กระท่อมน้อย..คอยรัก…บางครั้งชีวิตก็ไม่ต้องการโรงแรมหรู

กระท่อมน้อยของลุงทอม ที่นอนคืนนี้ สถานที่หลบหลีกไปพักใจ เมื่อวันหยุดไม่อยากอยู่บ้าน! ……กระท่อมน้อยของลุงทอม ณ เขาค้อฟาร์มสเตย์  ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางท่ามกลางขุนเขาทุ่งนาและป่าสน

…..ที่เขาค้อ คือ อีกหนึ่งจัดหมายปลายทางที่ Toptotravel หลงรักซ้ำๆ เรากลับมากอีกครั้งในฤดูฝนพร่ำ เขาค้อพร้อมหมอกเอื่อยๆ เป็นอีกภาพที่สวยเกินคำบรรยาย  

ครั้งนี้เราใช้เวลา 3 วัน 2 คืน บ้านพักหลังที่เข้าพักในรีวิวนี้ คือบ้านหลังที่ 1 และหลังที่ 2 พักผ่อนสบายๆ บนเนื้อที่กว้างขวาง 20 กว่าไร่  แบ่งส่วนที่พักและส่วนพื้นที่สีเขียวได้อย่างลงตัว  รองรับทุกไลฟ์สไตล์ พักสบายๆ เดินเล่นชมสวนเกษตรนั่งชิลชมวิวที่หน้าห้องพัก หรือชอบนอนดูเขา ชวนมาปล่อยใจ พักที่ กระท่อมน้อยของลุงทอม ณ เขาค้อ ได้เวลาออกไปเที่ยวเติมความสดชื่นในช่วง Green Season ในหน้าฝนนี้ สัมผัสธรรมชาติสีเขียวที่สวยที่สุดในช่วงฝนพรำ
สูดอากาศบริสุทธิ์ ชาร์จพลังกันให้เต็มที่ 

ได้โอกาสเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อนในช่วงวันหยุด  ขับรถหนีความวุ่นวาย มาผ่อนคลายที่พักโฮมสเตย์ สไตล์กระท่อมน้อย เป็นฟาร์มสเตย์ อยู่ที่ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ  จังหวัดเพชรบูรณ์….แสงสวยๆ ในยามเย็นกับบรรยากาศอันแสนสดชื่น ท่ามกลางธรรมชาติ ท่ามกลางป่าเขา สบายๆ อากาศดีดีแบบนี้หายเหนื่อย มาให้ธรรมชาติโอบกอดมาสัมผัสชีวิตที่เรียบง่ายอยู่สบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่แสนดี  เรื่องอาหารหารกิน กลางวันหาอาหารพื้นบ้านอย่างขนมจีน  ส่วนมื้อเย็นแนะนำเป็นหมูกระทะสั่งมาทานที่กระท่อมได้เลย ย่างแบบฟินๆ และมื้อเช้าข้าวต้มจัด สลัดผัก จัดเต็มชา – กาแฟ ผลไม้สด (ดริฟกาแฟดื่มเองก็ได้นะ)

ห้องพักบ้านดินจำนวน 7 หลัง  แต่ละหลังพักได้ 2-4 คน ห้องน้ำในตัว สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา  โอบกอดด้วยทะเลภูเขา เขียวขจีฟีลกระท่อมหลังน้อยปลายนา  ภายนอกดูธรรมดากลมกลืนกับธรรมชาติ เราชอบกิมมิคที่มีชานด้านนอกบ้าน ทำให้ออกไปนั่งเล่นชมวิวป่านสน วิวเขาและนาข้าวสีเขียวเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน พักใจ มองธรรมชาติ สีเขียวดีต่อใจ ฝนตกก็จะมีหมอกขาวๆ ใครแพลนมาเที่ยวเตรียมตัวได้เลย

ใครได้ไปแล้วจะไม่อยากกลับบ้านเลย คือทั้งอากาศทั้งวิวทั้งผู้คน เหมือนบ้านหลังที่สองที่ Uncle Tom’s Cabin At Khaokho มีโซนที่พักรถบ้านคาราวานและบ้านดินสุดชิล กลางธรรมชาติ ชานนอกบ้าน ถ่ายรูปสวย นั่งกินปิ้งย่างหมูกะทะได้สบายๆ รีบมาจัดเต็มทุกความชิลล์ มาที่นี่ มันไม่ใช่การไปเที่ยว แต่มันเหมือนไปเยี่ยมบ้านพี่ที่รู้จัก 

เวลาน้อยก็เที่ยวได้ สวย อากาศดี เดินทางสะดวก พิกัด: อยู่ระหว่างทาง ก่อนขึ้นเขาค้อเลยตลาดทุ่งสมอ 1 กม.ที่พักบ้านดินฟาร์มสเตย์ และรถบ้านคาราวานพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ชวนมาพักผ่อน สัมผัสอากาศดีๆ ชื่นชมสายหมอกเย็นสบาย ท่ามกลางธรรมชาติงดงาม อากาศดีมาก เย็นสบาย โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและเงาป่า กับกลิ่นอายของท้องทุ่งนาที่เขียวขจี อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 750 เมตร ขึ้นไป บริเวณโดยรอบกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ส่วนใหญ่อาชีพทำนา พืชไร่หมุนเวียนตามฤดูกาล สภาพภูมิประเทศเป็นภูเขา มีแหล่งน้ำธรรมชาติใ..พักที่นี่นอนพักกระท่อมน้อย กลางป่าสน ที่ยินดีรับครอบครัวที่มีน้องหมาน้องแมวมาด้วยโดยจัดแยกโซน

กระท่อมน้อยของลุงทอม ฟาร์มสเตย์
อยู่ที่ตำบลทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
กระท่อมแห่งความรักและอบอุ่นสนใจที่พัก ทัก in box สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือโทรติดต่อสอบถามได้ที่

โทร.  094 1698299 :ลุงทอม
โทร. 099 3355565: ป้าติ่งTel&Line 
หรือ : 086 9923999: MadamTing

https://www.facebook.com/UncleTomCabinAtKhaokho/

#รีสอร์ทเขาค้อ #ที่พักเขาค้อ #บ้านดินฟาร์มสเตย์ #ที่พักกลางธรรมชาติ #ที่พักกลางทะเลหมอก #รีสอร์ทเขาค้อ #ที่พักเงียบสงบส่วนตัว #บ้านพักเขาค้อ
#ลานกางเต๊นท์ #แคมป์ปิ้งเขาค้อ #เขาค้อเพชรบูรณ์ #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

ภายใต้หมวกกันน็อค: เจาะลึกชีวิตของมาร์ค มาร์เกซ ทั้งในและนอกสนาม

มาร์ค มาร์เกซ นักแข่งโมโตจีพีผู้ครองแชมป์หลายสมัย เป็นที่รู้จักจากสไตล์การขี่ที่เก่งกล้าพร้อมกับความมุ่งมั่นอันเด็ดเดี่ยว ดึงดูดผู้ชมทั่วโลกด้วยสุดยอดทักษะด้านการใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ ด้วยแนวทางการแข่งรถที่ไม่เหมือนใครของมาร์เกซทำให้เขาได้รับชื่อเสียงอย่างล้นหลามจากสนามแข่งในขณะที่เขาก้าวข้ามขีดจำกัดของศักยภาพตนเองอย่างหาญกล้า ตอนนี้ แฟนๆ มีโอกาสที่จะได้เจาะลึกชีวิตและเส้นทางอาชีพอันน่าหลงใหลของนักบิดระดับตำนานคนนี้ผ่านทางสารคดีที่น่าสนใจเรื่อง “Marc Márquez: ALL IN”

สไตล์การขี่ของ มาร์เกซ คือพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ ในสนามแข่ง เขาแสดงออกถึงความดุดันไม่ยอมแพ้ซึ่งทำให้เขาแตกต่างจากคู่แข่ง การหลบหลีกที่ไร้ความกลัวและการเร่งแซงอย่างท้าทายของเขาสร้างช่วงเวลาน่าประทับใจที่ทำให้ผู้ชมแทบลืมหายใจ วิธีการขับขี่ในสนามแข่งไม่ซ้ำแบบใครนี้ทำให้มาร์เกซได้รับทั้งความชื่นชมอย่างท่วมท้นและกลายเป็นที่จับตามอง ส่งผลให้เขามีสถานะเป็นบุคคลที่น่าหลงใหลในโลกโมโตจีพี

มักจะมีผู้คนถกเถียงเกี่ยวกับมาร์เกซเสมอ บ่อยครั้งจะได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนกล้าเสี่ยงหรือคนกล้าบ้าบิ่น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แชมป์โลกโมโตจีพีที่อายุน้อยที่สุดคนนี้ก็ได้ยืนหยัดและตอบโจทย์ทุกความคาดหวัง ตอกย้ำตำนานในฐานะนักแข่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการกีฬา

“การแข่งมอเตอร์ไซค์รายการโมโตจีพีเปรียบเสมือนการเต้นรำบนคมมีดโกน ผมพัฒนาตัวเองอย่างหนัก และท้าทายข้อจำกัดที่มีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะผลักดันตัวเองและเครื่องยนต์ให้บรรลุขีดความสามารถสูงสุด มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมแตกต่าง และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมกลับมาแข่งอีกครั้ง” มาร์เกซกล่าว

แต่คนที่อยู่เบื้องหลังหมวกกันน็อคคือใคร ในสารคดีเรื่อง “Marc Márquez: ALL IN” ผู้ชมจะได้ค้นพบด้านที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในชีวิตของนักแข่งรถหนุ่ม นอกเหนือจากการขับเคี่ยวที่ดุเดือดและรวดเร็วบนสนามแข่งแล้ว สารคดียังนำเสนอเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของมาร์เกซ แรงจูงใจของเขา และความท้าทายที่เขาต้องเอาชนะเพื่อให้ได้เป็นมือโปรแห่งโมโตจีพีที่ทุกคนรู้จักเขา ตั้งแต่อายุยังน้อยจนก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในนักบิดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬา สารคดีนี้จึงเผยให้เห็นปรากฏการณ์การแข่งรถรายการนี้ในอีกแง่มุมของความเป็นมนุษย์

อย่าพลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสกับโลกแห่งความเร้าใจของมาร์ค มาร์เกซ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ติดตามชม “Marc Márquez: ALL IN” ได้ทาง Red Bull TV Thailand แล้วคุณจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแรงผลักดันที่ไม่หยุดยั้งและจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อซึ่งเป็นตัวกำหนดเส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของมาร์เกซ

HKTDC จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong

องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong ขนทัพสินค้าและบริการคุณภาพเยี่ยมจากฮ่องกงสู่ประเทศไทย เปิดโอกาสฮ่องกงร่วมมือธุรกิจไทย ในงานแสดงสินค้าสุดยิ่งใหญ่แห่งปี

4 กรกฎาคม (กรุงเทพ ประเทศไทย) – องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council: HKTDC) กำลังจะมีจัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong (TBTHK) ณ ใจกลางกรุงเทพมหานครในเดือนนี้ งานดังกล่าวได้นำเสนอฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรม ที่เปิดโอกาสให้แก่ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 13-14 กรกฎาคม ณ เซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด กลุ่มธุรกิจทั้งไทยและฮ่องกง จะได้รับโอกาสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจผ่านงานแสดงสินค้า สัมมนา และกิจกรรมเฟ้นหาเครือข่ายทางธุรกิจ


นาย โรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง กล่าว “สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) มีประวัติศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ทางธุรกิจอันแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานกับฮ่องกง และเป็นคู่ค้าทางการค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสอง งาน TBTHK ที่จัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ จะนำเสนอสินค้าและบริการจากฮ่องกงในอาเซียน อีกทั้งเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมการค้าระดับภูมิภาค ค้นหาคู่ค้าเพื่อลงทุน และสร้างโอกาสทางธุรกิจผ่านเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและห่วงโซ่อุปทานแบบผสมผสาน

“เป้าหมายหลักของเราคือการชูจุดแข็งของฮ่องกงในด้านสินค้าและบริการ และแนะนำเสนอการพัฒนาด้านต่างๆ ของฮ่องกง เพื่อแสดงให้กลุ่มธุรกิจไทย มองฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางธุรกิจนานาชาติชั้นนำ และในฐานะแพลตฟอร์มทางธุรกิจและการลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าอย่างสูงสุดในประเทศจีน ในขณะเดียวกัน เราต้องการแสดงให้เห็นว่ากลุ่มธุรกิจไทยและฮ่องกงสามารถร่วมมือกันสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่กันและกัน และรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการค้าอย่างยาวนานได้”

“โอกาสเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยหน่วยงานรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีวิสัยทัศน์ เช่นเดียวกับข้อตกลงทางการค้า เช่น เขตการค้าเสรี (FTAs) และ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ที่ช่วยประสานความร่วมมือในระดับภูมิภาค” นายโรนัลด์กล่าว

ฮ่องกงเป็นภูมิศาสตร์สำคัญของเอเชีย และทำหน้าที่ในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับนานาชาติ ด้วยข้อได้เปรียบที่เด่นชัดต่างๆ ได้แก่ การให้ความช่วยเหลือด้านระบบกฎหมาย การเงิน การลงทุน และภาษี ช่วยผลิตสินค้าและบริการการค้าคุณภาพสูงและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจและพัฒนาทางธุรกิจ ที่เชื่อมไปสู่ประเทศจีน ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอื่นๆ

ฮ่องกงเป็นสะพานระหว่างประเทศจีนและส่วนอื่นๆ ของโลก โดยมีบทบาทในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับกระแสเงินทุน สินค้า ข้อมูล และผู้คน เป็นสิ่งที่สำคัญเสมอมา แผนพัฒนาต่างๆ เช่น โครงการ Belt and Road Initiative และเขตเศรษฐกิจ Guangdong-Hong Kong-Macao Greater Bay Area (GBA)
แผนพัฒนาเหล่านี้ช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ขยายบทบาทของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน การค้า การขนส่ง และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม กล่าวได้ว่า ฮ่องกงเป็นพาร์ทเนอร์ในอุดมคติของบริษัทในไทยที่ต้องการค้นหาโอกาสจากเขตเศรษฐกิจพิเศษของฮ่องกงและตลาดนานาชาติ

ในปีนี้ งาน TBTHK จะเป็นแพลตฟอร์มแบบองค์รวมที่ธุรกิจการค้าของไทยจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของฮ่องกง ในฐานะประตูสู่โอกาสในประเทศจีนและตลาดระดับนานาชาติ และเพื่อเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ทางการค้าอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและฮ่องกง งานแสดงสินค้า (Trade Expo) ในครั้งนี้จะนำแสดงสินค้าคุณภาพสูงจากกว่า 100 บริษัท รวมถึง Chow Tai Fook, Green Common, B.Duck, Vita Green, Memorigin, Smart City consortium และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทจากฮ่องกงแนะนำสินค้าเหล่านี้สู่ตลาดภูมิภาค ในขณะเดียวกัน บริษัทจากไทยจะได้โอกาสพบปะกับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อการร่วมงานกันในอนาคต

ในระหว่างการรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนในครั้งนี้ บริษัทสินค้ามากมายจากฮ่องกง ไม่ว่าจะเป็น บริษัทแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ บ้านและของขวัญ ความยั่งยืนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่างได้แสดงตัวอย่างงานแสดงสินค้าให้สื่อมวลชนได้รับทราบ

สินค้าที่จัดแสดงในงานประกอบด้วย

  • กระเป๋าผ้า Kapture ซึ่งผสานเทคโนโลยีแอนตี้ไวรัส BioNTex™ และผ้า upcycled จากการผลิตผ้า
  • กระบอกน้ำสุญญากาศ Camel ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีสุญญากาศมาตั้งแต่ปี 1940
  • นาฬิกา Temporis ที่มีดีไซน์ทันสมัย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ประดับด้วยคริสตัล K1 แทนกระจกเทมเปอร์ นับเป็นการยกระดับสินค้าเมื่อเทียบกับนาฬิกาข้อมือยี่ห้ออื่นๆ ในกลุ่มราคาเดียวกัน
  • นาฬิกา Romago เป็นนาฬิกาแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เริ่มธุรกิจจากการสร้างนาฬิกาหรูแบบสั่งทำเฉพาะ ปัจจุบัน แบรนด์ให้ความสำคัญกับนาฬิกาที่โดดเด่นด้านดีไซน์โก้หรู โดยใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์และเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ในการพัฒนานาฬิกาดำน้ำ
  • Derangedsign เป็นสตูดิโอออกแบบสินค้าจากฮ่องกง ที่จะจัดแสดงชุด Coexistence ซึ่งประกอบไปด้วยถาด 2 ใบที่ถูกแกะสลักเป็นรูปทรงภูมิทัศน์ เหมาะสำหรับเสิร์ฟผลไม้ ลูกอม ถั่ว และอัญมณี ชุดถาดเซ็ทนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย
  • B.Duck เป็นแบรนด์สินค้าออกแบบลิขสิทธิ์ชื่อดังจากบริษัท Semk Products Ltd. จะนำเสนอโคมไฟรูปเป็ดอันโด่งดัง

นอกจากนี้ จะมีการจัดช่วงการเสวนา (Trade Talks) ระหว่างช่วงจัดแสดงงาน ซึ่งจะเน้นย้ำข้อได้เปรียบของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการค้า ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มสินค้าปลีก องค์กร และบริษัทนวัตกรรมที่จะมาร่วมกันในช่วงการเสวนาเพื่อพูดคุยในหัวข้อต่างๆ อาทิ การรังสรรค์อนาคตของการค้าปลีก การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยลิขสิทธิ์ การเปลี่ยนโฉม E-commerce และ การโอบรับความยั่งยืนและ ESG

วันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงาน จะมีกิจกรรมลุ้นรับของรางวัล ซึ่งรวมไปถึงสมาร์ทโฟน นาฬิกาTourbillon แท็บเล็ต และของรางวัลอื่นๆ ผู้ร่วมงานยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินในช่วงระยะเวลาวันงาน นอกจากนี้ ยังมีโฟโต้บูธซึ่งมีฉากหลังเป็นตึกอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง พร้อมด้วยรถตุ๊กตุ๊กติดป้าย TBTHK ที่จะทำให้ผู้ร่วมงานดื่มด่ำไปกับประสบการณ์แสนสนุก อีกทั้งเป็นการโปรโมตวัฒนธรรมของฮ่องกงและฉากอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยเข้าด้วยกันอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรา กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.hktdc.com/aboutus
ติดตามเราได้ที่ Twitter @hktdc และ LinkedIn

สยามยอชท์คลับ จุดนัดพบสุดชิคแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

สยามยอชท์คลับ คือ มิติใหม่ของร้านอาหารและบาร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผู้
มาเยือน เปิดประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ พร้อมสัมผัสกับสุนทรียรสของอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และเรื่องราววัฒนธรรมการกินของกรุงเทพฯ เมืองหลวงแห่งวิถีทางวัฒนธรรมแห่งอาหารระดับโลกได้ที่ สยามยอชท์คลับ รับประทานอาหารและพบปะสังสรรค์ที่แตกแต่งไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง สยามยอชท์คลับ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยที่ผู้มาเยือนจะได้รับประสบการณ์ครบสัมผัสทั้ง 5 ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เพื่อเติมเต็มความสุขของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ได้อย่างแท้จริง

ณัฐฑินี วิเศษชัยศิลป์
Assistant Director of Marketing Communication
Royal Orchid Sheraton Hotel& Towers

วันนี้ทีมงาน Toptotravel ได้รับเกียรติจาก คุณณัฐฑินี วิเศษชัยศิลป์ Assistant Director of Marketing Communication Royal Orchid Sheraton Hotel& Towers ด้พูดคุยกันเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในบรรยากาศสบายๆเป็นกันเอง
ได้เห็นถึงแนวคิดการออกแบบอันชาญฉลาด ของ สยามยอชท์คลับ เปิดมุมมองมิติใหม่ของร้านอาหารและบาร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อันกว้างไกลและทัศนคติที่ดี หลายหลากหลายเรื่องราวสำหรับในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้

สยามยอชท์คลับ ตั้งอยู่บนโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มองเห็นบรรยากาศที่สวยงามของทั้งฝั่งเมืองเก่าและฝั่งเมืองใหม่ได้อย่างชัดเจนแล้ว
ยังอยู่ใกล้กับถนนเยาวราชและเจริญกรุง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ผสมผสานวัฒนธรรมรวมถึงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและสมัยได้อย่างลงตัว เช่นอาคารที่ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง ไปรษณีย์กลาง

สยามยอชท์คลับ ไม่ใช่เป็นเพียงร้านอาหารและบาร์ แต่เป็น ‘จุดนัดพบสุดชิคแห่งใหม่’ ของคนกรุงเทพฯ เป็นสถานที่นัดรวมตัวกันสำหรับทุกเพศทุกวัย ทั้งกลุ่มเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะมารับประทานอาหาร พบปะสังสรรค์ ประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการ ปาร์ตี้ส่วนตัวหรือกิจกรรมอื่นสามารถนั่งดื่มนั่งชิลและเพลิดเพลินกับการฟังดนตรีสด หรือฟังเพลงจากดีเจชั้นนำได้ตามชอบ รวมไปถึงทำเลและบรรยากาศที่ดีเหมาะสมและให้บริการที่ดีที่สุด

เริ่มต้นสัมผัสแรกจากความสวยงามโดดเด่นของการตกแต่งภายใน และความสะดวกสบายรวมถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้บนโต๊ะ ตามด้วยการสัมผัสได้ถึงกลิ่นเครื่องเทศของไทยและลิ้มรสชาติอาหารที่หลากหลายไปพร้อมกับจิบไวน์ชั้นเลิศระดับโลก เติมเต็มความสุขให้ครบทุกสัมผัสกับการแสดงดนตรีสดที่คอยบรรเลงขับกล่อมที่ช่วยเพิ่มสุนทรียรสของการรับประทานอาหารให้มีอรรถรสยิ่งขึ้นดำเนินไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร

โซนการทำอาหาร ที่นี่ถูกออกแบบเป็นครัวเปิด (open-kitchen) เพื่อให้มองเห็นการทำงานของเหล่าเชฟที่ประสานสัมพันธ์กันในทุกขั้นตอนของปรุงอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่ที่ผสมผสานวิธีการปรุงแบบชาวตะวันตกให้เข้ากับวัฒนธรรมการปรุงอาหารแบบเอเชียดั้งเดิม รวมถึงกระบวนการเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายของไทยซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

Crab Paccheri

ส่วนพื้นที่สำหรับรับรอง มีโซนที่นั่งให้เลือกทั้งแบบ indoor (ห้องแอร์) และนั่ง
ชิลล์ริมแม่น้ำแบบ outdoor เพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและสัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ในแบบที่เป็นคุณตามใจปรารถนา นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพีสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกัน สยามยอชท์คลับ ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดได้ได้หลากหลายรูปแบบ

อาหารที่สยามยอชท์คลับ มีคอนเซปต์และรูปแบบโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จากการรังสรรค์ โดยฝีมือเชฟนุ ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ หัวหน้าพ่อครัว สยามยอชท์คลับ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน แอนด์ ทาวเวอร์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารในสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์ ที่ผสมผสานวิธีการปรุงอาหารระหว่างอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่กับอาหารแบบเอเชียต้นตำรับ

เชฟนุ-ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ
Cod Fish Miso Glazed
Chili Garlic White Sea Prawns

เชฟนุ-ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ
หัวหน้าพ่อครัว สยามยอชท์คลับ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน แอนด์ ทาวเวอร์
ความหลงใหลในการทำอาหารของเชฟนุ เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากคุณย่า ผู้ซึ่งมักจะเรียกใช้ให้เขาช่วยงานในครัวอยู่เสมอ เชฟนุในวัยนั้นแม้จะไม่ชอบ เพราะกลัวการสัมผัสเลือดหรือเห็นเนื้อเปื้อนเลือด แต่ด้วยความรักในการทำอาหาร และได้เรียนรู้มากขึ้นจากการไปจับจ่ายซื้อของในตลาดสด จนทำให้มีความเข้าใจและกลายมาเป็นผู้ที่ความเชี่ยวชาญในการสรรหาวัตถุดิบในทุกวันนี้

Broccolini Salad
Octopus
Black onyx Black Angus, Rangers Valley farms – Rib-eye marble
Cod Fish Miso Glazed
Boston Lobster Capellini
Banana Caramel Chocolate

เส้นทางสู่อาชีพเชฟของเชฟนุ เริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เดินทางไปศึกษาด้านไอทีที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เชฟนุมีความจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงชีพควบคู่ไปกับเรียนหนังสือ เริ่มด้วยการทำงานเป็นผู้ช่วยในครัวที่ร้านอาหารไทยซึ่งเป็นของพี่สาว มีโอกาสได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ส่วนผสม ขั้นตอนและวิธีการทำอาหารไทยจากพี่สาว จนเกิดแรงบันดาลใจและมีใจรักในการทำอาหาร ดังนั้น เมื่อจบการศึกษาด้านไอทีแล้ว เชฟนุจึงเดินหน้าตามความหลงใหลของตนเอง คิดสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ ขึ้นโดยการใช้กลิ่นและรสชาติที่คล้ายคลึงกันของส่วนผสมที่หาได้แล้วนำมาดัดแปลงให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่น

Ahi Tuna
Black onyx Black Angus, Rangers Valley farms – Rib-eye marble

นอกจากนี้ เชฟนุยังเคยเป็นหัวหน้าพ่อครัวที่โรงแรมอาหารเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ความสำเร็จของเชฟนุ นั้นมาจากการที่เชฟได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานในหน้าที่ต่าง ๆ ของคนทำครัว ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยเชฟ (Commis 1) ผู้ช่วยรองหัวหน้าเชฟ (Demi Chef) เชฟประจำห้องอาหาร (Chef de Partie) รองหัวหน้าเชฟ (Sous Chef) ในโรงแรมชั้นนำระดับห้าดาวหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เชฟนุมี เชฟกอร์ดอน แรมซีย์ เป็นไอดอลและเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์และบุคลิกที่โดดเด่น โดยคติประจำใจในการทำงานของเชฟนุคือ “เมื่อสนุกกับทุกสิ่งที่ทำและทำอย่างความสุข สิ่งนั้นก็จะนำพาความสุขและความสำเร็จมาให้เรา”

นอกจากนี้ยังมีเครื่องที่เป็นซิกเนเจอร์ของสยามยอชท์คลับ อาทิ ‘Pier No.3’
(นำวิสกี้ญี่ปุ่น คาคูบิน และเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ไซรับ มาผสมผสานกันและเสิร์ฟในผลสับปะรดสดทั้งลูก) ‘Fireboat’ (เป็นการนำเหล้าวอดก้า มาลิบู คาราเมลไซรับ ขิงสด พริกและหอมแดงมาผสมผสานกัน จนได้ค็อกเทลที่รสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและสมุนไพรไทย) ‘Maritime’ (เป็นการผสมผสานเหล้าโซจูของเกาหลี กับอเปโรล เบียงโค่ เวอร์มุต สปาร์คกลิ้งไวน์ และเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมแท่งรสผลไม้ ที่มีให้เลือก 3 รส ได้แก่เสาวรส ลิ้นจี่ สับปะรด) ‘Catamaran’ (เป็นการนำเหล้ารัมชั้นเลิศของไทย “พระยารัม” มาผสมผสานกับบลูคูราเซา น้ำเชื่อมมะม่วง น้ำเกรปฟรุต ใบสะระแหน่และเสิร์ฟพร้อมกับส้มโอชิ้นใหญ่) รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เช่น น้ำพันช์ผลไม้ สมูทตี้ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือจะเป็นสูตรเฉพาะในแบบที่คุณโปรดปราน

สยามยอชท์คลับ สถานที่แฮงค์เอาท์สุดชิลแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดรับประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ที่แตกต่างของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์สำหรับทุกคนและตอบสนองครบทุกการสัมผัสอย่างแท้จริง

สยามยอชท์คลับ ตั้งอยู่ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 01.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ https://www.sycbangkok.com
โทร. 02 266 0123 หรืออีเมล: siamyachtclub@sheraton.com

ค้นพบความอร่อยและรสชาติระดับตำนานอาหารจีนกวางตุ้งดั้งเดิม ห้องอาหารจีนไดนาสตี้

บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ “ติ่มซำแบบไม่อั้น” ใจกลางเมือง ห้องอาหารจีนไดนาสตี้ ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ Toptotravel ชวนมาจัดหนักจัดเต็มอิ่มอร่อยแบบสุดคุ้ม ที่ห้องอาหารจีนไดนาสตี้ อาหารจีนกวางตุ้งต้นตำรับ นำเสนออาหารร่วมสมัยที่โด่งดังและมรดกตกทอด เพื่อเชื่อมโยงครอบครัวและชุมชนผ่านอาหาร ความอบอุ่น และบริการที่หลากหลายเต็มไปด้วยรสชาติที่หลากหลายคัดสรรวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี เพื่อนำมาปรุงรสและมอบความอร่อยให้กับทุกท่านห้องอาหารไดนาสตี้ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ จัดบุฟเฟ่ต์ติ่มซำอิ่มไม่อั้นกับเมนูอาหารจีนสุดเลิศ ประกอบไปด้วยเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย, ซุป, หลากหลายเมนูติ่มซำกว่า 35 ชนิด, เมนูข้าวหรือก๋วยเตี๋ยว และของหวาน เลือกทานอาหารมื้อที่พิเศษกว่าใครด้วยโปรโมชั่นสุดพรีเมียม รับประกันความพอใจ ในราคา 988 บาทถ้วน/คน สำหรับบุฟเฟต์ติ่มซำ (รวมเครื่องดื่มชาจีนร้อน–เย็นแบบไม่อั้น) ในเวลา 2ชั่วโมง ราคานี้สงวนสิทธิ์ไม่ร่วมกับส่วนลดต่าง

ค้นพบความอร่อยและรสชาติระดับตำนานอาหารจีนกวางตุ้งดั้งเดิม และเมนูสุดประณีตในยุคจักรพรรดิจากเชฟผู้เชี่ยวชาญเชฟก้องซุ่น แซ่เลี่ยง ห้องอาหารจีนไดนาสตี้โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งและย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ เปิดให้บริการอาหารจีนกวางตุ้งดั้งเดิม เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำห้องอาหารจีนไดนาสตี้ถอดแบบห้องอาหารจีนในตำนานที่มีชื่อเดียวกัน เปิดเมื่อปี พ.ศ. 2526 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว ห้องอาหารตกแต่งอาหารให้หรูหรา สวยงาม ประหนึ่งราวกับอาหารจีนที่ดีที่สุดรวมถึงอาหารระดับพรีเมี่ยม ผ่านการรังสรรค์เมนูจาก เชฟก้องซุ่น แซ่เลียง มีความชำนาญและเชี่ยวชาญด้านการทำอาหารจีนกวางตุ้งเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการใช้ส่วนผสมที่มีความสดใหม่ และความพิถีพิถันในการปรุงอย่างมืออาชีพ ประสบการณ์ด้านอาหารจีนให้คุณได้เลือกลิ้มลอง

ห้องอาหารจีนไดนาสตี้มีขนาด 800 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้นที่ 24 ของโรงแรมพร้อมทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานคร โดยมีพื้นที่รองรับลูกค้า ได้ถึง 200 ที่นั่ง ทั้งยังมีบริการห้องวีไอพีส่วนตัว 5 ห้อง เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือเลี้ยงสังสรรค์เฉพาะกลุ่ม ภายในตกแต่งแบบเอเชียร่วมสมัย

ห้องอาหารจีนไดนาสตี้แห่งนี้มีทั้งเมนู a la carte ถึง 102 เมนูสัมผัสถึงรสชาติของอาหารจีนกวางตุ้งแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย อย่าง สลัดกุ้งไดนาสตี้, ไก่แช่เหล้าแมงกระพรุนยำ, ลิ้นเป็ดพะโล้, ซาซิมิกุ้งลอบสเตอร์ และ หมูหัน หรือจะเลือกเมนูจานเด็ดประจำห้องอาหารจีนไดนาสตี้อย่าง กุ้งมังกรผัดกระเทียม ผัดเต้าซี่ ผัดเสฉวน หรือ ผัดซอสเอ็กซ์โอ, ขาห่านอบหม้อดิน, หมูผัดซอสเอ็กซ์โอ, เนื้อปลาเก๋าแดงผัดเปรี้ยวหวาน, ข้าวผัดเศรษฐี, รังนกแปะก๊วยกะทิตุ๋นในมะพร้าวอ่อนและอีกมากมาย เติมเต็มความอร่อยแบบจัดหนักจัดเต็มกับคาราวานติ่มซำไส้ทะลัก คำโต ณ ห้องอาหารจีนที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในย่านใจกลางกรุง ด้วยบรรยากาศและการตกแต่งห้องอาหาร รวมไปถึงสไตล์อาหารจีนกวางตุ้งต้นตำรับ เราพร้อมให้บริการความอร่อยแบบจัดเต็มกับติ่มซำบุฟเฟต์ ไม่ว่าจะเป็นของนึ่ง ของทอด ยกขบวนมาเสิร์ฟมากกว่า 35 รายการ

Dynasty ร้านตกแต่งสวยงาม พนักงานต้อนรับและบริการดีมาก มาเป็นคู่ ครอบครัว กลุ่มเพื่อนนั่งทานอาหารแบบสบาย สัมผัสความอร่อยมื้อใหญ่ ติ่มซำรสชาติต้นตำรับจากเชฟอาหารจีนยอดฝีมือระดับตำนาน รังสรรค์เมนูความอร่อยโดย เชฟก้องซุ่น แซ่เหลียง หัวหน้าพ่อครัวประจำห้องอาหาร ด้วยวัตถุดิบคุณภาพเกรดพรีเมียม สะอาด สดใหม่ อิ่มอร่อยแบบไม่อั้นกับบุฟเฟต์ติ่มซำ สดใหม่จากเตาทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวหลอดปูอลาสก้า, ขนมจีบเนื้อปูนึ่งเห็ดชิเมจิ, ฮะเก๋ากุ้ง, เกี๊ยวกุ้งนึ่งซอสปักกิ่ง, ซาลาเปาไส้ไข่เค็มลาวา, กรรเชียงปูนึ่ง, เผือกทอดไส้กุ้ง, ขนมชาเขียวทอดไส้แปะก๊วย และเมนูความอร่อยอีกมากมายที่จะชวนให้คุณน้ำลายสอ ในราคา 988 บาทถ้วน /ท่าน สำหรับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำ (รวมเครื่องดื่มชาจีนร้อน – เย็น) ในเวลา 2 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – รับออเดอร์สุดท้ายของติ่มซำบุฟเฟ่ต์เวลา 20.00 น. ราคานี้สงวนสิทธิ์ไม่ร่วมกับส่วนลดต่างๆ อาหารแต่ละเมนู ทานแล้วรับรู้ได้ว่าวัตถุดิบดี มีความพรีเมี่ยม แถมรสชาติอร่อยถูกใจ

อรทัย จูเปาะ ผู้ช่วยผู้จัดการ

Dynasty – Centara Grand at CentralWorld
ห้องอาหารจีนไดนาสตี้ ตั้งอยู่ชั้น 24 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 12.00 น. – 22.30. น.
(รับออเดอร์สุดท้าย 21.30 น. สำหรับเมนูอลาคาร์ท)


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่

โทร. 02-100-6255
หรือ อีเมล์: diningcgcw@chr.co.th

ICS ชวนเปิดประสบการณ์ความอร่อยกับคาเฟ่ทุเรียนแห่งแรกในไทย

กับหลากหลายเมนูสร้างสรรค์ อร่อยได้ตลอดปี ณ ร้าน “ทุเรียนมหานคร”

ICS (ไอซีเอส) ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ แห่งใหม่ฝั่งธนบุรีตรงข้ามไอคอนสยาม ขอเชิญชวนสาวกทุเรียนมาเปิดประสบการณ์ทุเรียนรูปแบบใหม่ ที่ร้าน “ทุเรียนมหานคร” คาเฟ่ทุเรียนแห่งแรกในประเทศไทย ที่ชั้น 4 ไอซีเอส ซึ่งได้นำราชาผลไม้อย่างทุเรียนมาแปรรูปเป็นขนมหวาน ในรูปแบบที่แตกต่าง แต่ยังคงรสชาติและเนื้อสัมผัสแบบทุเรียน สร้างความแปลกใหม่ให้กับทุเรียนเลิฟเวอร์ ซึ่งมีหลากหลายเมนูทั้ง ทาร์ตทุเรียน ชูครีมทุเรียน น้ำทุเรียนปั่น ข้าวเหนียวทุเรียน และไอศครีมซอฟเสิร์ฟ รวมถึงทุเรียนหลากหลายสายพันธุ์หายากที่มีหลายแบบให้เลือกตามความชอบ หมุนเวียนมาให้ทุเรียนเลิฟเวอร์ได้ลิ้มรสกันตลอดทั้งปี
จุดเริ่มต้นของร้านทุเรียน มหานคร คุณณฐมน ธนภัคจิรากุล ประธานบริษัท ธนา ฟรุตส์ จำกัดเล่าว่า ร้านทุเรียน มหานคร เกิดจากความตั้งใจในการต่อยอดธุรกิจส่งออกทุเรียนของครอบครัว ซึ่งมีสวนทุเรียนอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดชุมพร ประกอบกับสวนทุเรียนให้ผลผลิตตลอดทั้งปี แต่ทุเรียนจะได้รับความนิยมในช่วงหน้าร้อนหรือประมาณ พฤษภาคม ถึง มิถุนายน เท่านั้นจึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคที่ชื่นชอบทุเรียนทุเรียนได้กินทุเรียนตลอดทั้งปี ในช่วงแรกทางร้านเราจำหน่ายเนื้อทุเรียนแบบแกะเปลือกให้ และเลือกเนื้อทุเรียนที่ชอบได้เลย ไม่ต้องเสี่ยงว่า หากซื้อทั้งลูกแล้ว แกะออกมาจะเป็นอย่างไร และซื้อตามปริมาณที่ต้องการกินได้เลย จะรับประทานเพียง 1-2 พู ก็สามารถซื้อได้ หลังจากทำธุรกิจไปได้ซักระยะ จึงอยากต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม ที่สามารถนำทุเรียนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับทุเรียน และเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคได้รับประทานทุเรียน ที่แตกต่างจากเดิม จึงได้ตัดสินใจทำคาเฟ่ทุเรียน และตั้งชื่อว่า ทุเรียน มหานคร

“ทุเรียน มหานคร เป็นชื่อที่ตั้งใหม่เพื่อสาขาไอซีเอส นี้โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นสาขาแรกของร้าน โดยมีไอเดียมาจากทำเลที่ตั้งที่ ไอซีเอสแห่งนี้ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คอมเพล็กแห่งใหม่ย่านฝั่งธนบุรี เป็นส่วนเติมเต็มความสมบูรณ์จากไอคอนสยาม ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย โดยเฉพาะชาวจีน ที่ชื่นชอบการรับประทานทุเรียนอย่างมาก และในอนาคตอันใกล้นี้ ไอซีเอส ยังมี “SIRIRAJ H Solutions” ศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจร และโรงแรมระดับโลก ฮิลตัน การ์เด้น อินน์ กรุงเทพ ไอซีเอส เจริญนคร อีกด้วย” คุณณฐมน กล่าว
สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ที่อยากให้ทุกคนได้ลองชิมคือเมนู “น้ำปั่นทุเรียน” ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน มีส่วนผสมของน้ำมะพร้าวกะทิหอม ปั่นกับน้ำทุเรียน ทำเป็นซอสทุเรียน ให้มีสีเหลืองนวล หลังจากนั้นจะนำมาปั่นกับเนื้อทุเรียนอีกครั้งซึ่งจะให้รสชาตที่กลมกล่อมมีกลิ่นหอมจากทุเรียนและกะทิ
นอกจากนี้ยังมีเมนูไฮไลท์ “ข้าวเหนียวทุเรียนทองคำ” เป็นข้าวเหนียวยัดไส้ทุเรียนพูเต็มๆ และยังพิเศษโดยการผ่นทองคำบนพูทุเรียนเพื่อเพิ่มมูลค่าความสวยงามที่แตกต่าง อีกทั้งข้าวเหนียวมูลเป็นสูตรโบราณพิเศษที่ใช้ข้าวเฉพาะข้าวพันธุ์ดี เมล็ดเรียวยาว และผ่านการปลูกแบบปลอดสารพิษ เมื่อนึ่งสุกแล้ว จะมีความอ่อนนุ่ม เมล็ดเรียงตัวสวย

“ทาร์ตทุเรียน” ซึ่งใช้แป้งทาร์ต นำเข้าจากฝรั่งเศส ซึ่งเวลาที่รับประทานทาร์ตจะให้ความกรอบ แต่ไม่รุ่ย รูปลักษณ์ภายนอกของทาร์ตจะออกแบบให้เหมือนทุเรียนโดยการหยอดครีมเป็นหนามทุเรียน ประกบด้วยเนื้อทุเรียนชิ้นใหญ่ ตกแต่งด้วยก้านทุเรียนที่ทำจากคุกกี้ชุบช็อคโกแลต นอกจากนี้ยังมี ชูครีมทุเรียน ที่ด้านในเป็นไส้ทุเรียน กรอบนอก นุ่มใน และมีกิมมิกด้วยขั้วทุเรียนเช่นกัน
สำหรับคนที่อยากลองทุเรียน แต่ยังลังเล ทางร้านแนะนำ ไอศครีมซอฟเสิร์ฟรสทุเรียน ให้รสชาตของไอศครีมและกลิ่นทุเรียนเบาๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลองชิม ไม่เพียงขนมหวานที่ทำจากทุเรียนเท่านั้น ร้านทุเรียนมหานคร ยังมีทุเรียน หลากหลายพันธุ์มาขายที่หน้าร้านตลอดทั้งปี ทั้งพันธุ์แปลกหายากเช่น ทองย้อยฉัตร สาวน้อยตกน้ำ หรือสายพันธุ์ยอดนิยม ทั้งทุเรียนหมอนทอง ก้านยาว ชะนี ก็หมุนเวียนมาตามแต่ละช่วง ไม่เพียงเท่านั้นทางร้านยังได้นำทุเรียนมาแปรรูป เป็นทุเรียนทอดอบรีดน้ำมัน ซึ่งใช้เวลาในการอบรีดยาวนาวกว่า 6 – 8 ชั่วโมง ทำให้กรอบอร่อย เก็บได้นาน และไม่มีกลิ่นเหม็นหืนอีกด้วย นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูของหวานแสนอร่อยที่ทานคู่กับทุเรียน อย่างเมนูข้าวเหนียวมะม่วงและเมนูไอศครีมซอฟเสิร์ฟรสมะม่วง ให้ได้ลิ้มลองความอร่อยอีกด้วย
ไม่ว่าจะวันไหนๆ คนรักทุเรียนห้ามพลาดสามารถลิ้มรสความอร่อยกับคาเฟ่ทุเรียนได้ทุกวัน ที่ร้านทุเรียนมหานคร ชั้น 4 ICS ตรงข้ามไอคอนสยาม

ทุเรียนมหานคร #ICS #ไอซีเอส #ความสุขของทุกวันที่ไอซีเอส #AlwaysAGoodDay

Rado Centrix เสียงกระซิบบนเนินทรายแห่งความฝัน

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ Rado ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนาฬิกาเผยโฉมผลงานใหม่ล่าสุด “Rado Centrix” มาในช่วงฤดูร้อนจัดแบบนี้ เพราะเสน่ห์อันน่าหลงใหลของนาฬิกาเรือนล่าสุดเปรียบเสมือนสายลมที่พัดผ่านทะเลทรายและความร้อนให้ความรู้สึกสบายได้อย่างน่าทึ่ง Centrix เน้นการใช้โทนสีทอง สีเหลืองสด และสีน้ำตาล สร้างสรรค์ขึ้นมาจากไฮเทคเซรามิกและคริสตัลแซฟไฟร์อันเป็นความเชี่ยวชาญของแบรนด์ ผสานรวมกับกลไกการเดินที่ล้ำสมัยและแม่นยำทำให้ Centrix รุ่นนี้พัฒนาจากรุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปีค.ศ.2010 มาไกลเหลือเกิน ทั้งวัสดุ นวัตกรรม และการดีไซน์อันงดงามส่งให้ Centrix กลายเป็นนาฬิกาเรือนหรู ที่น่าเชื่อถืออย่างไม่มีใครเทียบได้


ความโดดเด่นของ Centrix รุ่นใหม่นั้นชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น เริ่มจากรูปทรงโค้งมนดูอ่อนโยน วัสดุไฮเทคเซรามิกเบา ดูดี มีความทนทาน และที่พิเศษคือสัมผัสนุ่มนวลอันน่าหลงใหลที่เพิ่มมากขึ้นประหนึ่งเป็นเสียงกระซิบบนเนินทรายแห่งความฝัน นอกจากความอ่อนโยนที่เพิ่มขึ้นแล้ว Centrix รุ่นนี้ยังมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ช่องหน้าปัดกว้างขึ้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.5 มม. ด้านบนเสริมกระจกยาวจรดขอบตัวเรือน ขณะเดียวกันก็มีรุ่นเล็กเป็นอีกทางเลือกซึ่งมาในขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 30.5 มม. ทั้งสองแบบมีความสง่างามในแบบฉบับของตัวเองตอกย้ำคำกล่าวที่ว่า “ความเรียบง่ายคือจิตวิญญาณแห่งความสง่างาม”


คริสตัลแซฟไฟร์ที่ใช้กับ Centrix รุ่นนี้เป็นคริสตัลแซฟไฟร์รูปแบบใหม่ มีความกลม ดีไซน์ขอบโค้งมน ต่างจากขอบคมๆ แบบเก่าในนาฬิกาเรือนอื่น ให้ทั้งความรู้สึกสบายตาและให้ผิวสัมผัสเรียบสบาย โดยมีการเคลือบสารกันแสงสะท้อนไว้ทั้งสองด้าน ช่วยให้มองเห็นหน้าปัดได้ชัดเจนส่วนพื้นผิวนั้นนักออกแบบใช้เทคนิคพิเศษทำเป็นรูปแบบซันเรย์ ปั๊มแล็กเกอร์จนได้พื้นผิวเรียบลื่นสมบูรณ์แบบ Centrix มีสีหน้าปัดให้เลือกตั้งแต่สีเข้มแนวหรูหรา เฉดสีเงินที่ขับผิวแบบซันเรย์ให้โดดเด่น รวมทั้งเรือนที่เล่นสีพื้นหลังให้มีทั้งความเข้มและสว่างในตัว เข้ากับดัชนีบอกเวลาของแต่รุ่นอย่างลงตัว



ความพิเศษบนหน้าปัดยังไม่หมดเท่านี้ เพราะโลโก้ Rado บน Centrix รุ่นใหม่ยังมีขนาดใหญ่ขึ้น และแบรนด์นำคำว่า “Jubilé” กลับมาอยู่บนหน้าปัดอีกครั้ง บ่งบอกถึงการนำอัญมณีล้ำค่ามาประดับไว้บริเวณดัชนีบอกเวลา ถัดลงมาด้านล่างเป็นช่องบอกวันที่ซึ่งไม่ใช่ทรงกระบอกเรียบๆ ที่หลายคนคุ้นตาอีกต่อไป เพราะ Rado ออกแบบให้มุมทั้งสี่โค้งมนสอดคล้องกับดีไซน์โดยรวมของรุ่นนี้ ส่วนตรงจุดยึดเม็ดมะยมก็มีการเลเซอร์เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น เมื่อพลิกไปด้านหลังก็จะพบกับฝาหลังดีไซน์ใหม่ ใช้เลเซอร์สลักหมายเลขซีเรียล และเช่นเดียวกับนาฬิกาออโตเมติกของ Rado ทุกรุ่นคือใช้คริสตัลแซฟไฟร์เพื่อให้เราเห็นกลไกการเดินพร้อมแฮร์สปริง NivachronTM ป้องกันสนามแม่เหล็ก สำรองพลังงานได้ 48 ชั่วโมง (รุ่นเล็ก) และ 80 ชั่วโมง (รุ่นใหญ่) ทุกเรือนผ่านการทดสอบความแม่นยำถึง 5 ตำแหน่ง สำหรับ Centrix รุ่นควอตซ์มีคุณสมบัติล้ำสมัยพร้อมเทคโนโลยีชิปคอมพิวเตอร์ ตรวจจับการเคลื่อนไหวกะทันหันหรือการกระแทกแล้วตอบสนองอัตโนมัติ เพื่อให้มั่นใจได้ถึงการบอกเวลาที่น่าเชื่อถือเสมอ ปิดท้ายด้วยคุณสมบัติเด่นอีกหนึ่งอย่างของนาฬิกาควอตซ์ คือมีความแม่นยำสูงมาก ไม่ว่าอุณหภูมิหรือความชื้นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ไม่มีผลใดๆ ต่อการทำงานทั้งสิ้น


นอกจากตัวเรือนแล้ว องค์ประกอบส่วนอื่นก็ได้รับการออกแบบและตรวจสอบอย่างประณีตทุกขั้นตอน แบรนด์ปรับสายนาฬิกาให้เข้ากับรูปทรงของตัวเรือนอย่างงดงาม แทนที่ตัวล็อกแบบเดิมด้วยหัวสายบักเคิ้ลแบบพับสามทบเพิ่มความปลอดภัยให้ Centrix รุ่นใหม่ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้พร้อมขึ้นแท่นเป็นนาฬิกาเรือนโปรดของทุกคนทันที

กลับมาอีกครั้ง !“เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II”

กลับมาอีกครั้ง ! ททท. เปิดอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ติดอาวุธผู้ประกอบการไทยต่อเนื่อง เจาะบทเรียนเพื่อพัฒนาทักษะต้อนรับนักท่องเที่ยวยุค Next Normal

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเข้าร่วมอบรม หลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรม หลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com ครอบคลุมบทเรียนการทําตลาดดิจิทัล การออกแบบสินค้าและบริการ ด้านการท่องเที่ยวสอดรับเทรนด์และพฤติกรรมนักท่องเที่ยว พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ร่วมจัดกิจกรรม ส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของพันธมิตร เพื่อต่อยอดโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้โครงการ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters” ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับ ททท. เล็งเห็นความสำคัญของการมุ่งมั่นพัฒนาฝั่ง ห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมแก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้รับ ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริม ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงได้ต่อยอดกิจกรรมอบรมหลักสูตรออนไลน์ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com โดยเนื้อหาจะครอบคลุม ถึงเรื่องการเพิ่มทักษะการตลาดดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมและการบริการสู่ความเป็นเลิศ เพิ่มเจาะลึก เทรนด์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุค NEXT NORMAL เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เสริมภาพลักษณ์ และ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว เตรียมพร้อมสู่การเป็นเจ้าบ้านที่ดี

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า จากความสำเร็จของการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการภายใต้โครงการ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters” ในพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ประกอบกับ ททท. เล็งเห็นความสำคัญของการมุ่งมั่นพัฒนาฝั่ง ห่วงโซ่อุปทาน (Shape supply) อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมแก่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ได้รับ ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยพัฒนาส่งเสริม ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย จึงได้ต่อยอดกิจกรรมอบรมหลักสูตรออนไลน์ “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” ผ่านระบบ E-Learning ทางเว็บไซต์ www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com โดยเนื้อหาจะครอบคลุม ถึงเรื่องการเพิ่มทักษะการตลาดดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมและการบริการสู่ความเป็นเลิศ เพิ่มเจาะลึก เทรนด์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวยุค NEXT NORMAL เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เสริมภาพลักษณ์ และ สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว เตรียมพร้อมสู่การเป็นเจ้าบ้านที่ดี 
       
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II” จะได้รับตราสัญลักษณ์โครงการ“เจ้าบ้านที่ดี”และได้รับสิทธิประโยชน์เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ ททท. จัดขึ้น ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายกับแพลตฟอร์มพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อาทิ Traveloka, Wongnai, Gowabi, Local alike และ PPT Blue Card เพื่อเพิ่ม โอกาสทางการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว และถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวให้มีความพร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ตลอดจนช่วยผลักดันการขับเคลื่อน การท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตในเชิงคุณภาพอย่างยั่งยืน (High value and sustainability)

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมอบรมหลักสูตร “เจ้าบ้านที่ดี New Chapters Phase II”
สามารถ ลงทะเบียนอบรมได้ทาง เว็บไซต์
www.อบรมหลักสูตรเจ้าบ้านที่ดี.com
หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ทาง Line Official : @Thaisuperhost

“AKA” อากะ สาขา ฟิวเจอร์ พาร์ค ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นสุดพรีเมียม

“AKA” บุฟเฟต์ ยอดนิยมที่ ยากินิกุ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อิ่มจุกแบบไม่อั้น
ครั้งแรกกับประสบการณ์ใหม่ที่ “AKA” อากะ สาขา ฟิวเจอร์ พาร์ ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นสุดพรีเมียมที่เราเลือกมาลิ้มรสความอร่อยกับกลุ่มแก๊งค์เพื่อนครั้งนี้ อากะ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในเครือ เซ็น กรุ๊ป ที่ยังคงครองใจเหล่าสาวกคนรักปิ้งย่าง เลือกที่ ฟิวเจอร์ พาร์ค หนึ่งใน 7 สาขา ที่มีการครีเอทเมนูใหม่ ปรับราคาใหม่ มีการปรับเปลี่ยนบรรยากาศร้านใหม่ ซึ่งเริ่มทั้งหมด 7 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลเวสท์เกต, เซ็นทรัลอีสต์วิลล์, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เซ็นทรัลพระราม, เซ็นทรัลพัทยาบีช, เดอะมอลล์บางกะปิ และภายในสิ้นปีจะทยอยปรับเปลี่ยนให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ เรียกว่าเลือกอิ่มกันจุกๆ กับการคัดสรรวัตถุดิบ ทั้งสายหมู สายเนื้อ และสายซีฟู้ด รวมเมนูยอดฮิตตลอดกาลมาในรูปแบบถาดทองสุดพรีเมียม มีให้เลือก 2 แบบ คือ AKA Signature Meat Set มีพอร์คชอปซอสอากะ, หมูสันคอซอสอากะ, หมูติดมันซอสอากะ, เนื้อติดมัน และ AKA Signature Mix Set มีเนื้อสันคอ AUS, เนื้อฮิระนิกุ, พอร์คชอปซอสอากะ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และกุ้งแม่น้ำ ความลงตัวที่ครีเอทออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

AKA ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ ที่ ฟิวเจอร์พาร์ค ตั้งอยู่ชั้น B เดินหาไม่ยาก ถามกับเจ้าหน้าที่อิมฟอเมชั่นได้เลย ที่นี่มีที่นั่งเป็นสัดส่วน นั่งสบายๆ พนักงานต้อนรับแนะนำเมนูต่าง บรรยากาศร้านตกแต่งร้านดูทันสมัยและสะท้อนตัวตน ไม่ว่าจะเป็นภาพบรรยากาศการทานที่สนุกสนานเฮฮา ภาพเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เช่น พอร์คชอปซอสอากะ, อากะมะนาวชอต และ Signature Menu อร่อยตั้งแต่ทำยันคำแรก อิ่มจุกได้แบบไม่อั้น กับ 19 เมนูใหม่ ครบรสยิ่งขึ้น มีทั้งซอสยูสุ และซอสเนยกระเทียม, เสี่ยวหลงเปาซุปต้มยำสุดพรีเมียม เมนูซีฟู้ดซอสมะนาวเสิร์ฟแบบไม่อั้น พร้อมของหวานแบบใหม่ S’mores (สมอร์ส) ปิดท้ายมื้อแบบจุกๆ

AKA Signature Mix Set’ Premium Buffet
เสี่ยวหลงเปาซุปต้มยำ

AKA Signature Mix Set’ Premium Buffet : เนื้อสันคอ AUS, เนื้อฮิระนิกุ, พอร์คชอปซอสอากะ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และกุ้งแม่น้ำ platter นี้ ครบทุกองค์ประกอบ ทั้งเนื้อ หมู และซีฟู้ด รสชาติถึงความเป็นปิ้งย่างด้วยซอสเฉพาะตัวของอากะ จัดหนักเมนูใหม่ มีทั้งแบบราดซอสยูสุ ได้รับหอมสดชื่นอย่างจัง เมนูย่างเนยกระเทียม กลุ่มนี้จะหอมลั่นมากกก กลิ่นและรสของเนยกระเทียมถือว่ากินกับอะไรก็เข้ากันมาก (เมนูทั้งหมด: หมูสันคอซอสยูสุ, เนื้อแกะซอสยูสุ, เบคอนเนื้อ AUS ซอสยูสุ, เนื้อฮิระนิกุซอสยูสุ, เนื้อย่างเนยกระเทียม, หมูย่างเนยกระเทียม, เห็ดเข็มทองย่างเนยกระเทียม, เสี่ยวหลงเปาซุปต้มยำ,ไข่ปลาหมึกซอสอากะ, ไข่ปลาหมึกซอสมะนาว, ปลากะพงซอสมะนาว, ปลากะพงซอสพริกไทยดำ,ไชเท้าดอง, กิมจิมะละกอ, ไก่ทอด และขนมสมอร์ส)

เนื้อแกะซอสยูสุ
อากะมะนาวชอต
อากะมะนาวชอต

โปรโมชั่นสุดคุ้มไฮไลท์มาเต็ม!
โหมดไหนก็ได้หมด ราคาเริ่มต้น 359++ จ่ายเท่านี้ จะโหมดใหม่ เลือกโหมดไหนก็คุ้มค่ามาก รวมเมนูดั้งเดิมนับเป็น 100 เมนู

แวะที่ AKA Japanese Restaurant
Facebook : https://www.facebook.com/akarestaurant

AKASIGNATUREPLATTER

#อากะได้ทุกโหมด #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel
AKAYakiniku #AKAPassionForGrill #Buffet

𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜

พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร หรือ คุณหมอแยม แพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและศาสตร์ชะลอวัย ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม

พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร หรือ คุณหมอแยม แพทย์เฉพาะทางผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและศาสตร์ชะลอวัย ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม ด้วยประสบการณ์และฝีมือด้านความงามที่ผ่านมา สามารถการันตีด้วยรางวัลที่ปรากฏและเสียงตอบรับผลลัพธ์ของผู้ใช้จริง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เพื่อผลลัพธ์ที่ตรงใจกับความาต้องการของลูกค้า ทำให้เสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการ ทำให้สื่อโซเชียลให้ความสนใจ จึงปรากฏเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ด้วยเทคนิคของการทำศัลยกรรมที่ไม่ยุ่งยากและตอบโจทย์ ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน สามารถมาทำศัลยกรรมและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

เรื่องสำคัญที่ผู้บริโภค ต้องคำนึงถึงเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม
คุณหมอแยม แนะนำเรื่องการทำศัลยกรรมเพื่อให้สวยขึ้นและเพิ่มความมั่นใจ เตรียมหาข้อมูลที่ตรงกับหลักการแพทย์ รู้จักเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพา่ะด้าน และจบเฉพาะทาง ซึ่งนอกจากศัลยกรรมความงามใบหน้าที่คนนิยมทำแล้ว ผู้คนยังให้ความสนใจกับการทำศัลยกรรมในส่วนอื่นๆของร่างกาย ซึ่งได้ อาทิเช่น เสริมจมูก, เสริมหน้าอก, เสริมสะโพก แก้อาการต่างๆ ที่ศัลยกรรมมาก่อน เพื่อปก้ไขปรับเปี่ยนและเสริมสร้างความมั่นใจเสริมบุคลิกภาพ เสริมจุดเด่นให้กับตนเอง เปรียบเสมือนส่วนเติมเต็มความสุข ที่ทำให้ผู้ศัลยกรรมมีความสุขมากขึ้น การให้ข้อมูลตามความเป็นจริง อธิบายข้อดี-ข้อเสีย และโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนทั้งหมดอย่างละเอียด ตามหลักการแพทย์ ปลอดภัย และติดตามอาการอยู่เสมอ เพื่อมาตรฐานและคุณภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง

เทรนด์ความงามที่ผู้บริโภคต้องใส่ใจและให้ความสำคัญที่สุด
ศัลยกรรมที่เน้นเรื่องความปลอดภัย และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน“การเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง” คือ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของโทมัส คลินิก โดยทางคลินิกจะ ควรหาข้อมูลที่ตรงกับหลักการแพทย์ รู้จักเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเฉพาะทาง โดยตรง ซึ่งหากได้รับคำแนะนำที่ดีจากศัลยแพทย์ ช่วยทำให้การตัดสินง่ายขึ้น เพิ่มความมั่นใจว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน

𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ 𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜
“เน้นการบริการแบบส่วนตัวและแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ทุกเคสให้คำปรึกษาและการดูแลโดยหมอแยมโดยตรง เพื่อคุณหมอจะได้ดูแลรักษาลูกค้าให้ตรงจุดจริง ๆ เพราะความสวยต้องสมดุลในแบบของลูกค้า ซึ่งแต่ละคนก็มี Beauty Balance ที่ต่างกันไป” ทาง โทมัส คลินิก 𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 ไม่เน้นการขายคอร์ส หรือ การขายโปรแกรมเพิ่มให้กับลูกค้า ด้านการให้คำปรึกษาด้านต่างกับลูกค้าและให้คำรึกษาโดยตรงว่าควรดูแลจุดใดเป็นพิเศษต้องให้ข้อมูลอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมาพร้อมทั้งแนะนำลูกค้าใหม่ที่เข้ารับการปรึกษาครั้งแรกให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่ให้กับทาง 𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜โทมัส ในการเข้ารับบริการ พร้อมผลลัพธ์ในการศัลยกรรมความงามที่มีความยั่งยืนและคงทน

โดยส่วนใหญ่ลูกค้าจะกลับมารักษา ใครสนใจดูแลสุขภาพผิวพรรณ หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ สามารถปรึกษา หมอแยม – พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร ได้ที่ 𝐓𝐡𝐨𝐦𝐚𝐬 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 และ𝐓𝐡𝐨𝐧𝐠𝐥𝐨𝐫 𝐒 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜
จองคิว/นัดตารางที่ไลน์แอด : @ThomasClinic

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมด้าน สุขภาพผิวพรรณ หรือ มีปัญหาสุขภาพ
สามารถปรึกษา หมอแยม-พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร ได้ที่
THOMAS CLINIC (ชั้น 2) อาคารฟิฟตี้ฟิฟ ทองหล่อ ปากซอยทองหล่อ(ซอย 2 สุขุมวิท 55) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ 063 556 9669

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น