All posts by Shanya

มหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยว ของดี 19 จังหวัดภาคกลาง

โค้งสุดท้าย…มหกรรมสินค้า และ บริการ
ท่องเที่ยวฯ โรดโชว์สุพรรณบุรี ขนของดีภาคกลางจำหน่าย เน้นคุณภาพ

มหกรรมสินค้าและ บริการท่องเที่ยว ของดี 19 จังหวัดภาคกลาง  ยกทัพของดีภาคกลางโรดโชว์ที่สุพรรณบุรี เน้นสินค้าดี มีคุณภาพ และราคาถูก เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง พร้อมนำศิลปะพื้นบ้าน ศิลปินชื่อดัง เข้าร่วมโชว์ในงานสุดตระการตา ระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม 2561 ณ ลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์สุพรรณบุรี นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เผยว่า


ในกิจกรรมย่อยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว Road Show/Table top Sale นั้น เป็นการนำผู้ประกอบการจำนวน 100 ราย ซึ่งมาจากจังหวัดสุพรรณบุรีและอีก 18 จังหวัดภาคกลาง ไปจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ใน 5 จุดดำเนินการ ครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศ ได้แก่ พิษณุโลก นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี และสุพรรณบุรี

การจัดงานดังกล่าว ได้ดำเนินการมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง ภายใต้สโลแกน “สินค้าดี ที่เที่ยวเด่น อาหารอร่อย” นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่สนใจเข้าร่วมชมงานและเลือกซื้อสินค้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ ของที่ระลึก เครื่องแต่งกาย ทำให้ยอดจำหน่ายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นยอดจำหน่ายหน้างาน ยอดสั่งซื้อ ของผู้ประกอบการแต่ละรายในแต่ละจุดดำเนินการเป็นที่น่าพอใจผู้ประกอบการสามารถกระจายสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ได้อย่างทั่วถึง ที่สำคัญนักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ได้รู้จักของดี สินค้าเด่น และมีคุณภาพในจังหวัดสุพรรณบุรีและกลุ่มจังหวัดภาคกลาง อันจะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวภายในกลุ่มจังหวัดภาคกลางเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย สำหรับการจัดงาน มหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยวของดี 19 จังหวัดภาคกลาง ในครั้งนี้ ได้จัดขึ้น เป็นจุดดำเนินการที่ 5 ณ ลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์สุพรรณบุรี

การจัดงานครั้งนี้ได้เน้นการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าดี ราคาย่อมเยา โดยได้มีการจัดโปรโมชั่นสินค้าราคาลดพิเศษ ไข่ไก่ฟองละ 1 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 10 บาท เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสเลือกซื้อ สินค้าคุณภาพดีของภาคกลาง

ผู้ว่าราชการจังวัดสุพรรณบุรี เผยอีกว่า นอกจากการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่มจังหวัดภาคกลางแล้ว ภายในงานยังเต็มไปด้วยกลิ่นไอและบรรยายกาศของการเที่ยวในรูปแบบนิทรรศการ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวสถานที่ท่องเที่ยว เทศกาล และประเพณีที่สำคัญของสุพรรณบุรี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี

ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้า หรือนาทีทอง ให้ผู้เข้าชมงานได้มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลของแจก และซื้อสินค้าในราคาลดพิเศษ และยังมีกิจกรรมการแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดสุพรรณบุรีและกลุ่มจังหวัดภาคกลาง พร้อมชม การแสดงจากศิลปินชื่อดังของเมืองไทยที่จะมาสร้างความครื้นเครงสนุกสนานภายในงานอีกด้วย

ขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง มาเที่ยวชมงานมหกรรมสินค้าและ บริการท่องเที่ยวของดี 19 จังหวัดภาคกลาง  มาชม ชิม ช้อป ของดีจังหวัดสุพรรณบุรีและกลุ่มจังหวัดภาคกลาง  ระหว่าง  วันที่ 23-25 มีนาคม นี้  ณ ลานด้านหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์สุพรรณบุรี  งานนี้ชมฟรีตลอดงาน

แมริออทเอ็กเซ็คคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์สาทร วิสต้า ครบรอบ 9 ปี

เฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 9 ปี

งานเลี้ยงสุดเอ็กคลูซีฟในบรรยากาศสนุกสนาน เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 9 ปีแห่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ โดยมีแขกผู้มีเกียรติ พันธมิตร ทางธุรกิจ และสื่อมวลชนคนสำคัญของเราเข้าร่วมงาน สำหรับความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของโรงแรมฯ โอกาสดีๆ แบบนี้ ในการแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจแก่แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้าคนสำคัญที่ให้ความไว้วางใจและความผูกผันที่เรามีให้แก่กันมาตลอดเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสต่อยอดมิตรภาพอันแน่นแฟ้นนี้และสร้างความสำเร็จร่วมกันต่อไปในภายภาคหน้า



ตลอด 9 ปี แมริออท เอ็กเซ็คคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า ได้รับการออกแบบให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสทุกความสะดวกสบายของคำว่า “บ้าน” อย่างแท้จริง เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ระดับห้าดาวภายใต้แบรนด์แมริออทให้บริการห้องพักรายวันและรายเดือน มีห้องพัก 186 ห้องบนอาคารสูง 32 ชั้น ทั้งหมดเป็นห้องสวีทตั้งแต่หนึ่งถึงสามห้องนอน กว้างขวางและครบครันด้วยเฟอร์นิเจอร์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ชุดครัวและเครื่องครัว ห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็นสัดส่วนพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารนานาชาติ โมโม่ คาเฟ่ สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนาดใหญ่ และฟิตเนสที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจบนถนนสาทรใกล้สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงและช่องนนทรี ท่ามกลางแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงของมหานครกรุงเทพฯ

สำหรับค่ำคืนแห่งความพิเศษฉลองครบรอบ 9 ปี ท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนเอ็กซ์คลูซีพ มร. อเล็กซานเดอร์ โชว์, ผู้จัดการทั่วไป แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า นำทีมผู้บริหารและเพื่อนพนักงานให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเลี้ยงริมสระน้ำในช่วงเย็น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานต่างเพลิดเพลินไปกับการลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ทางห้องอาหาร MoMo Cafe ของโรงแรมฯ รังสรรค์มาเป็นพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ อีกทั้งยังได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการแสดง street dance จากทีมนักเต้นมากความสามารถและวงดนตรีสดที่ขนเอาเพลงฮิตจากยุค 90’s มาขับกล่อมสร้างสีสันให้ได้สนุกสนานมอบความสุขตลอดค่ำคืนแห่งการฉลองครั้งใหญ่นี้

มร. อเล็กซานเดอร์ โชว์, ผู้จัดการทั่วไป แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า

ความเพลิดเพลินยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มร. อเล็กซานเดอร์ โชว์, ผู้จัดการทั่วไป แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า แสดงความขอบคุณไปยังเพื่อนพนักงานของเราทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างดีเยี่ยม เพื่อสร้างความมั่นใจและความประทับใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ขอขอบคุณพวกเราทุกคนที่ช่วยเป็นกำลังเสริมความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้แก่องค์กรตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีที่ผ่านมา” มร. อเล็กซานเดอร์ โชว์, ผู้จัดการทั่วไป แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า -กล่าว

แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ระดับห้าดาวใจกลางย่านธุรกิจอย่างสาทร ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มนักเดินทางและนักธุรกิจที่กำลังมองหาที่พักอาศัยที่สะดวกสบายและมีระดับ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับระดับโรงแรม 5 ดาวมาตรฐานแบรนด์ระดับโลกอย่างแมริออท

ในปีที่ผ่านมา แมริออท เอ็กเซ็กคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้าได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของโรงแรมในฐานะเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ชั้นนำที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ อาทิ ประกาศนียบัตรแห่งความเป็นเลิศจากเว็บไซด์ TripAdvisor ประจำปี 2560, รางวัลชนะเลิศ Guest Review Award ประจำปี 2560 จากเว็บไซด์จองห้องพักออนไลน์บุคกิ้งดอทคอม รวมถึงรางวัลเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ระดับหรูหราประจำปี 2560 จากทางลักซูรี่ ทราเวล ไกด์ เป็นต้น

ติดตามข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ ของทางโรงแรม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-343-6789
www.facebook.com/marriottsathornvista

World Day for Water ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม ของทุกปี

World Day for Water หรือ วันอนุรักษ์น้ำโลก

วันอนุรักษ์น้ำโลก ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของมวลมนุษยชาติ เพราะมนุษย์เราต้องใช้ทรัพยากรนี้ในการดำรงชีวิตเพื่อตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ ต้นไม้และป่าเป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำ เมื่อต้นไม้ถูกตัดแล้วก็จะไม่มีแหล่งดูดซึมน้ำฝนและก่อให้เกิดสภาวะแห้งแล้งตามมา ฉะนั้นเราทุก
คนจึงควรช่วยกันอนุรักษ์ป่าเพื่อรักษาต้นน้ำแหล่งธรรมชาติของเราไว้

ประหยัดน้ำ เริ่มทำได้ง่ายๆ เริ่มจากที่บ้าน
การอาบน้ำแค่ 3-4นาทีเท่ากับการใช้น้ำไป 50–150 ลิตร ซึ่งถ้าอาบนานกว่านี้ปริมาณของน้ำที่ต้องใช้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เราควรอาบน้ำให้เร็วขึ้นอีกนิด ใช้เวลาให้น้อยลงจะเปิดน้ำทิ้งไปทำไม ในระหว่างที่สระผมหรือถูสบู่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงควรปิดน้ำให้สนิทแล้วค่อยเปิดน้ำอีกครั้งหลังจากชำระร่างกายด้วยสบู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว


บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ นำโดย นางสาวอรอนงค์ สว่างไพบูลย์ (ที่ 3 จากซ้าย) รองผู้อำนวยการ จัดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค นางสาวสุรีย์ ชูรัฐเจริญ  เป็น (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร นายนรบดี เรืองศรี (ซ้ายสุด) ผู้จัดการสาขารัชดา จับมือ นายชัยณรงค์ ตรงนามสุขกิจ (ที่ 4 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายขาย หน่วยธุรกิจน้ำดื่มเนสท์เล่ นางสาววรรัตน์ รัฐวณิช (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดร้านค้า และ นางสาวกิดารัตน์ ปุณวัตร์ (ขวาสุด) ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด

 

จัดกิจกรรม “วันอนุรักษ์น้ำโลก ปีที่ 2” เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของน้ำ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องการอนุรักษ์น้ำ และการพัฒนาแหล่งน้ำ และมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนเครือข่ายอนุรักษ์น้ำ ภายใต้โครงการเยาชนพิทักษ์สายน้ำ

โดยภายในงานมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับวันอนุรักษ์น้ำโลก และความสำคัญของน้ำ ณ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า รัชดาภิเษก วันก่อน

​ พิเศษ! เมื่อซื้อน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ขนาด 600 มล แพ็ค 12 ขวด หรือ 1500มล แพ็ค 6 ขวด สองแพคราคาเพียง 94 จาก 124 บาท เนสท์เล่บัดดี้ ขนาด 330 มล.ราคา 99 บาท และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าบิ๊กซี เมื่อซื้อน้ำดื่มยี่ห้อใดก็ได้ครบ 299 บาท รับส่วนคูปองลดทันที 30 บาท วันนี้ ถึง 28 มีนาคมนี้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ www.BigC.co.th
โทร.1756

ไปลองเถิด แล้วจะติดใจ!

MoMo Cafe
ในโรงแรม Marriott Sathorn Vista 

Totptotravel มีโอกาสได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำที่ MOMO CAFÉ – MARRIOTT EXECUTIVE APARTMENTS SATHORN VISTA  โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ถนนสาทรใกล้ สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงและช่องนนทรีท่ามกลางแหล่งช้อปปิ้งในซอยสวนพลู ซึ่งเป็นย่านที่มีประวัติอันยาวนานแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เสน่ห์ของที่นี่เต็มไปด้วยความร่มรื่นเงียบสงบ แม้จะอยู่ใจกลางย่านธุรกิจอย่างสาทร ร้านอยู่ชั้น1 ฝั่งตรงข้าม Lobby ภายในห้องอาหาร โล่งโปร่งสบาย ด้วยกระจก รอบด้านทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศด้านนอกที่ร่มรื่น และไลฟ์สไตล์ ของผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา  โดยส่วนตัวแล้วชอบที่ตั้งของโรงแรม ที่นี่หาง่าย เดินทางสะดวกใจกลางสาทรเข้า ซอยสาทร 3 (ซอยสวนพลู) ประมาณ 20 เมตร เลือกนั่งตามใจปรารถนา ในห้องแอร์ มีที่นั่งทั้งแบบเก้าอี้มาตรฐาน โซฟา และเก้าอี้บาร์

 

Totptotravel มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นของ Momo Cafe บุฟเฟ่ต์ และ A-La-Carte  ภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Living,Modern Eating  เต็มอิ่มจุใจทั้งคอซีฟู้ดและมีทเลิฟเวอร์กับบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ เชฟยีราฟ เชฟสุวิรัตน์ นำยงกุล Executive Chef  ได้เลือกเอาเมนูอาหารนานาชาติน่าทานมากมายหลายรายการ ด้วยการบรรจงคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนรังสรรค์เมนูจานเด็ดสุดพิเศษที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้ห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่ เรามาลองดูหน้าตาอาหารกันดีกว่าค่ะ ว่าจะกระตุ้นต่อมหิวกันได้แค่ไหน

Buffet นานาชาติ ที่ MoMo Cafe ที่ Toptotravel ยกให้ว่าดีและเหมาะสมกับราคาที่สุดในเวลานี้  มีไลน์อาหารน่าทานมากมายหลายรายการให้บริการ อยากให้รีบมาทานด่วนๆ  มาแล้วปลื้มมากได้อารมณ์แบบกินยังไงก็ไม่หมด

สเต๊ก กับหอยนางรมแบบเต็มๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบ Lamp Steak หอมนวลลิ้นละมุนละมัย รวมถึงสเต็กวากิว สเต็กทูน่า ที่เอาใจสายเนื้อ  หอมกรุ่น นุ่ม
ส่วนซีฟู้ดก็มาเต็ม ทั้งกุ้ง หอยแมลงภู่ หอยนางรมสดๆ ที่นี่เลอค่ามาก เนื้อหวานและน้ำจิ้มเด็ดค่ะ

ส่วนเมนูที่ เป็นกุ้งจะเป็นกุ้งแบบเต็มปากเต็มคำเนื้อแน่นๆ หอยนางรมเป็น
อีกหนึ่งอาหารยอดนิยมของลูกค้าหลายท่าน  ตามด้วยอาหารญี่ปุ่นอย่างแซลมอนซาชิมิ ซูชิและซาชิมิระดับพรีเมี่ยมนี่สุดยอด  มุมสลัดผักออร์แกนิก เมนูที่ตักเองได้ทั้งหมด ซีฟู้ด สลัด ยำ ข้าวผัด  ขนมหวาน เครื่องดื่ม รวมถึงการบริการ เรียกว่าเต็มที่ไม่มียั้ง ดูแล้วท้องน่าจะร้องไปตามๆ กัน

สำหรับอาหารจานหลักอย่าง สเต็กเนื้อวากิว จะเป็นการปรุงสดจากครัว โดยสามารถเลือกรับประทานได้จากเมนูอย่างไม่จำกัด พนักงานรับออเดอร์จากเรา ค่อยๆ ทำค่อยๆย่าง รออาหารแป๊ปนึง ไม่ว่าจะเป็น พิเศษกว่านั้น Momo Cafe ลูกค้าสั่งปรุง ร้อนจานต่อจานแค่หอยนางรมสดกะเนื้อวากิวก็คุ้มแล้ว

บรรดารายการอาหารที่ เชฟยีราฟ ได้คัดสรรค Yellowfin Tuna เกรดพรีเมี่ยม หรือ BBQ Pork Spare Ribs พร้อมซอสโฮมเมดสตูรเด็ดของทางร้าน  หอยนางรมสดคัดคุณภาพส่งตรงจากประเทศเกาหลี หอยแมลงภู่จาก ประเทศนิวซีแลนด์ กุ้ง และ ปูม้าสดเนื้อแน่น เสริฟ์พร้อมน้ำจิ้มหลายรสชาติ รวมไปถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านแบบไทยอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยม

นอกจากนั้นยังมี อาหารไทยรสจัดจ้าน ที่มีทั้ง  ต้มยำ ลาบ รวมไปถึงผัดเผ็ดทำเลและน้ำพริกต่างๆ แต่อย่า ลืมเก็บท้องไว้ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่มีทั้งขนมไทยต่างๆ ไปจนถึงขนมเค้ก ขนมอบนานาชนิดมากมายด้วยนะคะ


ห้องอาหาร โมโม่ คาเฟ่ ถือเป็นตัวแทนของคนที่มีแนวคิดรุ่นใหม่ ไม่เน้นความหรูหรา แต่แฝงด้วยความมีสไตล์ เชื่อว่าที่นี่จะเป็นที่ๆ ทำให้วันพักผ่อนธรรมดาของเรากลายเป็นวันพิเศษได้แน่นอนนับว่าเราได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า บางทีการไปเที่ยวก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องออกเดินทางไกลเสมอไป บางครั้งการมา นั่งพักผ่อนที่สบายๆ ทานอาหารอร่อยๆ ไม่ต้องเดินทางกันไกลมากก็สนุกและคุ้มค่าได้เหมือนกัน และครั้งนี้นอกจากได้พักผ่อนกันแล้ว ยังได้เต็มอิ่ม ใครไปก็เดินดูให้ดีก่อน แล้วค่อยๆ ตักกัน เดี๋ยวจะพุงระเบิดซะก่อน กินได้ฟินๆยาวๆ 4 ชม. ทานกันให้พุงแตกไปเลย

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ ณ.ห้องอาหาร MoMo Café อิ่มเพลินจุใจในราคาสบายกระเป๋าเพียงท่านละ 899++ บาท ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ลิ้มลองทุก 2 เดือน

Surf and Turf Buffet Dinner : บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ รวมดื่ม
เวลา 18:00-22:00 น.  ร้านโมโม่ คาเฟ่ – MoMo Café  ชั้น Lobby

Marriott Executive Apartments Sathorn Vista
โรงแรม แมริออท เอ็กเซกคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า Marriott Executive Apartments Sathorn Vista
1 ซอยสาทร 3 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ 10120
1 Sathorn Soi 3, South Sathorn Rd., Bangkok 10120 Thailand
โทร : 02 343 6789
website: www.marriott.com
Facebook Page: www.facebook.com/marriottsathornvista

 

โครงการเทศกาลนครแห่งอาหารทะเล เทศบาลนครสมุทรสาคร

กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ในนามของ นครแห่งอาหารทะเล ตำบลท่าฉลอม มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกับสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อส่งเสริม สร้างภาพลักษณ์ และพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโชว์การเป็นผู้นำแห่งการผลิตอาหาร แปรรูปและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูป และเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เทศบาลนครสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสาคร

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิด  “โครงการเทศกาลนครแห่งอาหารทะเล เทศบาลนครสมุทรสาคร” โดยมี นายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่ นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมทั้ง ประธานสภาเทศบาลฯ เลขานุการสภาเทศบาลฯ สมาชิกสภาเทศบาลฯ   และรองปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในเขตเทศบาลนครสมุทรสาครและจังหวัดสมุทรสาคร ให้เป็นที่รู้จักกันในนามของ

ชม ช็อป ชิม บรรยากาศริมทะเล  ในงาน“นครแห่งอาหารทะเล” แบบดั่งเดิมกับชุมชนที่สนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง  รวมทั้งการจัดงานยังเป็นการช่งย กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์  การท่องเที่ยว และพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ของเทศบาลนครสมุทรสาคร

 

จึงขอเชิญร่วมชม ช็อป ชิม ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ  ในงาน   “ นครแห่งอาหารทะเล” ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2561 เริ่มตั้งแต่  เวลา 16.00 น เป็นต้นไป ณ บริเวณสะพานริมเขื่อนหน้าวัดสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร มาร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์  สุขาภิบาลแห่งแรกประเทศไทย  โดยมีการจัดนิทรรศการประวัติความเป็นมา มุมถ่ายรูปย้อนยุค ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวประมงและวิวปากอ่าว ฟรี ช็อปอาหารทะเลทั้งสดและแปรรูป ชิมเมนูเด็ด/อาหารพื้นบ้าน ในบรรยากาศสุดชิลริม

ขอเชิญ ร่วมงานโครงการเทศกาลนครแห่งอาหารทะเล เดินชมนิทรรศการ และร้านจำหน่ายอาหาร ณ บริเวณริมเขื่อนหน้าวัดสุทธิวาตวราราม
(วัดช่องลม) และ ถนนถวาย ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 18 มีนาคม 2561

ดันอาหารไทยสู่เวทีโลก เพราะ อาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่

บุญรอดฯ ตั้ง Food factors
สร้างเครือข่ายธุรกิจ เชื่อมต่อช่องทางอาหารไทยสู่เวทีโลก

อาหาร คือหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ล่าสุดได้จัดตั้ง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด เพื่อเข้ามาสร้างเครือข่ายการดำเนินธุรกิจอาหาร ทั้งตลาดภายในไทยและต่างประเทศ โดยวางแผนกรอบการลงทุนในระยะ 3 ปี ข้างหน้า (2561-2563) จะใช้เม็ดเงินลงทุนในกลุ่มธุรกิจ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งการลงทุนออกเป็นการลงทุนใน บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ในวงเงินประมาณ 2,500 ล้านบาท และ ลงทุนในบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ในกลุ่มธุรกิจซัพพลายเชน 2,500 ล้านบาท

ปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชน และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

“ปิติ ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชน และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร เปิดเผยถึงแผนและยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจกลุ่มบุญรอดฯ ว่าบริษัทมีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมเดินหน้าขยายกลุ่มธุรกิจอาหารในเชิงรุก ด้วยเชื่อว่าอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ดังนั้น อาหารจึงเป็นกลุ่มธุรกิจ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่จะไม่ได้รับผลกระทบจาก
ดิจิทัลดิสรัปชั่น

ทั้งนี้ การจัดตั้ง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตร เชื่อมต่อช่องทางธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลก (Network) โดยรูปแบบการลงทุนเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
ซึ่งที่ผ่านมา ได้เจรจากับผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายราย ในจำนวนนี้มีอยู่
3-4 รายที่อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุน ทั้งนี้ หลังจากได้ข้อสรุปการร่วมลงทุนภายในไตรมาส 2 แล้ว เชื่อว่าความร่วมมือ ที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างฟู้ดเน็ตเวิร์กให้กับสินค้ากลุ่มอาหารของบุญรอดฯ  ให้มีความแข็งแกร่งมาก
ยิ่งขึ้น

บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตร เชื่อมต่อช่องทางธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลก (Network)

“การขยายกลุ่มธุรกิจอาหารในช่วงที่ผ่านมานั้น กลุ่มบุญรอดฯ จะอาศัยเครือข่ายของเบียร์สิงห์ ในการขยายตลาดเป็นหลัก แต่หลังจากจัดตั้งบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด จะช่วยให้ทางกลุ่มเพิ่มช่องทางในการขยายตลาดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตลาดในต่างประเทศ” นายปิติ กล่าว

นายปิติ กล่าวต่ออีกว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัท ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายช่องทางจัดจำหน่ายอาหาร เพื่อศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เรามีความพร้อมทั้งในด้านงานวิจัยและพัฒนาสินค้าอยู่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บุญรอดได้มีการจัดตั้ง ฟู้ด แล็บ ในจังหวัดปทุมธานี เพื่อการวิจัยและพัฒนาอาหาร

ปัจจุบันมีบริษัทผลิตอาหารในเครือบุญรอดฯ ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนการขยายตลาดของธุรกิจอาหาร อาทิ บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซอสปรุงรส และอาหารพร้อมทาน, บริษัท มหาศาล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจข้าว ตราพันดี เป็นต้น โดยปัจจุบันกลุ่มธุรกิจอาหารในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีรวมมูลค่าทางธุรกิจอาหารในมือประมาณ 2,500 ล้านบาท

ในส่วนแผนดำเนินธุรกิจในกลุ่มธุรกิจอาหารของกลุ่มบุญรอดฯจากนี้ไป เน้นการพัฒนาอาหารไทยเป็นหลัก โดยจะมีการพัฒนาทั้งอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน อาหารแช่แข็ง เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงปีแรกจะให้ความสำคัญกับตลาดไทย โดยวางเป้าว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศ 80% และรายได้จากตลาดต่างประเทศ20% และจะทยอยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นภายในสามปี

อย่างไรก็ดี การขยายตลาดในต่างประเทศจะให้น้ำหนักการขยายตลาดในกลุ่มประเทศยุโรปก่อน เนื่องจากสินค้ามีราคาดีและสามารถสร้างกำไรได้สูง รวมทั้งยังคงให้น้ำหนักการขยายตลาดอาเซียนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังวางแผนโยกฐานการผลิตของ บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด จากระทุ่มแบนและบริเวณย่านบางนา มาที่โครงการ “World Food Valley Thailand” จังหวัดอ่างทอง เพื่อรองรับกับความต้องการในอนาคตขณะเดียวกันในโครงการดังกล่าวมีความพร้อมทางด้านการผลิตช่วยลดต้นทุนลงได้

นอกจากนี้ยังได้จัดตั้ง บริษัท เอสบีพี ดิจิทัล เซอร์วิส จำกัด ดำเนินธุรกิจทางด้านดิจิทัล เพื่อรองรับกับโลกดิจิลทัล ซึ่งมีผลทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว สำหรับเป้าหมาย 3 ปี ภายใต้ 3 บริษัทใหม่ของบุญรอดฯ สามารถสร้างรายได้แตะ 15,000 ล้านบาท จากปัจจุบันโครงสร้างรายได้มาจากกลุ่มซัพพลายเชนราว 2,500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอาหาร 2,500 ล้านบาท และหากธุรกิจอาหารของบุญรอดบุกตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ มีแผนใช้โมเดลธุรกิจอาหารเป็นต้นแบบการขยายธุรกิจเครื่องดื่ม เพื่อเปิดตลาดต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย

เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย ณ.โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ททท. กระตุ้นการท่องเที่ยว
จัดเทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย

เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนได้สัมผัสกับ
ว่าวจากทั่วโลก ขบวนฮีโร่แบบใกล้ชิดเหนือจินตนาการตลอด 3 วัน ของการจัดงานกับกิจกรรมสุดพิเศษ DIY ที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้ออกแบบและระบายสีว่าว และบูมเมอแรง ประดิษฐ์กังหันและโมบาย ด้วยตนเอง รวมถึงพื้นที่สำหรับครอบครัวเล่นว่าวได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ พร้อมกับอิ่มอร่อยจากขบวน Food Truck ที่เป็นเมนู Signature ของหัวหิน มีตลาดนัดว่าวที่ใหญ่ที่สุด ให้ได้เลือกช้อปกันอย่างเพลิดเพลิน ปิดท้ายด้วยการฟังเพลงสบายๆ ผ่อนคลายสไตล์หัวหิน

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวถึงกลยุทธ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่า “ในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. มีวัตถุประสงค์ที่จะให้กลุ่มกระแสหลักเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งขึ้น อันประกอบด้วย กลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มนักเรียนนักศึกษา เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อและท่องเที่ยวสูง ซึ่งงานเทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่มีความน่าสนใจ เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมของกลุ่มกระแสหลัก จึงคาดว่างานนี้จะสร้างแรงจูงใจ และเร่งการตัดสินใจท่องเที่ยวในประเทศให้กับกลุ่มเป้าหมาย”

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว

นอกจากนี้ นางสุจิตรา ยังกล่าวต่ออีกว่า ช่วงเวลาของการจัดงาน เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวภาคใต้ของประเทศไทย
เป็นจำนวนมาก อันเป็นการสร้างรายได้ใหักับคนในพื้นที่ และขยายวันพักผ่อนของนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย โดยในปีนี้มีแนวคิดหลักของการจัดงานคือ “HERO IN THE AIR…กองทัพแห่งความสุข สนุกยกครอบครัว”

ที่พร้อมจะให้ทุกคนได้สัมผัสกับขบวนฮีโร่ แบบใกล้ชิดเหนือจินตนาการตลอด 3 วัน ของการจัดงาน

ในงานเทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทยในปีนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับการแสดงว่าว หลากหลายชนิด  จากทั่วทุกภูมิภาคของโลกมากกว่า 10 ประเทศ, ชมการแสดงแปลอักษรประกอบดนตรี, Stunt Kite ที่โชว์ทักษะการบินขั้นสูง จากประเทศญี่ปุ่น และเอกลักษณ์ของว่าวไทยกับการต่อสู้ จุฬา – ปักเป้า รวมถึงนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวว่าวไทยแบบสนุกๆ ให้ได้รู้ภูมิปัญญาไทย เป็นต้น

นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เน้นย้ำเรื่องความพร้อมของ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า “ทางจังหวัด ได้มีการประชาสัมพันธ์ภายในจังหวัดให้คนในพื้นที่ ร้านค้า และเจ้าหน้าที่ในทุกภาคส่วน ได้ทราบกันอย่างทั่วถึง ว่าจะมีการจัดงานดังกล่าว ในวันที่ 23 – 25 มี.ค. นี้ ซึ่งคาดว่า จะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังได้มีการจัดระเบียบเส้นภายในจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาจราจรในพื้นที่ให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมงานอีกด้วย”

ในส่วนของพื้นที่ใช้ในการจัดงาน พล.ต. ศุภวัฒน์  ธีรเนตร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก กล่าวว่า

“เนื่องด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เลือกให้โรงเรียนนายสิบทหารบกเป็นพื้นที่ในการจัดงานใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ อันเป็นหน้าตา และชื่อเสียงของประเทศ ทางโรงเรียนนายสิบทหารบก จึงเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยในพื้นที่กิจกรรม และพื้นที่โดยรอบอย่างเข้มงวด รวมถึงได้วางแผนการจัดสรรยานพาหนะของนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมงานไว้อย่างรัดกุม เพื่อความคล่องตัวและเกิดปัญหาน้อยที่สุดของผู้ทีมาร่วมงาน”
-พล.ต. ศุภวัฒน์ กล่าว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระตุ้นการท่องเที่ยวจัดงานใหญ่เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย  คาดมีนักท่องเที่ยวร่วมงานมากกว่า 3 หมื่นคน และมีเงินสะพัดมากกว่า 40 ล้านบาท ตลอด 3 วัน  ของการจัดงาน พร้อมกิจกรรมมากมาย ขบวน Food Truck ในบรรยากาศสบายๆ สไตล์หัวหิน
ระหว่างวันที่ 23 – 25 มีนาคม นี้  ณ โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ติดกับอุทยานราชภักดิ์)

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน หรือต้องการสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อได้ที่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  โทร. 1672

ชวนช้อป ชม ชิม สินค้าดี ที่เที่ยวเด่น อาหารอร่อย

สุพรรณบุรี ขนของดีภาคกลาง ล่องใต้ ชวนช้อป ชม ชิม

จังหวัดสุพรรณบุรี ขนของดีภาคกลาง ล่องใต้ ชวนชาวปักษ์ใต้ร่วมช้อป ชม ชิม สินค้าดี ที่เที่ยวเด่น อาหารอร่อย ในงาน “มหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยวของดี 19 จังหวัดภาคกลาง” ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2561
ณ สุราษฎร์ธานี ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาสุราษฎร์ธานี
โดยมี นายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็น ประธานเปิดงาน

นายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เผยว่า การจัดงาน “มหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยว ของดี 19 จังหวัดภาคกลาง” ครั้งนี้เป็นการจัดงานในจุดดำเนินการที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาสุราษฎร์ธานี โดยนำเอาของดีสินค้าเด่นและบริการด้านการท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการใน 19 จังหวัดภาคกลาง จำนวน 100 ราย ไม่ว่าจะเป็นของฝาก ของที่ระลึก เครื่องแต่งกาย รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว อาหารการกินที่มีเอกลักษณ์ของภาคกลาง โดยครอบคลุมประเภทธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจที่พัก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน

การจัดงานมหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยวของดี 19 จังหวัดภาคกลาง จัดขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและสันทนาการ กิจกรรมหลักที่ 2 : พัฒนาช่องทางการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิต สันทนาการ โดยมีเป้าหมายที่จะนำสินค้าของดีในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ทั้ง ๑๙ จังหวัด ไปโรดโชว์ใน 5 จุดดำเนินการ


เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และทำการตลาด การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคกลางเชิงรุก เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว ๓ จุดดำเนินการ ได้แก่ พิษณุโลก นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับผลตอบรับจากพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ เป็นอย่างดีและในครั้งนี้ก็คาดหวังว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่อีกเช่นกัน รอง ผวจ.สุพรรณบุรี เผยอีกว่า ภายในงานจะได้ช้อป ชม ชิม สินค้า OTOP ทั้งประเภทอาหารและของฝาก เช่น ขนมทองม้วนขึ้นเครื่อง ปลาสลิดวัดป่าฯ ข้าวเกรียบปลาสลิด กระยาสารทธัญพืช รวมไปถึงสินค้าประเภทเครื่องแต่งกาย อย่างผ้าทอบ้านหนองลิง ของดีจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีความ โดดเด่นสวยงามคงทนและสินค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

นอกจากนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น นิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดสุพรรณบุรี การแสดงพื้นบ้าน กิจกรรม ส่งเสริมการขายสินค้า หรือนาทีทองที่ทุกท่านจะได้ซื้อสินค้าในราคาลดพิเศษ รวมไปถึง
การแสดงดนตรี และการแสดงของศิลปินดังที่จะมาสร้างสีสัน ความสนุกสนานในวันเปิดงานอีกด้วย

เปิดแล้ว ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ

“ท่าเรือเวียงเชียงแสน”  ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ขานรับกระแส เชียงรายโตต่อเนื่อง

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ และวัฒนธรรมท้องถิ่น ไปกับเส้นทางแม่น้ำโขง การส่งออก-นำเข้าสินค้าส่วนใหญ่อาศัยการขนส่ง ทางเรือ ผ่านแม่น้ำโขง เรือมีความพร้อมรับการท่องเที่ยวทางน้ำ จุดส่งออกและนำเข้าสินค้าที่สำคัญทางภาคเหนือของประเทศไทย เพราะเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน  เข้าสู่ประเทศเมียนมาร์  สปป.ลาว จนถึงสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ท่าเรือเวียงเชียงแสน สร้างขึ้นตามนโยบายในการปรับปรุงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน  เพื่อพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางหรือประตูการพัฒนาภูมิภาคอินโดจีน รวมทั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค  ลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือ 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สภาพพม่า กัมพูชาและเวียดนาม ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2546 ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นผู้บริหารและประกอบการ โดยได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2546 และเมื่อมีการเปิดท่าเรือแห่งใหม่ ท่าเรือนี้จึงไม่ได้รับการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ได้รับอนุมัติ ตามมติครม. เมื่อวันที่ 12 เดือนธันวาคม ปี 2560 ให้เข้ามาบริหารจัดการ จึงมีการปรับปรุง ทั้งด้านการก่อสร้าง ภูมิทัศน์ ระบบความปลอดภัยและด้านต่างๆ และได้มีการเปิดตัว ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา

นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหาร บริษัท นิวเชียงแสนกรุ๊ป จำกัด ที่ท่าเรือเวียงเชียงแสน ภายในเขตเทศบาล  ตำบลเวียงเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กล่าวถึง การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ มีแนวคิดที่จะพัฒนาท่าเรือเวียงเชียงแสน

ท่าเรือเวียงเชียงแสน เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน ขับเคลื่อนและรองรับการพัฒนาประเทศในอนาคตอย่างเหมาะสม  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เรือท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก รองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว โดยโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการท่าเรือให้งานอย่างปลอดภัย

ในสมัยก่อน เส้นทางน้ำโขงเลื่องลือในเรื่องความอันตรายของการเดินทาง แต่ในปัจจุบันการเดินทางมีความปลอดภัยสูง ระดับมาตรฐานโลกเป็นท่าเรือเพื่อการขนส่งสินค้า เรือท่องเที่ยว วิ่งขึ้นล่องลำน้ำโขงตลอดเวลา และด้วยความร่วมมือของ 4 ประเทศ จัดตั้งศูนย์ป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าและเรือท่องเที่ยวต่างๆ

โดยปัจจุบัน  โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมโดยรอบท่าเรือสามารถรองรับการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรภายในท่าเรือ  พร้อมทั้งดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้ประชาชนผู้มีส่วนร่วมในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เสนอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ อีกทั้งยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงตำรวจน้ำ

นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหารฯ

ดังนั้น ในเรื่องของความปลอดภัย จึงเป็นที่เชื่อถือได้ อีกทั้งทิวทัศน์รอบและบรรยากาศสองข้างทางริมฝั่งแม่น้ำโขง มีความสวยงาม และสามารถชื่นชมกับธรรมชาติที่ยังคงสภาพความเป็นป่าเขา จึงน่าจะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ได้เยี่ยมชมและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวครั้งนี้ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้สัญจรไปมา และการเปิดบริการล่องเรือชม ศิลปวัฒนธรรม สองฝั่งโขงไทย-ลาว เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพของชุมชน และเป็นการ สนับสนุนการท่องเที่ยวทางเรือ เป็นประตูการค้าหลักของประเทศในการค้าขาย สำหรับทางแม่น้ำโขงนั้น ถือเป็นเส้นทางเปิดใหม่

ที่มีความปลอดภัย มาตรฐานของท่าเรือ ซึ่งก่อสร้างออกมาอย่างถูกต้องตามแบบวิศวกรรม และการควบคุมดูแลการสัญจรไปมา สามารถควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าออกประเทศ ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะดวก ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทางเรือที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทยทาง อำเภอเชียงแสน มีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งสินค้าเป็นส่วนมาก แต่หลังจากที่มีการเปิดท่าเรือแห่งนี้ตามมติครม. เพื่อเป็นท่าเรือท่องเที่ยวก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจากประเทศจีนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณเดือนละ 500 คน เราตั้งเป้าหมายให้มีการใช้งานท่าเรือในช่วงปีแรกประมาณไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,000 คน หรือ ปีละ 20,000 คน

การเดินทางโดยทางรถยนต์จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน หรือจากประเทศจีนมายังประเทศไทยนั้นปัจจุบันนักท่องเที่ยวต้องใช้ทาง r3a เป็นหลัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง สองข้างทางเป็นทิวทัศน์ธรรมดา
ที่เห็นได้ทั่วไปในท้องถนนไม่น่าดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางถนนใช้ในการขนส่งสินค้าและมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

“การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวครั้งนี้ จึงเป็นการเผยให้เป็นถึงความงดงามทางทรัพยากรธรรมชาติของสองฝั่งแม่น้ำ ที่เพิ่มประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากขึ้น”   -นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป กล่าวสรุป

ด้าน คุณกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย   กล่าวว่า “ททท.
มีแผน เรียกว่าเชียงรายยั่งยืน เชียงรายแต้ๆ ความหลากหลายของเชียงราย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ.เชียงแสน มีประวัติศาสตร์ ที่สำคัญ  นับจากนี้เป็นต้นไปจะมีท่าเรือที่ได้รับมาตรฐานของ จังหวัดเชียงราย  ท่าเรือเวียงเชียงแสน มีด่านสำหรับเข้าออกของนักท่องเที่ยวหลายด่าน เป็นจังหวัดเดียวที่มีทั้ง อ.เชียงของ อ.แม่สาย การมีท่าเรือเพิ่มขึ้นทำให้เป็นประตูสู่จังหวัดเชียงรายและเข้าสู่ประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น และอย่างที่ทราบกันว่า ท่าเรือเวียงเชียงแสน  เป็นท่าเรือแห่งแรกของภาคเหนือ เชียงรายจะมีการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวมากช่องทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเชียงแสนถือว่ามีความหลากหลายในเรื่องของวัฒนธรรมชุมชนท่องเที่ยวด้วย

คุณกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย

ปกติแล้ว เชียงแสนเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าปัจจุบันเราเริ่มให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวชาวจีน เชียงแสนเป็นท่าเรือโดยตรงสำหรับนักท่องเที่ยวจีน เป็นเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่จะเข้ามาเที่ยวมากขึ้นยงแสนและมีไฟล์ทบินตรงเข้าสนามบินและจากเชียงใหม่ด้วย ระยะทางขับรถจาก จ.เชียงใหม่มายัง จ.เชียงราย ใช้เวลาเพียงแค่สามชั่วโมง จะเห็นว่ากระแสนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเชียงรายมากขึ้น แต่ขณะ เดียวกันนักท่องเที่ยวยุโรป เพราะเรามีวัฒนธรรมที่เป็นจุดสนใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็มองนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลักด้วย

จุดสำคัญของเชียงแสน คือเมืองริมฝั่งแม่น้ำโขง มีเรื่องของทิวทัศน์แม่น้ำโขง เมืองประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่กว่าเชียงใหม่ เรื่องของท่องเที่ยวชุมชน วัฒนธรรมดั้งเดิม จะเห็นว่าเป็นการผสมผสานของการท่องเที่ยวหลากหลาย เชียงแสนเองด้วยความที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเชียงของ หรือแม่สายทำให้มีทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น

ด้านการโปรโมท ปีนี้ เราต่อเนื่องจากเชียงรายแต้ๆ ปีที่แล้วเชียงรายแต้ๆ เราเล่นที่เชียงแสนเป็นหลัก ปีนี้เราก็ยังทำต่อเนื่อง แต่ปีที่แล้วเรื่องวัยเก๋า ชวนกันมาเที่ยว มาเที่ยวเชียงรายเชียงแสน ปีนี้เน้นกลุ่มครอบครัว ที่มีหลายเจนเนเรชั่น เราจะมีคลิปวิดีโอเชิญชวนให้ครอบครัวมาเที่ยวและพบความหลากหลายของจังหวัดเชียงราย

“อำเภอเชียงแสน  เป็นอำเภอที่สูงสุดในประเทศไทย อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง  มีทิวทัศน์สวยงาม มีความเป็นเมืองโบราณเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่น่าสนใจ

อยากจะเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวเชียงแสน ไม่ใช่มีแค่วิวสวย มีอาหารอร่อย และมีชุมชนที่น่ารักด้วยค่ะ “

พิธีเปิด  ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ณ.ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 ม.3 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งในงานยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมือง สล้อ ซอ ซึง การแสดงของกลุ่มชาติพันธ์ลุ่มแม่น้ำโขง โดยผู้แทนจากประเทศไทย อาทิ นาย ชัยกฤษ นิสัยสุข นายกเทศมนตรี นายพินิช แก้วจิตกรทอง นายอำเภอเชียงแสน นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหารฯ นายชัชวาล สุขสมจิต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  นายสมบูรณ์  ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย และ ผู้แทน ฝั่งสปป.ลาว นายอิ่นคำ แก้วนารี หัวหน้าห้องว่าการปกครองเมืองต้นผึ้ง นายอู่ลา เพิงสวัสดิ์ หัวหน้ากรมขนส่งเมืองต้นผึ้ง นายแสงเงิน อำพรไธ รองหัวหน้าห้อง การแถลงข่าว โดย มี นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธี เมื่อค่ำวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา

นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหาร ฯ นายชัชวาล สุขสมจิต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย และผู้แทน ฝั่งสปป.ลาว นายอิ่นคำ แก้วนารี หัวหน้าห้องว่าการปกครองเมืองต้นผึ้ง นายอู่ลา เพิงสวัสดิ์ หัวหน้ากรมขนส่งเมืองต้นผึ้ง นายแสงเงิน อำพรไธ รองหัวหน้าห้อง การแถลงข่าว โดย มี นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธี

ท่าเรือเชียงแสนตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตพื้นที่ของอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ด้านหน้าติดแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้านหลังติดถนนซึ่งเชื่อมระหว่างอำเภอเชียงแสนและอำเภอเชียงของ

บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับททท. เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน คณะกรรมการบริหารท่าเรือเวียงเชียงแสน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เปิดท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ณ ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน (เชียงแสนแห่งที่ 1) จ.เชียงราย

 

Crave ห้องอาหารเพื่อคนเทรนดี้

เปิดให้บริการแล้วนะ
Backyard Grill by Crave

สืบเนื่องจาก Toptotravel ได้มีโอกาสตอบรับคำเชิญ เข้าเยี่ยมชม และร่วมชิมอาหาร ในโรงแรม Aoft สุขุมวิท11  ที่ร้านอาหาร เครฟ (Crave ) กับเมนูอร่อยสไตล์สตรีทฟู้ด  ที่เราไปชิมมาแล้วอยากแนะนำ  เมนูสุดอร่อยที่ไม่ควรพลาด

กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไประยะหนึ่ง โรงแรม Aoft สุขุมวิท11
มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกันว่า ห้องอาหาร CRAVE
Backyard Grill by Crave 
เปิดให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 61
เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันแปลกใหม่สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวยามค่ำ
คืนในซอยสุขุมวิท 11 และยังรวมไปถึงแขกที่พักที่โรงแรม อลอฟอีกด้วย

Aoft สุขุมวิท11 เปิดโรงแรมมามากกว่า 100 โรงแรม อลอฟคือหนึ่งในแบรนด์ของแมริออท ที่นำเสนอสิ่งแปลกใหม่มาสู่จุดหมายปลายทางต่างๆแบรนด์อลอฟ นำเสนอเทคโนโลยีล้ำยุค ประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสไตล์ที่ทันสมัย มีโรงแรมให้บริการอยู่ทั่วทุกมุมโลกได้มาสัมผัสถึงความเก๋ของที่นี่ตั้งแต่สไตล์การแต่งร้านที่ดูทันสมัย คอนเซ็ปต์ของร้าน CRAVE WINE BAR & RESTAURANT คือ การเนรมิตรร้านให้กลายเป็นสถานที่สังสรรค์และแฮงค์เอ้าท์ของชาวกรุงฯ ทุกเพศทุกวัยลูกค้าที่เข้ามาได้ทดลองอะไรใหม่ๆ



Backyard Grill by Crave  ร้านอาหารแบบป๊อปอัพ  ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง แบบ  “live grill”  โดยชื่อของร้านมาจากตัวสถานที่เอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ OutDoor ของห้องอาหารหลักของโรงแรม  บรรยากาศและประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากที่อื่น  การออบแบบครัวเปิด คุณจะได้นั่งรับประทานอาหารโดยสัมผัส
บรรยากาศแบบชิวๆ ในขณะที่มองออกไปเห็นวิวอันสวยงามและแสง สี ในยามค่ำคืนรอบๆ ตัวเมืองกรุงเทพฯ

ดังนั้น  สิ่งที่จะเป็นไฮไลท์ของร้านแฮงค์เอ้าท์ดีๆ สักร้าน จะเป็นอะไรไปไม่ได้ หากไม่ใช่เครื่องดื่ม! และรับประกันเลยว่า เครื่องดื่มทุกแก้วเติมความสดชื่นและมีประโยชน์แน่นอน  กับเมนูอาหาร ที่มีรสชาติแบบไทย ภายใต้แนวคิด (The East meets West) โดยจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างเครื่องเทศของไทยและเอเชีย บนวัตถุดิบคุณภาพอย่างเนื้อและผักย่างบนเตาแบบและเสริฝแบบ “Rustic Stylel”

นอกจากจะมีบรรยากาศสุดชิลเหมาะแก่การมานั่งเล่น และมีเมนูอาหารแปลกๆ แหวกๆ ให้ลองทานแล้ว เมนูดริ้งของที่นี้ก็ไม่เป็นสองลองใครนะค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องรสชาติและหน้าตา พรีเซ็นเทชั่นที่สวยงาม มาพร้อมกับลูกเล่นแพรวพราวที่จะทำให้หลายคนอดใจไม่ไหว  ถ้ามีโอกาสมานั่งผ่อนคลายเพิ่มความกระชุ่มกระชวยสวยเกร๋ของที่นี่  ต้องหยิบมือถือมาแชะๆๆ
รูปรัวๆ เก็บไว้ก่อนจะดื่มแน่ๆ


แวะมานั่งพักผ่อน เครฟ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ สักครั้ง  วางใจได้ถึงการบริการและฝีมือในแบบฉบับไทยเหมาะกับพาครอบครัว นัดเพื่อน ๆ ไปทานกันเยอะ ๆ มาก ๆ อร่อยคุ้มราคา ที่ Crave Wine Bar & Restaurant  (เครฟ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์) ในซอยสุขุมวิท 11

 



Backyard Grill by Crave
ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรมโรงแรมอลอฟท์ สุขุมวิท 11
เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประสบการณ์ดินเนอร์ แบบผ่อนคลาย
โดยราคาอาหารเริ่มต้นที่ 160++ บาท ถึง 360++ บาท เท่านั้น
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.00 น.
สอบถามติดต่อ : www.alofhotel.com
fb.aloftbkk@alofthotels.com

BACKYARD GRILL BY CRAVE   located on the 8th floor of Aloft Hotel Bangkok – Sukhumvit  11 from 6-10 PM.
#Bangkok #AloftBangkok #Valentines #AloftHotels