Category Archives: Event

EEC แนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
จัดปาฐกถาพิเศษ EEC ในแนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยและแนวทางการปรับตัวภาคอุตสาหกรรมในยุค 4.0

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจมุ่งมั่น ความร่วมมือร่วมใจ และความเสียสละ ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจ ของกลุ่มผู้ที่เคยไปศึกษาและดูงานโดยทุน ABK & AOTS ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมี ฯพณฯ สมหมาย ฮุนตระกูล เป็นประธานคณะกรรมการก่อตั้ง และสำเร็จด้วยความช่วยเหลืออย่างดี จาก อาจารย์ โงอิจิ โฮซูมิ อดีตประธานกรรมการ สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ญี่ปุ่น-ไทย (JTECS) โดยได้
รับความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนจาก กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ
และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีพันธะผูกพันใด ๆ ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มกราคม 2516

มีวัตถุประสงค์เพื่อ นำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย มากว่า 40 ปี ผ่านกิจกรรมและบริการอันหลากหลายสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดหลักสูตรฝึกอบรม-สัมมนา,การเทียบโอนการศึกษาระดับปริญญา, การศึกษาทางไกล, การสอนภาษาต่างประเทศ โดยโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. การ
จัดประกวดให้รางวัลคุณภาพ บริการวินิจฉัยและให้คำปรึกษาสถานประกอบการ บริการสอบเทียบและวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม ศูนย์ทดสอบทางวิชาการและวิชาชีพอุตสาหกรรม ตลอดจนการผลิตตำราสนับสนุนวิชาการต่างๆ มากมายภายใต้สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. อีกทั้งได้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาขึ้น
ในนาม สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า
Thai-Nichi Institute of Technology ที่รู้จักโดยย่อว่า TNI  มุ่งสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะทางขึ้น  เพื่อป้อน
บุคลากรให้แก่สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทย

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. จัดปาฐกถาให้ความรู้แก่เหล่าสมาชิกและบุคคลทั่วไป

โดยคุณเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และ Mr.HIROKI MITSUMATAประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ( JETRO ) ว่าด้วยเรื่องแนวทางการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทย และแนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ที่มีต่อศักยภาพของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
( EEC )  ภายใต้งานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560

 

การปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท.ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อโครงสร้างในการพัฒนาและขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยและเศรษฐกิจไทยโดยผู้ร่วมงานจะได้พบกับเหล่าขุนพลระดับประเทศบนเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้ เริ่มต้นด้วยร่วมเปิดมุมมองการค้า การลงทุนของญี่ปุ่นสู่ไทย โอกาส และศักยภาพของไทยในการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)  เพื่อให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย ที่จะสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน กับบรรยายพิเศษในหัวข้อ  Eastern Economic Corridor : EEC – Investment trends of Japanese companies
ให้เกียรติโดย  Mr.HIROKI MITSUMATA President of JETROJapan External TradeOrganization (JETRO), ต่อเนื่องด้วยการบรรยายพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม คุณเจน  นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ   Eastern Economic Corridor : EEC และแนวทางการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยในยุค 4.0”

สิ่งที่น่าสนใจของเสวนาในครั้งนี้คือ นอกจากผู้ที่ได้ร่วมรับฟังจะได้ทราบถึงทิศทางของอนาคตอุตสาหกรรมไทยว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดและ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)  จะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตของระบบเศรษฐกิจประเทศไทยสู่สากลได้อย่างไรแล้วงานนี้ยังเป็นการรวมตัวของเหล่าบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจและนักวิชาการจำนวนมากที่มาร่วมงาน

รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) กล่าวว่า “จากนโยบาย

ของภาครัฐว่าด้วยเรื่องการผลักดันภาคตะวันออกของประเทศไทย เพื่อให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย ที่จะสนับสนุนการเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการยกระดับ คุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน ภายใต้บทบาทและพันธกิจของ ส.ส.ท.ที่มุ่งส่งเสริมและมุ่งพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรม พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเรามั่นใจว่าการเชื่อมโยงและผลักดันศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”

นายฮิโรกิ  มิทสึมะตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ผู้บรรยายในหัวข้อ แนวโน้มและยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย กล่าวว่า “ไทยและญี่ปุ่น มีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะใน ด้านการลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นเป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ จากญี่ปุ่น ได้เข้ามาลงทุนครบทุกรายแล้ว และได้ช่วยดึงให้ผู้ผลิตชิ้นส่วน รายสำคัญ และอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ ตามเข้ามาลงทุนเพื่อป้อนให้ ผู้ผลิตรายใหญ่จำนวนมาก ดังนั้น หากเราสามารถดึงดูดให้บริษัทญี่ปุ่นใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในระดับต้นๆ ของโลก เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น บริษัทเหล่านี้จะเป็น แม่เหล็กช่วยดึงโครงการลงทุนอื่นๆ ตามเข้ามาในอนาคต ซึ่งอุตสาหกรรม เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญของประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0”

 คุณเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ผู้บรรยาย ในหัวข้อ แนวทางการปรับตัวภาคอุตสาหกรรมในยุค 4.0
กล่าวถึงจุดเด่นของ  อุตสาหกรรม 4.0  ว่าการผลิตที่เปลี่ยนจาก
Mass Production เป็น Mass Customization นั่นก็คือ โรงงานในยุค 4.0 หรือ Smart Factory จะมีกระบวนการผลิตที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยการใช้ระบบไซเบอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ครบวงจร ควบคุมการสื่อสาร ทำให้เกิดการผลิตสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกันในแต่ละราย ในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับการผลิตในอุตสาหกรรม 3.0 ที่ผลิตสินค้าได้จำนวนมาก แต่สินค้าจะเป็นรูปแบบเดียวกัน ซึ่งกระบวนการผลิตของยุค 4.0 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย เพราะเป็นระบบการผลิตที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า คือ ประหยัดเวลา ใช้แรงงานน้อยลง และกระบวนการผลิตมีความแม่นยำน่าเชื่อถือ

สำหรับปาถกฐาพิเศษในครั้งนี้ จะเป็นการนำเสนอข้อมูลและสาระสำคัญอันเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยสู่ความเจริญก้าวหน้าของประเทศในเรื่องใดนั้นยังคงเป็นหน้าที่สำคัญ
ที่สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่ผลักดันและส่งเสริมความรู้ควบคู่การพัฒนาบุคลากรอันเป็นเจตนารมณ์สำคัญ มาตลอดระยะเวลา 45 ปี ต่อไปด้วยความภาคภูมิใจที่ได้อยู่เคียงคู่อุตสาหกรรม  และสังคมไทยตลอดมา

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ | สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) www.tpa.or.th
โทร. 0-2258-0320 ต่อ 1111/ 1113

ติดต่อ : คุณพีระพันธุ์   คนคง (ก๊อต)
โทร. 080 072 9477
E-mail.  peerapan@tpa.or.th

คุณศันสนีย์ กันอ่วม  (แอน)
โทร. 081 308 0474
E-mail: sansanee@tpa.or.th

คุณอริศรา คำพยา  (โบว์)
โทร. 089 992 2633
E-mail : arissara@tpa.or.th

เปิดรับสมัครอีกเวที Mrs. Noble Queen Thailand 2017

คุณยุ้ย เชิญชวนประกวดฯ
Mrs. Noble Queen Thailand 2017

ดร. กันธิชา ฉิมศิริ Mrs. International 2016 (คุณยุ้ย) ทั้งสวยทั้งใจดี  เป็นนางงามผู้มากไปด้วยความสามารถมากมาย  นอกจากจะทำงานด้านวงการบันเทิง  พิธีกร และทำหน้าที่คุณแม่แล้ว  คุณยุ้ยยังเป็นนักแข่งรถหรูซุปเปอร์คาร์อย่างรถ  Ferrari  ตำแหน่งล่าสุดของเธอ คือ แบรนด์แอมบาสเดอร์โรงพยาบาลบางมด และโรงพยาบาลบางมด ยังเป็นสปอนเซอร์หลักสนับสนุนขการประกวด Mrs. Noble Queen Thailand 2017 อีกด้วย

นอกจากนี้  ดร กันธิชา ฉิมศิริ  ยังร่วมมือกับเพื่อนๆ นางงามอีกหลายชาติ ร่วมกันทำงาน กิจกรรมเพื่อสังคม เป็นจิตอาสา การทำความดี  อุทิศตนเองเพื่อตอบแทนสังคมมากมาย  อย่างเช่นโครงการที่ได้รับการตอบรับจากสาวๆ อย่าง  Beauty  Queen  International  Charity โดยการพาเพื่อนๆนางงามออกงานสังคม เลี้ยงอาหารตามสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน หรือสถานสงเคราะห์คนชรา ซึ่งแล้วแต่จังหวะและเวลา เพราะเธองานยุ่งมาก มีภาระกิจล้นตัว แต่เธอก็ยังปลีกเวลามาใส่ใจตัวเอง ครอบครัวและสังคม สมกับสโลแกนนางงามที่งามจากภายใน สู่ภายนอก ใกล้จะหมดวาระการครองตำแหน่ง  Mrs.International 2016  อีกไม่กี่เดือน เธอจะต้องอำลาตำแหน่งแล้ว แต่ภาระกิจเพื่อสังคมเธอยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง  อีกหนึ่งงานประกวดดีๆ  คือ  Mrs Noble Queen Thailand 2017   ที่เราชาวไทยจะได้ตัวแทนสาวไทยไปประกวด  Mrs Asia Noble Queen International 2017 ที่ประเทศเมียนมาร์ในวันที่ 3 กันยายน 60 ศกนี้ คุณยุ้ย ฝากเชิญชวนสาวงามที่ผ่านการมีครอบครัวแล้วมาสมัครประกวดเวทีน้องใหม่ แต่มีมาตรฐานสากล

“ยุ้ยอยากเชิญชวนสาวงามที่มีความสวยและมั่นใจ มาประกวด Mrs. Noble Queen Thailand 2017 เป็นเวทีที่ให้โอกาสดีๆ ผู้ชนะ เกียรติยศ ชื่อเสียง อย่างสมเกียรติ ได้มีโอกาสเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก เวทีประกวดผู้หญิงแต่งงานแล้วอาจจะมีหลายเวทีแต่ละเวทีก็มีจุดมุ่งหมายไม่ต่างกัน กับการทำงานอุทิศตนเพื่อสังคม”

โอกาสดีๆ มาถึงแล้ว รีบมาสมัครกันเยอะๆนะคะ ช่วงอายุ 27- 48 ปี ตั้งแต่วันนี้จนถึง 20 กรกฎาคม 2560  ทางแฟนเพจ Mrs. Noble Queen Thailand 2017 และจะทำกิจกรรมเก็บตัวกับกองประกวดในวันที่ 1-2 สิงหาคม 2560
ประกวดรอบสุดท้ายวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ที่หัวหินเมืองทะเลชื่อดังที่ใครๆ ก็รู้จัก ผู้ชนะจะได้มงกุฎเกียติยศ สายสะพายพร้อมเงินสด 30,000 บาท และรองอันดับหนึ่งทั้ง 2 ท่าน จะได้รับสายสะพาย พร้อมเงินสดลดหลั่นกันไป
รวมไปถึงรางวัลพิเศษอีกมากมายจากผู้สนับสนุนการประกวดฯ

คุณสมบัติของผู้เข้าประกวด Mrs.Noble Queen Thailand 2017

1. มีสัญชาติไทย โดยเกิดในประเทศไทย หรือได้รับการเปลี่ยนสัญชาติเป็นสัญชาติไทยแล้ว

2. ผ่านการใช้ชีวิตคู่มาแล้ว ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรส

3. อายุครบ 27 ปี บริบูรณ์ในวันสมัคร และ ไม่เกิน 48 ปี

4. มีบุคลิกดี กิริยาท่าทางดี เฉลียวฉลาด มีความรอบรู้  ไหวพริบและมีมนุษยสัมพันธ์ดี รูปร่างหน้าตางดงาม

5.ไม่ป่วยเป็นโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการประกวดและดำรงตำแหน่ง

6.ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมหรือประกอบอาชีพผิดกฎหมายหรือมีความประพฤติหรือประวัติความประพฤติอันเป็นที่รังเกียจของสังคมอันจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ตำแหน่งใดๆ ในการประกวด Mrs.Noble Queen Thailand 2017

7.ผู้เข้าประกวดยินดีที่จะเข้าร่วมกิจกรรมของกองประกวดขณะเข้ากองประกวดและหลังได้รับตำแหน่ง

ผู้ชนะ Mrs. Noble Queen Thailand 2017 คนใหม่จะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวด Mrs Asia Noble Queen International 2017 ที่ประเทศเมียนมาร์ ในเดือน กันยายน 2560

 

ห้ามพลาด มาสมัครกันเยอะๆ นะคะ ยุ้ยพร้อมเป็นกำลังใจ และจะเป็นเทรนเนอร์ให้น้องๆ ที่เข้าร่วมประกวด โอกาสดีๆ ที่จะให้สาวงาม
มาร่วมสานฝัน สู่ตำแหน่งที่มีเกียรติ กันค่ะ

Mrs. Noble Queen Thailand 2017 เป็นการประกวดที่เฟ้นหาสาวงาม
อายุระหว่าง 27- 48 ปี เพื่อค้นหาตัวแทนประเทศไทยในการประกวด Mrs.Asia Noble Queen International 2017 ที่ประเทศเมียนมาร์ เงินรางวัลผู้ชนะ 30,000 บาท ทั้งมงกุฎ สายสะพาย รองอันดับ1 เงินรางวัล 20,000บ.พร้อมสายสะพาย รองอันดับ2 เงินสด 10,000 บาท และรางวัลพิเศษจากสปอนเซอร์ อีกหลายรางวัล พร้อมสายสะพาย โอกาสดีๆ ทั้งชื่อเสียงเกียรติยศมากมายที่ท่านจะได้รับจากการประกวดในครั้งนี้

การจัดการประกวดจะมีขึ้นในวันที่ 1-3 สิงหาคม 2560 ณ.เมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 20 กรกฎาคม 2017
รายละเอียดต่างๆ ติดตามได้ทางเพจ FB: Mrs.Noble Queen Thailand

https://www.facebook.com/MrsNoble-Queen-Thailand

#เวทีเกียรติยศ #โปร่งใส #มีมาตรฐานสูง
#MrsNobleQueenThailand 2017

ซื้อกันสนั่นเมือง ผลไม้คุณภาพ ผลไม้วัชมนฟู๊ด

วัชมนฟู้ดขานรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0
นาทีทองถูกมาก บอกเลย

อาทิตย์นี้มาชวนสาวๆ รักสุขภาพ  ไปเดินเทียวงานงานมหกรรมผลไม้เกรด
พรีเมี่ยมจากต่างประเทศราคาสุดช็อค สดๆ คุณภาพดีๆ ผลไม้สดๆ คุณภาพเริ่ดๆไว้ทานกันค่ะ

เก้า จิรายุ ละอองมณี มาเป็นผู้สร้างสีสัน เนื่องจากเป็นตัวแทนเด็กรุ่นใหม่ ตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ คือ อายุระหว่าง 20 – 30 ปี

วัชมนฟู้ด ขานรับนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 เตรียมสร้างฮับในเมืองรุกตลาดเด็ก 20 อัพ  เป็นการย่อประเทศไทยให้เล็กลง ผู้ค้าสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเก่า เป็นข้อดีทั้งต่อตัวผู้ค้า และผู้บริโภค ทุกอย่างเชื่อมต่อกันง่าย เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่วัชมนฟู้ด ไม่เคยเปลี่ยนแปลง  คือ ความคงเส้นคงวา ในคุณภาพ และมาตรฐานที่มี ด้วยราคาที่สมเหตุ สมผล ภายใต้ความสด สะอาด ปลอดภัย เพราะวัชมนฟู้ดใส่ใจในทุกๆ เรื่องของผู้บริโภคเสมือนดั่งคนในครอบครัว เสมอมา

เพื่อสร้างฐานในอนาคตผลไม้วัชมน ผลไม้เพื่อคุณ เน้นเรื่อง คุณภาพของผลไม้และความซื่อสัตย์ เป็นหัวใจสำคัญ ผู้ส่งออกผลไม้รายใหญ่ในไทยการเปิดเสรีการค้าผักผลไม้ไทย-จีน เป็นโอกาสให้พ่อค้าจีน ที่เคยเป็นลูกค้าวัชมนฟู้ด หันมาทำธุรกิจนำเข้าและส่งออกผลไม้ไทยเอง ส่งผลให้เกิดการดัมพ์ราคาขายอย่างหนัก วันนี้วัชมนฟู้ด ซัพพลายเออร์จากต่างประเทศ ส่งสินค้าใหม่ๆ ให้มาเป็นผู้บุกเบิกตลาด มีทั้งส้มจุก สตรอเบอร์รี่ แอปเปิ้ล จากเกาหลี และญี่ปุ่น แอ๊ปเปิ้ลแจ๊ส แอปเปิ้ลพันธุ์เป็นที่นิยมในตลาด โดยการใส่แคแรคเตอร์กับสินค้าให้เป็นผลไม้สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่มีมีสไตล์เฉพาะตัว มีพลัง กินแล้วสดชื่น สไลด์บาง วางขายในสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ท็อป , วิลล่า มาร์เก็ต

วัชมนฟู้ด จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลไม้เกรดพรีเมี่ยมทุกชนิด เบอร์ 1 ของประเทศไทยด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี กล่าวว่าประเทศไทยเข้าสู่ยุค ไทยแลนด์ 4.0   เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจซึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ การเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้า
ไปสู่การเน้นภาคการบริการมากขึ้นบริษัทฯ ได้มีการตั้งรับ  โดยสร้างช่องทางการสื่อสารในการเข้าถึงผู้บริโภค  ช่วงสิ้นปี – ต้นปีหน้า  บริษัทฯ มีโครงการสร้างส่วนกระจายสินค้าในเมือง  โดยตั้งเป้าขายผลไม้ภายใน
Shop/ Hub กระจายสินค้าให้มีความหลากหลายอาทิ แบบขายปลีกทั่วไป, แบบจัดเป็นกิ๊ฟเซต และจัดเป็นกระเช้าพรีเมี่ยม อีกทั้ง โปรเจ็ค
Ready – To – Eat ในชุด Happy Meal ให้กับร้าน McDonald
และการขยายไลน์สินค้าไปสู่การทำ Catering ให้กับงานเลี้ยงต่างๆ ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมดึง เก้า จิรายุ ละอองมณี มาเป็นผู้สร้างสีสัน เนื่องจากเป็นตัวแทนเด็กรุ่นใหม่ ตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ คือ อายุระหว่าง 20 – 30 ปี

นางสาววิภาวี วัชรากร กรรมการผู้จัดการบริษัท วัชมนฟู้ดจำกัดผู้นำเข้าและจำหน่ายผลไม้เกรดพรีเมี่ยมทุกชนิด อันดับ 1 ของประเทศไทย กล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ซึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญ อย่างหนึ่ง คือ การเปลี่ยนจากการเน้นภาคการผลิตสินค้า ไปสู่การเน้นภาคการบริการมากขึ้น เป็นการกระตุ้นให้ภาคเศรษฐกิจให้มีการตื่นตัว แข่งขันทั้งทางด้านคุณภาพ และบริการ ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการตั้งรับ และพัฒนาองค์กรให้สอดรับกับนโยบาย ในหลายด้าน อาทิ การทำการตลาดออนไลน์ โดยสร้างช่องทางการสื่อสาร ในการเข้าถึงผู้บริโภค อีกทั้งยังสามารถประชาสัมพันธ์ข้อมูลต่างๆ หรือโปรโมชั่นได้อย่างรวดเร็วเช่น เฟสบุ๊ค, อินสตราแกรม เว็บไซต์ และ LINE@ เป็นต้น

ช่วงสิ้นปี – ต้นปีหน้า บริษัทฯ มีโครงการสร้างส่วนกระจายสินค้าในเมือง ที่สามารถเป็นได้ทั้งส่วนกระจายสินค้า (Hub) และหน้าร้าน (Display) ไปในตัว เพื่อเป็นการย่นระยะทางการขนส่งสินค้าให้ใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถรักษาคุณภาพสินค้า ความสด ได้มากขึ้นกว่าการกระจายสินค้าจากสำนักงานใหญ่โดยตั้งเป้าสินค้าภายในส่วนกระจายสินค้า ให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด อาทิ แบบขายปลีกทั่วไป, แบบจัดเป็นกิ๊ฟเซต และจัดเป็นกระเช้าพรีเมี่ยม เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยปัจจุบันมีการทำ โปรเจ็ค Ready – To – Eat ในชุด Happy Meal ให้กับร้าน McDonald และการขยายไลน์สินค้าไปสู่การทำ Catering ให้กับงานเลี้ยงต่างๆ อีกด้วย

กิจกรรมส่งเสริมการตลาด “มหกรรมผลไม้เกรดพรีเมี่ยม ราคาสุดช็อค!” จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 – 19 มิถุนายน 2017 ถือว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ Apple Jazz แพ็คละ 100 บาท ลดเหลือ 9 บาท และเชอรี่แพ็คละ 200 บาท ลดเหลือ 39 บาท ที่ผู้บริโภคมีการบอกต่อกัน และมียอดขายสูงกว่าสินค้าตัวอื่น บริษัทฯ ทำการเน้นกิจกรรม “เชียร์ชิม” เพื่อจูงใจผู้บริโภคหน้าใหม่ให้ได้ลิ้มรส และทำการซื้อต่อไป โดยงบประมาณในการทำการตลาด กิจกรรม

ในครั้งนี้  เก้า จิรายุ ละอองมณี  เป็นผู้สร้างสีสัน เนื่องจากน้องเก้า มีความ
เป็นตัวแทนเด็กรุ่นใหม่ ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย คือ อายุระหว่าง 20 – 30 ปี เป็นฐานลูกค้าต่อไปในระยะยาว เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ มีความต้องการทดลองสิ่งใหม่ ที่มีคุณภาพ และทันสมัย ใส่ใจในเรื่องภาพลักษณ์ และคุณภาพเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความท้าทายตรงต่อทัศนคติของสินค้าจากวัชมนฟู้ด ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือ ความคงเส้นคงวา ในคุณภาพ และมาตรฐานที่มี ด้วยราคาที่สมเหตุ สมผล ภายใต้ความสด สะอาด ปลอดภัย เพราะวัชมนฟู้ดใส่ใจในทุกๆ เรื่องของผู้บริโภคเสมือนดั่งคนในครอบครัว เสมอมา สามารถติดตามกิจกรรมดีๆ จากวัชมนฟู้ด ได้ที่ Facebook : Vachamon food   “นางสาววิภาวี  กล่าวสรุป

เก้า จิรายุ ละอองมณี นักแสดงหนุ่มขวัญใจวัยโจ๋ ร่วมกิจกรรรมภายในงาน
บริษั วัชมนฟู้ด จำกัด นำผลไม้เข้าจากต่างประเทศมากมาย ในราคาสุดคุ้ม
นาทีทอง…วันสุดท้าย ช้อปปิ้งผลไม้เกรดพรีเมี่ยมราคาสุดช็อคกว่า 90%
ในงาน มหกรรมผลไม้เกรดพรีเมี่ยมราคาสุดช็อคงานจัดขึ้น
วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน 2560 เวลา 13.30 -15.00 น  ณ ลานกิจกรรมชั้น G หน้าศูนย์เอไอเอสฝั่งโรบินสัน ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ

ราคาสุดคุ้มขนาดนี้ ห้ามพลาดนะคะ
กิจกรรม นาทีทอง ทุกวันที่ 6-19 มิถุนายน  2560
นะคะ รู้ยัง!! อย่าลืมนะคะ มาเจอกันได้ทุกวัน
ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ โซนโรบินสัน หน้าร้าน เอไอเอส
ราคาสุดคุ้มขนาดนี้ ห้ามพลาดนะคะ

ลองรึยังคะ คุณภาพดีขนาดนี้ สั่งสิคะ…รออะไร
ผลไม้คุณภาพผลไม้วัชมนฟู๊ด
Facebook : Vachamon food  
สอบถาม โทร. 02-902 9989

ค้นหาความลับตัว G

ได้เวลาชวนทุกคนมาค้นหาความลับตัว “G”


ปริศนาตัว  G  ได้เวลาการเผยตัวตนแล้ว

คุณรัฐสภา วัฒนอุตสาหพงศ์ (ประธานกรรมการบริหาร)
บริษัท ลาโกบี้ จำกัด

จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวอย่างเป็นทางการ  กับ ธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ ของคนเฉพาะกลุ่ม (LGBT) ที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่

ธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ ของคนเฉพาะกลุ่ม (LGBT) ที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์

โดยให้ชื่อธุรกิจนี้ว่า  Lagobe
งานครั้งนี้จัดขึ้นใน  วันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน  2560

เวลา  15.00 – 17.00 น.
ณ. ห้อง Breeze & Garden Terrace  ชั้น  8

FOUR POINTS BY SHERATON BANGKOK
โรงแรม โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน กรุงเทพฯ
(บีทีเอส อโศก/เอ็มอาร์ที สุขุมวิท)
4 สุขุมวิท ซอย 15, ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
กรุงเทพฯ

 

 

 

 

 

แอปเปิ้ล JAZZ™ ที่ดีที่สุดในเมืองไทย

วัชมนฟู้ด เดินทัพจัดงานใหญ่
มหกรรมผลไม้เกรดพรีเมี่ยมราคาสุดช็อค!

 

เปิดตัวโลโก้ใหม่  แอปเปิ้ลแจ๊ส  โฉมใหม่…อร่อยกว่าเดิม
แอปเปิ้ลแจ๊ส (Apple Jazz) แอปเปิ้ลให้สารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและวิตามินซีเป็นหลัก แอปเปิ้ลมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยในการชะลอวัย ผลไม้ขึ้นชื่อเรื่องของรสชาติความอร่อย เปลือกสีสดน่ากินกินความสดใส สดชื่น มีเอนเนอร์จี้ และมีความกระตือรือร้น

แอปเปิ้ลแจ๊สความแตกต่างที่ลงตัว จุดเริ่มต้นจากการปลูกของสวนแอปเปิ้ลใน New Zealand ปัจจุบันได้ถูกขยายการปลูกในอังกฤษ ยุโรป อเมริกา ชิลี
แอฟริกาใต้ และออสเตรเลียโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกที่ถูกคัดสรรและดูแลอย่างพิถีพิถันเพื่อมั่นใจว่าทุกขั้นตอนปลอดภัย และได้แอปเปิ้ล
JAZZ™ ที่ดีที่สุดสำหรับคุณมองหาแอปเปิ้ลแจ๊ส แสนอร่อยได้ง่ายจากสัญลักษณ์สีน้ำเงินที่มากับแอปเปิ้ลที่สด อร่อยของ JAZZ™

สายพันธุ์ใหม่นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์ที่มีเอกลักษณ์เด่น คือ สามารถคงความสด-กรอบตลอดทั้งปี มีรสชาติเข้มข้น กรอบกว่าอร่อยกว่า ซึ่งถือเป็นสินค้าที่ชูภาพลักษณ์ของบริษัทฯ เป็นอันดับต้น จนเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้างขึ้น โดยยอดขายในปี 2016 ที่ผ่านมา ตรงตามเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ร้อยละ 10 จากยอดเติบโตปีที่ผ่านมา

ไฮไลท์ในปีนี้ Apple Jazz  แอปเปิ้ลแจ๊ส เปลี่ยนโลโก้ใหม่ มุ่งเน้นความทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีสีสัน และไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง แต่คงไว้ซึ่งรสชาติอร่อยเหมือนเดิม โดย แอปเปิ้ลแจ๊ส (Apple Jazz) ในประเทศไทย เริ่มใช้โลโก้ใหม่แล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายน 2017

ที่ผ่านมา สำหรับในส่วนของแบรนด์แอมบาสเดอร์ Apple Jazz  แอปเปิ้ลแจ๊สนั้น ยังคงเป็น อาเล็ก ธีรเดชเมธาวรายุทธ เหมือนเดิม เพราะ ด้วยภาพลักษณ์ของอเล็ก ที่มีความเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพ ความสดใส สดชื่น มีเอนเนอร์จี้ และมีความกระตือรือร้น เหมือนกับแอปเปิ้ลแจ๊ส อีกทั้งบริษัทฯ อยากให้ผู้บริโภคจดจำในแบรนด์แอมบาสเดอร์ เมื่อเห็นหน้าอาเล็ก ก็จะคิดถึง แอปเปิ้ลแจ๊ส (Apple Jazz) ทันทีอีกด้วย

บริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลไม้เกรดพรีเมี่ยมทุกชนิด เบอร์ 1 ของประเทศไทยด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีกล่าวว่า ภาพรวมของตลาดผลไม้ในประเทศไทยปี 2017 ครึ่งปีหลัง มีอัตราการขยับตัว และคาดว่าดัชนีการจับจ่ายใช้สอย เพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมีเทศกาลสำคัญ อาทิ กินเจ, สารทจีน และปีใหม่ ไฮไลท์ในปีนี้ แอปเปิ้ลแจ๊ส (Apple Jazz) ได้ทำการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ มุ่งเน้นความทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีสีสัน

อาเล็ก  ธีรเดชเมธาวรายุทธ  ยังคงเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เนื่องจากภาพลักษณ์ที่มีความเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพพร้อมจัด“มหกรรมผลไม้เกรดพรีเมี่ยมราคาสุดช็อค ระหว่างวันที่ 6 – 19 มิถุนายน 2017
ณ ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ลดราคาสินค้าลงสูงสุดถึง 90%

นางสาววิภาวี วัชรากร กรรมการผู้จัดการบริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายผลไม้เกรดพรีเมี่ยมทุกชนิด อันดับ1ของประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดผลไม้ในประเทศไทยปี 2017 ครึ่งปีหลัง มีอัตราการขยับตัวและคาดว่าดัชนีการจับจ่ายใช้สอย จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก ตามธรรมชาติของตลาดผลไม้นำเข้า คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม ที่ประกอบไปด้วยเทศกาลสำคัญ อาทิ กินเจ, สารทจีน และปีใหม่ ทั้งนี้ เป็นการขยับตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวา เพราะตลาดผลไม้นำเข้าในประเทศไทย ช่วง 3 – 5 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว เห็นได้จากผู้นำเข้าผลไม้จากต่างประเทศหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นหลายราย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภค ที่สามารถเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ในปีนี้บริษัทฯ  วางแผนการตลาดแบบเชิงรุก มุ่งเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมหลายจุดด้วยกัน อาทิ ซีคอนสแควร์ เมกาบางนาเป็นต้นนอกจากนี้บริษัทฯ ยังจัดให้มีขบวนคาราวานผลไม้ไปทั่ว ตามหัวเมืองใหญ่ อาทิ ชลบุรี นครราชสีมา หนองคาย เป็นต้น

สิ่งที่วัชมนฟู้ด  ยึดถือเสมอมา คือ เราต้องเป็นคนเข้าถึงลูกค้า  ไม่ใช่รอให้ลูกค้าเข้าถึงเรา ดังนั้น เราคาดหวังว่า ผู้บริโภคคนไทยทุกคน ต้องสามารถรับประทานผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศได้ในราคาที่สมเหตุ สมผล ภายใต้ความสด สะอาด ปลอดภัย เพราะวัชมนฟู้ดใส่ใจในทุกๆ เรื่องของผู้บริโภคเสมือนดั่งคนในครอบครัวเสมอมาสามารถติดตามกิจกรรมดีๆ จาก วัชมนฟู้ดนางสาววิภาวี กล่าวสรุป


มหกรรมผลไม้เกรดพรีเมี่ยมราคาสุดช็อค!
จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 – 19 มิถุนายน 2017 ณ ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เป็นมหกรรมผลไม้ที่บริษัทฯ จัดขึ้นเพื่อต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั้งกลุ่มเก่า และกลุ่มใหม่ที่มีความลังเลใจในการซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านราคา หรืออื่นๆ โดยลดราคาสินค้าลงสูงสุด ถึง 90% อาทิ
แอ๊ปเปิ้ลแจ๊สแพ็คละ 100 บาท ลดเหลือ 9 บาท
แอ็ปเปิ้ลเอนวี่แพ็คละ 200 บาท ลดเหลือ 19 บาท
เชอรี่แพ็คละ200 บาท ลดเหลือ 39 บาท
สตอเบอรี่ Driscoll’s แพ็คละ 150 บาท ลดเหลือ 29 บาท
กีวีเซสปรีสีเขียว/ กีวี่เซสปรีสีทอง แพ็คละ 100 บาท ลดเหลือ 19 บาท เป็นต้น

แอปเปิ้ลสายพันธุ์ใหม่จากนิวซีแลนด์ รสชาติหวานกรอบ มีจำหน่ายที่ supermarket ชั้นนำทั่วไป
Facebook: Vachamon food

หมอมวลชน ประกวดสาวงาม 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน

เป็ด เชิญยิ้ม จับมือ หมอมวลชน 
ประกวดสาวงาม 3 สาว 3 วัย

ขวัญใจมวลชน ค้นหานักแสดงหน้าใหม่ลงซีรี่ย์ ก่อนบ่ายคลายเครียดช่อง 3  เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท บริษัท โคเมดี้ไลน์ จำกัด ผู้ผลิตรายการ ก่อนบ่ายคลายเครียดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งบริหารงานโดย เป็ด เชิญยิ้ม นักแสดงตลกชื่อดังและอดีตนายกสมาคมศิลปินตลกแห่งประเทศไทย จับมือร่วมกับบริษัท หมอมวลชน จัดกิจกรรมครั้งใหญ่ปี 2560

การประกวด สาวงาม 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน เพื่อเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่ผู้มีความสามารถและความสวย ลงซีรี่ย์ ก่อนบ่ายคลายเครียดทางจอโทรทัศน์ช่อง 3 พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท

เป็ด เชิญยิ้ม (ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร) กล่าวว่า …
ก่อนบ่ายคลายเครียด รายการนี้เป็นรายการตลกเบาสมองชวนหัว ส่วนใหญ่มาจากละครและรายการเกมโชว์ต้นฉบับ  นำมาล้อกัน จะนำเสนอละครเบาสมองผ่อนคลายอารมณ์ที่แฝงมุขตลกให้คุณผู้ชมได้หัวเราะคลายเครียดกัน ปัจจุบันยังได้เพิ่มความน่าสนใจด้วยการดึงนักแสดงที่มีชื่อเสียงในปัจจุบันมาร่วมแสดงละครด้วย เรียกเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมทางบ้านกันสนั่น ทำให้เรทติ้งก่อนบ่ายคลายเครียดพุ่งสูงขึ้นทุกปี

ในปี 2560 นี้รายการก่อนบ่ายคลายเครียด อยากจะทำอะไรที่ทำให้ผู้ชมทางบ้าน แฟนคลับและประชาชนคนทั่วไป  ได้มีส่วนร่วมมากขึ้น การจัดกิจกรรมค้นหานักแสดงหน้าใหม่ 3 สาว 3 วัย  เพราะเชื่อว่า  วัฒนธรรมความชื่นชอบเรื่องของมุขปาฐะหรือเรื่องความบันเทิงขบขัน สนุกสนาน เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเฉพาะของคนไทย คือ  คนไทยเราชอบเรื่องบันเทิงเริงรมย์ ชอบความขำขันเฮฮา การร้องเล่นเต้นรำอยู่ในสายเลือด จึงอยากให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่ศิลปินนักแสดงได้มีโอกาสและประสบการณ์  ได้ออกโทรทัศน์ แสดงความสามารถที่ผมเชื่อว่าทุกคนมีอยู่ในตัวเองแต่ไม่มีเวทีให้โชว์โดยเฉพาะความสามารถทางด้านการแสดง เพราะเท่าที่ผ่านมาก็มีนักแสดงตลกผู้หญิงหลายคนที่ทั้งสวย  และมีความสามารถในการสร้างสีสัน เสียงหัวเราะให้กับคนดูได้มาเยอะแล้ว ก็เลยจับมือกับหมอมวลชนที่จะร่วมกันดึงศักยภาพของสาวไทย โดยจัดกิจกรรมการประกวดสาวงาม 3 สาว 3 วัย  ขวัญใจมวลชน ขึ้นเพื่อจะค้นหานักแสดงหน้าใหม่ให้ได้เล่นละครซีรี่ย์ มาร่วมแสดงในรายการก่อนบ่ายคลายเครียด แน่นอนว่าการคัดเลือกนักแสดงก็จะต้องทำกันอย่างเข้มข้น วัดแวว โดยมีคณะกรรมการเป็นดารานักแสดง 3 สาวจากทางรายการก่อนบ่ายคลายเครียด คือ ตั๊ก ศิริพร / ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ / หนูเล็ก ก่อนบ่ายฯ และตัวแทนจากหมอมวลชน รวมทั้งตัวแทนจากทางรายการก่อนบ่ายคลายเครียด ที่จะมาช่วยกันตัดสินว่าใครจะได้เป็นขวัญใจมวลชน โดยเราได้เปิดเวทีรับสมัครกัน 4 ภาคทั่วประเทศ จนได้ตัวแทนมา 18 คน หลังจากนั้นผู้เข้ารอบจากแต่ละภาคจะได้รับการฝึกศักยภาพด้านการแสดง แล้วคัดอย่างเข้มข้นจนได้ผู้ชนะ 3 สาว 3 วัย ให้เป็นนักแสดงหน้าใหม่ ที่จะได้ร่วมแสดงซีรี่ย์กับรายการก่อนบ่ายคลายเครียด ออกโทรทัศน์ช่อง 3 และมีโอกาสก้าวหน้าประสบความสำเร็จในชีวิตนักแสดง อีกทั้งยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์หมอมวลชนอีกด้วย”

ด้าน คุณสิตา ศิตลักษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด  บริษัท หมอมวลชน 2000 กล่าวว่า เแบรนด์ หมอมวลชน ได้อยู่คู่คนไทย โดยให้คำปรึกษา พร้อมทั้งให้บริการเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณและสุขภาพ มากว่า 35 ปี ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งบริษัทมีสินค้าและบริการที่ช่วยแก้ปัญหาผิว ตอบสนองความต้องการของแต่ละวัย อาทิ ปัญหาสิวในกลุ่มวัยรุ่น เรื่องการดูแลผิวพรรณในวัยทำงาน ตลอดจนการปรนนิบัติผิวเพื่อชลอริ้วรอย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ

การจัดแคมเปญ 3 สาว 3 วัยขวัญใจมวลชนครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของหมอมวลชน ที่จะช่วยดึงศักยภาพที่ดีที่สุดของสาวไทยออกมา ด้วยการเฟ้นหา 3 สาว 3 วัยจากทั่วประเทศ ทั้งวัยนักศึกษา วัยทำงานหรือวัยมากประสบการณ์ ที่เคยได้ลองใช้บริการจากศูนย์บริการของหมอมวลชนทั่วประเทศ และมีความสามารถทางด้าน การร้อง เต้น เล่นละคร เพื่อมาร่วมแสดงใน ซีรี่ย์ชุดพิเศษ รายการก่อนบ่ายคลายเครียด พร้อมเป็นพรีเซ็นเตอร์ “หมอมวลชน” เป็นการจับมือร่วมกันครั้งสำคัญเพราะหมอมวลชนเราก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผิวพรรณ การดูแลผิวหน้า ส่วนทางรายการก่อนบ่ายฯ ก็สร้างคนหน้าใหม่เข้าวงการแสดง ให้ความสุขทางใจ เป็นการส่งต่อความสุขให้แก่ผู้ชม และที่สำคัญนักแสดงส่วนใหญ่ก็ให้ความสำคัญเรื่องการดูแลรักษาผิวหน้าให้ดูดีอยู่เสมอ พวกเค้าได้ให้ความไว้วางใจ และมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์หมอมวลชน ให้มาดูแลใบหน้าและบำรุงผิวพรรณ โดยการให้คำปรึกษาปัญหาสภาพผิวหน้า วิธีการดูแล กับนักแสดง เขาเหล่านั้นก็อาจเป็นไอดอลให้กับผู้ชมว่าเอ๊ะ! นักแสดงเขาใช้อะไร ทำไมสวยจัง ทำไมดูแลตัวเองดีจัง เพราะฉะนั้น 3 สาว 3 วัยที่เราได้มาจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ที่ดีได้ ถ้ารายการก่อนบ่ายฯ เป็นเบื้องหน้า หมอมวลชนของเราก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังค่ะ

งานนี้เราจึงมีส่วนร่วมในการช่วยเป็นคณะกรรมการในการคัดเลือกสาวๆ ทั้ง 3 วัย ที่จะต้องมีคุณสมบัติด้านรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณที่ดีเพราะการเป็นนักแสดงต้องอาศัยความสวยความงามเป็นหน้าเป็นตา ถ้ามีสุขภาพผิวพรรณดี มีการดูแลตัวเองให้ดี ถูกต้องตามหลักวิชาการจะทำให้เป็นคนที่มีบุคลิกภาพดี มีความมั่นใจ น่าดูน่าชม ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพราะเป็นความงามที่งามทั้งภายนอกและภายใน

ภารกิจการค้นหา 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชนจากทั่วประเทศนี้ ผู้เข้าประกวดกิจกรรมนี้จะมีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งด้วย คือเป็น 1 ใน 3 Presenter คนใหม่ของ หมอมวลชน ก็จะต้องการันตีได้ว่าความสวยความงามของตนเองเป็นความงามอย่างธรรมชาติ ไม่ใช่สวยด้วยมีดหมอหรือศัลยกรรม จากสาวสวยแบบหลบในเข้าสู่การเจียระไนแบบไม่ต้องผ่านเทคนิคสุดล้ำหรือศัลยกรรมใดๆ จะทำให้สาวงามที่ชนะใจคณะกรรมการได้รับ โอกาส และ ประสบการณ์ด้านการแสดง ครั้งหนึ่งในหน้าจอโทรทัศน์เมืองไทยค่ะ

ทั้งนี้ภารกิจ การประกวดสาวงาม 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน
จะเปิดรับสมัครและออดิชั่น 4 ภาคทั่วประเทศ จะเริ่มออดิชั่น จาก

ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก
(วันที่ 3 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ บางแค กรุงเทพฯ )

ภาคใต้ (วันที่ 10 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์การค้า ไดอาน่า หาดใหญ่)

ภาคเหนือ (วันที่ 17 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต)

ภาคอีสาน (วันที่ 24 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช จ.นครราชสีมา)

3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน
สาวงามท่านใดที่สนใจสมัคร สามารถดูกติกาและติดตามรายละเอียด
การรับสมัครได้ที่
Facebook : www.facebook.com/Mormualchon

เส้นทางเดินไหว้เทพทั้ง 8 องค์ แห่งแรกใจกลางเมือง

RATCHAPRASONG
SHRINE & CULTURE WALK

โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียลบูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน เดินสักการะองค์เทพ  RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK ราชประสงค์ เชื่อมต่ออาณาจักรสมบูรณ์แบบ เปิด  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินรอบย่านฯ ประเดิมกิจกรรมเดินสักการะองค์เทพ RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017

ทางเดินลอยฟ้า R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk ทางเดินลอยฟ้าสุดอลังการดาวล้านดวง เนรมิตการเชื่อมต่อเส้นทางสู่ 18 สถานประกอบการในย่านราชประสงค์เป็นเส้นทางใหม่ล่าสุดที่รวบรวมไลฟ์สไตล์สุดชิคของคนกรุงเทพ อะไรคือเหตุผลที่คุณต้องรีบมาเช็คอินที่ย่านราชประสงค์ อ่านจบแล้ว มาเช็คอินด่วน

ราชประสงค์วอล์ก R-Walk เป็นต้นแบบของย่านธุรกิจและเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ที่เดินเชื่อมต่อ 18 ตึกในย่านราชประสงค์ได้อย่างทั่วถึง ตั้งแต่ออกบีทีเอส สถานีชิดลม และสถานีสยาม ซึ่งสามารถเดินไปยังฝั่ง The Platinum Fashion Mall โดยเท้าไม่ต้องแตะพื้นถนน สะดวกสบายตลอดทั่วทั้งย่านราชประสงค์ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ไร้กังวล เพราะมีหลังคาคอยป้องกันตลอดทั้งเส้นทาง R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk
เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (Safety & Security) มีกล้อง CCTV ติดตั้งเพื่อคอยดูแลคุณตลอดเส้นทาง มีสายตรวจเดินตรวจตลอด 24 ชม. เชื่อมต่อ Lifestyle แบบ 360 องศา ทุกรูปแบบ ไม่ว่าร้านอาหารสุดเริ่ดที่ใครๆ ก็มารีวิว, “PRAY” บูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน และ “SHOP” จากศูนย์การค้าชื่อดังได้เพลินๆ โนสนโนแคร์เงินในกระเป๋า โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียล เพราะไม่ว่าจะถ่ายรูปแล้วอัปโหลดโชว์เพื่อนๆ จากมุมไหนของ ราชประสงค์วอล์ก ก็สวยล้ำอินเทรนด์ไม่มีใครเกิน แน่นอนค่า

สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) เปิดประสบการณ์แห่งการเชื่อมต่อกับเมกะโปรเจ็กต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 18 สถานประกอบการอย่างไร้รอยต่อรอบทิศทาง เริ่มต้นพ.ศ. 2542 ที่ก่อสร้างทางเดินลอยฟ้าเชื่อมฝั่งตะวันออกและใต้  จากสถานีรถไฟฟ้า ชิดลม ศูนย์การค้าเกษร ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก และศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ถือเป็นการเชื่อมโยงครั้งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ราชประสงค์วอล์ก ได้เชื่อมต่อไปไปถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านราชประสงค์ ในปี พ.ศ. 2558 ขยายศักยภาพเป็นโครงข่ายที่เชื่อมสู่ทิศเหนือไปยังแพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ และ  โรงแรมโนโวเทล แพลทินั่ม ประตูน้ำ กรุงเทพฯ พร้อมทั้งเชื่อมเข้าเกษรวิลเลจสู่เส้นทางฝั่งตะวันออกทำให้ย่านราชประสงค์เชื่อมต่อเข้าสู่ 18 สถานประกอบการสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้กลยุทธ์ Walkable Urbanism เพิ่มพื้นที่เชื่อมต่อเพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาที่ย่านราชประสงค์อย่างเพลิดเพลินและยาวนานยิ่งขึ้น

เพื่อให้เกิดการใช้เวลาภายในย่านมากที่สุด พร้อมสร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์เต็มสตรีมครบวงจรทั้ง กิน ช้อป และไหว้   ล่าสุด  ร่วมมือกับ ททท. ประเดิมประสบการณ์เต็มรูปแบบที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กับการ เดินสักการะองค์เทพ แห่งแรกใจกลางเมืองที่ใช้เวลาเดินเพียง 30 นาที เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาร่วมสัมผัสไลฟ์สไตล์ของย่านราชประสงค์มากกว่า 600,000 คนต่อวัน

สืบเนื่องจากกการเปิดราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ร่วมกับ  ททท. สร้างสรรค์กิจกรรม RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017 เปิดเส้นทางเดินพลังศรัทธาแห่งมหาเทพทั้ง 8 พระองค์ นำนักท่องเที่ยวสู่บริบทแห่งการสักการะและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใจกลางย่านราชประสงค์ ซึ่งสามารถเดินสักการะได้ภายใน 30 นาที ด้วยความสะดวกสบายกับป้าย  Cultural signage  ที่บอกรายละเอียด ขององค์มหาเทพทั้ง 8 พระองค์ พร้อมข้อมูลสำคัญของแต่ละองค์


1. พระพิฆเนศวร  แห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ  และการเริ่มต้น ซึ่งต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เพื่อเป็นการคารวะในฐานะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป

2. พระตรีมูรติแห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีความศักดิ์สิทธิ์ด้านการประทานพรให้พบเจอคู่ครองที่เหมาะสม และครองคู่กัน ซึ่งเป็นองค์เทพที่เก่าแก่ที่สุดในย่านนี้ เนื่องจากได้มีการสร้างตั้งแต่ครั้นยังเป็นวังเพชรบูรณ์

3.พระแม่อุมาเทวีแห่งบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ พระแม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบ ทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรู ทำลายสิ่งชั่วช้า และพระองค์ยังทรงประทานพรด้าน ความผาสุกทางการครองเรือนอีกด้วย

4.พระแม่ลักษมีแห่งเกษรวิลเลจ ถือเป็นหนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งย่านราชประสงค์ประดิษฐานอยู่ ณ ดาดฟ้าชั้น 4ผู้ได้ชื่อว่าเทพีแห่งความงดงาม ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ พระองค์มักประทานความสำเร็จ ในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์ และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ

5.ท้าวจตุโลกบาล  แห่งเกษรวิลเลจ เทพที่รักษาทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกไว้ทั้ง 4 ทิศ และทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่มนุษย์โลกทั้งหลาย ซึ่งนับว่าเป็นเทพองค์ล่าสุดของย่านราชประสงค์

6.พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุแห่งโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ หนึ่งในสามมหาเทพ มีอำนาจประทานความสุข  ความสำเร็จ  ในหน้าที่การงาน ช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้บูชาฟันฝ่าอุปสรรคไปได้   พร้อมทั้งประทานอำนาจบารมี และคุ้มครองชีวิตให้ปลอดภัยร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป

7. ท้าวมหาพรหม  แห่งโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ หนึ่งในสามเทพสูงสุดซึ่งเป็นผู้สร้าง  และลิขิตความเป็นไปของสรรพสิ่ง พระองค์ยังทรงเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ทรงสามารถประทานพรทุกประการ

8. ท้าวอัมรินทราธิราช    แห่งศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า เทพผู้ผดุงไว้ซึ่งความดี อำนาจของพระองค์จะช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดีทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น  พร้อมทั้งปกป้องรักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งท่านจะคอยคุ้มครองผู้ที่กระทำความดีอยู่เสมอ

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ททท. ได้มีแคมเปญในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ท้องถิ่นโดยตรงหรือ Local Experience ซึ่งช่วยให้เกิดการเดินทางและหมุนเวียนการใช้จ่ายไปยังผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งสำหรับในกรุงเทพมหานคร ททท.ได้มีโครงการ “กรุงเทพฯ เดินเที่ยว หรือ Walking Bangkok” ที่ส่งเสริมให้เกิดการเดินเที่ยวในย่านต่างๆ ซึ่งย่านราชประสงค์ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ ททท. ได้ดำเนินการ และเผยแพร่ไปสู่นักท่องเที่ยวต่างประเทศอีกด้วย ย่านราชประสงค์ถือเป็นย่านธุรกิจและมีกิจกรรมเชิงการท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม ถือเป็นสิ่งดีอย่างยิ่งที่มีอำนวยความสะดวกให้กับการเดินเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้การเดินเที่ยวเชื่อมต่อในย่านราชประสงค์นี้ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

คุณชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า “ย่านราชประสงค์นับว่าเป็นย่านโมเดลธุรกิจและไลฟ์สไตล์ตัวอย่างที่สะท้อนมุมมองและนำเสนอการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ เกิดจากความร่วมมือในการทำงานของภาครัฐ เอกชนพันธมิตร และชุมชนควบคู่กัน โดยมีแผนนำเสนอกิจกรรมไลฟ์สไตล์ซิกเนเจอร์ที่มีความโดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาภายในย่านฯ ตลอดทั้งปี

ทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ศิลปะ วัฒนธรรม และอาหาร ย่านราชประสงค์  เกิดเป็นไลฟ์สไตล์ที่เติมเต็มนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาสัมผัสภายในย่านสำคัญและยังไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาย่านผ่านการเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ทุกอย่างเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นชุมชน ผู้สัญจรขึ้น คือ ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อมลอยฟ้าที่เกิดจากแนวคิด และความร่วมมือของทุกฝ่ายตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2542 จนปัจจุบัน นับเป็นโครงการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนในย่านราชประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเป็นทั้งเส้นทางเดินสัญจรที่ปลอดภัยสะดวกสบาย ช่วยบรรเทาการจราจรและปัญหาการข้ามถนนได้เ
ป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือในการจัดทำหนังสือคู่มือสักการะเทพและแผนที่
เส้นทางการเดินสักการะ 2 ภาษา พร้อมทั้งให้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและเว็บไซต์ของย่านราชประสงค์ หรือสามารถรับหนังสือได้ที่  ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์ (Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวนี้ ยังรวมรวบข้อมูลสำคัญของย่าน ของที่ระลึก รวมทั้งแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างๆ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน พร้อมบริการทัวร์ไหว้เทพไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษกับราชประสงค์วอล์ก ได้แก่ แคมเปญ WALK เดินสักการะองค์เทพ – RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK จัดแคมเปญต่อเนื่องอย่าง RATCHAPRASONG FLAVOR WALK ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์การกินอาหารภายในย่านราชประสงค์ที่เข้าถึงร้านชั้นนำหรือร้านดั้งเดิม อาทิ สตรีทฟู้ดร้านยอดนิยม อาหารจานเด่น อาหารจานด่วน อาหารที่ห้ามพลาด อาหารหากินยาก รวมถึงอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง และสกายไดน์นิ่ง พร้อมเสริมไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งกับ RATCHAPRASONG SHOPPER’S WALK ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการช้อปปิ้งแบรนด์หรู สินค้าแฮนเมด ตลอดจนสินค้าโฮลเซล (Wholesale) พร้อมจุใจกับข้อเสนออย่างโปรโมชั่นสุดพิเศษให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้ช้อปปิ้งภายในย่าน ซึ่งในปีนี้ เราจะเห็นและเดินสู่ความเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ไป โดยทุกประสบการณ์จะถูกเชื่อมต่อด้วย ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk บนพื้นที่ธุรกิจและไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพฯ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของมหานครที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์
(Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2
ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

เว็บไซต์ของย่านราชประสงค์
www.bkkdowntown.com

เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย www.tourismthailand.org/thaifest

ครั้งแรก การประชันความงามประกวดมิสเฮโย

Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

เฮโย คลีนิค พร้อมเปิดให้บริการให้กับลูกค้าทุกท่านที่สนใจด้านความงาม จัดการประกวดสาวสวยประเภท 2 ขึ้น โดยได้รับเกียรติจากพลเอก อุทิศ สุนทร สมาชิกสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ  ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ เป็นประธานในพิธีการประกวด พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้ตัดสิน  และผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ ร่วมตัดสินเป็นจำนวนมาก

โดยทางกองประกวด กำหนดให้ผู้ร่วมเข้าประกวด  แต่งกายในชุดราตรีผ้าไทย, ชุดราตรีสั้น ผ้าไทย แต่งกายงามอย่างไทย  ซึ่งผู้เข้าประกวดแต่ละคน ที่เข้ารอบจะได้รับตำแหน่ง เช่น ขวัญใจนิตยสารเดอะริช ขวัญใจทีวี ขวัญใจเฟคคลับ และนางงามพยายามสวย  ณ บริเวณลานอเนกประสงค์   ห้างเดอะสตรีท รัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ท่ามกลางประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมจำนวนมาก

นับเป็นครั้งแรก  การจัดการประกวดสาวงามประเภทสอง ขึ้นเพื่อต้องการเป็นเวทีให้ผู้เข้าประกวดสาวประเภทสอง ได้มีโอกาสสมัครเข้ามาประชันความงาม  และความสามารถแบบไม่มีข้อจำกัดเรื่องการทำศัลยกรรม หากในโอกาสต่อไปกระแสตอบรับในการจัดการประกวด”มิสเฮโย”มีเสียงตอบรับที่ดี ก็อาจจะจัดการประกวดขึ้นอีก คุณจิดาภา ยิ้มพงษ์ ประธานบริษัทเฮโยคลีนิก กล่าว

การประกวดมิสเฮโย ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติ จากหม่อมหลวง ปวริศรฺ กิติยากร ร่วมเป็นกรรมการกิตติมศักดิ์ การประกวด Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

การประกวดที่มีเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท
ผู้ชนะในเวทีนี้
เงินรางวัลมูลค่ากว่า 30,000 บาท
มงกุฎประจำตำแหน่ง
สายสะพาย
ถ้วยเกียรติยศ
บัตรกำนัลจากเฮโยคลินิก
ยังได้เป็นพรีเซ้นเตอร์ให้กับเฮโยคลินิก

พลเอก อุทิศ สุนทร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะ ประธานกิตติมศักดิ์ ให้เกียรติสวมมงกุฎ และสายสะพายให้กับ น้องติว วรัญดา วัฒนามนตรี ผู้ชนะเลิศอันดับ 1

พลเอก อุทิศ สุนทร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะ  ประธานกิตติมศักดิ์ ให้เกียรติสวมมงกุฎ และสายสะพายให้กับ น้องดิว
วรัญดา วัฒนามนตรี  ผู้ชนะเลิศอันดับ 1
Miss Haeyo Rainbow Queen

ส่วนรองอันดับ 1 คือ น้องแอ๋ม กตัญญุตา ธาระยาน   และรองอันดับ 2 คือ น้องแน๊ต  อิสรีย์  มุ่งมั่น ส่วนรางวัลชมเชย ได้แก่  น้องมัดไหม ชนกวนันท์กร ปัญญาคำ  และ น้องทักทาย  อินวริตา  มาบุญธรรม

ดิว วรัญดา คว้ามงกุฎ Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

ซึ่งในการจัดประกวดมิสเฮโยครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก หม่อมหลวง ปวริศร์
กิติยากร รวมทั้งคนดังมากมาย  จากหลากหลายแวดวง  ร่วมในการเป็นสักขีพยาน อาทิ ชนุชตรา สุขสันต์ นักแสดงช่อง 7 สี  คุณทิพย์ กัญพิชชา ผู้จัดละครช่อง 7 สี,  มิสเตอร์ จอง นัม ลี นักธุรกิจจากประเทศเกาหลีใต้,   โจแอน, กริม CEO หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ และนักร้องอารมณ์ดี   เจเน็ต  เขียว​

น้องติว   คุณวรัญดา ผู้ที่คว้ามงกุฎ   Miss  Haeyo  Rainbow  Queen 2017
​ผู้ร่วมเข้าประกวดแต่งชุดราตรี ผ้าไทย, ชุดราตรีสั้นผ้าไทย แต่งกายงาม  ซึ่งแต่ละคนที่เข้ารอบจะได้รับตำแหน่ง เช่น ขวัญใจนิตยสารเดอะริช ขวัญใจทีวี ขวัญใจเฟคคลับ และนางงามพยายามสวย


สำหรับผลการตัดสิน ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ในการประกวด
Miss Haeyo Rainbow Queen 2017

วรัญดา วัฒนามนตรี น้องติว  อายุ 17 ปี

รองอันดับ 1  ได้แก่  กตัญญุตา ธาระยาน  น้องแอ๋ม
รองอันดับ 2  ได้แก่ อิสรีย์ มุ่งมั่น  น้องแน๊ต
รางวัลชมเชย ได้แก่ ชนกวนันท์กร ปัญญาคำ น้องมัดหมี่
รางวัลชมเชย ได้แก่ อินวริตา มาบุญธรรม  น้องทักทาย

การจัดประกวด Miss Haeyo Rainbow Queen 2017
เฮโยคลินิก เป็นหนึ่งผู้ให้การสนับสนุนในการประกวดครั้งนี้ รวมทั้งบุุคคล
ที่มีชื่อเสียงให้เกียรติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจัดงาน  ดำเนินไปอย่างประสบความสำเร็จและราบรื่น เมื่อวันเสาร์ที่  27  พฤษภาคม  2560

ชั้น 2   ณ ห้าง The Street Ratchada (เดอะสตรีท รัชดาภิเษก)

Haeyo Clinic
139 ห้างเดอะสตรีทรัชดา ชั้น 2 ห้อง2105 ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ  10140 Bangkok, Thailand
FB:Haeyo Clinic
ติดต่อสอบถาม 
คุณพลอย  โทร. 089-9225838

การแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ OPTIMUS

DCASH MASTER

การแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ ‘OPTIMUS’ ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ซึ่งขับเคี่ยวเฟ้นหาผู้มีฝีมือจากทั่วประเทศที่ผ่านการเข้ารอบในแต่ละภาค มาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร

DCASH MASTER และ การแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ OPTIMUS  ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ซึ่งขับเคี่ยวเฟ้นหาผู้มีฝีมือจากทั่วประเทศที่ผ่านการเข้ารอบในแต่ละภาค เพื่อมาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร

Final Round Makeup & Hair Prestige Competition :
Wednesday 24 May 2017

พบกับงานใหญ่ที่ช่างแต่งหน้า-ทำผมรอคอยมาตลอดทั้งปี การประกวดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ!!





เพื่อชิงถ้วยอันทรงเกียรติจาก 3 เวทีใหญ่ ประกอบไปด้วยการแข่งขันแต่งหน้าเจ้าสาวโดยแบรนด์ ‘LIFEFORD PARIS’ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แข่งขันทำสีผมโดยแบรนด์   DCASH  MASTER
และการแข่งขันจัดแต่งทรงผมโดยแบรนด์ ‘OPTIMUS’ ชิงถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ซึ่งขับเคี่ยวเฟ้นหาผู้มีฝีมือจากทั่วประเทศที่ผ่านการเข้ารอบในแต่ละภาค  เพื่อมาแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพมหานคร  ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2560
BCC Hall ชั้น 5 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว


ภายในงานนอกจากจะได้รับชมการแข่งขันทั้ง 3 เวทีแล้ว ยังมีแฟชั่นโชว์สุดอลังจากทัพช่างแต่งหน้า-ทำผม ตัวแม่ของเมืองไทย ที่ขนมาโชว์กันแบบจัดเต็ม ซึ่ง ประกอบไปด้วย โชว์จากแชมป์ผมระดับประเทศ โดย อาจารย์อ้อย อาจารย์จ๋า และ อาจารย์หน่อง, โชว์จากผู้ทรงคุณวุฒิของวงการช่างผมประเทศไทย โดย ชมรมช่างผมเสริมสวย จังหวัดสมุทรปราการ, โชว์จากแชมป์สถาบันไลฟ์ฟอร์ด ประเทศไทย โดย คุณตู่ / คุณโอ๋ / คุณชาติ / คุณพจน์ / คุณต๊ะ และน้องฉัตร เมคอัพเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย, โชว์จากอาจารย์ศักดิ์ สถาบันแฮร์ครีเอชั่น / อาจารย์ป้อม สถาบันแฮร์มาเฟีย และพบกับมหกรรมสินค้าลดราคาในเครือ  DCASH,  LIFEFORD  PARIS   และ OPTIMUS  แบบช็อคไพร์ซ!!   ที่นี่เดียว


พร้อมชมฟรี!!
มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินสุดฮ็อต เป๊ก ผลิตโชค ที่ BCC Hal ชั้น 5
เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป

ชาวเน็ตยังคงตามหาคำตอบ รูปตัว “G”

Viral Picture รูปตัว G            

หลังการระบาดของ “Viral Picture”
รูปตัว “G” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

ถึงวันนี้เป็นเวลากว่า1 สัปดาห์ที่ชาวเน็ตยังคงต้องการหาคำตอบและคาดเดากันไปต่างๆนาๆว่า รูปตัว “G” นั้นเป็สัญลักษณ์ของอะไร และมีที่มาที่ไปอย่างไร สำหรับผู้สื่อข่าวยังคงต้องรอการเสนอข่าว และข้อเท็จจริงต่อไปต่อไป เมื่อไหร่มีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบโดยทันที