The Oasis Spa : ดิโอเอซิสสปา สุขุมวิท 31 

อยากชวนไปพักผ่อนสบายๆ หยุดพักจากชีวิตที่เร่งรีบและให้เวลาตัวเองได้เพลิดเพลินไปกับการนวดแผนไทยที่สปาที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 สัมผัสความงามจากสระบัว ที่ให้ความรู้สึกสงบ รายล้อมด้วยแมกไม้น้อยใหญ่เขียวขจีพร้อมบรรยากาศสวนสวยที่ร่มรื่นซ่อนอยู่ใจกลางเมือง


Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 การพักผ่อนที่ดีที่สุดกับห้องสปาทรีทเมนต์ จำนวน 12 ห้อง ที่พร้อมให้บริการ ทั้งชาวเวอร์กลางแจ้ง อ่างอาบน้ำสำหรับแช่ตัว และเตียงนวดพักผ่อนในบรรยากาศสวนสวยที่ร่มรื่นซ่อนอยู่ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ในบ้านสีขาวตกแต่งกลิ่นอายล้านนาท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่ และสระบัว แบบสวนในบ้านของโมเนต์รู้สึกเหมือนมาเที่ยวรีสอร์ทหรู ย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอชวนคุณดื่มด่ำกับบรรยากาศในโอเอซิสแห่งนี้ไปด้วยกัน

ทันทีที่เข้ามาภายในบริเวณ ดิโอเอซิสสปา พนักงานต้อนรับดูแลเป็นอย่างดี
นั่งพักผ่อนใหในบริเวณส่วนรับรอง พร้อมจิบเครื่องดื่มสมุนไพรที่เป็น welcome drink สำหรับลูกค้าทุกท่าน จากนั้นพนักงานจะให้ท่านกรอกข้อมูลด้านสุขภาพ
และเลือกทรีตเมนท์แพคเกจตามต้องการ

ไฮไลท์ King of Oasis ยืน 1 ในใจ
แพ็กเกจ King of Oasis เป็นการนวดไทยผสานการนวดแบบอโรม่า เทคนิคการนวดแก้อาการปวดเมื่อยเพื่อฟื้นฟูร่างกาย การนวดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกแบบหนึ่งของ โอเอซิส สปา มุ่งเน้นการปรับสมดุลร่างกาย กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ศีรษะ และส่วนที่สำคัญเพื่อบำบัดอาการเจ็บหรือตึงเครียดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนของนักบําบัดผู้เชี่ยวชาญ บอกเลยนวด 2 ชั่วโมง สบายตัวจนอยากนวดต่อ!! หลังจบทรีตเมนต์ ตัวเบาสบาย รู้สึกเลยว่าได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่ตึงเครียด จากนั้นเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งรอในห้อง พนักงานจะนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้อีกครั้ง

Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 ปัจจุบันเปิดถึงเที่ยงคืน
พิกัด : https://goo.gl/maps/LSGTNJFMhCmrdmzP6

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-24.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม : https://oasisspa.net
สาขาสุขุมวิท 31 ซอยสวัสดี แยก 4 สุขุมวิท 31 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

(มีที่จอดรถสำหรับคนที่นำรถส่วนตัว หรือสามารถใช้บริการรถรับส่งฟรี
จาก BTS สถานีพร้อมพงศ์ สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถสาธารณะ)

#ThaiMassage #OasisSpa #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

สายการบิน ITA Airways เปิดเส้นทางบินตรงใหม่จากกรุงเทพฯ สู่กรุงโรม

ITA Airways นิยามของคำว่า “Made in Italy” ที่แท้จริง จัดงานแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ เปิดตัวแบรนด์ เครือข่ายเส้นทางบิน และไฮไลท์สำหรับฤดูหนาวนี้

กรุงเทพฯ/โรม, 19 พฤศจิกายน 2567 – สายการบิน ITA Airways (อิตาแอร์เวย์) เปิดตัวเที่ยวบินตรงครั้งแรกสู่ประเทศไทย เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ และกรุงโรม (สนามบินโรม ฟิอูมิซิโน) นับเป็นครั้งแรกที่สายการบินสัญชาติอิตาลีนี้บินตรงมายังประเทศไทย โดยจะให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330นีโอ (Airbus A330neo) ให้บริการ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เที่ยวบินปฐมฤกษ์จากสนามบินโรม ฟีอูมีชีโน เที่ยวบินที่ AZ 758 ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (BKK) เวลา 8:25 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน ส่วนเที่ยวบินแรกของสายการบิน ITA Airways จากกรุงเทพฯ ไปยังโรม ฟีอูมีชีโน เที่ยวบินที่ AZ 759 ได้ออกเดินทางเวลา 12:15 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ ได้มีการจัดพิธีตัดริบบิ้นที่ประตูขาเข้าของท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยมีผู้เข้าร่วมงานหลายท่าน ได้แก่ คุณเอมิเลียนา ลิโมซานี (Emiliana Limosani) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ITA Airways และซีอีโอของ Volare คุณเปียร์ฟรานเชสโก คาริโน (Pierfrancesco Carino) รองประธานฝ่ายขายต่างประเทศของ ITA Airways คุณเบเนเดตโต้ เมนคาโรนี โพยอานี (Benedetto Mencaroni Poiani) ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาของ ITA Airways คุณศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี (H.E. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) คุณกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และคุณกรรณิการ์ เปรมประเสริฐ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ในการเปิดตัวสู่ตลาดไทย สายการบิน ITA Airways ได้จัดงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เพื่อแนะนำเส้นทางบิน และบริการต่าง ๆ ที่สายการบินจะนำเสนอในช่วงฤดูหนาวนี้ให้แก่สื่อมวลชนและพันธมิตรในวงการท่องเที่ยวไทยได้รู้จักเส้นทางบินใหม่ระหว่างกรุงโรมและกรุงเทพฯ ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการขยายเครือข่ายสู่ตลาดที่มีศักยภาพสูง กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางสำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจระดับโลก การเปิดเส้นทางบินตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ITA Airways มุ่งมั่นที่จะมอบตัวเลือกการเดินทางที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสาร และยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการขยายเครือข่ายเส้นทางบินในแผนการเติบโตของบริษัท

เป็นก้าวสำคัญของบริษัท ในการขยายเครือข่ายไปสู่ตลาดที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการท่องเที่ยวและธุรกิจ การเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ITA Airways ในการนำเสนอทางเลือกการเดินทางที่ดีที่สุด พร้อมทั้งตอกย้ำความสำคัญของการขยายเครือข่ายในกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท

คุณเอมิเลียนา ลิโมซานี (Emiliana Limosani) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ITA Airways และซีอีโอของ Volare กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้เปิดเส้นทางบินตรงใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ และกรุงโรม ซึ่งเป็นเส้นทางบินตรงเพียงหนึ่งเดียวระหว่างสองเมืองหลวงนี้ เส้นทางนี้ช่วยเสริมแผนธุรกิจของเราในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างทวีปของ ITA Airways ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของเรา เนื่องจากเป็นการเปิดตัวในตลาดไทยและขยายการให้บริการในเอเชียเพิ่มเติม นอกเหนือจากเส้นทางบินไปยังโตเกียว นิวเดลี และเมืองมาเล่ในมัลดีฟส์ กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางใหม่แห่งที่ 8 ของเราในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจจะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร โดยเรามองว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญทั้งสำหรับการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจ”

ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงโรมและกรุงเทพฯ ของสายการบิน ITA Airways จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างอิตาลีและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกจากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อการค้า ธุรกิจ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการติดต่อระหว่างผู้คน ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันมากขึ้น”เส้นทางบินตรงใหม่จากกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโรม (สนามบินฟิอูมิซิโน) จะให้บริการดังนี้

เส้นทางกรุงเทพฯ – โรม (ฟิอูมิซิโน) เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน โดยจะบินในวันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์ ออกเดินทางเวลา 12:15 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงกรุงโรมเวลา 19:00 น. (เวลาท้องถิ่น)
เส้นทางโรม (ฟิอูมิซิโน) – กรุงเทพฯ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน โดยจะบินในวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ ออกเดินทางเวลา 15:15 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงกรุงเทพฯ เวลา 07:40 น. (เวลาท้องถิ่น)
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเส้นทางบินใหม่นี้ สายการบินจะยังคงให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-กรุงโรม 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูร้อนปี 2568

เส้นทางนี้ใช้เครื่องบินแอร์บัสรุ่น เอ330นีโอ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทในด้านเทคโนโลยี ระบบดิจิทัล นวัตกรรม ประสิทธิภาพ และการออกแบบ โดยแสดงถึงความเป็นเลิศของคำว่า “Made in Italy” เครื่องบินรุ่นนี้มาพร้อมกับห้องโดยสารแบบ Airspace ที่เพิ่มความสะดวกสบายและความกว้างขวาง มีระบบแสงสว่างใหม่ที่ทันสมัย ระบบความบันเทิงบนเครื่อง และการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ครอบคลุม เครื่องบินแบ่งเป็น 3 ชั้นโดยสาร ได้แก่ ชั้นธุรกิจ (ที่นั่งปรับเอนได้ 30 ที่นั่ง) ชั้นพรีเมียม (24 ที่นั่ง) และชั้นประหยัด (237 ที่นั่ง รวมที่นั่งแบบ Comfort Economy 36 ที่นั่ง) นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับระบบความบันเทิงระหว่างเที่ยวบินแบบ 4K ผ่านจอสัมผัส (ขนาด 17.3 นิ้วในชั้นธุรกิจ 15.6 นิ้วในชั้นพรีเมียม และ 13.3 นิ้วในชั้นประหยัด) พร้อมระบบเสียงบลูทูท และแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตสำหรับการส่งข้อความ การท่องเว็บ และการสตรีมมิง

ฝูงบินของสายการบิน ITA Airways ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมด โดยมีเครื่องบินที่ให้บริการอยู่ 100 ลำ โดย 60 ลำเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ เอ321นีโอ 7 ลำ เอ320นีโอ 19 ลำ เอ220-300 9 ลำ เอ220-100 8 ลำ เอ330-900 11 ลำ และ เอ350-900 6 ลำ การมีฝูงบินที่ทันสมัยนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ITA Airways ในด้านความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ 90% ของเครื่องบินทั้งหมดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแผนยุทธศาสตร์ปี 2566-2570 เครื่องบินรุ่นใหม่เหล่านี้ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 25% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของสายการบินที่จะเป็นสายการบินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในยุโรป

ในช่วงฤดูหนาวปี 2567/2568 สายการบิน ITA Airways จะเปิดให้บริการเที่ยวบินไปยัง 55 จุดหมายปลายทาง เพื่อขยายเครือข่ายการบินอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 16 เส้นทางภายในประเทศ 24 เส้นทางระหว่างประเทศ และ 15 เส้นทางข้ามทวีป หลังจากเปิดเส้นทางบินไปดูไบเมื่อ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา และเริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงไปกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทย ITA Airways มีแผนขยายบริการเพิ่มเติม โดยจะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกรุงโรมและมาเล่ เมืองหลวงของมัลดีฟส์ สูงสุดถึง 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป เส้นทางนี้จะให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330-900 สายการบิน ITA Airways เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 โดยมีเครื่องบินในฝูงบินทั้งหมด 52 ลำ บริษัทมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวแทนนำเสนอความเป็นอิตาลีสู่สายตาชาวโลกหรือ “Made in Italy” ด้วยการให้บริการแบบเฉพาะตัวและสร้างประสบการณ์การบินสไตล์อิตาลีแท้ ๆ สิ่งนี้สำเร็จได้ผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำของอิตาลี เช่น Brunello Cucinelli ผู้ออกแบบชุดเครื่องแบบสำหรับลูกเรือและพนักงานภาคพื้น Walter De Silva ผู้ออกแบบภายในเครื่องบินรุ่นใหม่ของ ITA Airways และเชฟชื่อดังชาวอิตาลีที่สร้างสรรค์เมนูอาหารบนเครื่องบิน บัตรโดยสารของ ITA Airways สามารถซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์
ita-airways.com หรือผ่านศูนย์บริการลูกค้า ITA Airways
บริษัทตัวแทนท่องเที่ยว และเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารที่สนามบิน

สยามอะเมซิ่งพาร์ค X โค้ก ลดแรงปังเวอร์ เที่ยวทั้งวันเพียง 240.-

 ฉลอง “44 ปี สยามอะเมซิ่งพาร์ค”

สยามอะเมซิ่งพาร์ค  จับมือโค้ก  จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี “44 ปี สยามอะเมซิ่งพาร์ค” ได้เวลาชวนเพื่อนและครอบครัวไปเที่ยวสนุกสุดมันส์กับเครื่องเล่นตัวท็อปมาตรฐานสากล อาทิ บูมเมอแรง (Boomerang) / ล่องซุงมหาสนุก (Log Flume) / ไซ-แอม ทาวเวอร์ (Si-Am Tower เปิดโลกแห่งการผจญภัย Choo Choo Adventure ขบวนรถไฟแห่งความสุขที่จะพาทุกคนท่องไปในโลกแฟนตาซีทั้ง5ของมาสคอตไซ-แอม  อีกทั้งสวนน้ำขนาดยักษ์ ชุ่มฉ่ำกับทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก รับรองโดยกินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส  เที่ยวฟรี โซนใหม่สุดอลังการ “บางกอกเวิลด์” และสวนป่าเมืองบางกอก&คาเฟ่  พักผ่อนกับธรรมชาติให้อาหารสัตว์น่ารัก                                                                                       

เดือดจัดกับโปรฯ จองออนไลน์  ลดไฟลุกสูงสุดเป็นปรากฎการณ์เกือบ 80%  บัตรผู้ใหญ่รวมทุกอย่าง ผ่านประตู+สวนสนุก+สวนน้ำ ไม่จำกัดรอบทั้งวัน เพียง 240 บาท (ปกติ 1,000 บาท)  พิเศษยิ่งขึ้นเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป รับไปเลยโค้กแคนอีก 6 กระป๋อง เปิดจองแล้ววันนี้ เข้าใช้บริการภายในวันที่ 1 มกราคม 2568  คลิ้กเลยที่ ticket.siamamazingpark.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/siamamazingpark และ line @siamamazingpark                        

สายกินต้องมา สายอาร์ตห้ามพลาด!แกร็บฟู้ดชวนปิกนิก ชิมของอร่อย ชมงานอาร์ตสุดคิ้วท์ที่งาน

GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park

14 พฤศจิกายน 2567 – แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยม ชวนสายกินสายอาร์ตสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับบรรยากาศปิกนิกในสวนใจกลางกรุงฯ ที่งาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park โดยจับศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่ง NEWYEAR เจ้าของคาแรคเตอร์ดัชชุนสุดคิวท์อย่างน้อง “Wednesday” มาเจอกับ 5 ร้านดังสุดฮิปที่การันตีความอร่อยโดย #GrabThumbsUp ไม่ว่าจะเป็น SOURI, เผ็ด เผ็ด, ROOTS, โอ้กะจู๋ และ Shake Shack สร้างปรากฏการณ์เชื่อมความอร่อยเข้ากับงานอาร์ต งานเดียวที่ทุกคนจะได้เอนจอยกับเมนูอร่อยสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากทั้ง 5 ร้านที่เปิดตัวพร้อมกันในงานนี้เป็นที่แรก พร้อมอิ่มเอมไปกับ Art Installation และกิจกรรมสุดน่ารักที่จัดเต็มตลอด 4 วัน (14 – 17 พฤศจิกายน 2567) ณ ลาน Eden เซ็นทรัลเวิลด์

เพราะอาหารและงานศิลป์ถือเป็นสื่อกลางสากลที่เข้าถึงและเชื่อมโยงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งยังสามารถส่งต่อประสบการณ์และสร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับทุกคนได้ แกร็บฟู้ด ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยมที่ให้ความสำคัญกับการนำเสนอประสบการณ์ความอร่อยอย่างมีคุณภาพผ่านแฟลกชิพแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp จึงได้ต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปีด้วยการจัดงาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park เพื่อเชื่อมโลกแห่งความอร่อยเข้ากับโลกของงานศิลปะ โดยได้ร่วมมือกับศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่ง NEWYEAR นิวเยียร์-ปภากร ศรีกัลยกร เจ้าของคาแรคเตอร์ดัชชุนสุดคิวท์อย่างน้อง “Wednesday” และ 5 ร้านดังที่การันตีความอร่อยโดย #GrabThumbsUp มาถ่ายทอดความอร่อยผ่านงานดีไซน์สุดคิวท์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมเนรมิตลาน Eden กลางเซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็นสวนสวยที่เต็มไปด้วยคาแรคเตอร์สุดคิวท์ แถมยกความน่ารักไซส์ยักษ์น้อง GIANT WEDNESDAY มาให้ทุกคนชื่นชมด้วย

โดยศิลปิน NEWYEAR ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการร่วมงานกับแกร็บฟู้ดในครั้งนี้ว่า “ในฐานะศิลปิน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมกับแกร็บฟู้ด มาสร้างความสดใส เติมความสนุกและเพิ่มประสบการณ์ด้านอาหารให้พิเศษยิ่งขึ้น ซึ่งการออกแบบคาแรคเตอร์ร่วมกับแกร็บฟู้ดในงานนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ตอนเด็ก ๆ เรามักจะสนุกกับการจัดจานอาหารให้เป็นรูปหน้าคน เอาแตงกวามาทำเป็นตา สาหร่ายเป็นคิ้ว และมะเขือเทศเป็นปาก ราวกับทำให้อาหารมีชีวิต การออกแบบนี้ล้วนสะท้อนความรู้สึกและจินตนาการในวัยเด็กที่เราเคยมี โดยเล่าเรื่องผ่านคาแรคเตอร์ของ Wednesday หมาดัชชุน Introvert รักการกิน ที่แอบหาช่วงเวลาแห่งความสุขคนเดียวเงียบ ๆ ในสวนที่อบอุ่นและได้มาเจอกับเพื่อน ๆ อีกมากมายที่พร้อมจะมาร่วมมีความสุขและสร้างเวลาดี ๆ ร่วมกันในงาน”

นอกจากจะได้อิ่มเอมกับการเสพย์งานศิลป์ในบรรยากาศปิกนิกกลางสวนแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ การเปิดตัวเมนูพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก 5 ร้านเด็ดที่เป็นที่สุดในด้านต่าง ๆ รังสรรค์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พร้อมการันตีคุณภาพความอร่อยโดย #GrabThumbsUp อันได้แก่

  • SOURI ร้านมาการองสไตล์ Contemporary Patisserie ที่สุดของร้านของหวานยอดฮิตของ หนุ่มวิน เมธวิน ที่ได้ครีเอทเมนู Macaron Strawberry Rose มาการองรสสตรอเบอรี่หอมหวาน ละมุนด้วยกลิ่นกุหลาบ อร่อยเข้มข้นลงตัวคู่ครีมชีส
  • เผ็ดเผ็ด (PhedPhed) ร้านอาหารอีสานสุดฮิปขวัญใจคนเมือง ที่สุดของร้านรสแซ่บกับเอกลักษณ์ในการใช้วัตถุดิบที่ผลิตขึ้นเองทุกอย่างที่ได้เตรียมเมนูพิเศษอย่าง ยำบะหมี่หน้าโรงเรียน ยำบะหมี่แบบง่าย ๆ แต่ใส่ใจดีเทล เพราะขอแบบไม่ใส่ต้นหอมผักชี มีแต่บะหมี่ หมูสับ ไส้กรอกและกะหล่ำลวก พร้อมออนท็อปด้วยไข่ดาวสุกๆ อร่อยแบบถูกใจ และอีกเมนูแซ่บนัวทานง่ายอย่าง ตำผลไม้สุด Love ที่รวบรวมผลไม้สามอย่างที่ร้านเผ็ดเผ็ดมักเลือกเป็นวัตถุดิบหลักอย่างมังคุดคัด สตรอเบอรี และมะม่วงสุก มาปรุงผสมน้ำยำรสชาติเข้มข้น อร่อยแซ่บเข้ากันสุด ๆ
  • ROOTS ร้านกาแฟดังแห่งยุค ตัวจริงในเรื่องคุณภาพที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟไทยอย่างพิถีพิถันจากเกษตรกรโดยตรง ได้คราฟต์เมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษอย่าง Fizzy Apple Cold Brew เพิ่มความสดชื่นให้รสสัมผัสเปรี้ยวหวานละมุนจากซีรัปองุ่นมัสแคตและน้ำแอปเปิ้ลสด ผสานเข้ากับกาแฟโคลด์บรูวอย่างลงตัว พร้อมเติมความสดชื่นซาบซ่าด้วยโซดา โปรยความสนุกออนท็อปด้วยซอสพริกเกลือด้านบนให้รสชาติตัดกันได้อย่างลงตัว หรือใครที่ไม่ดื่มกาแฟ ก็สามารถเลือกเป็น non-coffee ได้เช่นกัน
  • โอ้กะจู๋ ร้านอาหารจากเชียงใหม่ที่ครองใจคนทั้งประเทศ ด้วยความเป็นที่สุดของการนำเสนอเมนูสุขภาพที่เสิร์ฟความอร่อยในทุกวัน โดยงานนี้โอ้กระจู๋ครีเอท 3 เมนูพิเศษให้ได้อร่อยฟิน ไม่ว่าจะเป็น ซี่โครงเลดี้สโมคบาร์บีคิวทรัฟเฟิลชีส แรปซี่โครงเนื้อร่อนจากกระดูกกับซอสทรัฟเฟิลชีสหอมละมุน เนื้อบาร์เวทดรายเอจด์สโมคบาร์บีคิวทรัฟเฟิลชีส แรปเนื้อชายท้องวัวดรายเอจด์รสเข้มข้นสุกกำลังดี มาพร้อมซอสสโมคบาร์บีคิวฉ่ำเข้าเนื้อหอมซอสทรัฟเฟิลชีส และสไปซี่ซาวเออร์นาโช่ปาร์ตี้ นาโช่กรอบสองสัญชาติที่ผสมผสานทั้งรสเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้านสไตล์ไทย
  • Shake Shack ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ที่สุดของเบอร์เกอร์คุณภาพระดับโลก โดดเด่นด้วยความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่มีความสนุกสนาน ส่งเมนูพิเศษอย่าง Blackberry Lemonade เครื่องดื่มรีเฟรชชิ่งที่ทำจากวัตถุดิบสูตรพรีเมี่ยม ด้วยผลแบล็กเบอร์รี่สดมาปั่นคู่กับน้ำมะนาวสูตรพิเศษของ Shake Shack ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวอย่างลงตัวเติมรสชาติความสดชื่นกลางสวนปิกนิกให้สดใสเข้ากันสุด ๆ

นอกจากจะได้เต็มอิ่มไปกับรสชาติความอร่อยใหม่ในงานนี้แล้ว แกร็บฟู้ด ยังจัดเต็มกับกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย อาทิ Photo Booth ธีมน่ารัก ๆ ให้ได้ถ่ายรูปพร้อมแต่งตัวเป็นอาหารจานโปรด และกิจกรรมร่วมสนุกรับ Merch ของที่ระลึก อย่าง กล่องข้าว กระเป๋าผ้า และ Griptok กับลวดลายสุดลิมิเต็ดที่ออกแบบโดย NEWYEAR ที่มีเฉพาะงานนี้เท่านั้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความอร่อยการันตีคุณภาพGrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริงได้ที่ https://www.facebook.com/GrabFoodTH
และ https://www.instagram.com/grabfoodth/

Toytopia ผนึก Robotime โหมกระแสฮอตกล่องสุ่ม-ของสะสม DIY

เปิดตัว Rolife Flagship Store ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตลาดของเล่นของสะสมพุ่งแรงต่อเนื่อง Toytopia ผนึกกำลัง Robotime ยักษ์ใหญ่ผู้สร้างสรรค์ของสะสม DIY ระดับโลก ปักธงเมืองไทย เปิดตัว Rolife Flagship Store @Central Westgate ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอกองทัพสินค้าสุดน่ารัก อัพเดท Rolife ได้ครบทุกคอลเล็กชัน พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ เผยเทรนด์อาร์ตทอย-กล่องสุ่ม-DIY มัดใจสาวกชาวไทย โชว์จุดแข็งด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับสากล จัดเต็มไอเดียสุดสร้างสรรค์ เหนือชั้นทุกรายละเอียด ตั้งเป้าขยายสาขาครบ 10 แห่งภายในปี 2568 

นายชาญวิทย์ วิทยสัมฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด (Toytopia) เปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาตลาดของเล่นของสะสมในประเทศไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มของ “อาร์ตทอย” และ “กล่องสุ่ม” อันเป็นที่นิยมของนักสะสมชาวไทย และยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  จากการพัฒนารูปแบบสินค้าที่หลากหลายทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นสินค้ากลุ่ม DIY ประเภท Asccessories และ Plush Doll ที่ให้ความสนุกผ่านการสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง ภายใต้กลไกการออกแบบที่เหนือชั้น ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มความนิยมมากขึ้นเช่นกันล่าสุด Toytopia ผนึกความร่วมมือกับ Robotime Group Company ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ของสะสม DIY จากประเทศจีน ได้เปิดตัว Rolife Flagship Store ณ ชั้น G เซ็นทรัล เวสต์เกต ซึ่งเป็นสาขาแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  นำเสนอภายใต้แนวคิด “สนุกไปกับสิ่งเล็ก ๆ ค้นหาไอเดียใหม่ ๆ ได้ไม่รู้จบ” ยกขบวนกองทัพสินค้าสุดน่ารักจากหลากหลาย Category ทั้งสินค้าจากแบรนด์ Rolife ครบทุกคอลเล็กชัน กล่องสุ่มสุดฮิตจาก IP สุดโด่งดังทั่วโลก โมเดล DIY สวยงาม เสริมสร้างจินตนาการ พร้อมสินค้า Lifestyle & Accessories  อีกทั้งยังมอบประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าที่เข้ามาในร้าน อาทิ มุมโชว์ตัวจริง และกลไกของสินค้า DIY สุดอลังการ รวมทั้งการเปิดตัวสินค้า Original Characters จากแบรนด์ KULECHAOWAN เป็นที่แรกของโลก Rolife ของสะสม DIY ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด

Rolife ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดย Robotime Group Company  ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสรรค์ของสะสม DIY ที่ทันสมัย และเต็มไปด้วยลูกเล่นสุดล้ำ โดย Rolife ได้ต่อยอดแนวคิดของ Robotime ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานที่มีความน่ารัก เป็นมิตร และความสนุก มอบความสุขให้กับทุกคนด้วยเสน่ห์ของ DIY ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เอาใจกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการประกอบโมเดลด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ด้วยคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล อาทิ ISO9001, GMC, FSC, BSCI, Disney Certification ฯลฯ โดยปี 2023 มียอดขายจากการส่งออกสินค้าไปทั่วโลกรวมมูลค่าประมาณ 9.5 พันล้านบาท “จุดเด่นของ Rolife คือ สินค้า DIY ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด มีกลไกที่หลากหลาย เช่น สามารถขยับได้ สามารถเปิดไฟได้ หรือมีเสียงดนตรี  อีกทั้งยังได้รับแรงบันดาลใจสิ่งปลูกสร้าง หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่อ้างอิงมาจากความเรียบง่าย แต่สร้างความสุขให้กับชีวิต ผ่านมุมมองที่สวยงามแบบอย่างคาดไม่ถึง สามารถเป็นทั้งของขวัญในโอกาสพิเศษ และของตกแต่งบ้านชิ้นโปรด เชื่อมั่นว่าการเปิดตัว Rolife Flagship Store จะเพิ่มประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าชาวไทย และขยายการเติบโตของแบรนด์ Rolife ได้เป็นอย่างดี   

สินค้าของ Rolife  สามารถแบ่งได้เป็น 6 หมวดหมู่ ประกอบด้วย (1) DIY Miniature House  บ้านจิ๋ว DIY ที่มีความยาก-ง่ายหลากหลายระดับ และสามารถสร้างสรรค์ไอเดียการตกแต่งได้ด้วยตัวเอง (2) Plastic Miniature house สร้างสรรค์ห้อง DIY ของตัวเอง ที่ตกแต่งได้แบบไม่รู้จบ เป็นโมเดลห้องจิ๋วที่สามารถประกอบต่อกันเป็นตึกสุดอลังการ (3)1000 Piece Jigsaw Puzzle สนุกไปกับจิ๊กซอว์ 1,000 ชิ้น ที่ผ่านการออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยวัสดุคุณภาพสูง สร้างภาพที่สวยงามสมบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการไขปริศนา และรักในของตกแต่งบ้าน (4) Book Nook Shelf Insert ตกแต่งชั้นวางหนังสือให้สวยงามมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ด้วยฉาก DIY ที่ถูกออกแบบมาเพื่อชั้นวางหนังสือโดยเฉพาะ (5) 3D Wooden Puzzle DIY สร้างสรรค์สิ่งของ และสถานที่ต่าง ๆ ด้วยวัสดุ “ไม้” การออกแบบที่ละเอียด ทำให้ได้โมเดลจำลอง 3D ที่สวยงาม และเต็มไปด้วยกลไกสุดพิเศษ และ (6) Surprise Figure Dolls กล่องสุ่มสุดน่ารัก นำเสนอความสนุกสนานออกมาผ่านธีมที่หลากหลาย แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์อันยิ่งใหญ่สำหรับสินค้าไฮไลต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือ “Super Creator DIY” ในกลุ่ม Plastic Miniature house ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบได้ออกไอเดียการตกแต่งห้องจิ๋วด้วยตัวเอง และสามารถนำห้องจิ๋วมาประกอบรวมกันเป็นฉากที่สวยงาม อลังการตั้งเป้าขยาย 10 สาขาภายในปี 68

นายชาญวิทย์ กล่าวว่า ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา Toytopia ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของ Robotime โดยมีสินค้าจำหน่ายในประเทศไทยทั้งแบบ Online และ Offline ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในปีนี้ Toytopia จึงได้ร่วมมือกับ Robotime อย่างเป็นทางการเพื่อเปิดร้าน Rolife Flagship Store ขึ้นเป็นครั้งแรก ตอบรับความต้องการของลูกค้าชาวไทย ที่มีความนิยมในตลาดของเล่นของสะสมสาย DIY และกล่องสุ่ม  โดยลูกค้ากลุ่มนี้ยังคงมองหาสินค้าดีมีคุณภาพที่ผ่านการสร้างสรรค์มาอย่างดี มีการนำเสนอสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง อันเป็นจุดแข็งของแบรนด์ Rolife 

ปัจจุบันแบรนด์ Rolife มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั่วโลก ทั้ง  Offline รวมกว่า 10,000 ร้าน และ  Online รวมกว่า 900 ช่องทาง  ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายภายในปี 2568 จะมีร้าน Rolife รวม 10 สาขาในประเทศไทย “ในช่วงโควิดที่ผ่านมาตลาดของสะสมในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างทวีคูณ โดยเฉพาะในกลุ่มของสินค้า กล่องสุ่ม และสินค้า DIY ซึ่งประเทศไทยมีอัตราการเติบโตขึ้นเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวของคนทั่วโลก ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการผลักดันตลาดของเล่นของสะสมในประเทศไทย” 

ดึงเสน่ห์แห่ง DIY เร่งการเติบโตวงการนักสะสม ปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตของตลาดของเล่นของสะสมในประเทศไทย มาจาก“ความแปลกใหม่” ที่หลากหลายแบรนด์พยายามแข่งขันกันอย่างดุเดือด ทั้งด้านดีไซน์, คาแรคเตอร์ และลูกเล่นของสินค้า  ทำให้เหล่านักสะสมได้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ  Rolifeมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันวงการนักสะสมในประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น ด้วยสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น จากทั้งของสะสมรูปแบบกล่องสุ่มและของสะสมที่มีความเป็นศิลปะ พร้อมกับดึงเสน่ห์ของ DIY มาสู่นักสะสมชาวไทย นอกจากนี้ Rolife Flagship Store ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นจุดนัดพบของนักสะสมชาวไทยผู้มีความชื่นชอบที่หลากหลายได้มารวมตัวกัน ภายในร้านประกอบไปด้วยความหลากหลายที่มากเกินจินตนาการ  ผ่านเหล่า IP ที่โด่งดังมากมาย และสินค้าที่ครอบคลุมทุกความชื่นชอบของทุกคน”   

 โปรโมชั่นช่วงเปิดร้านสุดพิเศษมากมาย  ซื้อสินค้าครบกำหนด เลือกรับฟรีทันที ของที่ระลึกมากมาย  หรือส่วนลดสูงสุดกว่า 400 บาท พร้อมส่วนลดสินค้าสุดฮิต อย่าง  “Super Creator DIY” ซื้อ 2 ชิ้น ลดทันที 15% หรือ เมื่อซื้อ Super Creator DIY 1 ชิ้น รับส่วนลดสำหรับซื้อสินค้า กล่องสุ่มทันที 20% 

“สนุกไปกับสิ่งเล็กๆ ค้นหาไอเดียใหม่ๆ ได้ไม่รู้จบ”  พบกับ Rolife Flagship Store เซ็นทรัล เวสต์เกต  ชั้น G และอีก 1สาขา ที่ Rolife Store สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น 2  ร่วมติดตามอัพเดทไอเดียสุดสร้างสรรค์ ได้ที่
Facebook: Rolife Thailand , IG: rolifethailand  ,Tiktok : rolifethailand

ลุฟท์ฮันซ่าฉลองครบรอบ 65 ปี แห่งการบินเชื่อมไทย-เยอรมนี

ในวันนี้ ลุฟท์ฮันซ่ามีความภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับอีกก้าวสำคัญของกลุ่มสายการบิน ในโอกาสครบรอบ 65 ปีของเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากฮัมบูร์กมายังกรุงเทพฯ ความสำเร็จอันยาวนานนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของสายการบินต่อตลาดไทยและภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยช่วยเชื่อมโยงวัฒนธรรม ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างเยอรมนีและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 เที่ยวบินแรกของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าสู่ประเทศไทยได้ออกเดินทางจากเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศ เที่ยวบิน LH640 ซึ่งในขณะนั้นรู้จักกันในชื่อ Super Constellation ได้ออกเดินทางสู่ตะวันออกไกลจากเมืองฮัมบูร์ก ผ่านดัสเซลดอร์ฟแฟรงก์เฟิร์ต โรม ไคโร การาจี และกัลกัตตา ก่อนถึงประเทศไทย โดยการเดินทางครั้งนั้นใช้เวลาเกือบสองวัน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สายการบินได้ขยายการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย ปัจจุบัน ลุฟท์ฮันซ่าให้บริการเที่ยวบินระหว่างยุโรปและประเทศไทยหลายเที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยให้บริการที่ยอดเยี่ยมและความสะดวกสบายแก่นักเดินทางผ่านฐานการบินที่มิวนิกและแฟรงก์เฟิร์ต นอกจากนี้ สายการบินของกลุ่มลุฟท์ฮันซ่ายังมีเที่ยวบินเชื่อมต่อระหว่างไทยไทยกับยุโรปผ่านฐานการบินอื่น ๆ ทั้งในซูริกและเวียนนาอีกด้วย โดยมีเที่ยวบินระหว่างประเทศไทยและยุโรปสูงสุดถึง 31 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

คุณเฟลิเป้ บอนิฟาตติ รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและกิจการร่วมค้าในภูมิภาคตะวันออก กล่าวว่า

“วาระครบรอบ 65 ปีในครั้งนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของเราในการบริการลูกค้าและเชื่อมโยงผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลก กรุงเทพฯ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับเรา และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการของเราอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการฉลองความสำเร็จอันยาวนานของลุฟท์ฮันซ่าในประเทศไทยกว่าหกทศวรรษ ปัจจุบันเราให้บริการเที่ยวบินสู่ประเทศไทยมากกว่ากลุ่มสายการบินในยุโรปอื่น ๆ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 ไปยังกรุงเทพฯ อีกครั้งเมื่อเดือนที่แล้ว”

ความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ลุฟท์ฮันซ่าใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาบริการของสายการบิน ตั้งแต่การปรับปรุงยกระดับเครื่องบินให้ทันสมัยไปจนถึงการริเริ่มโครงการต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลุฟท์ฮันซ่ามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือชั้น มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และน่าประทับใจให้กับผู้โดยสารชาวไทยไปพร้อมกัน

ลุฟท์ฮันซ่ามีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้น่าประทับใจสำหรับผู้โดยสารทุกคน เพื่อรักษาความเป็นเลิศในการบริการบนน่านฟ้าต่อไปอีก 65 ปี