Category Archives: Event

TikTok Shop เปิดตัวแคมเปญ “เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop”

ตอกย้ำภาพความเป็น Trendy Ecommerce Destination ที่นำทุกเทรนด์ เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ TikTok Shop เปิดตัวแคมเปญใหม่ “เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop” ตอกย้ำความเป็น Trendy E-Commerce Platform ในงาน “Trendshopper Event เทรนด์มา กดตะกร้า TikTok Shop” เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ณ สามย่านมิตรทาวน์

บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการแจกคูปองสุดพิเศษจากทาง TikTok Shop เป็นส่วนลดสูงสุด 500 บาท มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท ให้แก่นักช็อปทุกคน เพียงแค่สแกน QR Code ที่ตะกร้า TikTok Shop Installation ยักษ์ที่เป็นพระเอกของงาน

พร้อมทั้งเหล่า Content Creator ชื่อดังที่มาร่วมพูดคุย แชร์ประสบการณ์การช้อปของอินเทรนด์สุดคุ้มบน TikTok Shop นำโดย คุณมิลค์ เจ้าของช่องแมวสุดป่วนชื่อดังอย่าง Albo and Jerry, คุณอิ๊งค์ เจ้าของแบรนด์ ingu (อิงกุ) และ คุณเป๊ป เขมิกา เจ้าแม่ไลฟ์สดบนแพลตฟอร์ม Tiktok เสริมทัพด้วย Creator ชื่อดังอีกมากมายที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับผู้ร่วมงาน
ในงานยังมีมินิคอนเสิร์ตสุด Exclusive จากศิลปินรุ่นใหม่ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “DIDIxDADA” “Praesun (แพรซัน)” และ “PERSES” ที่เตรียมโชว์พิเศษมาเซอร์ไพรส์ชาว TikTok Shop โดยเฉพาะ

ติดตามโปรโมชันพิเศษ สินค้าอินเทรนด์ และดีลดี ๆ จาก TikTok Shop
ได้เพิ่มเติมที่:
https://www.facebook.com/tiktokshopthailandofficial

พะงัน เดินหน้าเตรียมจัดเทศกาล Awakenest Festival ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลอมรวมพลังจันทราสร้างแรงบันดาลใจ

ทริปเพิ่มพลังให้ชีวิต เพื่อไไปยัง เกาะแห่งพลังจันทรา เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา Toptotravel มีโอกาสเดินทาง ท่องเที่ยว พบปะชาวเกาะพะงัน ที่กำลังร่วมแรงร่วมใจกันจัดการแถลงข่าว ชื่องานภายใต้ชื่องาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา”

โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่อย่าง สมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน สเตย์ฟลายสตูดิโอ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย บริเวณลานตัวหนอน ท้องศาลา อำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน บางครั้งอาจใช้เวลานานกว่าจะได้ชื่อ งานที่มีความหมายที่ดี หรือโดนใจสมาชิกท่ามกลางพลังแห่งจันทรา ที่หลอมรวมผู้คนเข้าด้วยกันตอกย้ำ
อัตลักษณ์ของเกาะพะงันไปพร้อมกับ การเปิดมุมมองใหม่เพื่อประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นเพื่อสุขภาวะองค์รวมและความยั่งยืน กับธรรมชาติ ชีวิตและวิถีชีวิตและชุมชน

… โดยเช้าตรู่ของวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา คณะสื่อมวลชนรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ลงตรงยังเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ก่อนจะลงเรือต่อไปยังเกาะพะงัน โดยเรือขนาดใหญ่ ทันสมัยและปลอดภัยของ Lomprayah High Speed Ferries Co, Ltd. ภายใต้การบริหารงานของคุณวนิชชา สุขเชตุ Secretary to the President Marketing Manager ภายในเรือมีโซนหลายโซนให้นักท่องเที่ยวได้เลือกนั่งพักผ่อน ทั้งดาดฟ้ารับแดดรับลมกันเต็มๆ หรือจะอยู่ในห้องแอร์ หรือจะเป็นโซนวีไอพีที่มีเอาไว้สำหรับไพรเวทแอร์เรีย ก็มีให้เลือกและแล้วก็มาถึงเกาะพะงัน

กินห่อก่อกำเนิดฟูลมูน วัฒนธรรมการกินห่อ กินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์
วัฒนธรรมการกินห่อ กินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์ (ในสมัยก่อน)

การเดินทางอย่างมีจุดเริ่มต้น สถานที่แรกของวันคือ ร้าน NIRA’S HOME BAKERY มีโอกาสได้ชิม ข้าวผัดปลาทู นอกจากจะนำปลาทูมาผลัดคลุกเค้าเข้ากันกับข้าวนุ่มๆแล้ว นำปลาทูฉีกเนื้อครึ่งซีกวางบนข้าวสวย ยังมีเครื่องเคียงเอาไว้ให้ปรุงรสด้วย หอมกรุ่นชวนทาน เสริฟพร้อมกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่บอกว่า ให้ความสดชื่นเป็นอย่างมากที่นี่เราได้พบ กับ คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยว เกาะพะงัน และ คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย และ
คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยว เกาะพะงัน
ร้าน NIRA’S HOME BAKERY มีโอกาสได้ชิม ข้าวผัดปลาทู
คุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน

โดยคุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันหนึ่งในคณะจัดงาน บอกว่า “การที่เราอยู่ในโลกใบนี้กับทุกสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิต ที่เราคิดว่ามีความจำเป็น เราลืมบางอย่างในชีวิตไป วันนี้เป็น Journey ที่ให้คุณเดินทางเข้ามาค้นพบในตัวตนของเอง แล้วเริ่มต้นชีวิตที่สมบูรณ์กับความสุขข้างใน จะก่อให้เกิดความสุขข้างนอก และก่อให้เกิดการดำเนินชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

สิ่งหนึ่งที่จะเห็นในค่ำคืนนี้ คือ เป็นการผสมผสานระหว่างอาร์ตติสจากทั่วโลกที่อยู่บนเกาะพะงันมาร่วมคอมบายด์ กินห่อก่อกำเนิดฟูลมูน ซึ่งวัฒนธรรมการกินห่อ เป็นการกินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์ ซึ่งมีนานหลายสิบปีของชุมชนที่นี่”

… “เดี๋ยวเราไปเช็คอินเข้าโรงแรมกันก่อนนะคะ” เจ้าหน้าที่ททท.บอกกับเรา วันนี้เราได้รับโอกาสเข้าพักที่โรงแรม จันทรมาส โรงแรมที่สวยงามทั้งบรรยากาศและชายหาด ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยงามของเกาะพงัน  เพียบพร้อมด้วยการบริการเหนือระดับพิถีพิถัน อบอุ่นและมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยในทุกมิติ ประกอบด้วยห้องพักทั้งสิ้น 48 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักประเภทดีลักซ์ พูลวิลล่า และพูลวิลล่าสวีท ภายในรีสอร์ทครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก  ไฮไลท์ก็คือสระว่ายน้ำวิวทะเล ผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำการพักผ่อนภายในรีสอร์ตอย่างไม่รู้เบื่อ กับอาหารอร่อยล้ำที่ร้านอาหารและบาร์ของรีสอร์ตที่มีให้เลือกหลากหลาย

จันทรมาส รีสอร์ท แอนด์ สปา หรูหรา มีหลากหลาย Type ภายในห้องพัก มีอ่างอาบน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ กว้างขวาง สะอาด มีความส่วนตัว และเหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง กิจกรรม โรงแรมจะมีพื้นที่สำหรับ Co – Working Space” ติดทะเล ผู้พักสามารถเข้าไปใช้ทำกิจกรรมในการทำงาน อ่านหนังสือ ประชุมได้อย่างเต็มที่ และมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมบริการในระหว่างทำงานอีกด้วย ภายในรีสอร์ทมี สระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหารติดทะเล มี อาหารไทย ฝรั่ง และ ค็อกเทลพร้อมให้บริการ สำหรับผู้พักทุกท่าน
จันทรมาส รีสอร์ท แอนด์ สปา หรูหรา มีหลากหลาย Type ภายในห้องพัก มีอ่างอาบน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ กว้างขวาง สะอาด มีความส่วนตัว และเหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง กิจกรรม โรงแรมจะมีพื้นที่สำหรับ Co – Working Space” ติดทะเล ผู้พักสามารถเข้าไปใช้ทำกิจกรรมในการทำงาน อ่านหนังสือ ประชุมได้อย่างเต็มที่ และมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมบริการในระหว่างทำงานอีกด้วย ภายในรีสอร์ทมี สระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหารติดทะเล มี อาหารไทย ฝรั่ง และ ค็อกเทลพร้อมให้บริการ สำหรับผู้พักทุกท่าน

Private Pool Villa Sea View

  • Supreme Deluxe with Jacuzzi
  • Supreme Deluxe
  • Deluxe Room with Bathtub

บริหารงานโดยคุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นช็อปที่นำสินค้าน่ารักๆ มาไว้บริการ มีมุมสปา มุมฟิตเนส สระว่ายน้ำ มุมสันทนาการของห้องอาหารริมหาดขาวนวล บอกเลยว่า มันว้าว! มากจริงๆ

คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ

Happy – Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา
บริเวณถนนเลียบชายหาด ท้องศาลา วันนี้มีการจัดตลาดนัดด้วยจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนชาวพะงัน ร้านรวงส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นถิ่น ผลไม้หลากชนิดและเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึกใกล้กัน บริเวณ ลานตัวหนอน ถูกเนรมิตให้ เป็นลานจัดการแถลงข่าว Happy Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา พื้นที่แบ่งเป็นโซน มีการออกบูธจัดแสดงงานวิถีพื้นถิ่น มีการแสดงดนตรีโดยศาสตร์ ปรับสมดุลด้วยความถี่เสียงและแสง (Sound Healing Journey) การฝึกลมหายใจ (Breathwork) รวมทั้งการเเสดงศิลปะ วัฒนธรรมไทย อาทิ รำโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง ด้านวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นเพื่อสุขภาพ และการสาธิตการสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติและงานแสดงผลงานศิลปะแขนงต่างๆ
การตระเตรียมลานสำหรับรับพลังแห่งจันทรา เป็น Circle และก่อนจะเริ่มงาน ได้มีการจัดกินห่อ ซึ่งเป็นวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเกาะพะงัน อาหารที่เราล้อมวงนั่งกินห่อ เป็นอาหารพื้นถิ่น ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดฟูลมูนปาร์ตี้

Happy Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา

กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2531 ปาร์ตี้ที่เริ่มขึ้นจากมิตรภาพ ความรัก ความผูกพันของชาวบ้านกับนักท่องเที่ยวที่มาพักอาศัยเลี้ยงส่งเพื่อนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในเกาะพะงัน โดยพาราไดซ์ บังกะโล หาดริ้น เป็นสถานที่แรกที่ฟูลมูนปาร์ตี้จัดขึ้น โดยคุณสุทธิ เกื้อสกุล ครั้งนั้นจัดงานเลี้ยงส่งแฟนสาวและเพื่อนที่มาพักที่บังกะโล มีการทำอาหาร ปิ้งปลา ก่อกองไฟเล็กๆ หน้าชายาด เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านทำกันเป็นประจำหรือที่เรียกกันว่า กิจกรรมกินห่อ ประกอบกับคืนนั้นเป็นคืนขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ทุกคนต่างดื่มด่ำกับบรรยากาศและเต็มไปด้วยความสนุกสนา ร้องเพลง เล่นดนตรี หลังกจากนั้นก็มีการจัดขึ้นอีกในวันขึ้น 15 ค่ำของเดือนถัดมา เพื่อรำลึกถึงเพื่อนๆ บรรยากาศ เดิมและต่อมาก็ขยายพื้นที่สร้างความสนุกสนานกันตลอดมา และวันนี้เราก็มีโอกาสนั่งร่วมวง ชิมอาหารแบบกินห่อของชาวเกาะพะงัน ซึ่งประกอบด้วย หมูโค ซึ่งสมัยก่อนไม่มีตู้เย็นการถนอมอาหารที่ทำได้และเก็บไว้ได้นาน คือ หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่เกลือแล้วใส่น้ำตั้งไฟ เคี่ยวจนกระทั่งแห้ง น้ำในหมูกับน้ำมันหมูก็จะอกมา น้ำมันติดกระทะเอาข้าวลงไปคลุกก็ได้ข้าวผัดมันหมูอีกถัดมาเป็นยำสาหร่ายข้อกับหอยกลม การหาหอยกลมเป็นกิจกรรมที่ชาวบ้านแถบตะวันตกของเกาะนิยมยามน้ำทะเลหน้าบ้านลดลง ส่วนสาหร่ายข้อมีค่อนข้างจำกัด ถ้าน้ำสูงหน้าลมว่าช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมจะหายาก สาหร่ายข้อเป็นอาหารปลาบางประเภทด้วย มีรสชาติอร่อย นำมายำกับมะพร้าวทึนทึก มะพร้าวคั่ว ใส่มะขามเปียก

นอกจากนี้ยังมี วายต้มยอดมะขาม โวยวายหรือปลาหมึกสายประจำถิ่นที่พะงัน พันธุ์ที่นำมาต้มนี้ใช้วายทรายหรือวายแดง พบในรูปโขดหินน้ำตื้น ปลาคั่ว เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของคนพะงัน นอกจากนี้ยังมีชะลอมนำใส่ขนมรวมกันมาให้ได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นขนมขี้หมาต้วง ขนมโบราณของชาวเกาะ ขนมไข่ปลา ขนมเทศกาลทำบุญเดือนสิบหรือวันตายาย ขนมเหนียวกวน ขนมถั่วแปบไส้มะพร้าวทึนทึก“เชิญนั่งล้อมวงเลยคะ กินห่อกัน” พี่โป่ง เรียกให้เราจับจองที่นั่งล้อมวงเติมข้าวกันอย่างสนุกสนานหลังจากนั้นพิธีการต่างๆ จึงเริ่มขึ้น ณ บริเวณ ลานตัวหนอน สถานที่ถูกจัดเป็นวงกลม การแสดงดนตรีแผ่วเบาจากชาวต่างชาติ ผสมผสานกับดนตรีที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมแดนใต้ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์รำมโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง การเล่นดนตรีไทย ร้องดนตรีไทยผสานดนตรีสากล การร่ายรำเพื่อรับพลังจากแสงจันทรา

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย เล่าถึงที่มาของงานว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ของเกาะพะงันที่ไม่ได้มีแค่ฟูลมูนปาร์ตี้ แต่พะงันยังมีวิถีชุมชน วิถีชาวเล วิถีมะพร้าวที่นี่ได้รับจีไอของประเทศไทยมีประเพณีกินห่อ หลังจากทำงานเสร็จก็จะมานั่งทานอาหารร่วมกัน และในวันนี้เรามาเที่ยวเกาะ จะมีหาดทรายที่สวยงาม ช่วงที่ไม่มีปาร์ตี้ ทรายขาวละเอียดอย่างไร? และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อย่างเช่น น้ำตกธารเสด็จ ที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นถึงสิบครั้ง
วิถีชุมชนในส่วนของการนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติให้สวยงาม ยั่งยืนเพื่อลูกหลานต่อไปในอนาคต

นอกจากนั้นแล้วที่นี่เป็นเหมือนชุมชนที่รวมพลังจากคนทั่วโลกที่เข้ามาหลอมรวมอยู่ร่วมกัน เราเคยเป็น workation เป็น work peace นอกเหนือจากที่ทำงานปกติ ติดอันดับหนึ่งของโลกมาแล้ว ว่าทำไมคนจากทั่วโลกจึงเลือกที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ มารวมกลุ่ม มาเป็นชุมชน มาเป็นครอบครัวเดียวกันที่นี่ จากต่างชาติต่างภาษา อีกทั้งเรื่องของอาหารการกิน ด้วยวัตถุดิบคุณภาพของพื้นถิ่น อาหารทะเลสดๆ ผักผลไม้สดๆ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้สุขภาพของเราดีทั้งกายและใจ ที่นี่ถือว่าเป็นเกาะแห่งแรงบันดาลใจ ซึ่งนอกเหนือจากจุดหลัก ของจุดขายเรื่องฟูลมูน พลังแห่งจันทรา มารับพลังเพื่อไปทำงานต่อ พลังต่อไปในการต่อสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิต มาพะงันแล้วจะรู้สึกถึงวิถีที่เรียบง่าย มาแล้วทุกคนจะหลงรัก …พะงัน”

…. เมื่อแสงแห่งจันทราเจิดจรัส พลังแห่งแรงศรัทธาถาโถมกลางใจ นานนับชั่วโมง จากเสียงดนตรีกระแทกกระทั้น สลับแผ่วเบา หลายคนเริ่มปลดปล่อย จิตวิญญาณ ผ่านจังหวะของดนตรี ผู้คนจากทั่วสารทิศ ทั่วทุกมุมโลกที่อาศัยอยู่บนเกาะพะงัน ต่างเดินทางมาร่วมงาน ดื่มด่ำหลอมรวมหัวใจไว้ด้วยกัน
นับเป็นครั้งแรกของการได้เห็นถึงพลังศรัทธาที่หลอมรวมจิตวิญญาณของผู้คนที่มารวมกันที่นี่ บอกเลยว่า พลังแห่งจันทรา แรงกล้าจริงๆ

ด้าน คุณ สาว – ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่าเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมาเยือนเกาะพะงันเป็นเวลากว่า 35 ปี มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของเกาะพะงัน สถานที่น่าสนใจ และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์
ทั้งนี้ เกาะพะงันยังมีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของป่า ภูเขา ทะเล หาดทรายและน้ำตกที่มหัศจรรย์ ชุมชนชาวพะงันยังมีวิถีชาวเกาะที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น ความเชี่ยวชาญ ที่หลากหลาย รวมถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชน เหล่านี้ที่ทำให้เกาะพะงันคงมนต์เสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน มากขึ้นทุกปี

เกาะพะงันยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนในมิติจิตวิญญาณและสุขภาวะองค์รวม (Spiritual, Wellness and Well-being) ยังจะเห็นได้จากการที่ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาค้นหาตัวตน และจิตวิญญาณอันล้ำลึก มาเรียนรู้ผ่านศาสตร์ และศิลป์ เยียวยาบำบัด รวมถึงเชื่อมโยงกับตัวเองผ่านเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
และธรรมชาติเพื่อสมดุลแห่งสุขภาวะองค์รวม “หลังวิกฤติโควิด-19 การดูแลสุขภาวะองค์รวม กายและใจเป็นทางเลือกที่สังคมโลกหันกลับมาใส่ใจมากขึ้น กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในเกาะพะงันจึงต้องการที่จะสร้างภาพความทรงจำและประชาสัมพันธ์เกาะพะงันในอีกมิติหนึ่ง นอกเหนือจากภาพเทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้ เพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงันที่ยั่งยืน โดยมีสุขภาวะทางใจและกายที่สมดุล

นอกจากนี้ เกาะพะงันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ผสมผสานความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของชุมชนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชาวพะงันให้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันวิถีชาวเกาะ เช่น วัฒนธรรม อาหาร ศิลปะการเเสดง ดนตรี ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย มีความเป็นเอกลักษณ์ ให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมทั้งกระจายรายได้ให้ชุมชนเกาะพะงัน”

… ค่ำคืนนี้ จึงเป็นค่ำคืนที่บอกเลยว่า อะเมซิ่งคะ สุดอะเมซิ่งจริงๆ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกกับการร่วมงาน นี่ขนาดแค่งานแถลงข่าวยังจัดเต็มและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แล้วเมื่อถึงวันเทศกาลในต้นปีหน้าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนหนอ ( เราแอบคิดในใจ)

… เช้าวันใหม่ การตระเวนรอบเกาะพะงันเพื่อสัมผัสวิถีของชุมชน เริ่มขึ้นที่แรกคือไปยังท่าเรือ โฉลกหลำ บริเวณใกล้เคียงมีร้านรวงจำหน่ายอาหารทะเลแห้ง หมึกกะตอยแห้ง ปลาอินทรีย์ ร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ แต่ด้วยเพราะหมึกกะตอยแห้งที่นี่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก ทำให้มีการจับจองกันจน …
“เหลืออยู่ถุงเดียวคะ” นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาไปหาแหล่งจำหน่ายใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ไม่ไกลกันนัก รถตู้ก็พาเรามาหยุดณ บ้านหลังหนึ่ง เรียกว่าเข้าหลังบ้านกันเลยทีเดียว เพราะที่นี่มีสินค้าที่หลายคนอยากได้ เสียงต่อรองราคากันโขมงโฉงเฉง
“หนูเอาโลนึง”
“ซื้อโลแล้วมาแบ่งกันมั๊ย”
“ปลากุเลา และปลาอินทรีย์ แบบตากแห้ง น่าทานมาก”

สมาชิกคณะเดินทางส่งเสียงกันฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง สถานนีต่อไปไร่ เตียวิเศษหลังจากอุดหนุนชุมชนกันคนละถุงสองถุง เราก็เดินทางกันต่อไปยัง ไร่เตียวิเศษ RAITIAVISET ORGANIC FARM ที่นี่ คุณดวงเด่น เตียวิเศษ พาคณะเดินชมพลางเล่าให้ฟังถึงที่มาของ ไร่เตียวิเศษว่า “เมื่อ 14 ปีก่อน เริ่มจากการทำเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มองว่า เรามีพื้นที่ว่าง 3 ไร่ ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์และลดค่าใช้จ่ายได้ ก็เริ่มปลูกผักแล้วหลังจากนั้นก็ไปอบรมเรื่องการปลูกผัก โชคดีได้เจออาจารย์จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ปี 2560 ก็รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จีพีเอสเกาะพะงัน และอบรมให้กลุ่มสมาชิกของเรา ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกสิบราย มีการรวบรวมผลผลิตมาวางขายที่ไร่เตียวิเศษ

ไร่เตียวิเศษ RAITIAVISET ORGANIC FARM

ภายในไร่แบ่งโซนเป็นฐานเรียนรู้ทั้งหมด 11 ฐาน มีบ้านที่อยู่อาศัยและบ้านเช่าห้าหลัง ในพื้นที่ที่เราทำเกษตรอินทรีย์แนวคิดเกษตรพอเพียง มีเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่โดยผักตบชวา มีการทำน้ำมันมะพร้าว ทำผลิตภัณฑ์ มีช็อปสำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อป ผลิตภัณฑ์น้ำมันตะไคร้ไล่ยุง ฐานทำน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งทางไร่เน้นการหมุนเวียนทรัพยากรที่เหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือไม่ให้เหลือทิ้ง”หลังจากคณะเยี่ยมชมและอุดหนุนผลิตภัณฑ์เรียบร้อย เราก็เดินทางกันต่อไปยัง Longtail Beach Resort ที่นี่ห้องหับส่วนใหญ่จะถูกตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหลือใช้ ทั้งโคมไฟ ที่แขวนเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาจากงานแฮนด์เมดแทบทั้งสิ้น ที่นี่เปิดบริการมานานและเป็นหนึ่งในสถานที่พักที่รองรับนักท่องเที่ยวที่มาอยู่เกาะพะงันและติดเกาะอยู่ในช่วงโควิด รวมถึง “จันทรมาส” รีสอร์ทแอนด์สปา ของคุณฉันทนา นายกสมาคมฯ และ โรงแรมอื่นๆ ภายในเกาะพะงัน ด้วย
ช่วงเดินเลาะเลียบริมหาดของ Longtail Beach Resort บริหารงานโดย พี่โอ๋

Longtail Beach Resort บริหารงานโดย พี่โอ๋

คุณนฤมล ใหม่โสภา ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงัน อดีตนายกสมาคมโรงแรมฯ เล่าให้ฟังถึงการจัดการในช่วงโควิด ปี 2562 ว่า “ในช่วงโควิด มีนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนเกาะพะงันราวสองพันกว่าคน เขากลับประเทศไม่ได้ ทางสมาคมฯ จึงร่วมกับทางหน่วยงานของรัฐ ดูแลเรื่องที่พักโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดูแลเหมือนเขาเป็นคนในครอบครัว ปลูกผักก็ปลูกด้วยกัน เก็บผักไปทำอาหารด้วยกัน เกาะพะงันไม่เคยปิด ยังเปิดรับตลอดเพียงแต่มีเครื่องสแกนการเข้าออกเพื่อป้องกัน

โดยเป็นงบของทางภาคเอกชนลงเงินช่วยกันซื้อเครื่อง สแกนตั้งแต่ทางเข้าหน้าบ้านคือที่ท่าเรือ ทำเหมือนสนามบิน มีรายงานทุกวัน โดยแยกว่า คนไทยจำนวนเท่าไหร่ จึงมีการสำรวจเพิ่มเติมว่า มีฝรั่งตกค้างอยู่ที่เกาะพะงันจำนวนเท่าไหร่ พอทราบจำนวนจึงมีการหาอาหาร และหาอะไรให้เขาทำระหว่างนั้นเพื่อไม่ให้เครียด เราทำสองจุดคือ เรื่องดูแลที่อยู่ อีกจุดหนึ่ง คือ เพ้นท์สีบนลูกมะพร้าว เป็นที่มาของ “อาร์ตติดเกาะ” ตลาดชื่ออาร์ตติดเกาะ

”อาร์ตติดเกาะ” นำเอาทางมะพร้าวที่มีหัวช่วงบนไปเพนท์เป็นหน้ากากหรือรูปคนเพื่อตกแต่งและนำฝรั่งไปเพ้นท์ ตอนนั้นฝรั่งไม่รู้จะทำอะไรก็นำไปเพ้นท์เพื่อผ่อนคลายและแลกกับการเลี้ยงชีพ มีการเลี้ยงอาหาร เป็นการช่วยเหลือกันและกัน อีกกลุ่มหนึ่ง คือฝรั่งที่อยู่ในเกาะเราพาไปปลูกผักก็เกิด “ไร่วิถีพะงัน”
หลังจากนั้นพี่ก็ประสานไปทาง ททท. ซึ่งเราต้องดูแลคนกลุ่มนี้ จริงๆ เราจะมีการรวมกลุ่มตั้งวอร์รูมที่ท่าเรือ มีจุดที่จะแจกอาหารใกล้ท่าเรือหนึ่งจุด และทางสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันจะสำรวจหมดเลย เราไม่เคยปิดเกาะ ใครเข้าก็ได้ แต่เรามีเครื่องมือในการสแกนคนเข้าเกาะ มีกลุ่มอสม. ภาครัฐเอกชนประชุมด้วยกัน และมีติดตามสำหรับประเทศกลุ่มสีแดง เหลืองเขียว มีระบบติดตาม ต้องทำรายงานให้อสม ทุกวันสิ่งที่เกิดขึ้น 3 สิ่งในช่วงโควิด และมาจนถึงปัจจุบัน คือ ไร่วิถีพะงัน อาร์ตติดเกาะ และ Community ของ workation รวมถึง
มีการตั้งทีม Trash Hero คือกลุ่มคนไทยและต่างชาติที่รวมตัวกันช่วยกันเก็บขยะ จะมีกิจกรรมทุกๆ 15 วัน”

โรงแรมปานวิมาน โรงแรมระดับสี่ดาวแห่งแรกในเกาะพะงัน

เสร็จสรรพก็เดินทางกันต่อ โรงแรมปานวิมาน โรงแรมระดับสี่ดาวแห่งแรกในเกาะพะงัน โดยมีจีเอ็มให้การต้อนรับ พร้อมดูแลสนับสนุนอาหารมื้อกลางวันหน้าตาสวยงามแบบ warmly welcome โดยเสริฟเป็น เมนู เมี่ยงคำ เสต็กปลากะพงซอสพริกแกง แกงเลียง ไข่ตุ๋นผักรวม ข้าวไรส์เบอร์รี่ ตามด้วยของหวาน กล้วยต้ม มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย งาดำและงาขาว

หลังจากนั้นไปเยี่ยมชมหาดทรายขาวชื่อดัง หาดริ้น เป็นชายหาดที่สวยและมีชื่อเสียงของเกาะพะงัน ความยาวของหาดประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณหาดมีร้านอาหาร ร้านสปา บาร์ต่างๆ มากมาย สถานที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งมีการบริหารจัดการทำความสะอาดหาดทรายหลังจากการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ เป็นไปอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมาก โดยมีเครื่องมือการทำความสะอาดพื้นทรายนำเข้ามาประเทศเยอรมันในการทำความสะอาดพื้นผิวทราย เรียกว่า เข้ามาจะมองแทบไม่ออกเลยว่า เมื่อค่ำวานนี้ มีงานปาร์ตี้ที่มีคนจำนวนมากมายมากระโดดกันแทบเกาะถล่ม แต่เช้ามา กลับมองไม่เห็นสิ่งสกปรกใดๆ บนหาดทรายขาว อะเมซิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวกับการได้พบเจอ

ก่อนขึ้นเรือ Lomprayah High Speed Ferries กลับยังสนามบินเกาะสมุย ทีมงานได้มีโอกาสเยี่ยมชมและกินไอติมมะพร้าว ที่ร้าน ซาติมิ บริหารงานโดย คุณสารภี ธิติภาทร เป็นไอศกรีมทำเองสัญชาติไทย ไอศกรีมมะพร้าวเกาะงัน ตั้งอยู่ที่เกาะพงัน เนื้อสัมผัสไม่เหนียวและไม่เบาจนเกินไป ไอศกรีมไม่ใส่สีแต่งกลิ่น และเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ด้วยราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

… ต้องบอกตรงนี้เลยว่า การเปิดประสบการณ์หลังผลกระทบจากโควิด19 มาสัมผัสบรรยากาศริมทะเล งาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา” ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการเที่ยวเกาะพะงันของเราไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเรื่องของการเที่ยวในแบบธรรมชาติ แบบสุขภาพเพื่อสุขภาวะแบบองค์รวมและจิตวิญญาณ หรือจะเป็นการเที่ยวในแบบชุมชนวิถี หลายสิ่งที่เกิดขึ้น…หลายสิ่งที่ได้สัมผัส เผยให้เห็นถึงศาสตร์และศิลป์ของพะงันที่งดงามไม่ใช่เพียงแค่หาดทรายขาว …ท้องทะเลแสนสวย รวมไปถึงความน่ารักของชุมชนคนบนเกาะพะงัน ที่หลอมรวมความรักความหวงแหนแผ่นดินแห่งนี้เอาไว้ด้วยกัน …และที่สำคัญ ในปลายเดือนมกราคม 2567 เกาะพะงัน เตรียมเปิดเกาะรับเทศกาล Awakenest Festival ยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกของไทย ถือเป็นงานที่รวบรวมกิจกรรมแห่งศาสตร์และศิลป์ เพื่อบำรุงกาย ใจ และจิตวิญญาณ เพื่อการสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ให้ตัวเอง ชุมชน และธรรมชาติ

…. และความงดงามจะยิ่งใหญ่ อลังการขนาดไหน เมื่อผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกจะมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อรับพลังแห่งแรงบันดาลใจ พลังแห่งแสงจันทร์ดังที่เราได้เห็นสัมผัสกับบรรยากาศเมื่อค่ำวาน … ความอัศจรรย์ใจเกิดขึ้นทุกขณะของการได้ชม … เอาเป็นว่า ลง book เอาไว้เรียบร้อย… จะพลาดได้ไง งานระดับโลกครั้งแรกของประเทศแบบนี้ มาแล้วบอกเลยว่า …คุณจะหลงรัก …พะงัน

HKTDC จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong

องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong ขนทัพสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมจากฮ่องกงสู่ประเทศไทย เปิดโอกาสฮ่องกงร่วมมือธุรกิจไทย ในงานแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่แห่งปี

4 กรกฎาคม (กรุงเทพ ประเทศไทย) – องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) กำลังจะมีจัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong (TBTHK) ณ ใจกลางกรุงเทพมหานครในเดือนนี้ งานดังกล่าวได้นำเสนอฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรม ที่เปิดโอกาสให้แก่ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 13-14 กรกฎาคม ณ เซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด กลุ่มธุรกิจทั้งไทยและฮ่องกง จะได้รับโอกาสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจผ่านงานแสดงสินค้า สัมมนา และกิจกรรมเฟ้นหาเครือข่ายทางธุรกิจ


นาย โรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง กล่าว “สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) มีประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ทางธุรกิจอันแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานกับฮ่องกง และเป็นคู่ค้าทางการค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสอง งาน TBTHK ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ จะนำเสนอสินค้าและบริการจากฮ่องกงในอาเซียน อีกทั้งเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมการค้าระดับภูมิภาค ค้นหาคู่ค้าเพื่อลงทุน และสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและห่วงโซ่อุปทานแบบผสมผสาน

“เป้าหมายหลักของเราคือการชูจุดแข็งของฮ่องกงในด้านสินค้าและบริการ และแนะนำเสนอการพัฒนาด้านต่างๆ ของฮ่องกง เพื่อแสดงให้กลุ่มธุรกิจไทย มองฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางธุรกิจนานาชาติชั้นนำ และในฐานะแพลตฟอร์มทางธุรกิจและการลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าอย่างสูงสุดในประเทศจีน ในขณะเดียวกัน เราต้องการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มธุรกิจไทยและฮ่องกงสามารถร่วมมือกันสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่กันและกัน และรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการค้าอย่างยาวนานได้”

“โอกาสเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยหน่วยงานรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีวิสัยทัศน์ เช่นเดียวกับข้อตกลงทางการค้า เช่น เขตการค้าเสรี (FTAs) และ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ที่ช่วยประสานความร่วมมือในระดับภูมิภาค” นายโรนัลด์กล่าว

ฮ่องกงเป็นภูมิศาสตร์สำคัญของเอเชีย และทำหน้าที่ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับนานาชาติ ด้วยข้อได้เปรียบที่เด่นชัดต่างๆ ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือด้านระบบกฎหมาย การเงิน การลงทุน และภาษี ช่วยผลิตสินค้าและบริการการค้าคุณภาพสูงและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจและพัฒนาทางธุรกิจ ที่เชื่อมไปสู่ประเทศจีน ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอื่นๆ

ฮ่องกงเป็นสะพานระหว่างประเทศจีนและส่วนอื่นๆ ของโลก โดยมีบทบาทในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับกระแสเงินทุน สินค้า ข้อมูล และผู้คน เป็นสิ่งที่สำคัญเสมอมา แผนพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการ Belt and Road Initiative และเขตเศรษฐกิจ Guangdong-Hong Kong-Macao Greater Bay Area (GBA)
แผนพัฒนาเหล่านี้ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ขยายบทบาทของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การค้า การขนส่ง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม กล่าวได้ว่า ฮ่องกงเป็นพาร์ทเนอร์ในอุดมคติของบริษัทในไทยที่ต้องการค้นหาโอกาสจากเขตเศรษฐกิจพิเศษของฮ่องกงและตลาดนานาชาติ

ในปีนี้ งาน TBTHK จะเป็นแพลตฟอร์มแบบองค์รวมที่ธุรกิจการค้าของไทยจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของฮ่องกง ในฐานะประตูสู่โอกาสในประเทศจีนและตลาดระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ทางการค้าอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและฮ่องกง งานแสดงสินค้า (Trade Expo) ในครั้งนี้จะนำแสดงสินค้าคุณภาพสูงจากกว่า 100 บริษัท รวมถึง Chow Tai Fook, Green Common, B.Duck, Vita Green, Memorigin, Smart City consortium และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทจากฮ่องกงแนะนำสินค้าเหล่านี้สู่ตลาดภูมิภาค ในขณะเดียวกัน บริษัทจากไทยจะได้โอกาสพบปะกับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อการร่วมงานกันในอนาคต

ในระหว่างการรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนในครั้งนี้ บริษัทสินค้ามากมายจากฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น บริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ บ้านและของขวัญ ความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่างได้แสดงตัวอย่างงานแสดงสินค้าให้สื่อมวลชนได้รับทราบ

สินค้าที่จัดแสดงในงานประกอบด้วย

  • กระเป๋าผ้า Kapture ซึ่งผสานเทคโนโลยีแอนตี้ไวรัส BioNTex™ และผ้า upcycled จากการผลิตผ้า
  • กระบอกน้ำสุญญากาศ Camel ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีสุญญากาศมาตั้งแต่ปี 1940
  • นาฬิกา Temporis ที่มีดีไซน์ทันสมัย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ประดับด้วยคริสตัล K1 แทนกระจกเทมเปอร์ นับเป็นการยกระดับสินค้าเมื่อเทียบกับนาฬิกาข้อมือยี่ห้ออื่นๆ ในกลุ่มราคาเดียวกัน
  • นาฬิกา Romago เป็นนาฬิกาแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เริ่มธุรกิจจากการสร้างนาฬิกาหรูแบบสั่งทำเฉพาะ ปัจจุบัน แบรนด์ให้ความสำคัญกับนาฬิกาที่โดดเด่นด้านดีไซน์โก้หรู โดยใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ในการพัฒนานาฬิกาดำน้ำ
  • Derangedsign เป็นสตูดิโอออกแบบสินค้าจากฮ่องกง ที่จะจัดแสดงชุด Coexistence ซึ่งประกอบไปด้วยถาด 2 ใบที่ถูกแกะสลักเป็นรูปทรงภูมิทัศน์ เหมาะสำหรับเสิร์ฟผลไม้ ลูกอม ถั่ว และอัญมณี ชุดถาดเซ็ทนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย
  • B.Duck เป็นแบรนด์สินค้าออกแบบลิขสิทธิ์ชื่อดังจากบริษัท Semk Products Ltd. จะนำเสนอโคมไฟรูปเป็ดอันโด่งดัง

นอกจากนี้ จะมีการจัดช่วงการเสวนา (Trade Talks) ระหว่างช่วงจัดแสดงงาน ซึ่งจะเน้นย้ำข้อได้เปรียบของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการค้า ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มสินค้าปลีก องค์กร และบริษัทนวัตกรรมที่จะมาร่วมกันในช่วงการเสวนาเพื่อพูดคุยในหัวข้อต่างๆ อาทิ การรังสรรค์อนาคตของการค้าปลีก การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยลิขสิทธิ์ การเปลี่ยนโฉม E-commerce และ การโอบรับความยั่งยืนและ ESG

วันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงาน จะมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัล ซึ่งรวมไปถึงสมาร์ทโฟน นาฬิกาTourbillon แท็บเล็ต และของรางวัลอื่นๆ ผู้ร่วมงานยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินในช่วงระยะเวลาวันงาน นอกจากนี้ ยังมีโฟโต้บูธซึ่งมีฉากหลังเป็นตึกอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง พร้อมด้วยรถตุ๊กตุ๊กติดป้าย TBTHK ที่จะทำให้ผู้ร่วมงานดื่มด่ำไปกับประสบการณ์แสนสนุก อีกทั้งเป็นการโปรโมตวัฒนธรรมของฮ่องกงและฉากอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยเข้าด้วยกันอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.hktdc.com/aboutus
ติดตามเราได้ที่ Twitter @hktdc และ LinkedIn

กลับมาอีกครั้ง !“เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II”

กลับมาอีกครั้ง ! ททท. เปิดอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ติดอาวุธผู้ประกอบการไทยต่อเนื่อง เจาะบทเรียนเพื่อพัฒนาทักษะต้อนรับนักท่องเที่ยวยุค Next Normal

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมอบรม หลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรม หลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com ครอบคลุมบทเรียนการทําตลาดดิจิทัล การออกแบบสินค้าและบริการ ด้านการท่องเที่ยวสอดรับเทรนด์และพฤติกรรมนักท่องเที่ยว พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ร่วมจัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตร เพื่อต่อยอดโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้โครงการ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters” ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับ ททท. เล็งเห็นความสำคัญของการมุ่งมั่นพัฒนาฝั่ง ห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมแก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้รับ ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริม ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงได้ต่อยอดกิจกรรมอบรมหลักสูตรออนไลน์ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com โดยเนื้อหาจะครอบคลุม ถึงเรื่องการเพิ่มทักษะการตลาดดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมและการบริการสู่ความเป็นเลิศ เพิ่มเจาะลึก เทรนด์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุค NEXT NORMAL เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เสริมภาพลักษณ์ และ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว เตรียมพร้อมสู่การเป็นเจ้าบ้านที่ดี

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้โครงการ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters” ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับ ททท. เล็งเห็นความสำคัญของการมุ่งมั่นพัฒนาฝั่ง ห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมแก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้รับ ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริม ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงได้ต่อยอดกิจกรรมอบรมหลักสูตรออนไลน์ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com โดยเนื้อหาจะครอบคลุม ถึงเรื่องการเพิ่มทักษะการตลาดดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมและการบริการสู่ความเป็นเลิศ เพิ่มเจาะลึก เทรนด์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุค NEXT NORMAL เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เสริมภาพลักษณ์ และ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว เตรียมพร้อมสู่การเป็นเจ้าบ้านที่ดี 
       
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” จะได้รับตราสัญลักษณ์โครงการ“เจ้าบ้านที่ดี”และได้รับสิทธิประโยชน์เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ ททท. จัดขึ้น ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับแพลตฟอร์มพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ Traveloka, Wongnai, Gowabi, Local alike และ PPT Blue Card เพื่อเพิ่ม โอกาสทางการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว และถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ตลอดจนช่วยผลักดันการขับเคลื่อน การท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตในเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน (High value and sustainability)

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II”
สามารถ ลงทะเบียนอบรมได้ทาง เว็บไซต์
www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ทาง Line Official : @Thaisuperhost

พรรคเสมอภาคขอยืนยัน มีความตั้งใจ มุ่งส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครองทุกศาสนาและทุกความเชื่อ

รฎาวัญ (ลดาวัลลิ์) เผยไม่กังวล ถูกโจมตี ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ พรรคได้ทำชี้แจงเป็นแถลงการณ์ เป็นลายลักษณ์อักษร เชื่อจะสร้างความเสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง และยุติธรรม รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น
พรรคเสมอภาค นำโดย รฎาวัญ (ลดาวัลลิ์) วงศ์ศรีวงศ์ หัวหน้าพรรคเสมอภาค ,ดร.ฐิติพร ฌานวังศะ เลขาธิการพรรค , ดร.พนิดา เกษมมงคล รองหัวหน้าพรรค ,นาดา ไชยจิตต์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านความเสมอภาคและสิทธิมนุษยชน ลงพื้นที่ได้รับเสียงตอบรับในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างดี พร้อมยืนยันว่า อยากได้เสียงจากประชาชนเป็นจำนวนมากเพื่อเข้าไปทำงานสำคัญแทนพี่น้องประชาชน
จากกรณีการเผยแพร่ภาพป้ายหาเสียงของพรคเสมอภาคซึ่งปรากฏข้อความ “แก้ ร.ธ.น. ให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ…”จนเกิดผู้ที่เห็นชอบจำนวนมาก และผู้ที่คิดต่างให้ข้อเสนอแนะเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเซียล ออนไลน์ที่ดังสนั่น ฝ่ายเห็นชอบกับฝ่ายเห็นต่างได้ให้ข้อเสนอเรื่องความเสมอภาค พูดกันถึงความเหมาะสมและการขัดต่อหลักการความเสมอภาค ซึ่งเป็นชื่อของพรรคหรือไม่

กรณีดังกล่าวนี้ พรรคเสมอภาคขอยืนยันว่า มีความตั้งใจที่จะมุ่งส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครองทุกศาสนาและทุกความเชื่อของพี่น้องประชาชน ให้เกิดความเสมอภาค เกิดความกลมเกลียวทางสังคม ยึดมั่นในหลักการที่ว่ารัฐกับศาสนาต้องแยกเป็นอิสระจากกันเป็นรัฐโลกวิสัย(secular state) ให้ประชาชนอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาได้ดีด้านวัฒนธรรม ให้การส่งเสริมและสนับสนุนภาครัฐดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ในการสร้างอัตลักษณ์และอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาและการส่งเสริมการท่องเที่ยว

โดยพรรคเสมอภาคจะผลักดันให้มีมาตรการทางกฎหมายในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นให้อยู่ในกรอบของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญบัญญัติโดยคำนึงถึงอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยในการรับรองรับการถือเสียข้างมากเป็นสำคัญ ในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศให้การนับถือมาช้านานให้เป็นศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดการศึกษาในการเผยแผ่หลักธรรมของพระพุทธศาสนาเถรวาทในสถาบันการศึกษาทุกระดับทุกสถานการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจให้มีคุณธรรมรักความสุจริตรักความเป็นธรรมและเกิดปัญญาในการพัฒนาตนเอง สังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตลอดจนจะผลักดันให้มีมาตรการทำกฎหมายในการสร้างกลไกให้พุทธศาสนิกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามมิให้มีการบ่อนทำลายพระพุทธพุทธศาสนาไม่ว่าในรูปแบบใด และ ตั้งใจยกร่างกฎหมาย “พ.ร.บ.ส่งเสริมเสริมและคุ้มครองเสรีภาพในการนับถือศาสนาและความเชื่อทางจิตวิญญาณ พ.ศ….”

“ดิฉันขอยืนยันว่ายิ่งไปกว่าด้วยร่างกฎหมายฉบับนี้ หากผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะให้การรับรองและคุ้มครองทุกศาสนา ทุกความเชื่อที่มีความหลากหลายยิ่งของประชาชนในประเทศไทย อาทิ การนับถือการไหว้บรรพบุรุษ การบูชาสถานที่ศักด์สิทธิ์และพิธีกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย” รฎาวัญ หัวหน้าพรรคเสมอภาคกล่าว
พรรคเสมอภาคยึดมั่นหลักเสมอภาคและเคารพความหลากหลาย ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อและเขตของพรรคนั้นมีทั้งผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะคุณนาดา ไชยจิตต์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านความเสอมภาคและสิทธิมนุษยชน นอกจากจะเป็นทั้งบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศแล้วยังเป็นมุสลิมหรือผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามอีกด้วย ด้วยประสบการณ์ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนที่มองเห็นว่ารัฐบาลที่ผ่านมาละเลยหรือให้ความสำคัญกับความเชื่อของประชาชนทุกภาคส่วนน้อยกว่าที่ควรจะเป็นในการนี้เลขาธิการพรรคเสมอภาค ดร.ฐิติพร ฌานวังศะ กล่าวย้ำว่าพรรคเสมอภาคได้ส่งแถลงการณ์แจ้งต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ เป็นลายลักษณ์อักษร ดังข้อความตามที่ปรากฎในแถลงการณ์ฉบับนี้ แสดงจุดยืน เรื่องความเสมอภาค ของพรรคเสมอภาค พร้อมขอบคุณผู้ที่เห็นด้วยและผู้ที่เห็นต่าง สื่อรณรงค์หาเสียงของพรรค เสมอภาคมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมไทยในทุกมิติ และยกระดับให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์การท่องเที่ยว การสร้างคุณค่าด้านความหลากหลายทางเพศและคุณค่าทางวัฒนธรรมเชิงจิตวิญญาณ หรือความเชื่อ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองต่อไปในภายภาคหน้า เพราะพรรคเสมอภาคเชื่อว่า “ความเสมอภาคเป็นเรื่องที่รอไม่ได้”

กรณีดังกล่าวนี้ พรรคเสมอภาคขอยืนยันว่า มีความตั้งใจที่จะมุ่งส่งเสริม สนับสนุน คุ้มครองทุกศาสนาและทุกความเชื่อของพี่น้องประชาชน ให้เกิดความเสมอภาค เกิดความกลมเกลียวทางสังคม ยึดมั่นในหลักการที่ว่ารัฐกับศาสนาต้องแยกเป็นอิสระจากกันเป็นรัฐโลกวิสัย (secular state) ให้ประชาชนอยู่ร่วมกันของคนต่างศาสนาได้ดีด้านวัฒนธรรม ให้การส่งเสริมและสนับสนุนภาครัฐดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ในการสร้างอัตลักษณ์และอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาและการส่งเสริมการท่องเที่ยว

ดร.พนิดา เกษมมงคล กล่าวปิดท้ายว่า พรรคเสมอภาค มีนโยบายเร่งด่วนเพื่อพี่น้องประชาชนที่เข้าไปและพร้อมทำงานทันที

อิตาเลียนดีไซน์เดย์ 2023 อวดอัตลักษณ์สุดครีเอทีฟ แบบ Made in Italy

อิตาเลียนดีไซน์เดย์ ครั้งที่ 7 ปรากฏการณ์แห่งความคิดสร้างสรรค์แห่งการออกแบบสไตล์อิตาเลียน ได้กำหนดให้ตรงกับวันที่ 9 มีนาคม 2566 พร้อมการเฉลิมฉลองทั่วโลก โดยที่ประเทศไทยจะร่วม เฉลิมฉลองโอกาสสำคัญนี้ด้วยหลากหลายกิจกรรมน่าตื่นตาตื่นใจที่กำหนดจัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 – 17 มีนาคม 2566 ณ สามศูนย์การค้าสุดชิคของกรุงเทพ ฯ ได้แก่ ไอคอนสยาม เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ตามลำดับ

อิตาเลียนดีไซน์เดย์มุ่งที่จะโปรโมทฝีมือการดีไซน์ของประเทศอิตาลีไปทั่วทุก มุมโลก เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแนวทาง Made in Italy ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสู่ ความสำเร็จในภาคการผลิต และเป็นรากฐานสำคัญของสินค้าส่งออกของประเทศ ธีมที่คัดสรรสำหรับงานปีนี้คือ “Light on Made in Italy” ที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้ม ความสนใจทั่วโลกในเรื่องของความยั่งยืน รวมถึงการใช้แนวคิดการออกแบบเป็น เครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานอย่างมีจริยธรรม และคุ้มค่า

งานมหกรรมดีไซน์ในปีนี้จัดขึ้นด้วยความร่วมมืออย่างแข็งขันของสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และ สำนักพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย ร่วมกับ หอการค้าไทย-อิตาเลียน และสมาคมการออกแบบอุตสาหกรรมอิตาลี (Association for Industrial Design –ADI) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของ การออกแบบที่มีพลวัตและอยู่ภายใต้ บริบทของโลกตลอดจนส่งเสริมการ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการ ใช้ชีวิตให้คำนึงถึงระบบนิเวศ โดยการประยุกต์ใช้นวัตกรรม ทางเทคโนโลยีอิตาเลียนดีไซน์เดย์ครั้งนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ดังนี้:นิทรรศการ “ITALIA GENIALE” จากฝีมือการรังสรรค์ของ ADI ที่ชนะใจผู้ชมนานาชาติ จากการจัดแสด งที่กรุงโรมและในอิตาเลียนพาวิลเลียนที่งานเวิลด์เอ็กซ์โป ดูไบ 2020 ซึ่งจะจัดแสดงที่ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 7 – 16 มีนาคม 2566 โดยกรุงเทพฯ ได้รับ เลือกให้เป็นจุดแรกในอาเซียนทัวร์ของนิทรรศการชุดนี้

“Italia Geniale” เป็นนิทรรศการที่เชิดชูความเป็นผลิตภัณฑ์ Made in Italy ผ่าน 71 ชิ้นงานที่เป็นสัญลักษณ์ระดับตำนานของการออกแบบอุตสาหกรรมของอิตาลีในทุกแขนง ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ การกีฬาจนถึงการออกแบบอาหาร เสื้อผ้า หรือแม้แต่หุ่นยนต์ ทุกชิ้นล้วนมาอวดความงาม ความคิดริเริ่มและแนวทาง สร้างสรรค์ในการออกแบบอุตสาหกรรมของอิตาลีที่ได้รับความชื่นชอบและโด่งดังไปทั่วโลก

ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี (Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย

ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี (Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย นาย และนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมจะ ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ “Italia Geniale” ในวันที่ 7 มีนาคม 2566 เวลา 16.00 น ในงานเดียวกันนี้ จะมีการมอบรางวัลให้กับนักศึกาษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ออกแบบตราสัญลักษณ์เนื่องในอากาสการเฉลิมฉลองครบรอบ 155 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-อิตาลี ในปีนี้

ในวันที่ 8 มีนาคม แฟชั่นโชว์ในงาน “DOLCE ITALIA” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์ของงาน มีกำหนดจัดขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างเวลา 17.30-20.00 น. ที่ยกขบวนผลงานการออกแบบแฟชั่นและสินค้า ไลฟ์สไตล์ของอิตาลีมา ขึ้นเวที มาเผยโฉมเทรนด์แฟชั่นล่าสุดของอิตาลีให้ผู้รับชม ภายใต้สัญญาความร่วมมือระหว่างสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนประจำประเทศไทย (ITA) และห้างเซ้นทรัลที่ร่วมมือกันจัดแคมเปญ ‘Dolce Italia’เพื่อส่งเสริมแฟชั่นอิตาเลียน และสินค้าแผนกความ งามและเครื่องใช้ในบ้านมอบความพิเศษและกิจกรรมต่างๆ ที่ชั้น 1 ห้างเซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์และ เซ็นทรัลชิดลม ตั้งแต่วันที่ 8มีนาคม – 30 เมษายน 2566

ในวันที่ 9 มีนาคม เวลา 11.00 น. ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย จะเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ Italian Lighting Exhibition ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ชั้น 4 ซึ่งจัดแสดงอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่เน้น คุณภาพ นวัตกรรม การใช้งานและการประหยัดพลังงาน โดยผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายโคมไฟและ อุปกรณ์ให้แสงสว่างจากอิตาลี เช่น Euro Creations Lamptitude และ Motif รวมถึงผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์จากอิตาลี ในประเทศเมียนมา Supremo Vita ที่จะนำเสนอโคมไฟหลากหลายประเภทจากบริษัทชั้นนำของอิตาลีซึ่งมีการออกแบบอุปกรณ์ ที่เน้นการใช้ในเมืองแห่งอนาคต โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและการปกป้อง สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับความสวยงามของสินค้า มิติดังกล่าวนี้ คือ ประเด็นหลักที่ใช้ ในการเสนอตัวชื่อของกรุงโรมเพื่อเป็นเจ้าภาพงานเอ็กซ์โป 2030

ในวันเดียวกัน เวลา 14.00 น. สถาปนิก อเล็กซานเดอร์ มาเรียน เบลแมนผู้ เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์แสงสว่างที่มากด้วยประสบการณ์จนเรียกได้ว่าเป็นผู้การันตี คุณภาพงานดีไซน์อิตาเลียน จะมาเปิดมาสเตอร์คลาส ฟรี สำหรับผู้สนใจการ ออกแบบเชิงสร้างสรรค์ที่ Open House เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ชั้น 6

นอกจากนี้ ในปีนี้ ประเทศกัมพูชาจะจัดงานอิตาเลียนดีไซน์เดย์ขึ้นเช่นกัน โดย
มีกำหนดจัดในวันที่ 9 มีนาคม เวลา 17.00 – 20.00 น. ที่ Vespa Cambodia กรุงพนมเปญ ภายใต้แนวคิด “คุณภาพที่ส่องสว่าง:พลังแห่งการออกแบบสำหรับผู้คน และสิ่งแวดล้อม” โดยสมาคมธุรกิจอิตาเลียน-กัมพูชา (Italian-Cambodian Business Association) เป็นผู้ประสานงานด้วยการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และ สำนักพาณิชย์อิตาเลียน ทั้งนี้โดยสถาปนิกคนดัง อเล็กซานเดอร์ มา เรียน เบลแมน จะเข้าร่วมงานแบบออนไลน์ด้วย

ในขณะเดียวกัน จากการประสานงานและร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลี ณ กรุงย่างกุ้ง กลุ่มผู้แทนจากประเทศเมียนมา ประกอบด้วย มัณฑณากร นักออกแบบแฟชั่น และผู้ประกอบการนำเข้าสินค้า จะเดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรม ต่างๆในงานอิตาเลียนดีไซน์ เดย์ที่กรุงเทพฯ ด้วย

เชียงราย เมืองรองสุดฮิต แอ่วสบาย ม่วนใจ๋ เชิญพักที่… 𝑻𝒉𝒆 𝑯𝒆𝒓𝒊𝒕𝒂𝒈𝒆 𝑪𝒉𝒊𝒂𝒏𝒈 𝑹𝒂𝒊 กับโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5

เชียงราย เมืองรองสุดฮิต แอ่วสบาย ม่วนใจ๋ แล้วเชิญพักที่… 𝑻𝒉𝒆 𝑯𝒆𝒓𝒊𝒕𝒂𝒈𝒆 𝑪𝒉𝒊𝒂𝒏𝒈 𝑹𝒂𝒊 กับโครงการ #เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 จ่ายเองเริ่มต้นเพียง 1,110 บาท เท่านั้น !! จอง 7 มี.ค. – 26 เม.ย. 66จองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันก่อนเข้าพัก เข้าพัก 10 มี.ค. – 29 เม.ย. 66
โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย และได้รับการออกแบบอย่างลงตัวหรูหราโดยการผสมผสานศิลปะร่วมสมัยเข้าด้วยกัน สะท้อนให้เห็นถึงความสง่างามของมรดกทางวัฒนธรรมอาณาจักรล้านนาที่มีมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน แขกผู้มีเกียรติทุกท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น ทางโรงแรมประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 321 ห้อง รวมทั้งห้องสวีทแบบหนึ่งห้องนอน และห้องเฮอริเทจสวีทสองห้องนอน

โรงแรมมีห้องอาหาร และเครื่องดื่มทั้งห้องอาหารออลเดย์ไดนิ่ง และ ไลบรารี่เลานจ์ ที่พร้อมให้บริการอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งท่ามกลางธรรมชาติ ลู่จ็อกกิ้งในสวนเขียวขจีขนาดใหญ่ และศูนย์ฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครันให้บริการแก่สายรักสุขภาพ

รายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองห้องพักโทร 052 055 888 ,
Line ID: @335tkcsv reservation@heritagechiangrai.com หรือ www.heritagechiangrai.com

“ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ” เปิดประตูสู่ยุคใหม่ของบริการสุดลักชูรี่ผสานเสน่ห์ไทย

กรุงเทพฯ ประเทศไทย (วันที่ 7 ธันวาคม 2565) – “ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้” (Chatrium Hospitality) กลุ่มโรงแรมอิสระชั้นนำของไทย เปิดตัว “ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ” (Chatrium Grand Bangkok) อย่างเป็นทางการ คอลเลกชันแบรนด์โรงแรมระดับลักชูรี่ในเครือแห่งแรก ประกาศก้าวสู่บทใหม่ของแบรนด์โรงแรมสัญชาติไทยแท้ ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวยุคใหม่ บนทำเลทองย่านสยาม นำเสนอการบริการที่หรูหรา พิถีพิถัน ผสานเอกลักษณ์ความเป็นไทย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกแล้ววันนี้

ในภาพจากซ้าย: นายแดเนียล เคอร์ ผู้จัดการทั่วไป ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ, นางสาวิตรี รมยะรูป กรรมการผู้จัดการ ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้และเจ้าของ ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ และ นายเรเน่ บาลเมอร์ ผู้จัดการกลุ่ม ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้

“โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ” ตั้งอยู่ใจกลางย่านสยาม ใกล้แหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงอันโด่งดังของกรุงเทพฯ ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ทำให้โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ สามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างสะดวกโดยทางรถยนต์และรถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีสยาม) ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์การค้ายอดนิยมอย่าง “สยามพารากอน” รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งอื่น ๆ มากมาย และสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ บ้านจิม ทอมป์สัน สะพานหัวช้าง และหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นอกจากนั้น ยังตั้งอยู่ริมฝั่งคลองแสนแสบ คลองสายหลักของกรุงเทพฯ อีกด้วย

โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ เป็นคอลเลกชันโรงแรมสุดหรูของเครือ
“ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้” และได้รับการพัฒนาโดย “ซิตี้ เรียลตี้” (City Realty) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับต้น ๆ ของไทย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของตระกูลโสภณพนิช ด้วยเงินลงทุนในโครงการมูลค่ารวม 5.5 พันล้านบาท (ประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ)

โรงแรมสุดหรูแห่งนี้ยังจะดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยการออกแบบที่สวยงาม โดยเป็นผลงานสร้างสรรค์ของ โรเบิร์ต ฟิลิป โฮล์มส์ (Robert Philip Holmes) สถาปนิกชื่อดังระดับโลก และ DWP บริษัทที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบระดับสากลที่มีประสบการณ์มาหลายสิบปีในประเทศไทย ผ่านการนำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม และสุนทรียศาสตร์ของไทย อันสอดคล้องกับมาตรฐานการบริการระดับสูงของโรงแรม สู่การสร้างความรู้สึก “เหนือระดับยิ่งกว่า” (Feel the Remarkable) อย่างแท้จริง

คุณสาวิตรี รมยะรูป กรรมการผู้จัดการ ชาเทรียม ฮอสพิทอลลิตี้ และเจ้าของ ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ กล่าวว่า “เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวโรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ อย่างเป็นทางการในวันนี้ โรงแรมเรือธงที่โดดเด่นและเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันระดับไฮเอนด์ของเรา โรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งนี้จะสะท้อนถึงมาตรฐานสูงสุดของการต้อนรับระดับสากล ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสง่างามที่แท้จริงของวัฒนธรรมไทยผ่านการออกแบบภายในและบริการอันประณีตของเรา และพร้อมแล้วเพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในช่วงไฮซีซั่น นอกจากนั้น เรายังพยายามที่จะเชิดชูมรดกไทยผ่านทักษะของช่างฝีมือท้องถิ่นที่มีความสามารถ เพื่อนำเสนอการตีความที่สดใหม่ของศิลปะ วัฒนธรรม และสุนทรียศาสตร์ของไทยอีกด้วย”

โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพ ให้บริการห้องพัก ห้องสวีท และเรสซิเดนซ์ รวม 582 ห้องภายในตึกแฝด ประกอบด้วยห้องพักที่กว้างขวาง ขนาดตั้งแต่ 46 ตารางเมตร ห้องสวีท 1-3 ห้องนอน ขนาด 170 ตารางเมตร ไปจนถึงเพนต์เฮาส์ ขนาด 321 ตารางเมตร ทุกห้องตกแต่งสไตล์เรียบหรู มีหน้าต่างแบบพาโนรามาพร้อมวิวเมืองที่สวยงาม เทคโนโลยีล้ำสมัย และห้องน้ำหินอ่อน พร้อมอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวขนาดใหญ่ หัวเตียงประดับภาพศิลปะดอกบัวอันเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรม ซึ่งจะสร้างประสบการณ์เสมือนบ้านสำหรับแขกที่เข้าพักระยะยาวอีกด้วย

นักชิมสามารถลิ้มลองรสชาติอาหารเลิศรสที่มีร้านอาหารและบาร์ถึง 5 แห่งภายในโรงแรม ได้แก่ “Savio” นิยามใหม่ของร้านอาหารเสิร์ฟอาหารไทยแท้และอาหารนานาชาติ “Casia” ร้านอาหารเมดิเตอร์เรเนียนฝรั่งเศสอันเป็นเอกลักษณ์ จับคู่กับไวน์ที่คัดสรรมาอย่างดี “Flow” เลานจ์ริมสระว่ายน้ำบรรยากาศสบาย ๆ “Lobby Lounge” สถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนด้วยกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มเบา ๆ ได้ทุกช่วงเวลาของวัน และ “Club Lounge” เป็นพื้นที่เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแขกที่เข้าพักในห้องพรีเมียมและห้องสวีทเพื่อผ่อนคลายได้ทุกเวลา ด้วยเครื่องดื่มฟรีและบริการพิเศษ

นักธุรกิจและผู้วางแผนการประชุมสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่จัดงานที่สามารถจัดกิจกรรมทุกรูปแบบ ด้วยห้องประชุมหลากหลายขนาด รวมถึงห้องแกรนด์บอลรูมขนาด 500 ตารางเมตร สูง 10 เมตร รองรับผู้ร่วมงานได้สูงสุด 700 คน มีแสงธรรมชาติส่องถึง ไม่มีเสากลาง พร้อมจอ LED ที่ทันสมัย เหมาะสำหรับเป็นเวทีสำหรับงานกาล่าอลังการ หรืองานแต่งงานสุดพิเศษ โดยจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยเนรมิตให้ทุกงานตรงกับทุกความต้องการ

ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลายในสระว่ายน้ำขนาด 40 เมตร รายล้อมด้วยแมกไม้นานาพันธุ์กลางเมือง หรือออกกำลังกายในศูนย์ออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ Life Fitness ครบครัน ต่อด้วยการฟื้นฟูร่างกายที่สปาที่ดำเนินงานโดย THAAN Wellness Sanctuary และนวัตกรรมห้องบำบัดด้วยเกลือและออกซิเจน ในขณะที่คุณหนู ๆ สนุกได้อย่างเต็มที่ที่คิดส์คลับ

Chatrium Hospitality ดำเนินกิจการโรงแรมและเรสซิเดนซ์ 12 แห่ง ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น และพม่า ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ 9 แห่งในกรุงเทพฯ รวมทั้งโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Chatrium Hotel Riverside Bangkok) ซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Chatrium Hospitality กรุณาเยี่ยมชมที่ www.chatriumhospitality.com

มหกรรมหนังสือ บิ๊กแบดวูล์ฟ บุ๊ค เฟสติวัล

มอบความสุขส่งท้ายปลายปีอิมแพ็ค ร่วมกับ บิ๊ก แบด วูล์ฟ บุ๊คส์ และ ไทยบุ๊คส์ ยูไนเต็ด ผนึกกำลังจัดเทศกาลหนังสือ บิ๊กแบดวูล์ฟ ครั้งแรก เชิญชวนผู้รักการอ่านมาเลือกชมและซื้อหนังสือคุณภาพทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมากกว่า 1 ล้านเล่ม จากสำนักพิมพ์ชั้นนำทั่วโลก รวมถึงสำนักพิมพ์ของไทยกว่า 40 แห่งที่พร้อมใจเข้าร่วมจัดแสดงหนังสือและมอบโปรโมชั่นพิเศษเฉลิมฉลองส่งท้ายปีลดราคาสูงสุดถึง 95% ครอบคลุมในทุกหมวดหมู่หนังสือ เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็ก หนังสือเฉพาะด้านการออกแบบ ดนตรี กีฬา ภาพยนตร์ กราฟฟิค แฟชั่น ธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ การจัดสวน ทำอาหาร งานอดิเรก จิตวิทยาและแรงบันดาลใจ หนังสือป๊อบอัพ รถยนต์ นวนิยาย ความรัก สืบสวน ชีวประวัติ วรรณกรรมเยาวชน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีสื่อการเรียนการสอน สมุด ของตกแต่ง อีกทั้งโซนของเล่นบอทเกม,ไดโนเพลย์สเปซโดยแปลนทอยส์กิจกรรมประจำวันที่น่าสนใจ

พบปะนักเขียน เสวนาให้ความรู้และอีกมากมายตอกย้ำนี่คือเทศกาลหนังสือสุดยิ่งใหญ่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วพบกันระหว่างวันที่ 7–18ธันวาคม2565 เวลา 10.00 – 24.00 น. ณ อาคาร4 อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี งานนี้เข้าฟรี ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก www.facebook.com/bbwbooksthailand หรือ อินสตาแกรมbigbadwolfbooks_th

https://www.toptotravelvariety.com/2022/11/blog-post_66.html

สุขสันต์วันคล้ายวันเกิด เอิร์ธ สายสว่าง บนเรือสำราญ Wonderful Pearl

สุขสันต์วันคล้ายวันเกิด เอิร์ธ สายสว่าง บนเรือสำราญ Wonderful Pearl

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานอีเวนท์ของทุกปี ของ เอิร์ธ สายสว่าง สำหรับการปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันเกิดของ “ เอิร์ธ” ไม่เคยจะจัดงานแบบธรรมดาๆ เพราะ เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด ในปีนี้ ชวนคนสนิท ทั้งดาราไฮโซร่วมร่วมดินเนอร์สังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน ด้วยการใช้พื้นที่บนเรือสำราญ Wonderful Pearl เห็นฉากหลังวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมี เจ้าของเรือ พิชิต กุลเกียรติเดช มามอบความบันเทิง ไห้ด้วย…

พิชิต กุลเกียรติเดช

โดยงานจัดขึ้นที่เรือสำราญ Wonderful Pearl
…….งานนี้เหล่าคนดังในวงการบันเทิงได้มาร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดนี้อย่างคับคั่ง บอกเลยว่าแต่ละคนแต่งตัวกันมาแบบจัดหนักจัดเต็มมากศิลปินดารานักแสดงและเซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ รศ.ดร.นริศ ชัยสูตร ประธานกรรมการบริหาร สถาบันวิทยาการธรรมศาสตร์เพื่อสังคม และเพื่อนผู้เข้าร่วมการอบรมหลักสูตรนักบริหาร(นมธ.) พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร, พร้อมทั้งนักร้องชื่อดัง ชรัส เฟื่องอารมย์,
รัศมี สิริไพรศรี, โจแอน บุญสูงเนิน , จารึก วิริยะกิจ…และ เพื่อนๆ ร่วมกันสร้างสีสันให้ความบันเทิงอย่างสนุกสนานบนเรือสำราญ Wonderful Pearl พร้อมชื่นชมทัศยภาพงานสถาปัตยกรรมของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สุดแสนโรแมนติก

เรือสุดหรู “Wonderful Pearl cruise” ร่วมชมชมบรรยากาศสุดพิเศษและความอร่อยเต็มรูปแบบของ Wonderful Pearl cruise ท่านใดอยากฟินกับรรยากาศสุดแสนโรแมนติกอาหารอร่อยโดนใจ อาหารนานาชาติสุดพิเศษมากมาย จนจุใจแบบนี้.. แวะมาอร่อยคุ้มค่าแบบมีระดับกับเรือ Wonderful Pearl cruise

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เจ้าหน้าที่แผนกขาย โทร 02-861-0255 กด 5
Email : Sale@wonderfulpearl.com
Email : Event@wonderfulpearl.com
Email : rsvn@grandpearlcruise.com
Line : @wonderfulpearl
Lineofficial Link : https://lin.ee/yKILFUl

#อร่อยปลอดภัยมีระดับกับวันเดอร์ฟูลเพิร์ล #WONDERFULPEARL
#เรือสำราญWonderful Pearl #toptotravel