เอนกายในสายหมอก บอกรักสายลม ชื่นชมวิถีม้ง
ยามเช้าอันสดชื่น คือการเริ่มต้นที่ดีในแต่ละวัน เมื่อมีโอกาสได้ออกเดินทางอีกครั้ง ทุกคนต่างหวังว่าจะได้เจอกับภาพบรรยากาศที่ชื่นตาชื่นใจ ผ่อนคลายกันตั้งแต่ตื่นลืมตา แบ่งเบาความเหนื่อยล้าด้วยวิวสวย ๆ และอากาศบริสุทธิ์ ใครยังไม่เคยไปเยือน จ.ตาก อาจจะยังไม่รู้ว่า นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวหลากสไตล์ที่มีให้เลือกเที่ยวกันได้ทั้งปีแล้ว ใน อ.พบพระ ยังมีมุมมองดี ๆ ที่รอให้เราไปสัมผัสกับความชื่นตา ชื่นใจ มองไปทางไหนก็สวยงาม เริ่มต้นกันตั้งแต่เช้า สาย บ่าย เย็น ไปจนตลอดค่ำคืน
โครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนไปดื่มด่ำท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขาณ “ม่อนหมอกตะวัน”1 ใน Unseen New Siries อ.พบพระ จ.ตาก ชวนกันไปเดินเล่นในสายลมหนาว เคล้าบรรยากาศในอ้อมกอดของขุนเขา รับอรุณด้วยสายหมอกขาวที่เข้ามาหยอกเย้ากันไปจนยามสาย ชื่นใจกับวิถีถิ่นชาวเชาเผ่าม้ง ที่ยังคงเอกลักษณ์อันน่าชื่นชม
ม่อนหมอกตะวัน มุมชวนฝันแห่งบ้านป่าหวาย
“ม่อนหมอกตะวัน” บ้านป่าหวาย อ.พบพระ จ.ตาก เป็นพื้นที่ราบบนดอยสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 1,100 เมตร เดิมเป็นพื้นที่ทางการเกษตรของขาวเขาเผ่าม้ง มีสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี และจะเริ่มหนาวมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายฝนไปจนถึงต้นปี สร้างแรงจูงใจให้สายแคมป์ปิ้งเข้ามาปักหลักกางเต้นท์ เกิดเป็นภาพแห่งความสุขที่บอกเล่าสู่กันฟังแบบปากต่อปาก จนเมื่อสามปีที่ผ่านมา ชาวบ้านป่าหวายได้รวมตัวเป็น “วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนหมอกตะวัน”เปิดให้บริการที่พักร้านอาหารและร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน ทำให้นักท่องเที่ยวโดยทั่วไป สามารถเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศท่ามกลางสายหมอกขาวได้ไม่ยาก
บนม่อนหมอกตะวันมีที่พักและร้านอาหาร รวมทั้งลานกางเต้นท์ให้บริการ เป็นลานกว้างใหญ่บนดอยกว่า 300 ไร่ รายล้อมด้วยหุบเขาใหญ่น้อย ในมุมมองแบบ 360 องศา ไฮไลต์ของม่อนหมอกตะวัน คือการได้แอบอิงอยู่ในสายหมอกกันตั้งแต่ยามเช้าไปถึงยามสาย ตลอดช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว ส่วนหน้าแล้งสภาพอากาศบนม่อนหมอกตะวันยังคงเย็นสบายพร้อมสีสันของหุบเขาสีทอง มีการปลูกดอกไม้ที่หมุนเวียนไปตามฤดูกาล อาทิ ดอกเสี้ยน ที่เจริญเติบโตได้ง่ายในพื้นที่แห่งนี้
ด้วยพื้นที่กว้างขวางบนม่อนหมอกตะวัน ที่พักต่าง ๆ จึงกระจายตัวอยู่คนละมุม ต่างก็มีวิวที่เป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญคือ ไม่ต้องดั้นด้นออกไปไหนไกล ก็สัมผัสกับบรรยากาศแห่งสายหมอกได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้
ม่อนหมอกตะวัน เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ชื่นชอบความเงียบสงบ จึงไม่เหมาะกับสายเฮฮาปาร์ตี้ โดยเฉพาะหลัง 22.00 น. ต้องงดใช้เสียงอย่างเด็ดขาด ระบบไฟฟ้าของที่นี่ใช้โซลาร์เซลล์เป็นหลัก จึงต้องช่วยกันประหยัดไฟ ไม่นำอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกินความจำเป็นขึ้นมาใช้ แต่ถือว่ามีความสะดวกสบายเพียงพอ ที่พักส่วนใหญ่ออกแบบอย่างมีสไตล์กลมกลืนกับธรรมชาติ ตามแนวทางของธุรกิจชุมชนเพื่อความยั่งยืน
เส้นทางขึ้นม่อนหมอกตะวัน ตั้งแต่หมู่บ้านป่าหวายขึ้นไป เป็นถนนคอนกรีตแคบ ๆ เลนเดียว ค่อนข้างมีความคดเคี้ยวพอสมควร แม้จะมีระยะทางไม่ไกลมากนัก รถเก๋งทั่วไปสามารถขับขึ้นไปได้ แต่ก็ไม่แนะนำให้ขับรถขึ้นไปในช่วงกลางคืน หากมาถึง อ.พบพระ หรือ อ.แม่สอด แนะนำให้หาที่พักก่อนจะเริ่มต้นเดินทางขึ้นสู่ม่อนหมอกตะวันในตอนเช้า ในตัวเมืองแม่สอดจะมีที่พักให้เลือกหลากหลายระดับ อาทิ โรงแรมฟอร์จูน แม่สอด ที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้กับศูนย์การค้าโรบินสันและร้านอาหารต่าง ๆ
ติดต่อท่องเที่ยวม่อนหมอกตะวัน
สุเมธ ศรีธีระวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้านป่าหวาย
โทร 083 903 1263
ไก่ต้มสมุนไพร เมนูโดนใจได้สุขภาพ
ชาวเขาเผ่าม้งที่หมู่บ้านป่าหวาย และในพื้นที่ใกล้เคียง ในเขต อ.พบพระ จ.ตาก ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ทำสวน ทำไร่ และทำนาข้าวที่เรียกว่า “ข้าวม้ง” หรือ “ข้าวดอย” ปัจจุบันบนม่อนหมอกตะวัน ยังคงทำการปลูกข้าวตามไหล่เขา เกิดเป็นภาพที่สวยงาม
วิถีของชาวม้งยังคงความเข้มแข็งตามรากฐานดั้งเดิม ในเทศกาลงานประเพณี เช่น งานปีใหม่ม้ง ชาวบ้านจะแต่งกายชุดชาวเผ่าออกมาร่วมงาน เต็มไปด้วยสีสันแห่งความสุข อาหารที่นิยมทำกินกันทุกครัวเรือนคือ “ไก่ต้มสมุนไพร” ที่อาศัยไก่ที่เลี้ยงไว้ ทั้งไก่บ้านและไก่ดำ นำมาต้มกับสมุนไพรในท้องถิ่น อาทิ พลูคาว ว่านท้องใบม่วง ก้ามปูหลุด ตะไคร้ ฯลฯ ล้วนเป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย
เมนูไก่ต้มสมุนไพรมีกระบวนการง่าย ๆ เพียงเตรียมน้ำตั้งไฟให้เดือด ไส่เนื้อไก่ที่หั่นและล้างแล้วลงไป รอประมาณครึ่งชั่วโมงเมื่อเนื้อไก่เปื่อยได้ที่ ก็โปรยสมุนไพรนานาชนิดลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยเพียงเล็กน้อย ได้รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นสมุนไพรที่เต็มไปด้วยประโยชน์ ผักทุกชนิดสามารถกินได้ ไม่มีความขม แถมยังหวานอร่อย ในสมัยก่อน ใครที่ป่วยไข้ หรือเหนื่อยหน่ายจากการทำไร่ทำสวน รวมทั้งคนท้อง ก็จะต้องปรุงเมนูไก่ต้มสมุนไพรเพื่อบำรุงร่างกาย
ชาวเขาเผ่าม้ง ยังสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าจากใยกัญชง เพื่อนำมาเป็นเครื่องแต่งกาย ด้วยกระบวนการอันพิถีพิถัน จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนประเภทผ้าทอที่ออกแบบเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า และของใช้ต่าง ๆ รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาล
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนหมอกตะวัน
วรรณวิไล แซ่กือ
Facebook/ม่อนหมอกตะวัน – Mon mok tawan ดอยป่าหวาย
โทร 082 647 6202
ตระเวนเที่ยวน้ำตกป่าหวาย ทุ่งดอกไม้บนดอย
ใกล้กับม่อนหมอกตะวัน ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวแสนสวย เชื่อมโยงวิถีเกษตรอันตื่นตาตื่นใจท่ามกลางสภาพของหุบเขาใหญ่น้อยที่จะเปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล เช่น “น้ำตกป่าหวาย” ที่อยู่ไม่ไกลจากม่อนหมอกตะวันมากนัก นอกจากนั้นระหว่างเส้นทางที่รถแล่นผ่านตลอดสองข้างทาง ใน อ.พบพระ ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนสดชื่น ทั้งการปลูกนาข้าว รวมทั้งไร่ดอกกุหลาบ รวมทั้งไร่ดอกดาวเรือง ที่จะทอแสงสีเหลืองสวยงามท่ามกลางบรรยากาศอันเขียวชอุ่ม
ออกจากม่อนหมอกตะวันแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะรับประทานอาหารในจุดชมวิวสุดชิลที่“ญั่งสู ฟาร์มฮัก”แปลงดอกไม้บนเนินเขาเตี้ย ๆ ที่มีการปลูกไม้ดอกชนิดต่าง ๆ ตามฤดูกาล อย่างในช่วงหน้าฝนนี้ มีทุ่งดอกเสี้ยนที่กำลังชูช่อสวยงามต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมมุมรับประทานอาหารอันแสนร่มรื่น มีเมนูท้องถิ่นให้เลือกลิ้มหลายรายการ รวมทั้งเมนูดเด็ดของทางร้านอย่าง “ไก่ต้มสมุนไพร” สูตรชาวม้งแท้ ๆ เพราะเจ้าของร้านญั่งสูฟาร์ม ก็คือชาวม้งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มาตั้งแต่เกิด และได้พัฒนาพื้นที่ทางการเกษตรของตัวเอง เป็นร้านอาหารแสนสวย เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจที่เหมาะกับผู้ที่รักธรรมชาติ มีเมนูอร่อยหลากหลายรายการ ที่พลาดไม่ได้ก็คือ “โยเกิร์ตโฮมเมด” สูตรของทางร้าน มาในสไตล์โยเกิร์ตเกล็ดน้ำแข็งเย็นชื่นใจ รสชาติละมุนสุด ๆ
ญั่งสู ฟาร์มฮัก
ปวีณา ขวัญอาชากุล
โทร 097 9344269 Facebook/ญั่งสู ฟาร์มฮัก
เมื่อสายฝนพรำพากันไปเที่ยวให้ชื่นฉ่ำหัวใจ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนไปสัมผัสประสบการณ์แห่งความสุขท่ามกลางขุนเขา จ.ตาก ไปกอดเขากอดหมอก ออกไปผ่อนคลาย ให้ลมหนาวช่วยเพิ่มความอบอุ่นใจกันตั้งแต่เช้าไปจนค่ำ เป็นอีกเส้นทางที่อยากให้ทุกคนจูงมือกันไปบอกรักเมืองไทยให้หายคิดถึง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ททท. สำนักงานตาก โทร 0 5551 4341 – 3
Facebook/taktravel