เริ่มแล้ว!! งานสังคมสุขใจครั้งที่ 6 ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์…สู่ชีวิตที่สมดุล

คอนเซปต์ ช้อปเปลี่ยนโลก  ณสวนสามพราน จ.นครปฐม

สามพรานโมเดล ททท. ทีเส็บ เซ็นทรัลสสส. จังหวัดนครปฐม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เครือข่ายเกษตรอินทรีย์และภาคีพันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน การศึกษา และภาคประชาสังคม  ผนึกความร่วมมือร่วมจัดงาน “สังคมสุขใจครั้งที่ 6  ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์…สู่ชีวิตที่สมดุล” ภายใต้คอนเซปต์ ช้อปเปลี่ยนโลก  ณสวนสามพราน จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม พ.ศ. 2562   มีเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลและจากทั่วประเทศนำผลผลิตอินทรีย์สดใหม่จากฟาร์ม และผลิตภัณฑ์แปรรูป มาให้ช้อปสุขภาพดีอย่างจุใจ  โดยไฮไลท์เด่น ปีนี้ คือการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น ThaiOrganic Platform  เชื่อมโยงคนทั้งห่วงโซ่สินค้าอินทรีย์เป็นครั้งแรกในไทย   มั่นใจช่วยยกระดับผู้บริโภคให้เป็น Active Consumer  เข้าถึงสินค้าและกิจกรรมได้สะดวกและดึงดูดคนรุ่นใหม่มาร่วมขับเคลื่อน เพื่อสร้างระบบอาหารยั่งยืน  ส่งเสริมให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมีและมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

หม่อมหลวงปนัดดา  ดิศกุล  สมาชิกวุฒิสภา ประธานในพิธีเปิดงานสังคมสุขใจครั้งที่6 กล่าวว่า เสน่ห์ของงานสังคมสุขใจที่ได้เห็นจากการมาร่วมงานทุกปี คือบรรยากาศความร่วมมืออย่างกระฉับกระเฉงของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน เกษตรกรอินทรีย์  เดินไปทางไหนก็มีแต่รอยยิ้มและที่น่าประทับใจมากในปีนี้ก็คือ  ความก้าวหน้าที่ก้าวไปอีกขั้นของการขับเคลื่อนสามพรานโมเดลและการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ที่นอกจากจะมีจำนวนเกษตรกรอินทรีย์ผ่านการรับรองอย่างมีส่วนร่วมมากขึ้นมีการขยายเครือข่ายไปในภาคอื่นๆเพิ่มแล้ว ยังจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้เชื่อมโยงและยกระดับความร่วมมือของคนทั้งห่วงโซ่เพื่อสร้างระบบอาหารสมดุลและยั่งยืนให้เกิดขึ้นอันจะทำให้ทุกคนมีสุขภาวะที่ดีและชีวิตที่สมดุลร่วมกัน

นายอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจ ประธานจัดงานสังคมสุขใจครั้งที่ 6  และผู้ริเริ่มการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล หรือโมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคมกล่าวว่า  จากสถานการณ์ระบบอาหารที่ยังคงมีความไม่สมดุล    โจทย์ของการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล ในปีที่ 9และปีต่อไป ที่มุ่งให้เกษตรกร หยุดใช้สารเคมี หันมาทำเกษตรอินทรีย์และมีการรวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง คือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถยกระดับคนทั้งห่วงโซ่โดยเฉพาะผู้บริโภค ให้เข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ให้มากขึ้น 

งานสังคมสุขใจครั้งที่ 6 ปีนี้  จึงเน้นไปที่สร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคซึ่งมีเครื่องมือสำคัญ ที่จะเริ่มใช้ในงานนี้เป็นครั้งแรกภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมคือ แอพพลิเคชั่น  ไทยออร์แกนิก แพลตฟอร์ม   ที่จะช่วยเชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารอินทรีย์ทั้งระบบ มีความโปร่งใส  ทำให้คนต้นน้ำคือเกษตรกรมีการจัดการอย่างเป็นระบบมีโอกาสและมีช่องทางการตลาด ที่เชื่อมต่อตรงกับผู้บริโภค   ส่วนผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงแหล่งผลิตอาหารอินทรีย์  กิจกรรม  ได้สะดวก เชื่อมั่นได้ ราคาเป็นธรรรม และมีช่องทางเข้ามามีส่วนร่วมกิจกรรมการขับเคลื่อนสำหรับแนวคิดของการจัดงานสังคมสุขใจครั้งที่6 ช้อป…เปลี่ยนโลก   

คุณอรุษ กล่าวว่า  เป็นแนวคิดที่อยากให้ผู้มาร่วมงาน ได้ใช้พื้นที่ของงานจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจเพื่อการเปลี่ยนแปลง  “เพราะวิถีอินทรีย์สังคมอินทรีย์ ไม่ได้อยู่แค่เรื่องการกินแต่มันเป็นเรื่องวิถีชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สังคม และดีต่อสุขภาพของเรา ผมอยากให้ทุกคนได้มาช้อปแรงบันดาลใจแล้วกลับไปเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างดีขึ้น ทั้งตัวเรา สังคม และสิ่งแวดล้อม”

ด้านนายสุนา วงศ์ละครปลัดอาวุโสอำเภอสามพราน ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม  กล่าวว่า  งานสังคมสุขใจ เป็นงานที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือ ที่ทำให้งานมีคุณค่า มีความหมายมีความก้าวหน้า  มีองค์ความรู้มีปราชญ์ชาวบ้าน มีคนต้นแบบ มากมาย  ที่ทำให้ให้คนที่สนใจอยากเปลี่ยนจากการใช้สารเคมี มาทำเกษตรอินทรีย์สามารถเรียนลัดจากสามพรานโมเดลที่ทำมาต่อเนื่องอยู่แล้วได้เลย

คุณฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า งานสังคมสุขใจเป็นอีกความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนงานด้านการท่องเที่ยวและการสร้างสังคมอินทรีย์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติ  ซึ่งหัวใจของความสำเร็จ คือ ความต่อเนื่อง จึงน่ายินดีอย่างยิ่งที่การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทุกๆ ฝ่าย   และควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว การช้อป…เปลี่ยนโลก ขอให้ผู้ร่วมงานได้ปลูกจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่อโลกของพวกเราไปพร้อมๆกัน ด้วยการพกถุงผ้าตะกร้า กล่อง เพื่อลดการใช้ถุงหิ้วพลาสติก หันมารีไซเคิลเน้นใช้ของที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ GoGreen  เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงสร้างสังคมอินทรีย์สู่ชีวิตที่สมดุลให้เกิดขึ้นร่วมกัน

คุณอรชร  ว่องพรรณงาม  ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมไมซ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(สสปน.)  กล่าวว่า  งานสังคมสุขใจ เป็นอีกโอกาสสำคัญ ที่ผู้ประกอบการโรงแรมร้านอาหาร การประชุมที่ต้องใช้วัตถุดิบอยู่แล้ว  จะได้มาเจอกับเกษตรกร เกิดการเชื่อมโยงตรง  

ซึ่งในงานนี้ สสปน. ยินดีแชร์ประสบการณ์ โครงการ Farm to Functions  ที่ได้ทำร่วมกับสามพรานโมเดล และพันธมิตร ธุรกิจ MICE ส่งผลทำให้โรงแรมและร้านอาหารชั้นนำในกรุงเทพหันมาซื้อข้าวตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ เกิดเป็นคุณค่าที่ยั่งยืน  สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและเกษตรกรอินทรีย์   อีกทั้งจุดประกายคุณค่าของการประสานพลัง 3ภาคส่วน คือ รัฐบาล เอกชนและประชาชน  เพื่อการขับเคลื่อนสังคมร่วมกันสู่เป้าหมายการเป็น MICE Sustainable

ดร.นพ. ไพโรจน์  เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ  (สำนัก 5) กล่าวว่า  กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในสังคมขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีครบ 4 มิติ คือกายจิต ปัญญาและสังคม โดยหนึ่งในภารกิจที่กำลังขับเคลื่อน คือการสร้าง “พื้นที่สุขภาวะ” ด้านอาหารและสุขภาวะให้เกิดขึ้น  ซึ่งสามพรานโมเดล ถือเป็นหนึ่งในโมเดลตัวอย่าง ที่สสส. สนับสนุน เพราะตอบโจทย์สุขภาวะในทุกมิติ มีการส่วนร่วมของทุกภาคส่วน  ทำให้ผู้บริโภคตื่นรู้ ตระหนัก สนใจเรียนรู้ และมีความเข้าใจระบบอาหารยั่งยืน อันสามารถขยายผลไปยังภูมิสังคมอื่น ๆ ได้   จะเห็นว่างานสังคมสุขใจ สังคมอินทรีย์  ที่ผู้คนทั้งห่วงโซ่มีรอยยิ้ม มีความสุขที่ได้เกื้อกูลกันได้เรียนรู้ เป็นงานที่ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยง  เห็นคุณค่าของการมีพื้นที่สุขภาวะในสังคม ซึ่งมีความสำคัญและจะต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สุขภาวะที่ดีอย่างนี้ให้มากขึ้นเรื่อยๆ งานสังคมสุขใจ สวนสามพรานเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 6 แล้ว โดยทุกปีจะมีการสรุปผลการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ ภายใต้สามพรานโมเดล  ที่มีการทำงานสนับสนุนและส่งเสริมให้เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่มภายใต้ระบบการรับรองอย่างมีส่วนร่วม

โดยในงาน ยังมีเวทีแชร์ประสบการณ์เส้นทางการเรียนรู้และการขับเคลื่อน    และมีเครือข่ายเกษตรกรอินทรีย์จากทั่วประเทศ  รวมถึงเครือข่ายผู้ประกอบการ  มีเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดล ตลาดสุขใจและบูธของผู้สนับสนุน เช่นบูธเซ็นทรัลทำ ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ได้นำผลงานการขับเคลื่อนสังคมการสร้างอาชีพ สร้างการศึกษา พัฒนาสินค้าชุมชนให้คนในท้องถิ่นมาแชร์   บูธ สสปน.  ที่มีการสรุปความรู้จากการขับเคลื่อนโครงการ Farmto Functions ที่ทำให้เกษตรกรอินทรีย์ในจังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดสุรินทร์มีลูกค้าเป็นโรงแรม 5 ดาว ในกรุงเทพฯ     

ผลิตภัณฑ์ในงานสังคมสุขใจที่ได้รับความสนใจมีมากมายอาทิ ข้าวอินทรีย์หลากสายพันธุ์รวมถึงข้าวพันธุ์พื้นมือง เช่น ข้าวปะกาอำปึล  จากบ้านทัพไทย จ.สุรินทร์  ข้าวหอมนครชัยศรี จ.นครปฐม  

นอกจากนี้  ยังมีพืชผักผลไม้เมืองหนาว เช่น อโวคาโด เคพกูสเบอรี่จากบ้านห้วยขมิ้น อ.แม่แจ่ม   ฟักทองบัตเตอร์นัท จากสองแควออร์แกนิก จ.พิษณุโลก   มีผลิตภัณฑ์แปรูปจากสมุนไพร เช่น แยม ชาเก็กฮวยชากุหลาบ จากเครือข่าย PGSลำพูน และ กลุ่มม่วนใจ๋ กลุ่มเกษตรอินทรีย์วิถีธรรมชาติ  มีปัจจัยการผลิต เช่นเมล็ดพันธุ์อินทรีย์ กว่า40 ชนิด จากสหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่  มีการให้ความรู้จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่นคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้การดูแลสุขภาพองค์รวม  การตรวจสารพิษในผัก ในส่วนกิจกรรมความรู้ มีการสอนการแปรรูปอาหารมีการสอนกระบวนการทำคราฟช็อคโกแลต สอนทำบะหมี่จากผักผลไม้อินทรีย์   มีเวทีการสรุปบทเรียนการขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์   Organic Tourism   รวมถึงมีคนต้นแบบเกษตรอินทรีย์ มาให้ข้อคิด เช่น คุณวิฑูรย์ เรืองเลิศปัญญากุล  คุณ อาทิ คุณนคร ลิมปคุปตถาวร   หรือคุณปริ๊นซ์ เจ้าชายผัก

โดยผู้จัดงานได้จัดเตรียมรถตู้บริการรับ-ส่งจากลานจอดรถ เข้าไปชมและซื้อสินค้าในงานฟรี  
สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 034 322 588-93
ติดตามกิจกรรมของงานที่ Facebook/งานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 6

The Cup Restaurant & Tea Room

เดอะคัพ เสิร์ฟเมนูต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ พร้อมเทศกาลของขวัญ จากผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นจากทางร้าน

เพราะที่นี่ คือ อีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเริ่มต้นจาก ต้นตำรับอังกฤษแท้ รสชาติดั้งเดิม อบอุ่นในสไตล์ Homy & Friendly ครัวที่อัดแน่นไปด้วยเคล็ดลับ ร้าน เดอะคัพ อบอุ่นแห่งนี้ เดิมตั้งอยู่ที่ โอเรียนทัล พลาซ่า ในระยะแรก หลังจากนั้นย้ายไปที่เพนนินซูลา พลาซ่า จนเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ย้ายมาอยู่ที่ อาคาร เลค รัชดา จนถึงปัจจุบันและในปี 2563 นี้ The Cup ครบ 40 ปี แล้ว อร่อยแบบนี้ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก

เมื่อเปิดประตูเดินเข้าไปด้านในร้าน ความรู้สึกแรก คือ การตกแต่งร้านนภายในค่อนข้างโปร่ง เพราะผนังใช้กระจกใสบานใหญ่รับแสงจากธรรมชาติ ทุกมุมของร้านตกแต่งได้อย่างกิ๊บเก๋ อบอุ่นน่านั่งจิบเครื่องดื่ม โดยทางร้านแบ่งเป็น โซนมีตั้งโต๊ะที่นั่งทั้งแบบโซฟา ที่นั่งติดกระจก ตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีความอบอุ่นและเรียบง่าย แบบให้โล่งโปร่งสบายด้วยกระจกใสรอบด้าน

เดอะคัพ จัดเป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรป ชุดถ้วยกาแฟลวดลายงดงาม จานกระเบื้องเซรามิกหลายรูปแบบ รวมทั้งภาพติดฝาผนังแบบโบราณสามารถเห็นวิวเมืองและทะเลสาปฝั่งสวนสาธารณะ เบญจกิติด้านตรงข้ามอย่างน่ารื่นรมย์ ร้านอาหารที่จะพาหลบหลีกความวุ่นวายของเมืองสู่บรรยากาศที่อบอุ่น ให้บรรยากาศที่น่านั่งผ่อนคลายได้อย่างลงตัว ที่นี่เสริฟอาหารอังกฤษแบบดั้งเดิม ถือเป็นแหล่งนัดพบของคนที่ชื่นชอบในสไตล์อาหารในแบบเดียวกัน

คุณสุมัณฑนา โมกขะเวส เจ้าของร้าน The Cup

ร้านนี้เกิดขึ้นโดย คุณสุมัณฑนา โมกขะเวส เจ้าของร้าน The Cup ร้านอาด้วยความรักและความผูกพัน ที่จะเปลี่ยนให้เวลาหยุดนิ่ง เมื่อเพื่อนๆ ได้มาเยือน ถือเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเริ่มต้น เมื่อ 39 ปีก่อน ตอนนั้นเรียนจบจากอังกฤษกลับมาอยู่เมืองไทยรู้สึกคิดถึงอาหารที่เราเคยทานกันเป็นประจำตั้งแต่เด็ก ก็เลยมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ที่เรียนจบจากประเทศอังกฤษและสวิสฯ ว่าจะทำอะไรที่ทำให้เราหายคิดถึง จึงร่วมกับเพื่อนๆ หุ้นกันเปิดร้าน เป็นร้านอาหารที่เสริฟอาหารสไตล์อังกฤษแท้คุณภาพดี ปรุงจากวัตถุดิบที่ดี แบบดั้งเดิม เพื่อให้หายคิดถึงและเพื่อให้ลูกค้าทั่วไปได้รู้จักกับอาหารรสชาติอังกฤษ

ด้วยผู้อยู่เบื้องหลัง คุณสุมัณฑนา หรือ พี่เป๊าะ บวกกับประสบการณ์และความหลงใหลรสชาติของอาหารสไตล์อังกฤษ เน้น Homy อาหารทุกจานเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่สั่งสมผ่านกาลเวลา กลายเป็นเมนูอาหารที่ทานในบ้าน ในแบบที่ไม่ได้หรูหรา แต่เป็นอาหารที่คุ้นเคย เฉพาะช่วงของเทศกาลปีใหม่ทั้งที ต้องปาร์ตี้กับร้านสุดพิเศษ เป็นช่วงที่เพื่อนฝูงพาครอบครัว รุ่นลูกรุ่นหลานกลับมาพบปะกัน ทุกคนรู้สึกคิดถึงอาหารที่เราเคยทานกันตั้งแต่เด็ก ก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆ และทานอาหารสไตล์อังกฤษแท้ๆ แบบดั้งเดิม เพื่อให้หายคิดถึงและเพื่อให้ลูกค้าทั่วไปได้มีดอกาสแวะเวียนมารู้จักกับอาหารรสชาติอังกฤษแท้กัน

Make with love รสชาติของอาหารเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่งด้วยความรู้สึกดี ทุกอย่างที่ออกมาทำด้วยใจ ทุกๆ จากที่อาเปาะทำนั้น ล้วนสื่อถึงความตั้งใจ อยากให้ลูกค้ามีความสุขกับอาหารทุกจาน อยากให้คนรุ่นต่อ
ไปได่้ทานอาหารที่ออกจากครัวของ The Cup ตลอดไป
Mimi Grachangnetara (ลูกค้าคนสำคัญร้าน The Cup )

The CUP ตั้งแต่ยุคแรกถือเป็นแหล่งนัดพบของเพื่อนฝูงที่จบมาด้วยกัน เหนียวแน่นกันมาก ด้วยความที่ร้านจะเหมือนกับเป็นบ้านเป็น Homy & Friendly ให้ความอบอุ่น ลูกค้าหลายคนมารู้จักกันจนกลายเป็นเพื่อน เรียกว่าทำให้สนิทสนมกันมากขึ้นที่นี่ก็ 3 เจนเนอเรชั่นแล้ว

การได้มาที่นี่ ก้าวแรกที่เข้ามาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของร้าน The Cup พร้อมรับแขกที่มาทานเหมือนทานที่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน ทุกที่นั่ง
จะถูกจัดวางด้วยจานและอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมรับประทาน

เดอะ คัพ แห่งนี้เปิดมานานเกือบสี่สิบปี เป็นที่รักของคนในสังคมที่ชื่นชอบอาหารอังกฤษดั้งเดิม ร้านอาหารในตำนานที่พร้อมรองรับนักชิมรุ่นใหม่และรุ่นเก่าให้แวะเวียนมาสัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นในสไตล์ Homey & Friendly อบอุ่นด้วยมิตรภาพเสมือนครอบครัวเดียวกัน
-Supintar Atthakor (ลูกค้าคนสำคัญร้าน The Cup )

Paprika Goulash
Roast pork with homemade apple sauce
French Onion Soup

ในส่วนของเมนูอาหาร ส่วนใหญ่เน้นเป็นอาหารจานเดียวว Main Course ขึ้นชื่อของที่นี่คือ ขาแกะอบ เป๊ปเปอร์สเต็ก สลัดอกเป็ด สลัดกุ้ง ตับเป็ดทอด และอื่นๆ อีกมากมาย Roast Pork เป็นอาหารพิเศษสำหรับวันจันทร์และวันพฤหัส ส่วนวันพุธจะเสริฟความอร่อยด้วย Roast Beef

Recommend
-สลัดกุ้งใหญ่ เมนูนี้ แม่ครัวที่มีความชำนิชำนาญ มีประสบการณ์ทำงานยาวนาน 40 ปี เรียกว่าตั้งแต่ร้านเปิดถึงปัจจุบัน แม่ครัวจะนำกุ้งใหญ่ที่ทำความสะอาดแล้วไปทอดในน้ำมันจนพอสุกวางบนใจ คือ เนื้อด้านในของอาติโช๊กที่ทอดนิดๆ ราดด้วยน้ำซอสส้ม ส่วนผักสลัดนั้น ราดด้วยบาลซามิ
ควินิเกรท ยกออกมาเสิร์ฟจะได้รสชาติหวานนิดๆ ซ่าๆ เพราะในน้ำสลัดมีผิวส้มผสมอยู่ด้วย

แม่ครัวจะนำกุ้งใหญ่ที่ทำความสะอาดแล้วไปทอดในน้ำมันจนพอสุกวางบนใจ คือ เนื้อด้านในของอาติโช๊กที่ทอดนิดๆ ราดด้วยน้ำซอสส้ม ส่วนผักสลัดนั้น ราดด้วยบาลซามิควินิเกรท ยกออกมาเสิร์ฟจะได้รสชาติหวานนิดๆ ซ่าๆ เพราะในน้ำสลัดมีผิวส้มผสมอยู่ด้วย

ส่วนเนื้อกุ้งไม่ต้องพูดถึง กุ้งทั้งหวานทั้งมัน เหนียวนุ่ม บวกกับซอสส้มที่ราดมา ใช้เวลาไม่นานหมดจานไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำสลัด เอ็กซ์คลูซีฟจาก คงความเป็นเอกลักษณ์และหรูหรา เพื่อมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้

สลัดกุ้งใหญ่ Warm King Prawn on Bed of Artichoke Heart with Orange Butter Sauce
“Paprika Goulash” สตูเนื้อวัวเนื้อนุ่มรสเข้มกำลังดี
Breaded Deep Fried Fillet of Fish with Tartare Sauce

40 ปี เรียกว่าตั้งแต่ร้านเปิดถึงปัจจุบัน เมนูที่ได้รับความนิยมต่างๆ เช่น

Breaded Deep Fried Fillet of Fish with Tartare Sauce
เมนูปลาเพื่อสุขภาพ เนื้อปลาสด หวาน กรอบนอกนุ่มใน กับทาร์ทาร์ซอส เปรี้ยวๆหวานๆมันๆ

Roast pork with homemade apple sauce
หมูอบเนื้อนุ่มนุ่ม จานนี้ต้องห้ามพลาด

Smoked Duck Breast Salad with Blackberry & Port Sauce

Rack Of Lamb กริลล์แบบกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมยั่วยวน ไม่มัน เลือกรับประทานได้กับซอสถึง 3 ชนิด คือ เกรวี่ มินต์ หรือ เยลลี่เรดเคอเร้น

Rack Of Lamb
Lamb Curry served Rice & Mango Chuyney


“น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม ติดตู้เย็นของแม่บ้านเซเลบ”
THE CUP Restaurant และ Tea Room แนะนำ “น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม เดอะคัพ ชวนชิมสลัดทำเอง น้ำสลัดอร่อยมาก สูตรอังกฤษแท้ กว่า 50 ปี ที่มาดามแอนด์ ครูสอนถาษาฝรั่งเศส มาสอนให้เฉพาะคุณเป๊าะ เจ้าของร้าน สมัยศึกษาอยู่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษจริงๆ ที่คุณเป๊าะนำมาปรับรสชาติอีกนิด ให้เข้ากับลิ้นของคนไทย วันนี้ลองชิมนะคะ รับประกันไม่ผิดหวังแน่นอน ปรับรสชาติเพื่อให้เข้ากับลิ้นของคนไทย

น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม ติดตู้เย็นของแม่บ้านเซเลบ

ปิดท้ายด้วยของหวาน เมนูยอดนิยมที่ใครมาต้องสั่ง ของหวาน บานอฟฟี่และบลูเบอรี่ชีทเค้ก กลมกล่อมกำลังดี เค้กอร่อยๆ หอมหวาน คุณภาพแน่น รสชาติถือว่าโอเค เป็นอีกหนึ่งร้านที่หากได้มาเยือนจะต้องว้าวไปกับการตกแต่งภายในร้านที่อลังการไม่เหมือนใคร ร้านน่ารัก เหมาะสำหรับการมานั่งชิล ทานอาหารจิบเครื่องดื่ม บรรยากาศ คือ ใช่ รสชาติอาหารเครื่องดื่มลงตัวทั้งสองอย่าง และพนักงานบริการดีน่ารัก

นั่งชิล ทานอาหารจิบเครื่องดื่ม บรรยากาศ คือ ใช่ รสชาติอาหารเครื่องดื่มลงตัวทั้งสองอย่าง และพนักงานบริการดีน่ารัก

Dessert :
American Cherries Pie Butterscotch cake เมนูนี้แนะนำ
Pecan Pie , Chocolate Spong Cake, American Cherry Pie, Fish Market Apple Pie Chocolate Fudge Cake, Assorted Cakes

ด้านหน้าร้าน มีโซนของขวัญปีใหม่ อร่อยๆ คุกกี้ และน้ำสลัด ต้นตำรับ สูตรชาวอังกฤษแท้ มีบริการที่ ร้านเดอะคัพ ทุกวัน รับประกันคุณภาพวัตถุดิบ และความอร่อย

นอกจากนี้ ยังชองฝากสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก The Cup ที่คงความเป็นเอกลักษณ์และหรูหรา เพื่อมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ มีเค้ก คุ๊กกี้ แฮนด์เมด บรรจุแพคเกจน่าทานจำหน่าย
Christmas Cake
น้ำสลัด
House Dressing
Balsamic Dressing
Cookies – Chocolate Chips
Cornflakes
Oatmeal Cookies

ในเทศกาลแห่งความสุข Thanksgiving ที่กำลังจะมาถึงและ วันคริสตมาสต์ ทางร้านจัดเมนูเซ็ตพิเศษ 3 วัน ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม ศกนี้ ซึ่งเป็นเมนูที่หาทานยาก คริสมาสต์ เดย์ คริสมาสต์อีฟ และบอกซิ่งเดย์ (Boxing Day) หรือวันเปิดกล่องของขวัญ ปีนี้ The Cup เตรียมของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสต์ พลาดไม่ได้กับความอร่อยรสชาติสุดพิเศษ คริสต์มาสต์ พุดดิ้ง นำเข้าจากอังกฤษ

The Cup ชั้น 3 อาคารเลครัชดา
193/21-22 ชั้น 3 อาคารเลครัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย
เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
ตรงข้ามสวนสาธารณะ เบญจกิตติ ถนนรัชดาภิเษก
เปิดบริการเวลา 10.30 – 18.00 น. ทุกวันเว้นวันอาทิตย์

พิเศษในเดือนธันวาคม
เปิดบริการทุกวัน โทร. 02 264 – 0247-50
Facebook : TheCup 1980
โทร. 02264-0247-50, 09-4315-4397

#TheCupLakeRatchada
#TheCup #TheCupLakeratchada #เดอะคัพ #เดอะคัพเลครัชดา #Tearoom #Cake #Bakery #Coffee #yummy

1 ปี 1 ครั้ง…งานฮาลาลที่ดีที่สุด ยิ่งใหญ่กว่าใครในประเทศไทย !!

“Thailand Halal Assembly 2019”
งานประชุมวิชาการและงานแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ ปีที่ 6

ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย จัดงาน “Thailand Halal Assembly 2019” การประชุมวิชาการและการแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ ปีที่ 6 ภายใต้แนวคิด Algorithmic Touch of Halal เป็นกระบวนการสร้างรูปแบบการพัฒนาฮาลาลอย่างเป็นระบบรอบครอบที่จะนำไปสู่การสร้าง halal blockchain และการจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ ระหว่างวันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานจัดงาน Thailand Halal Assembly 2019 กล่าวว่า ในเวลานี้ กลับมาอีกครั้งกับงานฮาลาลที่กล่าวได้ว่าดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับ การประชุมวิชาการและการแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ “Thailand Halal Assembly” หรือ THA ซึ่งจัดโดย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย โดยปีนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สำหรับงาน “Thailand Halal Assembly 2019” การประชุมวิชาการและการแสดงสินค้าฮาลาลนานาชาติ ระหว่างวันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Algorithmic Touch of Halal เป็นกระบวนการสร้างรูปแบบการพัฒนาฮาลาลอย่างเป็นระบบรอบครอบที่จะนำไปสู่การสร้าง Halal Blockchain และการจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่ายและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ

การจัดงาน THA มาตลอด 6 ปี ทำให้เราตระหนังถึงการขาดแคลนการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ ซึ่งคอนเซปต์แนวคิดของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อบ่งบอกให้ประชาคมโลกให้ได้รับรู้ว่าการดำเนินการธุรกิจ สร้างฐานทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็งนั้นต้องการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ คิดไตร่ตรองอย่างรอบครอบ ซึ่งประเทศไทยจะถือว่าเป็นประเทศที่นำเสนอ Halal Blockchain ประเทศแรกของโลก และจะเป็นต้นแบบให้กับการประเทศอื่นๆ ทั้งประเทศที่เป็นมุสลิม และไม่ใช่มุสลิม เฉกเช่นที่เราเคยเป็นต้นแบบด้าน “ศาสนารับรอง วิทยาศาสตร์รองรับ” จนทั่วโลกให้การยอมรับมาแล้ว


ซึ่งภายในงาน Thailand Halal Assembly 2019 ครั้งนี้ ประกอบไปด้วย งานประชุมวิชาการนานาชาติ HASIB (Halal Science, Industry and Business) ครั้งที่ 12, งานประชุมวิชาการนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาล (International Halal Science and Technology Conference, IHSATEC) ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในปัจจุบันก็ว่าได้ รวมถึง กิจกรรมจับคู่ธุรกิจภิวัฒน์, การสร้างเครือข่ายการรับรองฮาลาล ประเทศไทย การประชุมประชาพิจารณ์มาตรฐานฮาลาล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและแสดงถึงศักยภาพฮาลาลไทยให้ผู้ร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับรู้ถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นในระบบและกระบวนการดำเนินงาน อันเป็นผลให้ผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลของไทยเป็นที่เชื่อถือในระดับนานาชาติ และ Thailand International Halal Expo 2019 หรือ THIHEX 2019 ที่เป็นงานแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 350 บูท หลากหลายประเภทสินค้า ที่ปีนี้มีไฮไลท์พิเศษๆ มากมาย ทั้งบูทผู้ประกอบการใหญ่ อย่างเช่น Central และ CP ที่จะยกร้าน 7-11 รวบรวมสินค้า Halal มาให้ช้อปกันอย่างสนุกสนาน และพิเศษสุดที่จะรวมรวมทั้งวัฒนธรรม, อาหาร, สินค้าหายากขึ้นชื่อจาก มัสยิดดังทั้ง 5 มัสยิด และสำหรับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถสอบถามข้อมูล
-รศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ 02-218-1053 และ www.Thailandhalalassembly.com
Facebook : Thailand Halal Assembly

ททท.ร่วมกับ ปณท สมาคมขัวศิลปะเชียงราย นำร่อง “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า โครงการตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชนด้วย QR Code “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ดังกล่าว สามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมาสู่จังหวัดเชียงรายได้ และตู้ไปรษณีย์เหล่านี้ถือเป็นผลงานศิลปะระดับ Master Piece ของจังหวัดเชียงราย เนื่องจากแต่ละตู้เป็นชิ้นงานที่รังสรรค์จากศิลปินเชียงราย และยังสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย อีกทั้งเป็นตู้ไปรษณีย์แห่งเดียวของประเทศไทยที่วาดภาพศิลปะลงบนตู้ไปรษณีย์

ทั้งนี้ ททท. สำนักงานเชียงราย ยังมีแผนดำเนินการประชาสัมพันธ์ตู้ไปรษณีย์และทำการตลาดส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวชมตู้ไปรษณีย์ “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ตามสถานที่ตั้งต่างๆ และให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกโดยการเช็คอินถ่ายภาพคู่กับตู้ไปรษณีย์ 5 ตู้ ต่างสถานที่กัน และต้องเป็นตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ต่างอำเภอกันอย่างน้อย 2 อำเภอ และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย แล้วรับรางวัลจาก ททท. สำนักงานเชียงราย และ ปณท ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563

         

สำหรับตู้ไปรษณีย์ดังกล่าวหลังจากการจัดนิทรรศการนี้จบลง ทาง ปณท จะได้นำไปติดตั้งตามสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญทั่วจังหวัดเชียงราย เพื่อใช้งานจริง ได้แก่

  1. วัดร่องขุ่น
  2. สิงห์ปาร์คเชียงราย
  3. หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ (หอนาฬิกาพุทธศิลป์)
  4. ตลาดไนท์บาร์ซ่า
  5. อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
  6. สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ
  7. พระตำหนักดอยตุง
  8. สามเหลี่ยมทองคำ
  9. จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย (วัดพระธาตุดอยเวา)
  10. วัดห้วยปลากั้ง
  11. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
  12. ไร่ชาฉุยฟง
  13. ตลาดเชียงของ (ชายแดนไทย-สปป.ลาว)
  14. วัดแสงแก้วโพธิญาณ
  15. ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน

สอบถาม ติดต่อได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงราย
โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5
ปณท เชียงราย โทร. 0 5371 1616 ต่อ 11

58 ปี ก้าวใหม่สวนสามพราน

สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ สวนสามพราน เปิดบ้าน เล่าเส้นทางการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง พร้อมเปิดโซนกิจกรรม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

สวนสามพราน   จัดกิจกรรม Open House  “58 ปี  ก้าวใหม่สวนสามพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง”  ชวนลูกค้า ผู้ประกอบการท่องเที่ยว  Tour Agents  ภาคีขับเคลื่อนธุรกิจและสังคม   และสื่อมวลชน มาเยี่ยมชมสถานที่ สัมผัสเส้นทางการเรียนรู้ และความเปลี่ยนแปลงใหม่ ในสวนสามพราน ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และเทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  

สวนสามพรานก่อตั้งในปี พ.ศ. 2505  โดยเป็นแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้ใกล้กรุงเทพฯ ที่ถ่ายทอดวิถีความเป็นไทย ผ่านกิจกรรมในหมู่บ้านไทยและโรงละคร  ที่นี่จึงได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ต้อนรับผู้นำประเทศต่างๆ อยู่เสมอ ขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทย รวมถึงกลุ่มครอบครัว  นิยมเดินทางมาสวนสามพรานเพื่อพักผ่อน สัมผัสความเป็นธรรมชาติ และเรียนรู้วิถีประเพณีวัฒนธรรม การละเล่น ศิลปะหัตถกรรมไทย และขนมไทย อย่างไรก็ตามหลังจากที่สวนสามพรานได้เป็นผู้นำร่วมขับเคลื่อนระบบอาหารยั่งยืนภายใต้สามพรานโมเดล(โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม)  เชื่อมโยงห่วงโซ่คุณค่าทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554   ได้นำไปสู่การ เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสวนสามพราน  โดยในปี 2561-2562   สวนสามพรานตัดสินใจปิดหมู่บ้านไทย  พร้อมปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในใหม่ทั้งหมด โดยใช้สามพรานโมเดล เป็นโมเดลหลักในการขับเคลื่อนแบรนด์สวนสามพราน  ให้เป็นแบรนด์ ที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน ภายใต้วิสัยทัศน์สร้างระบบอาหารยั่งยืน สู่เป้าหมายการมีชีวิตที่สมดุล

สำหรับการเปิดบ้าน Open House “58 ปี ก้าวใหม่สวนสาพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง   ทีมผู้บริหารสวนสามพราน นำโดย คุณสุชาดา ยุวบูรณ์ ประธานบริหาร  คุณอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ  คุณอรรจน์ ยุวบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ  และคุณอนัฆ นวราช ผู้จัดการทั่วไป ได้นำชมพื้นที่สวนสามพราน  ซึ่งมีจุดเด่นคือความเป็นธรรมชาติ  อยู่ริมแม่น้ำท่าจีน แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่  มีความครบวงจร ที่พัก ห้องประชุม ร้านอาหาร ลานกิจกรรม และมุมสวนธรรมชาติ  ที่สามารถ ปรับ จัด ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่  เทรนด์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  การท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก รวมถึงกิจกรรม Team Building  การประชุมสัมมนาที่ต้องการบรรยากาศที่ผ่อนคลาย  ขณะที่กิจกรรมการท่องเที่ยว และการเรียนรู้ภายในสวนสามพราน นั้นเอื้อต่อการคิดนอกกรอบ  โดยทุกจุดสามารถจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลาย และมี Work Shop ให้ทดลองทำ  ที่พร้อมให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่มีคุณค่า รวมถึงยังสามารถเชื่อมโยงไปเยี่ยมบ้านฟาร์มเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายด้วยความโดดเด่นและแตกต่างของสวนสามพราน อันเป็นผลมาจากการขับเคลื่อนสามพรานโมเดล เชื่อมโยงห่วงโซ่อาหารอินทรีย์   ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง นั่นคือเมนูอาหาร ในห้องอาหารทั้ง 3 แห่งของสวนสามพราน  คือ อินจัน แวนด้า และห้องอาหารริมน้ำ  รวมถึงในส่วนการจัดเลี้ยง  ที่จะมีการใช้วัตถุดิบอินทรีย์ มากกว่า 70%   หรือประมาณ 15 ตันต่อเดือน  ในการทำอาหารและขนม โดยวัตถุดิบอินทรีย์ จะถูกส่งตรงจากเกษตรกรอินทรีย์ ในเครือข่ายสามพรานโมเดล

นอกจากดีต่อสุขภาพทุกคนแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ให้ยั่งยืน  ซึ่งในแต่ละจุดของห้องอาหาร และจัดเลี้ยง จะมีภาพและชื่อเกษตรกรอินทรีย์ที่ทำงานร่วมกับสวนสามพรานพร้อมบอกผลผลิตที่ผลิตด้วย  โดยปัจจุบันมเกษตรกรอินทรีย์ในเครือข่ายสามพรานโมเดลจำนวน 16 กลุ่ม จำนวน 180 ครอบครัว  ในจังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี และประจวบคีรีขันธ์

นายอรุษ นวราช  เล่าว่า  นอกจากมาท่องเที่ยว พักผ่อนแล้ว ทุกคนที่เข้ามาสวนสามพราน  จะได้แรงบันดาลใจ จากความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อาหารทั้งระบบ จากการทำงานขับเคลื่อนสามพรานโมเดลของสวนสามพรานร่วมกับเกษตรกรและภาคส่วนต่างๆ   ตั้งแต่การเพาะปลูก การผลิตปัจจัยการผลิต การเก็บเกี่ยว การแปรรูป การตลาด การพัฒนาต่อยอด และบอกเล่า  โดยพื้นที่หลายส่วนมีการบริหารจัดการ ภายใต้แบรนด์ Patom  อาทิ Patom Organic Farm, Patom Organic Village, Patom Organic Café, Patom Spa,  Patom  Shop   รวมถึงผลิตภัณฑ์แบรนด์ Patom    ซึ่งนำวัตถุดิบอินทรีย์จากเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล และปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม มาแปรรูปเป็นของกินของใช้ และ Body Care Products  มาตรฐาน GMP ภายใต้แนวคิด Organic Living ด้วย    โดยในด้านความรู้  ยังมีการก่อตั้งสามพรานโมเดล อะคาเดมี่  โดยมีพื้นที่สำนักงานติดกับตลาดสุขใจ  เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ประกอบการ องค์กรที่อยากจะนำ สามพรานโมเดลไปขยายผล ไปขับเคลื่อนในพื้นที่ของตนเอง”

ในวันเปิดบ้าน “58 ปี  ก้าวใหม่สวนสามพราน สู่พื้นที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลง”    นอกจากมีการเปิดตัวภาพยนตร์สารคดี เรื่อง Change ที่พนักงาน และ เกษตรกรอินทรีย์  เป็นผู้เล่าเรื่องการเรียนรู้ การปรับตัว กับการเปลี่ยนแปลง และคุณค่าที่เกิดขึ้นกับตนเอง ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมแล้ว  ยังมีการเปิดพื้นที่กิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ที่มาเยือนได้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ใหม่ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลง ด้วย  เริ่มจากหมู่บ้านปฐม   ที่ปรับเปลี่ยนศูนย์แสดงวัฒนธรรมไทย (หมู่บ้านไทย) มาเป็น “ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ”  หมู่บ้านแปรรูปสินค้าอินทรีย์ ตามวิถีชีวิตแบบไทย ที่ยึดหลักปัจจัย 4 ผ่านการทำกิจกรรมตามเส้นทางวัตถุดิบ สร้างประสบการณ์    โดยมีกิจกรรมให้เลือกทำ เพื่อเรียนรู้ระบบอาหาร ตั้งแต่การผลิต  การทำปัจจัยการผลิต การแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่าย   โดยมี 3 เส้นทาง ให้เลือกเรียนรู้ คือเส้นทางข้าวอินทรีย์ เส้นทางกล้วยอินทรีย์   และเส้นทางสมุนไพรอินทรีย์

ปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม   ที่ได้มีพัฒนาสวนผลไม้เก่า 30 ไร่ ริมแม่น้ำท่าจีน เป็นออร์แกนิกฟาร์ม  เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เชิงเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล โดยมีกิจกรรมท่องเที่ยวฟาร์มที่อิงกับวัตถุดิบตามฤดูกาล  ให้เป็นที่พักผ่อนแนวธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถจองกิจกรรม เพื่อทำ Workshop การทำเกษตรอินทรีย์เบื้องต้น รวมถึงมาทำอาหาร   และได้สัมผัสกับรสชาติอาหารจากพืชผักธรรมชาติ สด สะอาดปลอดภัย แตกต่างจากพืชผักที่ขายในตลาดทั่วไปด้วยตนเอง  ทั้งนี้ในวันเปิดบ้านสวนสามพราน ได้มีการพานั่งเรือข้ามไปฝั่งฟาร์ม พร้อมให้ทุกคนสัมผัสแปลงอินทรีย์ ที่มีการปลูกพืชหลากหลาย    และชิม ชาสมุนไพร ออร์แกนิก  และสัมผัสประสบการณ์การเล่น สไลเดอร์โคลน  ด้วย

ตลาดสุขใจ   ภายในสวนสามพราน ทุกคนที่มาเยือนยังจะได้เรียนรู้ โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม หรือสามพรานโมเดล  นั่นคือ ตลาดสุขใจ  ที่เปิดมา 9 ปี แล้ว  ทำให้เกษตรกรอินทรีย์ กว่า 180 ครอบครัว และชุมชนรอบสวนสามพราน มีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตอินทรีย์  ได้รู้จัก เข้าใจผู้บริโภค  ขณะที่ผู้บริโภค ก็ได้เข้าถึงแหล่งอาหารอินทรีย์ด้วย 

Circular Economy  ในวันเปิดบ้าน  สวนสามพรานยังแสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยนอกจากมีการพัฒนาพื้นที่ให้ปราศจากยาฆ่าแมลงและสารเคมีใดๆ โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ IFOAMมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555  ภายในพื้นที่สวนสามพราน
ยังมีการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ   

ตามนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy   มีการจัดการขยะจากอาหาร (Food Waste Management)  โดยขยะจากในห้องอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ส่วนกิจกรรม จะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ทำชีวภัณฑ์ในการดูแลต้นไม้ในพื้นที่ ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ทำไบโอแก๊สใช้ในกิจกรรมย้อมผ้า ทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งผู้ที่เข้ามาสวนสามพรานสามารถมาเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม จากฐานสาธิต และสถานีทดลองการทำปุ๋ยหมักในหมู่บ้านปฐม   ที่มีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ พร้อมสอนทำ และแนะนำรูปแบบ  ให้นำกลับไปทำที่บ้านได้ 

ตลอด 58 ปี สวนสามพรานได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลบริหารธุรกิจ Hall of Fame ประเภทแหล่งท่องเที่ยวแหล่งนันทนาการเพื่อการเรียนรู้มาอย่างต่อเนื่อง  โดยสวนสามพรานยังเปิดให้มีการศึกษาดูงานทั้งด้านการบริหารจัดการขยะ Zero Waste การบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน องค์กรแห่งการเรียนรู้  การขับเคลื่อนสามพรานโมเดล หรือ โมเดลธุรกิจเกื้อกูลสังคม  สวนสามพราน บนพื้นที่ 130 ไร่  ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ยังคงแน่วแน่ และมีความตั้งใจที่จะให้ทุกพื้นที่ ทุกกิจกรรม ได้ทำหน้าที่จุดประกายสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสำหรับทุกคน สู่เป้าหมายการมีชีวิตที่สมดุล ครอบคลุมทั้ง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ   ผู้สนใจมาท่องเที่ยว มาพักผ่อน และมาค้นหาแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ สำหรับตนเอง ทีมงาน หรือครอบครัว

สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสวนสามพรานมาได้ที่
โทร.034-322-588-93  หรือเว็บไซต์ www.suansampran.com

Villa Market “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”

…….พาไปทัวร์ แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก
“วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”บ้านหลังที่ 2 ของคนเมือง มีอะไรกินบ้าง? ไปชมกัน

วันนี้ Toptotravel พาไปทัวร์ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก ของใหม่ที่ใครๆ ก็ต้องลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”แหล่งรวมของอร่อย ของดีจากทั่วโลกเปิดให้บริการแล้วสำหรับบ้านหลังใหม่ ของ วิลล่า มาร์เก็ท กับ สาขาหลังสวน ซึ่งการกลับมาของวิลล่าฯ หลังสวน ในครั้งนี้ทำเอาเหล่านักช็อปหัวใจพองโตกันพอดูเพราะจัดเต็มทั้งบรรยากาศที่ดูอบอุ่น หรูหรา แบ่งโซนเป็นสัดส่วน เดินง่าย และมีสินค้าอิมพอร์ตจากทั่วโลกมาให้ช็อปกันเพลินการเดินทางมาก็ง่ายแสนง่าย เพราะทำเล วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน

ตั้งอยู่ซอย 2 ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน เรียกได้ว่า สะดวกสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองที่ต้องขับรถมาทำงานและอยากจะแวะช็อปปิ้งก่อนกลับบ้านในส่วนของบรรยากาศ วิลล่า มาร์เก็ท สาขา หลังสวนตกแต่งอย่างอบอุ่นให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในครัวที่มีของให้เลือกหยิบมาทำเมนูแสนอร่อยอย่างไม่รู้จบและยังมีโซนที่เปิดโอกาสให้ได้ลิ้มลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ

โดยแบ่งออกเป็น 6 โซน สนองนีสไลฟ์สไตล์ ของทุกเจเนอเรชั่น แค่เดินลงมายังชั้น B1 ก็จะพบกับ โซน V Space
(วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus) โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถมานั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่ม นั่งพักชิลๆ

V Space (วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus)

เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่าจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯ คนรักสุขภาพ ชอบทานผัก ผลไม้ ต้องถูกใจ Fruit & Vegetables Zone (ฟรุต แอนด์ เวทเทอะเบิ้ล โซน) เพราะที่สาขานี้มีการจัดวางเรียงผัก ผลไม้ ได้อย่างล่อใจ โดยเฉพาะ ผักผลไม้ Organicนานาชนิดจากทั่วโลก เรียกว่า หากต้องการทาน องุ่นก็มีหลายหลายชนิดให้เลือกสรร ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

สายเนื้อต้องร้อง OMG! ให้กับ Butcher & Seafood Zone
(บุชเชอร์ แอนด์ ซีฟู้ด โซน) โซนนี้ถือว่าเด็ดเพราะรวบรวมเนื้อคุณภาพดีจากทั่วโลก อย่าง ออสเตรเลีย, อเมริกา,อาร์เจนติน่า และ ญี่ปุ่น ส่วนพระเอกของโซนนี้ยกให้ Tomahawk เนื้อโทมาฮอว์ก จาก ออสเตรเลีย, Ribeye เนื้อริบอาย, Tenderloin เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ มีให้เลือกมากมาย
เป็นสวรรค์ของคนรักสเต็กก็ว่าได้ และยังเก๋ด้วยป้ายราคาดิจิตอล ซึ่งจะอัพเดทราคาสินค้า ล้ำนำเทรนด์ไปอีก

อาหารทะเล ของสด และปลาน้ำจืด โซนอาหารทะเลสดๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งกุ้งแม่น้ำ ปลาทะเล ปลาหมึก ส่วนพาร์ทอาหารทะเลก็ไม่ธรรมดาละลานตาไปด้วย ปลาสดๆ หลากหลายชนิด โดยมีการใช้เทคโนโลยีเครื่องพ่นไอน้ำจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยรักษาความสดใหม่และฆ่าเชื้อโรค

“V” Make a new home โซนนี้สำหรับคนชอบดริ้ง Wine Cellar Zone (ไวน์ เซลเลอร์ โซน) โซนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พิเศษมากสาขานี้มี Wine Cellar รวมไวน์จากทั่วโลกมาไว้ในห้องนี้ ถ้ามีคำถามห้องนี้มี Wine Specialist คอยดูแลแนะนำ พิเศษสุดสำหรับสมาชิก V Plus Member ใช้ Vplus Point เพื่อลองชิมไวน์ แหล่งรวมไวน์หลากหลายชนิดจากทั่วโลก

โซนนี้นอกจากตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของสินค้าแล้วยังเก๋เลิศกับบริการให้ท่านได้ลิ้มลองรสสัมผัสไวน์ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์คอยให้คำแนะนำใครที่อยากได้เครื่องดื่มจิบคู่กับอาหารมื้อพิเศษ อยากแนะนำให้ลองมาที่ โซน Wine Cellar Zone ของ วิลล่าฯ หลังสวนรับรองได้ไวน์รสเลิศถูกใจกลับบ้านแน่นอน

Activity Zone (แอคทีวิตี้ โซน) โซนสาธิตวิธีปรุงอาหารสด และReady to Eat Zone (เรดดี้ ทู อีท โซน) เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่านจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯได้ผ่อนคลายกับช่วงเวลาแห่งความสุขบ้าง ซึ่ง Activity Zoneให้บริการปรุงอาหารสดพร้อมทานซึ่งหากต้องการทานสเต็กดีดีสักมื้อก็สามารถเดินไปเลือกเนื้อดีดีสักชิ้นในโซน Butcher & Seafood Zone
มาให้ทางเชฟปรุงได้เลย

ส่วนใครที่ชอบความรวดเร็วก็แวะ Ready to Eat Zone หาของอร่อยทานจะมื้อเช้า สาย เที่ยง เย็น ก็มีบริการ ทั้งเมนูอาหารญี่ปุ่น Omakase Set ในราคาย่อมเยาว์ อยากลิ้มลองอาหารซูชิสุดหรูแบบเชฟจัดให้ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม และอาหารสไตล์เวสเทิร์นทำคอร์สออกมาได้น่าสนใจและท้าทายมาก

ปิดท้าย การพาทัวร์บ้านหลังใหม่วิลล่าฯ สาขา หลังสวน
ด้วยความเก๋เริ่ดกับ บริการ Eat & Shop (อีท แอนด์ ช็อป) หรือบริการเลือกซื้อสิ้นค้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งสามารถเลือกช็อปปิ้งแบบไม่ต้องเดินให้เมื่อย เพียงแค่นั่งรอในโซน V Space หรือ กำลังนั่งทานอาหารใน Ready to Eat Zone แล้วอยากช็อปแต่ไม่มีเวลามากพอก็สามารถใช้บริการนี้ได้
สะดวกสบายสุดๆ ไปเลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เส้นทางถนนเพลินจิต จากนั้นเลี้ยวเข้าไปที่ถนนหลังสวน (*เดินรถเพียงทางเดียว) จาก ถ.เพลินจิต เข้าสู่ถนนหลังสวนประมาณ 700 เมตร Villa Market LangSuan จะอยู่ทางซ้ายมือ

ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับ BTS สายสีลม สามารถลงที่สถานีราชดำริ และ BTS สถานีชิดลมสำหรับสายสุขุมวิท นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการ MRT โดยใช้สถานีสีลม

อยากให้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “V” Make a new home
ได้แล้ววันนี้ที่ ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/villamarketofficial/

Brasserie 9

อยากมีฟิลลิ่งแบบนี้มั้ย?

Brasserie 9 ร้านอาหารสไตล์  Fine French Cuisine
ความอร่อยที่ เปิดให้บริการ ด้วยอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม พร้อมเสริฟด้วยหลากหลายเมนูชั้นนำ ที่ปรุงแต่งรสชาติโดยทีมเชฟฝีมือเยี่ยม พร้อมวัตถุดิบพรีเมียมที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ  พิถีพิถันทุกขั้นตอน และคงรสชาติในแบบดั้งเดิม เพื่อให้ได้อาหารฝรั่งเศสแท้ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแกะอบเสิร์ฟกับซอสไวน์แดงและราตาตุย, โทมาฮอร์ค สเต็กเนื้อริบอายติดกระดูกชั้นดี นอกจากนี้ยังมีเมนูเมนคอร์ส ซุป สลัด และของหวานหลากหลายเมนู เช่น หอยนางรม มาเรียน โอเลลอง, ปลาแซลมอนหมักสูตร Brasserie 9, แครมบลูว์เร่ราดซอสราสเบอรี่กับผลไม้สด และอีกมากมาย

ในส่วนของสถานที่นั้น  Brasserie 9 ให้ความหรูหราด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ในอาคารสีขาวหลังใหญ่สองชั้น  ด้านในได้รับการตกแต่งอย่างละเมียดละไม แบ่งเป็นโซนต่างๆ มีมุมบาร์เครื่องดื่ม

ส่วนของอาหารจะเป็นอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อแกะอบเสิร์ฟกับซอสไวน์แดงและราตาตุย, โทมาฮอร์ค สเต็กเนื้อริบอายติดกระดูกชั้นดี นอกจากนี้ยังมีเมนูเมนคอร์ส ซุป สลัด และของหวานหลากหลายเมนู เช่น หอยนางรม มาเรียน โอเลลอง, ปลาแซลมอนหมักสูตร Brasserie 9, แครมบลูว์เร่ราดซอสราสเบอรี่กับผลไม้สด และอีกมากมาย

ห้องเก็บไวน์ขนาดใหญ่ และห้องเก็บซิการ์ไว้คอยบริการ ที่นี่รองรับการจัดงานเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ ได้ตามทุกความต้องการ บรรยากาศสบายๆ ยามเย็นระหว่างรถติดๆแวะมาเปิด Wine หรือชิวเบียร์ กันได้นะคะ

คุณต่าย ศิริโสภา ตันบุญเพิ่ม Sales Manager ร้าน Brasserie 9 เล่าส่วนของห้องไวน์ว่า ส่วนของไวน์ เนื่องจากเราเป็นร้านอาหารฝรั่งเศส ก็จะมีไวน์ฝรั่งเศสประมาณ 50% ที่เหลือก็จะคละกันไปทั้งไวน์ชิลี  ไวน์ออสเตรเลีย อเมริกา ค่อนข้างเลือกได้หลากหลาย ราคาไวน์เริ่มตั้งแต่ 1,200 ไปจนถึง 2 แสนกว่าบาท ตัวไหนน่าสนใจจะนำเข้ามาในริช ในห้องไวน์นี้ก็จะมีที่สำหรับจัดไวน์เทสติ้ง ประมาณ 6-10 ท่าน เป็นประจำ และในส่วนของห้องจัดเลี้ยงก็สามารถรองรับได้หลายขนาด ตามจำนวนที่ลูกค้าต้องการ ทั้งกรุ๊ปเล็ก ๆ และกรุ๊ปใหญ่

ร้านอาหารแห่งนี้ เป็นธุรกิจร้านอาหารในเครือ บริษัท กรูเมท์เฮ้าส์ จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท บางกอกแอร์เคเทอริ่ง จำกัด (BAC) ให้บริการอาหารแปรรูปเพื่อจัดจำหน่าย รวมถึงให้บริการจัดเลี้ยงและให้บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องอาหาร  เปิดให้บริการอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม พร้อมเสริฟด้วยเมนูชั้นนำที่ปรุงแต่งรสชาติโดยทีมเชฟฝีมือเยี่ยม โดยเฉพาะวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมที่สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศ ความพิถีพิถันไม่ต้องห่วง ทุกขั้นตอน ทั้งรสชาติในแบบดั้งเดิม

อาหารอร่อย หลากหลายเมนู เครื่องดื่มแน่นๆ พร้อมแล้ว ยามเย็นระหว่างรถติดๆ อย่าลืมกันนะคะ แวะมาเปิด Wine หรือชิวเบียร์ กันได้นะคะ

B9 Lunch Set Menu
430++ for appetizer+main or main+dessert 520++ for appetizer+main+dessert
Appetizers
Salads
• Brasserie 9 Caesar salad
• Market garden salad
• Cajun shrimp salad
• Salade Niçoise
Soups
• Chicken consommé
• “Soupe du jour”
Entrées
• Beef carpaccio
• Farmhouse charcuterie board –
Chef’s selection of imported meat, Home-made pork terrine and pickles
• Classic cheese croquettes with a mix berry sauce
• Mussels with tomato sauce or
White wine, shallots and garlic

สามารถเดินทางมาได้ถึง 2 ช่องทางคือ สาทร ซอย 6 (ใกล้ BTS ช่องนนทรี) หรือ ซอยพิพัฒน์ (สีลมซอย3) พร้อมที่จอดรถกว้างขวาง

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:30น. – 24:00 น. ( ครัวปิด 23:00 น. )
สำรองโต๊ะ สอบถามรายละเอียดของร้าน Brasserie9

เพิ่มเติมได้ที่เพจ Brasserie9 โทร 022342588
www.brasserie9.com

ชีพจรลง SOUTH

เรียงร้อยรอยธรรม เมือง ๒ ธรรมนครศรีฯ

การเดินทางจะช่วยให้เราค้นพบความงดงามในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาชีวิต เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา
Toptotravel มีโอกาสเดินทางไปร่วมกิจกรรม ททท. ร่วมกับพันธมิตรและชุมชน ถวายกฐินสามัคคี ณ วัดพรหมโลก จังหวัดนครศรีธรรมราช

เช้านี้..เริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ FD3188 ก่อนจะมาถึง วิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางคือการนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินนครศรีธรรมราช มีบินตรงหลายเที่ยว รอบนี้แนะนำของ Thai AirAsia บินตรงลงนครฯ ก่อนอื่นขอแวบหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า

เมื่อเดินทางถึงสนามบิน จ.นครศรีธรรมราช กับความหลากหลายมุมที่ห้ามพลาด จุดแรกเราแวะรับประทานอาหารเช้า ณ ร้านโกปี๊ สาขาศาลากลาง ร้านบรรยากาศดี ตกแต่งน่ารัก สไตล์เหมือนร้าน คาเฟ่แต่มีขายทั้งเมนูขนมหวานและอาหารด้วย

บอกเลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่ เพราะ เป็นร้านดังของคนท้องถิ่น ร้านโกปี๊ ข้างศาลากลาง น่าจะเป็นร้านที่หลายคนรู้จักกันดี โกปี๊ หมายถึงกาแฟ ที่นี่เค้าขายหลายอย่างเลยค่ะ ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว บักกุเต๋ ร้านที่นี่ค่อนข้างใหญ่กว่าสาขาอื่นๆ

ร้านดังของคนท้องถิ่น จิบกาแฟ ยามเช้าหลายคนมักมาเริ่มต้นมื้อแรกของเช้าวันใหม่กันที่นี่คะถูกใจกับ เมนูบักกุดเต๋ ที่เสริฟแบบเดือดๆ มีทั้งแบบถ้วยเล็กแบบทานคนเดียว และแบบที่เราทานวันนี้กินกันได้หลายคน ส่วนบรรยากาศร้านตกแต่งเรียบง่าย มีมุมพอให้ถ่ายรูป Selfie กันได้เยอะเลย

ร้านใหญ่เปิดมานานกว่า 20 ปี ร้านของชาวนครฯ นั่งสบาย กว้างขวางเป็นระเบียบดี มีห้องแอร์ส่วนตัวด้วย บริการดีเอาใจใส่ อาหารวัตถุดิบสดและสะอาดมากๆ รสจัดจ้านชัดเจนกำลังดีทานง่ายดี ลูกค้ามีทั้งคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เปิดถึงตีสี่กันเลย
ทีเดียว

ขอได้ไหว้รับ โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย
ครั้งนี้เรามาวัดเจดีย์ หรือ วัดไอ้ไข่

วัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ที่ อ.สิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่นี่มีเรื่องราวที่น่าสนใจ เคยเป็นวัดร้างที่เชื่อกันว่า สร้างมาเป็นเวลานับ 1000 ปี เข้ามาในส่วนของ วัดมีเพียงเจดีย์โบราณเก่ารกร้างอยู่ตรงบริเวณที่กำลังสร้างโบสถ์ ในปัจจุบัน จนเมื่อประมาณ พ.ศ.2500 มีการบูรณะวัดเจดีย์ขึ้นมาใหม่มีพระเข้ามาอยู่ ประจำเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของชาวบ้านใกล้เคียง และเป็นที่ประดิษฐานของ “พ่อท่าน” พระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ยังเป็นวัดร้าง ไอ้ไข่วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ คือ รูปไม้ แกะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 9 -10 ขวบ ตั้งอยู่ในศาลาในวัดเจดีย์เชื่อกันว่าเป็น วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ ณ วัดแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านตั้งแต่ในละแวกใกล้ วัดไปจนถึงต่างจังหวัดในแถบภาคใต้จากศรัทธาที่เชื่อกันว่า “ขอได้ไหว้รับ” โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย ไปเดินชมรอบๆ ด้วยกันคะ

เจดีย์ไอ้ไข่ เทพแห่งสามัญชน “ขอได้ไหวรับ” ขออะไรก็พร้อมให้ ทั้งโชคลาภ และ ค้าขาย เป็นอีกหนึ่งแหล่งรวมความศรัทธาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว

เช้าวันที่ 26 ตุลาคม 2562 ททท. ร่วมกับพันธมิตรและชุมชน ถวายกฐินสามัคคี ณ วัดพรหมโลก จังหวัดนครศรีธรรมราชการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดพิธีถวายกฐินสามัคคี ณ วัดพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการถวายกฐินสามัคคี ททท. ร่วมด้วย นายกฤษ พัฒนสาร ผู้บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย พันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังมี น.ส.สมฤดี จิตรจง รองผู้ว่าการด้านบริหาร ททท., นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ ททท.,น.ส.ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ททท. นครศรีธรรมราช ,พนักงาน ททท. และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธีฯ รวม 150 คน ณ วัดพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งทัศนศึกษาและสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช

นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในการถวายกฐินสามัคคี
นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้

วันนี้ททท.พาไปชิมอาหาร ถ้าจะหาร้านอร่อยๆ มื้อกลางวัน ต้องร้าน  ร้านริมเล ซีฟู๊ด อำเภอท่าศาลา เป็นร้าอาหารท้องถิ่น ชื่อร้าน ริมเลซีฟู้ด ท่าศาลา ร้านนี้อร่อย ร้านนี้อร่อย บรรยากาศดี ต้นไม้ร่มรื่น อาหารนี่อร่อยทุกอย่าง บรรยากาศดี ต้นไม้ร่มรื่น อาหารนี่อร่อยทุกอย่าง

ร้าน ริมเลซีฟู้ด ท่าศาลา
เข้าเยี่ยมชมพระตำหนักปากพนัง ที่ก่อสร้างด้วยการร่วมแรงร่วมใจของชาวใต้เพื่อแสดงความจงรักภักดี

นอกจาก ร่วมกับพันธมิตรและชุมชน ถวายกฐินสามัคคี ณ วัดพรหมโลก เที่ยวนครศรีธรรมราช แวะเช็คอินกันต่อที่ โครงการ “คืนสู่แผ่นดินเกิดลุ่มน้ำปากกพนัง สนองพระราชดำริ พระตำหนักประทับแรม อำเภอปากพนัง โดยกรมชลประทานพิจารณาก่อสร้างประตูระบายน้ำปากพนังที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำ และเก็บกักน้ำจืด พร้อมกับการก่อสร้างระบบคลองระบายน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วม และระบบกระจายน้ำเพื่อการเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังมีจุดชมวิวสวยๆ ที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น

เพื่อพลิกฟื้นคืนชีวิต ให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ในอดีต อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชและในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง “พรุควนเคร็ง” ประสบกับปัญหาเดือดร้อนจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ทั้งอุทกภัยการขาดแคลนน้ำจืด ปัญหาดินเปรี้ยว ปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำพื้นที่เกษตร ผลผลิตตกต่ำ ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ยากแร้นแค้น ส่งผลถึงการอพยพแรงงานและการโยกย้ายถิ่นฐาน จากดินแดนซึ่งเคยเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งพื้นที่นาและในแม่น้ำ กลับกลายเป็นพื้นที่ที่มีความยากจนมากที่สุดของประเทศ

คุณกาญจนา ลุยจันทร์ เจ้าหน้าที่นักประชาสัมพันธ์ โครงการฯ บรรยายผ่านเครื่องขยายเสียง ขณะที่พาเดินเยี่ยมชมภายในอาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติว่า ลุ่มน้ำปากพนัง มีพื้นที่ 2 ล้านกว่าไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีการทำนามากที่สุดถึง 4 ล้านไร่ เป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศมาตั้งแต่อดีต

อาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ
ม.5 ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช 80370
โทร. 075 416127 fax: 075 416128

ร่วกันเพื่อพลิกฟื้นคืนชีวิต ให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ในอดีต อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชและในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง “พรุควนเคร็ง” ประสบกับปัญหาเดือดร้อนจากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก ทั้งอุทกภัยการขาดแคลนน้ำจืด ปัญหาดินเปรี้ยว ปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำพื้นที่เกษตร ผลผลิตตกต่ำ ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ยากแร้นแค้น ส่งผลถึงการอพยพแรงงานและการโยกย้ายถิ่นฐาน จากดินแดนซึ่งเคยเป็น “อู่ข้าวอู่น้ำ” มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งพื้นที่นาและในแม่น้ำ กลับกลายเป็นพื้นที่ที่มีความยากจนมากที่สุดของประเทศ

อาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ
ม.5 ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช 80370
โทร. 075 416127 fax: 075 416128

ดีที่สุดที่ ครั้งหนึ่งในชีวิต…กับ โอกาสเข้าร่วมกิจกรรม CSR Journey D กับ Thai Air Asia” ในชุมชนพรหมโลก เป็นอีกทางเลือกการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ทำให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนจริงๆ ได้ลองใช้ชีวิตแบบคนในชุมชน

โดยร่วมกันปลูกต้นลูกประพืชท้องถิ่นแห่งเขาหลวง เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน ร่วมพิธีทอดกฐินพระราชทาน ณ วัดพรหมโลก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2325 อุโบสถประดับด้วยแก้วสีฟ้าและขาว ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังตั้งแต่เริ่มสร้างวัด มีรูปปั้นหลวงปู่พรหมโลกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ผู้คนนับถือ วัดนี้ยังเป็นสำนักรักษาพิษงูด้วยยาสมุนไพร โดยมีหมอ สมนึก จันทรประสูติ เป็นผู้รักษาให้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

คุณลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผอ.สนง.นครศรีฯ
คุณสุภาพร เชาวพ้อง ประธานกลุ่มการท่องเที่ยวโดยชุมชนพรหมโลก

Toptotravel เดินทางถึงชุมชนพรหมโลก และนั่งรถแดงเมืองนครไปยังอุทยานแห่งชาติเขาหลวง สถานที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำชม บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่น่าประทับใจ กล่าวต้อนรับคณะ โดยตัวแทนจาก คุณสุภาพร เชาวพ้อง ประธานกลุ่มการท่องเที่ยวโดยชุมชนพรหมโลก กล่าวต้อนรับคณะฯ

นายกฤษ พัฒนสาร ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์

-นายกฤษ พัฒนสาร ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรม CSR Journey D โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน-นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้

ในวันฝนโปรยปราย จุดเริ่มต้นของการเดินทาง Toptotravel เดินทางถึงชุมชนพรหมโลก และนั่งรถแดงเมืองนครไปยังอุทยานแห่งชาติเขาหลวง สถานที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำชม บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาที่น่าประทับใจ  การเข้าร่วมกิจกรรม CSR Journey D กับ Thai Air Asia และชุมชนพรหมโลก “1 ใน 4 ชุมชน” โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน และร่วมปลูกต้นลูกประ พืชท้องถิ่นแห่งเขาหลวง และพืชเศรษฐกิจ อื่นๆ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนพรหมโลก และชมน้ำตกพรหมโลก ภายในอุทยานฯ

ต่อด้วยนั่งรถแดงลงมายังลานกิจกรรมวังปลาแงะ เพื่อชมการแสดงต้อนรับ “มโนราห์” หรือ ภาษาชาวบ้านเรียกโนรา ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงพื้นเมืองที่ เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของภาคใต้ มาที่นี่พี่ๆ ชอบมาก เพราะได้สนุกกับกิจกกรมทำอาหารโบราณท้องถิ่น แบ่งตามฐานต่างๆ เช่น ขนมโค น้ำพริกลูกประ ขนมจาก ขนมปะดา และกิจกรรมโชว์เคสทำผ้าบาติก หนึ่งในผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนแห่งนี้

สุดโปรดจริงๆ อาหารใต้ รสดั่งเดิม ครัวนายหนัง นครศรีธรรมราชร้านดังของคนท้องถิ่น เป็นอีกหนึ่งร้านของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เปิดให้บริการมาเกือบ 20 ปีแล้ว เป็นร้านที่คนท้องถิ่นก็มาทานเอง

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ นครศรีธรรมราชที่รู้จักกันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ เยี่ยมชมเมืองนครศรีธรรมราช กราบสักการะพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร และมีอายุการก่อสร้างเก่าแก่ที่สุด มีความสำคัญทางศาสนามาแต่โบราณ อีกทั้งมีโบราณสถานที่สำคัญ ของประวัติศาสตร์ทางโบราณคดีและศาสนา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนคร เรียกว่าวัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นมิ่งขวัญชาวเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัด

ร่วมกันแห่ผ้าขึ้นธาตุ ประเพณีที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนครฯ นั้นมีหลายประเพณี หนึ่งในประเพณีที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนครฯ คือ “ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ” ทั้งนี้เพราะประเพณีนี้ไม่มีปฏิบัติกันที่ใดในประเทศไทย นอกจากเมืองนครฯ เท่านั้น ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ คือ ประเพณีที่พุทธศาสนิกชนร่วมกันแห่ผ้าขึ้นห่มโอบรอบฐานพระมหาธาตุที่ประดิษฐานภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช มักกระทำกันในวันสำคัญทางพุทธศาสนา

วัดพระธาตุ
ตั้งอยู่ที่ ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช 80000

ก่อนกลับที่พัก แวะช็อปปิ้ง ถนนสายเครื่องเงิน เครื่องถมศรีนคร ของที่ระลึกชวนประทับใจ ของนครศรีธรรมราชมีชื่อเสียงด้านเครื่องถม ทั้งถมเงิน ถมทอง ไม่ใช่เครื่องเงินธรรมดา ถมลายไทยชุดเครื่องถมของแท้เมืองนคร กำไล สร้อยแขน แหวน สร้อยคอ รวมไปถึงเดินที่ถนนสายเครื่องเงิน เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และกระจายรายได้สู่ชุมชนร้านค้า และประเภทของ สินค้ามากมายนับไม่ถ้วน. นอกจากนี้ยังมีร้านขายผ้าทอเมืองนคร เครื่องเงิน สินค้าพื้นเมือง และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

ที่นี่เป็นตึกแถว มีร้านอยู่ประมาณ 20 ร้าน แน่นอนว่าทุกร้านจะเน้นหนัไปทางงานหัตถกรรม ตั้งแต่เครื่องเงิน เครื่องถม กระเป๋าย่านลิเภา ไปจนถึงผ้าชนิดต่างๆ เรียกว่ามาที่เดียวครบ จบทุกของฝากกันเลย เดินชมเครื่องประดับจนครบทุกร้าน แล้วค่อยกลับมาซื้อกลับบ้าน

ทริปนี้สำหรับที่พักในเมือง TWIN LOTUS HOTEL โรงแรม ทวิน โลตัส นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่กลางใจเมืองประวัติศาสตร์ของภาคใต้ที่ล้อมรอบด้วยสวนเปิดอันสวยงาม ห้องยิ่งดีใหญ่ขนาดห้อง Deluxe ในราคาพันต้นๆ สะดวกสบายWifi ดี แนะนำตื่นแต่เช้ามาทานสุดยอดอาหารเช้าประจำภาคใต้ที่รับรองว่าไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร

ทริปสนุกๆ ในการเดินทางในครั้งนี้ ขอบพระคุณ
การท่องเที่ยวภูมิภาคใต้ ชีพจรลงSouth…เรียงร้อยรอยธรรม : เมือง ๒ ธรรมนครศรีฯ”

www.ชีพจรลงเซาท์.com
#ชีพจรลงSouth #เที่ยวทั่วไทย#การท่องเที่ยวภูมิภาคใต้#ชีพจรลงSouth #เที่ยวทั่วไทย #วัดเจดีย์ไอ้ไข่ #กรุงเทพมาหานคร #นครศรีธรรมราช
#ขอได้ไหว้รับทรัพย์เหลือล้น #ไอ้ไข่วัดเจดีย์นครศรีธรรมราช #ชีพจรลงSouth

นครศรีธรรมราช ชวนสัมผัสเสน่ห์อันซีนอ่าวไทยเติมพลังอลังการแห่งพงไพร ในนครแห่งความสุข

เริ่มต้นเดือนตุลาคม นอกจากจะเป็นเดือนที่อากาศกำลังเริ่มเย็นสบายแล้ว ยังทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ได้มีโอกาสวางแผนการเดินทางในประเทศอีกครั้ง การท่องเที่ยวในครั้งนี้ ขอขอบคุณ คุณสุชาติ ชายมัน ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช พาท่องเที่ยวและออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์
ล่าสายหมอกแดนใต้ ยังทะเลหมอกที่สวยที่สุดในภาคใต้ ขอบคุณที่ให้โอกาสได้เก็บเกี่ยวความทรงจำใหม่ๆ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กับเส้นทางท่องเที่ยวเสริมพลังกาย-ใจ ในนครแห่งความสุข ภายใต้โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” ชวนคนเมือง เยือนเมืองคอน ดินแดนแห่งการพักผ่อนเติมพลังธรรมชาติ ชู Unseen อัญมณีแห่งอ่าวไทย ขอพรไอ้ไข่วัดเจดีย์ ชมสีสันแห่งผืนป่า ล่าสายหมอกแดนใต้ พบเสน่ห์ท้องถิ่นอันน่าหลงใหล เที่ยวได้ เที่ยวดี สุขทั้งปี

เที่ยวครั้งนี้ สุขสันต์เบิกบานใจที่เมืองคอน “นครศรีธรรมราช” จังหวัดทางภาคใต้ที่มีความความอุดมสมบูรณ์ พรั่งพร้อมด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ทะเลและภูเขา เป็นเมืองแห่งธรรมะ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน งดงามด้วยเสน่ห์แห่งวิถีถิ่น พร้อมภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” ชวนคนเมืองกรุง มุ่งเมืองคอน เพื่อการพักผ่อน เติมพลังกายใจ โดยได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแหล่งธรรมชาติอันงดงาม ทั้งทางทะเลและภูเขา ซึ่งกระจายตัวอยู่ในอำเภอต่างๆ ความสุขเล็กๆ ที่ต้องมาเยือนพร้อมให้นักท่องเที่ยวจากเมืองใหญ่ เข้ามาสัมผัสและผ่อนคลายในนครแห่งความสุขกันได้ทั้งปีเยือนเมืองแห่งธรรมะ ในดินแดนแห่งธรรรมชาติ

นายสุชาติ ชายมัน ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช

นำเที่ยวทริปนี้ โดย นายสุชาติ ชายมัน ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช หากพูดถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช ใครจะไปเชื่อว่า เส้นทางท่องเที่ยวเสริมพลังกาย-ใจ ในนครแห่งความสุข ภายใต้โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” เป็นโครงการที่ชวนคนเมืองเพื่อมาเยือนยังเมืองคอน ดินแดนแห่งการพักผ่อนเติมพลังธรรมชาติ เมืองสำหรับการผ่อนคลายที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและน่าหลงใหล เริ่มจากชายหาดที่น่าประทับใจ ทิวทัศน์สวยงามเสน่ห์ท้องถิ่นอันน่าหลงใหล เที่ยวได้เที่ยวดีเที่ยวได้ทั้งปี สุขขี ที่เมืองคอน

เริ่มต้นจาก ท่าน ผอ.สุชาติ ชายมัน เล่าที่มาที่ไปของโครงการ
“กรุงเทพ-มาหา-นคร” ทริปในครั้งนี้ก่อนว่า หน้าหนาว ให้เที่ยวภูเขา แต่สำหรับพวกเราให้มาเที่ยวนครศรีธรรมราช จังหวัดทางภาคใต้ที่มีความความอุดมสมบูรณ์ พรั่งพร้อมด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้งทะเลและภูเขา อีกทั้งยังเป็นเมืองแห่งธรรมะ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน งดงามด้วยเสน่ห์แห่งวิถีถิ่น พร้อมภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” เพื่อการพักผ่อน เติมพลังกายใจ โดยได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแหล่งธรรมชาติอันงดงาม ทั้งทางทะเลและภูเขา ซึ่งกระจายตัวอยู่ในอำเภอต่างๆ พร้อมให้นักท่องเที่ยวจากเมืองใหญ่ เข้ามาสัมผัสและผ่อนคลายในนครแห่งความสุขกันได้ทั้งปีเยือนเมืองแห่งธรรมะ ในดินแดนแห่งธรรรมชาติสิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนนครสองธรรม แดน “ธรรมะ” และ “ธรรมชาติ” นครศรีธรรมราช คือ การเข้าเที่ยวชมและกราบสักการะพระธาตุเมืองนคร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” หรือ ที่ชาวนครเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดพระธาตุ”

ต่อจากนั้นเราเดินชมบรรยากาศโดยรอบเพื่อไปสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โบราณสถานสถานอันศักดิ์สิทธิ์ มิ่งขวัญชาวเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศานิกชน ทั้งหลาย มีความน่าอัศจรรย์ใจอีกอย่างหนึ่งจนผู้คนต่างพากันเรียกว่า “พระธาตุไร้เงา” เนื่องจากองค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางไหน จึงกลายเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์สัญลักษณ์ของจังหวัดผู้ที่เข้ามายังตัวเมืองจะมองเห็นความโดดเด่นของพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัด ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ Unseen สุดไฉไล

ไปต่อที่อัญมณีแห่งอ่าวไทย ชายหาดที่ทอดตัวยาวราว 32 กิโลเมตร ในอาณาบริเวณที่ครอบคลุมอ่าวใหญ่น้อยจำนวน 16 อ่าว คือพื้นที่เหนือสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช แม้จะเป็นอำเภอที่เล็กที่สุดของเมืองนครฯ แต่ “ขนอม” ก็เต็มเปี่ยมด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ด้วยเอกลักษณ์ความเป็นอยู่ในวิถีถิ่นอันเข้มแข็ง พร้อมด้วยเรื่องราวที่สนใจ แบบที่หาชมที่ไหนไม่ได้ อ.ขนอม อยู่ห่างจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ประมาณ 100 กิโลเมตร เมืองชายหาดแห่งนี้ยังพาเราออกไปค้นหาความงามของธรรมชาติ และประสบการณ์หนึ่งเดียวที่ไม่สามารถหาชมได้ที่ไหน ​

จะเป็นอย่างไรถ้าเราได้ไปนั่งดูเรือและดูปลาโลมาด้วย กรี๊ดดสิคะ! ใช่ค่ะ
เริ่มต้นจากการออกเรือไปชม “โลมาสีชมพู” ซึ่งพบเห็นได้บริเวณอ่าวเตล็ด เนื่องจากเป็นอ่าวที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางทะเล มีหญ้าทะเล 5 สายพันธุ์ และปลาหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารของโลมา จึงถือเป็นแหล่งอาหารที่สมบูรณ์ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องย้ายถิ่น

เดินทางต่อด้วยการ แวะสักการะ “รูปหล่อหลวงปู่ทวด” ประดิษฐานบนเกาะนุ้ย พบกับความอัศจรรย์ใจของ “บ่อน้ำจืดกลางทะเล” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตำนานของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หนึ่งใน Unseen ของเมืองไทย เนื่องจากบนเกาะนี้มีบ่อน้ำจืดที่มีรูปร่างคล้ายกับรอยเท้า สามารถมองเห็นได้ในตอนที่น้ำทะเลลดลง หากเป็นช่วงที่น้ำขึ้นจะถูกน้ำทะเลท่วม มีเรื่องเล่าต่อกันมา

เมื่อครั้งที่หลวงปู่ทวดได้เดินทางด้วยเรือจากสงขลาไปยังกรุงศรีอยุธยา ระหว่างทางเกิดพายุและทำให้เรือขาดแคลนน้ำจืด หลวงพ่อทวดจึงแสดงปาฏิหาริย์ด้วยการเหยียบน้ำกลางทะเล จนกลายเป็นแอ่งน้ำจืดกลางทะเลให้ลูกเรือได้ดื่ม ขณะที่หลักการทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า บ่อน้ำจืดกลางทะเลแห่งนี้ เป็นช่องเปิดที่เชื่อมต่อกับรอยแตกของชั้นหินใต้ผิวโลกที่ทะลุถึงสายน้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาล และเมื่อน้ำทะเลลดต่ำลง น้ำจืดด้านล่างก็สามารถดันน้ำเค็มออกไปได้หมด ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด บ่อน้ำจืดกลางทะเลแห่งนี้ ถือเป็นความน่าอัศจรรย์ใจ ที่พร้อมที่ทุกคนเข้ามาพิสูจน์ ท่ามกลางธรรมชาติของท้องทะเลอันงดงาม

ไม่ไกลจากเกาะนุ้ยนอกและอ่าวเตล็ด มีอีกหนึ่ง Unseen ที่ต้องห้ามพลาด คือ “เขาหินพับผ้า” แนวผาหินที่มีลักษณะเฉพาะตัว ดูแปลกตาและงดงาม ราวกับผลงานทางศิลปะที่ธรรมชาติบรรจงสร้างมา เนื่องจากลักษณะที่คล้ายแผ่นหินเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ซึ่งมาจากการทับถมของตะกอนหินใต้ท้องทะเลมานานกว่า 280 ล้านปี บางจุดสามารถเดินขึ้นไปชมได้ เช่น “เวทีพุ่มพวง” บริเวณชั้นหินที่มีลานกว้างคล้ายเวที ปรากฎให้เห็นในช่วงน้ำลด เป็นบริเวณที่ชาวประมงมักแวะพักหลบคลื่นลม แวะรับประทานอาหาร หรือ พักผ่อนยามออกเรือด้วยลักษณะคล้ายกับผ้าที่พับซ้อนๆ กัน ชาวบ้านจึงเรียกว่า “เขาหินพับผ้า” ส่วนชาวต่างประเทศมักเรียกว่า “แพนเค้กร็อค” (Pancake Rock) เนื่องจากมีลักษณะคล้ายกับ Pancake Rock สถานที่ท่องเที่ยวของหมู่บ้าน Punakaiki บริเวณเกาะใต้ฝั่งตะวันตกของประเทศนิวซีแลนด์

ด้วยแรงศรัทธาเสริมพลังใจ “ไอ้ไข่” อ.สิชล
ด้วยความเชื่อความศรัทธา เป็นหนึ่งในแนวทางเสริมพลังใจให้กับมนุษย์ ที่ อ.สิชล หนึ่งในเมืองชายหาดอันงดงามของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ติดกับ อ.ขนอม มีสถานที่อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศมีเรื่องเล่าว่า ในอดีตเมื่อครั้งที่หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เดินทางกลับจากกรุงศรีอยุธยา ได้มาปักกรดอยู่ใน อ.สิชล ขณะนั้น มีลูกศิษย์ชื่อ “ไอ้ไข่” เป็นวิญญาณเด็กผู้ชายอายุประมาณ 9-10 ขวบติดตามมาด้วย เมื่อได้พบว่าสถานที่แห่งนี้มีทรัพย์สมบัติและศาสนสถานที่มีความสำคัญ หลวงปู่จึงได้ให้ไอ้ไข่ สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติอยู่ตั้งแต่นั้นมา จวบจนปัจจุบัน คือพื้นที่ของ “วัดเจดีย์” ต.ฉลอง อ.สิชล ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุราวกว่า 1,000 ปี โดยมีการบูรณะใหม่เมื่อปี พ.ศ.2500

เล่าที่มาที่ไป นานๆ จะมีโอกาสได้พักกับเขาสักที เส้นทางท่องเที่ยวสุดชิลล์บนถนนเส้นใหม่ ชื่อว่า “ถนนพลายจำเริญ” ที่เชื่อมต่อระหว่าง อ่าวท้องหยี อ.ขนอม และ บ้านเขาพลายดำ อ. สิชล เส้นทางการท่องเที่ยวเลียชายทะเลอันงดงามของทะเลฝั่งอ่าวไทย ด้วยโค้งเว้าของถนนเลียบภูเขาและทะเล สามารถมองเห็นเกาะสมุย เกาะพะงัน และเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นท้องฟ้าและท้องทะเลมาบรรจบกันได้อย่างน่าประทับใจ สูดอากาศให้เต็มปอด เดินชิวไปชิวมา อากาศดีมากๆ

อลังการกรุงชิง อิงทะเลหมอกแดนใต้
ตื่นแต่เช้า เพราะกลัวพลาดแบบทริปที่แล้วเป็นอะไรที่ฝังใจมาก! ความอุดมสมบูรณ์ทางด้านทรัพยากรของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้ชื่อว่า ดินแดนแห่ง “เขา ป่า นา เล” จึงเต็มไปด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และหนึ่งในความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขาที่งดงามอลังการ อยู่ที่ อ.นบพิตำ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ มีจุดชมทะเลหมอกยามเช้าอันแสนสดชื่นและสวยงามไม่แพ้ที่ไหน เช่น “จุดชมทะเลหมอกเขาเหล็ก” ชื่อเรียกตามความเป็นมาในอดีต ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองแร่เหล็กมาก่อนที่จะปิดตัวลงในปี พ.ศ. 2512 เขาเหล็กเป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 330 เมตร และมีทะเลหมอกให้ชมเกือบตลอดทั้งปี สามารถมองเห็นวิวตำบลกรุงชิง ที่โอบล้อมด้วยภูเขาใหญ่น้อยสลับซับซ้อนแบบสุดลูกหูลูกตา

วัดภูเขาเหล็ก
ที่ตั้งอยู่ใน หมู่ 2 บ้านเขาเหล็ก อ.นบพิตำ เป็นวัดที่มีพระอุโบสถที่มีความสวยงาม ทาด้วยสีขาวทั้งหลัง มีพญานาคสีทองอร่ามอยู่ระหว่างทางเข้าอุโบสถ รวมถึงภายในวัดยังมีเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่กลางน้ำ อีกทั้งภายในวัดยังพบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าอยู่ภายในถ้ำพระบาท นับเป็นวัดที่งดงามและเงียบสงบ ด้วยความร่มรื่น ร่มเย็น เหมาะแก่การไปเที่ยวชมหรือการปฏิบัติธรรมวิถีรักษ์คลองกลาย สุขใจกับผ้ามัดย้อมธรรมชาติ

วิถีชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติ สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามทำเลอาศัย แต่ก็มีเป้าหมายในทิศทางเดียวกัน คือการอนุรักษ์วิถีถิ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางภูมิปัญญา พร้อมด้วยการรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติให้คงความสมบูรณ์สืบไปสายน้ำคลองกลาย ใน ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ มีต้นกำเนิดมาจากต้นน้ำบนผืนป่ากรุงชิง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาหลวงและอุทยานแห่ง
ชาติเขานัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากอีกผืนหนึ่งของประเทศไทย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีใจรักในการผจญภัยและศึกษาธรรมชาติ

นอกจากนั้น ใน อ.นบพิตำ ยังมีจุดท่องเที่ยว เช่น “บ่อน้ำพุร้อน” ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถลงไปแช่ตัว แช่เท้า หรือ ทำสปา หรือ “ชุมชนบ้านหมอนมด” ต.นบพิตำ ซึ่งมีคลองหมอนมดเป็นสายน้ำที่แยกจาก คลองกลาย ชุมชนเข้มแข็งที่รวมตัวกันในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต้นน้ำกลาย เพื่อนำผักและผลไม้มาแปรรูปให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำสบู่ถ่านไม้ไผ่ สบู่ผักเขลียง สบู่กล้วยหอม รวมทั้งการทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ เช่น มังคุด ต้นกระพ้อ และ ใบเขลียง (หรือใบเหลียง) นำมาสกัดเป็นสีธรรมชาติที่ใช้ย้อมผ้า เกิดเป็นเอกลักษณ์อันสวยงาม พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชม พร้อมโชว์ฝีมือการมัดย้อมด้วยตัวเอง

นอกจากนั้นยังมีบริการโฮมสเตย์ ซึ่งถือเป็น “ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน”
ตั้งอยู่ริมสายน้ำคลองกลายอันแสนสดชื่น หากติดต่อมาล่วงหน้าก็จะได้ชิมอาหารท้องถิ่นฝีมือของชาวบ้าน เช่น ขนมจีนที่มีน้ำยาถึง 4 ชนิด คือ น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำแกงไตปลา และ น้ำยาพริก พร้อมสารพัดผักที่มาแบบจัดเต็ม จนต้องบอกว่า “หรอยจังหู” อิ่มท้อง อิ่มตา อิ่มใจ เติมสุขภาพดีๆ ในบรรยากาศอันแสนสดชื่นนครแห่งความสุขแห่งนี้ไม่ว่าวันไหน หรือ ฤดูกาลใด นครศรีธรรมราช ยังคงเป็นดินแดนแห่งความผ่อนคลาย พร้อมเติมพลังทั้งกายและใจ ให้กับผู้ที่มาเยือน โดยเฉพาะคนในสังคมเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยมลพิษและความรีบเร่ง

สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ ที่กำลังมองหาทริปสุดพิเศษ โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” จึงขอเป็นหนึ่งในกิจกรรมเสริมพลังแห่งชีวิตด้วยการท่องเที่ยวอันหลากหลายมุมมองของเมืองนคร ที่ได้ชื่อว่า “นครแห่งความสุข” ที่พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนทุกท่านด้วยไมตรีจิต

รายละเอียดการติดต่อ
ท่องเที่ยวชุมชน -ชุมชนท่องเที่ยวอ่าวเตล็ด อ.ขนอม

โทร 098-4683842

วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต้นน้ำกลาย อ.นบพิตำ
โทร. 084746 7733

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท เปิดตัวเครื่องใหม่ 2019

ใหญ่ อลังการ กว่าเดิม อีกหนึ่งบรรยากาศที่ชวนให้คุณมาสัมผัส

Lake Heaven Resort จัดหนัก จัดเต็ม ไม่เหมือนใคร สวรรค์กลางผืนน้ำกว้างใหญ่ เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้งและชอบสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำนานาชนิด New Rainbow Set Water Fun Park เครื่องเล่นใหม่ชุดใหม่ ขนาดใหญ่ กว่า 20 ชนิดที่เดียวที่มีการออกแบบและสั่งทำเป็นพิเศษ ไม่เหมือนใคร

เลคเฮฟเว่น รีสอร์ท รีสอร์ทแห่ง สายน้ำและขุนเขา ที่สามารถอยู่บนที่นอนที่นุ้มสบาย มองเห็น ผิวน้ำ ขุนเขา ท้องฟ้า เบื้องหน้าให้ฟินในบรรยากาศ รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ให้ท่านได้คลายความเหงา กระตุ้นต่อมต่างๆ ในร่างกาย ให้มีพลังขึ้นมาอีกครั้ง และในยามค่ำคืน ได้นั่งชมบรรยากาศสบายๆของการนั่งทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ งมีวิวภูเขาที่สวยงามล้อมรอบที่พัก

ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Function Group

ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Function Group จัดงาน Thank Press 2019 ในวันพุธที่ 25 กันยายน 2562 ที่ เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท
เปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ 2019 กว่า 20 ชิ้น โดยเครื่องเล่น ครั้งนี้มีความพิเศษ ในแบบเฉพาะ สั่งทำมาเฉพาะ ไม่เหมือนใคร ด้วยขนาดของเครื่องเล่น
มีความใหญ่อลังการเป็นพิเศษ และเครื่องเล่น ที่มีแตกต่าง ที่สีสัน และรูปทรง ที่ออกแบบมาให้มีความตื่นเต้น ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสมัยใหม่ที่ชอบกิจกรรมทางน้ำและรักการถ่ายภาพ เครื่องเล่นแต่ละชิ้นมีความสวยงาม เหมาะกับการถ่าย Selfie กับเครื่องเล่น ด้วยวิวที่สวยงาม
ของเขื่อนศรีนครินทร์ บรรยากาศของท้องฟ้าและภูเขา ผสมกับห้องพัก
บนน้ำสีขาว และเครื่องเล่นทำให้ เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท เป็นที่ท่องเที่ยวยอเนิยมของทุกครอบครัว กลุ่มเพื่อน ที่มา จ.กาญจนบุรี

ชีวิตผูกพันกับน้ำมาตั้งแต่เด็ก ชอบทำกิจกรรมทางน้ำทุกชนิด หลังจากที่เรียนจบจาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ลาดกระบัง ชีวิตผมอยู่กับน้ำและผูกพันกับน้ำมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ”

นั่นคือจุดเริ่มต้น ของการทำธุรกิจ ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานกรรมการบริหารในเครือฟังก์ชั่นกรุ๊ป หนุ่มผู้มีความเชี่ยวชาญเรื่องน้ำ จนทำให้พบกับควาสำเร็จ
ในธุรกิจเครื่องกรองน้ำและระบบน้ำแบบครบวงจร (All Solutions of Water) ระดับแนวหน้าของประเทศ และยังเป็นเจ้าของ เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท

ซึ่งธุรกิจของ Function Group มีความหลากหลายทั้งดังนี้

1.บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ดำเนินธุรกิจ นำเข้าสินค้าและจัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและอุปกรณ์อะไหล่สำหรับเครื่องกรองน้ำดื่ม

2.บริษัท ฟังก์ชั่นมารีน จำกัด ดำเนินธุรกิจ นำเข้า-จำหน่าย เรือประเภทเรือสำราญ เรือคายัค ทุ่นลอยน้ำ เจ็ตสกี

3.บริษัท ศรีชงโค จำกัด ซึ่งมีรีสอร์ทในเครือ ทั้งหมด 3 ที่

1.เฮฟเว่น แคว รีสอร์ท อยู่ อ.ไทรโยค เป็นรีสอร์ทสไตล์ Adventure แห่งแรกของ อ.ไทรโยค

  1. เฮฟเว่น เบย์ รีสอร์ท ที่พักสไตล์ ใกล้ชิดติดธรรมชาติ ท่ามกลางเขื่อนศรีนครินทร์
  2. เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท มัลดีฟเมืองไทย ไฮไลท์สำคัญ ที่เรามาสัมผัสกันครั้งนี้ และส่งท้ายปีกับกิจกรรมพิเศษ ตลอดเดือนธันวาคม การแสดงม่านน้ำ เทศกาลโคมไฟ และการแสดง 3 D Mapping

Lake Heaven Resort
241 หมู่ที่ 5 ตำบล ท่ากระดาน อำเภอ ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี 71250
ราคาห้องพักเริ่มต้น 3,000 บาท
FB : https://www.facebook.com/LakeHeavenResort/

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @lakeheaven
หรือ : https://bit.ly/2VWEdL6
โทร : 084-387-6796 , 092-253-6870 , 087-026-1144
Website : www.lakeheaven.com

#LakeHeavenResort #เลคเฮฟเว่น #มัลดีฟเมืองไทย #เขื่อนศรีนครินทร์ #กาญจนบุรี#เลคเฮฟเว่น รีสอร์ท #เฮฟเว่นเบย์รีสอร์ท #เฮฟเว่นแควรีสอร์ท

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น