีขาว เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์และเชื่อโยงแต่ละโซนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว บรรยากาศที่เรียบง่าย และมีกลิ่นอายของความสุข

สำหรับเมนูอาหารที่นี่ใส่ใจเรื่องวุตถุดิบที่สดใหม่ ให้รายละเอียดทุกขั้นตอนของการปรุง กับเมนูอาหารรสเลิศ กินไม่อั้นกักันแบบจุใจ ไม่จำกัด เมนูประจำสุดฮอต อาทิ ขาหมูพะโล้ แซลม่อนแซ่บ กุ้งอบวุ้นเส้น พร้อมโจ๊กสุดอร่อย และที่สำคัญสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ผลงานในการทำอาหาร ได้ทั้งความสนุก และความอร่อย ยำ DIY ที่คุณสามารถเลือกวัตถุดิบและความแซ่บตามใจชอบ อร่อยลงตัวและสวยงาม สารพัดเมนูผัดผักให้คุณเลือกและนำไปให้เชฟปรุงกันสด ๆ และเมนูอาหารพิเศษสุดอร่อยที่ขนกันมาแบบไม่ซ้ำกัน ปิดท้ายความอร่อยด้วยของหวานนานาชนิด ทั้งไอศกรีมโฮมเมด แพนเค้ก ผลไม้ เต้าฮวย ขนมปัง อีกทั้งยังมีเมนูน้ำแข็งใสคลายร้อน เย็นฉ่ำถึงใจ ให้คุณได้ DIY เพียงแค่ทุกคนเลือกท็อปปิ้งอีกกว่า 20 รายการ และความพิเศษอยู่ที่ สังขยาใบเตย หรือ สังขยา-ชาไทย สูตรลับของทางร้าน มีความหอมหวานกลมกล่อม การันตีว่าเข้มข้นและอร่อยที่สุด

เราจะมาบอกว่าต่อไปนี้มันจะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป ชวนสังสรรค์กันพร้อมหน้ากับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว อิ่มฟินได้อย่างจุใจ ให้คุณและเพื่อนๆ ได้ฟินแบบไม่จำกัดเวลา กินอร่อย เพลิน ๆ ยาว ๆ เอาใจคนนอนดึก พร้อมเปิดประสบการณ์จัดเต็มเมนูข้าวต้มพร้อมอาหารหลากรสชาติ ให้ได้ลิ้มลอง อิ่มอร่อยด้วยความฟินในบรรยากาศสุดชิลล์เคล้าแสงไฟอบอุ่นในยามค่ำคืนที่คุณจะตกหลุมรักจนอยากจะไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

สำหรับเมนูอาหารรสเลิศ กันแบบจุใจ ไม่จำกัดเวลา ด้วยข้าวต้มข้าวต้มร้อนๆให้เลือกรับประทานถึง 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวต้มธัญพืช ข้าวต้มเผือก ข้าวต้มข้าวกล้อง ข้าวต้มมันม่วง หรือข้าวต้มธรรมดา เครื่องข้าวต้มที่มีให้เลือกอย่างจุใจกว่า 20 รายการมีเมนูประจำสุดฮอตเรียกน้ำย่อยให้เลือกจนตาลาย ไม่ว่าจะเป็นขาหมูพะโล้ กระเพาะปลาน้ำแดง แซลม่อนแซ่บ กุ้งอบวุ้นเส้น ก๋วยจั๊บญวน พร้อมโจ๊กสุดอร่อยที่สามารถเลือกส่วนผสมได้เอง แต่ที่เด็ดสุดยำ DIY ที่คุณสามารถเลือกวัตถุดิบและความแซ่บได้ตามใจชอบ สารพัดเมนูผัดผักให้คุณเลือกและนำไปให้เชฟปรุงกันสดๆ เมนูอาหารพิเศษสุดอร่อยที่ขนกันมาแบบไม่ซ้ำกัน เช่น ต้มเล้งแซ่บ ไก่ทอดซอสเหล้าแดง ปลาหมึกผัดผงกระหรี่ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ฯลฯ ปิดท้ายความอร่อยด้วยของหวานนานาชนิด ทั้งไอศกรีมโฮมเมด แพนเค้ก ขนมปังสังขยาใบเตย หรือ สังขยาชาไทย ผลไม้ เต้าฮวย และน้ำแข็งใสอีกกว่า 20 รายการ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหน ก็เต็มไปด้วยของอร่อยทั้งนั้นเลย คุ้มเว่อร์ๆ อร่อยด้วยน้า

ได้มานั่งรับประทานอาหารอร่อย ถ่ายรูปสนุก ในบรรยากาศสบายๆ เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ ไปเลยสำหรับการมาทาน บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่ง ในครั้งนี้ ถ้าเย็นนี้ไม่รู้จะทานอะไรดี ลองมาสัมผัสความอร่อย ที่ BlueSpice บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งเจ้าเดียวในทองหล่อ แล้วคุณจะหลงรักและอยากกลับมาทานอีกหลายๆ ครั้งเหมือน Toptotravel

กระซิบอีกนิด สายปาร์ตี้ห้ามพลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด นำเข้ามาดื่มได้ฟรีไม่คิดค่าเปิดขวด ทางร้านมีแก้วและน้ำแข็งให้บริการ ดื่มด่ำในบรรยากาศดี ๆ เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย พร้อมรับประทานอาหาร
อร่อยๆ ได้อีกด้วย

จองได้เลย นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย ทางร้านยังมีโปรโมชั่นส่วนลดสุงสุด บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งลด 50% ที่ BlueSpice บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งห้องอาหาร BlueSpice Dining Room @Grande Centre Point Sukhumvit 55

บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งเจ้าเดียวในทองหล่อ นำเสนอ “ข้าวต้มกุ๊ย” ไม่ธรรมดาเพราะเป็นบุฟเฟ่ต์ระดับโรงแรม มีลูกค้ามานั่งทานเรื่อยๆ ตลอดเวลา

จัดโปรโมชั่นเอาใจ บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งลด 50% สำหรับท่านที่ 2 ในวันจันทร์ – พฤหัสบดี เมื่อมา 2 ท่าน ท่านที่ 2 ลด 50% (ท่านที่ 1 จ่ายราคาปกติ 420 net) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 – 28 กุมภาพันธ์ 2562

ใครที่มองหามุมนั่งทานอาหารสบายๆ มาแล้วต้องติดใจ บุฟเฟ่ต์ข้าวต้ม พร้อมส่วนลดสูงสุด มาร่วมเติมความสุขกันได้แล้ว
วันนี้– 28 กุมภาพันธ์  2562
ตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.00 น. (วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี)
เวลา 17.00 – 02.00 น. (วันศุกร์ – วันเสาร์) แบบไม่จำกัดเวลา
ที่ BlueSpice Dining Room @Grande CentrePoint Sukhumvit 55

สำหรับท่านที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ สำรองที่นั่งก่อนล่วงหน้าได้ที่ โทร. 02-020-8000 ext. 4440

ข้าวต้มบุฟเฟต์โต้รุ่งเจ้าเดียวในทองหล่อ #BlueSpiceDiningRoom

ดีป้าเผยตัวเลขตลาดดิจิทัลคอนเทนต์ในไทยปี 60 ทะยาน 25,000 ล้านบาท

อุตสาหกรรมเกมนำโด่งเกือบ 20,000 ล้านบาท คาดขยายตัวต่อเนื่อง

วันที่ 11 ธันวาคม 2561, เซ็นทาราแกรนด์แอท แซ็นทรัลเวิล์ด กรุงเทพ ฯ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจ ดิจิทัล (depa) หรือ  ดีป้า หน่วยงานในสังกัด
กระทรวงดิจิทัลพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมมือกับสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) และสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (Bangkok ACM SIGGRAPH) เผยผลสำรวจมูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ของปี 2560 ในประเทศไทย โดยครอบคลุมสามสาขาหลักได้แก่ อุตสาหกรรมแอนิเมชัน อุตสาหกรรมเกม และอุตสาหกรรมคาแรคเตอร์

โดยผลสำรวจระบุทั้งสามอุตสาหกรรมมีมูลค่ารวมกันประมาณ 25,040 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมแอนิเมชันจำนวน 3,799 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ขณะที่อุตสาหกรรมเกมมีมูลค่ารวมที่ 19,281 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าสูงสุดถึง 18 เปอร์เซ็นต์ และอุตสาหกรรมคาแรคเตอร์มีมูลค่ารวม 1,960 ล้านบาทมีอัตราการเติบเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์  เมื่อเทียบกับปี 2559

ดร. ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการดีป้า กล่าวว่า การสำรวจมูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ของปี 2560 ได้มีการปรับปรุงกรอบประชากร และเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการเนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมบางรายมีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการทางธุรกิจ อีกทั้งได้มีการให้ศึกษาการวิเคราะห์ระบบนิเวศและห่วงโซ่ค่าของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์เพิ่มเติมรวมถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ระดับโลก และยังได้ให้ริเริ่มการศึกษาและสำรวจพฤตกรรมผู้เล่นเบื้องต้น

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล ปัจจัยทางตลาด กระแสนิยมต่าง ๆ ซึ่งโครงการสำรวจนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย (DCAT) สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ไทย (TACGA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) และสมาคมธุรกิจบางกอกเอซีเอ็มซิกกราฟ (BKK SIGGRAPH)

ทั้งนี้ เนื่องจากดิจิทัลคอนเทนต์เป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทในอุตสาหกรรมหลากหลายแขนง ทั้ง อุตสาหกรรมบันเทิง อุตสาหกรรมภาพยนตร์ โทรทัศน์ การศึกษา สื่อสิ่งพิมพ์ และอื่น ๆ ประกอบกับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยด้านกระแสนิยม ความสนใจและพฤติกรรมของผู้บริโภค และการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเปลี่ยน แปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ผลการสำรวจมูลค่ารวมมีอัตราการเติบโตโดยรวม 14 เปอร์เซนต์ จากปี 2559 และคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มในการขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีถัดไปจากตลาดเกมและคาแรคเตอร์

“แนวโน้มการเติบโตในปี 2561  มูลค่าดิจิทัลคอนเทนต์ในไทย  คาดว่าจะแตะระดับกว่า 27,005 ล้านบาท และมีมูลค่ากว่า 29,358 ล้านบาท   ในปี 2562 โดยสาขาอุตสาหกรรมแอนิเมชันถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ
9 เปอร์เซ็นต์ และยังคงการเติบโตเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562 ขณะที่สาขาเกมคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 9 เปอร์เซ็นต์และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2562 สำหรับสาขาคาแรคเตอร์คาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 12 เปอร์เซนต์ในปี 2561 และ 11 เปอร์เซนต์ในปี 2562 ทั้งนี้ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวเป็นไปตามการประเมินจากปริมาณงานที่ผู้ประกอบการกำลังผลิตรวมทั้งแนวโน้มและปัจจัยบวกต่างๆของตลาดที่คาดว่าจะส่งผลต่อการขายตัวของอุตสาหกรรม” ผอ.ดีป้า กล่าว

ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ในไทยได้ ถูกขับเคลื่อนด้วยธุรกิจประเภทการรับจ้างผลิตรับทั้งในและต่างประเทศเป็นหลัง ซึ่งในปี 2560 ตัวเลขผู้รับจ้างผลิตแอนิเมชันมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 54 เปอร์เซ็นต์ ของมูลค่าแอนิเมชันทั้งหมด ส่วนผู้จัดจำหน่ายและนำเข้าเกมมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 96 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตลาดเกมทั้งหมด ขณะที่ผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้าและดูแลสิทธิคาแรคเตอร์มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 92 เปอร์เซ็น

“ประเทศไทยยังคงพึ่งพาตลาดต่างประเทศมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าลิขสิทธิ์หรือรับจ้างผลิต ทั้งๆ ที่ผู้ประกอบการไทยมีฝีมือและมีศักยภาพที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก การที่ผู้ผลิตไทยจะมีผลงานที่มีทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของตัวเองมากขึ้น จะช่วยลดปัญหาการถูกกดราคาจากต่างประเทศ ลดอัตราการนำเงินออกไปนอกประเทศ และสามารถเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ดีป้าพร้อมจะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย และยกระดับคุณภาพผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันและเติบโตในธุรกิจได้อย่างยั่งยืนอย่างครบวงจร ตั้งแต่การส่งเสริมให้เกิดความสนใจในอุตสาหกรรมแอนิเมชัน เกม และคาแรคเตอร์ การส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์ โดยเฉพาะการพัฒนาตลาดเพื่อการส่งออก ผ่านกองทุน depa Fund เพื่อให้ผู้ประกอบการมีแหล่งเงินทุน และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับสากลได้ ส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการธุรกิจดิจิทัลคอนเทนต์หน้าใหม่ ผ่าน Digital Startup Program ส่งเสริมและสนับสนุน Internationalization Voucher เพื่อเป็นสถานที่ให้ผู้ประกอบการมาพบปะแลกเปลี่ยน และต่อยอดไอเดีย ให้เกิดร่วมมือขับเคลื่อนธุรกิจดิจิทัลคอน-เทนต์ และสร้างพลังในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของไทยต่อไป” ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจดิจิทัลคอนเทนต์ของปี 2560 ยังรายงานมูลค่าการผลิตและส่งออกงานแอนิเมชัน เกม และคาแรคเตอร์ด้วยว่า มีมูลค่าถึง 1,851 ล้านบาท เป็นอัตราการเติบโตเทียบกับปีก่อนหน้า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยอุตสาหกรรมแอนิเมชันมีมูลค่าส่งออก 1,428 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากปี 2559 เป็น 81 เปอร์เซนต์ซึ่งประเทศที่เป็นว่าจ้างผลิตหลักได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ขณะที่สาขาเกมมีมูลค่าการส่งออกแตะที่ยอด 398 ล้านบาทซึ่งมีมูลค่าลดลงกว่าปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าการส่งออก
435 ล้านบาท สำหรับสาขาคาแรคเตอร์มีมูลค่าการส่งออกรวม 25 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีมูลค่าส่งออก 14  ล้านบาท

เปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากของโนวาวิด้า อินเทอร์เกรทีฟ เมดิคัล

เซเลปตบเท้า ร่วมงานเปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากของโนวาวิด้า อินเทอร์เกรทีฟ เมดิคัล เซ็นเตอร์ คาดปี 62 เดินหน้าเต็มสูบด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและนวัตกรรม เซลล์บำบัดเป็นศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจร

นวาวิด้าจัดงานเปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากอย่างเป็นทางการเป็นบริการแรก ด้วยมุ่งหมายที่จะเป็น ฟันเฟืองในการร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 10 ปีในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ของรัฐบาล ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายในการขยายตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่ม “คู่สมรสที่มีบุตรยาก” (Fertility Tourism) ซึ่งเป็นกลุ่มนักกท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและพร้อมที่จะเข้ารับ บริการ เมื่อเกิดความเชื่อมั่นในมาตรฐานและคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์ระดับสากล โดยเฉพาะตลาดใน ประเทศจีน ซึ่งมีอัตราผู้ต้องการรับบริการในด้านนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว


ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น รองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ดำเนินรายการ

โนวาวิด้า อินเทอร์เกรทีฟ เมดิคัล เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวม เกิดจากผู้ก่อตั้งคือ นายทวีศักดิ์ วยากรณ์วิจิตร ซึ่งเป็นนักธุรกิจในกิจการหลากหลายประเภท และทำงานหนักจนสุขภาพเริ่มทรุดโทรม จึงตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้านเซลล์บำบัด (Cell Therapy) เพื่อดูแลสุขภาพกับ ศาสตราจารย์อีวาน ตอร์เรนเต้ (Prof.Yvan Torrente, MD.,Ph.D.)
จากมหาวิทยาลัยมิลาน ประเทศอิตาลี


เมื่อตนเองรักษาได้ผลและมีสุขภาพดีขึ้น จึงเกิดความสนใจแบบจริงจัง และเป็นที่มาของการก่อตั้ง โนวาวิด้า อินเทอร์เกรทีฟ เมดิคัล เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งกำหนดวิสัยทัศน์ นอกเหนือความเป็นธุรกิจไว้ 2 ประการคือ คนไทยควรมีโอกาสได้รับบริการ ทางการแพทย์ที่ดี ทั้งการป้องกันและการบำบัดรักษา และประการที่ 2 คือ ต้องเกิดการต่อยอดในงานวิจัย และพัฒนา นวัตกรรมเซลล์บำบัดในประเทศไทย จึงเกิดเป็นความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างโนวาวิด้ากับสถาบันการศึกษา ชั้นนำของไทย ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย วิทยาลัยนาโนเทคโนโลยี พระจอมเกล้าลาดกระบัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล

เพื่อให้เกิดงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่เป็นของคนไทย และโนวาวิด้ายังให้การสนับสนุน งานวิจัยของศูนย์ความเป็นเลิศด้านภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยอีกด้วย

“หากเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์เกิดจากการงานวิจัย ที่เป็นของคนไทยและสถาบัน การศึกษาไทยบ้าง เชื่อว่าต้นทุนในการรักษาจะถูกลง คนไทยควรมีโอกาสเข้ารับบริการทางการแพทย์ ที่ดีที่ทันสมัยในราคา
ไม่เกินเอื้อม และการต่อยอดงานวิจัยกับแวดวงวิชาการไทยคือหนทางหนึ่งที่ทำให้ เป็นไปได้ โดยโนวาวิด้าพร้อมจะให้สนับสนุนและร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อต่อยอดงานวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ต่อไป”  นายทวีศักดิ์กล่าว

โนวาวิด้า อินเทอร์เกรทีฟ เมดิคัล เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จากประเทศอิตาลี ให้บริการภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Life” โดยมีนายทวีศักดิ์ วยากรณ์วิจิตร เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และมีศาสตราจารย์ อีวาน ตอร์เรนเต้ ซึ่งเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้านการบำบัดด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Therapy) และยีนบำบัด (Gene Therapy) จากมหาวิทยาลัยมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นแพทย์ ที่ปรึกษา โดยโนวาวิด้าเปิดให้บริการใน 2 ธุรกิจบริการหลัก คือ ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก (Fertility Center) และศูนย์ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ (Anti-Aging & Cell Rejuvenation Center)

ซึ่งนอกจากจะช่วยบำบัดฟื้นฟูผู้รับบริการให้กลับมีสุขภาพที่แข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ผู้รับบริการด้วยศาสตร์ชะลอวัย สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี

​โนวาวิด้าจัดงานเปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 10 ปี ในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ของรัฐบาล ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายในการขยายตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่ม “คู่สมรสที่มีบุตรยาก” (Fertility Tourism) โดยมี ศ.นพ.สมบูรณ์ คุณาธิคม อดีตประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์เป็นแพทย์ที่ปรึกษา และมี พญ.กมลา เตชวิวรรธน์ เป็นแพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ดูแลและให้คำแนะนำแก่ผู้รับบริการ ส่วนบริการที่ 2 คือ ศูนย์ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์ (Anti-Aging & Cell Rejuvenation Center) ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพในระดับยีน ที่ออกแบบมาสำหรับเฉพาะบุคคล (Personalize Medicine) เพื่อช่วยบำบัดฟื้นฟูผู้รับบริการให้กลับมีสุขภาพที่แข็งแรง และยังช่วยให้เกิดการชะลอวัย สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี

​ในงานเปิดศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก  ของ โนวาวิด้า อินเทอร์เกรทีฟ  เมดิคัล เซ็นเตอร์ ได้รับเกียรติจาก คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน และมี H.E. Mr. Ahmed Abdulla Alhajeri เอกอัครราชทูตประเทศบาห์เรน, Mr. Adul Hayemasalae เจ้าหน้าที่การทูต สถานทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, Dr. Mohamed Foda เจ้าหน้าที่การทูตประเทศกาตาร์, Mr. Khalid GamarFadllalla เจ้าหน้าที่การทูตประเทศโอมาน, พญ.กมลา เตชวิวรรธน์, ปรนนท์ ฐิตะวรรโณ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI), เพชรพริ้ง สาระสิน, ปริพันธ์-จำนรรค์ ศิริตัน หนุนภักดี เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย, เพ็ญ สุขสมบูรณ์วงศ์ เจ้าของ Songland project, ออน-ชิชญาสุ์ กรรณสูต ผู้จัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์, สามขวัญ ตันสมพงษ์ ผู้บริหารค่ายเพลง What the Duck, ฐิติพงษ์ หล่อประเสริฐ, สุจิตรา จงชาณสิทโธ, ศ.ดร.พลกฤษณ์ แสงวณิช, หยิงหยิง-ศลิษา เอี่ยมมะโนชญ์, นาขวัญ รายนานนท์, ณฤดี เมธีวงศ์ ผู้บริหารสถาบันพัฒนาศักยภาพเด็ก Baby Genius, แนน-ชัญญ ธนเพ็ญชาติ April’s Bakery, ปุ๊กลุก- ทัชชารตี ณ ระนอง บ.Pris Priority, Tatcha Gems, รัชชต เศรษฐ์วรเดช MD บริษัท Mcfiva (Thailand), น้อยหน่า-เพ็ญสุภา คชเสนี Social Director ของ Oriental Hotel, แก้ว-ปัทม์ บุญเดช, พญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช เจ้าของ Kediglow Clinic   ร่วมในงาน โดยมี ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น รองมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ดำเนินรายการ


โนวาวิด้า อินเทอร์เกรทีฟ เมดิคัล เซ็นเตอร์/ โพธาลัย เลเชอร์ พาร์ค
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม นัดหมายพบแพทย์
โทร. : 02-508-5100, 02-508-5101
Line@ : @Novavida
Link : https://line.me/R/ti/p/%40novavida
Website : http://www.novavida.co.th/
FB : Novavida Integrative Medical Center
IG : Novavida_thailand


พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี”

เชิดชูเกียรติต้นแบบแห่งการให้และแบ่งปัน  เพื่อผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก

วันนี้ (10 ธ.ค. 60) เวลา 15.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุเสด็จไปประทานรางวัล “ประชาบดี” แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ประจำปี 2561 จำนวน 57 รางวัล

โดยมี พลเอก อนันตพร   กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กราบทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และ นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) พร้อมคณะผู้บริหาร เฝ้ารับเสด็จ ณ ห้องประชุม ชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สะพานขาว กรุงเทพฯ

พลเอก อนันตพร กล่าวว่า “พระประชาบดี” เทพผู้เป็นที่พึ่งและสงเคราะห์ประชาชน ด้วยพลังแห่งการให้และแบ่งปัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากสภาวะยากลำบาก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงได้นำชื่อ “ประชาบดี” มาเป็นชื่อรางวัลแห่งเกียรติยศ อันเป็นที่สุดแห่งความภาคภูมิใจของต้นแบบความดี ในการช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก เพื่อให้ได้รับการยกย่องและเชิดชูคุณความดีเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม ทั้งนี้ กระทรวง พม.

โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จึงได้ดำเนินโครงการเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่น แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ด้วยการมอบรางวัล “ประชาบดี” ตั้งแต่ ปี 2550 – 2560 โดยมีการมอบรางวัล “ประชาบดี” รวมทั้งสิ้น 730 รางวัล

พลเอก อนันตพร กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2561 นับเป็นปีที่ 12 ของการดำเนินโครงการฯ และด้วยพระเมตตาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี” เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องตลอดระยะ 11 ปี โดยมีการประทานรางวัล “ประชาบดี”
จำนวนทั้งสิ้น 57 รางวัล แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย

1) ประเภทบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 13 รางวัล เช่น นายโจนัส แอนเดอร์สัน นักร้องลูกทุ่ง เป็นต้น

2) ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 11 รางวัล เช่น มูลนิธิเอช เอช เอ็น เพื่อเด็กไทย เป็นต้น

3) ประเภทสื่อที่นำเสนอกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 18 รางวัล เช่น รายการรถปลดทุกข์ ไทยรัฐทีวี เป็นต้น

4) ประเภทบุคคลผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ทำคุณประโยชน์และดำรง
ชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดี  จำนวน 15 รางวัล เช่น นายเซ็ง แซ่ลี ผู้ยากจนและขาพิการ 1 ข้าง ด้วยการนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต และมีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น เป็นต้น

“ตนขอแสดงความยินดีและยกย่องเชิดชูเกียรติกับทุกท่านและทุกองค์กรที่ได้รับรางวัล “ประชาบดี” และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในสังคมเป็นกลไกสำคัญในการหนุนเสริมภารกิจซึ่งกันและกัน เพื่อช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม และพัฒนาสังคมร่วมกันอย่างยั่งยืน



ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจเพื่อการพัฒนาสังคมและคนอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสหรือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือดูแลและพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน” พลเอก  อนันตพร  กล่าวในตอนท้าย

หนาวนี้…ที่บนดอย ตามรอยภูมิวัฒนธรรม

ตอน “แวะ พัก ทัก อาข่า” จังหวัดเชียงราย

การท่องเที่ยวเชิงอัตลักษณ์ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาสัมผัสความงดงามตามวิถีธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูวัฒนธรรม และวิถีชีวิต

จากจุดเริ่มต้นการขับเคลื่อนงานของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรบนพื้นที่สูงให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ โดยอาศัยกลไกด้านการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนงานสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่ ยกระดับการท่องเที่ยวเป็นการท่องเที่ยวเชิงอัตลักษณ์ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาสัมผัสความงดงามตามวิถีธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูงเผ่าต่างๆ

​​นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า หากกล่าวถึงชนเผ่า อาข่าน้อยคนนักที่จะรู้จัก “อาข่า” มีต้นกำเนิดบริเวณที่ราบสูงธิเบต ต่อมาอพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในบริเวณประเทศจีนทางตอนใต้ พม่า ลาว และอพยพลงมาถึงประเทศไทยเมื่อประมาณ 90 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งถิ่นฐานครั้งแรกที่บ้านพญาไพร อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และขยายพื้นที่ไปอาศัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร และแพร่ ซึ่งปัจจุบันสามารถพบชาวอาข่า 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ จ่อกวย ลอยมี และผาหมี ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ ครอบครัวของอาข่าเป็นครอบครัวแบบขยาย สามีมีภรรยาได้หลายคน ระบบความเชื่อยังมี “ลัทธิบูชาผี” ซึ่งสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ชนเผ่าอาข่ายังมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจอีกมากมายให้ท่านได้ลองมาสัมผัส “แวะ พัก ทัก อาข่า”จังหวัดเชียงราย ชมความหลากหลายวัฒนธรรม การเต้นรำ แต่งกายหลายรูปแบบ พักอิงแอบธรรมชาติ ต้องไม่พลาด

โปรโมชั่นพิเศษช่วงเดือนธันวาคม 2561 – กุมภาพันธ์ 2562 มีดังนี้

  1. ที่พักโฮมสเตย์ ลด 100 บาท จากปกติ 400 บาท เหลือเพียง 300 บาท/คน
  2. แพ็กเกจท่องเที่ยว One day trip เพียง 750 บาท/คน
  3. แพ็กเกจท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ลด 300 บาท จากปกติ 1500 บาท เหลือเพียง 1,200 บาท/คน
  4. อื่นๆ การแสดงมินิไลท์แอนซาว (อาข่าคนภูเขา) ลด 5,000 บาท  จากปกติราคา 20,000 บาท เหลือเพียง 15,000 บาท

​​ขอเชิญชวนผู้มีใจรัก อัตลักษณ์วิถีชีวิตคนบนดอย ลองมาสัมผัสความงดงามของชนเผ่าอาข่า จังหวัดเชียงราย สิ่งที่ได้รับไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่ท่านจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนงานสวัสดิการในชุมชน รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งจะนำมาพัฒนาชุมชน ต่อยอดกิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชนให้เกิดความยั่งยืน อีกส่วนหนึ่งจะนำมาจัดสวัสดิการให้แก่คนในชุมชน หรือผู้ด้อยโอกาสในชุมชน เช่น เด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ คนเร่ร่อน เป็นต้น

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง เชียงราย
โทร. 0 5360 2579

The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand สูตรลับเฉพาะส่งตรงจากประเทศอเมริกา

Toptotravel มีโอกาสไปร่วมงานฉลองครบรอบ 6 ปี The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand กิจกรรม “6th Year Anniversary: Experience the Finest Teas in the World” by The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand ที่ The Coffee Bean & Tea Leaf สาขาสยามเซ็นเตอร์


คุณเอ สัจเดย์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, บริษัท ฟู้ดแคปปิตอล จำกัด

คุณเอ สัจเดย์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, บริษัท ฟู้ดแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวต้อนรับลูกค้าและสื่อมวลชน เพื่อขอบคุณลูกค้า ที่อยู่กันมา 6 ปี The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand ตั้งใจจริงที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าพร้อมร่วมกิจกรรมลุ้นกินฟรีตลอดทั้งปี!


เครื่องดื่มปั่น หรือน้ำปั่นที่เราคุ้นเคยกันนั้น
CBTL คือ ผู้บุกเบิกเคล็ดลับความอร่อย? The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand โมเมนท์ดีๆ เริ่มต้นได้เพียงแค่มีกาแฟชั้นเยี่ยมในมือสักแก้ว ไม่เพียงแต่ชื่อร้านจะน่ารัก และมีความละมุนอยู่ในตัวแล้ว ที่นี่คัดสรรชาชนิดพิเศษ เกรดพรีเมียมที่คุณภาพและรสชาติดีที่สุดในโลก ให้บริการลูกค้า ทุกขั้นตอนการผลิตชาต้องอาศัยความพิถีพิถัน ตั้งแต่การเก็บ การคัดแยก และการบรรจุชาที่ไร่ เพื่อนำมาสู่ขั้นตอนการผลิตกระบวนการบรรจุภัณฑ์ที่ เดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ โรสติ้ง แอนด์ ดิสทรีบิวท์ชั่น (RAD) เมืองแคมาริลโล มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อความมั่นใจในชาคุณภาพชั้นเยี่ยม จากไร่ชาสู่ชาคุณภาพโดยให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นอันดับแรก เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ดังสโลแกน “Simply the Best” อร่อยได้อารมณ์ฟินทั้งอาหารแบบชนะใจคนที่เราพามาแบบใสๆ ทั้งหอม ทั้งเนียน ดื่มเมื่อไหร่ก็สดชื่น

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Exclusive Workshop “Easy & COOL DIY DRINK by CBTL Tea & MONIN” มีอาหารเมนูจานเดียวทานให้ท้องอิ่มก่อนฟินกับบรรยากาศรอบๆ มีเครื่องดื่มให้หัวใจกระชุ่มกระชวยหวาน อร่อย ชื่นใจ ฉลองครบรอบ 6 ปี The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand Workshop ได้ลองทำเครื่องดื่มในสไตล์ของตัวเองด้วยค่ะ ชิมกันสนุกสนาน ช่วงท้ายสุดกับช่วงเวลาสำคัญ ช่วงเวลาเป่าเค้กฉลองครบรอบ 6 ปี เค้กทำเป็นสีม่วงสดในแบบ The Coffee Bean & Tea Leaf พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ บัตรกำนัลทานเครื่องดื่ม CBTL ฟรี 1 ปี, เครื่องชงกาแฟ, และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย

Toptotravel ขอขอบคุณและเป็นเรื่องน่ายินดีไม่น้อยที่มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม 6th Year Anniversary: Experience the Finest Teas in the World by The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand ที่ The Coffee Bean & Tea Leaf อยากใช้เวลากับเพื่อน อยากหาที่นั่งคิดงาน อ่านหนังสือ หรือแม้แต่หาพื้นที่เล็กๆ ให้ตัวเอง ช่วงเวลาทั้งหมดนี้ เรามีให้คุณได้ที่ CBTL
พร้อมเสิร์ฟ กาแฟ ชา ขนม และเมนูอาหารอร่อยอีกมากมาย

ร่วมกิจกรรมดี ๆ ก็รู้สึกประทับใจ สนุกและมีความสุขแล้วค่ะ ขอบคุณกิจกรรมดี ๆ แบบนี้มาก ๆ เลยค่ะ

QualityTimewithCBTL #CBTL_Thailand

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
มาลอง The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand
ผ่านทาง Facebook และ Instragram
http://www.cbtlthailand.com
@CBTL_Thailand

วันธรรมดา…น่าเที่ยว ชิลล์กับ กิจกรรม ปิ้งหอย คอยเธอ ริมทะเลชะอำ

Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing)
ตอน “ปิ้งหอย คอยเธอ”

Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing) ภายใต้ Concept “Eco friendly” พบกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Let’s go Outing “ปิ้งหอย คอยเธอ” เริ่มเปิดตลาดครั้งแรกในวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ณ บริเวณชายหาดชะอำ ด้านทิศเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

นักท่องเที่ยวคึกคัก! “ปิ้งหอยคอยเธอ” ริมหาดเมืองชะอำ หาดทรายนุ่มสีน้ำตาลอ่อราวเปลือกไข่สะอาด ลมพัดเย็น คลื่นไม่แรงนัก ได้พักผ่อนเดินเล่นสัมผัสน้ำทะเลใกล้ชิดเสียงคลื่น จะมีความเงียบสงบและเป็นธรรมชาติมากโดยเฉพาะในวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี ในวันธรรมดาให้คึกคักยิ่งขึ้นนักท่องเที่ยวสามารถจอดรถริมทะเลวิ่งเฮฮาลงเล่นน้ำทะเลกันได้เลย จนกล่าวกันว่า “หาดชะอำ-ทะเลบ้านฉัน”เสน่ห์อย่างหนึ่งที่น้อยคนจะได้สัมผัส

ชวนมาเดิน…ชม..ช๊อป..ชิม.. อาหารทะเลสดๆ  ภายในตลาดคนเดิน  ริมทะเล การออกร้านค้าจำหน่ายสิ้นค้าโอท็อปของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี ชมการประกวดดนตรีเยาวชน AWARDS on the beach การประกวดประติมากรรมขยะบนผืนชายหาดโดยการใช้วัสดุเหลือใช้ มารีไซเคิลให้เป็นปลาวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ ชมการฉายหนังกลางแปลงในบรรยากาศสุดชิวริมชายหาดทุกค่ำคืน และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย

นายกอบชัย บุญอรณะ  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงาน Outing@Cha-am 1st (Let’s go outing) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวริมหาดเมืองชะอำ ในวันธรรมดาให้คึกคักยิ่งขึ้น โดยมีนายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ
นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ นายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวสำนักงานเพชรบุรี สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยศิลปกร สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี ผู้ประกอบการโรงแรม หน่วยงานภาครัฐ และ นางสาวมีนณิชา เล้าอรุณ มีสแกรนด์ เพชรบุรี 2018 ร่วมพิธีเปิดงาน

นอกจากนั้นยังมีการแสดง มิสเดอร์  Been Thailand, การแสดงวงดนตรี The Beatlesnania (The Beatle Thailand) มายากลเดอะแจ๊ค ดอมมินิตี้ ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนด์ม ดนตรวง Water Walk และตัวแทนชุมชนคนริมเลชะอำ คณะสื่อมวลชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

นายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี กล่าวว่า
“ททท.เป็นผู้นำในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน”

การส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดาถือเป็นภารกิจหลัก ที่ททท.หรือภาครัฐพยายามที่จะขับเคลื่อนกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในวันธรรมดา เฉกเช่นเดียวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวกระจายไปยังเมืองรอง และอีกหนึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อ  การท่องเที่ยวก่อให้เกิดปัญหาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมซึ่ง ททท.ได้คำนึงถึงผลกระทบเหล่านี้  มาโดยตลอด

จึงได้  กำหนดเป้าหมายของโครงการ Outing @Cha-am 1 st  (Let’s go Outing) ซึ่งเป็นแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดาภายใต้แนวคิด Eco friendly ของททท.สำนักงานเพชรบุรี ที่มีเป้าหมายตามกรอบในการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (Thailand Riviera) ตามนโยบายของรัฐบาล การพัฒนาหน้าชายหาดให้สะอาด แก้ไขปัญหาการรุกล้ำชายหาด มีการจัดงานประเพณีท้องถิ่นริมหาดเป็นครั้งคราว

กิจกรรม Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing) เชื่อมโยงท่องเที่ยวเมืองรอง – เมืองหลัก ในงาน ได้รับความร่วมมือจากเทศบาลเมืองชะอำ, หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี, YEC iz Club, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี, ผู้ประกอบการโรงแรม, หน่วยงานภาครัฐและชุมชนคนริมเลชะอำร่วมกันจัดกิจกรรม Bech Food ตลาดริมเล เวทีการแสดงดนตรีและเปิดโอกาสให้เป็นเวทีแห่งการแสดงออกทางด้านความคิดเชิงสร้างสรรค์ ตามสไตล์เท่อย่างไร…เที่ยวอย่างไทยเท่ โดยการนำขยะหรือวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นประติมากรรมจากขยะ ขนาดใหญ่บนชายหาดชะอำ และนักท่องเที่ยวยังสามารถชมหนังดีชมฟรี ต้องห้ามพลาดด ฟรีกลางแปลงสุดชิลริมทะเลใน เครือ M Pictures ตลอดงาน

ททท. สำนักงานเพชรบุรี ส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดาน่าเที่ยวให้กับงาน Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing)

ภายใต้งานจะจัดขึ้นทุกวันอังคาร และวันพุธ ของเดือนธันวาคม 2561 ไปจนถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 26 ครั้ง
ที่บริเวณชายหาดด้านหน้าโรงแรมลองบีชชะอำ

วันธรรมดา…น่าเที่ยว ชิลล์กับ กิจกรรมริมทะเล
เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2561
จนถึง 27 กุมภาพันธ์ 2562 รวมระยะเวลา 3 เดือน
กำหนดจัดทุก วันอังคารและพุธ เวลา 16.00 – 23.00 น.
ที่บริเวณชายหาดหน้า โรงแรมลองบีชชะอำ จ.เพชรบุรี