ส้มตำปลาร้า5 ลุ่มน้ำ ยังไม่เคยมีร้านอาหารใดทำมาก่อน

แสนแซ่บ
คัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ ไม่ใช่ผงชูรส

อาหารอีสานได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น รวมถึงชาวต่างชาติที่เริ่มรู้จักอาหารอีสาน อย่างไก่ย่าง และส้มตำ โดยเฉพาะร้านอาหารอีสานที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ชาวเอเชียอย่างชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ที่เดินทางมากรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบายช่วงวันหยุด ทำให้ร้านอีสานมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น แสนแซ่บจึงต้องมุ่งเน้นหาจุดเด่นให้กับแบรนด์ เพื่อให้มีความแตกต่าง โดดเด่น เป็นที่จดจำของผู้บริโภค  การคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่ มีคุณภาพ ไม่ใช่ผงชูรส และมีการเพิ่มเติมเมนูพิเศษตามฤดูกาล เพื่อชูความเป็นอาหารอีสานระดับพรีเมี่ยม

นายวสันต์ ลิมป์วชิรคม ผู้จัดการทั่วไปแสนแซ่บ

แสนแซ่บอยากนำเสนอความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคไทย และต่างชาติ แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไทยอีสานผสานทันสมัยเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน และเพื่อตอกย้ำจุดยืนของแสนแซ่บที่มีความทันสมัยแต่ก็ไม่ลืมเสน่ห์วัฒนธรรมความเป็นไทย ปลาร้าจาก 5 ลุ่มน้ำ ภาพลักษณ์กูรูในด้านอาหารอีสานอย่างแท้จริง

1.  ปลาร้ากลุ่มแม่น้ำท่าจีน
ขันโตกสำรับขุนแผน (ใช้ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำท่าจีน สุพรรณบุรี)

2. ปลาร้ากลุ่มแม่น้ำชี จ.กาฬสินธุ์
ขันโตกภูไทแสนแซ่บ (ใช้ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำชี กาฬสินธุ์)

3. ปลาร้าจากแม่น้ำงึม แขวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว
ขันโตกสะบายดี (ใช้ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำงึม เวียงจันทร์ )

4.  ปลาร้าจาแม่น้ำโขง จ.อุดรธานี
ขันโตกสายบัวแซ่บนัว (ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำโขง อุดรธานี)

5.  ปลาร้าจากแม่น้ำจันทบูร  จ.จันทบุรี
ขันโตกดูเรียนตำพริ้ว (ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำจันทบูร จันทบุรี)

อาหารไทย ได้รับความนิยมและได้รับความชื่นชมจากผู้บริโภคต่างชาติ  ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งของเมืองจุดหมายปลายทางในเอเชียแฟซิฟิก ภาครัฐเองก็มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ การยกเว้นค่าวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวไทย และอาหาร และโร้ดโชว์ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาประเทศไทยมากขึ้น

นายวสันต์ ลิมป์วชิรคม ผู้จัดการทั่วไป เปิดเผยว่า การปรับโฉมใหม่ของแสนแซ่บในครั้งนี้ เพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัย สดใส และยังคงความพรีเมี่ยม แฝงกลิ่นอายความเป็นอีสาน โดยใช้เอกลักษณ์จากลายผ้าขาวม้า สอดแทรกอยู่ในรายละเอียดต่างๆ เพื่อสื่อถึงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของไทย โทนสีการตกแต่งร้าน เน้นวัสดุธรรมชาติ ปูน ไม้ ในสีเอิร์ธโทน สีขาว และเบจ เพื่อให้สว่าง โล่งโปร่ง สะอาดตา และผ่อนคลาย นอกจากนั้นยังเพิ่ม ‘ส้มตำ Live Station’ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วม และมีอรรถรสในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้น

น.ส.วัชราภรณ์ ลิมป์วชิรคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนแซ่บ พรีเมี่ยม จำกัด

น.ส.วัชราภรณ์ ลิมป์วชิรคม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสนแซ่บ พรีเมี่ยม จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารอีสานพรีเมียมสไตล์โมเดิร์น แบรนด์ แสนแซ่บ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ปรับโฉมร้านใหม่ เริ่มก่อน 2 สาขา ที่สยามพารากอน และเทอร์มินอล 21 ภายใต้งบลงทุน 15 ล้านบาท โดยโฉมใหม่ของแสนแซ่บในครั้งนี้ เพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัย สดใส และยังคงความพรีเมี่ยม พร้อมแฝงกลิ่นอายความเป็นอีสาน ขณะเดียวกันได้ปรับเมนูใหม่ ซึ่งได้ชูเมนูเด็ดวัตถุดิบท้องถิ่นไทย กับปลาร้า 5 ลุ่มน้ำ เพื่อเจาะตลาดร้านอาหารอีสานระดับพรีเมียม (ที่ยอดการใช้บริการเฉลี่ย 500 บาทต่อคน)

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ในโอกาสปรับโฉมใหม่ แสนแซ่บได้เปิดตัวอาหารชุดพิเศษ 5 โตก 5 สไตล์ ชูจุดเด่นที่วัตถุดิบใหม่ คือ ‘ปลาร้าจาก 5 ลุ่มน้ำ’ ที่ยังไม่เคยมีร้านอาหารใดทำมาก่อน โดยคัดสรรมาเป็นอย่างดีจาก 5 ลุ่มน้ำ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์กูรูในด้านอาหารอีสานอย่างแท้จริง ประกอบด้วย ขันโตกสำรับขุนแผน (ใช้ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำท่าจีน สุพรรณบุรี) , ขันโตกภูไทแสนแซ่บ (ใช้ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำชี กาฬสินธุ์), ขันโตกสะบายดี  (ใช้ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำงึม แขวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว), ขันโตกสายบัวแซ่บนัว (ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำโขง อุดรธานี) และไฮไลท์! ขันโตกดูเรียนตำพริ้ว (ปลาร้าจากลุ่มแม่น้ำจันทบูร จันทบุรี)

ตำบักหุ่ง สูตรโบราณ ที่ร้าน แสนแซ่บ กูรูด้านส้มตำ ชูปลาร้า 5 ลุ่มน้ำ ทุ่มงบกว่า 15 ล้าน ปรับโฉมสาขาทั่วปท. ชูเมนูเด็ดปลาร้า 5 ลุ่มน้ำ พร้อมกับสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งร้านอาหารอีสานระดับพรีเมียมที่มีอยู่ 5-6 ราย ในตลาด และส่วนใหญ่จะมีสาขาในห้าง และศูนย์การค้า โดยร้านแสบแซ่บเองจากนี้จะเน้นขยายสาขาในห้างมากขึ้น

จากที่ผ่านมาจะขยายในค้าปลีกชุมชน หรือคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นหลัก ปัจจุบันร้านแสนแซ่บมีทั้งหมด 6 สาขา และในสิ้นปีนี้จะเปิดอีก 1 สาขาที่เซ็นทรัล โคราช จากนั้นในปี 2561 จะเปิดอีก 2 สาขาในห้างเซ็นทรัล พระราม 2 และเทอร์มินอล พัทยา 2 พร้อมยังตั้งเป้าขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยในช่วง 3-5 ปีนี้จะเปิดให้ได้ปีละ 2 สาขา และจะออกไปจังหวัดหัวเมืองใหญ่ๆ มากขึ้น