All posts by Shanya

THE 51 TASTY MOMENTS BANGKOK

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก เรามาทำความรู้จักกับร้านแนว ไลฟ์
Inspire French ชื่อร้านน่ารักจำง่าย 51 Tasty Moments  หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการทานอาหารในรสชาติแบบผสมผสาน ด้วยอาหารคุณภาพที่ใช้ว้ตถุดิบ organic  แนวคิดอาหารและไลฟ์สไตล์  ด้วยการปรุงแต่งด้วยการการใช้วัตถุดิบ ออร์แกนิกที่ปลอดสารเคมี ผงชูรสและส่วนผสมจากสัตว์
มีต้นกำเนิด ร้านเกิดจากกลุ่มผู้หลงใหลในอาหารและเครื่องดื่ม โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านการทำอาหารเมนูสุดพิเศษ โดยใช้วัตถุดิบ organic  ในการสร้างแรงบันดาลใจในการปรุงอาหารอาหารเข้ากับชีวิตของคนกรุงเทพ ที่ให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อน ทานอาหาร และดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มดีๆ สักแก้วท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลาย แถมภายในร้าน ยังเพิ่มความสว่างด้วยกระจกบานใหญ่แบบ Glasshouse  ทำให้บรรยากาศโปร่ง โล่ง สบาย ให้
คุณได้ทานอาหารอร่อยๆ แบบจุใจในคอนเซ็ปต์ All Day Dining




แวะมาที่ร้านภายในร้านถูกตกแต่งแบบสไตล์เรียบง่ายและเท่  สะดุดตาด้วยดีไซน์ของร้านที่รับแสงจากธรรมชาติเข้ามาสร้างความสดใสมีชีวิตชีวา ตัวร้านถูกล้อมรอบด้วยกระจกใสบานใหญ่ เพื่อรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศอันแสนอบอุ่นตลอดวัน โดยเฉพาะมุมพักผ่อน ที่ยกพื้นสูงด้วยคอนกรีต มีเบาะนั่ง หมอนอิงนุ่มๆ และโต๊ะขนาดกะทัดรัดตั้งตรงกลางให้เลื่อกนั่งพักผ่อนแบบชิลล์ๆ

วันที่ toptotravel ไปทานอาหาร เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ร้านเกิดจากความหลงไหลในศิลปะ และในวันที่ไปทานอาหารมีการจัดแสดง Photo Exhibition JOHPUR ของผู้เป็นเจ้าของร้าน ทำให้ผู้ที่มาเยื่อนได้เห็นและยังจุดประกายไอเดียสุดครีเอท นับได้ว่าเป็นกาสร้างพื้นที่ที่รวบรวมแบรนด์มัลติสโตร์ให้คนที่รักงานศิลปะอย่างแท้จริง

THE 51 TASTY MOMENTS BANGKOK ตั้งอยู่ในตอนท้ายของสุขุมวิท 51 หรือสองถนนขึ้นจากถนนสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) ที่เป็นสัญลักษณ์ The 51 Tasty Moments เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบ บนพื้นที่เพื่อให้แฮงเอาท์ตลอดวันด้วยอาหารรสเลิศและแรงบันดาลใจ จากร้านใต้หลังคาเดียวกันซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง

THE 51 TASTY MOMENTS BANGKOK ถือว่าเป็นร้านอาหารที่ให้ความบันเทิงที่แท้จริง ท่านใดกำลังมองหาสถานที่จัดงานมีศูนย์กลางอยู่ที่การใช้แสงสีและวัสดุอย่างลงตัวในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยคอนเซ็ปต์ของร้านที่เป็น All Day Dining ที่เน้นเสิร์ฟความหลากหลาย ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นในการเติมเต็มความอร่อยได้ตามความต้องการของคุณในทุกช่วงเวลา มาเริ่มต้นจากจานเบาๆ

เมนูแนะนำของทางร้าน ล้วนคัดสรรวัตถุดิบต่าง ๆ ด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ลิ้มรสความอร่อยและมีสุขภาพที่ดี เริ่มด้วยเมนู ฉนสก ฉีะห เมนูสุดพิเศษรสชาติดี Lamb Rock

เริ่มต้นวันใหม่ ด้วยจานของสลัดที่เป็น Signature ของทางร้านอย่าง   สลัดฺ ฺBeetrotroot จานโตที่เสิร์ฟผักสดกรอบหลากหลาย

Famer’s baby chicken สูตรเฉพาะของทางร้านอย่าง Chicken  ไก่ออร์แกนิกจากฟาร์มที่เขาใหญ่ ซึ่งถูกเลี้ยงให้เติบโตกับธรรมชาติ เสิร์ฟมาทั้งตัวบนจานใบใหญ่ตามสไตล์ ของทางร้านเคียงมากับมันฝรั่งอบและเนื้อไก่นุ่มฉ่ำและซอส Chicken Gravyให้คุณทานกันได้เพลิน ๆ

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานกับ ถัดมาเป็นอีกหนึ่งเมนูน่าทาน เมนูเพียงเห็นแค่หน้าตาของเมนูนี้ก็รู้สึกชื่นใจแล้ว

สำหรับเมนูเครื่องดื่มของทางร้าน มีทั้งสมูตตี้ ชากาฟ แต่หากใครที่ไม่ดื่มกาแฟ ทางร้านแนะนำ ลองสั่งมีทั้งสมูตตี้

The 51 Tasty Moments
64 SUKHUMVIT SOI 51, BANGKOK, THAILAND
Email: bookings@the51tastymoments.comBOOK A TABLE BY PHONE TEL: 098 870 7051

The Origin of Valentine’s Day
#ชัญญ่าว่าดี #happyvalentinesday #The51Tasty Moments

TRUFFLE BAR ITALIAN RESTAURANT FINE DINING

URBANI Truffle Bar & Restaurant ที่มาที่ไปของบทความนี้ เกิดความยากสัมผัสโลกของทรัฟเฟิล วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ทรัฟเฟิล “เห็ด” ที่มีราคาแพง เชฟรังสรรค์อาหาร โดยนำทรัฟเฟิลมาชูรสชาติในเมนูจานโปรด ด้วยกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของทรัฟเฟิล ทำให้กลายเป็นเห็ดที่มีราคาสูง แต่ต้องขอชมว่าที่ URBANI Truffle Bar & Restaurant สามารถทำให้เรา สามารถสัมผัสความเป็นทรัฟเฟิลได้แบบอร่อยจริงในราคาสัมผัสได้

URBANI Truffle Bar & Restaurant

ทรัฟเฟิลเป็นเห็ดก้อน ผ่าเนื้อในจะดูคล้ายสมอง เนื้อเห็ดมีกลิ่นหอมมาก ขึ้นเองตามธรรมชาติใต้ต้นไม้ใหญ่ที่หยั่งรากลึกนร้านจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนใหญ่ ได้แก่ โซน Raw Bar ซึ่งสำหรับโซนนี้จะมีวัตถุดิบสด
นำเข้าจากต่างประเทศหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป สร้างสรรเป็นเมนูอาหารนานาชาติที่ผสมผสานรสชาติของทรัฟเฟิลเข้าไปในรูปแบบแปลกๆใหม่ อาทิเช่น การนำทรัฟเฟิลไปผสมผสานกับซูชิ และโซนร้านอาหาร
ซึ่งตกแต่งอย่างหรูหรา

โดยเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และเก้าอี้หนังสีเข้ม เข้ากับการตกแต่งของร้านที่มีสีทองตามมุมต่าง ๆ และมีมุมที่นั่งสามารถมองเห็นวิวของตึกสูงย่านสาทรได้ชัดเจน ในส่วนบริเวณครัวนั้น เปิดโล่งให้มองเห็นเหล่าเชฟปรุงอาหารกันสด ๆ และมีมุมที่จัดวางสินค้าจากทรัฟเฟิลให้เลือกซื้อกลับไปปรุงอาหารกันต่อที่บ้าน ลิ้มลองทรัฟเฟิลจาก Urbani ที่อาคารสาทร สแควร์ ชั้น 39

Urbani Truffle Bar & Restaurant @ สาทร
เป็นที่แรกในประเทศไทย ที่พร้อมต้อนรับให้ทุกคนได้มาสัมผัสโลกของทรัฟเฟิลทางร้านมีบริการช่วงกลางวันและช่วงดินเนอร์ ซึ่งในช่วงกลางวัน ทางร้านจะมีเซ็ตอาหารกลางราคาเข้าถึงได้ไว้ให้บริการ

สำหรับมื้อนี้เราเลือกทานแบบ 5 คอร์ส โดยเริ่มเสิร์ฟด้วยเมนู Chef’s Amuse Bouche เพื่อทานเรียกน้ำย่อยกันก่อนและต่อด้วยเมนูที่มีให้เลือกระหว่าง Beef Truffle Tartare เนื้อสันในวัว เสริฟพร้อมทรัฟเฟิล มัสตาร์ด ชีสสไตล์อิตาเลียน ไข่ และปิดท้ายด้วยทรัฟเฟิลสไลด์ หรือ เลือกทานเป็น Steam Monkfish tail citrus เนื้อปลามังค์ฟิชเพิ่มรสชาติด้วยเลมอน ส้มและน้ำมันมะกอก

ในคอร์สที่ 2 จะเป็นเมนู Truffle soup เป็น soup ที่ผสานเส้นพาสต้า Urbani ทรัฟเฟิล เห็ดพอร์ชินี ตกแต่งด้วยพายกรอบ ปิดท้ายด้วยทรัฟเฟิลสไลด์ หรือจะเป็น Warm wild Red Mullet Soup ส่วนผสมจากปลาทะเลที่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ผสานกับซาซิมิปลาฮามาจิ จากญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยกระเทียม หัวหอมและพริก

Truffle soup เป็น soup

ในส่วนคอร์สที่ 3 จะเป็นเมนู Linguine di Gragnano in rye bread sauce and truffle เสริฟด้วย เส้นพาสต้าลิงกวินีพร้อมซอสที่ทำจากขนมปังไรย์ และทรัฟเฟิลสไลด์ หรือจะเป็น เมนู Risotto smoked duck in Barolo wine and truffle เสริฟพร้อมข้าวคานาโลนี่ อกเป็ด ราดด้วยไวน์บาร์โรโล่ พามิซานชีส และทรัฟเฟิล


คอร์สที่ 4 มีเมนูให้เลือกทั้ง Tournedos Rossini สเต๊กเนื้อวัว ในส่วน Tenderloin นำเข้าจากออสเตรเลีย เสิร์ฟคู่กับฟัวกราส์ มันฝรั่ง มะเขือเทศ และซอสทรัฟเฟิล ส่วนใครที่ไม่ทานเนื้อ สามารถสั่ง Wild John Dory fillet in Vermentino White wine Villa Solanis เนื้อปลานำเข้าจากฝรั่งเศส ทานคู่กับ Cherry tomato

ในส่วนของหวาน สำหรับใครที่เลือกสั่งแบบ 5 คอร์ส สามารถเลือกสั่งได้ระหว่าง Tiramisu Chocolate sphere ครีมทิรามิสุผสมผสานกับกลิ่นทรัฟเฟิลขาว ซ่อนอยู่ภายใต้โดมไวท์ช็อกโกแลต และทรัฟเฟิล หรือจะเป็น Mango and Truffle มูสมะม่วงพูเร ทานคู่กับทรัฟเฟิลสไลด์และ mango sorbet ซึ่งเป็นเมนูที่ผสมผสานทรัฟเฟิลกับขนมหวานได้อย่างลงตัว

Tiramisu Chocolate sphere ครีมทิรามิสุผสมผสานกับกลิ่นทรัฟเฟิลขาว
Mango and Truffle มูสมะม่วงพูเร

The Signature Deluxe Menus ของทาางร้านมี Tasting Menus แบบคอร์ส ให้เลือกทาน โดยจะมีทั้งแบบ 5 คอร์สในราคา 3,900 บาท++ และ 7 คอร์ส ราคา 5,500 บาท++

ซึ่งทั้ง 2 แบบจะรวม Prosecco และเมนู Chef’s Amuse Bouche ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป โดยวัตถุดิบส่วนใหญ่จะเป็นวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศที่ผสานรสชาติของทรัฟเฟิลได้อย่างลงตัว

truffle tartare
(Australian beef tenderloin, truffle mustard, stracciatella, caper berry, Tropea onion marmalade, Egg, truffle slices)
Or
Steam monkfish tail citrus
(Spanish monkfish tail, lemon, orange, Evo oil)
Second Course selection
Truffle soup
(Urbani truffle paste, dried porcini, potato, puff pastry, truffle slice)
Or
Warm wild Red Mullet soup
(French red mullet, hamachi sashimi, garlic, onion, chili pepper)
Third Course selection
Linguine di Gragnano in rye bread sauce and truffle
(Linguine Gragnano pasta, Rye bread, shallot, thyme, Evo oil, white wine, truffle slices)
Or
Risotto smoked duck in Barolo wine and truffle
(Carnaroli rice, duck breast, shallot, Barolo wine, Parmigiano

มาร่วม สัมผัสสุดยอดประสบการณ์ค่ำคืนสุดพิเศษ จากกับกลิ่นกอมกรุ่นแสนละมุน กับทรัฟเฟิลสดที่ส่งตรงจากประเทศอิตาลีนำมารังสรรค์เป็น 6 สุดยอดสุดโรแมนติก บรรยากาศส่วนตัว ที่เข้าไปนั่งแล้วเหมือนทานอาหารใต้แสงจันทร์ ทางเจ้าของร้านใส่ใจกับการออกแบบร้านและการเลือกสรรวัตถุดิบมาปรุงอาหาร รวมถึงการจัดคอมบิเนชั่นของอาหารออกมาได้อย่างลงตัว

ดื่มค็อกเทลแสนอร่อยกับทรัฟเฟิลสดใหม่ให้บริการในบรรยากาศที่ห่อหุ้มอยู่บนดาดฟ้าสูง 140 เมตรของอาคารสาทรสแควร์ใจกลางกรุงเทพฯ
นอกจากเครื่องดื่มชนิดอื่น ทางร้านมีเมนูเครื่องดื่มเยอะมาก เน้นการเปลี่ยนเมนูอยู่เรื่อยๆ และแต่ละแก้วมีความพิเศษในแบบที่คาดไม่ถึงสามารถเลือกไวน์รายการส่วนเมนูอาหารแต่ละจาน สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาของทรัฟเฟิลในด้านคุณภาพ ฤดูกาลและความเรียบง่าย จานสร้างสรรค์ของทรัฟเฟิลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามฤดูกาล ร้านนี้บรรยากาศดีจูงมือกันไปเดทได้ทุกเทศกาล

URBANI Truffle Bar & Restaurant ชั้น 39 ตึกสาทรสแควร์
สอบถาม และ จองที่ โทร.02-2331990-1 / 081-1331337

trufflebar #truffle #truffleat #central #winepairing #cheftable #toptotravel

ร้าน คั่วกลิ้ง ผักสด ร้านอาหารไทยอร่อยราคาดี รางวัลจาก MICHELIN

คุณบิ๊ก-วเรศรา สมิตะสิริ เจ้าของร้าน คั่วกลิ้ง ผักสด ร้านอาหารรางวัลบิบ กูร์มองด์ ใน Michelin Guide Bangkok จากอดีตพนักงานออฟฟิต  ทั้งหมดล้วนเกิดจากความหลงไหลของสมาชิกในครอบครัว ร้านคั่วกลิ้ง ผักสด ระยะ 12 ปี ที่ผ่านมา รังสรรค์เมนูจานโปรดสไตล์โฮมเมดปักษ์ใต้ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเรื่องกลิ่นและความมัน ของอาหารใต้รสดั้งเดิม โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความชื่นชอบส่วนตัว  คนไทยชอบอาหารรสชาติจัดจ้าน และคั่วกลิ้งสูตรที่ร้านจะใส่กะปิลงไปหน่อยผสมกับเครื่องแกงตำสด ผัดแบบไม่ใช้น้ำมัน เพราะในเนื้อหมูที่ทางร้านเลือกใช้มีความมันอยู่แล้ว เติมใบมะกรูดกับพริกขี้หนูสวน ปรุงรสและได้อาหารใต้ของรสชาติของชุมพร เพราะคิดเสมอว่าลูกค้าทุกท่านเป็นเหมือนแขกคนพิเศษ ที่แวะมาทานอาหารฝีมือของบ้านเรา

คุณบิ๊ก-วเรศรา สมิตะสิริ เจ้าของร้าน “คั่วกลิ้งผักสด”

เชื่อหรือไม่ว่า สูตรพิเศษจาก Khua Kling Pak Sod คั่วกลิ้ง ผักสด อาหารชื่อดังที่คุ้นชื่อกันมานาน นำสูตรอาหารฝีมือคุณป้าจากบ้านเกิด จ. ชุมพร สถานที่เป็นร้านอาหารที่ดัดแปลงมาจาก บ้านที่อยู่อาศัยและเป็นกิจการที่ดำเนินงานภายในครอบครัวที่ได้รับคำชมในเรื่องของรสชาติอย่างล้นหลามจนได้รับรางวัล บิบ กูร์มองด์ จากมิชลิน 3 ปีซ้อน โดยชื่อร้านตั้งตามเมนูเด็ดของภาคใต้ คือ คั่วกลิ้งหมูสับ ปรุงรสด้วยผัดกับใบมะกรูด ขมิ้น และพริกขี้หนูสดที่มีรสชาติเผ็ดร้อน ซึ่งทางร้านให้ความสำคัญกับวัตถุดิบและขั้นตอนการปรุง เช่น สะตอผัดกุ้ง น้ำพริกกุ้งสด รวมถึงเมนูจานไข่ที่สามารถช่วยดับความเผ็ดร้อนได้อีกด้วย

คั่วกลิ้ง ผักสด เป็นอาหารใต้รสชาติของชุมพร เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่มีรสชาติถึงใจ กลิ่นหอม เครื่องเข้มข้นสุด ความโดดเด่นของอาหารใต้แบบโฮมเมด  ถือเป็นหนึ่งในอาหารท้องถิ่นของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมมาก  เวลากินคู่กับข้าวสวย คือฟินมากจริงๆ ไม่จำเป็นต้องไปถึงใต้ หรอยจังหูได้ที่ ร้านคั่วกลิ้งผักสด เมนูอาหารใต้กับสุดยอดเมนูอย่าง  “คั่วกลิ้งหมูติดมัน” รสชาติเผ็ดร้อนกับความสดของวัตถุดิบและสมุนไพรนานาชนิด ที่นำมาปรุงรสด้วยน้ำตาลและหัวกะทิเข้มข้น ทางร้านไม่ใช้ผงชูรส อาหารใต้ของไทยจึงเป็นอาหารที่จะทำให้ต่อมรับรสของคุณทำงานอย่างเต็มที่เมื่อได้สัมผัสกับรสชาติสดใหม่ เผ็ดจัดจ้านรสชาติอาหารกลมกล่อมทุกจาน
ส่ววนราคาก็ไม่แพงกลางๆ เทียบกับบริการ คุณภาพอาหาร บรรยากาศ ถือว่าดีมาก

สะตอผัดกุ้ง เอาใจคนชอบกินเผ็ดกุ้งตัวเต็มคำสะตอเม็ดใหญ่เนื้อดีผัดครบรสเข้มข้น ให้กลิ่นและรสสัมผัสที่แตกต่าง
น้ำพริกกุ้งสด

อาหารจานแรกที่ ร้าน คั่วกลิ้ง ผักสด อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอ คั่วกลิ้ง ภูมิใจนำเสนอ ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจที่ครอบครัวรับประทานเป็นประจำ เมนูประจำตั้งแต่คุณ Bic ยังเด็กและความคุ้นเคยและชื่นชอบในรสชาติของอาหาร โดยใช้วัตถุ พื้นบ้านดิบพื้นบ้าน  ร้านอาหารไทยอร่อยราคาดี จนได้รางวัลจาก MICHELIN  เป็นที่รู้จักแพร่หลายในกลุ่มนักชิมชาวไทย เพราะร้านที่ได้รางวัลนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยราคาที่ย่อมเยาว์และคุ้มค่า

หมูสับคั่วมาแห้งๆกลิ่นรสเข้มข้นจัดจ้านแบบกลมกล่อม

คั่วกลิ้งหมูสับ
ไฮไลต์ชวนหลงใหลอยู่ที่พริกแกงและกะปิจากชุมพร

ใบเหลียงผัดไข่ ใบเหลียงยอดอ่อนจากชุมพรผัดคลุกเคล้ากับไข่ไก่ หอมกลิ่นกระทะ
แกงเหลืองปลา รสเข้มข้นจัดจ้าน สีเหลืองสวยด้วยขมิ้น
รสชาติที่อร่อยล้ำของอาหารใต้มาจากเครื่องพริกแกงสด
หมูฮ้อง
ข้าวยำปักใต้

ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทยเน้นอาหารปักษ์ใต้รสชาติจัด อาหารคุณภาพดีที่คุ้มค่าสมราคา มนูอาหารของทางร้านคุ้มค่ามากที่พลาดไม่ได้คือ คั่วกลิ้งหมูผัดสด สะตอผัดกะปิกุ้ง และหมูฮ้อง รับรองว่าบรรดาแฟนอาหารใต้รสจัดอิ่มอร่อยแบบไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน มาที่นี่ต้องลองเมนู

Khua Kling Pak sod
บิบ กูร์มองด์ มีบทบาท ไม่น้อยไปกว่า ‘ดาวมิชลิน’ ในการส่งเสริมให้ กรุงเทพฯ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งอาหารอร่อยที่มีตัวเลือกแตกต่างหลากหลายให้นักชิมได้ลิ้มลอง ทั้งอาหารระดับภัตตาคาร อาหารจากร้านธรรมดาขนาดเล็ก หรืออาหารริมทางราคาย่อมเยา สัญลักษณ์รับรองนี้ไม่เพียงนำเสนอทางเลือกให้บรรดานักชิม ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ผ่านการคัดสรรจากคู่มือระดับโลกอย่าง ‘มิชลิน ไกด์’ ในราคาที่จับจ่ายได้ง่ายอย่างคุ้มค่า แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าอาหารอร่อยคุณภาพดีไม่จำเป็นต้องราคาแพงเสมอไป

ขนมหวานของร้าน คั่วลิ้ง ผักสด

อย่าลืม แวะไปจัดหนักจัดเต็มรับประทานมื้อโปรดกับครอบครัว เพื่อน หรือจะพาชาวต่างชาติมาเลี้ยงต้อนรับก็รับรองว่าเป็นอันประทับใจ บรรยากาศสไตล์นั่งกินข้าวในบ้านชิล ๆ ดีนะคะ ส่วนของอาหารต้องบอกว่าที่นี่เน้นเมนูอาหารมีรสเผ็ดจัดจ้าน อาหารไทย อาหารใต้ ถูกปาก ถูกใจ คงหนีไม่พ้นเมนูอร่อยๆ อย่าง คั่วกลิ้ง ผักสด ข้าวสวยร้อนๆ สักจาน เด็ดสุดสำหรับมื้อนี้คะ

ร้านคั่วกลิ้ง ผักสด ทุกสาขา เปิดให้บริการห้องจัดเลี้ยง หรือห้องรองรับแขกพิเศษ สามารถติดต่อสาขาที่สะดวก เพื่อขอจองล่วงหน้า

แนะนำ…. อาหารใต้ รางวัลมิลชิลินมาที่นี่เป็นครั้งแรกแล้วไม่ผิดหวัง
Family owned and operated since 2007

ร้านคั่วกลิ้ง ผักสด PRASARNMIT (สาขาประสานมิตร)
โทร. 02-259-5189, 095-36-36-364
เปิดบริการทุกวัน 11.00 – 22.30 น.
FB : KhuaKlingPakSod
IG : khuaklingpaksod

#khuaklingpaksod #michelinguidebangkok #คั่วกลิ้งผักสด #ทำทุกจานจากใจ #michelinguidebkk2019 #bibgourmand #bibgourmand2019 #delivery #lineman#คั่วกลิ้งผักสด #อาหารใต้ #ชัญญ่าว่าดี

BlueSpice Dining Room @ Grande Centre Point Sukhumvit 55

เจอแบบนี้ใครจะอดใจไหว บุฟเฟต์ข้าวต้มมื้อค่ำทองหล่อ อัดเต็มพิกัดไม่จำกัดเวลา

วันนี้เราจะพาไปกินบุฟเฟ่ต์ข้าวต้มเกรดพรีเมี่ยม BlueSpice Dining Room ร้านอาหารสไตล์ร่วมสมัยที่ไม่ธรรมดา และขึ้นชื่อเรื่องบุฟเฟต์ข้าวต้ม ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนในย่านทองหล่อ บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งเจ้าเดียวในทองหล่อ ภายในร้านตกแต่งสุดหรู การบริการดีระดับโรงแรม 5 ดาว มีเมนูอาหารทั้งของคาวและของหวาน นำเอาความเป็นสากลของอาหารต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง เข้ามาเป็นตัวชูโรงให้รสชาติของ BlueSpice ขึ้นชื่อเรื่องบุฟเฟต์ข้าวต้ม

ซึ่งทางร้านมีเมนู “ข้าวต้ม” ให้เลือกทานหลากหลายแบบจัดเต็ม เริ่มกันเลยกับโซนบุฟเฟ่ต์ข้าวต้มที่มีให้เลือกถึง 5 แบบ ดีต่อสุขภาพ มีทั้งข้าวต้มธัญพืช ข้าวต้มเผือก ข้าวต้มข้าวกล้อง ข้าวต้มมันเทศ หรือ ข้าวต้มธรรมดา มาพร้อมกับเครื่องเคียงสูตรดั้งเดิมให้ได้เลือกสรร โดดเด่นด้วยเมนูหลากหลายรสชาติ แต่จะมีอะไรหน้าตาแบบไหนบ้างไปดูกันจ้า

ถ้าให้นึกถึงโอกาสดี ๆ หรือเดทพิเศษ ๆ อาหารอร่อย ๆ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ ​เต็มอิ่มจุใจไปกับบุฟเฟ่ต์ กับบรรยากาศแบบนี้ อย่าลืมชวนสังสรรค์กันพร้อมหน้ากับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว คนรัก มาอิ่มฟินได้อย่างจุใจ ให้คุณและเพื่อนๆ ได้ฟินแบบไม่จำกัดเวลา กินอร่อย เพลินๆ ยาวๆ เอาใจคนนอนดึก พร้อมเปิดประสบการณ์จัดเต็มสุดๆ กับหลากหลายเมนูข้าวต้ม พร้อมอาหารพิเศษหลากรสชาติ ให้ได้ลิ้มลอง อิ่มอร่อยด้วยความฟินในบรรยากาศสุดชิลล์เคล้าแสงไฟอบอุ่นในยามค่ำคืนที่คุณจะตกหลุมรักจนอยากจะไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

มาที่นี่ นอกจาก ดื่มด่ำไปกับเมนูอาหารรสเลิศ กันแบบจุใจ ไม่จำกัด โซนเมนูซิกเนเจอร์ที่จะปรับเปลี่ยนไปทุกวัน เมนูประจำสุดฮอต อาทิ ขาหมูพะโล้ แซลม่อนแซ่บ กุ้งอบวุ้นเส้น พร้อมโจ๊กสุดอร่อย และที่สำคัญสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ผลงานในการทำอาหาร ได้ทั้งความสนุก และความอร่อย ยำ DIY ที่คุณสามารถเลือกวัตถุดิบและความแซ่บได้ตามใจชอบ สารพัดเมนูผัดผักให้คุณเลือกและนำไปให้เชฟปรุงกันสด ๆ และเมนูอาหารพิเศษสุดอร่อยที่ขนกันมาแบบไม่ซ้ำกัน

Shabu Shabu
น้ำจิ้มชาบูสูตรพิเศษ
ลาดเป็ดทอด

ปิดท้ายความอร่อยด้วยของหวานนานาชนิด ทั้งไอศกรีมโฮมเมด แพนเค้ก ผลไม้ เต้าฮวย ขนมปัง อีกทั้งยังมีเมนูน้ำแข็งใสคลายร้อน เย็นฉ่ำถึงใจ ให้คุณได้ DIY เพียงแค่ทุกคนเลือกท็อปปิ้งให้สะใจได้อีกกว่า 20 รายการ ลิ้มลองเมนูน้องใหม่ อย่างก๋วยเตี๊ยวลุยสวย ลาบเป็ดทอด และ ชาบู อาหารที่นี่เค้าแบ่งสัดส่วนสวยงามและชัดเจน โดยในเมนูแต่ละวันอาจจะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป

ของหวานมาแล้ว ความพิเศษอยู่ที่ สังขยาใบเตย หรือ สังขยาชาไทย ซึ่งเป็นสูตรลับของทางร้าน มีความหอมหวานกลมกล่อม การันตีว่าเข้มข้นและอร่อยที่สุด และ ไอศกรีมโฮมเมด ตบท้ายด้วยผลไม้

กระซิบอีกนิด Blue Spice บุฟเฟ่ต์ข้าวต้มโต้รุ่งเกรดพรีเมี่ยมกับโปรพิเศษมาเป็นคู่มีส่วนลด สายปาร์ตี้ห้ามพลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด นำเข้ามาดื่มได้ฟรีไม่คิดค่าเปิดขวด ทางร้านมีแก้วและน้ำแข็งให้บริการ ดื่มด่ำในบรรยากาศดี ๆ เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย พร้อมรับประทานอาหาร อร่อยๆ ได้อีกด้วย

ช่วงนี้ทางร้านมี โปรใหม่ที่น่าจับตามอง อย่าลืมพาคนพิเศษมาดื่มด่ำบุฟเฟ่ต์มื้อแบบสบายท้อง แบบพรีเมี่ยมกันพบกับอาหารคุณภาพชั้นนำ และการให้บริการอันยอดเยี่ยมของพนักงานทุกคนที่พร้อมให้บริการทุกท่านที่
BlueSpice Dining Room @Grande CentrePoint Sukhumvit 55

BlueSpice Dining Room
@Grande Centre Point Sukhumvit 55 ชั้น Lobby
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 17:00 – 23:00 น.
โทร. 02-020-8000 ต่อ 4440 / 02-042-8056 / 090-961-9494
สำรองที่นั่งโทร. 02-020-8000 ext.4440

บุฟเฟต์ข้าวต้มมื้อค่ำทองหล่อ
Theme: Shabu-Shabu Festival
โปรโมชั่น: ลด 50% สำหรับท่านที่ 2
(เฉพาะ วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เท่านั้น)
Period: 1 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ 2563
Daily @ BlueSpice Dining Room เวลา : 17.00 – 23.00

บุฟเฟต์ข้าวต้มมื้อค่ำทองหล่อ #BlueSpiceDiningRoom

เริ่มแล้ว!! งานสังคมสุขใจครั้งที่ 6 ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์…สู่ชีวิตที่สมดุล

คอนเซปต์ ช้อปเปลี่ยนโลก  ณสวนสามพราน จ.นครปฐม

สามพรานโมเดล ททท. ทีเส็บ เซ็นทรัลสสส. จังหวัดนครปฐม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เครือข่ายเกษตรอินทรีย์และภาคีพันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน การศึกษา และภาคประชาสังคม  ผนึกความร่วมมือร่วมจัดงาน “สังคมสุขใจครั้งที่ 6  ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์…สู่ชีวิตที่สมดุล” ภายใต้คอนเซปต์ ช้อปเปลี่ยนโลก  ณสวนสามพราน จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม พ.ศ. 2562   มีเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลและจากทั่วประเทศนำผลผลิตอินทรีย์สดใหม่จากฟาร์ม และผลิตภัณฑ์แปรรูป มาให้ช้อปสุขภาพดีอย่างจุใจ  โดยไฮไลท์เด่น ปีนี้ คือการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ThaiOrganic Platform  เชื่อมโยงคนทั้งห่วงโซ่สินค้าอินทรีย์เป็นครั้งแรกในไทย   มั่นใจช่วยยกระดับผู้บริโภคให้เป็น Active Consumer  เข้าถึงสินค้าและกิจกรรมได้สะดวกและดึงดูดคนรุ่นใหม่มาร่วมขับเคลื่อน เพื่อสร้างระบบอาหารยั่งยืน  ส่งเสริมให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมีและมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  สมาชิกวุฒิสภา ประธานในพิธีเปิดงานสังคมสุขใจครั้งที่6 กล่าวว่า เสน่ห์ของงานสังคมสุขใจที่ได้เห็นจากการมาร่วมงานทุกปี คือบรรยากาศความร่วมมืออย่างกระฉับกระเฉงของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน เกษตรกรอินทรีย์  เดินไปทางไหนก็มีแต่รอยยิ้มและที่น่าประทับใจมากในปีนี้ก็คือ  ความก้าวหน้าที่ก้าวไปอีกขั้นของการขับเคลื่อนสามพรานโมเดลและการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ที่นอกจากจะมีจำนวนเกษตรกรอินทรีย์ผ่านการรับรองอย่างมีส่วนร่วมมากขึ้นมีการขยายเครือข่ายไปในภาคอื่นๆเพิ่มแล้ว ยังจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้เชื่อมโยงและยกระดับความร่วมมือของคนทั้งห่วงโซ่เพื่อสร้างระบบอาหารสมดุลและยั่งยืนให้เกิดขึ้นอันจะทำให้ทุกคนมีสุขภาวะที่ดีและชีวิตที่สมดุลร่วมกัน

นายอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ประธานจัดงานสังคมสุขใจครั้งที่ 6  และผู้ริเริ่มการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล หรือโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคมกล่าวว่า  จากสถานการณ์ระบบอาหารที่ยังคงมีความไม่สมดุล    โจทย์ของการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล ในปีที่ 9และปีต่อไป ที่มุ่งให้เกษตรกร หยุดใช้สารเคมี หันมาทำเกษตรอินทรีย์และมีการรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง คือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถยกระดับคนทั้งห่วงโซ่โดยเฉพาะผู้บริโภค ให้เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ให้มากขึ้น 

งานสังคมสุขใจครั้งที่ 6 ปีนี้  จึงเน้นไปที่สร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคซึ่งมีเครื่องมือสำคัญ ที่จะเริ่มใช้ในงานนี้เป็นครั้งแรกภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมคือ แอพพลิเคชั่น  ไทยออร์แกนิก แพลตฟอร์ม   ที่จะช่วยเชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารอินทรีย์ทั้งระบบ มีความโปร่งใส  ทำให้คนต้นน้ำคือเกษตรกรมีการจัดการอย่างเป็นระบบมีโอกาสและมีช่องทางการตลาด ที่เชื่อมต่อตรงกับผู้บริโภค   ส่วนผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงแหล่งผลิตอาหารอินทรีย์  กิจกรรม  ได้สะดวก เชื่อมั่นได้ ราคาเป็นธรรรม และมีช่องทางเข้ามามีส่วนร่วมกิจกรรมการขับเคลื่อนสำหรับแนวคิดของการจัดงานสังคมสุขใจครั้งที่6 ช้อป…เปลี่ยนโลก   

คุณอรุษ กล่าวว่า  เป็นแนวคิดที่อยากให้ผู้มาร่วมงาน ได้ใช้พื้นที่ของงานจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจเพื่อการเปลี่ยนแปลง  “เพราะวิถีอินทรีย์สังคมอินทรีย์ ไม่ได้อยู่แค่เรื่องการกินแต่มันเป็นเรื่องวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สังคม และดีต่อสุขภาพของเรา ผมอยากให้ทุกคนได้มาช้อปแรงบันดาลใจแล้วกลับไปเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างดีขึ้น ทั้งตัวเรา สังคม และสิ่งแวดล้อม”

ด้านนายสุนา วงศ์ละครปลัดอาวุโสอำเภอสามพราน ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม  กล่าวว่า  งานสังคมสุขใจ เป็นงานที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือ ที่ทำให้งานมีคุณค่า มีความหมายมีความก้าวหน้า  มีองค์ความรู้มีปราชญ์ชาวบ้าน มีคนต้นแบบ มากมาย  ที่ทำให้ให้คนที่สนใจอยากเปลี่ยนจากการใช้สารเคมี มาทำเกษตรอินทรีย์สามารถเรียนลัดจากสามพรานโมเดลที่ทำมาต่อเนื่องอยู่แล้วได้เลย

คุณฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า งานสังคมสุขใจเป็นอีกความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวและการสร้างสังคมอินทรีย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติ  ซึ่งหัวใจของความสำเร็จ คือ ความต่อเนื่อง จึงน่ายินดีอย่างยิ่งที่การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกๆ ฝ่าย   และควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว การช้อป…เปลี่ยนโลก ขอให้ผู้ร่วมงานได้ปลูกจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่อโลกของพวกเราไปพร้อมๆกัน ด้วยการพกถุงผ้าตะกร้า กล่อง เพื่อลดการใช้ถุงหิ้วพลาสติก หันมารีไซเคิลเน้นใช้ของที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ GoGreen  เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงสร้างสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุลให้เกิดขึ้นร่วมกัน

คุณอรชร  ว่องพรรณงาม  ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(สสปน.)  กล่าวว่า  งานสังคมสุขใจ เป็นอีกโอกาสสำคัญ ที่ผู้ประกอบการโรงแรมร้านอาหาร การประชุมที่ต้องใช้วัตถุดิบอยู่แล้ว  จะได้มาเจอกับเกษตรกร เกิดการเชื่อมโยงตรง  

ซึ่งในงานนี้ สสปน. ยินดีแชร์ประสบการณ์ โครงการ Farm to Functions  ที่ได้ทำร่วมกับสามพรานโมเดล และพันธมิตร ธุรกิจ MICE ส่งผลทำให้โรงแรมและร้านอาหารชั้นนำในกรุงเทพหันมาซื้อข้าวตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ เกิดเป็นคุณค่าที่ยั่งยืน  สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและเกษตรกรอินทรีย์   อีกทั้งจุดประกายคุณค่าของการประสานพลัง 3ภาคส่วน คือ รัฐบาล เอกชนและประชาชน  เพื่อการขับเคลื่อนสังคมร่วมกันสู่เป้าหมายการเป็น MICE Sustainable

ดร.นพ. ไพโรจน์  เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ  (สำนัก 5) กล่าวว่า  กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสังคมขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีครบ 4 มิติ คือกายจิต ปัญญาและสังคม โดยหนึ่งในภารกิจที่กำลังขับเคลื่อน คือการสร้าง “พื้นที่สุขภาวะ” ด้านอาหารและสุขภาวะให้เกิดขึ้น  ซึ่งสามพรานโมเดล ถือเป็นหนึ่งในโมเดลตัวอย่าง ที่สสส. สนับสนุน เพราะตอบโจทย์สุขภาวะในทุกมิติ มีการส่วนร่วมของทุกภาคส่วน  ทำให้ผู้บริโภคตื่นรู้ ตระหนัก สนใจเรียนรู้ และมีความเข้าใจระบบอาหารยั่งยืน อันสามารถขยายผลไปยังภูมิสังคมอื่น ๆ ได้   จะเห็นว่างานสังคมสุขใจ สังคมอินทรีย์  ที่ผู้คนทั้งห่วงโซ่มีรอยยิ้ม มีความสุขที่ได้เกื้อกูลกันได้เรียนรู้ เป็นงานที่ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยง  เห็นคุณค่าของการมีพื้นที่สุขภาวะในสังคม ซึ่งมีความสำคัญและจะต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สุขภาวะที่ดีอย่างนี้ให้มากขึ้นเรื่อยๆ งานสังคมสุขใจ สวนสามพรานเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 6 แล้ว โดยทุกปีจะมีการสรุปผลการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ภายใต้สามพรานโมเดล  ที่มีการทำงานสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่มภายใต้ระบบการรับรองอย่างมีส่วนร่วม

โดยในงาน ยังมีเวทีแชร์ประสบการณ์เส้นทางการเรียนรู้และการขับเคลื่อน    และมีเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์จากทั่วประเทศ  รวมถึงเครือข่ายผู้ประกอบการ  มีเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดล ตลาดสุขใจและบูธของผู้สนับสนุน เช่นบูธเซ็นทรัลทำ ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ได้นำผลงานการขับเคลื่อนสังคมการสร้างอาชีพ สร้างการศึกษา พัฒนาสินค้าชุมชนให้คนในท้องถิ่นมาแชร์   บูธ สสปน.  ที่มีการสรุปความรู้จากการขับเคลื่อนโครงการ Farmto Functions ที่ทำให้เกษตรกรอินทรีย์ในจังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดสุรินทร์มีลูกค้าเป็นโรงแรม 5 ดาว ในกรุงเทพฯ     

ผลิตภัณฑ์ในงานสังคมสุขใจที่ได้รับความสนใจมีมากมายอาทิ ข้าวอินทรีย์หลากสายพันธุ์รวมถึงข้าวพันธุ์พื้นมือง เช่น ข้าวปะกาอำปึล  จากบ้านทัพไทย จ.สุรินทร์  ข้าวหอมนครชัยศรี จ.นครปฐม  

นอกจากนี้  ยังมีพืชผักผลไม้เมืองหนาว เช่น อโวคาโด เคพกูสเบอรี่จากบ้านห้วยขมิ้น อ.แม่แจ่ม   ฟักทองบัตเตอร์นัท จากสองแควออร์แกนิก จ.พิษณุโลก   มีผลิตภัณฑ์แปรูปจากสมุนไพร เช่น แยม ชาเก็กฮวยชากุหลาบ จากเครือข่าย PGSลำพูน และ กลุ่มม่วนใจ๋ กลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติ  มีปัจจัยการผลิต เช่นเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ กว่า40 ชนิด จากสหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่  มีการให้ความรู้จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่นคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้การดูแลสุขภาพองค์รวม  การตรวจสารพิษในผัก ในส่วนกิจกรรมความรู้ มีการสอนการแปรรูปอาหารมีการสอนกระบวนการทำคราฟช็อคโกแลต สอนทำบะหมี่จากผักผลไม้อินทรีย์   มีเวทีการสรุปบทเรียนการขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์   Organic Tourism   รวมถึงมีคนต้นแบบเกษตรอินทรีย์ มาให้ข้อคิด เช่น คุณวิฑูรย์ เรืองเลิศปัญญากุล  คุณ อาทิ คุณนคร ลิมปคุปตถาวร   หรือคุณปริ๊นซ์ เจ้าชายผัก

โดยผู้จัดงานได้จัดเตรียมรถตู้บริการรับ-ส่งจากลานจอดรถ เข้าไปชมและซื้อสินค้าในงานฟรี  
สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 034 322 588-93
ติดตามกิจกรรมของงานที่ Facebook/งานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 6

The Cup Restaurant & Tea Room

เดอะคัพ เสิร์ฟเมนูต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ พร้อมเทศกาลของขวัญ จากผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นจากทางร้าน

เพราะที่นี่ คือ อีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเริ่มต้นจาก ต้นตำรับอังกฤษแท้ รสชาติดั้งเดิม อบอุ่นในสไตล์ Homy & Friendly ครัวที่อัดแน่นไปด้วยเคล็ดลับ ร้าน เดอะคัพ อบอุ่นแห่งนี้ เดิมตั้งอยู่ที่ โอเรียนทัล พลาซ่า ในระยะแรก หลังจากนั้นย้ายไปที่เพนนินซูลา พลาซ่า จนเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ย้ายมาอยู่ที่ อาคาร เลค รัชดา จนถึงปัจจุบันและในปี 2563 นี้ The Cup ครบ 40 ปี แล้ว อร่อยแบบนี้ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก

เมื่อเปิดประตูเดินเข้าไปด้านในร้าน ความรู้สึกแรก คือ การตกแต่งร้านนภายในค่อนข้างโปร่ง เพราะผนังใช้กระจกใสบานใหญ่รับแสงจากธรรมชาติ ทุกมุมของร้านตกแต่งได้อย่างกิ๊บเก๋ อบอุ่นน่านั่งจิบเครื่องดื่ม โดยทางร้านแบ่งเป็น โซนมีตั้งโต๊ะที่นั่งทั้งแบบโซฟา ที่นั่งติดกระจก ตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีความอบอุ่นและเรียบง่าย แบบให้โล่งโปร่งสบายด้วยกระจกใสรอบด้าน

เดอะคัพ จัดเป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรป ชุดถ้วยกาแฟลวดลายงดงาม จานกระเบื้องเซรามิกหลายรูปแบบ รวมทั้งภาพติดฝาผนังแบบโบราณสามารถเห็นวิวเมืองและทะเลสาปฝั่งสวนสาธารณะ เบญจกิติด้านตรงข้ามอย่างน่ารื่นรมย์ ร้านอาหารที่จะพาหลบหลีกความวุ่นวายของเมืองสู่บรรยากาศที่อบอุ่น ให้บรรยากาศที่น่านั่งผ่อนคลายได้อย่างลงตัว ที่นี่เสริฟอาหารอังกฤษแบบดั้งเดิม ถือเป็นแหล่งนัดพบของคนที่ชื่นชอบในสไตล์อาหารในแบบเดียวกัน

คุณสุมัณฑนา โมกขะเวส เจ้าของร้าน The Cup

ร้านนี้เกิดขึ้นโดย คุณสุมัณฑนา โมกขะเวส เจ้าของร้าน The Cup ร้านอาด้วยความรักและความผูกพัน ที่จะเปลี่ยนให้เวลาหยุดนิ่ง เมื่อเพื่อนๆ ได้มาเยือน ถือเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเริ่มต้น เมื่อ 39 ปีก่อน ตอนนั้นเรียนจบจากอังกฤษกลับมาอยู่เมืองไทยรู้สึกคิดถึงอาหารที่เราเคยทานกันเป็นประจำตั้งแต่เด็ก ก็เลยมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ที่เรียนจบจากประเทศอังกฤษและสวิสฯ ว่าจะทำอะไรที่ทำให้เราหายคิดถึง จึงร่วมกับเพื่อนๆ หุ้นกันเปิดร้าน เป็นร้านอาหารที่เสริฟอาหารสไตล์อังกฤษแท้คุณภาพดี ปรุงจากวัตถุดิบที่ดี แบบดั้งเดิม เพื่อให้หายคิดถึงและเพื่อให้ลูกค้าทั่วไปได้รู้จักกับอาหารรสชาติอังกฤษ

ด้วยผู้อยู่เบื้องหลัง คุณสุมัณฑนา หรือ พี่เป๊าะ บวกกับประสบการณ์และความหลงใหลรสชาติของอาหารสไตล์อังกฤษ เน้น Homy อาหารทุกจานเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่สั่งสมผ่านกาลเวลา กลายเป็นเมนูอาหารที่ทานในบ้าน ในแบบที่ไม่ได้หรูหรา แต่เป็นอาหารที่คุ้นเคย เฉพาะช่วงของเทศกาลปีใหม่ทั้งที ต้องปาร์ตี้กับร้านสุดพิเศษ เป็นช่วงที่เพื่อนฝูงพาครอบครัว รุ่นลูกรุ่นหลานกลับมาพบปะกัน ทุกคนรู้สึกคิดถึงอาหารที่เราเคยทานกันตั้งแต่เด็ก ก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆ และทานอาหารสไตล์อังกฤษแท้ๆ แบบดั้งเดิม เพื่อให้หายคิดถึงและเพื่อให้ลูกค้าทั่วไปได้มีดอกาสแวะเวียนมารู้จักกับอาหารรสชาติอังกฤษแท้กัน

Make with love รสชาติของอาหารเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่งด้วยความรู้สึกดี ทุกอย่างที่ออกมาทำด้วยใจ ทุกๆ จากที่อาเปาะทำนั้น ล้วนสื่อถึงความตั้งใจ อยากให้ลูกค้ามีความสุขกับอาหารทุกจาน อยากให้คนรุ่นต่อ
ไปได่้ทานอาหารที่ออกจากครัวของ The Cup ตลอดไป
Mimi Grachangnetara (ลูกค้าคนสำคัญร้าน The Cup )

The CUP ตั้งแต่ยุคแรกถือเป็นแหล่งนัดพบของเพื่อนฝูงที่จบมาด้วยกัน เหนียวแน่นกันมาก ด้วยความที่ร้านจะเหมือนกับเป็นบ้านเป็น Homy & Friendly ให้ความอบอุ่น ลูกค้าหลายคนมารู้จักกันจนกลายเป็นเพื่อน เรียกว่าทำให้สนิทสนมกันมากขึ้นที่นี่ก็ 3 เจนเนอเรชั่นแล้ว

การได้มาที่นี่ ก้าวแรกที่เข้ามาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของร้าน The Cup พร้อมรับแขกที่มาทานเหมือนทานที่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน ทุกที่นั่ง
จะถูกจัดวางด้วยจานและอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมรับประทาน

เดอะ คัพ แห่งนี้เปิดมานานเกือบสี่สิบปี เป็นที่รักของคนในสังคมที่ชื่นชอบอาหารอังกฤษดั้งเดิม ร้านอาหารในตำนานที่พร้อมรองรับนักชิมรุ่นใหม่และรุ่นเก่าให้แวะเวียนมาสัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นในสไตล์ Homey & Friendly อบอุ่นด้วยมิตรภาพเสมือนครอบครัวเดียวกัน
-Supintar Atthakor (ลูกค้าคนสำคัญร้าน The Cup )

Paprika Goulash
Roast pork with homemade apple sauce
French Onion Soup

ในส่วนของเมนูอาหาร ส่วนใหญ่เน้นเป็นอาหารจานเดียวว Main Course ขึ้นชื่อของที่นี่คือ ขาแกะอบ เป๊ปเปอร์สเต็ก สลัดอกเป็ด สลัดกุ้ง ตับเป็ดทอด และอื่นๆ อีกมากมาย Roast Pork เป็นอาหารพิเศษสำหรับวันจันทร์และวันพฤหัส ส่วนวันพุธจะเสริฟความอร่อยด้วย Roast Beef

Recommend
-สลัดกุ้งใหญ่ เมนูนี้ แม่ครัวที่มีความชำนิชำนาญ มีประสบการณ์ทำงานยาวนาน 40 ปี เรียกว่าตั้งแต่ร้านเปิดถึงปัจจุบัน แม่ครัวจะนำกุ้งใหญ่ที่ทำความสะอาดแล้วไปทอดในน้ำมันจนพอสุกวางบนใจ คือ เนื้อด้านในของอาติโช๊กที่ทอดนิดๆ ราดด้วยน้ำซอสส้ม ส่วนผักสลัดนั้น ราดด้วยบาลซามิ
ควินิเกรท ยกออกมาเสิร์ฟจะได้รสชาติหวานนิดๆ ซ่าๆ เพราะในน้ำสลัดมีผิวส้มผสมอยู่ด้วย

แม่ครัวจะนำกุ้งใหญ่ที่ทำความสะอาดแล้วไปทอดในน้ำมันจนพอสุกวางบนใจ คือ เนื้อด้านในของอาติโช๊กที่ทอดนิดๆ ราดด้วยน้ำซอสส้ม ส่วนผักสลัดนั้น ราดด้วยบาลซามิควินิเกรท ยกออกมาเสิร์ฟจะได้รสชาติหวานนิดๆ ซ่าๆ เพราะในน้ำสลัดมีผิวส้มผสมอยู่ด้วย

ส่วนเนื้อกุ้งไม่ต้องพูดถึง กุ้งทั้งหวานทั้งมัน เหนียวนุ่ม บวกกับซอสส้มที่ราดมา ใช้เวลาไม่นานหมดจานไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำสลัด เอ็กซ์คลูซีฟจาก คงความเป็นเอกลักษณ์และหรูหรา เพื่อมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้

สลัดกุ้งใหญ่ Warm King Prawn on Bed of Artichoke Heart with Orange Butter Sauce
“Paprika Goulash” สตูเนื้อวัวเนื้อนุ่มรสเข้มกำลังดี
Breaded Deep Fried Fillet of Fish with Tartare Sauce

40 ปี เรียกว่าตั้งแต่ร้านเปิดถึงปัจจุบัน เมนูที่ได้รับความนิยมต่างๆ เช่น

Breaded Deep Fried Fillet of Fish with Tartare Sauce
เมนูปลาเพื่อสุขภาพ เนื้อปลาสด หวาน กรอบนอกนุ่มใน กับทาร์ทาร์ซอส เปรี้ยวๆหวานๆมันๆ

Roast pork with homemade apple sauce
หมูอบเนื้อนุ่มนุ่ม จานนี้ต้องห้ามพลาด

Smoked Duck Breast Salad with Blackberry & Port Sauce

Rack Of Lamb กริลล์แบบกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมยั่วยวน ไม่มัน เลือกรับประทานได้กับซอสถึง 3 ชนิด คือ เกรวี่ มินต์ หรือ เยลลี่เรดเคอเร้น

Rack Of Lamb
Lamb Curry served Rice & Mango Chuyney


“น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม ติดตู้เย็นของแม่บ้านเซเลบ”
THE CUP Restaurant และ Tea Room แนะนำ “น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม เดอะคัพ ชวนชิมสลัดทำเอง น้ำสลัดอร่อยมาก สูตรอังกฤษแท้ กว่า 50 ปี ที่มาดามแอนด์ ครูสอนถาษาฝรั่งเศส มาสอนให้เฉพาะคุณเป๊าะ เจ้าของร้าน สมัยศึกษาอยู่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษจริงๆ ที่คุณเป๊าะนำมาปรับรสชาติอีกนิด ให้เข้ากับลิ้นของคนไทย วันนี้ลองชิมนะคะ รับประกันไม่ผิดหวังแน่นอน ปรับรสชาติเพื่อให้เข้ากับลิ้นของคนไทย

น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม ติดตู้เย็นของแม่บ้านเซเลบ

ปิดท้ายด้วยของหวาน เมนูยอดนิยมที่ใครมาต้องสั่ง ของหวาน บานอฟฟี่และบลูเบอรี่ชีทเค้ก กลมกล่อมกำลังดี เค้กอร่อยๆ หอมหวาน คุณภาพแน่น รสชาติถือว่าโอเค เป็นอีกหนึ่งร้านที่หากได้มาเยือนจะต้องว้าวไปกับการตกแต่งภายในร้านที่อลังการไม่เหมือนใคร ร้านน่ารัก เหมาะสำหรับการมานั่งชิล ทานอาหารจิบเครื่องดื่ม บรรยากาศ คือ ใช่ รสชาติอาหารเครื่องดื่มลงตัวทั้งสองอย่าง และพนักงานบริการดีน่ารัก

นั่งชิล ทานอาหารจิบเครื่องดื่ม บรรยากาศ คือ ใช่ รสชาติอาหารเครื่องดื่มลงตัวทั้งสองอย่าง และพนักงานบริการดีน่ารัก

Dessert :
American Cherries Pie Butterscotch cake เมนูนี้แนะนำ
Pecan Pie , Chocolate Spong Cake, American Cherry Pie, Fish Market Apple Pie Chocolate Fudge Cake, Assorted Cakes

ด้านหน้าร้าน มีโซนของขวัญปีใหม่ อร่อยๆ คุกกี้ และน้ำสลัด ต้นตำรับ สูตรชาวอังกฤษแท้ มีบริการที่ ร้านเดอะคัพ ทุกวัน รับประกันคุณภาพวัตถุดิบ และความอร่อย

นอกจากนี้ ยังชองฝากสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก The Cup ที่คงความเป็นเอกลักษณ์และหรูหรา เพื่อมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ มีเค้ก คุ๊กกี้ แฮนด์เมด บรรจุแพคเกจน่าทานจำหน่าย
Christmas Cake
น้ำสลัด
House Dressing
Balsamic Dressing
Cookies – Chocolate Chips
Cornflakes
Oatmeal Cookies

ในเทศกาลแห่งความสุข Thanksgiving ที่กำลังจะมาถึงและ วันคริสตมาสต์ ทางร้านจัดเมนูเซ็ตพิเศษ 3 วัน ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม ศกนี้ ซึ่งเป็นเมนูที่หาทานยาก คริสมาสต์ เดย์ คริสมาสต์อีฟ และบอกซิ่งเดย์ (Boxing Day) หรือวันเปิดกล่องของขวัญ ปีนี้ The Cup เตรียมของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสต์ พลาดไม่ได้กับความอร่อยรสชาติสุดพิเศษ คริสต์มาสต์ พุดดิ้ง นำเข้าจากอังกฤษ

The Cup ชั้น 3 อาคารเลครัชดา
193/21-22 ชั้น 3 อาคารเลครัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย
เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
ตรงข้ามสวนสาธารณะ เบญจกิตติ ถนนรัชดาภิเษก
เปิดบริการเวลา 10.30 – 18.00 น. ทุกวันเว้นวันอาทิตย์

พิเศษในเดือนธันวาคม
เปิดบริการทุกวัน โทร. 02 264 – 0247-50
Facebook : TheCup 1980
โทร. 02264-0247-50, 09-4315-4397

#TheCupLakeRatchada
#TheCup #TheCupLakeratchada #เดอะคัพ #เดอะคัพเลครัชดา #Tearoom #Cake #Bakery #Coffee #yummy

1 ปี 1 ครั้ง…งานฮาลาลที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่กว่าใครในประเทศไทย !!

“Thailand Halal Assembly 2019”
งานประชุมวิชาการและงานแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ ปีที่ 6

ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย จัดงาน “Thailand Halal Assembly 2019” การประชุมวิชาการและการแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ ปีที่ 6 ภายใต้แนวคิด Algorithmic Touch of Halal เป็นกระบวนการสร้างรูปแบบการพัฒนาฮาลาลอย่างเป็นระบบรอบครอบที่จะนำไปสู่การสร้าง halal blockchain และการจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ระหว่างวันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานจัดงาน Thailand Halal Assembly 2019 กล่าวว่า ในเวลานี้ กลับมาอีกครั้งกับงานฮาลาลที่กล่าวได้ว่าดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับ การประชุมวิชาการและการแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ “Thailand Halal Assembly” หรือ THA ซึ่งจัดโดย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย โดยปีนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สำหรับงาน “Thailand Halal Assembly 2019” การประชุมวิชาการและการแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ ระหว่างวันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Algorithmic Touch of Halal เป็นกระบวนการสร้างรูปแบบการพัฒนาฮาลาลอย่างเป็นระบบรอบครอบที่จะนำไปสู่การสร้าง Halal Blockchain และการจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ

การจัดงาน THA มาตลอด 6 ปี ทำให้เราตระหนังถึงการขาดแคลนการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ ซึ่งคอนเซปต์แนวคิดของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อบ่งบอกให้ประชาคมโลกให้ได้รับรู้ว่าการดำเนินการธุรกิจ สร้างฐานทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็งนั้นต้องการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ คิดไตร่ตรองอย่างรอบครอบ ซึ่งประเทศไทยจะถือว่าเป็นประเทศที่นำเสนอ Halal Blockchain ประเทศแรกของโลก และจะเป็นต้นแบบให้กับการประเทศอื่นๆ ทั้งประเทศที่เป็นมุสลิม และไม่ใช่มุสลิม เฉกเช่นที่เราเคยเป็นต้นแบบด้าน “ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ” จนทั่วโลกให้การยอมรับมาแล้ว


ซึ่งภายในงาน Thailand Halal Assembly 2019 ครั้งนี้ ประกอบไปด้วย งานประชุมวิชาการนานาชาติ HASIB (Halal Science, Industry and Business) ครั้งที่ 12, งานประชุมวิชาการนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาล (International Halal Science and Technology Conference, IHSATEC) ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในปัจจุบันก็ว่าได้ รวมถึง กิจกรรมจับคู่ธุรกิจภิวัฒน์, การสร้างเครือข่ายการรับรองฮาลาล ประเทศไทย การประชุมประชาพิจารณ์มาตรฐานฮาลาล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและแสดงถึงศักยภาพฮาลาลไทยให้ผู้ร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นในระบบและกระบวนการดำเนินงาน อันเป็นผลให้ผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลของไทยเป็นที่เชื่อถือในระดับนานาชาติ และ Thailand International Halal Expo 2019 หรือ THIHEX 2019 ที่เป็นงานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 350 บูท หลากหลายประเภทสินค้า ที่ปีนี้มีไฮไลท์พิเศษๆ มากมาย ทั้งบูทผู้ประกอบการใหญ่ อย่างเช่น Central และ CP ที่จะยกร้าน 7-11 รวบรวมสินค้า Halal มาให้ช้อปกันอย่างสนุกสนาน และพิเศษสุดที่จะรวมรวมทั้งวัฒนธรรม, อาหาร, สินค้าหายากขึ้นชื่อจาก มัสยิดดังทั้ง 5 มัสยิด และสำหรับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถสอบถามข้อมูล
-รศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ 02-218-1053 และ www.Thailandhalalassembly.com
Facebook : Thailand Halal Assembly

ททท.ร่วมกับ ปณท สมาคมขัวศิลปะเชียงราย นำร่อง “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า โครงการตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชนด้วย QR Code “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ดังกล่าว สามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมาสู่จังหวัดเชียงรายได้ และตู้ไปรษณีย์เหล่านี้ถือเป็นผลงานศิลปะระดับ Master Piece ของจังหวัดเชียงราย เนื่องจากแต่ละตู้เป็นชิ้นงานที่รังสรรค์จากศิลปินเชียงราย และยังสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย อีกทั้งเป็นตู้ไปรษณีย์แห่งเดียวของประเทศไทยที่วาดภาพศิลปะลงบนตู้ไปรษณีย์

ทั้งนี้ ททท. สำนักงานเชียงราย ยังมีแผนดำเนินการประชาสัมพันธ์ตู้ไปรษณีย์และทำการตลาดส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวชมตู้ไปรษณีย์ “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ตามสถานที่ตั้งต่างๆ และให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกโดยการเช็คอินถ่ายภาพคู่กับตู้ไปรษณีย์ 5 ตู้ ต่างสถานที่กัน และต้องเป็นตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ต่างอำเภอกันอย่างน้อย 2 อำเภอ และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย แล้วรับรางวัลจาก ททท. สำนักงานเชียงราย และ ปณท ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563

         

สำหรับตู้ไปรษณีย์ดังกล่าวหลังจากการจัดนิทรรศการนี้จบลง ทาง ปณท จะได้นำไปติดตั้งตามสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญทั่วจังหวัดเชียงราย เพื่อใช้งานจริง ได้แก่

  1. วัดร่องขุ่น
  2. สิงห์ปาร์คเชียงราย
  3. หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ (หอนาฬิกาพุทธศิลป์)
  4. ตลาดไนท์บาร์ซ่า
  5. อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
  6. สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ
  7. พระตำหนักดอยตุง
  8. สามเหลี่ยมทองคำ
  9. จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย (วัดพระธาตุดอยเวา)
  10. วัดห้วยปลากั้ง
  11. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  12. ไร่ชาฉุยฟง
  13. ตลาดเชียงของ (ชายแดนไทย-สปป.ลาว)
  14. วัดแสงแก้วโพธิญาณ
  15. ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน

สอบถาม ติดต่อได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงราย
โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5
ปณท เชียงราย โทร. 0 5371 1616 ต่อ 11

58 ปี ก้าวใหม่สวนสามพราน

สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ สวนสามพราน เปิดบ้าน เล่าเส้นทางการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมเปิดโซนกิจกรรม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

สวนสามพราน   จัดกิจกรรม Open House  “58 ปี  ก้าวใหม่สวนสามพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง”  ชวนลูกค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยว  Tour Agents  ภาคีขับเคลื่อนธุรกิจและสังคม   และสื่อมวลชน มาเยี่ยมชมสถานที่ สัมผัสเส้นทางการเรียนรู้ และความเปลี่ยนแปลงใหม่ ในสวนสามพราน ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  

สวนสามพรานก่อตั้งในปี พ.ศ. 2505  โดยเป็นแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้ใกล้กรุงเทพฯ ที่ถ่ายทอดวิถีความเป็นไทย ผ่านกิจกรรมในหมู่บ้านไทยและโรงละคร  ที่นี่จึงได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ อยู่เสมอ ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทย รวมถึงกลุ่มครอบครัว  นิยมเดินทางมาสวนสามพรานเพื่อพักผ่อน สัมผัสความเป็นธรรมชาติ และเรียนรู้วิถีประเพณีวัฒนธรรม การละเล่น ศิลปะหัตถกรรมไทย และขนมไทย อย่างไรก็ตามหลังจากที่สวนสามพรานได้เป็นผู้นำร่วมขับเคลื่อนระบบอาหารยั่งยืนภายใต้สามพรานโมเดล(โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม)  เชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554   ได้นำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสวนสามพราน  โดยในปี 2561-2562   สวนสามพรานตัดสินใจปิดหมู่บ้านไทย  พร้อมปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในใหม่ทั้งหมด โดยใช้สามพรานโมเดล เป็นโมเดลหลักในการขับเคลื่อนแบรนด์สวนสามพราน  ให้เป็นแบรนด์ ที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน ภายใต้วิสัยทัศน์สร้างระบบอาหารยั่งยืน สู่เป้าหมายการมีชีวิตที่สมดุล

สำหรับการเปิดบ้าน Open House “58 ปี ก้าวใหม่สวนสาพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง   ทีมผู้บริหารสวนสามพราน นำโดย คุณสุชาดา ยุวบูรณ์ ประธานบริหาร  คุณอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ  คุณอรรจน์ ยุวบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ  และคุณอนัฆ นวราช ผู้จัดการทั่วไป ได้นำชมพื้นที่สวนสามพราน  ซึ่งมีจุดเด่นคือความเป็นธรรมชาติ  อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่  มีความครบวงจร ที่พัก ห้องประชุม ร้านอาหาร ลานกิจกรรม และมุมสวนธรรมชาติ  ที่สามารถ ปรับ จัด ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  เทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  การท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก รวมถึงกิจกรรม Team Building  การประชุมสัมมนาที่ต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลาย  ขณะที่กิจกรรมการท่องเที่ยว และการเรียนรู้ภายในสวนสามพราน นั้นเอื้อต่อการคิดนอกกรอบ  โดยทุกจุดสามารถจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลาย และมี Work Shop ให้ทดลองทำ  ที่พร้อมให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีคุณค่า รวมถึงยังสามารถเชื่อมโยงไปเยี่ยมบ้านฟาร์มเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายด้วยความโดดเด่นและแตกต่างของสวนสามพราน อันเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล เชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารอินทรีย์   ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง นั่นคือเมนูอาหาร ในห้องอาหารทั้ง 3 แห่งของสวนสามพราน  คือ อินจัน แวนด้า และห้องอาหารริมน้ำ  รวมถึงในส่วนการจัดเลี้ยง  ที่จะมีการใช้วัตถุดิบอินทรีย์ มากกว่า 70%   หรือประมาณ 15 ตันต่อเดือน  ในการทำอาหารและขนม โดยวัตถุดิบอินทรีย์ จะถูกส่งตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายสามพรานโมเดล

นอกจากดีต่อสุขภาพทุกคนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ให้ยั่งยืน  ซึ่งในแต่ละจุดของห้องอาหาร และจัดเลี้ยง จะมีภาพและชื่อเกษตรกรอินทรีย์ที่ทำงานร่วมกับสวนสามพรานพร้อมบอกผลผลิตที่ผลิตด้วย  โดยปัจจุบันมเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลจำนวน 16 กลุ่ม จำนวน 180 ครอบครัว  ในจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์

นายอรุษ นวราช  เล่าว่า  นอกจากมาท่องเที่ยว พักผ่อนแล้ว ทุกคนที่เข้ามาสวนสามพราน  จะได้แรงบันดาลใจ จากความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อาหารทั้งระบบ จากการทำงานขับเคลื่อนสามพรานโมเดลของสวนสามพรานร่วมกับเกษตรกรและภาคส่วนต่างๆ   ตั้งแต่การเพาะปลูก การผลิตปัจจัยการผลิต การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การตลาด การพัฒนาต่อยอด และบอกเล่า  โดยพื้นที่หลายส่วนมีการบริหารจัดการ ภายใต้แบรนด์ Patom  อาทิ Patom Organic Farm, Patom Organic Village, Patom Organic Café, Patom Spa,  Patom  Shop   รวมถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์ Patom    ซึ่งนำวัตถุดิบอินทรีย์จากเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล และปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม มาแปรรูปเป็นของกินของใช้ และ Body Care Products  มาตรฐาน GMP ภายใต้แนวคิด Organic Living ด้วย    โดยในด้านความรู้  ยังมีการก่อตั้งสามพรานโมเดล อะคาเดมี่  โดยมีพื้นที่สำนักงานติดกับตลาดสุขใจ  เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ประกอบการ องค์กรที่อยากจะนำ สามพรานโมเดลไปขยายผล ไปขับเคลื่อนในพื้นที่ของตนเอง”

ในวันเปิดบ้าน “58 ปี  ก้าวใหม่สวนสามพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง”    นอกจากมีการเปิดตัวภาพยนตร์สารคดี เรื่อง Change ที่พนักงาน และ เกษตรกรอินทรีย์  เป็นผู้เล่าเรื่องการเรียนรู้ การปรับตัว กับการเปลี่ยนแปลง และคุณค่าที่เกิดขึ้นกับตนเอง ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมแล้ว  ยังมีการเปิดพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเยือนได้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลง ด้วย  เริ่มจากหมู่บ้านปฐม   ที่ปรับเปลี่ยนศูนย์แสดงวัฒนธรรมไทย (หมู่บ้านไทย) มาเป็น “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ”  หมู่บ้านแปรรูปสินค้าอินทรีย์ ตามวิถีชีวิตแบบไทย ที่ยึดหลักปัจจัย 4 ผ่านการทำกิจกรรมตามเส้นทางวัตถุดิบ สร้างประสบการณ์    โดยมีกิจกรรมให้เลือกทำ เพื่อเรียนรู้ระบบอาหาร ตั้งแต่การผลิต  การทำปัจจัยการผลิต การแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่าย   โดยมี 3 เส้นทาง ให้เลือกเรียนรู้ คือเส้นทางข้าวอินทรีย์ เส้นทางกล้วยอินทรีย์   และเส้นทางสมุนไพรอินทรีย์

ปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม   ที่ได้มีพัฒนาสวนผลไม้เก่า 30 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน เป็นออร์แกนิกฟาร์ม  เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวฟาร์มที่อิงกับวัตถุดิบตามฤดูกาล  ให้เป็นที่พักผ่อนแนวธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองกิจกรรม เพื่อทำ Workshop การทำเกษตรอินทรีย์เบื้องต้น รวมถึงมาทำอาหาร   และได้สัมผัสกับรสชาติอาหารจากพืชผักธรรมชาติ สด สะอาดปลอดภัย แตกต่างจากพืชผักที่ขายในตลาดทั่วไปด้วยตนเอง  ทั้งนี้ในวันเปิดบ้านสวนสามพราน ได้มีการพานั่งเรือข้ามไปฝั่งฟาร์ม พร้อมให้ทุกคนสัมผัสแปลงอินทรีย์ ที่มีการปลูกพืชหลากหลาย    และชิม ชาสมุนไพร ออร์แกนิก  และสัมผัสประสบการณ์การเล่น สไลเดอร์โคลน  ด้วย

ตลาดสุขใจ   ภายในสวนสามพราน ทุกคนที่มาเยือนยังจะได้เรียนรู้ โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม หรือสามพรานโมเดล  นั่นคือ ตลาดสุขใจ  ที่เปิดมา 9 ปี แล้ว  ทำให้เกษตรกรอินทรีย์ กว่า 180 ครอบครัว และชุมชนรอบสวนสามพราน มีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตอินทรีย์  ได้รู้จัก เข้าใจผู้บริโภค  ขณะที่ผู้บริโภค ก็ได้เข้าถึงแหล่งอาหารอินทรีย์ด้วย 

Circular Economy  ในวันเปิดบ้าน  สวนสามพรานยังแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยนอกจากมีการพัฒนาพื้นที่ให้ปราศจากยาฆ่าแมลงและสารเคมีใดๆ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ IFOAMมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555  ภายในพื้นที่สวนสามพราน
ยังมีการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ   

ตามนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy   มีการจัดการขยะจากอาหาร (Food Waste Management)  โดยขยะจากในห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ส่วนกิจกรรม จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ทำชีวภัณฑ์ในการดูแลต้นไม้ในพื้นที่ ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ทำไบโอแก๊สใช้ในกิจกรรมย้อมผ้า ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งผู้ที่เข้ามาสวนสามพรานสามารถมาเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จากฐานสาธิต และสถานีทดลองการทำปุ๋ยหมักในหมู่บ้านปฐม   ที่มีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ พร้อมสอนทำ และแนะนำรูปแบบ  ให้นำกลับไปทำที่บ้านได้ 

ตลอด 58 ปี สวนสามพรานได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลบริหารธุรกิจ Hall of Fame ประเภทแหล่งท่องเที่ยวแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้มาอย่างต่อเนื่อง  โดยสวนสามพรานยังเปิดให้มีการศึกษาดูงานทั้งด้านการบริหารจัดการขยะ Zero Waste การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน องค์กรแห่งการเรียนรู้  การขับเคลื่อนสามพรานโมเดล หรือ โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม  สวนสามพราน บนพื้นที่ 130 ไร่  ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ยังคงแน่วแน่ และมีความตั้งใจที่จะให้ทุกพื้นที่ ทุกกิจกรรม ได้ทำหน้าที่จุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน สู่เป้าหมายการมีชีวิตที่สมดุล ครอบคลุมทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ   ผู้สนใจมาท่องเที่ยว มาพักผ่อน และมาค้นหาแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ สำหรับตนเอง ทีมงาน หรือครอบครัว

สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสวนสามพรานมาได้ที่
โทร.034-322-588-93  หรือเว็บไซต์ www.suansampran.com

Villa Market “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”

…….พาไปทัวร์ แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก
“วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”บ้านหลังที่ 2 ของคนเมือง มีอะไรกินบ้าง? ไปชมกัน

วันนี้ Toptotravel พาไปทัวร์ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก ของใหม่ที่ใครๆ ก็ต้องลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”แหล่งรวมของอร่อย ของดีจากทั่วโลกเปิดให้บริการแล้วสำหรับบ้านหลังใหม่ ของ วิลล่า มาร์เก็ท กับ สาขาหลังสวน ซึ่งการกลับมาของวิลล่าฯ หลังสวน ในครั้งนี้ทำเอาเหล่านักช็อปหัวใจพองโตกันพอดูเพราะจัดเต็มทั้งบรรยากาศที่ดูอบอุ่น หรูหรา แบ่งโซนเป็นสัดส่วน เดินง่าย และมีสินค้าอิมพอร์ตจากทั่วโลกมาให้ช็อปกันเพลินการเดินทางมาก็ง่ายแสนง่าย เพราะทำเล วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน

ตั้งอยู่ซอย 2 ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน เรียกได้ว่า สะดวกสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองที่ต้องขับรถมาทำงานและอยากจะแวะช็อปปิ้งก่อนกลับบ้านในส่วนของบรรยากาศ วิลล่า มาร์เก็ท สาขา หลังสวนตกแต่งอย่างอบอุ่นให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในครัวที่มีของให้เลือกหยิบมาทำเมนูแสนอร่อยอย่างไม่รู้จบและยังมีโซนที่เปิดโอกาสให้ได้ลิ้มลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ

โดยแบ่งออกเป็น 6 โซน สนองนีสไลฟ์สไตล์ ของทุกเจเนอเรชั่น แค่เดินลงมายังชั้น B1 ก็จะพบกับ โซน V Space
(วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus) โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถมานั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่ม นั่งพักชิลๆ

V Space (วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus)

เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่าจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯ คนรักสุขภาพ ชอบทานผัก ผลไม้ ต้องถูกใจ Fruit & Vegetables Zone (ฟรุต แอนด์ เวทเทอะเบิ้ล โซน) เพราะที่สาขานี้มีการจัดวางเรียงผัก ผลไม้ ได้อย่างล่อใจ โดยเฉพาะ ผักผลไม้ Organicนานาชนิดจากทั่วโลก เรียกว่า หากต้องการทาน องุ่นก็มีหลายหลายชนิดให้เลือกสรร ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

สายเนื้อต้องร้อง OMG! ให้กับ Butcher & Seafood Zone
(บุชเชอร์ แอนด์ ซีฟู้ด โซน) โซนนี้ถือว่าเด็ดเพราะรวบรวมเนื้อคุณภาพดีจากทั่วโลก อย่าง ออสเตรเลีย, อเมริกา,อาร์เจนติน่า และ ญี่ปุ่น ส่วนพระเอกของโซนนี้ยกให้ Tomahawk เนื้อโทมาฮอว์ก จาก ออสเตรเลีย, Ribeye เนื้อริบอาย, Tenderloin เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ มีให้เลือกมากมาย
เป็นสวรรค์ของคนรักสเต็กก็ว่าได้ และยังเก๋ด้วยป้ายราคาดิจิตอล ซึ่งจะอัพเดทราคาสินค้า ล้ำนำเทรนด์ไปอีก

อาหารทะเล ของสด และปลาน้ำจืด โซนอาหารทะเลสดๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งกุ้งแม่น้ำ ปลาทะเล ปลาหมึก ส่วนพาร์ทอาหารทะเลก็ไม่ธรรมดาละลานตาไปด้วย ปลาสดๆ หลากหลายชนิด โดยมีการใช้เทคโนโลยีเครื่องพ่นไอน้ำจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยรักษาความสดใหม่และฆ่าเชื้อโรค

“V” Make a new home โซนนี้สำหรับคนชอบดริ้ง Wine Cellar Zone (ไวน์ เซลเลอร์ โซน) โซนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พิเศษมากสาขานี้มี Wine Cellar รวมไวน์จากทั่วโลกมาไว้ในห้องนี้ ถ้ามีคำถามห้องนี้มี Wine Specialist คอยดูแลแนะนำ พิเศษสุดสำหรับสมาชิก V Plus Member ใช้ Vplus Point เพื่อลองชิมไวน์ แหล่งรวมไวน์หลากหลายชนิดจากทั่วโลก

โซนนี้นอกจากตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของสินค้าแล้วยังเก๋เลิศกับบริการให้ท่านได้ลิ้มลองรสสัมผัสไวน์ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์คอยให้คำแนะนำใครที่อยากได้เครื่องดื่มจิบคู่กับอาหารมื้อพิเศษ อยากแนะนำให้ลองมาที่ โซน Wine Cellar Zone ของ วิลล่าฯ หลังสวนรับรองได้ไวน์รสเลิศถูกใจกลับบ้านแน่นอน

Activity Zone (แอคทีวิตี้ โซน) โซนสาธิตวิธีปรุงอาหารสด และReady to Eat Zone (เรดดี้ ทู อีท โซน) เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่านจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯได้ผ่อนคลายกับช่วงเวลาแห่งความสุขบ้าง ซึ่ง Activity Zoneให้บริการปรุงอาหารสดพร้อมทานซึ่งหากต้องการทานสเต็กดีดีสักมื้อก็สามารถเดินไปเลือกเนื้อดีดีสักชิ้นในโซน Butcher & Seafood Zone
มาให้ทางเชฟปรุงได้เลย

ส่วนใครที่ชอบความรวดเร็วก็แวะ Ready to Eat Zone หาของอร่อยทานจะมื้อเช้า สาย เที่ยง เย็น ก็มีบริการ ทั้งเมนูอาหารญี่ปุ่น Omakase Set ในราคาย่อมเยาว์ อยากลิ้มลองอาหารซูชิสุดหรูแบบเชฟจัดให้ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม และอาหารสไตล์เวสเทิร์นทำคอร์สออกมาได้น่าสนใจและท้าทายมาก

ปิดท้าย การพาทัวร์บ้านหลังใหม่วิลล่าฯ สาขา หลังสวน
ด้วยความเก๋เริ่ดกับ บริการ Eat & Shop (อีท แอนด์ ช็อป) หรือบริการเลือกซื้อสิ้นค้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งสามารถเลือกช็อปปิ้งแบบไม่ต้องเดินให้เมื่อย เพียงแค่นั่งรอในโซน V Space หรือ กำลังนั่งทานอาหารใน Ready to Eat Zone แล้วอยากช็อปแต่ไม่มีเวลามากพอก็สามารถใช้บริการนี้ได้
สะดวกสบายสุดๆ ไปเลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เส้นทางถนนเพลินจิต จากนั้นเลี้ยวเข้าไปที่ถนนหลังสวน (*เดินรถเพียงทางเดียว) จาก ถ.เพลินจิต เข้าสู่ถนนหลังสวนประมาณ 700 เมตร Villa Market LangSuan จะอยู่ทางซ้ายมือ

ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับ BTS สายสีลม สามารถลงที่สถานีราชดำริ และ BTS สถานีชิดลมสำหรับสายสุขุมวิท นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการ MRT โดยใช้สถานีสีลม

อยากให้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “V” Make a new home
ได้แล้ววันนี้ที่ ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/villamarketofficial/