Category Archives: Travel

Travel-Food-Drink-Party

ทริปอมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต

แอ่วล้านนาหน้าฝน ยลเมืองหละปูน
แลเขลางค์นคร

สวัสดีหน้าฝน   จะไปไหนมาไหน  หลายคนมักจะบ่นเป็นเสียงเดียวว่ากลัวเปียก กลัวแฉะ ไม่อยากไปไหนเลย แต่ถ้าจะบอกว่าเราอยู่ใต้ฟ้าจะกลัวไป
ใยกับน้ำฝน หากเรามีการเตรียมความพร้อมซะอย่าง เราก็ไปได้ทุกที่ ถ้ามองอีกมุม หลังฝนตกคราใดท้องฟ้าก็จะแจ่มใส ใบไม้ใบหญ้า ก็มีความเขียวขจีขึ้นมาทันที ที่เราๆ ได้ยินได้ฟังภาษาของการท่องเที่ยวก็คือ Green Season นั่นเอง

เมืองต้องห้าม….พลาด จังหวัดลำปาง เขลางค์นคร เมืองแห่งรถม้า เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา   มาถึงลำปางแล้ว  เราต้องรู้ ต้องเห็น ต้องมาสัมผัสให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะไปได้ทางลัดของเรานั่นคือนั่งรถรางชมเมือง จุดนัดพบกันที่ วัดประตูป่อง นั่งรถรางเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่ามะโอ ย่านเมืองเก่าของจังหวัดลำปางซึ่งนับว่ามีอายุเก่าแก่นับ 100  ปี  ที่นี่ในอดีตเป็นย่านการค้าไม้ของจังหวัดลำปาง ชมประวัติศาสตร์ที่สำคัญๆ  ชมวัดสำคัญๆ  อันงดงาม ตามรอยอารยธรรมล้านนาตะวันตก อาทิ วัดปงสนุก, วัดพระแก้วดอนเต้า, กราบสังขารหลวงพ่อเกษม เขมโก, วัดประตูต้นผึ้ง, วัดประตูป่อง

วันนี้  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  สำนักงานลำปาง ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทางมาที่ จ.ลำพูน และ ลำปาง เพื่อมาสัมผัส  กลิ่นอายดินแดนอารยธรรมเก่าแก่แห่งล้านนา อายุมากกว่า 1400 ปี น่าสนใจจนต้องบอกต่อ
ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บวกกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั่งเดิม ทำให้ที่นี่มีมนต์เสน่ห์ที่ใครได้มาแล้วต้องหลงรัก

กิจกรรมครั้งสำคัญในชีวิตในวันแม่ 12-14 สิงหาคม 2560 ขอบอกได้เลยว่า “ทริปอมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” ต้อง…ห้ามพลาด ทริปนี้มีอะไรดีๆ บ้าง เชิญตามมาเลยค่ะ

ที่นี่จังหวัดลำพูน เมื่อเดินทางมาถึง จ.ลำพูนแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดวาอาราม โบราณสถานที่สำคัญๆ ที่เราไม่ควรพลาด

พระธาตุหริภุญชัย
พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองลำพูน และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีระกาตามคติของชาวล้านนา พระธาตุองค์นี้สร้างขึ้นใน พ.ศ.1651 ในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์องค์หนึ่งของอาณาจักรหริภุญชัย ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ ปัจจุบันกลายเป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ เป็นที่เคารพสักการะของชาวลำพูนและนักท่องเที่ยวมากมาย

วัดจามเทวี
วัดเก่าแก่ก่อตั้งคู่ดินแดนล้านนามาอย่างยาวนาน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า
“วัดกู่กุด” สัณนิฐานว่าพระนางจามเทวีสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1298 โดยใช้ช่างฝีมือชาวละโว้ ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยา  ในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืน ปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆ ภายในเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ตามตำนานเล่าว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิของพระนางเมื่อ ปี พ.ศ. 1298 เดิมมียอดห่อหุ้มด้วยทองคำ ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบชัด ยอดพระเจดีย์หักหายไปชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ นอกจากนั้นยังมี รัตนเจดีย์ซึ่งตั้ง อยู่ทางขวาของวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ฐานล่างสุดเป็นรูป 8 เหลี่ยม มีเส้น ผ่าศูนย์กลาง 4.40 เมตร สูงจรดยอด 11.50 เมตร องค์เจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมแต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนก่ออิฐถือปูนทั้งองค์



อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งอยู่ตำบลในเมือง บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม มีความสามารถ พร้อมทั้งความกล้าหาญ อีกทั้งเป็นผู้นำพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฏราชกุมารได้เสด็จมาทรงเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2525

กู่ช้าง-กู่ม้า
เป็นโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของชาวลำพูน กู่ช้างเป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชื่อ “ภูก่ำงาเขียว” ซึ่งหมายถึงช้างผิวสีคล้ำ งาสีเขียวที่ทรงอานุภาพและ อิทธิฤทธิ์ในสงคราม และมีเรื่องเล่ากันว่าเมือเกิดศึกสงครามเจ้าช้างเชือกนี้มองไปที่ผู้ใดจะทำให้ผู้นั้นมีอันเป็นไปหรือเสียชีวิต ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสของพระนางจามเทวี

 

วัดมหาวัน
ประดิษฐานพระศิลาดำไว้ที่นี่ ต่อมาหริภุญชัยเกิดสงครามกับขุนลัวะวิลังขะ พระฤๅษีจึงใช้พระศิลาดำเป็นต้นแบบสร้างพระเครื่องรางแจกจ่ายชาวเมืองเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการออกศึก พระเครื่องส่วนที่เหลือบรรจุไว้ในเจดีย์ที่วัดมหาวัน ต่อมาเมื่อเจดีย์หักพังลง ชาวบ้านจึงนำพระเครื่องเหล่านี้ไปบูชาและพบอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ พระเครื่องเหล่านั้นได้ชื่อว่า “พระรอด” และที่วัดมหาวันนี้เป็นวัดสำคัญต้นกำเนิดพระรอดลำพูน หนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ที่มีราคาแพงที่สุดองค์หนึ่ง ประกอบด้วย พระสมเด็จวัดระฆัง, พระรอดมหาวัน, พระนางพญา, พระผงสุพรรณ และพระซุ้มกอ
สำหรับเซียนพระดังๆ จะรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดี และในทริป “อมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” จะพาทุกท่านเข้าร่วมพิธีศักิด์สิทธิ์ และที่สำคัญทุกท่านจะได้ร่วมสร้างพระรอดลำพูนให้แม่ หรือแม่ให้ลูกแบบ DIY. ( Do It Yourself ) พระรอดทุกองค์ที่ท่านสร้างจะมีเพียงองค์เดียวในโลก ที่บรรจุเส้นเกศาของมารดาผู้เป็นแม่ของทุกคน และทุกท่านจะได้ร่วมแผ่พลังอภิจิตอธิฐานอานุภาพแห่งพุทธคุณลงในองค์พระ พร้อมกับพิธีพุทธภิเสกกับพระคุณเจ้าเพื่อเป็นมรดกอันล้ำค่าต่อไป

วัดสร้างขึ้นในสมัยที่พระนางจามเทวีครองเมืองหริภุญชัย ตำนานเล่าว่า
เมื่อพระนางจามเทวีเสด็จมาครองเมืองหริภุญชัยนั้น พระองค์ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย 2 องค์ คือ พระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) และพระพุทธสิกขิ (พระศิลาดำ) พระองค์ทรงสร้างวัดมหาวันขึ้นและ

วัดพระยืน
วัดพระยืน เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งสันนิษฐานว่าพระนางจามเทวีทรงสร้างขึ้นในราว พ.ศ.1213 ชื่อของวัดพระยืนมาจากองค์

พระพุทธรูปยืนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1606 ในสมัยพระเจ้าธรรมมิกราช (กษัตริย์องค์ที่ 32 แห่งหริภุญชัย) และต่อมาใน พ.ศ.1712 พระยากือนา ผู้ครองนครเชียงใหม่และลำพูน ได้สร้างพระพุทธรูปยืนเพิ่มเติมขึ้นอีก 3 องค์
เจดีย์วัดพระยืน มีลักษณะโดดเด่นตรงที่เป็นศิลปกรรมพม่า คล้ายกับเจดีย์วัดสัพพัญญูในเมืองพุกาม สร้างยกพื้นลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ มีบันไดเดินขึ้นสู่ลานประทักษิณชั้นบนที่ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว และมีเจดีย์บริวารองค์เล็กอยู่ทั้ง 4 มุม องค์เจดีย์งดงามน่าชมยิ่งนัก

วัดประตูป่อง
วัดประตูป่อง อยู่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูปลงรักปิดทอง โบราณสถานมีเจดีย์และวิหารซึ่งสร้างขึ้นสมัยเจ้าญาณรังษี เจ้าผู้ปกครองนครลำปาง สร้างขึ้น พ.ศ. 2409
ส่วนวัดประตู่ป่องสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2120 ตามประวัติเมืองลำปางในเขตตำบลเวียงเหนือนี้ สมัยโบราณคือ เมืองนครเขลางค์ สร้างขึ้นราว พ.ศ. 1223 มีลักษณะคล้ายรูปหอยสังข์ มีกำแพงชั้นบน เป็นอิฐ ชั้นล่างเป็นคันดิน คาดว่าชั้นอิฐเป็นกำแพงที่สร้างเสริมในรุ่นหลัง ความยาวโดยรอบราว 4,400 เมตร พื้นที่ราว 600 ไร่

วัดปงสนุก
วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน
ที่ผ่านมา พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พึ่งรับมอบรางวัลดี (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation  จากองค์การ UNESCO

วัดพระแก้วดอนเต้า
วัดพระแก้วดอนเต้า มีตำนานกล่าวว่า นางสุชาดา ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (หมากเต้า) และนำมาถวายพระเถระรูปนั้นจึงจ้างช่างให้นำมรกตนั้นไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูปซึ่งก็คือ พระแก้วดอนเต้า ซึ่งต่อมาได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงสาเหตุจากตำนานบอกว่า มีผู้ไปฟ้องเจ้าเมืองลำปางในขณะนั้นว่า พระเถระและนางสุชาดาคบหาในลักษณะชู้สาว เจ้าเมืองลำปางจึงให้จับนางสุชาดาไปประหารชีวิตริมน้ำ ก่อนสิ้นพระนางได้หันกลับมามองวัดพระแก้วดอนเต้า ความทราบถึงเจ้าเมืองจึงดำริให้สร้างวัดเป็นอนุสรณ์ ณ จุดประหาร และได้ตั้งชื่อว่าวัดนางเหลียว ส่วนพระเถระองค์นั้นทราบข่าวก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปหนีไป โดยได้นำไปฝากไว้ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน

กราบสังขารหลวงพ่อเกษม เขมโก ณ สุสานไตรลักษณ์
หลวงพ่อเกษม เขมโก หรือ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก (นามเดิม เจ้าเกษม ณ ลำปาง) เป็นพระเถระและเกจิอาจารย์ ผู้เคร่งครัดในธุดงควัตร ปลีกวิเวก พุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำปาง และชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นพระเถราจารย์ปูชนียบุคคลรูปหนึ่งของประเทศไทย และมีผู้มีความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน อีกทั้งท่านยังเป็นเจ้านายในราชวงศ์ทิพย์จักร ที่ออกผนวชอีกด้วย

หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนาธุระ ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนม์ชีพ เป็นพระที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ติดยึดในกิเลสทั้งปวง สรีระของท่านนั้นก็ยังความอัศจรรย์ด้วยเนื่องจากไม่เน่าเปื่อยเหมือนอย่างสังขารทั่วไป ทั้งยังเขียนป้ายบอกผู้ที่มาเคารพสรีระท่านด้วยว่า ให้พนมมือไหว้ที่หน้าอกเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ต้องกราบนะคะ

ชุมชนแกะสลักบ้านหลุก
หมู่บ้านหลุกเป็นชุมชนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง หมู่บ้าน OTOP แห่งนี้ได้รับรางวัลทั้ง 4 ดาวและ 5 ดาว เพื่อเป็นการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในครัวเรือนด้านการท่องเที่ยว และสินค้าหัตถกรรม โดยมีการนำไม้จามจุรี หรือไม้ฉำฉา และไม้สักมาแกะสลักเป็นรูปต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่สามารถนำมาให้ประโยชน์ในบ้านได้ อย่างเช่น แกะสลักไม้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ ตั้งแต่ตัวเล็กๆ จนถึงขนาดใหญ่ เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เครื่องประดับต่างๆ จำหน่ายราคาขายส่ง สามารถซื้อเป็นของฝาก หรือจะสั่ง Order ทางชุมชนแห่งนี้ก็จัดหาให้ได้เช่นกัน รายละเอียดสอบถามแต่ละบ้านกันเองได้เลย

เที่ยวลำปาง เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา ด้วยเวลาที่จำกัดช่วงเวลาแห่งความสุขแห่งดินแดนล้านนาที่เดินทางมากัน 3 วัน 2 คืน ก็ต้องหมดลง แต่มนต์ขลังยังคงติดตราตรึงใจ มิเสื่อมคลาย มาเที่ยวแล้วก็ยังอยากมาเที่ยวอีก ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนล้านนาด้วยกัน ที่สำคัญกับภารกิจ “อมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” ตามโครงการแอ่วล้านนาหน้าฝน ยลเมืองหละปูน แลเขลางค์นคร เพื่อร่วมสร้างพระรอดลำพูนให้แม่ หรือแม่ให้ลูกแบบ DIY. ( Do It Yourself ) ซึ่งทางคณะจะเดินทางไปวันที่ 12-14 สิงหาคม 2560   รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถาม 095 950 1559

ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานลำปาง โทร.  054  222 2214-5
Travel Line : 089 108 8484,  095 950 1559
ภาพ : www.phototechthailand.com

เส้นทางเดินไหว้เทพทั้ง 8 องค์ แห่งแรกใจกลางเมือง

RATCHAPRASONG
SHRINE & CULTURE WALK

โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียลบูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน เดินสักการะองค์เทพ  RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK ราชประสงค์ เชื่อมต่ออาณาจักรสมบูรณ์แบบ เปิด  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินรอบย่านฯ ประเดิมกิจกรรมเดินสักการะองค์เทพ RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017

ทางเดินลอยฟ้า R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk ทางเดินลอยฟ้าสุดอลังการดาวล้านดวง เนรมิตการเชื่อมต่อเส้นทางสู่ 18 สถานประกอบการในย่านราชประสงค์เป็นเส้นทางใหม่ล่าสุดที่รวบรวมไลฟ์สไตล์สุดชิคของคนกรุงเทพ อะไรคือเหตุผลที่คุณต้องรีบมาเช็คอินที่ย่านราชประสงค์ อ่านจบแล้ว มาเช็คอินด่วน

ราชประสงค์วอล์ก R-Walk เป็นต้นแบบของย่านธุรกิจและเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ที่เดินเชื่อมต่อ 18 ตึกในย่านราชประสงค์ได้อย่างทั่วถึง ตั้งแต่ออกบีทีเอส สถานีชิดลม และสถานีสยาม ซึ่งสามารถเดินไปยังฝั่ง The Platinum Fashion Mall โดยเท้าไม่ต้องแตะพื้นถนน สะดวกสบายตลอดทั่วทั้งย่านราชประสงค์ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ไร้กังวล เพราะมีหลังคาคอยป้องกันตลอดทั้งเส้นทาง R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk
เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (Safety & Security) มีกล้อง CCTV ติดตั้งเพื่อคอยดูแลคุณตลอดเส้นทาง มีสายตรวจเดินตรวจตลอด 24 ชม. เชื่อมต่อ Lifestyle แบบ 360 องศา ทุกรูปแบบ ไม่ว่าร้านอาหารสุดเริ่ดที่ใครๆ ก็มารีวิว, “PRAY” บูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน และ “SHOP” จากศูนย์การค้าชื่อดังได้เพลินๆ โนสนโนแคร์เงินในกระเป๋า โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียล เพราะไม่ว่าจะถ่ายรูปแล้วอัปโหลดโชว์เพื่อนๆ จากมุมไหนของ ราชประสงค์วอล์ก ก็สวยล้ำอินเทรนด์ไม่มีใครเกิน แน่นอนค่า

สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) เปิดประสบการณ์แห่งการเชื่อมต่อกับเมกะโปรเจ็กต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 18 สถานประกอบการอย่างไร้รอยต่อรอบทิศทาง เริ่มต้นพ.ศ. 2542 ที่ก่อสร้างทางเดินลอยฟ้าเชื่อมฝั่งตะวันออกและใต้  จากสถานีรถไฟฟ้า ชิดลม ศูนย์การค้าเกษร ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก และศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ถือเป็นการเชื่อมโยงครั้งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ราชประสงค์วอล์ก ได้เชื่อมต่อไปไปถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านราชประสงค์ ในปี พ.ศ. 2558 ขยายศักยภาพเป็นโครงข่ายที่เชื่อมสู่ทิศเหนือไปยังแพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ และ  โรงแรมโนโวเทล แพลทินั่ม ประตูน้ำ กรุงเทพฯ พร้อมทั้งเชื่อมเข้าเกษรวิลเลจสู่เส้นทางฝั่งตะวันออกทำให้ย่านราชประสงค์เชื่อมต่อเข้าสู่ 18 สถานประกอบการสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้กลยุทธ์ Walkable Urbanism เพิ่มพื้นที่เชื่อมต่อเพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาที่ย่านราชประสงค์อย่างเพลิดเพลินและยาวนานยิ่งขึ้น

เพื่อให้เกิดการใช้เวลาภายในย่านมากที่สุด พร้อมสร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์เต็มสตรีมครบวงจรทั้ง กิน ช้อป และไหว้   ล่าสุด  ร่วมมือกับ ททท. ประเดิมประสบการณ์เต็มรูปแบบที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กับการ เดินสักการะองค์เทพ แห่งแรกใจกลางเมืองที่ใช้เวลาเดินเพียง 30 นาที เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาร่วมสัมผัสไลฟ์สไตล์ของย่านราชประสงค์มากกว่า 600,000 คนต่อวัน

สืบเนื่องจากกการเปิดราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ร่วมกับ  ททท. สร้างสรรค์กิจกรรม RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017 เปิดเส้นทางเดินพลังศรัทธาแห่งมหาเทพทั้ง 8 พระองค์ นำนักท่องเที่ยวสู่บริบทแห่งการสักการะและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใจกลางย่านราชประสงค์ ซึ่งสามารถเดินสักการะได้ภายใน 30 นาที ด้วยความสะดวกสบายกับป้าย  Cultural signage  ที่บอกรายละเอียด ขององค์มหาเทพทั้ง 8 พระองค์ พร้อมข้อมูลสำคัญของแต่ละองค์


1. พระพิฆเนศวร  แห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ  และการเริ่มต้น ซึ่งต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เพื่อเป็นการคารวะในฐานะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป

2. พระตรีมูรติแห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีความศักดิ์สิทธิ์ด้านการประทานพรให้พบเจอคู่ครองที่เหมาะสม และครองคู่กัน ซึ่งเป็นองค์เทพที่เก่าแก่ที่สุดในย่านนี้ เนื่องจากได้มีการสร้างตั้งแต่ครั้นยังเป็นวังเพชรบูรณ์

3.พระแม่อุมาเทวีแห่งบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ พระแม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบ ทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรู ทำลายสิ่งชั่วช้า และพระองค์ยังทรงประทานพรด้าน ความผาสุกทางการครองเรือนอีกด้วย

4.พระแม่ลักษมีแห่งเกษรวิลเลจ ถือเป็นหนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งย่านราชประสงค์ประดิษฐานอยู่ ณ ดาดฟ้าชั้น 4ผู้ได้ชื่อว่าเทพีแห่งความงดงาม ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ พระองค์มักประทานความสำเร็จ ในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์ และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ

5.ท้าวจตุโลกบาล  แห่งเกษรวิลเลจ เทพที่รักษาทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกไว้ทั้ง 4 ทิศ และทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่มนุษย์โลกทั้งหลาย ซึ่งนับว่าเป็นเทพองค์ล่าสุดของย่านราชประสงค์

6.พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุแห่งโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ หนึ่งในสามมหาเทพ มีอำนาจประทานความสุข  ความสำเร็จ  ในหน้าที่การงาน ช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้บูชาฟันฝ่าอุปสรรคไปได้   พร้อมทั้งประทานอำนาจบารมี และคุ้มครองชีวิตให้ปลอดภัยร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป

7. ท้าวมหาพรหม  แห่งโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ หนึ่งในสามเทพสูงสุดซึ่งเป็นผู้สร้าง  และลิขิตความเป็นไปของสรรพสิ่ง พระองค์ยังทรงเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ทรงสามารถประทานพรทุกประการ

8. ท้าวอัมรินทราธิราช    แห่งศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า เทพผู้ผดุงไว้ซึ่งความดี อำนาจของพระองค์จะช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดีทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น  พร้อมทั้งปกป้องรักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งท่านจะคอยคุ้มครองผู้ที่กระทำความดีอยู่เสมอ

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ททท. ได้มีแคมเปญในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ท้องถิ่นโดยตรงหรือ Local Experience ซึ่งช่วยให้เกิดการเดินทางและหมุนเวียนการใช้จ่ายไปยังผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งสำหรับในกรุงเทพมหานคร ททท.ได้มีโครงการ “กรุงเทพฯ เดินเที่ยว หรือ Walking Bangkok” ที่ส่งเสริมให้เกิดการเดินเที่ยวในย่านต่างๆ ซึ่งย่านราชประสงค์ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ ททท. ได้ดำเนินการ และเผยแพร่ไปสู่นักท่องเที่ยวต่างประเทศอีกด้วย ย่านราชประสงค์ถือเป็นย่านธุรกิจและมีกิจกรรมเชิงการท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม ถือเป็นสิ่งดีอย่างยิ่งที่มีอำนวยความสะดวกให้กับการเดินเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้การเดินเที่ยวเชื่อมต่อในย่านราชประสงค์นี้ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

คุณชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า “ย่านราชประสงค์นับว่าเป็นย่านโมเดลธุรกิจและไลฟ์สไตล์ตัวอย่างที่สะท้อนมุมมองและนำเสนอการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ เกิดจากความร่วมมือในการทำงานของภาครัฐ เอกชนพันธมิตร และชุมชนควบคู่กัน โดยมีแผนนำเสนอกิจกรรมไลฟ์สไตล์ซิกเนเจอร์ที่มีความโดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาภายในย่านฯ ตลอดทั้งปี

ทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ศิลปะ วัฒนธรรม และอาหาร ย่านราชประสงค์  เกิดเป็นไลฟ์สไตล์ที่เติมเต็มนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาสัมผัสภายในย่านสำคัญและยังไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาย่านผ่านการเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ทุกอย่างเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นชุมชน ผู้สัญจรขึ้น คือ ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อมลอยฟ้าที่เกิดจากแนวคิด และความร่วมมือของทุกฝ่ายตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2542 จนปัจจุบัน นับเป็นโครงการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนในย่านราชประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเป็นทั้งเส้นทางเดินสัญจรที่ปลอดภัยสะดวกสบาย ช่วยบรรเทาการจราจรและปัญหาการข้ามถนนได้เ
ป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือในการจัดทำหนังสือคู่มือสักการะเทพและแผนที่
เส้นทางการเดินสักการะ 2 ภาษา พร้อมทั้งให้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและเว็บไซต์ของย่านราชประสงค์ หรือสามารถรับหนังสือได้ที่  ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์ (Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวนี้ ยังรวมรวบข้อมูลสำคัญของย่าน ของที่ระลึก รวมทั้งแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างๆ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน พร้อมบริการทัวร์ไหว้เทพไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษกับราชประสงค์วอล์ก ได้แก่ แคมเปญ WALK เดินสักการะองค์เทพ – RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK จัดแคมเปญต่อเนื่องอย่าง RATCHAPRASONG FLAVOR WALK ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์การกินอาหารภายในย่านราชประสงค์ที่เข้าถึงร้านชั้นนำหรือร้านดั้งเดิม อาทิ สตรีทฟู้ดร้านยอดนิยม อาหารจานเด่น อาหารจานด่วน อาหารที่ห้ามพลาด อาหารหากินยาก รวมถึงอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง และสกายไดน์นิ่ง พร้อมเสริมไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งกับ RATCHAPRASONG SHOPPER’S WALK ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการช้อปปิ้งแบรนด์หรู สินค้าแฮนเมด ตลอดจนสินค้าโฮลเซล (Wholesale) พร้อมจุใจกับข้อเสนออย่างโปรโมชั่นสุดพิเศษให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้ช้อปปิ้งภายในย่าน ซึ่งในปีนี้ เราจะเห็นและเดินสู่ความเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ไป โดยทุกประสบการณ์จะถูกเชื่อมต่อด้วย ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk บนพื้นที่ธุรกิจและไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพฯ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของมหานครที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์
(Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2
ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

เว็บไซต์ของย่านราชประสงค์
www.bkkdowntown.com

เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย www.tourismthailand.org/thaifest

TAXI ไทยปัญหาระดับชาติ

โครงการ Taxi V.I.P
ปฏิวัติวงการรถแท็กซี่ไทยสู่มาตรฐานสากล

ปัญหาหลักของวงการรถแท็กซี่ไทย มีอยู่ 2 เรื่องคือ ผู้ขับขี่และตัวรถแท็กซี่ สำหรับปัญหาเรื่องผู้ขับขี่ คือ  การขาดวินัยและจรรยาบรรณในการให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ  และเอกชนได้เข้าแก้ไข โดยได้จัดอบรมผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษา  และกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการ  อีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถ

TAXI VIP  เป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการของประชาชน โดยใช้รถ
ที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถ สมรรถนะรถที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เพิ่มอุปกรณ์ส่วนควบสำหรับให้บริการที่มีความสะดวกสบาย  เพิ่มเติมจากข้อกำหนด
การติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ส่วนควบตามโครงการ ทำให้ระบบการบริหารจัดการด้วย ฐานข้อมูลที่เป็นระบบ สามารถพัฒนาศูนย์ประวัติ  รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในระบบทุกคัน และประวัติผู้ขับรถทุกคน ตลอดจน การบันทึก ติดตามการกระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากมาตรการกำกับ ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายกับรถแท็กซี่ กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเชิงบวก หรือยกย่องคนขับรถแท็กซี่ที่กระทำดีหรือสร้างประโยชน์ให้สังคม

วันนี้ Toptotravel  มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ โครงการ Taxi V.I.P ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ  ด้วยการเปิดช่องทาง การสร้างงานสร้างอาชีพ  และ
รายได้เสริมให้แก่ผู้ที่สนใจ  ราคาที่ดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยถูก หรือจะเลือกผ่อนดาวน์  0% นาน 10 เดือน เเละผ่อนค่างวดเฉลี่ย  เพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม พ.ร.บ และประกันภัย ชั้น 1 รวมถึง  ยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเอง ได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว 

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล (เรย์) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด เจ้าของและผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P ปรับลุคใหม่
ให้กับวงการแท็กซี่ไทย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และ ภายใน ที่แตกต่างจากแท็กซี่ทั่วไป

กล่าวต่อว่า ปัญหารถแท็กซี่ไทยในปัจจุบัน ถือเป็นปัญหาระดับชาติที่ส่ง
ผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ  อาทิ ปัญหาอาชญากรรม การให้บริการ สุขอนามัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารบริษัทฯได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงเกิดโครงการ Taxi V.I.P  เพื่อมาช่วยปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแท็กซี่ไทย

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด

ทุกวันนี้ ธุรกิจยานยนต์ของบริษัท KPN มีครบวงจร ทั้งจำหน่ายยางรถยนต์ผลิตและจำหน่ายแท็กซี่ รับจัดไฟแนนซ์รถยนต์สินเชื่อแท็กซี่ ตัวแทนขายประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์ทุกชนิด ติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์ให้กับ  ดีลเลอร์รถยนต์โตโยต้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมน้ำมัน KPN E85 ขยายธุรกิจจำหน่ายรถแท็กซี่  ร่วมกับ  บริษัท
โตโยต้า 15 สาขา ส่วนสาขาของ KPN MORTOR อีก 3 สาขา รวมทั้งสร้างศูนย์บริการยางรถยนต์มาตรฐาน KPN AUTO TYRES 2 สาขา รวมทั้งได้รับสิทธิเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองทุกชนิด จากจากการแต่งตั้งโตโยต้าชัวร์  3 สาขา  พร้อมเป็นผู้จำหน่ายยางรถยนต์ให้  กับบริษัท โตโยต้า 30 สาขา 5 จังหวัด นอกจากนี้ยังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

คุณเรย์ เล่าให้ฟังว่า การทำแท็กซี่วีไอพี บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับวงการอาชีพรถแท็กซี่ของเมืองไทยให้ได้มาตรฐาน โดยเราทำตรงนี้  เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แท็กซี่ไทยที่มักมีปัญหาภาพลักษณ์ไม่ดีอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่   นอกจากนั้น  ยังเน้นย้ำด้านบริการด้วยมิตรภาพและจรรยาบรรณที่ดีและเรายังทำข้อตกลงว่าคุณจะต้องไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร พร้อมกันนี้เรายังเปิดอบรม ฝึกมารยาท ภาษา และ  หลักในการบริการลูกค้าแบบมาตรฐานสากล  ให้กับคนขับในโครงการแท็กซี่วีไอพีด้วย จึงนับว่าเป็นการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ของวงการแท็กซี่ไทยที่ใครเห็นก็อยากนั่ง ดังนั้น รถแท็กซี่ที่ให้บริการดีสะดวกสบายและปลอดภัย ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและความประทับของผู้โดยสาร

บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด ผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P

อีกทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพที่น่าภาคภูมิใจอย่างถูกกฏหมาย พร้อมกับรักษาอาชีพของคนไทยทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับแท็กซี่หน้าใหม่เข้าสู่ระบบผ่านการอบรม  และพัฒนาสร้างจิตสำนึกการให้บริการที่ดี
มีคุณธรรม เพื่อปรับยุคสมัยสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

ทีมงานพนักงานขับ TAXI VIP

โดยทาง บริษัทฯ  ได้จัดให้มีการอบรมสำหรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ขึ้น โดยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ  และกฎระเบียบต่างๆของทางราชการ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการกับผู้โดยสารและอีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถโดยประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นลำดับต้นๆ เฉพาะด้านความคุ้มค่าในเรื่องของราคาค่าโดยสารเท่านั้น

เราจึงต้องการแก้ปัญหานี้ผ่านโครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดง  อาทิ   Toyota Camry ,Toyota Fortuner ,Toyota Altis ฯลฯ

เข้าสู่โครงการโดยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพรถยนต์ ตั้งแต่กระบวนการ
พ่นสีตัวรถที่เลือกใช้สีแบบแห้งช้า เกรดเดียวกับที่พ่นรถยุโรป   ระบบก๊าซ NGV / LPG ด้วยอุปกรณ์จากประเทศอิตาลีทั้งหมด โดยใช้ศูนย์ติดตั้งก๊าซ  ที่ได้มาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง  ปตท. กรมธุรกิจพลังงาน และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงปรับโฉมภายในด้วยการหุ้มเบาะหนังแท้พร้อมทั้งการกรุพื้นปกป้องฝุ่นภายในรถ มีระบบมิเตอร์ดิจิตอล  แบบสัมผัสพร้อมใบเสร็จรับเงินภายในตัว และระบบชำระค่าแท็กซี่ผ่าน บัตรเครดิตทุกธนาคาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ  การมีสายต่อเชื่อม USB  เพื่อชาร์ตเบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ บริการฟรี Wifi  และน้ำดื่ม

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านความปลอดภัย  และความสะดวกสบายให้กับรถแท็กซี่ไทยและโครงการนี้ยังรองรับรถแท็กซี่เก่าที่กำลังจะหมดอายุในปีนี้กว่า 20,000 คัน


สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Taxi V.I.P นำรถหรูป้ายแดงมาทำแท็กซี่ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้เสริม ต้องการเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคล  โดยทำรถแท็กซี่ให้เป็นรถอเนกประสงค์  ขับไปทำงาน หรือรับส่งคนในครอบครัวก็ยังสามารถรับส่งผู้โดยสารหลังเลิกงานประจำได้ ราคาที่ดาวน์ต่ำ  ดอกเบี้ยถูก หรือเลือกโปรเเกรมผ่อนโดยฟรีดอกเบี้ย0% นาน 6 เดือน ผ่อนค่างวดเฉลี่ยเพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม ประกันภัย ชั้น 1 ประกันอุบัติเหตุให้ผู้ขับขี่ฟรี วงเงินคุ้มครองสูงถึง 1.2 ล้านบาท

รวมถึงยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุน ที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเองได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว
ติดต่อ โครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดงโทร. 086 794 9999

WWW.KPNMOTORCAR.COM
Lind Id: @KPNMOTORCAR
Facebook: KPN MOTORCAR

 

 

สีสันแห่งความทรงจำ สีสันตะวันออก

ชวนไปงาน สีสันตะวันออก ครั้งที่ 10
ร่วมย้อนสีสันเมื่อวันวานของ ชลบุรี
ระยอง จันทบุรี และตราด


หากพูดถึง 4 จังหวัดภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด)  คงอดไม่ได้ที่จะต้องนึกถึงหาดทรายสวยๆ ที่เคียงคู่กับน้ำทะเลใส อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวกทม.และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งนอกจากจะมีทะเลที่สวยงามแล้ว ยังมีสินค้า และอาหารขึ้นชื่อมากมาย ที่ต้องซื้อติดไม้ติดมือมาฝากคนที่บ้านอีกด้วย


สีสันแห่งความทรงจำ ร่วมย้อนสีสันเมื่อวันวานของจังหวัด  ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด สู่ความทรงจาดีๆ ครั้งใหม่  เทศกาลสีสันตะวันออก งานประจำปีของกลุ่ม จังหวัดภาคตะวันออก

งานแถลงข่าว “เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10”

จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัด จันทบุรี และ จัง หวัดตราด ซึ่งการจัดงานคร ั้งนี้ได้เดิน ทาง มาถึงปีที่ 10  ภายใต้การดำเนิน งาน ของ บริษัท อิมเมจ คอร ์ปอเร ชั่น (ประเทศไทย)  จำกัด จัดงานแถลงข่าว เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10 โดยในปีนี้จะพาไปย้ำความทรงจำใน สีสันที่ผ่านมา  พร้อมมอบความทรงจำดีๆ ครั้งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Memories  สี สัน แห่ง ความ ทรง จำ

นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการ จังหวัดชลบุรี ประธานในพิธี

เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10 สีสันแห่งความทรงจำ โดยกลุ่ม 4 จังหวัดภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  และ เมืองพัทยา โดยการประสานงานของกลุ่มยุทธศาสตร์ภาคตะวันออก ซึ่งครั้งนี้ ยังคงเอกลักษณ์สาคัญของงานนั่นคือ การรวมตัวของผู้ประกอบการระดับคุณภาพและมีชื่อเสียงของภาคตะวันออก จัดเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซนอาหารมาในธีมตลาดเมื่อ วันวาน โซนที่รวมอาหารท้องถิ่น ผลไม้ขึ้นชื่อ ต่อมาคือโซนแหล่งท่องเที่ยวในธีมตากอากาศ


โซนรวมแหล่งท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรม และ รีสอร์ททุกรูปแบบ โซนสุดท้ายคือโซนภูมิปัญญาพื้นบ้าน รวบรวมสินค้าโอท็อประดับคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว รวม ทุกโซนทั้งสิ้นกว่า 120 ร้านค้า พร้อมโปรโมชั่น ราคาพิเศษมากมาย มางานนี้งานเดียว เสมือนเที่ยวครบ 4 จังหวัด

บรรยากาศในวันแถลงข่าวเปิดตัวด้วยชุดการแสดง Good memories สื่อแสดงถึงความทรงจำดีๆ ที่จะอยู่ในพื้นที่ แห่งความสุข

มาร่วมย้อน ระลึกความทรงจำที่ล้าค่า  กับโซนนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับ ความทรงจาใต้ร่ม พระบารมี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า

การจัดงานเทศกาลท่องเที่ยว สีสันตะวันออก” ในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการพัฒนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย  ให้ก้าวสู่มาตรฐาน มีคุณภาพ และ เป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ที่สามารถแข่งขันในตลาดโลก และยังเป็นการรักษาตลาดการท่องเที่ยว  ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก
ให้มีจำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

งานแถลงข่าวจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค.60 ณ โรงแรมพลูแมน แกรนด์ สุขุมวิท ห้อง บอลรูม 1 ชั้น 4

การประชาสัมพันธ์ เอกลักษณ์ พร้อมทั้งภาพลักษณ์ ภายใต้  Brand
สีสันตะวันออก ของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ให้ติดตลาดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ อีกทั้งการจัดงาน ในครั้งนี้สามารถสร้างอาชีพและลดปัญหาการว่างงานของคนในท้องถิ่น ในสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจตลอดจนสร้างความ เชื่อมโยงทางการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ

บรรยากาศในวันแถลงข่าวเปิดตัวด้วยชุดการแสดง   Good memories
สื่อแสดงถึงความทรงจำดีๆ ที่จะอยู่ในพื้นที่ แห่งความสุขและเสียงหัวเราะ ของภาคตะวันออกจากนี้และตลอดไป มีมุมถ่ายภาพสาหรับแชะ แชร์ลงในโซเซียล มีการสัมภาษณ์ ตัวแทนจากกลุ่มโครงการ 4 จังหวัด และตัวแทนจากเมืองพัทยา พูดคุยแนะนาเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวงานเทศกาลสีสัน ตะวันออก และแผนเตรียมความพร้อมของพื้นที่ การอำนวยความสะดวกระหว่างการจัดงาน  โดยมี นายภวัต เลิศมุกดา รองผู้ว่าราชการ จังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี ร่วมแถลงข่าว ท่ามกลางสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติอีกเป็นจานวนมาก งานแถลงข่าวจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค.60
ณ. โรงแรมพลูแมน แกรนด์ สุขุมวิท ห้อง บอลรูม 1 ชั้น 4

กิจกรรมจาก เทศกาลสีสันตะวันออก ครั้งที่ 10  ในธีมสีสันแห่งความทรงจำ ภายในงานมีจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9  กับความทรงจำใต้ร่มพระบารมี และร้านค้าขึ้นชื่อของทั้ง 4 จังหวัด กว่า 120 ร้าน และพลาดไม่ได้กับ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ ชวนคนรักทะเลมาเที่ยวกันนะค่ะ

ณ ถนนเลียบชายหาดพัทยา จังหวัดชลบุรี
ในวันที่ 1-4 มิ.ย.นี้ แล้วพบกันนะคะ

#สีสันตะวันออก #colorsoftheeast2017
#สีสันตะวันออกครั้งที่10

#สีสันแห่งความทรงจำ

โครงการ PTTEP Teenergy ปี4 ตอน ก้าวเพื่อรักษ์

ปตท.สผ. สานต่อโครงการ PTTEP Teenergy
ปี 4  กิจกรรมค่ายให้ครอบคลุม 4 ภูมิภาค

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. มีภารกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา และผลิต  ปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศ โดยให้ความสำ คัญต่อการดำ เนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม

โครงการ PTTEP Teenergy  ดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ 3 ป.
ปลูก-ปั้น-เปลี่ยน   ปตท.สผ.สานต่อ  โครงการ PTTEP Teenergy ปี 4   ตอน  ก้าวเพื่อรักษ์  ขอขยายการสร้างเครือข่ายเยาวชนทั้ง 4 ภาค ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน  เดินหน้าสร้างนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ ด้วยกลยุทธ์ 3 ป ปลูกฝังจิตสำนึก -ปลูก-ปั้น-เปลี่ยน และ ขยายโอกาสให้เยาวชนเข้าร่วมเรียนรู้คุณค่าธรรมชาติในปีนี้ถึง 280 คนกลยุทธ์ 3 ป. ปลูก-ปั้น-เปลี่ยน   ปตท.สผ.สานต่อ  โครงการ PTTEP Teenergy ปี 4   ตอน  ก้าวเพื่อรักษ์  ขอขยายการสร้างเครือข่ายเยาวชนทั้ง 4 ภาค ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน  เดินหน้าสร้างนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ ด้วยกลยุทธ์ 3 ป ปลูกฝังจิตสำนึก -ปลูก-ปั้น-เปลี่ยน และ ขยายโอกาสให้เยาวชนเข้าร่วมเรียนรู้คุณค่าธรรมชาติในปีนี้ถึง 280 คน

นางประณต ติราศัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกิจการองค์กรและกำกับการปฏิบัติตามนโยบายนางประณต ติราศัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกิจการองค์กรและกำกับการปฏิบัติตามนโยบาย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานโครงการ PTTEP Teenergy กล่าวว่า

“ในปีนี้เราได้ขยายโครงการไปสู่การสร้างเครือข่ายเยาวชนให้ครอบคลุม
ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ผ่านการจัดกิจกรรมค่าย 4 ครั้ง 4 ภาค โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเยาวชนให้กล้าคิด กล้าทำ กล้ามีส่วนร่วม ผ่านกระบวนการเรียนรู้ และสร้างสรรค์กิจกรรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อให้เยาวชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังตระหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังให้เยาวชนได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการอนุรักษ์ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มาเป็นแรงบันดาลใจ  ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยหลักคิดที่มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืนพร้อมก้าวไปสู่การลงมือทำประโยชน์เพื่อสังคม ด้วยพลังของเยาวชน PTTEP Teenergy  พร้อมที่จะปกป้อง ดูแล ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมด้วยหัวใจอนุรักษ์อย่างแท้จริง”

กลยุทธ์ 3 ป.คือ ปลูก-ปั้น-เปลี่ยน โดยเชื่อมั่นว่าการปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างโอกาสในการเรียนรู้นอกห้องเรียน รวมถึงการปั้นเยาวชนให้มีความรู้สู่การหล่อหลอมหัวใจอนุรักษ์ และส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเยาวชนให้มีความพร้อมในการทำประโยชน์ให้กับสังคม จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับเยาวชนในการก้าวออกไปทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงให้ชุมชนและสังคมดีขึ้น ด้วยการรวมพลังความคิดและลงมือทำ”
นางประณต กล่าว

นายศิริพงษ์ เฟื่องลิขิต ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม ปตท.สผ. ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ ที่ปรึกษาศูนย์สถานศึกษาพอเพียง มูลนิธิยุวสถิรคุณ และดร.จงรักษ์ ฐินะกุล ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ร่วมพูดคุยโครงการ PTTEP Teenergy ปี 4

โครงการ PTTEP TEENERGY CAMP

เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยยึดมั่นในแนวคิด “จากทรัพย์ในดิน สู่สินทางปัญญารักษาสิ่งแวดล้อม” ในการสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อชุมชนและสังคม

โครงการ เยาวชน เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งที่ ปตท.สผ. เล็งเห็นถึงความสำ คัญของการส่งเสริมให้เยาวชนได้มีโอกาสในการเรียนรู้นอกห้องเรียนเกี่ยวกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการดำ เนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม จึงได้ริเริ่มจัดทำ

โครงการ PTTEP TEENERGY CAMP  โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกจิตสำนึกและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม  ให้เยาวชนได้มีส่วนในการร่วมคิดร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการดำ เนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมอย่างแท้จริง ผ่านกระบวนการเรียนรู้จากค่ายเยาวชนที่จัดขึ้นภายใต้โครงการเพื่อสังคมของบริษัทหนึ่งในกิจกรรมด้านสังคมที่ ปตท.สผ. ดำ เนินการอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ
กรมศิลปากร ได้แก่ โครงการความร่วมมือ บริหารจัดการเพื่อการอนุรักษ์มรดกไทย มรดกโลก ในแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของไทย โดยมีเป้าหมายนำ ไปสู่การอนุรักษ์แหล่ง “มรดกไทย มรดกโลก” ให้มีความยั่งยืนสืบไป

การจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนสำหรับในปี 2557 นี้ ภายใต้หัวข้อการเรียนรู้ มรดกไทย มรดกโลกทางธรรมชาติดังนั้น การจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนสำ หรับในปี 2557 นี้ จึงได้กำ หนดจัดขึ้น ภายใต้หัวข้อการเรียนรู้ “มรดกไทย มรดกโลกทางธรรมชาติ PTTEP TEENERGY CAMP รู้รักษ์มรดกโลกเขาใหญ่ โดยมีพื้นที่เป้าหมายดำ เนินการ ณ อุทยานแห่งชาติ  เขาใหญ่ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำ เนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและเสริมสร้างภาพลักษณ์ของ ปตท.สผ.

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมค่ายเยาวชน จะปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมขึ้น
กับโครงการและพื้นที่กิจกรรมในแต่ละปี เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้คุณค่าของโครงการเพื่อสังคม ของ ปตท.สผ.

วัตถุประสงค์
1. เพื่อปลูกจิตสำ นึกและสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมให้เยาวชนได้มีส่วนในการ
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการดำ เนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม
2. เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่เยาวชนเกี่ยวกับการสำ รวจและผลิตปิโตรเลียม รวมถึง
การดำ เนินธุรกิจของอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม
3. เพื่อสร้างเครือข่ายเยาวชน และสร้างช่องทางการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเพื่อเป็นแนวร่วมในกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ในอนาคต

โดยรายละเอียดกิจกรรมค่าย 4 ภูมิภาค มีดังนี้

1. ภาคกลาง จัดกิจกรรมวันที่ 18-20 สิงหาคม 2560 ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปกช่อง จ.นครราชสีมา รับเยาวชนจากภาคกลาง 70 คน

2.ภาคใต้ จัดกิจกรรมวันที่ 1-3 กันยายน 2560 ที่สวนประวัติศาสตร์
พล.อ.เปรม ติรศูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา รับเยาวชนจากภาคใต้ 70 คน

3.ภาคอีสาน จัดกิจกรรมวันที่ 9-11 ตุลาคม 2560 ที่โครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศภูฝอยลม อ.หนองแสง จ.อุดรธานี รับเยาวชนจากภาคอีสาน 70 คน

4. ภาคเหนือ จัดกิจกรรมวันที่ 18-20 ตุลาคม 2560  ที่สวนป่าเขากระยาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับเยาวชนจากภาคเหนือ 70 คน

โดยภาคกลางและภาคใต้จะเปิดรับสมัครวันที่ 16 พ.ค-15 มิ.ย. 2560 ส่วนภาคอีสานและภาคเหนือ จะเปิดรับสมัครวันที่ 25 มิ.ย.-25 ก.ค. 2560

สำหรับการคัดเลือกเยาวชนเข้าร่วมโครงการนั้น ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่างๆ ของแต่ละภูมิภาค ร่วมคัดเลือกเยาวชนมาเข้าร่วมกิจกรรมค่ายทั้ง 4 ภาค จำนวนภาคบะ 70 คน รวมทั้งสิ้น 280 คน จากการเขียนบทความเกี่ยวกับแรงบันดาลใจ แนวคิดในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และโครงการเพื่อสังคมที่สนใจลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

ปตท.สผ.สานต่อโครงการ PTTEP Teenergy ปี 4 ตอน “ก้าวเพื่อรักษ์” ขอขยายการสร้างเครือข่ายเยาวชนทั้ง 4 ภาค ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน เดินหน้าสร้างนักอนุรักษ์รุ่นเยาว์ ด้วยกลยุทธ์ 3 ป. ปลูกฝังจิตสำนึก ปลูก-ปั้น-เปลี่ยน ขยายโอกาสให้เยาวชนเข้าร่วมเรียนรู้คุณค่าธรรมชาติในปีนี้ถึง 280 คน

งานแถลงข่าว โครงการ PTTEP Teenergy ปีที่ 4
ณ ห้อง Executive Lounge  ชั้น 6
อาคารศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (อาคาร C)

ติดตามรายละเอียดโครงการได้ที่
www.facebook.com/pttepteenergycamp
http://www.pttep.com/th/Newsandnmedia/News/2016pttepteenergy.aspx

5 สิ่งที่ต้องเตรียมเปียก ก่อนไปสงกรานต์สยาม

สงกรานต์แบบไทย ปันน้ำใจให้แก่กัน
วันที่ 13-15 เมษายน 2560

วันนี้ มาเล่นสงกรานต์ คนมากเป็นปรากฎการณ์ งงเด้ งงเด้
ปักหมุดตัวเปียก มาร่วมสาดความสนุกสดชื่น ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน  ชวนมาสนุกสุดๆๆ เดินทางง่าย  ภายใต้งาน สงกรานต์เมษาผ้าขาวม้ายกสยาม  งานสงกรานต์เมษาผ้าขาวม้ายกสยาม @สยามสแควร์ เนื่องในวันสงกรานต์ ประจำปี 2560 ที่ สยามสแควร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2560 ไปชมภาพบรรยากาศการเล่นน้ำแบบไทยๆ กันคร้า

สงกรานต์เมษาผ้าขาวม้า ยกสยาม มาร่วมสนุกลั่น สนั่นกรุง ภายในงานท่านจะได้พบกับกิจกรรมความสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 3 ช่า EDM กับดีเจชื่อดัง, 3 ช่า CarRavan ซุปตาร์ 3 ช่า แต่งชุดไทย ในขบวนรถตุ๊กๆ, 3 ช่านิยม Flash Mob โจ๊ะจังหวะ 3 ช่า สร้าง “ท่านิยมไทย”, สาด, ช้อป,ชิม สัมผัสบรรยากาศสงกรานต์แบบไทย ๆ


วันนี้ มาเล่นสงกรานต์ คนมากเป็นปรากฎการณ์ งงเด้ งงเด้
มาร่วมสาดความสนุกสดชื่นไปกับ หน้ากากจิงโจ้ เป๊ก ผลิตโชค กัน
ที่งาน “สงกรานต์เมษา ผ้าขาวม้ายกสยาม ”

1. ไม่ต้องเอาน้ำมาเล่นที่งาน เพราะสงกรานต์เมษาผ้าขาวม้า ยกสยาม เขามีน้ำให้เล่นฟรีตลอดทั้งวัน
2. ห้ามพกอาวุธ แต่พกปืนฉีดน้ำ ขัน ไม้พรมน้ำมนต์ และอื่น ๆ ได้หมดถ้าสดชื่น ปลอดภัย
3. เสื้อ, กางเกง, ชุดไทย, ชุดจีน และอื่น ๆ ได้หมดแต่ห้ามโป๊
4. ไม่เล่นแป้ง แต่อย่าลืมครีมกันแดดครีมรองพื้น ครีมทาผิวนะจ๊ะ
5. ไม่พกสิ่งมึนเมา เพราะที่นี่ห้ามเมา เพราะถ้าเมาคุณจะเข้ามาสนุกที่สยามไม่ได้

สุดท้าย  หน้ากากทุเรียนและผองเพื่อนรูม39 มางานสงกรานต์สยาม….
13 – 15 เมษานี้ เจอกัน!!! สาดฟรีตลอดงาน

ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน 2560
เริ่มสาดความมันส์กันตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 18.00 น.
ณ สยามแสควร์ งานนี้ฟรีตลอดงาน

 

ไทยสมายล์คว้า 3 รางวัลใหญ่จากการรีวิวของผู้โดยสารทั่วโลก

ไทยสมายล์คว้า 3 รางวัล ประเภทสายการบินโดยเว็บไซต์ TripAdvisor ได้แก่ สายการบินยอดเยี่ยมของประเทศไทย, สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ 1 ใน 10 สายการบิน ยอดเยี่ยมระดับโลก

สายการบินไทยสมายล์ ได้รับ 3 รางวัล ระดับโลกจาก TripAdvisor Travellers’ Choice® Awards for Airlines จากเว็ปไซต์ TripAdvisor
1) สายการบินยอดเยี่ยมของประเทศไทย (Best Airline in Thailand)
2) สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
(Best Regional Airline in Asia Pacific)
3) 1ใน10 สายการบินยอดเยี่ยมระดับโลก (World’s Best Airline – Top 10)

สายการบินไทยสมายล์ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกครั้งด้วยการคว้า 3 รางวัลใหญ่ ได้แก่ รางวัลสายการบินยอดเยี่ยมของประเทศไทย ควบอีก 2 รางวัลในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและระดับโลก ได้แก่ สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ 1 ใน 10 สายการบินยอดเยี่ยมระดับโลก จากการรีวิวของผู้โดยสารทั่วโลก ประจำปี 2560 ประเภทสายการบิน โดยเว็บไซต์ TripAdvisor ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวชื่อดังที่มีฐานผู้ใช้งานกว่า 350 ล้านคนทั่วโลก ตอกย้ำความเป็นสายการบินภูมิภาคชั้นนำของทวีปเอเชีย ลั่นเดินหน้าพัฒนาบริการระดับเวิลด์คลาสไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของนักเดินทาง เปิดประสบการณ์ใหม่บนเส้นทางบินใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวและสร้างความประทับใจให้กับผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง

กัปตันวรเนติ  หล้าพระบาง  รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า

“ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่สายการบินไทยสมายล์ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในฐานะสายการบินยอดเยี่ยมของประเทศไทย (Best Airline in Thailand) สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Best Regional Airline in Asia pacific) และ 1 ใน 10 สายการบินยอดเยี่ยมระดับโลก (World’s Best Airlines – Top 10) จากการรีวิวของผู้โดยสารทั่วโลก ประจำปี 2560 ประเภทสายการบิน โดยเว็บไซต์ TripAdvisor และการที่เราได้รับถึง 3 รางวัลในปีนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงการทำงานอย่างหนักและการทุ่มเทของพนักงานไทยสมายล์ทุกคน ทำให้เราเชื่อมั่นว่า ไทยสมายล์มีความพร้อมที่จะแข่งขันได้ในระดับภูมิภาค การบริการอย่างทุ่มเทถือเป็นหัวใจสำคัญของเรา และความมุ่งมั่นของเราที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าในทุกๆ touch point ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองรางวัลนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าในทุกๆ เที่ยวบินของไทยสมายล์อีกด้วย”

ผมในฐานะตัวแทนผู้บริหารและพนักงานสายการบินไทยสมายล์ทุกคนขอขอบคุณทุกๆ รีวิวจากผู้โดยสารทั่วโลก รวมถึงความทุ่มเทอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยของพนักงานไทยสมายล์ทุกคน ผมขอยืนยันว่า สายการบินไทยสมายล์จะยังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐานและพัฒนาต่อยอดการให้บริการที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะก้าวสู่การเป็นสายการบินชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ภายในอนาคตอันใกล้นี้


ทั้งนี้เว็บไซต์ TripAdvisor ได้แก่ สายการบินยอดเยี่ยมของประเทศไทย, สายการบินยอดเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ 1 ใน 10 สายการบินยอดเยี่ยมระดับโลก เป็นเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวชื่อดัง เปิดให้สมาชิกและนักเดินทางทั่วโลกรีวิวและให้เรตติ้งสายการบินที่ชื่นชอบ โดยครอบคลุมสายการบินหลักทั่วโลก ให้คะแนนทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ตลอดระยะเวลา 12 เดือน คะแนนที่ได้รับล้วนแสดงถึงความโดดเด่นของทั้งด้านบริการ คุณภาพ และความคุ้มค่าที่ลูกค้าชื่นชอบ

สายการบินไทยสมายล์ เป็นสายการบินลูกของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจสายการบินภูมิภาคในระยะพิสัยใกล้และระยะพิสัยกลาง ภายใต้รหัสสายการบิน“WE” โดยมีเป้าหมายเป็นสายการบินภูมิภาคชั้นนำของทวีปเอเชีย ไทยสมายล์เป็นสายการบินฟูลเซอร์วิส ที่มุ่งเน้นในมาตรฐานการให้บริการที่เยี่ยมยอดควบคู่ไปกับความคุ้มค่าของราคา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้านักเดินทางระยะสั้น แต่ขณะเดียวกันยังคงให้ความสะดวกสบายสูงสุด สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการบริการที่เป็นเลิศ สายการบินไทยสมายล์ให้บริการด้วยเครื่องบินลำตัวแคบ (Narrow-body Fleet) จำนวน 20 ลำ โดยมีฐานปฏิบัติการบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สายการบินไทยสมายล์ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การให้บริการในหลากหลายมิติเพื่อสอดรับกับความต้องการของนักเดินทาง โดยปัจจุบันเรามีแนวคิดหลักในการให้บริการ คือ FLY SMART, FLY SABAI, FLY THAI SMILE.

ปัจจุบัน สายการบินไทยสมายล์ให้บริการ 10 เส้นทางภายในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น เชียงราย หาดใหญ่ อุบลราชธานี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และกระบี่ นอกจากนี้ ไทยสมายล์ยังให้บริการเส้นทางข้ามภาคระหว่างเชียงใหม่และภูเก็ต พร้อม 13 เส้นทางบินต่างประเทศสู่ เสียมราฐ, ปีนัง, ฉางซา, ฉงชิ่ง, เจิ้งโจว, คยา, พาราณสี, ชัยปุระ, ลัคเนา, ย่างกุ้ง, โคตาคินาบาลู, พนมเปญ และจิตตะกอง โดยมีแผนที่จะเพิ่มความถี่การบินในเส้นทางในประเทศและเปิดตัวเส้นทางบินใหม่ระหว่างประเทศต่อไป

พิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน รุ่นที่ ๑๓/๖๐ วัดใหม่สิริกมลาวาส

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

สามเณร หน่อเนื้อของสมณะ หมายถึงนักบวชชายในพระพุทธศาสนาที่มีอายุน้อย ยังมิได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ คำว่า สามเณร เป็นศัพท์เฉพาะในพระพุทธศาสนา เป็นศัพท์บัญญัติที่ใช้เรียกนักบวชในพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะ ไม่สาธารณะทั่วไป

ผู้ที่จะบวชเป็นสามเณร เป็นโอกาสที่เหล่ากุลบุตรจะได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ธรรมะและปฏิบัติธรรมเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต ทางพระวินัยกำหนดอายุอย่างต่ำไว้ประมาณ 7 ขวบซึ่งพอช่วยเหลือตัวเองได้ พระวินัยระบุว่าพอจะไล่กาไล่ไก่ได้ ส่วนสูงไม่มีกำหนดไว้ ผู้มีอายุไม่เกิน 20 ปีจะบวชเป็นสามเณรตลอดไป ไม่บวชเป็นภิกษุก็ได้



วัดใหม่สิริกมลาวาส จัดพิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน รุ่นที่ ๑๓/๖๐ ระหว่างวันที่  ๖-๓๐ เมษายน ๒๕๖๐  โดยพระครูโชติญาณประยุต พระอุปัชฌาย์ (เจ้าอาวาส) ดำเนินการโดย พระอาจารย์ คำนวน กนตสีโล และพระมหาธีรวัฒย์ ธีรวฒฑโน ณ.วัดใหม่สิริกมลาวาส ( วัดใหม่เสนา) วังหิน กรุงเทพฯ

โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนรุ่นที่ 13/60 ได้จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 แล้วดำเนินโครงการโดยพระอาจารย์ คำนวน กนตสีโลและพระมหาธีรวัฒย์ ธีรวฒฑโน วัดใหม่สิริกมลาวาส ( วัดใหม่เสนา)วังหิน ลาดพร้าว กรุงเทพฯพระอาจารย์ คำนวน กนตสีโลได้กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยาเสพติด เกม และอบายมุข





ดังนั้นในช่วงปิดภาคเรียนหากเยาวชนได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาโดยผ่าน
การบวช การอบรม การฝึกจิตใจ จึงเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนควรที่ผู้ใหญ่จะร่วมกันสนับสนุนคนละไม้ละมือเพื่อให้ลูกหลานได้มีจิตใจที่อ่อนโยน มีระเบียบวินัยในการดำรงชีวิตต่อไปมากยิ่งขึ้น

อะไร? คือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต

คำถามชวนสังคมไทยฉุกคิด จากไวรัลวิดีโอสุดซึ้งรับสงกรานต์ที่จะทำให้คุณอิ่มเอมกับคำว่า “ครอบครัว”

มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะรวยจน ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา แต่รากฐานสำคัญที่ชีวิตมนุษย์ทุกคนพึงมีก็คือ ครอบครัว  จุดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรัก  ความอบอุ่น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ครอบครัวคือปลายทางของความรักความอบอุ่นที่เป็นพลังที่ทำให้ฝ่าฟันกับปัญหาอุปสรรค และนำไปสู่การสร้างสรรค์ให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นได้มากมาย ทว่าด้วยความจำเป็นหลายๆ อย่าง ทำให้ คนไทยจำนวนไม่น้อย ต้องเสียสละเดินทางจากถิ่นฐานบ้านเกิด และบุคคลอันเป็นที่รัก เข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อจุดประสงค์เดียวกันคือการหารายได้เพื่อที่จะส่งกลับไปจุนเจือครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

และเพื่อเป็นการตอบแทนฮีโร่ ผู้เสียสละของครอบครัว ในเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทุกครอบครัวไทยจะได้มีโอกาสพบปะ หรือ อยู่กันอย่างพร้อมหน้า พร้อมตา  โฟร์โมสต์  ในฐานะผลิตภัณฑ์ นมไทยมาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ที่อยู่คู่ครอบครัวคนไทยมากว่า

60 ปี โดย บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ไม่ได้แค่ต้องการที่จะสนับสนุนให้คนไทยมีร่างกายที่แข็งแรงผ่านโภชนาการที่ดีเท่านั้น แต่ยังร่วมสนับสนุนส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้แข็งแรงอีกด้วย จึง

ขอสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมดีๆ อย่าง โฟร์โมสต์ พากลับบ้าน สงกรานต์สุข ปี3  ภายใต้แนวคิด เพราะทุกคนคือ  ฮีโร่ ของครอบครัว”

โดยหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ภายใต้แคมเปญ โฟร์โมสต์ พากลับบ้าน สงกรานต์สุข  ปี3 คือ ไวรัลวิดีโอชวนกลับบ้านในวันสงกรานต์สุดซึ้ง ซึ่ง
โฟร์โมสต์ ได้มอบหมายให้ บริษัท เทอร์มินัล วัน จำกัด ครีเอทีฟเอเจนซี่ เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานภายใต้ชื่อ  ฮีโร่

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเป็นการถ่ายทอดของนักมวยสู้ชีวิตที่ตระเวนออกชกมวยรอบตามงานต่างๆ ในทุหครั้งที่นักมวยถูกชก หยาดเหงื่อแรงงานที่กระเด็นออกมาเปรียบเสมือนเม็ดเงิน แต่จะถูกแบ่งสันปันส่วนให้กับ นายหน้า หรือ โปรโมเตอร์ จะเหลือถึงมือเพียงแค่เงินจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น  ซึ่งนั่นก็ไม่ทำให้นักมวยลดละความพยายามลงได้ เพียงต้องการหาเงิน  มาจุนเจือครอบครัว โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ความเป็นอยู่ที่สุขสบายของภรรยาและลูกสาวผู้ซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย ซึ่งสงกรานต์ปีนี้เขาก็มีโอกาสได้เดินทางกลับบ้านกับโฟร์โมสต์ที่เชิดชูเหล่า ฮีโร่ ผู้เสียสละของครอบครัวเฉกเช่นนักมวยผู้นี้ ให้ได้กลับภูมิลำเนาของตน เพื่อได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างอบอุ่น ซึ่งไวรัลวิดีโอชุดนี้ถูกสร้างและดำเนินเรื่องราวจากเค้าโครงจริง โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้สังคมฉุกคิดว่า สุดท้ายแล้วความแข็งแรงแบบ 100% ของสถาบัน “ครอบครัว” คือสิ่งสำคัญที่สุด เริ่มออกอากาศพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 31 เมษายน 2560 ผ่านช่องทาง

www.facebook.com/ForemostMomTalk www.youtube.com/Foremostforlife

นอกจากนี้ โฟร์โมสต์ ยังได้จัดกิจกรรมอาสาพา  ฮีโร่  กลับบ้านพร้อมกัน
ทั่วไทย ในวันที่ 11 เมษายน 2560 นี้ ที่ โฟร์โมสต์ ฮีโร่ สเตชั่น (Foremost Hero Station) สถานีขนส่งใจกลางเมือง ณ สนามมอเตอร์ สปอร์ต แลนด์ (แดนเนรมิตเก่า) ถนนพหลโยธิน  กทม.

สงกรานต์สุข…เมื่อทุกคนในครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
โฟร์โมสต์ขอร่วมอยู่เคียงข้างครอบครัวคนไทยให้มีความแข็งแรง 100%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.ForemostForLife.com/Hero
Foremost Family Facebook Fanpage
หรือ Call Center หมายเลข 02-657-5344

Spice Up Thailand 2017

ทีเส็บ จับมือ วีซ่า และ ททท.
เปิดตัวโครงการ
Spice Up Thailand 2017
กระตุ้นนักเดินทางกลุ่มไมซ์ผ่านการตลาดดิจิทัล

ทีเส็บ หรือ สำนักงาน ส่งเสริมการจัดประชุม และนิทรรศการ ( องค์การมหาชน) ร่วมกับ บริษัท วีซ่าอินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท
ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวโครงการ Spice Up Thailand 2017 (สไปซ์ อัพ ไทยแลนด์ 2017) อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มอบอภิสิทธิ์สุดพิเศษให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ อาทิ ส่วนลดสำหรับที่พักโรงแรม 10% ส่วนลดสำหรับบริการ รถเช่ารับ-ส่งสนามบิน 50% คูปองส่วนลด  สำหรับการช้อปปิ้ง 500 บาท ส่วนลดสำหรับร้านอาหาร 25% และส่วนลดค่ากรีนฟีสนามกอล์ฟ 50% เป็นต้น จากโรงแรม,สปาและโปรแกรมแพ็กเกจฟื้นฟูสุขภาพ, ช้อปปิ้ง,  ร้านอาหารต่างๆ, กอล์ฟ, บริการรับส่งและเช่ารถจากสนามบิน, บริการรถลีมูซีน, Tourist SIM Card และแพ็กเกจห้องประชุม เป็นต้น

 

 

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า”การส่งเสริมธุรกิจไมซ์ผ่านกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เป็นเครื่องมือสำคัญที่ทีเส็บใช้เป็นช่องทางกระตุ้นตลาดนักเดินทางกลุ่มไมซ์ทั้งในและต่างประเทศ สอดรับกับนโยบายส่งเสริม Digital Economy (ดิจิตอล อีโคโนมี่) ของรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์ให้เติบโตและเป็นกลไกสำคัญของการสร้างเศรษฐกิจระดับมหภาค ทีเส็บดำเนินงานแคมเปญ Spice Up Thailand ร่วมกับ 5 พันธมิตร เพื่อกระตุ้นตลาดไมซ์ในต่างประเทศ สร้างความประทับใจและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและขยายระยะเวลาพำนักในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ได้ดำเนินงานโครงการมาเป็นเวลาถึง 3 ปี มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านการเพิ่มสิทธิพิเศษให้แก่นักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศเป้าหมายหลักอย่างตลาดไมซ์เอเซียและกลุ่ม CLMV

คุณสริตา จินตกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ

โดยปีที่ผ่านมามีจำนวนงานไมซ์ 46 งาน จาก 16 บริษัทของผู้จัดงาน ลงทะเบียนร่วมแคมเปญฯ  มีจำนวนการแลกรับคูปอง ( Redeem Coupon ) ประมาณ 43,000 ครั้ง สามารถสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ กว่า 20 ล้านวิว  โดยสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับของการแลกรับได้แก่ ร้านอาหารช้อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวสปา และบริการรถเช่ารับ-ส่งสนามบิน ด้านนักเดินทางกลุ่มไมซ์  ที่มียอดการแลกรับคูปองเพื่อใช้สิทธิพิเศษของสินค้าและบริการต่างๆ ของแคมเปญสูงสุด 10 อันดับ ได้แก่ จีน อินเดีย สิงคโปร์เวียดนาม  สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง  ปากีสถาน ออสเตรเลีย แอลจีเรียและไทย  และในปี 2017 นี้ แคมเปญ Spice Up Thailand ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้จัดงาน  ลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นพันธมิตรโครงการ
กว่า 60 งาน ”

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่าประจำประเทศไทย กล่าวว่า
“ทางวีซ่าได้คัดสรรสิทธิพิเศษที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของนักเดินทางกลุ่มไมซ์จากทั่วโลกรวมทั้งนักเดินทางกลุ่มไมซ์ในประเทศไทยด้วยโดยสิทธิพิเศษในปีนี้มีทั้งรับฟรีของสมนาคุณหรือบัตรกำนัลและส่วนลดสูงสุดถึง50%, จากร้านอาหารห้างสรรพสินค้าสปา/wellness สนามกอล์ฟบริการรถรับส่ง รถเช่า สถานที่พักผ่อนหย่อนใจอื่นๆที่เข้าร่วมรายการและที่พิเศษเพิ่มขึ้นในปีนี้ ได้แก่ ทุกครั้งที่จองโรงแรมในประเทศไทย ผ่าน www.booking.com/visain และชำระเงินด้วยบัตรวีซ่าจะได้รับคูปองส่วน
ลดคิง-เพาเวอร์มูลค่า7% จากราคาที่จองทุกรายการ นอกจากนี้
วีซ่าได้ร่วมกับ Thai Travel Center (ไทย ทราเวล เซ็นเตอร์) และ
Asia-Discovery (เอเชีย ดิสคัฟเวอรี่) เสนอทางเลือกให้กับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่ต้องการพักผ่อนต่อ และสามารถเลือกแพ็กเกจท่องเที่ยวเส้นทางต่างๆในประเทศไทยในราคาพิเศษหรือรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอื่นๆซึ่งนอกจากสิทธิพิเศษในฐานะนักเดินทางไมซ์โดยเฉพาะแล้ววีซ่ายังมีโปรแกรมสิทธิพิเศษ อีกมากมายที่เตรียมไว้สำหรับผู้ถือบัตรวีซ่าทั้งคนไทยและต่างชาติรวมถึงสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับนักเดินทางไมซ์ชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสถิติการ
ใช้สิทธิพิเศษสูงเป็นอันดับแรกในปีที่ผ่านมา”

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่าประจำประเทศไทย
คุณนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า
“ในภาคอุตสาหรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เห็นได้ชัดว่า กลุ่มนักเดินทางไมซ์เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีกำลังใช้จ่ายสูง การจับจ่ายใช้สอยของนักเดินทางกลุ่มนี้ นอกเหนือจากการใช้จ่ายในการเดินทางมางานประชุมหรืองานแสดงสินค้าแล้ว ยังใช้จ่ายในส่วนกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ด้วย  ททท. จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักให้การสนับสนุนกิจกรรมโครงการ Spice Up Thailand 2017 เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ และเพื่อเป็นการส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางไมซ์ที่ดีที่สุดในโลก ที่สามารถผสมผสานแผนการเดินทางเชิงธุรกิจเข้ากับกิจกรรมเชิงพักผ่อนได้เป็นอย่างดี โดยแคมเปญนี้นำเสนอสิทธิพิเศษของสินค้าและบริการที่อำนวยความสะดวกให้นักเดินทางไมซ์ และช่วยให้ขยายระยะเวลาพำนักในประเทศไทยจากการใช้เวลาท่องเที่ยวพักผ่อนหลังจากเสร็จสิ้นทริปเดินทางธุรกิจ ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมไมซ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมอีกด้วย”

คุณอรอนงค์ สุดกังวาล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ และวิเคราะห์การตลาด บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด

และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ร่วมกิจกรรมดาวน์โหลดคูปอง privilege จาก โครงการ Spice Up Thailand  ให้มากยิ่งขึ้น ทีเส็บ
จึงได้จัดกิจกรรมออนไลน์ แคมเปญ Plan More, Enjoy More (แพลน มอร์, เอ็นจอย มอร์) ให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์ร่วมกิจกรรม  ออกแบบแผนการเดินทางของตนเอง และแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียทาง
Facebook  (เฟซบุ๊ก) หรือ
Twitter Hashtag #PlanMoreEnjoyMore #SpiceUpThailand

ผู้ที่ได้ยอด Like & Share มากที่สุด จะได้รับตั๋วเครื่องบินไปกลับระหว่างประเทศจากสายการบินไทย 1 รางวัล 2 ที่นั่ง (โดยจะต้องเป็นประเทศที่
มีเส้นทางบินของสายการบินไทยเท่านั้น ) กิจกรรมนี้จะจัดขึ้น ช่วงเดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม 2560

ทั้งนี้นักเดินทางกลุ่มไมซ์สามารถรับสิทธิประโยชน์จากโครงการได้อย่างสะดวกด้วยการลงทะเบียน และดาวน์โหลด Spice Up Privilege Coupon ผ่านช่องทางเว็บไซต์ ของโครงการ
www.spiceupthailand.com หรือรับSpice Up Privilege Coupon Booklet ที่จุดลงทะเบียนเข้างาน และแสดง Spice Up Privilege เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากบริการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่เดือนนี้-ธันวาคม 2560
สอบถามและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.spiceupthailand.com


งานแถลงข่าว เปิดตัวแคมเปญ Spice up Thailand 2017
ในงานได้รับเกียรติจาก สริตา จินตกานนท์, ธวัชชัย กิตติศรีบูรณ์กุล, สุริพงษ์ ตันติยานนท์, นพดล ภาคพรต, มาลี โชคล้ำเลิศ และ อรอนงค์ สุดกังวาล มาร่วมงาน  ณ ห้องบอลลูม โรงแรมโซ โซฟิเทล แบงค็อก เมื่อเร็วๆนี้

วันอังคารที่ 4 เมษายน 2560 เวลา 18.00-20.00 น.
โครงการ จัดขึ้น ณ ห้อง Ballroom ชั้น 8 โรงแรม Sofitel So Bangkok สาทร