ททท. จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย “หนังใหญ่”

ททท. จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย “หนังใหญ่” เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจและมอบความสุขให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างกักตัว ภายใต้แนวคิด Amazing Thailand Happy Quarantine

บ่ายวานนี้ (24 ธันวาคม 2563) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยร่วมสมัย โดยได้คัดเลือกการแสดง “หนังใหญ่” เป็นตัวแทนในบอกเล่าเรื่องราวและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างการ Quarantine ณ โรงแรม Movenpick ได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

การแสดงในครั้งนี้จัดขึ้นบริเวณสวนริมสระน้ำของ Mövenpick Hotel สุขุมวิท 15 ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่ระหว่างกักตัวทั้งสิ้นกว่า 200 คน ได้รับชมการแสดงผ่านทางระเบียงห้องพักตามแนวคิด Happy Quarantine การแสดงนี้จะหมุนเวียนจัดขึ้นต่อเนื่องในเดือนมกราคม 2564 ณ โรงแรม Anantara โรงแรม Qiu Hotel Sukhumvit 79 โรงแรม Royal Rattanakosin และโรงแรม Chor Cher

ทั้งนี้ ททท. ได้เน้นย้ำถึงความปลอดภัยสำหรับตัวนักท่องเที่ยวและนักแสดง โดยปฏิบัติตามมาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด นักท่องเที่ยวสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงและข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.tourismthailand.org/happyquarantine

#happyquarantine

มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล ภายใต้ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จับมือกรุงเทพมหานคร และผู้ประกอบการย่านสาทร ร่วมเปิด GIVE GREEN CBD: SYNERGY POWER 2020

GIVE GREEN CBD: SYNERGY POWER 2020
ในรูปแบบใหม่ที่เพิ่มช่องทางการระดมทุนแบบ Omni-Channel รับนิวนอร์มอล
ชูแนวคิด The Power of One รวมพลังเป็นหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการสร้างคุณค่า และประโยชน์เพื่อดูแลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน

มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล ภายใต้ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น (AWC) จับมือกรุงเทพมหานคร กลุ่มผู้ประกอบการย่านสาทร และพันธมิตรทางธุรกิจ สานต่อโครงการ “GIVE GREEN CBD: SYNERGY POWER 2020” ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ด้วยคอนเซ็ปต์ The Power of One รวมพลังเป็นหนึ่ง เพื่อส่งเสริมการสร้างคุณค่าและประโยชน์เพื่อดูแลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน พร้อมปรับรูปแบบการรับบริจาคแบบ Omni-Channel
ให้มีความเป็นดิจิทัลเพื่อรองรับความปกติรูปแบบใหม่ในช่วงสถานการณ์ที่ท้าทายด้านสุขอนามัย ผ่าน 3 กิจกรรม เริ่มตั้งแต่ธันวาคม 2563 ต่อเนื่องถึงเมษายน 2564 นำร่องด้วย Sathorn District Charity Christmas Tree ต้นคริสต์มาสแห่งการเฉลิมฉลองในย่านสาทร สร้างสรรค์ด้วยแนวคิด “One Give One Gift – หนึ่งคนให้ หนึ่งคนรับ” ในปลายเดือนธันวาคม 63 ตามด้วย AWC Charity Market Around ตลาดนัดของคนใจบุญ ในเดือนมีนาคม 64 และกิจกรรมปันฝัน ส่งมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เพื่อร่วมสร้างโอกาสในการต่อเติมความฝันให้กับเยาวชนไทย ในเดือนเมษายน 64

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่ม แอสเสทเวิรด์ คอร์ปอเรชั่น

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่ม แอสเสทเวิรด์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล ภายใต้แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น มีวัตถุประสงค์หลักในการสร้างคุณค่าและประโยชน์ เพื่อดูแลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2563 นี้ ที่โลกต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้คนเป็นอย่างมาก เรายิ่งเล็งเห็นความสำคัญของการรวมพลังของทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันฝ่าฟันและก้าวพ้นความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกันสู่อนาคตที่ดีขึ้น ดังนั้น โครงการ GIVE GREEN CBD : SYNERGY POWER 2020 จึงเดินหน้าต่อเนื่องด้วยแนวคิด The Power of One รวมพลังเป็นหนึ่ง ด้วยความเชื่อมั่นว่า พลังแห่งความร่วมมือที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆ จากผู้ประกอบการภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐในย่านสาทร จะช่วยส่งเสริมการสร้างคุณค่าและประโยชน์เพื่อดูแลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน พร้อมสามารถขยายผลและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในวงกว้างของกรุงเทพฯ ตลอดจนทั้งประเทศไทย เราจึงขอเชิญชวนทุกท่านมารวมพลังกันทำให้เทศกาลส่งความสุขท้ายปีนี้มีความหมายและคุณค่ามากยิ่งขึ้น เริ่มต้นง่าย ๆ จากตัวเราเอง ลองมาปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การบริโภคสินค้า การให้ของขวัญและแบ่งปันสิ่งของกับคนอื่น ตลอดจนรูปแบบของกิจกรรมต่างๆ ซึ่งท้ายที่สุดจะหลอมรวมเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงสังคมและสิ่งแวดล้อม และสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้กับทุกคนได้”

เนื่องด้วยสถานการณ์ด้านสุขอนามัยที่มีความท้าทายในปีนี้ เราได้จัดเตรียมช่องทางในการรับบริจาคในรูปแบบใหม่ให้มีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น เพื่อลดการพบปะและสัมผัสระหว่างบุคคล ด้วยรูปแบบการรับบริจาคแบบ Omni-Channel ที่สามารถร่วมทำบุญได้ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ของโครงการ GIVE GREEN CBD: SYNERGY POWER 2020

  1. กิจกรรม Sathorn District Charity Christmas Tree รวมพลังส่งต่อความสุขเพื่อสร้างสรรค์สังคม ด้วยต้นคริสต์มาสแห่งการแบ่งปัน เพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ชวนทุกคนมาร่วมเปลี่ยนเทศกาลแห่งเฉลิมฉลองในปีนี้ให้มีความหมายมากยิ่งขึ้น ผ่านการส่งต่อความสุขให้กับเด็ก และเยาวชนในโรงเรียน และชุมชนที่ขาดแคลน ภายใต้แนวคิด “One Give One Gift – หนึ่งคนให้ หนึ่งคนรับ” โดยปีนี้ ต้นคริสต์มาสที่เป็นแลนด์มาร์กของการเฉลิมฉลองในย่านสาทร ได้รับการสร้างสรรค์และตกแต่งด้วยขวดพลาสติก bioPET ที่ใช้แล้ว เพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องปัญหาขยะ และการรีไซเคิลโดยนำวัสดุเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์ พร้อมเชิญชวนทุกคนที่เดินผ่านไปมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ โดยสแกน QR Code ที่ต้นคริสต์มาส เพื่อส่งข้อความอวยพร หรือให้กำลังใจน้องๆ ยิ่งสแกนมาก ยิ่งเพิ่มความสุขที่มากขึ้นทั้งผู้ให้และผู้รับ หรือสามารถบริจาคสมทบทุนโดยตรงผ่านมูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล บัญชีหมายเลข: 483 1 15405 3 ธนาคาร กรุงศรีชื่อบัญชี: บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (บัญชีออมทรัพย์) โดยทางมูลนิธิฯ จะนำไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา ฯลฯ มอบเป็นของขวัญมอบให้กับเด็ก และเยาวชนในโรงเรียน และชุมชนที่ขาดแคลน เพิ่มเติม
  2. AWC Charity Market Around ตลาดนัดการกุศล รวมพลังแห่งการบริโภคเพื่อสร้างสรรค์สังคม โดยรวบรวมสิ่งของบริจาคและสินค้าจากพันธมิตรทางธุรกิจและผู้เช่าของแอสเสท เวิรด์
    คอร์ปอเรชั่น และร้านค้าชั้นนำ มาจัดจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม 2564 ภายในงานนำเสนอสินค้าที่หลากหลายจากผู้บริจาคให้เลือกสรร อาทิ อาหาร ของใช้ ของตกแต่งบ้าน และสินค้าเพื่อสุขภาพ และและสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่นำมาจัดแสดงและจัดจำหน่าย โดยจะนำรายได้ไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนและกีฬามอบให้แก่เด็ก และเยาวชนในโรงเรียน และชุมชนที่ขาดแคลน
  3. กิจกรรมปันฝัน รวมพลังแห่งการให้และแบ่งปันอย่างยั่งยืน หลังจากการระดมทุนผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ GIVE GREEN CBD: SYNERGY POWER 2020 ทางมูลนิธิฯ จะนำอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และทุนการศึกษาร่วมสร้างโอกาสในการต่อเติมความฝันให้กับเด็ก และเยาวชนในโรงเรียน และชุมชนที่ขาดแคลน ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับโครงการอาคารสำนักงาน และโรงแรมในกลุ่มของ AWC ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 8 โรงเรียนในเดือนเมษายน 2564 อันประกอบด้วย โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา คลองเตย กรุงเทพฯ โรงเรียนวัดราชสิงขร บางคอแหลม กรุงเทพฯ โรงเรียนวัดสร้อยทอง บางซื่อ กรุงเทพฯ โรงเรียนชุมชนเทศบาลวัดศรีดอนไชย เชียงใหม่ โรงเรียนบ้านหนองทะเล กระบี่ โรงเรียนบ้านทับใต้ ประจวบคีรีขันธ์ โรงเรียนเกาะสมุย สุราษฏ์ธานี และโรงเรียนเมืองถลาง ภูเก็ต
    และสำหรับกิจกรรม “Empire Tower We Run with Virgin Active” ชวนคนไทยรวมพลังเพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนกับนักวิ่งพลังสีเขียวใช้แก้วน้ำแก้วเดียวตลอดการวิ่ง เพื่อเป็นการลดขยะและประหยัดทรัพยากร ซึ่งปกติจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าจะเปิดรับสมัครนักวิ่งในไตรมาสที่ 3 และจัดกิจกรรมวิ่งในช่วงปลายปี 2564ประสานพลังภาครัฐและเอกชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยจากจุดเล็กๆ ย่านสาทรสู่เยาวชนทั่วประเทศ

    มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล ภายใต้ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากกรุงเทพมหานครและผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการและบริษัทในที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในย่านสาทร ในการจัดทั้ง 4 กิจกรรม ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมร่วมส่งเสริมพื้นที่ธุรกิจย่านสาทร ในการเป็นผู้นำด้านการสร้างสรรค์ชุมชนเมืองคุณภาพและเป็นศูนย์กลางธุรกิจอันดับหนึ่งจากปัจจุบันสู่อนาคต เพื่อร่วมสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน

    โดยบริษัทเอกชนที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของโครงการ ประกอบด้วย บริษัทวีจีไอ โกลบอล มีเดีย จํากัด (VGI) บริษัทเคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จํากัด (KPMG) บริษัท ซี.อี.เอส.จำกัด (CES) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) ธนาคารยูโอบี จํากัด (มหาชน) (UOB) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) (SE-ED)
    ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของโครงการ GIVE GREEN CBD : SYNERGY POWER 2020และกลุ่มมูลนิธิแอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล ภายใต้ แอสเสท เวิรด์คอร์ปอเรชั่น เพิ่มเติมได้ที่
    Website: www.assetworldcorp-th.com
    Facebook: AssetWorldCorporation
    IG: AssetWorldCorporation

ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร เตรียมเปิด ทริปวันพ่อ กรุงเทพฯ –เกาะเกร็ด

ทริปท่องเที่ยว 1 วันไป-กลับ โดยเรือด่วนมาตรฐาน SHA เที่ยวพระใหญ่ ช้อปปิ้งเกาะเกร็ด

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา นางสาวพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์
ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางสาวจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์ , นายพันธุ์รวี บุนนาค รอง ผู้อำนวยการ สำนักงานฯ และ นางชฎารัตน์ ดวงมณี พนักงานการตลาด3 นำสื่อมวลชวนร่วมทำข่าวเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม”เรือด่วนชวนเที่ยวเกาะเกร็ด” จัดโดย บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จํากัด เส้นทาง กรุงเทพฯ – เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

ในการนี้ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร พาสื่อมวลชน online จำนวน 11 ราย ร่วมกิจกรรมทริปไหว้พระ ล่องเรือ เที่ยววัดใหญ่ กรุงเทพฯ – เกาะเกร็ด เสนอขายนักท่องเที่ยวจาก กรุงเทพมหานคร เที่ยวชม – ไหว้พระใหญ่ เส้นทาง วัดกัลยาฯ —วัดแดงธรรมชาติ-วัดบางจาก-วัดปรมัยฯ เกาะเกร็ด-วัดไผ่ล้อม-วัดกลางเกร็ด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกว่า 130 คน ร่วมเดินทางร่วมทริป ดังกล่าว

กิจกรรมพาพ่อขอพรพระใหญ่ กรุงเทพมหานคร – นนทบุรี จัดกิจกรรม
วันที่ 5 ธันวาคม 2563 ราคา 250 บาท/คน (ค่าเรือ – ค่ามัคคุเทศก์)

ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร จึงร่วมกับ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จํากัด
จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อยอดการเสนอขาย trip ล่องเรือสุดพิเศษ
ในโครงการท่องเที่ยววิถีนนท์ และ โครงการเจ้าพระยาสายธาราแห่งวัฒนธรรม นางสาวพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานครกล่าวถึงที่มาของกิจกรรมครั้งนี้ว่า “ททท. สำนักงานกรุงเทพมหานคร ดูแลทั้งหมดคือกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ภารกิจอยู่ในเรื่องของส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์

โดยรอบนี้ เดินทางโดยเรือปรับอากาศ2 ชั้น
เรือล่องเจ้าพระยากับความสะดวกสบาย เพราะ
เป็นเรือโดยสารท่องเที่ยวที่ออกแบบลักษณะเป็นเรือสองท้อง จุผู้โดยสารได้ 202 คน ภายในเรือออกแบบให้มีความโปร่งโล่ง เบาะที่นั่งมีกว้างขวาง ส่วนบริเวณชั้น 2 ของเรือสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวเช่น Wifi ฟรี, ห้องน้ำในเรือ, ไกด์นำเที่ยว ออกจากท่าสาทร 8.30 น.ไปไหว้พระและท่องเที่ยวดังนี้

วัดกัลยาณมิตร /วัดแดงธรรมชาติ /วัดบางจาก/เกาะเกร็ด
ออกจากเกาะเกร็ด 16.00 น.

จุดที่ 1 ทริปนี้ออกจากท่าน้ำสาธร 8.30 น.เดินทางไปยังจุดแรก ณ.วัดกัลยาณมิตร ไหว้หลวงพ่อโตซำปอกง

จุดที่ 2 วัดแดงธรรมชาติ เพื่อสักการะ กราบพระพุทธรูปนาคปรกองค์ใหญ่

จุดที่ 3 เดินทางต่อ วัดบางจาก ไหว้หลวงพ่อดำ

จุดที่ 4 จากนั้นเดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนนทบุรีที่เกาะเกร็ด ลัดเลาะเกาะเกร็ด แวะหาอาหารกลางวันทานตามอัธยาศัย และชิมอาหารขึ้นชื่ออย่าง ทอดมันหน่อกะลา ไหว้พระนนทมุนินท์ พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี วัดปรมัยฯ เกาะเกร็ด

จุดที่ 5 วัดกลางเกร็ด

ปิดท้ายทริปด้วยไหว้พระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในเมืองนนท์ วัดกลางเกร็ด (ออกจากเกาะเกร็ด 16.00 น.)

ซึ่งกิจกรรมโดยทั่วไปในปี 2564 วางแผนงานเน้นเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำเป็นหลัก เนื่องจากตอบโจทย์ในเรื่องของสุขอนามัยและสถานการณ์โควิด การเดินทางท่องเที่ยวทางน้ำจะเป็นบรรยากาศของการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง และในทุกขั้นตอนของการดำเนินการ เราจะเน้นมาตรฐานของสาธารณสุข

โดยกิจกรรมขึ้นในวันนี้ ทริปพาสื่อมวลชนท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพฯ และ นนทบุรี ปากเกร็ด แวะวัดที่สำคัญๆ เน้นเรื่องการสักการะพระใหญ่ 5 วัด ซึ่งการเดินทางในทริปนี้ เรือที่ใช้ได้รับความร่วมมือ กับเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งเรือผ่านมาตรฐาน SHA ตราสัญญลักษณ์ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ทีให้ความสำคัญด้านนี้เพราะถือเป็นการให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยว ซึ่งในอนาคต ทริปวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ เป็นกิจกรรมที่ ททท. สำนักงานกรุงเทพฯ
จะพานักท่องเที่ยวมุ่งเน้นเรื่องของทริปกิจกรรมวันพ่อ เชิญชวนมาเที่ยวตามเส้นทางนี้ด้วยกัน หลังจากเดินทางกันมาตลอดทั้งวัน

ผอ.ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า จากวันที่ 5 ธันวาคม 2563 จะการจัดในวันที่ 13 ธันวาคม 2563 ทริปนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการผูกโยงการท่องเที่ยว ในเรื่องของเส้นทางไหว้พระและวิถีวัฒนธรรม หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โปรแกรมที่ททท.สำนักงานกรุงเทพฯ เสนอขายในครั้งนี้น่าจะเป็นโปรแกรมที่ทุกท่านให้ความสนใจและจะเป็นโปรเจคนำร่องที่สามารถจะขยายฐานนักท่องเที่ยวที่เกาะเกร็ด

ร้านสายน่ำคาเฟ่ เกาะเกร็ด

สำหรับวันที่ 5 ธันวาคม ราคาขายราคา 250 บาท รวมค่าเรือและมัคคุเทศก์ วัตถุประสงค์ ต้องการให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยที่ เกาะเกร็ด ซึ่งส่วนหนึ่งแล้วเกาะเกร็ดเอง มีสินค้าที่เสนอขายค่อนข้างมาก ถ้าสนใจติดตามได้ทาง เพจของททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร หรือ ติดต่อทางออนไลน์ ของ เรือด่วนเจ้าพระยาได้เช่นกัน

“ในส่วนของสำนักงานกรุงเทพ เราคาดหวังว่าเราน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายในประเทศ จริงๆ แล้วตอนนี้อย่างที่ทุกท่านทราบว่าเราจะไปหวังนักท่องเที่ยวต่างชาติ คงเป็นไปได้ยาก เราเองในฐานะหน่วยงานย่อยๆ ของททท.เองก็อยากจะมีส่วนผลักดันสร้างกระแสให้เกิดการท่องเที่ยวมิติใหม่ในอีกหนึ่งมิติ” -ผอ.ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร กล่าว

ทั้งนี้ กิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อยอดการเสนอขายทริปล่องเรือสุดพิเศษ
ในโครงการท่องเที่ยววิถีนนท์ และ โครงการเจ้าพระยาสายธาราแห่งวัฒนธรรม จัดทริปในช่วงวันหยุดยาวเดือนธันวาคม 2563 อีก 2 ทริป ดังนี้

1.กิจกรรมพาพ่อขอพรพระใหญ่ กรุงเทพมหานคร – นนทบุรี จัดกิจกรรมวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ราคา 250 บาท/คน (ค่าเรือ – ค่ามัคคุเทศก์)

2.วันหยุดยาว วันที่ 13 ธันวาคม 2563 กับกิจกรรมเที่ยว 5 เมือง ไหว้พระ 5 วัด เส้นทางกรุงเทพมหานคร- นนทบุรี – ปทุมธานี – พระนครศรีอยุธยา ราคา 599 บาท/คน(ค่าเรือ – ค่ามัคคุเทศก์)

สำรองที่นั่งได้ที่ โทร 086-331-4215
LINE: @cpxboattour

BACKYARD BBQ @ LOTS SATHON เมนูบาร์บีคิวสุดพิเศษ ในบรรยากาศ Parking Lots

เพิ่งไปสัมผัส ล๊อตซ์ สาทร คาเฟ่แห่งใหม่ย่านสาทร ที่นี่เปิดเป็นบาร์นั่งชิล เรียกว่าเป็นร้านน้องใหม่มาแรงในย่านนี้! ด้วยบรรยากาศสุดชิลที่มองเห็นบรรยบากาศย่าน สาทรอย่างชัดเจน และบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่างตามความหมายของชื่อร้าน ด้วยความตั้งใจที่ริเริ่มการตั้งร้านแห่งนี้

เริ่มจากความชื่นชอบด้านกาแฟ และด้วยทำเลที่เข้าถึงง่ายของย่านนี้ ทำให้เกิดค่าเฟ่แห่งนี้ขึ้น LOTS มาจาก “Parking Lots” หมายถึง ที่จอดรถ LOTS ล่าสุด LOTS SATHON เพิ่งจะเปิดพื้นที่โซนใหม่สุดชิล LOTS SATHON BACKYARD BBQ เปลี่ยนบรรยากาศคาเฟ่ในตอนกลางวัน เป็นพื้นที่นั่งสบายๆ ช่วงเย็น พื้นที่ให้เป็นโซน The Backyard ของร้าน ในธีม BACKYARD BBQ จัดเต็มกับชุดเมนูบาร์บีคิวสุดพิเศษ 2 เซ็ต

BACKYARD BBQ
ภัทรดิษ อักษรรัศมี (เกล้า) – ชาญเชี่ยว ศุภดิลกลักษณ์ (เชียร์)

อะไรจะฮิปไปกว่าการได้ไปนั่งจิบคราฟต์เบียร์กลาง Parking Lots
Lots Sathon Lots ที่มาจากคำว่า Parking Lots ด้วยประสบการณ์จากการทำร้านกาแฟมาหลายปี เราให้ความใส่ใจในรสชาติกาแฟ ไม่น้อยไปกว่า เรื่องการ ขนมอบ และอาหาร ที่เน้นแนว เรียบง่ายสบายๆ เข้าถึงทุกคน สไตล์โฮมเมด LOTS เป็นมากกว่าคาเฟ่และร้านอาหาร แต่เราจะเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ ของคนทำงาน และผู้อาศัยในละแวกสาทร คอมมูนิตี้ และสถานที่แฮงค์เอาท์ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดมุมมองและความสังสรรค์ได้ในทุกๆวัน ผ่านกาแฟที่เป็นตัวกลาง! รวมไปถึงบรรยากาศภายในร้านก็ให้ความรู้สึกญี่ปุ่นสุดๆ ใครที่ชอบแนวอิซากายะ ต้องปลื้มที่นี่อย่างแน่นอน

ล๊อตซ์ สาทร สร้างขึ้นจากการรวมตัวกันของเพื่อน 3 คน
ภัทรดิษ อักษรรัศมี (เกล้า) – ปรีย์ดารา ลัมพสาระ (ปอ) – ชาญเชี่ยว ศุภดิลกลักษณ์ (เชียร์)

ล๊อตซ์ สาทร สร้างขึ้นจากการรวมตัวกันของเพื่อน 3 คน โดยเริ่มต้นจากลานจอดรถใจกลางเมือง กลายมาเป็นร้านกาแฟที่ตั้งใจให้เป็นที่พักผ่อน ร่มรื่น ด้วยต้นไม้ใหญ่ บนพื้นที่กว้าง 1 ไร่ กลางย่านสาทร ชื่อคาเฟ่ตั้งขึ้นจากโลเคชั่นที่อยู่ในที่จอดรถ parking lots ขนาดใหญ่ใจกลางสาธร และมีอีกความหมาย คือมาก โลโก้เลยเรียงคล้ายเครื่องหมายมากกว่า ( > ) ความเรียบง่ายและแตกต่างของร้านที่ตกแต่งในสไตล์ warm & cozy ตัวร้านสีขาวผสมผสานอย่างลงตัวกับกรอบหน้าต่างไม้แอชสร้างบรรยากาศ โปร่งสบาย ผ่อนคลาย รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ พื้นที่ด้านนอกให้ความรู้สึกสบายเป็นกันเองเหมือนนั่งพักผ่อนในสวนหลังบ้าน และชั้นดาดฟ้า บรรยากาศชิลๆ ถ่ายรูปสวยๆ สังสรรค์กับเพื่อน หายเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันแน่นอน เพราะได้นั่งชิวชมพระอาทิตย์ตกและแสงตกกระทบจากตึกยามเย็นของย่านสาทร เมนูอาหารทานเล่นก็รสชาติอร่อย แถมยังมีอาหารสไตล์โฮมเมด เป็นพื้นที่ช่วยตอบโจทย์คนทำงาน และผู้อาศัยในละแวกใจกลางย่านสาทร

เมนูแนะนำ สำหรับสายอาหารเช้า A LOT OF ราคา 240 บาท ที่รวมอาหารเช้าที่สามารถเลือกได้ตามใจชอบ และเมนูพาสต้าแบบ PICK YOUR STYLE ใส่ได้ทุกอย่างตามใขชอบ ในราคาเริ่มต้นที่ 150 บาท และขนมหวานที่เน้นผลไม้สด ให้ความสดชื่นและหอมอร่อยไปกับโฮมเมด Waffle อย่างเมนู LOTS SUMMER ในราคา 195 บาท

เมนูบาร์บีคิวสุดพิเศษ :
โซน The Backyard ในธีม BACKYARD BBQ เพลิดเพลินไปกับชุดเมนูบาร์บีคิวสุดพิเศษ มีทั้ง หมู เนื้อ และทะเล ทั้งกุ้ง และปลาหมึกสดทั้งตัว โดยเมนูพิเศษ ที่ LOTS นำเสนอมีรายการดังนี้

-SET A FIRE บาร์บีคิวชุดใหญ่ พร้อมผักย่างและซอส Espresso Barbecue ในแบบฉบับของ LOTS ราคา 799 บาท

  • BITE & BEER ชุดบาร์บีคิวและผักย่างในซอส Espresso Barbecue พร้อมเครื่องดื่ม ราคา 300 บาท (บอกเลยว่ามันอร่อยมาก ต้องลอง!)

แนะนำ : เมนูหลากหลายไม่ใช่มี่เฉพาะบาบีคิว สลัดผักสด เมนูเส้น พาสต้า สปาเกตตี รวมไปถึงสเต๊ก พอร์คชอป และเมนูของหวานปิดท้าย ชีสเค้ก และ
พานาคอตต้า

เมนูของหวานปิดท้าย
เมนูของหวานปิดท้าย

บรรยากาศดี สบายกระเป๋า บอกเลยว่าหลังเลิกงานมานั่งทาน นั่งชิลล์ outdoor พร้อม Live music สไตล์ LOTS SATHON บรรยากาศฟีลแบบเป็นกันเอง ไม่วุ่นวาย ไม่เสียงดัง ที่นี่มีเบียร์ให้เลือกดื่มหลากหลายยี่ห้อ หลายชนิด แล้วแต่คนชอบ ราคาไม่แรง แถมบรรยากาศร้านก็ยังดีอีกด้วย ทุกคนสามารถเดินทางมาได้สะดวก พบกับ BACKYARD BBQ ได้ทุกวัน จันทร์ ถึง พฤหัส เวลา 16.00 น. ถึง 19.30 น. วันศุกร์ ถึง อาทิตย์ เวลา 16.00 น. ถึง 21.30 น.

LOTS SATHON : ล๊อตซ์ สาทร
เปิดทุกวัน จันทร์ ถึง พฤหัส ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 19.30 น. ส่วนวันศุกร์ ถึง วันอาทิตย์เปิดตั้งแต่เวลา 16.00 น. ถึง 21.30 น.
ซ.นราธิวาส 7 เขตสาทร (ลง BTS ช่องนนทรี ทางออก 2 แล้วเดินต่อ 5-7 นาที)
43/1 ซอยพระพินิจ ทุ่งมหาเมฆ สาทร กรุงเทพ 10120
Tel : 083 826 4456
Email : lots.sathon@gmail.com
FB / IG / LINE : lots.sathon
#LotsSathon #LotsBBQbackyard #BackyardBBQ #BBQnight
#Dinner #คาเฟ่สาทร #คาเฟ่ #Cafe #CafeBKK #CafeHopper #CafeHoppingBKK #CafeTeller #bkkcafelife #bkkcafeteller

Oasis Tropical Retreat spa phuket : โอเอซิส ทรอปิคอล รีทรีท สปา ลากูน่า ภูเก็ต

ครั้งแรกที่ Toptotravel มีโอกาสมาใช้บริการสปาที่ โอเอซิส ทรอปิคอล รีทรีท สปา ลากูน่า ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวและยังได้เติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์แบบ พร้อมสัมผัสประสบการณ์สปาในย่านกมลา กับสุดยอดสปา มีบริการทรีทเมนท์นวดผ่อนคลาย ทรีทเมนท์เพื่อความงาม ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล บอกต่อกับ โลเคชั่นดีอย่างย่านภูเก็ตลากูน่า การเดินทางง่าย พร้อมบริการครบครัน เพลิดเพลินเจริญใจในบรรยากาศเงียบสงบ แต่มีสไตล์เทอราปิส
มืออาชีพ ดื่มด่ำความสุขผ่านนานาทรีตเมนต์ให้เลือกสรร อาทิ นวดตัว พอกผิว และ สครับขัดผิวกาย ทรีตเมนต์หลายหลายสไตล์ทั้งแบบเอเชียและตะวันตกคลายเครียด เพิ่มพลังให้รางกาย

บรรยากาศแบบเซนที่เงียบสงบและเงียบสงบซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับบริการสปา
โอเอซิส ทรอปิคอล รีทรีท สปา ลากูน่า ภูเก็ต
OASIS TROPICAL RETREAT SPA PHUKET
ส่องสปาหรูภายในลากูน่ารีสอร์ท ชายหาดบางเทา
บริเวณด้านใน ของ โอเอซิสทรอปิคอลรีทรีตสปา

โอเอซิสทรอปิคอลรีทรีตสปา
ครั้งแรกที่ Toptotravel มีโอกาสมาใช้บริการสปาที่จังหวัดภูเก็ต ขอมาส่องสปาหรูภายในลากูน่ารีสอร์ท ชายหาดบางเทา ภูเก็ตมี Tropical Retreat Spa by Oasis Spa โอเอซิสทรอปิคอลรีทรีตสปา ตั้งอยู่ในพื้นที่สวย สวนเขียวขจี ท่ามกลางหาดทรายสีขาวและทะเลสาบอันเงียบสงบ โดดเด่นด้วยบริการระดับมืออาชีพและทรีตเมนต์สุขภาพ สถานที่มีขนาดกว้างขวาง ภายในและภายนอก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สักอันหรูหรา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย
จัดว่าเป็นสถานที่พักผ่อนและฟื้นฟูที่หรูหรา วิลลาทรีทเมนท์ขนาดกว้างขวาง 8 หลัง ที่มองเห็นทะเลสาบมีห้องอาบน้ำกลางแจ้ง ส่วนตัวที่สวยงามและห้องอบสมุนไพรไทย สถานที่แห่งนี้มีบรรยากาศแบบเซนที่เงียบสงบและเงียบสงบซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับบริการสปา ไม่ว่าจะเป็นนวดผ่อนคลาย การพันตัว ดูแลผิวหน้า การบำบัดที่มีความสมดุลระหว่างแบบร่วมสมัยและแบบดั้งเดิมทำให้เกิดประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยลองมาก่อน

ขอพามาชมห้องทำสปา : Oasis Tropical Retreat spa phuket

Coconut Nourishing Package
ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที/ ประทับใจความพิเศษของลูกประคบสมุนไพรไทยกับเนื้อมะพร้าว และ coconut treatment และน้ำมันมะพร้าที่มีกลิ่นหอมมาก

Coconut Nourishing Package

เริ่มต้นด้วยการขัดผิวด้วยครีมมะพร้าวจากธรรมชาติที่ขจัดผิวแห้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการเติบโตของผิวหนังใหม่ จากนั้นนวดประคบมะพร้าวเพื่อบรรเทาอาการปวดตึงและปวดหลัง สุดท้ายการนวดบำบัดด้วยน้ำมันมะพร้าวร้อนจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดช่วยเพิ่มการไหลเวียนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวบอบบางและแห้ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมถึงบำรุงและปรับสภาพผิวให้เปล่งปลั่ง ไปจนถึงสครับขัดตัวด้วยเนยมะพร้าว ซึ่งทรีตเมนต์ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของนักบำบัดผู้เชี่ยวชาญและชำนาญงาน ในขณะที่กลิ่นมะพร้าวสดช่วยบรรเทาความเครียดและความวิตกกังวลได้ดีมาก หลับสบายระหว่างการทำสปา ประสบการณ์เหนือความคาดหวัง

เริ่มต้นด้วยการขัดผิวด้วยครีมมะพร้าวจากธรรมชาติที่ขจัดผิวแห้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
อาบน้ำกลางแจ้งส่วนตัวที่สวยงามและห้องอบสมุนไพรไทย

ขอพามาชมห้องทำสปา :
Oasis Tropical Retreat spa phuket

วันหยุดนี้ เที่ยวให้สนุก toptotravel อยากให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยกับโครงการ #เราเที่ยวด้วยกัน เอนกายและปล่อยใจให้สบายได้ที่ Oasis Spa สาขาใกล้บ้านทั่วกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา แล้วพบกันนะคะ

เริ่มต้นด้วยการขัดผิวด้วยครีมมะพร้าวจากธรรมชาติที่ขจัดผิวแห้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
Myra : Spa Supervisor
โอเอซิสทรอปิคอลรีทรีตสปา

โอเอซิสทรอปิคอลรีทรีตสปา
29 Moo 4 Srisoonthorn Road, Choeng Thale, Thalang, Phuket 83110
Open Daily: 12:00 – 20:00
RSVN: +6676337777
https://www.oasisspa.net/

#oasisspalovesyou #oasisspathailand #oasisspa #healthspa #dayspa #Luxuryspa #thaispa #bestthaispa #chiangmaispadeal #bangkokspadeal #pattayaspadeal #phuketspadeal #17anniversary #17yearsOasisSpa #spachiangmai #spabangkok #spapattaya #spaphuket #spapromotion #spadeal #oasisspabangkok #oasisspachiangmai #oasisspapattaya #oasisspaphuket #thaimassage #bestspa #oasisphuket

โอเอซีส เทอร์ควอยซ์ โคฟว สปา OASIS TURQUIOSE COVE SPA

เที่ยวทะเลครั้งนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้บริการสปาที่ภูเก็ต การท่องเที่ยวถือเป็นการเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์แบบ เหน็ดเหนื่อยกับการทำงานมาทั้งสัปดาห์
มาให้รางวัลตัวเอง พร้อมสัมผัสประสบการณ์สปา โอเอซีส มีบริการทรีทเมนท์นวดผ่อนคลาย ทรีทเมนท์เพื่อความงาม ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เรามาบอกต่อกับ โลเคชั่นดีอย่างภูเก็ต เดินทางง่าย พร้อมบริการครบครัน เพลิดเพลินเจริญใจในบรรยากาศเงียบสงบแต่มีสไตล์ เทอราปิสมืออาชีพ มีโปรแกรมให้เลือกที่หลายหลายสไตล์ อาทิ นวดไทย นวดน้ำมัน นวดคลายเครียด สาขานี้อยู่ที่กมลา จ.ภูเก็ต

โอเอซีส เทอร์ควอยซ์ โคฟว สปา มีห้องแบบวิลล่าทรีทเมนท์ส่วนตัว 10 หลัง ตกแต่งสวยงามสไตล์โมร็อคโค พร้อมอ่างอาบน้ำหินขัด การตกแต่งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจะออกสไตล์มอร็อคโค ทุกอย่างดูสวยอย่างลงตัว นอกจาก
สปาช่วยผ่อนคลาย ได้เพลิดเพลินกับฝักบัวอาบน้ำกลางแจ้ง ถ้ำอบสมุนไพรไทย และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และยังมีบริการรับส่งไปกลับฟรีในพื้นที่ป่าตองสุรินทร์ และ กมลา

สระว่ายน้ำกลางแจ้ง
เทอราปิสมืออาชีพ มีโปรแกรมให้เลือกที่หลายหลายสไตล์
Oasis Turquoise Cove Spa, Phuket ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดกมลา

โอเอซิส สปา ภูเก็ต (เทอร์ควอยซ์ โคฟว สปา)
Oasis Turquoise Cove Spa, Phuket ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดกมลาที่งดงาม โดดเด่นด้วยโทนสีฟ้าเทอร์ควอซ์ เรียบหรูด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบเมดิเตอร์เรเนียน และสระว่ายน้ำกลางแจ้ง มาก่อนเวลานัดสามารถเพลิดเพลินก่อนทำสปา และวิลล่าหรูส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ช่วงนี้โปรดีต่อใจ ทุกสาขาเลยนะคะ ในกรุงเทพก็มีหลายสาขา

Oasis Turquoise Cove Spa, Phuket is all about rest, relaxation and space
โอเอซีส เทอร์ควอยซ์ โคฟว สปา บริการทุกรูปแบบตั้งแต่ นวดน้ำมันอโรม่า ทรีทเมนท์บำรุงผิว/ใบหน้า นวดประคบสมุนไพร ขัดตัว แพคเกจสปา นวดแผนไทย ส่วน signature ของที่ โอเอซิส สปา คือ King of Oasis และ Queen of Oasis โดยเทอราปิสที่เชี่ยวชาญ รับรองว่าหลังจากใช้บริการ หลังได้รับบริการรู้สึกผ่อนคลายได้ทั้งร่างกายและจิตใจ

signature ของที่ โอเอซิส สปา คือ King of Oasis และ Queen of Oasis

King of Oasis
“King of Oasis” เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ พักผ่อนสบายๆสองชั่วโมงกับการนวดไทยอโรม่า ประคบร้อนเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ถือเปนการนวดสองชั่วโมงที่ ช่วยขจัดความเครียด เป็นการนวดที่มีการผสมผสานเทคนิคการนวดแผนไทยเข้ากับการนวดอโรมาเทอราพี เริ่มต้นด้วยการประคบสมุนไพรไทยตามแนวกล้ามเนื้อ จากนั้นการนวดน้ำมันร้อนจะยืดกล้ามเนื้อเพื่อเปิดเส้นทางพลังงานของร่างกายเพิ่มการไหลเวียนเพิ่มระดับพลังงาน ผ่อนคลายและสบายตัวหลังจากทำการนวดเรียบร้อยแล้ว ได้กลิ่นหอมอบอวลของสมุนไพร บทเพลงที่ชวนฝัน พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่น

ปิดท้ายความผ่อนคลาย เติมพลังงาน ที่เรียกพลังชีวิตอย่างสุดๆ จิบชาอุ่นๆ
ก่อนกลับที่พักอย่างมีความสุข แล้วพบกันนะคะ

โอเอซิส เทอร์ควอยซ์ โคฟว สปา
71/10 หมู่ 5 ซอยภูเก็ตแฟนตาซี ต.กมลา อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต 83150

Turquoise Cove Spa, Kamala โอเอซีส เทอร์ควอยซ์ โคฟว สปา
71/10 Moo 5 (Soi Fantasea),
Kamala Beach, Kathu, Phuket
Open Daily: 10:00 – 22:00
RSVN: +6676337777

Oasis Turquoise Cove Spa, Phuket is all about rest, relaxation and space
#oasisspalovesyou #oasisspathailand #oasisspa #healthspa #dayspa #Luxuryspa #thaispa #bestthaispa #chiangmaispadeal #bangkokspadeal #pattayaspadeal #phuketspadeal #17anniversary #17yearsOasisSpa #spachiangmai #spabangkok #spapattaya #spaphuket #spapromotion #spadeal #oasisspabangkok #oasisspachiangmai #oasisspapattaya #oasisspaphuket #thaimassage #bestspa #oasisphuket

The Park Nine Suvarnabhumi เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ที่พักใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

ใครที่กำลังมองหาที่พักใกล้ๆ เหนื่อยล้ามานาน วันนี้ Toptotravel ขอพาเพื่อนๆ ไปชาร์จพลังกันกับ ที่พักเรียบๆ สไตล์มินิมอลด้วยโทนสีครีมขาว แมทช์ กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ชวนให้หลงรักตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดประตูเข้ามา ทุกห้องพักสวยสะอาด สะดุดตา มีหน้าต่างให้เราได้ชมวิวในตอนเช้า ห้องพักดูคลีน ๆ สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่น แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามายิ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายใจไปอีกแบบ แบบที่อยากได้ห้องพักสไตล์อบอุ่น เรียบง่าย เห็นวิวธรรมชาติโดยรอบทุกด้านแถมยังดูสะอาดตา มองไปทางไหนก็อบอุ่นละมุนหัวใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการครบวงจรของทั้ง นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว รวมถึงห้องประชุมสัมมนา และห้องอาหาร พร้อมบริการที่ได้มาตรฐาน ท่ามกลางบรรยากาศ สงบ ร่มรื่น และแวดล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม ริมคลองประเวศบุรีรมย์ เชื่อมโยงบรรยากาศแบบบ้านริมคลองยุคเก่าเข้า กับงานออกแบบบรรยากาศพูดคุยวันนี้ ณ ห้องอาหาร อีท ดริ๊ง เลิฟ, โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ

อีกครั้งที่ Toptotravel ได้มีโอกาสร่วมพูดคุย กับ คุณธรรมจักร์ เหลืองประเสริฐ (Owner Representative) ถึงแนวคิดการปรับรูปแบบการให้บริการของโรงแรมหลังวิกฤต COVID-19 เพื่อเป้าหมายในการปรับธุรกิจโรงแรมให้สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาดการท่องเที่ยวในอนาคต ปัจจุบันสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

เราจึงน่าจะได้เห็นมาตรการที่ผ่อนปรน ทีมผู้บริหาร และพนักงานโรงแรม เข้าใจและร่วมแรงร่วมใจ ปรับปรุงพัฒนาการให้บริการต่างๆ ด้วยปรัชญาธรรมะ คุณค่ามนุษย์ ผมอยากให้พนักงานทุกคนเป็นคนดีและคนเก่ง เพราะจะทำให้พนักงาน
มีคุณค่าในตัวเอง และ ส่งต่อคุณค่านั้นสู่สังคมอย่างมีความสุขร่วมกัน ถ้าทุกเช้าที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วเรามีความสุขเหมือนทำ ทุกอย่างเสมือนทำให้บ้านเราเอง แล้วคุณจะดูแลคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวของคุณได้อย่างมีความสุขในการทำงาน หน้าที่เราต้องให้บริการ และบริการอย่างสุภาพ รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ นั่นคือพนักงานทุกท่านได้สร้างคุณค่า
ให้เกิดกับตัวเองและกับคนอื่นด้วย มันเป็นอาชีพที่น่าภูมิใจ เพราะฉะนั้น เมื่อคุณภูมิใจในอาชีพ คุณต้องรักษาศักดิ์ศรีของตัวคุณและอาชีพนี้เอาไว้ พนักงานจะมีความสุขในการทำงาน หลังจากนี้ ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

คุณธรรมจักร ์ เหลืองประเสริฐ (Owner Representative )

การปรับตัวที่รวดเร็ว มาจากการตัดสินใจที่ทันต่อเหตุการณ์ โรงแรมเคยมีรายได้ขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเร่งปรับตัวและปรับงบประมาณที่ใช้ในการทำการตลาดต่างประเทศ ปรับมาใช้เพื่อการทำการตลาดในประเทศแทน
โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ ทุกรูปแบบที่เหมาะกับตลาดคนไทยมากขึ้น

นอกจากการปรับลดโยกย้ายงบการตลาดแล้ว การปรับลดงบประมาณของค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ปรับลดลงด้วยเช่นกัน ทั้งงบที่ตั้งไว้สำหรับค่าใช้จ่ายประจำและค่าใช้จ่ายผันแปรที่เกิดขึ้นให้เหมาะสมกับทางฝั่งรายได้ แน่นอนว่าโรงแรมมีรายได้ลดลง พนักงานทุกท่านมีหน้าที่ช่วยกันประหยัด เพื่อปรับงบประมาณในภาวะที่ทั่วโลกต้องการการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง

โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ มี 2 อาคาร (อาคารเอ และอาคารบี ) เสนอบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้ความเป็นส่วนตัวในแบบเอ็กซ์คลูซีฟ อีกทั้งมีการออกแบบตกแต่งที่สวยงาม ไปจนถึงประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าประทับใจ โรงแรมสมัยใหม่สามารถนำสไตล์การออกแบบ เป็นเอกลักษณ์ สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ เป็นโรงแรมที่ผสานความผ่อนคลายภายใต้งานออกแบบเชิงสร้างสรรค์เข้ากับทำเลที่ตั้งอันสะดวกสบาย โรงแรมฯ เชื่อมโยงบรรยากาศแบบบ้านริมคลองยุคเก่าเข้ากับงานออกแบบ แถมยังใกล้ที่เที่ยวฮิตๆ ตั้งอยู่บน ถนนลาดกระบัง ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าโรบินสันลาดกระบัง ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเพียงไม่กี่นาที เดินทางสะดวกสบายใกล้ทางด่วนและวงแหวนรอบนอกไปสู่ EEC (ฉะเชิงเทรา/ชลบุรี/ระยอง)

นอกจากบรรยากาศอันร่มรื่นจากสวนสวยของโรงแรมฯ ที่ด้านหลังติดคลองประเวศบุรีรมย์ ที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติและวิถึคนไทยริม 2 ฝั่งคลอง จึงทำผู้เข้าพักได้รับความสงบและผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เข้าพัก
ชิลล์ไปกับสระว่ายน้ำหินอ่อนระบบเกลือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฟิตแอนด์
เฟิร์มด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายในยิมของโรงแรมฯ ห้องซาวน่า และสตีมครบครัน

โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ มีบริการรถรับส่งสนามบินสุวรรณภูมิฟรี!
หรือออกเดินทางไปเส้นทางอื่นในราคาพิเศษ ทำให้การมาพักผ่อนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ทีมงานเราพร้อมให้บริการทุกๆ ท่าน
The Park Nine Suvarnabhumi เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ที่พักใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพียงแค่ 10 นาที ใกล้ห้างโรบินสัน ลาดกระบัง เดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ให้บริการร้านกาแฟและร้านอาหาร ท่านใดที่ไม่ได้มาพัก สามารถ
แวะมาใช้บริการ ทานอาหารกลางวัน ทำงาน สังสรรคฺ ที่นี่มีที่จอดรถสะดวกสบาย

ห้องพัก มี 4 รูปแบบ ทั้ง ซูพีเรีย ดีลักซ์ เอ็กเซ็กคูทีฟ และ จูเนียร์สวีท ซึ่งทุกห้องมีระเบียงส่วนตัวไว้สำหรับผ่อนคลายกับบรรยากาศสบายๆ และยังมีสมาร์ททีวี ที่สามารถเชื่อมต่อสัญญานจากมือถือส่วนตัวขึ้นจอทีวีภายในห้องพัก เพื่อดื่มด่ำกับอรรถรสของการฟังดนตรี หรือชมภาพยนตร์บนความเป็นส่วนตัวได้อย่างเต็ม พร้อมและมั่นใจทุกการเข้าพักด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health (SHA) ทางโรงแรมยังเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ในราคาสุดพิเศษเริ่มต้น เพียง 872 บาทสุทธิ*/ห้อง/คืน

นอกจากการพักผ่อนแล้ว ห้ามหลาด ชิมอาหารเลิศรสที่รังสรรค์จากเชฟมือทอง ที่ห้องอาหาร Eat Drink Love เสิรฟ์อาหารนานาชาติทั้งอาหารไทยและยุโรปหลากหลายเมนู นั่งจิบกาแฟยามบ่าย พร้อมกับเค้กและขนมอบที่ The Cuppers หรือ จะนั่งพบปะสังสรรค์พูดคุยกันเพื่อน ณ ล็อบบี้เลาจน์ ที่ให้บริการเครื่องดื่ม ค็อกเทล และของว่างเบาๆ มีสนามหญ้าเล็กๆให้เดินชมวิว ที่สำคัญบรรยากาศเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว เบื่อนอนบ้าน มานอนโรงแรมกรุงเทพฯ ราคาไม่แพง
มีทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร หรือใครที่มาจากต่างจังหวัดแล้วกำลังมองหาที่พักใกล้สนามบิน เดินทางสะดวกสบาย เราแนะนำที่นี่ เพอร์เฟ็คขนาดนี้ ไม่มาพักแล้วระวังจะเสียใจ

Cuppers Cafe คาเฟ่ บรรยากาศชิลๆ กับความทรงจำหวานๆ เพลินเพลินกับ
การตกแต่งร้านที่ดูง่ายๆ เรียบๆ เน้นต้นไม้ล้อมรอบ ในสไตล์ยุโรปโมเดิร์น กับโทนสีขาว สีไม้ และสีเขียว มานั่งที่นี่ แถมยังมีโมเมนต์ถ่ายรูปเช็คอินสวย ๆ ไว้อวดเพื่อนด้วย

ขอแนะนำชุด Afternoon Tea Set ทานคู่กับ Singnature drinks
เช่น CARAMEL MACCHIATO, STRAWBIZ JUNOS TEA, LYCHEE BLOSSOM เครื่องดื่มที่นี่อร่อยและราคาไม่แพง
Menu Afternoon Tea/399 Net.
Sandwich
Scone
Brownie
Chocolate Croissant
Tart
Prawn Cocktail
Creambrulee
Macaron
Tea Pot


ห้องอาหาร Eat Drink Love Suvarnabhumi
นอกจากจะได้บรรยากาศชิลๆ แล้ว ยังมีอาหารอร่อยๆ พร้อมเสิร์ฟตลอดวัน ในส่วนของการตกแต่งก็จัดว่าดีงาม ฝีมือเชฟประจำโรงแรม เป็นห้องอาหารแบบ
ออลเดย์ไดน์นิ่ง สามารถรองรับได้จำนวน 100 ที่นั่ง พร้อมให้บริการด้วยอาหารรูปแบบใหม่ที่ต้องลิ้มลอง นอกจากนี้ ยังมี Cuppers ให้บริการกาแฟสด ที่คัดสรรจากเมล็ดพันธุ์กาแฟคุณภาพเยี่ยม จากแหล่งวัตถุดิบระดับโลกมาไว้ที่นี่ สามารถจิบกาแฟพร้อมเค้กหลากหลายรส ท่ามกลางธรรมชาติ

Eat Drink Love , The Park Nine : เชฟอภิสิทธิ์ นิ่มทอง

ใครที่กำลังมองหาที่พักใกล้ๆ กับสนามบินสุวรรณภูมิแนะนำที่นี่เลย มีครบจบ
ที่เดียว เดินทางง่ายและสะดวกสบาย อาหารอร่อย บรรยากาศสบายๆ

Eat Drink Love , The Park Nine
โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
599, 599/1 ถ.ลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร: +66 (2) 019 9111
เแฟกซ์: +66 (2) 119 2199
อีเมล: reservations.suv@theparknine.com
เว็บไซต์ www.theparknine.com/suvarnabhumi/
เฟสบุ๊ค theparkninesuvarnbhumi
อีเมล์ : reservations.suv@theparknine.com
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/TheParkNineSuvarnabhumi

พิกัด : ถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
แผนที่ : https://goo.gl/maps/wGPQLPyay813SREx6

สุขสยาม เปิดรับสมัครประกวดนางนพมาศ 2 วัย ประชันความสามารถ ตามวิถีไทย


ในเทศกาลลอยกระทงสุดยิ่งใหญ่ “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” ณ ไอคอนสยาม สมัครด่วน!! ตั้งแต่วันนี้ถึง 26 ตุลาคมศกนี้

“เมืองสุขสยาม” ชั้น G ไอคอนสยาม เมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย ร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามและอนุรักษ์วัฒนธรรมแห่งสายน้ำเจ้าพระยาในเทศกาล “ลอยกระทง” ชูมหกรรมศิลปวัฒนธรรมสุดยิ่งใหญ่ในงาน “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ณ เมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม พร้อมไฮไลท์ “การประกวดนางนพมาศ 2 วัย” ซึ่งคู่ที่คว้ารางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัล พร้อมสายสะพายและเงินรางวัล มูลค่า 10,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับสายสะพาย พร้อมเงินรางวัล มูลค่า 7,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับสายสะพาย และเงินรางวัล มูลค่า 5,000 บาท

สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดต้องเป็นเพศหญิงคู่แม่ลูก หรือ คู่ยาย-ย่า+หลาน (เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี / ผู้ใหญ่อายุ 35 ปีขึ้นไป) โดยส่งหลักฐานการสมัคร ด้วยการกรอกประวัติส่วนตัว พร้อมภาพถ่ายคู่ เป็นภาพสีจำนวน 1 ภาพ และคลิปวีดิโอแนะนำตัว(คู่) ความยาวไม่เกิน 1 นาที ภายในวันที่ 26 ตุลาคม 2563 โดยจะประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เพื่อขึ้นเวทีประกวดรอบชิงชนะเลิศในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2563 ณ ลานเมือง 1 เมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม

เกณฑ์การตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะพิจารณาจากการแต่งกาย ความสวยงาม บุคลิกภาพ กิริยามารยาท และความเชื่อมั่นในตนเอง ส่วนรอบชิงชนะเลิศผู้ผ่านเข้ารอบจะต้องเตรียมการแสดงความสามารถพิเศษเพื่อสืบสานประเพณี อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยบนเวที โดยคณะกรรมการจะพิจารณาจาก ทักษะความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ความพร้อมเพรียงของคู่ประกวด และปฏิภาณไหวพริบในการตอบคำถาม

ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมประกวดนางนพมาศ 2 วัย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานประเพณีลอยกระทงสุดยิ่งใหญ่ในงาน “รื่นเริง แสงศิลป์ อเมซิ่ง สุขสยาม” ณ เมืองสุขสยาม ชั้น G ไอคอนสยาม

กรอกข้อมูลสมัครได้ที่ https://bit.ly/2HlB4CI หรือ QR Code ที่ปรากฏบนแพลทฟอร์ม Facebook Fanpage :: sooksiam หรือ สอบถามเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ คุณณัฏฐ์ธิดา โกสุมขจรเกียรติ์ 062-790-5467 (เวลาราชการ) ตั้งแต่วันนี้ถึง 26 ตุลาคม 2563

ดีต่อใจใครก็ชอบบุฟเฟต์

วันนี้..ใครที่รู้ตัวว่าเป็นแฟนตัวยงของอาหารบุฟเฟ่ต์ชื่นชอบอาหารสไตล์บุฟเฟต์
บอกได้เลยว่าห้ามพลาด คือมันคุ้มค่ามาก เริ่มต้นกันด้วยบุฟเฟ่ต์ อิ่มอร่อยกันได้แบบหลากหลายด้วยบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ บวกซีฟู้ดแบบไม่อั้น ในบรรยากาศหรูหราแต่ราคาหลักร้อย

ห้องอาหารดิเอมเมอรัลด์ค็อฟฟี่ช็อพ โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ (The Emerald Hotel) บริการบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน และมื้อค่ำในราคา สุดคุ้ม ด้วยคุณภาพที่ยาวนานกว่า 16 ปี โดยเชฟฝีมือเยี่ยมที่รังสรรค์เมนูสุดหรูหรา ตระการตากับสุดยอดเมนูบุฟเฟ่ต์ อิ่มคุ้ม ไม่มีกระเป๋าฉีก มีให้ครบทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น อาหารทะเลซีฟู้ดไม่อั้น ราคาเดียวสุดคุ้ม รวมเครื่องดื่ม งานนี้ไม่อิ่มไม่เลิกเเน่นอนต้องมาที่นี่เลย รสชาติดี รับรองว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน

ที่นี่โดดเด่นตั้งแต่อาหารจำพวกเมนูปรุงเสร็จที่มีรสชาติกลมกล่อมถูกปากคนไทย ทุกมื้อค่ำวันศุกร์และวันเสาร์ ตลอดเดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคม นี้ ห้องอาหารดิเอมเมอรัลด์ค็อฟฟี่ช็อพ พร้อมที่จะทำให้ทุกๆท่านตื่นตาตื่นใจ กับอาหารนานาชาติสลับสับเปลี่ยนกันไปทุกวัน ให้ท่านเลือกรับประทานกันได้อย่างเต็มที่ ในสไตล์ที่คุณโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็น ฟัวกราส์ เป็ดปักกิ่ง ขาปูยักษ์ไม่อั้น 5 ช.ม. อาหารคุณภาพสดใหม่ หวานฉ่ำ เสิร์ฟเคียงคู่ซอสและเครื่องเคียงต่างๆ มากมาย

ทีนี่จัดเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติคุณภาพระดับอินเตอร์ที่บอกเลยว่าเพื่อนๆ ที่มาต้องไม่เสียใจ จุดเด่นของที่นี่คือ เมนูเเนะนำก็มีหลายเมนู และมีความหลากหลายของเมนูอาหารไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น (ซูชิ-ซาซิมิเกรดพรีเมี่ยม สดหลายชนิด ทั้งเเซลมอน เอนกาวะ ปลาไหล ฟัวกราส์ วากิว ฯลฯ) อาหารไทย จีน อิตาเลียน เเละอาหารตะวันตกที่ทุกเมนูปรุงโดยเชฟมืออาชีพเเละเคล็ดลับสูตรเฉพาะของร้าน

เตรียมตัวให้พร้อม! อิ่มไม่อั้นกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ทั้งฟัวกราส์ เป็ดปักกิ่ง ขาปูยักษ์ไม่อั้น 5 ช.ม.เต็มๆ กับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดและอาหารนานาชาติที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ราคาเพียง 919 บาทถ้วน/ต่อคน รอให้ทุกๆ ท่านเข้ามาร่วมสัมผัสกับประสบการณ์อาหารรสเลิศกับสุดยอดมีอาหารให้เลือกทานเยอะมากเกือบร้อยเมนู แถมแต่ละอย่างเด็ดๆ ทั้งฟัวกราส์ เป็ดปักกิ่ง ซีฟู้ดนานาชนิด มุมชีสหลากหลาย ทานกันเต็มอิ่มจุใจแบบไม่จำกัดเวลา นั่งทานสบายๆ เริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม บุฟเฟ่ต์นานาชาติรวมเครื่องดื่มซอฟต์ดริ้งค์ไม่อั้น หรือจะเป็นเมนูสุดแสนอร่อยปรุงรสชาติหลากหลายสไตล์

น้ำจิ้มซีฟู้ด พร้อมเครื่องปรุง / Assorted Sauce and Condiment
ยกทัพ ขาปูอลาสก้า / Alaskan King Crab หอยนางรมสด / Fresh Oyster
กั้งกระดาน / Rock Lobster

เมนูไฮไลท์
ฟัวกราส์ : เสิร์ฟบนข้าวปั้นที่ข้าวน้อย ฟัวกราส์ชิ้นใหญ่ๆ เบิร์นกันสดๆ เสิร์ฟร้อนๆ ราดซอสหอมหวาน ตอนเอาเข้าปากบอกเลยคือ….ฟินมาก ชนิดที่ว่ามีให้เลือกชิมกันแบบเดินดูรอบเดียวเห็นไม่ครบ

ครชอบซีฟู้ด ไม่ควรพลาด กับ บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล
อาหารทะเล : ขาปูอลาสก้า ขาใหญ่เนื้อแน่น ชิ้นใหญ่ แกะง่าย เนื้อแน่น คัดไซต์ คัดคุณภาพ เติมตลอดพร้อมหอยนางรมสด กั้งกระดาน และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยหวาน กุ้งแม่น้ำ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ตัวใหญ่กุ้งแม่น้ำเผาและกุ้งหวาน ให้ท่านเลือกรับประทานกันได้อย่างเต็มที่ในสไตล์ที่คุณโปรดปราน

อาหารญี่ปุ่น : สั่งตรงให้หายคิดถึง จากห้องอาหารญี่ปุ่นไดอิจิ ชื่อดัง โดยมีซูชิหลายหน้าแบบพรีเมียมหน้า เช่น หน้าเนื้อวากิว และหน้าปลาไหลญี่ปุ่น ซาชิมิสดมีครบทั้งปลาแซลม่อน ทูน่า ปลาหมึกยักษ์

อาหารจีน : ขาหมูรสเด็ดซิกเนเจอร์ / Steamed Rice with Stew Pork จากห้องอาหารจีนหยก ข้าวต้มปลากะพง / Boiled Rice with Seabass ติ่มซำมีหลายชนิด รสชาติดี เป็ดปักกิ่ง ที่ม้วนกันสดๆ หนังเป็ดกรอบ ซอสหอมอร่อย

อาหารฝรั่ง : ไส้กรอกนำเข้านานาชนิด ต้องเลือกชิมอย่างละนิดไม่งั้นอิ่มก่อน ขาหมูเยอรมัน หนังกรอบ ขาแกะมีมันติดเนื้อฉ่ำๆ ที่ครบครันเกือบทุกเมนู

อาหารไทย : ข้าวขาหมู เคี่ยวจนเนื้อเปื่อย หอมยาจีนที่จะมีขาหมูรสเด็ดซิกเนเจอร์ของห้องอาหาร ตุ๋นจนนุ่ม และเข้าเนื้อสุดๆ แถมยังมีข้าวต้มปลากะพง
และ ข้าวต้มรอบดึกทั้งข้าวต้มแดง ข้าวต้มขาว ข้าวต้มเผือกและสารพัดเครื่องเคียงอิ่มจากอาหารคาวแล้วมาแวะที่โซนขนมหวานและผลไม้ก็มีให้เลือกมากมายทุกวัน

ติ่มซำ / Dim Sum

ของหวาน : ทั้งขนมไทยและเบเกอรี่ ที่ต้องลองและแนะนำคือ กะลอจี๊ หาทานยากมาก กล้วยทอด ขนมครก แถมยังมีสารพันเค้ก เต้าส่วน กล้วยบวดชี มันต้มน้ำตาล เต้าฮวย อีกทั้งยังมีมุมของหวานหลากชนิดพร้อมไอศครีมไว้ตบท้ายและบิงซูที่ยกมาเป็นเครื่องให้ทำเองกันเลย

กะลอจี้ / Kalorjee
ผลไม้สด / Fresh Fruit

สัมผัสความสดใหม่อร่อยโดนใจ ขอเอาใจคนกินจุ กับเมนูอิ่มไม่อั้นสไตล์บุฟเฟ่ต์ ห้องอาหารตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ด้วยอาหารนานาชาติหลากหลายทั้งเอเชีย ยุโรป รวมถึงอาหารไทย ในรูปแบบบุฟเฟ่ต์มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ พบกับความอร่อยความสุขอันไร้ขีดกับนักชิมให้คุณเพลิดเพลินกับอาหารหลากหลายในราคาสุดคุ้มราคา : 919 บาทถ้วน/คน รวมเครื่องดื่มไม่อั้น หรือสั่งอาหารเมนูตามสั่งมีให้เลือกมากมาย

โปรโมชั่นแบบหมูคณะ มา 11 จ่าย 10

บอกเลยว่า…ถ้ากำลังมองหาอาหารอร่อยๆ มื้อพิเศษกับคนที่รักก็ต้องที่นี่แหละ
โปรโมชัน โปรหมู่คณะ ก็มี มา 11 จ่าย 10

ปักหมุดแล้วก็อย่าลืมโทรไปสำรองที่กันไว้ก่อนด้วยนะคะ
จองล่วงหน้า : โทร 02 276 4567 หรือไลน์ @theemeraldhotel
เวลาเปิด : มื้อค่ำทุกวัน 18.00 – 23.00 น. (5 ชั่วโมง)

พิกัด : ห้องอาหารดิเอมเมอรัลด์ค็อฟฟี่ช็อพ โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์
(The Emerald Hotel) MRT ห้วยขวาง ทางออกประตู 3
ขับรถมาเองทีจอดรถด้านหน้าโรงแรมสะดวกสบายมาก

TheEmeraldHotel #ดิเอมเมอรัลด์ #TheEmeraldCoffeeShop #ดิเอมเมอรัลคอฟฟี่ช็อป #บุฟเฟ่ต์ #อาหารนานาชาติ #toptotravel

“ตามรอยพ่อฯ” ปี 8 ร่วมสืบสานการทำนาขาวัง

ภูมิปัญญาแห่งลุ่มน้ำบางปะกง แหล่งผลิตอาหารสำคัญของประเทศ จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคี จ.ฉะเชิงเทรา สร้างพื้นที่ต้นแบบโคก หนอง นาขาวัง แบบกสิกรรมธรรมชาติ

โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ปีที่ 8 จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ระดมอาสาสมัครเกือบ 400 คน สร้างพื้นที่ต้นแบบ โคก หนอง นาขาวัง แบบกสิกรรมธรรมชาติ ณ ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาของชาวลุ่มน้ำบางปะกงในการจัดการพื้นที่กสิกรรมในระบบนิเวศ 3 น้ำ คือ น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ที่ประยุกต์เข้ากับการทำโคก หนอง นา ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ เพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มน้ำบางปะกง แหล่งผลิตอาหารสำคัญของประเทศ และสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน พร้อมวางมาตรการความปลอดภัยในการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับภาวะปกติใหม่ (New Normal) อย่างเข้มข้น

โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” (ตามรอยพ่อฯ) เกิดจากความร่วมมือของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ภาคศาสนา และสื่อมวลชน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมนำศาสตร์พระราชาด้านการบริหารจัดการ ดิน น้ำ ป่า และพัฒนาคน มาเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ เกิดความตระหนัก และนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยดำเนินงานอย่างต่อเนื่องจนก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 ในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “สู้ทุกวิกฤต รอดพอดีด้วยศาสตร์พระราชา” เพื่อตอกย้ำว่าศาสตร์พระราชาคือทางรอดจากทุกวิกฤต

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และที่ปรึกษามูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวถึงความสำคัญในการเลือก จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตั้งอยู่บนลุ่มน้ำบางปะกงเป็นสถานที่จัดกิจกรรมว่า “จ.ฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ 5,351 ตร.กม. หรือประมาณ 3.3 ล้านไร่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ บริเวณลุ่มแม่น้ำบางปะกง เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของประเทศ โดยพื้นที่ทั้งสองฝั่งแม่น้ำมีความอุดมสมบูรณ์สูง เหมาะกับการทำเกษตร ด้วยแม่น้ำบางปะกงได้พัดพาดินตะกอนมาทับถมเป็นเวลานาน ก่อนที่จะไหลลงสู่อ่าวไทยที่ อ.บางปะกง โดยประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม คือ การทำนา ทำไร่ ทำสวนผลไม้ยืนต้น และมีการทำนาขาวังที่เป็นเอกลักษณ์ อยู่ที่ ต.เขาดิน อ.บางปะกง

สำหรับการทำ ‘นาขาวัง’ เป็นรูปแบบการทำนาในระบบนิเวศ 3 น้ำ คือ น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาของชาวบ้านที่เรียนรู้กลไกธรรมชาติของน้ำขึ้น น้ำลง โดยทำนาข้าวในฤดูฝน ส่วนในฤดูแล้งก็จะปล่อยน้ำเค็มให้ไหลเข้ามาในนาเพื่อเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา คำว่า ‘ขาวัง’ คือ ร่องน้ำรอบแปลงนา เป็นภูมิปัญญาในการจัดการน้ำของชาวนา ซึ่งปัจจุบันเหลือพื้นที่ทำนาขาวังเพียงแค่ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เท่านั้น กิจกรรมเอามื้อสามัคคีครั้งนี้เป็นการสร้างต้นแบบนาขาวัง ที่ประยุกต์เข้ากับการทำโคก หนอง นา ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ เพื่อสร้างระบบนิเวศให้เอื้อต่อการสร้างความมั่งคั่งทางอาหารอย่างยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา ตลอดจนอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาบรรพชนไม่ให้สูญหาย”

กิจกรรมเอามื้อสามัคคี จ.ฉะเชิงเทรา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 ก.ย.2563 วันแรกเป็นกิจกรรมการปั่นจักรยานรณรงค์ ของกลุ่มนักปั่นสะพานบุญ 70 คน ซึ่งมีดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายไตรภพ โคตรวงษา และนายวรเกียรติ สุจิวโรดม คนมีใจเจ้าของแปลงชาวนามหานครร่วมปั่นด้วย โดยเริ่มต้นทางจากแปลงชาวนามหานคร ต.คลองสิบสี่ อ.หนองจอก กรุงเทพมหานคร จนถึงพื้นที่ของนายชัชวาล เกษมสุข ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคี เพื่อสร้างต้นแบบโคก หนอง
นาขาวัง ในวันถัดมา รวมระยะทาง 102 กม.

ด้าน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงรายละเอียดของกิจกรรมเอามื้อสามัคคีว่า “กิจกรรมเอามื้อสามัคคีในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 400 คน จากสมาชิกเครือข่ายมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ผู้สมัครร่วมกิจกรรมทางเฟซบุ๊กโครงการตามรอยพ่อฯ และพนักงานของเชฟรอน เพื่อร่วมกันสร้างพื้นที่ต้นแบบ โคก หนอง นาขาวัง แบบกสิกรรมธรรมชาติ บนพื้นที่ของนายชัชวาล เกษมสุข ที่ ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กิจกรรมที่ทำ ได้แก่ ขุดคลองไส้ไก่ ปลูกแฝก ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เพาะผัก ห่มดินแห้งชามน้ำชาม ปล่อยพันธุ์ปลา เป็นต้น โดยมีวิทยากรจากมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ รวมถึง ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร (อ.ยักษ์) สาธิตและให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งคาดหวังว่ากิจกรรมการสร้างพื้นที่ต้นแบบ โคก หนอง นาขาวัง แบบกสิกรรมธรรมชาติแห่งแรกใน อ.บ้านโพธิ์นี้ จะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ในการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและองค์ความรู้ศาสตร์พระราชามาปรับใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนต่อไป”

ด้าน นายไตรภพ โคตรวงษา ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวถึงการทำ โคก หนอง นาขาวัง แบบ กสิกรรมธรรมชาติว่า “การทำ โคก หนอง นาขาวัง แบบกสิกรรมธรรมชาติ จะแตกต่างจากการทำนาขาวังแบบดั้งเดิมเล็กน้อย โดยจะทำคันดินกั้นระหว่างแปลงนากับคูน้ำ เพื่อประโยชน์ในการกักเก็บน้ำและควบคุมระดับน้ำในแปลงนา และยังสามารถปลูกพืชผักไว้เป็นอาหารบนคันนา การทำนาขาวังในแบบกสิกรรมธรรมชาติจึงปั้นคันนาส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาจากการทำนาขาวังตามปกติ นอกจากนี้ยังต้องเป็นการทำเกษตรอินทรีย์อีกด้วย

สำหรับการออกแบบปรับพื้นที่จากที่นาเดิมให้เป็นต้นแบบ ‘โคก หนอง นาขาวัง’ ที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา นั้นได้รับความกรุณาจากพระอาจารย์สายชล ขันติธัมโม (พระอาท) เจ้าอาวาสวัดหนองสองห้อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้ออกแบบและปรับพื้นที่ประมาณ 18 ไร่ให้ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ทำนาขาวังอินทรีย์ 5 ไร่ ประกอบด้วยการทำขาวังรอบแปลงนา ขุดหนองน้ำ คลองไส้ไก่ ปรับพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ให้เป็นโคก ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และพื้นที่ทำสวนผสมผสาน”

ด้าน นายชัชวาล เกษมสุข (แอ้ม) เจ้าของพื้นที่ “โคก หนอง นาขาวัง” ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความเป็นมาและแรงบันดาลใจในการทำแปลงต้นแบบ โคก หนอง นาขาวัง แบบกสิกรรมธรรมชาติว่า “ครอบครัวมีอาชีพทำขนมเปี๊ยะขายอยู่ในเมืองฉะเชิงเทรา แม้จะขายดีแต่ต้องอดหลับอดนอน จึงเห็นว่าเงินไม่ใช่คำตอบ จึงผันตัวมาทำการเกษตรโดยศึกษาเองจากอินเตอร์เน็ตอยู่ 2 ปี ก่อนจะมีโอกาสได้ไปอบรมกับศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน (ศพช.) ชลบุรี กรมการพัฒนาชุมชน ปัญหาของพื้นที่คือ เป็นดินเลน ดินเปรี้ยว ต้องปรับสภาพดินด้วยการห่มดินบำรุงดิน ขุดหลุมกว้างผสมดินเพื่อปลูกต้นไม้ โซนหลังเป็นนา ขุดหนองน้ำ 3 หนอง ซึ่งผมตั้งใจสร้างให้เป็นพื้นที่ตัวอย่างเพื่อสร้างความสุขอย่างยั่งยืน สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรอบข้าง ให้เห็นว่าเราสามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ให้เกิดขึ้นได้ และเมื่อที่ของเรามีน้ำอุดมสมบูรณ์ก็สามารถปลูกข้าวได้หลายรอบ สำหรับความฝันในตอนนี้คืออยากปลูกข้าวให้แม่กิน มีข้าว มีผัก มีไข่ มีปลากิน พึ่งตัวเองได้และแบ่งปันเพื่อนบ้าน ตั้งใจว่าจะทำให้พื้นที่นี้สามารถเลี้ยงตัวได้พออยู่พอกินได้ภายใน 5 ปี”

ทั้งนี้ โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน”
ปีที่ 8 มีช่องทางสื่อสารในรายการเจาะใจ ซึ่งจะออกอากาศทางช่อง MCOT HD ในเดือนธันวาคม 2563

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลและกิจกรรมในโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ได้ทาง www.facebook.com/ajourneyinspiredbytheking
หรือดูรายละเอียดที่ https://ajourneyinspiredbytheking.org

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น