Category Archives: Food and Drink

ที่สุดของ บุฟเฟ่ต์เนื้อย่างเตาถ่านเนื้อ ร้าน เบสท์บีฟ สุขุมวิท กรุงเทพฯ

ไม่ต้องมีเนื้อคู่เพราะชอบอยู่กับเนื้อย่าง กินอิ่มพุงกางกินจุใจกันกว่า 50 เมนู เลือกให้ฟิน..กินให้อร่อย เอาจริงสายเนื้อไม่ควรพลาด และเป็นร้านยอดนิยมมากวันนี้เราอยู่ที่ ร้าน เบสท์บีฟสุขุมวิท กินแบบไม่อั้น!! บุฟเฟ่ต์สเต็กเนื้อสุดคุ้มเอาใจทั้งคนรักเนื้อและซีฟู้ด เพราะนอกจากจะได้กิน บุฟเฟ่ต์เนื้อแบบไม่อั้นแล้ว ส่วนใครที่ไม่ถูกปากกับเนื้อวัว เค้าก็มีทั้งเนื้อหมู คูโรบูตะพอร์คชอปนุ่มๆ ติดมันนิดๆ คือดีและยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้ง อาหารทะเล กุ้ง ปู หอย ด้วยรูปแบบความอร่อย 3 สไตล์ กะทะร้อนและจิ้มจุ่มหม้อไฟ และย่างตะแกรงเตาถ่าย พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดรสจัดจ้าน 3 รูปแบบ เสริฟ 2 ชั่วโมงเต็มๆ แบบไม่อั้น ด้วยราคาที่เป็นมิตร อาหารคุณภาพดีมาก สั่งได้ไม่อั้น เพื่อนๆ สายบุฟเฟ่ต์ต้องเลิฟ สายเนื้อ สายกุ้งแม่น้ำ บอกเลยว่า
ฟินมากที่สุด

ร้านปิ้งย่างบรรยากาศสบายๆ มีเมนูเด็ดจากเนื้อวัวและบุฟเฟ่ต์ในพื้นที่กว้างและมาดูกันว่าเนื้อส่วนไหนอร่อยที่สุด! เลือกกินเนื้อให้อร่อยทั้งที ก็ต้องเลือกกันสักหน่อย อย่ารอช้าตามร้าน เบสท์บีฟสุขุมวิท เนื้อเน้นๆ มีทั้งเนื้อริบอาย เนื้อบริสเก็ต เนื้อใบพาย เนื้อสันนอก ลิ้นวัว ร้าน Buffet ขนาดใหญ่ แต่ทางร้านเลือกให้บริการลูกค้าแบบ Full Service ทางร้านมีพนักงานคอยให้บริการช่วยเสริฟอาหารและเครื่องดื่มให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าไม่ต้องตักอาหารเองเหมือนกับร้าน Buffet ทั่วไป จนทำให้ร้าน เบสท์บีฟ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ทางร้านยังได้คัดเลือกเนื้อคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยมจากต่างประเทศ ย่างตามความสุกที่เราต้องการ เรียกว่าประสบการณ์ปิ้งย่างเนื้อระดับพรีเมี่ยม ซึ่งรับรองได้ว่า อิ่มทั้งท้อง อิ่มทั้งใจ และอุ่นใจในเรื่องราคา ได้ที่ร้าน เบสท์บีฟ ทุกสาขา #ฟินเว่อร์ถ่ายแทบไม่ทัน กินรัวๆ ตามมาชมด้วยกันเลย

มาถึงที่นี่ต้องลองนื้อวัว แต่มาดูกันว่าเนื้อวัวส่วนไหนบ้างอร่อยฟินเว่อร์ที่สุด! เลือกทานเนื้อให้อร่อยควรเลือกกินส่วนไหน เลือกเนื้อส่วนที่ใช่ เลือกอร่อยกับเนื้อส่วนที่ชอบรู้แล้วลุย รออะไรสั่งเลย

เนื้อเสือร้องไห้ (Brisket)
เป็นเนื้อที่อยู่ส่วนอกของวัว ติดมันเยอะเป็นส่วนที่นุ่มน้อยแต่อร่อย เหมาะสำหรับย่าง หรือสไลด์บางย่างกับเนยหอม ๆ เพิ่มรสชาติให้ดียิ่งขึ้น

เนื้อลูกมะพร้าว (Knuckle)
เป็นเนื้อที่อยู่ตรงช่วงโคนขาหลังบริเวณสะโพก ซึ่งมีก้อนใหญ่คล้ายกับลูกมะพร้าว และที่สำคัญเนื้อในส่วนนี้ยังมีความนุ่มพอสมควร และมีมันน้อยมาก เหมาะกับคนที่เน้นโปรตีนทานแบบเนื้อล้วน ๆ

เนื้อน่องลาย (Shank)
เนื้อท่อนขาซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีความหนึบของเอ็น ผสมผสานเข้ากันได้ดีกับเนื้อและไขมัน อยู่ภายในตัวเอง ทำให้เคี้ยวมัน จนหยุดไม่อยู่

เนื้อหนอก (Hamp)
เนื้อส่วนที่นูนออกมาจากหลังของวัว เป็นเนื้อส่วนที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว เนื้อจึงนุ่มมาก มีไขมันค่อนข้างมากมีสีอ่อนกว่าส่วนอื่น

เนื้อสันคอ (Chuck)
เป็นเนื้อส่วนที่มีไขมันเเทรกสวย มีคอลลาเจนที่หลอมละลายเร็วเมื่อโดนความร้อน มีรสชาติเข้มข้น เเต่ก็เป็นเนื้อที่มีเนื้อเยื่อพังผืด ไม่ควรย่างจนสุกเกินไป

เนื้อใบพาย (Chuck eye)
เนื้อส่วนกลางระหว่างสันคอกับท้องเนื้อส่วนนี้ค่อนข้างนุ่ม เพราะมีไขมันแทรก เป็นชิ้นส่วนยอดนิยม และหายากในวัว 1 ตัว มีไม่เกิน10กก. เมื่อแล่ออกมาแล้วเหมือนกับใบพาย มีเอ็นตรงกลางรสชาติอร่อยมาก

ลิ้นเนื้อ (Ox’s Tongue)
เนื้อส่วนของไขมันทำให้มีความนุ่มอร่อย การทานแบบย่าง พอย่างเสร็จก็บีบมะนาวลงไปแล้วทาน ยิ่งเคี้ยวยิ่งอร่อย

เพราะทุกส่วนของเนื้อวัวก็มีความอร่อยที่แตกต่างกันไปตามกรรมวิธี และการหมักปรุงรสให้อร่อยเลย สำคัญสุด!! อยู่ตรงที่สายพันธ์ เกรดดีรสชาติดีตาม เช่นเดียวกับ BEST BEEFที่คัดสรรเนื้อวัวเกรดพรีเมียม ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง

มาถึงที่นี่ต้องลองไฮไลท์อย่าง A La cart สันในออสเตรเลีย Australian Tenderloin /
ริบอายออสเตรเลีย Australian Ribeye

แต่ละเมนูบอกเลยว่าคุ้มมากมากินกุ้งแม่น้ำผ่าก็คุ้มแล้ว เนื้อเน้นๆ มีทั้งเนื้อริบอาย เนื้อบริสเก็ต เนื้อใบพาย เนื้อสันนอก ลิ้นวัวพันธุ์ดีมีคุณภาพ #ฟินเว่อร์

ลุยต่อกับนอกจากนี้ยังมี ข้าวหน้าเนื้อ เมนูกินเล่น ซุป สลัด เฟรน์ฟราย์ นักเก็ต และไอติม เป็นของหวานสุดฟิน

  • บุฟเฟต์ราคา 299 บาท (ยังไม่รวมเครื่องดื่ม)
  • บุฟเฟต์ราคา 369 บาท (น้ำเปล่า+น้ำแข็ง+น้ำอัดลม+ชามะนาว)
  • บุฟเฟต์ราคา 499 บาท (บุฟเฟต์อาหาร+เครื่องดื่ม)
  • เด็กต่ำกว่า 100 ซม. ทานฟรี
  • ถ้าเกิน 100 ซม.อายุต่ำกว่ลา 120 ซม. ราคา 159 บาท(แบบไม่รวมเครื่องดื่ม) และราคา 179 บาท(แบบรวมเครื่องดื่ม)
  • ถ้าเกิน 120 ซม. เป็นราคาปกติ
  • บุฟเฟต์แบบรวมเบียร์ อนุญาติให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และสตรีที่มีครรภ์ สามารถเลือกทานแบบราคา 369 บาท
  • ในส่วนของบุฟเฟต์ให้เวลาในการสั่งอาหารและเครื่องดื่มภายใน 2 ชม. เมื่อครบเวลาแล้วสามารถนั่งทานต่อได้จนกว่าอาหารจะหมด

ใครไม่สะดวกมีเมนูซื้อกลับบ้าน Take Home ด้วยนะ ส่วนเราสั่งทานที่นี่กันเลย กับเมนูกุ้งดอง แซลมอนดอง และหอยนางรมราคาพิเศษสุด….สดอร่อยเหมือนทานที่ร้านเลย

เราอยู่ที่ สาขาสุขุมวิท ระหว่างปากซอย 48/2 และ 48/3 อยู่ก่อนถึงสะพานพระโขนง ใกล้ๆ แยกไฟแดงอ่อนนุช ห่างจาก BTS สถานีอ่อนนุช เพียง 300 เมตร
Tel: 091-626-9894
Parking: มีที่จอดรถ 60 คัน
Map: https://goo.gl/maps/WwvKr9qx5kcQAnkK6

สาขาศรีนครินทร์ Tel: 097-245-1818
Parking: มีที่จอดรถ 100 คัน
Map: https://goo.gl/maps/XmYsc6GCdvqNRqbU8

สาขาบางแค Tel: 097-245-8051
Parking: มีที่จอดรถ 200 คัน
Map: https://goo.gl/maps/8TM3r6SSBURrfevQ9

สาขาเกษตรนวมินทร์ Tel: 062-296-6262
Parking: มีที่จอดรถ 200 คัน
Map: https://goo.gl/maps/DgLb4okNWFKFcu8K9

ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่น
BESTBEEF : เบสท์บีฟสุขุมวิท
LINE : https://lin.ee/juv4Dix
Instagram : https://www.instagram.com/bestbeef_sukhumvit
Website : https://bestbeefrestaurant.com

#BestBeef #Sukhumvit #Srinakarin #BangKhae #KasetNawamin #BarBQinBangkok #บุฟเฟ่ต์
#ร้านเนื้อย่างโคขุน #สวรรค์ของคนรักเนื้อ #เบสท์บีฟ #toptotravel #ชัญญ่าว่าดี #ปิ้งย่าง #bestbarbq #bestintown

The 6th Italian Cuisine Week สัปดาห์อาหารอิตาเลียน ครั้งที่ 6ลิ้มรสต้นตำรับความอร่อยสไตล์อิตาลี ใจกลางกรุงเทพฯ

เริ่มต้นแล้ว! สัปดาห์อาหารอิตาเลียน ครั้งที่ 6 “The 6th Italian Cuisine Week” กลับมาแล้ว สำหรับ เทศกาลอาหารอิตาเลียนสุดยิ่งใหญแห่งปี ที่พร้อมให้ทุกคนได้มาลิ้มรสความอร่อยของอาหาร อิตาเลียนอันเลื่องชื่ออีกครั้ง โดย สถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน (ITA Italian Trade Agency) ได้จัดงานครั้งนี้ พร้อมกว่าอีก 110 ประเทศทั่วโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Sustainability – Traditional – Innovation” ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการบริโภคสินค้าอิตาลีอย่างยั่งยืน และใส่ใจสิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาผสมผสานกับเสน่ห์การปรุงอาหารแบบต้นตำรับ ท่ามกลางบรรยากาศดนตรีสดเคล้าไปกับรสชาติของอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ จากร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดังทั่วกรุง รวมทั้งพบกับผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวานสุดพรีเมียมรวมกว่า 30 แบรนด์ ที่คัดมาให้เลือกสรร ระหว่างวันที่ 22-24 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ควอเทียร์ อเวนิว ศูนย์การค้า
ดิ เอ็มควอเทียร์

ฯพณฯ ลอเรนโซ กาลานติ เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า “อาหารอิตาเลียน มีความหมายถึง ขนบธรรมเนียมประเพณี วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังรวมถึงนวัตกรรม ความกินดีอยู่ดี และความยั่งยืน ความจริงแล้ว อาหาร ’เมดิเตอร์เรเนียน’ จัดว่าเป็นอาหารต้นตำรับที่รับประทานกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นต้นแบบของแพทย์และนักวิจัยว่าช่วยในเรื่องลดน้ำหนัก ปัญหาสุขภาพหัวใจ รวมทั้งองค์กรยูเนสโกได้ประกาศให้ศิลปะการทำพิซซ่าแบบเนเปิลส์ (pizzaiuolo napoletano) ถูกรวมให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ สำหรับงานสัปดาห์อาหารอิตาเลียน (The 6th Italian Cuisine Week) เป็นงานประจำปีของชาวอิตาลีที่จัดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก เพื่อร่วมส่งเสริมประเพณีและวัฒนธรรมของอาหารอิตาเลียนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งเพื่อร่วมสนับสนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์จากอิตาลีอีกด้วย เราจึงมีความยินดีที่จะเฉลิมฉลองสัปดาห์พิเศษนี้ในประเทศไทย”

ในปีนี้ได้เนรมิตพื้นที่ของศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ให้กลายเป็นแหล่งความอร่อย โดยรวบรวมร้านอาหารอิตาเลียนระดับแถวหน้า พร้อมคัดสรรวัตถุดิบอิตาเลียนดั้งเดิมมาไว้ในงานเดียว ให้เหล่าอิตาเลียนเลิฟเวอร์ได้มาเช็คอิน และลองลิ้มชิมรสกันแบบไม่มีเบื่อ โดยแบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกัน ได้แก่ “โซนพลาซ่า” ที่ทุกคนจะได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารอิตาลีรสเลิศจากสูตรต้นตำรับ “โซนมาร์เก็ต” มาพร้อมวัตถุดิบชั้นดีจากประเทศอิตาลี ให้ได้เลือกสรรกันอย่างจุใจ “โซนดนตรีสด” กับการบรรเลงดนตรีสดบนเวที โดย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะขับกล่อมทุกคนด้วยเสียงเพลงสุดไพเราะตลอดทั้งวัน ปิดท้ายที่รวม “โซน Exhibition” มาพร้อมการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจ ภายใต้คอนเซ็ปต์งานของปีนี้ อย่าง “Sustainability – Traditional – Innovation” ซึ่งตลอด 3 วันของการจัดงาน อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมมากมาย หลากหลายความอร่อย ควบคู่ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับมืออาชีพ

· วันที่ 22 พ.ย.64 – พบกับการนำเสนอเกี่ยวกับอาหารอิตาเลียน จาก ALMA School (La Scuola Internazionale di Cucina Italiana สถาบันและศูนย์ฝึกสอนการประกอบอาหารอิตาเลียนชั้นนำระดับโลก) ร่วมกับ Food School ในหัวข้อ “Italian Street Food” ซึ่งมีการแนะนำเรื่องราวที่น่าสนใจด้วยการไลฟ์สด โดย Fabio Amadei ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมศาสตร์การทำอาหาร อิตาเลียน (Culture of Italian Gastronomy) จาก ALMA รวมถึงยังมีเชฟ Carlo Maria Ricci แบรนด์แอมบาสเดอร์ ALMA ที่จะร่วมกับ Fabio Amadei เปิดบทเรียนสอนทำอาหารอิตาเลียนทางออนไลน์ผ่านวิดีโอ
· วันที่ 23 พ.ย. 64 – พบกับการนำเสนอเกี่ยวกับอาหารอิตาเลียน ในหัวข้อ “Italian Wine Pairing” ผ่านไลฟ์สด โดย Ciro Fontanesi ซอมเมอลิเยร์ จาก ALMA นอกจากนี้เชฟ Carlo Maria Ricci พร้อมด้วย Ciro Fontanesi ยังมาเปิดบทเรียนสอนทำอาหารทางออนไลน์ผ่านวิดีโอ รวมถึง ผศ.ดร.ฟ้าลั่น ศรีสุริยชัย จะมาแนะนำการจับคู่ไวน์อิตาเลียนกับอาหาร และพาผู้ที่หลงใหลไปท่องโลกไวน์แดงของอิตาลีด้วยกัน
· วันที่ 24 พ.ย. 64 – รับฟังดนตรีสดและสัมผัสมนต์เสน่ห์ลิ้มลองอาหารอิตาเลียน สำหรับผู้ที่สนใจสปาร์กลิงไวน์อิตาลี ห้ามพลาด เพราะ ผศ.ดร.ฟ้าลัน ศรีสุริยะชัย จะขึ้นเวทีนำเสนอการจับคู่และสปาร์กลิ้ง ไวน์ ของอิตาลี กับอาหาร ในงานด้วย
· วันที่ 24 – 26 พ.ย. 64 – เปิดคลาสเรียนออนไลน์กับผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.ฟ้าลั่น ศรีสุริยชัย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจากประเทศไทยและพม่า มาร่วมนำเสนอการเรื่องราวของไวน์แดง ไวน์ขาว และสปาร์กลิ้ง ไวน์ ของอิตาลี และการจับคู่ไวน์กับอาหารแต่ละประเภทอีกด้วย

ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ตกหลุมรักประเทศอิตาลีต้องไม่พลาด งาน The 6th Italian Cuisine Week สัปดาห์อาหารอิตาเลียน ครั้งที่ 6 เอาใจทุกสายช้อป สายชิม สายท่องเที่ยว แบบที่ไม่ต้องบินไกลไปถึงอิตาลี

ร้านพิซซ่าของลุงทอม มุมไม่ลับ แต่อยากให้ไปลอง

Uncle Tom’s Pizzeria สวรรค์ของคนรัก พิซซ่าต้องไม่พลาด ความอร่อยเอาใจสายพิซซ่าเลิฟเว่อร์ ชวนมาฟินกับทุกเมนูพิซซ่าชื่อดัง ปักหมุดร้าน อยู่บริเวณ
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

เที่ยวเขาค้อ ทั้งทีอยากหาร้านอาหารเขาค้อบรรยากาศสวยๆ เห็นวิวทะเลหมอก รับลมจะไปที่ไหนดี ? วันนี้มีโอกาสแวะมาร้านนี้ คือตั้งใจมาชมวิวโดยเฉพาะ ที่ Uncle Tom’s Pizzeria ร้านพิซซ่าของลุงทอม พิซซ่าเตาถ่าน อารมณ์ของร้านโอบล้อมไปด้วยภูเขาเรียงรายสูงต่ำหลดหลั่นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ตกแต่งสบายๆ มีสไตล์ของตัวเอง นั่งที่ร้านมองเห็นทิวเขาได่ชัดเจน บางจังหวะมีหมอกลอยต่ำๆ มาให้ชมด้วย และที่สำคัญคนไม่พลุกพล่าน มองเห็นวิวภูเขาและท้องฟ้าที่สวยงามแบบสุดๆ ได้ทุกมุม ส่วนที่นั่งมีทั้งด้านนอก และภานใน เคาน์เตอร์บาร์ด้านนอกเป็นที่นิยมมากเพราะได้นั่งแบบ แนบชิดติดวิวภูเขา

“เสาวรสโซดา” เปรี้ยว ซ่า เพิ่มความสดชื่นแบบเต็มๆ
Uncle Tom’s Pizzeria
ร้านพิซซ่าของลุงทอม มุมไม่ลับ แต่อยากให้ไปลอง
คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง) ผู้บริหารร้าน Uncle Tom’s Pizzeria

นอกจากร้านที่ได้บรรยากาศน่ารักอบอุ่นแล้ว เมนูของทางร้านเป็น พิซซ่าของลุงทอมเป็นพิซซ่าโฮมเมด สูตรต้นตำหรับบางกรอบจากอิตาลีโดยเฉพาะอบร้อนๆ ขนาดใหญ่ที่ผ่านการสูตรต้นตำรับใส่ใจทุกขั้นตอน ทานแล้วเป็นที่ติดอกติดใจของหลายคน จุดเด่นของพิซซ่าที่ร้านคือ เป็นอิตาเลี่ยนโฮมเมดพิซซ่า ที่ทำเองตั้งแต่แป้งยันซอส ในทุกถาดใส่เครื่องและชีสแบบจัดเต็ม ก่อนที่จะนำเข้าไปอบในเตาถ่านหลังร้านเพื่อให้ออกมาเป็นพิซซ่าที่มีความหอมของถ่านไม้ อยู่บนแป้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกว่าจะได้มาซึ่งพิซซ่าถาดเด็ดอย่างในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเจ้าของ คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง) โดยมาดามต้องไปเรียนการทำพิซซ่าสูตรต่างๆ มาจากเพื่อนสนิทของลุงทอม จุดเริ่มต้นของการเป็นคนที่รักและชื่นชอบในงานบริการ จึงตัดสินใจเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องพิซซ่าจนสามารถเปิดเป็นร้านของตัวเองกลับมาสร้างธุรกิจอาหารในฐานะผู้ผลิต ครีเอทเมนูอาหารให้กับแบรนด์ชื่อดังมากมาย จนกระทั่งมาเปิดเป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยใช้ทักษะและประสบการณ์ที่เคยทำงานร่วมกับแบรนด์ต่างๆ สร้างสรรค์แบรนด์ ในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ทุกเมนูล้วนเกิดจากความตั้งใจจริงและความรักในงานที่เกิดขึ้นและทำเพราะะชื่นชอบในงานบริการ

วันนี้ เราอยู่ที่เขาค้อ เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเพื่อนๆ ในช่วงอากาศเริ่มเย็นอย่างแน่นอน และหากไปถึงเขาค้อทั้งที ฟินให้ครบไม่ใช่แค่แวะไปเที่ยวที่ต่างๆ ตามกลิ่นพิซซ่าเตาถ่าน พิซซ่าแฮนด์เมด เตาถ่านสูตรต้นตำหรับบางกรอบจากอิตาลี สูตรลุงทอม แค่ชื่อร้านก็พอจะรู้แล้วว่าคือ พิซซ่า ซิกเนอเจอร์ และเป็นพิซซ่าเตาถ่าน มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือ นอกจากในเรื่องของแป้งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแล้วก็ยังมีในเรื่องของความสดใหม่ของวัตถุดิบที่จะต้องเตรียมกันใหม่ในทุกเช้าอย่างแป้งพิซซ่าแบบฉบับของลุงทอม

คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง)

ความอร่อยยอดนิยมที่มียอดสั่งสูงสุด อย่าง พิซซ่าฮาวายเอี้ยน (Pizza Hawaiian) ราคา 380 บาท ซอสสไตล์โฮมเมดเข้มข้น หอมกลิ่นชีส แป้งนุ่มบางกรอบ หอมกรุ่นอร่อย ทานแบบร้อนชีสจะละลายเยิ้มยื้อ โดดเด่นด้านการคัดสรรคุณภาพของวัตถุดิบที่ใส่ไปในทุกจาน รับรองว่าใครที่ชื่นชอบพิซซ่าต้องบอกว่า..อร่อยอย่างแน่นอน หอมกรุ่น ชีสเต็มคำ ส่วนเมนูอื่นยอดนิยมของที่นี่ผัดไทยโบราณเมืองเพชร,หมี่กรอบโบราณกุ้ง ,สปาเก็ตตี้หอยลาย,ผัดไทยกุ้งสด

การทำพิซซ่า ในร้าน Uncle Tom’s Pizzeria
การทำพิซซ่า ในร้าน Uncle Tom’s Pizzeria
บรรยากาศในร้าน Uncle Tom’s Pizzeria
เมนูพิซซ่าของลุงทอม
อัญชัญมะนาวสด
น้ำผึ้งมะนาวแท้

Uncle Tom’s Pizzeria
แน่นอนนอกจากมีพิซซ่าเตาถ่านแบบจัดเต็ม เมนูเครื่องดื่มที่แนะนำอยากให้ลอง “เสาวรสโซดา” เปรี้ยว ซ่า เพิ่มความสดชื่นแบบเต็มๆ เมนูน้ำสมุนไพร “อัญชัญมะนาวสด” และ “น้ำผึ้งมะนาวแท้” ทานไปแล้วไม่เพียงแค่รสชาติอร่อยลงตัว
แต่เหมือนเพิ่มสนุกและความมีมิติในการทานยิ่งขึ้น ลองแล้วคุณจะติดใจ! พร้อมเสิร์ฟเอาใจสาวกพิซซ่าโดยเฉพาะ แถมมีบริการเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงหน้าบ้านด้วยนะ ใครที่มาเที่ยวเพชรบูรณ์แนะนำร้านนี้

Uncle Tom’s Pizzeria เขาค้อ
พิซซ่าฟรุตตี้ ดิ มาเร่ (พิซซ่า ซีฟู้ด)
ผัดไทยโบราณเมืองเพชร

พร้อมแล้วมาเริ่มทานอาหารจานแรกกันเลย
พิซซ่าฟรุตตี้ ดิ มาเร่ (พิซซ่า ซีฟู้ด)
หมี่กรอบโบราณกุ้ง
ผัดไทยกุ้งสด
ปลาดอลลี่ทาท่าซอส
ปีกไก่ซอสเกาหลี
สปาเก็ตตี้หอยลาย

ผัดไทยโบราณเมืองเพชร
ปีกไก่ซอสเกาหลี
หมี่กรอบโบราณกุ้ง

ถ้าได้มาลิ้มลองอาหารร้านนี้นอกจากรสชาติความอร่อยอย่างลงตัวแล้ว ถ้าเรามาในช่วงที่มีอากาศหนาว บรรยากาศของร้านนี้จะฟินแบบสุดๆ ไปเลย
นี่คือทั้งหมดของมื้อนี้ที่ร้านอาหาร พิซซ่าของลุงทอม

ชวนมาเติมความสุขกับชีวิต ด้วยการทานของอร่อยแวะมา
ร้านพิซซ่าของลุงทอม (หลังองค์พระใหญ่)
วัดผาซ่อนแก้ว เขาค้อเปิดบริการ จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
248 ม.7 ตำบล แคมป์สน อำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์ 67280
เสาร์-อาทิตย์ 08.00-20.00 น. โทร. 099 335 5565

ใครที่ไม่สะดวกเดินทาง สามารถสั่งทุกเมนูจากทางร้านได้เช่นกัน
Uncle Tom’s Pizzeria
โทรศัพท์: 086 992 3999

เปิดประสบการณ์ความอร่อย ภายใต้แคมเปญ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen

แค่ได้ยินคำว่า โครงการไทยดิชคัฟเวอรี่ (Thai Dishcovery) อาหารไทยที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ก็การันตีได้ถึงความอร่อย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จับมือเชฟจากร้านอาหารชื่อดัง ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคน
รุ่นใหม่ ร่วมสร้างสรรค์เมนู 20 อาหารไทยโบราณ เพื่อฟู๊ดดี้นักกินรุ่นใหม่ ภายใต้แคมเปญ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen

วันนี้ Toptotravel ร่วมงาน โครงการ Thai Dishcovery (ไทยดิชคัฟเวอรี่)
จัดกิจกรรมเปิดตัวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 ต.ค.2564 ณ ร้าน Whispering Café จ.นครปฐม คาเฟ่ออร์แกนิก จัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
มีความตั้งใจที่จะนําเมนูอาหารไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ และเมนูไทยดั้งเดิมที่หารับประทานได้ยากใน ปัจจุบัน ทั้งสิ้น 20 รายการ อาทิ ข้าวยํา ข้าวหลาม เมี่ยงคํา กระยาสารท มังคุดคัด สร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ เพื่อให้เข้ากับกลุ่ม คนรุ่นใหม่ สืบเนื่องจากทางกรมฯ
ได้เล็งเห็นถึงกระแสวัฒนธรรมการบริโภคน้ันได้เปลี่ยนแปลงไป การสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมให้ คงอยู่อย่างยั่งยืนน้ัน จําเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าของมรดก ได้เห็นคุณค่า มีความรู้สึกหวงแหน อยากที่จะอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยสืบไปจับมือร้านอาหารชื่อดังของคนรุ่นใหม่ ร่วมกับเชฟจากร้านอาหารชื่อดังกว่า 28 ร้าน ร่วมถ่ายทอดเมนูอาหาร

นางสาวอัจฉราพร พงษ์ฉวี อดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม

นางสาวอัจฉราพร พงษ์ฉวี อดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า การสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมให้คงอยู่อย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้เป็นหน่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าของมรดก ได้เห็นคุณค่า มีความรู้สึกหวงแหน อยากที่จะอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ให้คงอยู่กับประเทศไทยสืบไป

อาหารไทยเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” หนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย อาหารไทยที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อและแทรนด์อาหารไทยอย่างยั่งยืน โดยมีร้านร่วมโครงการ ได้แก่ ร้าน Greyhound cafe ร้าน Audrey ร้าน On the Table , Tokyo Cafe ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด ร้าน Sood Kua by Supanniga / สุดคั่ว by สุพรรณิการ์ ร้านบ้านหญิง ร้านแก้วแกงใต้ KAEW KANG TAI ร้านไทยนิยม ร้านหลงโถวคาเฟ่ ร้านแสนสําราญที่แสนแสบ ร้าน Ari Café & Bistro ร้าน Club Anda ร้าน My dining chef ร้าน Whispering Cafe ร้าน Lamour cafe ร้าน Wild Coffee & Bistro ร้านทองหยิบทองหยอด ร้านน้องโจ๊ก ร้านคาราเมล ร้านเขาทองเทอเรสต์ ร้านแลเลกริล ร้านเสน่ห์ย่า ร้านอาหารญี่ปุ่นโทบิโกะ ร้านอาหารอัญชลี ร้านหนํา ร้านอาหารชายทะเล ร้านตะโกลา ร้านอรุณดิน่า และ เว็บไซต์ไทยดิชคัฟเวอรี่ด็อทคอม
เปิดตัวโครงการ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen” นําเสนอ
20 เมนูอาหารไทยตํารับโบราณได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยเชฟคนรุ่นใหม่
เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักอาหารไทยโบราณ โดยมี Robinhood foodpanda ร่วมส่งต่อความอร่อยของเมนูอาหารไทย Thai Dishcovery ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ลิ้มลอง

ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง : ร้าน Whispering Cafe
เชฟปริ๊นซ์-เสาวรส ศรีสุริยาพัฒน์กุล, เชฟติ๊ก-สุทธิพันธ์ บุษปนิกรกุล และ เชฟแป๊ะ-จาตุรงค์ ขุนทอง
เชฟติ๊ก-สุทธิพันธ์ บุษปนิกรกุล

อาหารไทย หนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ แขกใครมาเยือนติดในในรสชาติ จนได้รับการจัดอันดับว่า เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอร่อยติดอันดับโลก
มีเรื่องเล่า ตํารับสํารับอาหารมากมาย แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งล้วนแล้วแต่สั่งสมประสบการณ์ถ่ายทอดรสมือ และสูตรเด็ดเคล็ดลับ จากรุ่นสู่รุ่น บ้างก็เป็นเป็นอาหารที่แสดงถึงภูมิปัญญาวัฒนธรรมท้องถิ่น ท้ังการเลือกใช้วัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุงอาหารที่พิถีพิถัน บ้างก็นําวัฒนธรรมจากต่างชาติเข้ามาผสมผสาน ออกมาเป็นเมนูใหม่ที่มี รสอร่อยเป็นเอกลักษณ์ และในปี 2564 นี้ ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มีความประสงค์ที่จะยกระดับอาหาร ไทย ให้
มีความทันสมัย เหมาะแก่คนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ภายใต้โครงการ Thai Dishcovery : New Dish for New Gen ที่ได้รับ ความร่วมมือกับเชฟจากร้านอาหารชื่อดัง ที่กําลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ นํา 20 เมนูอาหารไทย ด้ังเดิม คือ เถ้าคั่วสงขลา จอแหร้ง หมูย่างเมืองตรัง น้ำพริกกากหมูหมูฮ้อง ไก่กอและ ช่อม่วง หมูโสร่ง ม้าฮ่อ แสร้งว่า แกงเผ็ด(ฉู่ฉี่) ข้าวยํา เมี่ยงคํา หมี่ฮกเกี้ยน โอวต้าว ข้าวหลาม ข้าวต้มมัด ขนมฝรั่งกุฎีจีน (ขนมไข่) ขนมหม้อแกง กาละแม กระยาสารท และมังคุดคัด มาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ พัฒนารูปลักษณ์ รูปแบบการนําเสนอ และรสชาติให้ตอบโจทย์ของกระแสทางวัฒนธรรม ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อยแบบไทยดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อตอบเป้าหมาย แคมเปญ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen

โครงการ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen เมนูอาหารไทยตํารับโบราณได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยเชฟคนรุ่นใหม่ และถ้าพูดถึงร้านอาหารไทยรสชาติดีในฉบับแบบต้นตำหรับ ร้านอาหารในโครงการเป็นอีกหนึ่งร้านที่หลายๆ คนรู้จักและใความคุ้นเคยอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่รสชาติที่ดีเยี่ยม แต่ต้องเปี่ยมด้วยคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์และความพิถีพิถันในการปรุง

Thai Dishcovery แสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการพัฒนาความอร่อยแบบต้นตำหรับร้านอาหารสู่เป้าหมายชีวิตที่สมดุล หลังจากแนะนำโครงการเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงเวลาที่ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสลิ้มลองสุดยอดเมนูในวันนี้ ….

-น้ำมะปี๊ดโซดา
(เชฟ แป๊ะ ร้าน Whispering Cafe)

-ข้าวยำดอกไม้ใบไม้ในสวน
(Whispering cafe)

-ข้าวยำทอด
(แก้วแกงใต้)

-แสร้งว่ายำไข่เต่ามังคุด และ
น้ำพริกกากหมูพริกไทยอ่อน
(แสนสำราญที่แสนแสบ)

-หมูทอดสุดคั่วราดซอสฉู่ฉี่ไข่เค้มแดง
(soodkua by supanniga)

-ข้าวผัดหมูฮ้องซอสคาราเมล
(ari cafe& bistro)

-ชากุหลาบ

-ข้าวหลามสามหน้า
(whispering cafe)

-ยูกิกาละแม
(Club Anda)

น้ำมะปี๊ดโซดา
ข้าวยำดอกไม้ใบไม้ในสวน
ข้าวยำทอด
แสร้งว่ายำไข่เต่ามังคุด และ น้ำพริกกากหมูพริกไทยอ่อน
หมูทอดสุดคั่วราดซอสฉู่ฉี่ไข่เค้มแดง
ข้าวผัดหมูฮ้องซอสคาราเมล
ข้าวหลามสามหน้า และชากุหลาบ
ข้าวหลามสามหน้า
ยูกิกาละแม
 “ยูกิ อิจิโกะ” ขนมโมจิญี่ปุ่นที่จะทำขายเฉพาะฤดูหนาว

โครงการ Thai Dishcovery : New Dish for New Gen ยังคงเดินหน้ารังสรรค์อาหารไทยจานใหม่ร่วมกับเชฟอีกหลายท่าน ในหลายร้าน ไปจนถึงสิ้นปี
ใครที่สนใจก็แวะไปชมไปชิมกันได้ทั้งที่ร้านและบริการเดลิเวอรี่ ถือเป็นอีกไอเดียที่ร้านอาหารเด็ด ที่สามารถนำไปครีเอทเป็นจานใหม่กันได้

สามารถติดตามตัวอย่างการปรุงอาหารไทยรูปแบบใหม่
ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.Thaidishcovery.com

#ThaiDishcovery
#NewThaiDishForNewGen
#กระทรวงวัฒนธรรม
#กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

ตามมาเช็คอิน คาเฟ่ เดอ โอเอซิส & โทบี้ พิซซ่าเชียงใหม่

Café de Oasis & Toby’s Pizza
toptotravel เชื่อว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หลายคนเล็งไว้หลังสถานการณ์ Covid-19 ดีขึ้น มาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับ toptotravel ไม่ว่าจะไปที่นี่กี่ครั้งก็ยังถ่ายรูปได้ไม่เบื่อชอบมุมสวยๆ ต้นไม้เขียว นั่งสบายๆในร้าน บรรยากาศในร้านตกแต่งสวยงามต้นไม้ ท้องฟ้าและแสงไฟ สะท้อนความรู้สึกสบาย อย่างงดงาม เติมความสดชื่น ด้วย กาแฟ อาหาร และ ขนมที่สาย Café Hopping พาเพื่อนมาเที่ยวได้ร้านอยู่ใกล้ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่

ร้านสวย ท่ามกลางธรรมชาติ ในสวนร่มรื่น นั่งสบาย หรือเลือกนั่งในห้องแอร์เหมาะไปทั้งครอบครัว นอกจากบรรยากาศดีดีและมุมถ่ายภาพสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีทั้ง ความผ่อนคลายรูปแบบใหม่ผ่านเมนูเครื่องดื่มร้อน/เย็น ชา กาแฟ น้ำผลไม้รสชาติดี จิบท่ามกลางบรรยากาศที่ฟินสุดๆ อาหารขึ้นชื่อใหม่ล่าสุดที่ทุกโต๊ะไม่พลาดโทบี้ พิซซ่า พิซซ่าโฮมเมดสูตรอิตาเลียนดั้งเดิม อบใหม่ จากเตาฟืน หอมกรุ่น หน้านี้มีซอสมะเขือเทศ, มอซซาเรลลา, พาร์มาแฮม, ร็อคเก็ต และ พามาซานชีส อร่อยกันถ้วนหน้า สั่งเชฟคัดเลือกวัตถุดิบมาอย่างดี อบสดใหม่ ถาดต่อถาดในเตาฟืนเพิ่มความหอม กรอบนุ่มใน

เดอ โอเอซิส & โทบี้ พิซซาเชียงใหม่

แนะนำ พิซซ่าแบบอิตาเลี่ยนต้นตำรับ อย่างเช่น
Formaggi (ชีส 4 ชนิด) 350.-
พิซซ่าหน้าไส้อั่ว 350.- (ฟิวชั่นที่ใส่ความเป็นไทยอย่างลงตัว)
พิซซ่าแบบวีแกน 290.-

เย็นนี้อย่าพลาดโปรโมชั่น Happy Hour ลด 50% สำหรับรายการอาหารที่เชฟคัดสรร มากว่า 15 รายการ

Café de Oasis & Toby’s Pizza ร้านกาแฟในสวนใกล้กับศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ ร่มรื่น บรรยากาศดี มีที่นั่งให้เลือกมากมายหลายโซน ไม่ว่าจะชอบนั่งดื่มกาแฟทานอาหารเช้า หรือใครกำลังมองหาที่นั่งทำงานสบายๆ ที่นี่มีพื้นที่ co working spaceไว้บริการ รวมทั้งมีทั้งเครื่องดื่มกาแฟ อาหาร และเค้ก ที่สำคัญไวไฟที่นี่แรงมากค่ะ เบื่อ WFH นัดกันมารวมตัวกันที่นี่ ใครอยู่บ้านอยากทานพิซซ่าอร่อยๆ ส่งฟรีระยะทางไม่เกิน 10 กิโลเมตรใครอยากรู้ว่าการไปเจออะไรแบบนี้มันรู้สึกดีขนาดไหนหมด Covid-19 แล้วจัดเลยนะ

พื้นที่ co working space
เติมความสดชื่น ขนมที่สาย Café Hopping ห้ามพลาด

Café de Oasis & Toby’s Pizza
เวลาเปิด-ปิด 08.00-20.00 น. ทุกวัน
สำรองโต๊ะ โทร. +6653920191 หรือ แชท Line ID: @cafedeoasis

แผนที่ https://goo.gl/maps/okPV5BR8sWr

ร้านคาเฟ่ เดอ โอเอซิส & โทบี้ พิซซ่า ร้านกาแฟในสวนใกล้กับศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่

#AfternoonTea #ChiangMaiCafe #CraftCoffee #ChiangMaiCoffee #ChiangmaiCake #ChiangMaiFood #chiangmaibreakfast #toptotravel



ร้านอาหารน่านั่ง บรรยากาศดีงาม รสชาติอาหารถูกใจ Eat Drink Love Bistro

ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารน่านั่ง บรรยากาศดีงาม รสชาติอาหารถูกใจ ที่นี่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ร้านเน้นความเรียบง่ายอาหารอร่อยรสชาติ กลมกล่อม และได้อรรถรสของความเป็นอาหารชนิดนั้นๆ ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ออกแบบทันสมัย เรียบหรู มีบรรยากาศสวนสวย โดดเด่นด้วยความโมเดิร์น คาเฟ่และร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ในบรรยากาศสวนสวยถือว่าเป็นโรงแรมหรูที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านลาดกระบัง /สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมนำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ Peacefully Living with Luxurious Lifestyle

อีท ดริ๊งก์ เลิฟ มีเมนูอาหารอร่อยๆ ทุกมื้อ คัดสรรวัตถุดิบอาหารที่ดีที่สุด สำหรับนักชิมที่ชื่นชอบอาหาร สไตล์ฟิวชั่น พร้อมเสริฟด้วยการนำเทคโนโลยีการทำอาหารแบบใหม่มาผสมผสานจนได้เมนูแปลกใหม่ เช่น ซูวี หรือโมเลกูลาร์ และต่อยอด นำวัตถุดิบจากหลายๆประเทศมานำเสนอ โดยรังสรรค์ให้เป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งรูปลักษณ์ สีสัน รสชาติ รวมถึง การเลือกใช้ภาชนะที่ทันสมัย ประดิดประดอยจัดวางอาหารอย่างประณีต และสวยงาม ภายใต้การบริหารงานโดย คุณชาตรี นุ้ยประสิทธิ์ ผู้บริหารกรุ๊ป โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ พร้อมตอบโจทย์นักชิมด้วยอาหารที่ต่อยอดจากแนวคิดมาเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่สไตล์ฟิวชั่น ที่เรียกว่า glocal sensation แนวเฉพาะของห้องอาหาร อีท ดริ๊งก์ เลิฟ เป็นการผสมผสานศาสตร์อาหารตะวันตกและเอเซียน รวมถึงเทคนิค วัตถุดิบ หรือวิธีการทำอาหารหลายๆ ชาติเข้าด้วยกัน จนกลายรสชาติของอาหารที่ลงตัว และเป็นซิกเนเจอร์เมนูใหม่เฉพาะที่ ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ และ ร้าน Cuppers ร้านกาแฟเก๋ๆ ที่อยากให้หลายคนได้รู้จัก

A Cup of Happiness
Cuppers Cafe ร้านสวยตกแต่งตามสมัยนิยม ที่เน้นการนำเสนอความเขียวขจีของต้นไม้โดยรอบ​ทั้งน่ารักและร่มรื่นบรรยากาศนั่งสบายๆ ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มและของหวานหลากสไตล์ ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่เน้นความเยอะ เมนูเครื่องดื่มมีหลากหลาย ซึ่งที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องครัวซองต์กับเค้ก อร่อย ฟินในทุกคำที่กัดไป ขอแนะนำความผ่อนคลายเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ เรียกว่าสวรรค์ของคนรักเมนูเครื่องดื่มร้อน/เย็น ผสมสารสกัดจากธรรมชาติลดความเครียดสะสม เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยชลอวัยการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้เกิดความเครียดสะสมซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ สามารถเลือกสั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบแบบยาวๆ กันได้เลย
Cannabis Hot Americano 130.-
Cannabis Fruit Punch 150.-
Cannabis Lychee Iced Tea 150.-
Cannabis Hot Chamomile Tea 110.-

Cannabis Lychee Iced Tea 150.-
Cannabis Fruit Punch 150.-

ครัวซองต์พรีเมี่ยม ด้วยคุณภาพเน้นๆ สูตรพิเศษของทางร้าน Cuppers Cafe
ครัวซองต์อบใหม่ทุกวัน ผลิตจากเนยคุณภาพเยี่ยมจากต่างประเทศ 100%
ไม่ผสมมาการีน สารกันบูด และไม่ใส่สี คือดีมากๆ สายครัวซองต์โฮมเมดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ครัวซองต์สีเหลือง กรอบนอกนุ่มในละลายในปากและหอมกลิ่นเนยยั่วยวนใจในทุกคำที่กัดชิ้นใหญ่อีกทั้งยังมีหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม ครัวซองต์ ทุกชิ้นขายดีมากหมดเร็วทุกวัน

ร้าน Cuppers ครัวซองต์ของทางร้าน อบใหม่ทุกวัน ผลิตจากเนยคุณภาพเยี่ยมจากต่างประเทศ 100% ไม่ผสมมาการีน สารกันบูด และไม่ใส่สี คือดีมากๆ สายครัวซองต์โฮมเมดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ภายในห้องอาหารอาหารแห่งนี้ มีบริการอาหาร 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย เมนูอาหารยุโรปแบบอินเตอร์, เมนูอาหารไทยประยุกต์ และเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม เมนูของอาหารที่นี่ก็มีให้เลือกอย่างมากมาย พื้นที่ภายในห้องอาหาร ยังได้มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ให้เลือกนั่งตามความชอบ เช่น โซนเปิดส่วนกลาง หรือ โซนที่มีผนังกระจกใสกั้น เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง โซนด้านในที่ให้ความเป็นส่วนตัวพิเศษ ซึ่งโดยรอบของห้องอาหารยังมีความโล่ง โปร่ง บรรยากาศสบายๆ สไตล์โมเดิร์น คุมโทนด้วยสี เขียวเทา และดำ เรียกว่า เป็นห้องอาหารที่มีความเท่อย่างมีสไตล์ แถมเพิ่มความหรูหรา ด้วยโคมทรงกลมรูปแบบโมเดิร์น สามารถรองรับได้ 25 โต๊ะหรือ 250 คน และสำหรับงานเลี้ยงแบบค็อกเทล สามารถรองรับได้ถึง 400 ท่าน พร้อมรองรับการจัดงานในรูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของเมนูอาหารรังสรรค์โดย เชฟสราวุฒิ เพชรเอีย (ต่อม) มากประสบการณ์ การปรุงที่พิถีพิถัน คัดสรรคคุณภาพของวัตถุดิบ นอกจากที่ต้องเป็นวัตถุดิบคุณภาพดีเลิศแล้ว ยังต้องรักษาความสดไว้ให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นเมนูใด ออกแบบเมนูอาหารใหม่ เช่น กุ้งแม่น้ำ สั่งตรงมาจากแม่น้ำตาปี จนกลายเป็นเมนูยอดนิยมขายดิบขายดีในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนจะคุ้นชินกับกุ้งแม่น้ำเผา หรือ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ แต่ อีท ดริ๊งก์ เลิฟ ได้นำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ที่อยากให้นักชิมได้ลิ้มลองคือ ข้าวผัดกุ้งแม่น้ำ ผสมผสานเทคนิคต่างๆเข้ากับข้าวผัดสูตรโบราณแบบไทยๆ ซึ่งต้องนำข้าวไปหมักกับไข่เสียก่อน เพื่อให้ข้าวหอมและมีความนุ่มเป็นพิเศษ ก่อนนำไปหุงและผ่านการผัดกับมันกุ้งแม่น้ำแท้ๆ ปรุงรสและผัดอย่างพิถีพิถัน วัตถุดิบของอาหารแต่ละจานนั้นผ่านการคัดสรรมาอย่างดีจากทั่วภูมิภาคในประเทศไทย ผ่านการปรุงรสชาติที่ละเอียดทุกขั้นตอน บอกเลยว่าถ้ากำลังมองหามื้อพิเศษกับคนที่รักก็ต้องที่นี่

นอกจากนี้ เชฟยังนำวัตถุดิบต่างชาติเข้ามาผสมผสาน เช่น ผักคอส หรือเรียกว่าเป็นอาหารฟิวชั่นหลอมรวมกับประสบการณ์ในการเดินทางของเชฟ ส่วนเมนูแนะนำสำหรับใช้เรียกน้ำย่อยแบบอินเตอร์ Caprese Salad อาหารต้นตำรับจากประเทศอิตาลี โดยมีการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารจากประเทศฝรั่งเศส เป็นสลัด ที่มีการผสมผสานของเทกเจอร์ ภายในจานประกอบด้วย มอสซาเรลล่าชีส แบบสดมีความนุ่มเป็นพิเศษ แถมมีคุณค่าทางอาหารสูง, มะเขือเทศ 2 ชนิด, ใบโหระพานอก และยังราดด้วยเบซิลออย จนได้รสชาติที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ส่วนเมนคอร์สจานเด็ด Nori Wrapped Black Cod เป็นเนื้อปลาค็อดสีขาวห่อสาหร่าย และนำไปซูวี เสิร์ฟพร้อมต้นหอมญี่ปุ่น หัวผักกาดกริลล์สุกกำลังดี โดยเฉพาะหัวผักกาด ผ่านการต้ม และเซียกับเนยให้ซึมเข้าเนื้อ นำเสนอออกมามีลักษณะคล้ายกับหอยเซลล์อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ!! เสิร์ฟพร้อมกับฟอนสึโฟม ตกแต่งด้วย ซอเล่อ ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบดั้งเดิมสุดพรีเมี่ยม เรียกได้ว่ากว่าจะจัดเสิร์ฟได้ต้องใช้เวลารังสรรค์ในการจัดแต่งจานกันไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งร้านที่นั่งสบายๆ ครัวซองต์พรีเมี่ยมด้วยคุณภาพเน้นๆ

สำหรับเมนูแนะนำขอเริ่มต้นกันที่เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง..
-ข้าวผัดมันกุ้ง ( Khao Phad Mun Goong ) สูตรพิเศษของที่นี่
-สลัดร็อคเก็ตกับเซลมอนรมควัน ( Pocket with Smoked Salmon )
-ปลาแบล็คคอดห่อสาหร่าย (Nori wrapped cod with poached leek, daikon and yuzu cream sauce) โดยการคัดสรรปลาแบล็คคอดที่เนื้อแน่นๆนำมาห่อกับสาหร่ายนำไม่นึ่งและเสริฟคู่กับยูสุครีมซอสต้นกระเทียมและหัวใช้เท้าตุ๋น
-ซุปหัวหอม ( French Burnt Onion )
-ลิปอายสเต็ก ( Grilled Australian Ribeye )

เมนูขนมหวาน
-ข้าวเหนียวมะม่วงมูส ( Mango mousse with sticky rice )
เสิร์ฟด้วยความน่ารักมุ้งมิ้งที่สอดคล้องกับสไตล์การจัดน้ำมะม่วงน้าดอกไม้สุกปั้นกับเฟรสครีมให้มีเนื้อเนียนและเสริฟคูกับข้าวเหนียวมูลและไอครีมกะทิ

แนะนำ โปรโมชั่นร้านล่าสุด…
สัมผัสความสดใหม่อร่อยโดนใจพบกับเมนูใหม่ของห้องอาหารได้แล้ววันนี้ และเมนูพิเศษสำหรับฤดูกาล เสิร์ฟในทุกๆ 4 เดือน ที่เรียกว่า Seasons Change เป็นสีสันอาหารแบบใหม่ ที่มีการเปลี่ยนสีอาหารตามไปฤดู เช่น สีเหลือง แสดงถึงฤดูร้อน เช่น แกงเหลือง, แมงโก้มูส, ไอศกรีมทุเรียน หรือ สีเขียว ตัวแทนฤดูฝน โดยจะเน้นอาหารโทนสีเขียวเป็นหลัก ที่มีความสดชื่น ส่วนฤดูหนาว จะเน้นโทนสีม่วง เช่น บีทรูท หรือมันม่วง ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่วัตถุดิบในการประกอบอาหารในฤดูนั้นๆ ให้ลิ้มลองแบบไม่รู้เบื่อ ร่วมสัมผัสประสบการณ์อาหารแนวใหม่ที่น่าประทับใจ

โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
599, 599/1 ถ.ลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร: +66 (2) 019 9111
อีเมล: reservations.suv@theparknine.com
เว็บไซต์ www.theparknine.com/suvarnabhumi/
เฟสบุ๊ค theparkninesuvarnbhumi
อีเมล์ : reservations.suv@theparknine.com
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/TheParkNineSuvarnabhumi

#restaurant #alldaydining #foodlover #healthyfood #fooddelivery #theparkninehotelParkNineSuvarnabhumi #eatdrinklove #takeaway #drivethru #foodboxes #Croissant #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

Diva Café & Bistro พร้อมเสิร์ฟเมนูเสริมสุขภาพสไตล์โฮมเมดคูซีน

ร้านอาหาร Diva Cafe’ & Bistro ตั้งอยู่ในย่านดัง RCA ที่มีบริการครบเครื่องทั้งเครื่องดื่มน่าลอง เมนูอาหารรสเลิศ และเอนเตอร์เทนในที่เดียวกัน แถมรีโนเวทร้านเพื่อสร้างสีสันใหม่ ให้ทุกท่านได้เข้ามาดื่มด่ำบรรยากาศ รวมไปถึงการเปิดให้บริการเดลิเวอรี่ ส่งมอบอาหารอร่อยที่ทำด้วยใจ แบ่งปันด้วยความรัก ในรูปแบบอาหารใหม่ โฮมเมดคูซีน ล่าสุด เสริมจุดเด่นให้ถูกใจคนไทยมากขึ้นด้วยอาหารประเภทยำ จากฝีมือ เชฟอรรถพล สุทธิประภา และบริหารงานโดย คุณดวงตวัน เตชวิวัฒน์วาณิชย์ (แจง) แต่จากสถานการณ์ของ COVID-19 ทำให้เราเห็นถึงปรากฏการณ์ ที่คนทั้งโลกหันมาสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น

Diva Cafe’ & Bistro ตั้งอยู่ในย่านดัง RCA ย้ายจาก The Corner Sport club ถนนบรมราชชนนี มาที่ RCA ปรับปรุงรายการอาหาร ปรับปรุงการแต่งร้านปรับปรุงรสชาติและคุณภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้รับการบริการที่ดีขึ้น ที่ร้านมีมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดในช่วงโควิด-19 มีการเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสในทุกชั่วโมง และทุกโต๊ะจะมีบริการเจลแอลกอฮอล์วางไว้ให้ รวมทั้งจุดวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน

เรื่องราวของ Diva Cafe’ & Bistro ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ร้านอาหารเพียงอย่างเดียว ซึ่งคุณแจง เจ้าของร้าน ซึ่งคลุกคลีอยู่ในธุรกิจผับบาร์ร้านอาหารมาก่อน สำหรับร้าน Diva Café & Bistro ใน RCA เปิดให้บริการมาเป็นปีที่ 5 แต่หากนับรวมสาขาที่ตลิ่งชัน (ซึ่งปิดไปแล้ว) ก็จะเป็น 7ที่นี่มีเมนูใหม่และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีเป้าหมายในการเป็น Community ของคนรักสุขภาพ ผ่านการแบ่งปันความรู้และความเข้าใจในการกินใหม่ๆ ให้กับคนไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่าคนไทยชอบกินแต่อาหารที่ตัวเองชอบ ในบางครั้งอาจจะไม่ได้คำนึงถึงเรื่องสุขภาพ Diva Cafe’ & Bistro อยากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการกิน ที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ 100% แต่อย่างน้อยคุณก็ได้กลับมาทานอาหรคุณภาพ วัตถุดิบใหม่สดสะอาด โดยเริ่มต้นจากการกินเมนูง่ายที่เราชอบ และอย่างน้อยคุณก็ได้กลับมาเติมสิ่ดีๆ ให้กับตัวเองทีละน้อย เพียงเริ่มต้นจากการได้กินของอร่อยเสริมสุขภาพ

คุณดวงตวัน (แจง) เตชวิวัฒน?วานิชย์

Diva มาจากความชอบส่วนตัวของคุณดวงตวัน (แจง) เพราะเรา….เข้าใจคนรักสุขภาพเป็นอย่างดีว่าการเลือกสิ่งดีๆ เข้าสู่ร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ แจงและน้ำฝน โดยเริ่มจากความพิถีพิถัน จึงกลายเป็นโจทย์อันท้าทายของสองสาวผู้ริเริ่มเมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ หากให้พูดถึงความพิเศษของเมนูอาหารของ Diva Cafe’ & Bistro คงต้องเริ่มจากรัก ใส่ใจและความพิถีพิถัน คัดเลือกวัตถุดิบต่างๆ รวมไปถึงเครื่องปรุง มีความง่ายในการกินเหมือนเดิม แต่ต้องไม่มีผงชูรส ทั้งยังมีโซเดียมน้อย ส่วนผสมของแต่ละเมนู ไม่ใช้สารปรุงรสเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ และเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ยังคงความอร่อยในรูปแบบ อาหารสไตล์โฮมเมดคูซีน ซึ่งดีต่อร่างกายมาก

เมนูแนะนำยอดนิยม ที่โดดเด่น เช่น สลัดดีว่า สลัดไส้กรอก สลัดซี่โครงหมูบาร์บีคิวชื่อดัง ขาหมูเยอรมัน ซี่โครงหมูบาร์บีคิว หรือ น้ำพริกหมูชะมวง ข้าวผัดกิมจิ เมนูอาหารทั้งหมดในร้าน มีเมนูอาหารกว่า 100 เมนู ให้เลือกลิ้มลองได้ไม่รู้จบ รวมถึงอาหารจานเดียวของทอดจานเด็ดต่างๆ มากมาย เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด อาทิ เช่น ข้าวผัดน้ำพริกมันกุ้ง ,ก๋วยเตี๋ยวหลอดโบราณ ,ยำไข่สามยาม , สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม เมนูขายดิบขายดีในช่วงที่ผ่านมา สปาเกตตีสไตล์อิตาเลียนแท้ , ขาหมูเยอรมัน ขาหมูเยอรมัน สูตรของดีว่า โด่งดังในย่าน RCA , ตอร์ติญ่า

นภัสศรณ์ กุลทวีพัฒน์ (น้ำฝน)
สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม
ตอร์ติญ่า
ยำไข่สามยาม
ข้าวผัดน้ำพริกมันกุ้ง
ขาหมูเยอรมัน สูตรของดีว่า โด่งดังในย่าน RCA

DIVA CAFÉ & BISTRO
เลขที่ 23/51 ซอยศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
เปิดบริการตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น.
วันศุกร์-วันเสาร์เปิด ถึง 21.30 น.
สนใจสอบถามรายละเอียดหรือสำรองที่นั่งโทร. 096-935-9565

หยุดเวลาไว้ที่ อยุธยา รีทรีต

วันเดียวเที่ยวอยุธยา รีทรีต อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร
การท่องเที่ยวครั้งนี้ เริ่มจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดอยุธยาเมืองมรดกโลกที่ใครหลายคนเคยไปเยือนมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ Toptotravel จะพาไปย้อนวันวาน
ที่บ้านทรงไทย ท่องเที่ยว สนุกแบบปลอดภัย ห่างไกลโควิด อย่างไรก็ตามปีนี้ กลางปี หรือเมื่อไหร่ก็ตาม เราก็ตั้งตารอการกลับมาเที่ยวได้อีกอีกครั้ง เพราะการท่องเที่ยวก็ยังเป็นสิ่งที่คนไทย และคนทั่วโลกรอคอย

อยุธยา รีทรีต
Ayutthaya Retreat เรือนไทยคาเฟ่

อยุธยา รีทรีต ไม่ไกลจากวัดไชยวัฒนาราม เป็นทั้งโรงแรมและร้านอาหาร ริมทุ่งนาที่อยู่ห่างจากเกาะอยุธยาไปไม่ไกล โดนจะมีถนนตัดผ่านอยู่อีก 2 เส้น แนะนำเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงเวลากักตัวอยู่บ้านให้ท่องเที่ยว สนุกปลอดภัย ห่างไกลโควิด

หนีร้อนมานั่งรับลม Ayutthaya Retreat อยุธยา รีทรีต
ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น ในจังหวัดอยุธยา และรีสอร์ท เรือนไม้สักสวยงาม ในบรรยากาศย้อนยุค กลางอยุธยา ภายในคราค่ำไปด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์ สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์

อยุธยารีทรีต คาเฟ่ตกแต่งสไตล์ไทย ๆ ลักษณะเป็นบ้านทรงไทย ล้อมรอบบึงบัว โซนที่นั่งมีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหาร-เครื่องดื่ม-พักผ่อน-ถ่ายรูป เมนูที่เราได้ลองทานกันวันนี้…

ลุงตุ้ย-ทัศนะ จรัสศรี (ซ้าย)

ลุงตุ้ย คุณทัศนะ จรัสศรี คือผู้ริเริ่มที่ทำให้อาคารเรือนไทยไม้สักหลังเดิมถูกแปลงโฉมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง Ayutthaya Retreat เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งชื่นชอบบรรยากาศแบบไทยโบราณ ในรูปแบบของโรงแรมบ้านทรงไทยโบราณ สุดชีคที่แฝงด้วยความเป็นไทย และร้านอาหารผู้ริเริ่มร้านเปิดคาเฟ่ และโรงแรมอยุธยา รีทรีต แห่งนี้ขึ้นมา เรือนไทยโบราณที่มีลักษณะ เรือนหมู่ โดยมีเรือนหลัก และเรือนย่อย อยู่ในบริเวณเดียวกัน และมีพื้นที่ส่วนกลางเปิดโล่งมี หอกลาง เหมือนที่เราคุ้นเคยกันในละครไทยไทย และที่นี่ ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครดังหลายเรื่อง อาทิ
ข้าบดินทร์ ขมิ้นกับปูน แรงชัง เขยใหญ่สะใภ้เล็ก หรืออื่นๆ อีกมากมาย ลุงตุ้ยได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้เพียงต้องการการสร้างบ้านเพื่อใช้ชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยเนื้อที่ที่ทำให้สามารถใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าได้ทั้งหมด

อยุธยา รีทรีต โรงแรมทรงไทย สวยสบาย จนใครได้ไปพักสักครั้งต้องติดใจจนไม่อยากกลับ พร้อมต้อนรับผู้รักความสงบงามของธรรมชาติ เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สูดอากาศสดชื่น ในรูปแบบเสมือนบ้านสวน ที่มีความอบอุ่น เงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน

เรือนไทยที่มีอายุกว่า 50 ปี
ด้านบนของเรือนไทย เป็นห้องพักมีทั้งแบบสุพีเรียและดีลักซ์
ด้านบนของเรือนไทย เป็นห้องพักมีทั้งแบบสุพีเรียและดีลักซ์
ห้องน้ำชั้นบน (เปิดจากห้องนอน)
ทุ่งธรรมชาติของพระนครศรีอยุธยา

ก้าวเข้ามายังภายในบริเวณของโรงแรม แล้วจนอยากแต่งตัวในชุดไทยสวย โรงแรมมีห้องพักที่ตกแต่งสวยงามที่พักออกแบบมาให้ใกล้ชิดธรรมชาติมีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ ห้องวิลลาไทยเดิม (TRADITIONAL THAI VILLA), ห้องดีลักซ์ (DELUXE) และห้องห้องซูพีเรีย บัลโคนี (SUPERIOR BALCONY) ทุกห้องพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เข้าไปภายในห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวีดาวเทียม สัญญาณ Internet Wifi ทุกห้อง ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ห้องกว้างขวาง สะอาด โทรทัศน์จอแบน, กระจก, และห้องน้ำที่แปลกตากว่าที่อื่น ๆ ผสมผสานความเป็นไทยกับตะวันตกได้อย่างลงตัวบรรยากาศโดบรอบโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยช่วยให้ผ่อนคลาย วที่พักปลูกสร้างแบบใกล้ชิดธรรมชาติใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุดใครดูภาพเสร็จแล้วอยากไปก็ไปจองกันได้

อยุธยา รีทรีต Ayutthaya Retreat
ที่อยู่ 5/4 หมู่ 4 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 
พิกัดบริเวณ เลียบคลองชลประทานอยุธยา-บางบาลติดวัดป้อมใหญ่ เลยวัดท่าการ้อง 1 กิโลเมตร
อยุธยา รีทรีต คาเฟ่เรือนไทย เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.30-18.00 น.
ร่วมกับการเว้นระยะห่างตามมาตรการ
พิกัด https://maps.app.goo.gl/SbwDaPhXsUCkgCUJ6

#อยุธยารีทรีต #AyutthayaRetreatCafRestaurant
#เรือนไทยคาเฟ่ #toptotravel

กุนเชียงหมูแบรนด์ กล่องทิพย์ พร้อมลงสนามตลาดกุนเชียง 6 พันล้าน

กุนเชียง นั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารแปรรูปยอดนิยมของคนไทย ยิ่งในยุคโควิด-19 กุนเชียงยิ่งขายดี เพราะสามารถเก็บไว้ในบ้านได้นาน ในช่วงที่คนไม่ค่อยออกไปไหน ที่สำคัญสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น กุนเชียงทอด, ยำกุนเชียง, ข้าวผัดกุนเชียง ,ขนมปังไส้กุนเชียง (สไตล์เวียดนาม) ก๋วยเตี๋ยวหลอด ฯลฯ


อีกทั้งบริโภคครั้งใดก็อร่อย กุนเชียงจึงเป็นสิ่งที่หลายบ้านมีติดตู้เย็นไว้ หิวเมื่อไรก็นำมาประกอบอาหารทานได้ทันที เรียกว่าทั้งอร่อย กลมกล่อม ทานง่าย ทานได้ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งเหมาะกับการดำรงชีวิตอย่างเร่งรีบของคนในยุคปัจจุบัน เพราะมีกระบวนการทำที่รวดเร็ว สุกง่าย ไม่ยุ่งยากในการประกอบอาหารอีกด้วย
นางฐนิวรรณ กุลมงคล เจ้าของแบรนด์อาหาร “กล่องทิพย์” และอีกบทบาทคือนายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า พร้อมจะนำกุนเชียงหมูภายใต้แบรนด์กล่องทิพย์ลงตลาด โดยเน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพเกรด A ด้วยความร่วมมือกับนายสมพล ถ้ำน้อย เจ้าของบริษัท โชคนิพลหมูป่า ผลิตกุนเชียงหมูที่มีเนื้อหมูในสัดส่วนถึง 95% หวานน้อย ไขมันต่ำ ไม่ผสมแป้ง

กุนเชียงกล่องทิพย์ เน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพสูง อร่อย ภายใต้ราคาไม่แพง และเราพร้อมแล้วที่จะลงสนามตลาดกุนเชียงที่มีมูลค่าต่อปีสูงถึง 6 พันล้านบาท แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก และหลายรายเป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ แต่เรามั่นใจในคุณภาพสินค้าและช่องทางต่างๆ ที่จะขยายต่อไปในอนาคต

ในอนาคตแบรนด์กล่องทิพย์และโรงงาน โชคนิพลหมูป่า พร้อมที่จะนำสินค้าตัวอื่นๆ ลงสนามไปสู่ผู้บริโภคและเจ้าของร้านอาหาร โดยจะเป็นความร่วมมือในการนำนวัตกรรมต่างๆ ที่มี มาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคและร้านอาหารให้มากที่สุด โดยสินค้าตัวต่อไปเช่นหมูชาชู ขาหมูเยอรมัน ขาหมูพะโล้ หมูหัน ลูกชิ้นหมู ฯลฯ

ในระยะแรกของการทำตลาดกุนเชียงกล่องทิพย์ จะเน้นการเจาะกลุ่มตลาดร้านอาหาร รวมถึงการเจาะตรงถึงผู้บริโภค ทั้งการขายปลีกและขายผ่านเอเย่นต์ ซึ่งหากสนใจเป็นเอเย่นต์ของกุนเชียงกล่องทิพย์หรือหากร้านอาหารที่สนใจสั่งกุนเชียงเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่สนใจสั่งแบบขายปลีก ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์ 091-119-8875

ก่อนหน้านี้ แบรนด์กล่องทิพย์สร้างสรรค์อาหารไทยและอาหารกล่อง เพื่อรองรับยุค Dilivery โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจัดทำอาหารกล่องสำหรับงานประชุมสัมมนา รวมถึงสำนักงานต่างๆ ที่ต้องการอาหารไทยชาววังในบรรจุภัณฑ์สวยงาม อร่อย ปรุงสุกใหม่ ในระดับราคาไม่แพง

นางฐนิวรรณในฐานะนายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้มุมมองสำหรับธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารว่า ตั้งแต่เกิดโควิด 19 ระลอกแรกยิ่งตอกย้ำว่า งานวิจัยที่มีบริษัทชั้นนำเคยทำไว้เป็นความจริงว่าในไม่ช้าร้านอาหารจะมีขนาดหน้าร้านเล็กลง ผู้คนจะซื้อของขายของกันทางออนไลน์หรือทางอากาศ ร้านอาหารที่เป็น Fine Dining จึงจะอยู่รอด เพราะค่าแรงจะสูงขึ้น แรงงานจะหายากขึ้น ในที่สุดโควิด19 ซึ่งขณะนี้มาถึงระลอก 3 แล้ว ก็สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจอาหารยุคนี้จำหน่ายกันบนอากาศหรือทางออนไลน์มากจริงๆ และร้านอาหารต้องปรับตัวขนานใหญ่ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจกันต่อไปได้

ก่อนหน้านี้สมาคมภัตตาคารไทยได้เคยเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้เห็นใจผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในเรื่องเวลาเปิดปิดในยุคโควิด 19 เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจฝ่าวิกฤตการณ์โควิดไปได้ ซึ่งล่าสุดก็ได้รับการตอบรับที่ให้ร้านอาหารสามารถนั่งได้ถึง 21.00 น.

สนใจสั่งแบบขายปลีก ก็สามารถติดต่อ 091-119-8875
#กุนเชียงกล่องทิพย์ #กุนเชียง

Rayong Marriott Resort & Spa Rayong

โรงแรมหรู ธรรมชาติงดงามในราคาเบาๆ Rayong Marriott Resort & Spa Rayong ห้องพักวิวสวย ติดทะเล ติดชายหาด บรรยากาศดีเลิศ Rayong Marriott Resort & Spa ให้มันเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจการออกเที่ยวหลังสถานการณ์ปกติ

ต้อนรับการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งของ Rayong Marriott Resort & Spa ให้มันเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจการออกเที่ยวหลังสถานการณ์ปกติ Lobby แบบเปิดโล่ง รับลมทะเลกันเต็มที่ มีโซฟาเก้าอี้ให้นอนเล่น ช่วงนี้ Social Distancing พนักงานก็จะเน้นเรื่องความปลอดภัย ใส่ Mask ทุกคน มีเครื่องวัดอุณหภูมิ มีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาดที่พักและผู้เข้าพัก

วาเลนไทน์ที่ผ่านมา toptotravel ได้ไปเยือนจังหวัดระยอง ครั้งนี้อยากจะพาทุกคนไปรู้จักรีสอร์ตแห่งนี้ และค่อนข้างมั่นใจว่าคุณจะตกหลุมรักที่นี่แบบ toptotravel ที่อยากให้ทุกท่านได้ชม

โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา รีสอร์ตในฝันที่วัดไม่ได้ด้วยระดับดาวสำหรับการพักผ่อนที่นี่ยังถือเป็น Rare experience ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้แวะเวียนมา ณ รีสอร์ตแห่งนี้ มากกว่า1ครั้ง โดยความน่าสนใจอยู่ตรงที่ มองไป…เป็นทะเลที่สวย และมีความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล หมู่เกาะ สัมผัสทะเลอันแสนสงบและสายลมสบายๆ พร้อมชมพระอาทิตย์

อะไรคือความพิเศษของ ที่แตกต่างจากรีสอร์ตอื่นในประเทศไทย?
Rayong Marriott Resort & Spa Rayong โรงแรมหรู 5 ดาว ติดหาดแหลม
แม่พิมพ์ ที่นี่นอกจากจะเป็นโรงแรมแล้ว ยังถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะในบริเวณโรงแรม ห้องพักกว้างขวาง เริ่มต้นที่ไซส์ 40 ตรม. มีอ่างจากุชชี่ให้นอนแช่น้ำทุกห้อง มีระเบียงส่วนตัว ห้องน้ำมีแยกโซนเปียกแห้ง กระจกเป็นทรงกลม Amenities และผลิตภัณฑ์ชื่อดังจาก Thann มีจากุชชี่ ส่วนห้องน้ำแยกห้องอาบน้ำและห้องชักโครก และพื้นที่อำนวยความสะดวกกว้างขวาง

ห้องสวีทโอเชียน มีเพียง1ห้อง ขนาด 130 ตร.ม.

ROOM TO ENTERTAIN
ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา พื้นที่กว้างมีสระว่ายน้ำ 2 สระ ห้องอาหาร 5 ห้อง สปา ฟิตเนส และคิดส์คลับ Rayong Marriott ห้องพักมีทั้งหมด 205 ห้อง ทุกห้องมีระเบียงชมวิว แบ่งเป็นห้อง 6 แบบ
1.ห้องดีลักซ์เมาน์เทนวิว มีระเบียงชมวิวภูเขา ขนาดห้อง 40 ตร.ม.
มีทั้งหมด 63 ห้อง
2.ห้องดีลักซ์โอเชียนวิว ห้องนี้เห็นวิวทะเล มี112 ห้อง ขนาด 40 ตรม.
3.ห้องพรีเมียร์โอเชี่ยนวิว มี12 ห้อง ขนาด67 ตรม.
4.ห้องสวีทสตูดิโอคอร์เนอร์ มี 8 ห้อง ขนาด 70 ตร.ม.
5.ห้องสวีทเตียงเดี่ยวโอเชียน มี 9 ห้อง ขนาด 80 ตร.ม.
6.ห้องสวีทโอเชียน มีเพียง1ห้อง ขนาด 130 ตร.ม. แยกเป็นห้องนอน และ
ห้องนั่งเล่น พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว

ห้องสวีทโอเชียน เป็นห้องท็อปที่สุด มีเพียง 1 ห้องเท่านั้น โดยแยกเป็นห้องนอน และห้องนั่งเล่น โซนนั่งทำงาน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้อง Ocean Pool Suite, Suite, 1 King, Ocean view, Private pool เรียกว่าใหญ่โตอลังการ มีห้องรับแขกแยก มีห้องนอนแยกออกมา พื้นที่กว้างถึง130 ตรม. อาจจะเอาไว้ใช้แต่งงาน ห้องเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือกิจกรรมสังสรรค์ ระเบียงห้องมองเห็นความงดงามและความเงียบสงบของท้องทะเล ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าดีมาก การตกแต่งภายในจะออกเรียบ ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็ใช้งานจริงได้ดีและสะดวกสบาย โดย พื้นที่บริเวณสระว่ายน้ำ อ่างอาบน้ำ ไปจนถึงห้องน้ำนั้น กว้างกว่าพื้นที่ในห้องนอนเสียอีก

มาที่ โรงแรมมีสระว่ายน้ำ 2 แบบพร้อม Beach Bar มีทั้งแบบ Infinity Pool เป็นสระแบบ Lagoon มีสไลเดอร์ สระว่ายน้ำจะเป็น Infinity Pool ไปกับวิวทะเล ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกสวยมาก หรืออยากว่ายแบบเป็นส่วนตัวที่ Island View Pool

ห้องอาหาร
Rayong Marriott Resort & Spa มีห้องอาหาร 5 ห้อง คือ C-Salt Cafe ‘ Java + Fish Bar The lounge และ Pool Bar

Salt Cafe ‘
ห้องอาหารขนาดกว้างขาง โอ่โถงโปร่งสบาย อยู่ใกล้กับล็อบบี้ ดีไซน์สวย ห้องสว่าง มองเห็นทะเล มีทั้งด้านในติดแอร์ และโซนด้านนอกชมวิว

ทั้งหมดมันคือความสุดยอดที่ผสมกันอย่างลงตัวของตัวรีสอร์ต แนวคิด และ สถานที่ตั้ง ทุกๆ ประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นถูกสร้างออกมาอย่างพิเศษ ให้กับผู้พักโดย วัฒนธรรมสถาปัตยกรรมอันสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ และเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทำเลบนหาดทรายระยอง พร้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม กับความมหัศจรรย์ของน้ำทะเลสีใส เม็ดทรายละเอียด ที่สะท้อนแสงอาทิตย์ซึ่งส่องเปลี่ยนน้ำทะเลเป็นสีฟ้าสดใส รายล้อมด้วยทราย ทั้งหมดนี้ทำให้การมาพักที่ โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา ให้ไปนอนแช่น้ำในอ่างส่วนตัว ชมวิวทะเลสวย ๆ บรรยากาศสบาย ๆ เหมือนสรวงสวรรค์ กลายเป็นประสบการณ์หายาก และควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้งในชีวิต

ตอนแรก toptotravel ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ กับคำว่า “สัมผัสบริการระดับโลก” ที่โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา กล่าวไว้ แต่สุดท้ายมันอธิบายด้วยตัวเองจากความครบในทุกแง่มุมของรีสอร์ต ตามมา toptotravel จะพาไป ห้องC-Salt Cafe ‘ อาหารหลัก แบบ All Day Dining เช้า สาย บ่าย เย็น มีทั้งโซน indoor และ outdoor ในห้องพัก ห้องนั่งเล่น ห้องเก็บไวน์ ฟิตเนสขนาดย่อม สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำใหญ่โต มีสไลเดอร์ Kid’s Club และชายหาดที่เป็นของตัวเอง ประทับใจกับทุกมื้อ ในทุกห้องอาหาร ดื่มอะไรเย็นๆ บนกระเช้าพร้อมกับชมวิวทะเลระยอง และเพลิดเพลินกับชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ต สปา ,โยคะ ,ว่ายน้ำ ,พายเรือ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เรียกว่าถ้ากลางวันไม่อยากลงไปเจอแดดที่ร้อนเปรี้ยงๆ จะมาว่ายน้ำเล่นรอแดดร่ม Island View Pool มีมุมถ่ายรูปเยอะมากจ้า ไม่ว่าจะชิงช้าที่ต้นไม้หรือแนวโขดหินต่างๆ หรือโทรจองนวดตัวสบายๆ ที่ Quan Spa มีห้องทรีทเมนท์ 8 ห้อง รวมถึงห้องสำหรับคู่รัก บริการต่างๆ ได้แก่ การนวดแบบดีพทิชชู การนวดด้วยหินร้อน การนวดสวีดิช และการนวดไทย สปาแห่งนี้มีซาวน่า อ่างสปา และห้องอบไอน้ำ
สปามีบริการบำบัดที่หลากหลายอาทิเช่น อโรมาเธอราพี และจบด้วยการแช่น้ำอุ่นๆ สูตรเฉพาะของ โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา ก่อนจะกลับมากรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา ฝ่ามรสุม COVID-19
เปิดขายแล้ว…ข้าวมันไก่ 5 ดาว สูตรพิเศษที่มีตำนานกว่า 50 ปี และข้าวหน้าหมูทงคัตสึ สูตรพิเศษจากโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa ขายทุกวันจนถึง 4 โมงเย็น ใครยังไม่ทราบว่ากลางวันนี้ทานอะไร? ลองข้าวมันไก่ศุตรพิเศษของโรงแรม บอกเลยจานเดียวไม่พอ
ขายทุกวันตั้งแต่เวลา 06.30 – 16.00 น.
วันนี่ – เป็นต้นไป
สั่งได้เลยที่ 038 998 000 สั่งครบ 500 บาท ส่งฟรี
(ในระยะ 10 กิโลเมตร จากโรงแรม)

สามารถจองเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้
Rayong Marriott Resort and Spa (ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา)
99/5 Moo 2 Pae-Klaeng-Kram Road ตำบล ชากพง อำเภอแกลง ระยอง 21190
โทรศัพท์ : 038-998-000
rayongreservation@marriott.com
www.rayongmarriottresort.com
www.facebook.com/MarriottRayong/posts/3937293463018481

#ระยองจองเลย #ระยองปลอดภัย #ระยองเมืองรองไม่เป็นสองรองใคร
#แมริออทรีสอร์ทอนด์สปา #toptotravel