Category Archives: Event

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี”

เชิดชูเกียรติต้นแบบแห่งการให้และแบ่งปัน  เพื่อผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก

วันนี้ (10 ธ.ค. 60) เวลา 15.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุเสด็จไปประทานรางวัล “ประชาบดี” แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ประจำปี 2561 จำนวน 57 รางวัล

โดยมี พลเอก อนันตพร   กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กราบทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน และ นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) พร้อมคณะผู้บริหาร เฝ้ารับเสด็จ ณ ห้องประชุม ชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สะพานขาว กรุงเทพฯ

พลเอก อนันตพร กล่าวว่า “พระประชาบดี” เทพผู้เป็นที่พึ่งและสงเคราะห์ประชาชน ด้วยพลังแห่งการให้และแบ่งปัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นจากสภาวะยากลำบาก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงได้นำชื่อ “ประชาบดี” มาเป็นชื่อรางวัลแห่งเกียรติยศ อันเป็นที่สุดแห่งความภาคภูมิใจของต้นแบบความดี ในการช่วยเหลือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก เพื่อให้ได้รับการยกย่องและเชิดชูคุณความดีเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม ทั้งนี้ กระทรวง พม.

โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จึงได้ดำเนินโครงการเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่น แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากและผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น ด้วยการมอบรางวัล “ประชาบดี” ตั้งแต่ ปี 2550 – 2560 โดยมีการมอบรางวัล “ประชาบดี” รวมทั้งสิ้น 730 รางวัล

พลเอก อนันตพร กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2561 นับเป็นปีที่ 12 ของการดำเนินโครงการฯ และด้วยพระเมตตาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จประทานรางวัล “ประชาบดี” เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องตลอดระยะ 11 ปี โดยมีการประทานรางวัล “ประชาบดี”
จำนวนทั้งสิ้น 57 รางวัล แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย

1) ประเภทบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 13 รางวัล เช่น นายโจนัส แอนเดอร์สัน นักร้องลูกทุ่ง เป็นต้น

2) ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 11 รางวัล เช่น มูลนิธิเอช เอช เอ็น เพื่อเด็กไทย เป็นต้น

3) ประเภทสื่อที่นำเสนอกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 18 รางวัล เช่น รายการรถปลดทุกข์ ไทยรัฐทีวี เป็นต้น

4) ประเภทบุคคลผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ทำคุณประโยชน์และดำรง
ชีวิตเป็นแบบอย่างที่ดี  จำนวน 15 รางวัล เช่น นายเซ็ง แซ่ลี ผู้ยากจนและขาพิการ 1 ข้าง ด้วยการนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต และมีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น เป็นต้น

“ตนขอแสดงความยินดีและยกย่องเชิดชูเกียรติกับทุกท่านและทุกองค์กรที่ได้รับรางวัล “ประชาบดี” และขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในสังคมเป็นกลไกสำคัญในการหนุนเสริมภารกิจซึ่งกันและกัน เพื่อช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม และพัฒนาสังคมร่วมกันอย่างยั่งยืน



ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจเพื่อการพัฒนาสังคมและคนอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสหรือผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือดูแลและพัฒนาศักยภาพของตนเอง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน” พลเอก  อนันตพร  กล่าวในตอนท้าย

The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand สูตรลับเฉพาะส่งตรงจากประเทศอเมริกา

Toptotravel มีโอกาสไปร่วมงานฉลองครบรอบ 6 ปี The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand กิจกรรม “6th Year Anniversary: Experience the Finest Teas in the World” by The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand ที่ The Coffee Bean & Tea Leaf สาขาสยามเซ็นเตอร์


คุณเอ สัจเดย์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, บริษัท ฟู้ดแคปปิตอล จำกัด

คุณเอ สัจเดย์, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, บริษัท ฟู้ดแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) กล่าวต้อนรับลูกค้าและสื่อมวลชน เพื่อขอบคุณลูกค้า ที่อยู่กันมา 6 ปี The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand ตั้งใจจริงที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าพร้อมร่วมกิจกรรมลุ้นกินฟรีตลอดทั้งปี!


เครื่องดื่มปั่น หรือน้ำปั่นที่เราคุ้นเคยกันนั้น
CBTL คือ ผู้บุกเบิกเคล็ดลับความอร่อย? The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand โมเมนท์ดีๆ เริ่มต้นได้เพียงแค่มีกาแฟชั้นเยี่ยมในมือสักแก้ว ไม่เพียงแต่ชื่อร้านจะน่ารัก และมีความละมุนอยู่ในตัวแล้ว ที่นี่คัดสรรชาชนิดพิเศษ เกรดพรีเมียมที่คุณภาพและรสชาติดีที่สุดในโลก ให้บริการลูกค้า ทุกขั้นตอนการผลิตชาต้องอาศัยความพิถีพิถัน ตั้งแต่การเก็บ การคัดแยก และการบรรจุชาที่ไร่ เพื่อนำมาสู่ขั้นตอนการผลิตกระบวนการบรรจุภัณฑ์ที่ เดอะคอฟฟี่บีนแอนด์ทีลีฟ โรสติ้ง แอนด์ ดิสทรีบิวท์ชั่น (RAD) เมืองแคมาริลโล มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อความมั่นใจในชาคุณภาพชั้นเยี่ยม จากไร่ชาสู่ชาคุณภาพโดยให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นอันดับแรก เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ดังสโลแกน “Simply the Best” อร่อยได้อารมณ์ฟินทั้งอาหารแบบชนะใจคนที่เราพามาแบบใสๆ ทั้งหอม ทั้งเนียน ดื่มเมื่อไหร่ก็สดชื่น

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Exclusive Workshop “Easy & COOL DIY DRINK by CBTL Tea & MONIN” มีอาหารเมนูจานเดียวทานให้ท้องอิ่มก่อนฟินกับบรรยากาศรอบๆ มีเครื่องดื่มให้หัวใจกระชุ่มกระชวยหวาน อร่อย ชื่นใจ ฉลองครบรอบ 6 ปี The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand Workshop ได้ลองทำเครื่องดื่มในสไตล์ของตัวเองด้วยค่ะ ชิมกันสนุกสนาน ช่วงท้ายสุดกับช่วงเวลาสำคัญ ช่วงเวลาเป่าเค้กฉลองครบรอบ 6 ปี เค้กทำเป็นสีม่วงสดในแบบ The Coffee Bean & Tea Leaf พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่ บัตรกำนัลทานเครื่องดื่ม CBTL ฟรี 1 ปี, เครื่องชงกาแฟ, และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย

Toptotravel ขอขอบคุณและเป็นเรื่องน่ายินดีไม่น้อยที่มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรม 6th Year Anniversary: Experience the Finest Teas in the World by The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand ที่ The Coffee Bean & Tea Leaf อยากใช้เวลากับเพื่อน อยากหาที่นั่งคิดงาน อ่านหนังสือ หรือแม้แต่หาพื้นที่เล็กๆ ให้ตัวเอง ช่วงเวลาทั้งหมดนี้ เรามีให้คุณได้ที่ CBTL
พร้อมเสิร์ฟ กาแฟ ชา ขนม และเมนูอาหารอร่อยอีกมากมาย

ร่วมกิจกรรมดี ๆ ก็รู้สึกประทับใจ สนุกและมีความสุขแล้วค่ะ ขอบคุณกิจกรรมดี ๆ แบบนี้มาก ๆ เลยค่ะ

QualityTimewithCBTL #CBTL_Thailand

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
มาลอง The Coffee Bean & Tea Leaf Thailand
ผ่านทาง Facebook และ Instragram
http://www.cbtlthailand.com
@CBTL_Thailand

วันธรรมดา…น่าเที่ยว ชิลล์กับ กิจกรรม ปิ้งหอย คอยเธอ ริมทะเลชะอำ

Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing)
ตอน “ปิ้งหอย คอยเธอ”

Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing) ภายใต้ Concept “Eco friendly” พบกับผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Let’s go Outing “ปิ้งหอย คอยเธอ” เริ่มเปิดตลาดครั้งแรกในวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ณ บริเวณชายหาดชะอำ ด้านทิศเหนือ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

นักท่องเที่ยวคึกคัก! “ปิ้งหอยคอยเธอ” ริมหาดเมืองชะอำ หาดทรายนุ่มสีน้ำตาลอ่อราวเปลือกไข่สะอาด ลมพัดเย็น คลื่นไม่แรงนัก ได้พักผ่อนเดินเล่นสัมผัสน้ำทะเลใกล้ชิดเสียงคลื่น จะมีความเงียบสงบและเป็นธรรมชาติมากโดยเฉพาะในวันธรรมดา จันทร์-พฤหัสบดี ในวันธรรมดาให้คึกคักยิ่งขึ้นนักท่องเที่ยวสามารถจอดรถริมทะเลวิ่งเฮฮาลงเล่นน้ำทะเลกันได้เลย จนกล่าวกันว่า “หาดชะอำ-ทะเลบ้านฉัน”เสน่ห์อย่างหนึ่งที่น้อยคนจะได้สัมผัส

ชวนมาเดิน…ชม..ช๊อป..ชิม.. อาหารทะเลสดๆ  ภายในตลาดคนเดิน  ริมทะเล การออกร้านค้าจำหน่ายสิ้นค้าโอท็อปของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี ชมการประกวดดนตรีเยาวชน AWARDS on the beach การประกวดประติมากรรมขยะบนผืนชายหาดโดยการใช้วัสดุเหลือใช้ มารีไซเคิลให้เป็นปลาวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ ชมการฉายหนังกลางแปลงในบรรยากาศสุดชิวริมชายหาดทุกค่ำคืน และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย

นายกอบชัย บุญอรณะ  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงาน Outing@Cha-am 1st (Let’s go outing) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวริมหาดเมืองชะอำ ในวันธรรมดาให้คึกคักยิ่งขึ้น โดยมีนายนุกูล พรสมบูรณ์ศิริ
นายกเทศมนตรีเมืองชะอำ นายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวสำนักงานเพชรบุรี สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยศิลปกร สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี ผู้ประกอบการโรงแรม หน่วยงานภาครัฐ และ นางสาวมีนณิชา เล้าอรุณ มีสแกรนด์ เพชรบุรี 2018 ร่วมพิธีเปิดงาน

นอกจากนั้นยังมีการแสดง มิสเดอร์  Been Thailand, การแสดงวงดนตรี The Beatlesnania (The Beatle Thailand) มายากลเดอะแจ๊ค ดอมมินิตี้ ไทยแลนด์ ก็อตทาเลนด์ม ดนตรวง Water Walk และตัวแทนชุมชนคนริมเลชะอำ คณะสื่อมวลชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

นายอัครวิทย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี กล่าวว่า
“ททท.เป็นผู้นำในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred Destination) อย่างยั่งยืน”

การส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดาถือเป็นภารกิจหลัก ที่ททท.หรือภาครัฐพยายามที่จะขับเคลื่อนกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในวันธรรมดา เฉกเช่นเดียวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวกระจายไปยังเมืองรอง และอีกหนึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อ  การท่องเที่ยวก่อให้เกิดปัญหาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมซึ่ง ททท.ได้คำนึงถึงผลกระทบเหล่านี้  มาโดยตลอด

จึงได้  กำหนดเป้าหมายของโครงการ Outing @Cha-am 1 st  (Let’s go Outing) ซึ่งเป็นแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดาภายใต้แนวคิด Eco friendly ของททท.สำนักงานเพชรบุรี ที่มีเป้าหมายตามกรอบในการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตก (Thailand Riviera) ตามนโยบายของรัฐบาล การพัฒนาหน้าชายหาดให้สะอาด แก้ไขปัญหาการรุกล้ำชายหาด มีการจัดงานประเพณีท้องถิ่นริมหาดเป็นครั้งคราว

กิจกรรม Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing) เชื่อมโยงท่องเที่ยวเมืองรอง – เมืองหลัก ในงาน ได้รับความร่วมมือจากเทศบาลเมืองชะอำ, หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี, YEC iz Club, สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี, ผู้ประกอบการโรงแรม, หน่วยงานภาครัฐและชุมชนคนริมเลชะอำร่วมกันจัดกิจกรรม Bech Food ตลาดริมเล เวทีการแสดงดนตรีและเปิดโอกาสให้เป็นเวทีแห่งการแสดงออกทางด้านความคิดเชิงสร้างสรรค์ ตามสไตล์เท่อย่างไร…เที่ยวอย่างไทยเท่ โดยการนำขยะหรือวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์เป็นประติมากรรมจากขยะ ขนาดใหญ่บนชายหาดชะอำ และนักท่องเที่ยวยังสามารถชมหนังดีชมฟรี ต้องห้ามพลาดด ฟรีกลางแปลงสุดชิลริมทะเลใน เครือ M Pictures ตลอดงาน

ททท. สำนักงานเพชรบุรี ส่งเสริมการท่องเที่ยววันธรรมดาน่าเที่ยวให้กับงาน Outing @Cha-am 1 st (Let’s go Outing)

ภายใต้งานจะจัดขึ้นทุกวันอังคาร และวันพุธ ของเดือนธันวาคม 2561 ไปจนถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 26 ครั้ง
ที่บริเวณชายหาดด้านหน้าโรงแรมลองบีชชะอำ

วันธรรมดา…น่าเที่ยว ชิลล์กับ กิจกรรมริมทะเล
เริ่มงานตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2561
จนถึง 27 กุมภาพันธ์ 2562 รวมระยะเวลา 3 เดือน
กำหนดจัดทุก วันอังคารและพุธ เวลา 16.00 – 23.00 น.
ที่บริเวณชายหาดหน้า โรงแรมลองบีชชะอำ จ.เพชรบุรี

ใครที่กำลังมองหาสถานที่เคาท์ดาวน์ต้อนรับปี 2018

พิกัดนับถอยหลังสู่ปี 2019

ใครที่กำลังมองหาสถานที่เคาท์ดาวน์ต้อนรับปี 2018…..เราขอแนะนำ คอนเสิร์ตสุดโรแมนติกแบบใกล้ชิดศิลปิน ท่ามกลางลมหนาวและหมู่ดาวในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ! เพื่อให้ทุกคนได้เต็มอิ่มกับบรรยากาศแห่งความสุขไปพร้อมๆ กัน กับสถานที่เคาท์ดาวน์”สวนผึ้ง ไฮแลนด์ เคาท์ดาวน์ เฟสติวัล 2018″ มาสัมผัสลมหนาวแรกของสวนผึ้ง พร้อมปาร์ตี้ส่งท้ายปีเก่า ในสองค่ำคืนแห่งความทรงจำ ร่วมกันนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2019 ไปพร้อมๆกัน กับศิลปินสุดพิเศษ

วันที่ 30 ธันวาคม 2561  พบกับ ป๊อป ปองกูล และวงมายด์ วันที่ 31 ธันวาคม
2561 พบกับ วงพอส , พีท พล และวง The Mousses ที่ “สวนผึ้งไฮแลนด์” แลนมาร์คแห่งใหม่ของ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี บนลานคอนเสิร์ต แบบ Amphitheater บนพื้นหญ้านุ่มๆ เขียวชะอุ่มและร่มรื่น พร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ที่จะทำให้การฉลองปีใหม่ปีนี้ไม่ซ้ำใครแน่นอน ภายในงานยังมีซุ้มอาหารมากมายให้เลือกสรรและกิจกรรมขึ้นบอลลูนที่จะทำให้คุณสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่อีกด้วย

สนใจซื้อบัตรได้ที่ 7-11 (เพียงแจ้งชื่อคอนเสิร์ตกับพนักงาน) หรือ www.allticketthailand.com ***เริ่มขายบัตร Early Bird ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคมนี้เท่านั้น!!! ในราคาเพียง 500 บาท (จากราคาปกติ 700 บาท) ซึ่งสามารถเข้างานได้ทั้ง 2 วัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook : Suanphueng Highland

โรงพยาบาลบาโนบากิ เปลี่ยนชีวิตผู้เข้าร่วมรายการ Let me in Thailand 4 Reborn เจออนาคตที่ดีขึ้น

โรงพยาบาลที่มีความเป็นเลิศด้านการผ่าตัดศัลยกรรม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก

โรงพยาบาลบาโนบากิ แบรนด์ตัวแทนด้านศัลยกรรมจากเกาหลีใต้ นับเป็นโรงพยาบาลที่เป็นเลิศด้านการผ่าตัด สร้างความอบอุ่นให้กับคนไข้ขณะรับการรักษา และยังเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย สร้างความมั่นใจอีกครั้งกับการเป็นทีมแพทย์หลักในการทำศัลยกรรมให้กับผู้เข้าร่วมรายการ “Let me in Thailand 4 Reborn” ช่วยเปลี่ยนชีวิตให้พวกเขา และเธอได้พบกับอนาคตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ศัลยแพทย์โอ ชางฮยอน จาก โรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิ

ศัลยแพทย์โอ ชางฮยอน จาก โรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิ กล่าวว่า โรงพยาบาลบาโนบากิ เป็นโรงพยาบาลที่มีความเป็นเลิศด้านการผ่าตัดศัลยกรรม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้ว รพ.ได้เริ่มแคมเปญ “Detailist” หรือ “ผู้ใส่ใจรายละเอียด” ขึ้น ซึ่ง Detailist มาจากคำว่า Detail และ Specialist  หมายถึงกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีฝีมือ ละเอียดอ่อนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนก่อนศัลยกรรม รวมไปถึงการดูแลคนไข้หลังการศัลยกรรม ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของ รพ.บาโนบากิ ของเรา นอกจากนี้ยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำแต่ละสาขา อาทิ ศัลยกรรมขากรรไกร, ศัลยกรรมปรับรูปหน้า, ศัลยกรรมหน้าอกศัลยกรรมยกกระชับ, ศัลยกรรมตาและจมูก เป็นต้น ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่านนั้นมีการค้นคว้าวิจัยในแต่ละสาขาที่ตนเองถนัดอยู่ตลอดเวลา

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรพ.ของเราอีกข้อก็ว่าได้ และจากคุณภาพที่ยอดเยี่ยมมีความปลอดภัยที่สูงนี่เอง ทำให้ปีนี้รายการ “Let me in Thailand 4 Reborn” ได้เลือกให้เราเป็นทีมแพทย์หลักเกาหลีทีมเดียวในการช่วยเปลี่ยนชีวิตให้กับผู้เข้าร่วมรายการตลอดทั้งซีซั่นนี้ ซึ่งทางศัลยแพทย์โอ ชางฮยอนได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมรู้สึกดีใจมากที่การผ่าตัดของผมได้เป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา พวกเรา รพ.บาโนบากิ หวังเป็นอย่างสูงว่าเราจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้เข้าร่วมรายการได้มีความสุขที่มากขึ้น ได้พอเจอสิ่งดีๆ ในชีวิต ได้เดินตามฝันของตัวเองโดยปราศจากอุปสรรคทางด้านหน้าตา

ปัจจุบันคนไข้ชาวเกาหลี และคนไข้ชาวไทยต่างมีความต้องการที่อยากจะสวยหล่อขึ้นมากมาย ซึ่งที่ประเทศเกาหลีใต้ การศัลยกรรมถือว่ามีการพัฒนาล้ำหน้า โรงพยาบาลศัลยกรรมก็มีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้ข้อมูลการศัลยกรรมมีการเผยแพร่ออกไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไข้เองก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการศัลยกรรมกันมากขึ้น ทำให้คนไข้ชาวเกาหลีมีความรู้เกี่ยวกับการศัลยกรรมมาพอสมควรก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการศัลยกรรม

แต่เมื่อเทียบกับคนไข้ชาวไทย ถึงแม้ว่าคนไข้จะศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี แต่การได้เห็นกระบวนการศัลยกรรมจากทีมแพทย์โดยตรง จะยิ่งทำให้คนไข้มีความเชื่อมั่นในทีมแพทย์นั้นๆ เพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ รพ.บาโนบากิ จึงได้เปิด “ศูนย์ให้คำปรึกษา บาโนบากิ” ในไทยขึ้น เพื่อให้คนไข้ชาวไทยสะดวกสบายเวลาเข้ามารับคำปรึกษาจริงๆ เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนเดินทางไปรับการทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี

โดยสำหรับผู้สนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ที่
ศูนย์ให้คำปรึกษา บาโนบากิ
ซอยทองหล่อ 3 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ 10310
ติดต่อสอบถามและนัดคิวขอคำปรึกษา
ได้ที่ 02-392-2890  หรือ 099-112-4777
Line @thaibanobagi (มี@ข้างหน้า ) www.thailandbanobagi.com

นวัตกรรมฝ้าอะคูสติก “Trandar AMF”

สำหรับ อาคารสำนักงานเกรด A
ในประเทศไทย

Trandar Acoustics ผู้นำระบบฝ้าอะคูสติก ดึง AMF จากเยอรมัน เจาะตลาด ฝ้าอะคูสติก สำหรับ Office Building Grade A ในประเทศไทย เน้น Quality of LiFE ให้กับพนักงานออฟฟิศ

Trandar Acoustics ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบฝ้าและผนังอะคูสติกชั้นนำของไทย และใน South East Asia ร่วมกับ AMF ผู้นำฝ้าเพดานชั้นนำจากเยอรมัน เปิดตัวนวัตกรรมฝ้าอะคูสติก “Trandar AMF” สำหรับ อาคารสำนักงานเกรด A ในประเทศไทย โดยเป็น ฝ้าอะคูสติก ที่มีจุดเด่นในเรื่องการคำนึงถึง Air Quality ภายในอาคาร และ ความปลอดภัย ( Safety ) ที่มีค่าการกันไฟ และเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีการควบคุมคุณภาพการผลิตจากเยอรมัน ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์กลุ่ม Office Building Grade A ชั้นนำต่างๆในประเทศไทยที่ตระหนักถึง “Quality & Safety of LiFE” ของผู้เช่าใช้อาคาร รวมถึงพนักงาน Office

ในการลงทุนใน วงการอสังหาริมทรัพย์เทรนด์ที่กำลังมาแรงมา คือการลงทุนในอาคารสำนักงาน เกรด เอ ( Office Building Grade A ) เพราะยังมีความต้องการของตลาดจำนวนมาก จากข้อมูลการสำรวจในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 Office Building ในกรุงเทพมหานคร มีจำนวนทั้งหมดประมาณ 8,784,212 ตารางเมตร มีอัตราของพื้นที่ที่ว่างให้เช่าลดลง โดยมีอัตราพื้นที่ว่างรวมลดลงจาก 7.3% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 6.8% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2561 ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการที่มากขึ้น และยังพบว่าอาคารสำนักงานให้เช่าต่างๆ เริ่มสามารถที่จะปรับค่าเช่าขึ้นสูงได้ โดยเฉพาะอาคารสำนักงานที่เป็น Grade A ในพื้นที่ CBD

การที่จะเพิ่มค่าเช่าพื้นที่ของ Office Building แต่ละแห่ง เพื่อมุ่งมั่นที่จะเป็น Office Grade A นั้น Developer จำเป็นต้องสร้างจุดเด่น เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เช่น การดีไซน์ตัวอาคาร การตกแต่งภายใน และภายนอกอาคารเพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวอาคาร การใช้มาตรฐานของวัสดุที่อยู่ภายในอาคารที่ดีกว่า มีความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคารที่ดีขึ้นนั้น ส่งผลให้ Office Building นั้นๆมีภาพลักษณ์ที่ดี และสามารถเพิ่มพื้นที่ค่าเช่าอาคารสำนักงานให้ได้ตามคุณภาพมาตรฐาน Office Building Grade A อีกด้วย

หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการที่เป็นอาคารสำนักงาน เกรด เอ คือ ฝ้าอะคูสติกที่อยู่ภายในอาคาร สำนักงาน ซึ่งเป็น วัสดุที่ Developer ในแต่ละอาคารเริ่มให้ความสำคัญ รวมทั้งผู้เช่า และใช้อาคารเริ่มที่จะตระหนักถึงความสำคัญของฝ้าเพดานอะคูสติกที่ใช้ โดยปัจจุบันจะคำนึงถึงคุณสมบัติหลัก 3 ด้านของแผ่นฝ้าเพดานอะคูสติก ดังนี้

1.ต้องมีค่าการดูดซับเสียงที่สูง ( ค่า NRC อย่างต่ำ 0.6 บางอาคารกำหนดถึงอย่างต่ำที่ 0.9 ) เนื่องจากแนวการออกแบบส่วนใหญ่เป็นแบบ Open Plan Office

2.ความเป็น ไฮยีน (Hygiene) ของ Air Quality ภายในอาคารสำนักงาน แผ่นฝ้าเพดานจึงควรต้องมีค่าการฟุ้งกระจายของฝุ่นต่ำ

3.ที่สำคัญที่สุดคือค่าการกันไฟ ( Fire Safety ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารสำนักงาน Office Building ที่ยิ่งมีความสูงมากจะยิ่งให้ความสำคัญในส่วนของค่าการกันไฟของวัสดุฝ้าเพดาน Acoustics Ceiling ที่ให้ค่าการกันไฟที่สูงขึ้น

Trandar Acoustics จึงได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ฝ้าอะคูสติก กับ AMF จากประเทศเยอรมัน เพื่อนำเสนอฝ้าอะคูสติกที่ตอบสนองความต้องการของ Office Building Grade A ซึ่ง Trandar AMF ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากกลุ่มสถาปนิก และ Developer ที่ต้องการวัสดุอะคูสติกที่มีคุณภาพสูงต่อการใช้งานมาติดตั้งในโครงการสำนักงาน

โดยในปี 2017-2018 ที่ผ่านมา Trandar Acoustics ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Trandar AMF ให้กับ Office Building Grade A แนวหน้าหลายแห่งเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ทั้ง CBD และ Non CBD  อาทิเช่น

* อาคารสำนักงาน Pearl Bangkok พหลโยธิน ตึกทรงไข่มุกที่มีดีไซน์ที่โดดเด่น ออกแบบโดยปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ ของกลุ่ม พฤกษา พื้นที่กว่า 30,000 ตรม. เป็นสำนักงานเกรด A ตามมาตรฐาน LEED อาคารเขียว (Green Building) ระดับ Gold ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Mercure

* อาคารสำนักงาน Krungsri Ploenchit Tower หรืออาคารเพลินจิตเสาทอง ที่ตั้งตระหง่านกลางใจเมืองบริเวณถนนสุขุมวิท ในย่าน CBD (Central Business District) พื้นที่กว่า 30,000 ตรม., เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Mercure

* อาคารสำนักงาน T-One ย่านสุขุมวิททองหล่อ Office Building แห่งแรกที่ลงทุนโดยคุณตัน ภายใต้ ตัน อิง แอสเซ็ท ซึ่งมีสถาปัตยกรรมตัวอาคารแบบ Twist พื้นที่รวม 43,5700 ตร.ม. Co-Working Space ทำเลย่านทองหล่อ เพื่อตอบโจทย์นักธุรกิจรุ่นใหม่ เอาใจคน Gen Y, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Star

* อาคารสำนักงาน MS Siam ของกลุ่มมหาทุน ย่านถนนพระราม 3 พื้นที่กว่า 40,000 ตรม. เป็นการผนึกกำลังระหว่าง มหาทุนพลาซ่า และศรีสยามพร็อพเพอร์ตี้ สร้างอาคาร –

สำนักงานแห่งใหม่ย่านพระราม 3 ออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นเรื่องการอนุรักษ์พลังงานด้วย, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Star

* อาคารสำนักงานวัฒนวิภาส อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ กฟน. เขตคลองเตย ถนนพระราม 4 มีพื้นที่รวมประมาณ 93,000 ตารางเมตร โดยอาคารได้รับการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานอาคารเขียวไทย -(TREES : Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability), เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Mercure

* อาคารสำนักงาน Cheer Viva ย่านลาดกระบัง พื้นที่กว่า 9,800 ตรม. ออกแบบด้วยทีมงานคุณภาพจาก Atelier of Architects, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Mercure

* อาคารสำนักงาน ไทยรุ่งเรือง (TRR) ย่านพระราม 3 นราธิวาส พื้นที่กว่า 25,000 ตรม., ของ กลุ่มบริษัทน้ำตาลไทยรุ่งเรือง, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Star

* อาคารสำนักงาน สำนักงบประมาณ 59 ปี ย่านพหลโยธิน มีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 72,000 ตารางเมตร เป็นอาคารเพื่อรองรับพื้นที่สำนักงานห้องประชุม ที่จอดรถ พื้นที่ให้บริการสาธารณะ มีการออกแบบที่ใช้สัญลักษณ์ของธนบัตรมาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการ

ออกแบบที่มีรูปทรงอาคารที่ทันสมัย และแปลกตาไปจากอาคารทรงสี่เหลี่ยมทั่วไป, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Mercure

* อาคารสำนักงาน MERCEDES BENZ ( Thailand ) ถนนบางนา-ตราด กม.19, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Mercure

* IKEA บางใหญ่ Furniture Retails Store ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนจากสวีเดน

ที่ได้เปิดตัวไปแล้ว ที่อยู่ติดกับ Central Plaza Westgate มีพื้นรวมกว่า 50,278 ตารางเมตร, เลือกใช้รุ่น Trandar AMF Mercure

อาคารสำนักงานที่เกิดขึ้นใหม่เหล่านี้ได้ให้ความไว้วางใจ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฝ้าอะคูสติก “Trandar AMF” จาก Trandar Acoustics ทั้งหมด เพื่อให้กลุ่มผู้ใช้งานอย่างพนักงานออฟฟิศได้มี Quality & Safety of LiFE อย่างแท้จริง โดย Office Building Grade A ในกรุงเทพฯจะเลือกใช้ฝ้าอะคูสติก จาก Trandar AMF มากกว่าฝ้าอื่นๆในท้องตลาดทั่วไป ส่งผลให้ Trandar AMF มีส่วนแบ่งการตลาด (Market share) มากกว่า 60% ในกลุ่ม Office Building Grade A ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2017-2018

นอกจากอาคารสำนักงานที่เกิดขึ้นใหม่ ที่เลือกใช้แผ่นฝ้าเพดาน Trandar AMF แล้วนั้น อาคารสำนักงานเดิมหลายๆแห่งก็ได้เริ่มยกระดับมาตรฐาน และหันมาใช้ฝ้าอะคูสติก Trandar AMF แล้วเช่นกัน อาทิเช่น อาคารรสาทาวเวอร์ อาคารเคียนหงวน อาคารบางกอกซิตี้ทาวเวอร์ อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ อโศก อาคารบางนาทาวเวอร์ อาคารปตท.สำนักงานใหญ่ อาคารไทยประกันชีวิต รัชดาภิเษก เป็นต้น

จุดเด่น และคุณสมบัติที่ทำให้ฝ้าอะคูสติก Trandar AMF แตกต่าง และเหนือกว่าฝ้าอะคูสติกทั่วไปที่ใช้ในอาคารสำนักงานแบบเดิมๆ

1. แผ่นฝ้าเพดาน ผลิตจาก Mineral Fiber แท้ ไม่ได้มีส่วนผสมของ Cellulose หรือเยื่อกระดาษ

2. ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากประเทศเยอรมัน ทำให้ได้แผ่นฝ้าคุณภาพที่มาตรฐาน ขนาดแผ่น และสีแผ่นสม่ำเสมอเท่ากัน

3. เพิ่มการเครือบชั้นผิวหน้าแผ่นฝ้าเพดาน AMF และเพิ่มชั้นเคลือบด้านหลังแผ่น เพื่อลดการกระจายของฝุ่น

4. มีเทคโนโลยีทำให้ขอบแผ่นแข็งแรง ( Edge Hardener ) ไม่แตกหรือบิ่นหักง่าย ช่วยเจ้าของอาคารในการบำรุงรักษาแผ่นให้คงทนมากขึ้น

5. ไม่มีส่วนผสมของเยื่อกระดาษ จึงไม่ลามไฟ ได้ค่ามาตราฐาน EN 1350-1 Class A2-s1,d0 และ BS476 Part 6,7

6. เหนือกว่าด้วยมาตรฐานการกันไฟ BS 476 Part 20-23 จึงให้ความปลอดภัยที่สูงขึ้น

แทรนดาร์ อะคูสติก (Trandar Acoustics)  เป็นผู้นำในการออกแบบ ให้คำปรึกษา ตรวจวัดสำรวจ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อะคูสติกอย่างครบวงจรใน South East Asia โดยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1988 ได้เปิดดำเนินการมามากกว่า 30 ปี ซึ่งแทรนดาร์ อะคูสติก (Trandar Acoustics) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบฝ้าดูดซับเสียง ระบบผนังกันเสียง ระบบพื้นกันเสียง ระบบหลังคากันเสียง และอุปกรณ์ตกแต่งทางด้านอะคูสติกทุกชนิด เรามีทีมงาน และผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาในการออกแบบและติดตั้ง

พร้อมทั้งผลิตและจัดจำหน่ายแผ่นอะคูสติก อาทิเช่น แผ่นผนังกันเสียงซาวน์บอร์ด (SoundBoard), ฉนวนกันเสียง dBphon , ฝ้าดูดซับเสียง Trandat AMF, Trandar Heradesign, Trandar Ecophon, and Trandar Autex

Trandar Acoustics เติบโตจากการที่เป็นที่ปรึกษาและออกแบบทางด้าน Acoustics โดยเริ่มต้นจากการออกแบบให้กับ โรงภาพยนต์ในประเทศไทย จากนั้นได้ขยายตลาดไปสู่ โรงละคร หอประชุม สตูดิโอ โรงแรม 5 ดาว และล่าสุดได้เริ่มขยายในส่วนของอาคารสำนักงาน รวมทั้งยังได้เผยแพร่ และจัดจำหน่าย Software INSUL ทางด้าน Acoustics สำหรับที่ปรึกษา และผู้ออกแบบ

ปี 2017 เริ่มขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้ชื่อแบรนด์ Trandar Acoustics Cambodia โดยมี Trandar Acoustics Showroom ตั้งอยู่ใน เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ที่แสดงระบบฝ้าดูดซับเสียง, ผนังกันเสียง และฝ้าอะคูสติกทุกชนิดของ Trandar Acoustics

ปี 2018 ได้มีการเจาะกลุ่มตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยส่งออกสินค้า Trandar Soundboard ไปยังประเทศสิงคโปร์อีกด้วย

AMF เป็นผู้ผลิตฝ้าเพดานอะคูสติกชั้นนำของยุโรป ก่อตั้งตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1963 เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญ มีคุณภาพ และมาตรฐานการผลิตสูงสุด “Made in Germany” ตั้งอยู่ที่เมือง กรัฟเฟอร์เนาร์ (Grafenau) ประเทศเยอรมัน โดยเป็นโรงงานแห่งเดียวในโลกที่สามารถตั้งอยู่ในวนอุทยานแห่งชาติบาวาเรียน (Bavarian Forest National Park) ได้โดยไม่สร้างมลพิษ หรือผลกระทบต่อพื้นที่ภายในวนอุทยาน

AMF ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านอะคูสติก อาทิเช่น AMF THERMATEX, HERADESIGN, AMF TOPIQ, AMF MONDENA, AMF VENTATEC และ AMF TACET เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่สมบูรณ์สำหรับการประยุกต์ใช้งานในการสร้าง และตกแต่งอาคารพาณิชย์, อาคารสำนักงาน อาคารสถาบันการศึกษา และโรงพยาบาล เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ได้ผ่านการรับรองระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14001 ที่

นำมาใช้ในปี 2002 และมีการปรับปรุงด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของ AMF ยังได้รับรางวัล และใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อมจากต่างประเทศ (Type I, Type II และ Type III) ซึ่งในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ AMF ได้กระจายไปสู่ตลาดอะคูสติกมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

โดยในครั้งนี้ Trandar และ AMF ร่วมกันจัดงาน TRANDAR AMF CONTRACTOUR @Bangkok 2018  ระหว่างวันที่ 12 – 16 พ.ย. 2018
นำโดยผู้บริหารคุณกฤษดา สาธุกิจชัย ประธานฝ่ายบริหาร (CEO) Trandar Acoustics และ มร. สเตฟาน บลอช (Mr.Stefan BLÖCHL) ผู้จัดการฝ่ายขายภูมิภาค (Regional Sales Manager Knauf AMF GmbH & Co. KG) พร้อมด้วย มร.ฮาน คาร์ล หัวหน้าทีมวิศวกรติดตั้ง (Mr.Hans-Karl GRÜNBERGER Head of Application Engineering Knauf AMF GmbH & Co.KG) พร้อมผู้เชี่ยวชาญจาก AMF บินตรงจากเยอรมันมาร่วมแชร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งผลิตภัณฑ์ Trandar AMF

รวมถึงวิธีการติดตั้งระบบฝ้าต่างๆได้อย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล ซึ่งคอร์สอบรมครั้งนี้ได้จัดสำหรับผู้รับเหมาชั้นนำที่ได้รับเชิญแบบ Exclusive เข้าร่วมงาน Workshop โดยจัดขึ้นที่ Trandar Head Office ให้ผู้รับเหมาทุกท่านได้รับความรู้กันอย่างเต็มอิ่มพร้อมรับ Certificate รับรองโดย Trandar AMF อีกด้วย

www.trandar.com

สิงห์บุรี จังหวัดที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง?

นวัตวิถี สิงห์บุรี Inno-Way ชุมชนที่มีวิถีชีวิตอันงดงาม ซุกซ่อนตัวอยู่อย่างมากมาย

จังหวัดสิงห์บุรี  ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี  โดยล่าสุด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสิงห์บุรี  เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในชุมชนมีทักษะ ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ในการต้อนรับของแต่ละชุมชน สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

เมื่อพูดถึงชื่อจังหวัดนี้ ภาพที่ทุกคนมักจะนึกอันดับต้นๆ คือ ปลาช่อนแม่ลา จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจุดผ่านไปในหลายจังหวัด ไม่ไกลจากตัวเมืองเราจะเห็นวิว
ภูเขาไกลๆ เห็นทุ่งนาเขียวขจี ขับผ่านแล้วรู้สึกดี สบายตา เรียกได้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งนาข้าว  มีแม่น้ำน้อยหรือที่เรียกว่าแม่ลา ลักษณะดินที่มีคุณสมบัตพิเศษ ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลกจริงๆ

ดังนั้น ปลาที่จังหวัดสิงห์บุรี จึงมีรสชาติที่อร่อยกว่าที่อื่น  และปลาช่อนนา ที่สิงห์บุรี ถือได้ว่าเป็นที่สุดของปลาช่อนในโลกนี้ เนื้อหวานอร่อย และถ้ามาที่สิงห์บุรีต้องไม่พลาด ปลาช่อนแดดเดียว ที่ใครก็หาซื้อได้ตามริมทาง อีกอย่างถ้าใครชอบปลาร้าขอบอกว่าที่นี้ ปลาร้าอร่อยที่สุดบนผืนแผ่นดินไทย อยากรู้ว่าจริงไหมต้องลองดู

Toptotravel  มีโอกาสร่วมทริป ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี สิงห์บุรี Inno-Way โดยการเดินทางในครั้งนี้  มีทั้งสื่อมวลชน  รวมไปถึงพิธีกร ทอดด์ ทองดี หรือ โทมัส เจมส์ ลาเวลล์ (Thomas James Lavelle) ซึ่งการท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี  ทำให้เกิดชุมชนเข้มแข็งยั่งยืน ด้วยการนำนวัตกรรมผสมผสานกับวิถีชีวิตชุมชน ในการผลิตสินค้าท้องถิ่น หรือผลิตภัณฑ์โอทอป ทำให้ชุมชนมีรายได้และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีแบบแผนละเอียดอ่อน อันเกิดจากความเข้าใจของ นวัตวิถี ร่วมสุข ร่วมวิถี ร่วมสมัย

ปีนี้  เป็นปีที่รัฐบาล มีนโยบายเน้นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดในการรองรับนักท่องเที่ยวและขาดทักษะ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี สิงห์บุรี Inno-Way ชวนให้นักท่องเที่ยวมาชมความงดงามของธรรมชาติ ที่จะทำให้ต่อมรับรสในปากค่อยๆ สร้างความสุขด้วยการได้ชิมอาหารท้องถิ่นของชุมชน เพื่อเป็นการกระจายรายได้ตามความต้องการของชุมชน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ชุมชนท่องเที่ยวระดับหมู่บ้านวัตถุดิบแต่ละชนิดอย่างมีดีไซน์ เที่ยวทุ่งนา กินปลาช่อน และ เช้าวันนี้เรามาแวะตลาดนัดชุมชน OTOP นวัตวิถี บ้านตาลเดี่ยวใต้ ตามมาชมบรรยากาศด้วยกันคะ

จุดเริ่มต้นยามเช้าของวันนี้  ที่บ้านตาลเดี่ยวใต้ กับงานเปิดตลาดชุมชนท่องเที่ยว otop นวัตวิถี บ้านตาลเดี่ยวใต้ หมู่ 1 ตำบลทองเอน จังหวัดสิงห์บุรี  โดยมี
นายสุทธิพงศ์ พุทธจันทรา นายอำเภออินทร์บุรี เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดชุมชน OTOP นวัตวิถี บ้านตาลเดี่ยวใต้  ชุมชน OTOP นวัตวิถี ดำเนินงานภายใต้โครงการ  “ไทยนิยม ยั่งยืน”

เพื่อสร้างชุมชนเข็มแข็ง ยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และรายได้ให้แก่ชุมชน การสร้างตลาดใหม่ และเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ OTOP เข้ากับการท่องเที่ยว โดยการจำหน่ายสินค้าอยู่ในชุมชน โดยใช้เสน่ห์ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ เปลี่ยนเป็นรายได้ ผลิตสินค้าและบริการ รวมทั้งมีการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวระดับชุมชน ที่มีเสน่ห์ดึงดูดและมีคุณค่าพร้อมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือน และใช้จ่ายเงินในทุกกิจกรรมของชุมชน เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

แต่ถ้าเรื่องของอาหารพื้นถิ่น อาหารการกินของชาวจังหวัดสิงห์บุรี ช่วงที่มี
นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมชุมชนบ้านตาลเดี่ยวใต้ หลายท่านบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า…มาที่นี่ไม่มีผิดหวังกลับไปแน่นอน เพราะเรื่องอาหารพื้นถิ่น มีมากมาย โดยมื้อเที่ยงวันนี้  Totptotravel ขอยกตัวอย่างอาหารท้องถิ่นที่เรามีโอกาสได้ลิ้มลอง ดังนี้ …
-ลาบมะเขื่อ
-ต้มส้มฟัก
-ปลาส้มทอด
-บัวลอยสามเกลอ / ขนมสามเกลอ / น้ำสามเกลอ
-กล้อยตากเคลือบช๊อกโกเเลต
-ขนมสอดใส่ / ขนมตาล

ส่วนสินค้า OTOP โดยชาวบ้านและคนในชุมชนนำสินค้าที่ผลิตเอง เช่น
พืช ผัก ผลไม้ น้ำพริกผลิตภัณฑ์ปลาร้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัด สินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน เสื้อผ้าสำเร็จรูป กระเป๋าถือ และของใช้ ที่นำมาจำหน่ายในราคาไม่แพง เดินเล่นสนุก เพลินๆ ไม่ร้อน หิ้วของกันเต็มไม้เต็มมือเลย ช่วยกันสนับสนุนสินค้าไทยชื่นใจกันทั้งหมู่บ้าน

สินค้าที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายส่วนใหญ่  เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมและขึ้นชื่อว่าขายดีมากๆ  แทบจะผลิตไม่ทัน สั่งรอกันข้ามปี คือ กระเป๋าผ้า และ งอบแฟนซี สวยโดดเด่น ไม่มีใครเหมือน ไม่เหมือนใคร อย่างนี้ไม่มาถือว่าพลาดอย่างแรง
พบกันที่ ตลาดชุมชนบ้านตาลเดี่ยวใต้ (เปิดทุกวันอาทิตย์ของต้นเดือน)

อิ่มท้องแล้ว เดินทางต่อไปยัง ถนนตก หมู่บ้านแรกเป็นหมู่บ้านยางคุ้ง มารวมกับวัดทองเลื่อน มาเปลี่ยนชื่อเป็นชุมชนชาวถนนตก ชื่อนี้ สืบเนื่องจากเมื่อในอดีตที่ยังไม่มีถนนตัดผ่าน มีเพียงลูกรัง ภายหลังได้มีการปรับปรุงถนนขึ้นใหม่  ซึ่งดำเนินการไปสิ้นสุดที่ถนนตก ทางโค้งของโรงพยาบาล ชาวบ้าน จึงได้ตั้งชื่อว่าถนนตก หรือ ชุมชนชาวถนนตก นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ด้วยความพิเศษของสภาพที่ตั้ง ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
คุณป้าสุกัลยา พาทีมงานไปต่อยังบ้าน นายบุญพา บุญคง หรือ คุณกบ หมู่ที่ 11 ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ภายในบริเวณโดยรอบ จัดเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจ และมุมแสดงกิจกรรมทางการเกษตร ด้วยความพิเศษของสภาพที่ตั้ง ชาวบ้านที่ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการผลิต คุณกบเล่าต่อให้ฟัง ที่นี่ชุมชนมีรายได้และ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง มาเที่ยวที่นี่ได้ความรู้มาเติมสมองแบบไม่ต้องลงทุน

ปุ๋ยมูลไส้เดือน นำมาปรับสูตรแล้วออกมาจำหน่ายสร้างรายได้
-จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ที่มีวิธีการผลิตง่ายๆ โดยการการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นหัวเชื้อจากประเทศญี่ปุ่น
-มะนาวดอง การเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มีราคาเพิ่มมากขึ้น

นอกจากสินค้าที่หลากหลายที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนแล้ว  อาหารถิ่นที่ใครมาเยือนต้องได้ลองทาน มีเมนูอาหารคาว หวานขึ้นชื่อของหมู่บ้าน เพียงเพราะคำว่าขึ้นชื่อ พวกเรามีโอกาสได้ชิมฝีมือการทำอาหารท้องถิ่น ทีใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติแท้ๆ  ของ นายกิตติภณ  มาหยา (หมูแดง)  รสชาติแบบดั่งเดิม lสูตรเฉพาะตามแบบฝีมือคนโบราณ

คุณหมูแดง ( กิตติภณ  มาหยา ) โดยเมนูแนะนำ เราได้ชิมกันในมื่อค่ำ ที่บ้านของคุณหมูแดงเอง  มีเมนูใดบ้างมาชมไปด้วยกันค่ะ
1.แกงส้มผักตบ
2.ต้มยำไก่บ้าน (ไก่พื้นเมือง)
3.แกงกล้วยกับหมู
4.ปลาช่อนแม่ลาแท้ทอดกรอบ (สูตรเฉพาะ)
5.น้ำพริกเผาปลาช่อน ตราถนนตก (สูตรโอท๊อปขึ้นชื่อ)
6.ขนมนักรบ ทำจากผลของลูกยอสดๆ

คุณหมูแดง เล่าถึงการทำอาหาร เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด คือเรื่องวัตถุดิบ เลือกเฉพาะวัตถุดิบสดใหม่ ไร้สารปนเปื้อน  ได้จากธรรมชาติไม่มีคัดสรรแล้วนำมาปรุงรสชาติและผ่านการคัดมาอย่างดี โดยเฉพาะ น้ำพริกเผาปลาช่อน ตราถนนตก ปลาชนิดเดียวอร่อย เพราะเดือนเป็นช่วงวางไข่จะมีไขมันสะสมอยู่ทำให้ปลาอร่อยกว่าปรกติ

ได้ฟังเรื่องราวของหมูแดง “แม่ครัวหัวป่า” กลายเป็นคำสากลในการเรียกบรรดาคนปรุงอาหารฝีมือฉกาจทั่วฟ้าเมืองไทย โดยอาหารที่ขึ้นชื่อในหมู่บ้าน ฝีมือการทำอาหารของ หมูแดง ที่หมู่บ้านให้ความไว้วางใจ จนได้รับตำแหน่งแม่ครัว ประจำหมู่บ้าน ทั้งแขกผู้ใหญ่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้ ต้องห้ามพลาดได้ชิมฝีมือน้องหมูแดง ท่านนี้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

ณ.หมู่บ้านแห่งนี้ เหมือนถูกออกแบบให้เรามีสมาธิกับท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ด้วยการนั่งชิมอาหารท้องถิ่น โดยข้างหลังของเราจะเป็นฉากไม้ ลดแสงเพื่อให้เรารู้สึกว่า ข้างหลังไม่มีอะไรต้องใส่ใจ จึ งให้สมาธิกับด้านหน้าอย่างเต็มที่และบรรยากาศดีแบบสวนเกษตรจริงๆ

ที่บ้านถนนตก หมู่บ้านแรก เป็นหมู่บ้านยางคุ้ง มารวมกับวัดทองเลื่อน มาเปลี่ยนชื่อเป็นชุมชนชาวถนนตก ในปัจจุบัน ชื่อนี้สืบเนื่องจากเมื่ออดีตที่ยังไม่มีถนนตัดผ่าน จะมีแต่ลูกรัง ภายหลังได้มีการทำถนนขึ้น ซึ่งดำเนินการไปสิ้นสุดที่ถนนตก ทางโค้งของโรงพยาบาล ชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อว่าถนนตก หรือ ชุมชนชาวถนนตก นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

เรามาอยากรู้เรื่องมะนาวดอง ต้องมาที่ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรกรทฤษฏีใหม่ ประจำตำบลบางระจัน โดยได้รับคำคำแนะนำของ คุณป้าสุกัลยา พาทีมงานไปยังบ้าน นายบุญพา บุญคง หรือ คุณกบ อยู่หมู่ที่ 11 ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เป็นชาวบ้านที่ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีอะไรบ้างไปชมกัน

1.ปุ๋ยมูลไส้เดือน  ผลิตเอง ใช้เอง เหลือจากการใช้งาน ก็ออกมาจำหน่ายสร้างรายได้ เป็นไส้เดือนพันธุ์แอฟริกันไนท์ครอเลอร์กินไว ขี้ไว สะสมในระยะเวลา 20 วันเก็บออกมาใช้งานได้ทันที ขายในราคา 20 บาท/ถุง

2.จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง นำหัวเชื้อมาจากประเทศญี่ปุ่น เพาะพันธ์ุด้วยไข่ คุณสมบัติ เป็นการขยายรากพืช รากเยอะ ผลผลิตดูดอาหารได้เยอะ ส่งผลผลิตได้มาก ข้อดีอีกทาง คือ ช่วยบำบัดน้ำเสีย ด้านปศุสัตว์

3.มะนาวดอง เก็บไว้กินนานๆ อยากกินต้มฟักมะนาวดอง ต้มผักกาดมะนาวดอง เป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มีราคาเพิ่มมากขึ้น จากการขายมะนาวลูก จะตก ที่ลูกละ 50 สต. 2 ลูก 1 บาท ปรับสูตรแล้วมาทำมะนาวดอง จะได้ผลผลิตลูกละ 5 บาท

ทั้งหมดนี้ คือ นวัตวิถี เมืองสิงห์บุรี การมีส่วนร่วมของชุมชนสู่ต้นแบบการเป็นแหล่งเรียนรู้การพัฒนาและจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นวิถีชีวิต วิถึการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนแบบที่เรามอบความวางใจให้ จังหวัดสิงห์บุรี เป็นพัฒนศักยภาพชุมชนต้นแบบสู่มาตรฐานระดับสากล

ช่วงบ่ายของวันนี้ คุณทอดด์พาทีมงานมาเที่ยวชมวัดวิหารแดง ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เริ่มต้นสบายๆ อย่างสนุกสนาน ด้วยการต้อนรับ แบบสนุกสนานของชาวบ้าน รำกลองยาว เป็นการแสดงศิลปะพื้นบ้าน โดยมี
คุณสุกัลยา สืบเพ็ง เป็นเล่าประวัติความเป็นมาของวัดร้างในอดีต วัดวิหารแดง หลวงพ่อแดง เดิมเป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ที่ ตำบล บางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ห่างจากอนุสาวรีย์วีระชนบางระจัน ประมาณ 6 กิโลเมตร จากหลักฐานบางอย่าง (เช่นอิฐก่อสร้างวิหาร) เชื่อได้ว่า วัดวิหารแดง เป็นวัดสมัยเดียวกันกับ “วัดโพธิ์เก้าต้น”ซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย กราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยไปฟังเรื่องราวต่อไป

การเดินทางของ ทอดด์ ทองดี นวัตวิถี เมืองสิงห์บุรี

วัดวิหารแดง หมู่ 11 ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบาง
ระจัน จังหวัดสิงห์บุรี 16150

หยก สุริยา เจ้าแรกของสิงห์บุรี
ปิดท้ายทริปนี้ ด้วยการชมต้นไม้ที่สร้างชื่อให้กับหมู่บ้าน “หยก สุริยา”
และ “หยก ม่วงสุริยา”ของคุณลุงนพดล บุษบงค์ อายุ 59 ปี ในอดีตคุณครูผู้หลงไหล ต้นไม้ กล้วยไม้ จัดสวน ไม้ดอก ไม้ประดับ คุณลุงนพดลฝันอยากมีสวนสวย และร้านขายต้นไม้เป็นของตนเอง

ต้นหยก มีรูปแบบการเจริญเติบโตแตกต่างกันออกไป  โดยแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
-รูปเขากวาง (Forming a cluster) ประกอบด้วยกิ่งแขนงแตกเป็นกลุ่ม รอบโคนต้น คล้ายเขากวาง บนขอบหรือสันกิ่งมีใบและหนามขนาดเล็กเป็นระยะ ๆ เช่น หยกพันธุ์มงคล และพันธุ์มังกรแดงหยก

-แผ่เป็นรูปพัด (Fan shaped) เป็นต้นเดี่ยวที่แขนงติดกันเป็นแผงรูปพัด แนวสัน (ridges) เป็นริ้วอยู่ทั่วแผง มีใบและหนามอยู่บนสัน ต่อมาใบจะร่วงเหลือแต่บริเวณใกล้ เรือนยอด (crowing tip) ส่วนหนามจะคงอยู่ทั่วแผง เช่น หยกพันธุ์ทองนพเก้าและพันธุ์ทองคํานพคุณ

-แบบคลื่น (branched crested) เป็นต้นเดี่ยวที่แขนงติดกันเป็นแผงสวยงาม เป็นระนาบเดียวรูปพัด แต่จะพัฒนาแผ่ซ้อนเป็นร่อง  คลื่นคล้ายงูเลื้อย (forming a snaky ridge) เช่น หยกพันธุ์เบญจรงค์ และ พันธุ์ทับทิม เนื้อหยกจะมี 2 ลักษณะ คือ หยกเนื้อทึบ ซึ่งเนื้อหยกจะมีคลอโรฟิลล์ข้างในสีเขียว และหยกเนื้อใส เนื้อข้างในจะใสไม่มีสีคลอโรฟิลล์ หยกเนื้อใสจะเจริญเติบโตช้ากว่าหยกเนื้อทึบ หยกทั้งสองชนิดมีชื่อเรียกสายพันธุ์ต่าง ๆ หรือในวงการค้าเพื่อไม่ให้เกิดการสับสบในเรื่องชื่อ จึงใช้ โทนสีบนแผงของหยก เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

โดยหลังเกษียณอายุราชการ คุณลุงนพดล มีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่สร้างชีวิตใหม่กับแรงบันดาลใจ คือ ต้นหยกที่คุณลุงพยายามศึกษาข้อมูล จากการอ่านหนังสือ ค้นคว้า ทดลอง ลงมือทำหลายครั้ง จนเป็น เจ้าแรกของสิงห์บุรีที่ทำสำเร็จพร้อมขายส่งออกอย่างมหาศาล ทำรายได้เข้าสู่ครอบครัว จากความตั้งใจครั้งนี้ คุณลุงนพดล ซื้อที่ดินกว่า 3 ไร่ พร้อมบ้านพัก ที่สำคัญ ได้เปิดเป็นร้านขาย ต้นไม้หลากหลายชนิด อย่างที่ใจต้องการ ในร้านที่ชื่อว่า สวน ตะวันแสนภูมิ การจัดสวนด้วยตัวเอง สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ไม่ยุ่งยากแวะมาหาต้นไม้ราคาถูกกลับบ้านกันคะ

ขอบคุณ :  
โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี
สำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดสิงห์บุรี  

สทน. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดโครงการประกวดหนังสั้น

TINT SHORT FILM PROJECT
ภายใต้หัวข้อ “Nuclear for Better Life”

สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดโครงการประกวดหนังสั้น TINT SHORT FILM PROJECT ภายใต้หัวข้อ “Nuclear for Better Life” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 310,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึง 23 พฤศจิกายน 2561 นี้

นายวราวุธ ขจรฤทธิ์ ผู้จัดการศูนย์ฉายรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน.

“สทน.” ชวนประกวดหนังสั้น “TINT SHORT FILM PROJECT” ในหัวข้อ “Nuclear for Better Life” ชิงเงินรางวัลกว่า 310,000 บาท สร้างความรู้ความเข้าใจเทคโนโลยีนิวเคลียร์

นายวราวุธ ขจรฤทธิ์ ผู้จัดการศูนย์ฉายรังสี สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน.
เผยว่า สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดโครงการประกวดหนังสั้น TINT SHORT FILM PROJECT ภายใต้หัวข้อ “Nuclear for Better Life”

โดยมีเป้าหมาย เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญ และสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ถึงประโยชน์และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ รวมถึงการสร้างความเชื่อถือและความมั่นใจของประชาชนต่อพันธกิจของสถาบันฯ อันจะนำไปสู่การพัฒนาการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในประเทศอย่างยั่งยืน

โดยโครงการประกวดหนังสั้นฯ ครั้งนี้ เกิดจาก เพราะปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกได้หันมาให้ความสนใจการศึกษาและพัฒนาการนำพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับโลกมากขึ้น  ส่วนหนึ่งมาจากการที่พลังงานนิวเคลียร์ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ อุตสาหกรรม และการเกษตร

ด้วยเหตุนี้การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง การสื่อสารข้อมูลข่าวสารทางบวกของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินกิจกรรมของสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์ห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของเทคโนโลยีนิวเคลียร์แก่ประชาชน

โครงการประกวดหนังสั้นฯ ดังกล่าว เปิดรับสมัคร 2 ประเภท ได้แก่

  1. รุ่นใหญ่ (ระดับอุดมศึกษาขึ้นไป) อายุ 19 ปี ขึ้นไป ซึ่งกำลังศึกษาในระดับชั้นอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าขึ้นไป สมัครได้ทั้งเดี่ยวและทีมๆ ละไม่เกิน 3 คน รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัลสูงสุด 100,000 บาท

พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร และรางวัลชมเชย เงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร มี 3 รางวัล

  1. รุ่นใหญ่ (ระดับอุดมศึกษาขึ้นไป) อายุ 19 ปี ขึ้นไป ซึ่งกำลังศึกษาในระดับชั้นอุดมศึกษาหรือเทียบเท่าขึ้นไป สมัครได้ทั้งเดี่ยวและทีมๆ ละไม่เกิน 3 คน รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัลสูงสุด 100,000 บาท

พร้อมโล่รางวัลและประกาศนียบัตร และรางวัลชมเชย เงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร มี 5 รางวัล โดยโครงการประกวดหนังสั้นฯ ได้ผ่านการพิจารณาตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จาก สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน), คุณบัณฑิต ทองดี และม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล

หนังสั้นที่ได้รับรางวัล สทน. จะนำไปเผยแพร่สู่ประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ ที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญ สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ถึงประโยชน์และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีนิวเคลียร์

ผู้ที่สนใจสามารถส่ง Plot หนังสั้นความยาว 3-5 นาที
อีเมลล์  tintshortfilm@gmail.com

หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
www.tint.or.th หรือ www.facebook.com/thainuclearclub

KTBGS สานต่อนโยบายคุณธรรมนำความยั่งยืนความเชื่อมโยงระหว่าง วัด บ้าน และโรงเรียน

นโยบาย “KTBGS คุณธรรมนำความยั่งยืน” กรุงไทยธุรกิจบริการ (KTBGS) สานต่อนโยบายคุณธรรมนำความยั่งยืน

เมื่อไม่นานมานี้ Toptotravel มีโอกาสไปร่วมงาน กิจกรรม ซีเอสอาร์ ที่ดำเนินมาตลอดระยะเวลา 21 ปี โครงการ บริษัท รักษาความปลอดภัย กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด หรือ KTBGS เป็นบริษัทในกลุ่มของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับ กิจกรรม ซีเอสอาร์ บริษัทฯ ได้ดำเนิน  นโยบายภายใต้ Corporate theme ที่มีความน่าสนใจมากในเรื่องของความ “ห่วงใยใส่ใจคุณ” ซึ่งคำว่า “คุณ” ในที่นี้หมายถึง ลูกค้า/พนักงาน / ผู้ถือหุ้น และตลอดจนสังคม พร้อมยึดหลักธรรมาธิบาลในการบริหารองค์กร ซึ่งมุ่งหวังให้องค์กรเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ของพนักงานทุกคน ทำให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนกิจกรรมอย่างเห็นได้ชัด

บริษัท ได้ใช้แนวทางการดำเนินตามโครงการพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นที่ตั้ง KTBGS จึงได้เริ่มโครงการกฐินพระราชทาน CSR ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2558 ให้กับโรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ ป่าแขมวิทยา จ.พะเยา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ที่สามารถช่วยพัฒนา ศาสนา สังคม และการศึกษาได้อย่างยั่งยืน

สำหรับในปีนี้ภายใต้นโยบายของบริษัทคือ “คุณธรรมนำความยั่งยืน” ยังได้สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องมุ่งเน้นมิติด้านการศึกษา ศาสนา และสังคม โดยเราเชื่อว่าทั้ง 3 มิติ มีความเชื่อมโยง ต่อกัน และเป็นรากฐานสำคัญของความยั่งยืนให้กับองค์กร สังคมและประเทศชาติ บริษัทจึงได้สานต่อกิจกรรมนี้ขึ้นอีกครั้ง

โดยมีพื้นที่เป้าหมายอยู่ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท และ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ในชื่อโครงการ “KTBGS Empower Social Sustainability” ภายใต้แนวคิด “บวร” เน้นความเชื่อมโยงระหว่าง วัด บ้าน และโรงเรียน

ทั้งนี้จุดเริ่มต้นของโครงการ คือ นโยบายของบริษัท ที่ต้องการมุ่งเน้นมิติด้านการศึกษา ศาสนา และสังคม ให้มีความต่อเนื่องกัน อีกทั้งเล็งเห็นว่า พื้นฐานสำคัญที่จะทำให้คนในชุมชน มีรากฐานที่แข็งแรงและเป็นกำลังให้กับชุมชนได้ ก็จะต้องมาจาก วัดซึ่งเป็นศูนย์รวมด้านศาสนา ส่งต่อไปถึงโรงเรียนเพื่อผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับชุมชน ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกันเป็นระบบลูกโซ่หมุนเวียน โดยกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการมอบรถตู้ของทางบริษัท ที่ปลดระวางการใช้งาน แต่ยังสามารถใช้งานได้มามอบให้กับทางวัด เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้งานต่อได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งพระสงฆ์ สามเณร ตลอดจนคนในชุมชน หรือเป็นประโยชน์ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เพื่อที่ชุมชนจะสามารถพึ่งพาตัวเองได้ต่อไป โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินกิจกรรมหลัก ๆ แบ่งออกเป็น

กิจกรรม CSR ภายนอกองค์กร
•การดำเนินตามโครงการพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีด้วยการสนับสนุนการสร้างอาคารเรียนให้กับสามเณร โรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ ป่าแขมวิทยา จ.พะเยา ซึ่งเป็นโรงเรียนศูนย์กลางสำหรับสามเณรในเขตพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.พะเยา และ จ.น่าน ตั้งแต่ปี 2558 และต่อมาในปี 2559 บริษัทได้สนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาเครื่องคอมพิวเตอร์ห้องวิทยาศาสตร์ และอุปกรณ์ศิลปะตลอดจนทุนการศึกษาให้กับสามเณร เนื่องจากสามเณรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาและมีฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน ในปี 2560 บริษัทได้จัดกิจกรรมผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาโดยระดมทุนเพื่อใช้ในการบำรุงรักษาอุปกรณ์การเรียนตลอดจนทุนการศึกษาให้สามเณรอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมอบรถตู้เพื่อใช้ในการรับส่งสามเณรและรถกระบะเพื่อใช้ในการกู้ชีพและกู้ภัยให้กับชุมชนในวัดศรีเมืองมาง จ.พะเยา

•ร่วมพิธีสมโภชองค์กฐินและพิธีถวายผ้ากฐิน ณ วัดครึ่งใต้ จ.เชียงราย เพื่อนำรายได้สร้าง “ห้องพักผู้ปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน” ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน อ.เมือง จ.เชียงราย (ก่อตั้งโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี) ในปี
2559

•ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือช่วยเหลือคนพิการให้มีอาชีพด้วยการจ้างคนพิการ ณ สมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย จำนวน 81 คน ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยให้ผู้พิการมีงานทำและเห็นคุณค่าในตัวเอง โดยการทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ให้แก่บริษัท

•จัดโครงการร่วมกับสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย สนับสนุนและส่งเสริมให้กลุ่มคนพิการได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ร่วมกิจกรรมประกวดวาดภาพระบายสี ชิงเงินรางวัล 70,000 บาท ในปี 2559

•สนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนปากพลีวิทยาคาร จ. นครนายก ซึ่งอยู่ในโครงการกรุงไทยสานฝันโรงเรียนดีใกล้บ้าน ในปี 2560 และมอบรถตู้เพื่อใช้ในการรับส่งนักเรียนในปี 2561

กิจกรรม CSR ภายในองค์กร•มอบทุนการศึกษาแก่บุตรของพนักงานที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เป็นจำนวนกว่า 689 ทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน

•การจัดกิจกรรม Kids Camp เพื่อเปิดโอกาสให้กับกลุ่มบุตรหลานบุคลากรทุกระดับได้มีโอกาสเรียนรู้ตนเองด้วยการส่งเสริมการสร้างทักษะทางสังคม และการทำกิจกรรมการส่งต่อความดี เพื่อเป็นการปลูกฝังความกล้าหาญ การแสดงออกและวิธีคิดของการอยู่ร่วมกันในสังคมโดยยึดหลักความซื่อสัตย์และมีน้ำใจ

•โครงการเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มพนักงานเตรียมเกษียณที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมให้เกษียณอย่างมีความสุข ที่ผ่านมา ได้ทำกิจกรรมเรียนรู้ด้านการเงิน ด้านสุขภาพ ฝึกสอนอาชีพทางเลือกเมื่อถึงวัยเกษียณ รวมทั้งศึกษาดูงานที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านสารภี จ.สมุทรสงคราม ซึ่งผู้ก่อตั้ง ได้แนวคิดจากการน้อมนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ในการดำรงชีวิต

•โครงการ Happy Money ให้ความรู้แก่พนักงานในเรื่องของการเงินส่วนบุคคล รวมทั้งให้ความรู้ด้านการลงทุนและสร้างรายได้เพิ่ม หากเป็นหนี้บริษัทก็มีพี่เลี้ยงทางการเงินที่คอยให้คำแนะนำวิธีลดภาระหนี้สิน

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับรางวัล “สถานประกอบกิจการดีเด่น” 12 ปีซ้อน ติดต่อกัน (ปี 2550 – ปี 2561) ในด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีสหภาพแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน แสดงถึงความมุ่งมั่น ที่จะสร้างสรรค์ ประโยชน์สุข ต่อบุคลากร ครอบครัว Stakeholder รวมทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้พัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป ในปีนี้บริษัทมุ่งเน้นอย่างมากในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ในตัวบุคลากรซึ่งนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดให้เป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่ทุจริต มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และองค์กร จากรุ่นสู่รุ่น ภายใต้นโยบาย “KTBGS คุณธรรมนำความยั่งยืน”

ซีเอสอาร์ หรือ ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันเป็นครั้งคราวและจบไป แต่เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความพยายามที่สม่ำเสมอและมีการต่อยอดและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จึงจะเรียกได้ว่าได้สร้างความมั่นคงในแง่ของความสัมพันธ์ขององค์กรกับสังคมรอบข้าง

บริษัท รักษาความปลอดภัย กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด
เลขที่ 96/12 ซอยลาดพร้าว 106 (บุญอุดม 1) แขวงพลับพลา
เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

เค พาเลซ ฯ จัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้าไทยเที่ยวไทย ครั้งที่49

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่มองหาสถานที่จัดงานแต่งงานไม่ควรพลาด

แนะนำโรงแรมหรูๆ แต่ราคาถูกๆ ตั้งอยู่ใกล้เมืองทองธานีและศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แถวหลักสี่ ทีเค พาเลซ กรุงเทพ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น จัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่  แพ็คเกจงานแต่งลด 10 %  และห้องพักลดราคา 50 %  ในงาน ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 49

โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น มีทำเลอยู่ห่างจากอิมแพคเมืองทองธานีและศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะโดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ 10 นาที โรงแรมมีห้องพักปรับอากาศทันสมัย ปรับปรุงใหม่ เอาใจลูกค้า ด้วยราคาพิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่มองหาสถานที่จัดงานแต่งงานไม่ควรพลาด
Grand Convention Building อาคารจัดเลี้ยง งานแต่งงาน  ในส่วนของ
ห้องพัก ขณะนี้เปิดให้บริการทั้งหมด 280 ห้อง โดยแบ่งเป็น

Standard, Superior, Deluxe ในส่วนห้องจัดงานเลี้ยง สามารถ รับลูกค้าตั้งแต่กลุ่มเล็ก 30 คนขึ้นไป จนถึงกลุ่มใหญ่กว่า 800 คน มีกว่า 20 ห้อง

ทั้งนี้ การปรับปรุง เพิ่มอาคาร รองรับการเติบโต ตามความต้องการของลูกค้า ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งอาคารจัดงานเลี้ยง อาคารห้องพัก 100 ห้อง รองรับการจัดงานทุกรูปแบบ ห้องพักที่มีถึง 380 ห้อง พร้อมเปิดต้อนรับลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบในต้นปี 2562 ในส่วนของที่จอดรถ โรงแรมมีพื้นที่กว้างกวาง ทั้งในอาคารและลานจอดรถกลางแจ้ง รองรับได้เกือบ 500 คัน

พิเศษสุด สำหรับงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 49 แพ็คเกจงานแต่ง ราคาพิเศษ จองในงานรับส่วนลดทันที 10 %  ในส่วนของ ห้องพักมีโปรโมชั่น 2 แบบ
คือ  Deluxe และ Superior ลดถึง 50 %

พบกับโปรโมชั่นห้องพัก แพ็คเกจงานแต่ง ได้ที่
งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 49
ระหว่างวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2561 บูธ O09

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2574 1588, www.tkpalace.com,www.facebook.com /TKPALACEHOTEL