All posts by Shanya

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย งานแถลงข่าว ปั่นจักรยานปิดถนนราชดำเนิน Bangkok Criterium

ร่วมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ Bangkok Criterium Rajadamnern

เมื่อวันพุธที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่ร้าน EST.33 ศูนย์การค้าเดอะไนน์ ถนนพระราม 9  คุณชัยภัฏ จาตุรงคกุล
ผู้จัดการประจำสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และ คุณวิศศเวศ กำปั่นทอง ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน “สิงห์ พรีเซนต์ บางกอก ไครทีเรี่ยม 2015” ร่วมกันแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “สิงห์ บางกอก ไครทีเรี่ยม 2015” (Singha Corporation presents Bangkok Criterium 2015)  โดยมีตัวแทนนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมสื่อมวลชนร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

Bangkok Criterium-03

เข้าสู่ปีที่ 6 ของการจัดงาน สิงห์ พรีเซ้นท์ บางกอกไครเทเรี่ยม กับงานการแข่งขันปั่นจักรยานราชดำเนิน ใจกลางถนนราชดำเนิน และถนนข้าวสาร การแข่งขัน Bangkok Criterium แบบไครทีเรี่ยม มีจุดเด่น ที่ความตื่นเต้น เร้าใจ ในแต่ละรอบของการแข่งขันทางเรียบในระยะสั้น แบบนับรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตร ระยะทางรวมทั้งหมดไม่เกิน 20-30 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทและรุ่นของการแข่งขัน รายการการแข่งขันจักรยานรูปแบบ ไคทีเรียม ที่ดีที่สุด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นการแข่งขัน ที่แตกต่างจากการแข่งขันจักรยานประเภทอื่นๆ คือเส้นทางที่ใช้ในการแข่งขัน บนถนนราชดำเนิน ปั่นจักรยานผ่านแลนด์มาร์คสำคัญทางประวัติศาสตร์ของคนไทย

Bangkok Criterium-4

ในครั้งนี้ นักปั่นทั่วโลกตอบรับการยืนยันการเข้าร่วมการแข่งขัน โดยไฮไลต์การแข่งขันที่น่าจับตามองในปีนี้คือการเข้าร่วมการแข่งขันของคุณ รช วิริยะพงศ์ ดาวรุ่งวัย 23 ปี ที่เป็นคนไทยคนแรกได้โอกาสเข้าร่วมแข่งขัน ในสนามไคทีเรี่ยมระดับโลกอย่าง Red Hook และได้เข้าร่วมทีมระดับโลกอย่าง ซิเนลลี่ โครม

Bangkok Criterium-13

การลงแข่งของนักปั่นระดับโลกของไทย สำหรับการแข่งขันจักรยานไครทีเรี่ยม เป็นการแข่งขันจักรยานทางเรียบในระยะสั้น แบบนับรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตร โดยมีระยะทางต่อรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตร และระยะทางรวมไม่เกิน 30 กิโลเมตร ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้เทคนิคที่มากขึ้นนอกเหนือไปจากการควบคุมความเร็วและพลังกาย โดยการแข่งขันแบบ ไครทีเรี่ยมจึงมีจุดเด่นที่ความตื่นเต้น เร้าใจในแต่ละรอบของการแข่งขัน ผู้เข้าชม  สามารถรับชม การปั่นจักรยานราชดำเนิน ติดขอบสนามและร่วมลุ้นไปกับการแข่งขันในแต่ละรอบอย่างใกล้ชิด

Bangkok Criterium-7

การแข่งขัน“สิงห์ พรีเซนต์ บางกอก ไครทีเรี่ยม 2015” แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท 7 รุ่น รุ่นที่เปิดให้ลงมีตามนี้นะคะ 

Bangkok Criterium-9

สนใจลงแข่งรุ่นไหน ไปลงทะเบียนกันกับวิธีง่ายๆ
ค่าสมัครคนละ 350 บาท
หรือ 500 บาทพร้อมรับหมวก “Singha Presents Bangkok Criterium 2015 Limited Editions”

Bangkok Criterium-2
Singha Present Bangkok Criterium by Vittoria เปิดรับสมัครวันแรก สมัครไปหลายร้อยคน
Bangkok Criterium-55
รช วิริยะพงศ์ ดาวรุ่งวัย 23 ปี ที่เป็นคนไทยคนแรกได้โอกาสเข้าร่วมแข่งขัน ในสนามไคทีเรี่ยมระดับโลก

Singha Present Bangkok Criterium by Vittoria เปิดรับสมัครวันแรก ได้รับความสนใจมีนักปั่น สนใจสมัครไปหลายร้อยคน  เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว อย่าช้าเต็มแล้วเต็มเลย   ขอเชิญมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับความมันส์ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน

Bangkok Criterium-12

การแข่งขันจักรยานประเภทถนนในเวลากลางคืน Singha Presents The Bangkok Criterium 2015
การแข่งขันจักรยานทางเรียบในระยะสั้น แบบนับรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตรใจกลางถนนราชดำเนินและถนนข้าวสาร พบกับปารตี้สุดมันและดีเจชื่อดังรวมกิจกรรมความตื่นเต้นในการแข่งขันปั่นจักรยานราชดำเนิน ตอนกลางคืนแบบไม่ต้องกลัวมืด มาดูตารางการแข่งขันจักรยานประเภทถนนในเวลากลางคืนกัน

Bangkok Criterium-8

และความมันส์ในค่ำคืนการปั่นจักรยานผ่านราชดำเนิน สนามหลวง เห็นจักรยานมากมาย ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ เป็นการประชันกันของ สามดีเจชื่อดัง  DJ SUNZONE, DJ Zara Gift และ  DJ Double G จะมาสร้างความสนุกสนาน พร้อมทั้งกิจกรรมสำหรับผู้รักจักรยาน ที่สปอนเซอร์เตรียมมาให้ได้สนุกกันตลอดงาน พร้อมทั้ง
ตื่นตาตื่นใจกับสินค้าราคาพิเศษในตลาด Bike Market รวมถึงผู้ที่มาร่วมชมงานยังได้ลุ้นกับของรางวัลมากมายตลอดงาน

Bangkok Criterium-13

สิงห์ พรีเซ้นท์ บางกอกไครเทเรี่ยม ปีที่ 6 การแข่งขันจักรยานที่น่าตื่นเต้นที่สุดแห่งปี
ชวนคนไทยมาร่วมสร้างปรากฎการณ์ Bangkok Criterium Rajadamnern ครั้งใหม่ขอเชิญชวนให้ทุกท่าน
ได้มาร่วมปั่นจักรยานราชดำเนิน ร่วมกันสัมผัสประสบการณ์ ความสนุก สุดมันส์ด้วยกันอย่างเต็มที่ ชมการแข่งขัน
ในหลากหลายประเภท การแข่งขันจักรยานความเร็วแบบกำหนดรอบ เป็นการแข่งช่วงกลางคืน16.00 -24.00น. แสงไฟจักรยานตลอดโดยรอบแนวถนนประวัติศาสตร์  ผู้เข้าแข่งขันสามารถแข่งขันชี่จักรยานบนถนนราชดำเนินได้อย่างอิสระเสรี ปั่นผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บางลำภู ถนนข้าวสาร นักปั่นทั่วโลกได้มาประลองความเร็วกันมากมาย เสน่ห์ของงานปีนี้  เป็นการปั่นแบบเห็นแสงไฟจักรยานตลอดแนวถนนประวัติศาสตร์การได้ขี่จักรยานบน
ถนนราชดำเนินอย่างอิสระเสรี   ของเส้นทางการแข่งขัน ตามจุดแลนด์มาร์ที่คสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์อันสงบเงียบ ปั่นผ่านกองสลาก-ตามถนนราชดำเนินนอก ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ถนนดินสอ-วัดบวรนิเวศวิหาร-ปั่นทะลุบางลำภู-ตรงถึง สน.ชนะสงคราม-ตัดถนนข้าวสาร ระยะทางประมาณ 2 กิโล โดยแต่ละรอบของการแข่งขันผู้เข้าชมสามารถรับชมกันได้ถึงขอบสนาม และร่วมลุ้นไปกับการแข่งขัน Bangkok Criterium ในแต่ละรอบอย่างใกล้ชิด โดยจัดขึ้นวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 เวลา 16.00-24.00 น.

Bangkok Criterium-02

Bangkok Criterium-77
DJ Zara Gift

บรรยากาศในงาน Bangkok Criterium ยังมีดีเจสุดมันส์ DJ SUNZONE, DJ Zara Gift และ DJ Double G
มาสร้างความสนุกสนาน พร้อมทั้งกิจกรรมสำหรับผู้รักจักรยานที่สปอนเซอร์เตรียมมาให้ได้สนุกกันตลอดงาน พร้อมทั้งตื่นตาตื่นใจ กับสินค้าราคาพิเศษในตลาด Bike Market รวมถึงผู้ที่มาร่วมชมงานยังได้ลุ้นกับของรางวัลมากมายตลอดงาน

Bangkok Criterium-99
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดที่
www.bangkokcriterium.com
The Bangkok Criterium 2015 Night Race “บางกอก ไคเทเรี่ยม 2015”
งานนี้งานเดียวที่นักปั่นตัวจริงไม่ควรพลาด  7 NOV 2015
FB : BANGKOKCRITERIUM
ข้อความ #BANGKOKCRITERIUM2015

 

 

Thailand’s 5 finalists for the BACARDI Legacy Cocktail Competition

Thailand’s 5 finalists for the BACARDI Legacy Cocktail Competition

การแข่งขันแบบสดๆของเหล่าบาร์เทนเดอร์ และ Mixologist แนวหน้าของประเทศไทยจำนวน 15 คน แข่งขันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในวันที่ 4 ตุลาคม 2558 กับ งานเปิดตัว The Bacardi Legacy Cocktail Competition รอบ Semi-Finals บาคาร์ดี้ เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น ร่วมลุ้น 15 บาร์เทนเดอร์ไทยสู่ 5 คนสุดท้าย
Bacardi-15

ในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2558 จัดขึ้นที่ คูเดทา (Ku de ta) อาคารสาธรสแควร์ ชั้น39 กรุงเทพฯ
บาคาร์ดี้ เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น

Bacadi-45

บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด นำโดยคุณเซลีน หลุยส์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บาคาร์ดี้ เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น 15 บาร์เทนเดอร์ไทยเข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้าย เพื่อมาชิงชัยระดับประเทศไทยอีกครั้ง ในเดือนมีนาคม ปี 2559 โดยผู้ที่ชนะเลิศในรอบนี้จะได้เดินทางไปแข่งขันต่อในระดับโลก ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
Bacardi-11
ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก มิสเตอร์ ปีเตอร์ ฉั่ว (Mr.Peter Chua) บาร์เทนเดอร์ผู้ชนะเลิศบาคาร์ดี้ เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่นของประเทศสิงคโปร์ในปี 2015 ซึ่งขณะนี้ เป็นบาร์เทนเดอร์อาวุโส 28 ฮ่องกงสตรีท
มาร่วมเป็นกรรมการตัดสินในรอบนี้ อีกทั้งยังให้ความรู้หรือแนะนำการทำสูตรค๊อกเทลที่ดี การส่งเสริมทำประชาสัมพันธ์ค๊อกเทลของตัวเอง เพื่อเป็นบันไดให้อาชีพนี้เป็นที่ยอมรับได้มากยิ่งขึ้นในระดับสากล
Bacardi-12 Bacardi-13

ประกาศผลบาร์เทนเดอร์ไทยสู่ 5 คนสุดท้าย
ในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2558 ที่คูเดทา อาคารสาธรสแควร์ ชั้น39 บาคาร์ดี้ เลกาซี่ ค็อกเทล คอมเพททิชั่น

Bacadi-3

Bacadi-44
ประกาศผลบาร์เทนเดอร์ไทยสู่ 5 คนสุดท้าย
Bacardi-14
ผู้ที่ชนะเลิศในรอบนี้จะได้เดินทางไปแข่งขันต่อในระดับโลก ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ประกาศผลบาร์เทนเดอร์ไทยสู่ 5 คนสุดท้าย
Thailand’s 5 finalists for the BACARDI Legacy Cocktail Competition:
1. Mr.Sarawut Pinpech – Bamboo Bar
2. Mr. Mitchell ‘Kai’  Lum – amBar
3. Mr.Hideyuki Saito – Vogue Lounge
4. Miss.Wareewan Yodkamol – Vesper
5. Mr.Sebastian De la Cruz – U.N.C.L.E.

Bacardi-18

Congratulations and many thanks to the other competitors!

โชว์รูมและศูนย์บริการแฟล็กชิพ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ แห่งแรกของเอเชียแปซิฟิก

Main Photo
นายสรรพงษ์ ชื่นโรจน์ (กลาง) กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย มร.เซิร์จ ทูรอน (ขวา) ผู้จัดการทั่วไป และนายวิศรุต โลจนานนท์ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริการหลังการขาย บริษัท ซิตี้

โชว์รูมและศูนย์บริการแฟล็กชิพ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เป็นผู้นำในตลาดรถหรูของ ซิตี้ ออโต้โมบิล บริการดูแลตลอด 24 ชม. โชว์รูมและศูนย์บริการสาขาพระราม 4
นำเสนอความเป็นเลิศ ที่ครอบคลุมทั้ง 3S ได้แก่ Services (บริการ), Sales (การขาย) และ Spare Parts
(ชิ้นส่วนอะไหล่และประดับยนต์) นำเสนอการรับประกันตัวรถที่คุ้มค่ากว่าคู่แข่ง พร้อมบริการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อมอบความอุ่นใจสูงสุดแก่ลูกค้าจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในเมืองไทยเพื่อนำเสนอมาตรฐานระดับโลกเป็นแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกซิตี้ ออโต้โมบิลทุ่มทุนสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการแฟล็กชิพ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ บนถนนพระราม 4 แห่งแรกของเอเชียแปซิฟิก พร้อมนำเสนอประสบการณ์  แห่งบริการยานยนต์ชั้นเลิศครบครันทั้ง 3 ด้าน ด้วยมาตรฐานระดับโลกเพื่อผู้บริโภคในประเทศไทย

ซิตี้ ออโต้โมบิล ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์ และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทุ่มทุนมากกว่า 300 ล้านบาท สร้างโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่สุดยิ่งใหญ่บน ถ.พระราม 4 เพื่อให้เป็นโชว์รูม ศูนย์บริการต้นแบบของจากัวร์แลนด์โรเวอร์แห่ง
แรกในเอเชียแปซิฟิก นำเสนอบริการทั้งก่อน-หลังการขายที่ดีเยี่ยมที่สุด ด้วยมาตรฐานระดับสากล ครอบคลุม
ทั้ง 3S ได้แก่ Services (บริการ), Sales (การขาย) และ Spare Parts (ชิ้นส่วนอะไหล่และประดับยนต์) เพื่อสร้าง “ประสบการณ์แห่งบริการชั้นเลิศ”  เช่นเดียวกับโชว์รูมในประเทศอังกฤษ  เพื่อตอกย้ำสถานะผู้นำในตลาดรถหรูของ ซิตี้ ออโต้โมบิล ที่มอบบริการที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ คุณภาพที่เที่ยงตรง และการดำเนินงานที่สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าทุกราย  โชว์รูมและศูนย์บริการสาขาพระราม 4 บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่แห่งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของ ซิตี้ ออโต้โมบิล ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์แห่งบริการชั้นเลิศ   ยกระดับความพึงพอใจและเสริมสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นต่อยานยนต์จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ โดย ซิตี้ ออโต้โมบิล และ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์
เป็นบริษัทชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคด้วยเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งซิตี้ ออโต้โมบิล
จึงต้องการผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กร สร้างมาตรฐานระดับโลกรูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกได้สัมผัสกับบริการและการรับประกันความพึงพอใจที่  “ดีเยี่ยมที่สุด”
Management Photo_3
มร.เซิร์จ ทูรอน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด เปิดเผยว่า “ซิตี้ ออโต้โมบิล และ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ต่างมุ่งหวังที่จะเติบโตเป็นหนึ่งเดียวกัน  เราเชื่อว่า การสร้างความโดดเด่นให้กับเอกลักษณ์ของแบรนด์ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุเป้าหมายในการรักษาฐานลูกค้าเดิม ดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ ผ่านการมอประสบการณ์ที่พิเศษสุดให้แก่ผู้บริโภค สัมผัสได้ถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร โดยเราจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อมั่นว่า จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ คือ แบรนด์สุดยอด ยานยนต์ชั้นนำ จากสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้นำในกลุ่มตลาดรถหรูที่แท้จริง

การทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์  ถือเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เราสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการสาขาพระราม 4 เนื่องจากเราตระหนักดีว่า ผู้ที่ซื้อรถยนต์ ต่างต้องการสัมผัสกับประสบการณ์ด้านอารมณ์ความรู้สึกเป็นสำคัญ เนื่องจากการครอบครองยานยนต์  จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ช่วยยกระดับชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น จึงควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ และสำหรับผู้บริโภคแล้ว รถยนต์หรือเอสยูวีจากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ คือสิ่งยืนยันถึงคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
Interactive Service_1โชว์รูมแห่งใหม่ – เพื่อสร้างการจดจำต่อแบรนด์ผ่านภาพลักษณ์อันโดดเด่น
โชว์รูม จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ แห่งใหม่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความรู้สึกของผู้บริโภค เนื่องจากเป็นการประกาศถึงความมุ่งมั่น ความแข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นต่อรากฐานที่มั่นคงถาวร ซึ่ง จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ได้ออกแบบโชว์รูมแห่งนี้ภายใต้แนวคิด “ARCH” ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่จากประเทศอังกฤษเพื่อให้ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ มีอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ และสื่อให้เห็นถึงมรดกแห่งความภาคภูมิของทั้งสองแบรนด์ ซึ่งแนวคิดการออกแบบนี้จะมอบประสบการณ์ชั้นเลิศแก่ลูกค้านับตั้งแต่ก้าวแรกที่มาเยือน ด้วยการสร้างสรรค์บรรยากาศภายในเปี่ยมด้วยความหรูหรา เหมือนอยู่ในโชว์รูมประเทศอังกฤษ พร้อมกับมอบความรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นเป็นกันเอง เพื่อให้ทุกช่วงขณะของการใช้บริการ เปรียบเสมือนการเดินทางสู่โลกแห่งยานยนต์ระดับพรีเมี่ยมของโลก

แนวคิดการออกแบบ “ARCH” ปรากฏเป็นโครงสร้างทรงโค้ง เพื่อให้เกิดพื้นที่ใช้สอยภายในที่ต่อเนื่องและกว้างขวาง ทำให้สามารถมองเห็นรถยนต์ซึ่งจัดแสดงในดีไซน์แบบสมมาตรสมบูรณ์ได้อย่างชัดเจน การออกแบบพื้นที่ในลักษณะนี้ยังเอื้อต่อการใช้งานแบบอเนกประสงค์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต เป็นเสมือนข้อพิสูจน์ของ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในระยะยาวและการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย

แนวคิดการออกแบบโชว์รูม จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ มีองค์ประกอบหลัก 3 ประการ
1. ความโปร่งใส (Transparency) เพื่อให้ลูกค้ามีทัศนวิสัยที่เปิดโล่งในการเปิดรับประสบการณ์แห่งยานยนต์ได้อย่างแจ่มชัด โดยมอบความชัดเจนนับตั้งแต่ป้ายสัญลักษณ์บอกทางจากถนนทางเข้า ตลอดจนทุกองค์ประกอบภายในอาคาร

2. ความยืดหยุ่น (Flexibility) โชว์รูมไม่ได้ถูกกำหนดโครงสร้างตายตัวมาจากอังกฤษ หาก ซิตี้ ออโตโมบิล สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับสภาพพื้นที่ได้ โดยยังคงรักษาอัตลักษณ์สากลของแบรนด์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เอาไว้อย่างครบถ้วน

3. โครงสร้างแบบโมดูลาร์ (Modularity) เพื่อให้ผังอาคารภายในและพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดมีความลื่นไหลและต่อเนื่องอย่างสอดคล้องกัน

โชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่สาขาพระราม 4 ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ  สามารถเดินทางเข้าถึงย่านธุรกิจอื่นๆได้อย่างรวดเร็ว สามารถเลือกระบบการขนส่งได้หลายรูปแบบ เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับผู้แทนจำหน่ายได้อย่างสะดวกสบาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานการมอบประสบการณ์ชั้นเลิศของแบรนด์ และประสบการณ์แห่งการครอบครองสุดยอดยานยนต์ที่เหนือระดับจากจากัวร์ แลนด์โรเวอร์

โซนบริการหลักภายในโชว์รูมสาขาพระราม 4
พื้นที่บริการลูกค้าหลักถูกจัดไว้บริเวณศูนย์กลาง โดยประกอบด้วยเครื่องสร้างแบบจำลองประสบการณ์ยานยนต์เสมือนจริง (Virtual Experience Configurator – VEC) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สุดล้ำใหม่ล่าสุดพร้อมการแสดงผลที่สมจริงผ่านอินเตอร์เฟซบนเครื่อง iPad ซึ่งมีไว้บริการลูกค้าอย่างพร้อมสรรพ พื้นที่ส่วนนี้ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยควาสะดวกเพื่อการออกแบบรถยนต์ในฝัน ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกออพชั่นต่างๆ ได้ตามความต้องการ ทั้งโทนสี อุปกรณ์ตกแต่ง และประดับยนต์ครบชุดที่มีให้เลือกมากถึง 50 เฉดสี นอกจากเทคโนโลยีการออกแบบยานยนต์ซึ่งเชื่อมต่อกับเว็บไซต์แล้ว ลูกค้ายังสามารถทดลองสัมผัสกับตัวอย่างวัสดุตกแต่งของจริงได้ ทั้งพื้นผิวของสีเคลือบรถยนต์ ตลอดจนเนื้อผ้า แผ่นหนัง และวีเนียร์ที่ใช้ในการตกแต่งห้องโดยสารภายใน โดยสามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนประดับยนต์ซึ่งอยู่โซนใกล้เคียง

ผนังประติมากรรม
ลูกค้าจะสามารถมองเห็นส่วนผนังประติมากรรม ในการตกแต่งผนังส่วนพื้นที่ตัวแทนจำหน่ายภายในโชว์รูม ซึ่งนอกจากจะมอบความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ ส่วนผนังประติมากรรมยังทำหน้าที่ลดเสียงสะท้อนและเสียงรบกวนอื่นๆ ทำให้โซนพื้นที่ตัวแทนจำหน่ายมีความเงียบสงบและรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

เลาจน์บริการลูกค้า
ซิตี้ ออโตโมบิล มอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ลูกค้าที่มาเยือนทุกท่าน ด้วยเลาจน์บริการลูกค้าที่โอ่อ่าสวยงามภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง มีบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มรสเลิศเพื่อให้ลูกค้าคนสำคัญได้ผ่อนคลายอิริยาบถ พร้อมบริการหนังสือพิมพ์ นิตยสารชั้นนำ หนังสือน่าอ่าน และรายการโทรทัศน์ที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงอินเตอร์เน็ต WiFi ฟรีตามมาตรฐานของศูนย์บริการระดับโลก

ภายในเลาจน์บริการลูกค้า ยังมีการจัดแสดงสินค้าประดับยนต์ของแบรนด์ชั้นนำมากมายในสไตล์
“shop-in-shop” ที่จัดแสดงไว้อย่างสวยงาม ทั้งบริเวณผนัง ชั้นโชว์ และตู้ตั้งพื้น สำหรับลูกค้าที่ต้องการเลือกชมสินค้าแบบสบายๆ ไปพร้อมกับการผ่อนคลายภายในเลาจน์

พื้นที่รับรอง
พื้นที่พักผ่อนในสไตล์ self-service เสริมจากโซนโต๊ะนั่ง พร้อมกับส่วนบริการเครื่องดื่ม Café นอกจากนี้ ยังมีส่วน Concierge Lounge สำหรับการนั่งพูดคุยสบายๆ เกี่ยวกับบริการของโชว์รูม ทั้งยังสามารถใช้เป็นส่วนพักผ่อน คอยสำหรับลูกค้าที่ต้องการรับบริการอย่างรวดเร็ว โดยในระหว่างรอ สามารถผ่อนคลายไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศภายในโซนได้

ห้องส่งมอบรถยนต์
ห้องส่งมอบรถยนต์สร้างขึ้นบนมาตรฐานสูงสุดในทุกรายละเอียด เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศที่น่ายินดีและเร้าใจในขณะที่ลูกค้ารับรถยนต์คันใหม่ของตนเอง มอบโซนที่นั่งแสนสบายให้ลูกค้าสามารถจัดการกับเอกสารต่างๆ หลังจากตรวจสอบสภาพรถยนต์เป็นที่เรียบร้อยโดยยังคงมองเห็นรถยนต์ของตนเองได้ตลอดเวลา ขณะนี้ โชว์รูมกำลังติดตั้งฐานหมุน เพื่อให้เจ้าของรถสามารถขับรถยนต์ของตนเองออกจากห้องไปได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องผ่านส่วนอื่นๆ

ส่วนบริการหลังการขายด้วยบริการที่ดีเยี่ยม
พื้นที่จอดรับส่งลูกค้าถือเป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากเป็นจุดแรกของประสบการณ์แห่งบริการชั้นเลิศ ภารกิจของแผนกบริการหลังการขายคือการมอบบริการชั้นเยี่ยมให้แก่ลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ครอบครองยานยนต์ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ดังนั้น โชว์รูมสาขาพระราม 4 จึงสร้างพื้นที่จอดรับส่งลูกค้าไว้ถึง 3 จุด ได้แก่ จุดรับส่งบริเวณที่จอดรถ จุดรับส่งใต้ชายคา และจุดรับส่งบนช่องทางเดินรถสู่ตัวโชว์รูม เพื่อให้การมาเยือนศูนย์บริการมีความสะดวกสบายทุกครั้ง และเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในฐานะผู้แทนจำหน่ายจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ โดยแนวคิดการออกแบบแนวทางสิ่งอำนวยความสะดวกของ จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ตั้งอยู่บนหลักการ 3 ข้อ ได้แก่ ความโปร่งใส (Transparency), ประสิทธิภาพ (Efficiency), และ ความสัมพันธ์ (Relationship)

• ความโปร่งใส เพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นรถยนต์ของตนเองได้อย่างชัดเจน ทั้งในระหว่างการซ่อมบำรุง
หรือแม้ในขณะติดต่อกับพนักงานช่างเทคนิค
• ประสิทธิภาพ คือกุญแจสำคัญของการสร้างประสบการณ์แห่งบริการชั้นเลิศ ผ่านรูปแบบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีเยี่ยมเหนือความคาดหมายของลูกค้า
• ความสัมพันธ์ คือการจัดวางตำแหน่งที่ตั้งของแผนกต่างๆ อย่างเหมาะสม เพื่อสนับสนุนการติดต่อสื่อสารภายในองค์กร ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับลูกค้า และสร้างเสริมความเชื่อมั่นในระยะยาว

ขีดความสามารถของการบริการ
ศูนย์บริการสาขาพระราม 4 ถือเป็นศูนย์บริการจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีห้องอะไหล่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถรองรับอะไหล่ทุกรุ่นของรถจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย มอบความทันสมัยด้วยเครื่องมือวินิจฉัยตัวถังอะลูมิเนียมและชิ้นส่วน ทั้งชิ้นส่วนมาตรฐานะ และชิ้นส่วนเพิ่มเติมจากอังกฤษ นอกจากนี้บริเวณชั้นสองของศูนย์บริการ ยังประกอบไปด้วยช่องบริการทั้งหมด 20 ช่อง โดยแบ่งเป็นช่องซ่อม 10 ช่อง ช่องจอดรถเพื่อการวิเคราะห์ 8 ช่อง และช่องล้างรถ 2 ช่อง

ศูนย์บริการแห่งนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการติดตั้งระบบดูดไอเสียที่ทันสมัยภายในศูนย์บริการ และให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและสวัสดิภาพในการทำงานของพนักงานทุกคน อีกหนึ่งองค์ประกอบที่มีความสำคัญในการมอบประสบการณ์แห่งบริการชั้นเลิศ คือทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างเข้มงวด นอกเหนือจากเทคโนโลยีเพื่อการวินิจฉัยอันทันสมัยจากสหราชอาณาจักรแล้ว โชว์รูมแห่งใหม่ยังนำเสนอบริการหลังการขายชั้นเยี่ยมให้แก่ลูกค้าทุกท่าน โดยทีมงานที่ได้รับการฝึกอบรมให้ยึดมั่นในมาตรฐานของแบรนด์ ทั้ง CIT and TLEX ผ่านการฝึกอบรมทั้งเชิงเทคนิคและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

จุดเด่นของศูนย์บริการ
ศูนย์บริการสาขาพระราม 4 นำเสนอบริการสำหรับรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์แบบครบวงจร ซึ่งครบครันทั้งบริการซ่อมบำรุงตัวถังอะลูมิเนียมตามาตรฐานอังกฤษ ช่องซ่อมปลอดฝุ่น รวมไปถึงเครื่องดึงตัวถัง เป็นต้น ศูนย์บริการแห่งนี้ยังเป็นศูนย์บริการที่นำเครื่องวินิจฉัยตัวถังรุ่นใหม่ล่าสุด มาใช้เป็นแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก พร้อมด้วยห้องอะไหล่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสามารถรองรับอะไหล่ทุกรุ่นของรถจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยได้ในอนาคต รวมทั้งห้องเก็บเครื่องมือพิเศษสำหรับการส่งมอบให้แก่ดีลเลอร์ทั่วประเทศ

ส่วนบริการอื่นๆ ได้แก่ ช่องบริการแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ ช่องบริการทั่วไป ช่องล้างรถ ช่องบริการด่วน ช่องตรวจเช็คสภาพ และช่องสำหรับยานยนต์ขนาดใหญ่ โดยรวมแล้วสามารถให้บริการได้ 500-600 คันต่อเดือน รวมถึงส่วน Body Shop และ Paint Shop รถยนต์ทุกคันจากโชว์รูมยังมาพร้อมแพ็คเกจการรับประกันนาน 3 ปี และเปิดรับต่อแผนการประกันภัยของผู้ขับขี่ทุกประเภท เพื่อมอบความสะดวกสบายและสร้างความอุ่นใจสูงสุดแก่ลูกค้าทุกท่าน

ความยั่งยืนความยั่งยืนถือ เป็นหลักการสำคัญของแบรนด์ โดยทั้ง จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ และ ซิตี้ ออโตโมบิล
มั่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนและลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้กว่า 25% การใช้นวัตกรรมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมถือเป็น 1 ใน 3 ความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่มีประสิทธิภาพ การดำเนินงานเป็นเลิศ (One High Performance Company) ความยั่งยืนนี้ยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งในแนวคิดการออกแบบ ARCH และเป็นสาระสำคัญขององค์ประกอบทั้งสามในแนวคิดการออกแบบโชว์รูมนั่นคือ ความโปร่งใส (Transparency), ความยืดหยุ่น (Flexibility), และ โครงสร้างแบบโมดูลาร์ (Modularity) การออกแบบระบบโมดูลาร์ของโชว์รูมมีจุดประสงค์หลัก  เพื่อลดการเกิดวัสดุเสียเปล่าในช่วงอายุการใช้งานของอาคาร โดยการออกแบบขนาดการบุผนังและการปูพื้นกระเบื้องในระบบโมดูลาร์ จะไม่ก่อให้เกิดวัสดุเสียเปล่าเลยหรือเกิดขึ้นในปริมาณน้อยมากทั้งในส่วนวัสดุโครงสร้าง วัสดุบุรอง และวัสดุเคลือบพื้นผิวภายในอาคาร นอกจากนี้ ยังเอื้อต่อการนำวัสดุมาหมุนเวียนใช้ใหม่ ลดการสร้างอาคารใหม่ ลดต้นทุนคาร์บอนและการสร้างความร้อนในการขนส่ง ลดการใช้ระบบปรับอากาศและระบายความร้อน ซึ่งลดการใช้พลังงานได้ถึง 50%
Management Photo_2การรับประกันตัวรถที่คุ้มค่าสูงสุด จาก ซิตี้ ออโต้โมบิล
ซิตี้ ออโต้โมบิล รับประกันตัวรถที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดนานถึง 3 ปี ที่ 100,000 กม.

เวลาเปิดบริการของโชว์รูมและศูนย์บริการสาขาพระราม 4
โชว์รูม : จันทร์ – เสาร์ 8.00 – 18.00 น. อาทิตย์ 8.00 – 17.00 น.
ศูนย์บริการ : จันทร์ – เสาร์ 8.00 – 17.00 น.

รายละเอียดเพิ่มเติม ซิตี้ ออโต้โมบิล
โทรศัพท์ 02-713 6777
เยี่ยมชมโชว์รูมสาขาพระราม 4
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
www.landrover-asia.com/th

 

 

รู้หรือไม่ เบียร์ เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกของโลก

เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดแรกของโลก

รู้ก่อนดื่ม  เบียร์ผลิตจากอะไร?
Toptotravel ได้มีโอกาสได้ร่วมดื่มและสนทนากับ Brew Master กับบทสนทนา ที่ได้ความรู้เรื่องเบียร์  กับการดื่มเบียร์ ในแบบการเชื้อเชิญให้ลองชิมเบียร์ วันนี้จึงได้เก็บเกี่ยวเรื่องราวมาถ่ายทอด  ขอขอบคุณ คุณเปิ้ล Brew Master ที่ให้คำแนะนำเรื่องเบียร์ กับเรื่องที่หลายคนที่สนใจใคร่รู้อย่างเรา ฟังจากปาก Brew master เพื่อกลับมาเพิ่มความเข้าใจต่อไป

Test Beer-5

ทุกวันนี้ ตามธรรมเนียมปฎิบัติ ร้านนี้มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกอยู่หลากหลาย แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ของร้านนี้ก็คือ เบียร์ นั่นเอง เบียร์ในปุจจุบันมีมากมายหลากหลายแบร์ด เบียร์บางชนิดเป็นแบรนด์โปรดของเรา แต่พอมาสังเกตุแคลอรี่สูง จนน่าตกใจ  เรียกได้ว่าต่อไปต้องดื่มอย่างมีสติ ดื่มแล้วต้องหมั่นออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญไขมัน เป็นประจำ
Test Beer_Ple@Singha 045_2015.08.31

องค์ประกอบหลักในการหมักเบียร์ คือ น้ำ ข้าวมอลต์ (เมล็ดข้าวอบแห้งหรือคั่ว โดยปกติใช้เมล็ดข้าวบาร์เลย์) ฮอปส์ และ ยีสต์ และมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น ผลเชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เมล็ดธัญพืชอื่น เช่น เมล็ดข้าวสาลี (Wheat) เรียกว่า แอดจังท์ (Adjunct)  หรือ ส่วนผสมข้างเคียงนั่นเอง

Test Beer_Ple@Singha 046_2015.08.31

น้ำ เป็นองค์ประกอบหลักของเบียร์ คุณสมบัติของน้ำที่ใช้จึงมีผลต่อรสชาติของเบียร์ มอลต์ เมล็ดข้าวมอลต์จากข้าวบาเลย์นั้น เป็นชนิดที่นิยมใช้มาก ซึ่งจะมีปริมาณ เอนไซม์อะไมเลส (Amylase Enzyme) ทำให้กระบวนการแตกตัวของแป้งเป็นน้ำตาลนั้นเกิดขึ้น นอกเหนือจากข้าวมอลต์ และข้าวบาเลย์แล้ว เมล็ดธัญพืชอื่นๆ เช่น ข้าวสาลี (wheat) ข้าวเจ้า (rice) ข้าวโพด (maize) ข้าวโอ๊ต (oat)  ข้าวไรย์ (rye) และ ข้าวมอลต์

ฮอปส์  ทำให้รสขมในเบียร์ เพื่อความสมดุลของรสหวานจากมอลต์ นอกจากนั้น ยังมีผลต่อต้านจุลินทรีย์อื่นๆ
ที่ไม่ใช่ยีสต์ ส่งผลต่อการหมัก

ยีสต์ มีความอ่อนไหวสูง สถานะของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องระหว่างขั้นตอนการหมักเบียร์ จะเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องระหว่างขั้นตอนการหมักเบียร์ ใช้ในกระบวนการหมักเพื่อย่อยสลายน้ำตาล สกัดจากเมล็ดธัญพืช ให้เป็นแอลกอฮอล์ และ คาร์บอนไดออกไซด์โดยปกติแล้วระดับแอลกอฮอล์ในเบียร์จะอยู่ที่ 4-6 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจจะต่ำถึง 2 เปอร์เซ็นต์ หรือ สูงถึง 14 เปอร์เซ็นต์

แบ่งยีสต์ที่ใช้ 3 ประเภทคือ
1.ยีสต์หมักลอยผิว
2.ยีสต์หมักนอนก้น
3.ยีสต์ธรรมชาติ

เบียร์แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ Lager และ Ale เบียร์ทั้ง 2 ประเภท
ซึ่งแตกต่างกันที่ยีสต์ที่ใช้ในการหมัก และอุณหภูมิที่ใช้หมักทำให้ได้เบียร์ที่มีรส กลิ่น และ รสชาติที่ไม่เหมือนกัน
Test Beer_Ple@Singha 033_2015.08.31

การแบ่งประเภทเบียร์
เบียร์สด  (Draught beer) เบียร์ที่ทำการเสิร์ฟจากถังเบียร์ โดยไม่ได้บรรจุลงขวด หรือ กระป๋อง

ไลท์เบียร์ (Light beer) เบียร์ที่มีแคลอรี่ และ แอลกอฮอล์ต่ำ มีสีอ่อน และ รสชาดที่จืด มีรสขมน้อย กลิ่นน้อย

ไอซ์เบียร์ (Ice beer) เบียร์ที่เสร็จสิ้นจากกระบวนการหมัก เบียร์จะถูกทำให้เย็นจนน้ำเริ่มแข็งตัวเป็นเกล็ด

Test Beer_Ple@Singha 044_2015.08.31

เบียร์รสชาติดีที่สุด ไม่ใช่เบียร์ที่แช่เย็นจัดเบียร์บางตัวที่เป็นแบรนด์โปรดของใครหลายคน แคลอรี่สูงจนน่าตกใจ เรียกว่ารู้แล้วต้องดื่มอย่างมีสติ เมื่อดื่มแล้วต้องหมั่นออกกำลังกายเพื่อช่วยเผาผลาญไขมัน  ออกบ้าง การดื่มเบียร์หนึ่งแก้วในตอนเย็นสักแก้วเพิ่มความสดชื่น เพราะเบียร์มีสารต่างๆ มากมาย มีวิตามิน และเกลือ แร่ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อ  แข็งแรงสำหรับ คอเบียร์ฟังแล้วคงแอบอมยิ้ม เมื่อบอกว่าเบียร์มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างไรควรดื่มพอประมาณการดื่มเบียร์พอประมาณต่อวันมักจะมีอายุที่ยืนยาว เพราะเบียร์มีสารปกป้องหัวใจ
Beer Test@EST.33 CDC  069_2015.08.30 Beer Test@EST.33 CDC  039_2015.08.30

เบียร์ เป็นเครื่องดื่่มแอลกอฮอล์ (Alcoholic beverage) ที่ได้จากการหมัก (Fermentation)
ตัวอย่างเช่น “เบียร์อาซาฮิซุเปอร์ดราย” และ “คิรินเบียร์” เป็นเบียร์ที่ทำจากมอลต์และฮอปส์ ใช้ข้าวกับข้าว
โพด มอลต์ (malt) ยีสต์ (yeast) ฮอพ (hop) และน้ำ มอลต์ได้จากการนำเมล็ดธัญพืช (cereal grain) เช่น
ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี (wheat)  เพาะให้งอก (malting) ระหว่างการงอกจะมีเอนไซม์ ย่อยสตาร์ซ (starch) ให้มีโมเลกุลเล็กลง เป็นน้ำตาลแล้วนำมาหมักด้วยยีสต์ ให้เกิดเป็นแอลกอฮอล์ ก่อนการหมักมีการเติมฮอพ (hop) เพื่อให้ได้กลิ่น และ WFH รสขมของเบียร์เติมลงไป

ลาเกอร์เบียร์  เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่ เบียร์สิงห์ คาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg) ไฮเนเก้น (Heineken) เป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมมาก และผลิตมากที่สุดในโลก เบียร์ชนิดนี้มีลักษณะรสชาติเฉพาะคือ มีรสอ่อนๆ หวานน้อย สีเหลืองอำพันดื่มแล้วสดชื่น มีแอลกอฮอล์ประมาณ 3.2-5.5 ดีกรี เสิร์ฟอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 4-7 องศาเซลเซียส

เบียร์  มีสารต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด เช่น สารโพลีฟีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันมะเร็ง มาจากการดักจับอนุมูลอิสระตัวร้ายออกจากร่างกาย และสารโพลีฟีนอยด์หลัก คือ Xanthohumol มีข้อดี คือช่วยยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาการของมะเร็ง รวมทั้งวิตามิน และ เกลือแร่สังกะสี แมกนีเซียม เหล็ก และ แร่ธาตุจำเป็น ซึ่งช่วยให้เส้นประสาทและ กล้ามเนื้อ แข็งแรง เหตุผลดีๆ ยังมีอีกมากมาย เบียร์ขวด หรือกระป๋องที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว จริงๆ
ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน เพราะเก็บไว้นานจะทำให้กลิ่น และรสน้อยลง การเก็บเบียร์จะต้องเก็บไว้ในที่เย็นเพื่อนำมาใช้ได้ทันที เพื่อป้องกันการเก็บไว้ให้ได้นานเกินควรทางโรงงานจึงประทับวันที่ผลิตบนกล่องไว้เป็นที่สังเกต หรืออาจจะเป็นโค้ด ที่ฉลากการซื้อ และการจำหน่ายเบียร์ที่ผลิตก่อนออกไปก่อนอุณหภูมิในการเก็บที่ดีคือระหว่าง 40-70 หรือมากกว่า 21C จะทำให้กลิ่น และรสของเบียร์น้อยลง

ควรเก็บเบียร์ ให้ห่างจากแสงแดด เพราะจะทำให้เบียร์เสื่อมคุณภาพลง ด้วยเหตุนี้เบียร์จึงบรรจุขวดสีน้ำตาล หรือสีเขียว หากเก็บไว้นานจนเบียร์เป็นวุ้น Freeze จะทำให้เบียร์ตกตะกอน และเป็นเกล็ดน้ำแข็ง เมื่อเปิดออก
จะไหลพุ่งอย่างรวดเร็ว หากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากเกินไป  เบียร์อาจจะมีสีขุ่นเสียได้
Test Beer_Ple@Singha 042_2015.08.31

การเทเบียร์ลงแก้ว
ใช้แก้วที่สะอาดไม่มีน้ำปน ไม่ให้มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรก หรือ น้ำขัดขวางการก่อรูปของฟองเบียร์ เวลารินเบียร์ให้ถือแก้วลักษณะเอียง 45 องศา ตั้งแก้วให้ตรงแล้วเทเบียร์ลงไปตรงกลางแก้ว รินเบียร์ โดยให้เล็งว่าน้ำเบียร์จะตก
กระทบบริเวณกลางแก้วโดย ให้ปากขวดอยู่เหนือ เวลาริน รินเบียร์ถึงครึ่งแก้วก็ค่อยเอียงแก้วกลับมาตั้งทำมุม 90 องศารินต่อไปเรื่อยๆ อย่าให้ฟองเบียร์ล้นแก้ว การรินแบบนี้ต้องการให้เกิดพรายฟองเบียร์ จะทำให้กลิ่นของเบียร์กระจายฟุ้ง ยังช่วยให้แก๊สแตกตัว ลดอาการท้องอืดหลังจากดื่มด้วย เทเสร็จแล้วเบียร์ควรมีความหนาของฟองพอประมาณในแบบคลอสเตอร์ ความสุขที่คุณดื่มได้ กินเบียร์ให้อร่อยว่าต้องให้เย็นแต่ไม่ใส่น้ำแข็งใส่แก้วจะดื่มนุ่มมากกว่ามาก
Beer Test@EST.33 CDC  126_2015.08.30

รู้อย่างนี้แล้ว หวังว่าทุกคนคงเลือกดื่มเบียร์ให้อร่อยมากขึ้น ดื่มพอประมาณดีที่สุดนะค่ะ เพื่อสุขภาพ

 

SIM CARD รับฟรี-โทรฟรีที่ Hongkong

I SIM  รับฟรีที่ Hongkong

ใครมาเที่ยว ประเทศฮ่องกงช่วงนี้ ไม่ต้องวุ่นวายไปหาซื้อซิม รับไปเลยฟรีๆ แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ที่ฮ่องกงเขามีแจกซิมให้ใช้ฟรีๆ เลยค่ะใช้โทรภายใน ซิมการ์ด  สำหรับการโทรภายในฮ่องกงและรับส่งข้อมูลฟรี 7 วัน ง่ายๆ
โดยดาวน์โหลด i-Sim App มาไว้ใน Smart Phone ทำการจองและรับซิมการ์ด โดยระบุข้อมูล ช่วงเวลาและ
ขนาดซิมการ์ดที่ต้องการรับ จากนั้นรับจดหมายยืนยันทางอีเมล์ที่ระบุไว้ เมื่อถึงสนามบิน ไปหาเคาเตอร์รับซิม
ที่ Arrival Hall A08   ยื่นอีเมล์ยืนยันพร้อมพาสปอร์ตให้อาตี๋หน้าเคาเตอร์ โดยดาวน์โหลด i-Sim App มาไว้
ใน Smart Phone ของท่าน ทำการจองรับซิมการ์ด จะเล่นอินเตอร์เน็ต หรือเข้าเว็ปแชทไลน์ ใช้ได้เลย SMS ฟรีโดยต้องกดจองซิมมาล่วงหน้า แล้วมารับที่สนามบินฮ่องกง ตอนลงจากเครื่องได้เลยทันที เพียงแต่คุณลงทะเบียนเสร็จก็ไปรับ SIM ได้ทุกขนาด  ซิมตัวนี้ชื่อ I-Sim  โดยCounter รับซิมฟรีจะอยู่ที่ Arrival Hall A Counter No. A08

I sim hongkong-2SIM CARD HKGi-Sim HK 010_2015 09 12
เดินผ่าน ตม. ออกมาจาก Arrival Hall A Counter No. A08 หลังจากรับกระเป๋าออกมาแล้ว เดินตรงออกมาด้านนอก มองตรงไป สังเกตมีบูทเล็กๆ เรียงรายตามแผนที่  (เดินตามลูกศรสีแดง)

เวลาปิด-เปิด 8.30 -24.00 o.  โดยยื่น Passport และ แสดง E-mail และ QR Code ให้เจ้าหน้าที

COUNTER A 08 เวลาเปิดปิดก็ 8 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน สังเกตุได้ตามแผนที่i-Sim HK 003_2015 09 16

วิธีการจองซิมง่ายนิดเดียว มีดังนี้
1. Download Application:  I-Sim Hong Kong
2. Create Account ใช้เวลาแป๊ปเดียว ทำที่สนามบินก่อนเดินทางได้
3. การกรอกให้ Reserve เลือกขนาดซิม Micro sim/Nano แบบที่ใช้อยู้
และเลือก วัน-เวลา ที่ต้องการรับ SIM ล่วงหน้า (มีเป้นช่วง) เราสามารถทำการจอง I-Sim Hong Kong
ก่อนการเดินทาง 100 วัน  ห้ามมารับซิม หลังจากที่จองเวลาไว้ใน Time-slot เพราะว่าระบบจะทำการ
ยกเลิกการจองโดยอัตโนมัติทันที
4. รับจดหมายยืนยันเป็น QR code ผ่าน E-mail (ตาม ต.ย. ด้านบน) รอไม่เกิน 5 นาที
5. Capture QR code แสดงให้เจ้าหน้าที่ พร้อม Passport เจ้าหน้าที่จะช่วยทำให้ ถ้าไม่ยุ่งยากเลย แค่ถ่ายรูป Barcode แนะนำทำไปจากเมืองไทย เวลาเปิดใช้สัญญาณ Wifi-free ที่สนามบินฮ่องกง
6. เจ้าหน้าที่ขอดู Scan QR code จาก E-mail รับซิม และนำ SIM ใส่เครื่อง แบบรวดเร็ว
7. เจ้าหน้าที่ตั้งค่าให้ พวกค่า ICCID ตั้งแต่ Update ICCID ใช้งานได้ทั้งหมด 7 วัน เริ่มเปิดใช้ตอนไหน
หมดอายุพร้อมกันตอน 23.59 น. ของวันที่ 7
8. ใส่ Sim เรียบร้อยจะปรากฎ SMS ที่เครื่อง  แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ ที่เราใช้ที่ฮ่องกง โทรเข้าออกในฮ่องกงฟรี
9. เปิด Application ห้ามลืม  กดดูโฆษณาในแอพ เติมพลังให้เต็ม 100% ยิ่งกดยิ่งได้จำนวนนาที หรือจำนวน Megabyte เพิ่มขึ้น และ จำนวนนาทีสำหรับใช้โทรฟรี
10. เล่นเน็ทแล้วใกล้หมด ก็มากดดูโฆษณาอีกกดซ้ำจะได้ ชั่วโมงเน็ตมาใช้ฟรี ระวังควรหลีกเลี่ยงการดู VDO youtube หมดไวมากๆ
11.กรณีเลือกซิมผิด ไม่ต้องยกเลิกในระบบ เจ้าหน้าที่เห็น Smart Phone ที่ใช้หยิบให้ตามนั้น
12.ระวัง เก็บซิมเดิมไว้ในที่ปลอดภัย  รับพาสปอร์ตคืน เริ่มชอปปิ้งได้เลย

i-Sim HK 001_2015 09 16

i-Sim HK 014_2015 09 12
รับเลย I-Sim Hong Kong โทรฟรี เล่นเน็ตชิลล์

ข้อดี
-1 คนจองในแอพให้คนอื่นได้ 4 คน สามารถจองล่วงหน้าได้ระยะเวลาไมาเกิน 100 วัน
-มีเจ้าหน้าที่แนะนำ และเซ็ทค่าของเครื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่ายสักบาท
-สัญญาณการใช้งาน แรง เร็ว ดีตรงที่มีแผนที่รถไฟใต้ดินด้วยนะ
-กลับถึงเมืองไทย ใส่ซิมเดิม ใช้งานได้ตามปกติ
-i-sim.com.hk ตอนนี้แจกฟรีไม่มีกำหนด แจกไปเรื่อยๆ ตอนที่ไปรับซิม คนไทยทั้งนั้นเลย

Trip HongKong 12_14Sept58 038_2015 09 12Trip HongKong 12_14Sept58 369_2015 09 13
กรณีต้องการรับบริการที่อื่นในเมือง แนะนำตามจุดแจกสะดวกกว่าหากใครไม่ได้โดยสารมาทางเครื่องบิน
ซึ่งจุดแจกในเมืองนั้นไม่ต้องทำการจองล่วงหน้า Distribution points ตามรายละเอียด:
http://www.i-sim.com.hk/distribution/

1. China Travel Service (Mongkok Branch)
1/F, Tak Po Building, 62-72 Sai Yee Street, Mongkok, Kowloon (Outside Mongkok Branch of China Travel Service)
Opening Hour: 09:00 – 14:00

2.China Travel Service (Prince Edward Branch)
Shop 1-2, 363 Portland Street, Mong Kok, Kowloonn (Outside Prince Edward Branch of China Travel Service)
Opening Hour: 09:00 – 14:00

3.Ganghuigou Counter
Train Arrival Hall (restricted area) of Hung Hom Station
Opening Hour: 10:00 – 20:00 (Mon- Sun & Public Holiday)

4.Hung Hom Station
Outside Exit C2 of Hung Hom Station
Opening Hour: 10:30 – 14:30 (Mon- Sun & Public Holiday)

5.The Capital
Tsim Sha Tsui, Kowloon, border between Cameron Road and Chatham Road South (No. 61-65) (Near Park Hotel Hong Kong)

Opening Hour: 12:00 – 21:00 (Mon – Sun & Public Holiday)
Trip HongKong 12_14Sept58 385_2015 09 13
i-Sim HK 006_2015 09 16

I sim Hongkong-32
I-Sim Hong Kong โทรฟรีได้โดยง่าย

ขอ  I-Sim Hong Kong  โทรฟรีได้โดยง่ายๆ  
รายงานการใช้งานจากฮ่องกง ใช้ได้ดีมากไม่มีปัญหาใดๆ เลย ส่วนเจ้าหน้าที่ที่สนามบินอัธยาศัยดี ฝากบอกว่าช่วยแนะนำเพื่อนๆ และบอกต่อด้วย ยินดีให้บริการ ตั้งค่าให้หมดทุกอย่าง ด้วยความเต็มใจเที่ยวฮ่องกงอย่าลืมแวะ
รับซิมนะค่ะ ไม่ต้องห่วงท่านสามารถเพิ่มโควต้าได้โดยการกดดูโฆษณา ด้านล่างโควต้าการใช้งานจะเพิ่มขึ้น
จากนั้นก็ช็อป แชะ ชิมได้ทั่วประเทศฮ่องกง ไม่มีหลง ไม่มีมึนก่อนเดินทางแน่นอน (เจ้าหน้าที่แนะนำ)

i-Sim HK 009_2015 09 12

i-Sim HK 012_2015 09 12
i-Sim HK 013_2015 09 12
ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.i-sim.com.hk/hkia/

i-Sim HK 001_2015 09 16Trip HongKong 12_14Sept58 197_2015 09 12

เพิ่งกลับมาจากฮ่องกง เมื่อ 14 กันยายน 2558
ไป-กลับ สนามบิน Hongkong  แนะนำให้นั่งรถเมล์สาย A21 สะดวกและถูก จอดสถานนีหลักๆ รอบเกาลูน
เพียงคนละ 33 เหรียญฮ่องกง เท่านั้น

Trip HongKong 12_14Sept58 056_2015 09 12 ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน  ฝากแชร์ บอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะคะ
ดีงามมากค่ะ แนะนำให้ใช้มีเงินเหลือค่าขนมด้วย แล้วพบกันใหม่นะค่ะ

Apple เปิดตัว iPhone 6s และ iPhone 6s Plus กล้อง12ล้าน

งานแอปเปิลเมื่อคืนนี้ คือ การเดโม คุณสมบัติใหม่ล่าสุด
แอปเปิลเปิดตัว ไอโฟน รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า “iPhone 6s” และ “iPhone 6s Plus”


iphone6sCR:MACTHAI

รูปลักษณ์ภายนอกใกล้เคียงกับ iPhone 6 เดิม ตัวเครื่องหนาขึ้นเล็กน้อย
และมาพร้อมชิป Apple A9 และหน้าจอ Force Touch เพิ่งจบขอสรุปให้คนที่ยังไม่ได้ดูะได้ทราบข้อมูล

Apple เปิดตัวสินค้าใหม่ ในวันพฤหัสที่ 9 กันยายน 2558 เปิดตัว iPhone 2 รุ่น คือ 6s กับ 6s plus
ตามคอนเซปต์รุ่น s คือหน้าตาเหมือนเดิม แต่อัปเกรดสเปกภายในให้น่าซื้อยิ่งขึ้นกว่าเดิมงานนี้มีอะไรบ้าง
ไปดูกัน

-มีเทคโลโลยี 3d touch เข้ามาคือกดไอโฟนแรงขึ้นกว่าเดิม จะมีแทปให้เลือก เช่น กดกล้องแรงขึ้น มันจะให้เลือกอัตโนมัติเลยว่าจะใช้งานอะไร?

-ใช้ ชิป A9 รองรับ 64-bit ประมวลผลเร็วขึ้นกว่าเดิม 70% และ ประมวลผลกราฟิกเร็วขึ้นถึง 90%
ที่เค้าว่าแรงมาก
-มี 4 สี คือ เงิน ทอง เทา ชมพู หรือ Rose Gold
-มาพร้อมชิป M9 เพื่อช่วยการประมวลผล และตรวจจับการเคลื่อนไหว
-Wallpaper ภาพสามารถเคลื่อนไหวได้
-กล้องโหดมาก กล้องหลัง 12 ล้าน กล้องหน้า 5 ล้าน กล้องหน้าไม่ใช้ flash แต่ใช้เทคโนโลยี Retina flash ใช้แสงกะพริบจากหน้าจอแทนเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น50% สามารถทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อย เก็บรายละเอียดได้ดี
-รองรับการถ่ายวิดีโอเป็น 4k วิดีโอชัดมากคุณภาพระดับโรงหนัง ล้ำมาก
-เปิดตัว Live photo ถ่ายภาพนิ่งแบบรัวแต่สามาถเคลื่อนไหวได้
-ทำแท่นชาร์ตแบต แบบตั้ง  มีขายแยกตาม 4 สี กันเลย
-แอพถ่ายข้อมูลจากแอนดรอยมาไอโฟนให้อัตโนมัติ เจ๋งมาก
-รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2 และ NFC
-ราคาเปิดตัว เท่าไอโฟน 6 กับ 6 พลัส ปีที่แล้วแป๊ะ!!!

apple
CR: MACTHAI
6plus
CR: MACTHAI

ส่วนตัว ชอบมาก อยากมีโอกาสได้สัมผัสเครื่องสีชมพูตัวจริง และก็มีภาพออกมาให้เราได้เห็นว่าสีจริงๆ จะเป็นอย่างไร ชมพูสวยมุ้งมิ้งอย่างที่หลายคนอยากได้คะ

ต่อมาเป็น Apple iPad Pro โฉมใหม่ใหญ่เกือบจะเท่า Macbook คุณสมบัติใหม่บน iPad Pro ที่ทำงานร่วม
กับ Apple Pencil  และ Smart Keyboard ของแอพ Microsoft Office ซึ่ง Office ที่อัพเดตใหม่นี้รองรับ
การทำงานหลายอย่าง

apple-11CR:MACTHAI

ต่อมาเป็น Apple iPad Pro
โฉมใหม่ใหญ่เกือบจะเท่า Macbook คุณสมบัติใหม่บน iPad Pro ที่ทำงานร่วม
กับ Apple Pencil  และ Smart Keyboard ของแอพ Microsoft Office ซึ่ง Office ที่อัพเดตใหม่นี้
รองรับการทำงานหลายอย่าง

– หน้าจอขนาด 12.9 นิ้ว ความละเอียด 2732×2048 พิกเซล (264ppi)
– CPU Apple A9X 64-bit
–หน้าจอ 12.9 นิ้วใหญ่เว่อร์  ความคมชัด 5.6 ล้านพิกเซล เท่าแมคบุคโปร 15 นิ้ว
–อัดลำโพง 4 ตัวรอบเครื่อง/ถ่ายวีดีโอระดับ 4K
–มาพร้อม smart keyboard และ apple pencil แต่ขายแยกคะ
–ที่น่าตื่นเต้นคือคือ Ipad pro รองรับ Microsoft office โดยใช้ดินสอเขียนงานบน Word Excel
และ  Powerpoint  ได้ดีงาม
–ใช้ Adobe photoshop sketch ภาพได้อันนี้ดีมาก ดีจนน่าตกใจ
– รองรับการเชื่อมต่อ WiFi 802.11ac  with MIMO
– รุ่นใส่ซิมได้ รองรับ  LTE 150LTE
– มี 3 สีให้เลือก คือ  ทอง, ขาว, และ ดำ สวยมาก
– ขนาบางเฉียบ  6.9 มิลลิเมตร
– ราคาเริ่มต้น 28,xxx บาท

เริ่มวางขาย 25 กันยายน 2558 แต่ประเทศไทย ยังไม่อยู่ในกลุ่มแรก

หลังจากการมาของ iPhone 6s ที่เพิ่งเปิดตัวไป ล่าสุดแอปเปิล มีการปรับราคาขายของ iPhone 6
และ iPhone 5s ในช่องทางออนไลน์ของประเทศไทยแล้ว โดยปรับลดราคาลงมาไม่มากนัก
รวมถึงเลิกขาย รุ่นสีทองด้วย
cvphone-6s-plusCR:MACTHAI

ปล. เป็นงานเปิดตัวที่ทุกคนประทับใจมาก ซึ่งครั้งนี้มีอะไรที่เด่นจริงๆ ยอมรับตรงๆ น่าซื้อมากๆ 

*+* จบการรายงาน

 

การแข่งขันแรลลี่จักรยานทางไกล PBP PARIS-BREST-PARIS โหดที่สุดในโลก

การแข่งขันแรลลี่จักรยานทางไกล ที่โหดที่สุดในโลก

ครั้งแรกของนักปั่นจักรยานไทย จำนวน 43 คน เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลฝรังเศส
“ปารีส-เบรสท์-ปารีส 2015” โดยการสนับสนุนจาก เครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว โดยสิงห์คอร์ปอเรชั่น ส่งนักกีฬาจักรยานทางไกลฝรั่งเศส และส่งนักปั่นที่เข้าร่วม PBP PARIS-BREST-PARIS Randonneur ประเทศฝรั่งเศส กับ กิจกรรมการขี่จักรยานทางไกลระยะทาง 1,200 กิโลเมตร 4 ปี มีครั้งเดียว เส้นทางจากปารีส ไปยัง แบรสต์ เมืองชายฝั่งตะวันตกจังหวัด ฟีนิสแตร์ แคว้นเบรอตาญ ประเทศฝรั่งเศส กลับไปสิ้นสุดที่ ปารีส เริ่มจัดตั้งแต่ปี ค.ศ.1891 เป็นกิจกรรมการปั่นจักรยานรายการหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุด ยังคงจัดอยู่จนถึงปัจจุบัน กับการปั่นเพื่อพิชิตทางหฤโหดในประเทศไทย สิงห์คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนโครงการ นำผืนธงไตรรงค์สู้เส้นทาง PBP  2015  กับระยะทางปั่นจักรยาน 1200 กม. มีนักปั่นจักรยานเข้าร่วมโครงการกว่า 6,000 คน จาก 56 ประเทศทั่วโลก  จัดขึ้นมาอย่างยาวนานเป็นเวลากว่า 180 ปี

“PBP” หรือ การทดสอบแบบทรหด-อดทน ของนักปั่นจักรยานทางไกล จัดโดยโฮสต์คลับ Audax Parisien,
ปารีสเบรสต์ปารีส Randonneurs เป็นการปั่นจักรยานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงทำงานอยู่เป็นประจำบนถนนเปิด
จุดเริ่มต้นอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหลวงของฝรั่งเศสก็เดินทางไปทางทิศตะวันตก 600 กิโลเมตรถึงท่า​​เรือเมืองเบรสต์  ในมหาสมุทรแอตแลนติก

PBP PARIS-BRET-PARIS-95
ORGANIZATION OF THAI TEAM TRAINING FOR PBP PARIS-BREST-PARIS Randonneur 2015 FOR FRANCE SUPPORTED BY SINGHA CORPORATION

PARIS-BREST-PARIS-85

PARIS-BREST-PARIS ประเทศฝรั่งเศส
ระยะทาง และสนามทดสอบที่นักปั่น AudaxRandonneurs แรลลี่จักรยานทางไกล ที่นักปั่นหลายท่านใฝ่ฝันก็คือ สนามต้นแบบ ที่ประเทศฝรั่งเศส เรียกว่า PBP Paris Brest Paris ซึ่งมีประวัติการจัดมายาวนานกว่า 100 ปี โดยนักปั่นที่มีคุณสมบัติไปร่วมยังสนามแห่งนี้ได้นั้น ต้องเป็นนักปั่นระดับที่เรียกว่า Super Randonneurs คือมีผลการทดสอบระยะทางจากสนามจริง ที่ขึ้นทะเบียนกับ APC ในทุกระยะและเวลาที่กำหนด ได้แก่ระยะทาง 200 300 4000 และ 600กิโลเมตร ในปีเดียวกัน ซึ่ง AudaxRandonneursThailand สามารถสร้างนักปั่นจักรยานระดับนี้ขึ้นมาได้สำเร็จได้  ซึ่งมีคุณสมบัติพร้อมที่จะไป สนาม PBP Paris Brest Paris ที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นจำนวนทั้งสิ้น 74 ท่าน ชาย 66 และหญิง 8 ท่าน ร่วมกันเดินทางไปในนามของประเทศไทย ส่งผู้เข้าร่วมปั่นเป็นลำดับที่ 2 ของเอเซีย และเป็นลำดับที่ 15 ของโลก ในวันที่ 16-20 สิงหาคม 2558 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

PARIS-BREST-PARIS-3

Sanvo_035_2015.09.01
PBP Paris Brest Paris ซึ่งมีประวัติการจัดมายาวนานกว่า 100 ปี

รายการนี้ทาง เครื่องดื่มเกลือแร่ “ซันโว” ร่วมกับ ชมรมออแด็กซ์ ประเทศไทย ได้ส่งนักปั่นจักรยานชาวไทยเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ระยะทาง 1,230 กม. ภายในเวลา 90 ชม. เส้นทางจากปารีส ไปยังแบรสต์ เมืองชายฝั่งตะวันตกของ จังหวัดฟีนิสแตร์ แคว้นเบรอตาญ แล้วกลับไปสิ้นสุดที่ปารีส ซึ่งเป็นการปั่นจักรยานที่โหดที่สุดในโลก ที่ต้องบริหารจัดการตัวเอง ที่ไม่เน้นการจัดอันดับ แต่ต้องปั่นเข้าจุด เช็คพอยท์ ตามเวลาที่กำหนด โดยในปีนี้มีนักกีฬาร่วมการแข่งขันทั้งหมดกว่า 6,100 คน จาก 56 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันนักปั่นจักรยานที่ต้องทนประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ความท้าทาย เสมือนโอลิมปิค แห่งวงการปั่นระยะไกล

PBP PARIS-BRET-PARIS-501

แรลลี่จักรยานทางไกล PBP PARIS-BREST-PARIS โหดที่สุดในโลก
ภูมิประเทศที่นักปั่นไม่คุ้นเคยนั่นคือ “เนิน” เมื่อนักปั่นชาวไทย เจอเนินหินทางชันต้องใช้ความทรหดอดทนมาก เนินเหล่านี้ถ้าดูกันธรรมดาแล้วก็ไม่มีใครคิดอะไร มองดูเผินๆ เพิ่งเริ่มฝึกปั่นก็ผ่านได้ไม่ยาก แทบทั้งหมดสูงไม่เกิน120-300 เมตร มุ่งมั่นปั่นจริง ไต่เนินเขากันจริงๆ จะยากหรืออันตราย จุดที่มันโหดแสนโหดแบบที่นักปั่นชาวไทย ไม่เคยเจอมีมากมายจนท้อ นักปั่นบางท่านเคยปั่นแต่ทางเรียบ เวลาคนเราเมื่อปั่นทางเรียบบนความเร็ว เหนื่อยปุ๊บก็ชะลอการปั่นลงได้ แต่การปั่นขึ้นเขามันไม่ใช่อย่างนั้น อยู่ดีๆ เราจะปั่นชะลอหยุดไม่ได้ เพราะ เนินนั้นมันชันมาก ต้องเงยหน้ามองถึงจะเห็นทางมันต้องแบ่งการหายใจ มันเหนื่อยแบบสุดๆ หายใจไม่ทันใจแทบขาด
Sanvo_073_2015.09.01

อีกปัจจัยความโหดที่สุดแสนจะทรมาน ใช้ฟรอยห่อตัวเองเพื่อความอบอุ่น ปั่นเพื่อสู้กับความหนาวเย็น มันคือหนาวนรก การไม่มีเครื่องนุ่งห่มกันลมกันน้ำค้างที่เหมาะสม การปั่นในอุณหภูมิเฉลี่ย 35-38 พออุณหภูมิตกเหลือ 10 เรียกว่าหนาว ถนนเหมือนเส้นทางหิมะที่ปกคลุมไปด้วยหมอกที่เย็นจัดช่วงเช้าตรู่ เมื่อสองเท้าปั่นไปเจออุณหภูมิอากาศหลักสิบในช่วงหัวค่ำ และต่ำกว่าสิบในช่วงใกล้รุ่ง ทำให้ความตื่นเต้นจากการปั่นเมืองหนาวในวันแรก กลายเป็นความเหน็บหนาวมันหนาวจับขั้วหัวใจที่น่าจดจำ แต่มีบางมุมที่กลับอบอุ่นใจไม่รู้ลืม กับการต้อนรับจากเจ้าบ้านตลอดเส้นทางการปั่น ส่วนนักปั่นชาวตะวันตกที่มีผิวและรูขุมขนที่ต่างจากคนไทยเค้าไม่หนาวเลยสักนิดคงเคยชิน
Sanvo_075_2015.09.01

เวลากลางคืนเป็นเวลาที่สวยงาม และน่ากลัวที่สุด ถ้าอยู่ในกลุ่มนักปั่นด้วยกันในความมืดสนิท ไฟท้ายที่วิ่งนำทางอยู่ข้างหน้าทอดผ่านทิวเขาโล่งๆ ไม่จบไม่สิ้นเหมือนโลกนี้ถูกยึดครองโดยจักรยานนักปั่น 6,000 คน เป็นความรู้สึกพิเศษที่บันทึกด้วยภาพไม่ได้จริงๆเมื่อใดที่หลงทาง ตอนกลางคืนบนเส้นทางเขาในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิท ขึ้นเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาปั่นอดทนกันไป เมื่อถึงตลอดทั้งคืนปั่นไหลลงยาวๆ เวลากลางคืนในลักษณะเดียวกัน เมื่อแสงไฟท้ายของจักรยานคันหน้าลับสายตาไป สวรรค์จะค่อยๆกลายเป็นนรก ง่วง หนาว หิว เหงา หว้าเว่ เป็นเหมือนการต่อสู้กับปีศาจที่มองไม่เห็น สัตว์ร้ายหรือแมลงลิ่วล้อที่บินผ่านหน้าเข้ามาเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น เริ่มจากความสนุกสนานตื่นเต้น และค่อยเหนื่อยโดยไม่รู้ตัว
Sanvo_002_2015.09.01

ไม่ว่าจะโหดร้าย ยาก เหนื่อย ท้อ ขนาดไหน, จบตามเวลา โอกาสดีแบบนี้ถ้าไม่ลงมือทำคงไม่มีใครรู้ว่า PBP โหดอย่างไร นักปั่นจักรยานทางไกลคนไทยชุดแรกรู้ดี ที่นำธงไทยไปอวดในการแข่งขัน PBP PARIS-BREST-PARIS ด้วยปัจจัยความโหด ของนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่อีกอย่างพวกเรายังไม่คุ้นเคยก็คือ โหดร้าย ยาก เหนื่อย ท้อ ขนาดไหน, จบตามเวลา  อีก4ปีเจอกันใหม่

Sanvo_27

ครั้งแรกที่คนไทยได้ไปถึงระดับโลกเทียบเท่านานาชาติ
ประวัติศาสตร์ของไทยต้องจารึก  ครั้งแรกของประเทศไทยที่จะมีนักปั่นกว่า 50 ชีวิตเข้าร่วมรายการนี้ ระยะทางที่นักปั่น AudaxRandonneurs แรลลี่จักรยานทางไกล จากสนามต้นแบบที่ประเทศฝรั่งเศส เรียกว่า PBP Paris Brest Paris ประวัติการจัดมายาวนานมากกว่า 100 ปี นักปั่นจักรยานทางไกลฝรังเศส ที่มีคุณสมบัติที่เข้าร่วมยังสนามนี้ได้ คุณสมบัติเป็นนักปั่นระดับที่เรียกว่า Super Randonneurs การคัดเลือกนักปั่นจักรยานทางไกล คือต้องมีผลการทดสอบระยะทางจากสนามจริง ขึ้นทะเบียนกับ APC ทุกระยะตามเวลาที่กำหนด คือ ระยะทาง 200 300 400 และ 600 กิโลเมตร ในปีเดียวกัน ซึ่ง Audax Randonneurs Thailand สร้างนักปั่นระดับนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ และมีคุณสมบัติพร้อมที่จะไป สนาม PBP Paris Brest Paris เอเซีย และเป็นลำดับที่ 15 ของโลก ในวันที่ 16-20 สิงหาคม 2558 ที่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 15 นักปั่นชาวไทย สวมหัวใจสิงห์ ปั่นจักรยาน เพื่อพิชิตการแข่งขันจักรยานทางไกลสุดโหด “ปารีส-เบรสท์-ปารีส 2015” ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้สำเร็จอย่างงดงาม จักรยานรายการนี้ถือเป็นรายการ ปั่นจักรยานทางไกลที่โหดที่สุดในโลก
Sanvo_24

นักปั่นจักรยานแข่งขันจักรยานทางไกล “ปารีส-เบรสท์-ปารีส 2015
สำหรับนักปั่นจักรยานทางไกล ชาวไทยที่ปั่นจบการแข่งขัน มี 15 คน ประกอบด้วย:

คุณสิระกร ปุณณประดับกิจ (68.39 ชม.)
คุณวิเชียร งามแสง  (68.49 ชม.)
คุณนพดล ปานอุดมลักษณ์ (76.53 ชม.)
คุณศิริชัย อติวัฒนานนท์  (77.29 ชม.)
น.ส.สุกัญญา สุวรรณาคะ (81.48 ชม.)
คุณณัฐภพ กิจวัฒนกุล (83.46 ชม.)
คุณวินัย ทรรทรานนท์ (86.15 ชม.)
คุณเกรียงศักดิ์ กลิ่นนิ่มนวล (86.43 ชม.)
น.ส.ยุพิน ศิริสวัสดิ์ (87.40 ชม.
คุณธงชัย พิศาภาค (87.54 ชม.)
นอ.ณรงค์ วัฒนะเสน (88.05 ชม.)
คุณเอกสิทธิ์ สุฉันทบุตร (88.54 ชม.)
คุณสุมิตร สุโขทัยวาณิช (89.27 ชม.)
คุณประดิษฐ์ พยุงวงศ์ (89.50 ชม.)
คุณประสิทธิ์ นิลรัตโนทัย (90.50 ชม.)
หมายเหตุ  ขออภัยที่บางท่านไม่มีรูป  เนื่องจากไม่ได้มาร่วมงานวันสัมภาษณ์

Sanvo_115

Sanvo_097
Sanvo_135

Sanvo_133
Sanvo_162
Sanvo_140_2015.09.01
Sanvo_092
Sanvo_181
Sanvo_144
Sanvo_108

อย่างการแข่งในโครงการ เป็นครั้งแรกของประเทศไทย เทียบเท่านานาชาติ  นักปั่นจักรยานทางไกล บนเส้นทางที่ท้าทายและเส้นทางที่โค้งลาดชันของทิวเขา ที่แตกต่างจากประเทสไทยอย่าสิ้นเชิง วันนี้นักปั่นจักรยานทางไกลกลับถึงประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยเที่ยวบินที่ TG 931 โดยนำประสบการณ์ และเรื่องราวสุดโหดกับความมุ่งมั่นที่น่ายินดี กับนักปั่นจักรยานทางไกล ชาวไทยกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นคนไทยกลุ่มแรกที่เข้าร่วมการแข่งขัน จักรยานทางไกลฝรังเศส และประสบความสำเร็จสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับ ประเทศไทย

นักปั่นจักรยานทางไกล

การการแข่งขัน ปั่นจักรยาน1,200 กม. PBP PARIS-BRET-PARIS จักรยานรายการที่โหดสุดในโลกความฝันของนักปั่นจักรยานทางไกลทุกคนที่ต่างชาติชื่นชม และได้รู้จักเมืองไทย จากเสื้อสำหรับปั่นจักรยานที่มีตราของสิงห์ อยู่ด้านกลัง อีกสิ่งหนึ่งคือเบียร์ไทยตราสิงห์  โดยการวางแผนการปั่น และใช้กำลังใจ การเดินทางอย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ เพราะต้องปั่นทั้งกลางวัน และกลางคืน ปั่นทางไกลมาก่อน หากไม่สามารถปั่นได้ตามระยะทางที่กำหนด นักปั่นจักรยานสามารถเลือกที่จะปั่นในระยะที่ตนเองสามารถปั่นได้ อย่างไรก็ตาม นักปั่นจะต้องมีประสบการณ์การปั่นทางไกลมาก่อนเป็นสำคัญ และต้องเตรียมตัวให้พร้อม
PARIS-BREST-PARIS-9

PBP PARIS-BRET-PARIS-31
คุณวิเชียร งามแสง นักปั่น ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนที่ 2 ในกลุ่มนักปั่นไทย ด้วยสถิติ 68.49 ชม.
Sanvo_018_2015.09.01
สิ่งแรกอยากขอขอบคุณ เครื่องดื่มเกลือแร่ ซันโว บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มนักปั่นจักรยานทางไกลฝั่งเศส

ด้าน คุณวิเชียร งามแสง นักปั่นจักรยานทางไกล ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนที่2 ในกลุ่มนักปั่นไทย ด้วยสถิติ 68.49 ชม. (ลำดับที่ 1 คุณสิริกร ปุณณประดับกิจ ด้วยสถิติ 68.39 ชม.)  กล่าวว่า สิ่งแรกอยากขอขอบคุณ เครื่องดื่มเกลือแร่  ซันโว  บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่เปิดโอกาสให้ตนเอง และกลุ่มนักปั่นจักรยานทางไกลฝั่งเศส  กับการฝึกซ้อมที่พิเศษสุด แบบแข่งขันจริง  ที่ไร่บุญ รอด จังหวัดเชียงราย  ทีมงานประทับใจและดีใจที่ได้มีโอกาสเป็นคนไทยกลุ่มแรกที่ได้มีโอกาส เข้าแข่งขันแรลลี่จักรยานทางไกล แบบเปิดตำนานความโหด  ผู้รักความมันส์ ร่วมพิสูจน์ความอึดและความอดทน ก่อนเดินทางไปแข่งขัน ได้ฝึกซ้อมปั่นจักรยานวันละประมาณ 10 กิโล ทุกวันไม่มีวันหยุด  เพื่อเตรียมความพร้อมกับการแข่งขัน ที่ PBP PARIS-BRET-PARIS พบกับสภาพอากาศที่เลวร้าย ในช่วงกลางคืน 6 องศาฯ ระหว่างการแข่งขัน มีเสียหลักล้มกลิ้ง บาดเจ็บ ต้องแก้ไขและรักษาอาการบาดเจ็บด้วยตนเองเพียงลำพัง ผู้อื่นไม่สามารถให้ความช่วยเหลือ นั่นเป็นปัญหาที่เกิดกับร่างกายที่แข็งแรงเป็นเลิศ เส้นทางโค้ง ทางชันขึ้นเขาลงเขา ล้วนอันตราย ทำให้ต้องวางแผนและแก้ไขปัญหาในการปั่นจักรยานทางไกล ต้องพึ่งการใช้แผนที่ และทำความเข้าใจเส้นทางด้วยตนเอง สุดท้ายก็ได้ผลการแข่งขันที่ดีเข้าเส้นชัยได้สำเร็จ ผมขอบคุณเครื่องดื่มเกลือแร่ซันโวที่ให้ฌอกาส และสนับสนุนประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของการเป็นนักปั่นจักรยานผมและคนไทยได้ไปแข่งขันในครั้งนี้
PBP PARIS-BRET-PARIS-222

ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักปั่นทางไกล
สำคัญ ระบบไฟส่องสว่างติดตั้ง2 ไฟท้ายสีแดงหนึ่งติดแน่นกับจักรยาน สองใช้ไฟหน้ายามค่ำคืน
การแนบแสงบนหมวก จะช่วยให้คุณในการอ่านแผนที่แผ่นคิวหรือป้ายถนนได้ชัดเจน
แผนที่ ตลอดเส้นทางจะมีป้ายยบอกทางที่มีลูกศรโดยการจัดงานตรวจสอบเส้นทางในระหว่างการนั่งถ้าคุณไม่แน่ใจ (ขนาดของแผนที่ที่ไม่ควรจะมีขนาดเล็กกว่า 1: 150,000) ธนบัตรใบเล็ก (5, 10 และ 20 ยูโร)พกกระดาษชำระในยามเช้าและไม่มีห้องน้ำใกล้  ถุงมือและถุงเท้า ความหนาวเย็นในเวลากลางคืน ในเดือนสิงหาคม (10 ° C) ปกป้องเท้าและมือของคุณที่ได้รับผลกระทบที่สุด

ระมัดระวัง! อาจหลับในบนจักรยาน ถ้ารู้สึกว่่าง่วงไม่สามารถขับต่อไปได้ให้หยุดและตั้งนาฬิกาปลุกและนอนหลับอย่างมั่นใจอฝึกซ้อมการนอน ช่วง 400 กิโลแรก ก่อนแข่งขันจริงเพือให้ร่างกายเคยชินกับการหลับแบบสั้นๆ

บทสัมภาษณ์ จาก…-คุณวิเชียร งามแสง-

PARIS-BREST-PARIS-8585
คุณวิเชียร งามแสง กับการแข่งขัน ที่ PBP PARIS-BRET-PARIS

ประวัติ: คุณวิเชียร งามแสง
ชื่อ: นายวิเชียร งามแสง ชื่อเล่น เชียร
อายุ 36 ปี สถานะโสด
เกิดวันที่  20  ธันวาคม 2521
ภูมิลำเนา จ. ศรีสะเกษ
ปัจจุบัน เป็นลูกจ้าง ของสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
งานที่นี่ 4 ปีกว่า เป็นลูกคนที่ 5 จากจำนวน 7 คน
รถปัจจุบันที่ใช้ bianchi impolso 11 สปีด ไซส์  50 ชุดเกียร์105
ซื้อผ่อน จ่ายเดือนละ 2,500 บาท  ใช้ได้มา 7 เดือน
ซ้อมปั่นจักรยาน เฉลี่ยก่อนแข่งขันวันละ 100 กม.
ตอนนี้ ปั่นเอนโดมอนโด  อันดับ6 (17,559 กม.) ของประเทศไทย
ใช้ทุนส่วนตัวในการฝึกซ้อมการปั่นจักรยานทางไกล
ทุนที่จะไปฝรั่งเศส  กู้เงินมาจำนวน 20,000  เพื่อใช้จ่ายสมัครออแดก 5,800, ค่าวีซา 6,600 (2รอบ)
กิจวัตรประจำวัน เข้ายิมที่ออฟฟิศ (ฟรี) จากเวลา 7 โมงเช้า- 8 โมงเช้า เป็นประจำทุกวัน
ตอนเย็นเลิกงานปั่นซ้อมจาก 1 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม
ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน ชอบศึกษาธรรมะ ท่องเที่ยวธรรมชาติ

วิเชียร งามแสง
SUPPORTED BY SINGHA CORPORATION

PBP: ปารีสเบรสต์ปารีส ชื่อนี้คืออะไร
เรียกทุกสี่ปีโดย Audax คลับ Parisien ปารีสเบรสต์-ปารีส(PBP) ในปัจจุบัน กำหนดให้ผู้เข้าร่วมต้องผ่านกิจกรรม
ร็องดอเนอร์ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งระยะ 200, 300, 400 และ 600 กิโลเมตรภายในหนึ่งปีนั้นมาก่อน นักกีฬาจะต้องขี่จักรยานเป็นระยะทาง 1,200 กิโลเมตร ภายในเวลา 90 ชั่วโมง และย้ายจุดเริ่มต้น และสิ้นสุดไปที่  เมืองแซ็ง-ก็องแต็ง-อ็อง-อีฟว์ลีน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ ปารีส

AudaxRandonneurs แรลลี่จักรยานทางไกล  จากประสบการณ์ที่นักปั่นได้ร่วมเข้าแข่งขัน นำมาพัฒฒนาและ เตรียมความพร้อม  ในโอกาสที่จะจัดขึ้นอีกครั้งในปี 2019 ที่   PBP PARIS-BRET-PARIS โหดที่สุดในโลกสนามต้นแบบที่ ประเทศฝรั่งเศส

Sunvo1

เครื่องดื่มเกลือแร่ซันโว–นักปั่นน่องเหล็ก SANVO – LEGS OF STEEL
BY SINGHA CORPORATION  ผู้ให้การสนับสนุน

คนไทยกลุ่มแรกมีโอกาสไปแข่งขันปั่นจักรยาน 1200 กม. ที่ประเทศฝรังเศส

-ขอขอบคุณ:
ORGANIZATION OF THAI TEAM TRAINING FOR PBP PARIS-BREST-PARIS Randonneur
คุณวิภาดา  กิรานุชิตพงศ์ และ  Mr.BOB Usher
-รูปภาพโดย: คุณเรืองชัย  จูฑะพงศ์ธรรม และ Black Group Bike
-บทสัมภาษณ์: คุณวิเชียร  งามแสง

อ๋อ แอ็คชั่น เค้าคือใคร?

อ๋อ แอ็คชั่น เค้าคือใคร?
ผู้เปลี่ยนประสบการณ์ที่เลวร้ายให้กลายเป็นพลัง  อนันต์ชัย จันทรัตน์

ช่างภาพแอ็คชั่น กับเรื่องราวในชีวิตจริง ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน  เกี่ยวกับพี่ อ๋อ แอ็คชั่น  อนันต์ชัย จันทรัตน์ ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย  วันนี้เจ้าของบ้านสุดหรู เปิดบ้านย่านถนนรามคำแหง ให้เกียรติบรรดาบล็อกเกอร์ได้เข้าพบ สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากพวกเราได้มุมมองและเคล็ดลับดีๆ จากประสบการณ์โดยตรง กับชีวิตที่คิดบวก จาก คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์ หรือชื่อ อ๋อ แอ็คชั่น

เริ่มตั้งแต่อายุ 6 ขวบ อ๋อไม่เคยรับรู้ว่าอ้อมกอดที่อบอุ่นของพ่อ แม่ เป็นอย่างไร การออกเดินทางอย่างเดียวดายเพียงลำพัง โชคชะตานำพาให้ อนันต์ชัย จันทรรัตน์ ชายผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วย สิ่งที่เรียกว่า การให้ และ สร้างแรงบันดาลใจ จากวัยเด็กเติบโตมากับครอบครัวของคุณลุง-คุณป้า ชีวิตของ อ๋อ แอ็คชั่น ไม่ได้สุขสบายและมีความสบายสมบูรณ์  แบบเด็กคนอื่นๆ ด้วยการอาศัยอยู่กับครอบครัวของลุง ที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ทำให้ อ๋อ  ต้องเรียนรู้ อดทน ต่อสู้กับวิบากกรรมในชีวิต  นับแต่วันที่พ่อมาทิ้งเขาไว้กับพี่ชาย แต่ด้วยความเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาเหล่านี้ ทำให้  อ๋อ สามารถผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ โดยคิดเสมอว่า ถ้าดีแล้ว ดีกว่านี้ได้อีกมั้ย  ถ้าเก่ง เก่ง กว่านี้ได้อีกมั้ย  ผมจะเอาดีให้ได้!!!   ชีวิตดำเนินไปผ่านวัน,,,ผ่านคืน

อนันตชัย จันทรัตน์ V 2-03

สิ่งที่หลายๆ คนอยากรู้ แต่ไม่เคยมีใครหาคำตอบมาก่อน…
จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ มาจากการค้นพบตัวเอง คุณ อนันต์ชัย จันทรัตน์  เล่าต่อไปว่าก่อนอื่น ให้หาตัวเองให้เจอ มองหาจุดยืนของตัวเอง  แล้วแสดงจุดยืนนั้นออกมาอย่างชัดเจน  ตอนแรกๆ ที่เริ่มถ่ายรูป รูปที่ได้ดีบ้าง เสียบ้างช่างภาพทุกคน มีสิทธิ์ถ่ายภาพได้เก่ง และดีทุกคน ที่สำคัญต้องรู้และเข้าใจ องค์ประกอบพื้นฐาน ของกล้อง การถ่ายภาพที่ดี  ยิ่งถ่ายภาพมากเท่าไหร่ ยิ่งเก่งเท่านั้น บริหารจัดการเวลา เตรียมความพร้อม ศึกษาสถานที่และกำหนดการที่ต้องทำงาน  เพื่อบันทึกภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด  เมื่อลงมือทำงานทุ่มเทอย่างจริงจังแล้ว  งานทุกๆ งานผู้ว่าจ้างต้องการรูปที่ดีที่สุด เพื่อนำรูปที่ถ่าย ไปประชาสัมพันธ์หลังจบงาน ทำให้ในวงการช่างภาพต่างกล่าวถึงการทำงานของ ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย  ถ่ายทอดประสบการณ์ช่างภาพมืออาชีพการทำงานทุกครั้ง อ๋อ แอ็คชั่น ต้องมีการสำรวจตำแหน่งที่บันทึกภาพที่ดีที่สุดในแต่ละสนาม ถือเป็นงานที่อ๋อ แอ็คชั่น ถนัดและรักมากที่สุด

อนันตชัย จันทรัตน์ V 2-06

เมื่อถามถึงความสำเร็จคุณ อนันต์ชัย จันทรัตน์  บอกเล่าอีกหนึ่งเรื่องราวที่ต้องบันทึกในความทรงจำ คือ การได้รับโอกาสจากผู้มีพระคุณ  ด้วยความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในชีวิต ตั้งแต่เพื่อนคนแรก ที่เปิดโอกาส ให้จับกล้องถ่ายรูปเป็นครั้งแรกจากการเป็นช่างภาพจำเป็นที่เพื่อนคนหนึ่งจ้างให้เป็นคนลั่นชัตเตอร์กล้องคอมแพ็ค แลกกับได้ไปเที่ยวฟรีพร้อมเพื่อนๆ  ภรรยาที่พบกันหน้าซอยบ้านตอนเช้าแบ่งค่าขนมไปโรงเรียนให้ครึ่งหนึ่ง พบกันตั้งแต่เรียนมัทธยม  ถึงคุณครูสุพีพรรณ พัฒนพาณิชย์  ติดรถไปโรงเรียน  ทั้งไป-กลับ จากฝั่งธน ผู้ที่ให้คำแนะนำดูแลให้การการสนับสนุนด้านการศึกษา และด้วยความขยัน อดทน ติดรถไป-กลับบ้าน เรียนมหาวิทยาลัย มศว. จนเรียนจบ ถึงการได้ทำงาน นอกจากท่านให้โอกาสทางด้านการศึกษาแล้ว  และยังออกทุนซื้อรถมอเตอร์ไซต์  คันแรก ด้วยเงินสด 20,000 บาท เพื่อใช้ในการทำงานนักข่าว ชีวิตทำงานจาก ผู้สื่อข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์วัฏจักรรายวัน และหนังสือพิมพ์โลกกีฬา เมื่อทำงานได้เงิน นำมาผ่อนจ่ายค่ารถมอเตอร์ไซด์คืนเดือนละ 1,000 บาท  จากตัวอย่างที่ดี การดิ้นรนทำงานทุกอย่าง เพื่อแสวงหาโอกาสสิ่งที่ดีกว่าให้ชีวิตตัวเอง อีกหนึ่งจุดเปลี่ยน ในความแตกต่างที่พบมา คือ ประสบการณ์จากชีวิตจริง ล้วนเกิดจากมือของ อ๋อ แอ็คชั่น คนที่ชอบทำงานหนัก หยาดเหงื่อแรงงาน จดจำทุกเรื่องราวที่ผ่านมากด้วยน้ำตาล้วนๆ
อ๋อ แอ็คชั่น-05

จนวันหนึ่ง อนันต์ชัย จันทรัตน์ ก้าวขึ้นไปยืน บันไดขั้นสูงที่สุด คือ เป็นผู้ประสบความสำเร็จทุกด้านในชีวิต เป็นช่างภาพประจำการแข่งขันรถที่ใหญ่ ที่สุดในประเทศไทย  Super Car Thailand นาน 12 ปี ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่นเกินร้อย เขาสามารถหยุดโลกทั้งใบด้วยเพียงปลายนิ้ว กับ มุมภาพที่สวยที่สุดในสนามแข่งที่ดุเดือด ไม่ธรรมดาเพราะบางมุมที่ได้เป็นมุมที่อันตรายที่สุดของ อนันต์ชัย จันทรรัตน์ชายผู้ที่เปี่ยมไปด้วย ความกตัญญูสูงสุด เมื่อมีพร้อม  ลงมือทำต่อกับสิ่งที่เรียกได้ว่า การให้ การสร้างแรงบันดาลใจให้คนในสังคม  ซึ่งชัยชนะที่เขาได้รับในวันนี้ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการอุทิศตน  เพื่อสร้างงาน สร้างคนจนกลายเป็นปรัชญาแห่งความสำเร็จ

อนันตชัย จันทรัตน์ V 2-01
อ๋อ แอ็คชั่น

อนันตชัย จันทรัตน์ V 2-05

ทึ่ง ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ อ๋อ แอ็คชั่น  (อนันต์ชัย จันทรัตน์)
ผู้เปลี่ยนโฉม  ภาพข่าวกีฬา ให้สื่อสารได้มากกว่า การเป็นภาพนิ่ง ทุกภาพเกิดจาก  ซัตเตอร์หยุดโลก ที่เต็มไปด้วยอารมย์ ความรู้สึกถ้าสร้างโอกาสให้ตัวเองแล้ว คนอื่นจะให้โอกาสคุณแน่นอน และ ถ้าจะลงมือทำสิ่งใด ต้องทำให้ถึงที่สุด ถ้าถึงทำแล้วไม่สำเร็จดีกว่าที่ไม่ได้ทำ จากความตั้งใจจริงในการทำงาน ทำให้ผลงาน 2 ภาพถ่าย ฝีมือคุณอ๋อ ไปอยู่ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ และคนที่ให้โอกาส

อนันตชัย จันทรัตน์ V 2-09

คนที่ไม่มี แต่เมื่อสู้และตั้งใจจริง อย่าง แบรนด์แอมบาสเดอร์  คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์ จากเด็กกำพร้ากลายเป็นช่างภาพแอ็คชั่นมือหนึ่งของเมืองไทย  ที่ก้าวไกลสู่ระดับอินเตอร์  เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์  ของ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น  การบินไทย แคนนอน และ โอคลี่ย์ กว่าจะมีวันนี้  ผู้ใหญ่ให้การอุปการะ เชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ ในแนวคิด วิธีปฏิบัติ สั่งสมการเรียนรู้ ประสบการณ์ให้ผมมาตลอด คือ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี บอสใหญ่แห่งบุญรอด
ผมรักและเทิดทูนท่านมาก นี่เป็นหนึ่งในคำสัมภาษณ์ที่กินใจมากจาก ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย ไม่ใช่เพียงแต่ผลงานดีเท่านั้น การทำงานด้วยความตั้งใจการให้โอกาสสร้างคนต่อยังทำให้เขาเป็นที่ยอมรับมาจนทุกวันนี้
อ๋อ แอ็คชั่น-05

อนันตชัย จันทรัตน์ V 2-08

จากวันนั้น จนถึงวันนี้ คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์  ยังพัฒนาฝีมือตนเองอยู่ตลอด  ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสรู้จัก กับ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี วันที่ ได้รับรางวัล  นักถ่ายภาพกีฬายอดเยี่ยมแน่นอนว่าการถ่ายรูปของเ ขาไม่ใช่แค่กดชัตเตอร์ให้ติด แต่หมายถึงการสร้างรายละเอียดทั้งหมดในภาพขึ้นมา  รวมทั้งการเติมแต่งไอเดียที่ดีให้กับงานโฆษณาชิ้นนั้น  ดังนั้น รางวัลทั้งหลายที่เขาได้มา จึงไม่ได้แปลว่า ช่างภาพคนนี้จะไม่มีส่วนร่วมในไอเดีย

อนันตชัย จันทรัตน์ V 2-07

อ๋อ แอ็คชั่น-09
อนันต์ชัย จันทรัตน์ ลูกผู้ชายหัวใจสิงห์

คุณอนันต์ชัย กล่าวถึง คุณ นายสันติ ภิรมย์ภักดี  เป็นคนชอบถ่ายรูป และเป็นนักกีฬา ชอบแข่งรถ เป็นนักกอล์ฟ เคยเป็นนักมวย เคยได้รับความวางใจให้ถ่ายภาพของท่าน หลังจากดูรูปแล้ว คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ประทับใจภาพที่เห็น โดยให้รางวัลเป็นจ่ายผลตอบแทนเพิ่มจากที่ตกอีก 50,000 บาทแต่ อ๋อ แอ็คชั่น ปฏิเสธ เงินรางวัลพิเศษนั้น ได้เรียนท่านด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “นายครับ เงินซื้อผมไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่ซื้อผมได้ คือ หัวใจของนาย”ความรักทำให้ผลงานออกมาสวยจากหัวใจผู้ชายหัวใจสิงห์ อย่างผม สิ่งนี้คือภาระกิจและเป้าหมายทำให้สำเร็จโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย  ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ตาจะมองเห็นในแบบของ  อ๋อ แอ็คชั่น

มันคือพลังและอนาคตของการทำงาน อนันต์ชัย จันทรัตน์ กล่าวไว้อย่างภาคภูมิใจว่าความสำเร็จทั้งหมดในวันนี้ ถ้าไม่ใช่ คุณสันติ  ภิรมย์ภักดี วันนี้ไม่มี อ๋อ แอ็คชั่น เพราะ “พ่อสิงห์”  สันติ  ภิรมย์ภักดี แห่ง บุญรอดบริวเวอรี่ ชื่อ สันติ ภิรมย์ภักดี ผู้ซึ่งให้ความรักและการอุปถัมภ์เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ ที่โน้มกิ่งลงมา แผ่ร่มเงาให้ต้นหญ้า ต่ำเตี้ยเช่นเขาได้งอกเงย  บุคคลท่านนี้เป็นผู้ที่ให้โอกาสที่ดีในชีวิต คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ผู้ที่บอกว่าชอบท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆ กับคำพูดที่ประกาศก้องว่า  “ผมทำอะไรต้องระดับโลก”
อ๋อ แอ็คชั่น-01

แน่นอนว่า อีกหนึ่งปัจจัย ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  มันอยู่เลยความล้มเหลวไปนิดเดียว  ถ้าเรามีความมุ่มมั่นโดยให้ความสำคัญเรื่องวินัยเป็นอันดับหนึ่ง  คนที่ประสบผลสำเร็จ  ไม่ใช่อยู่ที่แรงถึง แต่อยู่ที่มีความตั้งใจ  แน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง และถ่้าเรามีใจให้กับปัญหา ลองวิเคราะห์และแก้ไขมัน  จะรู้ว่าทุกปัญหาเล็กนิดเดียว

อ๋อ แอ็คชั่น-05
อ๋อ แอ็คชั่น-11

ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของ อ๋อ แอ็คชั่น ผู้มีพระคุณ ให้ความเมตตาแบบหาที่เปรียบมิได้ ไม่ใช่แต่เพียงผม
ที่นายดูแล ทุกคนที่มีหัวใจสิงห์  ผมเห็นว่าตลอดมากสิงห์ไม่เคยทิ้งใคร ชีวิตทั้งหมดของผมในวันนี้  เพราะ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี คนสำคัญที่สุดในชีวิต

อ๋อ แอ็คชั่น-04

อ๋อ แอ็คชั่น-03

คนที่จะประสบความสำเร็จ ต้องมีเป้าหมายในชีวิต โครงการเพื่อสังคม  สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ  ความสำเร็จ
ที่มาของโครงการ สิงห์อคาเดมี่โฟโต้ บาย อ๋อแอ็คชั่น (SINGHA Academy Photo by Aor Action) เรียนรู้การถ่ายรูปจากประสบการณ์จริง  จากทีมงานสิงห์ โดยโครงการนี้มี จุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพ เป็นอีกงานหนึ่งที่ อ๋อ แอ็คชั่น มีความตั้งใจ สร้างคน  เพื่อทดแทนให้กับสังคมและประเทศชาติ ผ่านประสบการณ์ตรง อ๋อ แอ็คชั่น กับ โครงการเพื่อเพื่อสังคมสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ เรียนรู้การถ่ายรูปจากประสบการณ์จริงจากทีมงานสิงห์โดยตรง

อ๋อ แอ็คชั่น-08
อ๋อ แอ็คชั่น-06

อย่าทิ้งความฝัน   เพียงแค่…..รู้สึกว่ามันไกล
ถ้าไม่ลองเดินไป แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าไกลจริง

อ๋อ แอ็คชั่น-10

อ๋อ แอ็คชั่น-02
อ๋อ แอ็คชั่น ช่างภาพแอ็ึคชั่น

คุณสันติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544  เพื่อบริหาร
การดำเนินงานของบริษัทในเครือ บุญรอดกว่า 50 บริษัท  คุณสันติ ท่านเป็นบุคคลระดับประเทศชาติ ภายใต้แบรนด์ สิงห์คอร์เปอเรชั่น ท่านเป็นคนคิดนอกกรอบ ชอบทำเรื่องของการให้  เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะให้ได้ ไม่
ใช่แค่เก่ง ต้องเป็นแบบอย่างของ เยาวชนได้  ลงมือทำอะไร  ต้องคิดให้ไกล อย่าคิดแค่วันพรุ่งนี้  สำหรับงาน
ช่างภาพแอ็คชั่น กับโอกาสแห่งการเจริญเติบโต  จนถึงวันนี้ ท่านบอกว่า…  คุณเป็นตัวของคุณเองสูง มีความซื่อสัตย์ ความกตัญญู ผมมีโอกาสได้ก้มลงกราบเท้า คุณสันติ  ภิรมย์ภักดี  กราบขอบคุณท่าน  ที่ท่าเมตตาให้
ความไว้วางใจ เชื่อมั่นในสิ่งที่ผมมีความตั้งใจจริงโดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้  ล้วนมาจาก ความเพียรพยายามอดทน
และ กตัญญูรู้คุณประพฤติปฏิบัติของตัวผมจึงทำให้ผมมีในวันนี้ มีวันที่  สิงห์ไม่เคยทิ้งผม  อนันต์ชัย จันทรัตน์  ลูกผู้ชายหัวใจสิงห์  ภาพถ่าย อ๋อ แอ็คชั่น  ช่างภาพมือหนึ่งของเมืองไทย ที่บุคคลระดับโลกให้การยอมรับ ซึ่ง
บ่งบอกถึงสไตล์เจ้าของภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย การกดชัตเตอร์มีความสำคัญมาก ภาพที่ได้ต้องสามารถอธิบายถึงมุมมองไลฟ์สไตล์ อ๋อ แอ็คชั่น ภาพแสดงถึงการเคลื่อนไหวอารมณ์ที่แสดงออก เรื่องราวในภาพถ่ายที่จะเกิดขึ้นมาได้ ทุกงานเป็นแรงบันดาลใจให้เดินหน้าสร้างความสำเร็จ เริ่มต้นมาจากหัวใจความมุ่ง
มั่น สื่อผ่านไปถึงปลายนิ้ว ความรักในผู้คน  และการถ่ายภาพ ที่ถูกที่ถูกเวลาไม่มีใครเหมือน  ภาพมีความดุดัน รุนแรง   การหยุดวัตถุที่ เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง  แต่รายละเอียดในภาพเดียวกัน  ยังมีความอ่อนไหว ของบรรยากาศโดยรอบ  เพราะความตั้งใจจริง และคนจริง อ่อนน้อม ถ่อมตน กับ คำพูดที่ว่าติดตัว  อ๋อ แอ็คชั่น
 “ถ้าตั้งใจจริง..ทุกสิ่ง..เป็นไปได้

เพราะการได้รับโอกาสที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการถูกจ้างและการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ทำให้เขามั่นใจว่า ถ้าเขาทำได้ ช่างภาพคนอื่นก็ทำได้

ชัตเตอร์หยุดโลก คือ ฉายาของ อนันต์ชัย จันทรัตน์  หรือ อ๋อ แอ็คชั่น ช่างภาพคนแรกของวงการ ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ ด้วยตำแหน่ง ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย

ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจของ อ๋อ แอ็คชั่น จากเพื่อนๆ อีกมากมาย

เผยความเป็นที่1 อ๋อ แอ็คชั่น ช่างภาพแอ็คชั่น คนเดียวของเมืองไทย

อ๋อ แอ็คชั่น ช่างภาพแอ็คชั่น คนเดียวของเมืองไทย
ที่ถูกคัดเลือกให้ทำงานระดับโลก…

“อ๋อ แอ็คชั่น”  คือชื่อในวงการ  ที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลักดันให้มีประเภทช่างภาพขึ้นมาอีกประเภทหนึ่ง
ช่างภาพแอ็คชั่น  ช่างภาพประจำการแข่งขัน   รถที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย  Super Car Thailand
ช่างภาพเพียงคนเดียวที่ถูกคัดเลือกให้ทำงานระดับโลก
อนันต์ชัย จันทรัตน์-3
ครั้งนี้ Toptotravel ได้รับเกียรติพิเศษ  เข้าพบแบรนด์แอมบาสเดอร์ชื่อดัง คุณ อ๋อ  อนันต์ชัย จันทรัตน์
ถึงหมู่บ้านสัมมากรย่าน รามคำแหง  เปิดใจกับความสำเร็จอย่างสูงสุด ในระดับโปรของโลก  ผู้ผลักดันให้มีประเภทช่างภาพขึ้นมา อีกประเภทหนึ่ง คือ  ช่างภาพแอ็คชั่น  ซึ่งเป็นช่างภาพประจำการแข่งขันรถที่ใหญ่
ที่สุดในประเทศไทย  Super Car Thailand นาน 12 ปี กับมุมภาพที่สวยที่สุดมักจะเป็นมุมที่อันตรายที่สุด
เพื่อได้ภาพแบบเด็ดที่ไม่มีโอกาสบอกว่าเอาใหม่ ซึ่งทางผู้จ้าง  สามารถใช้เผยแพร่ไปทั่วโลก  กว่าจะมาเป็น
ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย  กับเทคนิค วิธีการถ่ายภาพรถยนต์ ในขณะขับเคลื่อน ด้วยความ
เร็วสูงในสนามแข่ง อ๋อ แอ็คชั่น คือชื่อในวงการ และเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลักดันให้มีประเภทช่างภาพ
ขึ้นมาอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า  ช่างภาพแอ็คชั่น

อ๋อ แอ็คชั่น-03
อ๋อ แอ็คชั่น ช่างภาพแอ็คชั่น คนเดียวของเมืองไทย

ชีวิตคุณ อ๋อ แอ็คชั่น 
สู้ชีวิตอย่างอดทน ดำเนินชีวิตตามความฝันที่อยากเป็น อดทนต่อสรรพสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอย่างหนักด้วยความเชื่ออย่างสุดๆ ว่า ถ้าตั้งใจจริง ทุกสิ่งเป็นไปได้ ประสบการณ์ชีวิตของ “อ๋อ แอ็คชั่น อนันต์ชัย จันทรัตน์ช่างภาพแอ็คชั่นมือหนึ่งเมืองไทย ความหมายที่นำมาสู่เรื่องราว ที่ถ่ายทอดถ้อยคำบอกเล่าราวกับรู้ว่าวันหนึ่ง
จะได้ก้าวไกลสู่ระดับอินเตอร์ เจ้าของฉายา “ชัตเตอร์หยุดโลก”จากอดีตในวัยเด็ก ซึ่งกำพร้าตั้งแต่อายุ 6ขวบ
ที่ไม่เคยได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่น สู้ชีวิตด้วยความอดทน เจียมตน ผลักดันให้โลกภายนอกนั้นช่างค้นหา ใช้ชีวิต
ในวัยเด็ก ซึ่งไม่เหมือนกับเด็กในวัยเดียว ชีวิตต้องพบเจอ ความไม่มีเริ่มต้นตั้งแต่เรียนป.1 มุ่งมั่น ฟันฝ่าท้าทาย
โชคชะตา ด้วยความตั้งใจ หยาดเหงื่อและน้ำตา มุ่งหาความฝันไม่ย่อท้อต่อปัญหาที่เกิด เพราะชีวิตผมเติบโต
มาจากศูนย์จนทำให้เป็นตามเส้นทางที่ฝันไว้

วันนี้ อ๋อ อนันต์ชัย จันทรัตน์ ก้าวขึ้นไปยืนบนบันไดขั้นที่สูงที่สุด  ผู้ประสบความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต ด้วยสถานะของตัวเอง กับแนวทางการดำเนินชีวิตด้วยความมานะ อดทน รู้จักเจียมตน ไขว่คว้าหาหนทางเอาชีวิตรอด ที่สั่งสมตลอดมาตั้งแต่วัยเด็ก สะท้อนภาพที่แท้จริง เป็นแบบที่ดีถึงทุกวันนี้ ความตั้งใจจริงกับความสำเร็จที่ได้ลงมือทำลงอย่างมุ่งมั่นในอาชีพที่ตนเองรัก  สามารถพลิกรูปแบบการถ่ายภาพ รวมไปถึงสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ เกิดขึ้น บนความแตกต่าง สิ่งเหล่านี้ ล้วนมาจากความคิด ความมุ่งมั่น ความเพียรพยายาม ที่คุณอ๋อ พูดเสมอว่าเวลาผมทำงาน ผมจะทุ่มเททั้งชีวิต!!!

นอกจากการเป็นช่างภาพแอ็คชั่นแล้วปัจจุบัน  อ๋อ แอ็คชั่น ยังอุทิศตน ในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ  การถ่ายภาพ คุณอ๋อ กล่าวว่า ในวันนี้เรามีความสามารถ เราควรรู้จักเอื้อเฟื้อ เพื่อส่งต่อความรู้และประสบการณ์ และส่ง
ต่อทักษะดีๆ ที่ให้แก่กัน  ซึ่งวิธีการทำงาน ทำให้เป็นแบบอย่างของช่างภาพมือใหม่ควรยึดถือปฎิบัติ  ตัวอย่างเช่น ก่อนทำงานควรรู้จักปรับตัวให้เข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้  ควรเรียนรู้  ริเริ่มหาเทคนิคการถ่ายภาพเบื้องต้น การวัดแสง การจัดองค์ประกอบของภาพ การเลือกใช้อุปกรณ์ ถ่ายภาพในแบบมืออาชีพ การถ่ายภาพให้มีชีวิต  เทคนิคการถ่ายภาพให้สวยงามในมุมมองของช่างภาพมืออาชีพ  กับคำกล่าวที่ว่า ทุกครั้งที่ผมทำงาน ผมจะทุ่มเททั้งชีวิต เพราะ อ๋อ แอ็คชั่น เกิดมาพร้อมความเชื่อที่ว่า  “ถ้าเราตั้งใจจริง ทุกสิ่ง เป็นไปได้”

อ๋อ แอ็คชั่น-04
อนันต์ชัย จันทรัตน์ “พี่ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนดีนะ”
อ๋อ แอ็คชั่น-05
อ๋อ แอ็คชั่น ตัวจริงๆ จริงใจ เปิดเผย ชัดเจน และ รักครอบครัว

ตำราชีวิตที่ยิ่งใหญ่ นักสู้  เจ้าของฉายา ชัตเตอร์หยุดโลก
ช่างภาพคนแรกและคนเดียวในประเทศไทย ที่เรียกว่า ช่างภาพแอ็คชั่น กับการทำงานที่หวาดเสียวท้าทายความตายอย่างที่สุด อ๋อ แอ็คชั่น  ถูกคัดเลือกให้ทำงานระดับโลก  มีสปอนเซอร์มากมาย ติดต่อให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันเป็น ตุณอ๋อ กับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับหลายแบรนด์ สิ่งเหล่านี้  สะท้อนความสำเร็จผ่านฝีมือการถ่ายรูปที่ไม่มีใครทำได้ เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ช่างภาพคนเดียวในประเทศ ถือกล้อง เลนส์ แบบ ขาว-อวบ น้ำหนักหลายสิบกิโล ใส่กางเกงขาสั้นเดินโดดเด่นอยู่รอบๆ สนามแข่งขัน

วันนี้ อ๋อ แอ็คชั่น คือ ช่างภาพแอ็คชั่น ที่มีชื่อเสียงค่าจ้างต่อปี สูงถึง 7 หลัก จากชีวิตเด็กกำพร้า เรียนในสายพลศึกษา อะไรทำให้ คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์ ประสบความสำเร็จ เป็นช่างภาพร้อยล้าน ในปัจจุบัน

อนันต์ชัย จันทรัตน์-02
อ๋อ แอ๊คชั่น หรือ คุณ อนันต์ชัย จันทรัตน์

สิ่งที่ผมแตกต่างจากช่างภาพทั่วไป  คือวิธีคิด  “พี่ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนดีนะ”  สิ่งหนึ่งที่บอกตัวเองเสมอมา เราต้องคิดต่าง ต้องทะเยอทะยานมากกว่าคนอื่น  ดิ้นรนทุกอย่างเพื่อโอกาสที่ได้เรียน พยายามแสวงหา สิ่งที่ดีกว่าให้ชีวิต จุดเปลี่ยนในความแตกต่างที่พบมา คือ ประสบการณ์  ที่ผ่านมการฝึกฝนอย่างหนักในวิชาชีพที่ตัวเองรัก วิชาเอกพลศึกษา วิชาโทเทคโนโลยีการถ่ายภาพ  ตอนเรียนผมยังไม่มีเงินซื้อกล้อง ผมเริ่มต้นจากความชอบทางด้านกีฬา และเรียนทางด้านพลศึกษา ทำให้มีความรู้ ความชำนาญเรื่องกีฬา เป็นหนทางสู่อาชีพการถ่ายภาพ  ผมเริ่มต้นการถ่ายภาพตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม  ทำงานนี้เพื่อหาค่าเรียน กับรายได้ที่พอเลี้ยงตนเองให้ผ่านไปให้ได้

ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย-03
อนันต์ชัย จันทรัตน์

คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์  กล่าวต่อไปว่า ไม่มีใครเป็น อ๋อ แอ็คชั่นได้ แต่จะมีคนเป็นแบบอ๋อ แอ็คชั่น ถ้าเลือกใช้วิธีการทำงานในแบบผม  ต้องทำงานให้เขามากกว่าที่เขาคิดไว้ และต้องสร้างสรรค์ผลงาน ให้ได้มากกว่าที่เขาคาดหวังไว้  ถ้าช่างภาพทุกท่านพัฒนาได้ รับรองคุณเป็นที่หนึ่งได้ วันที่ผมถูกกำหนดให้เป็น Professional โดยสังคม และ Official Photographer ส่วนหนึ่งเกิดจากประสบการณ์การทำงาน ผมมีโอกาสได้สัมผัส กับเหตุการณ์จริงๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามา ทำให้ผมริเริ่มพัฒนางานถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความรู้  ความสามารถในอาชีพอุปกรณ์ถ่ายภาพรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ  ทำให้ช่างภาพต้องเร่งเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจจากแนวคิด และวิธีการถ่ายทอดของภาพต้องพัฒนาเรื่องของความรู้สึก กับจินตนาการของตัวช่างภาพเองด้วย การหาโอกาสเสริมสร้างตนเองให้มีศักยภาพ ถ้าไม่มีความรู้ความเข้าใจ ช่างภาพจะไม่สามารถถ่ายทอดภาพ และช่วยเหลือผู้อื่นได้เลยไดทกวันนี้เราอยู่กับคนในสังคม ต้องรู้จักเลือกที่จะจัดการกับปัญหา และอุปสรรคเหล่านั่นในขั้นต้น  คือ การเริ่มต้นที่ตัวเอง โดยต้องคิดดี และมีความหวังดีจากใจจริง หันมามองเพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์ พัฒนาสังคมร่วมกัน

สิ่งที่สำคัญมากที่สุดจากคำกล่าวที่ไร้ข้อกังขาในความหมายของ  อ๋อ แอ๊คชั่น  ผมยอมรับว่ามีความคิดที่แตกต่าง พร้อมเสมอที่จะอุทิศตน  เพื่อเป็นประโยชน์ของสังคม  สนันสนุนให้ช่างภาพใมห่ๆ ได้มีโอกาสลงมือทำในสิ่งที่เขาต้องการ ให้พวกเขาสามารถเดินต่อไปได้ กับคำตอบที่แท้จริงของชีวิต ทุกคนเริ่มต้น และทำมันตั้งแต่วันนี้พร้อมกับสิ่งที่คุณทำอยู่ในปัจจุบัน คิดทำในสิ่งที่แตกต่าง วิ่งนอกลู้ให้ได้ในระยะเวลากับทักษะของชีวิตมราผ่านร้อนผ่านหนาว ต้องบอกตัวเองเสมอว่า…คุณทำได้

ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย-05

ช่างภาพแอ็คชั่น-01
อ๋อ แอ็คชั่น ช่างภาพแอ็คชั่น

โครงการเพื่อเพื่อสังคมสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ
คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์ ผมเรียนรู้มาตลอดชีวิตของผมว่า การทำดีห้ามทำคนเดียว ถ้ารู้จักตัวเอง คุณก็เห็นคุณค่าของตัวคุณเอง และคุณค่าของชีวิต คือ การให้เพื่อผู้อื่น มีประโยชน์กับสังคมมาก ร่วมกันหาหนทางที่จะสร้างคุณค่าและคุณประโยชน์แก่สังคม ผมอยากถ่ายทอดความรู้ ทั้งทางตรง และทางอ้อม จนในปัจจุบันให้เป็นที่มาของโครงการ สิงห์อคาเดมี่โฟโต้ บาย อ๋อแอ็คชั่น (SINGHA Academy Photo by Aor Action) เรียนรู้การถ่ายรูปจากประสบการณ์จริงจากสิงห์ โครงการนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเผยแพร่ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพเป็นอีกงานหนึ่งที่ อ๋อ แอ็คชั่น มีความตั้งใจสร้างคน เพื่อทดแทนกับสังคมและประเทศชาติ ผ่านประสบการณ์ตรง กับโครงการเพื่อสังคมสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพ มาเรียนรู้การถ่ายรูปจากประสบการณ์จริงจากทีมงานสิงห์

ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย-04
ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย

กว่าจะมาเป็น ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งของเมืองไทย
คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์ สามารถทำได้อย่างไร? การถ่ายทอดประสบการณ์ช่างภาพมืออาชีพ ของอ๋อ แอ็คชั่น กับการไม่ยอมสิ้นหวัง ไม่ว่าความหวังของคุณจะห่างไกลแค่ไหน  ขอเพียงอย่ายอมแพ้  อย่าโทษตัวเองด้วยประสบ การณ์การทำงานหนักอย่างโชกโชน จนทำให้เด็กกำพร้าคนนี้ ก้าวสู่ความเป็นช่างภาพระดับโลก

อ๋อ แอ็คชั่น เรียกว่า ความคิดในแบบที่ต้องการความเร็ว ท้าทาย กล้าตัดสินใจ แน่นอนความสามารถของ ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งของเมืองไทย  เป็นตัวอย่างที่ดี ส่งผ่านแรงบันดาลใจให้แก่บุคคลที่รักการถ่ายภาพยุคใหม่ๆ ลองสังเกตสักนิดจะ พบว่า คุณอนันต์ชัย จันทรัตน์  มีจุดเชื่อมโยงแห่งความสำเร็จ คือ  “ความคิดต่าง”  ซึ่งถ้าคุณมีโอกาสคุณต้องทำ

ช่างภาพแอ็คชั่น-03
ช่างภาพแอ็คชั่น คนเดียวของเมืองไทย

อนันต์ชัย จันทรัตน์-03

อ๋อ แอ็คชั่น  ผมเป็นหมายเลข1 โดยสังคมกำหนด
ในขณะที่ อ๋อ แอ็คชั่น ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งของเมืองไทย ที่ฝรั่งต้องการตัวมากที่สุด  เมื่อถามว่าจุดเปลี่ยนจริงๆ คนที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในวันนี้  “อยู่ตรงที่ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ ผมเป็นคนตรงไปตรงมาไม่คดไม่โกง พูดยังไง ทำให้ได้ และวลีติดปากคือ ไม่มีอะไรที่ผมทำไม่ได้ ถ้าผมยังไม่ได้ลองทำ ถ้าใครมีงานให้ผมทำ อธิบายงานเสร็จสรรพเรียบร้อย คำตอบแรกจากปากผมไม่มีทางได้ยินว่า ผมทำไม่ได้ ผมต้องทำให้ได้
ผมจะพูดว่าผมทำไม่ได้ก็ ต่อเมื่อ ผมได้ไปลองทำมาแล้ว มันทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ  ผมก็ขอโทษแล้วเขาก็จะแก้ปัญหาให้ผม บอกให้ผมไปลองทำแบบนี้สิ  ผมไปลองทำใหม่แล้วผมก็ทำได้  อ๋อ แอ็คชั่น

อ๋อ แอ็คชั่น-01

ช่างภาพแอ็คชั่น-04
ช่างภาพแอ็คชั่น คนดังมากในวงการกล้อง

“ปัจจุบัน กอล์ฟเ ป็นกีฬาที่ผมและลูกชาย (น้องฟิลม์) ชอบมากที่สุด  เพราะเราได้มีโอกาสฝึกทั้งสมาธิ
และรู้จักการควบคุมอารมณ์การเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะกับแต่ละโอกาสในการเล่น
ถ้าเปรียบชีวิตการทำงานก็เปรียบเหมือนการใช้คนให้ถูกงาน  เราก็จะได้งานดี  มีคุณภาพ มีประโยชน์ต่อสังคม”

อ๋อ แอ็คชั่น-03
อ๋อ แอ็คชั่น
อนันต์ชัย จันทรัตน์-01
คุณสันติ ภิรมย์ภักดี กับ ครอบครัว อ๋อ แอ็คชั่น ในวันขึ้นบ้านใหม่

ถ้าไม่ใช่  คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ไม่มี อ๋อ แอ็คชั่น ในวันนี้
“พ่อสิงห์” สันติ ภิรมย์ภักดี แห่ง บุญรอดบริวเวอรี่   ในแบบสไตล์ของสิงห์  ชื่อ สันติ ภิรมย์ภักดี  ผู้ที่บอกว่าชอบท้าทายตัวเองไปเรื่อยๆ กับคำพูดที่ประกาศก้องว่า “ผมทำอะไรต้องระดับโลก”  อีกปัจจัยสำคัญในความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของ อ๋อ แอ็คชั่น ผู้มีพระคุณ ให้ความเมตตาแบบหาที่เปรียบมิได้ ไม่ใช่แต่เพียงผมที่นายดูแลทุกคนที่มีหัวใจสิงห์  สิงห์ไม่เคยทิ้งใคร  ชีวิตทั้งหมดของผมในวันนี้ เพราะ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี

คุณสันติ ภิรมย์ภักดี  กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด  ท่านเป็นบุคคลระดับประเทศชาติ ภายใต้แบรนด์ สิงห์คอร์เปอเรชั่น  ท่านเป็นตัวอย่างของบุคคลที่คิดนอกกรอบ ชอบทำเรืองของการให้เพื่อสังคมเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะให้ได้  ไม่ใช่แค่เก่งเท่านั้น  ต้องเป็นแบบอย่างของเยาวชนได้ ทำอะไรต้องคิดให้ไกล อย่าคิดแค่วันพรุ่งนี้สำหรับ งานช่างภาพแอ็คชั่น  กับโอกาสแห่งการเจริญเติบโตถึงวันนี้ ท่านบอกว่า คุณเป็นตัวของคุณเองสูงมาก  มีความซื่อสัตย์  มีความกตัญญู  ผมก้มลงกราบเท้า คุณสันติ  ภิรมย์ภักดี  ผมขอกราบขอบพระคุณท่าน ที่ท่านได้เมตตาให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่น ในสิ่งที่ผมตั้งใจจริงในการใช้ชีวิต การทำงาน โดยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมาจากความเพียรพยายาม อดทน และกตัญญู รู้คุณประพฤติปฏิบัติของตัว  จึงทำให้ผมมีวันนี้  มีวันที่ สิงห์ไม่เคยทิ้งผม อ๋อ อนันต์ชัย จันทรัตน์  ผู้ชายหัวใจสิงห์ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

อนันต์ชัย จันทรัตน์-04
คุณสันติ ภิรมย์ภักดี และ ฮ๋อ แอ็คชั่น

อีกเรื่องที่อยากเล่า เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ที่ผมเคยขอไว้กับนาย  ผมขอ คุณสันติไว้ว่า.. นายครับ ผมไม่เคยขออะไรนายเลย ผมอยากจะขอสักเรื่องได้มั้ยครับ?  สิ่งที่ผมทำอยู่ ผมรู้ว่ามันอันตรายมาก แต่ผมก็รักมันที่สุด แล้วมันก็ทำให้ชีวิตผม  และยังทำให้ชีวิตครอบครัวผมดีขึ้นถ้าผมเป็นอะไรไป ผมขอฝากลูกกับภรรยา ไว้กับนายได้มั้ยครับนายสันติ ตบไหล่ผมแล้วบอกว่า อ๋อ คุณทำในสิ่งที่คุณรักต่อไป สิ่งที่คุณขอผมรับปากอย่างน้อยผมก็สบายใจระดับนึง ว่าจะมีคนดูแลลูกเมืยผมถ้าผมเป็นอะไรไป แล้วท่านก็บอกว่า เอาเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้ให้ ภรรยา คุณไว้  ถ้าคุณเป็นอะไรไปให้เขาโทรมา ความช่วยเหลือจะถึงทันทีคุณสบายใจได้ จนถึงทุกวันนี้ ผมได้ทุ่มเทให้กับการทำงาน ทั้งหมดที่ไหน เมื่อไหร่ไม่เคยย่อท้อ  ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย

ช่างภาพแอ็คชั่น-05

บทสรุปชีวิต  ของ อนันต์ชัย จันทรัตน์ หรือ อ๋อ แอ็คชั่น จากชีวิตจริง ยิ่งกว่านิยาย  ของช่างภาพร้อยล้าน  และ
เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ กับ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น, การบินไทย, บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์ Oakley ไทยแลนด์ Think Tank ไทยแลนด์ (แบรด์กระเป๋ากล้องชื่อดังจากประเทศอเมริกา) ด้วยค่าตอบแทน7 หลักต่อ
ปี สิ่งเหล่านี้เริ่มต้นจาก คุณ อนันต์ชัย จันทรัตน์ กับความเชื่อที่ว่า คนดีของสังคม  ทุกคนพร้อมในทุกวันอยู่แล้ว เพราะว่าไม่ต้องใช้ต้นทุนอะไรเลย และแม้นว่าตลอดเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา อ๋อ แอ็คชั่น ประสบความสำเร็จตามความฝัน การพบเจอปัญหา พบเจออุปสรรค  ขอให้มองเป็นเรื่องธรรมดา เราต้องรู้จักเลือกที่จะจัดการกับปัญหา อุปสรรคอย่างไร  เริ่มต้นจากตัวเอง คิดดี มีความหวังดีจากใจจริง  อ๋อ แอ็คชั่น ได้ถ่ายทอดทั้งวิชาความรู้ และประสบการณ์ที่มี มอบให้เด็กรุ่นใหม่  เพื่อให้เขาได้เรียนรู้กันและกันสังคม

ช่างภาพแอ็คชั่น-02

ปิดท้ายถึงความสำเร็จชีวิตทุกวันนี้ ของคุณอนันต์ชัย จันทรัตน์ หรือ คุณ อ๋อ แอ็คชั่น
ช่างภาพแอ็คชั่นหมายเลขหนึ่งเมืองไทย  สามารถเป็นที่หนึ่งในวันนี้ได้อย่างไร กับวิธีการถ่ายทอดประสบการณ์
ช่างภาพมืออาชีพ  ชื่อดัง 
อ๋อ แอ็คชั่น…ในมุมที่ควรเอาแบบอย่าง มุ่งมั่นงานเพื่อสร้างคน
การจะทำอะไรสักอย่าง  ต้องศรัทธาในสิ่งที่จะทำ ต้องเชื่อมั่นในสิ่งที่จะทำ ต้องรักในสิ่งที่จะทำ
มี 3 สิ่งนี้พร้อมๆ กัน เชื่อได้เลย ไม่ว่าจะทำสิ่งใดประสบความสำเร็จเสมอ

ขอขอบคุณ: คุณ อนันต์ชัย จันทรัตน์ หรือ อ๋อ แอ๊คชั่น
ติดตาม: อ๋อ แอ็คชั่น
พ็อคเกตบุ๊ค  “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่”  จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์คนคิดดี
facebook.com/อ๋อ แอ็คชั่น

ติดตามเรื่องราว ช่างภาพแอ็คชั่นมือหนึ่งเมืองไทย  จากเพื่อนๆ คลิ๊กเลย

นครวัด-นครธม ต้องไปซักครั้งก่อนตายจริงๆ หรือ?

เรื่องของใจ กับศิลปะ1 ใน7 สิ่งมหัศจรรย์
ของโลกที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด

See Angkor Wat And Die “ วลีอมตะ ของ Arnold  Toynbee
นครวัด นครธม จะยิ่งใหญ่สวยงามสักแค่ไหนกันถึงจะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต พร้อมแล้ว เก็บกระเป๋าไปชมความงามที่จังหวัด เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ประเทศกัมพูชา หนึ่งในประเทศ AEC ที่เราไปเที่ยวเองง่ายมาก โดยไม่ต้องซื้อทัวร์ การเดินทางอย่างคร่าวๆ แสนง่าย ราคาถูกแสนถูก วางแผนไปกัน 3 วัน 2 คืน โดยคิดคร่าวๆ  แล้ววางแผนไปเที่ยวกันเอง ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 3,000-5,000 บาท  ต่อคน (รวมหมดทุกอย่างเรียบร้อย)

เสียมเรียบ-9
ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ-อังกอร์ (International De Siem Reap)

และในตอนนี้ เราสามารถเดินทางได้หลายช่องทาง เนื่องจากมีสายการบินราคาถูก ราคาไป-กลับไม่กี่พัน แต่เราเลือก นั่งเครื่องบินไปลง จ.เสียมราฐ  (Siem Reap) ที่ Siem Reap International Airport  ตั้งอยู่ ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 6 กิโลเมตร ถึง Siem Reap สนามบินแห่งนี้  มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศกัมพูชา  เดินไปช่วงเช้าถึงที่นั้น ก่อนเที่ยง มีรถจากโรงแรมที่จองไว้ มารับที่สนามบิน

แนะนำ ก่อนการเดินทางควรอีเมลแจ้งกับทาง รร.ล่วงหน้า โรงแรมที่นี่ส่วน ใหญ่มีบริการคนขับรถพาไปส่งที่ โรงแรม และพาไปติดต่อ เช่ารถ เพื่อไปทำบัตรผ่าน เข้าชมปราสาทเริ่มเที่ยวในวันรุ่งขึ้น ถ้ามาถึงเสียมเรียบ ไม่ได้เยือน นครวัด นครธม คงเรียกว่า…ไปถึงเสียมเรียบไม่ได้

Prasat Angkor Wat20150701_243

เสียมเรียบ-1
บัตรสำหรับเข้าชมแบบ 1 วัน

Angkor Wat20150701_160

เย็นวันแรกไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ Phnom Bakheng  ที่นี่..เป็นจุดที่คนนิยมมาดูวิวพระอาทิตย์ตกดิน แต่ต้องเดินเท้า  และต้องแต่งกายเรียบร้อย ห้ามสวมเสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้นเด็ดขาด  อากาศค่อนข้างร้อน ควรสวมรองเท้าผ้าใบ เพราะเป็นการเดินขึ้นไปตามเนินเขา  นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก แบ่งจำกัดจำนวนคนขึ้นเป็นชุดๆ ซึ่งก็ต้องต่อคิวเพื่อขึ้นไป จากบนยอดปราสาท  จะมองเห็นโตนเลสาป และ นครวัดยามเย็น  เมื่อมองระยะไกลจากปราสาทพนมบางเค็ง (Phnom Bakheng)  ที่พนมบาเค็ง  เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาชมพระอาทิตย์ตกกัน แต่เราสามารถ มองเห็นวิวนครวัด วันนี้มาชมบรรยากาศ บาเค็ง (Sunset : 18.00)  ซึ่งจุดนี้นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินที่บาเค็ง เดินไกลเหนื่อยมาก ด้วยสภาพอากาศที่แดดร้อนแรงมากถึงมากที่สุด แต่คุ้มค่ามากกับวิวด้านบน พนมบาเค็ง สามารถมองเห็นปราสาทนครวัด  ในมุมมองที่ แปลกตา

กัมพูชาไม่ได้เป็นเมืองที่น่ากลัวเลย ยิ่งที่ นครวัด นครธม จ.เสียมเรียบ เป็นเมืองที่คึกคักมาก นักท่องเที่ยวหลากหลายชาติ จนทำให้รู้สึกว่าเหมือนเดินเที่ยวเล่นอยู่ถนนข้าวสาร แม่ค้าที่นั่นพูดภาษาไทยได้คล่องจริงๆ  ลืมบอกเราเลือกเดินทางเหมาแบบ Tuk Tuk  (วันละ 25 US)   (ถ้าซื้อบัตรล่วงหน้า ใช้เข้าชม  Phnom Bakheng ฟรี)  ควรให้ตุ๊กตุ๊ก พาไปซื้อรอบ 4 โมงเย็น และใช้บัตรขึ้นชม Phnom Bakheng ฟรี

Angkor Wat 20150701_096
เสียมเรียบ-16เสียบเรียบ-14ภาพที่ปรากฎตรงหน้า มันใหญ่มาก!!  ดีที่เหมารถ และคนขับตุ๊ก-ตุ๊ก ที่ นครวัด นครธม  พวกเรานั่งมอเตอร์ไซค์ที่เชื่อมกับส่วนของที่นั่งผู้โดยสาร การเช่ารถ Tuk tuk และ taxi พร้อมคนขับ แนะนำ!!! ให้เช่าเหมาทั้งวัน จะถูกกว่าการเช่าเป็นเที่ยวๆ ควรตกลงราคากันก่อนเดินทาง ราคาจะขึ้นกับสถานที่ ที่เราจะไป กับระยะเวลาการใช้บริการ โดยสามารถต่อ รองราคาได้ตามความเหมาะสม  แต่เวลานั่งบนรถ tuk tuk ฝุ่น และควันเยอะมาก ควรใส่  Mask เพื่อป้องกันฝุ่นละออง ในระหว่างเดินชมปราสาท  และการเดินทางด้วยรถตุ๊กตุ๊ก

เสียมเรียบ8

เสียมเรียบ-3

ตาหรหม-3

เสียมเรียบ-33
ด้านบนพนมบาเค็ง

เมื่อมาถึง นครวัด นครธม มหาปราสาท เทวสถาน  กับคูน้ำที่ล้อมรอบ กำแพงเมือง ภายในกำแพง ล้อมรอบด้วยปราสาท 2 ชั้น ทียิ่งใหญ่ศาสนสถาน ที่ได้รับการยกย่อง  ให้เป็น1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่นี่ทุกๆ วันเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่เดินทางมาจับตามอง เพื่อชมสิ่งมหัศจรรย์ สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับนักท่องเที่ยว ตะลึ่ง กับรูปภาพแกะสลัก และประติมากรเอกของโลกได้มาสสร้างไว้ ปราสาทนครวัด อดีตมหาปราสาทอันยิ่งใหญ่ นครธม  คือ เมืองหลวงสุดท้ายของอาณาจักรขอมโบราณ สร้างในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึง ต้นคริสศตวรรษที่ 13 หรือ ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 มีพื้นที่ 9 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 5,000 ไร่ เป็นเมืองหนึ่งที่เต็มไปด้วยปราสาท ที่ไม่ได้มีเพียงความยิ่งใหญ่  การก่อสร้างที่อลังการ  สุดอัศจรรย์ และงดงามเป็นอย่างมาก

Angkor Wat20150701_110

สถานที่แรก  ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) เริ่มแปดโมงเช้า เช่าตุ๊กๆ สักคัน เที่ยววันเดียว  หรือสามวันเลยแล้วแต่ความชอบ  เราเลือก 1 วัน one-day trip แบบเต็มวัน คัดสรรเฉพาะที่เที่ยวสวยๆ คุณภาพ ไม่มีวิธีที่ถูกต้องในการเที่ยวชมวัดอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ เรียกได้ว่า หากจะไปชมให้หมดครบทุกปราสาทอาจจะต้องใช้เวลามากถึงสามวันแต่ยังควรเลือกมาเที่ยวในวันธรรมดา โดยไม่ต้องเผชิญกับผู้คนล้นหลาม  มองจุดที่เหมาะๆ ภาย
ในวัด ส่วนด้านนอกข้างๆ ทะเลสาบอันโด่งดัง  ถ่ายภาพวัดสะท้อนในน้ำ  แล้วมองท้องฟ้าอันสวยงามน่าจดจำตอนพระอาทิตย์ขึ้น จุดเหมาะๆ  ไม่ว่าจะเป็นภายในวัด หรือ ข้างนอกข้างๆ ทะเลสาบอันโด่งดัง  (เพื่อถ่ายภาพ
วัดสะท้อนในน้ำ)   แล้วมองท้องฟ้าอันสวยงามน่าจดจำ ตอนพระอาทิตย์ขึ้น ภายใน ปราสาทที่มีประติมากรรม อีกสิ่งหนึ่ง ภายในบริเวณ นครวัด หลังจากที่ผ่านกำแพงล้อมมาแล้ว มีทางเดินกั้นโดยรอบ บริเวณนี้เคยเป็นคู
น้ำทางเดินกั้นนั้นค่อนข้างจะสูง
Prasat Angkor Wat20150701_260ที่กำแพงด้าน นครวัด นครธม ในมีรูปสลักนางอัปสรา อยู่เป็นจำนวนมากมาย ร่ายรำอวดโฉม ท้าแดด ท้าฝน ประหนึ่งกาลเวลาที่ผ่านไปอันเนิ่นนานไม่อาจทำร้ายเธอได้  มีความเชื่อว่านางอัปสราเหล่านี้เป็นนางผู้รับใช้เทพเจ้า โดยแต่ละนางนั้น มีอิริยาบถ  และการแต่งกาย และที่มองแล้ว แตกต่างกันออกไป ซึ่งรวมๆ แล้วไม่ได้ใส่เสื้อ  มีเพียงสายสร้อยสะพายคล้องคออย่างงดงาม ส่วนผ้านุ่งเห็นได้ว่าเป็นผ้านุ่งบางเบา และมีเตี่ยวปิดทับจุด ที่สำคัญสิ่งที่น่าสนใจมากคือ ทรงผมและการแต่งกายในสมัยนั้น ซึ่งดูแล้วอลังการมากๆ  สิ่งเหล่านี้อาจเกิดจาจินตนาการ อันบรรเจิด สุดล้ำของช่างฝีมือสลัก  เมื่อเดินชมรอบๆ  สังเกตุเห็น นางอัปสรา ที่ยืนยิ้ม  เห็นยิงฟันไม่เหมือนใครเลย อยู่ที่บริเวณกรอบกำแพงด้านขวา  ในเวลานั้น  ช่างแกะสลักคงต้องการความต่าง  และมีอารมณ์สนุกขบขัน  นางอัปสรา ในวันเวลาที่ไม่เหมือนใคร  จึงยืนยิ้มสวยยิงฟันอย่างภาคภูมิ

Prasat Angkor Wat20150701_011

นางอัปสรา คือ นางฟ้า หรือ เทพธิดา ผู้รับใช้  เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดชม  คอยดูแลศาสนสถานซึ่งความเชื่อนี้คล้ายกับความเชื่อของชาวเขมร  ทุกคนต่างยกย่องนางอัปสรา ให้เป็นเทพธิดาผู้ดูแลศาสนสถาน ซึ่งภาพสลักของ นางอัปสราในปราสาทนครวัด มีมากถึง 1,635 องค์ ตั้งแต่บริเวณกำแพง ชั้นนอก จนถึงปรางค์ประธาน จะได้พบกับนางอัปสรกันทุกหนแห่งที่ อัครมหานครธม  ภายในมีมวลมหาปราสาทที่ตั้งเรียงราย ทั้งพระที่นั่งพิมารอากาศ ปราสาทบาปวน ปราสาทบายน รวมถึงปราสาทเล็กปราสาทน้อยอีกมากมาย
Prasat Angkor Wat20150701_090ืั้

สถานที่ที่สอง   เดินทางต่อไปยังปราสาท Bayon ประกอบไปด้วยปรางค์ 54 ปรางค์ สลักเป็น พระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร 4 ทิศ  รวม 216 หน้า แต่ละหน้าไม่เหมือนกันเลย ระหว่างเดินชมปราสาทบายน รู้สึกว่ามีคนคอยจ้องมอง หรือคอยสะกดรอยตามตลอดเวลา  ซึ่งเต็มไปด้วย ภาพสลักรูปใบหน้า ต่อด้วยตัวปราสาทบายน
Bayon SiemReap20150701_029
Prasat Bayon SiemReap20150701_008ปราสาทบายน หันหน้าไปทาง ทิศตะวันออก ปราสาทบายน เป็น ปราสาทหิน ที่งดงามมากที่สุด  และในบรรดาปราสาทในบริเวณ นครธม เชื่อกันว่า รอยยิ้มแบบบายน  บนใบหน้าของพระโพธิสัตว์  อวโลกเตศวร นั้น คือ ยิ้มแบบมีความเมตตากรุณา แต่เมื่อเงยหน้ามอง ทำให้มีความรู้สึกเหมือนมีตาคอยจ้องมองอยู่ทุกทิศทาง  และบางมุมค่อนข้าสงหน้ากลัว

เดินทางต่อไปอีกด้วยระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จากประตูชัยนครธม ต่อด้วยปราสาทตาพรหม ซึ่งประตูทางเข้าปราสาทมีลักษณะคล้ายนครธม  คือ ยอดปรางค์ซุ้มประตู เป็นรูปใบหน้าของ พระโพธิสัตว์ หันพระพักตร์ไปทั้งสี่ทิศจากประตูด้านทางเข้าไปถึงโคปุระชั้นนอก  ระยะทางประมาณ 200 เมตรในบริเวณ นครวัด นครธม
บายน-1Prasat Bayon SiemReap20150701_046 Prasat Bayon SiemReap20150701_038 Prasat Bayon SiemReap20150701_039

Prasat Bayon SiemReap20150701_003

สถานที่ที่สาม  ปราสาทตาพรหม ประตูทางเข้ามีลักษณะคล้ายนครธมเอกลักษณ์ อันโดดเด่น ของปราสาทตาพรหมก็คือ ต้นไม้ทีมีขนาดใหญ่มหึมา ปกคลุมปราสาทอยู่ ที่นี่ เป็นปราสาท  หินในยุคท้ายๆ ของอาณาจักรเขมร ตั้งอยู่กลางป่าและมีแมกไม้ปกคลุม โดยรอบๆ ปราสาท แม้กระทั่งในปราสาทที่มีปราสาทชั้นในหลายหลังซึ่งเต็มไปด้วยแมกไม้มหึมาปกคลุม
ไปทั่ว ดูลึกลับสลับซับซ้อนเป็นอีกปราสาทหนึ่งสร้างในปลายปีพุทธศตวรรษที่ 18 (พ.ศ. 1729)

Ta Prohm@SiemReap20150701_131

ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่ถูกปล่อยให้อยู่กับธรรมชาติ  หลังจากการค้นพบปราสาทต่างๆ โดยชาวฝรั่งเศส แต่เดิมปราสาทนครวัดเองก็อยู่ในลักษณะเช่นนี้ก่อนที่จะมีการบูรณะในต้นพุทธศตวรรษที่ 25  ในขณะที่ปราสาทตาพรหม ถูกเก็บรักษาไว้  เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริงว่าปราสาทอยู่กับธรรมชาติมาได้เกือบ500 ปี อันเป็นอีกมุมมองหนึ่ง เพื่อให้เห็นลักษณะของต้นไม้ที่เกาะกุมปราสาท
Ta Prohm@SiemReap20150701_073

เดิมก่อนสร้างปราสาทแห่งนี้ สภาพบริเวณนี้เป็นป่ามาก่อน เมื่อจะสร้างปราสาท และเคลียร์พื้นที่  ให้เป็นที่โล่ง โดยการตัดไม้ออก จนในที่สุด ธรรมชาติ  สามารถที่จะเอาชนะถาวรวัตถุที่ถูกสร้างจากมนุษย์  รากของต้นไม้ที่เกาะกุม  เป็นเกลียวคล้ายงู ใช้เวลาอันยาวนาน  รากของต้นได้ชอนไชไปเรื่อยๆ ไปยังส่วนต่างๆ ของปราสาท ทำให้บรรยากาศของ ปราสาท ตาพรหม เมื่อเข้าใกล้ทำให้ดูลึกลับ และสวย มองแล้วไม่เหมือนปราสาทที่อื่นๆ

Ta Prohm20150701_106

ไฮไลท์ของการมาชมนครวัด นครธม  ต้องไม่พลาด ปราสาทเหล่านี้ ซึ่งเป็นสถานที่ของพระพุทธศาสนาสมัยนั้น มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ได้เดินเที่ยวชม  ซึ่งที่นี่เต็มที่สุด กับการชมปราสาท นครวัด มาทั้งวัน

Prasat Bayon SiemReap20150701_077

นครวัด แห่งดินแดนตะวันออก เที่ยวทั้งวันกลับไม่พบจารึกใด ที่กล่าวถึงผู้สร้างและยุคสมัยทีีสร้างขึ้น ทุกอย่างในบริเวณเที่ยวชม เป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ เพราะอย่างนี้นี่เองปราสาทแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า นิทรานคร คือนคร
ที่หลับใหล อยู่กลางป่าเป็นปริศนามาช้านาน

ช่วงเย็นๆ ไปเดินเล่น Night  Market ตลาดขายของยามค่ำคืน ขอบคุณชาวกัมพูชาที่น่ารัก คนขับรถตุ๊กตุ๊กที่ทำให้ การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ได้พบแต่รอยยิ้มตลอดทาง หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ตุ๊กตุ๊กได้ช้อปปิ้งของฝากเรียบร้อย เดินทางกลับสู่ที่พัก ช่วงค่ำๆ ไม่ควรพลาดการไปเดินชิลล์ที่ night market และ  Pub street อารมณ์  คล้ายๆตรอกข้าวสาร ที่กรุงเทพฯ

ตาพรหม-6
รากไม้พญานาค ต้นไม้ทีมีขนาดใหญ่มหึมา ปกคลุมปราสาท ตัวต้นสูงใหญ่

จริงๆ ได้เห็นครวัด แล้วก็ยังตายไม่ได้ เพราะ การได้ออกไปท่องเที่ยวนครแห่งอารยธรรมแห่งนี้  ทำให้รู้ว่าปราสาทปราสาทหินที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่แค่ซากปราสาทเพียงเท่านั้น ถ้าเราได้รู้เรื่องราว ความเป็นมาบนเส้นทางที่สุดแสนจะมหัศจรรย์บนเส้นทางนี้ด้วยกัน

Ta Prohm@SiemReap20150701_084
รากไม้พญานาค มีรากที่ขดเป็นวง ตัวต้นสูงใหญ่

การได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่  จึงเหมือนการย้อนไป ณ. จุดเริ่มต้น ของการกำเนิดสิงมหัศจรรย์ของโลก ได้ชมครบตามโปรแกรมที่วางไว้  ช่วงเย็น  พวกเราไปหาอาหารเย็น  และเดินซื้อขนม ของฝากที่ ตลาดเดินเล่นกลางคืนของเสียมเรียบ มีร้านอาหารหลากหลาย  ร้านกินดื่ม ร้านขายของที่ระลึก ร้านนวดเยอะมากๆ  เดินชิวกับบรรยากาศ  Pub street  ทีี่เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
Night Market 20150701_093Night Market@SiemReap20150701_030 Night Market@SiemReap20150701_055ข้อควรรู้สำหรับการไปเที่ยว นครวัด นครธม
Visa – คนไทยไม่ต้องใช้วีซ่า เดินทางไม่เกิน 14 วัน ถ้ามีใครมาเสนอจะช่วยให้ทำอะไร ไม่ควรให้ความสนใจ

Health&Safety – ทุกที่มีอันตราย ควรระมัดระวังตัว ไม่แนะนำให้เดินคนเดียวในเปลี่ยวในเมืองเสียมเรียบ

Money Exchange – US dollar ได้ rate ราคาที่ดีสุด สถานที่ขายของที่ระลึกจะรับเงินไทย แต่เมื่อเทียบแล้วไม่คุ้ม US dollar คุ้มมากกว่า  (ซึ่งไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงิน Riel ของกัมพูชา)

สำหรับอาหาร และน้ำควรดื่มจากขวดเท่านั้น อาหารก็ควรเลือกรับประทานของทีทำใหม่ๆ  ร้อนๆ เท่านั้น

เสียมเรียบ0

การเดินทาง  ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุดครับ ไม่ร้อน เป็นช่วง peak ของการท่องเที่ยวที่นั่น และนั่นหมายความว่า  ตามสถานที่ท่องเที่ยวคนก็จะแน่น

ที่สำคัญ กรุณาอย่าลืมสิ่งเหล่านี่เด็ดขาด  แว่นกันแดด หมวก และ ครีมกันแดด ที่ปิดปาก ทิชชูเปียก

Night Market@SiemReap20150701_008

Bye Bye เสียมเรียบ นครวัด นครธม กัมพูชา ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้า
ตอนนี้ คิดว่าจะเตรียม วางแผนเที่ยว AEC ให้ครบเร็วๆ นี้

เสียมเรียบ-77Tonle Sap Lake20150701_055_2