ทำความรู้จักไวน์ Buck Koei Red

มาทำความรู้จักกับ ไวน์ที่จัดทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน ผลิตจากผลองุ่นป่า Vitis Vinifera ที่หายากและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในบางช่วงฤดูของปี รู้จักกันในชื่อท้องถิ่น Buck Koei เจริญเติบโตเป็นเถาไม้เลื้อยตามป่าเชิงเขาหินซ้อน ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไวน์นี้ได้รับการเก็บเกี่ยวด้วยมือโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฮักป่าสัก Hug-Pasak โดยองุ่นแต่ละลูกจะมีความสมบูรณ์ สะท้อนถึงแก่นแท้ของแหล่งกำเนิดที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างดี องุ่นหายากเหล่านี้ให้ผลเพียงปีละ 1 ครั้ง จึงทำให้สามารถผลิตเป็นไวน์ได้เพียงประมาณ 300 ขวด/ปี ซึ่งจัดว่าน้อยมาก

ดังนั้นการดื่มแต่ละครั้งจึงถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุด สภาพพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศที่ไม่เหมือนใครของ ต.หินซ้อน อำเภอแก่งคอยทำให้ไวน์นี้มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ อันเกิดจากการประสานกันอย่างลงตัวของหมอกในยามเช้ากระทบกับแสงแดดอ่อนๆสอดประสานกัน จนเกิดเป็นวงดนตรีซิมโฟนีคลาสสิคแห่งรสชาติ ที่เลอเลิศลงตัว

ไวน์นี้เกิดจากความรักและความเอาใจใส่ของชุมชน ต.หินซ้อน ซึ่งถือเป็นว่าเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม แต่จะเป็นมรดกทางใจ ของพวกเรา ขอเชิญคุณมาสัมผัสกับความงามอันเป็นเอกลักษณ์และศิลปะของไวน์ Buck Koei Red จากวิสาหกิจชุมชนฮัก-ป่าสัก ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนา ตั้งใจจะรักษาไว้ให้เป็นมรดกอันล้ำค่าของตำบล โดยผ่านความพยายามในการทำงานเพื่อเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่นไปสู่ตลาดสากล

ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความเจริญ สร้างชื่อเสียง และสร้างการยอมรับในด้านอื่นๆให้กับชุมชนหินซ้อน อ.แก่งคอยและจังหวัดสระบุรีของเราควบคู่กันไป

DRY SWEET 750ml. | 12% Alc/vol Product of Thailand

An exquisite testament to nature’s rarity, Buck Koei Red is crafted from wild Vitis vinifera known as Buck Koei, naturally flourishing in the untouched Hin Son Valley forest. Hand-picked with devotion by the Hug-Pasak community enterprise, each grape reflects the pure essence of its origin.

Fructifying but once a year, these elusive vines yield just enough for
300 bottles, making each sip a privileged encounter. The unique geography and climate of Kaeng Khoi District infuse the wine with unparalleled character—where mist-kissed mornings and sun-drenched days harmonize to create a symphony of flavors.

Born from the love and care of the Kaeng Khoi district community, thiswine is more than a beverage; it’s a heartfelt legacy. We invite you
to experience the singular beauty that is Buck Koei Red. Hug-Pasak Community Enterprise isdedicated to preserving Kaeng Khoi

District’s rich heritage. Through their philanthropic efforts, they connect the local community to the global market, while fostering local prosperity and recognition.

DRY SWEET 750ml. | 12% Alc/vol Product of Thailand
Produced and bottled by Hug-pasak co

#toptotravel #BuckKoeiRed

 Marcus Bar

Marcus Bar บาร์เปิดใหม่ใจกลางสีลมซอย 1บาร์แห่งนี้ ตัวร้านเป็นอาคารขนาดกะทัดรัดทำให้คุณได้พบกับความอบอุ่นที่อบอวลไปด้วยมิตรภาพ Marcus Bar การออกแบบที่โดดเด่น ทั้งความมีสีสันและกลิ่นอายความสนุกที่เป็นซิกเนเจอร์ ยังให้ความพิถีพิถันใส่ใจในทุกการบริการตั้งอยู่ที่ ถนน สีลม ซอย 1 บรรยากาศเรียบหรู สบายๆ เหมาะกับการแฮงก์เอาต์กันแบบสนุก ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อเข้ามาเยือน สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน ที่นี่เน้นเสิร์ฟหลากหลายเมนูค็อกเทลที่นำไป Infused กับผลไม้ ดื่มง่าย ได้กลิ่นหอมหวลชวนให้ลิ้มลอง เอ็นจอยไปด้วยกันกับเครื่องดื่มแก้วพิเศษและเสียงดนตรีสนุก ๆ เชื้อเชิญให้คุณแวะเวียนเข้ามาดื่มด่ำกับรสชาติของค็อกเทลแก้วพิเศษ

ด้วยขนาดพื้นที่ที่จำกัดบวกกับความชื่นชอบส่วนตัว ทำให้ที่นี่ออกมาเป็นบาร์ค็อกเทลสุดเก๋ ด้านการตกแต่งดีไซน์ออกแนววินเทจ มีมุมโซฟาและเคาน์เตอร์บาร์ให้คุณได้เลือกนังกันแบบชิลล์ สัมผัสกับเสียงเพลง Live Band คุณภาพเยี่ยม แนว Jazz , Soul และ R&B ตั้งแต่เวลา 20.30 น. ทุกวันอังคารถึงวันเสาร์ นอกจากนี้ยังเปิดแผ่นมิกซ์เพลงแนวสนุกสนาน เหมาะกับสายปาร์ตี้ที่ชอบความเป็นกันเอง นั่งเล่นสบาย ๆ ค่ำคืนนี้เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาดื่มร่วมแจมเสียงเพลงกับนักร้องอย่างสนุกสนาน ใครที่เลิกงานแล้วอยากแวะมาฝากท้อง หรือดินเนอร์สุดพิเศษ ที่นี่ก็เหน้นเสิร์ฟอาหารฟิวชั่นทานง่าย รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย

Crispy bacon salad ผักคอส เบค่อน

สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ แนะนำหลากหลายเมนูซิกเนเจอร์ เริ่มจากเมนู Paprika-charred Corn ข้าวโพดหมักกับโอลีฟออยส์ ปาปริก้า ผงกระเทียม น้ำผึ้งอบสไตล์อเมริกัน ทานคู่กับซอสซาวน์ครีม เป็นเมนูโปรดที่ทานง่ายๆ สำหรับนักดื่ม ต่อมาเป็น Escargots Elegance หอยทากฝรั่งเศส อบเนยกับสมุนไพร + ขนมปังฝรั่งเศสแผ่นบาง ส่วนถัดมาเป็นเมนูที่ผู้ชื่นชอบทานปลา Sunset citrus salmon ปลาแซลม่อน ผักโขมอบชีส ซอสเลม่อนครีม และสำหรับผู้ที่หลงใหลการทานไส้กรอก ที่มีเสริฟไส้กรอกหลายแบบในเมนูเดียวกัน Bangers & mash ไส้กรอก พริกสด พริกไทย ชีส เป็นไส้กรอกออร์แกนิค เสริ์ฟกับมันบด ทานกับซอสมะเขือเทศ และศรีราชามายองเนส ผสมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ที่ช่วยยกระดับอาหาร ตามมาด้วย สปาเก็ตตี้ Spaghetti AOP ใส่กุ้งแชบ๊วย เบค่อนกรอบ พริกแห้ง กระเทียม เบซิล ส่วนที่ออกแนว เฮลตี้เลือกทานสลัด Crispy bacon salad ผักคอส เบค่อน ชีสพาเมซาน พารม่าแฮม น้ำสลัดซีซ่าร์ พริกไทยเน้นอาหารที่ปรับให้ทันสมัยและกินได้ทุกคน ไปจนถึงอาหารนานาชาติที่ทุกคนนึกถึง โดยเสิร์ฟให้นั่งกินในบรรยากาศสบายๆ หลากหลายเมนูครบรส ชวนให้เข้ามาลิ้มลอง

Bangers & mash ไส้กรอก พริกสด พริกไทย ชีส
ไส้กรอกหลายแบบ
สปาเก็ตตี้ Spaghetti AOP
Paprika-charred Corn

อีกหนึ่งความตั้งใจของ Marcus Bar แต่ละโซนออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำหรับแฮงเอาต์กับแก๊งเพื่อนและคนพิเศษ ด้วยการออกแบบหน้าบาร์สุดหรู เครื่องดื่มถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของร้านเสิร์ฟทั้งค็อกเทลและม็อกเทล ไม่ว่าจะเป็นค้อกเทลที่หลากหลาย ค็อกเทลที่ดื่มง่ายและเข้ากันได้ดีกับเมนูอาหารในร้าน ไม่ว่าจะเป็น ค็อกเทลAnniversary หรือจะเป็นค็อกเทล Jasmin moon หรือชื่นชอบการจิบไว น์ที่มีให้เลือกหลายระดับจากหลายประเทศ คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากคอไวน์ขนานแท้ของเจ้าของร้าน มาสนุกและจอยตอบโจทย์สายแฮงต์เอาต์ตลอดทั้งคืน

การเดินทางจากรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีสีลม เดินเข้าซอยสีลม ซอย 1 ประมาณสองร้อยเมตร ร้านตั้งอยู่ขวามือ

Marcus Bar บาร์กลางสีลมซอย 1
281/16 สีลม ซอย 1 บางรัก กทม.
เปิด จ- ส. เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
โทร 09 5561 9478

พิกัดร้านMarcus Bar : https://maps.app.goo.gl/b23sDZwXnwPb3NDS8
Booking via Line ID : @Marcusbar | 095-561-9478

#Marcusbkk #Marcusbar #Marcusbarbkk #nightlife #bkknightlife #jazzbar #jazzbarbkk #Barsilom #Dinner #BarandRestaurant

กลันตัน สลีฟ แอนด์ คาเฟ่ เท่โดนใจสายคูล

เพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน แต่ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม สำหรับร้านกลันตัน สลีฟ แอนด์ คาเฟ่ ใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องสะดุดตาจนต้องอยากแวะ เรียกว่าเป็นคาเฟ่สุดชิคของคนย่านนี้ ความเท่ของร้านกลายเป็นคาเฟ่สุดเท่น่านั่ง โอบล้อมด้วยกระจกใสเกือบรอบร้าน ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ที่เป็นที่นิยม เมนูกาแฟของที่นี่มีหลากหลาย และคุณภาพดีใครอยากจิบกาแฟดีๆ สั่งของร้านนี้ได้เลยไปผิดหวัง

บอกเลยว่าทั้งบรรยากาศและเครื่องดื่มของที่ร้านโดดเด่น มีที่นั่งทั้งด้านใน ด้านนอก มองเห็นรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน และมีที่นั่งให้ได้ฟินๆ เหมือนมานั่งปิกนิก ชมวิวกันไป ด้านนอกช่วงเย็นๆ แดดร่มบรรยากาศ​ดี​ ความตั้งใจของร้าน คือ อยากให้ทุกคนที่ผ่านเข้ามายังประตูบานเลื่อนนี้มีความสุขเมื่อกลับไป และเมื่อยามเย็นพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ก็จะให้บรรยากาศที่สวยชิลไปอีกแบบ มั่นใจว่าใครที่เป็นสายคอนเทนต์จะต้องถูกใจแน่นอน ส่วนเรื่องอาหารของทางร้านจะเป็นแนวรสจัด กับแกล้ม แต่มีเมนูจานหลักอีกมากมาย กลันตัน ร้านอาหาร คาเฟ่ บรรยากาศดีย่านศรีนครินทร์ ปลายปีแบบนี้ ร่างกายใครต้องการความชิลในบรรยากาศคาเฟ่ดีๆ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบอีสานหลากหลาย อร่อยกับเมนูเด็ด จากใจเชฟ ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ, ลาบ, ต้มแซ่บ, และเมนูอื่นสุดพิเศษ ให้ได้อิ่มอร่อยท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่น

ที่นี่เป็นร้านกินดื่มที่ตอบโจทย์คนชอบสังสรรค์ในหลายๆ ด้าน ทั้งบรรยากาศร้านที่สบายๆ โปร่งๆ แต่อินดอร์ ไม่ร้อนอาหารเป็นอาหารไทยและอาหารสไตล์อีสาน บรรยากาศจึงมีความอบอุ่น เป็นกันเอง น่าแวะมานั่งจิบกาแฟ และกินมื้อเที่ยง จานใหญ่ ไปจนถึงมื้อค่ำที่มีแอลกอฮอล์เสิร์ฟคู่กับอาหารแน่นอนว่าร้านนี้เป็นร้านกินดื่มที่เหมาะกับการมาชิลกับเพื่อน เพราะร้านกว้างขวาง มีทั้งโซนที่คึกคักและเป็นส่วนตัว บริการให้เช่าสถานที่ จัดงาน พร้อมทีมงานออร์แกไนซ์ ในโอกาสต่างๆ อาทิ งานเลี้ยง งานแต่งงาน งาน Party ร้านจะมีลานจอดรถหน้าร้านไว้ให้บริการกับลูกค้าที่สะดวกขับรถมาที่ร้าน

กลันตัน สลีฟ แอนด์ คาเฟ่ อยู่ใน ซ. ศรีนครินทร์ 27 ซอยก่อนถึงปั้มบางจาก ก่อนถึงห้างธัญญะพาร์ค (ติดกับประตูทางเข้างออกด้านหลังห้างธัญญะพาร์ค) สถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง : กลันตัน

กลันตัน สลีฟ แอนด์ คาเฟ่

Google Map ที่ตั้งร้าน : กลันตัน สลีฟ แอนด์ คาเฟ่
https://maps.app.goo.gl/A2rtYLyrv237z8DBA?g_st=ic

เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด
คาเฟ่เปิด-ปิด: เวลา 07:00-19:00 น.
สั่งอาหาร 11:00-24:00 น. (ครัวปิดเวลา 23.00 น.)
สอบถามเพิ่มเติมสอบถามทักแชทเพจ
https://www.facebook.com/KanlantanSleepAndCafe
โทร : 080-592-1568

เจ้เพ็ญ ชนานาถ ดลมินทร์ ผู้บริหาร บลูช็อป

สู้มากแค่ไหนก่อนจะมาเป็น เจ๊เพ็ญพันล้านเจ้าของโกดังขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในปทุมธานี การบริหารโกดัง บริหารร้าน บริหารคน ของเจ๊เพ็ญ ทำให้ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง อยู่รอดมาได้จนมาถึงทุกวันนี้

ชนานาถ ดลมินทร์ หรือ เจ้เพ็ญ ผู้บริหารบลูช็อป บริษัท กิตติชัยมหานคร จำกัด เคยเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและเคยรับจ้างขายสินค้าให้กับ บริษัทต่างๆ เคยเปิดผับ ร้านอาหารแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ปัจจุบันเป็นผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งขายส่งและขายปลีก

เจ๊เพ็ญ เล่าให้ฟังว่า บรรยากาศแรกที่ออกงานธงฟ้าเห็นคนรอซื้อเยอะมากขนาดแย่งกันตั้งแต่ของอยู่บนรถอนต์ วันหนึ่งขายได้เป็นแสนขวดถึงราคาจะถูกกว่าแต่ขายได้ปริมาณมากกว่า กำไรขวดละสลึงเท่าเดิม บริษัท กิตติชัยมหานคร มางานธงฟ้าทีไรขายได้เยอะมาก ถึงกำไรไม่เยอะ แต่ขายได้เยอะกำไรน้อยก็รวยได้ ก่อนจะไปขายต้องดูก่อนว่าราคาตลาดที่นั่นเท่าไร ของต้องถูกกว่า บริษัท
ขายทุกอย่าง ไปออกงานทีไรก็เห็นคนเยอะตลอดต่อแถวยาวเหยียด ชาวบ้านชอบซื้อสินค้าในงานธงฟ้ามาก เมื่อมาเข้าร่วมโครงการธงฟ้าก็ประสบความสำเร็จข้อเสนอแนะควรจะมีสินค้าให้หลากหลายกว่านี้ เพื่อเปิดโอกาสให้สินค้าตัวอื่นๆ ที่อยากฝากถึงผู้ประกอบการ แม้การนำสินค้ามาขายในงานธงฟ้าจะได้กำไรน้อย
แต่การันตีได้เลยว่าจำนวนที่ขายนั้นมากมายมหาศาล จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการเข้าร่วมมากๆ เนื่องจากหนึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย สองกำไรดีและผู้บริโภคมันใจได้เลยว่ามางานธงฟ้าราคาถูกจริงสินค้ามีคุณภาพ

โดย ‘เจ้เพ็ญ’ เจ้าของบลูช็อป กล่าวต่อว่า โดยปกติแล้ว บลูช็อปเป็นร้านที่จัดจำหน่ายสินค้าในราคาประหยัดให้กับผู้บริโภค แต่เมื่อได้ติดต่อคุณแม่ไพลิน ขอขายในราคานี้ คุณแม่ไพลินท่านก็ตอบตกลงให้เป็นพิเศษเฉพาะที่บลูช็อป ก็เลยได้นำน้ำปลาร้ามาจัดจำหน่ายได้ในราคาต้นทุนเพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้าบลูช็อป จึงต้องขอขอบคุณทาง บริษัท จ่าวิรัชฟู้ดส์ที่เข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ และเห็นใจผู้บริโภค จึงได้ให้ราคานี้กับบลูช็อป นอกจากนี้ ยังทำให้บลูช็อปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องดีๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ผู้คนต้องกลับไปหาครอบครัว สามารถนำน้ำปลาร้าดีๆ กลับไปทำอาหารรับประทานกันภายในครอบครัวได้อย่างมีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำปลาร้าที่มีราคาสุดประหยัดเพียง 19 บาท แต่รสชาติอร่อยถูกใจคนทั้งครอบครัว ถือว่า เป็นการเติมกำลังใจให้คนไทยด้วยกันในช่วงเวลาปีใหม่นี้

สบู่จิ๊กซอว์ ME by บุ๋ม-ตรีรัก จัดโปรสุดคุ้ม ลด 50%

สบู่จิ๊กซอว์ ME by บุ๋ม-ตรีรัก จัดโปรสุดคุ้ม เชต 4 ก้อน ลด 50% เพียง 190 บาทลดข้ามปี มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ซื้อได้ที่สยามพารากอน และทาง FB 

บริษัท ตรี ตรีรัก จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสบู่จิ๊กซอว์ ME เกรดพรีเมี่ยม by คุณบุ๋ม
ตรีรัก รักการดี สบู่จิ๊กซอว์ ME เป็นสบู่ล้างหน้าออร์แกนิค ส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติ เนื้อกลีเซอรีน อ่อนโยน ไร้สาร SLS / SLES ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ช่วยฟื้นฟูและกู้ใบหน้าของทุกคนให้คืนกลับสู่ความสวยที่สดใส ดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื่น ไร้สิว และจุดด่างดำ ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว มีทั้งหมดถึง 25 สูตร สามารถเลือกแมทซ์สูตรเองได้ตามสภาพผิวของผู้ใช้ ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มคุณสมบัติของผิวพรรณ 10 สูตร 2. กลุ่มสครับ 6 สูตร และ 3. กลุ่มน้ำหอม 9 กลิ่น 

สบู่จิ๊กซอว์ ME จัดโปรโมชั่นสุดคุ้ม ลดข้ามปี 50% สบู่เชต 4 ก้อน สามารถคละสูตรได้ บรรจุในกล่องสวยเก๋ดูดี เพียง 190 บาท จากราคาปกติ 380 บาท

สามารถซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 6 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สยามพารากอน ชั้น 4 โซน Bath Accessories และซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 มกราคม 2568
ที่ Facebook : TRI_Gangsters จะซื้อสบู่จิ๊กซอว์ ME ใช้เองก็ดี หรือซื้อเป็นของฝากให้แก่คนที่คุณรักหรือของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับคนพิเศษของคุณ ซื้อให้ใครรับรองผู้รับต้องชอบแน่ๆ สบู่จิ๊กซอว์ ME เชต 4 ก้อนใช้ได้นานเป็นเดือน
การันตีคุณภาพทุกก้อน

สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่น และข้อมูลเพิ่มเติมของสบู่จิ๊กซอว์ ME
เกรดพรีเมี่ยม ทั้ง 25 สูตร ได้ที่ Facebook : TRI_Gangsters,
Line : @tri_gangsters และ เว็บไซต์ http://trigangsters.com
หรือติดต่อสอบถามที่โทรศัพท์  02-040-1466 และ 063-351-9649

SACIT เชิญชวนนักออกแบบ เข้าร่วมโครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม

เริ่มแล้ว!! เวทีการประกวดผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่ปลุกปั้นนักออกแบบไทยไปไกลถึงระดับโลก International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เชิญชวนนักออกแบบ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม เข้าร่วมโครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 เพื่อร่วมนำเสนอผลงาน

ศิลปหัถตกรรมไทยที่มีศักยภาพและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาศิลปหัตถกรรมไทยไปไกลระดับโลก ชิงเงินรางวัลพร้อมเงินสนับสนุนในการผลิตผลงานต้นแบบรวมมากกว่า 650,000 บาท ภายใต้แนวคิด “Innovative Heritage Craft: หัตถศิลป์ แห่งมรดกหัตถกรรม” ตั้งแต่บัดนี้ – 15  มกราคม 2568

ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย  เผยว่า ” โครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2025 หรือ I.CCA.2025 ถือได้ว่าเป็นโครงการประกวด ฯ เพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ ได้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญ และค้นหาแนวทางในการสืบสานงานหัตถศิลป์ไว้ด้วยการสร้างสรรค์ผลงาน นวัตศิลป์ร่วมสมัยผ่านการผสมผสานเทคโนโลยี นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์”

สำหรับในปี 2568 นี้ SACIT เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับโอกาสในการคัดเลือกและนำเสนอผลงานที่แสดงถึง การสืบสาน สร้างสรรค์ ส่งเสริม งานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับองค์ความรู้ในกิจกรรม SACIT Craft Lab เพื่อพัฒนารูปแบบผลงานประกวดสร้างสรรค์  สู่การเป็นผลงาน Masterpiece รวมถึงการเผยแพร่ สร้างการรับรู้ และสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ จนไปสู่การต่อยอดเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการค้าทั้งในประเทศและในระดับสากล โดย Creative Craft Coach  (นักสร้างสรรค์งานคราฟต์) ระดับประเทศและมากประสบการณ์ เพื่อชิงรางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศจะได้รับเงินสด 150,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 100,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัล

ผู้สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวด ฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้ – 15 มกราคม 2568              ผ่านเว็บไซต์ www.sacit.or.th พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
ผ่านลิงค์ Google Form : https://forms.gle/fBgGAAFjhvxzpiiu8
หรือ ผ่านทางไปรษณีย์: สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)
เลขที่ 59 หมู่ 4 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 13290
วงเล็บมุมซอง (I.CCA. 2025) 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ดร.สุกานดา ถิ่นฐาน คุณเปี่ยมพร ฉายศรี (ผู้ประสานงานโครงการ)
โทรศัพท์: 086 564 4666 / 088 931 5345 
Email: contact.icca2025@gmail.com

JAO Khao Soi Kitchen:จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น

JAO Khao Soi Kitchen (จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น) เปิดตำรับอาหารเหนือฟิวชั่นร่วมสมัยในคอนเซ็ปต์ Modern Northern Flavors – Fulfilling Your Happiness ปักหมุดสาขาแรก “Public Market ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม”

เรียกว่าเชื่อรสมือได้เลยสำหรับ JAO Khao Soi Kitchen (จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น) เปิดตำรับอาหารเหนือฟิวชั่นร่วมสมัย รังสรรค์โดย คุณชินนานันท์ เสฏฐชานันท์ หรือ คุณมิ้นท์ เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารเหนือสุดฮอต “ครัวเจียงใหม่” ชื่อดังแห่งย่านทองหล่อ โดยที่ตั้งใจสร้างแบรนด์ใหม่ จ้าว ข้าวซอย  คิทเช่น เพิ่มเติมขึ้นจากความหลงใหล ปักหลักทำเลศูนย์การค้าใจกลางเมือง ณ พับลิค มาร์เก็ต ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนออาหารเหนือให้เป็นที่นิยม ใส่ความครีเอทีฟ ไอเดียแปลกใหม่ พร้อมด้วยวัตถุดิบพรีเมียม พร้อมด้วยเมนูสุดพิเศษ เพื่อฉลองการเปิดสาขาแรก เซ็นทรัลชิดลม แห่งนี้!

ชินนานันท์ เสฏฐชานันท์ (มิ้นท์)
JAO Khao Soi Kitchen

สำหรับเมนูของ “JAO Khao Soi Kitchen” จะเน้นเมนูที่ทานง่าย แต่มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร อีกครั้งยังครีเอตรสชาติออกมาให้ถูกปากคนรักอาหารเหนือแท้ๆ แต่ใส่ความฟิวชั่นเข้าไปในบางเมนูด้วยเช่นกัน โดยเมนูที่แนะนำเริ่มต้นด้วย ปูอ่องโซเมนเย็น ล็อบสเตอร์ออย์ จานนี้ที่เน้นวัตถุดิบสุดพรีเมียม นำความโลคัลอย่างปูอ่อง มาแมทช์กับความพิถีพิถันช่างเลือกกับเส้นโซเมนเย็น เสริมทัพยั่วน้ำลายด้วยลอบสเตอร์ออย ที่จะทำให้จานนี้พิเศษ เรียกว่าเป็นการฉลองเปิดสาขาแรกของ จ้าวฯ และเซ็นทรัลชิดลมไว้ด้วยกัน

ตามมาด้วย ข้าวซอยไก่ และ ข้าวซอยเนื้อวากิว เมนูเลื่องชื่อของอาหารเหนือที่ใครทาน เป็นต้องติดใจ มีให้เลือกทั้งไก่ และเนื้อวากิว สำหรับผู้ที่รักการทานเนื้อ เรียกได้ว่าเมื่อน้ำแกงนัวๆ ไปรวมกับเนื้อชั้นดี อย่างวากิว ก็ทำให้เมนูนี้ ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง อยากรู้ว่าจะเข้ากันขนาดไหนและรสชาติจะเป็นอย่างไรต้องห้ามพลาด

ไส้อั่ว- น้ำพริกหนุ่ม- แคบหมู

อีกหนึ่งเมนู ไส้อั่ว, น้ำพริกหนุ่ม, แคบหมู ที่เป็นออเดิร์ฟจัดเต็มให้สมการรอคอย ใครไม่สั่งเมนูนี้เรียกว่ามาไม่ถึง จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น เป็นการเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมต้นตำรับจากเมืองเหนือเลยทีเดียว และหากใครยังไม่อิ่มสามารถสั่ง ขนมจีนน้ำเงี้ยว สูตรดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมความฟิวชั่นไว้แบบเล็กๆ แบบเป็นกิมมิค

นอกเหนือจากเมนูอาหาร ที่นี่ยังมีการดีไซน์หน้าร้านให้มีความโมเดิร์น พรีเมียม เลือกไว้โทนสีแบบอบอุ่นอย่าง คราม ขาว และวัสดุที่สื่อถึงความโลคัลไว้ด้วยกัน ใครอยากมาลิ้มลองรสชาติความอร่อยแบบ Modern Northern Flavors – Fulfilling Your Happiness มาได้ที่ “จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น” ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม โซน Public Market

รายละเอียดเพิ่มเติมทาง Line Official Account: https://lin.ee/VxlAJOD
หรือทางเฟซบุ๊ค Jao khaosoi Kitchen

The Oasis Spa : ดิโอเอซิสสปา สุขุมวิท 31 

อยากชวนไปพักผ่อนสบายๆ หยุดพักจากชีวิตที่เร่งรีบและให้เวลาตัวเองได้เพลิดเพลินไปกับการนวดแผนไทยที่สปาที่วิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 สัมผัสความงามจากสระบัว ที่ให้ความรู้สึกสงบ รายล้อมด้วยแมกไม้น้อยใหญ่เขียวขจีพร้อมบรรยากาศสวนสวยที่ร่มรื่นซ่อนอยู่ใจกลางเมือง


Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 การพักผ่อนที่ดีที่สุดกับห้องสปาทรีทเมนต์ จำนวน 12 ห้อง ที่พร้อมให้บริการ ทั้งชาวเวอร์กลางแจ้ง อ่างอาบน้ำสำหรับแช่ตัว และเตียงนวดพักผ่อนในบรรยากาศสวนสวยที่ร่มรื่นซ่อนอยู่ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ในบ้านสีขาวตกแต่งกลิ่นอายล้านนาท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่ และสระบัว แบบสวนในบ้านของโมเนต์รู้สึกเหมือนมาเที่ยวรีสอร์ทหรู ย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯ ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขอชวนคุณดื่มด่ำกับบรรยากาศในโอเอซิสแห่งนี้ไปด้วยกัน

ทันทีที่เข้ามาภายในบริเวณ ดิโอเอซิสสปา พนักงานต้อนรับดูแลเป็นอย่างดี
นั่งพักผ่อนใหในบริเวณส่วนรับรอง พร้อมจิบเครื่องดื่มสมุนไพรที่เป็น welcome drink สำหรับลูกค้าทุกท่าน จากนั้นพนักงานจะให้ท่านกรอกข้อมูลด้านสุขภาพ
และเลือกทรีตเมนท์แพคเกจตามต้องการ

ไฮไลท์ King of Oasis ยืน 1 ในใจ
แพ็กเกจ King of Oasis เป็นการนวดไทยผสานการนวดแบบอโรม่า เทคนิคการนวดแก้อาการปวดเมื่อยเพื่อฟื้นฟูร่างกาย การนวดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกแบบหนึ่งของ โอเอซิส สปา มุ่งเน้นการปรับสมดุลร่างกาย กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ศีรษะ และส่วนที่สำคัญเพื่อบำบัดอาการเจ็บหรือตึงเครียดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนของนักบําบัดผู้เชี่ยวชาญ บอกเลยนวด 2 ชั่วโมง สบายตัวจนอยากนวดต่อ!! หลังจบทรีตเมนต์ ตัวเบาสบาย รู้สึกเลยว่าได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่ตึงเครียด จากนั้นเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งรอในห้อง พนักงานจะนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้อีกครั้ง

Oasis Spa สาขาสุขุมวิท 31 ปัจจุบันเปิดถึงเที่ยงคืน
พิกัด : https://goo.gl/maps/LSGTNJFMhCmrdmzP6

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-24.00 น.
สอบถามเพิ่มเติม : https://oasisspa.net
สาขาสุขุมวิท 31 ซอยสวัสดี แยก 4 สุขุมวิท 31 เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

(มีที่จอดรถสำหรับคนที่นำรถส่วนตัว หรือสามารถใช้บริการรถรับส่งฟรี
จาก BTS สถานีพร้อมพงศ์ สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถสาธารณะ)

#ThaiMassage #OasisSpa #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

สายการบิน ITA Airways เปิดเส้นทางบินตรงใหม่จากกรุงเทพฯ สู่กรุงโรม

ITA Airways นิยามของคำว่า “Made in Italy” ที่แท้จริง จัดงานแถลงข่าวที่กรุงเทพฯ เปิดตัวแบรนด์ เครือข่ายเส้นทางบิน และไฮไลท์สำหรับฤดูหนาวนี้

กรุงเทพฯ/โรม, 19 พฤศจิกายน 2567 – สายการบิน ITA Airways (อิตาแอร์เวย์) เปิดตัวเที่ยวบินตรงครั้งแรกสู่ประเทศไทย เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ และกรุงโรม (สนามบินโรม ฟิอูมิซิโน) นับเป็นครั้งแรกที่สายการบินสัญชาติอิตาลีนี้บินตรงมายังประเทศไทย โดยจะให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330นีโอ (Airbus A330neo) ให้บริการ 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เที่ยวบินปฐมฤกษ์จากสนามบินโรม ฟีอูมีชีโน เที่ยวบินที่ AZ 758 ได้ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (BKK) เวลา 8:25 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน ส่วนเที่ยวบินแรกของสายการบิน ITA Airways จากกรุงเทพฯ ไปยังโรม ฟีอูมีชีโน เที่ยวบินที่ AZ 759 ได้ออกเดินทางเวลา 12:15 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ ได้มีการจัดพิธีตัดริบบิ้นที่ประตูขาเข้าของท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยมีผู้เข้าร่วมงานหลายท่าน ได้แก่ คุณเอมิเลียนา ลิโมซานี (Emiliana Limosani) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ITA Airways และซีอีโอของ Volare คุณเปียร์ฟรานเชสโก คาริโน (Pierfrancesco Carino) รองประธานฝ่ายขายต่างประเทศของ ITA Airways คุณเบเนเดตโต้ เมนคาโรนี โพยอานี (Benedetto Mencaroni Poiani) ผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกาของ ITA Airways คุณศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี (H.E. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ ประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) คุณกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และคุณกรรณิการ์ เปรมประเสริฐ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ในการเปิดตัวสู่ตลาดไทย สายการบิน ITA Airways ได้จัดงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เพื่อแนะนำเส้นทางบิน และบริการต่าง ๆ ที่สายการบินจะนำเสนอในช่วงฤดูหนาวนี้ให้แก่สื่อมวลชนและพันธมิตรในวงการท่องเที่ยวไทยได้รู้จักเส้นทางบินใหม่ระหว่างกรุงโรมและกรุงเทพฯ ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการขยายเครือข่ายสู่ตลาดที่มีศักยภาพสูง กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางสำคัญทั้งด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจระดับโลก การเปิดเส้นทางบินตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ITA Airways มุ่งมั่นที่จะมอบตัวเลือกการเดินทางที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสาร และยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการขยายเครือข่ายเส้นทางบินในแผนการเติบโตของบริษัท

เป็นก้าวสำคัญของบริษัท ในการขยายเครือข่ายไปสู่ตลาดที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการท่องเที่ยวและธุรกิจ การเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ITA Airways ในการนำเสนอทางเลือกการเดินทางที่ดีที่สุด พร้อมทั้งตอกย้ำความสำคัญของการขยายเครือข่ายในกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท

คุณเอมิเลียนา ลิโมซานี (Emiliana Limosani) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ ITA Airways และซีอีโอของ Volare กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้เปิดเส้นทางบินตรงใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ และกรุงโรม ซึ่งเป็นเส้นทางบินตรงเพียงหนึ่งเดียวระหว่างสองเมืองหลวงนี้ เส้นทางนี้ช่วยเสริมแผนธุรกิจของเราในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินระหว่างทวีปของ ITA Airways ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของเรา เนื่องจากเป็นการเปิดตัวในตลาดไทยและขยายการให้บริการในเอเชียเพิ่มเติม นอกเหนือจากเส้นทางบินไปยังโตเกียว นิวเดลี และเมืองมาเล่ในมัลดีฟส์ กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางใหม่แห่งที่ 8 ของเราในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราตั้งใจจะเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร โดยเรามองว่าประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญทั้งสำหรับการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจ”

ฯพณฯ เปาโล ดีโอนีซี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงโรมและกรุงเทพฯ ของสายการบิน ITA Airways จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างอิตาลีและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นอกจากจะส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อการค้า ธุรกิจ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการติดต่อระหว่างผู้คน ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันมากขึ้น”เส้นทางบินตรงใหม่จากกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโรม (สนามบินฟิอูมิซิโน) จะให้บริการดังนี้

เส้นทางกรุงเทพฯ – โรม (ฟิอูมิซิโน) เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน โดยจะบินในวันจันทร์ อังคาร พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์ ออกเดินทางเวลา 12:15 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงกรุงโรมเวลา 19:00 น. (เวลาท้องถิ่น)
เส้นทางโรม (ฟิอูมิซิโน) – กรุงเทพฯ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน โดยจะบินในวันจันทร์ พุธ พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ ออกเดินทางเวลา 15:15 น. (เวลาท้องถิ่น) และถึงกรุงเทพฯ เวลา 07:40 น. (เวลาท้องถิ่น)
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเส้นทางบินใหม่นี้ สายการบินจะยังคงให้บริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-กรุงโรม 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูร้อนปี 2568

เส้นทางนี้ใช้เครื่องบินแอร์บัสรุ่น เอ330นีโอ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทในด้านเทคโนโลยี ระบบดิจิทัล นวัตกรรม ประสิทธิภาพ และการออกแบบ โดยแสดงถึงความเป็นเลิศของคำว่า “Made in Italy” เครื่องบินรุ่นนี้มาพร้อมกับห้องโดยสารแบบ Airspace ที่เพิ่มความสะดวกสบายและความกว้างขวาง มีระบบแสงสว่างใหม่ที่ทันสมัย ระบบความบันเทิงบนเครื่อง และการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่ครอบคลุม เครื่องบินแบ่งเป็น 3 ชั้นโดยสาร ได้แก่ ชั้นธุรกิจ (ที่นั่งปรับเอนได้ 30 ที่นั่ง) ชั้นพรีเมียม (24 ที่นั่ง) และชั้นประหยัด (237 ที่นั่ง รวมที่นั่งแบบ Comfort Economy 36 ที่นั่ง) นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับระบบความบันเทิงระหว่างเที่ยวบินแบบ 4K ผ่านจอสัมผัส (ขนาด 17.3 นิ้วในชั้นธุรกิจ 15.6 นิ้วในชั้นพรีเมียม และ 13.3 นิ้วในชั้นประหยัด) พร้อมระบบเสียงบลูทูท และแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตสำหรับการส่งข้อความ การท่องเว็บ และการสตรีมมิง

ฝูงบินของสายการบิน ITA Airways ประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมด โดยมีเครื่องบินที่ให้บริการอยู่ 100 ลำ โดย 60 ลำเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ เอ321นีโอ 7 ลำ เอ320นีโอ 19 ลำ เอ220-300 9 ลำ เอ220-100 8 ลำ เอ330-900 11 ลำ และ เอ350-900 6 ลำ การมีฝูงบินที่ทันสมัยนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ITA Airways ในด้านความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ 90% ของเครื่องบินทั้งหมดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามแผนยุทธศาสตร์ปี 2566-2570 เครื่องบินรุ่นใหม่เหล่านี้ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 25% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของสายการบินที่จะเป็นสายการบินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในยุโรป

ในช่วงฤดูหนาวปี 2567/2568 สายการบิน ITA Airways จะเปิดให้บริการเที่ยวบินไปยัง 55 จุดหมายปลายทาง เพื่อขยายเครือข่ายการบินอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 16 เส้นทางภายในประเทศ 24 เส้นทางระหว่างประเทศ และ 15 เส้นทางข้ามทวีป หลังจากเปิดเส้นทางบินไปดูไบเมื่อ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา และเริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงไปกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทย ITA Airways มีแผนขยายบริการเพิ่มเติม โดยจะเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกรุงโรมและมาเล่ เมืองหลวงของมัลดีฟส์ สูงสุดถึง 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป เส้นทางนี้จะให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330-900 สายการบิน ITA Airways เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 โดยมีเครื่องบินในฝูงบินทั้งหมด 52 ลำ บริษัทมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวแทนนำเสนอความเป็นอิตาลีสู่สายตาชาวโลกหรือ “Made in Italy” ด้วยการให้บริการแบบเฉพาะตัวและสร้างประสบการณ์การบินสไตล์อิตาลีแท้ ๆ สิ่งนี้สำเร็จได้ผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำของอิตาลี เช่น Brunello Cucinelli ผู้ออกแบบชุดเครื่องแบบสำหรับลูกเรือและพนักงานภาคพื้น Walter De Silva ผู้ออกแบบภายในเครื่องบินรุ่นใหม่ของ ITA Airways และเชฟชื่อดังชาวอิตาลีที่สร้างสรรค์เมนูอาหารบนเครื่องบิน บัตรโดยสารของ ITA Airways สามารถซื้อได้ผ่านทางเว็บไซต์
ita-airways.com หรือผ่านศูนย์บริการลูกค้า ITA Airways
บริษัทตัวแทนท่องเที่ยว และเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารที่สนามบิน

สายกินต้องมา สายอาร์ตห้ามพลาด!แกร็บฟู้ดชวนปิกนิก ชิมของอร่อย ชมงานอาร์ตสุดคิ้วท์ที่งาน

GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park

14 พฤศจิกายน 2567 – แกร็บฟู้ด ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยม ชวนสายกินสายอาร์ตสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับบรรยากาศปิกนิกในสวนใจกลางกรุงฯ ที่งาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park โดยจับศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่ง NEWYEAR เจ้าของคาแรคเตอร์ดัชชุนสุดคิวท์อย่างน้อง “Wednesday” มาเจอกับ 5 ร้านดังสุดฮิปที่การันตีความอร่อยโดย #GrabThumbsUp ไม่ว่าจะเป็น SOURI, เผ็ด เผ็ด, ROOTS, โอ้กะจู๋ และ Shake Shack สร้างปรากฏการณ์เชื่อมความอร่อยเข้ากับงานอาร์ต งานเดียวที่ทุกคนจะได้เอนจอยกับเมนูอร่อยสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากทั้ง 5 ร้านที่เปิดตัวพร้อมกันในงานนี้เป็นที่แรก พร้อมอิ่มเอมไปกับ Art Installation และกิจกรรมสุดน่ารักที่จัดเต็มตลอด 4 วัน (14 – 17 พฤศจิกายน 2567) ณ ลาน Eden เซ็นทรัลเวิลด์

เพราะอาหารและงานศิลป์ถือเป็นสื่อกลางสากลที่เข้าถึงและเชื่อมโยงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งยังสามารถส่งต่อประสบการณ์และสร้างช่วงเวลาดี ๆ ให้กับทุกคนได้ แกร็บฟู้ด ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรียอดนิยมที่ให้ความสำคัญกับการนำเสนอประสบการณ์ความอร่อยอย่างมีคุณภาพผ่านแฟลกชิพแบรนด์อย่าง #GrabThumbsUp จึงได้ต้อนรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปีด้วยการจัดงาน #GrabThumbsUp x NEWYEAR presents Quality Food Quality Time in the Park เพื่อเชื่อมโลกแห่งความอร่อยเข้ากับโลกของงานศิลปะ โดยได้ร่วมมือกับศิลปินป๊อปอาร์ตดาวรุ่ง NEWYEAR นิวเยียร์-ปภากร ศรีกัลยกร เจ้าของคาแรคเตอร์ดัชชุนสุดคิวท์อย่างน้อง “Wednesday” และ 5 ร้านดังที่การันตีความอร่อยโดย #GrabThumbsUp มาถ่ายทอดความอร่อยผ่านงานดีไซน์สุดคิวท์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมเนรมิตลาน Eden กลางเซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็นสวนสวยที่เต็มไปด้วยคาแรคเตอร์สุดคิวท์ แถมยกความน่ารักไซส์ยักษ์น้อง GIANT WEDNESDAY มาให้ทุกคนชื่นชมด้วย

โดยศิลปิน NEWYEAR ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการร่วมงานกับแกร็บฟู้ดในครั้งนี้ว่า “ในฐานะศิลปิน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมกับแกร็บฟู้ด มาสร้างความสดใส เติมความสนุกและเพิ่มประสบการณ์ด้านอาหารให้พิเศษยิ่งขึ้น ซึ่งการออกแบบคาแรคเตอร์ร่วมกับแกร็บฟู้ดในงานนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ตอนเด็ก ๆ เรามักจะสนุกกับการจัดจานอาหารให้เป็นรูปหน้าคน เอาแตงกวามาทำเป็นตา สาหร่ายเป็นคิ้ว และมะเขือเทศเป็นปาก ราวกับทำให้อาหารมีชีวิต การออกแบบนี้ล้วนสะท้อนความรู้สึกและจินตนาการในวัยเด็กที่เราเคยมี โดยเล่าเรื่องผ่านคาแรคเตอร์ของ Wednesday หมาดัชชุน Introvert รักการกิน ที่แอบหาช่วงเวลาแห่งความสุขคนเดียวเงียบ ๆ ในสวนที่อบอุ่นและได้มาเจอกับเพื่อน ๆ อีกมากมายที่พร้อมจะมาร่วมมีความสุขและสร้างเวลาดี ๆ ร่วมกันในงาน”

นอกจากจะได้อิ่มเอมกับการเสพย์งานศิลป์ในบรรยากาศปิกนิกกลางสวนแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ คือ การเปิดตัวเมนูพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก 5 ร้านเด็ดที่เป็นที่สุดในด้านต่าง ๆ รังสรรค์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พร้อมการันตีคุณภาพความอร่อยโดย #GrabThumbsUp อันได้แก่

  • SOURI ร้านมาการองสไตล์ Contemporary Patisserie ที่สุดของร้านของหวานยอดฮิตของ หนุ่มวิน เมธวิน ที่ได้ครีเอทเมนู Macaron Strawberry Rose มาการองรสสตรอเบอรี่หอมหวาน ละมุนด้วยกลิ่นกุหลาบ อร่อยเข้มข้นลงตัวคู่ครีมชีส
  • เผ็ดเผ็ด (PhedPhed) ร้านอาหารอีสานสุดฮิปขวัญใจคนเมือง ที่สุดของร้านรสแซ่บกับเอกลักษณ์ในการใช้วัตถุดิบที่ผลิตขึ้นเองทุกอย่างที่ได้เตรียมเมนูพิเศษอย่าง ยำบะหมี่หน้าโรงเรียน ยำบะหมี่แบบง่าย ๆ แต่ใส่ใจดีเทล เพราะขอแบบไม่ใส่ต้นหอมผักชี มีแต่บะหมี่ หมูสับ ไส้กรอกและกะหล่ำลวก พร้อมออนท็อปด้วยไข่ดาวสุกๆ อร่อยแบบถูกใจ และอีกเมนูแซ่บนัวทานง่ายอย่าง ตำผลไม้สุด Love ที่รวบรวมผลไม้สามอย่างที่ร้านเผ็ดเผ็ดมักเลือกเป็นวัตถุดิบหลักอย่างมังคุดคัด สตรอเบอรี และมะม่วงสุก มาปรุงผสมน้ำยำรสชาติเข้มข้น อร่อยแซ่บเข้ากันสุด ๆ
  • ROOTS ร้านกาแฟดังแห่งยุค ตัวจริงในเรื่องคุณภาพที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดกาแฟไทยอย่างพิถีพิถันจากเกษตรกรโดยตรง ได้คราฟต์เมนูเครื่องดื่มสุดพิเศษอย่าง Fizzy Apple Cold Brew เพิ่มความสดชื่นให้รสสัมผัสเปรี้ยวหวานละมุนจากซีรัปองุ่นมัสแคตและน้ำแอปเปิ้ลสด ผสานเข้ากับกาแฟโคลด์บรูวอย่างลงตัว พร้อมเติมความสดชื่นซาบซ่าด้วยโซดา โปรยความสนุกออนท็อปด้วยซอสพริกเกลือด้านบนให้รสชาติตัดกันได้อย่างลงตัว หรือใครที่ไม่ดื่มกาแฟ ก็สามารถเลือกเป็น non-coffee ได้เช่นกัน
  • โอ้กะจู๋ ร้านอาหารจากเชียงใหม่ที่ครองใจคนทั้งประเทศ ด้วยความเป็นที่สุดของการนำเสนอเมนูสุขภาพที่เสิร์ฟความอร่อยในทุกวัน โดยงานนี้โอ้กระจู๋ครีเอท 3 เมนูพิเศษให้ได้อร่อยฟิน ไม่ว่าจะเป็น ซี่โครงเลดี้สโมคบาร์บีคิวทรัฟเฟิลชีส แรปซี่โครงเนื้อร่อนจากกระดูกกับซอสทรัฟเฟิลชีสหอมละมุน เนื้อบาร์เวทดรายเอจด์สโมคบาร์บีคิวทรัฟเฟิลชีส แรปเนื้อชายท้องวัวดรายเอจด์รสเข้มข้นสุกกำลังดี มาพร้อมซอสสโมคบาร์บีคิวฉ่ำเข้าเนื้อหอมซอสทรัฟเฟิลชีส และสไปซี่ซาวเออร์นาโช่ปาร์ตี้ นาโช่กรอบสองสัญชาติที่ผสมผสานทั้งรสเปรี้ยวเผ็ดจัดจ้านสไตล์ไทย
  • Shake Shack ร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ที่สุดของเบอร์เกอร์คุณภาพระดับโลก โดดเด่นด้วยความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่มีความสนุกสนาน ส่งเมนูพิเศษอย่าง Blackberry Lemonade เครื่องดื่มรีเฟรชชิ่งที่ทำจากวัตถุดิบสูตรพรีเมี่ยม ด้วยผลแบล็กเบอร์รี่สดมาปั่นคู่กับน้ำมะนาวสูตรพิเศษของ Shake Shack ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวอย่างลงตัวเติมรสชาติความสดชื่นกลางสวนปิกนิกให้สดใสเข้ากันสุด ๆ

นอกจากจะได้เต็มอิ่มไปกับรสชาติความอร่อยใหม่ในงานนี้แล้ว แกร็บฟู้ด ยังจัดเต็มกับกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย อาทิ Photo Booth ธีมน่ารัก ๆ ให้ได้ถ่ายรูปพร้อมแต่งตัวเป็นอาหารจานโปรด และกิจกรรมร่วมสนุกรับ Merch ของที่ระลึก อย่าง กล่องข้าว กระเป๋าผ้า และ Griptok กับลวดลายสุดลิมิเต็ดที่ออกแบบโดย NEWYEAR ที่มีเฉพาะงานนี้เท่านั้น

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความอร่อยการันตีคุณภาพGrabThumbsUp อร่อยจริง จากคนกินจริงได้ที่ https://www.facebook.com/GrabFoodTH
และ https://www.instagram.com/grabfoodth/

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น