Aviyana Hua Hin เปิดตัว! รีสอร์ทใหม่ริมชายหาดชะอำพร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนสุดชิลล์”

อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรีสอร์ทติดทะเลแห่งใหม่อย่างเป็นทางการโดยมี คุณสุมาลี คูรานา ประธานกรรมการผู้จัดการรีสอร์ท ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีตัดริบบิ้นและกล่าวเปิดงานร่วมกับ คุณชาญชัย ปรีชา ผู้จัดการทั่วไปและคุณณิชาภัทร ศรีสำราญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมในงาน ณ ห้อง AVOWS Ballroom

คุณสุมาลี กล่าวว่า “ความตั้งใจของรีสอร์ทแห่งนี้คือการสร้างสถานที่สำหรับคนทุกเจเนอเรชันสามารถมาพักผ่อนและสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน เราต้องการให้ อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) เป็นรีสอร์ท ที่ผู้คนสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่น ความสุข และความสงบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน” เราจึงเลือกทำเลบนพื้นที่ชายหาดชะอำ เพราะเราอยากให้ผู้ที่เข้ามาพักได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เปรียบเสมือนสวรรค์แห่งการพักผ่อน และยังให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสำหรับทุกคนที่มาเยือน โดยกลยุทธ์การลงทุนของทางรีสอร์ทคือการเลือกโลเคชั่นที่เห็นวิวดี ความสวยงามของวิวธรรมชาติติดทะเล เป็นจุดขายสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมถึงการเดินทางที่สะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

คุณชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางรีสอร์ทฯให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้เข้าพักเป็นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนสามารถมาพักผ่อนอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการมาพักผ่อนกับครอบครัว การจัดงานแต่งที่เนรมิตความโรแมนติกในบรรยากาศริมทะเล หรือการจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยงและสัมมนา โดยทางรีสอร์ทมีพื้นที่ให้บริการสำหรับการจัดงานในโอกาสพิเศษ คือ Siamara พื้นที่จัดงานเลี้ยงบนด้านฟ้ากลางแจ้งแบบไพร์เวท และ AVOWS Ballroom ห้องบอลรูมสำหรับการประชุมและงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับแขกได้มากถึง 300 คน คุณชาญชัยยังกล่าวเสริมว่า “ทางรีสอร์ทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในหัวหิน ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วยพื้นที่สำหรับการรองรับในการทำกิจกรรม”

คุณณิชาภัทร เผยว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในหัวหินขณะนี้มีการแข่งขันที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้ ทางรีสอร์ทจึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมเชิงลึกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อหาจุดเด่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด เธอระบุว่า “นอกจากคนไทยจะชื่นชอบอาหารรสจัดแล้ว เรายังพบว่านักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น” ด้วยแนวคิดนี้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ จึงเน้นย้ำจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่านร้านอาหารของรีสอร์ทอย่าง Miss T Beach Café และ Pomelo All-Day Dining ซึ่งยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย เช่น กะปิ สาโท และใบชะคราม ให้กลายเป็นเมนูหรูหราที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
“ที่นี่เราภูมิใจที่จะบอกว่าลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอาหารฟิวชั่นสไตล์นานาชาติริมชายหาด พร้อมฟังเสียงคลื่นทะเลที่สงบพร้อมดื่มด่ำกับรสชาติอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ” คุณณิชาภัทรกล่าว

ด้วยการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่กลมกลืนไปได้อย่างลงตัวกับธรรมชาติอันงดงามของอ่าวไทย รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 115 ห้อง โดยมีห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือกดังนี้:
• ห้อง Superior ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 37 ห้อง
• ห้อง Deluxe Sea View ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 62 ห้อง
• Oasis Beachfront Villa ขนาด 53 ตร.ม. จำนวน 8 ห้อง
• Ambassador Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 247 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต (2 ห้อง)
• Ocean View Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 165 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต (2 ห้อง)
ราคาที่เริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อคืน

นอกจากนี้ รีสอร์ทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำท่ามกลางวิวทะเลแบบพาโนรามา โดยผู้เข้าพักสามารถเดินลงจากที่พักเพื่อเดินเล่นบนชายหาดได้ทันที รวมถึงรีสอร์ทยังมีห้องอาหารและบาร์สำหรับให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ ร้าน Pomelo All-Day Dining ที่ให้บริการอาหารเช้าร่วมถึงยังมีบริการขายอาหารตลอดทั้งวัน, ร้าน Miss T Beach Café สุดชิลล์ที่สามารถรับประทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยายริมทะเลไปพร้อมกัน และ Nest Pool Bar ที่สายค็อกเทลห้ามพลาด สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนสุดชิลล์ ณ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin)

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 032-512-311
อินสตาแกรม: @aviyanahuahin
จองห้องพักได้ที่: booking@aviyanahuahin.com
🌐 Website: https://aviyanahuahin.com/
🌐 Facebook: Aviyana Hua Hin
📍 พิกัด: No. 1515 Phet Kasem Rd, Sai Tai, Cha-am District,
Phetchaburi, Thailand, Phetchaburi

ดีป้า จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเข้มข้น ครู – ต่อยอดสู่เวทีนานาชาติ

ดีป้า จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเข้มข้น ครู – นักเรียน จำนวน 100 ทีม ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จากทั่วประเทศ เข้าคอร์สติวเข้มทักษะโค้ดดิ้ง จากผู้เชี่ยวชาญ ฝึกนำเสนอผลงานและรับข้อเสนอแนะ ก่อนร่วมประชันไอเดียเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนเวที Coding War เวทีแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ดำเนินกิจกรรม Coding Bootcamp & Coding Roadshow และ Coding War ใน 8 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเฟ้นหา 100 สุดยอดทีมจากโรงเรียนทั่วประเทศ ที่มีทักษะโค้ดดิ้งเป็นที่ประจักษ์ เข้าสู่กิจกรรมยกระดับศักยภาพด้านโค้ดดิ้งเข้มข้น ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาไปสู่ความรู้ด้านดิจิทัลในระดับที่สูงขึ้น

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ทักษะการนำเสนอโครงการ (Pitching) และการบอกเล่าเรื่องราว (Storytelling) ให้น่าสนใจ พร้อมรับข้อเสนอแนะจากทีมวิทยากรระดับ
แนวหน้าของไทยที่จะมาเป็นที่ปรึกษา (Mentor) ใน 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย โค้ดดิ้งในชีวิตประจำวัน โค้ดดิ้งเพื่อการเกษตร โค้ดดิ้งวิถีชุมชน และโค้ดดิ้งสำหรับอนาคต พร้อมนำตัวอย่างการนำเสนอโครงการโค้ดดิ้ง และ AI ที่ประสบความสำเร็จมาเป็นแนวทางการเรียนรู้ให้ได้ฝึกฝน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นอกจากนี้จะได้เรียนรู้เรื่องการประเมินขนาดของตลาด โมเดลธุรกิจเบื้องต้น และการออกแบบโมเดลธุรกิจ

“กิจกรรมทั้งหมดถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับทุกทีม ก่อนร่วมประชันไอเดียเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนเวที Coding War เวทีแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายนนี้ ณ MCC Hall เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เพื่อชิงชัยสู่การเป็น 10 สุดยอดผลงานนวัตกรรมดิจิทัล ที่จะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์ดิจิทัลและทุนการศึกษา มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโค้ดดิ้งบนเวทีระดับนานาชาติ อย่าง Seoul International Invention Fair 2024 (SIIF 2024) ณ สาธารณรัฐเกาหลี” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ด้าน นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า หลักสูตรในกิจกรรมบ่มเพาะ เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อพัฒนาทักษะรอบด้าน ช่วยฝึกฝนและเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน โดยเฉพาะการนำเสนอผลงานให้น่าสนใจ มีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้มุมมองทางธุรกิจที่จะต่อยอดไปสู่ Startup ที่เป็นประโยชน์ต่อครูและนักเรียนเพื่อเห็นภาพกว้าง และมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น โครงการ Coding for Better Life ถือเป็นต้นแบบของการยกระดับการศึกษาที่ครอบคลุมทุกมิติ ไม่เพียงแต่สนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ แต่ยังมีการพัฒนาบุคลากร สร้างเครือข่าย และการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบให้นำไปต่อยอดพัฒนาการศึกษาด้านอื่น ๆ ได้ในอนาคต

พร้อมกันนี้ โครงการ Coding for Better Life ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด โดย บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ที่ร่วมสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การมอบ Micro:bit ให้โรงเรียนภายใต้กิจกรรมอัปเกรดห้องเรียนโค้ดดิ้ง มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และสนับสนุนกิจกรรม AI Roadshow สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับ AI ในสาขาอาชีพต่าง ๆ ให้กับเยาวชน ครู ผู้ปกครอง และบุคคลทั่วไป รวม 8 จังหวัด และในกิจกรรม Coding War ได้สนับสนุนเงินรางวัล และผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัดฟรีตลอด 1 ปีสำหรับทีมผู้ชนะในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา พร้อมรางวัลพิเศษสำหรับระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาจำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 600,000 บาท บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนหลักสูตร HUAWEI CLOUD DEVELOPER บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สนับสนุนคูปองการเรียนรู้ผ่าน TRUE DIGITAL ACADEMY เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงเรียนในโครงการฯ และ เทโร เพอร์ฟอร์แมนซ์ คอร์ส ที่มีเป้าประสงค์เดียวกัน คือ การปลูกฝังความรู้ด้านโค้ดดิ้งแก่ประชาชนไทยตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เด็กไทยเติบโตไปเป็นกําลังคนดิจิทัลที่มีคุณภาพ และเป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ร่วมพลิกโฉมการเรียนรู้ Coding ไปพร้อมกันกับโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร และรายละเอียดโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ได้ที่ www.depa.or.th, CodingforBetterLife.com และเพจเฟซบุ๊ก depa Thailand และ Coding Thailand by depa

ครั้งแรก “ทรู เวิลด์ ทราเวล” ร่วมกับ “แอร์ปูซาน” จัดทริปเที่ยว 2 ประเทศเปิดเส้นทางใหม่ที่เดียวในไทย

กลับมาอีกครั้งกับงานที่ทุกคนรอคอย ฤดูกาลท่องเที่ยวเกาหลี 2024-2025
ต้อนรับฤดูการท่องเที่ยวเกาหลี ถึงอีกครั้ง “ทรู เวิลด์ ทราเวล” ร่วมกับ “แอร์ปูซาน” จัดทริปเที่ยว 2 ประเทศ “ปูซาน – มัตสึยามะ” เปิดเส้นทางใหม่ที่เดียวในไทยพร้อมต้อนรับและบริการนักท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยว ยกระดับจุดหมายทางการท่องเที่ยวระดับโลก มีความสวยงามหลากหลายแบบหลายมุม แตกต่างกันไป

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา บริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล ร่วมกับ สายการบิน ปูซานแอร์ไลน์ เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเกาหลี NEW SEASON OPENING ชวนคนไทยท่องเที่ยวฉ่ำๆ สองประเทศ เกาหลีและญี่ปุ่น ครั้งแรกในเมืองไทย โดยมีนักท่องเที่ยวและเอเยนซี่ ร่วมเปิด season อย่างคับคั่ง

Mr. Kim Jongcheol General Manager Bangkok Branch Air Busan

Mr. Kim Jongcheol General Manager Bangkok Branch Air Busan กล่าวว่า “แอร์ปูซาน ยินดีต้อนรับผู้โดยสารคนไทยทุกท่าน แอร์ปูซาน เรามีเส้นทางการบิน กรุงเทพ-อินชอน และกรุงเทพ-ปูซาน และนี่เป็นการเปิดเส้นทางใหม่ครั้งแรก ร่วมกับกับบริษัททรู เวิลด์ ทราเวล คือ ปูซาน – มัตสึยาม่า ปูซาน เมืองใหญ่ที่น่าเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ และเมืองมัสสึยะมะซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่น”

นางสาว พธู ณ สงขลา ผู้บริหาร บริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล จำกัด

ด้านนางสาว พธู ณ สงขลา ผู้บริหาร บริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล จำกัด กล่าวถึง การเปิดเส้นทางใหม่ เที่ยวสอworldงประเทศในครั้งนี้ว่า NEW SEASON OPENING ปี 2024-2025 เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวเกาหลีกลับมาอีกครั้ง รอบนี้ทรู เวิลด์ ทราเวล มาเปิดตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบินแอร์ปูซาน เป็นการร่วมมือครั้งแรกของทรู เวิลด์ ทราเวล ซึ่งซีซันที่ผ่านมา ปี 2023-2024 ทรู เวิลด์ ทราเวล พาคนไทยไปเที่ยวเกาหลีรวม 50,000 กว่าคน และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีมาก ๆ กระแสตอบรับล้นหลาม ทำให้ครั้งนี้ ทรู เวิลด์ ทราเวล เปิดทริปเที่ยวเกาหลีเพิ่มเติมขึ้นมา เป็นทริปพิเศษ นอกเหนือจากทริปที่เป็นซิกเนเจอร์ของ ทรู เวิลด์ ทราเวล ไม่ว่าจะเป็น ปูซาน โซลพลัสที่ให้เที่ยวอิสระ เป็นเคทีเอ็กซ์ให้เที่ยวทั้งปูซานและกรุงโซล รวมถึงเกาะเจจูรอบนี้เปิดด้วย และรอบนี้พิเศษสุดๆ กับทริปที่เที่ยวสองประเทศในครั้งเดียว คือไปทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นในคราวเดียว

โดยบินกับแอร์ปูซาน สายการบินที่บินทั้งสี่ไฟล์ทเป็นอินเตอร์ทั้งหมด ที่ญี่ปุ่น เที่ยวที่เมืองมัตสึยามา หลายคนยังไม่รู้จัก เพราะประเทศไทยไม่มีบินตรงไปที่นั่น ใครอยากเที่ยว เมืองเก่าแก่ ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ต้องบินไปกับเรา เพราะเราพาบินจากปูซานไปมัตสึยาม่า ใช้เวลาบินแค่ห้าสิบนาที ทริปของเรา 6 วัน 4 คืน เที่ยวสองประเทศ จุกๆ รับรองว่าประทับใจแน่นอน ญี่ปุ่นของเราเริ่มเดินทางวันนี้ วันที่ 20 สิงหาคม 2567 และออกเดินทางทุกวันอังคาร ยาวไปถึง เดือนธันวาคม ใครอยากเที่ยวฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหิมะตก เตรียมพร้อมจองทัวร์กันได้เลย ส่วนซีซันใหม่ของเราเริ่มวันนี้วันแรก เช่นเดียวกัน มีทั้ง ปูซาน 4 วัน 2 คืน ปูซาน 5 วัน 3 คืน โซลพลัส 4 วันและ โซลพลัส 5 วัน รวมถึงเจจู พบกันแน่ๆ เร็ว ๆ นี้คะ ถ้าไปเที่ยวเกาหลี แค่มี KETA สามารถเข้าไปท่องเที่ยวเกาหลีได้ ถ้าใครเลือกทริปเกาหลี – ญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่น ใช้ visit Japan ลงทะเบียนตอนนี้ ทรู เวิลด์ ทราเวล ลงทะเบียนให้ด้วย แค่คุณมีพลาสปอร์ต และ KETA และ visit Japan สามารถไปเที่ยวกับได้แล้ว

สามารถจองผ่านบริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล หรือ ตัวแทนจำหน่าย
บริษัทเอเยน ซีทั่วประเทศไทย สามารถติดตามข่าวสารได้ทาง
facebook : True World Travel และ www.gotrueworld.com

Sheep ปล่อยใยมัดใจแฟนพันธุ์แท้ยอดมนุษย์แมงมุม ชูลายเคสเรืองแสง&ขยับได้

พร้อมยกระดับงานคอลแลปส์ ดึงศิลปินระดับโลก Tokidoki  ออกแบบลาย Mickey & Friends เปิดตัวพร้อมกัน 2 คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

แบรนด์ “Sheep” เคสสัญชาติไทยผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ต ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดรวมถึงการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และตัวตนของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าจากร้าน AppleSheep ที่รวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และไอทีเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ล่าสุดปล่อยหมัดเด็ด ยกระดับงานคอลแลปส์พร้อมกัน 2 คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ   ด้วยการประกาศเข้าสู่จักรวาล Marvel ต้อนรับการมาขอ Avenger Phrase 2 ออกเคสโทรศัพท์ที่สัมผัสถึงพลังของซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel  ลาย Spider-Man    และอีกคอลเลคชั่นเป็น อุปกรณ์ตกแต่งมือถือ จากผลงานการออกแบบลาย Mickey&Friends และ Winnie The Pooh  จาก Global Artist อย่าง Simone Legno (Tokidoki)  ที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sheep and Friends โดยเปิดตัวในงาน  Disney Toy Expo Thailand 2024          

นายอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์  Founder&CEO บริษัท  ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด กล่าวว่า “การร่วมงานกับ Marvel (Spider-Man) เป็นการปูทางสำหรับ Marvel Phrase 2 ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายงานออกแบบเป็นอย่างมาก เนื่องจากการออกแบบแต่ละครั้งเราต้องคำนึงว่าจะทำอย่างไรเราจึงจะดึงภาพจำและเอกลักษณ์ของ Character นั้นๆ มานำเสนออย่างดีที่สุด ในขณะเดียวกันเราต้องให้ความสำคัญอย่างมากที่สุดต่อภาพพจน์ของผู้ใช้งานสินค้า เป้าหมายของแบรนด์ Sheep ทำให้ผู้ใช้สินค้าต้องดูดีและเข้ากับสไตล์ของผู้ใช้เป็นอย่างดี โดยแน่นอนว่าแฟนตัวยงของ Spider-Man นั้นจะเป็นผู้ชายเป็นส่วนมาก ซึ่งจะเป็นนักสะสมของเล่น เราตีโจทย์ว่าจะต้องทำลายที่มีความพิเศษสุดๆแต่ดูเรียบง่ายไม่หวือหวา เหมือนกับ Spider-Man ที่กลางวันเป็นเด็กธรรมดาแต่กลางคืนกลับกลายเป็นยอดมนุษย์ที่มีพลังลึกลับน่าสนใจโดยรอบนี้เราเลยหยิบเทคนิคการพิมพ์ลายแบบพิเศษมาใช้โดยทำให้ภาพบนเคสขยับได้และเรืองแสงในที่มืดซึ่งเป็นการนำเสนอความเป็น Spider-Man ได้อย่างลงตัว และเป็นลายที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยพลังพิเศษที่ผู้ใช้เท่านั้นถึงจะสัมผัสได้  เคสคอลเลคชั่นนี้รองรับโทรศัพท์ iPhone 13ไปจนถึงเคส iPhone 15และเคสซุมซุง S23/S24 Ultra   นอกจากนั้นยังมีเคส iPad , Macbook, Airpods, Magsafe Wallet, Phone Charm, และ Mousepad และอีกคอลเลคชั่นที่เปิดตัว เป็นอุปกรณ์ตกแต่งมือถือจากผลงานการออกแบบลายโดยไอคอนสตรีทอาร์ตระดับโลก ซิโมเน่ เล็กจ์โน่ (Simone Legno) ซึ่งหยิบ Mickey&Friends และ Winnie The Pooh มาวาดใหม่เป็น Version Tokidoki  ซึ่งผมและทีมรู้สึกสนุกและภูมิใจมากๆทุกครั้งที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ รอบนี้เรายกระดับไปอีกขั้นจริงๆ

จากการร่วมมือสองฝ่าย เป็นการร่วมมือสามฝ่าย คือ  Sheep x Tokidoki  x Disney ซึ่งความยากของการทำงานสามฝ่ายคือการทำให้ทุกฝ่ายโดดเด่นเท่ากัน ไม่มีฝ่ายไหนหายไปหรือใครเด่นกว่าใคร ซึ่งจะยากกว่าการทำงานแบบสองฝ่ายอย่างแน่นอน เพราะเราต้องแบ่งสัดส่วนให้ดี โดยผลงานที่ออกมาจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่งมือถือ Mickey&Friends และ Winnie The Pooh ที่มีลายเส้นการวาดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Tokidoki โดยมีฟังก์ชั่นแบบ Sheep Style สินค้าที่เป็นไฮไลท์รอบนี้คือ Spinning Magsafe Griptok ที่เราทำหมุนได้ 360 องศา เป็นวงล้อสุ่ม Characters ซึ่งเราตั้งใจเปลี่ยน Gadget ธรรมดาๆให้เป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกในวงเพื่อนพ้องที่ชื่นชอบ Disney และทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงกลิ่นไอความรู้สึกของการดูการ์ตูน Mickey&Friends และ Winnie The Pooh ที่เหล่า Character จะมาล้อมวงเล่นสนุกกันตลอดเวลา

นายอภินันท์กล่าวต่อว่า “สำหรับแบรนด์ Sheep การหยุดนิ่งเท่ากับถอยหลัง เพื่อเป็นหนึ่งในวงการ และเป็นตัวแทนของแบรนด์ไทยและสินค้าไทย เราจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าให้คุ้มค่าต่อเงินทุกบาทที่ลูกค้ามอบให้เรา เมื่อเทียบกับสินค้าที่ราคาเท่ากันแล้ว สินค้าของแบรนด์ Sheep ต้องดีที่สุดทั้งในเชิงของ การใช้งาน ความสวยงาม และภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน ในปีที่ผ่านมาเราออกสินค้าคอลเลคชั่นใหม่แทบทุกเดือน นอกจากจะเพิ่มตัวเลือกใหม่ให้ลูกค้าเดิมแล้ว การออกคอลเลคชั่นใหม่คือการแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า แบรนด์เราไม่เคยหยุดพัฒนา ทุกครั้งที่มีการออกคอลเลคชั่นใหม่ นั้นคือเรามีการพัฒนาคุณภาพสินค้าควบคู่ไปด้วย

ปัจจุบันเรามีสินค้าหลักเป็นอุปกรณ์เสริม เคสมือถือ เคส iPad, เคส Macbook, เคสAirpods, และทำสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์หลากหลายมากขึ้น รวมถึงกล่องสุ่มสินค้าไอทีด้วยครับ   ปัจจุบันSheep ถือเป็นแบรนด์อันดับต้นๆในไทย ที่มีผลงานการออกแบบร่วมกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกับ  Esther Bunny , Disney, Sanrio, Care Bears, One Piece, Doraemon, Shinchan, และ อื่นๆอีกมากมายซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดีซึ่งนอกจากการจัดจำหน่ายในร้าน AppleSheep แล้ว แบรนด์ Sheep ยังได้รับความไว้วางใจจากร้านค้าชั้นนำระดับประเทศมากมายไม่ว่าจะเป็น Loft, Matchbox, Freak, Seek and Keep Club, Medium and More, Banana, Studio7, B2S, Yumeya, True Shop และ จากทิศทางผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์เดินหน้าบุกขยายตลาดต่างประเทศเริ่มจากในภูมิภาคอาเชียน เพื่อขยายฐานลูกค้า  เป็นการตอกย้ำว่าแบรนด์ไทยเรามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ   เราจะนำเสนอสินค้าสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ” คุณอภินันท์กล่าวทิ้งท้าย  

ปัจจุบัน AppleSheep มีหน้าร้านในห้างสรรพสินค้าอยู่ 10 แห่งด้วยกัน ร้าน Sheep Exhibition Store ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์  และ Flagship Store  อีก 9แห่ง เซ็นทรัลเวิลด์,เซ็นทรัลลาดพร้าว ,เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลรามอินทรา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ,เมกา บางนา , ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, และอีกสองสาขาต่างจังหวัด เซ็นทรัลเหาดใหญ่ , เซ็นทรัลขอนแก่น ติดต่อช่องทางออนไลน์ได้ที่  www.applesheepth.com,
Line: @applesheep, FB :AppleSheep เคส ipadpro มีที่เก็บปาก, IG applesheepth, Tiktok applesheepth

เริ่มแล้ว! Disney Toy Expo Thailand 2024 วันแรกสุดคึกคัก

แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ตบเท้านำของเล่นของสะสมมาโชว์เต็มลานเซ็นทรัลเวิลด์

( 15 สิงหาคม 2567 ) เปิดฉากวันแรกอย่างยิ่งใหญ่ สิ้นสุดการรอคอยงานใหญ่แห่งปีของสาวกแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์แห่ร่วมงานคับคั้ง เรียกว่าหลายคนที่มาร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้จัดเต็มทำถึง เพราะเป็นครั้งแรกในไทยและในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยกกองทัพของเล่นของสะสมทุกคาแรคเตอร์
ที่แฟนๆ ชื่นชอบจาก Disney ,Pixar ,Marvel และ Star Wars ภายใต้ชื่องาน Disney Toy Expo Thailand 2024 งานที่รวบรวมสินค้าลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการมากมาย ของสะสมจากแบรนด์ระดับโลกสินค้ารุ่นลิมิเต็ด คอลเลคชันใหม่จากความร่วมมือของศิลปินชื่อดัง พร้อมเสริฟความบันเทิงใกล้ชิดเหล่าคาแรคเตอร์ดิสนีย์ที่มามอบความสุขสนุกสนานส่งตรงจากต่างประเทศ งานนี้เนรมิตพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น1ถึงชั้น3 ให้เป็นแหล่งรวมความสุขสนุกสนานและย้อนความทรงจำในวัยเด็ก ตลอด4วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่15-18สิงหาคมนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการงานของเล่นของสะสมเลยทีเดียว

คุณปรีชา อาชามงคล ผู้อำนวยการลิขสิทธิ์สินค้าอุปโภคบริโภคประจำประเทศไทยและเวียดนาม และคุณชาญวิทย์ วิทยสัมฤทธิ์ Chief Executive Officer บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมพบกับนักแสดง และนักร้องสุดฮอต โฟร์ท- ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ การเป็นแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์ และสนุกสุดฟินกันแบบฉ่ำๆ กับการแสดงมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN ปิดท้ายด้วย Mickey & Friends คาแรคเตอร์จะออกมาทักทายแฟนๆอีกด้วย

โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจาก บริษัท อาซากิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน), บริษัท เอส เอฟคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ขวัญชนกโปรดักชั่น จำกัด,บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด

ภายในงานบรรยากาศสนุกสุดฟินที่แต่ละแบรนด์ต่างครีเอตบูธและสินค้าได้อย่างน่าตื่นตาและน่าสนใจทั่วทุกบริเวณงานทั้ง 3ชั้น มีแบรนด์ชั้นนำเผยโฉมสินค้าแปลกใหม่ของหายาก และเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่สุดพิเศษจากแบรนด์ ต่างๆอาทิ Royal Selangor มาพร้อมกับ BE@RBRICK IRONMAN เปิดตัวครั้งแรกของโลก AppleSheepที่เตรียมเปิดตัวสินค้าจากการร่วมมือสุดพิเศษกับศิลปินชื่อดังระดับโลก ซิโมเน่เล็กจ์โน่ Simonelegno ( Tokidoki) ไอคอนสตรีทอาร์ตที่มีคาแรคเตอร์เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ นำลายเส้นสไตล์น่ารักอันเป็นเอกลักษณ์มาสู่ Mickey & Friends ด้วย Collection เสื้อผ้าเครื่องประดับหลากหลายอย่างที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน ,แบรนด์Sheepเปิดตัวเคสโทรศัพท์ ลาย Spider-Man โดยมี วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร มาร่วมงาน และ Asaki ที่มาพร้อมกับ Box Set สุดพิเศษ ปิดท้ายด้วย Wongdek Toysland ที่มาพร้อมการเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดจากแอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Cars จาก Pixarพร้อมพบกับบรรดาแบรนด์ของเล่นของสะสมชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิเช่น LEGO,Royal Selangor, Threezero,funko,Loungefly ,URDU,BEAST KINGDOM, Makeitloud และ AppleSheep รวมร้านค้าทั้งหมดมากกว่า 40 บูธ นอกจากได้พบสินค้าแล้วยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การแจก Voucher ผ่าน Shopee Live และโปรโมชั่นประจำบูธลุ้นรับของรางวัลมากมาย

Meet & Greet กับ Mickey &Friends ที่มาสร้างความสนุกสนานอบอุ่นหัวใจให้กับผู้ชมทั่วโลกมานานหลายทศวรรษเตรียมเปิดรับโอกาสสุดพิเศษที่จะได้พบปะ และทักทายกับ Mickey พร้อมผองเพื่อนที่พวกเขาจะปรากฏตัวตลอด 4 วัน ภายในงาน DisneyToy Expo Thailand 2024 เพื่อพบกับแฟนๆ ชาวไทย

กิจกรรมพิเศษจากกลุ่มแฟนชาวไทย การแสดงร้องเพลงจากกลุ่มแฟนๆโดย DMCT จะทำการแสดงขับร้องบรรดาเพลงฮิตของดิสนีย์อันเป็นที่รักของทุกคน ผ่านกลุ่มแฟนๆมากความสามารถพวกเขาตัวกันด้วยความหลงใหลในดนตรีของดิสนีย์โดยพวกเขาเคยถ่ายทำเพลงดิสนีย์เวอร์ชั่นของตัวเองมาแล้วด้วย มาร่วมย้อนสู่วัยเด็กที่ชวนคิดถึงและร้องเพลงท่วงทำนองที่คุ้นเคยผ่านเพลงโปรดของแฟนๆ

บูธจากกลุ่มแฟนๆ โดย 501st Thailandหากคุณเป็นแฟนของ Star Wars ห้ามพลาดบูธของ 501st Legion Thailand กลุ่มแฟนๆที่จะแต่งกายด้วยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลใน Star Wars พร้อมเปิดโอกาสในการถ่ายรูปรับของที่ระลึกตามธีม และอื่นๆ อีกมากมายการแสดงคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN กลุ่มศิลปินบอยแบนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยโดยพวกเขาจะมาสร้างสีสัน มอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ และผู้เข้าร่วมงาน

พบกับงาน Disney Toy Expo Thailand 2024 ตลอด 4 วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่วันนี้ – 18สิงหาคม 2567 ภายในพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ Instagram DTX Thailand 2024

สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย ขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Touris


สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย จับมือ ททท. ส่งเสริม “ท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ Organic Tourism” ต่อเนื่องสานพลังเกษตรกรและผู้ประกอบการ สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลก ผ่านเมนูอินทรีย์ และ
Earth Points

สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Tourism
ให้เป็นเสน่ห์และจุดขายทางการท่องเที่ยวใหม่ของประเทศ พร้อมสานพลังผู้บริโภค เกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร และนักวิชาการ ร่วมขยายสังคมอินทรีย์ทั้งระบบ ชูจุดเด่น คุณค่าของการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ที่ทรงคุณค่า ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ และสัมผัสได้ด้วยตนเองทันที ผ่าน TOCA Platform กิจกรรมสะสมคะแนน “Earth Points” และกิจกรรมสร้างความรู้ สร้างแรงบันดาลใจต่างๆ ที่จะช่วยนำทางให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมดูแลโลก และเริ่มลงมือทำจาก “การกินอาหารอินทรีย์และท่องเที่ยววิถีอินทรีย์” ที่ดีต่อทั้งกาย ดีต่อใจ และดีต่อโลก

นายอรุษ นวราช นายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย เปิดเผยว่า จากการทำงานอย่างต่อเนื่องร่วมกัน ของสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (Thailand Organic Consumer Association หรือ TOCA) และเครือข่ายพันธมิตรตลอดห่วงโซ่สังคมอินทรีย์ ทั้งเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร นักวิชาการ และเครือข่ายผู้บริโภคอินทรีย์ ในจังหวัดต่างๆ ที่ TOCA ได้เข้าไปดำเนินงานเชื่อมโยง และจากการพัฒนา แอปพลิเคชัน “TOCA Platform” ให้เป็นจุดเชื่อมต่อคนในสังคมอินทรีย์ทั้งระบบ เป็นที่น่าดีใจที่ปัจจุบันผู้บริโภคในประเทศไทยมีความตระหนักรู้และเข้าใจคุณค่า ประโยชน์ของการบริโภคอาหารอินทรีย์ ในหลากหลายมิติมากขึ้น คือ นอกจากจะบริโภคอาหารอินทรีย์เพื่อสุขภาพแล้ว
ยังให้ความสำคัญถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และสถานการณ์โลกที่ร้อนขึ้นทุกวัน เพื่อขยายคุณค่าของเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นการผลิตที่ไม่มีการใช้สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง ทำให้มีอาหารปลอดภัย ทั้งยังช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้กับโลก และสังคมอินทรีย์ที่มุ่งสร้างระบบอาหารยั่งยืน และความมั่นคงทางอาหาร บนฐานการค้าที่เป็นธรรม TOCA จึงได้ร่วมกับ ททท. ภายใต้โครงการ “Amazing Organic Tourism for Sustainable Living ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Tourism ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีการทำงานเชิงรุกในการสร้างความร่วมมือของเครือข่ายสังคมอินทรีย์ทั้งห่วงโซ่ คือทั้งเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร นักวิชาการ และผู้บริโภค โดยในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่ 2 จังหวัดใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายทางการท่องเที่ยวของคนทั่วโลก คือ จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดภูเก็ต ที่ได้เริ่มทำงานร่วมกับชุมชนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566

“เชื่อมั่นว่าจากการทำงานเชิงรุกร่วมกัน เราจะสามารถได้แนวทางใหม่ๆ เพื่อพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์หรือ Organic Tourism ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าประทับใจและเปี่ยมคุณค่ามากมาย ทั้งวิถีชีวิต ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเส้นทาง ที่ล้วนเป็นเสน่ห์และสามารถใช้เป็นจุดขายใหม่เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย”

ด้าน นางน้ำฝน บุณยะวัฒน์ รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท. กล่าวว่า แนวคิดและกิจกรรมท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ นั้นสอดคล้องและตรงกับกับนโยบายของรัฐบาล และยุทธศาสตร์ของ ททท. ภายใต้ BCG Economy Model เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยในอนาคตให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบัน ภายใต้แคมเปญ Amazing Organic ททท. มีการสื่อสารและจัดกิจกรรมหลากหลาย เพื่อจุดประกาย ให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก ที่สามารถร่วมได้ทันที และทำได้ง่ายมาก คือ เริ่มจาก เปลี่ยนมากินอาหารอินทรีย์ และหันมาท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ที่ในกระบวนการผลิตนอกจากเกษตรกรอินทรีย์ จะไม่ใช้สารเคมีในการทำเกษตรแล้ว ยังช่วยดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ ให้กับโลก

“อยากให้เริ่มจากเรื่องง่ายก่อน นั่นคือ การบริโภคอาหารอินทรีย์ ที่ดีต่อสุขภาพ จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปทำความรู้จักกับเกษตรกรอินทรีย์ ที่ใส่ใจและดูแลผลผลิตของตนเพื่อรักษาคุณภาพ ให้ท่านเล่าเรื่องของท่านให้ฟัง แล้วเราก็จะรู้ว่า อาหารจานหนึ่ง ทำให้เรารู้จักสภาพแวดล้อมและเข้าใจถึงการทำงานของท่านเหล่านั้น เราจะเป็นอีกหนึ่งกำลังที่ช่วยสนับสนุนคนที่ทำดี ซึ่งสิ่งนี้มีความหมายและสำคัญมาก”

ตัวอย่างแหล่งท่องเที่ยววิถีอินทรีย์นำร่อง ซึ่งนักท่องเที่ยวหรือผู้บริโภค สามารถดูข้อมูล ความเป็นมา จุดเด่น และสถานที่ติดต่อบน TOCA Platform ได้แล้ว เช่น ชุมชนแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ ที่ทุกคนจะได้เรียนรู้วิถีชีวิต ภูมิปัญญา การส่งต่อแนวคิดอนุรักษ์จากรุ่นสู่รุ่น ได้รู้จักพื้นผักพื้นบ้าน ผักตามฤดูกาล และการใช้ประโยชน์และรักษาสิ่งแวดล้อม และได้รับประทานอาหารเหนือจากวัตถุดิบอินทรีย์ของชุมชน ขณะที่ชุมชนบ้านบางโรง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ยินดีเปิดรับนักท่องเที่ยวให้ไปสัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตชุมชน อาหารพื้นถิ่น พร้อมนำชมธรรมชาติที่งดงามของทะเลใต้ เป็นต้น

“ขอบคุณความร่วมมือของ ททท. และเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์ และผู้ประกอบการ นักวิชาการทุกภาคส่วนต่างๆ ที่ร่วมกันส่งเสริมผลักดัน ให้เราสามารถสร้างและขยายแหล่งท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ รวมถึงตลาดชุมชน ให้เข้ามาร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังยินดีเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ดังเช่น สวนผักฮักร้องขุ้ม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่, ออนใต้ฟาร์ม อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่, โซนสินค้าอินทรีย์ ตลาดจริงใจ Farmers Market เชียงใหม่, ตลาดนัดฅนดี เกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต, Pansook Eco Store &Tea Room อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ และตลาดสุขใจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นต้น”

สำหรับการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการ เป็นที่น่าดีใจที่ มีผู้ประกอบการที่เข้าใจมาร่วมขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์กับทาง TOCA มากขึ้น พร้อมยินดีให้สิทธิพิเศษเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคได้ร่มกิจกรรม Earth Points เช่น ร้านอาหารเอื้องคำสาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนโยบายใช้วัตถุดิบอินทรีย์ในทุกเมนูให้มากที่สุด มีการติดป้าย โปรโมท Earth Points เพื่อเราเพื่อโลก ตั้งแต่หน้าร้านและในร้าน พร้อมให้สิทธิประโยชน์ จากการแลกคะแนน Earth Points เป็นส่วนลดเครื่องดื่ม

ผู้สนใจร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ใช้TOCA Platform หรือคะแนน Earth Points สามารถสมัครเป็นสมาชิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย) โดยดาวน์โหลด TOCA Platform จาก App Store หรือ Play Store หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย www.tocaplatform.org หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ Facebook: TOCA Platform และในวันที่ 15-18 สิงหาคม 2567 นี้

TOCA จะไปร่วมออกบูธในงาน Amazing Green Fest 2024 ซึ่งจัดโดย ททท. และ The Cloud “สามารถมาพบกับเราเพื่อรู้จักเรามากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ไปด้วยกัน ได้ที่พารากอนฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร”

กรมการท่องเที่ยว เปิดเส้นทางท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ตอกย้ำเที่ยวไทย วางใจไปกับช้างชูงวง

กรมการท่องเที่ยวเปิดเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Standard) นำสื่อมวลชนสัมผัสบริการท่องเที่ยว เครื่องหมายรับรอง “ช้างชูงวงเริงร่า” ในเมืองน่าเที่ยว ตอกย้ำภารกิจยกระดับ Supply Side สู่ความยั่งยืน เดินหน้าตามนโยบาย รมว.เสริมศักดิ์ เที่ยวไทยได้ทุก Season

ช้างชูงวงเริงร่า

วันที่ 16 – 17 กรกฎาคม 2567 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้านโยบายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “ขับเคลื่อนท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวปลอดภัย เที่ยวได้ทุก Season” เปิดเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ภายใต้แคมเปญ “Trust me วางใจไปกับช้างชูงวง” ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน ด้วยมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เครื่องมือยกระดับ Tourism Supply Side
เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างมูลค่า (Value) ให้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย
ช้างชูงวงเริงร่า เป็นที่นิยม ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่มาตรฐาน ตลอดจนประชาสัมพันธ์สถานที่ หน่วยงาน และสถานประกอบการที่ผ่านการรับรองมาตรฐานให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวและสาธารณชน นำสื่อมวลชนร่วม
Press Trip ลงพื้นที่ตามเส้นทางกรุงเทพมหานคร ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และนนทบุรี



โดยมีนักแสดงชื่อดัง นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต ร่วมเปิดเส้นทางท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์การบริการอย่างมีคุณภาพ จากสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยจากกรมการท่องเที่ยว ทั้ง รีสอร์ท ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตลอดจนรถตู้ปรับอากาศ เรือรับจ้าง และห้องน้ำสาธารณะ

นิว – ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต

รถตู้ปรับอากาศ Van 1-4
บริษัท ธนัชวิชญ์ แทรเวล กรุ๊ป จำกัด
มาตรฐานการบริการรถตู้ปรับอากาศ สำหรับนักท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 1
เรื่องของโอ่ง จ.ราชบุรี
มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (ห้องน้ำโอ่งมังกรเขียว)

จุดแวะที่ 2
Cook & Coff @ เรือนจำกลางราชบุรี จ.ราชบุรี
มาตรฐานบริการร้านอาหารเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 3
วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
แหล่งท่องเที่ยวมูเตลู เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

จุดแวะที่ 4
โรงแรมบ้านอัมพวา รีสอร์ทแอนด์สปา จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว ประเภทรีสอร์ท

จุดแวะที่ 5
ร้านอาหาร The Pomelo อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ร้านอาหารอื่น เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

จุดแวะที่ 6
ล่องเรือชมหิ่งห้อย ตามลำน้ำแม่กลอง โดย ท่าเรือคุณย่า จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานเรือรับจ้างเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 7
วิสาหกิจชุมชนบ้านบางพลับ จ.สมุทรสงคราม
มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระดับดีเยี่ยม
มาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชน ระดับดีเยี่ยม

จุดแวะที่ 8
ร้านท่าเรือภัตตาคาร 2507 จ.สมุทรสาคร
มาตรฐานบริการร้านอาหารเพื่อการท่องเที่ยว

จุดแวะที่ 9
ปตท. เจษฎาบดินทร์ออยล์ จ.นนทบุรี
มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว (ห้องน้ำชาย/ห้องน้ำหญิง )

ทั้งนี้ มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการบริหารจัดการและการให้บริการที่ดีมีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและสร้างความยั่งยืนสู่ผู้ประกอบการ มีทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน อายุการรับรองมาตรฐาน 3 ปี ครอบคลุมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก สินค้าและบริการท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ด้านแหล่งท่องเที่ยว และด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ผู้ได้รับการรับรองมาตรฐาน
ได้รับประโยชน์ในการยกระดับคุณภาพการให้บริการ และการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ สร้างรายได้และเกิดความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ช่วยเสริมภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการสถานประกอบการท่องเที่ยว ชุมชน โฮมสเตย์ และมัคคุเทศก์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ด้วยความมั่นใจ คุ้มค่า

โดยสามารถค้นหาสถานที่ และสถานประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ผ่านทางเว็บไซต์ tts.dot.go.th และเฟซบุ๊ก Thailand Tourism Standard สำหรับผู้ที่สนใจก้าวเข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 02 141 3235 และ อีเมล tsactourism@gmail.com

กินอาหารเป็นยาดีกว่ากินยาเป็นอาหาร กับ เชฟตวง เขาค้อ

ร้านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ
Toptotravel พาคุณไปชิมอาหารถูกปากคนไทย ถูกใจนักชิม ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ รังสรรค์เมนูสุดพิเศษ โดยเชฟคนไทย ปรับเปลี่ยนรสชาติและเมนูใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองลิ้มลองรสชาติใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน รับรองว่ารสชาติอร่อย และที่สำคัญไร้ผงชูรส น่ารับประทานจนเลือกไม่ถูก
อร่อยเด็ดทุกจาน ไฟลุกทุกเมนู

ร้านอาหาร เขาค้อ เพชรบูรณ์ โดยเชฟตวงเขาค้อ ร้านอาหารโบราณนิยม ภายในร้านตกแต่งสบาย ๆ เหมือนนั่งรับประรับประทานอาหารอยู่บ้าน พบครัวแบบเปิดอยู่กลางร้านที่มีลีลาผัดไฟแรงและผัดเร็วๆ ด้วยกระทะจีน สะท้อนความอร่อย
ปรับเปลี่ยนรสชาติและเมนูใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองลิ้มลองรสชาติใหม่
ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน รับรองว่ารสชาติอร่อย และที่สำคัญไร้ผงชูรส  บรรยากาศสบาย ตัวร้านตกแต่งแบบย้อนยุค เหมือนได้นั่งกินข้าวบ้านคุณยาย ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั้งหมู่คนไทยและทั่วโลก ปัจจุบันมีเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่งกว่าสองร้อยรายการ โดยเชฟตวง เป็นดิเอนเนอร์และเอกเซ็กคลูทีฟเชฟ เป็นผู้ควบคุมทุกอย่างในร้านแห่งนี้ เชฟนำเสนอเมนูอาหารจากความทรงจำ ที่คุณยายของผมกิน ผมไม่อยากให้เมนูหลายอย่าง ตายไปกับคุณยาย และอยากอนุรักษ์เมนูต่างๆ ที่คุณยายทำเอาไว้ในโลกนี้ต่อไป

เข้าครัวไปพูดคุยกับ เชฟตวง เจ้าของร้านอาหารโบราณนิยม ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทรนด์การรับประทานอาหารที่เขาค้อ ด้านวัตถุดิบทางร้านเชื่อมโยงกับเขาค้อ เชฟตวงการันตีความอร่อย บอกว่า การรู้ที่มาของวัตถุดิบอาหารจะมีความสำคัญต่อผู้บริโภค รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทั้งอุปโภคและบริโภค วัตถุดิบโดยเฉพาะพืชผักสดเรา
ใช้จากเขาค้อเป็นหลัก เพราะอยากอุดหนุนเกษตรกร และพ่อค้าแม่ค้าบนพื้นที่เขาค้อ รถพุ่มพวงต่างๆ อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารไทยอย่างเต็มที่ การปรับตัว
เพื่อรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยนไป เน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้นสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้นักเดินทาง ยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัย พร้อมสื่อสารสร้างความเชื่อใจ และอิ่มอร่อยเดินทางท่องเที่ยวต่อได้อย่างสบายใจ

การที่เชฟอุดหนุนชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ แม้แต่แก๊สสั่งกับรถพุ่มพวง ร้านอยู่ได้ชุมชนอยู่ได้ เรียกว่าร้านอยู่อย่างมีความสุขกับชุมชน ยังช่วยสนับสนุนเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนของเมนูที่สะท้อนความเป็นเขาค้อ เป็นเมนูโบราณ
ที่คุณยายทำให้เรากินอาหารจำพวกหลน แกงคั่ว อาหารจำพวกต้มหมูโบราณเช่น ต้มหมูสัปปะรด แกงรัญจวน ปิดท้ายด้วยขนมหวาน สาคู และ เฉ๊าก๊วย

ปัจจุบันหาคนที่มีภูมิรู้ด้านนี้น้อยลง
เชฟอยากอนุรักษ์ทุกเมนู ไม่เคยหวงสูตร อาหารไทยมีเสน่ห์ เด่นเรื่องรสชาติ เพื่อถ่ายทอด เชฟไลฟ์สด เปิดกรุ๊ปให้ทุกคนได้ชม เพื่อนำไปทำทานกัน หรือจะนำไปต่อยอดอาชีพก็ยินดี เชฟถือว่า กิ๊ฟแอนด์เทค เป็นหัวใจหลักในการเป็น
เชฟตวง อยากทำอาหารที่ดี ใจรัก สิ่งที่มีสองอย่างที่ขาดไม่ได้คือหนึ่ง ภูมิรู้
คือภูมิรู้ดั้งเดิม โตมากับสังคมแบบไหน เคยไปกินอะไรมา นี่คือภูมิรู้ที่เคยกิน
ถ้าบ้านไหนไม่กินปลาไหลลูกหลานก็ไม่ได้กินปลาไหลแต่สิ่งสำคัญคือการใฝ่รู้ คือการไปฝึกฝนเพิ่มเติมศึกษาในโซเชียลก็ได้ กูเกิลหรือยูทูบ แต่ไม่ได้กลิ่นได้รส ได้แค่รู้หรือไม่ก็ไปซื้อเขากิน ฉะนั้นภูมิรู้และใฝ่รู้ต้องคู่กัน อยากให้ทุกท่านได้สัมผัสอรรถรสความอุดมสมบูรณ์ในเรื่อง อาหาร

ร้านอาหารโบราณนิยม @เขาค้อ รายการอาหาร รวมถึง รสชาติ และวิธีการ ได้รับมรดกตกทอดจาก คุณยายขวัญชื่น ( เสมรสุต ) พุ่มบัว หรือคุณยายตุ๋ย หลานสาวหลวงวิชิตสรไกร (โต) ข้าราชการกลาโหมในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่มีความสามารถในการปรุงอาหารแบบโบราณดั้งเดิม ออกแบบเมนูอาหารไทย จีน ฝรั่ง ทุกชนิดไม่ใส่ผงชูรส การปรุงอาหารทุกจานไม่ใส่ผงปรุงรสทั้งสิ้น รสชาติเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งชาวไทย รวมถึง มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และแม้แต่ไต้หวัน ที่แวะเวียนมาที่ร้านแทบทุกวัน จนมีวันนี้ โบราณนิยมขึ้นสู่ปีที่เก้า

ใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวเขาค้อในฤดูหนาวนี้ แอดมินอยากแนะนำ ร้านโบราณนิยมให้เป็นหนึ่งในร้านอาหาร ที่ต้องมาทานให้ได้สักครั้งเมื่อมาท่องเที่ยวเขาค้อ เชฟตวงรอต้อนรับทุกคน และขอทำหน้าที่แทนคนไทย ทุกครั้ง ที่มี นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนที่ร้าน านอาหารโบราณนิยม@เขาค้อ เชฟมอบความประทับใจให้ทุกครั้ง เพื่อหน้าตาของประเทศชาติ
เชฟตวง กล่าวทิ้งท้าย

มาเที่ยวเขาค้อ ร้านโบราณนิยม เขาค้อ … ยินดีต้อนรับ
ร้านอาหารที่เพียบพร้อม ทั้งอาหารคาว หวาน ทั้งแบบโบราณและร่วมสมัย รวมถึงเครื่องดื่มนานาชนิด เบียร์นานาชาติ

สามารถติดต่อ เพจเฟซบุ้ค: ร้านโบราณนิยม เขาค้อ (อินบ็อก)
โทรติดต่อ 062 565 0535

FB ร้านโบราณนิยม เขาค้อ Boranniyom Khao Kho Restarant
โทร 062 656 0535 และ 083 068 8635

พิกัดร้าน
https://maps.app.goo.gl/DUL35QDPSFLDxirF6
ทล.2325ทางไปน้ำตกศรีดิษฐ์ ปากซอย The Sense
ก่อนถึง แทนรัก ทะเลหมอก รีสอร์ท เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

เมนูออนไลน์ กดลิงค์ที่นี่
https://online.anyflip.com/vtzpu/kefw/mobile/index.html

ร้าน อีท ดริ๊งก์ เลิฟ โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ เดินหน้าสร้างประสบการณ์ที่เหล่านักชิมไม่ควรพลาด

ต้อนรับเดือน กรกฎาคมคม ด้วยคอนเทนท์ใหม่ล่าสุด ต้องไม่พลาดมาลองชิม 2 Course Western Set สัมผัสความอร่อยสไตล์ ที่มอบบรรยากาศ สำหรับผู้ที่มองหาความอร่อย ด้วยการเติมสีสันและบรรยากาศของร้านบวกกับความร่วมสมัยให้ตัวร้านและเมอาหารน่าสนใจ พร้อมต้อนรับทุกคนให้เข้ามาสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิก

นำเสนอในรูปแบบอาหารตะวันตก ที่คุ้มค่าทั้งราคา และความอร่อย
1 set อาหาร 4 อย่าง ประกอบไปด้วย

  1. สลัด Smoked Salmon Salad ช่วยให้สลัดแซลมอนจานนี้ได้รสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้น
  2. ซุป มีให้เลือก 2 อย่าง คือ Mushroom Soup และ Lobster Bisque Soup เลือกได้ท่านละ 1 ซุป
  3. อาหารหลัก มีให้เลือก 2 เมนู (สูตรลับเฉพาะของเชฟ )
  • Pork tenderloin wrapped bacon&spinach with mashed potatoes and mushroom jus. และ
  • Pan Seared seabass with spinach&ricotta cheese cannelloni and sun-dried tomato sauce.
  • ของหวาน Crêpes Suzette
  • เลือกได้ท่านละ 1 เมนู ราคาเซ็ตละ 850 บาท/net.
Smoked salmon salad

Smoked salmon salad
สำหรับใครที่ชอบทานซีฟู้ดทางร้านแนะนำให้ลอง ปลาแซลมอนรมควัน เสิร์ฟพร้อมสลัด ทานคู่กับน้ำสลัดหอมแดง
รสชาติสุดกลมกล่อมอย่างลงตัว ในจานนี้ถือเป็นจานสลัดเพื่อสุขภาพ ความหอมจากตัวปลาแซลมอนรมควันและยังมี fennel (ยี่หร่าฝรั่ง) เพิ่มความสดชื่นน่าทานพร้อมกับผักสลัดที่มีความสดกรอบ ตัดกับน้ำสลัดที่มีความเปรี้ยวและหวานจากหอมแดงเมื่อทานด้วยกันแล้วมีความลงตัว จนรู้สึกอยากจะทานจานต่อไป

Mushroom soup : ซุปข้นเห็ด
หรือจะลองเป็นซุปอีกตัวเลือกหนึ่งที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน
เราใช้เห็ดแชมปิญองในการทำ จึงมีความข้นเป็นพิเศษ และเพิ่มความหอมจากน้ำมันทรัฟเฟิล เลยทำให้ซุปตัวนี้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเรามากๆ

Lobster bisque soup

Lobster bisque soup : ซุปล๊อบเตอร์
ซุปของเรามีความหอมจากหัวกุ้งและเปลือกที่นำไปอบจนหอม และนำไปเคี่ยวอีกหลายชั่วโมงจึงทำให้ซุปตัวนี้เข้มข้นและมีความหอมมากเสริฟพร้อมกุ้งเนื้อแน่นและล๊อบเตอร์โฟม

เนื้อหมูสัน ในห่อด้วยผักโขมและเบคอน

Pork tenderloin wrapped bacon & spinach with mashed potatoes and mushroom jus
เนื้อหมูสัน ในห่อด้วยผักโขมและเบคอน นำไปเซียร์บนกระทะจนสุกกรอบ แต่เนื้อหมูข้างในนั้นยังคงชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมมันบดเนื้อเนียนและถั่วลันเตา และเพิ่มความเข้มข้นจากซอสเห็ดที่ทำจากเห็ดหอม เมื่อทานทุกอย่างเข้าด้วยกันจะมีความลงตัวเป็นอย่างมาก

ปลากะพงขาวเนื้อแน่นนำมาย่างหนังกรอบเสริฟพร้อมกับแป้งพาสต้า

Pan Seared seabass with spinach&ricotta cheese cannelloni and sun-dried tomato sauce.
ปลากะพงขาวเนื้อแน่น นำมาย่างหนังกรอบ เสริฟพร้อมกับแป้งพาสต้าที่นำมาห่อกับผักโขมและชีสริคอตต้า ในสไตล์อิตาเลี่ยน ที่เรียกว่า แคนเนลโลนี่ (cannelloni) และนำไปอบกับพามีซานชีส เพื่อเพิ่มความหอมซึ่งชีสริคอตต้าทางเราได้ทำเองโดยการนำนมมาแยกโปรตีนออกจากกัน ทานคู่กับซอสมะเขือเทศอบแห้งมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน จึงทำให้จานนี้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีความเป็นอิตาเลี่ยน จึงเป็นรสชาติถูกปากใครหลายๆคน

Crêpes Suzette (แคร็ปซูว์แซ็ต)

Crêpes Suzette (แคร็ปซูว์แซ็ต)
ปิดท้ายกันด้วยเมนูขนมหวานจากฝรั่งเศษกับรสชาติที่หอมหวาน และความอร่อยที่โดดเด่นของซอสส้ม ทานคู่กับเส้นเครปแป้งบางให้รสชาติที่หวานนุ่มอมเปรี้ยวละมุนอร่อยอย่างลงตัว ปิดท้ายมื้อพิเศษได้อย่างน่าประทับใจ

ส่วนใครที่อยากเติมความสดชื่น แวะมาเติมพลังกันต่อด้วยเมนูคาวหวานสไตล์โฮมเมด ที่ Cuppers จิบเครื่องดื่ม Refreshing ที่แนะนำว่าต้องลอง

Eat Drink Love Suvarnabhumi : โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
599/1 ถ.ลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร. 02 119 2188
พิกัด. https://maps.app.goo.gl/oMV5KNJuitsWJBnB7

#theparkninehotel #theparkninesuvarnabhumi
#ร้านอร่อยใกล้สนามบิน #ร้านอาหารใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

เอิร์ธ สายสว่าง ชวนมาทำความรู้จัก Cuppers Cafe โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ


The Cuppers by The Park Nine Suvarnabhumi วันนี้ คุณเอิร์ธ สายสว่าง ชวนมาทำความรู้จัก Cuppers Cafe (โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ) คาเฟ่เรียบเท่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้พาทุกคนมาชิลที่ มาช่วงนี้บอกเลยบรรยากาศดีมาก

Cuppers Cafe (โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ) ตกแต่งดีไซน์ที่ผสมผสานความเป็นโมเดิร์นเข้าไว้กับความคลาสสิก จิบกาแฟ แนะนำผู้ที่ชื่นชอบขนมอบใหม่ๆ หอมกรุ่นทุกวัน วัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้เป็นเมล็ดกาแฟชั้นเยี่ยมจากประเทศบราซิล ทำให้ขนมอบมีกลิ่นหอมที่โดดเด่น และมีรสชาตินุ่มกลมกล่อม นั่งจิบกาแฟยามบ่ายพร้อมกับเค้กและขนมอบที่ The Cuppers หรือนั่งพบปะสังสรรค์พูดคุยกับเพื่อน นั่งทำงานโดยที่นี่ให้บริการเครื่องดื่ม ค็อกเทล และของว่างเบาๆ ที่โดดเด่นทั้งบรรยากาศ และรสชาติเครื่องดื่ม รับรองประทับใจอย่างแน่นอน

ที่ร้านถ้าหากมองมาจากด้านนอก คล้ายว่าจะถูกคุมโทนด้วยต้นไม้เขียวขจี แต่เมื่อเปิดประตูแล้วก้าวเข้ามาด้านใน เราจะพบสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์นิเจอร์ผสมผสานความเป็นโมเดิร์นเข้าไว้กับความคลาสสิกได้อย่างลง เบรกด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟCUPPERS ชื่อร้านที่อยากชักชวนให้ทุกคนได้ลองทำความรู้จัก CUPPERS ให้มากขึ้น

คาเฟ่สวยใกล้สนามบิน บรรยากาศร่มรื่น มื้อเช้า มื้อเที่ยง มื้อเย็น มาทานกาแฟหรือมานั่งทำงานบรรยากาศชิลๆ มาอัพเดทโปรไฟล์ หรือ พาครอบครัวมาทานอาหาร ก็สามารถแวะมาหากันได้ เรียกว่า สุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติ

เมนูจากร้านThe Cuppers โรงแรม The Park Nine Suvarnabhumi มีให้เลือกมากมาย และมีรสชาติที่อร่อยเป็นมาตรฐานทุกเมนู โดยเมนูเครื่องดื่มยอดนิยม มีเมนูเครื่องดื่มกาแฟ ชา น้ำผลไม้ปั่น และโซดา ให้เลือกครบครัน พร้อมด้วยเมนูอาหาร และขนมทานเล่นมากมาย

เมนูเด่นของร้าน Cีuppers คือ เมนูกาแฟต่าง ๆ ทั้งแบบร้อน-เย็น ครัวซองต์
ขนม เค้ก หอมอร่อย ทุกชิ้น

ร้านอาหารและร้านกาแฟในที่เดียวกัน ระหว่างรอขึ้นเครื่อง แวะจิบกาแฟ จิบกาแฟพร้อมเค้กหลากหลายรส ท่ามกลางธรรมชาติ หรือ ทานอาหารก่อนบินที่ Eat Drink Love สุวรรณภูมิ หลีกเลี่ยงร้านอาหารแออัดและราคาสูงในสนามบิน มาเพลิดเพลินกับมื้ออาหารแสนสบาย อยู่ติดถนนใหญ่ มีโซนห้องแอร์ และโซนด้านนอก มีที่จอดรถกว้างขวาง

อีกหนึ่งจุดนัดพบที่ดี กับมื้ออร่อยที่คุณจะประทับใจก่อนเริ่มการเดินทาง
The Cuppers โรงแรม The Park Nine Suvarnabhumi
เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
The ParkNine Suvarnabhumi
สำรองที่นั่งโทร. 02-119-2188
พิกัด: https://g.page/eat-drink-love-suvarnabhumi

#theparkninehotel #TheParkNineSuvarnabhumi
#EatDrinkLoveSuvarnabhumi #toptotravel

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น