เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย ณ.โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ททท. กระตุ้นการท่องเที่ยว
จัดเทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย

เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนได้สัมผัสกับ
ว่าวจากทั่วโลก ขบวนฮีโร่แบบใกล้ชิดเหนือจินตนาการตลอด 3 วัน ของการจัดงานกับกิจกรรมสุดพิเศษ DIY ที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้ออกแบบและระบายสีว่าว และบูมเมอแรง ประดิษฐ์กังหันและโมบาย ด้วยตนเอง รวมถึงพื้นที่สำหรับครอบครัวเล่นว่าวได้สนุกสนานอย่างเต็มที่ พร้อมกับอิ่มอร่อยจากขบวน Food Truck ที่เป็นเมนู Signature ของหัวหิน มีตลาดนัดว่าวที่ใหญ่ที่สุด ให้ได้เลือกช้อปกันอย่างเพลิดเพลิน ปิดท้ายด้วยการฟังเพลงสบายๆ ผ่อนคลายสไตล์หัวหิน

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว กล่าวถึงกลยุทธ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่า “ในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. มีวัตถุประสงค์ที่จะให้กลุ่มกระแสหลักเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศมากยิ่งขึ้น อันประกอบด้วย กลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มนักเรียนนักศึกษา เนื่องจากกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อและท่องเที่ยวสูง ซึ่งงานเทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่มีความน่าสนใจ เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมของกลุ่มกระแสหลัก จึงคาดว่างานนี้จะสร้างแรงจูงใจ และเร่งการตัดสินใจท่องเที่ยวในประเทศให้กับกลุ่มเป้าหมาย”

นางสุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว

นอกจากนี้ นางสุจิตรา ยังกล่าวต่ออีกว่า ช่วงเวลาของการจัดงาน เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวภาคใต้ของประเทศไทย
เป็นจำนวนมาก อันเป็นการสร้างรายได้ใหักับคนในพื้นที่ และขยายวันพักผ่อนของนักท่องเที่ยวได้อีกด้วย โดยในปีนี้มีแนวคิดหลักของการจัดงานคือ “HERO IN THE AIR…กองทัพแห่งความสุข สนุกยกครอบครัว”

ที่พร้อมจะให้ทุกคนได้สัมผัสกับขบวนฮีโร่ แบบใกล้ชิดเหนือจินตนาการตลอด 3 วัน ของการจัดงาน

ในงานเทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทยในปีนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับการแสดงว่าว หลากหลายชนิด  จากทั่วทุกภูมิภาคของโลกมากกว่า 10 ประเทศ, ชมการแสดงแปลอักษรประกอบดนตรี, Stunt Kite ที่โชว์ทักษะการบินขั้นสูง จากประเทศญี่ปุ่น และเอกลักษณ์ของว่าวไทยกับการต่อสู้ จุฬา – ปักเป้า รวมถึงนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวว่าวไทยแบบสนุกๆ ให้ได้รู้ภูมิปัญญาไทย เป็นต้น

นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เน้นย้ำเรื่องความพร้อมของ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า “ทางจังหวัด ได้มีการประชาสัมพันธ์ภายในจังหวัดให้คนในพื้นที่ ร้านค้า และเจ้าหน้าที่ในทุกภาคส่วน ได้ทราบกันอย่างทั่วถึง ว่าจะมีการจัดงานดังกล่าว ในวันที่ 23 – 25 มี.ค. นี้ ซึ่งคาดว่า จะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังได้มีการจัดระเบียบเส้นภายในจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาจราจรในพื้นที่ให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมงานอีกด้วย”

ในส่วนของพื้นที่ใช้ในการจัดงาน พล.ต. ศุภวัฒน์  ธีรเนตร ผู้บัญชาการโรงเรียนนายสิบทหารบก กล่าวว่า

“เนื่องด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เลือกให้โรงเรียนนายสิบทหารบกเป็นพื้นที่ในการจัดงานใหญ่ในครั้งนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ อันเป็นหน้าตา และชื่อเสียงของประเทศ ทางโรงเรียนนายสิบทหารบก จึงเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยในพื้นที่กิจกรรม และพื้นที่โดยรอบอย่างเข้มงวด รวมถึงได้วางแผนการจัดสรรยานพาหนะของนักท่องเที่ยวที่จะมาร่วมงานไว้อย่างรัดกุม เพื่อความคล่องตัวและเกิดปัญหาน้อยที่สุดของผู้ทีมาร่วมงาน”
-พล.ต. ศุภวัฒน์ กล่าว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระตุ้นการท่องเที่ยวจัดงานใหญ่เทศกาลว่าวนานาชาติประเทศไทย  คาดมีนักท่องเที่ยวร่วมงานมากกว่า 3 หมื่นคน และมีเงินสะพัดมากกว่า 40 ล้านบาท ตลอด 3 วัน  ของการจัดงาน พร้อมกิจกรรมมากมาย ขบวน Food Truck ในบรรยากาศสบายๆ สไตล์หัวหิน
ระหว่างวันที่ 23 – 25 มีนาคม นี้  ณ โรงเรียนนายสิบทหารบก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ติดกับอุทยานราชภักดิ์)

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน หรือต้องการสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อได้ที่
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  โทร. 1672

ชวนช้อป ชม ชิม สินค้าดี ที่เที่ยวเด่น อาหารอร่อย

สุพรรณบุรี ขนของดีภาคกลาง ล่องใต้ ชวนช้อป ชม ชิม

จังหวัดสุพรรณบุรี ขนของดีภาคกลาง ล่องใต้ ชวนชาวปักษ์ใต้ร่วมช้อป ชม ชิม สินค้าดี ที่เที่ยวเด่น อาหารอร่อย ในงาน “มหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยวของดี 19 จังหวัดภาคกลาง” ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2561
ณ สุราษฎร์ธานี ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาสุราษฎร์ธานี
โดยมี นายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็น ประธานเปิดงาน

นายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เผยว่า การจัดงาน “มหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยว ของดี 19 จังหวัดภาคกลาง” ครั้งนี้เป็นการจัดงานในจุดดำเนินการที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาสุราษฎร์ธานี โดยนำเอาของดีสินค้าเด่นและบริการด้านการท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการใน 19 จังหวัดภาคกลาง จำนวน 100 ราย ไม่ว่าจะเป็นของฝาก ของที่ระลึก เครื่องแต่งกาย รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว อาหารการกินที่มีเอกลักษณ์ของภาคกลาง โดยครอบคลุมประเภทธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เช่น ธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจที่พัก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน

การจัดงานมหกรรมสินค้าและบริการท่องเที่ยวของดี 19 จังหวัดภาคกลาง จัดขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตและสันทนาการ กิจกรรมหลักที่ 2 : พัฒนาช่องทางการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิต สันทนาการ โดยมีเป้าหมายที่จะนำสินค้าของดีในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ทั้ง ๑๙ จังหวัด ไปโรดโชว์ใน 5 จุดดำเนินการ


เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และทำการตลาด การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคกลางเชิงรุก เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว ๓ จุดดำเนินการ ได้แก่ พิษณุโลก นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับผลตอบรับจากพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ เป็นอย่างดีและในครั้งนี้ก็คาดหวังว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่อีกเช่นกัน รอง ผวจ.สุพรรณบุรี เผยอีกว่า ภายในงานจะได้ช้อป ชม ชิม สินค้า OTOP ทั้งประเภทอาหารและของฝาก เช่น ขนมทองม้วนขึ้นเครื่อง ปลาสลิดวัดป่าฯ ข้าวเกรียบปลาสลิด กระยาสารทธัญพืช รวมไปถึงสินค้าประเภทเครื่องแต่งกาย อย่างผ้าทอบ้านหนองลิง ของดีจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีความ โดดเด่นสวยงามคงทนและสินค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

นอกจากนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น นิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดสุพรรณบุรี การแสดงพื้นบ้าน กิจกรรม ส่งเสริมการขายสินค้า หรือนาทีทองที่ทุกท่านจะได้ซื้อสินค้าในราคาลดพิเศษ รวมไปถึง
การแสดงดนตรี และการแสดงของศิลปินดังที่จะมาสร้างสีสัน ความสนุกสนานในวันเปิดงานอีกด้วย

เปิดแล้ว ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ

“ท่าเรือเวียงเชียงแสน”  ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ขานรับกระแส เชียงรายโตต่อเนื่อง

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ และวัฒนธรรมท้องถิ่น ไปกับเส้นทางแม่น้ำโขง การส่งออก-นำเข้าสินค้าส่วนใหญ่อาศัยการขนส่ง ทางเรือ ผ่านแม่น้ำโขง เรือมีความพร้อมรับการท่องเที่ยวทางน้ำ จุดส่งออกและนำเข้าสินค้าที่สำคัญทางภาคเหนือของประเทศไทย เพราะเป็นแม่น้ำที่ไหลมาจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน  เข้าสู่ประเทศเมียนมาร์  สปป.ลาว จนถึงสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

ท่าเรือเวียงเชียงแสน สร้างขึ้นตามนโยบายในการปรับปรุงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน  เพื่อพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางหรือประตูการพัฒนาภูมิภาคอินโดจีน รวมทั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค  ลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือ 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สภาพพม่า กัมพูชาและเวียดนาม ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2546 ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย เป็นผู้บริหารและประกอบการ โดยได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2546 และเมื่อมีการเปิดท่าเรือแห่งใหม่ ท่าเรือนี้จึงไม่ได้รับการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ได้รับอนุมัติ ตามมติครม. เมื่อวันที่ 12 เดือนธันวาคม ปี 2560 ให้เข้ามาบริหารจัดการ จึงมีการปรับปรุง ทั้งด้านการก่อสร้าง ภูมิทัศน์ ระบบความปลอดภัยและด้านต่างๆ และได้มีการเปิดตัว ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา

นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหาร บริษัท นิวเชียงแสนกรุ๊ป จำกัด ที่ท่าเรือเวียงเชียงแสน ภายในเขตเทศบาล  ตำบลเวียงเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย กล่าวถึง การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ มีแนวคิดที่จะพัฒนาท่าเรือเวียงเชียงแสน

ท่าเรือเวียงเชียงแสน เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน ขับเคลื่อนและรองรับการพัฒนาประเทศในอนาคตอย่างเหมาะสม  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เรือท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก รองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว โดยโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการท่าเรือให้งานอย่างปลอดภัย

ในสมัยก่อน เส้นทางน้ำโขงเลื่องลือในเรื่องความอันตรายของการเดินทาง แต่ในปัจจุบันการเดินทางมีความปลอดภัยสูง ระดับมาตรฐานโลกเป็นท่าเรือเพื่อการขนส่งสินค้า เรือท่องเที่ยว วิ่งขึ้นล่องลำน้ำโขงตลอดเวลา และด้วยความร่วมมือของ 4 ประเทศ จัดตั้งศูนย์ป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าและเรือท่องเที่ยวต่างๆ

โดยปัจจุบัน  โครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมโดยรอบท่าเรือสามารถรองรับการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อแก้ไขปัญหาจราจรภายในท่าเรือ  พร้อมทั้งดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้ประชาชนผู้มีส่วนร่วมในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เสนอความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ อีกทั้งยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงตำรวจน้ำ

นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหารฯ

ดังนั้น ในเรื่องของความปลอดภัย จึงเป็นที่เชื่อถือได้ อีกทั้งทิวทัศน์รอบและบรรยากาศสองข้างทางริมฝั่งแม่น้ำโขง มีความสวยงาม และสามารถชื่นชมกับธรรมชาติที่ยังคงสภาพความเป็นป่าเขา จึงน่าจะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ได้เยี่ยมชมและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ

การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวครั้งนี้ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้สัญจรไปมา และการเปิดบริการล่องเรือชม ศิลปวัฒนธรรม สองฝั่งโขงไทย-ลาว เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพของชุมชน และเป็นการ สนับสนุนการท่องเที่ยวทางเรือ เป็นประตูการค้าหลักของประเทศในการค้าขาย สำหรับทางแม่น้ำโขงนั้น ถือเป็นเส้นทางเปิดใหม่

ที่มีความปลอดภัย มาตรฐานของท่าเรือ ซึ่งก่อสร้างออกมาอย่างถูกต้องตามแบบวิศวกรรม และการควบคุมดูแลการสัญจรไปมา สามารถควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าออกประเทศ ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะดวก ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทางเรือที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทยทาง อำเภอเชียงแสน มีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งสินค้าเป็นส่วนมาก แต่หลังจากที่มีการเปิดท่าเรือแห่งนี้ตามมติครม. เพื่อเป็นท่าเรือท่องเที่ยวก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจากประเทศจีนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณเดือนละ 500 คน เราตั้งเป้าหมายให้มีการใช้งานท่าเรือในช่วงปีแรกประมาณไม่น้อยกว่าเดือนละ 2,000 คน หรือ ปีละ 20,000 คน

การเดินทางโดยทางรถยนต์จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน หรือจากประเทศจีนมายังประเทศไทยนั้นปัจจุบันนักท่องเที่ยวต้องใช้ทาง r3a เป็นหลัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่วโมง สองข้างทางเป็นทิวทัศน์ธรรมดา
ที่เห็นได้ทั่วไปในท้องถนนไม่น่าดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางถนนใช้ในการขนส่งสินค้าและมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

“การเปิดท่าเรือท่องเที่ยวครั้งนี้ จึงเป็นการเผยให้เป็นถึงความงดงามทางทรัพยากรธรรมชาติของสองฝั่งแม่น้ำ ที่เพิ่มประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจมากขึ้น”   -นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป กล่าวสรุป

ด้าน คุณกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย   กล่าวว่า “ททท.
มีแผน เรียกว่าเชียงรายยั่งยืน เชียงรายแต้ๆ ความหลากหลายของเชียงราย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อ.เชียงแสน มีประวัติศาสตร์ ที่สำคัญ  นับจากนี้เป็นต้นไปจะมีท่าเรือที่ได้รับมาตรฐานของ จังหวัดเชียงราย  ท่าเรือเวียงเชียงแสน มีด่านสำหรับเข้าออกของนักท่องเที่ยวหลายด่าน เป็นจังหวัดเดียวที่มีทั้ง อ.เชียงของ อ.แม่สาย การมีท่าเรือเพิ่มขึ้นทำให้เป็นประตูสู่จังหวัดเชียงรายและเข้าสู่ประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น และอย่างที่ทราบกันว่า ท่าเรือเวียงเชียงแสน  เป็นท่าเรือแห่งแรกของภาคเหนือ เชียงรายจะมีการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวมากช่องทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเชียงแสนถือว่ามีความหลากหลายในเรื่องของวัฒนธรรมชุมชนท่องเที่ยวด้วย

คุณกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย

ปกติแล้ว เชียงแสนเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าปัจจุบันเราเริ่มให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น มีนักท่องเที่ยวชาวจีน เชียงแสนเป็นท่าเรือโดยตรงสำหรับนักท่องเที่ยวจีน เป็นเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาติอื่นที่จะเข้ามาเที่ยวมากขึ้นยงแสนและมีไฟล์ทบินตรงเข้าสนามบินและจากเชียงใหม่ด้วย ระยะทางขับรถจาก จ.เชียงใหม่มายัง จ.เชียงราย ใช้เวลาเพียงแค่สามชั่วโมง จะเห็นว่ากระแสนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเชียงรายมากขึ้น แต่ขณะ เดียวกันนักท่องเที่ยวยุโรป เพราะเรามีวัฒนธรรมที่เป็นจุดสนใจ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็มองนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลักด้วย

จุดสำคัญของเชียงแสน คือเมืองริมฝั่งแม่น้ำโขง มีเรื่องของทิวทัศน์แม่น้ำโขง เมืองประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่กว่าเชียงใหม่ เรื่องของท่องเที่ยวชุมชน วัฒนธรรมดั้งเดิม จะเห็นว่าเป็นการผสมผสานของการท่องเที่ยวหลากหลาย เชียงแสนเองด้วยความที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเชียงของ หรือแม่สายทำให้มีทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น

ด้านการโปรโมท ปีนี้ เราต่อเนื่องจากเชียงรายแต้ๆ ปีที่แล้วเชียงรายแต้ๆ เราเล่นที่เชียงแสนเป็นหลัก ปีนี้เราก็ยังทำต่อเนื่อง แต่ปีที่แล้วเรื่องวัยเก๋า ชวนกันมาเที่ยว มาเที่ยวเชียงรายเชียงแสน ปีนี้เน้นกลุ่มครอบครัว ที่มีหลายเจนเนเรชั่น เราจะมีคลิปวิดีโอเชิญชวนให้ครอบครัวมาเที่ยวและพบความหลากหลายของจังหวัดเชียงราย

“อำเภอเชียงแสน  เป็นอำเภอที่สูงสุดในประเทศไทย อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง  มีทิวทัศน์สวยงาม มีความเป็นเมืองโบราณเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่น่าสนใจ

อยากจะเชิญชวนให้มาท่องเที่ยวเชียงแสน ไม่ใช่มีแค่วิวสวย มีอาหารอร่อย และมีชุมชนที่น่ารักด้วยค่ะ “

พิธีเปิด  ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ณ.ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 ม.3 อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งในงานยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมือง สล้อ ซอ ซึง การแสดงของกลุ่มชาติพันธ์ลุ่มแม่น้ำโขง โดยผู้แทนจากประเทศไทย อาทิ นาย ชัยกฤษ นิสัยสุข นายกเทศมนตรี นายพินิช แก้วจิตกรทอง นายอำเภอเชียงแสน นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหารฯ นายชัชวาล สุขสมจิต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  นายสมบูรณ์  ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย และ ผู้แทน ฝั่งสปป.ลาว นายอิ่นคำ แก้วนารี หัวหน้าห้องว่าการปกครองเมืองต้นผึ้ง นายอู่ลา เพิงสวัสดิ์ หัวหน้ากรมขนส่งเมืองต้นผึ้ง นายแสงเงิน อำพรไธ รองหัวหน้าห้อง การแถลงข่าว โดย มี นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธี เมื่อค่ำวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา

นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหาร ฯ นายชัชวาล สุขสมจิต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายสมบูรณ์ ศิริเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย และผู้แทน ฝั่งสปป.ลาว นายอิ่นคำ แก้วนารี หัวหน้าห้องว่าการปกครองเมืองต้นผึ้ง นายอู่ลา เพิงสวัสดิ์ หัวหน้ากรมขนส่งเมืองต้นผึ้ง นายแสงเงิน อำพรไธ รองหัวหน้าห้อง การแถลงข่าว โดย มี นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธี

ท่าเรือเชียงแสนตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตพื้นที่ของอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ด้านหน้าติดแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้านหลังติดถนนซึ่งเชื่อมระหว่างอำเภอเชียงแสนและอำเภอเชียงของ

บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับททท. เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน คณะกรรมการบริหารท่าเรือเวียงเชียงแสน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เปิดท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ณ ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน (เชียงแสนแห่งที่ 1) จ.เชียงราย

 

Crave ห้องอาหารเพื่อคนเทรนดี้

เปิดให้บริการแล้วนะ
Backyard Grill by Crave

สืบเนื่องจาก Toptotravel ได้มีโอกาสตอบรับคำเชิญ เข้าเยี่ยมชม และร่วมชิมอาหาร ในโรงแรม Aoft สุขุมวิท11  ที่ร้านอาหาร เครฟ (Crave ) กับเมนูอร่อยสไตล์สตรีทฟู้ด  ที่เราไปชิมมาแล้วอยากแนะนำ  เมนูสุดอร่อยที่ไม่ควรพลาด

กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไประยะหนึ่ง โรงแรม Aoft สุขุมวิท11
มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกันว่า ห้องอาหาร CRAVE
Backyard Grill by Crave 
เปิดให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 61
เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันแปลกใหม่สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวยามค่ำ
คืนในซอยสุขุมวิท 11 และยังรวมไปถึงแขกที่พักที่โรงแรม อลอฟอีกด้วย

Aoft สุขุมวิท11 เปิดโรงแรมมามากกว่า 100 โรงแรม อลอฟคือหนึ่งในแบรนด์ของแมริออท ที่นำเสนอสิ่งแปลกใหม่มาสู่จุดหมายปลายทางต่างๆแบรนด์อลอฟ นำเสนอเทคโนโลยีล้ำยุค ประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสไตล์ที่ทันสมัย มีโรงแรมให้บริการอยู่ทั่วทุกมุมโลกได้มาสัมผัสถึงความเก๋ของที่นี่ตั้งแต่สไตล์การแต่งร้านที่ดูทันสมัย คอนเซ็ปต์ของร้าน CRAVE WINE BAR & RESTAURANT คือ การเนรมิตรร้านให้กลายเป็นสถานที่สังสรรค์และแฮงค์เอ้าท์ของชาวกรุงฯ ทุกเพศทุกวัยลูกค้าที่เข้ามาได้ทดลองอะไรใหม่ๆ



Backyard Grill by Crave  ร้านอาหารแบบป๊อปอัพ  ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง แบบ  “live grill”  โดยชื่อของร้านมาจากตัวสถานที่เอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ OutDoor ของห้องอาหารหลักของโรงแรม  บรรยากาศและประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากที่อื่น  การออบแบบครัวเปิด คุณจะได้นั่งรับประทานอาหารโดยสัมผัส
บรรยากาศแบบชิวๆ ในขณะที่มองออกไปเห็นวิวอันสวยงามและแสง สี ในยามค่ำคืนรอบๆ ตัวเมืองกรุงเทพฯ

ดังนั้น  สิ่งที่จะเป็นไฮไลท์ของร้านแฮงค์เอ้าท์ดีๆ สักร้าน จะเป็นอะไรไปไม่ได้ หากไม่ใช่เครื่องดื่ม! และรับประกันเลยว่า เครื่องดื่มทุกแก้วเติมความสดชื่นและมีประโยชน์แน่นอน  กับเมนูอาหาร ที่มีรสชาติแบบไทย ภายใต้แนวคิด (The East meets West) โดยจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างเครื่องเทศของไทยและเอเชีย บนวัตถุดิบคุณภาพอย่างเนื้อและผักย่างบนเตาแบบและเสริฝแบบ “Rustic Stylel”

นอกจากจะมีบรรยากาศสุดชิลเหมาะแก่การมานั่งเล่น และมีเมนูอาหารแปลกๆ แหวกๆ ให้ลองทานแล้ว เมนูดริ้งของที่นี้ก็ไม่เป็นสองลองใครนะค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องรสชาติและหน้าตา พรีเซ็นเทชั่นที่สวยงาม มาพร้อมกับลูกเล่นแพรวพราวที่จะทำให้หลายคนอดใจไม่ไหว  ถ้ามีโอกาสมานั่งผ่อนคลายเพิ่มความกระชุ่มกระชวยสวยเกร๋ของที่นี่  ต้องหยิบมือถือมาแชะๆๆ
รูปรัวๆ เก็บไว้ก่อนจะดื่มแน่ๆ


แวะมานั่งพักผ่อน เครฟ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ สักครั้ง  วางใจได้ถึงการบริการและฝีมือในแบบฉบับไทยเหมาะกับพาครอบครัว นัดเพื่อน ๆ ไปทานกันเยอะ ๆ มาก ๆ อร่อยคุ้มราคา ที่ Crave Wine Bar & Restaurant  (เครฟ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์) ในซอยสุขุมวิท 11

 



Backyard Grill by Crave
ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรมโรงแรมอลอฟท์ สุขุมวิท 11
เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประสบการณ์ดินเนอร์ แบบผ่อนคลาย
โดยราคาอาหารเริ่มต้นที่ 160++ บาท ถึง 360++ บาท เท่านั้น
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.00 น.
สอบถามติดต่อ : www.alofhotel.com
fb.aloftbkk@alofthotels.com

BACKYARD GRILL BY CRAVE   located on the 8th floor of Aloft Hotel Bangkok – Sukhumvit  11 from 6-10 PM.
#Bangkok #AloftBangkok #Valentines #AloftHotels

เอาใจคนรักสุขภาพตามแบบ Tang Chao Farm

BAAC ศูนย์จำหน่าย ถั่งเช่าฟาร์ม
คุณสมบัติพิเศษ

ด้วยเกล้ากรุ๊ป  ByAndee  จับมือพันธมิตร  BAAC  เป็นศูนย์จำหน่ายถั่งเช่าฟาร์ม ห้างหุ้นส่วนจำกัดด้วยเกล้ากรุ๊ป ByAndee ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถั่งเช่าฟาร์ม โดย  นายอนุชา นวลจำรัสศรี และ น้าต๋อง เทวัญ ทรัพย์แสนยากร หุ้นส่วน แถลงข่าวเปิดตัวคู่มิตรด้านการตลาดร่วมกับศูนย์ดูแลสุขภาพ Bangkok Anti-Aging Center ( BAAC ) คลีนิคชลอวัย  โดย น.ส. วราลี จิตรปรีดา ผู้อำนวยศูนย์ และรายการไทยไทยมาร์เก็ต โดย นางสาวบุญฑริกา แทนมณี กรรมการผู้จัดการ

ทั้งนี้ มี นางสาว เสมอขวัญ ตะพังพินิจกาญ  กรรมการผู้จัดการ ชีวโกโอสถ
ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถั่งเช่าฟาร์ม อาจารย์ นิรันดร์ ไพรจิตร ศิลปินวาดภาพด้วยพลังฝ่ามือ ,นายปราโมทย์ พันธ์เสน กรรมการบริหารสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย,  ดร. จิตตวุฒิ์  ลิ้มศิริเศรษฐกุล ,
ดร.พลวราเทพ จิรบรรเจิดสิรี , นายสุรพงษ์ กิตชิต ผู้บริหารบริษัทวิริยะประ
กันภัยจำกัด (มหาชน) และนายวรพล สมประสิทธิ์ เจ้าของค่ายซุปตาร์เฮ้าส์ สถาบันปั้นดาว พร้อมด้วย  ดาราสาวชื่อดัง  น.ส. รัล  ณัทธมณกาญจน์
ให้เกียรติร่วมงาน ที่  BAAC  Antiagin  Clenic  ซอย ประมวลสุข สุทธิสารวินิจฉัย กรุงเทพฯ

งานนี้มี อาจารย์ นิรันดร์ ไพรจิตร  ให้เกียรติวาดภาพด้วยฝ่ามือ พร้อมกับการเป่าแซ็กโซโฟน โดย น้าต๋อง เทวัญ ทรัพย์แสนยากร เป็นการสร้างสีสันบรรยากาศ เอาใจคนรักสุขภาพตามแบบ Tang Chao Farm

ด้วยคุณสมบัติอันเลอเลิศและสรรพคุณอันเหลือเชื่อถั่งเช่าฟาร์ม สินค้าเพื่อสุขภาพคุณภาพสูงพืชตระกูลเชื้อราที่มีคุณสมบัติพิเศษ คุณประโยชน์มากมายในหนึ่งเดียว โดยสามารถช่วยเพิ่มอ๊อกซิเจ่นในกระแสเลือด มีสารช่วยยับยั้งเซลมะเร็ง ช่วยบำรุงตับ ไต และมีส่วนช่วยลดความดันรวมถึงลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด สมุนไพรชนิดนี้ยังคงความนิยมสูงสุด สามารถหาข้อมูลดังกล่าวได้ไปในอินเตอร์เน็ต

พิเศษสุด สำหรับทุกท่าน ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของถั่งเช่าฟาร์มทุกชนิด
มูลค่า 5,000 บาท รับ Gift voucher ตรวจสุขภาพเชิงรุก จาก Bangkok Anti-Aging Center ( BAAC ) มูลค่า 7,500 บาท ฟรี!!
วันนี้ถึง 30 มีนาคม 2561 เท่านั้น

สำหรับท่านที่สนใจ tangchaofarm ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถั่งเช่าฟาร์ม
ติดต่อ:
http://www.tangchaofarm.com
สามารถหาซื้อได้ที่ ศูนย์ดูแลสุขภาพ BAAC Antiagin Clenic
ซอยประมวลสุข สุทธิสารวินิจฉัย ถ.รัชดาฯ กรุงเทพฯ
โทร. 02-2772893 – 4

โฮ่งบิช ร้านกาแฟแบบนี้มีอยู่จริง

ร้านกาแฟเท้าแช่น้ำ เจ้าแรกของแม่ริม

เราหลงรักที่โฮ่งบีช ตั้งแต่เห้นป้าย เพราะนึกว่า…จะเจอน้องหมา ที่โฮ่งบีช ถามเจ้าร้านทำไมชื่อนี้คำตอบที่ได้ โฮ่งคือที่ลุ่มที่ราบโต๊ะริมธาร ที่นั่งยอดฮิตของลูกค้าทุกเพศทุกวัย

มาเที่ยวเชียงใหม่แลนด์ ดินแดนมหานครแห่งกาแฟ ชวนคนรู้ใจไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นครอบครัว หรือจะเป็นคนรักออกต่างจังหวัดไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ที่อำเภอสุดสโลว์ไลฟ์ ริมน้ำมีอะไรน่าสนใจให้เราไปลองค้นหามากมาย ซึ่งเราจะถือโอกาสนี้พาเพื่อนๆ ไปท่องเมืองเที่ยว เล็กๆ น่ารักๆ แห่งนี้กัน รวมถึงกิจกรรมห้ามพลาด สุดประทับใจกับบรรยากาศมากๆ ก่อนมาที่นี่ได้อ่านรีวิวเพจต่างๆ แล้วเกิดแรงบันดาลใจ  ลุกขึ้นจุงมือ แฟนเพื่อน พ่อแม่น้อง มารับลมหนาว อากาศเย็นสบาย

ร้านโฮ่งบีช คือที่ลุ่มที่ราบด้วยความ บรรยากาศป่าเขาลำเนาไพร แต่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีลำธารน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ชมกันเพลินๆ ให้ได้เลือกเล่นน้ำ ถ่ายรูป ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านที่ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร  บรรยากาศชองร้าน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน จะเลือกนั่งชิลๆ อิงแอบสายธารของน้ำตกแม่สา ที่นี่เปิดให้บริการมาหลายปี เป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่เหมาะสำหรับพาครอบครัว เพื่อนฝูงไปพักผ่อน ด้วยบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและสายน้ำที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิต  ความเป็นอยู่ของอำเภอเล็กๆ ริมน้ำแห่งนี้ อาหารมีทั้งอาหารคาว และหวาน เป็นธารน้ำไหล นั่งแช่เท้าได้ ส่วนอาหาร เครื่องดื่ม มีหน้าตาเมนูที่น่ารักและแปลก แต่รสชาติดี

ใครมีโอกาสไปเที่ยวเขตตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริมเชียงใหม่ บนถนนแม่ริม-สะเมิง อยู่ตรงข้ามป้อมตำรวจ แม่แรม  เป็นเส้นทางก่อนถึงน้ำตกแม่สา 200 เมตร บรรยากาศธรรมชาติ ท่ามกลาง สายน้ำที่ใสไหลเย็น รับรองว่า ได้พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศสงบ สโลว์ไลฟ์แน่นอน การตกแต่งในร้านเน้นความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ในอำเภอ แม่แรม อิ่มรสชาติอาหารท่ามกลางบรรยากาศสุดฟินตั้งอยู่เส้นแม่ริม-สะเมิง ร้านอยู่ใกล้สวนบัว แม่สาออร์คิดส์ จ. เชียงใหม่ (ขับเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสะเมิงประมาณ 800 m. มองเห็นป้ายร้านอยู่ทางขวามือ ก่อนถึงน้ำตกแม่สาประมาณ1 กิโล  ร้านโฮ่งบีช ตั้งตรงข้าม  ป้อมตำรวจ ต.แม่แรม) เดินเข้ามานิดเดียว เห็นป้าย โฮ่งบีช 0 กม. คือใช่  เดินตรงไปอีกนิด ลงบันไดไปอีกหน่อย ร้านกาแฟขาแช่น้ำ เจ้าแรกของแม่ริม โดยพี่เหน่ง จันทรา แห่งตะวันแดง

ร้านกาแฟขาแช่น้ำ เจ้าแรกของแม่ริม จ. เชียงใหม่

 

โฮ่งบีช ที่จอดรถ(มีที่จอดรถ) มี Wi-Fi บริการ รับจองล่วงหน้า เหมาะสำหรับเด็กๆ เหมาะสำหรับมาเป็นกลุ่ม แอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์)ไปรับรองติดใจค่ะ ที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้ามกว้างมาก มาคี่คันก็จิดพอ




แวะมา โฮ่งบีช รับรองเลยว่าทริปเชียงใหม่นี้จะต้องประทับใจ
กว่าทริปไหนๆ อย่างแน่นอน
โฮ่งบีช 
เปิดบริการ สิบโมงเช้า-ถึงสองทุ่ม ทุกวัน
โทรไปถาม :  094 603 8886

#โฮ่งบีช #ChiangMai

ชิม ชิลล์ แบบฉบับ Tum-UP By Tony

ตำอัพ แซ่บจริง อร่อยจริง ต้องโดน!

แค่ชื่อร้าน!!! ยอมใจ หาที่กินข้าว นั่งชิลล์นอกบ้านบรรยากาศด้านใน ทำให้คิดถึงความสะดวกสบาย อาหารเกือบทุกจานน่าทาน รสชาติความแซ่บแบบครบรส รวมไปถึงกลิ่นปลาร้าหอมๆ จากสูตรเด็ดกว่า 120 เมนู ที่คัดสรรมาให้ ตามไปกินกันแบบเต็มโต๊ะ รสชาติเด็ดจริงๆ ร้านอยู่ ห่างจากสนามบินเพียง 15 นาที อีสานขนานแท้ที่มาอยู่ในเชียงใหม่ นำพาเราไปกินถ้าหิวอย่าทนแวะด่วน ถ้าไปช้าลูกค้าก็ยอมยืนรอต่อคิวนะค่ะ

ข้าวกะทิ ร้านตําอัพ at เชียงใหม่

วันนี้จะพาทุกคนไปลิ้มรสความ แซ่บบยามบ่ายกันที่ร้าน ตำอัพ By Tony อยู่แถวสี่แยกแม่เหียะ ไม่ไกลจากสนามบิน  บนถนนสาย เชียงใหม่ หางดง ชื่อหรูๆ Tum-UP By Tony ที่นี่ไม่ได้มีแต่ส้มตำหลายหลายรูปแบบที่ไม่ธรรมดา ส้มตำจัดได้ว่าอาหารอยู่คู่คนไทย และเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของไทย  ชาวต่างชาติเมื่อมาเที่ยวประเทศไทย นิยมเลือกเมนูอาหาร ส้มตำที่มีเผ็ดอร่อย

Tum-UP By Tony  ร้านที่มีมุมสวย ให้ลองไปเช็คอินกัน สมัยใหม่ สวย สะอาด น่านั่ง แต่คงรสชาติจัดจ้านแบบอีสานแท้ๆ จนกลายเป็นเจ้าดัง ลูกค้าแน่นต้องเข้าคิวรอ ร้านที่เหมาะกับการชวนครอบครัวก๊วนเพื่อน มาสังสรรค์จัดงานปาร์ตี้ แล้วมาถ่ายรูปอัพลงโซเชียลเน็ตเวิร์คกัน

อ้าว… มาดูบรรยากาศภายในร้านกันค่ะ  คนที่เคยมากินที่นี่ น่าจะรู้ดี ร้านนี้จะเป็นร้านที่มีโต๊ะนั่งเยอะ มีมุมสบายๆ ให้ได้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ  ส่วนรสชาติอาหารที่นี่อร่อยคนแน่นร้าน  เพราะความไม่ธรรมดาของแต่ละเมนู  ทำให้คุณภาพอาหารดีอย่างต่อเนื่อง รับประกันความแซ่บที่มีเทคนิคเฉพะในการทำอาหารจริงๆ

การตกแต่งร้านและบรรยากาศ  ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ควรให้ความใส่ใจ เพราะยุคที่โซเชียลมีเดียครองเมือง หากมี ร้านอาหารให้เลือก มีเมนูแซ่บ
ซี้ดจี้ดถึงใจ ในรูปแบบต้นตำรับและแบบฟิวชั่นตามชอบ ใครเป็นคอส้มตำรสแซ่บนัว บื่อส้มตำแบบเดิมๆ ต้องไม่พลาดร้านนี้ ส้มตำดี ส้มตำเด็ด ที่เค้าใช้วัตถุดิบคัดสรรคเฉพาะประจำจังหวัด มาประยุกต์ทำส้มตำ รับรองว่าจะไม่ท้องเสียอย่างแน่นอน อยู่เชียงใหม่ไม่ไปไม่รู้ และถ้ามาเที่ยวเชียงใหม่ต้องห้ามพลาด

ตำผลไม้ : ร้านตําอัพ at เชียงใหม่
ไก่ทอดสมุนไพรไร้กระดูก : ร้านตําอัพ at เชียงใหม่
ตำปูม้า : ร้านตําอัพ at เชียงใหม่
ตำกากหมู : ร้านตําอัพ at เชียงใหม่
เสื้อลุยไฟ : ร้านตําอัพ at เชียงใหม่
เล้งแซ่บ : ร้านตําอัพ at เชียงใหม่

ร้าน ตําอัพ at เชียงใหม่ ร้านส้มตำสไตล์ฟิวชั่น มีเมนูหลากหลายของเมนู ทั้งหน้าตา การตกแต่ง การผสมผสานเมนูต่างๆ มีความแปลกใหม่และน่าสนใจได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศอย่างกว้างขวาง ด้วยจุดเด่น และจุดขายที่ไม่มีใคร เจ้าของร้านอารมณ์ดี ร้าน ตำอัพ มีความน่าสนใจ และการจัดอาหาร มีเอกลักษณ์เป็นที่น่าจดจำทุกจาน

แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม!  ตําอัพ at เชียงใหม่ รับประกันความอร่อย รสชาติอร่อยขนาดนี้ และกินแล้วต้องการเปรี้ยวหวานแซ่บนัว เครื่องแน่น สมราคา บอกพนักงานได้เพราะพนักงานที่นี่บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่หน้าตูด

คุณโทนี่ ธราธิป ฉันทะวัฒน์ กับเมนูเด็ด ผัดขนมจีนทรงเครื่อง ร้านตําอัพ at เชียงใหม่

ตำอัพ บาย โทนี่  พร้อมบริการลูกค้าทุกท่านจากใจ คุณโทนี่  เน้นคุณภาพและการให้บริการดั่งลูกค้าทุกท่านเป็นคนในครอบครัว

Toptotravel ขอบคุณ คุณธราธิป ฉันทะวัฒน์ (โทนี่) ไม่ลังเลที่จะตอบรับหมายเชิญในครั้งนี้ เจ้าของร้านที่แนะนำวันนี้ ได้ชิมความสุดยอดความอร่อย 1 ใน 120 เมนู สุดอร่อย รสชาติจัดจ้าน

ที่ร้านตำอัพ มีโซนที่นั่งทานอาหาร ทั้งด้านใน ชั้น1 ชั้น 2 และบริเวณด้านหน้าร้านจัดหาห้องประชุม จัดเลี้ยง อาหารเด็ด แอร์เย็น  ฟรี wifi  สายปาร์ตี้อยากได้ Karaoke  คุณโทนี่บอก จัดให้ได้นะเจ้า  เมนูอาหารหลากหลาย 120 เมนูพร้อมมาก เลือกจัดเลี้ยง สั่งอาหารกล่อง สามารถให้บริการจัดให้ทั้งในและนอกสถานที่ ต้องที่ Tum-UP By Tony : ตำ-อัพ บาย โทนี่

แซ่บจริง อร่อยจริง ต้องไปโดน
ตําอัพ at เชียงใหม่ Tum-UP แซ่บ By Tony

23/7-8 ม.5 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่
งานส้มตำต้องมา เปิดบริการ 11.00-21.00  น.
สำรองที่นั่งโทร.  081 965 7657 / 062 491 9941
(หยุดให้บริการทุกวันจันทร์)

ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นความแซ่บได้ที่
FB: https://www.facebook.com/tumupchiangmai

#ส้มตำ #อาหารแซ่บ #ตำอัพ #ร้านอาหารเชียงใหม่ #ส้มตำเชียงใหม่
#เสือลุยไฟ  #กระดูกมุงกร #ครกยักษ์ #ตำไทย #ตำปูปลาร้า #ตำถาด

เจ๋งจริง STEAK JOBS

ร้านริมถนนอย่าง STEAK JOBS มีให้ทุกคนได้ลิ้มลอง รักสเต็กย่าง ต้องห้ามพลาด

วันนี้เจอ STEAK ครั้งแรก  กินแล้วถูกปากถูกใจ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ STEAK JOBS & Foodtrailers  มองผ่านร้าน  อาจจะดูทั่วไปธรรมดาๆ แต่ไม่ใช่นะ  ร้านชื่อ Steak Jobs อยากแนะนำเลยว่าของดีคุณภาพพรีเมียมจริง ร้านอยู่ย่านตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา ด้านถนนรามอินทราโซนฟู้ดทรัค วินเทจ

จบทุกปัญหา กับเย็นนี้กินไรดี?  สำหรับคนที่อยากอร่อยชิลๆไม่ต้องออกไปไหน ลองจิ้มๆ มือถือดู พูดเลยหมดยุคแล้ว ที่ไปต่อคิว ยืนเมื่อยเสียเวลา แค่เปิดแอพลิเคชั่นLINE MAN เสิร์ชหาร้าน ยอมเสียค่าส่งหน่อย  แต่ประหยัดเวลาในชีวิตไปมาก ไหนจะค่ารถ ค่าที่จอด ยืนต่อคิว ล่าสุด  STEAK JOBS ร้านนี้คือเน้นความหลากหลายของเมนูอาหาร พร้อมเสิร์ฟให้คุณทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นประตูบ้าน หรือประตูออฟฟิศ  รีบเปิดแอพแล้วสั่งรัวๆ มาทานให้อร่อยกันเลยคะ

อีกหนึ่งความประทับใจ ที่อยากจะส่งต่อ คือมันดีมากจริงๆ  ความอร่อยพร้อมเสิร์ฟ เมนูที่เชฟกระซิบบอกว่ามีส่วนผสมจากวัตถุดิบชั้นเลิศที่เรียกได้ว่า ชีสจากตระกูล “BERNERI” ซึ่งได้ผลิตชีสชนิดนี้ มาร้อยกว่าปีแล้ว

คนรักสเต็กย่าง ต้องห้ามพลาด!ความอร่อยได้เริ่มต้นแล้ว   ที่ร้านสเต๊กจ๊อบทำกันแค่ 2 คน เจ้าของร้านเป็นกันเอง ทำอาหารอร่อย  ขอบคุณเจ้านนายที่ให้รู้จักร้านนี้  หลายคนพูดเป้นเสียงเดียวกันว่า  ลองกี่ครั้งยังไงก็ยังอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งคุณภาพอาหารสมราคา ไม่เรียกว่าแพง ไม่เอาเปรียบลูกค้าในราคาที่อิ่มคุ้มสบายกระเป๋า

เอาเป็นว่าอยากกินอะไรสั่งเลย! ร้าน STEAK JOBS (สเต๊ก จ๊อบส์) ตลาดนัดเลียบด่วน จริงๆ แล้วร้านนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่แล้ว หลาย คนน่าจะรู้จักเมนูแต่ละเมนูนี่ มีอิทธิพลกับชีวิตมาก ทุกจานนี่ อร่อย แบบไม่ลืมหูลืมตากับเมนูมากมาย อย่างเช่น คาโบนาร่า, ดับเบิ้ล เบอเกอร์ ซอสเห็ด-ทรัฟเฟิล น่าเกรงขามไม่แพ้กัน , มันบด เน้นของคุณภาพ ในราคาจับต้องได้ อร่อยยิ่งขึ้น ทานคู่กับ ซุปครีมเห็ดแชมปิญ็อง เข้มข้นกลมกล่อม ใครถนัดสเต๊กเนื้อออสฯ สายวัวไม่ผิด ส่วนใครที่ชอบ สเต๊กคุโรบุตะ หรือ พอร์คชอพ สุดนุ่มจากสเต๊กจ๊อบ  สั่งเลยรออะไร

แนะนำเลย อีกจานจัดว่าดี การรวมตัวของไส้กรอกรวม รสชาติแบบนางฟ้า กับเครื่องดื่มแก้วโปรดคงไม่มีอะไรจะฟินไปกว่าการกิน ส่วนใครที่อยากเพิ่มความโหดดดให้สั่ง เห่าดง คือลมหายใจของความซี๊ด อร่อยเครื่องแน่น!

จานนี้ใครๆ ก็สั่งสปาเกตตี้เบคอนพริกแห้ง และสลัดผัก รสชาติเข้มข้น อุดมด้วยวิตามินมากมายจากผักหลายชนิด ถ้าใครยังไม่เคยลอง มาพิสูจน์ความอร่อยกัน ให้ภาพเล่าเรื่อง  แต่ละจายคิวก็จะเยอะๆ หน่อยนะ

ทานแล้วชอบทุกเมนูเลยนะ  ราคาไม่แรงด้วย แนะนำเลยต้อง ไปลองชิลล์มาก กินไม่หยุด เพราะ อร่อยจนหยุดไม่อยู่ทานที่ สเต๊กจ๊อบส์ อร่อยไม่แพงแล้ว ยิ่งถ้าสั่งไปจัดงานเองที่บ้านยิ่งถูกขึ้นไปอีกอร่อยสุดคุ้มในราคาสบายกระเป๋า

CR: ภาพ FB : www.facebook.com/Steakjobs1971

STEAK JOBS บอกได้ว่าเป็นเสือซุ่มอีกร้านนึง หน้าร้าน ดูสะอาดเรียบๆ ไม่ได้ดูเก่าดูขลังอะไร เหมือนร้าน STEAK โดยทั่วไปนึกว่าไม่มีอะไร แต่พอเริ่มได้กลิ่น และได้เท่านั้นแหละ ลองชิมติดใจกับรสชาติ  ระหว่างนั่งกิน เลยสั่งเกตุรอบร้านดู น่าทึ่งมากๆ จริงๆ ร้านเปิดที่อื่นๆ มาหลายปีแล้ว จนล่าสุดขยายมาที่ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา

สเต๊กจ๊อบส์  ยังคงยืนยันเจตนาและความตั้งใจ ในการทำอาหารทุกเมนูด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี สะอาด ราคาสมเหตุผล ตั้งใจและทำให้ดีที่สุดไม่ว่าเราจะจอดอยู่ที่ไหนก็ตาม มีเมนูอร่อยๆ ติดล้อมาเสิร์ฟ

อร่อยทั้งถูกและดีแบบนี้ไม่มีอีกแล้วพิสูจน์ความอร่อยกันได้แล้ววันนี้ที่ STEAK JOBS  เข้าทางถนนรามอินทรา ร้านนี้เดินไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะแนะนำว่าให้โทรก่อน

STEAK JOBS & Foodtrailers Team
ตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา โซนฟู้ดทรัค วินเทจ
กรุงเทพมหานคร 10240
โทร. 081 458 1405  (ดึกแค่ไหนก็อิ่มได้)   www.facebook.com/Steakjobs1971

#STEAKJOBS#Foodtrailer
#Foodpremium
#Foodstreet

พร้อมหรือยัง! มิสเตอร์ ซูปร้าเนชั่นแนล ไทยแลนด์

Mister Supranational Thailand 2018
เวทีประกวดมิสเตอร์ระดับโลก

ในแต่ละปีประเทศไทยมีการประกวดมากมายหลายเวที ครั้งนี้ อยากจะขอพูดถึงเวทีการประกวดประกวดมิสเตอร์ ซูปร้าเนชั่นแนล ไทยแลนด์ เป็นเวทีของหนุ่มหนุ่มหล่อ ที่มีฝัน บุคลิกดี  มีความกล้าแสดงออกอยากก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง และครั้งหนึ่งกับการทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทย ประกวดมิสเตอร์ ซูปร้าเนชั่นแนล ไทยแลนด์  เวทีการประกวดสุดยอดนายแบบมาตรฐานโลก

 

มิสเตอร์ซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ เป็นการประกวด ความงามเพศชาย ในประเทศไทย จัดขึ้นเป็นครั้งแรก  เมื่อปี พ.ศ. 2559 โดยมี คริส ปัญญา  (บี)
เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวด และประธานกองประกวด

เวทีประกวดนายแบบ ซึ่งเวทีนี้ โดยผู้ชนะเลิศเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวดมิสเตอร์ซูปราเนชันแนล ซึ่งรูปแบบการประกวดจะคล้ายคลึงกับมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และมิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ รวมถึงเป็นความสำเร็จของคณะกรรมการโดยให้ทั้ง 77 จังหวัด มีการจัดการประกวดมิสเตอร์ซูปร้าขึ้นเพื่อเฟ้นหาตัวแทนของแต่ละจังหวัดเข้าร่วมการประกวด โดยให้ใช้ชื่อ “มิสเตอร์ซูปร้า” แล้วตามด้วยจังหวัด

ปีนี้จัดเต็ม! ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่  ของกองประกวดมิสเตอร์
ซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2018 ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายฯ จัดงานแถลงข่าวการประกวด Mister Supranational เป็นเวทีการประกวดผู้ชายระดับสากลที่ได้การรับรองจาก Global Beauties ผู้จัดลำดับ Ranking Gland Slam Beauty Pageant  ระดับโลก  จัดอันดับให้อยู่ใน Grand Slam Top 5 ของโลก ตัวแทนผู้ถือลิขสิทธิ์ในปีนี้ คือปี   2018  ได้
ว่างลง

ดังนั้นในนามกลุ่ม Magic Nine Organizer โดยการรวมทีมทำงานของผู้มีประสบการณ์อันได้แก่ คุณ ประเสริฐ์ เจิมจุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม และการประกวดระดับสากล และคุณ คริส ปัญญา  ได้มีการติดต่อ ลงนามเป็นตัวแทนผู้ ถือลิขสิทธิ์  ในการจัดส่งตัวแทนไปประกวดในเวที Mister Supranationalณ. ประเทศโปแลนด์   ในปีนี้ และปีถัดๆ ไป  ในชื่อ Mister Supranational Thailand 2018



เวทีมิสเตอร์ ซูปร้าเนชั่นแนล ไทยแลนด์ คุณคริส ปัญญา (บี) ผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดแต่เพียงผู้เดียว พร้อมด้วย ประเสริฐ เจิมจุติธรรม ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสิน กองประกวด Mister Supranational Thailand 2018  เพื่อตอบข้อสงสัยต่างๆ ของการ ได้มา
ซึ่งลิขสิทธิ์ และรูปแบบการจัดประประกวดต่างๆ ในปีนี้

บรรยากาศในงาน พบกับแขกผู้เมีเกียรติที่มาร่วม อาทิ คุณอนุรี อนิลบล หรือ พี่ปุ๋ย ผู้บริหาร MTI,  อ.ปิ่น ผู้บริหารสถาบันดนตรี, คุณบ๊อบ ผู้ช่างภาพผู้เชี่ยวชาญ ด้านประกวดนายแบบ และนางงาม และคุณชายแฮ็คส์ ผู้บริหาร IPM Production และผู้ถือลิขสิทธิ์ของแต่ละจังหวัด เข้าร่วมงาน

บรรยากาศงาน งานแถลงข่าวเวทีประกวดสุดยอดนายแบบไทย  “มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนล ไทยแลนด์ 2018” ผู้ถือลิขสิทธิ์และประธานกองประกวด จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ณ. ร้านหรูบรรยากาศริมน้ำ RIVER PORT   ริเวอร์ซิตี้ แบ็งคอก โดยมีผู้ร่วมให้การสนับสนุน และผู้ถือลิขสิทธิ์จังหวัดต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

โดยประธานจัดงานได้รับเกียรติจาก คุณ ประเสริฐ์ เจิมจุติธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม  จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในการ จัดประกวด Mister Supranational Thailand 2018

ประกาศขายลิขสิทธิิ์ทั้ง 77 จังหวัด ที่น่าติดตามมากที่สุด เพื่อหาตัวแทนคนไทย ไปประกวดใน เวทีโลก ณ ประเทศโปแลนด์ พร้อมอวดความเป็นไทยให้โลกตะลึง

การประกวดมิสเตอร์ซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2018 มาตรฐานการประกวดสากลจากประเทศโปเเลนด์ บนพื้นฐานของความถูกต้อง ชัดเจนตามข้อกำหนดของกองประกวด ตอนนี้เปิดโอกาสให้ชายไทยทั้ง 77 จังหวัด ได้มีโอกาสร่วมเป็นที่สุดของหนุ่มหล่อสมบูรณ์แบบ โดดเด่นเเละเปี่ยมไปด้วยความรู้ ความสามารถ เพื่อเป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปประชันความสง่างามบนเวทีนานาชาติผลักดันสุภาพบุรุษไทย เดินทางไปเผยแพร่การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมของประเทศไทยในด้านต่างๆ ที่ประเทศโปแลนด์

เป็นโอกาสของชาวไทย ที่จะพิสูจน์ให้ชาวต่างชาติได้รู้จักประเทศไทย ไม่ควรพลาดกับการประกวดค้นหาสุดยอด นายแบบ ระดับประเทศมิสเตอร์
ซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ ร่วมจองสิทธิ์กันคุณอาจเป็นผู้ผลักดันสุภาพบุรุษไทยไปเผยแพร่ประเทศไทยในด้านต่างๆ ที่ประเทศโปแลนด์

รายละเอียดรอบการประกวด
รอบ Preliminary Show   วันจันทร์ ที่ 27 สิงหาคม 2561
รอบ Final Show วันพุธที่  29 สิงหาคม 2561

คุณสมศักดิ์ และ คุณลภนาวดี ศิริลาภอนันต์ ผู้บริหาร Riverport Restaurant


กองประกวดมิสเตอร์ซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2018 เรียนเชิญเจ้าของลิขสิทธิ์ทั่วประเทศ  ร่วมกันสร้างปรากฎการณ์ความยิ่งใหญ่  บนเวทีประกวด
Mister Supranational Thailand 2018 

“Guy like you haven’t seen”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง
Fan page:  Mister Supranational Thailand 2018
Email:  mr.supranationalthailand2018@gmail.com
Line :  @fhp6186f

กองประกวด โทร. 090 275 5183

มหกรรมการอ่านแห่งชาติ “มหัศจรรย์การอ่านเพื่อเด็กปฐมวัย”

28 องค์กร สานพันธกิจระดับชาติ คลายปมวิกฤตพัฒนาการทางด้านภาษาของเด็ก 0-6 ปี

การอ่านสร้างการเปลี่ยนแปลงหลากหลายมิติ  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ร่วมกับ แผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่าน  สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560 – 2564 : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายส่งเสริมการอ่าน 28 แห่ง จัดงานมหกรรมการอ่านแห่งชาติ  “มหัศจรรย์การอ่านเพื่อเด็กปฐมวัย”

ภายในงาน ประกอบด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจและสนุกสนานมากมาย ได้แก่ โซนเวทีมหัศจรรย์การอ่าน พบคนดลใจร่วมสร้างมหัศจรรย์แห่งการอ่าน มหัศจรรย์ลิเกนิทานและการอ่านบนฐานภูมิปัญญา บ้านอ่านยกกำลังสุขและโซนนวัตกรรมชุมชนอ่านยกกำลังสุข โดยเครือข่ายศูนย์ประสานงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในชุมชนท้องถิ่น จาก 15 พื้นที่ต้นแบบนำร่อง โซน Reading in Wonderland : ดินแดนนิทานจินตนาการ โซนตลาดนัดนักอ่านจาก 20 สำนักพิมพ์ โซนสานพลังองค์กรร่วมจัด มีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ นิทรรศการและกิจกรรมหนังสือดีเพื่อพัฒนาการ EF การขับเคลื่อนจังหวัดแห่งการอ่าน กิจกรรมบ้านนักเขียนหนังสือเด็ก กิจกรรมอ่านสร้างเสริมสุขภาพ ระดมจิตอาสาอ่านหนังสือเสียงให้กับน้องๆ ผู้พิการทางสายตา ฯลฯ


พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง ประธานคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในฐานะประธานเปิดงาน ว่า “จากมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560-2564 ทางรัฐบาลได้มีการกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนวัฒนธรรมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ของประเทศไทย กำหนดแนวทาง มาตรการเพื่อผลักดันให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐ กับภาคเอกชน หรือประชาสังคม

โดยมี 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ปลูกสร้างพฤติกรรมรักการอ่านที่เข้มแข็งให้กับคนทุกช่วงวัย อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสื่อการอ่านของประชาชนทั้งในชุมชนเมืองและภูมิภาค ยกระดับคุณภาพแหล่งเรียนรู้และสื่อการอ่านเพื่อการเรียนรู้ และ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการส่งเสริมการอ่าน โดยเฉพาะเด็กเล็ก เป็นวัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เปรียบเหมือนการที่ครอบครัว โรงเรียน ได้ปลูกต้นไม้ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดินอย่างไร เขาก็จะเติบโตขึ้นมาแบบนั้น หนังสือที่เหมาะสมกับช่วงวัย ก็เป็นสารอาหารชั้นดีที่จะเป็นรากฐานในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของประเทศอย่างมีคุณภาพ”

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า   “จากวิกฤตพัฒนาการของเด็กปฐมวัย (0-6 ปี)  ที่สำรวจ
โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า พัฒนาการล่าช้าโดยรวมร้อย
ละ 30 และพัฒนาการทางด้านภาษาล่าช้าสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดปี 2557 เฉลี่ยร้อยละ 38.2 ส่งผลเสียต่อการพัฒนาทักษะด้านอื่นๆ อาทิ การสื่อสาร การพัฒนาด้านอารมณ์ สังคม ดังนั้น กิจกรรม มหกรรมการอ่านแห่งชาติ

“มหัศจรรย์การอ่านเพื่อเด็กปฐมวัย” เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ที่จะช่วยพ่อแม่ ครู ได้คัดเลือกหนังสือเด็กให้ลูกๆ และนักเรียนได้อ่าน ขณะเดียวกันจะได้เห็นเทคนิคการอ่าน การส่งเสริมการอ่านมากมาย โดยเฉพาะการเล่านิทาน การอ่านในครอบครัว เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่นในครอบครัวด้วย การอ่านตั้งแต่เยาว์วัย เป็นรากฐานสำคัญของการแสวงหาความรู้และสร้างเสริมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ตลอดชีวิต รวมถึงสร้างเสริมสุขภาพในทุก ๆ มิติ ช่วยหนุนเสริมพัฒนาเด็ก ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านสติปัญญา ด้านสุขภาพ ด้านจิตใจคุณธรรม และด้านทักษะความสามารถต่างๆ เพื่อให้เด็กพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาประเทศไทย 4.0”

นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวเสริมว่า “ในขณะที่หนังสือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก แต่จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2558 พบว่า เด็กเล็กยังเข้าไม่ถึงการอ่าน 1.8 ล้านคน และผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ.2558 – 2559 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติด้วยการสนับสนุนขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย พบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ในประเทศไทยเกือบ 6 ใน 10 คน (ร้อยละ 60) ที่มีหนังสือเด็กอยู่ที่บ้านไม่ถึง 3 เล่ม ในครอบครัวที่ยากจนมากเด็กเกือบ 8 ใน 10 คน (ร้อยละ 77) มีหนังสือในบ้านไม่ถึง 3เล่ม นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบอีกว่ามี “พ่อ”เพียง 1 ใน 3คน ที่ทำกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้กับลูก เช่น อ่านหนังสือหรือร้องเพลงให้ลูกฟังเท่านั้น”

การขับเคลื่อนงานของแต่ละหน่วยงานในปัจจุบันที่ได้นำนโยบายของหน่วยงาน สู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม และเป็นส่วนหนึ่งของการสานพลังขับเคลื่อนแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย อาทิ กศน. มีบ้านหนังสือชุมชนเพื่อขอใช้พื้นที่ในบริเวณบ้านเป็นที่อ่านหนังสือ โดยกระจายให้อยู่ตามหมู่บ้าน จำนวน 19,254 แห่ง มีโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่สำหรับชาวตลาด ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ที่ค้าขาย ผู้มาซื้อสินค้ารวมถึงเด็กและเยาวชนเกิดนิสัยรักการอ่าน กรุงเทพมหานครที่เปิดห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ และพัฒนาการอ่านไปสู่โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ยังคงเป็นสะพานแห่งความรู้ คู่สะพานแห่งความรักใช้หนังสือถักทอสติปัญญาให้แก่เด็กไทยต่อไป อย่างมีพลัง และเข้มแข็ง อุทยานการเรียนรู้ TK park ที่พัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ให้สังคมไทย ในรูปแบบ”ห้องสมุดมีชีวิต” เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชนในทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในการส่งเสริมให้เกิดการใช้กองทุนสุขภาพตำบลเพื่อพัฒนาสุขภาวะเด็กปฐมวัยด้วยหนังสือและการอ่าน ลดความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงสื่ออ่าน และ15 พื้นที่นำร่อง Best Practise การอ่านสร้างการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายมิติของศูนย์ประสานงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น
การอ่านสร้างการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายมิติของศูนย์ประสานงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่านในชุมชนท้องถิ่น

นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 คณะทำงานและภาคีเครือข่ายได้จัดพิธีประกาศพันธสัญญาประชารัฐหนุนเสริมแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560-2564 “เพื่อสานพลังสร้างพลเมืองไทยด้วยการอ่านสู่ Thailand 4.0” โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และรองประธานคณะกรรมการบูรณาการการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป็นประธานรับมอบพันธสัญญา จากผู้แทน 28 องค์กร อาทิ กรมอนามัย,
กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น, สำนักวัฒนธรรม กีฬา และ การท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร, สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.), สภาการศึกษา, กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, สมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย, มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก, สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK park, องค์การยูนิเซฟประเทศไทย, มูลนิธิคนตาบอดไทย, สถาบันอาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป), โครงการเด็กไทยคิดได้ ต้านภัยสังคม, สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.), มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

นิทานคำคล้องจองของเจ้าห่านหน้าบึ้งที่ชื่อ อีเล้งเค้งโค้ง ครองใจเด็กไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว เรื่องและภาพ โดย ครูชีวัน วิสาสะ

นายวีระ   โรจน์พจนรัตน์ กล่าวว่า “การได้เห็นภาพแห่งความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในงานครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ทุกหน่วยงานแม้แต่ประชาชนพร้อมที่จะส่งเสริมและพัฒนาเด็กเล็ก เพื่อให้เติบโตด้วยความพร้อมจากการรักหนังสือ มีนิสัยรักการอ่านเป็นพื้นฐาน แผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านฯ

ด้วยทางกระทรวงวัฒนธรรมไม่สามารถขับเคลื่อนเพียงลำพัง ต้องทำงาน
บูรณาการร่วมกับทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากที่ปัจจุบันสภาพสังคมและเศรษฐกิจของทุกประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต  ของมนุษย์อย่างมาก ส่งผลให้ทุกประเทศ ต้องปรับตัวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งการอ่านและการเรียนรู้ เป็นเครื่องมือและกระบวนการในการพัฒนาคุณภาพประชากรให้เป็นพลเมืองที่มีศักยภาพ มีขีดความสามารถ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี
ที่กำหนดให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน มุ่งสู่การเป็ประเทศไทยยุค 4.0

มหัศจรรย์การอ่านเพื่อเด็กปฐมวัย
ระหว่างวันที่ 10-11 ก.พ. 2561 เวลา 9.00-16.00 น.
ณ แอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ มักกะสัน

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น