เข้าถึงวิถีไทย ผ่าน 8 เส้นทางท่องเที่ยว

8 เส้นทางท่องเที่ยว
สถานที่ยอดนิยม จังหวัดสิงห์บุรี

หนึ่งวันดีดีที่แสนสบาย อากาศรอบตัวช่วงเดือนตุลาคม ยังดูสดใส  เพราะสายฝนยังคงมาทักทายเป็นครั้งคราว วันหยุดครั้งนี้ ชวนไปเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และ วีรชน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัด ที่ต้องเดินทางไปเที่ยวสักครั้ง  มาที่นี่ท่านจะได้พบกับความเรียบง่ายและพบวิถีชีวิตที่งดงาม  ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ มากทำให้จังหวัดสิงห์บุรี  สามารถเที่ยวได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ และจะดีมากยิ่งขึ้นหากพักค้างคืนซัก 1 คืน เพื่อปรับจังหวะชีวิตให้เดินช้าลง รับอากาศบริสุทธิ์ที่เมืองเล็กแต่มากไปด้วยความงดงาม

แต่ถ้าพอมีเวลา ลองขับรถไปเที่ยวจังหวัด สิงห์บุรี กันดีกว่า เมืองใกล้กรุงที่
มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เป็นเมืองเก่าที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เทียบเท่ากับอยุธยา ท่องเที่ยวได้แบบสุขใจ มีโบราณสถานเก่าแก่ที่สวยงามน่าหลงใหล  ยิ่งในช่วงนี้กระแสอนุรักษ์ความเป็นไทยมาแรง เป็นการปลุกให้สิงห์บุรี กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกครั้ง

พูดถึงเรื่องราว  การท่องเที่ยวในช่วงนี้ เริ่มต้นการพักผ่อนกับสถานที่ท่องเที่ยวสร้างสรรค์  และพร้อมที่จะเผยแพร่แนวคิดและวัฒนธรรมผ่านผลิตภัณฑ์ OTOP  ทีมีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวในหลายระดับ จากทั่วทุกแห่งในแผ่นดินไทย  ไปชมผลิตภัณฑ์โอทอป หรืออาหารที่ขึ้นชื่อของแต่ละพื้นถิ่น เป็นเสมือนกุญแจที่เปิดเข้าเรื่องราวของแต่ละหมู่บ้าน ไปสัมผัสความน่ารักและรอยยิ้มของชุมชน  พร้อมแล้วไปเปิดประตูท่องเที่ยวแบบฉบับของ Otop นวัตวิถี เมืองสิงห์บุรี ไปชมวิถีไทย ผ่าน 8 เส้น ทางท่องเที่ยว ด้วยกันเถอะคะ

1.วัดประโชติการาม
มาถึงสิงห์บุรี สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการมาเที่ยว ที่นี่คือ สักการะ  และเพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญไหว้พระพุทธรูปปางห้ามญาติ 2 องค์ หลวงพ่อทรัพย์ สูง 6 วา 7 นิ้ว และหลวงพ่อสิน สูง 3 วา 3 ศอก 5 นิ้ว มีพุทธลักษณะที่งดงาม
เป็นวัดเก่าแก่ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ  ชมความงดงามของพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัยขนาดใหญ่การอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณค่าทางจิตใจ บางคนอาจมองเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ หากแต่บางคนกลับมองว่า เป็นเรื่องของพลังจิตบางอย่าง และก็มีอีกบางคนเหมือนกันที่ประชดว่าเพราะเรามีชีวิตที่ล้มเหลวไร้ที่ยึดเหนี่ยว เราจึงให้ความสำคัญกับการตั้งจิตอธิษฐาน

วัดประโชติการาม ชุมชนบ้านดอนกระต่าย  ชุมชนที่อยู่ที่ลุ่มแถบแม่น้ำเจ้าพระยา ชื่อดอนกระต่าย ตามตำนาน วัดประโชติการาม เป็นที่ประดิษฐานของพระยืน ที่มีอายุ 700 กว่าปี จะมีประวัติเชื่อมโยงกับวัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร
ที่อยู่: ตำบล บางกระบือ อำเภอเมืองสิงห์บุรี สิงห์บุรี 16000

ในวันเสาร์ของทุกเดือน ตลาดนวัตวิถี ดอนประชด  มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชม ตลาดนวัตวิถี ดอนประชด ที่นี่จำหน่ายสินค้าของชุมชน ตลาดวิถีชุมชนขายสินค้าของชุมชน สามารถเลือกซื้อเลือกหาสินค้าราคาชาวบ้าน  ที่มีทั้งของกิน อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ น้ำพริก ปลาร้าแบบแปรรูป ปลาร้าทรงเครื่อง ปลาร้าสมุนไพร แจ่วบองทรงเครื่อง ปลาร้าผัดสมุนไพรไข่เค็ม ผลิตภัณฑ์แปรรูปน้ำพริก น้ำพริกตาแดง กลุ่มจักสาน ของใช้ และอื่นๆ อีกมากมาย

แนะนำของฝากอย่าง ทองม้วนหัวฟู  ที่นี่ใช้วัสถุดิบใหม่สดอย่างกะทิสดที่คุณป้าเคี่ยวเอง ขูดมะพร้าวด้วยตัวเอง รวมทั้งขนมชนิดอื่นๆ อาหารแบบโบราณ โดยกลุ่มแม่บ้านบ้านดอนกระต่าย ซึ่งเป็นกลุ่มแม่บ้านที่มีการสืบทอด วิธีการปรุงที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาดดั้งเดิมของตลาดแห่งนี้ ใครจะมาเที่ยวเปิดในตอนเช้าของวันเสาร์ บอกเลยว่านักท่องเที่ยวสายกิน สายถ่ายรูปไม่ควรพลาด

เสน่ห์ของสิงห์บุรี เรื่องของเส้นทาง  กลางทุ่งข้าวเก่าแก่ กว่า  200  ปี  แห่งชุมชน บ้านดอนกระต่าย  มาที่นี่ใครที่โหยหาธรรมชาติ บรรยากาศดีดี ริมน้ำ และต้องการใช้ชีวิตแบบชิดชิดธรรมชาติ ที่ยังคงความสะดวกสบาย และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

วันนี้มีโอกาสพบผู้ใหญ่บ้าน นายวิทยา เต่าทอง ม.3 ตำบลบางกระบือ อ.ดอนกระต่าย ชวนมาเที่ยวสิงห์บุรี  เยี่ยมชมวิถีชีวิต มานอนพักที่ บ้านดอนกระต่าย ที่นี่มีพักในแบบโฮมสเตย์ พบกับความเรียบง่ายและวิถีชีวิตที่งดงาม สัมผัสบรรยาการการนอนโฮมสเตย์ แบบติดทุ่งนา และยังได้อิ่มอร่อยกับอาหารไทย เรียกว่ามาแต่ตัวสามานอนท่ามกลางธรรมชาติ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลและผู้ใหญ่พาเยี่ยมชม แหล่งอนุรักษ์เลี้ยงปลาช่อนแม่ลาที่แหล่งน้ำธรรมชาติหนองบัว แหล่งเพาะพันธ์  ปลาช่อนแม่ลา  ที่ชาวบ้านเร่งฟื้นฟูอนุรักษ์ เด็ดพืชผักข้างรั้วซึ่งเป็นผักท้องถิ่น เรียกว่าหาวัตถุดิบได้แบบใดก็ใช้แบบนั้น เรามองดูด้วยตาแต่มองเห็นด้วยสมองและภูมิปัญญาท้องถิ่น สำหรับใครที่อยากมาพักอิงแอบแนบชิดธรรมชาติ

ติดต่อ : นายวิทยา เต่าทอง ตำบลบางกระบือ อ.ดอนกระต่าย
ติดต่อได้ที่เบอร์โทร.  096 056 9409

2. อนุสาวรีย์วีรชนบ้านบางระจัน แห่งบ้านบางระจัน
ที่สิงห์บุรีก็มีให้ชมไม่แพ้ที่ไหน เส้นผ่านผลิตภัณฑ์ OTOP มีความพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยว อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเรื่องของประวัติศาสตร์ของวีรชนคนกล้า แห่งบ้านบางระจัน อนุสาวรีย์วีรชนบ้านบางระจัน กรมศิลปากรสร้างเสร็จในปี 2512

ซึมซับบรรยากาศสถานที่อันทรงคุณค่า อนุสาวรีย์วีรชนและอุทยานค่ายบางระจัน สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่วีรชนบ้านบางระจันผู้ประกอบวีรกรรมครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ โดยพม่าได้ยกทัพมาตีไทยและมีกองทัพส่วนหนึ่งเข้าตีหมู่บ้านบางระจัน แม้ว่าชาวบ้านบางระจันจะขาดแคลนอาวุธและมีกำลังน้อยกว่า แต่ก็ได้แสดงความกล้าหาญและความสามัคคียอมพลีชีวิตเพื่อประเทศชาติ จนได้รับการจารึกเพื่อเป็นเกียรติสืบมา

ส่วนย่าน ตลาดบ้านบางระจัน ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม คึกคักไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นเอกลักษณ์ เพราะตลาดบ้านบางระจันอยู่ในบริเวณส่วนของประวัติศาสตร์ตอนปลายของสมัยกรุงศรีฯ จากการสร้างวีรกรรม
การดีไซน์จึงออกเป็นแนวตลาดโบราณ บรรยากาศน่ารักๆ โดยเฉพาะช่วง
ออเจ้าติดลมบน ยิ่งพาให้กระแส ออเจ้า แห่งบ้านบางระจันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย สามารถเข้าไปเดินเที่ยวกันได้แบบสบายๆ จนเป็นที่มาของชื่อ ตลาดบ้านบางระจัน ซึมซับบรรยากาศดีดีเพื่อชมวิถีของชาวบ้านและธรรมชาติอันสวยงามและเงียบสงบ
เปิด-ปิด : 08.30-16.00 น. เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

ถัดมาอีกนิดไม่ควรพลาด เพราะในช่วงนี้กระแส Otop นวัตวิถีสิงห์บุรีกำลังมาแรง ต้องแวะไปช้อปของฝากและสินค้าชื่อดัง อย่างกล้วย” กลุ่มผลผลิตแปรรูปทางการเกษตร ที่อบกล้วยด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ บอกเลยว่า กล้วยตาก ผลผลิตแปรรูปทางการเกษตรรสชาติของกล้วยตาก โดยได้กำนัน ธนวันต์ ชัยรุ่งโรจน์สกุล เป็นผู้นำชาวบ้านเข้ามารวมกลุ่มกัน ได้รับการการันตีความอร่อยจากนักท่องเที่ยวมานักต่อนัก  3/2 หมู่ 9 ตำบางระจัน อ.ค่ายบางระจัน

3.ท่องเที่ยวชุมชน บ้านกระดีแดง
ด้วยความชอบส่วนตัว สำหรับชุมชนตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน บ้านกระดีแดง กับทุ่งนาสีเขียว สีแห่งความรื่นรมย์และความสบายใจ สถานที่มีแหล่งท่องเที่ยว ร้านกาแฟน่ารัก สวยสะดุดตา ด้วยทุ่งนาที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาเป็นสระเก็บน้ำและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำตั้งอยู่ไม่ไกลจาก วัดร้างบ้านสร้าง

4.วัดร้างบ้านสร้าง
อีกหนึ่งสสถานที่ที่น่ามาสุดๆ เป็นชุมชนเล็กๆ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์
เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อันสำคัญของ อ.ท่าช้าง ที่มีชื่อว่า
วัดร้างบ้านสร้าง ที่ได้รับการสนับสนุนให้เป็นชุมชนโอท้อปนวัตวิถีของสิงห์บุรี บรรพบุรุษเคารพสักการะหลายร้อยปี โดยสันนิษฐานว่า เป็นวัดสมัยอยุธยาตอนกลาง สังเกตจากฐานรูปทรงเรือสำเภาและจะมีทั้งหมด 5 ห้อง ตั้งแต่พ.ศ. 2128 บรรยากาศโดยรอบของ วัดร้างบ้านสร้าง ระหว่างที่เดินชมไปรู้สึกเหมือนกำลังก้าวผ่านช่วงเวลาจากปัจจุบันสู่อดีต เป็นฝีมือของช่างแบบดั้งเดิม เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสวยงามปลกตาของทางธรรมชาติ โดยมีจุดชมวิวที่เผยให้เห็นภาพอันน่ามหัศจรรย์ของ วัดบ้านสร้าง

ที่วัดบ้านสร้าง คุณน้ำทิพย์ โตสงัด และ ผู้ใหญ่บ้าน จรูญ ใจชำนิ บ้านโพประจักษ์และชาวบ้าน ชาวบ้านหามติร่วมที่จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาชุมชนของตนเอง ร่วมมือกันพลิกฟื้น จนได้รับการสนับสนุนจากพัฒนาชุมชน ที่วัดบ้านสร้างโดยรอบพระอุโบสถ มีความคงทนและถาวรสวยงาม จึงเข้ามาปรับปรุงเรื่องภูมิทัศน์ต่างๆปรับภูมิทัศน์และสถานที่ให้น่าสนใจ

ซึ่งในวันนี้ ชาวบ้านสร้างสะพานไม้ไผ่ เป็นเส้นทางเดินลัดไปสู่วัดบ้านสร้าง เพื่อไปสักการะ โดยสามารถจอดรถยนต์บนถนนแล้วเดินข้ามทุ่งนาข้าวตรงเข้ามายังวัดบ้านสร้างแห่งนี้ได้ นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสได้สัมผัสกับวิถีแบบดั้งเดิมของชาวสิงห์บุรี ที่มีทุ่งนา ปกคลุมตลอดเส้นทางเดิน

สำหรับผู้ที่สนใจเที่ยวชมบรรยากาศและพักโฮมสเตย์
สามารถติดต่อที่ อบต.โพธิ์ประจักษ์ 081 7807311
หรือ ผู้ใหญ่จรูญ ใจชำนิ โทร. 087 6736539

5. วัดสว่างอารมณ์
สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2304 โดยมีหลวงพ่อสงฆ์ เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้างวัดนี้ ชาวบ้านจึงเรียกว่า วัดหลวงพ่อสงฆ์  ในระยะแรกเริ่มสร้างวัดนั้นหลวงพ่อสงฆ์ได้อาศัยช้างพังเชือกหนึ่งชื่อ “บุญมา” ชักลากไม้มาสร้างวัด จึงได้สร้างรูปช้างไว้บริเวณกลางลานวัดไว้เป็นอนุสรณ์ถึงนับเป็นวัดที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตั้งอยู่เลขที่ 1 บ้านไผ่ขวาง ตำบลประศุก อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 18 ไร่
เรียบง่ายและงดงาม

6.เอษณะ เฟอร์นิเจอร์
เกวียนเล่มสวยๆ ที่ ศูนย์การเรียนรู้การเกษตรผสมผสาน และแหล่งเรียนรู้หัตถกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า สำหรับคนรักในงานไม้และอยากเป็นช่างไม้ ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือ เวลาเดียวกันก็ปรับรูปโฉมการจัดจำหน่าย พัฒนาเป็นศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ กับการรังสรรค์พื้นที่และรวบรวมความหลากหลายที่มีทั้งไม้เก่าจากเกวียน ปลวก เป็นส่วนที่ช่วยให้เกิดลายไม้ธรรมชาติ เมื่อปลวกแทนจนเหลือแต่เนื้อไม้ จะเป็นร่องน้ำ ซึ่งก่อให้เกิดลายที่สวยงาม
ของผลิตภัณฑ์   ที่ร้านมีแนวคิด ท่องเที่ยวชุมชนเอษณะ เฟอร์นิเจอร์

“สิ่งที่ผมทำงานไม้เก่านี้ผมได้ความคิดมาจากนายหลวง ร.9  ที่นำเศษไม้
มาประยุคให้มีคุณค่า โดยไม่ต้องทำลายธรรมซาติ “
-คุณเอ เจ้าของ เอษณะ เฟอร์นิเจอร์ กล่าว

เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ ที่พร้อมจะให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ ฝึกหัดทุกวัน ใครที่ต้องการอาชีพ หรือต้องการจะสั่งทำเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่เข้ามาเยี่ยมชม สามารถติดต่อเข้ามาได้ ที่คุณเอษณะ
สนใจเรียนหรือสนสินค้า
ติดต่อไปได้ที่ โทร. 081 3646385

ขอบคุณ ผู้ใหญ่บ้าน คุณกิจติศักดิ์ ยิ้มเสถียร  ม.10   อ.ประสุข จ.สิงห์บุรี
โทร. 098 453 2335

7. ท่องเที่ยวชุมชนบ้านโคกหม้อ
ที่บ้านโคกหม้อ ลักษณะตามชื่อเรียก หมู่บ้านที่มีลักษณะเป็นเนินดิน เป็นโคก เคยเป็นแหล่งเตาเผาโบราณมาก่อน จากประวัติด้านหน้าบอกเอาไว้ว่า เป็นแหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย ไฮไลท์ของที่นี่ ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์คือ ไหสี่หู ซึ่งหาได้ยาก ปัจจุบันมีตลาดนัด OTOP นวัตวิถี ภายในบริเวณวัด สามารถเดินเล่นชิม ช้อป สินค้าจากชาวบ้านได้ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ และเมื่อเดินเข้าสู่ด้านหลังของวัดจะพบพระปรางค์ ริมแม่น้ำน้อย มักเป็นที่จัดงานลอยกระทงและตักบาตรเทโวในช่วงวันออกพรรษา

ที่นี่  Toptotravel เราได้รู้จักกับ คุณป้าสอิ้ง เตรียมสมุนไพรสด หลายชนิดเพื่อทำลูกประคบ ป้าสอิ้ง หรือ หมออิ้ง ของชาวบ้านเล่าว่า หลังจากเกษียณราชการได้นำความรู้ความสามารถเรื่องสมุนไหรไทย ที่ต้องการถ่ายทอด ป้าสอิ้ง คิดว่า เรามีความรู้ก็อยากจะถ่ายทอด โดยเปิดบ้านเป็ฯโฮมสเตpและศูนย์การเรียนรู้เรื่องสมุนไพรไทย

คุณป้าสอิ้ง

โดยมีชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงให้ความสนใจเรียน  เพื่อนำไปประกอบอาชีพ โดยการเรียนเริ่มจากทฤษฎีทางกายภาพก่อน หลังจากนั้นจึงจะสามารถเริ่มเข้าสู่ปฏิบัติ หากสนใจใช้บริการสามารถไปได้ที่ศูนย์เรียนรู้บ้านสมุนไพร อยู่ใกล้ๆ ห่างจากวัดพระปรางค์ไม่เกิน 1 กิโล

8.ท่องเที่ยว ชุมชนบ้านท่าช้าง
ท่องเที่ยวชุมชนเที่ยวชม ชิม แชะ ที่ตลาดสองวัฒนธรรมไทย-จีนหมื่นหมื่นปี เป็นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำน้อยไหลผ่านล่องเรื่อรับอากาศดีกลางแม่น้ำน้อย เรือสำหรับพานักท่องเที่ยวนั่งชมบรรยากาศจะแล่นไกลไปถึงวัดพิกุลทอง สองข้างทางจะได้ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ช่วงเย็นตอนบ่าย ได้แสงยามเย็นที่งดงาม อบอุ่น ในช่วงเช้า จะได้ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่งดงามในยามเช้า และร่วมกิจกรรมพื้นที่ด้านนอกจัดเป็นที่นั่งแบบระเบียงชมวิว นั่งจิบเครื่องดื่มมองผู้คนที่ข้ามไปมาบริเวณสะพาน เป็นวิถีชีวิตที่ดูอบอุ่นและเรียบง่ายแวะมาเดินเล่นหาของอร่อยทานที่ตลาดก่อนได้ เป็นตลาดเล็กๆ มีอาหารที่ขึ้นชื่อของแต่ละพื้นถิ่นเป็นเสมือนกุญแจที่เปิดเข้าเรื่องราวของหมู่บ้าน ที่นี่ตกแต่งน่ารัก แบบซุ้มขายของมากมาย เดินเล่นแล้วได้อารมณ์แบบชาวบ้านเก๋ๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน

ตลาดสองวัฒนธรรม ไทย-จีน หมื่น หมื่น ปี
เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์

สำนักงานพัฒนาชุมชน จังหวัดสิงห์บุรี ได้จัดทำกิจกรรมสื่อมวลชนเยี่ยมชมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี (press tour)  และ สารคดีสั้น 5 นาที 24 ตอน การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวก การพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่น การส่งเสริมการตลาดชุมชนท่องเที่ยว

ขอบคุณโครงการ นวัตวิถีสิงห์บุรี Singburi Inno  Way โดย ทอดด์ ทองดี
กับเส้นทางการเที่ยวจากจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผลิตภัณฑ์โอทอป หรืออาหารที่ขึ้นชื่อของแต่ละพื้นถิ่น  เป็นเสมือนกุญแจที่เปิดเข้าเรื่องราวของแต่ละหมู่บ้าน โดยพิธีกร ทอดด์ ทองดี นำด้วยความสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์อาหารนี้คืออะไร?  ผู้นำที่เป็นบุคลากรดีเด่น หรือนักปราชญ์ของแต่ละหมู่บ้าน เพื่อตอบสนองความสงสัยของพิธีกร ด้วยการเล่าถึงที่มา ที่อยู่ และอนาคตของหมู่บ้าน  แล้วนำเข้าสู่รายละเอียดหรือการสาธิตการสร้าง การปรุงผลิตภัณฑ์โอทอป เมื่อเราได่เรียนรู้เรื่องราวและความเป็รมาของหมู่บ้านนั้นและผลิตภัณฑ์ OTOP ที่โดเด่นเด่น เชื่อมโยงถึงอนาคตความเป็นไปได้และ ศักยภาพของฃุมชนในแต่ละหมู่บ้าน ในจังหวัดสิงห์บุรี ได้อย่างน่าประทับใจ

จบทริปท่องเที่ยวสบาย 2 วัน ที่เมืองสิงห์บุรี สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสความรู้สึกเหมือนเรา   มาแล้วหลุดไปอยู่ในดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม และวีรชน เบิกบานใจกับสถานที่ท่องเที่ยว ในจังหวัดสิงห์บุรี วันหยุดพักผ่อนเส้นทางสายวัฒนาธรรมและประวัติศาตร์ของเมืองสิงหืบุรี เที่อยากให้ได้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

เค พาเลซ ฯ จัดโปรโมชั่นเอาใจลูกค้าไทยเที่ยวไทย ครั้งที่49

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่มองหาสถานที่จัดงานแต่งงานไม่ควรพลาด

แนะนำโรงแรมหรูๆ แต่ราคาถูกๆ ตั้งอยู่ใกล้เมืองทองธานีและศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แถวหลักสี่ ทีเค พาเลซ กรุงเทพ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น จัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่  แพ็คเกจงานแต่งลด 10 %  และห้องพักลดราคา 50 %  ในงาน ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 49

โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น มีทำเลอยู่ห่างจากอิมแพคเมืองทองธานีและศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะโดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ 10 นาที โรงแรมมีห้องพักปรับอากาศทันสมัย ปรับปรุงใหม่ เอาใจลูกค้า ด้วยราคาพิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่มองหาสถานที่จัดงานแต่งงานไม่ควรพลาด
Grand Convention Building อาคารจัดเลี้ยง งานแต่งงาน  ในส่วนของ
ห้องพัก ขณะนี้เปิดให้บริการทั้งหมด 280 ห้อง โดยแบ่งเป็น

Standard, Superior, Deluxe ในส่วนห้องจัดงานเลี้ยง สามารถ รับลูกค้าตั้งแต่กลุ่มเล็ก 30 คนขึ้นไป จนถึงกลุ่มใหญ่กว่า 800 คน มีกว่า 20 ห้อง

ทั้งนี้ การปรับปรุง เพิ่มอาคาร รองรับการเติบโต ตามความต้องการของลูกค้า ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งอาคารจัดงานเลี้ยง อาคารห้องพัก 100 ห้อง รองรับการจัดงานทุกรูปแบบ ห้องพักที่มีถึง 380 ห้อง พร้อมเปิดต้อนรับลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบในต้นปี 2562 ในส่วนของที่จอดรถ โรงแรมมีพื้นที่กว้างกวาง ทั้งในอาคารและลานจอดรถกลางแจ้ง รองรับได้เกือบ 500 คัน

พิเศษสุด สำหรับงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 49 แพ็คเกจงานแต่ง ราคาพิเศษ จองในงานรับส่วนลดทันที 10 %  ในส่วนของ ห้องพักมีโปรโมชั่น 2 แบบ
คือ  Deluxe และ Superior ลดถึง 50 %

พบกับโปรโมชั่นห้องพัก แพ็คเกจงานแต่ง ได้ที่
งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 49
ระหว่างวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2561 บูธ O09

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0 2574 1588, www.tkpalace.com,www.facebook.com /TKPALACEHOTEL

“SuperRich สีเขียว” รุกตลาดชานเมือง เปิดสาขาใหม่ พร้อมตอบโจทย์ชีวิตติจิทัล

Thailand Best Rate
ซุปเปอร์ ริช ไทยแลนด์ (สีเขียว) 
เปิดสาขาใหม่รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ

ซุปเปอร์ ริช ไทยแลนด์ (สีเขียว) ผู้นำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศมากว่า 50 ปี เน้นจุดแข็ง “Thailand Best Rate” เปิดสาขาใหม่รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ พร้อมตอบรับ Cashless society ด้วยบริการรับแลกเงินด้วย QR Code และบัตรเครดิต ทุกสาขา ให้การแลกเงินสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ธณัทร์ษริน สุสมาวัตนะกุล (คุณเจน)  กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาองค์กร บริษัท ซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยเดินทางออกนอกประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ซุปเปอร์ริช สีเขียว” จึงเปิดสาขาใหม่ล่าสุดที่ เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต ชั้น 3 โซนธนาคาร เป็น 13 สาขา ขยายพื้นที่ให้บริการจากใจกลางกรุง สู่กลุ่มลูกค้าในกรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันตก ไปถึงจังหวัดนนทบุรี เป็นความตั้งใจ ซุปเปอรืริช ไทยแลนด์ สีเขียว ที่จะดูแลและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ตรงใจที่สุด

นอกจากนี้ เทรนด์การขยายของตัวเมือง พร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีผลให้ไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้เงินของลูกค้าเปลี่ยนไป “ซุปเปอร์ริช สีเขียว” จึงเพิ่มช่องทางการบริการลูกค้าให้รวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเปิดบริการรับแลกเงินไทยเป็นเงินต่างประเทศด้วยระบบ QR Code ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม แลกได้สูงสุดถึง 300,000 บาท/วัน/พาสปอร์ต และบัตรเครดิต สำหรับจำนวนเงิน 10,000-30,000 บาท/วัน/พาสปอร์ต มีค่าธรรมเนียม 2.2% ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ในทุกสาขา
แล้ววันนี้

ซุปเปอร์ริช สีเขียว ยกระดับการบริการลูกค้าด้วยการขยายพื้นที่บริการ ประกอบกับใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างเข้มข้น เพื่อให้พนักงานสามารถมอบบริการที่รวดเร็ว ละเอียด ครบถ้วน เป็นมิตรกับลูกค้าที่เข้ามารับบริการ มีระบบการทำงานสอดคล้องกับการเคลื่อนตัวของเศรษฐกิจ รองรับไลฟ์สไตล์การใช้เงินของลูกค้าทั้งรูปแบบเงินสด และแบบไร้เงินสดในอนาคต และยังมีช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด

สัมผัสประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในอัตราที่ดีที่สุด พร้อมการให้บริการที่ประทับใจได้แล้ววันนี้ ที่ ซุปเปอร์ริช สีเขียว
ทั้ง 13 สาขา

ซุปเปอร์ริช ไทยแลนด์ (สีเขียว) แลกเงิน THB เป็นสกุลเงินต่างประเทศเรทเดียวกันทุกสาขา แลกเงินไทยเป็นเงินต่างประเทศด้วยบัตรเครดิต กับซุปเปอร์ริชไทยแลนด์ (สีเขียว)เช็คเรทแบบเรียลไทม์ได้ที่
http://bit.ly/SuperrichTH-facebook-rate หรือ App SuperrichTH
iOS : bit.ly/SuperrichTH-ios
Android : bit.ly/SuperrichTH-android

บริการสั่งจองเงินล่วงหน้า ได้ที่
Call center 02-254-4444
ช่องทางออนไลน์
Line@ / Facebook / Twitter / Application : SuperrichTH
www.superrichthailand.com

#ซุปเปอรืริชไทยแลนด์สีเขียว #SuperrichTH
#ThailandBestRate #SuperrichLife

 

1 ปีมีครั้งเดียว จัดใหญ่ แจกเยอะ กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ

ฉลองเดือนเกิดคิง เพาเวอร์
KingPower Delights And Surprises

ฉลอง 29 ปี คิง เพาเวอร์ จัดใหญ่ แจกเยอะ ตลอดเดือนตุลาคม
เปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ในคอนเซ็ปต์นักเดินทางบนเรือสำราญสุดหรู
คิง เพาเวอร์ ฉลองครบรอบ 29 ปี จัดใหญ่ แจกแยอะ ลดราคาครั้งใหญ่ในรอบปี สูงสุดถึง  30%  พร้อมความบันเทิงจากศิลปินชื่อดังมากมาย

อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นประธานเปิดงาน “29th Anniversary Delights & Surprises” ฉลองครบรอบ 29 ปี คิง เพาเวอร์ อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงความขอบคุณและคืนกำไรให้แก่ลูกค้าขาช็อปที่อยู่เคียงข้างกันอย่างยาวนาน

คิง เพาเวอร์ จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้งาน “29th Anniversary Delights & Surprises” ซึ่งมาในคอนเซ็ปต์ “Enchantment of the Cruise Where Celebration Sets Sail”
เพื่อแทนคำขอบคุณให้แก่ลูกค้าที่ให้การสนับสนุน คิง เพาเวอร์ เสมอมา
โดยมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษและของรางวัลต่าง ๆ มากมาย

งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 ตุลาคม 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, ศรีวารี, พัทยา และภูเก็ต พิธีเปิดงานจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 18 ตุลาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป  ณ บริเวณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

โดยไฮไลต์ในงานจะได้พบกับโชว์มิวสิคัลแดนซ์จาก หญิง–รฐา โพธิ์งาม และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ทอม Room39 ที่จะมาสร้างความบันเทิงให้กับทุกท่านอย่างเต็มอิ่ม พร้อมกับโปรชั่นสุดพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย

มาร่วมงานในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข พร้อมช้อปแล้วรับโปรโมชั่นสุดคุ้มที่ไม่ควรพลาด วันนี้ ถึง 21 ตุลาคม 2561
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

#KingPowerDelightsAndSurprises
#DelightsAndSurprises2018
#WeAreTravellersToo
#ExploreEndlessly
#KingPower

ทริคดูแลตัวเองจนสวยเกินหญิง

ประสบการณ์ใหม่ที่ Diva Nails & Lashes

สัปดาห์นี้ แอดมินนึกสนุก ชวนสาวๆ มาเปลี่ยนลุค  ทริคดูแลตัวเองจนสวยเกินหญิง ใครบอกหน้าแน่นต้องใช้เวลานาน  มาสลัดความเปรียวเผ็ดร้อนแบบสาวรุ่นใหม่ ชวนการต่อขนตาแบบหวานใส  หวานละมุนและดูเด็กอยู่เสมอ เพราะความสวยทำให้สาวๆมั่นใจและได้เปรียบหลายอย่าง เราก็ไม่
ใช่คนสวยนะคะ แต่คิดเสมอว่า ความสวยจะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น

การต่อขนตาไม่เป็นอันตรายคะ!  การต่อขนตาไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
ที่สำคัญที่สุด ควรเลือกร้านที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญ ทีมช่างมีประสบการณ์โดยตรงและความชำนาญด้านการต่อขนตา เครื่องมือและร้านสะอาด  ต้องปลอดภัย เพราะเรื่องตาเรื่องใหญ่ต้องเลือก ต่อแล้วออกมาสวยตาหวาน Natural look ที่ทำให้ everyday look sweet

เหตุผลที่ควรต่อขนตากับ  Diva Nails & Lashes ซาลอน เป็นร้านต่อขนตาในเครื่อเดียวกับ Lashury   ได้รับการรับรองจากญี่ปุ่นว่า ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย มีความเป็นธรรมชาติ  คุณภาพใกล้เคียงกับขนตาจริงมากๆ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นปลอดภัย และอ่อนโยนต่อดวงตา

การต่อขนตา หลายคนอาจเข้าใจผิด ที่ชื่อบอกว่าถาวร อยู่ได้นานตลอดไป แต่จริงๆ แล้ว ขนตาที่ต่ออยู่ได้นานหรือไม่ ขึ้นอยู่ตามวิธีการดูแลรักษาตามคำแนะนำของพนักงานผู้เชี่ยวชาญ และขึ้นอยู่กับกาวต่อขนตา และกาวต่อขนตามีความคงทน ปลอดภัย สวยงามเป็นธรรมชาติ ต่อแล้วสามารถอยู่ได้ ประมาณ 3 สัปดาห์ ใช้ระยะเวลาในต่อขนตาประมาณ 1 ชม. ระหว่างต่อหลับ พักผ่อนสบายๆ วิธีการต่อขนดา แบบเส้นต่อเส้น  ซึ่งใช้ละเอียดความปราณีตและอุปกรณ์ที่ใช่้นำเข้าจากต่างประเทศ การต่อเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก

มีข้อสงสัยที่ช่วงแรกบอกว่า การต่อขนตาถาวร หลายคนอาจเข้าใจผิด ชื่อบอกว่าถาวร อยู่ได้นานตลอด แต่ที่จริงแล้วขนตาที่ต่ออยู่ได้นานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลรักษาของเราค่ะ และขึ้นอยู่กับกาวที่ใช้ต่อขนตา

  • ขนมิ้งแท้เกรดพรีเมียม 100%
  • ชนิดของกาวที่ใช้ต่อขนตา
  • ความชำนาญของพนักงาน
  • ความสะอาดและความปลอดภัย

การต่อขนตาเป็นทางเลือกกับสาวยุคใหม่ที่เร่งรีบ ตอนนี้ในบิวตี้โซน มีร้านต่อขนตาและทำเล็บ  Diva Nails & Lashes  ร้านนี้งามตรงที่มีเครื่องดีไซน์เล็บ  มีลายให้เลือกเยอะน่ารักเต็มไปหมด  ใช้เวลาทำไม่นาน  เล็บออกมาอย่างน่ารักมากๆ   มีให้บริการทั้งทาสีเล็บธรรมดา สีเจล ต่อเล็บ  ถอดเล็บ แถมต่อขนตาอีก ดีต่อใจราคาเป็นมิตร พนักงานให้บริการดี  บอกเลยว่ามา
ใช้บริการครั้งเดียวติดใจที่นี่แน่นอน

สาวๆ สามารถมาใช้บริการต่อขนตาและรับบริการทำเล็บ สวยที่เดียวจบครบวงจร วันนี้ Diva Nails & Lashes มีNail art ลายใหม่สุดคิ้วท์ Sanrio ลิขสิทธิ์แท้ส่งตรงจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น คิตตี้ (Kitty) มาย เมโลดี้ (My Melody),  กีกี้  ลาล่า (Little Twin Stars)

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า Lashury   แจ้ง Promotion code  #Divainail
รับส่วนลดบริการทำเล็บทุกรายการ 30% + ฟรีปริ้นท์เล็บ Inail 1 นิ้วดีไซน์พิเศษนี้เฉพาะเดือนตุลาคมนี้  เท่านั้น

Diva Nails & Lashes ปลอดภัย ไม่แพง ต่อแล้วขนตางอนสวยเด้ง !
พิกัดร้าน : Diva Nails & Lashes ชั้น 1 บิวตี้โซน เซ็นทรัลลาดพร้าว
จองคิว/สอบถามข้อมูล 095-7037-200
Line ID : 0957037200
#ต่อขนตา #lashury #ร้านต่อขนตา #eyelashextensions  #eyelashsalon

จ.อุบลฯ ปักหมุดจุดหมายใหม่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี

‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’
4 ชุมชนใน อ.ตาลสุม

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สำหรับโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP  นวัตวิถี    ‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’ อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดย นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ณ ริมสระบัว บ้านห่องแดง ต.นาคาย อ.ตาลสุม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดที่ได้รับความนิยมจากประชาชนและนักท่องเที่ยว มาเดินชมทุ่งนาบัว ถ่ายรูปบนสะพานไม้ เช็คอิน และแชร์ภาพอย่างแพร่หลายอยู่ในขณะนี้

​อ.ตาลสุม อยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีไปทางทิศตะวันออกประมาณ 34 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีต้นตาลจำนวนมากอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล จึงเรียกบริเวณนี้ว่า ‘ตาลชุม’ ต่อมาเพี้ยนเป็น ‘ตาลสุม’ มีคำขวัญประจำอำเภอว่า 

“ผ้าห่มงาม ข้าวหลามรสดี มากมีลูกตาล หวานมันฝักบัว”  โดยมีชุมชนเป้าหมายในโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’ 4 ชุมชน ประกอบด้วย บ้านห่องแดง, บ้านสำโรงใหญ่, บ้านคำหว้า และบ้านนามน

 

​“บ้านห่องแดง ต.นาคาย” เป็นชุมชนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางธรรมชาติ
ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยต้นตาล ซึ่งให้ลูกตาลรสชาติดีตลอดทั้งปีจนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของชุมชน นอกจากภาพทุ่งนาเขียวขจีที่รายล้อมด้วยต้นตาลแล้ว ล่าสุด ‘ทุ่งนาบัวบ้านห่องแดง’ ก็กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่
ที่ดึงดูดผู้คนมาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย เป็นโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ OTOP บ้านห่องแดง ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดอกบัว ได้แก่ น้ำนมเม็ดบัว โดนัทเม็ดบัว ลูกประคำเม็ดบัว ดอกบัวแห้ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น หมวกสาน เสื่อจากใบเตย เสื่อผือ
กระติ๊บข้าว ตาลสดอ่อน และขนมตาล สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจลิ้มรสอาหารพื้นถิ่นของบ้านห่องแดง ต้องไม่พลาดชิม 5 เมนูเด็ด ได้แก่ ยำผัก
จากเม็ดบัว ต้มไก่บ้านใส่ใบมะขาม ปลาทอด ส้มตำ และบัวลอยแก้ว

​“บ้านสำโรงใหญ่ ต.สำโรง” เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงด้านการอนุรักษ์งานพุทธศิลป์ด้วยฝีมือการวาดภาพพุทธประวัติที่มีสีสันสวยงาม โดยมีการจัดตั้งกลุ่มผลิตผ้าผะเหวด หรือผ้าวาดภาพพระเวสสันดรชาดก ซึ่งถือเป็นงานหัตถกรรม OTOP ที่ขึ้นชื่อและได้รับการยอมรับทั้งในท้องถิ่นและในระดับจังหวัด สอดคล้องกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางจิตใจ นั่นคือ หลวงพ่อพระเจ้าใหญ่ประทานพร วัดสำโรงใหญ่ ที่คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร ขณะที่ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีชื่อเสียงนอกจากผ้าพระเวสสันดรชาดกแล้ว ยังมีกรอบพระ เครื่องจักสาน ผ้าห่มนาโน  พรมเช็ดเท้า พริกป่นแปรรูป แจ่วบอง กล้วยฉาบ และมะยมเชื่อม ส่วนเมนูพื้นบ้านที่คนใ
นชุมชนพร้อมเสิร์ฟนักท่องเที่ยว ได้แก่ แกงหน่อไม้ ต้มไก่บ้าน ป่นปลา-นึ่งผัก แจ่วบอง และข้าวเม่าคลุกมะพร้าวอ่อน

​“บ้านคำหว้า ต.คำหว้า” เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่โดดเด่นด้านการดำเนินชีวิตตามวิถีพอเพียง ทรัพยากรทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ถูกนำมาแปรรูปเป็นของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันก็กลายเป็นสินค้า OTOP หลากหลายประเภทที่สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างน่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็น ไม้กวาดทางมะพร้าว กระเป๋าผ้าฝ้าย ผ้ารองแก้ว พรมเช็ดเท้า เสื่อทอ เปล ยาหม่อง น้ำมันเขียว รวมไปถึงงานสานพลาสติก ได้แก่ พัด ตะกร้าสาน ส่วนเมนูอาหารพื้นถิ่นที่ชาวบ้านคำหว้าตั้งใจจัดให้นักท่องเที่ยวชิม ได้แก่ ต้มไก่บ้าน แกงหน่อไม้ ป่นปลา แจ่วบอง น้องนางทรงเครื่อง (ไข่ตุ๋น) และน้องนางรอดรู (ลอดช่อง)

 

​“บ้านนามน ต.ตาลสุม” เป็นชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำมูล คนในชุมชนส่วนใหญ่จึงออกหาปลาเป็นอาชีพหลัก และสืบสานภูมิปัญญาทางหัตถกรรมจากรุ่นสู่รุ่น พัฒนาต่อๆ กันมาจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ที่น่าสนใจ ได้แก่ ตะกร้าจากไม้ไผ่ ตะกร้าจากพลาสติก เบาะรองนั่ง ผ้ารองจาน ผ้ารองแก้ว เปลผ้า กระเป๋าผ้า ผ้าห่ม พรมเช็ดเท้า และไม้ถูพื้น ขณะเดียวกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสรสชาติอาหารพื้นถิ่น ชาวบ้านนามนจึงได้จัดสำรับเด็ดมาโดยเฉพาะ ได้แก่ ลาบปลา ยำน้องแก้ว (ปลาแก้ว) สิบล้อยกล้อ (ปูนาทอด) ป่นปลา-ลวกผัก ไข่หน้ามน (ไข่เจียว) และนารีจำศีล (กล้วยบวดชี)

ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานีมุ่งหวังว่าโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน จะสร้างรายได้แบบกระจายตัวทั่วถึงทั้งชุมชน และพัฒนาศักยภาพทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

 

สนใจสอบถามข้อมูลชุมชนท่องเที่ยวได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอตาลสุม โทรศัพท์ 081-8234131

อโนทัย ร้านหวานใจของคนรักเนื้อ!

Arno Thai อโณทัย ร้านอาหารจานด่วน
ที่เราสามารถไปกินได้ทุกวัน!

ส่งต่อความหมายใหม่ที่ซ่อนเอาไว้ในชามก๋วยเตี๋ยวส่งต่อความหมายใหม่
ที่ซ่อนเอาไว้ในชามก๋วยเตี๋ยว เมื่อ ร้านขายเนื้อ แอนด์ สเต๊กเฮ้าส์  อย่าง Arno’s Butcher and Eatery มาเพิ่มเติมความอร่อยแบบไทยๆ ชื่อร้านเก๋ไก๋ สไตล์ อโณทัย (Arno Thai) โดยที่ร้านนี้มี 2 เมนู อย่างก๋วยเตี๋ยวและผัดกระเพราหลากชนิด

ร้านล่าสุดในเครือ Arno’s Butcher and Eatery ซึ่งนอกจากเนื้อสเต็กและอาหารทะเล ที่มีให้เลือกหน้าร้านตามปกติแล้ว ยังมีเมนูยอดฮิต  อย่างก๋วยเตี๋ยวเนื้อ-หมู และผัดกะเพราต่างๆ

วันนี้เรามาที่สาขาที่ 2 พิกัดสาขานี้อยู่ที่ สุคนธสวัสดิ์ 28 คนรักเนื้อฟินจนถึงขีดสุดอาหารมีกลิ่นหอม เคล็ดลับความอร่อยของทางร้านเริ่มจากการคัดเนื้อวัวคุณภาพดี ใช้ร้านเนื้อเจ้าประจำจาก Arno’s Butcher and Eatery

Arno Thai นอกจากก๋วยเตี๋ยวก็ยังมีผัดกะเพรา เราเลือกสั่งก๋วยเตี๋ยว เราสามารถจับคู่เส้นกับเนื้อได้ตามใจชอบ เนื้อมีให้เลือกหลายประเภท ทั้งเนื้อเปื่อย เนื้อน่องลาย เอ็นแก้ว ซี่โครงติดกระดูก และเนื้อปาเลรอง (Paleron)

ส่วนผัดกะเพราเนื้อสะโพกที่หั่นเนื้อมาเป็นชิ้นขนาดลูกเต๋าเต็มปากเต็มคำแอบกระซิบบอกว่าหากไม่ชอบรสเผ็ดจัดก็สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ 4 แบบ

Arno’s Butcher and Eatery ร้านขายเนื้อและสเต๊กเฮาส์คุณภาพใน ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 20 เจ้าของร้านชาวฝรั่งเศสอย่าง อาร์โนด์ คาร์เร ผู้อยู่เมืองไทยมานาน

Arno Thai เมื่อเนื้อดีไม่จำเป็นต้องแพง เอามาผัดกะเพราหรือใส่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อก็อร่อยนอกจากจะเป็นร้านอาหารแนวไทยริมทาง ร้านขายเนื้อที่ทุกคนสามารถซื้อกลับบ้านแบบเดียวกับที่ Arno’s  สาขานี้ตั้งอยู่ที่ซอยสุคนธสวัสดิ์ 28 ร้านอยู่ปาก ซอย สามารถจอดรถได้ที่ลานข้างหลังร้าน

พิกัด:
ร้านอโณทัย : สาขาสุคนธสวัสดิ์ 28
เวลาเปิดปิด 11.00-20.00​น.
มีที่จอดรถด้านใน
arno.thai@arnosgroup.com
http://www.arnosgroup.com

12 ปี 12 กิจกรรม ฉลองครบรอบโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต

ในโอกาสที่ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เปิดดำเนินการครบ 12 ปี ทางโรงแรม  นำโดย มร. คริสตอฟ เจอโฟรย์, ผู้จัดการทั่วไป ร่วมกับ กิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที  จัด 12 กิจกรรม  ฉลองโอกาสพิเศษ
ดังกล่าว อาทิ “คุณคือฮีโร่”

จัดกิจกรรมเยี่ยมชมโรงแรมให้กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ อาทิ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยรังสิตและมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
มร. เจอโฟรย์และจิตติมาศ เกตุวรวิทย์ (กลาง) กรรมการผู้จัดการ กิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที

เพื่อเปิดประตูต้อนรับบุคคลสำคัญ (ฮีโร่) ในบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ได้ให้การดูแลเป็นอย่างดีตลอดมา โดยทางโรงแรมได้เชิญบุคคลสำคัญ อันได้แก่ ฝ่ายมาตรฐานท่าอากาศยานและชีวอนามัย, ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ฝ่ายตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ฝ่ายแพทย์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ตำรวจภูธร, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรรณภูมิ ฯลฯ

บุคคลสำคัญจากฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เชิญกลุ่มซูเปอร์คาร์มาสังสรรค์ ซันเดย์บรั๊นซ์ (Sunday Brunch) ที่ ทัชดาวน์สปอร์ตบาร์ (Touchdown Sports Bar)

แขกรับเชิญพิเศษได้แก่วงดนตรีอีทีซี  และ “หนิง” ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา มาสร้างความสนุกสนานและความบันเทิง ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องสุวรรณภูมิแกรนด์บอลลูม  โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต กิจกรรมอื่น ๆ  ประกอบด้วย การเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน จำนวนกว่า 200 คนจากโรงเรียนเศรษฐเสถียรในพระราชูปถัมภ์, จัดกิจกรรมเยี่ยมชมโรงแรมให้กับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
งานเลี้ยงขอบคุณพนักงาน, ซูเปอร์คาร์บรั๊นซ์ ที่ทัชดาวน์สปอร์ตบาร์, ฯลฯ

กิจกรรมสัญจรหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อุตรดิตถ์

ขับรถผ่านอยู่หลายรอบ อุตรดิตถ์
วันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปแล้ว

จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดอุตรดิตถ์ กิจกรรมสื่อมวลชนเยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์
ดินแดน 3 วัฒนธรรม(ล้านนา ล้านช้าง ไทยกลาง) เสริมสร้างชุมชนให้มีความเข็มแข็ง เพิ่มรายได้ชุมชน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จำนวน 9 อำเภอ 28 หมู่บ้าน

โครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรวมตัวของการท่องเที่ยวระดับชุมชน ‘แอ่งเล็ก’ สร้างเป็นอาชีพที่ยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมบวกกับวิถีชีวิตของชุมชน ยกเสนห์ความงดงามของท้องถิ่น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี และอาหาร พัฒนาเป็น อัตลักษณ์ของชุมชน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวซื้อสินค้าในชุมชน ทำให้รายได้กระจายอยู่ในชุมชน

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 61 สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดอุตรดิตถ์ กิจกรรมสื่อมวลชนเยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ ดินแดน 3 วัฒนธรรม(ล้านนา ล้านช้าง ไทยกลาง) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม 2561

เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสารการดำเนินงาน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ของจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยสื่อมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย สื่อส่วนกลางและสื่อท้องถิ่น มีพื้นที่เป้าหมายในการศึกษาดูงาน ได้แก่ อำเภอพิชัย บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก ทหารคู่ใจพระเจ้าตากสิน / ชมประเพณีหาบจังหัด ที่อำเภอตรอน / อำเภอฝากท่า เภอบ้านโคก ชุมชนทอผ้ามัดหมี่ ชื่อดัง / อำเภอน้ำปาด แวะสักการะพระอกแตก หนึ่งเดียวในโลก และเชคอินสะพานร่วมใจที่ชาวชุมชนพร้อมใจกันทำสะพานไม้ขัด กลางทุ่งนา ธรรมชาติ เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แล้วจะรู้ว่ามีบางสิ่งอธิบายทุกอย่างไว้ลงตัวหมดแล้ว

จังหวัดอุตรดิตถ์ มีชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น เป็นดินแดน 3 วัฒนธรรม คือล้านนา ล้านช้าง และ ไทยกลาง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมและใช้จ่ายได้ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ที่สามารถสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสเสนห์ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และช่วยเสริมสร้างรายได้ ให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

พาไปชมความคึกคัก จุดเช็คอิน 3 ชุมชน เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง

เปิดจุดเช็คอินชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อ.ศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี

โครงการชุมชนท่องที่ยว OTOP นวัตวิถี ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของจังหวัดอุบลราชธานี  ตอนนี้กำลังเดินหน้าไปอย่างคึกคัก ล่าสุด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี จัดกิจกรรมเปิดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีและสื่อมวลชนเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน ‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’ ณ วัดศรีบุญเรือง บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่

โดย 3 ชุมชนในเส้นทางนี้ ประกอบด้วย บ้านคำบง บ้านนาเลิน และบ้านดงนา ต่างพร้อมใจกันมาแนะนำชุมชนแบบจัดเต็ม ทั้งการแสดงพื้นบ้าน การออกบูธผลิตภัณฑ์ OTOP และการสาธิตงานฝีมือต่างๆ

อ.ศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี

​เริ่มจาก “บ้านคำบง ต.สงยาง” อีกหนึ่งชุมชนต้นทางเส้นทางธรรม เพราะนอกจากจะเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวัดป่าแล้ว ท่านยังได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีบุญเรืองด้วย ที่บ้านคำบงจึงมีทั้งอนุสรณ์สถานบ้านเกิด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพุทธอุทยานบ้านคำบง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต องค์ใหญ่ที่สุดในโลก  ขนาดหน้าตัก 16 เมตร สูง 29 เมตร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้มาสักการะบูชา​ด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ให้นักท่องเที่ยวได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แล้วจะรู้ว่ามีบางสิ่งอธิบายทุกอย่างไว้ลงตัวหมดแล้ว

ผลิตภัณฑ์ OTOP ของบ้านคำบงส่วนใหญ่จึงเป็นงานแปรรูปจากธรรมชาติรอบตัว ได้แก่ เครื่องจักสานไม้ไผ่ เตียงไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์จากกะลา พวงกุญแจไม้มะขาม สบู่ หน่อไม้ส้ม หน่อไม้ถุง เป็นต้น ขณะที่สำรับอาหารที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ ลาบนางเซ (ลาบปู) ซุปนางดิน (ซุปหน่อไม้) แจ่วบอง และขนมต่างๆ อาทิ ขนมดอกจอก ทองม้วน และกล้วยบวดชี

บ้านคำบง ตำบลสงยาง อำเภอศรีเมืองใหม่ เป็นบ้านเกิดของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พื้นที่บริเวณตรงนี้ ก็คือ เป็นที่ดิน เป็นสถานที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยของครอบครัว หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

“บ้านนาเลิน ต.นาเลิน” เป็นชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะในวนอุทยานน้ำตกผาหลวง ซึ่งมีน้ำตกผาหลวงอันสวยงาม และมี ‘ผาหม้อ’ สามารถสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสเสนห์ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และช่วยเสริมสร้างรายได้ ให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

วนอุทยานน้ำตกผาหลวง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี มีความโดดเด่นในเรื่องของลักษณะภูมิประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยเทือกเขาติดต่อกันคือ ภูแผงม้า มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 399 เมตร ภูพระทราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 392 เมตร ภูหมีเยี่ยม มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 362 เมตร ภูผักหวาน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 282 เมตร ซึ่งภูเขาเป็นลักษณะสูงชัน และมีที่ราบเป็นลานหินบนเขา

ที่ตั้งของเสาเฉลียงรูปร่างคล้ายหม้อดินโบราณ  นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ รวมทั้งจุดชมวิววัดภูกุ้มข้าว ซึ่งล้วนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่น่าสนใจ

​ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่น่าสนใจของบ้านนาเลิน ได้แก่ ไม้กวาดหญ้าหางเสือ สาดเตยหรือเสื่อที่ทำจากใบเตย ตะกร้าสานจากซองกาแฟ ตะกร้าสานจากไม้ไผ่ เปลไม้ไผ่ ชิงช้าไม้ หน่อไม้ดอง หน่อไม้ถุง หน่อไม้ดอง แจ่วปู และปลาแดดเดียว ส่วนสำรับอาหารที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวลิ้มรส ได้แก่ หอยหอม ซุปหน่อฟ้าท้าลุย (ซุปหน่อไม้) นึ่งนางหนีบ (ปูนึ่ง) แกงนักเลงพื้นบ้านใส่หน่อฟ้าท้าลุย (แกงไก่หน่อไม้) หลามปลาจอมพลัง (ปลาช่อนกระบอกไม้ไผ่) และหนุมานคลุกฝุ่น (ข้ามต้มคลุกมะพร้าว)

​ปิดท้ายที่ “บ้านดงนา ต.หนามแท่ง” ชุมชนเล็กๆ ริมแม่น้ำโขง เจ้าของคำขวัญ ‘วัดสวนหินผานางคอย ลอยเรือไปออกพรรษา ล้ำค่าปลาน้ำโขง เชื่อมโยงดินแดนไทยลาว’ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวในชุมชนได้ครบถ้วน เพราะจุดแรกที่เป็นเหมือนประตูบ้านดงนาก็คือ วัดสวนหินผานางคอย บนยอดเขาที่เป็นลานหิน มีหน้าผาสูงชันชื่อ ‘ผานางคอย’ ตามตำนานรักอมตะเล่าว่า หญิงสาวสูงศักดิ์แห่งเมืองจำปาสัก มานั่งคอยสามีที่ผาแห่งนี้ทุกวัน แต่ในที่สุดนางก็ได้ข่าวสามีเสียชีวิตในสนามรบ นางจึงเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

​ถัดลงไปจากวัดสวนหินผานางคอย เป็นที่ตั้งของบ้านดงนา ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการประมง แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการชมวิวสองฝั่งโขง ก็สามารถใช้บริการล่องเรือได้จากท่าเรือในชุมชน ก่อนจะขึ้นฝั่งมาช้อปผลิตภัณฑ์ OTOP ได้แก่ ผ้าพันคอผ้าฝ้าย ผ้าคลุมไหล่ผ้าฝ้าย ผ้าห่มนวมยัดฝ้าย เชือกผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า ตะกร้าสานไม้ไผ่ พิมเสนน้ำ น้ำยาล้างจานจากใบย่านางและว่านหางจระเข้ ลานจับปลา และสาดเตย เป็นต้น พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูพื้นถิ่น ได้แก่ คั่วนักร้องริมโขง (คั่วจิ้งหรีด) ต้มยำปลา ลาบปลา หมกปลาร้า และห่อหมก

สนใจสอบถามข้อมูลชุมชนท่องเที่ยวได้ที่
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีเมืองใหม่ โทรศัพท์ 081-8234293

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น