เส้นทางเดินไหว้เทพทั้ง 8 องค์ แห่งแรกใจกลางเมือง

RATCHAPRASONG
SHRINE & CULTURE WALK

โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียลบูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน เดินสักการะองค์เทพ  RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK ราชประสงค์ เชื่อมต่ออาณาจักรสมบูรณ์แบบ เปิด  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินรอบย่านฯ ประเดิมกิจกรรมเดินสักการะองค์เทพ RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017

ทางเดินลอยฟ้า R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk ทางเดินลอยฟ้าสุดอลังการดาวล้านดวง เนรมิตการเชื่อมต่อเส้นทางสู่ 18 สถานประกอบการในย่านราชประสงค์เป็นเส้นทางใหม่ล่าสุดที่รวบรวมไลฟ์สไตล์สุดชิคของคนกรุงเทพ อะไรคือเหตุผลที่คุณต้องรีบมาเช็คอินที่ย่านราชประสงค์ อ่านจบแล้ว มาเช็คอินด่วน

ราชประสงค์วอล์ก R-Walk เป็นต้นแบบของย่านธุรกิจและเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ที่เดินเชื่อมต่อ 18 ตึกในย่านราชประสงค์ได้อย่างทั่วถึง ตั้งแต่ออกบีทีเอส สถานีชิดลม และสถานีสยาม ซึ่งสามารถเดินไปยังฝั่ง The Platinum Fashion Mall โดยเท้าไม่ต้องแตะพื้นถนน สะดวกสบายตลอดทั่วทั้งย่านราชประสงค์ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ไร้กังวล เพราะมีหลังคาคอยป้องกันตลอดทั้งเส้นทาง R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk
เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (Safety & Security) มีกล้อง CCTV ติดตั้งเพื่อคอยดูแลคุณตลอดเส้นทาง มีสายตรวจเดินตรวจตลอด 24 ชม. เชื่อมต่อ Lifestyle แบบ 360 องศา ทุกรูปแบบ ไม่ว่าร้านอาหารสุดเริ่ดที่ใครๆ ก็มารีวิว, “PRAY” บูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน และ “SHOP” จากศูนย์การค้าชื่อดังได้เพลินๆ โนสนโนแคร์เงินในกระเป๋า โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียล เพราะไม่ว่าจะถ่ายรูปแล้วอัปโหลดโชว์เพื่อนๆ จากมุมไหนของ ราชประสงค์วอล์ก ก็สวยล้ำอินเทรนด์ไม่มีใครเกิน แน่นอนค่า

สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) เปิดประสบการณ์แห่งการเชื่อมต่อกับเมกะโปรเจ็กต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 18 สถานประกอบการอย่างไร้รอยต่อรอบทิศทาง เริ่มต้นพ.ศ. 2542 ที่ก่อสร้างทางเดินลอยฟ้าเชื่อมฝั่งตะวันออกและใต้  จากสถานีรถไฟฟ้า ชิดลม ศูนย์การค้าเกษร ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก และศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ถือเป็นการเชื่อมโยงครั้งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ราชประสงค์วอล์ก ได้เชื่อมต่อไปไปถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านราชประสงค์ ในปี พ.ศ. 2558 ขยายศักยภาพเป็นโครงข่ายที่เชื่อมสู่ทิศเหนือไปยังแพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ และ  โรงแรมโนโวเทล แพลทินั่ม ประตูน้ำ กรุงเทพฯ พร้อมทั้งเชื่อมเข้าเกษรวิลเลจสู่เส้นทางฝั่งตะวันออกทำให้ย่านราชประสงค์เชื่อมต่อเข้าสู่ 18 สถานประกอบการสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้กลยุทธ์ Walkable Urbanism เพิ่มพื้นที่เชื่อมต่อเพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาที่ย่านราชประสงค์อย่างเพลิดเพลินและยาวนานยิ่งขึ้น

เพื่อให้เกิดการใช้เวลาภายในย่านมากที่สุด พร้อมสร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์เต็มสตรีมครบวงจรทั้ง กิน ช้อป และไหว้   ล่าสุด  ร่วมมือกับ ททท. ประเดิมประสบการณ์เต็มรูปแบบที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กับการ เดินสักการะองค์เทพ แห่งแรกใจกลางเมืองที่ใช้เวลาเดินเพียง 30 นาที เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาร่วมสัมผัสไลฟ์สไตล์ของย่านราชประสงค์มากกว่า 600,000 คนต่อวัน

สืบเนื่องจากกการเปิดราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ร่วมกับ  ททท. สร้างสรรค์กิจกรรม RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017 เปิดเส้นทางเดินพลังศรัทธาแห่งมหาเทพทั้ง 8 พระองค์ นำนักท่องเที่ยวสู่บริบทแห่งการสักการะและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใจกลางย่านราชประสงค์ ซึ่งสามารถเดินสักการะได้ภายใน 30 นาที ด้วยความสะดวกสบายกับป้าย  Cultural signage  ที่บอกรายละเอียด ขององค์มหาเทพทั้ง 8 พระองค์ พร้อมข้อมูลสำคัญของแต่ละองค์


1. พระพิฆเนศวร  แห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ  และการเริ่มต้น ซึ่งต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เพื่อเป็นการคารวะในฐานะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป

2. พระตรีมูรติแห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีความศักดิ์สิทธิ์ด้านการประทานพรให้พบเจอคู่ครองที่เหมาะสม และครองคู่กัน ซึ่งเป็นองค์เทพที่เก่าแก่ที่สุดในย่านนี้ เนื่องจากได้มีการสร้างตั้งแต่ครั้นยังเป็นวังเพชรบูรณ์

3.พระแม่อุมาเทวีแห่งบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ พระแม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบ ทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรู ทำลายสิ่งชั่วช้า และพระองค์ยังทรงประทานพรด้าน ความผาสุกทางการครองเรือนอีกด้วย

4.พระแม่ลักษมีแห่งเกษรวิลเลจ ถือเป็นหนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งย่านราชประสงค์ประดิษฐานอยู่ ณ ดาดฟ้าชั้น 4ผู้ได้ชื่อว่าเทพีแห่งความงดงาม ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ พระองค์มักประทานความสำเร็จ ในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์ และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ

5.ท้าวจตุโลกบาล  แห่งเกษรวิลเลจ เทพที่รักษาทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกไว้ทั้ง 4 ทิศ และทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่มนุษย์โลกทั้งหลาย ซึ่งนับว่าเป็นเทพองค์ล่าสุดของย่านราชประสงค์

6.พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุแห่งโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ หนึ่งในสามมหาเทพ มีอำนาจประทานความสุข  ความสำเร็จ  ในหน้าที่การงาน ช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้บูชาฟันฝ่าอุปสรรคไปได้   พร้อมทั้งประทานอำนาจบารมี และคุ้มครองชีวิตให้ปลอดภัยร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป

7. ท้าวมหาพรหม  แห่งโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ หนึ่งในสามเทพสูงสุดซึ่งเป็นผู้สร้าง  และลิขิตความเป็นไปของสรรพสิ่ง พระองค์ยังทรงเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ทรงสามารถประทานพรทุกประการ

8. ท้าวอัมรินทราธิราช    แห่งศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า เทพผู้ผดุงไว้ซึ่งความดี อำนาจของพระองค์จะช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดีทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น  พร้อมทั้งปกป้องรักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งท่านจะคอยคุ้มครองผู้ที่กระทำความดีอยู่เสมอ

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ททท. ได้มีแคมเปญในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ท้องถิ่นโดยตรงหรือ Local Experience ซึ่งช่วยให้เกิดการเดินทางและหมุนเวียนการใช้จ่ายไปยังผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งสำหรับในกรุงเทพมหานคร ททท.ได้มีโครงการ “กรุงเทพฯ เดินเที่ยว หรือ Walking Bangkok” ที่ส่งเสริมให้เกิดการเดินเที่ยวในย่านต่างๆ ซึ่งย่านราชประสงค์ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ ททท. ได้ดำเนินการ และเผยแพร่ไปสู่นักท่องเที่ยวต่างประเทศอีกด้วย ย่านราชประสงค์ถือเป็นย่านธุรกิจและมีกิจกรรมเชิงการท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม ถือเป็นสิ่งดีอย่างยิ่งที่มีอำนวยความสะดวกให้กับการเดินเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้การเดินเที่ยวเชื่อมต่อในย่านราชประสงค์นี้ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

คุณชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า “ย่านราชประสงค์นับว่าเป็นย่านโมเดลธุรกิจและไลฟ์สไตล์ตัวอย่างที่สะท้อนมุมมองและนำเสนอการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ เกิดจากความร่วมมือในการทำงานของภาครัฐ เอกชนพันธมิตร และชุมชนควบคู่กัน โดยมีแผนนำเสนอกิจกรรมไลฟ์สไตล์ซิกเนเจอร์ที่มีความโดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาภายในย่านฯ ตลอดทั้งปี

ทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ศิลปะ วัฒนธรรม และอาหาร ย่านราชประสงค์  เกิดเป็นไลฟ์สไตล์ที่เติมเต็มนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาสัมผัสภายในย่านสำคัญและยังไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาย่านผ่านการเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ทุกอย่างเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นชุมชน ผู้สัญจรขึ้น คือ ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อมลอยฟ้าที่เกิดจากแนวคิด และความร่วมมือของทุกฝ่ายตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2542 จนปัจจุบัน นับเป็นโครงการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนในย่านราชประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเป็นทั้งเส้นทางเดินสัญจรที่ปลอดภัยสะดวกสบาย ช่วยบรรเทาการจราจรและปัญหาการข้ามถนนได้เ
ป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือในการจัดทำหนังสือคู่มือสักการะเทพและแผนที่
เส้นทางการเดินสักการะ 2 ภาษา พร้อมทั้งให้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและเว็บไซต์ของย่านราชประสงค์ หรือสามารถรับหนังสือได้ที่  ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์ (Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวนี้ ยังรวมรวบข้อมูลสำคัญของย่าน ของที่ระลึก รวมทั้งแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างๆ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน พร้อมบริการทัวร์ไหว้เทพไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษกับราชประสงค์วอล์ก ได้แก่ แคมเปญ WALK เดินสักการะองค์เทพ – RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK จัดแคมเปญต่อเนื่องอย่าง RATCHAPRASONG FLAVOR WALK ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์การกินอาหารภายในย่านราชประสงค์ที่เข้าถึงร้านชั้นนำหรือร้านดั้งเดิม อาทิ สตรีทฟู้ดร้านยอดนิยม อาหารจานเด่น อาหารจานด่วน อาหารที่ห้ามพลาด อาหารหากินยาก รวมถึงอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง และสกายไดน์นิ่ง พร้อมเสริมไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งกับ RATCHAPRASONG SHOPPER’S WALK ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการช้อปปิ้งแบรนด์หรู สินค้าแฮนเมด ตลอดจนสินค้าโฮลเซล (Wholesale) พร้อมจุใจกับข้อเสนออย่างโปรโมชั่นสุดพิเศษให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้ช้อปปิ้งภายในย่าน ซึ่งในปีนี้ เราจะเห็นและเดินสู่ความเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ไป โดยทุกประสบการณ์จะถูกเชื่อมต่อด้วย ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk บนพื้นที่ธุรกิจและไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพฯ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของมหานครที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์
(Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2
ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

เว็บไซต์ของย่านราชประสงค์
www.bkkdowntown.com

เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย www.tourismthailand.org/thaifest

TAXI ไทยปัญหาระดับชาติ

โครงการ Taxi V.I.P
ปฏิวัติวงการรถแท็กซี่ไทยสู่มาตรฐานสากล

ปัญหาหลักของวงการรถแท็กซี่ไทย มีอยู่ 2 เรื่องคือ ผู้ขับขี่และตัวรถแท็กซี่ สำหรับปัญหาเรื่องผู้ขับขี่ คือ  การขาดวินัยและจรรยาบรรณในการให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ  และเอกชนได้เข้าแก้ไข โดยได้จัดอบรมผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษา  และกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการ  อีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถ

TAXI VIP  เป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการของประชาชน โดยใช้รถ
ที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถ สมรรถนะรถที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เพิ่มอุปกรณ์ส่วนควบสำหรับให้บริการที่มีความสะดวกสบาย  เพิ่มเติมจากข้อกำหนด
การติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ส่วนควบตามโครงการ ทำให้ระบบการบริหารจัดการด้วย ฐานข้อมูลที่เป็นระบบ สามารถพัฒนาศูนย์ประวัติ  รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในระบบทุกคัน และประวัติผู้ขับรถทุกคน ตลอดจน การบันทึก ติดตามการกระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากมาตรการกำกับ ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายกับรถแท็กซี่ กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเชิงบวก หรือยกย่องคนขับรถแท็กซี่ที่กระทำดีหรือสร้างประโยชน์ให้สังคม

วันนี้ Toptotravel  มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ โครงการ Taxi V.I.P ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ  ด้วยการเปิดช่องทาง การสร้างงานสร้างอาชีพ  และ
รายได้เสริมให้แก่ผู้ที่สนใจ  ราคาที่ดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยถูก หรือจะเลือกผ่อนดาวน์  0% นาน 10 เดือน เเละผ่อนค่างวดเฉลี่ย  เพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม พ.ร.บ และประกันภัย ชั้น 1 รวมถึง  ยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเอง ได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว 

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล (เรย์) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด เจ้าของและผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P ปรับลุคใหม่
ให้กับวงการแท็กซี่ไทย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และ ภายใน ที่แตกต่างจากแท็กซี่ทั่วไป

กล่าวต่อว่า ปัญหารถแท็กซี่ไทยในปัจจุบัน ถือเป็นปัญหาระดับชาติที่ส่ง
ผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ  อาทิ ปัญหาอาชญากรรม การให้บริการ สุขอนามัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารบริษัทฯได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงเกิดโครงการ Taxi V.I.P  เพื่อมาช่วยปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแท็กซี่ไทย

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด

ทุกวันนี้ ธุรกิจยานยนต์ของบริษัท KPN มีครบวงจร ทั้งจำหน่ายยางรถยนต์ผลิตและจำหน่ายแท็กซี่ รับจัดไฟแนนซ์รถยนต์สินเชื่อแท็กซี่ ตัวแทนขายประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์ทุกชนิด ติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์ให้กับ  ดีลเลอร์รถยนต์โตโยต้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมน้ำมัน KPN E85 ขยายธุรกิจจำหน่ายรถแท็กซี่  ร่วมกับ  บริษัท
โตโยต้า 15 สาขา ส่วนสาขาของ KPN MORTOR อีก 3 สาขา รวมทั้งสร้างศูนย์บริการยางรถยนต์มาตรฐาน KPN AUTO TYRES 2 สาขา รวมทั้งได้รับสิทธิเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองทุกชนิด จากจากการแต่งตั้งโตโยต้าชัวร์  3 สาขา  พร้อมเป็นผู้จำหน่ายยางรถยนต์ให้  กับบริษัท โตโยต้า 30 สาขา 5 จังหวัด นอกจากนี้ยังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

คุณเรย์ เล่าให้ฟังว่า การทำแท็กซี่วีไอพี บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับวงการอาชีพรถแท็กซี่ของเมืองไทยให้ได้มาตรฐาน โดยเราทำตรงนี้  เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แท็กซี่ไทยที่มักมีปัญหาภาพลักษณ์ไม่ดีอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่   นอกจากนั้น  ยังเน้นย้ำด้านบริการด้วยมิตรภาพและจรรยาบรรณที่ดีและเรายังทำข้อตกลงว่าคุณจะต้องไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร พร้อมกันนี้เรายังเปิดอบรม ฝึกมารยาท ภาษา และ  หลักในการบริการลูกค้าแบบมาตรฐานสากล  ให้กับคนขับในโครงการแท็กซี่วีไอพีด้วย จึงนับว่าเป็นการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ของวงการแท็กซี่ไทยที่ใครเห็นก็อยากนั่ง ดังนั้น รถแท็กซี่ที่ให้บริการดีสะดวกสบายและปลอดภัย ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและความประทับของผู้โดยสาร

บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด ผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P

อีกทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพที่น่าภาคภูมิใจอย่างถูกกฏหมาย พร้อมกับรักษาอาชีพของคนไทยทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับแท็กซี่หน้าใหม่เข้าสู่ระบบผ่านการอบรม  และพัฒนาสร้างจิตสำนึกการให้บริการที่ดี
มีคุณธรรม เพื่อปรับยุคสมัยสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

ทีมงานพนักงานขับ TAXI VIP

โดยทาง บริษัทฯ  ได้จัดให้มีการอบรมสำหรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ขึ้น โดยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ  และกฎระเบียบต่างๆของทางราชการ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการกับผู้โดยสารและอีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถโดยประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นลำดับต้นๆ เฉพาะด้านความคุ้มค่าในเรื่องของราคาค่าโดยสารเท่านั้น

เราจึงต้องการแก้ปัญหานี้ผ่านโครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดง  อาทิ   Toyota Camry ,Toyota Fortuner ,Toyota Altis ฯลฯ

เข้าสู่โครงการโดยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพรถยนต์ ตั้งแต่กระบวนการ
พ่นสีตัวรถที่เลือกใช้สีแบบแห้งช้า เกรดเดียวกับที่พ่นรถยุโรป   ระบบก๊าซ NGV / LPG ด้วยอุปกรณ์จากประเทศอิตาลีทั้งหมด โดยใช้ศูนย์ติดตั้งก๊าซ  ที่ได้มาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง  ปตท. กรมธุรกิจพลังงาน และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงปรับโฉมภายในด้วยการหุ้มเบาะหนังแท้พร้อมทั้งการกรุพื้นปกป้องฝุ่นภายในรถ มีระบบมิเตอร์ดิจิตอล  แบบสัมผัสพร้อมใบเสร็จรับเงินภายในตัว และระบบชำระค่าแท็กซี่ผ่าน บัตรเครดิตทุกธนาคาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ  การมีสายต่อเชื่อม USB  เพื่อชาร์ตเบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ บริการฟรี Wifi  และน้ำดื่ม

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านความปลอดภัย  และความสะดวกสบายให้กับรถแท็กซี่ไทยและโครงการนี้ยังรองรับรถแท็กซี่เก่าที่กำลังจะหมดอายุในปีนี้กว่า 20,000 คัน


สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Taxi V.I.P นำรถหรูป้ายแดงมาทำแท็กซี่ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้เสริม ต้องการเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคล  โดยทำรถแท็กซี่ให้เป็นรถอเนกประสงค์  ขับไปทำงาน หรือรับส่งคนในครอบครัวก็ยังสามารถรับส่งผู้โดยสารหลังเลิกงานประจำได้ ราคาที่ดาวน์ต่ำ  ดอกเบี้ยถูก หรือเลือกโปรเเกรมผ่อนโดยฟรีดอกเบี้ย0% นาน 6 เดือน ผ่อนค่างวดเฉลี่ยเพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม ประกันภัย ชั้น 1 ประกันอุบัติเหตุให้ผู้ขับขี่ฟรี วงเงินคุ้มครองสูงถึง 1.2 ล้านบาท

รวมถึงยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุน ที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเองได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว
ติดต่อ โครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดงโทร. 086 794 9999

WWW.KPNMOTORCAR.COM
Lind Id: @KPNMOTORCAR
Facebook: KPN MOTORCAR

 

 

ครั้งแรก การประชันความงามประกวดมิสเฮโย

Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

เฮโย คลีนิค พร้อมเปิดให้บริการให้กับลูกค้าทุกท่านที่สนใจด้านความงาม จัดการประกวดสาวสวยประเภท 2 ขึ้น โดยได้รับเกียรติจากพลเอก อุทิศ สุนทร สมาชิกสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ  ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ เป็นประธานในพิธีการประกวด พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้ตัดสิน  และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ร่วมตัดสินเป็นจำนวนมาก

โดยทางกองประกวด กำหนดให้ผู้ร่วมเข้าประกวด  แต่งกายในชุดราตรีผ้าไทย, ชุดราตรีสั้น ผ้าไทย แต่งกายงามอย่างไทย  ซึ่งผู้เข้าประกวดแต่ละคน ที่เข้ารอบจะได้รับตำแหน่ง เช่น ขวัญใจนิตยสารเดอะริช ขวัญใจทีวี ขวัญใจเฟคคลับ และนางงามพยายามสวย  ณ บริเวณลานอเนกประสงค์   ห้างเดอะสตรีท รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ท่ามกลางประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมจำนวนมาก

นับเป็นครั้งแรก  การจัดการประกวดสาวงามประเภทสอง ขึ้นเพื่อต้องการเป็นเวทีให้ผู้เข้าประกวดสาวประเภทสอง ได้มีโอกาสสมัครเข้ามาประชันความงาม  และความสามารถแบบไม่มีข้อจำกัดเรื่องการทำศัลยกรรม หากในโอกาสต่อไปกระแสตอบรับในการจัดการประกวด”มิสเฮโย”มีเสียงตอบรับที่ดี ก็อาจจะจัดการประกวดขึ้นอีก คุณจิดาภา ยิ้มพงษ์ ประธานบริษัทเฮโยคลีนิก กล่าว

การประกวดมิสเฮโย ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติ จากหม่อมหลวง ปวริศรฺ กิติยากร ร่วมเป็นกรรมการกิตติมศักดิ์ การประกวด Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

การประกวดที่มีเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท
ผู้ชนะในเวทีนี้
เงินรางวัลมูลค่ากว่า 30,000 บาท
มงกุฎประจำตำแหน่ง
สายสะพาย
ถ้วยเกียรติยศ
บัตรกำนัลจากเฮโยคลินิก
ยังได้เป็นพรีเซ้นเตอร์ให้กับเฮโยคลินิก

พลเอก อุทิศ สุนทร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะ ประธานกิตติมศักดิ์ ให้เกียรติสวมมงกุฎ และสายสะพายให้กับ น้องติว วรัญดา วัฒนามนตรี ผู้ชนะเลิศอันดับ 1

พลเอก อุทิศ สุนทร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะ  ประธานกิตติมศักดิ์ ให้เกียรติสวมมงกุฎ และสายสะพายให้กับ น้องดิว
วรัญดา วัฒนามนตรี  ผู้ชนะเลิศอันดับ 1
Miss Haeyo Rainbow Queen

ส่วนรองอันดับ 1 คือ น้องแอ๋ม กตัญญุตา ธาระยาน   และรองอันดับ 2 คือ น้องแน๊ต  อิสรีย์  มุ่งมั่น ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่  น้องมัดไหม ชนกวนันท์กร ปัญญาคำ  และ น้องทักทาย  อินวริตา  มาบุญธรรม

ดิว วรัญดา คว้ามงกุฎ Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

ซึ่งในการจัดประกวดมิสเฮโยครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวง ปวริศร์
กิติยากร รวมทั้งคนดังมากมาย  จากหลากหลายแวดวง  ร่วมในการเป็นสักขีพยาน อาทิ ชนุชตรา สุขสันต์ นักแสดงช่อง 7 สี  คุณทิพย์ กัญพิชชา ผู้จัดละครช่อง 7 สี,  มิสเตอร์ จอง นัม ลี นักธุรกิจจากประเทศเกาหลีใต้,   โจแอน, กริม CEO หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ และนักร้องอารมณ์ดี   เจเน็ต  เขียว​

น้องติว   คุณวรัญดา ผู้ที่คว้ามงกุฎ   Miss  Haeyo  Rainbow  Queen 2017
​ผู้ร่วมเข้าประกวดแต่งชุดราตรี ผ้าไทย, ชุดราตรีสั้นผ้าไทย แต่งกายงาม  ซึ่งแต่ละคนที่เข้ารอบจะได้รับตำแหน่ง เช่น ขวัญใจนิตยสารเดอะริช ขวัญใจทีวี ขวัญใจเฟคคลับ และนางงามพยายามสวย


สำหรับผลการตัดสิน ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวด
Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

วรัญดา วัฒนามนตรี น้องติว  อายุ 17 ปี

รองอันดับ 1  ได้แก่  กตัญญุตา ธาระยาน  น้องแอ๋ม
รองอันดับ 2  ได้แก่ อิสรีย์ มุ่งมั่น  น้องแน๊ต
รางวัลชมเชย ได้แก่ ชนกวนันท์กร ปัญญาคำ น้องมัดหมี่
รางวัลชมเชย ได้แก่ อินวริตา มาบุญธรรม  น้องทักทาย

การจัดประกวด Miss Haeyo Rainbow Queen 2017
เฮโยคลินิก เป็นหนึ่งผู้ให้การสนับสนุนในการประกวดครั้งนี้ รวมทั้งบุุคคล
ที่มีชื่อเสียงให้เกียรติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจัดงาน  ดำเนินไปอย่างประสบความสำเร็จและราบรื่น เมื่อวันเสาร์ที่  27  พฤษภาคม  2560

ชั้น 2   ณ ห้าง The Street Ratchada (เดอะสตรีท รัชดาภิเษก)

Haeyo Clinic
139 ห้างเดอะสตรีทรัชดา ชั้น 2 ห้อง2105 ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ  10140 Bangkok, Thailand
FB:Haeyo Clinic
ติดต่อสอบถาม 
คุณพลอย  โทร. 089-9225838

การแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ OPTIMUS

DCASH MASTER

การแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ ‘OPTIMUS’ ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ซึ่งขับเคี่ยวเฟ้นหาผู้มีฝีมือจากทั่วประเทศที่ผ่านการเข้ารอบในแต่ละภาค มาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร

DCASH MASTER และ การแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ OPTIMUS  ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ซึ่งขับเคี่ยวเฟ้นหาผู้มีฝีมือจากทั่วประเทศที่ผ่านการเข้ารอบในแต่ละภาค เพื่อมาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร

Final Round Makeup & Hair Prestige Competition :
Wednesday 24 May 2017

พบกับงานใหญ่ที่ช่างแต่งหน้า-ทำผมรอคอยมาตลอดทั้งปี การประกวดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ!!





เพื่อชิงถ้วยอันทรงเกียรติจาก 3 เวทีใหญ่ ประกอบไปด้วยการแข่งขันแต่งหน้าเจ้าสาวโดยแบรนด์ ‘LIFEFORD PARIS’ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แข่งขันทำสีผมโดยแบรนด์   DCASH  MASTER
และการแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ ‘OPTIMUS’ ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ซึ่งขับเคี่ยวเฟ้นหาผู้มีฝีมือจากทั่วประเทศที่ผ่านการเข้ารอบในแต่ละภาค  เพื่อมาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร  ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2560
BCC Hall ชั้น 5 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว


ภายในงานนอกจากจะได้รับชมการแข่งขันทั้ง 3 เวทีแล้ว ยังมีแฟชั่นโชว์สุดอลังจากทัพช่างแต่งหน้า-ทำผม ตัวแม่ของเมืองไทย ที่ขนมาโชว์กันแบบจัดเต็ม ซึ่ง ประกอบไปด้วย โชว์จากแชมป์ผมระดับประเทศ โดย อาจารย์อ้อย อาจารย์จ๋า และ อาจารย์หน่อง, โชว์จากผู้ทรงคุณวุฒิของวงการช่างผมประเทศไทย โดย ชมรมช่างผมเสริมสวย จังหวัดสมุทรปราการ, โชว์จากแชมป์สถาบันไลฟ์ฟอร์ด ประเทศไทย โดย คุณตู่ / คุณโอ๋ / คุณชาติ / คุณพจน์ / คุณต๊ะ และน้องฉัตร เมคอัพเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย, โชว์จากอาจารย์ศักดิ์ สถาบันแฮร์ครีเอชั่น / อาจารย์ป้อม สถาบันแฮร์มาเฟีย และพบกับมหกรรมสินค้าลดราคาในเครือ  DCASH,  LIFEFORD  PARIS   และ OPTIMUS  แบบช็อคไพร์ซ!!   ที่นี่เดียว


พร้อมชมฟรี!!
มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินสุดฮ็อต เป๊ก ผลิตโชค ที่ BCC Hal ชั้น 5
เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป

ชาวเน็ตยังคงตามหาคำตอบ รูปตัว “G”

Viral Picture รูปตัว G            

หลังการระบาดของ “Viral Picture”
รูปตัว “G” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า1 สัปดาห์ที่ชาวเน็ตยังคงต้องการหาคำตอบและคาดเดากันไปต่างๆนาๆว่า รูปตัว “G” นั้นเป็สัญลักษณ์ของอะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร สำหรับผู้สื่อข่าวยังคงต้องรอการเสนอข่าว และข้อเท็จจริงต่อไปต่อไป เมื่อไหร่มีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบโดยทันที

มงกุฎครบรอบ 20 ปี Miss Tiffany’s จะเป็นของใคร?

เวทีประกวด
สาวประเภทสองอันดับ 1ของเมืองไทย

Miss Tiffany’s Living the Dream  กว่ามงจะลงไม่ใช่เรื่องง่าย
ครบรอบ 20 ปี  Miss Tiffany’s  Universe  ด้วยรางวัลพิเศษ สุด
MERCEDES BENZ GLA มูลค่ากว่า 2,000,000 บาท

การประกวด Miss Tiffany’s Universe 2017
ล่าสุดได้สาวงามผู้ผ่านเข้ารอบ30 คนสุดท้ายแล้ว สำหรับเวที Miss Tiffany’s Universe 2017 เวทีประกวดสาวประเภทสองอันดับ 1
ของเมืองไทย

โดยปีนี้ เป็นปีแห่งการครบรอบ 20 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ของ Miss Tiffany’s Universe จึงได้จับมือกับช่อง GMM25 สร้างปรากฎการณ์  เรียลลิตี้ การประกวดนางงามครั้งแรกของโลก!   กับ เจาะลึกเบื้องหลัง  กองประกวดนางงามที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน รายการ   Miss Tiffany’s The Reality
มีรางวัลพิเศษ MERCEDES BENZ GLA มูลค่ากว่า 2,000,000  บาท และ
ผู้สนับสนุนมากมายที่เข้าร่วมมอบรางวัล  ให้กับผู้ชนะในรางวัลต่างๆ  อาทิ ประตูน้ำโพลีคลินิก เครื่องสำอาง Mistine  โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ฯลฯ

Miss Tiffany’s The Reality จะนำเสนอความสนุกสนาน ความตื่นเต้น เจาะลึกศักยภาพและความเป็นตัวตนของเหล่าสาวงาม ผ่านภารกิจและการเทรนนิ่งด้านต่างๆจากทีมโค้ชมืออาชีพระดับประเทศ อาทิ อาจารย์เสรี วงษ์มณฑา, ตือ สมบัษร, สมศักดิ์ ชลาชล , กมล ฉัตรเสน, ดวง โปษยานนท์, ครูฝน น้ำฝน ภักดี, ม้า อรนภา ฯลฯ พร้อมด้วย 2 คุณแม่ Beauty Mom ระดับประเทศ ปอย ตรีชฎา, ซินดี้ สิรินยา เป็นผู้ดูแลขับเคลื่อนศักยภาพของทั้ง 30 คนสู่ตำแหน่งสูงสุด Miss Tiffany’s Universe 2017

รายการ Miss Tiffany’s The Reality ถือเป็นการปฎิวัติการประกวดนางงามทั่วโลก ตีแผ่ความหมายของนางงามไม่ใช่แค่การครอบครองมงกุฎ หากแต่เป็นการผ่านความท้าทาย การฝึกฝนพัฒนาตนเอง ความอดทนอดกลั้น การก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย ออกอากาศ  ทางช่อง GMM 25 ทุก  วันพุธ เวลา 21.35-22.35 น.  วันที่ 2 สิงหาคม 2560 – วันที่  23  สิงหาคม 2560
และร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ จนวันประกวดรอบสุดท้าย

ณ โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา
วันที่ 25 สิงหาคม 2560 ถ่ายทอดสดผ่านช่อง GMM 25 เวลา 21.35 น.

ทั้งนี้  การประกวดรอบตัดสินจะมีขึ้น ใน วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2560
ณ โรงละครทิฟฟานี่ โชว์ พัทยา ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ซึ่งสาวงามเพียงหนึ่งเดียวที่จะได้ครอบครองรางวัล MERCEDES BENZ GLA และเงินสด รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านบาท พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดบนเวทีระดับโลก มิสอินเตอร์เนชั่นแนล ควีน 2017

ปรากฎการณ์เรียลลิตี้ การประกวดนางงามครั้งแรกของโลก!
สามารถชมการถ่ายทอดสดการประกวด มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2017
ชม ผ่านทางช่องGMM25,LIVE Streaming ทาง www.gmm25.com, Application GMM25 และ Live Facebook ใน GMM25 Facebook Fanpage สำรองที่นั่งและจำหน่ายบัตรที่ โรงละครทิฟฟานี่ โชว์ พัทยา
และ Thai Ticket Major ทุกสาขา บัตรราคา 3,500 และ 2,500 บาท
แถมบัตรชมทิฟฟานี่โชว์  #กว่ามงจะลงไม่ใช่เรื่องง่าย

http://www.misstiffanyuniverse.com
สอบถามเพิ่มเติมโทร 038 421 700-5

ห้องอาหารจีนตำรับแดนมังกร China Table

เทศกาลอาหารจีนกวางตุ้งสูตรต้นตำรับ
เลิศรสระดับจักรพรรดิ

เชิญชวนผู้อ่านทุกท่าน ร่วมสัมผัสร้านอาหารจีนแบบแนวร่วมสมัย  กับการตกแต่งร้านแนวชิคสไตล์แบบเก๋ไก๋ และลิ้มลองอาหารที่ร้าน China Table  ยังคงความดั้งเดิม อาหารมีความหลากหลายให้เลือกทาน เดินเข้ามาเห็นบรรยากาศของ China Table ชั้น 3 โรงแรม Radisson Blu Plaza Bangkok ภายในร้าน ถูกเนรมิตร ตกแต่งโทนสีอบอบอุ่น และสีสดใส ไชนีสขนานแท้ ประดับประดาด้วยโคมไฟจีนโบราณ โต๊ะเก้าอี้ไม้สไตล์จีนประยุกต์โมเดิร์น แบบร่วมสมัยถ้วยชามลายคราม และตู้แบบจีน กลิ่นอายศิลปะจีน และเสียงดนตรีจากเครื่องดนตรีประเภทพิณหรือขิม ไพเราะ จับใจ

โดยพื้นที่ภายในกว้างขวางโอ่อ่า  จัดเป็นสัดส่วนตกแต่งที่จัดเป็นสัดส่วนได้อย่างสวยงาม มีห้องส่วนตัว สำหรับผู้ที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ไว้บริการ บอกกับตัวเองตลอดว่าต้องหาโอกาสมาสัมผัส ห้องอาหารจีนกวางตุ้ง China Table ด้วยตัวเองอีกสักครั้ง

Chef Focus:Shi Zhi Chao Chef Focus:He Jia Qing

พิเศษมาก โดย ระหว่างวันนี้ จนถึงวันพุธที่ 31 พ.ค.60  โรงแรม Radisson Blu Plaza Bangkok เปิดตำนานความอร่อยกับเทศกาลอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งสูตรต้นตำรับ เพิ่มเข้ามาในมื้อเย็นของห้องอาหาร The Dining room โดยดูแลและควบคุมการปรุงโดย เชฟลี ชู ทิม เชฟผู้เชี่ยวชาญอาหารจีน  ประจำโรงแรม Radisson Blu Plaza Bangkok  และทีมเชฟ Chef Shi Zhi Chao และ Chef He Jia Qing จากประเทศจีน  ทำให้คนรักอาหารจีน ต้องห้ามพลาด เมนูสุดพิเศษ ระดับพรีเมียมจาก ห้องอาหารไชน่า เทเบิ้ล โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพ

ห้องอาหารไชน่า เทเบิ้ล โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพสัมผัสแแรกในประเพณีของอาหารจีนนั้น อาหารแต่ละมื้อถูกเสริฟพร้อมกับชาร้อนเสมอ ห้องอาหารจีนกวางตุ้ง ไชน่าเทเบิ้ล ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ เป็นหนึ่งในอาหารจีน ที่ถูกปากคนไทย  เชฟบรูซ ฮุย และทีมเชฟ  มีความคิดแปลกใหม่ที่แตกต่างกว่าคนอื่นๆ และทำให้อาหารแต่ละจานของเชฟนั้นดูมีความยั่วยวนและอร่อยจนทำให้หลายคนปฎิเสธไม่ได้เลยทีเดียวซึ่งอาหารจีนกวางตุ้ง รสชาติที่พิถีพิถันจริง  เป็นอาหารจีนที่มีความโดดเด่นตรงที่ใช้เทคนิคในการปรุงอาหาร เพื่อคงความสดใหม่ของอาหารไว้ให้มากที่สุด รสชาติอาหารเฉพาะตัวที่ไม่ว่าใครได้ลิ้มลองต้องหลงรัก สามารถเลือกอร่อยแบบจานเดียวมากกว่าร้อยเมนู  หรือ จะสั่งเป็นเซ็ตเมนูได้ตามความชอบ มาชิมกันค่ะ  ว่าสำหรับเซ็ทเมนูอาหารที่เราได้สัมผัสในวันนี้ ตอบโจทย์คนรักอาหารจีนต้นตำรับ แต่ละจานมีอะไรบ้างไปชมกันค่ะ

MENU3

Selection of traditional Shaghainese appetizers
เริ่มจาก ออเดิร์ฟเซียงไฮ้

Double boiled duck soup with bamboo
ซุปเป็ดตุ๋นและหน่อไม้

Fried crab with black garlic
ปูผัดกระเทียมดำ

Braised Wagyu beef in barbeque sauce
เนื้อสันวากิวตุ๋นซอสบาร์บีคิว

Stewed grouper in spicy sauce
ปลาเก๋าตุ๋นซอสเผ็ด

Braised turnip with bird’s nest
รังนกตุ๋นหัวไชเท้าน้ำใส

Dim Sum
Steamed peach gum with avocado and osmanthus cake
พีชกัมนึ่ง และเค้กดอกหอมหมื่นลี้

ต้อนรับความสดชื่นด้วย Chaina Blossom

มื้อพิเศษ กับคนพิเศษ ต้องเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ หากได้กลับไปที่ร้านอาหารจีนแห่งนี้อีกครั้ง ต้องไม่พลาดเปิดตำนานความอร่อย  ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สด ใหม่ สะอาด ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอนการปรุงอาหาร  ทำให้เมนูเหลาน่าทาน และมีให้เลือกมากมาย ถือได้ว่า ห้องอาหารจีนกวางตุ้ง China Table โรงแรม Radisson Blu Plaza Bangkok ใครอยากไปชิมความอร่อยจากแดนมังกรแบบนี้  ต้องรีบกันหน่อย เพราะมีให้ลิ้มลองกันเฉพาะวันที่ 25 – 31 พ.ค.นี้  เท่านั้นค่ะ

Mr.Peter Feran General Manager

ถ้าคุณมองหาร้านอาหารแบบลักซูรี่ ย่านสุขุมวิท กรุงเทพ พาคนพิเศษของคุณมาที่ไชน่าเทเบิ้ลแล้วเอนจอยไปกับอาหารจีนและบรรยากาศของร้าน
China Table

ขอบคุณ :
Mr. Perer Feran (General Manager)
ห้องอาหารจีนกวางตุ้ง China Table
โรงแรม Radisson Blu Plaza Bangkok

 

จองโต๊ะสำหรับ Wok Wizard at China Table ได้ที่
ห้องอาหาร China Table
Radisson Blu Plaza Bangkok

วันอาทิตย์ – วันพฤหัสบดี เวลา 11.30 –14.30น.และ 18.30–22.30 น.
วันศุกร์ เสาร์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์
เวลา 11.30–15.30 น. และ 18.30 – 22.30 น.
Website : http://www.radissonblu.com/plazahotel-bangkok
Restaurants : http://www.radissonblu.com/plazahotel-bangkok/restaurants-and-bars
Facebook : http://www.facebook.com/RadissonBluPlazaBangkok

489 Sukhumvit Road, Klongtoey Nua, Wattana Bangkokl 10110
Phone +66 2302 3333

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS :
สถานี อโศก เดินข้ามแยกอโศก การเดินทาง ไป BTS ลงสถานีอโศกค่ะ หรือ MRT ลงสถานีสุขุมวิท ทางออก 2 เดินทางทางสถานีพร้อมพงษ์ ประมาณ 500 เมตร โรงแรมอยู่ซ้ายมือ เลยซอยสุขุมวิท 23 มาเพียงเล็กน้อย

 

สีสันแห่งความทรงจำ สีสันตะวันออก

ชวนไปงาน สีสันตะวันออก ครั้งที่ 10
ร่วมย้อนสีสันเมื่อวันวานของ ชลบุรี
ระยอง จันทบุรี และตราด


หากพูดถึง 4 จังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)  คงอดไม่ได้ที่จะต้องนึกถึงหาดทรายสวยๆ ที่เคียงคู่กับน้ำทะเลใส อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวกทม.และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งนอกจากจะมีทะเลที่สวยงามแล้ว ยังมีสินค้า และอาหารขึ้นชื่อมากมาย ที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือมาฝากคนที่บ้านอีกด้วย


สีสันแห่งความทรงจำ ร่วมย้อนสีสันเมื่อวันวานของจังหวัด  ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด สู่ความทรงจาดีๆ ครั้งใหม่  เทศกาลสีสันตะวันออก งานประจำปีของกลุ่ม จังหวัดภาคตะวันออก

งานแถลงข่าว “เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10”

จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัด จันทบุรี และ จัง หวัดตราด ซึ่งการจัดงานคร ั้งนี้ได้เดิน ทาง มาถึงปีที่ 10  ภายใต้การดำเนิน งาน ของ บริษัท อิมเมจ คอร ์ปอเร ชั่น (ประเทศไทย)  จำกัด จัดงานแถลงข่าว เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10 โดยในปีนี้จะพาไปย้ำความทรงจำใน สีสันที่ผ่านมา  พร้อมมอบความทรงจำดีๆ ครั้งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Memories  สี สัน แห่ง ความ ทรง จำ

นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการ จังหวัดชลบุรี ประธานในพิธี

เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10 สีสันแห่งความทรงจำ โดยกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  และ เมืองพัทยา โดยการประสานงานของกลุ่มยุทธศาสตร์ภาคตะวันออก ซึ่งครั้งนี้ ยังคงเอกลักษณ์สาคัญของงานนั่นคือ การรวมตัวของผู้ประกอบการระดับคุณภาพและมีชื่อเสียงของภาคตะวันออก จัดเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซนอาหารมาในธีมตลาดเมื่อ วันวาน โซนที่รวมอาหารท้องถิ่น ผลไม้ขึ้นชื่อ ต่อมาคือโซนแหล่งท่องเที่ยวในธีมตากอากาศ


โซนรวมแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม และ รีสอร์ททุกรูปแบบ โซนสุดท้ายคือโซนภูมิปัญญาพื้นบ้าน รวบรวมสินค้าโอท็อประดับคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว รวม ทุกโซนทั้งสิ้นกว่า 120 ร้านค้า พร้อมโปรโมชั่น ราคาพิเศษมากมาย มางานนี้งานเดียว เสมือนเที่ยวครบ 4 จังหวัด

บรรยากาศในวันแถลงข่าวเปิดตัวด้วยชุดการแสดง Good memories สื่อแสดงถึงความทรงจำดีๆ ที่จะอยู่ในพื้นที่ แห่งความสุข

มาร่วมย้อน ระลึกความทรงจำที่ล้าค่า  กับโซนนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับ ความทรงจาใต้ร่ม พระบารมี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า

การจัดงานเทศกาลท่องเที่ยว สีสันตะวันออก” ในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย  ให้ก้าวสู่มาตรฐาน มีคุณภาพ และ เป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ที่สามารถแข่งขันในตลาดโลก และยังเป็นการรักษาตลาดการท่องเที่ยว  ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก
ให้มีจำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

งานแถลงข่าวจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค.60 ณ โรงแรมพลูแมน แกรนด์ สุขุมวิท ห้อง บอลรูม 1 ชั้น 4

การประชาสัมพันธ์ เอกลักษณ์ พร้อมทั้งภาพลักษณ์ ภายใต้  Brand
สีสันตะวันออก ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ให้ติดตลาดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกทั้งการจัดงาน ในครั้งนี้สามารถสร้างอาชีพและลดปัญหาการว่างงานของคนในท้องถิ่น ในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจตลอดจนสร้างความ เชื่อมโยงทางการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ

บรรยากาศในวันแถลงข่าวเปิดตัวด้วยชุดการแสดง   Good memories
สื่อแสดงถึงความทรงจำดีๆ ที่จะอยู่ในพื้นที่ แห่งความสุขและเสียงหัวเราะ ของภาคตะวันออกจากนี้และตลอดไป มีมุมถ่ายภาพสาหรับแชะ แชร์ลงในโซเซียล มีการสัมภาษณ์ ตัวแทนจากกลุ่มโครงการ 4 จังหวัด และตัวแทนจากเมืองพัทยา พูดคุยแนะนาเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวงานเทศกาลสีสัน ตะวันออก และแผนเตรียมความพร้อมของพื้นที่ การอำนวยความสะดวกระหว่างการจัดงาน  โดยมี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการ จังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี ร่วมแถลงข่าว ท่ามกลางสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติอีกเป็นจานวนมาก งานแถลงข่าวจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค.60
ณ. โรงแรมพลูแมน แกรนด์ สุขุมวิท ห้อง บอลรูม 1 ชั้น 4

กิจกรรมจาก เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10  ในธีมสีสันแห่งความทรงจำ ภายในงานมีจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9  กับความทรงจำใต้ร่มพระบารมี และร้านค้าขึ้นชื่อของทั้ง 4 จังหวัด กว่า 120 ร้าน และพลาดไม่ได้กับ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ ชวนคนรักทะเลมาเที่ยวกันนะค่ะ

ณ ถนนเลียบชายหาดพัทยา จังหวัดชลบุรี
ในวันที่ 1-4 มิ.ย.นี้ แล้วพบกันนะคะ

#สีสันตะวันออก #colorsoftheeast2017
#สีสันตะวันออกครั้งที่10

#สีสันแห่งความทรงจำ

4 ผู้บริหาร ผู้ก่อตั้งหลักสูตร อัลตร้า เวลท์ Ultra Wealth Group

อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป  ( Ultra Wealth Group )  

หลักสูตร ซุปเปอร์คอนเน็คชั่น
เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรการบริหารการลงทุน
เพื่อนักธุรกิจระดับท็อป

บริษัท อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป จำกัด โดย 4 ผู้บริหาร ผู้ก่อตั้งหลักสูตร อัลตร้า เวลท์  (Ultra Wealth Group)  อาทิ  คุ ณชัชวาลย์ เจียรวนนท์
อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป (Ultra Wealth Group) เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรการบริหารการลงทุนเพื่อนักธุรกิจระดับท็อป เปิดหลักสูตรรุ่นที่ 3 ยกระดับหลักสูตร เพิ่มช่องทางการเรียนรู้ ความเข้าใจในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ได้จริง มั่นใจสามารถบริหารซุปเปอร์คอนเนคชั่น ขยายเครือข่ายไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม  CLMV  ASEAN  อีกหลายประเทศ ในแถบยุโรป และอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนและเรียนรู้และมองหาความร่วมมือกันของนักลงทุนจากทั่วโลก

4 ผู้บริหารผู้ก่อตั้งหลักสูตร อัลตร้า เวลท์
คุณชัชวาลย์  เจียรวนนท์  ประธานกลุ่มอัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป
คุณปิยะมาน  เตชะไพบูลย์  กรรมการอัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป
คุณสุพร  วัธนเวคิน       กรรมการอัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป
ดร.ศุภชัย สุขะนินทร์   กรรมการอัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป

เพื่อยกระดับ หลักสูตรการบริหารการลงทุนเพื่ออนาคต หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วจากรุ่นแรกและรุ่นที่ 2 อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป จัดหลักสูตรคุณภาพ ที่ให้ความรู้ทางด้านการลงทุน การแนะนำเพื่อใช้ต่อยอดทางธุรกิจ และขยายเครือข่ายซุปเปอร์คอนเนคชั่น ให้ผู้เข้าร่วมสามารถเดินไปด้วยกันกับอัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป พร้อมโชว์ความเป็นตัวจริงของนักบริหารที่มีวิสัยทัศน์ สามารถมองเห็นภาพรวมของหลักสูตรได้อย่างชัดเจน สร้างโอกาสเพิ่มช่องทาง และความมั่นใจในการลงทุน สร้างผลตอบแทนได้อย่างคุ้มค่า จากความร่วมมือของเหล่านักลงทุนตัวจริง

ชัชวาลย์  เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป กล่าวว่า
“การลงทุนในยุคนี้ต้องประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

ส่วนที่ 1 กลุ่มทุน ก็คือพวกเรานักธุรกิจที่มีธุรกิจหรือมรดกตกทอดที่จะสามารถเป็นแรงสนับสนุนในการขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่ 2 คือคอนเนคชั่นที่แข็งแรง จำเป็นต่อการต่อยอดธุรกิจ ถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ เพราะธุรกิจไม่สามารถดำเนินไปทิศทางที่ดีได้โดยปราศจากความช่วยเหลือและร่วมมือกันจากองค์กรพันธมิตร

ส่วนที่ 3 คือ ข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ ที่ข้อมูลข่าวสารถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ใครที่รู้เยอะกว่ายิ่งได้เปรียบ ซึ่ง อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป พยายามถือเป็นศูนย์กลางในการรวบรวม โดยปัจจุบันมีผู้เรียนในหลักสูตรทั้ง 3 รุ่น รวมทั้งหมดกว่า 300 คน โดยทั้งหมดครอบคลุมในแวดวงธุรกิจ
กว่า 80%  กล่าวได้ว่า  เราเป็นส่วนสนับสนุน  ซัพพอร์ตในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ไทยแลนด์ 4.0 หรือ โมเดลพัฒนาเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งโครงการ Eastern Economic Corridor (EEC) ซึ่งถือเป็นนโยบายใหม่ของรัฐบาล
ที่จะเร่งพัฒนา 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ชลบุรี  ระยอง และ ฉะเชิงเทรา โดย อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป เป็นกรุ๊ปที่สามารถรวบรวมนักธุรกิจไว้ด้วยกัน ย่อมหมายถึงการช่วยให้เกิดการแอ็กทีฟในตลาดทุนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีสภาพคล่องเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการลงทุนร่วมกัน โดยปัจจัยหลัก 3 ด้าน
ที่ต้องวิเคราะห์สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่เหลือ ต้องวิเคราะห์จาก 1) การส่งออก 2) การท่องเที่ยวและบริการ และ 3) การบริโภคภายในประเทศ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ถือว่า  ข้อ 1 และ 2  อยู่ในภาวะที่ดี แต่จำเป็นต้องเร่งในส่วนข้อที่ 3 เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างดี ทั้งนี้ อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป จัดทำหลักสูตรขึ้น  โดยหัวใจหลัก ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) Ultra Investment  2) Ultra Network  3) Ultra Deal และ
4) Ultra Wealth Club”

กรรมการอัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป ทั้ง 3 ท่าน กล่าวถึงการบริหารในครั้งนี้ โดยเริ่มจาก ปิยะมาน เตชะไพบูลย์ เปิดเผยว่า  “ปีนี้  เราก็จะเน้นในเรื่องทางเลือกต่างๆ ในการลงทุน ซึ่งโครงสร้างจะเหมือนเดิม แต่วิทยากรจะมีการอัพเดตข้อมูลมากขึ้น มีความช่ำชองการนำเสนอมากขึ้น อาทิ คุณชาญ บุญกุล ซึ่งเป็นที่รู้จักมานาน ท่านไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ท่านก็ให้เกียรติ  กับอัลตร้า เวลท์ นอกจากนี้  เราก็จะมีไปดูงานที่ประเทศอังกฤษ  ตอนนี้ค่าเงินปอนด์ (ปอนด์สเตอริง) ถูกลง ทำให้หลายๆ คนสนใจจะไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่อยากจะให้คนไทยไปลงทุนที่ต่างประเทศ และเนื่องจากเราเป็นการร่วมกันของเอกชน ทำให้เราจะทำงานสามารถยืดหยุ่นได้ ทันต่อเหตุการณ์  เช่น  รุ่นแรกที่เราไปประเทศจีน   มีการแลกเปลี่ยนทัศนคติการลงทุนกัน ธุรกิจสามารถเอื้อประโยชน์ต่อกัน  และนี่คือสิ่งที่เรา
จะเน้นในปีนี้ ”

ในขณะที่ สุพร วัธนเวคิน ที่รับผิดชอบด้าน Ultra Investment เผยว่า “การลงทุนของ อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป จะเป็นการลงทุนเพื่อต่อยอดของนักธุรกิจที่มีความแตกต่างจากลงทุนทั่วไป เช่น การลงทุนทั่วไปนักลงทุนต้องเริ่มจากการทำการบ้าน ศึกษาข้อมูล หาที่ปรึกษาที่ดี ถึงจะกล้าลงมือทำ นำเม็ดเงินไปลงทุน ซึ่งมีความเสี่ยงสูง แต่ อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมในคลาสด้วยกัน มีโอกาสได้ทำความรู้จัก ทำให้ได้ทราบถึงแบ็กกราวด์ทางธุรกิจ ความมั่นคงและน่าเชื่อถือ ก่อให้เกิดการต่อยอดในการลงทุน รวมถึงการจัดดูงานที่อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป จะมีการเดินทางไปที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นอกจากจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่สานสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนแล้ว ยังจะได้ไปดูงานด้านการลงทุนระดับโลก รวมถึงการเจรจาธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอีกด้วย”


ดร.ศุภชัย สุขะนินทร์ กรรมการอัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป ได้กล่าวว่า “ทิศทางของอัลตร้า เวลท์ เริ่มจากรุ่น 1 และ 2 ที่ผ่านมา ซึ่งได้กระแสตอบรับจากผู้เข้ามาเรียนที่ดีมาก เกิดการต่อยอดการลงทุนใหม่ๆ และเมื่อถึงรุ่นนี้ สิ่งที่เราทำคือ การต่อยอด โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ 1) อัลตร้า เวลท์ คลับ คือ การให้ความรู้นอกคลาสเรียน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ หรือบุคคลที่อยู่ในห้องเรียน เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโอกาส อย่างการต่อยอดคอนเนคชั่นกับกลุ่มที่อยู่ในเขตประเทศ CLMV (ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีแนวโน้นเศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีแร่ธาตุและทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ อาทิ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) 2) Ultra Education คือ นอกเหนือจากหลักสูตรที่เรียนในคลาสแล้ว ในอนาคตอาจจะมีการจัดตั้งหลักสูตรอื่นที่พิเศษขึ้นมาอีก และ 3) Ultra Investment คือ การลงทุนในระดับอัลตร้า ที่มีดีลที่พิเศษกว่าการลงทุนทั่วไป โดยการลงทุนเหล่านั้น จะเน้นในด้านที่มีพัฒนาและเติบโต เช่น ด้านเทคโนโลยี เป็นต้น”


ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
อัลตร้า เวลท์ กรุ๊ป
www.ultrawealthgroup.com
info@ultrawealthgroup.com

แคมเปญยักษ์ระดับโลก ชวนคนไทยร่วมโหวตให้กับทีม Siam Organic

The Chivas Venture ปีที่3

แคมเปญยักษ์ระดับโลกเชิญชวนคนไทยร่วมโหวตให้กับทีม Siam Organic
เป็นสุดยอดนักธุรกิจเพื่อสังคมของโลก
ชิงเงินรางวัลสูงสุดหนึ่งล้านเหรียญฯ

Siam Organic ชนะเลิศโครงการ Chivas The Venture ปี 3 เป็นตัวแทนนักธุกิจเพื่อสังคมไปแข่งระดับโลก  สยาม ออร์แกนิก เป็นกิจการเพื่อสังคมที่มุ่งแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน โดยใช้รูปแบบธุรกิจบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำผ่านผลิตภัณฑ์สินค้าอินทรีย์ภายใต้แบรนด์ แจสเบอร์รี่  (Jasberry)  ถึงแม้ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ส่งข้าวออกเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่เกษตรกรไทยกลับมีรายได้ต่ำกว่าเกษตรกรในประเทศอื่นๆ กว่า 10 เท่า สยาม ออร์แกนิก เข้ามาร่วมทำงานกับเกษตรกรรายย่อย ส่งเสริมการปลูกข้าว ลดต้นทุน เพื่มผลผลิต ผ่านกระบวนการต่างๆ ทำให้เกษตรกรที่ร่วมโครงการกว่า 1,500 ราย มีรายได้ที่สูงขึ้นจากการจำหน่ายข้าว แจสเบอร์รี่ และผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ ทำให้เกิดผลกระทบทางสังคม (Social Impact) กว่า 65 ล้านบาทในปี 2016

ชีวาส รีกัล (Chivas Regal) สก็อตช์วิสกี้ระดับโลกประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากการเปิดตัวแคมเปญยักษ์ “The Chivas Venture” โดย มร.เควนติน จ็อบ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัดยังคงเล็งเห็นความสำคัญที่มีต่อสังคมตอกย้ำเจตนารมณ์ด้วยการสานต่อบิ๊กแคมเปญ  The Chivas Venture ปีที่3   เฟ้นหาสุดยอดนักธุรกิจผู้มีแนวคิดสร้างสิ่งดีๆ เพื่อสังคม ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการทำธุรกิจควบคู่ไปกับการทำเพื่อสังคม ในคอนเซ็ปต์ Win the Right Way และในปีนี้ผู้ชนะได้แก่ปีตาชัย เดชไกรศักดิ์ จากทีม Siam Organic คว้ารางวัลชนะเลิศในระดับประเทศอย่างสวยงาม ซึ่งมีจุดประสงค์ในการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกรในประเทศไทยผ่านนวัตกรรมสินค้าอินทรีย์ที่เจาะตลาดผู้บริโภคจากทั่วโลกภายใต้ชื่อสินค้า
แจสเบอร์รี่ (Jasberry)

ทางชีวาส รีกัล ขอเชิญชวนคนไทยช่วยกันโหวตให้กับ Siam Organic ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม ถึงวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2560 เป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ ได้ที่  www.chivas.com/the-venture/ ทุกคะแนนโหวต
จะเปลี่ยนเป็นเงินรางวัล  สำหรับช่วยเหลือสังคม โดยมีเงินทุนจากคะแนนโหวต 250,000 เหรียญดอลลาร์ ซึ่งเงินรางวัลจากการโหวตส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือความยากจนของเกษตรกรที่มีสาเหตุจากการปลูกข้าวต้องใช้ต้นทุนสูงแต่กลับได้ผลกำไรที่ต่ำ เพราะการแทรกแซงจากพ่อค้า คนกลางและนำกลับมาพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป Siam Organic เล็งเห็นปัญหาว่า ถึงแม้ประเทศไทย เป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก แต่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในประเทศของเรากลับมีรายได้โดยเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดในอาเซียน สยามออร์แกนิคทำงานผ่านนวัตกรรมด้านการเกษตร ทั้งการปลูกข้าวและระบบบริหารจัดการแบบอินทรีย์มาตรฐานสากลและการปล่อยกู้ในระบบmicro-financing ซึ่งสามารถทำให้เกษตรกรภายใต้โครงการมีรายได้ที่สูงกว่ารายได้เฉลี่ยของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไทยถึง 14 เท่า ในปัจจุบันสยามออร์แกนิคทำงานร่วมกับเกษตรกรมากกว่า 1,000 ครัวเรือนในภาคอีสาน เพื่อเพิ่มผลกระทบทางด้านสังคม (Social Impact) เราต้องการการสนับสนุนจากคุณเพื่อช่วยเกษตรกรมากกว่า 20,000 ครัวเรือน หลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างถาวร

ในฐานะของตัวแทนสุดยอดนักธุรกิจเพื่อสังคมจากประเทศไทย จะได้เป็นตัวแทนเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายกับสุดยอดนักธุรกิจเพื่อสังคมอีก 29 ประเทศจากทั่วทุกมุมโลกในเดือนกรกฎาคมที่ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา พิชิตเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านเหรียญดอลลาร์

ชีวาส รีกัลจึงขอเชิญชวนช่วยกันโหวตให้กับ Siam Organic
สนับสนุนทีมไทยไปสู่เวทีโลกได้ที่ ช่วยกันโหวตคนไทยด้วยนะค่ะ
เพราะ ประเทศไทย เป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก
https://www.chivas.com/th-th/the-venture/finalists/people/th-siam-organic

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น