Category Archives: Hotel

ท้าให้ลอง Indian food ต้นตำรับแดนภารตะ ณ ห้องอาหารเดอะสแควร์

โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต


เคยมีคนถามว่าชอบอาหารอินเดียมั้ย​?
แฟนคลับที่ติดอกติดใจ ที่สุดของอาหารอินเดียเมนูเด็ดของ ร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำจากต้นตำรับ แดนภารตะ รังสรรค์โดยเชฟ ผู้มากประสบการณ์จากร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำระดับประเทศ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย

Toptotravel มาถึงแล้วไม่รอช้า ตักของอร่อยมาชิมกันเลย กินอาหารอินเดียครั้งแรกอร่อยกว่าที่คิด อาหารอินเดียที่คนไทยทานได้ง่ายๆ ที่นี่จัด แบบบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย โดยโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ร่วมกับร้าน บาวาร์ชิ ซึ่งเป็น ร้านอาหารอินเดียชั้นนำ จัดเทศกาล อาหารอินเดีย ณ ห้องอาหารเดอะสแควร์ของโรงแรมฯ ลองกันในครั้งนี้ รับรองว่าอร่อยถูกปากแน่นอน

ข้าวพิลาฟร้อนๆ

บอกเลยที่เด็ดของ อาหารอินเดีย ที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ของโรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เมื่อมาถึงรับ welcome drink เครื่องดื่มต้อนรับ ผสมโยเกิร์ต เครื่องดื่มที่ช่วยระบบย่อย และดับกลิ่นเครื่องเทศและรสชาติของอาหารอินเดีย กับเมนูอาหารอินเดียที่คนไทยทานได้ง่ายๆ ประสบการณ์แห่งความอร่อยครั้งนี้ ส่งตรงจากต้นตำรับแดนภารตะ รังสรรค์โดยเชฟผู้มากประสบการณ์จากร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำระดับประเทศ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย โดยได้รับรางวัลจาก Thailand Tattler ให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปีติดต่อกันและยังได้รับ Certificate of Excellence จาก Trip Advisor เป็นประจำ รวมไปถึงรางวัลจาก Readers Choice สไตล์อินเดียที่มีชื่อเสียงมานานเป็นร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในต่างประเทศ โดยสภาร้านอาหารอินเดีย พร้อมเสิร์ฟอาหารรสจัดจ้าน รวมถึงเมนูอย่างอื่นอีกมากมายหลายอย่างคะ อาหารระดับพรีเมี่ยมในราคาแสนสบาย ให้ได้เอ็นจอยกันกับการกินสุดดีงาม

วันนี้ เชฟกัลยาณี จิริฐิติกาลโชติ แนะนำและขอพาชมไลน์อาหารก่อนเลยนะ อาหารแห่งคาบสมุทรอินเดีย จัดจ้านด้วยเครื่องเทศของดีที่อยากให้ลิ้มลอง แกงกะหรี่เนื้อแกะ แกงผักโขมกับชีส ไก่ย่างเคี่ยวในซอสแกงกะหรี่ มันฝรั่งและดอกกระหล่ำบดใส่เครื่องเทศ โรตีและขนมปังอินเดีย ทานคู่กับแป้งนาน ทำสดใหม่ และข้าวพิลาฟหุงร้อนๆ ส่วนอาหารอินเดียต่างๆ เหล่านี้ แนะนำเป็นอย่างยิ่งจากความอร่อยส่วนตัว อาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเด็ดอื่นๆ อีกมากมาย รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ให้เลือกสรรความอร่อยได้อย่างไม่จำกัด รับรองถูกปากคนไทยแน่นอน

ซิกเนเจอร์จุกๆ ที่ต้องจัด
Chicken tikka Masala ไก่มาซาลา
Lamb Roganjosh แกงกะหรี่เนื้อแกะ
Malabari Fish Curry แกงกะหรี่ปลา
Panner lababda r แกงกะหรี่ชีส
Daal Makhani แกงถั่วใส่เนย
Aloo Gobhi มันฝรั่งและดอกกระหล่ำบดใส่เครื่องเทศ
Assorted Indian Bread โรตี และ ขนมปังอินเดีย
Chicken Samosa and Vegetable Samosa ซาโมซ่าไก่ และซาโมซ่าผัก

ของหวาน : Lassi ลาสซี่
Gulab Jamun กุหลาบจามุน

โรตีและขนมปังอินเดีย ทานคู่กับแป้งนาน

สำหรับคนที่ชอบทาน Lobster ต้องทานให้ได้นะคะ กริลล์หอมกรุ่นอร่อยกว่าที่อื่นหลายเท่าตัว ในกรุงเทพยังหา LOBster ตัวใหญ่ที่อร่อยเท่านี้ได้ยากมาก แม้แต่โรงแรม 5 ดาวหลายๆ ที่ก็เถอะคะ Toptotravel ยอมใจให้ที่นี่ คุ้มมากจริงๆ

พิเศษสุดคุ้ม! “มา 4 จ่ายเพียง 3”
เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิต Aeon, KTC ,Krungsri และ SCB

ลิ้มลองรสชาติความอร่อยเลิศของอาหารอินเดีย
บุฟเฟ่ต์ที่นี่จัดเฉพาะวันที่ 10 – 23 มิถุนายน 2562
Lunch buffet ราคา 820 บาท เน็ต เวลา 11.30-14.00 น.
Dinner buffet 1,120 บาท เน็ต เวลา 18.00-22.30 น.
Sunday Brunch 1,299 บาท เน็ต (lobster 1 ตัวต่อท่าน)
เริ่มที่เวลา 11.30-15.00 น.

Farm Stays in Singburi บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ สวรรค์บ้านทุ่ง

ทดลองใช้ชีวิตแบบพอเพียง ท่ามกลางความสุขที่เพียงพอ ชีวิตพอเพียง เพื่อสุขที่เพียงพอ
จุดแรกของทริปนี้ กับวิวท้องทุ่งนา ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา กับวิวพาโนรามาแบบ 180 องศา เราได้เเที่ยวเชิงเกษตรแบบดั้งเดิม ที่นี่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจจากคำสอนของในหลวง ร.9 และได้ลงมือทำเพื่อเดินตามรอยแนว ความพอเพียงของพ่อหลวง

FARM STAYS IN SINGBURI

ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว นักเดินทางที่มองหาที่พักอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตอย่างง่ายๆ เปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ให้เข้ามาศึกษาหาความรู้

บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ถูกล้อมรอบไปด้วยนาข้าว ได้ยินเสียงนกร้องปลุกผู้มาเยือน ท่ามกลางบรรยากาศแบบส่วนตัว บ้านพักที่พักแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับคนที่กำลังอยากทดลองใช้ชีวิตในแบบพอเพียง เป็นที่พักเชิงเกษตร หรือ ฟาร์มสเตย์ ที่เกิดจากความตั้งใจที่ต้องการจะนำผืนดินเล็กๆ กับที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ ตั้งอยู่ใจกลางขุนเขา แวดล้อมไปด้วยความสงบและความสุขจากธรรมชาติ แต่เดิมที่นี่ทำนา ปลูกข้าว ด้วยใจรักในเรื่องของสุขภาพ และอยากให้คนในครอบครัว ได้รับประทาน เริ่มแบ่งปันให้คนรอบข้าง จนเริ่มมีผู้มาเยือนที่นี่บ่อยขึ้นจึงค่อยๆ พัฒนาที่นี่ เป็นที่พักเชิงเกษตร ตามแนวพระราชดำริในการใช้ชีวิตที่พอเพียงให้กลายเป็นบ้านทรงไทยกลางทุ่งนาเขียวขจีที่แสนอบอุ่น

ข้าวหอม ฟาร์มสเตย์ (Farm Stay) เป็นสถานที่คงความอุดมสมบูรณ์และสวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ได้ครบทั้งหมด ความสุขในวิถีเกษตร ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา บนเนื้อที 20 ไร่ ผสมผสานกับความเรียบง่ายที่พอเพียง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภายในบ้านพักแต่ละหลังครบครัน และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน พื้นที่ส่วนกลางของที่พักเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาสีเขียวขจีในช่วงปลายฝน ก่อนผลัดเปลี่ยนเป็นสีทองในช่วงหน้าหนาว

ภายในห้องพักตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น และที่สำคัญคุณยังได้เรียนรู้การทำเกษตร และยังได้รับประทานอาหารออร์แกนิคที่สดใหม่ปราศจากสารเคมี ที่พักจะมีแปลงเกษตรให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมลงมือและเรียนรู้การปลูกผักออร์แกนิค ตามธรรมชาติตามวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบบ้านนอก ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ น่าจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ได้ดี

คุณสายพิน ชูเชื้อ เล่าถึงที่มาของ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ หลังจากหันหลังให้กับอาชีพพยาบาล จากทำงานหนักมาตลอด ภายหลังหันมาให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพ ทั้งอาหารและการใช้ชีวิต เขาจึงตัดสินใจเปิดที่พักนี้ขึ้น เปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตัวเอง สู่วิถีเกษตรท้องถิ่น ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่แบบเกษตรอินทรี โดยไม่พึ่งสารเคมี และปลูกผักปลอดสารพิษ รวมถึงยังเปิดเป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้ ให้นักท่องเที่ยวได้มาทำกิจกรรมปลูกข้าว ดำนา เก็บผัก ล่องเรือ และยังเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน บนเรือนไทยไม้สัก เคียงข้างท้องทุ่งนาสีเขียวขจีกว่า 20 ไร่

คุณสายพิน ชูเชื้อ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์

จากที่ดินผืนเดิมถูกปรับให้เหมาะกับการทำที่พักเชิงเกษตร อาหารเราใช้ ได้จาก ทุ่งนาสีเขียวกับการเรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่าย ผักที่ปลูกเองมาเป็นวัตถุดิบ ถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้รายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม แต่มีความสะดวกสบายบวกกับได้การเรียนรู้ ถ้ามาพักที่นี่ ตื่นเช้ามาทำบุญใส่บาตร ทานอาหารเช้าแล้ว ตื่นมาอาจจะปลูกผัก รดน้ำผัก มาทำเกษตร ปั่นจักรยานชมท้องนา, ใส่บาตรพระตอนเช้า, ชมการปลูกผักปลอดสารพิษ, ชมโรงสีข้าว หรือถ้ามาช่วงเข้าออกรวงก็มาเกี่ยวข้าวกัน ซึ่งก็แล้วแต่ฤดูกาล ข้าวไรซ์เบอรี่สิงห์บุรี ที่ได้มาตรฐานพร้อมส่ง ภายใต้แบรนด์ บ้านข้าวหอม ซึ่งเป็นความสำเร็จของบ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ เป็นความฝันที่มีคนร่วมฝันเป็นคนในครอบครัว

การทำนาแบบปลอดภัย กว่าจะมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ที่บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ทำนาเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ เน้นเรื่อง ข้าวปลอดสาร เน้นความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จึงมีการทำทุกกระบวนการอย่างมีคุณภาพ จนได้รับมาตรฐานของกรมการข้าวและอย.อยากให้ทุกคนรักสุขภาพ ด้วยการกินอาหารที่ดีมีคุณภาพ ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยากต่อการเจ็บป่วย โดยเริ่มต้นที่ข้าว ซึ่งเป็นอาหารพื้นฐานของคนไทย ควรเลือกทานข้าวที่มีประโยชน์ สะอาดและปลอดภัย ดังคำพูดที่ว่า ทานข้าวเป็นยา อย่าทานยาแทนข้าว รับรองพักที่ฟาร์มสเตย์แห่งนี้ทั้งอิ่มท้อง ทั้งอิ่มใจเลยล่ะ
-คุณสายพิน ชูเชื้อ

คุณสายพิน ชูเชื้อ

นอกจากนี้หากมีเวลาเหลือก็ต้องไม่พลาดไปเที่ยวชมธรรมชาติเชิงอนุรักษ์มากมาย ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ที่คุณจะได้สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย ห้องพักออกแบบมาได้อย่างน่ารัก รวมไปถึงพื้นที่ สำหรับการทำกิจกรรม เป็นกลุ่มสุดสนุกและได้เรียนรู้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปลูกผัก เก็บผักตามฤดูกาล ดำนา เกี่ยวข้าว ปลูกข้าวโพด พายเรือ และเรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรี ประมาณ 22 กิโลเมตร มาชมทุ่งนาสีเขียวๆ ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชนบทที่มีความเรียบง่าย ทำไร ทำนา ปลูกผัก ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ แต่มากไปด้วยความสุข ความพอเพียง พร้อมเปิดบ้านรอต้อนรับอย่างอบอุ่นราวกับเป็นคนในครอบครัว

ติดต่อ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ห้องพักในเรือนไทย
ที่พัก : บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์
ราคา : 500-800 บาท/คน
(ที่พัก + อาหาร 2 มื้อ + อาหารว่าง + กิจกรรมท่องเที่ยว)
Facebook : บ้านข้าวหอมสิงห์บุรี
ติดต่อ โทร : 082 724 0322
พิกัด : https://goo.gl/maps/psyxFn8enTK2

โปรโมชั่นสุดคุ้ม ! ไฮไลท์มาเต็ม บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์

ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล เพลินจิต

กลับมาพบกันอีกครั้งในวันเสาร์สุดสัปดาห์ เอาใจคนรักบุฟเฟ่ต์และอาหารทะเลกันอย่างต่อเนื่อง กับมื้อเที่ยงวันเสาร์ช่วงเวลาเดิม เพิ่มเติมคือความคุ้มแบบจัดเต็ม พบกันได้แล้ววันนี้

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงวันเสาร์จัดให้หนัก!

ทั้งอร่อย ทั้งสบายกระเป๋า แน่นอนว่าสามารถกินได้จนกว่าจะจุกแบบไม่ 3 ชั่วโมงเต็มๆ เลยทีเดียว


บุฟเฟ่ต์โรงแรมดีๆ ในกรุงเทพฯ ที่เราอยากบอกต่อ ไม่อยากให้พลาดลองของดี คุ้มค่า คุ้มราคา อิ่มอร่อยไปกับ ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์ ที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ ท่ามกลางบรรยากาศเปิดโล่งผ่อนคลาย พร้อมให้บริการคุณแล้ว เราขอนำเสนอเมนูไฮไลท์ ไม่ว่าจะเป็นซีฟู้ดออนไอซ์ที่จัดเต็มกันมาแบบแน่นๆ สำหรับวัตถุดิบไฮไลต์ของที่นี่คือ ปูม้า, กุ้งขาว, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และหอยแมลงภู่ดำ ส่วนใครที่ชอบแบบร้อนๆ เราก็มี กุ้งตัวใหญ่ ปูสดๆ ปลาตามฤดูกาล และกุ้งแม่น้ำเผาเตาถ่าน ที่หอมกรุ่นเกินห้ามใจ

ที่นี่ เสิร์ฟอย่างไม่ขาดสาย อิ่มและอร่อยกับความหลากหลายของไลน์บุฟเฟ่ต์ที่มาพร้อมคุณภาพระดับโรงปรมห้าดาว รวมไปถึงอาหารจานเดี่ยว ปรุงสดใหม่ เตรียมพร้อมเสิร์ฟให้เพื่อนๆ ได้จัดเต็มกับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเกรดคุณภาพ

เต็มอิ่มกับอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ที่เชฟของห้องอาหารบรรจงรังสรรค์ขึ้น เริ่มต้นความอร่อยด้วย ซูชิ, ซาซิมิ นอกจากนี้ยังมีเนื้อเกรดพรีเมียม ขาแกะอบพร้อมซี่โครงหมู และแฮม ไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีพาสต้า, สลัดบาร์, อาหารไทยและตะวันตกอีกมากมาย สามารถเดินเลือกได้เองตามชอบใจ ปิดท้ายกับวันเสาร์อันแสนสุข ด้วยขนมหวานและไอศกรีมนานาชนิด ทั้งหมดเพียง 1,100++ ต่อท่าน รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งไม่อั้น เอาเป็นว่า…ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์อีกต่างหาก

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงวันเสาร์ สุดอลังการที่คุณจะได้ใช้เวลาวันหยุดสบายๆ กับครอบครัวและเพื่อนอย่างเต็มที่ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายซึ่งโรงแรมของเราติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต ทางออก 4

ข้อเสนอพิเศษ!สายกินห้ามพลาด โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด อันลิมิเต็ด สำหรับแฟนเพจ Toptotravel

เพียงจองผ่านลิ้งค์ด้านล่าง จากราคา 1,100++ บาท (ราคาเต็มรวม Vat และค่าบริการ 1,295 บาท)
รับส่วนลดสูงสุดถึง 50 % เพียง 707 บาทสุทธิ
เมื่อจองออนไลน์
http://bit.ly/2W9g1c3

สมาชิกแอคคอร์ พลัส รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% (4 ท่านต่อบัตร) เพียง 590 บาท โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์ ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต

ะยะเวลาโปรโมชั่น: ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 – 15.00 น.
ราคา 1,100++ บาท/ ท่าน
(เริ่มต้น 707 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์ไม่อั้น)
สำรองที่นั่งได้ที่: 02 305 6000
จองออนไลน์: http://bit.ly/2W9g1c3

มอนท์เอซัวร์ จับมือ แอคคอร์ เปิดตัว “เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์” แห่งแรกในไทยบนเกาะภูเก็ต

โรงแรมระดับโลกสู่ “มอนท์เอซัวร์”
โครงการแลนด์มาร์คซูเปอร์ไฮเอนด์ขนาด 454 ไร่


MontAzure โครงการแบบผสมผสานซูเปอร์ไฮเอนด์ ที่ได้รับรางวัลมากมายในระดับสากล บนหาดกมลา เกาะภูเก็ต

“มอนท์เอซัวร์” (MontAzure) โครงการแบบผสมผสานซูเปอร์ไฮเอนด์ ที่ได้รับรางวัลมากมายในระดับสากล บนหาดกมลา เกาะภูเก็ต เปิดตัว “มอนเอซัวร์ เลคไซด์” (MontAzure Lakeside) โครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ มูลค่า 2,000 พันล้านบาท พร้อมจับมือ “แอคคอร์” (Accor) และแบรนด์โรงแรมห้าดาวในเครือ “เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์” (MGallery Residences) มาเป็นผู้บริหารงานภายใต้คอนเซ็ปต์โรงแรมและเรสซิเดนซ์

“M” ใน MGallery สื่อถึง “Memorable” (ประสบการณ์ที่น่าจดจำ) และ “Magical” (น่ามหัศจรรย์) ซึ่งผู้เข้าพักที่มาเยือนจะได้รับแรงบันดาลใจในการเดินทาง ณ จุดหมายปลายทางนั้น ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศตามถนนหนทาง สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงได้รื่นรมย์กับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง…

“เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์” (MGallery Residences, MontAzure Lakeside) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของโครงการมอนท์เอซัวร์ (Heart of MontAzure) แวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติจากเชิงเขาสู่ชายหาดกมลา เชื่อมต่อการใช้ชีวิตอันเป็นส่วนตัวภายในห้องชุดกับบรรยากาศภายนอกได้อย่างลงตัว ตัวโครงการสร้างอยู่บนพื้นที่ประมาณ 22 ไร่ ประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัย ทะเลสาบและสวนภูมิทัศน์ที่คงไว้ตามธรรมชาติ ให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับรูปแบบวันพักผ่อนในบรรยากาศและกลิ่นอายของลมทะเล กับผืนทรายขาวละเอียดของหาดกมลาท่ามกลางทิวเขาที่ยังอุดมสมบูรณ์ พร้อมเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับมาตราฐานสากลและการบริการระดับโรงแรมห้าดาวแบบครบวงจร

โครงการมอนท์เอซัวร์ เลคไซค์ ประกอบด้วยห้องชุดขนาดกว้างขวางรวม 236 ยูนิต ในแบบสตูดิโอ (Studio) และ 1 ห้องนอน (One Bedroom) ภายในตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนองค์ประกอบตามธรรมชาติของเกาะภูเก็ต เน้นความเรียบง่ายแต่ยังคงโดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเฉพาะของโครงการ ลูกค้าสามารถเลือกวิวทะเลสาบ วิวภูเขาหรือวิวทะเล ผ่านหน้าต่างและระเบียงขนาดใหญ่ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ต้องการห้องชุดขนาด 2 ห้องนอนขึ้นไป สามารถเชื่อมต่อห้องชุดเพื่อสร้างห้องขนาดใหญ่อีกด้วย

นอกจากนั้น ภายใต้การบริหารงานของ เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ เจ้าของห้องชุดจะได้รับบริการระดับพรีเมียม และสิทธิประโยชน์จากโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลกในเครือแอคคอร์ ในฐานะสมาชิกระดับวีไอพีอีกด้วย

ภายในโครงการฯ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งได้รับการออกแบบตามมาตราฐานโรงแรมห้าดาวอย่างเอ็มแกลเลอรี ไม่ว่าจะเป็นศาลาพักผ่อน ลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง ห้องโยคะ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทั้งยังรองรับลูกค้าที่มาพักผ่อนพร้อมครอบครัว ด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระ สระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกาย (lap pool) สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มพร้อมสระว่ายน้ำเด็ก และคลับสำหรับคุณหนู ๆ นอกจากนั้น ยังมีร้านอาหาร ที่ให้บริการตลอด
วัน (all-day dining) บาร์เครื่องดื่มที่สระน้ำ (Pool bar) ห้องฟิตเนส และ
คลับเฮาส์

เจ้าของห้องชุดสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกันก็ยังได้รับบริการสุดพิเศษในแบบฉบับ เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์

นายเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์

นายเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์ กล่าวว่า “ด้วยสถาปัตยกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต สิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา และทำเลที่ตั้งที่สมบูรณ์แบบบนชายฝั่งตะวันตกของภูเก็ต ทั้งยังได้ “เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์”หนึ่งใน พรีเมี่ยมแบรนด์ของ แอคคอร์ มาเป็นทีมบริหาร ทำให้เรามั่นใจว่า “มอนเอซัวร์ เลคไซด์” เป็นโครงการที่น่าสนใจและคุ้มค่าสำหรับนักลงทุนทั้งในด้านการบริการและผลตอบแทนในอนาคตอย่างแน่นอน”

ด้าน มร.แพทริค บาสเซ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แอคคอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนบนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและมัลดีฟส์ กล่าวว่า “โครงการมอนท์เอซัวร์ เลคไซด์ นับเป็นโอกาสที่ลงตัวในการเปิดตัว “เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์” ครั้งแรกในประเทศไทย โดย “เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์” เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่เน้นการนำเสนอเรื่องราวและความงดงามของสถานที่นั้น ๆ ซึ่งโครงการมอนเอซัวร์มีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบ สะท้อนเสน่ห์ของเกาะภูเก็ตได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า การร่วมมือของ เอ็มแกลลอรี กับ มอนท์เอซัวร์ จะสร้างประสบการณ์อันเป็นที่จดจำให้แก่ผู้เข้าพัก และยกระดับคุณภาพที่อยู่อาศัยในภูเก็ตให้เหนือระดับยิ่งขึ้น”

มร.แพทริค บาสเซ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แอคคอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนบนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและมัลดีฟส์

ทั้งนี้ โครงการมอนท์เอซัวร์ อาณาจักรมิกซ์ยูสมูลค่ากว่าหมื่นห้าพันล้าน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 454 ไร่ บนหาดกมลา ประกอบไปด้วย ที่พักส่วนตัวระดับลักซัวรี่ คอนโดมิเนียมริมทะเล รีสอร์ตระดับ 5 ดาว ไลฟ์สไตล์มอลล์ และศูนย์สุภาพ รวมถึงร้านอาหารและบีชคลับบนชายหาดมลา เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับอีกมากมาย โดยมอนท์เอซัวร์ได้รับรางวัลระดับภูมิภาครวมถึง “Best Mixed-Use DevelopmentThailand” จากเวที Asia Property Awards อีกด้วย

เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์ นับเป็นแบรนด์โรงแรมระดับไฮเอนด์ล่าสุดที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับมอนท์เอซัวร์ หลังจาก คาเฟ่เดลมาร์ (Cafe del Mar) ทวินปาล์ม เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ (Twinpalms Residences MontAzure) และ อินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท (InterContinental Phuket Resort) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดในปีนี้ ผู้พักอาศัยที่ “เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์” สามารถเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารและบีชคลับบนหาดกมลาที่อยู่ภายในโครงการมอนท์เอซัวร์ ลูกค้าสามารถเดินหรือใช้บริการรถรับ-ส่งฟรีไปยังชายหาดได้อีกด้วย

เจ้าของห้องชุดทุกยูนิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จาก Accor Ownership Benefits Program ในสถานะ “VVIP” และได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นสมาชิกแพลตตินั่มของ Le Club AccorHotels พร้อมส่วนลด 20% และอัพเกรดห้องพักสำหรับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือกว่า 4,000 แห่งทั่วโลก

“เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์”
ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท มีกรรมสิทธิ์ถือครองแบบสมบูรณ์ (Freehold)
พร้อมการบริหารในรูปแบบโรงแรมสำหรับนักลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม
www.montazure.com
อีเมล sales@montazure.com หรือโทร +66 93 624 8800

ทุ่งนาขั้นบันได…ใจกลางโรงแรม

“พูลแมน หลวงพระบาง” (Pullman Luang Prabang Hotel)

ยินดีต้อนรับ….สู่สถานที่พักผ่อนอันน่าทึ่งของครอบครัว ตื่นรับอรุณพร้อมชมวิว ทุ่งนาขั้นบันได…ใจกลางโรงแรม หลวงพระบางเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ของลาว ตั้งแต่สถาปัตยกรรม ศิลปะและหัตถกรรมดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน รวมไปถึงผลผลิตสดใหม่จากทุ่งนาและฟาร์ม

“พูลแมน หลวงพระบาง” (Pullman Luang Prabang Hotel) โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว กำลังถูกยกให้เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว เป็นโรงแรมเปิดใหม่ เพิ่งเปิดมาได้ 9 เดือน ด้วยพื้นที่ 100 ไร่ ความสูงของอาคาร 2 ชั้น ถูกออกแบบใสในรูปแบบเรียบง่าย ที่นี่จัดเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีสวยงาม ตั้งอยู่ท่าม กลางธรรมชาติ ธารน้ำ ภูเขาโอบล้อม รวมไปถึงทุ่งนาขั้นบันไดบริเวณใจกลางโรงแรม เป็นคอลเลกชั่นล่าสุดของ แบรนด์พูลแมน อันโด่งดังของเครือ Accor กลางหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก

ภายในโรงแรมมีพื้นที่ห้องจัดประชุมใหญ่ที่สุด ในหลวงพระบาง ใครอยากมาเที่ยวหลวงพระบาง แล้วได้ฟีลเก๋หลายๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนอาจจะเห็นว่ามีการเปิดตัวของโรงแรมใหม่ๆ คับคั่งมากหน้าหลายตา บางที่มาพร้อมกับจุดขายเก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้ง การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงดีไซน์และการตกแต่งที่เป็นจุดสำคัญในการทำให้ผู้เข้าพักประทับใจ


ที่สุดของบริเวณ Lobby พร้อรับบริการ

เรียนรู้กับการใช้ชีวิต เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโก ด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน จึงทำให้ภาพรวมของ พูลแมน หลวงพระบาง รีสอร์ท ที่มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ของความเป็นหลวงพระบางแบบดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นที่ประทับใจของแขกที่มาพักทุกเชื้อชาติ

พูลแมน หลวงพระบาง ให้บริการห้องพักรวม 123 ห้อง ในรูปแบบโลว์ไรส์ (low-rise) มีทั้งแบบห้องสวีท ไปจนถึงพูลวิลล่าขนาด 2 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ออกแบบตกแต่งสไตล์ Laos Contemporary อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องพักทันสมัยครบครัน พนักงานที่นี่เค้าสามารถเข้าใจภาษาไทย ได้รับความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวเรื่อยมาตั้งแต่เปิดให้บริการโดยในส่วนของห้องพักมี ให้เลือกหลากหลาย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละแบบ พร้อมพักผ่อนในห้องพักสุดหรูอย่างเต็มที่เหมาะกับชีวิตสโลว์ไลฟ์

หลังจาก เช็คอินที่ล็อบบี้ พร้อม Welcome Drink ด้านหน้าโรงแรมล็อบบี้และที่จอดรถอยู่ฝั่งเดียวกับตัวตึก ตรงบริเวณล็อบบี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเราจะเห็นร้าน Junction Bar รวมถึงมีคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ที่เราสามารถนั่งเล่นอินเตอร์เนต

โดยรีวิวนี้ Toptotravel จะแบ่งเป็น ห้องพัก, สระว่ายน้ำ และห้องประชุม , อาหารเช้า และ สปา นะคะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลย


รูปแบบห้องพัก + สิ่งอำนวยความสะดวก
ให้รางวัลกับร่างกายและให้ของขวัญกับตัวเอง ด้วยการไปพักผ่อน วันนี้เ
Toptotravel มีโอกาสได้มาพักห้องพรีเมี่ยมดีลักซ์ Premium Deluxe Room ห้องใหญ่มากที่พักมี 2 ชั้น จากทั้งหมด 4 ห้อง ของตัวตึกโรงแรม ตกแต่งในรูปแบบ เน้นความเป็นไม้และสีสันสว่าง สไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของล้านนา ห้องน้ำใหญ่ ต่ละห้องมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิว ห้องน้ำมีฝักบัวอาบน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และเลือกได้ระหว่างเตียงขนาดคิงไซส์ที่หรูหรา 1 เตียง หรือเตียงขนาดนอนได้สองคน 2 เตียง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องพักได้แก่ เครื่องปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิแบบแยกส่วน มินิบาร์ อุปกรณ์ชงชาและกาแฟ ตู้นิรภัยในห้องพัก ไดร์เป่าผม เครื่องชั่งน้ำหนัก เตารีด เครื่องรับโทรทัศน์จอแบน พร้อมช่องรายการดาวเทียม โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย

เปิดเข้ามาห้องน้ำก็จะนอนแช่น้ำ จากห้องน้ำ แช่น้ำไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและสนามหญ้า และทุ่งนาขั้นบันไดใจกลางโรงแรม ส่วนการเดินทางไปจุดต่างๆ ภายในโรงแรม สามารถกดเรียกปุ๊บแทบจะมาทันที ห้องพักที่นี่ใช้ระบบคีย์การ์ดจนถึงเข้าห้องพัก ค่อนข้างปลอดภัยแน่นอน ถ้าขี้เกียจเดิน โรงแรมเค้ามีการส่ง ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว

เรื่องหมอนและเตียง นี่คิดว่าคือจุดเด่น หมอนนอนแล้วไม่ปวดคอ อันนี้ตัวชัญญ่าเอง ค่อนข้างประทับใจเลย กลับจากมาเที่ยวเหนื่อยๆ นอนบนเตียงและหมอนดีๆ คือช่วยให้เราหายเหนื่อยได้เร็วมาก นอกจากนี้ ในห้องเค้ายังมีตู้เซฟไว้ให้เราใส่ของมีค่า มีทีวี มีราวแขวนเสื้อที่ให้ไม้แขวนมาเหลือเฟือ และมีไวไฟสัญญาณแรงๆ เล่นเน็ตเร็วปรี๊ดมาก สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่โรงแรมให้มาคือค่อนข้างครบ

เมื่อเราเดินเข้ามายังตัวโรงแรม ด้านหน้าโรงแรม เราจะเห็นร้านอาหารที่ชื่อว่า Junction Bar ซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนที่นำคุณไปสู่มุมมองของนาข้าวขั้นบันได ส่วนด้านหน้าโรงแรมนั้นมีที่จอดรถ รวมถึงถ้า ใครเช่ารถมาไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถเลย อีกสิ่งหนึ่งที่เก๋คือ ห้องพักที่นี่มีทั้งแอร์และพัดลมติดเพดาน แอร์เย็นฉ่ำ แต่ถ้าใครแพ้แอร์ ก็เปิดหน้าต่าง + เปิดพัดลมได้เลยส่วนห้องน้ำทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก สบู่ ยาสระผม และครีมนวดผมในตัว ที่ดีและประทับใจมากคือ ทุกห้องของที่นี่ฝักบัวแรงสะใจ อันนี้ชอบมากๆ เพราะปกติถ้าฝักบัวไม่แรง นี่จะเฟลกับการอาบน้ำ

ในส่วนห้องพัก มีการออกแบบให้แขกได้รับอารมณ์ของวิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน ให้ความสำคัญที่ความสะดวกสบาย พักแล้วรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง Facilities ครบมาก ที่นี่มีสระว่ายน้ำถึง 3 สระด้วยกัน

บรรยากาศดี การบริการ เน้นความน่ารักเป็นกันเองของพนักงาน ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ให้บริการด้วยใจ แต่คงไว้ซึ่งมาตราฐานระดับสากล โรงแรมระดับ 5 ดาวทั่วโลก ของตกแต่งที่เลือกใช้ก็สื่อถึงวัฒนธรรมของลาว จึงทำให้ภาพรวมของตัวรีสอร์ท มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ของความเป็นหลวงพระบางดั้งเดิม เป็นที่ประทับใจของแขกที่มาพักทุกเชื้อชาติ

อาหารเช้า ที่ห้องอาหาร L’Atelier ห้องอาหารริมทะเลสาบ อาหารเช้าที่ห้องอาหาร มีบริการอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลหรือแบบบุฟเฟต์ All-Day Dining อยู่แล้ว เมนู A La Carte มีอาหารหลากหลาย ทั้งลาว ไทย และ ตะวันตก อาหารของที่นี่ได้จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร (farm-to-table) โรงแรมใช้วัตถุดิบท้องถิ่นออร์แกนิกตามฤดูกาล สมุนไพรลาว ผักและผลไม้เมืองร้อนที่ปลูกในสถานที่ของโรงแรม รวมถึงเก็บเกี่ยวข้าวจากทุ่งนาขั้นบันไดภายในรีสอร์ทมาใช้ในร้านอาหาร

“The Junction” เลานจ์ และห้องสมุดที่ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารว่าง ศูนย์ออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมง สปา คิดส์คลับ สระว่ายน้ำ 3 แห่ง
พร้อมพูลบาร์ “H2O” และพื้นที่จัดการประชุมและกิจกรรมที่สามารถรองรับได้ถึง 300 คน ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบางเพลิดเพลินกับการพักผ่อนแล้ว เปิดประสบการณ์กับโปรแกรมท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่หลากหลายที่ทางโรงแรมจัดให้อย่างเต็มอิ่ม อาทิ โยคะยามเช้า ไทชิ บนดาดฟ้าของรีสอร์ท

ขอบคุณข้อมูลต่างของโรงแรม ด้วยการดูแลและแนะนำของ :
Khun : Supatta Noimuang (ZII)
Director of Sales Marketing
Khun : Sheila May Reas Buenafe
PR & Marketing Communication Manager

Khun : Supatta Noimuang (ZII) and Khun : Sheila May Reas Buenafe

สุดท้าย Toptotravel ขอพาไปชม พูลแมน สปากันค่ะ ตรงนี้เราขอเข้าไปชมบรรยากาศ และ พูดคุยกับ คุณณันท์นภัส ไกรหิรัฐปวีร์ SPA & WELLNESS MANAGER

สรุปทุกอย่างดีงาม ตามท้องเรื่องในระดับห้าดาวของโรงแรมพูลแมน
พูลแมน สปา ตั้งอยู่ภายในบริเวณ Pullman Hotels and Resort หลวงพระบาง อยู่ด้านในสุดของโรงแรม โดยมีแนวคิดว่า เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้สัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัวแลความเงียบสงบ รู้สึกผ่อนคลาย

พูลแมน สปา ประกอบด้วยห้องทรีทเมนท์ทั้งหมด 6 ห้อง แต่ละห้องสร้างแบ่งแยกจากกันเป็นสัดส่วน ทุกห้องทาสีขาวสะอา ห้องทรีทเมนท์ออกแบบอย่างเรียบง่ายหรูหราด้วยการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ คุณณันท์นภัส เล่าให้ Toptotravel ฟังในขณะพาเราเดินเข้าเยี่ยมชม บริเวณภายใน พูลแมน สปา เราเรียกห้องทรีทเมนท์เป็นตึก 1 -3 เป็นห้องเตียงคู่ ตึก 4 เป็นห้องเตียงเดี่ยวสำหรับการนวด ตึก 5 เป็นห้องนวดไทยมี 4 เบาะ สำหรับนวดไทยโดยเฉพาะ และตึกสุดท้ายก็จะเป็นห้องนวดเท้าซึ่งสามารถทำเล็บ

… ด้วยสนนราคาที่ไม่แพง ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้บริการ โดยเฉพาะกับฝีมือการนวดของเทอราปิส ที่ผ่านการฝึกอบรมและผ่านประสบการณ์มาอย่างดี ทำให้ พูลแมนสปา ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกว่าต้องจองกันล่วงหน้า เพราะคิวยาวอย่างไรก็ตาม หากมาเที่ยวที่ หลวงพระบาง และอยากทดลองฝีมือการนวดของเทอราปิสชาวลาว ระดับพรีเมี่ยม ต้องลองแวะเข้ามา แล้วจะประทับใจ

ที่นี่ พูลแมน สปา….หากใครต้องการอยากไปหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมการจองบริการสปา ที่นี่เปิดทุกวัน 10.00 -21.00 น.
ลูกค้าจากภายนอกโรงแรมสามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยติดต่อผ่าน
โอเปอร์เรเตอร์ของโรงแรม Pullman Luang Prabang

พูลแมน หลวงพระบาง คือการคงไว้ซึ่ง วิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืนของชาวหลวงพระบางที่เป็นรากฐานของเมืองมาตั้งแต่โบราณ โดยได้เชื่อมต่อกับกลิ่นอายของหลวงพระบางเอาไว้ในทุกย่างก้าวของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการรังสรรค์การบริการที่เป็นพันธมิตรกับท้องถิ่น การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ การทำฟาร์มและสวนครัวแบบยั่งยืนภายในโรงแรม และการคิดค้นเมนูอาหารจากวัตถุดิบขึ้นชื่อในพื้นที่ ควบคู่ไปกับโปรแกรมรักษ์โลก Planet 21 ที่เครือข่าย Accor ทั่วโลก

เคล็ดลับอย่างแรก ถ้าเราคิดจะมาพักโรงแรมในเครือ ACCOR แนะนำให้จองห้องพักโดยตรงกับเว็บไซต์ เพราะนอกจากเว็บโรงแรมจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่ครบครัน เว็บไซต์หน้าตาดีแล้ว คือเราจะได้เรทห้องพักที่ถูกกว่าที่อื่นๆ อย่างแน่นอน

เรื่องทำเลที่ตั้งของ Pullman Luang Prabang
Amazing huge room. Lovely staff. Great pool and nice restaurant.
สัมผัสวิถีลาวบทใหม่ที่ พูลแมน หลวงพระบาง ได้แล้ววันนี้
Pullman Luang Prabang
Ban Pong Wanh, 06000 LUANG PRABANG LAO PDR
Tel: +856 71 211 112
อีเมล H9112@accor.com

สรุปบทสัมภาษณ์ของ ทวีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร TK Palace

วันนี้….หากใครก้าวเข้าไปยังโรงแรม ทีเค พาเลซ จะสัมผัสได้ถึงโฉมใหม่ของสถานที่แห่งนี้ แต่รู้หรือไม่ว่า เรื่องราวของผู้ชายชื่อทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม ประธานกรรมการบริหาร ทีเค. จุดเริ่มต้นจาก ความตั้งใจที่ต้องการพัฒนาโรงแรม ที.เคใหญ่ขึ้น และเป็นหนึ่งในกิจการโรงแรมที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดใน ย่านแจ้งวัฒนะ พร้อมให้บริการอย่างดีที่สุด

คุณทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม เริ่มเล่าให้ฟังว่า … ย้อนหลังไป 3 ปีที่แล้ว จนถึงในปัจจุบัน จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ ทีเค. โดยมองเรื่องของวิสัยทัศน์ก่อนว่า วันนี้ การทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องไม่มีอะไรเหมือนกัน ต้องสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างจุดขาย

ผู้ชายคนนี้มีเบื้องหลังแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไร?
จุดเริ่มต้นในธุรกิจนี้ วิสัยทัศน์ของผม มีเพียงแค่การอยู่รอด และช่วงสามปีต่อจากนี้ไป เราคิดกันว่า น่าจะมีโรงแรมที่ไม่เหมือนคนอื่น เน้นเรื่องของ Green hotel เราลงทุน กับการปลูกต้นไม้ทั้งหมด 10 กว่าล้านบาท และนำสถาปนิก ปรับเปลี่ยนดีไซน์ทุกส่วนในพื้นที่ของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้ ห้องพัก ห้องประชุมสัมมนา ต้นไม้ พรม วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องพัก ปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีความทันสมัย

ผมคาดหวังว่า โรงแรมเราจะกลายเป็นหนึ่งในกิจการ โรงแรมที่ดีแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ขณะเดียวกัน มีเพื่อนที่คอยสนับสนุนและพร้อมจะลงทุนไปด้วยกัน โดยการร่วมทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อนที่พูดถึงคือ นิ่มซี่เส็ง ซึ่งประกอบธุรกิจมาสามสิบกว่าปี ผมโชคดีที่มีนายทุนเป็นเพื่อนสนิท ให้แบบไม่มีข้อแม้ เหมือนเป็นเพื่อนและเป็นผู้ที่มีพระคุณกับโรงแรมของเรา”

การทำธุรกิจโรงแรมในวันนี้ ต้องมีวิสัยทัศน์ มองหลายมิติ โรงแรมมีลักษณะผสมผสาน เพื่อให้มาตรฐานสากล โรงแรมส่วนมากคนมีทุนสูง มีเงินเยอะเป็นเจ้าของ โดยจ้าง GM เข้ามาบริหาร เขาก็จะบอกกับ GM ว่า จะต้องทำยอดให้ได้สมมติเดือนละ 30 ล้าน ทีนี้ GM กับลูกน้อง Relation ไม่ค่อยมี GM ต้องปั้นเงินให้ได้ เพื่อนำพาตัวเองให้รอด การทำงานไปกดดันกับลูกน้อง ลูกน้องก็อยู่ยาก และลาออกในที่สุด สำหรับที่ ทีเค เจ้าของจะยืนอยู่เคียงข้างคู่กับลูกน้องเสมอ เพราะผมเชื่อว่าในอนาคตเราจะเติบใหญ่ขึ้น และโตกว่านี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน

แนวคิดการบริหารโรงแรมหลังผุดอาคารหรู
คุณทวีศักดิ์ เล่าว่า …เราสร้างอาคารใหม่โดยกลุ่มเป้าหมาย ผมมองว่าถนนแจ้งวัฒนะเป็นย่านคนรวย แต่จะพบว่าที่ถนนแห่งนี้ ไม่มีโรงแรมระดับที่ว่าเข้ามาแล้วประทับใจ สำหรับเรา ผลตอบรับคือลูกค้าค่อนข้างพอใจพร้อมสัมผัสลุคใหม่กับทีเค บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้พักผ่อนควบคู่ไปกับการทำงาน ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การประชุมหรือสัมมนา สามารถดำเนินธุรกิจ จนประสบความสำเร็จภายใต้สภาพแวดล้อมของสังคมไทย

ด้วยพื้นที่ใช้สอย และในอนาคต จะใช้นโยบายการสร้างความแตกต่างเรื่อยๆ …คัดเกรดลูกค้า และสร้างแรงจูงใจ รวมถึงงานดีไซน์ที่ถูกออกแบบตกแต่งมาอย่างดี อย่างล็อบบี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของโรงแรมทีเค ถามว่าเหนื่อยมั๊ย? กับการลงทุน ต้องยอมรับว่าเหนื่อย แต่ทุกวันนี้พอใจกับกระแสตอบรับของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งจะเลือกได้ว่า…จะรับลูกค้ากลุ่มไหน?

ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 60% ที่เหลือ คือต่างชาติและแขกที่เป็นเอเย่นต์ คอร์เปอร์เรท ณ วันนี้ ธุรกิจโรงแรม สร้างรายได้ไม่ cover เงินกู้ มองแบบนักเศรษฐศาสตร์ที่มองสองทาง ทั้ง direct และ indirect ไดเรคคือ ทางตรง และอินไดเรค ที่จะมาจากรถไฟฟ้า ซึ่งจะเปิดทางให้ลูกค้าเข้ามา ….นี่คือเป้าหมาย”

คุณทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม

ภายใน 3 ปี โรงแรมต้องขายตัวเอง 50% ขึ้นไป รายได้เดือนหนึ่งสุมมติ 30 ล้าน โรงแรมต้องขายตัวเองได้ 20 ล้าน นอกนั้นเซลล์ขาย ถ้าทำได้จะสบายในระยะยาว การที่เราจะบริหารจัดการไปได้ ต้องอยู่ที่สินค้าอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อลูกค้าเข้ามาแล้วบอกต่อ วันนี้มีการพัฒนาเรื่องของอาหาร มี F&B ช่วย จะบริการเพียงห้องพักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีประชุมสัมมนา จึงจะถึงเป้า 30 ล้านใน 3 ปีข้างหน้า

อย่าไรก็ดี ด้วยพื้นที่ใช้สอย ตระหง่านบนพื้นที่ 30ไร่ ริมถนนแจ้งวัฒนะ โรงแรมใช้พื้นที่เต็มจำนวนทั้งหมด โดยในปัจจุบัน ราคาซื้อขายกัน 500,000 บาท 10 ไร่ 2,000 ล้าน เลยหนี้ ในแต่ละวันแอคทีฟเก็บเงินได้
ทุกวัน ถือเป็นทรัพย์แอคทีฟ ทำให้มีมูลค่าทางธุรกิจสูงและทรัพย์สิน ซึ่งผมเป็นหนี้ 1,500 ล้านบาท จะผ่อนไป 3-40 ปีมั๊ย? สมกับความตั้งใจและโดยฝีมือของสถาปนิก ภายใต้แนวคิดที่ผสมผสานธรรมชาติ มนุษย์ ด้วยเหตุผลโรงแรมของเรามีพื้นที่จำนวนมาก ทำให้เรามีจุดแข็งที่จะแข่งขันกับโรงแรมในเมืองที่มีพื้นที่น้อย

ดังนั้น ในยุคนี้ งานบริการ มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ผมจะเน้นเรื่องเพื้นที่
สีเขียว สวนสวยเป็นเรื่องสำคัญ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเริ่มเห็นภาพลักษณ์ใหม่ เริ่มตั้งแต่บริเวณทางเข้าด้านหน้าโรงแรม สีเขียวโดดเด่น ส่วนด้านใน Lobby โดยเฉพาะส่วนของคอฟฟี่ช็อปในปัจจุบัน ถูกปรับให้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม ตกแต่งสไตล์รีสอร์ท พร้อมประดับตกแต่งสวนสวยสีเขียว มีระเบียงไม้สุดชิค และที่สำคัญ มีการผสมผสานกันระหว่างอาคารสมัยใหม่อย่างลงตัว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของธุรกิจโรงแรม ส่วนสำคัญที่สุด คือ งานบริการ ซึ่งนั่นหมายถึง บุคลากรของโรงแรม ซึ่งผู้บริหารโรงแรมทีเคฯ กล่าวถึงปัญหาและแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลเช่นกัน คุณทวีศักดิ์ กล่าวว่า “วันนี้เหมือนกับการก้าวกระโดด โรงแรมเราไปถึง 5 ดาว แต่บุคลากรยังตามไม่ทัน ซึ่งในเวลานี้่ แม้กระทั่งเจ้าของยังตามไม่ทัน บางครั้งนอนตื่นมายังคิดว่าฝันไปรึเปล่า!

สิ่งที่ดีที่สุด คือเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลาการ ทุกสิ่งทุกอย่างเติบโตไปถึงจุดหนึ่ง แต่ถ้าบุคลากรของเรายังช้า ต้องมีการอบรมและพัฒนาการทำงาน การปรับตัวให้ทันยุคสมัย เพราะวัฒนธรรมของโรงแรมเราคือต้องการให้พนักงาน win win กับเราด้วย ทุกคนไม่ได้ทำงานเพราะเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่พนักงานทุกท่านทำด้วยสปิริต ซึ่งโรงแรมมีการดูแลด้านสวัสดิการอย่างเต็มที่ มีงบห้าล้านเป็นสวัสดิการของพนักงาน อีกทั้งเงินเดือนจะพิจารณาปรับขึ้นตลอด เพราะเจ้าของไม่ได้หวังวันนี้ เจ้าของหวังอีกสามปี เพราะการไม่ได้หวัง พนักงานช่วยเต็มร้อย การทำงานในปัจจุบันมีไลน์กลุ่มกับลูกน้องทั้งหมด จะดูเสมอว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้ประสบการณ์มากมายจากการทำงานร่วมกับพนักงานตรงนี้ ได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้ร่วมงานที่มีความหลากหลาย ได้ศึกษาคนและอารมณ์ของคน รวมไปถึงการฝึกคนหรือพนักงานบริการให้มีความอดทน รักในงานบริการ ยิ้มให้เพื่อนร่วมงาน และสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมให้น่าอยู่

ผู้บริหาร ทีเค พาเลซ กล่าวถึง แนวนโยบายด้านการตลาดว่า แนวทางการทำตลาดในลักษณะของไลฟ์สไตล์ที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง การใช้ช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ที่ผ่านมา ในเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่พีคที่สุดถึง1,200 ห้อง/ไนท์ ซึ่งมาจากการปรับเรื่องข้อมูลออนไลน์และช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 1,500 รูมไนท์ ข้อดีของการขายออนไลน์คือขายห้องอย่างเดียวไม่ต้องกังวลถึงเรื่อง เบรกฟาสต์

โรงแรมตั้งมา 25 ปีแล้ว ผมทำงานตั้งแต่ปี 2 สมัยเรียน ม.เกษตร จนจบเศรษฐศาสตร์และจบ MBA ม.เกษตร เช่นกัน วัคซีนค่อนข้างแข็งแรง มีปัญหาเข้ามาก็พร้อมที่รับมือ

การทำงานทุกอย่าง หากเราทำด้วยใจก็จะทำให้การทำงานนั้นมีประสิทธิ์ภาพสูงสุด โดยเฉพาะงานด้านบริการจะต้องคำนึงถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราจะต้องบริการลูกค้าอย่างที่เราคาดหวังว่าเราจะได้รับการบริการเช่นเดียวกัน….ทำธุรกิจอะไรก็ตามต้องต่อยอดไปได้หรือไม่ อยู่ที่การคิด การใช้สมอง และอย่าคิดระยะสั้น ต้องมองระยะยาวไม่ใช่การขายไปวันๆ ธุรกิจโรงแรมต้องเข้ามาคลุกคลีจึงจะเห็นปัญหา แต่เรากลับสนุกกับปัญหาได้อยู่กับลูกค้า ชินกันคุ้นเคยกันไปหมด อยู่กันแบบสบายๆ แต่ละเดือนวันนี้ลูกค้าอยู่ที่ 80 % ถือว่าถึงจุดที่โอเคแล้ว

“อยากบอกว่า ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่ธุรกิจโรงแรมต้องปรับตัวอย่างมหาศาล เพื่อรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป”

ทุกวันนี้ เงินหายากไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน พฤติกรรมต้องเปลี่ยนให้ทัน ต้องคิดว่าเทคโนโลยีเข้ามาแล้วจะแก้กับมันอย่างไร ไม่ใช่พอเทคโนโลยีเข้ามาแล้วบอกว่าตัวเองไม่เอาแล้วไม่ได้” คุณทวีศักดิ์ กล่าวท้ายสุด

สถานที่ : โรงแรม TK.Palace Hotel & Convention
ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพ
ที่อยู่: 54/7 ถนน แจ้งวัฒนะ แขวง ทุ่งสองห้อง เขต หลักสี่
กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์: 02 574 1588

แผนที่คลิ๊ก
https://goo.gl/maps/8mCDCoZ7GZQgPzP5A


ร้านโปรดควรไป WYNN CAFÉ & BISTRO

ชวนเดอะแก๊งมาแฮงค์เอ้าท์กัน

รู้มั้ย! ย่านศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะซอย 15 มีร้านอาหารคุณภาพดี อยู่ในโรงแรม TK Palace Hotel & Convention และราคาประหยัดไม่มี ++
ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดWYNN CAFÉ & BISTRO

สงกรานต์นี้ ชวนครอบครัวมาเติมความสนุก ฟินกับเมนูอร่อย ทั้งของคาวและของหวาน รวมทั้งเครื่องดื่มนานาชนิดในร้านอาหารหลากหลายสไตล์ พร้อมกับถ่ายรูปชิคๆ ที่ วิน คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร บรรยากาศน่านั่งกลางกรุง ร้านอาหารและกาแฟ ตั้งอยู่ภายในโรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แจ้งวัฒนะ ซอย 15 ด้วยบรรยากาศร้านสบาย ๆ สไตล์ฟิวชั่น ลักซ์ชัวรี่ สถานที่ดูทันสมัย ไปดูกันว่าอาหารและเครื่องดื่มแก้วโปรด ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกันนั่งทานอาหารในโรงแรมหรู เป็นอย่างไรกันไปชิมกันคะ

วิน คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร อยู่ใน โรงแรม TK. Palace ตั้งอยู่ บนถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 15 ใกล้ศูนย์ราชการ เปิดให้บริการห้องพัก ห้องอาหาร ร้านเบเกอรี่ ห้องประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง การจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการ และกิจกรรมเชิงทุกธุรกิจ

ฟินมาก!! เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2562 Toptotravel ก็ได้มีโอกาสชวนเพื่อนซี้ไปลิ้มลองเมนูมื้ออาหารกลางวัน สุดอร่อย กับเมนูยอดนิยมของ
วิน คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร อาทิ ซี่โครงหมูกระเพราข้าวผัดกระเทียม ปรุงรสร้อนแรงสไตล์ขี้เมา, ข้าวไข่ข้นเนื้อย่างจิ้มแจ่ว, ผัดไทยปูนิ่ม,สปาเก็ตตี้ผัดพริกกระเทียมปลาสลิด, ข้าวผัดต้มยำปลาแซลมอนย่าง (การตกแต่งจานก็ดีเลยทีเดียว) ,ผัดไทยกุ้งสด,มักกะโรนีอบชีสไส้อั่ว,มักกะโรนีอบชีสเห็ดทรัฟเฟิล การใช้เครื่องเทศที่เข้มข้น ทำให้ได้กลิ่น และรสชาติที่หอมอร่อยกลมกล่อม, สปาเก็ตตี้เบคอนมิโสะครีมซอสไข่ออนเซนมีความหอมฉ่ำเนยและนุ่มลิ้น (จานนี้แนะนำ)

สปาเก็ตตี้ผัดพริกกระเทียมปลาสลิด
มักกะโรนีอบชีสเห็ดทรัฟเฟิล ราคา 185 บาท
เส้นเพนเน่ผัดซอสมะเขือเทศไส้กรอกอิตาเลี่ยน ราคา 155 บาท
ผัดไทยปูนิ่ม ทอดกรอบ ราคา 285 บาท

สำหรับอาหารทานเล่น ที่ถูกสั่งบ่อย ๆ ปีกไก่ทอด, ขนมปังกระเทียมชีสเสิร์ฟพร้อมมะเขือเทศซัลซ่า,แซลมอลทาท่าร์เสิร์ฟพร้อมน้ำซอสพอนซึ,มันฝรั่งทอดกระเทียม เสิร์ฟพร้อมมายองเนสเห็ดทรัฟเฟิลทำให้ใครหลายๆ คนต้องประทับใจ จนอยากกลับไปทานซ้ำแล้วซ้ำอีก

ปลาซุปเกล็ดขนมปังทอด ราคา 185 บาท
สปาเก็ตตี้เบคอนมิโสะครีมซอสไข่ออนเซน ราคา 170 บาท
แซลมอลทาท่าร์เสิร์ฟพร้อมน้ำซอสพอนซึ ราคา 295 บาท
ซี่โครงหมูกระเพราข้าวผัดกระเทียม ปรุงรสร้อนแรงสไตล์ขี้เมา ราคา 195 บาท**

วิน คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร พร้อมต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสดใสของฤดูร้อน ที่ร้าน วิน คาเฟ่ เปิดให้บริการเพียงไม่นาน ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งเมนูเครื่องดื่ม เมนูอาหารสไตล์ฟิวชั่นหลากหลายชนิด ซึ่งเชฟ Prayut W. รังสรรค์วัตถุดิบสด ใหม่ เพื่อให้อาหารมีความสด ใหม่และอร่อย ตลอดเวลา

Prayut W. Chef de Partie

สำหรับฤดูร้อนนี้ ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารไทย เอาใจวัยรุ่น คุณพ่อและคุณแม่ ขอแนะนำ ร้านเในส่วนของเมนูเครื่องดื่ม วิน คาเฟ่ฯ WYNN ได้นำกาแฟดอยช้าง กาแฟที่ได้รับความนิยมของนักดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะเป็น
เอสเพรชโซ อเมริกาโน่ คาปูชิโน่ หรือลาเต้ มีครบ

ถ้าเป็นเมนูเปรี้ยว – หวาน ปิดท้ายความอร่อยวันนี้ น้ำผึ้งมะนาวโซดา มิ๊กซ์เบอร์รี่สมูทตี้ รับรองเลยว่าการพาครอบครัว หรือเพื่อนชาวต่างชาติมาร้านนี้ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน งานนี้บอกเลยว่า…. อิ่มมาก ที่สำคัญยังได้ใช้เวลา เม้าท์ไปด้วย กินไปด้วย แถมยังได้ถ่ายรูปสวยๆ ไว้อัพเป็นคอลเล็คชั่น สายกินแบบเราไม่ควรพลาดอย่างยิ่งนะจ๊ะ #ชัญญ่าว่าดี

มิ๊กซ์เบอร์รี่สมูทตี้

TK Palace Hotel & Convention
วิน คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร

ให้บริการทุกท่านสำหรับ เช้า-กลางวัน -มื้อค่ำ
เปิดให้บริการทุกวัน : ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 21.00 น.
สำรองที่ นั่ง โทร.02 574 1588 ต่อ 6015

หรือสามารถดูข้อมูลได้ที่ www.tkpalace.com ,www.facebook/TKPALACEHOTEL
Line : @tkpalace

นิทรรศการ “ด้วยรักและภักดีจากหัวใจสุวรรณภูมิ” ​

โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เปิดนิทรรศการ “ด้วยรักและภักดีจากหัวใจสุวรรณภูมิ” ​ชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานในพิธีเปิด นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “ด้วยรักและภักดีจากหัวใจสุวรรณภูมิ” เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันพระราชสมภพ ทรงเจริญพระชนมายุ 64 พรรษา 2 เมษายน 2562

ภายในงานมีการจัดแสดงภาพพระบรมสาทิสลักษณ์มากกว่า 60 ภาพ จากฝีมือจิตรกรสุวรรณภูมิ 12 ท่าน และจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ ที่ท่านได้ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรที่ด้อยโอกาสในชนบทห่างไกลและถิ่นทุรกันดาร ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่ายภาพส่วนหนึ่งจะนำขึ้นทูลเกล้าถวายเพื่อสมทบกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ​

นิทรรศการเฉลิมพระเกียรตินี้ ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มศิลปินสุวรรณภูมิในการจัดแสดงผลงาน ได้แก่ วัฒนา พูลเจริญ, สุวิทย์ ใจป้อม, ดินหิน รักพงษ์อโศก, ลาภ อำไพรัตน์, บรรจบ ปูธิปิน, ชิงชัย อุดมเจริญกิจ, พรชัย สินนท์ภัทร, สุรัชต์ สดแสงสุก, นาวี เรืองระเบียบ, สมยศ คำแสง, ยุทธนา พงศ์ผาสุกและเปรมมิกา พฤฒินารากร

โดยจัดแสดงผลงานจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อปสมุทรปราการและผลิตภัณฑ์จากโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ในชุมชนมาบเอื้อง จ.ชลบุรี รวมถึงเวิร์คช็อปวาดภาพศิลปะ

ณ บริเวณล๊อบบี้ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต

เอราวัณ เดินหน้าตามแผน ลุยปักธง “ฮ็อป อินน์ “กรุงเทพฯ

พร้อมเปิด “คอมโบโฮเท็ล” เมอร์เคียว ไอบิส สุขุมวิท 24
ขนาดกว่า 500 ห้อง

บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4/61 จำนวน 180  ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากผลประกอบการของไตรมาส 4/60 ส่งผลให้ในปี 2561 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 536 ล้านบาท  และใน
ปี 2562 ตั้งเป้าเติบโต ประมาณ ร้อยละ 10-15 จากปี 2561  โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งคาดว่าปีนี้ประเทศไทยจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าจำนวน 41.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 จากปี 2561 โดยประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมจากนักท่องเที่ยว   ทั้งนี้ในปี 2562 มีแผนจะเปิดโรงแรมใหม่จำนวน 9 แห่ง โดยเป็นโรงแรม ฮ็อปอินน์ ในประเทศไทย  จำนวน 7 แห่ง โรงแรมระดับกลาง และชั้นประหยัดอีก 2 แห่ง จะส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2562 มีโรงแรมรวมทั้งสิ้น 70 แห่ง มีจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 9,559 ห้อง โดยตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเข้าพักมากกว่าร้อยละ 80 ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 79 ในปี 2561 และคาดการณ์การเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักรวม (ไม่รวมกลุ่ม ฮ็อป อินน์) ร้อยละ 3-5

นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป

นายเพชร ไกรนุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า “ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เปิดโรงแรมฮ็อป อินน์ ในกรุงเทพฯ จำนวน 2 แห่ง  แห่งแรกคือโรงแรมฮ็อป อินน์ แจ้งวัฒนะ จำนวน 108 ห้องพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ของปีนี้ ตั้งอยู่บริเวณ ซอยแจ้งวัฒนะ 23 ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู สถานีแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด และแห่งที่ 2 คือ โรงแรม    ฮ็อป อินน์ รังสิต จำนวน 79 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต และห้างสรรพสินค้า   ฟิวเจอร์ ปาร์ค รังสิต พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ของปีนี้เช่นกัน”

บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าโรงแรมทั้ง 2 แห่ง จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งจากทำเลที่สะดวกในการเดินทาง อยู่ใกล้ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์และคุณภาพของโรงแรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดถือมาโดยตลอด  ตั้งแต่ในปี 2557 ที่เริ่มเปิด ฮ็อป อินน์แห่งแรก จนถึงปัจจุบัน ณ สิ้นปี 2561
มีเครือข่ายโรงแรมฮ็อป อินน์รวมจำนวน 36 แห่งทั่วประเทศไทย

ซึ่งนับเป็นกลุ่มโรงแรมบัดเจ็ทซึ่งมีเครือข่ายที่ครอบคลุมการให้บริการมากที่สุดในประเทศไทยและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ามาโดยตลอด สะท้อนจากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของโรงแรม เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา รวมถึงสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในฐานะเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่มีคุณภาพ   สำหรับโรงแรมฮ็อป อินน์ อีก 5 แห่งจะเปิดให้บริการที่จังหวัด ขอนแก่น เชียงราย ระยอง หาดใหญ่ และ นครปฐม โดยจะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ 

            นอกจากโรงแรมฮ็อปอินน์จำนวน 7 แห่งแล้ว ในปีนี้บริษัท ยังมีแผนจะเปิดให้บริการโรงแรม        เมอร์เคียว ไอบิส สุขุมวิท 24 จำนวนห้องพัก  501 ห้อง ในไตรมาส 4 ของปีนี้  ซึ่งนับเป็นโรงแรมในกรุงเทพฯของบริษัท ที่มีจำนวนห้องพักมากที่สุด  โดยโรงแรมตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์และห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม  เป็นโรงแรมรูปแบบคอมโบโฮเต็ล แห่งที่ 3 ของบริษัท ซึ่งมี 2 โรงแรมภายในตึกเดียวกันหลังจากการเปิดให้บริการโรงแรมเมอร์เคียว ไอบิส สยามซึ่งเป็นโรงแรมคอมโบแห่งแรกในปี 2555 และมีผลการดำเนินงานที่ดีมาโดยตลอด รวมถึงโรงแรมโนโวเทล ไอบิส สไตล์ สุขุมวิท 4 โรงแรมรูปแบบคอมโบ แห่งที่ 2 ซึ่งเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ปี 2561 และได้รับการตอบรับที่ดีโดยมีอัตราการเข้าพักมากกว่าร้อยละ 60 ในช่วง 3 เดือนแรกของการเปิดให้บริการ 


นางสาวกันยะรัตน์ กฤษณะเทวินทร์  รองกรรมการผู้จัดการ สายบริหารเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ  บมจ. ดิ เอราวัณ

ปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 4 ของแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (2559-2563) ซึ่งยังคงเดินหน้าตามแผนที่กำหนดไว้มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจการพัฒนาและลงทุนในโรงแรมและรีสอร์ทในประเทศไทยและอาเซียน โดยในปีนี้ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโรงแรมใหม่ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้จำนวน 9 แห่ง และปรับปรุงโรงแรมเดิมให้มีความพร้อมในการแข่งขัน รวมถึงโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและจะเปิดให้บริการในปีต่อ ๆ ไปด้วย  จากการดำเนินงานตามแผนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทจะมีจำนวนโรงแรมทั้งสิ้น 70 แห่ง และจำนวนห้องพัก 9,559 ห้องและมุ่งสู่การมีจำนวนห้องพักมากกว่า 10,000 ห้องภายในปี 2563 ได้ตามเป้าหมาย

ด้าน นางสาวกันยะรัตน์ กฤษณะเทวินทร์  รองกรรมการผู้จัดการ สายบริหารเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ  บมจ. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยไตรมาส 4/61 กลับมาเติบโตอีกครั้งหนึ่งหลังจากการชะลอตัวในไตรมาส 3/61 โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาสนี้เท่ากับ 9.7 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 5 จากไตรมาส 4/60   ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทย มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยในเดือนธันวาคม 2561 นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเติบโตอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ปรับตัวลดลงจากอุบัติเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนกรกฎาคม 2561  แม้ว่าจะยังไม่ถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติแต่พัฒนาการนี้ได้สะท้อนให้เห็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว

ในไตรมาส 4/61 บริษัทเปิดโรงแรมใหม่จำนวน 4 แห่ง ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2561 บริษัทมีจำนวนโรงแรมที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 61 โรงแรมและมีจำนวนห้องพักทั้งหมด 8,485 ห้อง นอกจากนี้ในเดือนตุลาคม 2561 บริษัทได้เปิดให้บริการห้องพักของโรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ ที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ ซึ่งห้องพักที่ปรับปรุงแล้วเสร็จคิดเป็นจำนวน 70% ของห้องพักทั้งหมด  สำหรับการปรับปรุงห้องพักระยะสุดท้ายจำนวน 30% จะดำเนินการปรับปรุงในระหว่างไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2562

รายได้รวมจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 เท่ากับ 1,701 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากไตรมาส 4/60   โดยบริษัทฯ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (“EBITDA”) เท่ากับ 561 ล้านบาทในไตรมาส 4/61 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากไตรมาส 4/60  บริษัทฯ กำไรสุทธิเท่ากับ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากไตรมาส 4/60 และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากกำไรสุทธิ 41 ล้านในไตรมาส 3/61 ส่งผลให้กำไรทั้งปีเท่ากับ 536 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6 จากปี 2560

หนีไปดูพระอาทิตย์ขึ้นจากริมทะเลที่ WINDOW@ SEA CHA-AM

เดินทางสะดวก ไม่เสียเวลามากมาย เราไปชมบรรยากาศกันขับรถเพียงไม่นานเราก็เดินทางมาถึง ชายหาดชะอำ สถานที่พักสุดชิลของเราในทริปนี้ คือ WINDOW@ SEA CHA-AM โรงแรม เบย์ วินโดว์ แอท ซี
เริ่มกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้วสำหรับ เทศกาล ปิ้งหอย..คอยเธอ โครงการ Outing @ Cha-am 1s st  ซึ่งงานนี้จัดขึ้น บริเวณริมหาดชะอำ ด้านทิศเหนือ จ.เพชรบุรี โดย ททท.สำนักงานเพชรบุรี วันธรรมดาน่าเที่ยว โดยความร่วมมือจากเทศบาลเมืองชะอำ , หอการค้าจังหวัดเพชรบุรี , สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี , ผู้ประกอบการโรงแรม หน่วยงานภาครัฐและชุมชน คนริมเลชะอำ

คุณอัครวิทย์ เทพาสิต ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี

โดยกิจกรรมจัดขึ้น Beach Food ตลาดริมเล เวทีการแสดงดนตรี ชมหนังกลางแปลงสุดชิลริมชายหาด ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกวันอังคาร และพุธ เวลา 16.00 – 23.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมาไปจนถึง วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 โดย คุณอัครวิทย์ เทพาสิต ผอ.สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี การันตีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ฉะนั้นใครชอบอาหารทะเล ต้องไม่พลาดกิจกรรมนี้

ทริปนี้ Toptotravel มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม BAY WINDOW@ SEA CHA-AM มาทำความรู้จัก หนึ่งในผู้ประกอบการโรงแรมน้องใหม่ของชะอำ

คุณภัทรพล ดีปานแก้ว ที่มาบอกเล่าถึง ความพิเศษของโรงแรม และการเตรียมพร้อมสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บนบรรยากาศชายหาดอันแสนเงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่สุดในย่านชายหาดชะอำ

สระว่ายน้ำมีทั้ง สระเด็ก และสระผู้ใหญ่ มีเกมส์รูม มีห้องคิดส์คัพ ในห้องจะมีโต๊ะพูล โต๊ะโกลว์ มีเพลย์สเตชั่น มีคอมพิวเตอร์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ ให้ครอบครัวได้อยู่ร่วมกันทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ของชะอำที่ปกตินักท่องเที่ยวจะออกไปทานอาหารด้านนอกโรงแรม หรือเที่ยวบริเวณโดยรอบ แต่สำหรับที่ เบย์ วินโดว์ แอท ซี แล้ว สามารถพักผ่อนได้ตลอดทั้งวันไปพร้อมกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในโรงแรมที่มีให้มากมาย รวมถึงด้านนอนริมทะเล รับลมเย็นๆ เดินเล่นชายหาดได้เลย

สระใหญ่ 20 เมตรคูณ 25เมตรลึก 1.20 เมตร
สระเล็ก 8เมตรคูณ 18.5 เมตร ลึก 90 เซ็นติเมตร ระบบน้ำเกลือ มีสไลเดอร์ 2 ตัว

BAY WINDOW@ SEA CHA-AM Family Hotel
บริเวณสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของโรงแรม คุณภัทรพล ดีปานแก้ว ผู้จัดการทั่วไป เปิดเผยถึงคอนเซ็ปต์ของโรงแรมว่า โรงแรม BAY WINDOW@ SEA , CHA-AM เป็นโรงแรมในรูปแบบของ Modern Style ประกอบไปด้วยห้องพักทั้งหมด 144 ห้อง ห้องประชุมสามารถรองรับได้ 300 ท่าน โรงแรมน้องใหม่ของชะอำ ซึ่งเตรียมจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปีหน้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ ให้เป็นโรงแรมสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำที่มีสไลเดอร์สำหรับการเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน

เมื่อถามถึงร้านอาหาร 7 SEA ของโรงแรมที่กำลังจะเปิดตัวในไม่ช้า ผู้จัดการทั่วไปบอกว่า “ทางโรงแรมตั้งใจให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องของสนนราคาและรสชาติอาหาร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และ เราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน วัตถุดิบต่าง ๆ เป็นการสั่งตรงจากชาวประมงท้องถิ่นโดยตรง

คุณภัทรพล ยังกล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของโรงแรมแห่งนี้ว่า …การตั้งกลุ่มเป้าหมายหลักที่ครอบครัว เพราะทางผู้บริหารของโรงแรมรู้สึกว่าโรงแรมส่วนใหญ่ในอำเภอชะอำ สร้างขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มธุรกิจหรือกลุ่มทัวร์แต่สำหรับกลุ่มครอบครัวแล้วยังมีน้อยมาก จึงสร้างโรงแรมที่เป็น Family Hotel ขึ้น

สำหรับช่วงของการเปิดตัวโรงแรม ระหว่างวันนี้ไปจนถึง วันที่ 31 มีนาคม 2562 ราคาห้องพักราคาเริ่มต้นเพียง 1,700 บาท พร้อมอาหารเช้า ส่วนห้องที่เป็นไฮไลท์ สามารถเปิดประตูออกมาก็ลงสระได้เลยราคาเริ่มต้นที่ 2,200 บาท
ห้องพักของ โรงแรม เบย์ วินโดว์ แอท ซี มีหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย ห้องซูพีเรียร์ ห้องธรรมดา และ ห้องพูลแอคเซส สามารถเดินลงสระได้ Family Room เป็นห้องขนาดใหญ่กว่าปกติสามารถพักได้ 3-4 คน ห้องจูเนียร์สวีทส์ เป็นห้องพักและห้องนั่งเล่น และอีกหนึ่งห้องที่พิเศษมาก ๆ รองรับครอบครัวขนาดกลาง ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง 1 ห้องนั่งเล่น แต่ละห้องแยกทุกห้อง มี 4 ห้องน้ำ

Toptotravel ถามถึง การรักษาความปลอดภั ยสำหรับนักท่องเที่ย;พักที่นี่ คุณภัทรพล กล่าวว่า “ ด้านระบบการรักษาความปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่โรงแรมได้ 2 เส้นทาง คือจากทางถนนเจ้าลาย ซึ่งเป็นทางเข้าหลักและทางเข้าทางด้านหลัง ส่วนระบบการรักษาความปลอดภัย เราใช้เจ้าหน้าที่ประจำจุดเต็มรูปแบบ และมีการรถ วัตถุระเบิดต่าง ๆ ในส่วนที่จอดรถ ฝั่งเจ้าลาย จะเปิดปิดเป็นเวลาหลัง 20.00 จะปิดให้ผู้เข้าพักเท่านั้น ที่จะสามารถเข้ามาได้ในส่วนของการบริการ ถือเป็นอีกหนึ่งหลักสำคัญของทางโรงแรม เพราะนอกจากจะทำให้โรงแรมให้การบริการได้ในระดับมาตรฐาน สิ่งสำคัญคือ จะทำอย่างไรให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการประทับใจและพร้อมที่จะกลับมาใช้บริการอีก ดังนั้นการบริการถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทางเรามีการเทรนด์พนักงานไว้อย่างเป็นระบบ แม้แต่จะขอหมอนหนึ่งใบ ไม่จำเป็นต้องขอกับทางแม่บ้าน พนักงานทุกคนต้องสามารถให้บริการและรับรู้ระบบทั้งหมดได้”

ยกครอบครัวไปลุยทริปนี้ได้เลย

แนวคิดการบริหารโรงแรม 90% กลุ่มลูกค้า คือคนไทย
ในส่วนของการทำตลาด คุณภัทรพล กล่าวว่า “ตลาดของ อำเภอชะอำ 90 % เป็นคนไทย ส่วนนัดท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่อนข้างน้อย โดยต่างชาติที่เข้าคือมาพักระยะยาว เช่น กลุ่มลูกค้าที่เกษียณอายุงาน เนื่องจากค่าครองชีพของชะอำค่อนข้างต่ำ และในส่วนของคนไทย เกินครึ่งจะมาเฉพาะวันหยุดที่เป็น weekend หรือ long weekend

ลูกค้าอีกครึ่งหนึ่ง มาจากการสัมมนา ตอนนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประสานกับภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะโรงแรม ได้นำตลาดใหม่เข้ามา สิ่งที่ต้องเติมเต็มจริงๆ คือ วันธรรมดา หลังจากที่เราได้ไปทำ road show ที่มาเลเซีย ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย เริ่มเข้ามาแล้ว
มีทั้งไฟล์ทบินตรงจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์มาลงที่สนามบินหัวหิน และที่กำลังมาแรง คือ ประเภทขับรถยนต์มาเองจากปีนัง ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ แวะ ระนอง หัวหิน ชะอำ กรุงเทพฯ บางคณะเดินทางไปถึงภาคเหนือของไทย
ในปัจจุบันประเทศมาเลเซียสามารถขอใบอนญาติขับในไทยได้ 30 วัน

ด้านตลาดจีน
ตลาดจีนซึ่งถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของการท่องเที่ยวไทย แม้หลายแห่งจะพบกับปัญหาแต่เกือบทุกแห่งก็พร้อมจะรองรับนักท่องเที่ยวเหล่านั้น คุณภัทรพล กล่าวถึงความพร้อมในการต้อนรับว่า “ ผมเคยทำงานที่รองรับตลาดจีนที่เป็นตลาดแมสที่สุดจนถึงระดับบน คนจีนสิ่งที่เห็นบางทีเป็นแค่วัฒนธรรม อยู่ที่เรา educate ถ้าสามารถใส่ข้อมูลให้เขาว่าโรงแรมเราเป็นแบบนี้ ผมเชื่อว่าเขาสามารถรับได้

สมัยที่ผมทำงานอยู่ที่โรงแรมเดิมระดับห้าดาว (โรงแรมเซนทารา) ของจังหวัดขอนแก่น ผมรับตลาดจีนวันละ 90% แต่ 40-50 คน บริเวณล็อบบี้มีความเป็นระเบียบ สามารถบอกเขาได้ว่าเราต้องการความสงบ ใส่ความเป็นตัวตนของโรงแรมเข้าไป เขาก็สามารถทำตามที่บอกได้ แต่ถ้าโรงแรมนั้น ๆ ไม่บอกลูกค้า เขาก็จะทำตามวัฒนธรรมของเขา ตรงนี้อยากฝากด้วย เขาไม่ได้ผิดอะไร 70 % ของเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยว มาจากประเทศจีน

ฉะนั้น ผู้ประกอบการเองตั้งแต่ระดับโรงแรมไปจนถึงชุมชน ต้องฝากว่า ถ้าอยากให้เขาอยู่กับโรงแรมแบบไหน และปฏิบัติกับสิ่งของๆ โรงแรม หรืออุปกรณ์เราอย่างไร สื่อให้เขาเห็น เขาจะทำได้แน่นอน”

โรงแรม เบย์ วินโดว์ แอท ซี ที่พักของเราในค่ำคืนนี้เป็นที่พักที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามและทันสมัย จุดเด่น สระว่ายน้ำตรงกลางที่พัก อยู่ห่างจากทะเลเพียงนิดเดียว ห้องพักถูกตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ เรียบหรู สะอาดตา
มีอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน

ท้ายสุด คุณภัทรพล กล่าวถึง การเตรียมใช้สื่อ Social เข้ามาเพื่อการประชาสัมพันธ์ ในปัจจุบันโรงแรมต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับ  เรื่องนี้มากขึ้น “เราวางแพลนเอาไว้สำหรับทุกส่วนของ Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook Instagram Twister ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อความเหมาะสม หลังจากนี้ มีการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังในทุกช่องทาง

โดยตั้งเป้าไว้ว่า ลูกค้าที่มาพักหรือมารับประทานอาหารจะผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่า 20% ในส่วนของห้องพักโรงแรมจะมีโปรโมชั่นให้ติดตาม
ภายใต้ชื่อเดียวกัน คือ Bay Window @ Sea…..”

หากพูดถึง Bay Window @ Sea คุณล่ะเดินทางไม่ยาก แค่ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟันเดินทางจากรีสอร์ทแค่แป๊บเดียว เดินเท้าเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเล ง่ายกว่านี้จะมีอีกมั้ย! พร้อมไปสัมผัสกับบรรยากาศชิลๆ ริมหาดชะอำ กับเทศกาล “ปิ้งหอย…คอยเธอ”กันแล้วหรือยัง ??

ยกครอบครัวไปลุยทริปนี้ได้เลย ที่สำคัญ อย่าลืมแวะเวียนเข้าไปทายทักกับ Bay Window @ Sea โรงแรมน้องใหม่ที่การันตีความเพอร์เฟคสำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง

โรงแรม BAY WINDOW @Sea Cha-am
312 ซอย ร่วมจิตร ตำบล ชะอำ อำเภอ ชะอำ เพชรบุรี 76120
โทรศัพท์: 082 687 6680