พรจากฟ้า หนังดีที่คุ้มเกิน ราคาตั๋ว 99 บาท

เพิ่งไปดูมาวันนี้ ภาพยนต์รอบพิเศษ เรื่อง พรจากฟ้า ที่ เอส เอฟ เวิลด์ ซีนีม่า เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 น้ำดื่มสิงห์ ร่วมกับ GDH จัดขึ้นเป็นพิเศษ จัดให้น้องๆ นักเรียนชั้นประถมปลาย โรงเรียนในโครงการชุมชนเข้มเข็งของ
บริษัทฯ และโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 4 โรงเรียน โรงเรียนละ 200 คน เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ดูแล้วประทับใจแทนน้องๆ นักเรียน เพราะนอกจากจะได้ดูหนังดีมีคุณภาพแล้วน้องๆ ยังได้ร่วมกิจกรรมร้องเพลงอย่างสนุกสนานโดยมี 2 พระเอก พี่ซันนี่ และ พี่เต๋อ นักแสดงในเรื่องมาร่วมกันถ่ายทอดความสุข ความสนุกให้น้องๆ นักเรียน และพวกเราทุกคนได้ซึ้งปนฮากันตลอดงาน เป็นหนังที่ดีที่สุดเรื่องนึงสำหรับเราเลยก็ว่าได้ เปิดตัวและเข้าโรงฉายให้หลายคนได้ชมความสนุกเคล้าน้ำตา

พรจากฟ้า หนังดีที่คุ้มเกินราคาตั๋ว 99 บาท  ภาพยนตร์ที่นำเอาความความ โรแมนติก และ ความคอเมดี้อย่างที่กลับมาปรุงรสใหม่ และเคล้ากันได้มากขึ้น แม้ว่าตัวพล็อตจะไม่ได้แปลกใหม่  และล้ำค่าก็คือ ประสบการณ์และ อารมณ์ล้วนๆ พรจากฟ้า ยังเป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุกเต็มอิ่ม  ได้ครบรส กับบทเพลง พระราชนิพนธ์ ทำออกมาเป็นภาพยนตร์รักปนเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และคราบน้ำตา ที่สำคัญคือค่าตั๋วแค่ 99 บาทไม่ว่าจะเป็นโรงไหนรอบไหน

พรจากฟ้า กลายเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  ได้อย่างเปี่ยมคุณค่าทางจิตใจ เป็นหนังที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อเทิดพระเกียรติให้กับในหลวง รัชกาลที่ 9 ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสวรรคต และรายได้จากหนังเรื่องนี้จะถูกนำไปสมทบ กับโครงการพระราชดำริ GDH ร่วมกับ โรงภาพยนตร์ทุกเครือทั่วประเทศ   มอบของขวัญให้คนดูหนัง พรจากฟ้า ด้วยบัตรราคา 99 บาท  และได้ร่วมบริจาค “มูลนิธิชัยพัฒนา” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

พอไปดูแล้วเป็นหนังที่ให้ความสุขจริงๆ แล้วเป็นหนังที่ให้ความสุข ไปดูกันได้ทั้งครอบครัว มีครบทุกรสชาติ คนไทยจะได้สัมผัสถึงความไพเราะของบทเพลงพระราชนิพนธ์ รับรู้ถึง พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ของพระองค์ท่าน และเราเชื่อว่าบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ จะช่วยให้คนไทยมีกำลังใจและเข้มแข็งขึ้น เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ช่วงเวลาที่โศกเศร้าเสียใจที่สุด พรจากฟ้า นำเพลงของพ่อ มาสร้างความสุข   ต้อนรับปีใหม่ เป็นการปลอบประโลม คนไทยที่กำลังโศกเศร้า แบบนี้ถือว่าดีและมีความคิดสร้างสรรค์เลยทีเดียวทำให้เกิดรอยยิ้มได้หลังจากโศกเศร้าเสียใจ

ยามเย็น
(ผู้กำกับ ชยนพ บุญประกอบ, เกรียงไกร วชิรธรรมพร) เปิดเรื่องด้วยความรักน่ารักๆ จากพระนางทั้งสองคนและมันเป็น เรื่องราวช่วงเวลาพิเศษที่แสนสั้นมาก ที่ราวกับหยุดเวลาไว้ให้พวกเขาทั้งสองคน ซึ่งมันทำออกมาได้อย่างสวยงามและน่าจดจำมาก รวมไปถึงการนำเพลง “ยามเย็น” มาเรียบเรียงใหม่ให้ดูเข้ากับเรื่องราว แฝงด้วยความสดใสและสร้างความอบอุ่นให้หัวใจ ยิ่งช่วยเสริมความสตรองของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และด้วยเสียงโซโล่ของ วี วิโอเล็ต ก็ยิ่งทำให้หนังพาร์ทนี้เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายอะไรมา ทุกอย่างมันจะมีโมเมนต์ดี ๆ รออยู่ให้เรายิ้มได้เสมอดึงเสน่ห์ของ วี วิโอเลต กับ นาย ณภัทร ออกมาได้ยอดเยี่ยม สายตาคนดูจึงจับจ้องจอแบบไม่กระพริบทีเดียว หนำซ้ำการตีความเพลงพระราชนิพนธ์ ‘ยามเย็น’ ออกมาเป็น ‘การจากลา’ สองความหมายในเรื่องเดียว เป็นการตีความที่ฉลาดทีเดียว

Still on My Mind
(ผู้กำกับ คุณนิธิวัฒน์  ธราธร)  ฟา  (มิว นิษฐา) การเชื่อมโยง โดยค่อย ๆ พาคนดูเข้าไปทำความรู้จักกับชีวิตของฟา และครอบครัวของเธอ พาร์ทนี้ดูแล้วเชื่อว่ารู้สึก “คิดถึง” คนในครอบครัว ผ่านการมองภาพครอบครัวของฟา ซึ่งเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสมาชิกคนในครอบครัว การจากลาและการคงอยู่  ถ้าหากบ้านไหนที่มีสมาชิกในบ้านป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์  เช่นเดียวกับพ่อของฟา  เชื่อว่าเรื่องราวเหล่านนี้จะทให้ำคุณ น้ำตาไหลไม่หยุดเตรียมผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ได้เลย ส่วนบทเพลง  Still on My Mind  เป็นความทรงจำที่เหลืออยู่ในใจ ฟังแล้วเสียงชองเปียโนช่างกินใจเหลือเกิน  เป็นเรื้่องราวทีี่ดูกันได้ทั้งครอบครัว มีครบทุกรสชาติ  อยากคนไทยได้ร่วมสัมผัสถึงความไพเราะของบทเพลงพระราชนิพนธ์ ได้รับรู้ถึง พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ของพระองค์ท่าน และเราเชื่อว่าบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ จะช่วยให้คนไทยมีกำลังใจและเข้มแข็งขึ้น ช่วงเวลาที่โศกเศร้าเสียใจที่สุด

พรปีใหม่
(ผู้กำกับ คุณจิระ  มะลิกุล)  มาปิดท้ายเรื่องสุดท้าย ด้วยอารมณ์คอมเมดี้สุด  ของผู้กำกับ ดูแล้ว  ทำให้อารมณ์หนัง  แปลกและแหวกไปกับอารมณ์มาก  โดยระหว่าง เต๋อ ฉันทวิชช์ และ หนูนา หนึ่งธิดา สองนักแสดงเคมีที่รับส่งมุกกันได้แบบทำฝห้คนดู  ยิ้มแก้มปริ  สร้างบรรยากาศสุดอัศจรรย์ที่เราเชื่อว่า  บรรดาพนักงานออฟฟิศอยากให้มีแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ  ความสนุกสนานของเพื่อนร่วมงาน  ที่มีโอกาสได้มารู้จักกันผ่านเสียงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นใครที่ไหนก็สามารถเข้าถึงได้ทั้งนั้น  ส่วนเพลง ‘พรปีใหม่’ ก็ใช้ความหมายที่เปรียบเสมือน ‘พรจากฟ้า’ ที่นำมาซึ่งความสุขของคนไทย นำเพลงของพ่อ มาสร้างความสุข   ต้อนรับปีใหม่ เป็นการปลอบประโลม คนไทยที่กำลังโศกเศร้า การนำเพลง พระราชนิพระราชนิพนธ์มาเป็นโจทก์ นั้น ทำให้เกิดรอยยิ้มได้หลังจากที่โศกเศร้าเสียใจถ้าใครได้ดูพรจากฟ้าแล้วรับรองเลยว่าจะเดินยิ้มออกมา อิ่มใจแน่นอนค่ะ
ชาวไทยจะมีพรจากพระองค์อยู่ในดวงใจนิรันดร์  พรจากฟ้า ฉายแล้ววันนี้ หนังไทยส่งท้ายปีจาก GDH พรจากฟ้า สามเรื่องย่อยที่เล่าเรื่องต่างกันแต่ร่วมกันที่พูดถึงบทเพลงพระราชนิพนธ์ อิ่มสุข เสียน้ำตา และหัวเราะเฮฮากับ 3 คาแรกเตอร์ ในหนัง 3 เรื่อง