Category Archives: Event

บุญเฮ็ด บุญสร่าง

คีตะนครเอนเตอร์เทนเม้นท์
แคสติ้งนักแสดงภาพยนต์ ดราม่าแอคชั่น

เชื่อว่าทุกคนเคยตั้งคำถามว่า ตัวเรานั้นเกิดมาทำไม? เพื่อใคร?  หรือเพื่อตัวเอง? แต่สุดท้ายเราก็ลืมที่จะหาคำตอบ และใช้ชีวิตตามกระแสโลกกันต่อไป บางครั้ง  เมื่อเราประสบอะไรหนักหน่วงในชีวิต  เราก็มักจะคิดคำนึงถึงแม้สุดท้ายเราจะพบแต่ความว่างเปล่า สิ่งสำคัญคือเราได้อะไรจากหนังเรื่องนี้มากกว่า

วันนี้ toptotravel ชวนชมบรรยาการ การแคสติ้ง ภาพยนต์ บุญเฮ็ด บุญสร่างเป็นเรื่องราวของ ความรัก พลัดพราก  วิบาก  บุญกับการ  ชมการ“แคสติ้ง”
ผู้ร่วมแสดงจากเรื่อง บุญเฮ็ด บุญสร่าง  ซึ่งมีนักแสดงเข้าร่วมและให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก  ดูแล้วการเป็นดาราไม่ยากเลย  ยิ่งการแคสติ้งก็จะเป็นการทดสอบหน้ากล้อง ทั้งการอ่านบท การเล่น การสัมภาษณ์เพื่อดูทักษะไหวพริบหรือบุคลิกของผู้เข้ามาทำการแคส ก็เป็นโอกาสให้คนได้แจ้งเกิด ขึ้นมาเป็นนักแสดง นักแสดงที่มีชื่อเสียง เริ่มต้นจากการตระเวนแคสติ้งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดมีผู้กำกับเห็นคุณค่าและได้รับบทที่แจ้งเกิด

งานแคสติ้งเพื่อคัดเลือกนักแสดง ภาพยนต์แนวดราม่าแอคชั่น ความรัก พลัดพราก วิบากบุญ “บุญเฮ็ด บุญสร่าง” ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็น กรรมวิสัย

แน่นอน! วันนี้เราจึงได้รับเชิญมาร่วมชมบรรยากาศ การแคสติ้ง เรื่องราวของ ภาพยนต์ ความรัก พลัดพราก วิบาก-บุญ ด้วยจำนวนของเรื่องราวและตัวละครที่ค่อนข้างเยอะ ขณะที่ในความเป็นหนังที่นำเสนอเนื้อหาว่าด้วย นักแสดงนำเป็นเด็กต่างจังหวัด เรียนเก่ง กิจกรรมดีเด่น เรียนเก่ง กิจกรรมดีเด่น แต่ประสบปัญหาครอบครัว ชีวิตเลยหักเห พลิกผัน ไปในทางเลวร้าย ในวัยรุ่นติดยาเสพติดใช้ชีวิตเสเพล อบายมุขทุกอย่าง จนเข้ามาทำงานในกรุงเทพ ถูกตามฆ่า หนีตาย ทำให้ชีวิตรักผิดหวัง พลัดพลาก จึงตัดสินใจบวชจนถึงปัจจุบัน และได้ทำการสร้างศาสนสถาน ถาวรวัตถุ จนเป็นที่รู้จัก
ในขณะนี้ วิบากก็ย่อมมาแต่กรรม ไม่บิวพลิ้วผันแปรไปเป็นอื่น และทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเร่งรีบ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่หลงลืมที่จะมีฉากที่เปิดโอกาสให้ตัวละครได้โชว์ฝีไม้ลายมือทางการแสดงกันอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ภาพยนต์เรื่องนี้ ได้เค้าโครงสร้างจากชีวประวัติชีวิตจริง
ของ พระอาจารย์พล อธิปัญโญ เจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์  ต.ร่มเกล้า อ.นิคมคำสร้อย จ. มุกดาหาร

วัตถุประสงค์หลักของเรื่องราวในการสร้างภาพยนตร์ครั้งนี้ คุณเก็ต กล่าวว่าด้วยคณะศิษยานุศิษย์ ได้เห็นพร้องต้องกันว่า ประวัติของพระอาจารย์ท่านเป็นพระนักสร้าง มีชีวิตที่น่าจดจำโดยเฉพาะเมื่อจับมาเกี่ยวกับเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด และวิบากกรรม และน้อมนำเพื่อที่จะเป็นอุทาหรณ์ และเป็นแก่นแห่งธรรม ในการนำมาสอนในเชิงพุทธศาสนาว่าคนเราเกิดมา “เกิดแต่กรรม ธรรมมะจัดสรร” ว่าเหรียญมี 2 ด้านเสมอ ในความดี มีความร้าย ในความร้าย ก็สามารถกลับมาดีได้ ด้วยเเสงสว่างแห่งธรรม

”ความรัก พลัดพราก วิบาก-บุญ”
นี่คือหนึ่งในการสร้างด้วยคณะศิษยานุศิษย์ ได้เห็นพร้องต้องกันว่า ประวัติของพระอาจารย์ท่านเป็นพระนักสร้าง มีชีวิตที่น่าจดจำ และน้อมนำเพื่อที่จะเป็นอุทาหรณ์ และเป็นก่นแห่งธรรม ในการนำมาสอนในเชิงพุทธศาสนา ว่า คนเราเกิดมา ”เกิดแต่กรรม ธรรมมะจัดสรร” กรรม เราเป็นผู้กำหนด ธรรมะจัดสรร ถ้าพูดโดยรวม ในความหมายของ กฏแห่งธรรม เหรียญมี 2 ด้านเสมอ ในความดี มีความร้าย ในความร้าย ก็สามารถกลับมาดีได้ ด้วยเเสงสว่างแห่งธรรม

บริษัท คีตะนคร เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด แคสติ้งนักแสดงภาพยนต์แนวดราม่าแอคชั่น ความรัก พลัดพราก วิบากบุญ “บุญเฮ็ด บุญสร่าง”

นี่คือหนึ่งในทีมบริหารงาน โดยมืออาชีพ คุณเก็ต พัฒน์รดิศ อำนวยการสร้าง คุณวัตร ราชวัตร ผู้กำกับโดย คุณสจกมล อยู่สมบูรณ์  ผู้จัดการพร้อมทีมงาน ดำเนินงานแคสติ้งเพื่อคัดเลือกนักแสดง ภาพยนต์แนวดราม่าแอคชั่น ความรัก พลัดพราก วิบากบุญ “บุญเฮ็ด บุญสร่าง” ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็น กรรมวิสัย

ติดตามอ่านเรื่องราว ข่าวสาร ชมตัวอย่าง โดยคาดว่า  จะได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ประมาณปลายปี 2561 ติดตามชมกันให้ได้นะค่ะ

เปิดศึก! นวัตกรรมรถ BUS & TRUCK ’17

ประชัน นวัตกรรมรถ  เพื่อการพาณิชย์
กิจการพิเศษ แบรนด์ชั้นนำร่วมโชว์ของเด็ด!!

BUS & TRUCK ’17 งานใหญ่ในรอบปีที่รวบรวมเอาเหล่าขุนพลรถใหญ่แบรนด์ดัง มาจัดแสดงไว้ในที่เดียว พร้อมด้วยนวัตกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ และอุปกรณ์ติดตั้งต่างๆ ของรถเพื่อการพาณิชย์และกิจกรรมพิเศษ

งานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษ ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายระดมขนกันมาจัดโปรโมชั่นในแบบสุดพิเศษเพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีสำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ และเป็นช่องทางให้ผู้ผลิตยานยนต์และผู้ประกอบกิจการขนส่งได้มีโอกาสดำเนินธุรกิจร่วมกัน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจระดับประเทศ

งานรถใหญ่ระดับอาเซียนที่จัดต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 14 ปี  เรียกว่าฮอตกันตั้งแต่กลางปี เพราะมีแบรนด์ชั้นนำอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์, ไดสตาร์เทค และกู๊ดเท็มพ์ ที่ปักธงพร้อมร่วมโชว์นวัตกรรรมเด็ดในงานทั้งนี้ 3 แบรนด์ดังอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์, ไดสตาร์เทค และกู๊ดเท็มพ์ แสดงความเชื่อมั่นในงาน BUS & TRUCK ’17 ด้วยการเซ็นสัญญาเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และมีการเตรียมนวัตกรรมและของเด็ดของดีมาเปิดตัวและร่วมโชว์ในปลายปีนี้

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เผยว่า บริษัทฯ จะมีการนำนวัตกรรม
รถใหญ่เบนซ์ 3 รุ่น 3 แบบ อย่าง รถบัส รุ่น 917 รถตู้สปรินเตอร์ และรถหัวลากรุ่น Actrosโฉมใหม่มาให้ได้ชม มั่นใจว่าจะได้รับความนิยมจากลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนส่งแน่นอน นอกจากนี้ ไดสตาร์เทค ซึ่งเคยร่วมงานนี้ในก่อนและได้รับฟีดแบ็คที่ดีเนื่องจากกลุ่มรสบัสได้เข้ามาซื้อ Cloud Servers เพราะมีราคาถูกและทำงานได้หลายรูปแบบ ก็คาดว่าจะปีนี้จะมีกลุ่มลูกค้ามาเยี่ยมชมเพิ่มขึ้น โดยได้เตรียมสินค้ารุ่นใหม่และโปรโมชั่นมาให้แบบจัดเต็ม รวมถึงกู๊ดเท็มพ์ ที่ร่วมแสดงสินค้าติดต่อกันมาสองปี และได้รับความสนใจเกินคาดทุกครั้ง ทั้งห้องเย็นและแอร์ติดรถโดยสาร มั่นใจในศักยภาพของลูกค้าที่เข้าร่วมชมงาน ทั้งชาวไทยและในอาเซียนมีเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

คิมเมอร์ นำไฮดรอลิคยกสูงเปิดตัวในงาน BUS & TRUCK ’17 หวังให้กลุ่มขนส่งใช้เป็นช่องทางใหม่ในการลงทุน พร้อมนำวินซ์ตัวลากกระบะให้ลูกค้าได้เลือกใช้งาน มั่นใจสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มขนส่ง

คุณคิม คาทัสมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิมเมอร์ จำกัด ผู้แทนจำหน่าย
ไฮดรอลิคและกระบอกไฮดรอลิค เปิดเผยว่า ด้วยทางบริษัทฯ ได้ทำการนำเข้าและจำหน่ายไฮดรอลิคยกสูงยี่ห้อ HIDROMAS จากกลุ่มประเทศยุโรป จึงได้นำมาเปิดตัวในงาน BUS & TRUCK ’17 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่  2-4 พฤศจิกายน 2560 ที่ไบเทค กรุงเทพฯ  ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ตรงกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ มากที่สุด

คุณภาพการทำงานของ ไฮดรอลิคยกสูงยี่ห้อ HIDROMAS สามารถยกน้ำหนักสิ่งที่บรรทุกมาได้มากกว่า 40 ตัน ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยในเมืองไทย มีเพื่อนพันธมิตรที่จำหน่ายไฮดรอลิคยกสูงอยู่เพียงยี่ห้อเดียว จึงถือว่าเป็นช่องทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มขนส่ง ที่จะช่วยประหยัดต้นทุนและช่วยเพิ่มผลกำไรได้เป็นอย่างมาก

“ด้วยทางบริษัทฯ มองว่าในปี 2560 เป็นต้นไป จะมีโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ทั้งของทางเอกชนและรัฐบาลเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก การนำไฮดรอลิคยกสูงที่ช่วยในการขนถ่าย อิฐ หิน ปูน ทราย ให้แก่ผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงทางบริษัทฯ ยังให้บริการทำการติดตั้งให้อีกด้วย”

นอกจากนี้ยังมีสินค้าอีกตัวที่ทางบริษัทฯ นำไปให้เป็นทางเลือกแก่กลุ่มขนส่งก็คือ วินซ์ ที่สามารถใช้ลากจูงกระบะที่บรรทุกสินค้าอยู่ริมถนนให้ขึ้นมาบนถนนได้ เพื่อให้การขนส่งใช้เวลาที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วยสำหรับสินค้าที่บริษัทฯ จำหน่ายอยู่เดิมนั้นคือ ไฮดรอลิคและกระบอกไฮดรอลิค ทีใช้ในรถขนขยะ อย่างเมื่อเทขยะลงไปในกระบะ
ไฮดรอลิคก็จะดูดขยะให้ไปเก็บไว้ท้ายกระบะ ซึ่งสินค้าทุกอย่างที่บริษัทฯ ทำการจำหน่ายล้วนแต่มีคุณภาพระดับสูงทั้งสิ้น

ทีวีพี ส่งตัวโม่ 5 คิว พร้อมติดตั้งบนรถใหญ่ทุกยี่ห้อ ตอบโจทย์ลูกค้า งาน BUS & TRUCK ’17

ทีวีพี ออโต้พาร์ท มั่นใจนำตัวโม่ขนาด 5 คิว เข้าร่วมแสดงในงาน BUS & TRUCK ’17 จุดเด่นด้านราคาที่ประกอบในประเทศ พร้อมทั้งทำการติดตั้งให้กับลูกค้า หากลูกค้าไม่มีรถใหญ่สามารถซื้อได้ที่บริษัทฯ ซึ่งมีการนำเข้ารถใหญ่มือสองนิสสัน ยูดี ประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่าย

คุณสมนึก มงคลภิญโญภาส ประธานกรรมการ บริษัท ทีวีพี ออโต้พาร์ท จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยทางบริษัทฯ ทำธุรกิจจำหน่ายโม่ปูนมาอย่างยาวนาน และในช่วงปลายปีนี้ได้ทำการขยายโรงงานเพื่อจะได้ประกอบตัวโม่เพิ่ม ซึ่งตรงกับช่วงเดียวกันที่งาน BUS & TRUCK ’17 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560 ที่ไบเทค กรุงเทพฯ จึงทำให้ทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมแสดงในงานนี้

สินค้าที่ทางบริษัทฯ  นำไปแสดงในงาน BUS & TRUCK ’17 ก็คือ ตัวโม่ขนาด 5 คิว ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดก่อสร้างเป็นอย่างมาก และสิ่งที่สำคัญที่ทางบริษัทฯ จะทำการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มลูกค้าได้ทราบก็คือ ตัวปั๊มและมอเตอร์ ซึ่งได้นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น สามารถใช้งานได้นานโดยไม่มีปัญหาใด ๆ และเมื่อนำมาใช้กับตัวโม่ขนาด 5 คิว ก็จะช่วยผลักดันให้งานที่ทำอยู่ไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

สิ่งหนึ่งที่เป็นที่ต้องการของลูกค้าเป็นอย่างมากก็คือ การให้คนขายตัวโม่ทำการติดตั้งในตัวรถให้ด้วย ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ทำตามที่ลูกค้าต้องการ สามารถติดตั้งได้ในรถใหญ่ทุกยี่ห้อ และหากในงาน BUS & TRUCK ’17
มียอดขายเกินที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ก็พร้อมที่จะให้ทางโรงงานเพิ่มเวลาทำงาน สามารถผลิตตัวโม่ได้ตามที่ลูกค้าต้องการภายในเวลาที่รวดเร็ว

ส่วนธุรกิจอีกแผนกหนึ่งก็คือ การนำเข้าและจำหน่ายรถใหญ่มือสองจากประเทศญี่ปุ่น ยี่ห้อฮีโน่ และนิสสัน ยูดี ซึ่งมีคุณภาพสูงกว่ารถเก่าที่จำหน่ายในเมืองไทย เพราะตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นได้กำหนดอายุการใช้งานของรถใหญ่ไม่เกิน 8 ปี การทำงานก็ไม่สมบุกสมบันเหมือนในเมืองไทย หากลูกค้ารายใดมีรถใหญ่ไม่เพียงพอกับงานที่ได้ทำสัญญามาก็สามารถซื้อรถใหญ่จากบริษัทฯ เพื่อประกอบตัวโม่ได้ในทันที

Hino 500 Victor Limited Edition รุกตลาดแค่ 500 คัน
พร้อมโชว์สมรรถนะ งาน BUS & TRUCK ’17

รถใหญ่ฮีโน่ ฉลองต่อเนื่องในโอกาสที่ทำตลาดขนส่งในเมืองไทยครบรอบ 55 ปี และสามารถทำยอดขายได้มากถึง 3.5 แสนคัน ส่ง  Hino 500 Victor Limited Edition ที่มีเพียง 500 คัน เข้าร่วมแสดงในงาน BUS & TRUCK ’17 ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560  ที่ไบเทค กรุงเทพฯ

 

Hino 500 Victor Limited Edition ปฏิวัตินวัตกรรมรถบรรทุกกับ 500 Victor ที่รวบรวมจุดเด่นต่าง ๆ ไว้มากมายใน ทั้งรูปโฉมโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยและเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภท ทั้ง Off road & On road มาพร้อมความสะดวกสบาย ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เช่น หัวเก๋งแบบลอยตัวและระบบถุงลมที่นั่งคนขับ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน ระบบยกหัวเก๋งด้วยไฟฟ้าสะดวกง่ายดายในการซ่อมบำรุงรักษา พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเก๋ง เช่น เปิด-ปิดกระจกหน้าต่างด้วยไฟฟ้า พร้อม central lock แผงหน้าปัด LCD ทันสมัยง่ายในการสังเกตุและมองเห็น ส่วนเรื่องความแข็งแรงทนทาน แชสซีใช้เหล็กที่แข็งแรงทนทานขึ้น ออกแบใหม่ให้สะดวกรวดเร็วและลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง

ตัวถังและอุปกรณ์พิเศษ กับความปลอดภัยเต็มพิกัด ฮีโน่ Victor ทุกรุ่น จะติดตั้งระบบเบรค แบบ Full Air Brake และ Air bag เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อม มี ABS ให้ลูกค้าเลือกใช้ พิเศษสุดกับระบบปฏิบัติการขนส่งอัจฉริยะ iQ-san ที่ให้มากกว่า ระบบ GPS ทั่วไป เพราะได้เพิ่มระบบ Safety และ ระบบ training ให้กับคนขับ ที่แสดงทั้งภาพและเสียงเตือนขณะขับขี่ และรายงานผลให้กับผู้เกี่ยวข้อง มาพร้อมกับเครื่องรูดใบขับขี่ ตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก

พิเศษ ในโอกาสที่ฮีโน่ฉลองครบรอบ 55 ปี กับ Hino 500 Victor Limited Edition มีทั้งหมด 2 รุ่นได้แก่ HINO 500 VICTOR – FM1AK1B (Truck Tractor) ; หัวลาก 344 แรงม้า และ HINO 500 VICTOR – FM2PK1B (Truck Tractor ) ; หัวลาก 380 แรงม้า ปรับเปลี่ยนรูปโฉมทั้งภายในและภายนอกสุดทันสมัย ที่สำคัญเอกลักษณ์พิเศษอย่างนี้ มีเพียง 500 คันเท่านั้น

นอกจากนี้ ทางฮีโน่ยังได้วางกลยุทธ์ที่จะดึงให้กลุ่มขนส่งต้องนึกถึงยี่ห้อฮีโน่เมื่อต้องการซื้อรถใหญ่เพื่อใช้งาน โดยจะมีโปรโมชั่นพิเศษที่เหมาะกับการขนส่งในช่วงปลายปี ซึ่งตรงกับช่วงของงาน BUS & TRUCK ’17 ทำให้ลูกค้าของฮีโน่ทำหน้าที่เพียงแค่ใช้รถในการขนส่งเท่านั้น แต่การดูแลรักษารถจะเป็นทางฮีโน่ที่ช่วยดูแลให้

คาร์แทรคโชว์ GPS ระดับ Cloud
พบของจริงในงาน BUS & TRUCK ’17

คาร์แทรค เทคโนโลยี ให้บริการด้านการติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) และการจัดการระบบขนส่งอุปกรณ์จีพีเอสของคาร์แทรคมีคุณภาพสูง พร้อมรับประกันอุปกรณ์ตลอดอายุการใช้งาน สามารถติดตั้งคู่กับเครื่องรูดใบขับขี่แบรนด์มาตรฐานของโลก

คุณสมบัติเด่นของคาร์แทรค GPS Real-Time Monitoring การติดตาม และตรวจสอบยานพาหนะแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ 3G คาร์แทรคใช้ระบบคลาวด์ในการให้บริการ ผู้ประกอบการสามารถล็อกอินผ่านอินเตอร์เน็ต สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้ทุกที่ทุกเวลา

Unlimited User ID คาร์แทรคให้จำนวนผู้ใช้งานอย่างไม่จำกัด จะแบ่งกันดูแลรถเป็นกลุ่ม ๆ ตามประเภทรถ ตามหน่วยธุรกิจ ตามระดับการบังคับบัญชา ตามสาขาต่าง ๆ ฯลฯ Live Position Streamingทราบทันทีว่ารถอยู่ที่ไหนด้วย GPS ของคาร์แทรคสภาพรอบ ๆ ณ สถานที่นั้นเป็นอย่างไร เชื่อมโยงผ่าน google earth แล ะgoogle street view

Route Replay  เรียกดูเส้นทางวิ่งย้อนหลัง ได้ถึง 6 เดือนจากหน้าฟลีท และสามารถขอข้อมูลย้อนหลังได้ถึง 5 ปี Geofence  การสร้างกรอบพื้นที่เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนผ่านอีเมล์เมื่อรถไปถึงจุดหมาย การใช้จีโอเฟนซ์อย่างสร้างสรรค์ ช่วยให้ผู้ประกอบการติดตามเส้นทางและสถานที่ที่รถต้องจอดแวะรายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

Point of Interest การสร้างจุดสนใจ แลนด์มาร์กไว้ตามเส้นทาง เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สถานที่ที่ต้องลงสินค้า สี่แยกสำคัญ ๆ ป้อมตำรวจ ฯลฯ การใช้จุดสนใจควบคู่กับจีโอเฟนซ์อย่างสอดคล้องกัน จะช่วยให้ผู้ประกอบการควบคุมดูแลเส้นทางของรถขนส่งได้อย่างสบายใจDriving Behavior& Driving Performanceการ ติดตามดูพฤติกรรมคนขับ ทั้งในรูปแบบ real-time  และการส่งเป็น Alerts/Reports  เมื่อคนขับกระทำพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ทำให้ผู้ประกอบการทราบความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทุกอย่างทุกเรื่อง ทุกเวลา

Report Generation  รายงานของคาร์แทรคมีทั้งแบบมาตรฐาน เกือบ 200 แบบ และแบบที่สร้างเอง (customized report) ตามแบบที่ผู้ประกอบการต้องการโดยเฉพาะ ได้อีกหลากหลายไม่จำกัดจำนวน

โดยกลุ่มบริษัทคาร์แทรคได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2547 ที่ประเทศอัฟริกาใต้ โดยเริ่มต้นจากธุรกิจกู้คืนรถที่ถูกโจรกรรม (Stolen Vehicle Recovery) โดยมีทีมวิจัยและพัฒนามืออาชีพทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ (Eco-System) เป็นของตัวเอง ทำให้สามารถกู้คืนรถที่ถูกขโมยได้ถึง 94% ต่อมาจึงได้ขยายธุรกิจในด้านการติดตามยานพาหนะในองค์กรธุรกิจ (Corporate fleet management)ปัจจุบันเปิดดำเนินการใน 24 ประเทศทั่วโลก มีลูกค้าไว้วางใจใช้บริการมากกว่า 658,000 ราย และได้จดทะบียนในตลาดหลักทรัพย์โจฮันเนสเบอร์ก (Johannesburg Stock Exchange – JSE) โดยมีมูลค่าตลาด 8,000 ล้านบาท

ไอวีโก้ ส่ง 3 รุ่นเด่น เอาใจผู้ประกอบการฯ
จัดเต็มโปรโมชั่นเฉพาะงาน BUS & TRUCK ’17

ค่ายไอวีโก้ เตรียมเปิดตัวรถหัวลากรุ่นใหม่ 410 แรงม้า ให้งาน BUS & TRUCK ’17 เป็นเวทีเปิดตัว เจาะกลุ่มขนส่งที่ต้องวิ่งทางไกลทั้งในและประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมนำรถหัวลาก 380 แรงม้า และรถมิกเซอร์ 290 แรงม้า เพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในงาน เน้นอย่าพลาดมีโปรโมชั่นเด็ดแน่นอน

คุณสุขสมเกียรติ เสือกลิ่นศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.เอส.เค. กรุ๊ป เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถไอวีโก้ ประเทศอิตาลี เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมแสดงงาน BUS & TRUCK ’17 ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560 ที่ไบเทค กรุงเทพฯ ทางบริษัทฯ ได้ตัดสินใจที่จะจัดงานเปิดตัวรถหัวลากรุ่นใหม่ขนาด 410 แรงม้า ขับเคลื่อนสองเพลา
ซึ่งเหมาะกับกลุ่มขนส่งที่ต้องขนส่งทางไกล ไม่ว่าจะเป็น ทั้งในประเทศ หรือประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน

พร้อมทั้งยังมีรถหัวลากรุ่นเด็ด ขนาด 380 แรงม้า ซึ่งเหมาะกับการบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ทั้งเพื่อการนำเข้า-ส่งออก รวมถึงวิ่งขนส่งในประเทศด้วย เท่าที่ผ่านมาพบว่ารถหัวลากรุ่น 380 แรงม้านี้เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก สามารถทำยอดจำหน่ายได้มากสุด

ส่วนรุ่นมิกเซอร์  290 แรงม้า เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ผู้รับเหมาก่อสร้างต่างต้องการเป็นอย่างยิ่ง เพราะในโครงการเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ ต้องใช้รถมิกเซอร์เพื่อผสมปูนในการก่อสร้างถนนและอาคารต่าง ๆ อย่างมากมาย

“ด้วยทางบริษัทฯ ถือได้ว่าเป็นพันธมิตรที่ดีกับงาน โเดยเข้าร่วมแสดงติดต่อกันแทบทุกปี ในปีนี้ถือได้ว่า ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นกลับคืนเต็มที่แล้ว งานขนส่งก็มีตามมา ดังนั้นจึงคาดว่ายอดขายรถใหญ่ที่ทางบริษัทฯได้นำเข้าร่วมในงาน BUS & TRUCK ’17 จะต้องขายได้ดีแน่”

และสิ่งที่ขาดไม่ได้ ที่รถใหญ่ไอวีโก้ได้ร่วมงาน BUS & TRUCK ทุกครั้ง จะต้องมีโปรโมชั่นเด็ด ๆ มานำเสนอเสมอ และงานในปีนี้ ค่ายไอวีโก้ก็ได้เตรียมแคมเปญเด็ด ๆ ที่เหนือกว่าทุกปีมานำเสนอให้กับกลุ่มขนส่งด้วย พลาดไม่ได้เพราะจะมีเฉพาะในงาน BUS & TRUCK ’17 เพียงงานเดียวเท่านั้น

ไดสตาร์ ส่งเครื่องเสียงใหม่ 24 Vเจาะกลุ่มลูกค้ารถทัวร์
BUS & TRUCK ’17   เปิดตัวเครื่องเสียง 24 V ในงาน BUS & TRUCK ’17 รายแรกของเมืองไทย ราคาถูกกว่าแบบเดิม 12 V ที่ต้องนำมาดัดแปลงใหม่ มั่นใจกลุ่มรถทัวร์ต้องนำไปติดรถสร้างความบันเทิงให้ผู้โดยสาร พร้อมเป็น One Stop Service เพื่อสร้างแบรนด์รอยัลตี้ให้ติดตลาด

แหล่งข่าวระดับสูง บริษัท ซูเล็ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับงาน BUS & TRUCK ’17 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560 ที่ไบเทค กรุงเทพฯ ทางบริษัทฯ ได้ตกลงใจที่เข้าร่วมแสดงในงานครั้งนี้ และได้นำสินค้าตัวใหม่เข้าเปิดตัวในงาน คือ เครื่องเสียงรุ่นใหม่ 24 V

เครื่องเสียง 24 V ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับรถบัส รถบรรทุกโดยเฉพาะ เนื่องด้วยในตลาดปกติทั่วไปจะใช้เครื่องเสียงรถบ้าน 12V ไปติดในรถบัสหรือรถบรรทุกที่ใช้ไฟ 24V การติดตั้งนั้นจึงต้องดัดแปลง หรือ เพิ่มอุปกรณ์ ทำให้เกิดผลเสียหลายอย่าง ทาง Distar จึงคิดค้นสินค้าขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย

Distarเป็นผู้ให้บริการแบบ One Stop Service ครบทุก ไลน์โปรดักช์ สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะ เช่น GpsTracking ,ระบบ MDVR, ระบบความบันเทิงสมบูรณ์แบบ(MOD) รวมทั้ง

กล้องติดรถต่าง ๆ อีกมากมาย ซึ่งจุดเด่นของสินค้านอกจากเรื่อง ฟังก์
ชั่นการใช้งานแล้ว ยังเน้นเรื่องความแข็งแรงทนทานของวัสดุอุปกรณ์ที่
ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในยานพาหนะโดยเฉพาะ

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 25 ปี และมีทีมงานทั้งในและต่างประเทศที่มีมากกว่า 800 ชีวิต จึงสามารถให้บริการครบวงจรในรูปแบบ one stop service พร้อม Monitoring Service 24 ชั่วโมง อีกทั้งสินค้ามีความหลากหลายตามความต้องการของประเภทธุรกิจซึ่งออกแบบมาเพื่อรถเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ และผ่านมาตรฐานจากกรมขนส่งทางบก สามารถช่วยลดต้นทุนการจัดการให้กับธุรกิจพร้อมสร้างความแตกต่างให้กับการบริการ นั่นคือเหตุผลที่ต้องเลือก Distar

ทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมแสดงในงาน BUS & TRUCK ’17 เข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องหลายปี  เพื่อต้องการที่จะสร้างแบรนด์รอยัลตี้ให้ติดตลาดรถทัวร์ เมื่อลูกค้าที่จะใช้อุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้โดยสารภายในรถก็ต้องคิดถึงยี่ห้อไดสตาร์เป็นหลัก

โปรโมชั่นพิเศษที่จะมีในงาน BUS & TRUCK ’17 บริษัทฯ จะประกาศให้ทราบก่อนงานเริ่มอย่างแน่นอน เพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดเฉพาะในงาน BUS & TRUCK ’17 นี้เท่านั้น

เมอร์เซเดส-เบนซ์, ไดสตาร์เทค และกู๊ดเท็มพ์
ปักธงพร้อมร่วมโชว์นวัตกรรรมเด็ดในงาน จัดขึ้นช่วงปลายปี 2560 บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร  วันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2560
ณ ไบเทค กรุงเทพฯ

สายการบินนิวเจน NewGen เฮรับข่าวดี

ICAO ปลดธงแดงประเทศไทย
ขยายเส้นทางบิน50เส้นทาง ธ.ค.นี้

สายการบินนิวเจน NewGen  จุดพลุรับ  ICAO ปลดธงแดงขยายเส้นทางประเดิมเปิดเส้นทางในประเทศ  2 เส้นทาง ปี 61  เปิดเกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย เตรียมขยายเส้นทางการบินเต็มอัตราทั้งเส้นทางบินในประเทศและเส้นทางบินระหว่างประเทศรวมเป็นมากกว่า 50 เส้นทาง เผย ธ.ค.นี้ เปิดเส้นทางบินในประเทศต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงท้ายปี หลังจับมือภาครัฐ-เอกชน จ.นครราชสีมา ร่วมเปิดเส้นทางบิน

นครราชสีมา-เชียงใหม่
และนครราชสีมา-ภูเก็ต

โดยรองรับผู้โดยสาร ทั้งภาคธุรกิจและภาคท่องเที่ยว รวมถึงบุคคลทั่วไป คาดมีผู้ใช้บริการปีละ 200,000  คน มั่นใจว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจ.นครราชสีมา คึกคัก พร้อมเตรียมขยายเส้นทางบิน ระหว่างประเทศ อีก 3 ประเทศ  ในปี 2561 ในเกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดีย จากปัจจุบัน  มีบินตรงสู่จีน 37 เส้นทาง คาดเพิ่มผู้โดยสารอีก 500,000   ราย จากปี  2560 ที่คาดว่า  จะมีผู้โดยสารใช้บริการ 1,500,000 ราย


นายเจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนิวเจน ผู้ให้บริการเครื่องบินโดยสารระหว่างประเทศด้วยบริการเกรดพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า หลังจากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ   (ICAO)  ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านการบินระดับโลกได้ปลดธงแดงหน้าชื่อประเทศไทยออกนั้น ถือเป็นข่าวดีของอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย เพราะจะทำให้ผู้ให้บริการสายการบินต่างๆเดินหน้าขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อกังวลใดๆ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์การให้บริการของประเทศไทยที่ได้มาตรฐานระดับสากล และจะสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่จะเดินทางมาประเทศไทย โดยในส่วนของสายการบินนิวเจนนั้นก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะทำการขยายเส้นทางการบินควบคู่กันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันสายการบินนิวเจนประสบความสำเร็จในการให้บริการสายการบินระหว่างประเทศโดยเฉพาะเส้นทาง ไทย-จีน จำนวน 3 เส้นทางนั้น ล่าสุดได้มีแผนที่จะเปิดให้บริการเส้นทางการบินภายในปี 2561 อีก 3 ประเทศ ไต้หวัน เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่ให้บริการแบบพรีเมี่ยม และเป็นทางเลือกของผู้โดยสารให้มีความหลากหลายขึ้น

นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดเส้นทางการบินภายในประเทศ โดยได้ร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครราชสีมา หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และตัวแทนจากภาคเอกชนทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมจะเปิดเส้นทางบิน นครราชสีมา – เชียงใหม่ และเส้นทางบินนครราชสีมา – ภูเก็ต ในวันที่ 3 ธันวาคมปีนี้ เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวที่จะมีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่น รวมถึงผู้โดยสารเดินทางเพื่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปอาทิ นักเรียน – ศึกษา ซึ่งมีความต้องการใช้บริการการเดินทางค่อนข้างมาก ซึ่งคาดว่าการเปิดเส้นทางบินใหม่โดยใช้ฐานที่ท่าอากาศยาน จ. นครราชสีมา ทั้ง 2 เส้นทางจะทำให้สายการบินนิวเจนมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นปีละ200,000 ราย

ทั้งนี้หลังจากที่สายการบินนิวเจนเปิดเส้นทางการบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ตามแผนจะทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ประมาณ.500,000ราย และหากรวมกับแผนการขยายเส้นทางการบินต่างประเทศแล้วจะทำให้สายการบินนิวเจนมีเส้นทางการบินรวมทั้งสิ้นมากกว่า 50 เส้นทาง  ภายในปี 2561  ส่วนในปี  2560 นี้ ยังคงคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้โดยสาร 1,500,000 ราย

นายเจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ สายการบินนิวเจน

“สาเหตุที่เลือกเปิดเส้นทางบินในประเทศแห่งแรกโดยใช้ท่าอากาศยานนครราชสีมา เป็นศูนย์กลางนั้น เนื่องจาก จังหวัดนครราชสีมามีความพร้อมหลายด้าน ทั้งสนามบิน และการเติบโตของเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นหัวเมืองใหญ่เป็นประตูสู่ภาคอีสานเป็นศูนย์กลางการค้าและการคมนาคม รวมถึงการท่องเที่ยว เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีประชากรเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด หรือ GDP สูงที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” นายเจริญพงษ์ กล่าว

สำหรับนโยบายการเปิดเส้นทางบินของสายการบินนิวเจนนั้น เราจะเน้นเส้นทางบินที่ยังไม่มีการเปิดให้บริการหรือมีการเปิดให้บริการที่ยังน้อย เช่นปัจจุบันที่เราประสบความสำเร็จในการบินไทย-จีน ก็เป็นการบินในเส้นทางที่บินไปเมืองรอง ทำให้ได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารที่ไม่ต้องการเดินทางไปขึ้นเครื่องบินในเมืองใหญ่ และสำหรับการเปิดเส้นทางจากนครราชสีมาไปเมืองต่างๆ ก็เป็นการบินตรง เช่นกัน  จะทำให้ผู้โดยสารสะดวกและประหยัดค่าเดินทางจากเดิมที่ต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินหลักในเมืองหลวง นอกจากนี้เรากำลังศึกษาเส้นทางต่างๆจากสนามบินอู่ตะเภา เพื่อเชื่อมโยงไปยังเมืองหลักสำคัญๆในประเทศที่ยังไม่มีเส้นทางบินตรง
ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆนี้”

ปาร์ตี้สุดหรูท๊อคออฟเดอะทาวน์!! ที่ดีที่สุด

แฟชั่นแบรนด์ดัง มิลิน พร้อมดีเจชื่อดังทั้งไทยและเทศร่วมผสานแรงบันดาลใจผ่านดนตรีและแฟชั่นไว้อย่างอลังการ

ผ่านพ้นไปแล้ว.. สำหรับปาร์ตี้ทอล์คออฟเดอะทาวน์แห่งปี  FLY BEYOND TONIGHT โดย  เกรย์  กูซ  ได้มอบความเป็นที่สุดแห่งที่สุดประสบการณ์ปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ผสานเอาแรงบันดาลใจทางดนตรีและแฟชั่นเข้าด้วยกันเป็นครั้งแรกของเมืองไทย

นายกสิณสุข   มะกล่ำทอง  SENIOR  CUSTOMER  MARKETING MANAGER เผยว่า  เกรย์ กูซ ตั้งใจจะเฉลิมฉลองประสบการณ์ปาร์ตี้ที่สุดแห่งที่สุด ที่ผสานเอาแรงบันดาลใจของเสียงเพลงและ แฟชั่นไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรก ด้วยการรวมศิลปินชื่อดังในวงการเพลงทั้งไทยและเทศถึง 6 คน เริ่มจากศิลปินไทยอย่าง KYMC (เควายเอ็มซี) , PAKA(ผกา) ศิลปินเจ้าของรางวัลชนะเลิศจากเวทีประกวดระดับนานาชาติอย่างเรดบูลคอมเพททิชั่น, เสริมทัพด้วยดีเจหนุ่มหล่อ NOXRO (น็อก์ซโร) และเพิ่มความพีคด้วย ลิเดีย ศุรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา เปิดโชว์ในเพลงพิเศษ LIKE A GREY GOOSE FLY สุดเซอร์ไพร์ซ  ที่สะกดคนทั้งฮอลล์ไว้ด้วยน้ำเสียงทรงพลัง และการดีไซน์ร้องที่เป็นเอกลักษณ์

หลังจากนั้น มิลิน ยุวจรัสกุล ดีไซนเนอร์ชื่อดัง เปิดตัวคอลเล็กชั่นสุดพิเศษ Autumn/ Winter 2017  Collection :  REHAB SEASON (รีแฮพ ซีซั่น)
จากแรงบันดาลใจบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของโลกแฟชั่น ผสานเข้ากับเทคโนโลยี แสง สี เสียง สุดล้ำสมัย บนเวที

ครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมเอาเซเลบ ดารา และผู้คนในวงการแฟชั่นไว้อย่างคับคั่งแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยทีเดียว

เกรย์ กูซ ซูเปอร์พรีเมียมวอดก้าชื่อดังระดับโลก จากแคว้นคอนยัค ประเทศฝรั่งเศส ด้วยความตั้งใจที่จะรังสรรค์เครื่องดื่มวอดก้าที่ดีที่สุดในโลก จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ผสานเข้ากับที่สุดของวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่ได้รับการบรรจงปลูกและเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถันผ่านกระบวนการกลั่นเฉพาะตัวให้ได้มาซึ่งวอดก้าที่มีความบริสุทธิ์ที่สุด ปราศจากสีและกลิ่น แต่ยังอุดมไปด้วยรสสัมผัสแบบธรรมชาติ บรรจุลงขวดแก้วดีไซน์โดดเด่น สมกับคุณค่าของความเป็นที่สุดของซูเปอร์พรีเมียม

ปิดท้ายด้วย  ความมันส์ขั้นสุดกับ 3 ดีเจชื่อดังระดับโลกอย่าง HEROBUST(ฮีโร่บัสท์) , HEATBEAT(ฮีทบีท) และ  BASSMODULATOR (เบสโมดูเรเตอร์) ทำให้ความแรงของคืนนั้นสูงขึ้นจนจบงาน โดยมี เกรย์ กูซ มิกซ์โซโลจิส คอยรังสรรค์เครื่องดื่ม บอกเล่าเรื่องราวของค่ำคืนความเป็นที่สุดแห่งที่สุด  GREY GOOSE FLY BEYOND BANGKOK   (เกรย์ กูซ ฟลาย บิยอน แบ็งค็อก) ด้วยการนำเอกลักษณ์ของประเทศเขตร้อน ผ่านส่วนผสมอย่าง GINGER LIQUEUR (จิงเจอร์ ลิคเกอร์) และ น้ำสัปปะรดสด เสิร์ฟพร้อมกับเกรย์ กูซ วอดก้า อย่างสดชื่นและนุ่มลึกอย่างลงตัวที่สุด เฉกเช่นเดียวกับกับปาร์ตี้ FLY BEYOND TONIGHT ที่จะเกิดขึ้นต่อไปตามมหานครอื่นๆของโลกต่อไป

ร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์ ถิ่นแดนไหม

สุดยอดผ้าไหมประจำถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน

ผ้าไหมทอมือ ถือเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของทางภาคอีสาน ที่มีความละเอียดอ่อนชมการแสดงผ้าไหมอันวิจิตร หาดูยาก และสาธิตถึงกระบวนการผลิตแบบใกล้ชิด พร้อมชมแฟชั่นโชว์ผ้าไหมโดยนางแบบชื่อดัง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์”

ไหมกลายเป็นสินค้าที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของประชาชน รวมทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ 4 ลายศิลป์

นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดกล่าวว่า ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์จากไหมเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกิดขึ้นมายาวนานหลายร้อยปี ในสมัยอดีตผ้าไหมและการทอผ้าไหม เป็นเพียงการผลิตใช้ภายในครัวเรือนเท่านั้น

ปัจจุบัน ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์จากไหมกลายเป็นสินค้าที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ของประชาชน รวมทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ คือจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และ จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้รับมอบหมายการส่งเสริม สนับสนุนผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผ้าไหมให้มีการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพิ่มช่องทางการตลาดโดยการประชาสัมพันธ์ นำผลิตภัณฑ์ไหมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้นวัตกรรมใหม่ๆ  มาให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ รวมทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผ้าไหม มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น พบปะและแข่งขันทางธุรกิจ ตลอดจนการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่กลุ่ม จังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์

นายสฤษดิ์ กล่าวต่อว่า จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ได้จัดโครงการยกระดับผ้าไหมกลุ่มจังหวัดสู่การเป็นศูนย์กลางออกแบบผลิตภัณฑ์จากไหมในภูมิภาค จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไหม และ ผลิตภัณฑ์ OTOP ในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งจะจัดกิจกรรมโรดโชว์ขึ้น
2 ครั้ง  โดยจัดขึ้น
ครั้งแรกระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ
ครั้งที่สองระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน และ 1 ตุลาคม ณ เซ็นทรัลบางนา



โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหม และผลิตภัณฑ์จาก
ไหมกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และเพิ่มช่องทางการตลาด สร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายทางการค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ OTOP และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นการผลิตผ้าไหมในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์จากไหม และ ผลิตภัณฑ์ OTOP ในพื้นที่ต่างจังหวัด ครั้งแรกระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ ครั้งที่สองระหว่างวันที่ 27-30 กันยายน และ 1 ตุลาคม ณ เซ็นทรัลบางนา

กิจกรรมในวันงานทั้งสองครั้งจะมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติผ้าไหมไทย พร้อมจัดแสดงผ้าไหมที่ได้รับรางวัลทองคำพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และการแสดงโชว์ผ้าไหมแพรวา มูลค่ากว่า 600,000 บาท


นอกจากนี้  ยังมีการสาธิตการเลี้ยงหม่อนไหม การขึ้นลายผ้าของ  แต่ละจังหวัด และการทอผ้าไหมแพรวาของจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยการแสดงแฟชั่นโชว์ โดยนางแบบชื่อดัง “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” พระเอกชื่อดังอย่าง “ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์” กางเกงมวยผ้าไหมตัวแรกของโลกโดยเต็งหนึ่ง Thai Fight, พร้อมด้วยการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกทุ่งอย่าง รุ่ง สิริยา, จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ, ลำไย ไหทองคำ, โอ๋-เอ๋ พจนา, หญิง ธิติกานต์, นุช วิลาวัลย์ และวงโปงลางอินเตอร์

 

ดาราพาเที่ยว วิถีไทย ชุมชนตะเคียนเตี้ย บางละมุง

ท่องเที่ยววิถีชีวิตไทยใกล้กรุงเทพ

ระยะทางที่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปเพียงไม่มาก แต่กลับมีแหล่งชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว และคงรูปรูปแบบการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม การเกษตรแบบพึ่งพาตนเองใช้ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียงของในหลวง ในการดำรงชีวิต มีผลิตภัณฑ์แนะนำ อาทิ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น , ขนมทองพับ , ท๊อฟฟี่ otop 4 ดาว และ อาหารขึ้นชื่อ “ไก่แกงกะลา” ซึ่งเป็นอาหารที่หากินได้ยาก ใครมาเยี่ยมชุมชนแห่งนี้ ห้ามพลาด

แนวคิดและรูปแบบการท่องเที่ยววิถีไทย โดยมีผู้แทนชุมชนท่องเที่ยว ณ ชุมชนตะเคียนเตี้ย

ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ท่องเที่ยววิถีชุมชน ท่องเที่ยวไทย ในอดีตชุมชนตะเคียนเตี้ยมีอาชีพทำนา มีน้ำท่าสมบูรณ์ตลอดทั้งปี แต่เมื่อเวลาผันผ่าน น้ำที่ใช้ทำนาเริ่มไม่เพียงพอ ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงหันไปปลูกมะพร้าว เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว จนปัจจุบันมีการทำสวนเกษตรหลากหลายมากขึ้น แต่สวนมะพร้าวยังถือเป็นอาชีพหลักของชุมชน เพื่อให้ชุมชน ตะเคียนเตี้ยมีความแข็งแกร่ง และนำรายได้เข้าสู่ชุมชนได้มากขึ้น

ณ บ้านร้อยเสา แหล่งรวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน ข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ ตำรายารักษาโรค ตำราโหราศาสตร์ ปีนักษัตรไทย การดูฤกษ์ยาม ครกบดยา ภาชนะทองเหลืองสลักลาย และพระเครื่อง เป็นต้น ซึ่งของทุกชิ้นมีเรื่องราวมากด้วยคุณค่า ผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมเยีอนยังมีโอกาสได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกด้วย

ชุมชนบ้านตะเคียนเตี้ย ยังเป็นชุมชน วิถีไทย ใช้ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียงของในหลวง ในการดำรงชีวิต มีผลิตภัณฑ์แนะนำ อาทิ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น , ขนมทองพับ , ท๊อฟฟี่ otop 4 ดาว และ อาหารขึ้นชื่อ “ไก่แกงกะลา” ซึ่งเป็นอาหารที่หากินได้ยาก ใครมาเยี่ยมชุมชนแห่งนี้ ห้ามพลาดในการชิมเมนูนี้เด็ดขาด

ชุมชนบ้านชากแง้วและบ้านตะเคียนเตี้ย ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ และตำบลตะเคียนเตี้ย เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ผ่านการดำรงอยู่ สรรสร้างขึ้นมาเป็นแบบแผนการประพฤติปฏิบัติ ถือเป็นมรดกทางความคิดของบรรพบุรุษอันล้ำค่าสมควรแก่การสืบสานและอนุรักษ์ หากได้รับการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแล้วจะเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนนำทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง

นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี จัดพิธีเปิดกิจกรรม ดาราพาเที่ยว วิถีไทย ชุมชนตะเคียนเตี้ย

ภายใต้การจัดงาน กิจกรรม ดาราพาเที่ยววิถีไทย พักใจที่บางละมุง ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สัมผัสและเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและรูปแบบการท่องเที่ยววิถีไทย โดยมีผู้แทนชุมชนท่องเที่ยว ณ ชุมชนตะเคียนเตี้ย




จังหวัดชลบุรี นำโดย นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้จัดพิธีเปิดกิจกรรม ดาราพาเที่ยว วิถีไทย ชุมชนตะเคียนเตี้ย ณ อาคารอเนกประสงค์ ชุมชนตะเคียนเตี้ย และมอบรางวัลให้ผู้ชนะกิจกรรมการประกวดตั้งชื่อ “ถนนวัฒนธรรมตะเคียนเตี้ย”ซึ่งเป็นถนนสายหลักของชุมชน และเปรียบเสมือนศูนย์กลางของคนในชุมชนตะเคียนเตี้ย โดยมีการเชิญผู้เข้าร่วมงานทำกิจกรรมร่วมกันมากมาย อาทิ การปั่นจักรยานเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน , ชมการสาธิตทำแกงไก่กะลา , กิจกรรมปล่อยแตนเบียน , ชิมกาแฟมะพร้าว , แข่งทำพวงมะโหตร , พับกุหลาบใบเตย , ชมบ้านร้อยเสา , เรียนรู้ปลูกผักสมุนไพร , สาธิตกัวซาหน้า ฯลฯ

พิเศษสุดกับกิจกรรม Meet & Greet กับหนุ่มสุดชิว
“จูเนียร์ เดอะสตาร์” กรวิชญ์ สูงกิจบูลย์

ท่องเที่ยวภาครัฐ ยกทัพเที่ยวทั่วไทย

ททท.เปิดกลยุทธ์กระตุ้นปลายปี
ท่องเที่ยวภาครัฐยกทัพเที่ยวทั่วไทย

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
แถลงความพร้อมจัดงานมหกรรมท่องเที่ยวภาครัฐ ภายใต้แนวคิดหลัก
ท่องเที่ยวภาครัฐ ยกทัพเที่ยวทั่วไทย  ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 ณ ฮอลล์ 1 อิมแพคเมืองทองธานี จ.นนทบุรี มุ่งกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศปลายปีในรูปแบบงานส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างโอกาสให้กับหน่วยงานภาครัฐได้นำสินค้าและบริการด้านท่องเที่ยวมาเสนอขายและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และส่งเสริมให้เกิดกระแสเที่ยวทั่วไทยโดยผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐที่มีแหล่งท่องเที่ยวกว่า 60 หน่วยงาน อีกทั้ง เปิดโอกาสประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้ท่องเที่ยว ซึ่งมีสัดส่วนราว 66% คาด 3 วันมีผู้เข้าชมงานประมาณ 1.5 แสนคน กระจายคนสู่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศเพิ่ม 10%

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า
ททท. ได้ดำเนินโครงการเที่ยวเมืองไทยใครๆ ก็เที่ยวได้ ภายใต้แผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสวัสดิการสังคม กลยุทธ์สร้างความเข้มแข็งให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ตามแผนการตลาดการท่องเที่ยวปี 2560 วัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวให้กับประชาชนคนไทย เกิดการเรียนรู้ภูมิใจในความเป็นไทย สร้างเสริมประสบการณ์และนำความรู้ไปใช้ในการดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวทั้งในท้องถิ่นของตนเองและพื้นที่อื่น ๆ ตลอดจนสร้างโอกาสในแง่ของรายได้ เศรษฐกิจชุมชน นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้การจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 เวลา 10.00 น. – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 1 อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ภายในงานแบ่งออกเป็นโซนท่องเที่ยวกับภาครัฐ โซนอาหารถิ่น โซนสาธิตสินค้า รวมแล้วกว่า 100 บูท และกิจกรรมการแสดงมากมาย

สำหรับหน่วยงานที่ร่วมออกงานในครั้งนี้ อาทิเช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย /สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ อ แม่ริม จ เชียงใหม่/กองทัพเรือ จัดทัพที่เที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่หลากหลายแนว พร้อมการแสดงพายและเห่ เรือราชพิธีจำลอง

ด้านกองทัพบก ยกทัพพร้อมทั้งที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวมาแนะนำ เช่น ท่องเที่ยวทางทหารที่โรงเรียนนายร้อย จปร.จ.นครนายก สถานพักฟื้นและพักผ่อนที่สวนสนประดิพัทธ์ จ.ประจวบฯ และ สถานพักฟื้นและพักผ่อนล้านนา จ.เชียงใหม่ / มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ / บ้านสวนแผ่นดินแม่ สุพรรณ / กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนตำบลบ้านแหลม / พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ มาพร้อมกับกิจกรรมทำเครื่องบินกระดาษ /

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช) /กิจการน้ำพุร้อนสันกำแพง / Museum Siam /โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามพระราชดำริ /องค์การสวนสัตว์ / ไปรษณีย์ไทย / และ บูทผู้ประกอบการจากกรมการค้าภายในและกรมพัฒนาชุมชน อีกคับคั่ง

พร้อมด้วยร้านอาหารอร่อย ท้องถิ่น ชื่อดังอาทิ ขนมไทยแม่แฉล้ม อยุธยา / กระหรี่ 2 ปั๊บ สุโขทัย / กุ้ยช่ายบ้านนา /ขนมถ้วยฟูสมุนไพร / กระยาสารท ต้นตำรับ สระบุรี / ห่อหมกทะเลย่าง ประจวบฯ / ข้าวยำสมุนไพร /เต้าคั้ว /ส้มตำไก่ย่างเขาสวนกวาง / ผัดไทยสุโขทัยฯ / โกอ่างเส้นปลา / ลอดช่องวัดเจษฯ/ หมี่กรอบเมืองกาญจน์ / หม่ำคำตัน ชัยภูมิ / ซาลาเปาทับหลี / ไก่กอแระมาเต๊ะ /จำปาดะทอด /ข้าวขาหมู จุฬา และร้านอาหารชื่อดัง ประจำถิ่นตบเท้าพร้อมปรุงรสเด็ดมากมายภายในงาน
นางสุจิตรายังเปิดเผยด้วยว่า การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐเป็นอย่างดี ประชาชนที่มาร่วมงานยังจะได้รับความสนุกสุดคุ้มในโซนดนตรี ได้ชมการแสดง จาก 3 ศิลปินชื่อดัง เบิร์ดกะฮาร์ท , สุเมธ แอนด์ เดอะปั๋ง และ บี้ สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว หรือ บี้เดอะสตาร์ ร่วมด้วยการแสดงจาก ดุริยางค์ทหาร , สุนัขตำรวจ k9 (เคนาย) พร้อมรับชมไฮไลท์การแสดง พายและเห่ เรือ พระราชพิธีจำลองจากกองทัพเรือ แวะชิมอาหารถิ่นของอร่อยจากร้านดังทั่วประเทศ นอกเหนือจากนั้นยังได้ชมโชว์สาธิตการทำเมนูท้องถิ่น จากเชฟบุ๊ค

ผู้เข้าชมงานสามารถเลือกช้อปแหล่งท่องเที่ยวและบริการในราคาพิเศษ
ซึ่งมีโปรโมชั่นให้แบบจุใจ โดยเมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท ภายในงานนี้ สามารถร่วมสนุกชิงรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ภายในประเทศ วันละ 3 รางวัลๆ ละ 2 ที่นั่ง

จึงอยากเชิญชวนให้มาร่วมงานกัน คาดว่า 3 วันของการจัดงานจะมีนักท่องเที่ยวที่มาชมงานประมาณ 50,000 คนต่อวันหรือประมาณ 150,000 คน
ใน 3 วัน และมีเงินสะพัดกว่า 20 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวเดินทางกระจาย
ตัวสู่แหล่งท่องเที่ยวในประเทศช่วงปลายปีเพิ่มขึ้น 10 %

อนึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
งานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2560 เวลา 10.00 น. – 20.00 น. ณ ฮอลล์ 1 อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
โทร. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย

SCB Abacus

ไทยพาณิชย์ตั้งบริษัทลูก SCB Abacus 

SCB Abacus ถูกแยกออกมาเป็นบริษัทลูกเพื่อให้ทำงานได้คล่องตัว โดยจะยังเน้นให้บริการเฉพาะบริษัทภายในเครือไทยพาณิชย์เป็นหลัก ตัวอย่างโครงการที่ SCB Abacus จะเข้ามามีบทบาทสนับสนุนธุรกิจของไทยพาณิชย์ ได้แก่พัฒนาระบบ Recommendation Engine ช่วยแนะนำบริการในแอพ SCB Easy, นำ AI มาช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัยที่เหมาะสมกับลูกค้าเป็นรายบุคคล โดยใช้อุปกรณ์ IoT มาช่วยเก็บข้อมูล, นำ AI มาช่วยคาดเดาปัญหาที่ลูกค้าจะโทรเข้ามายังคอลล์เซ็นเตอร์ เพื่อโอนสายไปยังผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง

SCB Abacus ได้ ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) โดยก่อนหน้านี้ ดร.สุทธาภา เป็นรองผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุดของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ของธนาคารไทยพาณิชย์ ประวัติของ ดร.สุทธาภา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และระดับปริญญาเอกจากสถาบัน MIT ก่อนมาร่วมงานกับไทยพาณิชยื ดร.สุทธาภา เคยทำงานเป็นนักเศรษฐศาสตร์ของ IMF ที่กรุงวอชิงตันดีซี และผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังมาก่อน

จุดแข็งของ SCB Abacus คือการดึงตัวผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI ที่เคยทำงานในบริษัทระดับโลกมาร่วมทีม, การมีข้อตกลงกับสถาบัน MIT เพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้งาน รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลของกลุ่ม SCB ที่มีอยู่แล้ว

SCB Abacus ยังตั้งคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายธุรกิจ เช่น ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล (อดีตผู้อำนวยการ สวทช.), ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร (ซีอีโอ ปตท.), คุณวิลาสินี พุทธิการันต์ (อดีตผู้บริหารระดับสูง AIS ส่วนงานบริการลูกค้า) และ ศ.ดร.เบ็นจามิน แวนรอย (มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด)

ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO)

ส่วนแนวทางการตั้ง SCB Abacus มองโจทย์ว่าบริษัทมีข้อมูลปริมาณมาก ทำอย่างไรจึงจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้ จึงตั้งใจแยกบริษัทออกมาทำงานขนานกับ DV โดยมีเป้าหมายเพื่อทดลองเรื่อง AI กับ Big Data เป็นหลัก ตอนนี้ข้อมูลที่ธนาคารมียังเป็นข้อมูลแบบ traditional ที่ธนาคารเคยเก็บไว้ เป็นข้อมูลทั่วๆ ไปว่าลูกค้าเป็นใคร ทำอะไรบ้าง ถือว่าเป็นข้อมูลพื้นๆ แต่ในอนาคต Abacus จะต้องไปไกลกว่านี้ ต้องมีข้อมูลแบบ unstructured ที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของลูกค้า เพื่อนำไปต่อยอดบริการให้ได้กว้างไกลขึ้น เพื่อสร้าง predictive และ insight ใหม่ๆ ที่ธนาคารไม่เคยมีมาก่อน

การนำข้อมูล big data มาใช้บริหารความเสี่ยง จะยังช่วยให้ธนาคารบริหารสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาก มีอัตราหนี้เสีย (NPL) ไม่ถึง 2% ซึ่งธนาคารในประเทศไทยไม่เคยทำได้มาก่อน ในอีก 6 เดือนจากนี้น่าจะเห็นผลงานของ SCB Abacus

 

คุณคิดว่า…ดาราวัยรุ่นชายคนไหน พูดถึงแล้วนึกถึงเวสป้าที่สุด!

กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา
ตัวแทนคนรุ่นใหม่กับสไตล์อันโดดเด่น

สาวกเวสป้าและนักสะสม ร่วมงานเปิดตัวเวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น พร้อมร่วมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการถือกำเนิดสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมดีไซน์ไอคอน ในแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ ที่เสนอความต่างแห่งปี  NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU?  รถสกู๊ตเตอร์สุดคลาสสิกในตำนานกับ  Vespa PX Touring Edition จำนวนจำกัดเพียง 200 คันทั่วประเทศ   ทุกคันประดับเพลทเหล็กโลโก้เลขไทยตกแต่งด้านหน้าตัวรถ และเพลทเหล็กลิมิเต็ด อิดิชั่น ออกเดินทางอย่างมีสไตล์ด้วยเซตพรีเมี่ยมจัดพิเศษมากมาย  ทั้งกระเป๋าสะพายข้าง ธงติดรถ แก้วน้ำ เซตเข็มกลัด เซตโปสการ์ด หมวกกันน็อคสกรีนโลโก้ เข้าชุด วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 224,900 บาท

สำหรับ เวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น มาพร้อมดีไซน์สุดคลาสสิกเหนือกาลเวลาด้วยรายละเอียดการออกแบบ  ที่เน้นความเรียบง่าย โดยสานต่อแรงบันดาลใจจากเวสป้ารุ่น พีเอ็กซ์ ในตำนานที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุค 70  ซึ่ง
ยังคงครองใจและเป็นที่รักของสาวกเวสป้า ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน
สะดุดตาด้วยสีพิเศษ  สีฟ้าเงิน  Azzurro 70

โดดเด่นด้วยวัสดุโครงเหล็กแบบดั้งเดิม  ที่มอบความแข็งแรงทนทาน ให้ความรู้สึกอยากออกเดินทางในรูปแบบที่สะท้อนความเป็นตัวเอง มาพร้อมกับชิวด์สั้นบังลม สามารถบรรทุกสัมภาระด้วยตะแกรงโครเมี่ยมทั้งด้านหน้า-หลัง พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการประดับเพลทเหล็กโลโก้เลขไทย   “๔๐” ในตำแหน่งด้านหน้ารถ ผลิตมาเพื่อจัดจำหน่ายในตลาดประเทศไทยเพียง 200  คันเท่านั้น

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบสี่สิบปี ของการผลิตและจัดจำหน่ายเวสป้ารุ่นดังกล่าว และตกแต่งด้วยเพลทเหล็ก ลิมิเต็ด อิดิชั่น ต้องมนต์เสน่ห์ในทุกการเดินทางไปกับฟีเจอร์ดั้งเดิมในตำนาน  ที่แฟนพันธุ์แท้เวสป้าต่างรอคอย อาทิ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ เกียร์มือ 4 สปีด เบรกหลังที่เท้า ยางและล้ออะไหล่ที่ตัวถังด้านซ้าย โดยเวสป้า  พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 224,900 บาท สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา

เปิดตัวสาวกเวสป้าคนใหม่ล่าสุด  คุณกรรณ สวัสดิวัตน์  ณ อยุธยา ในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่รักและหลงใหลในการขับขี่เวสป้า เผยโฉมอย่างเป็นทางการด้วยสุดยอดสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสุดคลาสสิกในตำนาน “เวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น (Vespa PX Touring Edition)” ที่ครองใจสาวกเวสป้า
มาตั้งแต่ยุค 70 ให้ทุกการเดินทางเปรียบเสมือนต้องมนต์เสน่ห์แบบเหนือกาลเวลาตามแบบฉบับความเป็นแบรนด์ไอคอนของคนทั่วโลก

ในโอกาสเดียวกันนี้  ยังร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการถือกำเนิดเวสป้า รุ่น  “พีเอ็กซ์  (PX) ” ซึ่งเป็นที่นิยม  ของสาวกเวสป้าทั่วโลกอีกด้วย และตอกย้ำ  แคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี   NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU?  ภายใต้บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เป็นเอกลักษณ์ด้วยกลิ่นอายการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างแท้จริงณ โมโตเพล็กซ์ แบงค็อก

สาวกเวสป้าและนักสะสมที่ชื่นชอบเวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ เตรียมพบกับกิจกรรมความสนุกจากเวสป้าได้เร็วๆ นี้ ผม… ในฐานะหนึ่งในสาวกเวสป้าและตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางในสไตล์ที่เป็นตัวเอง และต้องมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกไร้ซึ่งกาลเวลาของรถเวสป้า พร้อมที่จะพาทุกท่านร่วมออกเดินทางและสัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างแท้จริง” คุณกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา กล่าวทิ้งท้าย

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้จากตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน
Let the journey begin!
#VESPATHAILAND
#VESPAisit4u

www.vespa.co.th  หรือ
www.facebook.com/vespathailand

อิมแพ็ค เดินหน้า กล้าจัด

ครั้งแรกในเมืองไทย Thailand LGBT Expo

นำเทรนด์ จัดงานแนวใหม่เจาะตลาดชาวสีรุ้งทั้งไทยและต่างชาติยกกองทัพสินค้า บริการ และกิจกรรมจากแบรนด์ชั้นนำ

ด้วยความมั่นใจและเล็งเห็นในศักยภาพหลากหลายด้านของชาวสีรุ้ง ที่มีอัตราการเจริญเติบโตของประชากรที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่น่าจับตามองของนักการตลาด เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีรสนิยมดีและมีกำลังซื้อสูง ในปัจจุบันผู้ผลิตสินค้าและบริการ รวมไปถึงสื่อต่างๆ ทั่วโลกต่างให้การสนับสนุนพร้อมเปิดเผยตนเองว่าเป็นมิตรกับกลุ่ม LGBT(เลสเบี้ยน,เกย์,คนรักสองเพศและคนข้ามเพศ) หรือกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ มากขึ้น

บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเหล่านี้ จึงร่วมมือกับองค์กรบางกอกเรนโบว์ พร้อมพันธมิตรเครือข่าย LGBT และผู้ผลิตสินค้าหรือบริการที่มีความเป็นมิตรต่อ LGBT ทั้งในและต่างประเทศ ทุ่มจัดงานยิ่งใหญ่ “Thailand LGBT Expo” เต็มพื้นที่ 5,000 ตรม. เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางในการนำเสนอสินค้า บริการ และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ รวมไปถึงเป็นเวทีกลางเพื่อแสดงศักยภาพของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ยกทัพนำสินค้า,บริการและกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาว LGBT ไม่ว่าจะเป็น เกย์ เลสเบี้ยน ทอม ดี้ สาวประเภทสอง ผู้หญิง-ผู้ชายข้ามเพศ หรือบุคคลทั่วไปที่เปิดกว้างยอมรับในความเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็น บริการทางการเงิน ที่อยู่อาศัย สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ สุขภาพ ความงาม แพ็คเกจท่องเที่ยว โรงแรม สปา แอพพลิเคชั่นต่างๆ ฯลฯ

ภายในงานมีกิจกรรมน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด เช่น การประกวด Mr.Gay World Thailand 2018 เพื่อเฟ้นหาหนุ่มหล่อมากความสามารถไปประกวดต่อในเวทีระดับโลก การประชันความสามารถกันแบบสุดพลังกับการแข่งขัน “LGBT ก็ Talent” การอัพเดทเทรนด์แฟชั่นแบบอลังการกับ LGBT Fashion Show โชว์คอลเลคชั่นพิเศษสุดจากแบรนด์ชั้นนำ การประกวด “One Man One Women” เป็นหญิงก็สวย เป็นชายก็หล่อ การประกวด “Mr. Trans World & The Toms World” เวทีที่รวบรวมสาวหล่อไว้เยอะที่สุดในประเทศไทย” การประกวด Miss BBC World 2018” ประชันไหวพริบ สติปัญญาของสาวประเภทสอง การประชันความแซ่บ เผ็ดอย่างถึงพริกถึงขิงกับบนแคทวอล์ค กับการประกวด “Miss Queen Model” แดนซ์สุดมันส์กับปาร์ตี้แสนพิเศษที่รับเฉพาะผู้หญิง ใน “Lesla Party” และมาร่วมภาคภูมิใจกับความสำเร็จของชาว LGBT ไปกับนิทรรศการ “Hall of Fame” นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากศิลปินชั้นนำ รวมไปถึงการเสวนาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันในประเด็นสุดฮอต ที่ชาว LGBT ห้ามพลาด

ตอกย้ำความกล้าของผู้จัด นำเทรนด์งานแนวใหม่เจาะตลาดชาวสีรุ้งทั้งไทยและต่างชาติ ยกกองทัพสินค้า บริการ และกิจกรรมจาก แบรนด์ชั้นนำ Thailand LGBT Expo จะจัดขึ้นในวันที่ 25-28 มกราคม 2561 ณ อาคาร 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เวลา 10.00-20.00 น.

สนใจจองบูธหรือติดตามความเคลื่อนไหวของงานได้ที่
www.thailandlgbtexpo.com หรือ facebook.com/thailandlgbtexpo