Tag Archives: โจน จันใด

Uncle Tom’s Cabin at Khaokho กระท่อมน้อยของลุงทอม เขาค้อ

กระท่อมน้อยของลุงทอม เป็นฟาร์มสเตย์ อยู่ที่ตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่บนพื้นที่สูง 750 เมตร/เหนือระดับน้ำทะเลอากาศดีอุณหภูมิเฉลี่ย 19-25 องศาตลอดทั้งปีช่วงฤดูฝนจะมีหมอกที่สวยงามลอยพัดผ่านทุกวัน
ฟาร์มลุงทอม ปลูกเมล่อน และ มะเขือเทศปลอดสารพิษ ในโรงเรือนระบบปิด
(ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงพื้นที่) ในบางช่วงของปีจะมีทุ่งดอกดาวเรืองให้ลูกค้าชม นอกจากนั้นที่นี่ ยังมีชื่อเสียงมากทางด้านการทำพิซซ่าเตาถ่านสไตล์อิตาเลี่ยนตอนเหนือที่ใครได้ลิ้มลองทานแล้วรับรองว่าลืมไม่ลง

บ้านหลังที่6 กระท่อมน้อยของลุงทอม เขาค้อ
หน้าบ้านหลังที่ 2 อีวิวที่แตกต่าง
ระเบียงห้องหลังที่ 6

เขาค้อหนึ่งใน Best Destination ถือเป็นทิวเขาที่สวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เพราะโอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์น่าทึ่ง เจิดจรัสโดดเด่นหลายเท่าตัว สามารถมองเห็นทุ่งกังหันลม ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของเขาค้อเมื่อได้สถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยอย่าง กระท่อมน้อยของลุงทอม ฟาร์มสเตย์ ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างผสมผสานกลมกลืนเข้ากับภูมิทัศน์ธรรมชาติของเขาค้อ ภายใต้คอนเซปต์ บ้านดินกลางสายหมอก กระท่อมน้อยของลุงทอม เขาค้อโฮมสเตย์ พร้อมยกระดับความเป็นเลิศด้านการบริการของ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสร้างความประทับใจ ให้สมกับเป็นแลนด์มาร์กของทะเลเขาค้อ สไตล์พักบ้านดิน ท่ามกลางขุนเขาและท้องทุ่งนา บรรยากาศชิลมีกระจกบานใสเห็นวิวธรรมชาติสุดฟิน พักบ้านดินเพียง 6 ห้องและรถคาราวาน 1คัน ช่วงปลายปีมี บูทีคเต๊นท์ ที่สะดวกสบาย บรรยากาศเยี่ยมยอดเปิดให้บริการ จุดเด่นของบ้านดิน คือความเย็นสบายในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว บ้านพักของเราทุกหลังมีระเบียงที่กว้าง แต่ละหลังมีระยะห่าง มีความเป็นส่วนตัวมาก วิวสวยจากด้านหน้าห้องของทุกหลังมองเห็นวิวภูเขาและทุ่งกังหันลมลูกค้าแทบทุกคนที่ได้มาพักจะบอกว่านึกไม่ถึงว่าจะมีสถานที่เงียบ สงบ สวยงามและวิวดีซ่อนอยู่ ณ.ที่แห่งนี้

ด้านหน้าร้านพิซซ่าเตาถ่านสไตล์อิตาเลี่ยนตอนเหนือ
การทำพิซซ่าเตาถ่านสไตล์อิตาเลี่ยนตอนเหนือ
กระท่อมน้อยของลุงทอม

กระท่อมน้อยของลุงทอมเป็นนวนิยายที่ขายดีที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่19
กระท่อมน้อยของลุงทอม หรือ Uncle Tom’s Cabin at Khaokho บ้านดิน เป็น
ตัวเลือกที่เข้าพักแล้ว ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยภายในห้องพักไม่จำเป็นต้องใช้แอร์คอนดิชั่น มีเพียงพัดลมเล็กตัวเดียวและผ้าห่มอุ่น มีสัญญาณ Wifi แต่ไม่มี โทรทัศน์ หรือ แอร์คอนดิชั่น หรือ ส่วนท่านใดที่ชอบกางเต็นท์นอน ลุงทอมมีบริการพื้นที่ให้ได้นอนนับดาว ลูกค้าแทบทุกคนมาพักจะบอกว่านึกไม่ถึงว่าจะมีสถานที่เงียบ สงบ สวยงามและวิวดีซ่อนอยู่ ณ.ที่แห่งนี้

คลิกเพื่อชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=O0nscZrMuhA

ภายใต้บริการห้องพักพักบ้านดินเพียง 6 ห้องและรถคาราวาน 1 คัน มองเห็นทัศนียภาพของทะเลหมอก ทิวป่าสนที่ล้อมรอบแบบพาโนรามา บนที่ดิน 30 ไร่ ในตำบลทุ่งสมอ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ อากาศเย็นสบายและมีสายหมอก ให้เห็นตลอดปี คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง) สร้างธุรกิจเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขาที่โอบล้อม บนเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
และกำลังเป็นที่กล่าวขานถึงไม่ว่าจะเป็น ที่พักบ้านดินฟาร์มสเตย์ กระท่อมน้อยของลุงทอม Uncle Tom’s Cabin at Khaokho และ ร้าน อาหารUncle Tom’s Pizzeria มีพิซซ่าเตาถ่านแป้งบางกรอบต้นตำรับจากอิตาลี เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน พร้อมสายหมอกและขุนเขาเป็นฉากหลังตั้งใจปลุกปั้นให้รีสอร์ตแห่งนี้เป็น พักบ้านดิน ท่ามกลางขุนเขาและท้องทุ่งนาของนักท่องเที่ยว ด้วยรูปแบบการบริการจากใจจริงที่ไม่เหมือนใครในทุกย่างก้าว โดยนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวเหนือระดับ นำวัฒนธรรมไทยพื้นบ้านเข้ามาผสมผสานอย่างกลมกลืนลงตัวกับภูมิทัศน์ธรรมชาติ เพื่อสร้างเสน่ห์แบบไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะเป็นบ้านดินที่พักแบบไทยสไตล์ สร้างในแบบบ้านดิน ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินขุนเขาและท้องทุ่งนา การตกแต่งรีสอร์ตสร้างด้วยผลงานศิลปะฝีมือคนไทย พร้อมส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้วัสดุจากดินธรรมชาติจากพื้นที่ของชุมชน และ
ที่นี่มีร้านอาหาร ใช้วัตถุดิบจากชุมชน ตลอดจนช่วยสร้างอาชีพให้คนท้องถิ่นในจังหวัดเพชรบูรณ์และใกล้เคียงตลอดมา

แปลงผักวัตถุดิบจากชุมชน ใกล้ที่พัก
พื้นที่บริการบูทีคเต๊นท์
คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง)

เบื้องหลังไอเดียสร้างสรรค์สุดบรรเจิดและพลังความคิด ของ คุณทอม และ คุณกาญจนาวดี (มาดามถิง) เกิดจากฝีมือ ภายใต้แนวคิด “สวรรค์บนบ้านดิน” โดยนำแนวคิดของ โจน จันใด เจ้าของแนวคิด ชีวิตต้องง่าย วลีนี้ไม่เพียงพูดถึงการทำบ้านดินที่ทำให้เรารู้จักบ้านดินของ ด้วยแรงบันดาลใจจากสไตล์พักบ้านดิน คุณโจน จันใด ปลุกกระแสบ้านดินฟีเว่อร์ในประเทศไทย กระท่อมน้อยของลุงทอม สร้างบ้านดินหลายหลังที่มีความแตกต่างกัน พักที่นี่รู้สีกได้ถึงการใช้ชีวิตกิน-อยู่ง่ายๆ ให้ธรรมชาติ ท่ามกลางขุนเขาและท้องทุ่งนา บรรยากาศชิลเพราะกระท่อมน้อยของลุงทอม ทุกหลังมีประตูที่ทำจาก กระจกบานใส เห็นวิวธรรมชาติ และกระท่อมบ้านดินมีเพียง 6 ห้อง และ รถคาราวาน 1คัน ช่วงปลายปี กระท่อมน้อยของลุงทอม มีบริการบูทีคเต๊นท์ ที่สะดวกสบาย และมีห้องน้ำพอเพียง กับบรรยากาศเยี่ยมยอดตลอดทั้งปี พร้อมเปิดให้บริการ

พักแบบรถบ้านคาราวาน
Uncle Tom’s Cabin at Khaokho พักแบบรถบ้านคาราวาน ชีวิตสโลว์ไลฟ์ในสวรรค์บนดิน
อาหารเช้า กระท่อมน้อยของลุงทอม เขาค้อ

จุดเด่นของบ้านดินคือ ความเย็นสบายในฤดูร้อน และอบอุ่นในฤดูหนาว บ้านพักของเราทุกหลังมีระเบียงที่กว้าง แต่ละหลังมีระยะห่าง มีความเป็นส่วนตัวมาก
วิวสวยจากด้านหน้าห้องของทุกหลังมองเห็นวิวภูเขาและทุ่งกังหันลมมีบริการ
เตียงเสริมขึ้นอยู่กับประเภทห้องที่เลือก ลูกค้าแทบทุกคนที่ได้มาพักบอกว่าตอนเดินทางเข้ามาที่นี่ ผ่านย่านชุมชน แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีสถานที่เงียบ สงบ สวยงามและวิวดีซ่อนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ชอบจัง ห้องพักพักบ้านดิน พักแล้วรู้สึกได้เลยว่า เราจะค้นหาความเรียบง่ายของชีวิตไว้อย่างถ่องแท้ ความรู้สึกเมิื่อมาเยือนมีความกลมกลืนกับธรรมชาติ และเรียบง่ายโปร่งโล่ง สบายติผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นไทยหลากหลายมุมโดย แถมยังมีไฮไลท์ อยู่ที่ รถบ้านคาราวาน ชีวิตสโลว์ไลฟ์ในสวรรค์บนดินล้อมรอบด้วยทิวเขาสวนสวยเปรียบเชื่อมต่อเนินเขาสายหมอก และสร้างความสุขให้กับผู้มาเยือนได้อย่างน่าอัศจรรย์

บ้านพักหมายเลข 2 ที่ Toptotravel เข้าพัก

เปลี่ยนวันวุ่นวายเป็นวันหยุดสุดหรูประทับใจมิรู้ลืม
คลิกจองห้องพักบ้านดิน เพียง 6 ห้องและรถคาราวาน 1 คัน
ตั้งแต่วันนี้ ถึง 20 ธ.ค.2564 รับสิทธิพิเศษราคาที่พัก สำหรับห้องพัก
ที่วิวสวยห้องพักสะาดพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

Uncle Tom’s Cabin at Khaokho กระท่อมน้อยของลุงทอม เขาค้อ
กระท่อมน้อยของลุงทอม @ เขาค้อเพชรบูรณ์
89 หมู่ 10 ทุ่งสมอ เขาค้อ เพชรบูรณ์ 67270
ติดต่อสอบถาม 086 992 3999
และ 099 335 5565

โครงการตามรอยพ่อฯ ก้าวสู่ปีที่9 ตอกย้ำบทบาท สื่อพอดี

เดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจและองค์ความรู้ศาสตร์พระราชา ให้คนไทยสู้ทุกวิกฤตอย่างยั่งยืน จัดกิจกรรมรณรงค์ควบคู่การสร้างองค์ความรู้ผ่านบทเรียนออนไลน์ “คู่มือสู่วิถีกสิกรรมธรรมชาติ”

​โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” (ตามรอยพ่อฯ) เดินหน้าสู่ปีที่ 9 ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 มุ่งทำหน้าที่ “สื่อพอดี” ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ชาวไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่การลงมือปฏิบัติ อันจะเป็นเกราะป้องกันจากวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตอื่นๆ ได้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน” ด้วยการจัดทำบทเรียนออนไลน์ “คู่มือสู่วิถี กสิกรรมธรรมชาติ” เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษาทฤษฎีและแนวทางการปฏิบัติ พร้อมด้วยคลิปให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจจาก 7 บรมครู เผยแพร่บนเว็บไซต์ของและเฟซบุ๊กของโครงการฯ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีที่จังหวัดนครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา และกิจกรรมประกาศความสำเร็จ 9 ปีของโครงการที่จังหวัดสระบุรี และรายการ “เจาะใจ” โดยวางมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้น

จัดทัพรับมือโรคระบาด
​ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานข้อความ ‘สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย’ เตือนสติคนไทยผ่าน ส.ค.ส. ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะทำงานยึดมั่นถือมั่นในการทำงานอย่างมีสติมาตลอดระยะเวลา 9 ปี ของการดำเนินโครงการตามรอยพ่อฯ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดปัญหาหรือวิกฤตใดก็ตาม ทั้งวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม โรคระบาด ภัยแล้ง หมอกควัน วิกฤตด้านเศรษฐกิจ วิกฤตด้านความเหลื่อมล้ำทางสังคม และวิกฤตด้านการเมือง ศาสตร์พระราชา คือ องค์ความรู้ในการจัดการ ดิน น้ำ ป่า และพัฒนาคน ก็จะเป็นทางรอดที่ยั่งยืนในทุกวิกฤต ทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น ทั้งยังสามารถแบ่งปันและสร้างรายได้ เป็นการสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก ความอดอยากขาดแคลนอาหารในโลกจะมีขึ้นอย่างแน่นอน คนที่แม้ไม่เจ็บป่วยก็จะได้รับผลกระทบจากการไม่มีอาหารกิน ฉะนั้นจึงต้องสร้างฐาน 4 พอ คือ พอกิน พอใช้ พออยู่ และพอร่มเย็น ให้แน่น ให้พึ่งตนเองให้ได้จริง ต้องมั่นคงแข็งแรงพอ จึงจะมีกำลังไปช่วยคนอื่นให้รอดไปด้วยกัน โดยเชื่อมั่นว่าความสามัคคีของเครือข่ายและคนไทยทุกคนจะเป็นพลังให้เรารอดจากทุกวิกฤตได้อย่างยั่งยืน”

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ

​|นายไตรภพ โคตรวงษา ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างยิ่งกับคนไทยทุกคน มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติและเครือข่ายจึงได้เตรียมการวางแผนรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้ เบื้องต้นได้จัดทัพรับมือโรคระบาด โดยแบ่งทีมทำงานออกเป็น 5 ทีม ได้แก่

  1. ทีมบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) มีหน้าที่รวมรวมข้อมูลแปลงของสมาชิกเครือข่ายทั้งหมดในแต่ละจังหวัด รวมทั้งวัด โรงเรียน ชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลของทุกศูนย์และแปลงของสมาชิกเครือข่าย หากเกิดการล็อกดาวน์จะใช้ข้อมูลนี้ให้ความช่วยเหลือกันได้ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงระดับลุ่มน้ำ
  2. ทีม CMS (Crisis Management Survival Camp) มีหน้าที่เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์ แจ้งเตือนภัย เพื่อพัฒนาและเตรียมพร้อมไปสู่ขั้นการเป็นศูนย์พักพิงหลุมหลบภัย หรืออาจไปถึงขั้นเป็น Hospitel ทั้งในระดับ เล็ก(บ้าน) กลาง ใหญ่ โดยยึดหลักป้องกันบำบัด ฟื้นฟู
  3. ทีมพอรักษา มุ่งเป้าเร่งด่วนเรื่องโควิด-19 โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ป้องกัน (ผู้ไม่ป่วย) บำบัด (ผู้ที่ป่วยอยู่) และฟื้นฟู (ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว) โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและยาที่ควรใช้ รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ ตามข้อมูลจากทางแพทย์แผนปัจจุบัน-ไทย-จีนและทางเลือกอื่น ๆ
  4. ทีมสื่อพอดี มีหน้าที่นำข้อมูลของทั้ง 3 ทีม มาสื่อสารต่อยอดและเผยแพร่ เพื่อให้ข้อมูล ให้ความรู้ แนะทางออก ผ่านช่องทางทางการเผยแพร่ต่าง ๆ
  5. ทีมข้อมูล มีหน้าที่จัดการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล และออกแบบการจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและขับเคลื่อนเครือข่าย เพื่อฝ่าวิกฤตที่กำลังเผชิญในปัจจุบันและอนาคต ในภาวะวิกฤตเช่นนี้เราไม่ควรรอความหวังหรือความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหน ต้องพึ่งพาตัวเองและพึ่งพากันเองให้ได้มากที่สุด เชื่อมั่นว่าความสามัคคีของเครือข่ายและคนไทยทุกคนจะเป็นพลังให้เรารอดจากทุกวิกฤตได้อย่างยั่งยืน​
    โดยที่ผ่านมาเราได้เปิดรับศิษย์ เครือข่าย คนมีใจ และประชาชนที่สนใจมาเป็นอาสาสมัครให้กับทีมงานขับเคลื่อนทั้ง 5ทีม ตามความถนัดเฉพาะด้านของแต่ละคน ซึ่งการรวมกันเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งและพึ่งพากันในยามวิกฤตด้วยองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาจะทำให้เราทุกคนอยู่รอดปลอดภัย”

    ตามรอยพ่อฯ ปี 9 เดินหน้าภารกิจ “สื่อพอดี”
    ด้าน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด เปิดเผยว่า “โครงการตามรอยพ่อฯ พร้อมที่จะเข้าไปเสริมและสนับสนุนยุทธศาสตร์การเตรียมการรับมือวิกฤตโควิด-19 ของมูลนิธิฯ อย่างเต็มที่ ในฐานะสื่อพอดี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดการนำองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาไปลงมือปฏิบัติจนเกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่โครงการตามรอยพ่อฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 9 ผ่านกิจกรรมลงพื้นที่และการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วประเทศกว่า 20,000 คน และยังมีผู้ที่ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจจากสื่อที่โครงการผลิตขึ้นอีกมากมาย โดยเราจะมุ่งทำหน้าที่นี้อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องเพื่อสื่อสารว่าศาสตร์พระราชาคือทางรอดจากทุกวิกฤตอย่างแท้จริง

    ทั้งนี้ โครงการตามรอยพ่อฯ ปี 9 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน’ จะเดินหน้าจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ โดยเน้นช่องทางออนไลน์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีไฮไลท์คือการจัดทำบทเรียนออนไลน์คู่มือสู่วิถีกสิกรรมธรรมชาติในรูปแบบบทความและวีดิทัศน์ บอกเล่าเนื้อหาเกี่ยวกับศาสตร์พระราชาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ รวม 14 บท เพื่อให้ผู้สนใจสามารถนำองค์ความรู้ไปลงมือทำเองได้ หากติดขัดหรือสงสัยเรามีช่องทางถามตอบในสื่อออนไลน์ของโครงการทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊กและไลน์ (@inspiredbytheking)

นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด

นอกจากนั้น โครงการตามรอยพ่อฯ ปี9 ยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีที่ จ.นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา ณ พื้นที่ของคนมีใจที่นำศาสตร์พระราชาไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จ เพื่อให้ผู้สนใจได้มาเรียนรู้และเกิดแรงบันดาลใจผ่านการทำกิจกรรมลงแขกอย่างโบราณ และยังกำหนดจะจัดงานสรุปผลการดำเนินโครงการ 9 ปี ที่ สวนล้อมศรีรินทร์ จ.สระบุรี ที่เป็นจุดเริ่มต้นโครงการอีกด้วย โดยจะวางมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและ การเว้นระยะห่างของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้น และส่งท้ายด้วยการรวบรวมคนต้นแบบและบรมครูผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ ตลอดทั้ง 9 ปี เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจในรายการเจาะใจซึ่งจะออกอากาศทางช่อง MCOT HD”

นายโจน จันใด ผู้ก่อตั้งสวนพันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เมล็ดพันธุ์

สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู้วิกฤต
ด้านนายโจน จันใด ผู้ก่อตั้งสวนพันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เมล็ดพันธุ์ และประธานธรรมธุรกิจ กล่าวแนะนำการดำเนินชีวิตในช่วงวิกฤตโรคระบาดนี้ว่า “เราประเมินไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะยาวนานขนาดไหน การรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วหวังว่าเราจะดีขึ้นเอง ก็ดูจะเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่แทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำ คือ การกลับมาคิดถึงการพึ่งตนเองในเรื่องของอาหารเป็นอันดับแรก เราจะหาอาหารมาจากไหน ถ้าอยู่ในเมืองก็อาจต้องคิดถึงการปลูกอาหารเองง่าย ๆ เช่น การเพาะถั่วงอก หรือการปลูกผักแนวตั้ง อีกวิธีหนึ่งคือการเชื่อมต่อกับกลุ่มเกษตรกรที่เขาทำอยู่แล้ว ให้เขาส่งวัตถุดิบมาให้ ซึ่งควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาวะปกติด้วย ที่เราควรจะรู้แหล่งที่มาของอาหารที่เราบริโภค

ฉะนั้นการเชื่อมต่อกันอีกครั้งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในสภาวะปัจจุบัน การหันกลับมาพึ่งตนเองมากขึ้น กลับมาพึ่งกันเองมากขึ้น ต่อให้ระบบพังหรืออะไรจะเกิดขึ้นเราก็ยังอยู่ได้ นี่คือแนวทางที่เราควรจะต้องกลับมาใคร่ครวญพิจารณา เครือข่ายของเรามีครบทุกอย่างไม่ว่าจะข้าว ปลา กะปิ เกลือ ผัก ฯลฯ และยิ่งถ้าคนสนใจทำแบบนี้มากขึ้นจะทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจแนวใหม่ ระบบการค้าแนวใหม่ ที่ทำให้คนได้คุยกันตรงมากขึ้นโดยไม่อ้อม นี่คือสิ่งที่ผมเห็นว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ นี่คือแนวโน้มที่จะทำให้เราอยู่ได้ในช่วงโควิด-19”

​ผู้ที่สนใจติดตามกิจกรรมในโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ได้ทาง www.facebook.com/ajourneyinspiredbytheking หรือดูรายละเอียดที่ https://ajourneyinspiredbytheking.org