Category Archives: Event

Aviyana Hua Hin เปิดตัว! รีสอร์ทใหม่ริมชายหาดชะอำพร้อมมอบประสบการณ์พักผ่อนสุดชิลล์”

อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรีสอร์ทติดทะเลแห่งใหม่อย่างเป็นทางการโดยมี คุณสุมาลี คูรานา ประธานกรรมการผู้จัดการรีสอร์ท ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีตัดริบบิ้นและกล่าวเปิดงานร่วมกับ คุณชาญชัย ปรีชา ผู้จัดการทั่วไปและคุณณิชาภัทร ศรีสำราญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนร่วมในงาน ณ ห้อง AVOWS Ballroom

คุณสุมาลี กล่าวว่า “ความตั้งใจของรีสอร์ทแห่งนี้คือการสร้างสถานที่สำหรับคนทุกเจเนอเรชันสามารถมาพักผ่อนและสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน เราต้องการให้ อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) เป็นรีสอร์ท ที่ผู้คนสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่น ความสุข และความสงบ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน” เราจึงเลือกทำเลบนพื้นที่ชายหาดชะอำ เพราะเราอยากให้ผู้ที่เข้ามาพักได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เปรียบเสมือนสวรรค์แห่งการพักผ่อน และยังให้ความรู้สึกเหมือนบ้านสำหรับทุกคนที่มาเยือน โดยกลยุทธ์การลงทุนของทางรีสอร์ทคือการเลือกโลเคชั่นที่เห็นวิวดี ความสวยงามของวิวธรรมชาติติดทะเล เป็นจุดขายสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมถึงการเดินทางที่สะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

คุณชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางรีสอร์ทฯให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้เข้าพักเป็นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกคนสามารถมาพักผ่อนอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการมาพักผ่อนกับครอบครัว การจัดงานแต่งที่เนรมิตความโรแมนติกในบรรยากาศริมทะเล หรือการจัดกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ เช่น งานเลี้ยงและสัมมนา โดยทางรีสอร์ทมีพื้นที่ให้บริการสำหรับการจัดงานในโอกาสพิเศษ คือ Siamara พื้นที่จัดงานเลี้ยงบนด้านฟ้ากลางแจ้งแบบไพร์เวท และ AVOWS Ballroom ห้องบอลรูมสำหรับการประชุมและงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับแขกได้มากถึง 300 คน คุณชาญชัยยังกล่าวเสริมว่า “ทางรีสอร์ทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในหัวหิน ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีด้วยพื้นที่สำหรับการรองรับในการทำกิจกรรม”

คุณณิชาภัทร เผยว่า ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในหัวหินขณะนี้มีการแข่งขันที่สูงมาก ด้วยเหตุนี้ ทางรีสอร์ทจึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมเชิงลึกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อหาจุดเด่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด เธอระบุว่า “นอกจากคนไทยจะชื่นชอบอาหารรสจัดแล้ว เรายังพบว่านักท่องเที่ยวต้องการประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น” ด้วยแนวคิดนี้ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน ซึ่งเป็นแบรนด์น้องใหม่ จึงเน้นย้ำจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ ผ่านร้านอาหารของรีสอร์ทอย่าง Miss T Beach Café และ Pomelo All-Day Dining ซึ่งยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย เช่น กะปิ สาโท และใบชะคราม ให้กลายเป็นเมนูหรูหราที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
“ที่นี่เราภูมิใจที่จะบอกว่าลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอาหารฟิวชั่นสไตล์นานาชาติริมชายหาด พร้อมฟังเสียงคลื่นทะเลที่สงบพร้อมดื่มด่ำกับรสชาติอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ” คุณณิชาภัทรกล่าว

ด้วยการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นที่กลมกลืนไปได้อย่างลงตัวกับธรรมชาติอันงดงามของอ่าวไทย รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 115 ห้อง โดยมีห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือกดังนี้:
• ห้อง Superior ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 37 ห้อง
• ห้อง Deluxe Sea View ขนาด 40 ตร.ม. จำนวน 62 ห้อง
• Oasis Beachfront Villa ขนาด 53 ตร.ม. จำนวน 8 ห้อง
• Ambassador Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 247 ตร.ม. จำนวน 1 ยูนิต (2 ห้อง)
• Ocean View Suite แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 165 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต (2 ห้อง)
ราคาที่เริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อคืน

นอกจากนี้ รีสอร์ทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำท่ามกลางวิวทะเลแบบพาโนรามา โดยผู้เข้าพักสามารถเดินลงจากที่พักเพื่อเดินเล่นบนชายหาดได้ทันที รวมถึงรีสอร์ทยังมีห้องอาหารและบาร์สำหรับให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ได้แก่ ร้าน Pomelo All-Day Dining ที่ให้บริการอาหารเช้าร่วมถึงยังมีบริการขายอาหารตลอดทั้งวัน, ร้าน Miss T Beach Café สุดชิลล์ที่สามารถรับประทานอาหารและดื่มด่ำกับบรรยายริมทะเลไปพร้อมกัน และ Nest Pool Bar ที่สายค็อกเทลห้ามพลาด สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนสุดชิลล์ ณ รีสอร์ท อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin)

สอบถามเพิ่มเติม โทร. 032-512-311
อินสตาแกรม: @aviyanahuahin
จองห้องพักได้ที่: booking@aviyanahuahin.com
🌐 Website: https://aviyanahuahin.com/
🌐 Facebook: Aviyana Hua Hin
📍 พิกัด: No. 1515 Phet Kasem Rd, Sai Tai, Cha-am District,
Phetchaburi, Thailand, Phetchaburi

ดีป้า จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเข้มข้น ครู – ต่อยอดสู่เวทีนานาชาติ

ดีป้า จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเข้มข้น ครู – นักเรียน จำนวน 100 ทีม ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จากทั่วประเทศ เข้าคอร์สติวเข้มทักษะโค้ดดิ้ง จากผู้เชี่ยวชาญ ฝึกนำเสนอผลงานและรับข้อเสนอแนะ ก่อนร่วมประชันไอเดียเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนเวที Coding War เวทีแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ดำเนินกิจกรรม Coding Bootcamp & Coding Roadshow และ Coding War ใน 8 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเฟ้นหา 100 สุดยอดทีมจากโรงเรียนทั่วประเทศ ที่มีทักษะโค้ดดิ้งเป็นที่ประจักษ์ เข้าสู่กิจกรรมยกระดับศักยภาพด้านโค้ดดิ้งเข้มข้น ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาไปสู่ความรู้ด้านดิจิทัลในระดับที่สูงขึ้น

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ทักษะการนำเสนอโครงการ (Pitching) และการบอกเล่าเรื่องราว (Storytelling) ให้น่าสนใจ พร้อมรับข้อเสนอแนะจากทีมวิทยากรระดับ
แนวหน้าของไทยที่จะมาเป็นที่ปรึกษา (Mentor) ใน 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย โค้ดดิ้งในชีวิตประจำวัน โค้ดดิ้งเพื่อการเกษตร โค้ดดิ้งวิถีชุมชน และโค้ดดิ้งสำหรับอนาคต พร้อมนำตัวอย่างการนำเสนอโครงการโค้ดดิ้ง และ AI ที่ประสบความสำเร็จมาเป็นแนวทางการเรียนรู้ให้ได้ฝึกฝน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นอกจากนี้จะได้เรียนรู้เรื่องการประเมินขนาดของตลาด โมเดลธุรกิจเบื้องต้น และการออกแบบโมเดลธุรกิจ

“กิจกรรมทั้งหมดถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับทุกทีม ก่อนร่วมประชันไอเดียเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนเวที Coding War เวทีแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายนนี้ ณ MCC Hall เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เพื่อชิงชัยสู่การเป็น 10 สุดยอดผลงานนวัตกรรมดิจิทัล ที่จะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์ดิจิทัลและทุนการศึกษา มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโค้ดดิ้งบนเวทีระดับนานาชาติ อย่าง Seoul International Invention Fair 2024 (SIIF 2024) ณ สาธารณรัฐเกาหลี” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ด้าน นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า หลักสูตรในกิจกรรมบ่มเพาะ เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อพัฒนาทักษะรอบด้าน ช่วยฝึกฝนและเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน โดยเฉพาะการนำเสนอผลงานให้น่าสนใจ มีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้มุมมองทางธุรกิจที่จะต่อยอดไปสู่ Startup ที่เป็นประโยชน์ต่อครูและนักเรียนเพื่อเห็นภาพกว้าง และมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น โครงการ Coding for Better Life ถือเป็นต้นแบบของการยกระดับการศึกษาที่ครอบคลุมทุกมิติ ไม่เพียงแต่สนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ แต่ยังมีการพัฒนาบุคลากร สร้างเครือข่าย และการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบให้นำไปต่อยอดพัฒนาการศึกษาด้านอื่น ๆ ได้ในอนาคต

พร้อมกันนี้ โครงการ Coding for Better Life ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด โดย บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ที่ร่วมสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การมอบ Micro:bit ให้โรงเรียนภายใต้กิจกรรมอัปเกรดห้องเรียนโค้ดดิ้ง มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และสนับสนุนกิจกรรม AI Roadshow สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับ AI ในสาขาอาชีพต่าง ๆ ให้กับเยาวชน ครู ผู้ปกครอง และบุคคลทั่วไป รวม 8 จังหวัด และในกิจกรรม Coding War ได้สนับสนุนเงินรางวัล และผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัดฟรีตลอด 1 ปีสำหรับทีมผู้ชนะในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา พร้อมรางวัลพิเศษสำหรับระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาจำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 600,000 บาท บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนหลักสูตร HUAWEI CLOUD DEVELOPER บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สนับสนุนคูปองการเรียนรู้ผ่าน TRUE DIGITAL ACADEMY เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงเรียนในโครงการฯ และ เทโร เพอร์ฟอร์แมนซ์ คอร์ส ที่มีเป้าประสงค์เดียวกัน คือ การปลูกฝังความรู้ด้านโค้ดดิ้งแก่ประชาชนไทยตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เด็กไทยเติบโตไปเป็นกําลังคนดิจิทัลที่มีคุณภาพ และเป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ร่วมพลิกโฉมการเรียนรู้ Coding ไปพร้อมกันกับโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร และรายละเอียดโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ได้ที่ www.depa.or.th, CodingforBetterLife.com และเพจเฟซบุ๊ก depa Thailand และ Coding Thailand by depa

Sheep ปล่อยใยมัดใจแฟนพันธุ์แท้ยอดมนุษย์แมงมุม ชูลายเคสเรืองแสง&ขยับได้

พร้อมยกระดับงานคอลแลปส์ ดึงศิลปินระดับโลก Tokidoki  ออกแบบลาย Mickey & Friends เปิดตัวพร้อมกัน 2 คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

แบรนด์ “Sheep” เคสสัญชาติไทยผู้ผลิตและออกแบบแก็ดเจ็ต ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดรวมถึงการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และตัวตนของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าจากร้าน AppleSheep ที่รวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์และไอทีเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ล่าสุดปล่อยหมัดเด็ด ยกระดับงานคอลแลปส์พร้อมกัน 2 คอลเลคชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ   ด้วยการประกาศเข้าสู่จักรวาล Marvel ต้อนรับการมาขอ Avenger Phrase 2 ออกเคสโทรศัพท์ที่สัมผัสถึงพลังของซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Marvel  ลาย Spider-Man    และอีกคอลเลคชั่นเป็น อุปกรณ์ตกแต่งมือถือ จากผลงานการออกแบบลาย Mickey&Friends และ Winnie The Pooh  จาก Global Artist อย่าง Simone Legno (Tokidoki)  ที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sheep and Friends โดยเปิดตัวในงาน  Disney Toy Expo Thailand 2024          

นายอภินันท์ ตรีรัตน์พิจารณ์  Founder&CEO บริษัท  ชีพ แก็ดเจ็ต จำกัด กล่าวว่า “การร่วมงานกับ Marvel (Spider-Man) เป็นการปูทางสำหรับ Marvel Phrase 2 ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายงานออกแบบเป็นอย่างมาก เนื่องจากการออกแบบแต่ละครั้งเราต้องคำนึงว่าจะทำอย่างไรเราจึงจะดึงภาพจำและเอกลักษณ์ของ Character นั้นๆ มานำเสนออย่างดีที่สุด ในขณะเดียวกันเราต้องให้ความสำคัญอย่างมากที่สุดต่อภาพพจน์ของผู้ใช้งานสินค้า เป้าหมายของแบรนด์ Sheep ทำให้ผู้ใช้สินค้าต้องดูดีและเข้ากับสไตล์ของผู้ใช้เป็นอย่างดี โดยแน่นอนว่าแฟนตัวยงของ Spider-Man นั้นจะเป็นผู้ชายเป็นส่วนมาก ซึ่งจะเป็นนักสะสมของเล่น เราตีโจทย์ว่าจะต้องทำลายที่มีความพิเศษสุดๆแต่ดูเรียบง่ายไม่หวือหวา เหมือนกับ Spider-Man ที่กลางวันเป็นเด็กธรรมดาแต่กลางคืนกลับกลายเป็นยอดมนุษย์ที่มีพลังลึกลับน่าสนใจโดยรอบนี้เราเลยหยิบเทคนิคการพิมพ์ลายแบบพิเศษมาใช้โดยทำให้ภาพบนเคสขยับได้และเรืองแสงในที่มืดซึ่งเป็นการนำเสนอความเป็น Spider-Man ได้อย่างลงตัว และเป็นลายที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยพลังพิเศษที่ผู้ใช้เท่านั้นถึงจะสัมผัสได้  เคสคอลเลคชั่นนี้รองรับโทรศัพท์ iPhone 13ไปจนถึงเคส iPhone 15และเคสซุมซุง S23/S24 Ultra   นอกจากนั้นยังมีเคส iPad , Macbook, Airpods, Magsafe Wallet, Phone Charm, และ Mousepad และอีกคอลเลคชั่นที่เปิดตัว เป็นอุปกรณ์ตกแต่งมือถือจากผลงานการออกแบบลายโดยไอคอนสตรีทอาร์ตระดับโลก ซิโมเน่ เล็กจ์โน่ (Simone Legno) ซึ่งหยิบ Mickey&Friends และ Winnie The Pooh มาวาดใหม่เป็น Version Tokidoki  ซึ่งผมและทีมรู้สึกสนุกและภูมิใจมากๆทุกครั้งที่ได้ทำอะไรใหม่ๆ รอบนี้เรายกระดับไปอีกขั้นจริงๆ

จากการร่วมมือสองฝ่าย เป็นการร่วมมือสามฝ่าย คือ  Sheep x Tokidoki  x Disney ซึ่งความยากของการทำงานสามฝ่ายคือการทำให้ทุกฝ่ายโดดเด่นเท่ากัน ไม่มีฝ่ายไหนหายไปหรือใครเด่นกว่าใคร ซึ่งจะยากกว่าการทำงานแบบสองฝ่ายอย่างแน่นอน เพราะเราต้องแบ่งสัดส่วนให้ดี โดยผลงานที่ออกมาจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่งมือถือ Mickey&Friends และ Winnie The Pooh ที่มีลายเส้นการวาดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Tokidoki โดยมีฟังก์ชั่นแบบ Sheep Style สินค้าที่เป็นไฮไลท์รอบนี้คือ Spinning Magsafe Griptok ที่เราทำหมุนได้ 360 องศา เป็นวงล้อสุ่ม Characters ซึ่งเราตั้งใจเปลี่ยน Gadget ธรรมดาๆให้เป็นจุดเริ่มต้นของความสนุกในวงเพื่อนพ้องที่ชื่นชอบ Disney และทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงกลิ่นไอความรู้สึกของการดูการ์ตูน Mickey&Friends และ Winnie The Pooh ที่เหล่า Character จะมาล้อมวงเล่นสนุกกันตลอดเวลา

นายอภินันท์กล่าวต่อว่า “สำหรับแบรนด์ Sheep การหยุดนิ่งเท่ากับถอยหลัง เพื่อเป็นหนึ่งในวงการ และเป็นตัวแทนของแบรนด์ไทยและสินค้าไทย เราจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าให้คุ้มค่าต่อเงินทุกบาทที่ลูกค้ามอบให้เรา เมื่อเทียบกับสินค้าที่ราคาเท่ากันแล้ว สินค้าของแบรนด์ Sheep ต้องดีที่สุดทั้งในเชิงของ การใช้งาน ความสวยงาม และภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน ในปีที่ผ่านมาเราออกสินค้าคอลเลคชั่นใหม่แทบทุกเดือน นอกจากจะเพิ่มตัวเลือกใหม่ให้ลูกค้าเดิมแล้ว การออกคอลเลคชั่นใหม่คือการแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า แบรนด์เราไม่เคยหยุดพัฒนา ทุกครั้งที่มีการออกคอลเลคชั่นใหม่ นั้นคือเรามีการพัฒนาคุณภาพสินค้าควบคู่ไปด้วย

ปัจจุบันเรามีสินค้าหลักเป็นอุปกรณ์เสริม เคสมือถือ เคส iPad, เคส Macbook, เคสAirpods, และทำสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์หลากหลายมากขึ้น รวมถึงกล่องสุ่มสินค้าไอทีด้วยครับ   ปัจจุบันSheep ถือเป็นแบรนด์อันดับต้นๆในไทย ที่มีผลงานการออกแบบร่วมกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกับ  Esther Bunny , Disney, Sanrio, Care Bears, One Piece, Doraemon, Shinchan, และ อื่นๆอีกมากมายซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดีซึ่งนอกจากการจัดจำหน่ายในร้าน AppleSheep แล้ว แบรนด์ Sheep ยังได้รับความไว้วางใจจากร้านค้าชั้นนำระดับประเทศมากมายไม่ว่าจะเป็น Loft, Matchbox, Freak, Seek and Keep Club, Medium and More, Banana, Studio7, B2S, Yumeya, True Shop และ จากทิศทางผลงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์เดินหน้าบุกขยายตลาดต่างประเทศเริ่มจากในภูมิภาคอาเชียน เพื่อขยายฐานลูกค้า  เป็นการตอกย้ำว่าแบรนด์ไทยเรามีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ   เราจะนำเสนอสินค้าสร้างสรรค์อย่างไม่รู้จบ” คุณอภินันท์กล่าวทิ้งท้าย  

ปัจจุบัน AppleSheep มีหน้าร้านในห้างสรรพสินค้าอยู่ 10 แห่งด้วยกัน ร้าน Sheep Exhibition Store ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์  และ Flagship Store  อีก 9แห่ง เซ็นทรัลเวิลด์,เซ็นทรัลลาดพร้าว ,เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลรามอินทรา, เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ,เมกา บางนา , ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, และอีกสองสาขาต่างจังหวัด เซ็นทรัลเหาดใหญ่ , เซ็นทรัลขอนแก่น ติดต่อช่องทางออนไลน์ได้ที่  www.applesheepth.com,
Line: @applesheep, FB :AppleSheep เคส ipadpro มีที่เก็บปาก, IG applesheepth, Tiktok applesheepth

เริ่มแล้ว! Disney Toy Expo Thailand 2024 วันแรกสุดคึกคัก

แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ตบเท้านำของเล่นของสะสมมาโชว์เต็มลานเซ็นทรัลเวิลด์

( 15 สิงหาคม 2567 ) เปิดฉากวันแรกอย่างยิ่งใหญ่ สิ้นสุดการรอคอยงานใหญ่แห่งปีของสาวกแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์แห่ร่วมงานคับคั้ง เรียกว่าหลายคนที่มาร่วมงานต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้จัดเต็มทำถึง เพราะเป็นครั้งแรกในไทยและในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยกกองทัพของเล่นของสะสมทุกคาแรคเตอร์
ที่แฟนๆ ชื่นชอบจาก Disney ,Pixar ,Marvel และ Star Wars ภายใต้ชื่องาน Disney Toy Expo Thailand 2024 งานที่รวบรวมสินค้าลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการมากมาย ของสะสมจากแบรนด์ระดับโลกสินค้ารุ่นลิมิเต็ด คอลเลคชันใหม่จากความร่วมมือของศิลปินชื่อดัง พร้อมเสริฟความบันเทิงใกล้ชิดเหล่าคาแรคเตอร์ดิสนีย์ที่มามอบความสุขสนุกสนานส่งตรงจากต่างประเทศ งานนี้เนรมิตพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น1ถึงชั้น3 ให้เป็นแหล่งรวมความสุขสนุกสนานและย้อนความทรงจำในวัยเด็ก ตลอด4วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่15-18สิงหาคมนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการงานของเล่นของสะสมเลยทีเดียว

คุณปรีชา อาชามงคล ผู้อำนวยการลิขสิทธิ์สินค้าอุปโภคบริโภคประจำประเทศไทยและเวียดนาม และคุณชาญวิทย์ วิทยสัมฤทธิ์ Chief Executive Officer บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด ร่วมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมพบกับนักแสดง และนักร้องสุดฮอต โฟร์ท- ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ การเป็นแฟนพันธุ์แท้ดิสนีย์ และสนุกสุดฟินกันแบบฉ่ำๆ กับการแสดงมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN ปิดท้ายด้วย Mickey & Friends คาแรคเตอร์จะออกมาทักทายแฟนๆอีกด้วย

โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจาก บริษัท อาซากิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน), บริษัท เอส เอฟคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ขวัญชนกโปรดักชั่น จำกัด,บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทอยโทเปีย จำกัด

ภายในงานบรรยากาศสนุกสุดฟินที่แต่ละแบรนด์ต่างครีเอตบูธและสินค้าได้อย่างน่าตื่นตาและน่าสนใจทั่วทุกบริเวณงานทั้ง 3ชั้น มีแบรนด์ชั้นนำเผยโฉมสินค้าแปลกใหม่ของหายาก และเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่สุดพิเศษจากแบรนด์ ต่างๆอาทิ Royal Selangor มาพร้อมกับ BE@RBRICK IRONMAN เปิดตัวครั้งแรกของโลก AppleSheepที่เตรียมเปิดตัวสินค้าจากการร่วมมือสุดพิเศษกับศิลปินชื่อดังระดับโลก ซิโมเน่เล็กจ์โน่ Simonelegno ( Tokidoki) ไอคอนสตรีทอาร์ตที่มีคาแรคเตอร์เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจ นำลายเส้นสไตล์น่ารักอันเป็นเอกลักษณ์มาสู่ Mickey & Friends ด้วย Collection เสื้อผ้าเครื่องประดับหลากหลายอย่างที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน ,แบรนด์Sheepเปิดตัวเคสโทรศัพท์ ลาย Spider-Man โดยมี วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร มาร่วมงาน และ Asaki ที่มาพร้อมกับ Box Set สุดพิเศษ ปิดท้ายด้วย Wongdek Toysland ที่มาพร้อมการเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดจากแอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Cars จาก Pixarพร้อมพบกับบรรดาแบรนด์ของเล่นของสะสมชั้นนำระดับโลกมากมาย อาทิเช่น LEGO,Royal Selangor, Threezero,funko,Loungefly ,URDU,BEAST KINGDOM, Makeitloud และ AppleSheep รวมร้านค้าทั้งหมดมากกว่า 40 บูธ นอกจากได้พบสินค้าแล้วยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิเช่น การแจก Voucher ผ่าน Shopee Live และโปรโมชั่นประจำบูธลุ้นรับของรางวัลมากมาย

Meet & Greet กับ Mickey &Friends ที่มาสร้างความสนุกสนานอบอุ่นหัวใจให้กับผู้ชมทั่วโลกมานานหลายทศวรรษเตรียมเปิดรับโอกาสสุดพิเศษที่จะได้พบปะ และทักทายกับ Mickey พร้อมผองเพื่อนที่พวกเขาจะปรากฏตัวตลอด 4 วัน ภายในงาน DisneyToy Expo Thailand 2024 เพื่อพบกับแฟนๆ ชาวไทย

กิจกรรมพิเศษจากกลุ่มแฟนชาวไทย การแสดงร้องเพลงจากกลุ่มแฟนๆโดย DMCT จะทำการแสดงขับร้องบรรดาเพลงฮิตของดิสนีย์อันเป็นที่รักของทุกคน ผ่านกลุ่มแฟนๆมากความสามารถพวกเขาตัวกันด้วยความหลงใหลในดนตรีของดิสนีย์โดยพวกเขาเคยถ่ายทำเพลงดิสนีย์เวอร์ชั่นของตัวเองมาแล้วด้วย มาร่วมย้อนสู่วัยเด็กที่ชวนคิดถึงและร้องเพลงท่วงทำนองที่คุ้นเคยผ่านเพลงโปรดของแฟนๆ

บูธจากกลุ่มแฟนๆ โดย 501st Thailandหากคุณเป็นแฟนของ Star Wars ห้ามพลาดบูธของ 501st Legion Thailand กลุ่มแฟนๆที่จะแต่งกายด้วยแรงบันดาลใจจากความหลงใหลใน Star Wars พร้อมเปิดโอกาสในการถ่ายรูปรับของที่ระลึกตามธีม และอื่นๆ อีกมากมายการแสดงคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก LYKN กลุ่มศิลปินบอยแบนด์ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยโดยพวกเขาจะมาสร้างสีสัน มอบความสนุกสนานให้กับแฟนๆ และผู้เข้าร่วมงาน

พบกับงาน Disney Toy Expo Thailand 2024 ตลอด 4 วันเต็ม เปิดให้เข้าชมฟรีทั้งงาน ตั้งแต่วันนี้ – 18สิงหาคม 2567 ภายในพื้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook และ Instagram DTX Thailand 2024

พม. จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และ 2566

วันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชาบดี ชั้น 19A อาคารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566

โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวรายงาน นางภิญญา จำรูญศาสน์ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวเบิกตัวผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ

นายอนุกูล กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และ ประจำปี 2566 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2565 และ พุทธศักราช 2566 และทรงให้จัดส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปยังผู้ได้รับพระราชทาน โดยไม่ต้องเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทาน โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติตามขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ขึ้น เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ตลอดจนเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญกำลังใจ และเผยแพร่คุณงามความดีของผู้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ที่ทำประโยชน์นานัปการแก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน ในด้านการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมและพัฒนาสังคม

นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า วันนี้ มีผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ประจำปี 2565 และ 2566 รวมทั้งสิ้น 44 คน ประกอบด้วย ผู้กระทำความดีความชอบที่เป็นการบริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ จำนวน 22 คน ผู้กระทำความดีความชอบที่มีผลงานอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน จำนวน 15 คน และผู้ทุ่มเท เสียสละ และให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ในนามของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ด้วยดีตลอดมา จำนวน 7 คน โดยแบ่งเป็น 1) ชั้นตติยดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 1 คน 2) ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 5 คน 3) ชั้นเบญจมดิเรกคุณา
ภรณ์ จำนวน 13 คน 4) ชั้นเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 9 คน และ 5) ชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 16 คน

รายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566

  1. ชั้นตติยดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 1 คน ได้แก่
    นางสาวปรางพิสุทธิ์ แดงเดช
  2. ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 5 คน ได้แก่
    1) นางรมณีย์ เธียรประสิทธิ์
    2) นายปณต ประพันธ์ศิลป์
    3) นายมนัส โนนุช
    4) นางสาวพเยาว์ สุกแก้ว
    5) นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ
  3. ชั้นเบญจมดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 13 คน ได้แก่
    1) นายจิรโรจน์ ลัญฉนะวณิชย์
    2) นายฉัตรชัย ศิริไล
    3) นายปินเดอร์ปาลซิงห์ มาดาน
    4) นางปรียาภรณ์ อาชาภิรมย์ศิลป์
    5) นางสาวพรไพลิน อภิรักษ์คุณวงศ์
    6) นางสาวรณิดา นกไทยเจริญ
    7) นายกิตติภูมิ อภิรักษ์คุณวงศ์
    8) นายชัยรัตน์ นพสันติ
    9) นายเศวต เศวตสมภพ
    10) นางณัฏฐิณี เนตรอำไพ
    11) นางสาวถิรัญชา เศรษฐี
    12) นางสาวสุวรรณี ชัยสันติกุลวัฒน์
    13) นางสาวโสภณา เศรษฐี
  4. ชั้นเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 9 คน ได้แก่
    1) นายกวิน นิทัศนจารุกุล
    2) นายวิน สุธีรชาติกุล
    3) นางสาวนภัสจิรา อิงคโรจน์ฤทธิ์
    4) นางนริศรา โพธิสุวรรณ
    5) นางสาวสุชาดา กุลตันติกร
    6) นางสาวอารีพรรณ พงศ์สุวรรณ
    7) นายปภาวิน นิธิเมธาวิน
    8) นายวรเทพ ตันติวรวงศ์
    9) นางพัชนี เธียรธวัช
  5. ชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 16 คน ได้แก่
    1) นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ
    2) นายพิชญุตม์ เมฆเกรียงไกร
    3) นางวราภรณ์ ศิริบุรานนท์
    4) นางสาวโศภิชฐ์ วงษ์กมลเศรษฐ์
    5) นายบัญชา เธียรสุนทร
    6) นายวัฒนา หยังโรจนกุล
    7) นายสุขชาติ เลิศวุฒิรักษ์
    8) นายวิวัฒน์ ศิริโวหาร (อพม.)
    9) นางสาวดวงกมล สวลีตีเมืองซ้าย (อพม.)
    10) นายอติพล ดำพิลา (อพม.)
    11) นางจันทร์แสง ไชยยงค์ (อพม.)
    12) นางจารุณี กุลปิยะวาจา (อพม.)
    13) นางจินดา ศรีนุรัตน์ (อพม.)
    14) นางชนาพร ตุลยานนท์ (อพม.)
    15) นางพวงแก้ว พรมมิ (อพม.)
    16) นางสารภี บัวเกษ (อพม.)

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 ทุกท่าน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศที่จะต้องรักษาไว้เพื่อเป็นเกียรติประวัติของตนเองและวงศ์ตระกูลต่อไป รวมทั้งขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมในการจัดงานพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์

ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา
#วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม
#พมหนึ่งเดียว #พส #กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
#เครื่องราชอิสริยาภรณ์ #toptotravel

กรมการท่องเที่ยวชูมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย

กรมการท่องเที่ยวชูมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย เดินหน้ายกระดับ Supply Side ชวนเที่ยวไทยมั่นใจไปกับช้างชูงวง ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน

กรมการท่องเที่ยว เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ใช้มาตรฐานการท่องเที่ยวไทย “ช้างชูงวงเริงร่า”สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ตอกย้ำภารกิจยกระดับสินค้าและบริการครอบคลุมตลอดทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มุ่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว บริการท่องเที่ยว บุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนการอนุญาตธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ รวมถึงการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ตั้งเป้าสู่การเป็น Tourism Hub ของโลก

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดงานแถลงข่าวกรมการท่องเที่ยว ก้าวย่างอย่างยั่งยืน “ท่องเที่ยวไทยมั่นใจไปกับ DOT” ณ ลานอีเดน ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย มาตรฐานห้องน้ำสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยว

นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึง การจัดงานในครั้งนี้
“กรมการท่องเที่ยวเดินหน้ายกระดับ Supply Side ชวนเที่ยวไทยมั่นใจไปกับมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย สัญลักษณ์ช้างชูงวงเริงร่าประกอบลาย ประจำยาม ตอกย้ำภารกิจก้าวย่างอย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับผู้ประกอบการและชุมชนให้
มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เป็นธรรม การให้บริการที่ดีกับนักท่องเที่ยว รวมถึงสิ่งสำคัญในปัจจุบันคือเรื่องสิ่งแวดล้อม มีทั้งสิ้น 56 มาตรฐาน ครอบคลุมการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทั้งที่พัก สินค้าและบริการท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว ด้านแหล่งท่องเที่ยว และด้านธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งผู้ที่ได้รับรองมาตรฐานจะเป็นสถานประกอบการที่ภาครัฐรับรองว่ามีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้รองรับนักท่องเที่ยวได้ ตามเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวของรัฐบาล”

นายบุญเสริม ขันแก้ว รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้กล่าวเสริมถึงการยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยว ว่า “กรมการท่องเที่ยว ดำเนินการเรื่องการออก
ใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การยกเลิก หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว การประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ และการขึ้นทะเบียนผู้นำเที่ยว
โดยมีสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขา จำนวน 8 แห่ง ในภูมิภาคต่าง ๆ ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา หนองคาย สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ และภูเก็ต อีกทั้ง ให้บริการออกใบอนุญาตนอกสถานที่และระบบ e-Service
ในอนาคต สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยผ่านการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ บูรณาการการปฏิบัติงาน ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว คุ้มครองการประกอบธุรกิจนำเที่ยว และการประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ของคนไทย พร้อมกันนี้มีการพัฒนาศักยภาพการให้บริการด้วยการฝึกอบรม การตรวจประเมินมาตรฐานธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐานมัคคุเทศก์ มีการประกาศกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวในท้องถิ่นหรือชุมชน ให้มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นได้ตามกฎหมาย”

นายบุญเสริม กล่าวเพิ่มเติม ถึงการดำเนินงานด้านต่างประเทศ ว่า
“เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งเอเชีย มีการพัฒนาความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสัมพันธ์
อันดีกับต่างประเทศตามกรอบความร่วมมือต่างๆ โดยส่งเสริมให้มีการพัฒนามาตรฐานสมรรถนะตลอดจนรับรองมาตรฐานสมรรถนะบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ตามข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาเซียนและข้อตกลงอื่นที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ดำเนินมาตรการคืนเงินให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์ที่มีเงินลงทุนถ่ายทำในประเทศไทยสูง ส่งผลให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้ไปยังธุรกิจการถ่ายทำภาพยนตร์
รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในประเทศไทย และประชาสัมพันธ์ภาพแหล่งท่องเที่ยวของไทยสู่ทั่วโลก”

นางณัฏฐิรา แพงคุณ รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึงภารกิจด้านการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและบริการท่องเที่ยว “เพื่อให้เกิดการเดินทางและเกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวจากเมืองท่องเที่ยวหลัก ไปสู่เมืองน่าเที่ยวการพัฒนา
แหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ได้คำนึงถึงการออกแบบสิ่งจำเป็นตามโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลหรือ Tourism for All ให้สามารถรองรับและตอบโจทย์
นักท่องเที่ยวทุกเพศ ทุกวัย นอกจากนี้ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้กับชุมชนทั่วประเทศ ผ่านการตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนทั้งในระดับประเทศและระดับสากล สำหรับการพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ได้จัดทำ
มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยและตรวจประเมินมาตรฐาน ผ่ากระบวนการ
ที่เป็นสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริการทั้งหมด 36 มาตรฐาน แบ่งเป็นมาตรฐานที่พัก มาตรฐานบริการท่องเที่ยว และมาตรฐานกิจกรรมท่องเที่ยว จนมีสถานประกอบการด้านบริการที่อยู่ระหว่างการรับรองมาตรฐานไม่น้อยกว่า 1,293 แห่ง สร้างมูลค่าเพิ่มผ่านอัตลักษณ์ สินค้า บริการ และกิจกรรมของชุมชนที่ได้มาตรฐาน ต่อยอดเพื่อสร้างจุดขายให้กับนักท่องเที่ยว ตอบโจทย์ Tourism Trend มีการอบรมเสริมสร้างองค์ความรู้ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ ตลอดจนจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ การท่องเที่ยวรองรับนักท่องเที่ยวมุสลิม เพื่อส่งเสริมและบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคี
เครือข่ายในการพัฒนาการท่องเที่ยวตามประเด็นต่าง ๆ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการและชุมชนที่ได้รับมาตรฐาน ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว

ซึ่งการจัดพิธีมอบเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย ประจำปี พ.ศ. 2567 จัดขึ้นในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน”

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพัฒนาห่วงโซ่อุปทานด้านการท่องเที่ยวสร้างความยั่งยืนสู่ผู้ประกอบการ ชุมชน นักท่องเที่ยว รวมทั้งการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมดำเนินการตาม 5 กลยุทธ์ภายใต้นโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ของรัฐบาลเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Tourism Hub มุ่งหวังให้การท่องเที่ยวไทยก้าวย่างอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ได้รับบริการท่องเที่ยวที่ดี พร้อมท่องเที่ยวไทยมั่นใจไปกับ DOT

“หินซ้อน” คลิกออฟ !!

“หินซ้อน” คลิกออฟ แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำแห่งใหม่สุดอันซีนตำบลหินซ้อน สำหรับคนรักสุขภาพและการผจญภัย

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหินซ้อนร่วมกับฝ่ายปกครอง ภาคเอกชนและชาวชุมชนหินซ้อน จังหวัดสระบุรี เปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำแห่งใหม่ เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและการผจญภัย ภายใต้สโลแกน หินซ้อนแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนรักสุขภาพและการผจญภัย a wellness adventure & ecotourism destination มีนายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีเป็นประธานในพิธี

โดย ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ร่วมกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอแก่งคอยและท่าคล้อ องค์การบริหารส่วนตำบลหินซ้อน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สถานีตำรวจภูธรหินซ้อน สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี เกษตรอำเภอ ป่าไม้ นิคมสร้างตนเองพระพุทธบาท บริษัทภูมิใจไทยซีเมนต์จำกัด บ้านพักผู้สูงวัยบ้านแสงทอง เรือนแสงธรรมและหน่วยงานราชการ เอกชนหลายแห่ง สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการผจญภัย สื่อมวลชนและชาวชุมชนร่วมงานอย่างคักคัก ณ บริเวณท่าเรือตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดกิจกรรม กิจกรรมล่องป่าสัก ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ พายเรือคายัคและแคนนู พากันมาดูหมีเหนือ เสือใต้ Unseen แห่งใหม่ของชาวสระบุรี ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน

ที่สำคัญที่สุดคือการได้เห็นบรรยากาศของความสามัคคีพร้อมเพียงของทุกคนในวันนี้ที่จะมาร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำแห่งใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดสระบุรีมีชื่อด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวทางน้ำ และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับหมู่บ้าน ชุมชนทั้งในพื้นที่ของท่าคล้อและหินซ้อน วันนี้ ถือเป็นวันคลิกออฟ ใน วันเสาร์ วันอาทิตย์ ต่อไปด้วยการกิจกรรมแบบนี้ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกภาคส่วนที่มาช่วยกัน ซึ่งทางอำเภอได้จัดเตรียมงบประมาณเข้ามาเพื่อปรับปรุงสถานที่บริเวณนี้ ให้สมบูรณ์แบบเพิ่มขึ้น ทั้งตัวอาคาร ท่าลงน้ำ อุปกรณ์และห้องน้ำ


นอกจากนี้เมื่อกลับไป เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมเพื่อให้การท่องเที่ยวทางน้ำตรงนี้ได้รับการรู้จักมากขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพของหมู่บ้านชุมชน กิจกรรมล่องป่าสัก ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ พายเรือคายัคและแคนนู พากันมาดูหมีเหนือ เสือใต้ Unseen แห่งใหม่ของชาวสระบุรี
ด้านนายกิตินันท์ แม้นเลขา ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหินซ้อน เปิดเผยว่า ชมรมฯ นี้เป็นชมรมเล็กๆ ก่อตั้งขึ้นจากกลุ่มคนที่มีความรักในสิ่งเดียวกัน ที่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แห่งใหม่ของจังหวัดสระบุรี โดยเฉพาะที่ตำบลหินซ้อนแห่งนี้ ที่ไม่ได้ปรากฏเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยว ในแผนที่ท่องเที่ยวของจังหวัดมาก่อน


จริง ๆ แล้ว ตำบลหินซ้อน มี location ที่มีศักยภาพหลายด้าน เพียงแต่คนในพื้นที่ยังมองไม่เห็นเนื่องจากส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม แต่เรามองว่าศักยภาพตรงนี้ ซึ่งนอกจากหินซ้อนจะมีแม่น้ำป่าสัก ยังมีถ้ำญาณสังวร มีฟาร์มโคนมหลายแห่ง เป็นเกษตรกรที่ทํากสิกรรมอยู่ในพื้นที่ มีแหล่งอารยธรรมโบราณนับพันปี แต่ตําบลหินซ้อนยังไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่เป็นทาง
ภายใต้การสนับสนุนของภาครัฐและเอกชน ชมรมฯ จึงนำเสนอไอเดียด้านการจัดกิจกรรมในครั้งนี้กับทางภาครัฐตั้งแต่กํานัน ผู้ใหญ่บ้านทั้งตําบลหินซ้อนและข้างเคียง คือตําบลท่าคล้อรวมถึงอบต. อําเภอและจังหวัดและสมาชิกการท่องเที่ยวสระบุรีด้วย


กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ถือเป็นการนำร่องแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเป็นการต่อยอดแนวความคิดของทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีคนใหม่ที่ต้องการทำให้สระบุรีเป็นแซนด์บ็อกซ์ที่ลดคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ในจังหวัดของเรา รวมถึงจะทำให้เกิดอาชีพและรายได้จากกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แห่งใหม่นี้ เพื่อชุมชนที่ยั่งยืนต่อไป

เพลินเพลงสุนทราภรณ์ กับ ม.น.ข. เพื่อสนับสนุนการศึกษาเฉพาะกิจ

คอนเสิร์ตการกุศล “การให้ที่ยิ่งใหญ่”

อาจารย์สุรวัฒน์ ชมภูพงษ์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ม.น.ข.) นางอติพร สุนทรสนาน เสนะวงศ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุนทราภรณ์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทายาทของครูเอื้อ สุนทรสนาน เจ้าของวงดนตรี
สุนทราภรณ์และโรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ นายกสยามสมาคม  ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนายวิสูตร กาญจนปัญญาพงศ์ กรรมการบริหาร ม.น.ข.,สยามสมาคม  ในพระบรมราชูปถัมภ์ และที่ปรึกษามูลนิธิสุนทราภรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และดร.วีระชัย ณ นคร ร่วมกันแถลงข่าวการจัดคอนเสิร์ตการกุศลแห่งการให้ที่ยิ่งใหญ่ “เพลินเพลงสุนทราภรณ์ กับ ม.น.ข. เพื่อสนับสนุนการศึกษาเฉพาะกิจ” ครั้งที่ 1 (2567) ซึ่งจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2567 เวลา  18.00  – 21.00 น. ณ หอประชุมสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ 131  ถนนอโศกมนตรี  แขวงคลองเตยเหนือ  เขตวัฒนา  กรุงเทพมหานคร

อาจารย์สุรวัฒน์ ชมภูพงษ์

ภายในงานแถลงข่าว มีโชว์การขับร้องเพลงสุนทราภรณ์ จากธัช-กิตติธัช แก้วอุทัย หรือ ธัช แชมป์เพลงเอก  พรศุลี วิชเวช การเวกเสียงใสสุนทราภรณ์  แจ๊บ-ณฤพล ผิวอ่อน และ มุก – มุกอันดา ใจยงค์ คลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์

ทั้งนี้อาจารย์สุรวัฒน์ ชมภูพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ม.น.ข. เผยว่า  ม.น.ข. ดำเนินงานมาแล้วกว่า 60 ปี มีผลงานการมอบทุนการศึกษาตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคแบบ 100% เต็มให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา อย่างต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษาแล้วกว่า 20,000 คน เด็กทุกคนที่เกิดมาแม้จะมีความแตกต่างกันทางด้านครอบครัว ถิ่นกำเนิด ภาษา วัฒนธรรม และสถานะทางสังคม แต่สิ่งที่ทุกคนควรจะมีเหมือนกันคือ โอกาส และความเท่าเทียมกันทางการศึกษา 

นายวิสูตร กาญจนปัญญาพงศ์

ดังนั้น มูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ (ม.น.ข.)  มูลนิธิ
สุนทราภรณ์ฯ ซึ่งมีปณิธานในการส่งเสริม และอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไทยทางด้านดนตรี รวมทั้งสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการศึกษามาโดยตลอด และสยามสมาคมฯ สมาคมระดับนานาชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ที่มีบทบาทอย่างต่อเนื่องในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมและส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม จึงผนึกกำลังเพื่อจัดคอนเสิร์ตการกุศลแห่ง “การให้ที่ยิ่งใหญ่” ภายใต้ชื่อ “เพลินเพลงสุนทราภรณ์ กับ ม.น.ข.เพื่อสนับสนุนการศึกษาเฉพาะกิจ”  ครั้งที่ 1  (2567)  

ดร.วีระชัย ณ นคร

ซึ่งวัตถุประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้  เพื่อจัดหาทุนการศึกษาและจัดสรรทุนให้ครอบคลุมรวมถึงการศึกษาเฉพาะกิจ  และเพื่อประชาสัมพันธ์พันธกิจของ ม.น.ข. ให้องค์กร  หน่วยงาน  และบุคคลทั่วไป  ได้รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มช่องทางให้แก่ผู้มีจิตศรัทธามีส่วนร่วม “เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่” ในการมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศชาติสืบไป การจัดคอนเสิร์ตการกุศลในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ และท่านผู้หญิงมณฑินี มงคลนาวิน มาเป็นประธานกิตติมศักดิ์  โดยมี ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ศาสตราจารย์พิเศษประสิทธิ์ โฆวิไลกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวณิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร รองคณบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ มาร่วมในงานนี้ด้วย 

ภายในงานจะได้พบกับ 2 ศิลปินรับเชิญ ธัช-กิตติธัช แก้วอุทัย หรือ ธัช แชมป์เพลงเอก เนื้อเสียงเสกได้ทุกอารมณ์  อลิศ-ธนัชศลักษ์ ฮัดสัน หรือ น้องอลิศ สาวสวยวัยใส ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เพชรเม็ดงามแห่งวงการเพลงลูกกรุง และนักร้องกิตติมศักดิ์อีก 9  ท่าน  คือ อาจารย์สุรวัฒน์  ชมภูพงษ์  ประธานกรรมการ บริหาร  ม.น.ข.  คุณวิสูตร  กาญจนปัญญาพงศ์  กรรมการ ม.น.ข. สยามสมาคมฯ และที่ปรึกษามูลนิธิสุนทราภรณ์ฯ คุณอมร  กีรตินารัง ประธานบริษัท เฟมีน่า เลซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ศาสตราจารย์ ทัชมัย  ฤกษะสุต  คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ  คุณบุญเกียรติ  โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัทไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)  ดร.ภัทรินทร์  ลือกาญจนวนิช  รองประธานกรรมการบริหารนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร คุณปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา  นายกสมาคมนักศึกษาสถาบันวิทยาการตลาดทุน คุณศรีล สุขุม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบุญรอด บริวเวอรี จำกัด คุณวิรัช  ศรีพงษ์ คลื่นลูกใหม่รุ่นแรกของสุนทราภรณ์ 

บัตรชมคอนเสิร์ต ไม่มีจำหน่ายหน้างาน ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อซื้อล่วงหน้าได้ที่ สำนักงานมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน ในพระบรมราชินูปภัมภ์ (ม.น.ข.) ซึ่งตั้งอยู่ ณ ศูนย์ดิจิทัลเพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขที่  928  ถนนสุขุมวิท  แขวงพระโขนง  เขตคลองเตย  กรุงเทพมหานคร 10110 โทร.02-391-3796 ,  02-391-2324 และ สามารถรับชมออนไลน์“ฟรี”
ผ่านระบบ facebook live ได้ที่เพจ facebook ม.น.ข.

รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการจัดคอนเสิร์ตการกุศลในครั้งนี้มอบให้แก่ ม.น.ข. ซึ่งจะนำไปจัดสรรเป็นทุนการศึกษา เพื่อมอบโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษา และเป็นอนาคตที่มั่นคงของประเทศ 

สำหรับผู้ที่สนใจบริจาคทุนการศึกษา สามารถร่วมบริจาคได้ที่
บัญชีมูลนิธิช่วยนักเรียนที่ขาดแคลน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 
 ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เลขที่บัญชี 186-2-30147-8

เพลินเพลงสุนทราภรณ์ กับ ม.น.ข. เพื่อสนับสนุนการศึกษาเฉพาะกิจ
วันที่ 29 พฤษภาคม 2567  เวลา 14.00 น.
ณ หอประชุมสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์
131 ถ.อโศกมนตรี คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.

มท.ชวนเที่ยวงาน OTOP MIDYEAR 2024 หลากหลายผลิตภัณฑ์ สีสันภูมิปัญญาไทย

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 67 เวลา 11.00 น. ที่ลาน Eden ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน OTOP MIDYEAR 2024 “หลากหลายผลิตภัณฑ์ สีสันภูมิปัญญาไทย” โดยนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแถลงข่าว โอกาสนี้ นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นางอรจิรา ศิริมงคล อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยและประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน คุณภาวินี ไชยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม (ประเทศไทย) จำกัด นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย นายสมชัย อัศวชัยโสภณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย นพขำ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน สื่อมวลชน และภาคีเครือข่าย ร่วมในงาน

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า งานในวันนี้เป็นงานที่รัฐบาลชุดต่าง ๆ ให้ความสำคัญและจัดขึ้นมาเป็นเวลากว่า 20 ปี โดยรัฐบาลในปัจจุบัน ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขับเคลื่อนนโยบายในการ “เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศซึ่งกระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน มีหน้าที่ในการพัฒนาคน ส่งเสริมให้พี่น้องคนไทยทั้งชาติได้มีอาชีพ และพัฒนาศักยภาพเพื่อไปหนุนเสริมสินค้าโอทอป”เราจัดงานมหกรรม OTOP ระดับชาติปีละ 3 ครั้ง คือ OTOP CITY, OTOP MIDYEAR และ OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย และการจัด OTOP ระดับภูมิภาคอีก 4 ครั้ง ครอบคลุมทุกภาค

โดยในปีนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบนโยบายให้ปีนี้มีการจัดงาน OTOP ระดับกลุ่มจังหวัดตามกลุ่มจังหวัดทั้ง 18 กลุ่ม และจะแบ่งสัดส่วนสินค้าในงาน ได้แก่ OTOP 70% และผลิตภัณฑ์จากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี 30% เพื่อจะหนุนเสริมให้บทบาทกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในการนำเสนอสิ่งที่ดีต่อสาธารณะ รวมทั้งเสริมเรื่อง Soft Power การพัฒนาอาชีพบุคคล โดยในปีนี้ เราจะจัดประชุมพัฒนากรประจำตำบล เพื่อพัฒนาคน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาอย่างต่อเนื่องตลอด 70 ปีของการก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชนควบคู่การหนุนเสริมกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วย” นายเกรียง กล่าวเพิ่มเติม

นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า การจัดงาน OTOP MIDYEAR 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 16 มิถุนายน 2567 ภายใต้แนวคิด “หลากหลายผลิตภัณฑ์ สีสันภูมิปัญญาไทย” โดยมีพื้นที่จัดงานมากกว่า 60,000 ตารางเมตร ครอบคลุมชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี ซึ่งในปีนี้เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567

“การจัดงาน OTOP ครั้งนี้จึงจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ในโอกาสดังกล่าว โดยโซนแรก โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สะท้อนพระมหากรุณาธิคุณ โครงการพระราชดำริต่าง ๆ แนวคิดการพัฒนาประเทศ และความรู้สึกคนไทยที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โซนที่ 2 โซนหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี และอีกหลายหน่วยงาน มาจัดแสดงและจำหน่าย โซนที่ 3 OTOP Trader จับคู่ธุรกิจ โซนที่ 4 จำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP มากกว่า 2,000 ร้านค้า ทั้งผ้าไทย เครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องจักสาน อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ โซนที่ 5 OTOP ชวนชิม มากกว่า 160 ร้านค้า ทั้งประเภทอาหารและเครื่องดื่ม

โดยจะเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้เที่ยวชมงานเพื่อจะได้มีที่นั่งรับประทานอาหารเพิ่มเติม นอกจากนี้ โซนศิลปิน OTOP เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาและอนุรักษ์ภูมิปัญญาดั้งเดิมมาให้สัมผัส โดยชูภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งเป็นแกนกลางของการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนมาให้ทุกคนที่มางานได้แสวงหาความรู้ผ่านการสาธิตต่าง ๆ ควบคู่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมถึงโซนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี แบ่งเป็น 4 ภาค ภาคเหนือ Wellness ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การทอผ้าการผลิตตัดเย็บผ้า ภูมิปัญญาท้องถิ่นวิถีทอผ้า ภาคกลาง หมู่บ้านขนมหวาน ที่ดึงภูมิปัญญาขนมในแต่ละจังหวัด จนกลายเป็นขนมไทย ภาคใต้ เน้นงาน craft เครื่องถมเงิน ถมทอง และโซน First Lady นวัตกรรมสินค้าต่าง ๆ โดยผู้เลือกซื้อสินค้าจะได้ร่วมชิงโชค และพบกับสินค้านาทีทอง และในงานมีการแสดงบนเวทีซึ่งมีศิลปินหลากหลาย ศิลปินที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบัน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาแสดงบนเวทีตลอดการจัดงาน” นายสยาม กล่าวเพิ่มเติม

นายสยาม กล่าวเน้นย้ำว่า โซนไฮไลท์ของการจัดงานครั้งนี้ คือ “โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก” ซึ่งเป็นการนำเสนอผลงานแห่งการน้อมนำพระกรุณาคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยทรงต่อยอดด้วยพระอัจฉริยภาพด้านแฟชั่น เพื่อทำให้ผ้าไทยใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเวลา ทั้งลวดลายผ้า รูปแบบ กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลทำให้เกิดรายได้จากพระกรุณาคุณที่พระราชทานพระดำรินับเป็นเวลา 3 ปีกว่า ผู้ประกอบการมีรายได้รวมทั้งประเทศมากกว่า 70,000 ล้านบาท

ซึ่งในปีนี้จะมีผ้าลายสิริวชิราภรณ์ และลายพระราชทานอื่น ๆ ตลอดจนผลงานที่ได้รับการพัฒนาฝีไม้ลายมือมาให้เลือกซื้อเลือกหาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อพวกเราเลือกซื้อเลือกหาผ้าไทย แน่นอนว่าความภาคภูมิใจประการหนึ่ง คือ เม็ดเงินก็จะหมุนเวียนอยู่ในครอบครัวพี่น้องประชาชนเกษตรกรและผู้ประกอบการคนไทยด้วยกัน ไม่รั่วไหลไปต่างประเทศ และประการที่สำคัญ ในปีนี้เรานำเสนอผลิตภัณฑ์อันเนื่องจากพระดำริ Sustainable Fashion หรือแฟชั่นแห่งความยั่งยืน ซึ่งเป็นเทรนของประเทศต่าง ๆ บนโลกนี้ และงานในครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของโลกที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้นำผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาจัดจำหน่าย

นายสยาม กล่าวในช่วงท้ายว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้กรมการพัฒนาชุมชน พัฒนากระบวนงาน OTOP ให้ประชาชนได้เลือกซื้อเลือกหาสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ควบคู่กับการทำให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาศักยภาพตนเองเพื่อให้สินค้ามีมาตรฐานในระดับสูงขึ้น

ดังนั้น การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ OTOP มาจำหน่ายในงานครั้งนี้ เราจะเข้มงวดการคัดเลือกสินค้าตั้งแต่ 3 – 5 ดาว เพื่อให้พี่น้องคนไทยได้รับประสบการณ์ที่ดี เข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในลักษณะเปรียบเสมือนเหรียญ 2 ด้าน คือ 1) คนที่มาเที่ยวจะได้ชม ได้เห็นผลิตภัณฑ์และซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรการสูงยิ่งขึ้น และ 2) พี่น้องชาว OTOP ก็จะต้องปรับตัวในการพัฒนาฝีไม้ลายมือและผลงานให้มีมาตรฐานสินค้าเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ ผู้บริโภคได้สินค้าที่ดีมีมาตรฐาน ผู้ประกอบการได้รับการพัฒนา

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน และแฟนคลับ OTOP เที่ยวงาน OTOP MIDYEAR 2024 “หลากหลายผลิตภัณฑ์ สีสันภูมิปัญญาไทย” ระหว่างวันที่ 8 – 16 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ชม ช็อป ชิม แช๊ะ แชร์ การจัดงานแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย ร่วมอุดหนุนสินค้าไทย เม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศไทย ด้วยความร่วมไม้ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของพวกเราคนไทยไปด้วยกัน”

ด้าน นางสาวณัฏฐ์ณรัณกร แตงเอี่ยม ตัวแทน Excellent Creft by อุไรเบญจรงค์ จากโซนศิลปิน OTOP กล่าวว่า  ผลงานที่นำมาโชว์ผลิตภัณฑ์ครั้งนี้คือองค์พระพิคเณศวร ปางประทานพร ทรงเครื่องจักรพรรดิ เป็นการหล่อองค์พระพิคเณศขึ้นมาใหม่ ใหญ่ที่สุดที่ทำมาจากเซรามิค โดยเป็นการนำน้ำทองวาดลวดลายเป็นลายเบญจรงค์ และวาดลงบนความนูนของลายทรงจักรพรรดิ ทรงเครื่อง ด้วยน้ำทองคำแท้ และลงสีองค์ด้วยสีแดงและตกแต่งด้วยยลายดอกไม้หลากสีจักรี ทรงเครื่อง ปางเสวยสุขประทานพร ใช้เวลา 1 ปี ในการปั้นและการทำลวดลายน้ำทองคำ มีขนาดกว้าง 16 นิ้ว สูง 29 นิ้ว ซึ่งจัดแสดงในโซนศิลปิน OTOP และเป็นการเปิดตัวเบญจรงค์ลายกางเกงช้าง เบญจรงค์ GEN ใหม่ ซึ่งลวดลายบนเครื่องเบญจรงค์นี้ สามารถนำศิลปะที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละจังหวัดมาวาดลงบนจาน ซึ่งมีหลายขนาด สามารถรังสรรค์งานในสไตล์ที่เป็นตัวเองได้ โดยในงานจะมีการรับออกแบบเทรนด์กางเกงช้างประจำจังหวัดใส่บนภาชนะที่ต้องการได้  ได้รับการให้โอกาสแสดงงานโดย คุณริตยา รอดนิ่ม ผอ.กลุ่มงานส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชนเป็นครั้งแรกที่นำมาจัดแสดง”

OTOP MIDYEAR 2024 หลากหลายผลิตภัณฑ์ สีสันภูมิปัญญาไทย
8 – 16 มิ.ย. 67 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

คิทโด้ จัดแคมเปญใหญ่ คิทโด้ แจกหนักสะใจ! เอาใจคุณหนู

ชวนโพสต์ภาพลุ้นรับ iPAD พร้อมจัดโปรสุดคุ้ม ซื้อ 1 แถม 1 ทั้งแบบซองและกล่อง 

บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “คิทโด้” วิตามินเม็ดเคี้ยว เทรนใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัว หอมอร่อย ไม่เติมน้ำตาล ไม่ใส่สารกันเสีย เคี้ยวเพลิน ได้ประโยชน์เต็มเม็ด จัดแคมเปญการตลาดใหญ่ “คิทโด้ แจกหนักสะใจ!!! เอาใจคุณหนู” ขอเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่น้องๆ หนูๆ มาร่วมกิจกรรมแสนง่าย เพียงถ่ายภาพคู่กับซองผลิตภัณฑ์ “คิทโด้ ไอมู อะเซโรลา ซี พลัส มัลติวิตามิน” รสส้ม สูตรช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน หรือ “คิทโด้ โปร ดีเอชเอ พลัส บิลเบอร์รี่” รสมิกซ์เบอร์รี่ สูตรบำรุงสมองและสายตา แล้วโพสต์ภาพที่หน้าเพจ KitdoClub ลุ้นรับรางวัลใหญ่ iPAD Gen 10 และของรางวัลพิเศษอีกมากมาย มูลค่ารวมทั้งหมดกว่า 100,000 บาท!!!

โดยมีกติการ่วมสนุกง่าย ๆ ดังนี้ 
1. กด Like และกดติดตามเฟสบุ๊คเพจ Kitdo 
2. กด Like และ Share โพสต์กิจกรรมนี้โดยตั้งเป็นสาธารณะ
3. โพสต์รูปถ่ายคู่กับผลิตภัณฑ์“คิทโด้” (รสชาติใดก็ได้) พร้อมบอกว่า “ชอบ คิทโด้ รสไหน เพราะอะไร” ที่ใต้โพสต์กิจกรรมนี้ : https://bit.ly/3JL1OcG 
หมายเหตุ : สามารถโพสต์ภาพได้ 2 ภาพต่อ 1 ท่าน

ผู้ร่วมกิจกรรมมีสิทธิ์ลุ้นรับฟรีไปเลย!!!! ซึ่งมีของรางวัลมากมาย ดังนี้
1. รางวัลที่ 1  iPAD Gen 10 มูลค่า 14,900 จำนวน 2 รางวัล 
2. รางวัลที่ 2  Apple Watch SE GPS 40mm. มูลค่า 9,490 จำนวน 4 รางวัล
3. รางวัลที่ 3 เซ็ทผลิตภัณฑ์คิทโด้ วิตามินเม็ดเคี้ยว พร้อม Gift Voucher เข้าชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ 3 ใบ มูลค่า 1,090 บาท จำนวน 30 รางวัล
จะทำการสุ่มแจกรางวัลด้วยการจับฉลากรายชื่อผู้ร่วมกิจกรรมทั้งหมด โดยจะมีผู้โชคดีได้รับรางวัลทั้งหมด 

เงื่อนไขเก็บใบเสร็จซื้อสินค้าไว้เป็นหลักฐาน
1. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องเก็บใบเสร็จหรือใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการรับรางวัล โดยวันที่ซื้อสินค้าที่ระบุในใบเสร็จ จะต้องอยู่ในช่วงระยะเวลากิจกรรมเท่านั้น
2. ใบเสร็จสามารถถ่ายภาพไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการรับรางวัลได้
3. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
4. คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นอันสิ้นสุด

สามารถร่วมสนุกกิจกรรม “คิทโด้ แจกหนักสะใจ!
เอาใจคุณหนู” ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2567 และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 10 สิงหาคม 2567 ทาง Line : @Kitdo ตอนนี้ “คิทโด้” มีโปรโมชั่นราคาสุดคุ้มซื้อ 1 แถม 1 ทั้งแบบซองและแบบกล่อง ให้เลือกซื้อ ดังนี้

1. คิทโด้  แบบซอง 1 ซอง บรรจุ 12 เม็ด แถมฟรีอีก 3 เม็ด (แถมในซอง) รวมเป็น 15 เม็ด/ซอง “ซื้อ 1 แถม 1” คละรสชาติได้ เพียง 49 บาท จากปกติ 98 บาท มีจัดโปรโมชั่น 2 แห่ง คือ ตั้งแต่วันนี้ – 23 พฤษภาคม 2567 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ และ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 28 พฤษภาคม 2567 ที่ห้าง Tops ทุกสาขาทั่วประเทศ 
2. “คิทโด้” แบบกล่องบรรจุ 6 ซอง มี 72 เม็ด แถมฟรี 18 เม็ด (แถมในกล่อง) รวมเป็น 90 เม็ด “ซื้อ 1 แถม 1” คละรสชาติได้ เพียง 299 บาท (ปกติ 778 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 22 พฤษภาคม 2567 ที่ร้านวัตสัน ทุกสาขา

สามารถเลือกซื้อ คิทโด้ แล้วถ่ายภาพมาร่วมสนุกกับแคมเปญ
คิทโด้ แจกหนักสะใจ! เอาใจคุณหนู ได้ตามร้านดังหลายแห่ง
ยิ่งส่งมาเยอะยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมาก ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์
“คิทโด้” เพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ www.bshine.co.th/kitdo/,
FB : https://www.facebook.com/kitdoclub และ Line : @Kitdo