All posts by Shanya

Post-Dinner VINIFERA

Vinifera Wine Bar & Restaurant

อาหารสไตล์ฝรั่งเศสสุดหรูที่ไม่ได้ดูดีแค่หน้าตา “อาหารอร่อย บรรยากาศดี การบริการดีเยี่ยม”

เริ่มต้นเดือนสิงหาคม เรื่องความอร่อยกันดีกว่า ไม่ว่าจะอร่อยกันแบบไทย จีน หรืออเมริกัน รสชาติใดรสชาติหนึ่งก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างความสุขอันน่าจดจำ ที่ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารที่ไม่ธรรมดา วันนี้เรามีโอกาสมาลองอาหารสไตล์ Home Cooking แบบฝรั่งเศส ภายใต้การรังสรรค์ของเชฟมากฝีมืออย่างเชฟอดุลย์ ที่ได้ดึงเอาเสน่ห์และเทคนิคการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศสมาเสิร์ฟความอร่อยในบรรยากาศร้านร่วมสมัย โดยเลือกนำเสนอเมนูอาหารที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่บ้าน แต่คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพดีมารังสรรค์เมนูที่หลากหลาย

Vinifera Wine Bar & Restaurant

คุณพจีสวาท โซฟี ธนะปุระ กรรมการผู้จัดการร้าน Vinifera

จึงเป็นโอกาสอันดีที่เรา Toptotravel ได้โอกาสแวะไปเยี่ยมเยียนเธอที่ร้าน VINIFERA คุณโซฟี ( Sophie Tanapura) ร้านอาหารฝรั่งเศส VINIFERA แห่งนี้เปิดให้บริการจากความตั้งใจและมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมของ คุณพจีสวาท โซฟี ธนะปุระ กรรมการผู้จัดการร้าน กล่าวว่า แรงบันดาลใจที่สร้างสรรค์ร้าน VINIFERA ของคุณโซฟี เธอมักใช้เวลาอยู่กับการการทำอาหารและการร้องเพลง หรือเรียกว่า การสร้างสรรค์อาหาร เราใช้วัตถุดิบทั้งจากต่างประเทศและในประเทศจากทั่วเมืองไทย ใช้เทคนิคและคอนเซปต์ของการปรุงอาหารฝรังเศสแบบดั้งเดิม แม้ต้นทางจะเป็นเพียงไอเดียบริษัทนำเข้าไวน์และต้องการมีหน้าร้านขายไวน์เท่านั้น ต่อมาจึงจุดประกายความคิดสู่การมีสถานที่ทดลองไวน์ให้ลูกค้าได้มาลิ้มลอง จนกระทั่งต่อยอดกลายเป็นร้านอาหารฝรังเศสอย่างมั่นใจ ประสบการณ์ที่ฝรั่งเศส ซึ่งคนในครอบครัวได้ใช้ชีวิตและศึกษาที่นั่นมาก่อน และตัวเองเป็นลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส มีความหลงใหล ไม่ใช่แค่การเปิดร้านเป็นงานอดิเรก แต่ว่าอยากทำไปตลอดชีวิตค่ะ

อาหารทุกจาน เน้นเสิร์ฟเมนูต้นตำรับฝรั่งเศสเหมือนนั่งในร้านจากแคว้น​ Alsace ประเทศฝรั่งเศส ที่ใช้หัวใจและความหลงใหลในกลิ่นอายฝรั่งเศสมาทำธุรกิจ แม้ต้นทางจะเป็นเพียงไอเดียบริษัทนำเข้าไวน์และต้องการมีหน้าร้านขายไวน์เท่านั้น ต่อมาจึงจุดประกายความคิดสู่การมีสถานที่ทดลองไวน์ให้ลูกค้าได้มาลิ้มลอง ชวนหลงใหล จิบไวน์สุดคัดสรร เคล้าอาหารเลิศรส บนพื้นที่สีเขียวรายล้อม

Cold Cuts&Cheese Platter

สำหรับอาหารของที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน จากการรังสรรค์ของเชฟอดุลย์ ผู้มีความเชี่ยวชาญอาหารหลากหลายประเภท และมีประสบการณ์ในการทำร้านอาหารฝรั่งเศสมาก่อน โดยเฉพาะเมนูของหวานที่สามารถโชว์ฝีมือได้เทียบเท่าคนฝรั่งเศส จนมีลูกค้าออเดอร์อยู่เสมอ

หอยทากตัวใหญ่เนื้อแน่น : Escargots A La Bourgigno
Smoked Salmon Salad

เนื้อวากิว นำเข้าจาก ออสเตรเลีย เมนูปรุงด้วยเนื้อวัววากิว ให้รสสัมผัสที่วิเศษสุดอร่อยจนลืมไม่ลง ต่อด้วยเมนูที่ทำจากขากบ และเมนูที่โชว์ความเป็นอาหารฝรั่งเศสขนานแท้อย่าง Escargots A La Bourgigno หอยทากฝรั่งเศสอบเนย เพิ่งเคยกินหอยทากฝรั่งเศสอบเนยเป็นครั้งแรก ตัวหอยสีดำเนื้อนุ่มตัวกลม ได้รสเค็มมันของเนย เนื้อหอยกรอบนุ่มคล้ายเห็ด ที่ทางร้านเฟ้นหาตัวหอยเนื้อนุ่มตัวกลมนำเข้าจากเบอร์กันดี ให้ความรู้สึกกรอบนุ่มคล้ายเห็ด ปรุงรสด้วยเนยให้เค็มมันพอดี มีการเซ็ตติ้งกับซอสอย่างลงตัว และยังมีเมนูพิเศษชวนให้คนที่ยังไม่กล้ากินหอยทากได้ลิ้มลองผ่านเมนูพัฟเอสคาโก้

Mushroom soup
เชฟอดุลย์
Baby Chicken
Spaghetti Tom Yum Goong
Apple strudel
Creme Brulee

ของหวาน ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมื้ออาหารของชาวฝรั่งเศส ด้วยเหตุนี้อาหารทุกมื้อจึงต้องปิดท้ายด้วยของหวานเสมอ ซึ่งทุกเมนู ได้ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกๆ รายละเอียด แล้วต้องไม่ลืมที่จะปิดท้ายด้วยของหวาน ที่จะช่วยเติมเต็มให้มื้อสุดพิเศษนี้ยิ่งประทับใจไปกับมนต์เสน่ห์แห่งความอร่อยอย่างไม่รู้ลืม

Vinifera ร้านอาหารที่คงกลิ่นอายฝรั่งเศสที่นี่ที่เดียว ด้วยบรรยากาศของร้านที่เป็นกันเอง มานั่งชิลกับเพื่อน กับแฟน กับครอบครัว หรือมาคนเดียว เพื่อผ่อนคลายกันสักหน่อยก่อนกลับบ้าน เป็นไอเดียที่ดี บรรยากาศที่นี่มันเป็นอะไรที่วิเศษมากๆ เลยคะ สนามหญ้าเขียวๆ เพราะสถานที่เหล่านี้คุณไม่ได้เห็นแค่ด้วยตา แต่มันต้องสัมผัสด้วยความรู้สึก เวลาที่นั่งทานอาหารอยู่ที่นี่ ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปจริงๆ มันสงบ Vinifera เป็นอีกหนึ่งสถานที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่มีแต่ความสุขมากเลยคะ

แฟรงค์สเต็ก : Flank Steak & Grilled Vegetables and French Fries

เมนูพิเศษ สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง ให้เป็น “เมนูต้อนรับวันแม่” สื่อถึงความอบอุ่นแห่งสายใยรัก ที่ทั้งเชฟมือทองได้ร่วมกันรังสรรค์ อันเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับเชฟอดุลย์ มาถึงอาหารจานหลักกัสุดยอดเมนู สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง นั่นเองคะ

หน้าร้าน Vinifera
สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง

Vinifera เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสอยู่ในซอย 54 โชคชัย 4 ภายในร้านจะมีการติดแอร์เย็นฉ่ำ ใครที่อยากจะนั่งแบบเย็นๆ พร้อมกับนั่งฟังเพลงเพราะๆ ไปด้วยก็สามารถเลือกนั่งภายในร้านได้เลย ส่วนร้านอาหารซึ่งมี 2 ชั้น โดยปกติจะเปิดชั้นล่างเป็นหลัก ส่วนชั้นบนเน้นเอาไว้ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างกิจกรรม wine and cheese tasting เสริมด้วยบรรยากาศร้านซึ่งถูกออกแบบให้เข้าถึงได้ง่าย ด้วยบรรยากาศสบายๆ ของร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ที่คงความร่วมสมัย ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนกินข้าวที่บ้าน เน้นการตกแต่งแบบโมเดิร์น แต่แฝงไว้ซึ่งเฟอร์นิเจอร์กึ่งวินเทจ ให้ความรู้สึกน้อยแต่มาก ผสมผสานกับโทนสีอบอุ่นอย่าง ขาว เทา ดำ ร้าน vinifera เข้าทางซอย นาคนิวาส 57 ได้นะคะ อยู่ทางหลัง Central Festival Eastville เลี่ยงรถติดแวะมาจิบไวน์ ทานอาหารที่ vinifera ด้วยกันนะคะ

สำหรับใครอยากหาร้านอาหารชิลๆ บรรยากาศดี อาหารอร่อย
และราคาไม่แพงมาก อยากให้ไปลองที่นี่ดูค่ะ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ 087 328 2090
โปรโมชั่นดีดีติดตามที่
Facebook : https://web.facebook.com/viniferabkk/

Hilton and THAI offer Travellers Exclusive Privileges across Hilton’s Hotels in Thailand

Travellers on THAI can enjoy exclusive discounts across all of Hilton’s F&B outlets and spas in Thailand BANGKOK – 1 August 2019 – Hilton (NYSE: HLT) today announced the signing of a Memorandum of Understanding with Thai Airways International Public Company Limited (THAI) to provide exclusive discounts to travellers flying on THAI’s flights. Through this partnership, travellers on THAI can enjoy promotional prices at Hilton’s food and beverage outlets and spas across Thailand.

The nine participating hotels nationwide across five destinations include Waldorf Astoria Bangkok, Conrad Bangkok, Millennium Hilton Bangkok, Hilton Sukhumvit Bangkok, DoubleTree by Hilton Sukhumvit Bangkok, Conrad Koh Samui, Hilton Pattaya, Hilton Hua Hin Resort & Spa and Hilton Phuket Arcadia Resort & Spa.

“The new generation of global travellers are constantly seeking fresh ways to enjoy popular destinations. One way we are doing that is by providing unique yet authentic local experiences through food and beverage and spa treatments at our hotels which we are confident that they can help capture the attention of this group of travellers. The signing of the MOU between Hilton and THAI enables us to provide elevated experiences of this nature for both business and leisure travellers coming into Thailand and we are delighted to be working with THAI on this partnership,” said Heidi Kleine-Moeller, general manager, Millennium Hilton Bangkok.

“At Hilton, we also continue to champion our commitment to responsible sourcing and sustainable meat, poultry and seafood while supporting local communities. Our food and beverage menus are carefully crafted by supporting and celebrating local cuisines and highlights seasonally produced ingredients. We look forward to inviting travellers and guests alike to experience our expanded repertoire and enjoy dining and spa experiences with us in Thailand,” added Moeller.

“We aim to encourage international tourists to travel to Thailand with THAI and to further enhance their trip by enjoying the luxury fine dining and spa experience at Hilton’s nine hotels across Thailand with these exclusive offers,” said Wiwat Piyawiroj, THAI Executive Vice President, Commercial Department. “Through this partnership, we can contribute to the growth of Thailand’s tourism within the international market and offer our guests enhanced vacation experiences, which can create lasting memories.

THAILAND VILLAGE ACADEMY

44 เยาวชนนักเล่าเรื่องจากทั่วโลก ร่วมแข่งขันโปรโมตชุมชนแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมไทย

โครงการ THAILAND VILLAGE ACADEMY ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด — เปิดตัว 44 เยาวชน 17 ประเทศ แข่งขันเล่าเรื่องโปรโมตชุมชนวัฒนธรรม ดินแดนมหัศจรรย์แห่งการเรียนรู้วัฒนธรรมไทยสำหรับเยาวชนทั่วโลก

โรงแรม SC Park กรุงเทพฯ, โครงการ THAILAND VILLAGE ACADEMY ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด, เว็บไซต์ Hello Local.travel และ Readme.me เปิดตัว 44 เยาวชนนักเล่าเรื่องจากทั่วโลก ร่วมแข่งขันโปรโมตชุมชนแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมไทย ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท

คุณทัศชล เทพกำปนาท ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

คุณทัศชล เทพกำปนาท ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า “กรมส่งเสริมวัฒนธรรมมีนโยบายในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในชุมชน ให้นำทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ในการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ทางกรมฯ จึงได้ให้การสนับสนุนโครงการ Thailand Village Academy ซึ่งจัดขึ้นเพื่อยกระดับแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในชุมชนให้เป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งการเรียนรู้วัฒนธรรมไทยสำหรับเยาวชนต่างชาติทั่วโลก โดยทางโครงการฯ ได้คัดเลือกชุมชนที่มีวัฒนธรรมและมรดกภูมิปัญญาที่โดดเด่น และมีปราชญ์ชุมชนที่พร้อมถ่ายทอดให้ความรู้แก่เยาวชน ซึ่งชุมชนต้นแบบแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมสำหรับเยาวชนที่จะเปิดตัวในโครงการปีนี้มี 22 ชุมชน แบ่งเป็น ภาคกลาง 7 ชุมชน ภาคเหนือ 5 ชุมชน ภาคใต้ 5 ชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 ชุมชน ดังนี้

ภาคกลาง

  1. หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โฮมสเตย์ไทรน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
  2. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไทยพวน จ.นครนายก
  3. วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน ตำบลถ้ำรงค์ จ.เพชรบุรี
  4. ชุมชนบ้านบางพลับ จ.สมุทรสงคราม
  5. ชุมชนตำบลบ้านแหลม จ.สุพรรณบุรี
  6. ชุมชนตำบลหนองโรง จ.กาญจนบุรี
  7. ชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

ภาคเหนือ

  1. ชุมชนเมืองเก่าสุโขทัย จ.สุโขทัย
  2. ชุมชนบ้านท่ามะโอ จ.ลำปาง
  3. ชุมชนบ้านน้ำจำ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
  4. ชุมชนหล่อโย จ.เชียงราย
  5. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมลาวเวียง ตำบลหาดสองแคว จ.อุตรดิตถ์

ภาคใต้

  1. ท่องเที่ยวชุมชนตำบลทุ่งหว้า จ.สตูล
  2. ชุมชนท่องเที่ยวแหลมสัก จ.กระบี่
  3. ชุมชนบ้านลำขนุน จ.ตรัง
  4. ชมรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนพรหมโลก จ.นครศรีธรรมราช
  5. หมู่บ้านชาวนาวิถีไทย วิถีโหนด นา เล จ.สงขลา

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  1. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตำบลบ้านเชียง จ.อุดรธานี
  2. ชุมชนบ้านโคกเมือง จ.บุรีรัมย์
  3. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเขมราฐ นาแวง เจียด จ.อุบลราชธานี
  4. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมชนเผ่าไทกวนบ้านนาถ่อน จ.นครพนม
  5. ชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบ้านภู จ.มุกดาหาร

และหลังจากการพัฒนาชุมชนต้นแบบแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมไทยเสร็จสิ้นแล้ว ทางโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บริษัท การบินไทย จำกัด และบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด Hello Local.travel และ Readme.me ช่วยขยายผลจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนเยาวชนทั่วโลกมาเที่ยว

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “ ทุกชุมชนมีเรื่องเล่า ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ น่าตื่นเต้น และน่าเรียนรู้ โดยเฉพาะในมุมของเยาวชนต่างชาติ เพราะเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจในการเดินทางท่องโลกเพื่อเรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรม
ที่แตกต่าง เยาวชนชอบใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่น กลุ่มเยาวชนต่างชาติจึงเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่จะช่วยเผยแพร่ ส่งต่อเรื่องราวของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตอันมีเสน่ห์โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ของไทยให้เป็นที่แพร่หลายไป
ทั่วโลก

โครงการ Thailand Village Academy เปิดโอกาสให้ The Story Curators บล็อกเกอร์เยาวชนทั่วโลก ที่มีความสามารถในการคัดสรรและเล่าเรื่องราว Travel Story และมีทักษะในการใช้ Social Media เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทาง สมัครมาร่วมภารกิจแข่งขันชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท โดยมีบล็อกเกอร์เยาวชนจำนวน 1,423 คน จาก 86 ประเทศทั่วโลกสมัครร่วมกิจกรรม โดยเยาวชนที่ได้รับคัดเลือกมี 44 คน จาก 17 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อังกฤษ รัสเซีย เนปาล สิงค์โปร มาเลเซีย ภูฏาน อิสราเอล อิตาลี ยูเครน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เปรู ออสเตรเลีย ตูนิเซีย ไนจีเรีย และ ประเทศไทย ที่จะร่วมภารกิจการแข่งขันในระหว่างวันที่ 24-29 กรกฎาคม ผู้เข้าแข่งขันที่คัดสรร นำเสนอเรื่องราวชุมชนได้น่าสนใจ และสร้าง Social Engagement ผ่านสื่อออนไลน์ให้กับชุมชนสูงสุด จะเป็นผู้ชนะ โดยทางโครงการมีกำหนดประกาศผลผู้ชนะวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ผ่านช่องทางเว็บไซต์หลักของโครงการฯ
www.thailandvillageacaademy .com

ททท. มั่นใจว่า ผลงานสร้างสรรค์ของนักเล่าเรื่อง The Story Curators ทั้ง 44 คนนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนทั่วโลกอยากเดินทางมาเที่ยว มาสัมผัสดินแดนมหัศจรรย์แห่งการเรียนรู้วัฒนธรรมของไทยอย่างแน่นอน ขอเชิญทุกท่านติดตามเรื่องราวการแข่งขันของทั้ง 44 คน และช่วยเป็นกำลังใจให้พวกเขาผ่าน Website Readme.me ที่
ผลงานผู้เข้าแข่งขันบล็อกเกอร์เยาวชนไทย https://th.readme.me/campaign/the-village-story
ผลงานผู้เข้าแข่งขันบล็อกเกอร์เยาวชนต่างชาติ https://readme.me/campaign/the-village-story”

คุณปรียนันท์ มงคลศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดดิจิทัล บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน ) กล่าวว่า “จากงานวิจัยขององค์กรท่องเที่ยวเยาวชนโลก ระบุว่า ในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวเยาวชนทั่วโลกเดินทางจำนวนประมาณ 370 ล้านคน และโดยใช้เวลาในการท่องเที่ยวเฉลี่ย 50 วัน และใช้จ่ายเงินในการท่องเที่ยวประมาณ $2,600 หรือ 85,000 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดนักท่องเที่ยวเยาวชนต่างชาติมีความสำคัญมากและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ นับว่าเป็นโอกาสสำคัญของชุมชนไทยที่จะได้ต้อนรับเยาวชนจากทั่วโลกให้มาท่องเที่ยว และเรียนรู้วัฒนธรรมในชุมชน เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ช่วยชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน ในส่วนของการบินไทยและไทยสมายล์จะสนับสนุนโครงการโดยจัดทำบัตรโดยสารราคาพิเศษสำหรับเยาวชน เพื่อร่วมกิจกรรมการตลาดต่อยอดการขายแพ็กเกจท่องเที่ยวชุมชนต่อไป”

คุณทัศชล เทพกำปนาท ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวสรุปว่า “โครงการ Thailand Village Academy ช่วยยกระดับแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมในชุมชน สร้างจุดขายด้านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ต่อยอดจากต้นทุนอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่มีอยู่เดิมของชุมชน มาสร้างคุณค่าใหม่ที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชน และที่สำคัญยิ่งเปิดโอกาสให้ปราชญ์ชุมชน 22 ชุมชน ซึ่งเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่มีชีวิต มีคุณค่าของชุมชน ได้รับการยกย่องและมีบทบาทในฐานะ Local Guru บอกเล่าประสบการณ์มรดกทางภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่า ถ่ายทอดให้เยาวชนนักเดินทางได้เรียนรู้ ผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการฯ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะสิ่งที่สำคัญคือกลุ่มนักท่องเที่ยวเยาวชนต่างชาติ ที่จะช่วยเผยแพร่ ส่งต่อเรื่องราวของวัฒนธรรม วิถีชีวิตอันมีเสน่ห์โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ น่าภาคภูมิใจของไทยให้เป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก ช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชน ผู้เป็นเจ้าของทุนทางวัฒนธรรมนั้น ๆ ก่อให้เกิดความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะอนุรักษ์สืบสานต่อไปอย่างยั่งยืน”


โครงการมีกำหนดประกาศผลผู้ชนะวันที่ 31 กรกฎาคม 2562
ผ่านช่องทางเว็บไซต์หลักของโครงการฯ
www.thailandvillageacaademy .com

กกท. ปฐมนิเทศนักกีฬาและบุคลากรกีฬาที่ได้รับทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายเพื่อการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา คุ้มครอง ช่วยเหลือและจัดสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา ตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 สนับสนุนทุนการศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 มีผู้ได้รับทุนการสนับสนุนทุนการศึกษา จำนวน 272 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34,840,400 บาท

นายณัฐวุฒิ เรืองเวศ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย

นายณัฐวุฒิ เรืองเวศ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และในฐานะผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานการเปิดงานการอบรมปฐมนิเทศและทำสัญญานักกีฬาและบุคลากรกีฬาที่ได้รับทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562 กล่าวว่า กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นอีกกองทุนหนึ่ง ที่ช่วยสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษาที่เป็นนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ที่มีผลงานทางด้านการแข่งขันกีฬาเป็นที่ประจักษ์และมีผลการเรียนที่ดี ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นผู้ผลักดัน และให้การดูแลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา

โดยให้ความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ ในลักษณะเป็นค่าใช้จ่ายเหมาจ่ายรายเดือน , ค่าบำรุงการศึกษา แต่ละภาคการศึกษาตามที่ระเบียบกระทรวงการคลังกำหนด และยังเพิ่มโอกาสการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไป ในกรณีที่ผู้ขอรับทุนรายนั้น ๆ มีความสามารถ ด้านการศึกษาและกีฬาตามที่หลักเกณฑ์กำหนด

นายณัฐวุฒิ เรืองเวศ กล่าวต่อว่า สำหรับปีการศึกษา 2562 นี้ กองทุนฯได้ประสานขอความร่วมมือไปยังสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ในการให้ความช่วยเหลือ ผลักดันนักกีฬาที่ได้รับทุน ให้สามารถฝึกซ้อม แข่งขัน ศึกษาเล่าเรียนควบคู่กันไปจนจบการศึกษา กรณีพบว่านักกีฬาคนใด เกิดปัญหา ในระหว่างศึกษา เช่น เวลาเรียนไม่เพียงพอ ไม่มีคะแนนเก็บเนื่องจาก ไม่ได้ทำกิจกรรมหรือส่งรายงาน หรือเกิดปัญหาอื่น ๆ ก็ตาม ทั้ง 2 หน่วยงาน จะได้ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับนักกีฬา เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้นักกีฬาลดความกังวล และมีสมาธิมุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมและการแข่งขันกีฬามากยิ่งขึ้น

นายพงศ์ภรณ์ สุวิทยารักษ์ (แบนซ์) ม.ธรรมศาสตร์รังสิต กีฬา เทควันโด

ในการพิจารณาให้การสนับสนุนทุนการศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 มีผู้ได้รับทุนการสนับสนุนทุนการศึกษา จำนวน 272 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34,840,400 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ยื่นขอรับทุนทั้งหมด จำนวน 209 คน ได้รับพิจารณาให้นักกีฬาทีมชาติ เยาวชนทีมชาติ และนักกีฬาที่อยู่โครงการในแผนการพัฒนาของสมาคมกีฬา จำนวน 160 คน และบุคลากรกีฬา จำนวน 1 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 161 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 34,840,400 บาท
สมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ยื่นขอรับทุนทั้งหมด 52 จังหวัด 112 คน ได้รับการพิจารณาให้ทุนตามประกาศฯ กองทุน รวมทั้งสิ้นจำนวน 111 คน เป็นเงินทั้งสิ้น 6,395,400 บาท ทุนต่อเนื่อง อีกจำนวน 291 คน

เพื่อให้นักกีฬาและบุคลากรกีฬา ที่ได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับ ข้อบังคับ ระเบียบ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของกองทุน จึงจัดให้มีการอบรม ปฐมนิเทศ ให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน”

“ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ”

จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ฮาลาล 2562
พัฒนาศักยภาพด้านวิทยศาสตร์ฮาลาลไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ในโอกาสครบรอบ 16 ปีแห่งการจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยมูลนิธิพัฒนาวิทยาศาสตร์ฮาลาล
จัดงาน “สัปดาห์วิทยาศาสตร์ฮาลาล” (Halal Science Week 2019) ระหว่างวันที่ 1 – 8 สิงหาคม 2562

​โดยงาน สัปดาห์วิทยาศาสตร์ฮาลาล (Halal Science Week 2019) จัดขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์งานวิทยาศาสตร์ฮาลาล ให้แก่เยาวชนและผู้คนที่สนใจทราบ รวมถึงส่งเสริมการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และพัฒนาคุณภาพของเยาวชนไทยให้เป็นผู้มีทักษะการเรียนรู้และสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเริ่มต้นงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ด้วยกิจกรรมดีๆ
อัดแน่นมากมาย
• 1 – 6 สิงหาคม 2562 : Halal Science Camp & Quiz Bowl การเข้าค่ายและแข่งขันตอบปัญหาด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล
• 3-7 สิงหาคม 2562 : Halal Science Competition การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮาลาลระดับมัธยมศึกษา
• 4 สิงหาคม 2562 : Halal Run For All งานเดิน-วิ่งการกุศล 16 ปี
ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
• 7 สิงหาคม 2562 : Public Hearing การประชาพิจารณ์มาตรฐานสากล

ปิดท้ายกับงาน 16th Anniversary of HSC ร่วมแสดงความยินดีครบรอบ
16 ปี แห่งการจัดตั้งศูนย์ วิทยาศาสตร์ฮาลาล, งานแถลงข่าวการเปิดตัวโปรแกรม HALPlus พร้อมด้วยงานเปิดนิทรรศการสิ่งต้องห้ามและต้องสงสัย Exhibition on Don’t and Doubt ในวันที่ 8 สิงหาคม 2562 นี้
ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารสำนักงานสวนหลวงสแควร์ จุฬาซอย 12 เวลา 08.00-16.00 น. สำหรับผู้สนใจเข้าร่วม

กิจกรรมสามารถสอบถามข้อมูล หรือติดตามข่าวสารต่างๆ
ได้ที่ 02-218-1053
https://www.facebook.com/HSC.CU/ , http://www.halalscience.org/

ท้าให้ลอง Indian food ต้นตำรับแดนภารตะ ณ ห้องอาหารเดอะสแควร์

โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต


เคยมีคนถามว่าชอบอาหารอินเดียมั้ย​?
แฟนคลับที่ติดอกติดใจ ที่สุดของอาหารอินเดียเมนูเด็ดของ ร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำจากต้นตำรับ แดนภารตะ รังสรรค์โดยเชฟ ผู้มากประสบการณ์จากร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำระดับประเทศ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย

Toptotravel มาถึงแล้วไม่รอช้า ตักของอร่อยมาชิมกันเลย กินอาหารอินเดียครั้งแรกอร่อยกว่าที่คิด อาหารอินเดียที่คนไทยทานได้ง่ายๆ ที่นี่จัด แบบบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย โดยโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ร่วมกับร้าน บาวาร์ชิ ซึ่งเป็น ร้านอาหารอินเดียชั้นนำ จัดเทศกาล อาหารอินเดีย ณ ห้องอาหารเดอะสแควร์ของโรงแรมฯ ลองกันในครั้งนี้ รับรองว่าอร่อยถูกปากแน่นอน

ข้าวพิลาฟร้อนๆ

บอกเลยที่เด็ดของ อาหารอินเดีย ที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ของโรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เมื่อมาถึงรับ welcome drink เครื่องดื่มต้อนรับ ผสมโยเกิร์ต เครื่องดื่มที่ช่วยระบบย่อย และดับกลิ่นเครื่องเทศและรสชาติของอาหารอินเดีย กับเมนูอาหารอินเดียที่คนไทยทานได้ง่ายๆ ประสบการณ์แห่งความอร่อยครั้งนี้ ส่งตรงจากต้นตำรับแดนภารตะ รังสรรค์โดยเชฟผู้มากประสบการณ์จากร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำระดับประเทศ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย โดยได้รับรางวัลจาก Thailand Tattler ให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปีติดต่อกันและยังได้รับ Certificate of Excellence จาก Trip Advisor เป็นประจำ รวมไปถึงรางวัลจาก Readers Choice สไตล์อินเดียที่มีชื่อเสียงมานานเป็นร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในต่างประเทศ โดยสภาร้านอาหารอินเดีย พร้อมเสิร์ฟอาหารรสจัดจ้าน รวมถึงเมนูอย่างอื่นอีกมากมายหลายอย่างคะ อาหารระดับพรีเมี่ยมในราคาแสนสบาย ให้ได้เอ็นจอยกันกับการกินสุดดีงาม

วันนี้ เชฟกัลยาณี จิริฐิติกาลโชติ แนะนำและขอพาชมไลน์อาหารก่อนเลยนะ อาหารแห่งคาบสมุทรอินเดีย จัดจ้านด้วยเครื่องเทศของดีที่อยากให้ลิ้มลอง แกงกะหรี่เนื้อแกะ แกงผักโขมกับชีส ไก่ย่างเคี่ยวในซอสแกงกะหรี่ มันฝรั่งและดอกกระหล่ำบดใส่เครื่องเทศ โรตีและขนมปังอินเดีย ทานคู่กับแป้งนาน ทำสดใหม่ และข้าวพิลาฟหุงร้อนๆ ส่วนอาหารอินเดียต่างๆ เหล่านี้ แนะนำเป็นอย่างยิ่งจากความอร่อยส่วนตัว อาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเด็ดอื่นๆ อีกมากมาย รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ให้เลือกสรรความอร่อยได้อย่างไม่จำกัด รับรองถูกปากคนไทยแน่นอน

ซิกเนเจอร์จุกๆ ที่ต้องจัด
Chicken tikka Masala ไก่มาซาลา
Lamb Roganjosh แกงกะหรี่เนื้อแกะ
Malabari Fish Curry แกงกะหรี่ปลา
Panner lababda r แกงกะหรี่ชีส
Daal Makhani แกงถั่วใส่เนย
Aloo Gobhi มันฝรั่งและดอกกระหล่ำบดใส่เครื่องเทศ
Assorted Indian Bread โรตี และ ขนมปังอินเดีย
Chicken Samosa and Vegetable Samosa ซาโมซ่าไก่ และซาโมซ่าผัก

ของหวาน : Lassi ลาสซี่
Gulab Jamun กุหลาบจามุน

โรตีและขนมปังอินเดีย ทานคู่กับแป้งนาน

สำหรับคนที่ชอบทาน Lobster ต้องทานให้ได้นะคะ กริลล์หอมกรุ่นอร่อยกว่าที่อื่นหลายเท่าตัว ในกรุงเทพยังหา LOBster ตัวใหญ่ที่อร่อยเท่านี้ได้ยากมาก แม้แต่โรงแรม 5 ดาวหลายๆ ที่ก็เถอะคะ Toptotravel ยอมใจให้ที่นี่ คุ้มมากจริงๆ

พิเศษสุดคุ้ม! “มา 4 จ่ายเพียง 3”
เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิต Aeon, KTC ,Krungsri และ SCB

ลิ้มลองรสชาติความอร่อยเลิศของอาหารอินเดีย
บุฟเฟ่ต์ที่นี่จัดเฉพาะวันที่ 10 – 23 มิถุนายน 2562
Lunch buffet ราคา 820 บาท เน็ต เวลา 11.30-14.00 น.
Dinner buffet 1,120 บาท เน็ต เวลา 18.00-22.30 น.
Sunday Brunch 1,299 บาท เน็ต (lobster 1 ตัวต่อท่าน)
เริ่มที่เวลา 11.30-15.00 น.

Farm Stays in Singburi บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ สวรรค์บ้านทุ่ง

ทดลองใช้ชีวิตแบบพอเพียง ท่ามกลางความสุขที่เพียงพอ ชีวิตพอเพียง เพื่อสุขที่เพียงพอ
จุดแรกของทริปนี้ กับวิวท้องทุ่งนา ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา กับวิวพาโนรามาแบบ 180 องศา เราได้เเที่ยวเชิงเกษตรแบบดั้งเดิม ที่นี่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจจากคำสอนของในหลวง ร.9 และได้ลงมือทำเพื่อเดินตามรอยแนว ความพอเพียงของพ่อหลวง

FARM STAYS IN SINGBURI

ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว นักเดินทางที่มองหาที่พักอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตอย่างง่ายๆ เปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ให้เข้ามาศึกษาหาความรู้

บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ถูกล้อมรอบไปด้วยนาข้าว ได้ยินเสียงนกร้องปลุกผู้มาเยือน ท่ามกลางบรรยากาศแบบส่วนตัว บ้านพักที่พักแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับคนที่กำลังอยากทดลองใช้ชีวิตในแบบพอเพียง เป็นที่พักเชิงเกษตร หรือ ฟาร์มสเตย์ ที่เกิดจากความตั้งใจที่ต้องการจะนำผืนดินเล็กๆ กับที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ ตั้งอยู่ใจกลางขุนเขา แวดล้อมไปด้วยความสงบและความสุขจากธรรมชาติ แต่เดิมที่นี่ทำนา ปลูกข้าว ด้วยใจรักในเรื่องของสุขภาพ และอยากให้คนในครอบครัว ได้รับประทาน เริ่มแบ่งปันให้คนรอบข้าง จนเริ่มมีผู้มาเยือนที่นี่บ่อยขึ้นจึงค่อยๆ พัฒนาที่นี่ เป็นที่พักเชิงเกษตร ตามแนวพระราชดำริในการใช้ชีวิตที่พอเพียงให้กลายเป็นบ้านทรงไทยกลางทุ่งนาเขียวขจีที่แสนอบอุ่น

ข้าวหอม ฟาร์มสเตย์ (Farm Stay) เป็นสถานที่คงความอุดมสมบูรณ์และสวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ได้ครบทั้งหมด ความสุขในวิถีเกษตร ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา บนเนื้อที 20 ไร่ ผสมผสานกับความเรียบง่ายที่พอเพียง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภายในบ้านพักแต่ละหลังครบครัน และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน พื้นที่ส่วนกลางของที่พักเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาสีเขียวขจีในช่วงปลายฝน ก่อนผลัดเปลี่ยนเป็นสีทองในช่วงหน้าหนาว

ภายในห้องพักตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น และที่สำคัญคุณยังได้เรียนรู้การทำเกษตร และยังได้รับประทานอาหารออร์แกนิคที่สดใหม่ปราศจากสารเคมี ที่พักจะมีแปลงเกษตรให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมลงมือและเรียนรู้การปลูกผักออร์แกนิค ตามธรรมชาติตามวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบบ้านนอก ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ น่าจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ได้ดี

คุณสายพิน ชูเชื้อ เล่าถึงที่มาของ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ หลังจากหันหลังให้กับอาชีพพยาบาล จากทำงานหนักมาตลอด ภายหลังหันมาให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพ ทั้งอาหารและการใช้ชีวิต เขาจึงตัดสินใจเปิดที่พักนี้ขึ้น เปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตัวเอง สู่วิถีเกษตรท้องถิ่น ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่แบบเกษตรอินทรี โดยไม่พึ่งสารเคมี และปลูกผักปลอดสารพิษ รวมถึงยังเปิดเป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้ ให้นักท่องเที่ยวได้มาทำกิจกรรมปลูกข้าว ดำนา เก็บผัก ล่องเรือ และยังเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน บนเรือนไทยไม้สัก เคียงข้างท้องทุ่งนาสีเขียวขจีกว่า 20 ไร่

คุณสายพิน ชูเชื้อ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์

จากที่ดินผืนเดิมถูกปรับให้เหมาะกับการทำที่พักเชิงเกษตร อาหารเราใช้ ได้จาก ทุ่งนาสีเขียวกับการเรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่าย ผักที่ปลูกเองมาเป็นวัตถุดิบ ถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้รายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม แต่มีความสะดวกสบายบวกกับได้การเรียนรู้ ถ้ามาพักที่นี่ ตื่นเช้ามาทำบุญใส่บาตร ทานอาหารเช้าแล้ว ตื่นมาอาจจะปลูกผัก รดน้ำผัก มาทำเกษตร ปั่นจักรยานชมท้องนา, ใส่บาตรพระตอนเช้า, ชมการปลูกผักปลอดสารพิษ, ชมโรงสีข้าว หรือถ้ามาช่วงเข้าออกรวงก็มาเกี่ยวข้าวกัน ซึ่งก็แล้วแต่ฤดูกาล ข้าวไรซ์เบอรี่สิงห์บุรี ที่ได้มาตรฐานพร้อมส่ง ภายใต้แบรนด์ บ้านข้าวหอม ซึ่งเป็นความสำเร็จของบ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ เป็นความฝันที่มีคนร่วมฝันเป็นคนในครอบครัว

การทำนาแบบปลอดภัย กว่าจะมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ที่บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ทำนาเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ เน้นเรื่อง ข้าวปลอดสาร เน้นความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จึงมีการทำทุกกระบวนการอย่างมีคุณภาพ จนได้รับมาตรฐานของกรมการข้าวและอย.อยากให้ทุกคนรักสุขภาพ ด้วยการกินอาหารที่ดีมีคุณภาพ ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยากต่อการเจ็บป่วย โดยเริ่มต้นที่ข้าว ซึ่งเป็นอาหารพื้นฐานของคนไทย ควรเลือกทานข้าวที่มีประโยชน์ สะอาดและปลอดภัย ดังคำพูดที่ว่า ทานข้าวเป็นยา อย่าทานยาแทนข้าว รับรองพักที่ฟาร์มสเตย์แห่งนี้ทั้งอิ่มท้อง ทั้งอิ่มใจเลยล่ะ
-คุณสายพิน ชูเชื้อ

คุณสายพิน ชูเชื้อ

นอกจากนี้หากมีเวลาเหลือก็ต้องไม่พลาดไปเที่ยวชมธรรมชาติเชิงอนุรักษ์มากมาย ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ที่คุณจะได้สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย ห้องพักออกแบบมาได้อย่างน่ารัก รวมไปถึงพื้นที่ สำหรับการทำกิจกรรม เป็นกลุ่มสุดสนุกและได้เรียนรู้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปลูกผัก เก็บผักตามฤดูกาล ดำนา เกี่ยวข้าว ปลูกข้าวโพด พายเรือ และเรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรี ประมาณ 22 กิโลเมตร มาชมทุ่งนาสีเขียวๆ ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชนบทที่มีความเรียบง่าย ทำไร ทำนา ปลูกผัก ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ แต่มากไปด้วยความสุข ความพอเพียง พร้อมเปิดบ้านรอต้อนรับอย่างอบอุ่นราวกับเป็นคนในครอบครัว

ติดต่อ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ห้องพักในเรือนไทย
ที่พัก : บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์
ราคา : 500-800 บาท/คน
(ที่พัก + อาหาร 2 มื้อ + อาหารว่าง + กิจกรรมท่องเที่ยว)
Facebook : บ้านข้าวหอมสิงห์บุรี
ติดต่อ โทร : 082 724 0322
พิกัด : https://goo.gl/maps/psyxFn8enTK2

เจแปนแสนรัก ดอกซากุระดอกไม้ สีชมพูที่สวยที่สุดในโลก

นั่งสบตาดอกซากุระ กับเทศกาลฮะนะมิ (Hanami) ที่โตเกียวไปญี่ปุ่นแล้วมาฮานามิ ใต้ต้นซากุระ ทริปนี้เพอร์เฟ็คท์มาก

ครั้งนี้บินไปเที่ยวไกลถึงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลบร้อน หาเวลาสัก 4 วันไปชมดอกซากุระ ดูภูเขาและสิ่งที่ต้องมีในทริปนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิตขอนั่งชิวใต้ต้นซากุระ 

สวนอุเอโนะ หนึ่งในสวนสาธารณะยอดนิยมใจกลางกรุงโตเกียว ใครอยากชมซากุระแบบคนญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า เทศกาลฮานามิ ก็มาปิกนิกที่นี่ได้นะ บริเวณโดยรอบแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งวัด ศาลเจ้า ทะเลสาบ สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ นอกจากนั้นภายในสวนยังเต็มไปด้วยต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น เรียงรายตามสองฟากฝั่งของถนนที่ทอดยาวภายในสวน โดยในช่วงที่ดอกซากุระกำลังบาน ที่สวนอุเอโนะก็มีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระ รวมถึงการเปิดไฟไลท์อัพสวยๆ

Ueno Park สวนสาธารณะแห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ใกล้ถึงเทศกาล “ฮานามิ” หรืองานเฉลิมฉลองของญี่ปุ่น ขอเรียกทริปเกร๋ๆ นี้ว่า เจแปนแสนรัก ได้กอดคอเพื่อนเที่ยวญี่ปุ่น เดือนเมษา  ขอลาพักร้อนได้ยาวๆ ลองจัดทริปกับแก๊งเพื่อนเลิฟ ที่ประเทศญี่ปุ่นก็จะมีดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก บริเวณโดยรอบมีที่ช้อปปิ้งรอบๆ ให้ไปเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี บอกเลยว่าไปทั้งทีไม่ผิดหวัง แถมยังเดินทางง่ายด้วยนะ

12670665_1374714882554379_5585578028886749032_n

ทำงานเหนื่อย ก็ต้องหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ คนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นนอก
จากไปกับทัวร์แล้ว อีกทางที่ฮิตมากมายเลยคือ นั่งรถไฟฟ้า เจอาร์เที่ยวเองไปกับกลุ่มเพื่อน ตรงนี้เราสามารถซื้อเลือกจากเมืองไทย มีให้เลื่อก มากมายเลือกซื้อตามสบาย และ มื้อแรกที่ถึงโตเกียวเก็บกระเป๋าอะไรเสร็จแล้ว รออะไร นั่งรถไฟจากเมืองไทย เข้าใจง่ายสบายๆ  อยากไปเที่ยวบ้างทำได้ง่ายๆ วางแผนกันเลยแต่ถ้าซื้อ JR pass อื่น เช่น  JR Kanto pass สามารถไปซื้อที่สนามบินได้ ที่ JR office ไม่ต้องซื้อล่วงหน้าจากไทยไปก่อน

ถ้าหากจะซื้อ JR pass ให้คำนวณถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายก่อน บางที อาจจะจ่ายในส่วนที่แพงเกินจำเป็น อยู่แค่ใน tokyo หรือ ออกนอก tokyo นิดหน่อย  JR  pass ไม่มีความจำเป็นเลย ใน tokyo ซื้อ metro one day pass หรือ metro+ Toei ดูแล้วคุ้มมาก และสามารถหาข้อมูลจากการอ่าน japan-guide.com

sakura-85

ค่ำนี้นอนไหนกันดี แผนที่ของเราในครั้งนี้เริ่มออกเดินทางจากสนามบินนาริตะ โตเกียว แล้วเดินทางเที่ยวรอบๆ โตเกียวทั้งหมด โดยเราจองที่พักไว้ล่วงหน้าก่อน….โชคดีที่จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง 3 เดือนไม่งั้นโรงแรมอาจเต็มหมด เพราะเป็นช่วงเทศกาลซากุระ นักท่องเที่ยวมาก ตลอดทางที่เราแวะเที่ยวถ่ายรูป ดูเมืองเล็กๆ ที่มีนักท่องเที่ยวมายจากทั่วโลก เส้นทาง…..ระหว่างเรามุ่งหน้าไปเมือง……ชื่นชมกับถนน เพราะเป็นวิวแม่น้ำโค้าเป็นสโลปสวยๆ ให้เราได้เห็นก่อนเดินทางต่อ  มื้อแรกที่ถึงโตเกียวแบบง่ายๆ อาหารหยอดเหรียญ

โตเกียว อากาศดีไม่ร้อน ไม่หนาว อุณหภูมิเฉลี่ย 12-20 องศา แถมทีขนมและอาหารอุดมสมบูรณ์จริงๆ  อาหารและผลไม้สดมาก เห็นแล้วอยากมาอยู่มากินของดีที่นี่ จะได้แข็งแรงอายุยืนอย่างคนโตเกียวบ้างจัง

12928387_1374714925887708_5531270961918680054_nช่วงซากุระบานของคนญี่ปุ่น ที่สวนอุเอโนะ (Ueno Sakura Matsuri-Cherry Blossom Festival) ดูซากุระก่อนใคร ขอบอกว่านาทีนี้เที่ยวญี่ปุ่นเมืองไหน ไม่เก๋เท่ามาโตเกียว เพราะเมืองนี้เต็มไปด้วยสีชมพู ซากุระที่จังหวัดโตเกียว คือพันธ์ุ….. ซากุระ โดยดอกจะมีสีชมพุเข้มสดกว่าพันธ์อื่นๆ เมื่อบานเต็มที่ ออกดอกเต็มต้น จึงค่อนข้างสวยงามตัดกับขอบฟ้าสีเข้ม ถ่านรูปกันเพลินทีเดียว ในช่วงปลายเดืนอมีนาคม ดอกซากุระเริ่มเบ่งบานกันแล้ว รับรองว่าใครได้มาที่นี่และลิ้มลองผลผลิตจากดอกซากุระมากมายอย่าง ไอศกรีมซสกุระ ชาซากุระ หรือเบียร์ซากุระก็มี
12923126_1371994506159750_3049440124495360946_nเราก็ได้มาอินกับดอกซากุระที่โตเกียว พร้อมกับดอกสีพาสเทลสวยงาม กันแล้วจุดนี้ห้ามพลาด

12961462_1374714885887712_7056154906277349972_n

ทำงานเหนื่อย ก็ต้องหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ กันดีกว่า
สวนอุเอโนะ เข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิด 24 ชม.
(การแสดงไฟตลอดช่วงซากุระบาน 17.00-20.00 น.)
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานีรถไฟ Ueno

เดอะทับแขกกระบี่ ปันความสุข ปล่อยใจ เอนกาย ท่ามกลางทะเลธรรมชาติ

มาแบ่งปันพระอาทิตย์ตกดินกันเถอะ

ทำไมต้องไป “กระบี่” จังหวัดที่มีชื่อเสียง ดังไกลระดับโลก อย่างเกาะพีพี ทะเลแหวก ส่วนใครมีความหลงไหลในธรรมชาติ รักการเรียนรู้ ชอบการค้นหาอะไรใหม่ๆ ที่ชายหาดทับแขก ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป ที่พักหรูสุดโรแมนติก ชายหาดที่มีรูปทรงโค้ง น้ำทะเลเป็นสีฟ้า บรรยากาศเงียบสงบ ริมหาดสุดชิลล์ ฟีลกู๊ดกับวิลล่าริมทะเล ณ. เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท

ด้วยความโดดเด่นของทะเลที่คงความเป็นธรรมชาติ แถมบรรยากาศล้วนๆ ที่นี่เพื่อนๆ ที่มีโอกาสมาปักหมุดที่ชายหาดแห่งนี้ หลึกหนี มลภาวะและทิ้งความเครียดโยนลงทะเล แล้วที่นี้มานอนสูดอากาศดีสักคืน-สองคืน บอกเลยว่าช่วยรีเฟรชร่างกายได้ดีนะคะจะบอกให้!

วันนี้ เราไปพักกันที่ วิลล่าติดทะเล ติดชายหาด บรรยากาศดี วิวสวยที่สุดในโลก The Tubkaak Krabi Boutique Resort ใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 40 นาทีจากสนามบินนานาชาติกระบี่

“ทับแขก” หรืออีกนัยหนึ่ง หมายถึง บ้านพักสำหรับผู้มาเยือน ชายหาดที่เราสามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างงดงาม เพราะที่นี่… ถือเป็น First impression และยังได้สูดโอโซนชั้นดีกับที่พักริมทะเลบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ความเงียบสงบ และธรรมชาติที่โอบล้อม ด้านห้องพัก มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 59 ห้อง โดยมีส่วนที่เป็น pool villa จำนวน 18 ห้องพักหรูระดับ 5 ดาว ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ Contemporary Tropical ห้องพักตั้งอยู่บนหาดคลองหินและโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม หาดทรายสีขาว น้ำทะเล
สีฟ้าเข้มๆ ภูเขาสีเขียวชอุ่มที่เหมือนเป็นฉากหลังให้กับที่วิวที่พักริมทะเล

เข้าสู่โหมด ห้องพักหรู ตกแต่งต่างสไตล์ ลดหลั่นกันลงมาตามเนินเขามากถึง 6 แบบ คือ Deluxe Ocean View, Grand Deluxe Jacuzzi Ocean View, Tropical Villa, Tropical Pool villa, Beach Front Pool Villa และ Presidential Pool Villa 2 Bedroom แต่ละห้องยังตกแต่งผสมผสานความเป็นศิลปะจามแบบร่วมสมัยอย่างลงตัวและงดงาม ภายในห้องนอนคงคอนเซ็ปต์ของความเรียบหรูและยังคงเน้นสีขาวให้ตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเพื่อความอบอุ่นและนุ่มนวล ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง ทีวีแอลซีดี ตู้เย็น ลำโพงไอพอด เครื่องทำกาแฟ เครื่องทำน้ำอุ่น และยังฟรีมินิบาร์ทั้งขนมและเครื่องดื่มแบบที่ไม่ต้องกลัวว่าจะหิว ละที่เป็นไฮไลท์ของห้อง Beach Front Pool Villa คือสระว่ายน้ำส่วนตัวที่อยู่ทางด้านหน้าห้องซึ่ง เป็นสระว่ายน้ำที่เราสามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบ 180 องศา พร้อมเตียงชายหาดให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

จากวิลล่าพรีเมียร์กับสระว่ายน้ำ ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดสำหรับการพักผ่อนที่แสนโรแมนติก การตกแต่งภายในที่จากแนวคิดอันลึกซึ้ง วิลล่ามีขนาดกว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หรูหราและห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง และห้องอาบน้ำฝักบัวองค์ประกอบของการออกแบบในประเทศรวมทั้งหัวเตียงกราฟิกขนาดใหญ่ เพดานโค้งสูงหลังคาลาดวัสดุธรรมชาติสร้างความรู้สึกของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นภาคใต้

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท อีกหนึ่งที่พักสวย ที่อยู่ในลิสต์ที่พักในฝันของใครหลายๆ คน เมื่อเข้ามายังพื้นที่ของรีสอร์ท ก็เหมือนหลุดเข้ามาในดินแดนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงไหลและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ส่วนด้านหน้าจะเป็นส่วนของล็อบบี้ที่เป็นอาคารเปิดโล่งแบบ Open Air ที่เปิดรับลมจากธรรมชาติ ที่พักมาในรูปแบบวิลล่าสุดเรียบง่าย ที่เน้นดีไซน์จากธรรมชาติ ทั้งไม้ งานจักรสาน แต่ก็ยังแฝงความโมเดิร์นน่าพัก ได้อีกความรู้สึกซึ่งหายากในปัจจุบัน ส่วน มุมชิลล์ก็ต้องยกให้กับห้องพักติดทะเล ที่มีความเป็นส่วนตัว ที่เราสามารถหย่อนขา ตกปลา และชมวิวอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้จากมุมนี้ เหมาะแก่การหนีความวุ่นวายมาให้ร่างกายได้รีแลกซ์กันสุดๆ ที่นี่ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่าง

เดอะทับแขกเป็นบูทีค รีสอร์ท ความรักเล็กๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการอยู่ในระดับชั้นยอดเยี่ยม รวมไปถึงการบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดจากพนักงานทุกคนที่มีคอยช่วยเหลือดูแลให้กับผู้เข้าพัก ไมว่าจะเป็นบริการทำความสะอาดเสื้อผ้า หารถเช่าโดยที่ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลาย ปล่อยความเหนื่อยล้า ความเครียดไปกับสระว่ายน้ำสวย ๆ อ่างจากุซซี่หรู หรือว่าจะหยิบหนังสือดี ๆ มาอ่าน หรือดูหนังดีวีดี หรือเล่นโยคะให้สบายใจนั้น ทางรีสอร์ทได้จัดมุมส่วนตัวให้คุณได้หาความสุขง่าย ๆ สะดวกสบายอย่างครบครัน

รุ่งเช้าหลังละเมียดกาแฟ….ยามเช้าและเบรกฟาสท์เบาๆ อย่างที่รู้กันว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน หลังอาหารเช้าเรามีโปรแกรมนั่งเรือไปเกาะ
กลางทะเล เพืื่อชมความงดงามของเกาะห้อง จากหาดทับ แขกสามารถเช่าเหมาเรือหางยาว (ติดต่อโรงแรม) วิ่งตรงมาเที่ยวชมความงามของเกาะห้อง ท่องเที่ยวกินบรรยากาศทะเลฝั่งอันดามัน เที่ยวชมหมู่เกาะห้อง (Koh-Hong) หรือ “เกาะเหลาบิเละ” เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก นั่งอยู่ที่หาด ก็มองเห็นเกาะห้อง หลังเที่ยงก็กลับได้จะได้ไม่ร้อนมาก

สำหรับมื้อเช้าและมื้อเที่ยง เราฝากท้องที่ห้องอาหาร Arundina ให้บริการอาหารไทยและอาหารยุโรป ตั้งอยู่ท่ามกลางสระบัว มีบรรยากาศที่มีเสน่ห์มากตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี หันหน้าไปทางริมหาดเห็นทะเลกระบี่ที่สวยงาม เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารที่หลากหลาย รสชาติแสนอร่อย โดยพ่อครัวที่มีประสบการณ์ทั้งอาหารยุโรปและอาหารไทยคลาสสิก คัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่ Arundina ยังเปลี่ยนบรรยากาศที่สดชื่นระหว่างวัน มาเป็นความโรแมนติกของอาหารมื้อค่ำที่เยี่ยมยอดภายใต้ฟ้าเปิด เสียงดนตรีเคล้าเสียงทะเล เติมเต็มการสัมผัสผู้เข้าพักได้อย่างเพอร์เฟค

มื้อเที่ยงไม่ต้องออกไปไหนไกลเพราะสามารถสั่งอาหาร โดยในแต่ละเมนูเป็นอาหารที่มีรสชาติเข้มๆ แบบทางใต้ เลือกทั้งโซนอินดอร์ด้านในและโซนเอ้าท์ดอร์ นั่งรับลมทะเลแบบชิลล์ๆ

ห้องอาหาร Arundina มีบรรยากาศที่มีเสน่ห์มากตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี หันหน้าไปทางริมหาดเห็นทะเลกระบี่ที่สวยงาม ที่มีเพียงที่เดียวบนเหาดทับแขก เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท ที่ให้ทุกคนได้นั่งเรือ ไปชมความงามของเกาะ สามารถดำน้ำดูประการังและสัตว์น้ำหลากสีสันได้อีกด้วย ช่วงบ่ายหรือช่วงเย็นก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาหรือไม่ต้องกลัวจะไม่มีอะไรทำ เพราะที่ ห้องอาหาร Arundina ที่เป็นห้องอาหารแบบ All Day Dining มีเต็นท์กระโจมปิกนิกสีขาว ริมชายหาด เหมาะกับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน นั่งปล่อยอารมย์ ฟังเสียงคลื่นพร้อมทานอาหารสุดพิเศษอย่าง น้ำมะพร้าวสดๆ น้ำผลไม้ และพิซซ่า รับรองว่ามุมนี้ ช่างสวยถูกใจจนจะต้องพกกล้องมารัวชัตเตอร์ไว้เอารูปไปอวดเพื่อนๆ รับรองร้องว้าว! อย่างแน่นอน

ห้องอาหาร Arundina ห้องอาหารแบบ All Day Dining
จะพาทุกคนไปดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลตลอดทั้งวัน
ตั้งแต่เวลา 07.00 – 23.00 น.

ชกร นันทวิสัย General Manager เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท
ยิ้มหวาน…….กับคำกล่าวที่ว่า ที่รีสอร์ท น้อมนำหลักปรัชญาศก.พอเพียงมาใช้ในการดำเนินธุรกิจโรงแรม ปริมาณพอเหมาะพอเพียง เราก็อยู่ได้ ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักทะเลกระบี่ นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกจากทุกมุมโลกต่างประทับใจ และที่โรงแรมยังถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชอบการท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ สามารถเที่ยวชมเกาะห้อง เกาะละดิง เกาะผักเบี้ย ฯลฯ นักเดินทางออกเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ดื่มดำธรรมชาติ ก่อนจะกลับมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ ริมหาด เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท เวิ้งชายหาดที่มีภูเขากลางน้ำกลางกั้นคลื่นสึนามิ ที่นักท่องเที่ยวมาพักผ่อนแบบสงบท้องทะเลที่สวยงามที่มีจุดขายเด่นชัด เป็นโรงแรมด้านสุขภาพ และกีฬาแบบครบวงจรแห่งแรกในจังหวัดกระบี่หากความประทับใจแรกเกิดขึ้นที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น คน สิ่งของ หรือแม้แต่สถานที่ก็จะทำให้เราหลงรักได้อย่างหมดใจเช่นเดียวกับ First impression ที่ได้เกิดขึ้นที่ ดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท สถานที่ที่เป็นเหมือนดินแดนแห่งฝันที่มีครบทั้งความสวยงาม ความสะดวกสบายเปรียบดั่งสวรรค์ของคนรักทะเลจริงๆ

นอกจากนี้ เทรนด์การบริโภคอาหารสุขภาพคือหัวใจสำคัญที่ต้องทำควบคู่กับโรงแรมสุขภาพ โดยทุกเมนูที่ให้บริการจะเป็นอาหารสุขภาพ (clean & healthy food) ปรุงจากวัตถุดิบออร์แกนิก เช่น ผัก-ผลไม้จากฟาร์มออร์แกนิกที่ปลูกเอง บริเวณแปลงปลูกผักภายในหอพักพนักงานโรงแรม รีสอร์ท ระดับ 5 ดาว ยังได้ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ด้านอาหารที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้มาเยือน โดยได้เนรมิต “สวนครัว” ขึ้นภายนอกของโรงแรม โดยมีหัวหน้าพ่อครัวเป็นผู้รังสรรเมนูที่หลากหลายจากผลิตผลของสวนครัวแห่งนี้ รวมถึงวัตถุดิบอื่นที่ได้มาจากแปลงผักแห่งนี้

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท เป็นรีสอร์ตระดับ 5 ดาว จุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลผลิตสดใหม่จากแปลงพัก และฟาร์ม บริเวณหอพักพนักงาน โดยได้ตั้งเป้าหมายในการรวบรวมเสน่ห์และความสง่างามของจุดหมายปลายทางแห่งนี้เอาไว้ให้มากที่สุด

พร้อมทั้งให้การสนับสนุนชุมชนและรักษ์สิ่งแวดล้อมให้หาดทับแขก มากที่สุด ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดแก่แขกของโรงแรม เพราะผักสดทั้งหมดที่เราทานมื้อกลางวันนี้ มีการเก็บสดใหม่ทุกวัน ไร้สารเคมี ผักและผลไม้บางส่วนของที่นี่ ถูกปลูกในแปลงบริเวณหอพักพนักงาน เพื่อต้องการเสริมรายได้พนักงาน และผลิตวัตถุดิบคุณภาพปลอดสารเคมีเพื่อความสุขอีกด้านหนึ่งของผู้มาเยือน

The Tubkaak Krabi Boutique Resort
วิลล่าติดทะเล ติดชายหาด บรรยากาศดี วิวสวยที่สุดในโลก

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท
THE TUBKAAK KRABI BOUTIQUE RESORT
123 หมู่ 3 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81180
โทรศัพท์: +66 (0) 7562 8456 แฟกซ์: +66 (0) 7562 8499

#beachdinner #thearundina#tubkaakrestaurant
#localthaifood #wongnaikrabi #krabitrip

โปรโมชั่นสุดคุ้ม ! ไฮไลท์มาเต็ม บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์

ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล เพลินจิต

กลับมาพบกันอีกครั้งในวันเสาร์สุดสัปดาห์ เอาใจคนรักบุฟเฟ่ต์และอาหารทะเลกันอย่างต่อเนื่อง กับมื้อเที่ยงวันเสาร์ช่วงเวลาเดิม เพิ่มเติมคือความคุ้มแบบจัดเต็ม พบกันได้แล้ววันนี้

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงวันเสาร์จัดให้หนัก!

ทั้งอร่อย ทั้งสบายกระเป๋า แน่นอนว่าสามารถกินได้จนกว่าจะจุกแบบไม่ 3 ชั่วโมงเต็มๆ เลยทีเดียว


บุฟเฟ่ต์โรงแรมดีๆ ในกรุงเทพฯ ที่เราอยากบอกต่อ ไม่อยากให้พลาดลองของดี คุ้มค่า คุ้มราคา อิ่มอร่อยไปกับ ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์ ที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ ท่ามกลางบรรยากาศเปิดโล่งผ่อนคลาย พร้อมให้บริการคุณแล้ว เราขอนำเสนอเมนูไฮไลท์ ไม่ว่าจะเป็นซีฟู้ดออนไอซ์ที่จัดเต็มกันมาแบบแน่นๆ สำหรับวัตถุดิบไฮไลต์ของที่นี่คือ ปูม้า, กุ้งขาว, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และหอยแมลงภู่ดำ ส่วนใครที่ชอบแบบร้อนๆ เราก็มี กุ้งตัวใหญ่ ปูสดๆ ปลาตามฤดูกาล และกุ้งแม่น้ำเผาเตาถ่าน ที่หอมกรุ่นเกินห้ามใจ

ที่นี่ เสิร์ฟอย่างไม่ขาดสาย อิ่มและอร่อยกับความหลากหลายของไลน์บุฟเฟ่ต์ที่มาพร้อมคุณภาพระดับโรงปรมห้าดาว รวมไปถึงอาหารจานเดี่ยว ปรุงสดใหม่ เตรียมพร้อมเสิร์ฟให้เพื่อนๆ ได้จัดเต็มกับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเกรดคุณภาพ

เต็มอิ่มกับอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ที่เชฟของห้องอาหารบรรจงรังสรรค์ขึ้น เริ่มต้นความอร่อยด้วย ซูชิ, ซาซิมิ นอกจากนี้ยังมีเนื้อเกรดพรีเมียม ขาแกะอบพร้อมซี่โครงหมู และแฮม ไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีพาสต้า, สลัดบาร์, อาหารไทยและตะวันตกอีกมากมาย สามารถเดินเลือกได้เองตามชอบใจ ปิดท้ายกับวันเสาร์อันแสนสุข ด้วยขนมหวานและไอศกรีมนานาชนิด ทั้งหมดเพียง 1,100++ ต่อท่าน รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งไม่อั้น เอาเป็นว่า…ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์อีกต่างหาก

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงวันเสาร์ สุดอลังการที่คุณจะได้ใช้เวลาวันหยุดสบายๆ กับครอบครัวและเพื่อนอย่างเต็มที่ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายซึ่งโรงแรมของเราติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต ทางออก 4

ข้อเสนอพิเศษ!สายกินห้ามพลาด โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด อันลิมิเต็ด สำหรับแฟนเพจ Toptotravel

เพียงจองผ่านลิ้งค์ด้านล่าง จากราคา 1,100++ บาท (ราคาเต็มรวม Vat และค่าบริการ 1,295 บาท)
รับส่วนลดสูงสุดถึง 50 % เพียง 707 บาทสุทธิ
เมื่อจองออนไลน์
http://bit.ly/2W9g1c3

สมาชิกแอคคอร์ พลัส รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% (4 ท่านต่อบัตร) เพียง 590 บาท โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์ ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต

ะยะเวลาโปรโมชั่น: ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 – 15.00 น.
ราคา 1,100++ บาท/ ท่าน
(เริ่มต้น 707 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์ไม่อั้น)
สำรองที่นั่งได้ที่: 02 305 6000
จองออนไลน์: http://bit.ly/2W9g1c3