ใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่เกียวโต

มาญี่ปุ่นทั้งที ต้องแวะเที่ยวเกียวโต เป็นเมืองแห่งชาเขียว
ทำให้เรา “หลงรักเกียวโต” 

27  ธันวาคม 2557   เริ่มเดินทางจากโรงแรมที่พัก Hotel Shin Osaka แต่เช้าเพื่อไปยัง สถานีชินโอซาก้า
เลือกพักที่นี่เพราะเราเดินทางกันเอง โดยรถไฟ ดังนั้น ที่นี่จึงสะดวกที่จะลากกระเป๋า สัมภาระเข้าพักโรงแรม
และไปพักต่อที่ เกียวโต สถานีนี้ใกล้ สะดวก เพราะโรงแรมเราอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานี ชินโอซาก้า เดินข้ามถนน
ไป 5 นาที เพื่อเดินทางไปจังหวัดเกียวโต ออกจากสถาน (Shin Osaka) ที่นี่คนเยอะ โดยเฉพาะช่วงเช้าตรู่
อาหารเช้าวันนี้ แวะซื้ออาหารเช้าง่ายๆ  
ซูชิกล่อง มีให้เลือกเยอะน่าตาน่าทานทั้งนั้นเลยที่ 7-11 ลืมบอกเรา
ซื้อตั๋ว JR line West จากกรุงเทพ เลยต้องเดินหาป้าย Kansai Area Pass Reservation ( มาเที่ยวด้วยตัว
เองให้ซื้อบัตรชนิดนี้ จากเอเยนต์ในประเทศไทยก่อนออกเดินทางทำการจองผ่านระบบออนไลน์)  เพื่อนำตั๋ว
JR  ที่ซื้อไว้ไปออกตั๋วนั่ง แบบ  Special Rapid Service มองไปโดยรอบ  สถานี้มีจุดต้องสังเกตเต็มไปหมด
แต่เมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่  เค้าอธิบายการใช้เส้นทางดีมาก ถ้าจะเดินทางไป โกเบ นารา  แนะนำ ให้ซื้อตั๋วจากประเทศไทยเป็นตั๋วของนักท่องเที่ยว  ราคาถูก สะดวก และราคาประหยัด  รวดเร็ว  เวลาใช้งานเมื่อรับตั๋ว  JR
บัตรมีชื่อของเราเรียบร้อย ซึ่งใช้เวลาออกตั๋วเวลาเพียง 5 นาที นำตั๋วไปที่ Gate ตามเส้นทางจุดหมายปลาย
ทางคือ สถานีเกียวโต เพื่อนั่งรถไฟสาย Kyoto Local Line ไปลงที่เกียวโต (Kyoto)  การเดินทางด้วยรถไฟ
ที่
ญี่ปุ่นนั้นถือเป็นยานพาหนะที่สะดวกมาก สำหรับการเดินทางข้ามเขตข้ามเมืองเพราะการเดินทางสะดวกมันทะลุ ทะลวงเป็นทั่วเกาะญี่ปุ่นเราจะคุ้นเคยกับคำว่า JR (Japan Railway) เพราะมันคือขบวนรถไฟสายหลักที่
รัฐถือ
หุ้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพอมาถึงเราก็ค้นหา เวลาของรถไฟขบวนที่จะไปที่เกียวโต มาเป็นอย่างดีก่อนล่วง
หน้า
มีเส้นทางเยอะแต่ไม่ยากเลยหาเส้นทาง และจดไว้ก่อนก็ดี จะได้ไม่ต้องมายืนบื้อมึนงง ทำอะไรไม่ถูกค่ะ
ที่สำคัญ คณะ
เราเองก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เลยต้องหาข้อมูลแบบไม่หลับไม่นอนก่อนการ
เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกียวโต

flymetojapan
ตั๋ว Jr-West Rail Pass

ครั้งนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น มาเป็นครั้งที่ 2 เราไม่เคยมาเรียนที่นี่ ฟัง พูด อ่าน เขียนไม่ได้เลยสักแอะ ประสบการณ์ ในอดีตช่วยอะไรไม่ได้เลย  ครั้งนี้ฝึกเดินทางด้วยตัวเอง ต้องหาเส้นทางการเดินทาง ดังนั้น พวกเราต้องทำการบ้าน ช่วยกันรวบรวมค้นคว้าหาข้อมูล ให้ตรงตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการไปท่องเที่ยวอย่างละเอียด  จากเว็ปการท่องเที่ยวญี่ปุ่น และในครั้งนี้ คือประสบการณ์ตรง ของนักท่องเที่ยวมือสมัครเล่นอย่างเรา มาหัดเที่ยวด้วยตัวเองเริ่มจาก Osaka-Kyoto จริงๆ แล้วก็ไม่อยากเลย ใครอยากลองไปตะลุยที่ประเทศญี่ปุ่น โดยไม่ต้องง้อไกด์บริษัททัวร์  เริ่มวางแผนการเดินทาง ส่วนเรื่องหลงทางเป็นเรื่องปกติต้องมีบ้าง แต่ที่สำคัญการเดินทางแบบนี้ทำให้พวกเรามีพบความสุขของการเดินทาง คือ หลงทางกับการได้สนทนา การถามเส้นทางชาวญี่ปุ่น ได้ทักทายพูดคุยกับคนที่เราอยากทัก ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่น่ารักมากๆ  ถ้าบางคนพูดอังกฤษไม่ได้ อธิบายแล้วยังไม่เข้าใจ  เค้าจะพาเราเดินไปส่งถึงทีจุดหมาย  สนุกดีค่ะการเที่ยวแบบนี้ประหยัดตังค์ในกระเป๋าไปเยอะเลย

Fly me tp photo 2
ติดต่อ Information จะได้ตั้ว แบบนี้
shinosaka
สถานี JR Shin Osaka
สถานีเกียวโต0
สถานนีรถไฟ Kyoto

เมื่อมาถึง สถานีเกียวโต (Kyoto) จังหวัดเกียวโต
ชื่อเสียงของการชมใบไม้เปลี่ยนสี ต้นเมเปิล (โมมิจิ) เกียวโต ต่างพร้อมใจกันเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สีแดง สีเหลือง สลับกันได้อย่างสวยงามมาก วันนี้ที่เกียวโต ช่วงเดือนธันวาคม กับความเหน็บหนาวเป็นช่วงฤดูที่งดงามมากที่สุดของจังหวัดเกียวโต ฤดูนี้อากาศเย็นทำให้ความหลากหลาย ของธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้สีสวยบางภาพที่เห็น ช่างสวยงดงาม แปลกตา มองดูสวยแปลกตา เข้ากับหลังคาแบบญี่ปุ่น ที่เกียวโต บรรยากาศ แบบนี้ช่วยขับกล่อมให้เมืองหลวงโบราณแห่งนี้ งดงามลึกลับและเต็มไปด้วยเสน่ห์งดงามน่าประทับใจ ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้
ที่นี่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “โคโย”  (Koyo)  ความหมายว่า เมื่อฤดูร้อนอันแสนสดใสสิ้นสุด ความหนาวกำลังจะเดินทางมาถึงจึงเป็นเวลาที่ชาวญี่ปุ่นใช้เวลากับอากาศที่เริ่มเย็นลงแบบนี้ จิบชาเขียว และพูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลกันและกันไปพร้อมกับ
กับการเปลี่ยนแปลงของสีสันใบไม้เปลี่ยนสี ที่เกียวโต

 

วันนี้ใสกับใครกันนะ
วัดน้ำใส คิโยมิสึ แปลว่า น้ำบริสุทธิ์

ชาวญี่ปุ่นเรียกใบเมเปิ้ลว่าใบโมมิจิ (momiji) ต้นไม้อันเป็นที่รักของชาวญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่น รอชมความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่รอคอยให้มาถึง สำหรับเราเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะตอนที่ไปถึงไม่ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีแดงสะพรั่ง แต่ได้เห็นความงดงาม ทางชมทางวัฒนธรรม ธรรมชาติที่พิเศษสุดจริงๆ ใบไม้เริ่มร่วงหมดแล้ว อากาศเริ่มหนาวเย็น บางวันมีฝนพร่ำๆ ท้องฟ้าครึ้มๆ จะว่าไปแล้วเกียวโตงดงามทุกฤดูไม่ว่าจะเป็นหน้าหนาว ยามใบไม้ผลิซากุระนี่แหละ คือ ความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง

Kyoto27

และที่เกียวโต จุดหมายเแรก ณ.วัดคิโยมิสึ  (Kiyomizu-dera Temple)  อีกชื่อหนึ่ง คือ วัดน้ำใส คนค่อน
ข้างเยอะมากๆ ทั้งนักท่องเที่ยวและหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น มาถึงแล้วก็ให้หาป้าย Tourist Information Center
ไว้ก่อน เพราะเราจะไปซื้อตั๋วชมเมืองเกียวโตและขอข้อมูลแผนที่กันเลย  (การเดินทางโดยรถเมล์ ซื้อตั๋วแบบ Kyoto Bus 1 Day ราคา 500 Yen ขึ้นรถได้ทุกสายในวันที่ซื้อ ขึ้นรถเมล์ก็เสียบบัตรเข้าที่เครื่องข้างคนขับ
ส่วนขาลงโชว์บัตรให้คนขับดู ถ้านั่งรถเมล์ให้เลือกนั่งรถที่เป็นเลข 3 หลัก เพราะว่าเป็นรถด่วน จะจอดเฉพาะสถานที่สำคัญๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป

วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera Temple) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ  วัดน้ำใส คิโยมิสึ  แปลว่า น้ำบริสุทธิ์ เป็นวัดที่
มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโตวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเกียวโต วัดน้ำใส คิโยมิสึ ได้รับการคัดเลือก
ให้
เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ของเกียวโตโบราณ อาคารหลักของ วัดน้ำใส คิโยมิสึ
เป็นที่รู้จักจากระเบียงขนาดใหญ่สูง 13 เมตร มีเสาไม้กว่าร้อยต้นรองรับสร้างยื่นออกจากด้านข้างของเนินเขา
จากระเบียงจุดนี้  เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ สวยงามของเมืองเกียวโต ไปได้แบบกว้างไกล ใต้ห้องโถงของ
วัดน้ำใส คิโยมิสึ มีน้ำตกโอโตวะ  (OtowaWaterfall) ที่มีน้ำไหลสามสายไหลลงมาที่สระน้ำ  น้ำในสระที่ว่า
ก็คือ น้ำใส ที่เชื่อกันว่า ดื่มไปแล้วจะทำให้สมหวังในสิ่งที่ปารถนาไว้ และยังได้รับการรับรอง ให้เป็นมรดกโลก
จาก UNESCO เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ที่งดงาม มีสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบโบราณในการดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวย
สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเกียวโต

Kyoto635lovekyoto 3

ที่สำคัญ  เราต้องเดินขึ้นไปซึ่งน่าจะเป็นกิโล เป็นความโชคดีบนความโชคร้ายนิดๆ  ตอนกลับฝนตกปรอยๆ เพิ่มความหนาวเย็น ณ.จุดนี้เหลือแค่ 1 องศา ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ของจังหวัดเกียวโตเป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ของใครหลายคนเราสังเกตได้จากรอยยิ้ม บริเวณทางขึ้นมีพ่อค้า นำสินค้ามาขายในบริเวณวัดมากมาย สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องราง เครื่องหอม ธูป เทียน หรือกระดาษเสี่ยงทายโชคชะตาทางเดินที่จะไป  วัดน้ำใส คิโยมิสึ โดยรอบมีแผ่นหินโบราณ ปูเรียงรายกัน ขึ้นไปเป็นแนวยาว  ร้านค้าในแถวนั้นยัง
คงรักษาบรรยากาศเมืองหลวงเก่าได้เป็นอย่างดี  ร้านค้ามีขายของที่ระลึกมากมายให้เลือชม  พอถึงบริเวณทาง
เข้าวัดจะเห็นซุ้มประตู สีแดงสด (ออกส้ม) ขนาดใหญ่มาก  ตั้งอยู่บริเวณทางเข้าก่อนเข้าวัดล้างมือ ล้างปากตามธรรมเนียมของญี่ปุ่น แล้วเดินเข้ามาอีกระยะ จะเป็นทางเข้าวัดจริง วัดน้ำใส คิโยมิสึ  อยู่ริมหุบเขา โดยรอบถ้าอยากถ่ายภาพที่มุมยอดฮิต ต้องไปที่มุมที่เห็นระเบียง และเสาค้ำเรียงเป็นแนวยาว ตามประวัติ บอกว่า  เสาที่นี่
ไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว   มีระเบียงแนวยาวรอบๆ เรายื่นชะโงกเหนือหุบเหววัดนี้  มีอายุเก่าแก่กว่า  นครเกียวโต
สร้างในปี ค.ศ. 788 ด้านหลังวิหารใหญ่  คือ ศาลเจ้าจิชู  (Jishu) ซี่งเป็นศาลที่รู้จักกันดีที่สุดแห่งหนึ่งใน ญี่ปุ่น
เคยที่ประทับของเทพเจ้าแห่งความรัก และความราบรื่นในชีวิตสมรส ศาลเจ้านี้มีหินตาบอด(เมกูระอิชิ)  ซึ่งห้าม
เดินข้าม การเดินผ่านก้อนหินที่ขนาบสองข้าง  ต้องหลับตา หนุ่มสาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า ถ้าเดินท่องชื่อคนรักในใจ
ไปได้ไกลที่สุดจะสมหวังในความรัก ถ้าเดินมาทางฝั่งตรงข้ามจึงจะถ่ายได้ข้างในวัด คิโยมิซึเดระ  (Kiyomizu-dera Temple) มีความน่ารักๆ อะไรให้เห็นอยู่อีกเยอะเลย แน่นอน  ชาวญี่ปุ่นเองก็ยังนิยมมาดื่มน้ำ 3 สายแห่ง
นี้เช่นกัน อยากให้เพื่อนๆ ทุกคนมาเห็นที่นี่ด้วยตาตัวเอง  ยังมีอีกความงดงาม อีกมากมายหลายอย่างความรู้สึก
ที่สัมผัสถ่ายทอดผ่านบล็อกนี้ไม่ได้จริงๆ ต้องไปด้วยตัวเอง

วัดน้ำใส2
วัดน้ำใส คิโยมิสึ จังหวัดเกียวโต
วัดน้ำใส เกียวโต2
น้ำไหลสามสาย ที่ไหลลงมาที่สระน้ำ
Kyoto4
บรรยากาศที่ทุกคน หลงรักเกียวโต

ทางลงจากวัด เรียกว่า ถนนสายกาน้ำชา เรียกแบบนี้เพราะว่า ในสมัยก่อนตลอดข้างทางจะมีร้านขายถ้วยชาม เครื่องปั้นดินเผา ปัจจุบันกลายเป็นร้านขายของที่ระลึกมากมาย  ที่เกียวโต ตามสถานที่ท่องเที่ยวรถติดมากมาเดินเล่นย่านเดิน เล่นช้อปปิ้งทางออกจากวัด สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้า ขายขนมมากมาย ที่ผลิตจากชาเขียว ของที่ระลึกถนนนี้เป็นทางเดินระหว่างศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka) ไปจนถึงวัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera) การแต่งชุดกิโมโนของคนในเกียวโต  ก่อนหน้านี้ที่อื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นที่เคยไปเที่ยวมา ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า หรือ โตเกียว  ก็ยังไม่เคยเห็น ใครแต่งชุดกิโมโน มาเดินกลางถนนแบบนี้ และไม่ใช่แค่กลุ่มนี้กลุ่มเดียว ยังมีให้เห็นเต็มไปหมดเลย  นี่คือเสน่ห์ของย่านนี้จริงๆ  รูปแบบอาคารบ้านเรือน ร้านค้าเก่าแก่ ที่ยังคงความเก่าแก่จะ
เป็นถนนทางเดินแคบๆ สองข้างทางจะมีอาคารไม้ทรงโบราณแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม  บรรยากาศภายในนี้ต้องบอก
เลยว่า  ที่นี่..ความสวย งามร่มรื่น มีวิวสวยๆ  เหมาะกับการถ่ายรูปมากมายหลายจุดจริงๆ  เราเดินชมวิวชอปปิ้ง
ของฝากมีทั้งร้านอาหาร ร้าน
ขายขนมพื้นเมืองเฉพาะยอดนิยมที่ทำจากชาเขียวสินค้าที่มีชื่อเสียง ทำให้ความ
รู้สึกถึงเมืองเก่าที่ยังคงมีความเป็นเอกลักษ์ของเกียวโต ในสมัยก่อนอยู่จริงๆ

Kyoto11kyoto12

เกียวโตเป็นอีกเมืองที่น่าหลงไหล คนญี่ปุ่นรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ของความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ ไว้ได้อย่างดี
ภาพที่เราพบเห็น ตามสถานที่ท่องเที่ยวของเกียวโต กับสาวชุดกิโมโน เดินชิวในเกียวโตเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นบรรยากาศที่คนญี่ปุ่นแต่งชุดกิโมโน เดินเต็มทั่วท้องถนน อาคารต่างๆ ร้านค้า ที่มีลักษณะที่เป็นดูแล้วช่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของญี่ปุ่น กลืนกันอย่างลงตัว ทำให้เราแอบคิดไปด้วยว่าวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งไม่เพียงแค่ท่องเที่ยวอย่างฉาบฉวย  แต่เสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่รู้สึกได้ ว่าการทางเดินมาที่แห่งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแม่แบบของการอนุรักษ์ทิวทัศน์ญี่ปุ่นเป็นสถานที่พิเศษ วัฒนธรรมที่ถูกกลั่นกรองและถ่ายทอดมาสู่ปัจจุบันเราสามารถไปเดินชมบรรยากาศแบบนี้ได้ที่กิออง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระ หรือ  เทศกาลฮานามิ (Hanami)

Kyoto97
วัทางลงจากวัดน้ำใส คิโยมิสึ

การเดินทางในเกียวโตนั้น  ถึงแม้ว่าวัดจะมีอีกมกามายหลายแห่งที่เราอยากเดินทางไป แต่ก็ไม่ได้ไป ด้วยเวลาทีจำกัด แต่ในบริเวณ วัดน้ำใส คิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) เป็นอีกวัดหนึ่ง ที่เราได้เห็นความงดงามทางวัฒนธรรม อยากจะแนะนำให้มา เพราะข้างในมุมต่างๆ มีความน่ารักให้เห็นอยู่อีกมากมายหลายแห่งที่แน่นอนที่สุด ถ้าอยากรู้คำตอบจริงๆ ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง  เกียวโตวันนี้เกินกว่าคำว่างดงาม มันยังมีอีกหลายๆ ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านบล็อกนี้ไม่ได้จริงๆ ต้องกลับไปเยือนเกียวโตอีกครั้งให้ได้  การเดินทางวันนี้คิดว่ายากสุดๆ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ยากอย่างที่คิด ย้ำว่าให้ไปขอแผนที่เพื่อความชัวร์คือให้เค้าแนะนำการเดินทางให้เราแบบคร่าวๆ ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการท่องเที่ยว นั่งรถบัสสาย 100, 206 กลับสถานี KYOTO เป็นอันจบทริปเที่ยวทั้งวัน หิวแล้วขอแวะทานมื้อค่ำที่ ร้านซุชิจานเวียน ตั้งอยู่ในสถนนีเกียวโต ไปถึงคิวยาว  แต่ยอมยืนรอค่ะ จ้องมากหลายรอบแล้ว อิ่มอร่อยฟาดเรียบหลายสิบจาน และแล้วก็ได้เวลาเดินกลับไปยังที่พัก  Station Ryokan Sparkling Dolphins Kyoto ตั้งอยู่ห่างจากสถานี JR Kyoto Train Station ประมาณ 800 เมตร

flymetoja[an33Today 3

Kyoto4เล่นเน็ตที่เกียวโตทำให้ค่ำคืนนี้มีความสุข
ไปไหนก็ขาดไม่ได้ใช้บริการเช่า Pocket Wifi จากเมืองไทยเลือกของบริษัท Easy & Save จำกัด ค่าเช่า+ประกัน+vat  วันละ 260 บาทโทร. 02-676 3377 ที่นี่ให้บริการเครื่องกับนักธุรกิจเป็นหลัก วางใจได้ หากนำไปใช้ในการท่องเที่ยวเช่า Pocket  Wifi  คุ้มค่าสำหรับใช้ที่ญี่ปุ่น เป็นบริการสำหรับผู้นิยมเที่ยวด้วยตนเองเพื่อใช้ติดต่อกันและกัน สอบถามรายละเอียดโทร. 02-6763377ขั้นตอนในการเช่าคล้ายๆ กันคือ กรอกใบสมัครบนเวบ ชำระเงิน รับเครื่อง
ที่ถนนสาทร คิดค่าบริการตั้งแต่เปิดใช้บริการที่จุดหมายปลายทาง และนำมาคืนภายใน 1-2 วัน หลังจากเดินทางกลับ ช่วงโปรโมชั่น ยิ่งนานยิ่งถูก ข้อดี  คือการสามารถปล่อยแชร์กันได้ถึง 10 เครื่อง แบตใช้ได้นานต่อเนื่องประมาณ 10-12 ชม.(ในกรณีเดินทางกันไปเป็นกลุ่มออพชั่นนี้ ถือว่าติดต่อกันง่ายเริ่ดมาก) ข้อเสีย คือมีอุปกรณ์ให้พกเพิ่มมาอีกเครื่องนึงแต่เบาไม่หนักเลยค่ะ

Kyotoshushi1
ซูชิจานเวียน  คนส่วนใหญ่  ก็จะนึกถึงภาพซูชิหน้าตาน่ากิน หมุนไปมายั่วน้ำลาย ชวนให้เรายื่นมือ ออกไปหยิบมาลิ้มลอง อร่อยกับเมนูซูชิ หรือข้าวปั้น  ที่เวียนมีให้เห็น หยิบชิมกันในมากมายจนติดอกติดใจ กลายเป็นเมนูฮอต ที่มีขายกันให้เกลื่อนในญี่ปุ่น

 

“ลิปสติกเกียวโต”
เป็นลิปสติกที่เลอค่า  ทำจากดอกคำฝอย เริ่มจากใช้แปรงใส่น้ำแล้วค่อย ๆ ละลายลิปสติกเกียวโตสีแมลงทับ ลิปสติกเกียวโตของเกอิชา เป็นที่นิยมใช้กันมาก มีแบบที่แพคเป็นของฝากราคาถูกลงมานิดๆ เหมาะสำหรับใช้เป็นของฝากและเป็นของระลึกได้ด้วยนะค่ะ

สามารถซื้อลิปสติกเกียวโต:
ร้านซากุระอิยะ (มุมชินเคียวเกียคุ ซันโจ นาคะเคียว-คุ เขตเกียวโต)

Kyoto50

โยจิยะ:  เครื่องสําอางค์ญี่ปุ่นกําเนิดในเมืองเกียวโต
โยจิยะจัดเป็น  แบรนด์เครื่องสําอางเกียวโตที่ครองอันดับ 1 สามารถหาซื้อเครื่องสําอางหลากชนิดตั้งแต่แป้งรองพื้นไปจนถึง สินค้าที่ขายดีที่สุดของแบรนด์นี้คือกระดาษซับมัน ราคาก็ไม่แพงเลยใครที่มองหาของฝากอยู่จัดเลย

เครื่องสําอางเกียวโต
โยจิยะเครื่องสําอางค์ญี่ปุ่นกําเนิดในเมืองเกียวโต

ขนมของฝากยอดนิยม:
1.Yatsuhashi  ขนมทรงสามเหลี่ยมคล้ายๆ เกี๊ยว
2.Kyonamagashi  เป็นขนมโบราณกินตามฤดูกาล
3.Chadango  ขนมดังโงะชาเขียวเนื้อเหนียวๆ หนึบๆ ทำจากแป้งข้าวเจ้า

Kyoto91 Kyoto82

Map1
แผนที่จุดท่องเที่ยว และส้นทางของรถเมล์

การเดินทางไปวัด วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera)
การเดินทาง :
นั่ง Kyoto Line Local จากสถานีโอซาก้า Osaka
ไปลงที่เกียวโต Kyoto ขึ้นรถเมล์ต่อไปยังวัด

สายรถเมลล์ที่ผ่านสาย 100, 202, 206, 207
สำหรับการเดินทางโดยรถเมล์ บัตรโดยสารนั้นเมื่อซื้อบัตรโดยสาร
จะได้แผนที่ ให้นั่งมาลงที่ป้าย มาลงที่ Gojo Saka แล้วเดินเข้าไปตามทางที่ปูด้วยหิน  จะเจอร้านค้ามากมายอยู่สองข้างทาง แ
ละ ที่หมายปลายทางจะเป็นทางเข้า วัดวัดคิโยะมิสึ  (Kiyomizudera)
ค่าเข้าชมห้องด้านใน 300 เยน

 

flymetojapan


ถ้าสาวคนไหนอยากแต่งตัวเป็น Maiko-san

ใครคิดว่าใส่กิโมโนอย่างเดียวไม่พอ มาแต่งเป็น
ไมโกะ คือ เกอิชาฝึกหัด
ร้านนี้อยู่ในเขตกิอง ราคาคิดเป็น Package เริ่มต้น 12,340 เยน
www.kyoto-maiko.com/English

ร้านให้บริการเช่าชุดกิโมโน ใกล้วัดคิโยมิสึ
ลองสวมชุด “เกอิชา” หรือ ชุด “นิจูทัน”
ซึ่งเป็นการแต่งกายของผู้หญิงชั้นสูงในสมัยเฮอัน
ร้าน Okamoto  (แพคเกจถูกสุดราคา 3,150 เยน)
ร้านปิดเวลา  1 ทุ่ม
ww.okamoti-kimomo.com