Category Archives: Event

ร้านอาหารฝรั่งเศส อเล็กซ์ บราสเซอรี่ แอนด์ บาร์ : Alex Brasserie& Bar

เชฟ อาโนลด์ ดรูวิลล์ (Arnaud Drouvillé)
ผู้คิดค้นเมนูอาหารที่สั่นสะเทือน  วงการอาหารฝรั่งเศส

นับเป็นเวลากว่าสิบปี หลังจากการเปิดตัวของร้าน บิสโตรเมเนีย (Bistromania) ซึ่งเป็นกระแสหนึ่งในร้านอาหารยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ  และร้านอาหารคลื่นลูกใหม่ ย่านสุขุมวิท ซอย 11 ก็ไม่เปิดตัวใหม่ในรูปแบบร้านอาหารฝรั่งเศสระดับพรีเมี่ยมดั้งเดิมแนว บราสเซอรี่ (Brasserie)

ในค่ำคืนของวันที่ 5 เดือนเมษายน 2560 บนถนนสุขุมวินซอย 11 เป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะต้องมาเยือนเพื่อลิ้มลองอาหารอันเลิศรสไปพร้อม ๆ กับดื่มด่ำบรรยากาศ nightlife แลนด์มาร์คแห่งใหม่ Grand Opening อเล็กซ์ บราสเซอรี่ (Alex Brasserie) เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่พร้อมเสริฟคุณด้วยอาหารอินเตอร์หลากหลายชนิด และเป็นจุดนัดพบสังสรรค์รับประทานอาหาร หรือเป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ ด้วยการผสมผสานของร้านอาหารฝรั่งเศสระดับพรีเมี่ยมดั้งเดิมและบาร์ได้อย่างกลมกลืน จุดประกายความสนุกสนานด้วยเสียงเพลงในราคาที่เป็นมิตร

ในเซ็ปท์ art-de-vivre ซึ่งตรงมาจากประเทศฝรั่งเศสแท้ บนพื้นที่กว่า 600 ตร.ม. ประกอบด้วย ส่วนร้านอาหาร บาร์ และเล้าจ์ เตรียมพร้อมพบกับการรังสรรค์เมนูอาหารจากเชฟมืออาชีพ เครื่องดื่มคุณภาพที่คิดค้นและรักษามาตรฐาน โดยบาร์เทนเดอร์ผู้มากประสบการณ์ และนักดนตรีอาชีพ การจัดพื้นนั่งให้มีทั้งภายใน และภายนอกร้าน รวมกันประมาณ 170 ที่นั่ง และเคาน์เตอร์บาร์ ที่จัดวางอย่างโดดเด่นลงตัว สร้างมุมมองแบบพาโนรามา มองเห็นได้จากทุกทิศทาง การเลือกใช้วัสดุตบแต่งผิวเป็นคอนกรีตเปลือย โลหะ และตัดกับไม้สร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นขึ้น จัดวางเก้าอี้หนังสีม่วงเบอร์กันดี สไตล์นิวยอร์กอินดัสเตียรลอฟท์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และกระตุ้นความอยากอาหารโดยการทำครัวเป็นแบบเปิด สามารถมองให้ขั้นตอนการทำอาหารผ่านหน้าต่าง กระจกใส

ร้านอเล็กซ์ บราสเซอรี่ บริหารงานโดยเชฟจากประเทศฝรั่งเศส เชฟ อาโนลด์ ดรูวิลล์ (Arnaud Drouvillé) ผู้มีประสพการณ์ในตำแหน่งเอ็กซ์เซ็คคูทีฟเซฟจากร้าน Masaharu Morimoto ร้านเซฟกระทะเหล็กชื่อดัง ผู้คิดค้นเมนูอาหารที่สั่นสะเทือนวงการอาหารฝรั่งเศส โดยการรังสรรค์อาหารอาหารฝรั่งเศส สไตล์ฟิวชั่นโฮมเมด แบบผสมผสาน ที่ทุกท่านต้องประทับใจ


ด้วยพรสวรรค์ของ เชฟ อาโนลด์ ผู้นำวัตถุจากแหล่งเมอริเตอร์เรเนียนมาผสมผสาน กับรสชาติความเป็นอาหารไทย อย่างลงตัวโดยคงรสชาติดั้งเดิมไว้ กลายเป็นซิกเนเจอร์ประจำตัวของเชฟ ทั้งเมนู Pizza Beef Carpaccio และอีกหลากหลายเมนูประยุกต์แบบสร้างสรรค์ เช่น การนำสลัดแบบเวียดนามกับน้ำตกหมูมารวมกันเสริฟพร้อมสปริงโรลเป็นต้น”

และอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาด คือ สเต็กเนื้อลูกวัว แฮม และชีสจากสวิสเซอร์แลนด์ กับเห็ดและมะเขือเทศ มาอบรวมกัน ในแบบของฝรั่งเศสจากสูตรของ เชฟ อาโนลด์ ซึ่งเป็นการนำเนื้อส่วน Short Ribs 1.5 กก. ไปปรุงผ่านระบบสูญญากาศ (Vacuum) 48 ชั่วโมง กับโรสเมรี่ เกลือ และพริกไทย เสริฟพร้อมมัสตาร์ด ผักดอง ผลเบอร์รี่ เป็นเมนูสำหรับสองท่าน เหมาะสำหรับคนรักเนื้อพลาดไม่ได้ สำหรับเมนูของหวานนั้น เชฟ อาโนลด์ ได้นำศาสตร์แห่งศิลปะมาดึงดูดสายตา โดยการนำซอสผลไม้หลายสี มารังสรรค์เป็นงานศิลปะบนจานอาหาร พร้อมไอศครีมและช็อคโกแลตหลากหลายชนิดมาให้ลิ้มลอง

ทุกเมนูที่ร้าน นำเสนอให้ลูกค้าทุกท่านในราคาที่เหมาะสม โดยเฉลี่ยจะน้อยกว่า 1,000 บาทต่อท่าน และราคาเซ็ทอาหารกลางวันจะอยู่ที่ท่านละ 300 บาทเท่านั้น เชฟ Arnaud ได้กล่าวว่า “ปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหารคุณภาพดี ในราคาไม่แพง ทางร้านจึงต้องการนำเสนออาหารคุณภาพที่ดีเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม ด้วยแนวคิดที่อยากจะนำเสนอมื้ออาหารค่ำที่เข้าถึงได้ทุกคน โดยวัตถุดิบของที่ร้านเน้นใช้ที่มีในประเทศ และมีบางส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งมีการตรวจสอบและอัพเดทกันทุกๆสามเดือน”

โซนเคาน์เตอร์บาร์ นำเสนอซิกเนเจอร์ค็อกเทลทั้งห้าสูตรใหม่ โดยบาร์เทนเดอร์ผู้มีประสพการณ์ พร้อมเสริฟเครื่องดื่มในราคาเหมาะสม อาทิเช่น แชมเปญ เบียร์ ไวน์ และค็อกเทล ตลอดค่ำคืน พร้อมร่วมสนุกสนานไปกับเสียงเพลงจากดีเจระดับแถวหน้าของเมืองไทย ที่เปิดแสดงสดตั้งแต่เวลา 21:30 ถึง 01:30 น. ตัวอย่างเช่น วันอาทิตย์ พบกับ Soon to be Hip-hop & RnB night

พบกับอาหารรสเลิศที่มีการผสมผสานรสชาตกันอย่างลงตัว กับการออกแบบสไตล์ไฮบริดของว่า อเล็กซ์ บราสเซอรี่ (Alex Brasserie) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของชีวิตกลางคืนของคนเมืองที่ต้องการประสบการณ์ความสนุกสนานหลังอาหารค่ำ


สถานที่ตั้ง: ร้านอาหารฝรั่งเศส อเล็กซ์ บราสเซอรี่ (Alex Brasserie)
ชั้นล่างของโรงแรมเมอเคียว (Mercure Bangkok) เลขที่ 18 สุขุมวิท ซอย 11
เปิดบริการทุกวัน : เวลา 6 โมงเช้า ถึงตี 2
สำรองที่นั่ง: โทร 02 057 3079
https://www.facebook.com/AlexBrasserie/

อะไร? คือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต

คำถามชวนสังคมไทยฉุกคิด จากไวรัลวิดีโอสุดซึ้งรับสงกรานต์ที่จะทำให้คุณอิ่มเอมกับคำว่า “ครอบครัว”

มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะรวยจน ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา แต่รากฐานสำคัญที่ชีวิตมนุษย์ทุกคนพึงมีก็คือ ครอบครัว  จุดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรัก  ความอบอุ่น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ครอบครัวคือปลายทางของความรักความอบอุ่นที่เป็นพลังที่ทำให้ฝ่าฟันกับปัญหาอุปสรรค และนำไปสู่การสร้างสรรค์ให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นได้มากมาย ทว่าด้วยความจำเป็นหลายๆ อย่าง ทำให้ คนไทยจำนวนไม่น้อย ต้องเสียสละเดินทางจากถิ่นฐานบ้านเกิด และบุคคลอันเป็นที่รัก เข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อจุดประสงค์เดียวกันคือการหารายได้เพื่อที่จะส่งกลับไปจุนเจือครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

และเพื่อเป็นการตอบแทนฮีโร่ ผู้เสียสละของครอบครัว ในเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทุกครอบครัวไทยจะได้มีโอกาสพบปะ หรือ อยู่กันอย่างพร้อมหน้า พร้อมตา  โฟร์โมสต์  ในฐานะผลิตภัณฑ์ นมไทยมาตรฐานเนเธอร์แลนด์ ที่อยู่คู่ครอบครัวคนไทยมากว่า

60 ปี โดย บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ไม่ได้แค่ต้องการที่จะสนับสนุนให้คนไทยมีร่างกายที่แข็งแรงผ่านโภชนาการที่ดีเท่านั้น แต่ยังร่วมสนับสนุนส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้แข็งแรงอีกด้วย จึง

ขอสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมดีๆ อย่าง โฟร์โมสต์ พากลับบ้าน สงกรานต์สุข ปี3  ภายใต้แนวคิด เพราะทุกคนคือ  ฮีโร่ ของครอบครัว”

โดยหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ภายใต้แคมเปญ โฟร์โมสต์ พากลับบ้าน สงกรานต์สุข  ปี3 คือ ไวรัลวิดีโอชวนกลับบ้านในวันสงกรานต์สุดซึ้ง ซึ่ง
โฟร์โมสต์ ได้มอบหมายให้ บริษัท เทอร์มินัล วัน จำกัด ครีเอทีฟเอเจนซี่ เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานภายใต้ชื่อ  ฮีโร่

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเป็นการถ่ายทอดของนักมวยสู้ชีวิตที่ตระเวนออกชกมวยรอบตามงานต่างๆ ในทุหครั้งที่นักมวยถูกชก หยาดเหงื่อแรงงานที่กระเด็นออกมาเปรียบเสมือนเม็ดเงิน แต่จะถูกแบ่งสันปันส่วนให้กับ นายหน้า หรือ โปรโมเตอร์ จะเหลือถึงมือเพียงแค่เงินจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น  ซึ่งนั่นก็ไม่ทำให้นักมวยลดละความพยายามลงได้ เพียงต้องการหาเงิน  มาจุนเจือครอบครัว โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ คือ ความเป็นอยู่ที่สุขสบายของภรรยาและลูกสาวผู้ซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย ซึ่งสงกรานต์ปีนี้เขาก็มีโอกาสได้เดินทางกลับบ้านกับโฟร์โมสต์ที่เชิดชูเหล่า ฮีโร่ ผู้เสียสละของครอบครัวเฉกเช่นนักมวยผู้นี้ ให้ได้กลับภูมิลำเนาของตน เพื่อได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างอบอุ่น ซึ่งไวรัลวิดีโอชุดนี้ถูกสร้างและดำเนินเรื่องราวจากเค้าโครงจริง โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้สังคมฉุกคิดว่า สุดท้ายแล้วความแข็งแรงแบบ 100% ของสถาบัน “ครอบครัว” คือสิ่งสำคัญที่สุด เริ่มออกอากาศพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 31 เมษายน 2560 ผ่านช่องทาง

www.facebook.com/ForemostMomTalk www.youtube.com/Foremostforlife

นอกจากนี้ โฟร์โมสต์ ยังได้จัดกิจกรรมอาสาพา  ฮีโร่  กลับบ้านพร้อมกัน
ทั่วไทย ในวันที่ 11 เมษายน 2560 นี้ ที่ โฟร์โมสต์ ฮีโร่ สเตชั่น (Foremost Hero Station) สถานีขนส่งใจกลางเมือง ณ สนามมอเตอร์ สปอร์ต แลนด์ (แดนเนรมิตเก่า) ถนนพหลโยธิน  กทม.

สงกรานต์สุข…เมื่อทุกคนในครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
โฟร์โมสต์ขอร่วมอยู่เคียงข้างครอบครัวคนไทยให้มีความแข็งแรง 100%

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.ForemostForLife.com/Hero
Foremost Family Facebook Fanpage
หรือ Call Center หมายเลข 02-657-5344

ลีวายส์® เนรมิตลานหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า

เปิดตัวลีวายส์®ออเร้นจ์แท็บ (Orange Tab) ฟื้นตำนานสินค้าป้ายส้มสัญลักษณ์ของความมีสไตล์ของเหล่านักปฏิวัติพร้อมการเดินทางครั้งใหม่ของตระกูลลีวายส์®501®

ลีวายส์®เปิดตัวลีวายส์®ออเร้นจ์แท็บ (Orange Tab) ปลุกวิญญาณหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่เคยฝากไว้ในยุค 60S ให้กลับมาอีกครั้ง พร้อมการเดินทางครั้งใหม่ของตระกูลลีวายส์®501®  นำทัพโดยรุ่น 501® Skinny

สิ่งที่ลีวายส์®ปรับเปลี่ยนจะกลายเป็นมรดกและมีคุณค่ากับแบรนด์ซึ่งเกิดจากการที่ทุกคนที่ให้ความสำคัญกับเราผ่านการสวมใส่แสดงออกถึงตัวตน

พื้นที่ของเหล่าหมู่ชนในช่วง 60S – 70S


501®Skinny
ลีวายส์®ได้ครองใจผู้คนมาอย่างยาวนานโดยเฉพาะรุ่นไอคอนตลอดกาลอย่างลีวายส์® 501® ที่มีการปรับเปลี่ยนโฉมกว่า 40 ครั้ง ภายใน 144 ปีที่ผ่านมา ลีวายส์®ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาสินค้าให้เข้ากับยุคสมัย โดยได้ปลุกตำนานไอคอน ยอดฮิตนำมาปรับโฉม (Remaster) ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ที่ชื่นชอบความเข้ารูป (skinny) อย่างรุ่น 501®CT(Customized & Tapered) ที่นำเอาตำนาน 501® มาปรับโฉมเข้ารูปเล็กน้อยแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นต้นแบบและแก่นของ 501® ที่มีกระดุมเป็นเอกลักษณ์ (Button Fly) และรุ่น 505C ที่ปรับโฉมมาจาก ยีนส์ชาวร็อคอย่างลีวายส์®505
ขากางเกงถูกออกแบบให้ดูสลิมและเข้ารูปมากขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกด้วยสไตล์เอวสูง โดยในปีนี้ได้สร้างสรรค์อีกหนึ่งไอคอนใหม่ ลีวายส์® 501® สกินนี่(Levi’s® 501® Skinny)

การออกแบบและปรับโฉมที่ใช้เวลากว่า 18 เดือนมีการรับฟังแนวคิดจากแฟนๆ ทั่วโลก รวมถึงผู้เชี่ยวชาญที่โรงทอผ้ายีนส์โคนมิลล์ เพื่อยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของผ้ายีนส์ 501® ที่แท้จริง ทำให้ 501®Skinny เอกลักษณ์ของเนื้อผ้ายีนส์ที่สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่สวมใส่ได้จริงทั้งชายและหญิง ด้วยต้นขาและปลายขาเข้ารูปพร้อมรอยขาดแบบวินเทจ

Orange Tab
จากจุดเริ่มต้นของการถือกำเนิดกางเกงยีนส์ตัวแรกในปี 1873 ที่กลายเป็นเครื่องแบบของคนงานเหมือง สู่ยุค 1969 แห่งการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ลีวายส์® ในยุคนั้นได้สร้างสรรค์คอลเลกชั่นออเร้นจ์แท็บขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มนักปฏิวัติด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ราคาเหมาะสม ทำให้ลีวายส์®ออเร้นจ์แท็บกลายเป็นต้นแบบของสตรีทแฟชั่น
มีอิทธิพลต่อการแต่งกายกระแสหลัก 90% ของคนในยุคนั้น ถ้าไม่ได้ใส่
ลีวายส์® ก็จะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย ท่ามกลางกระแสเรียกร้องที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

ภายใต้ชื่อเสียงและตำนานของ ออเร้นจ์แท็บ ยังคงเป็นที่รู้จักในหมู่นักสะ
สมและคนรักยีนส์ ในปีนี้ลีวายส์®ได้ปลุกตำนานและสร้างสรรค์กางเกงยีนส์ยอดฮิตจากช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่างออเร้นจ์แท็บ มาผลิตใหม่ด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิม ทั้งเนื้อผ้า รูปทรง ตลอดจนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นับเป็นครั้งแรกที่ลีวายส์®ผลิตยีนส์สไตล์ดั้งเดิมซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากออกมาอีกครั้ง โดยจุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือป้ายแท็บลีวายส์® สีส้มซิปยี่ห้อ Talon ใช้การเย็บย้ำบาร์แท็คแทนการตอกหมุด มีวิธีการตัดเย็บแบบเรียบง่าย “Line Eight Construction” ใช้ด้าย เป็นสีโทนเดียวทั้งตัว มีหูร้อยเข็มขัด 7 หูมากกว่าแบบมาตรฐาน กระดุมทำจากทองแดง มีกระเป๋าหลังที่ใหญ่กว่าปกติการเดินตะเข็บในแบบคู่ที่ใช้โทนสีที่ตัดกัน และป้ายหนังด้านหลังถูกตีพิมพ์ด้วยหมึกสีดำเป็นครั้งแรก

คอลเลกชั่นลีวายส์®ออเร้นจ์แท็บแฝงด้วยกลิ่นอายของเหล่าบุปผาชนเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่หรือสาวกลีวายส์®ที่ชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์วินเทจ รวมถึงผู้ที่มองหาความมีสไตล์ที่ไม่เหมือนใครมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย สำหรับผู้ชาย รุ่น 510 Skinny ทรงเอวต่ำสวมใส่สบายและตัดเย็บให้แนบกระชับ และ 505C แบบขาสั้นสวมใส่สบาย สำหรับผู้หญิง รุ่น 721 High Rise เอวสูงเข้ารูปตกแต่งด้วยรอยขาด และกระโปรงทรงเอซิปหน้า นอกจากนี้ยังมีแจ็คเก็ตยีนส์กระดุมแป๊กกับเสื้อยืดคอกลมลาย Iconic ซึ่งทุกสินค้ามีเอกลักษณ์ป้ายส้มและจุดเด่นต่าง ๆ ตามแบบวินเทจในอดีต

Levi’s 501® Tailor Truck
และเพื่อให้ลูกค้าลีวายส์®ในประเทศไทยได้สัมผัสกับตำนานยิ่งใหญ่ พบกับลีวายส์® 501® Tailor Truck ออกเดินทางไปให้ลูกค้าได้ร่วมสัมผัสกับลีวายส์®ออเร้นแท็บคอลเลกชั่นและลีวายส์® 501® สกินนี่ พร้อมย้อนกลับไปในอดีตภายใต้บรรยากาศในยุค 60S ตื่นตาไปกับโซนเวอร์ชวลเรียลลิตี้ (Virtual Reality) ของยูเรก้าแล็บ (Eureka Lab) ศูนย์คิดค้นออกแบบและวิจัยกางเกงยีนส์ ลีวายส์® ด้วยประสบการณ์เสมือนจริงแบบ 360 องศา

สนุกกับการตกแต่งยีนส์ที่แสดงออกถึงตัวตนของตัวเองกับโซน Levi’s® Tailor Shop พร้อมรับป้ายทอ (Patch) ที่ระลึกจัดทำขึ้นพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะสามารถติดตามตารางการเดินทางของ Levi’s 501®Tailor Truck ฟื้นตำนานสินค้าลีวายส์® ป้ายส้ม สัญลักษณ์ของความมีสไตล์ของเหล่านักปฏิวัติพร้อมสัมผัสประวัติศาสตร์ยีนส์เคลื่อนที่กับลีวายส์® 501® Tailor Truck

บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำในการให้บริการด้านการขยายตลาด โดยมุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชีย และแบรนด์ลีวายส์® สัญลักษณ์แฟชั่นยีนส์ชั้นนำระดับโลก  นำโดย มร. ปีเตอร์ ฮอร์นบี  รองประธานกรรมการ กลุ่มสินค้าแฟชั่น บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด และ วรรณภาณี ทัศนาญชลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน THE LAUNCH OF LEVI’S® REMASTER AND LEVIS® ORANGE TAB COLLECTION

เปิดตัวแคมเปญ ลีวายส์® รีมาสเตอร์ (Levi’s® Remaster) นำสินค้ายอดนิยมอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความมีสไตล์ในยุคแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมและเสรีภาพกลับมาปรับโฉมใหม่อีกครั้ง นำโดยลีวายส์®ออเร้นจ์แท็บ (Orange Tab) หรือลีวายส์®ป้ายส้ม ปลุกวิญญาณหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่เคยฝากไว้ในยุค 60S และลีวายส์® 501® สกินนี่ (Levi’s® 501® Skinny) น้องใหม่ในตระกูลลีวายส์® 501® ที่จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารุ่นใหม่ทั้งชายและหญิงนับเป็นการปรับโฉมกางเกงในตำนานครั้งล่าสุดของลีวายส์®ลีวายส์® ได้เนรมิตลานหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ พลาซ่า ให้เป็นเสมือนพื้นที่ของเหล่าหมู่ชนในช่วง 60S – 70S มารวมตัวกันเพื่อแสดงออกถึงเสรีภาพผ่านสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ตามกระแสใคร โดยไฮไลท์ของงานอยู่ที่ลีวายส์® 501® Tailor Truck อันประกอบไปด้วยโซนเวอร์ชวลเรียลลิตี้ (Virtual Reality) ของยูเรก้าแล็บ (Eureka Lab) ศูนย์คิดค้นออกแบบและวิจัยกางเกงยีนส์ลีวายส์® ด้วยประสบการณ์เสมือนจริงแบบ 360 องศา พร้อมนิทรรศการที่จะพาคุณย้อนกลับไปในอดีตผ่านตำนานในปีต่าง ๆ ของยีนส์501® รวมถึงการจัดแสดงกางเกงยีนส์ 501® ลิมิเต็ด เอดิชั่น ประจำปี 2017 นี้ โดยมี หนุ่มเต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ร่วมพูดคุยถึงประสบการณ์ในฐานะที่เคยไปบุกยูเรก้าแล็บซานฟรานซิสโก้ ถิ่นกำเนิดของยีนส์ลีวายส์® ปิดท้ายด้วยแฟชั่นโชว์จากบรรดานายแบบนางแบบที่นำสินค้าคอลเลกชั่นนี้มามิกซ์แอนด์ แมทช์ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว โดยมี จอห์น วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ รับหน้าที่พิธีกร

คุณวรรณภาณี ทัศนาญชลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “แคมเปญลีวายส์® รีมาสเตอร์ นี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของลีวายส์® จากจุดเริ่มต้นของการถือกำเนิดกางเกงยีนส์ตัวแรกในปี 1873 ที่กลายเป็นเครื่องแบบของคนงานเหมือง สู่ปี 1969 แห่งการปฏิวัติทางวัฒนธรรม โดยลีวายส์® ได้เลือกนำยีนส์ไอคอนรุ่นที่เป็นตำนานอย่าง ลีวายส์®ออเร้นจ์แท็บ และ ลีวายส์® 501® สกินนี่ มาปรับโฉมใหม่ภายใต้การดำเนินงานของเหล่าดีไซน์เนอร์ผู้เชี่ยวชาญการตัดเย็บยีนส์ของลีวายส์® ซึ่งจะยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายอันเป็นของเอกลักษณ์ในยุคนั้นผสานเข้ากับความนิยมของผู้สวมใส่ในปัจจุบัน”

ท่ามกลางกระแสเรียกร้องที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ชื่อเสียงและตำนานของออเร้นจ์แท็บ ที่ยังคงเป็นที่รู้จักในหมู่นักสะสมและคนรักยีนส์เป็นอย่างดี ในปีนี้ลีวายส์®ได้ปลุกตำนานและสร้างสรรค์กางเกงยีนส์ยอดฮิตจากช่วงประวัติศาสตร์อันยาวนานออเร้นจ์แท็บ มาผลิตใหม่ด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิม ทั้งเนื้อผ้า รูปทรง ตลอดจนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นับเป็นครั้งแรกที่ลีวายส์®ผลิตยีนส์สไตล์ดั้งเดิมซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากออกมาอีกครั้ง โดยจุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือป้ายแท็บลีวายส์® สีส้ม ซิปยี่ห้อ Talon ใช้การเย็บย้ำบาร์แท็คแทนการตอกหมุด มีวิธีการตัดเย็บเรียบง่ายแบบ “Line Eight Construction” ใช้ด้ายเป็นสีโทนเดียวทั้งตัว มีหูร้อยเข็มขัด 7 หูมากกว่าแบบมาตรฐาน กระดุมทำจากทองแดง มีกระเป๋าหลังที่ใหญ่กว่าปกติ การเดินตะเข็บในแบบคู่ที่ใช้โทนสีที่ตัดกัน และป้ายหนังด้านหลังถูกตีพิมพ์ด้วยหมึกสีดำเป็นครั้งแรก”

ภายในงานได้รับความสนใจจากแขกผู้มีเกียรติผู้ชื่นชอบยีนส์ อาทิ วิภาวี คอมันตร์, นาขวัญ รายนานนท์, รพีพร วงศ์ทองคำ, ปณิธี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ

เพื่อให้ลูกค้าลีวายส์®ในประเทศไทยได้สัมผัสกับตำนานยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
ลีวายส์® ได้ส่ง ลีวายส์® 501® Tailor Truck ออกเดินทางไปให้ลูกค้าได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง พร้อมจัดแคมเปญยิ่งใหญ่ประจำปี ‘ลีวายส์®เท่วันนี้ ลุ้นใส่ลีวายส์®ฟรี 10 ปี’ เพียงซื้อสินค้าลีวายส์® 1 ชิ้น สามารถรับสิทธิลุ้นใส่ลีวายส์®ฟรี 10 ปี ตั้งแต่ วันที่ 17 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2560 สามารถติดตามรายละเอียดการร่วมกิจกรรม และ ตารางการเดินทางของ ลีวายส์® 501® Tailor Truck ได้ที่

www.levisthailand.com
www.facebook.com/levis.thailand
หรือ แฮชแท็ก #LevisOrangeTab #LiveinlevisTH

 

Merz Silky Matte Lips ลิปสติกแบรนด์ใหม่ Charmer Clinic

Merz Silky Matte Lips
เมอรซ์  ซิลกี้  แมท ลิป

ครั้งแรกในประเทศไทย เมอรซ์ ซิลกี้ แมท ลิป ลิปสติกเนื้อแมท ติดทนนานมากกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อริมฝีปากสวยสดใส ตอบโจทย์สาวยุคใหม่ ที่มีความทันสมัย ชัดเจน

เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย กับผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Merz Silky Matte Lips (เมอรซ์ ซิลกี้ แมท ลิป) ผลิตภัณฑ์ในเครือ Charmer Clinic คลินิกความงามซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการ 5 สาขา ด้วยกัน

ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Merz Silky Matte Lips (เมอรซ์ ซิลกี้ แมท ลิป) ผลิตภัณฑ์ในเครือ Charmer Clinic

ล่าสุด จัดงานเปิดตัวลิปสติกใหม่ ภายใต้แบรนด์ Merz ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติโดดเด่น ด้วยเม็ดสีแน่น ติดทนนานมากกว่า 12 ชั่วโมง และไม่ทำให้ปากแห้ง ริมฝีปากสวยสดใส ไม่ดำคล้ำ พร้อมให้ความชุ่มชื้นด้วยวิตามินอี ที่ช่วยบำรุง เติมเต็มปากสวย อิ่มน้ำ แก้ไขทุกปัญหาของ ลิปเนื้อแมท ตอบโจทย์สาวยุคใหม่ที่มีความชัดเจน บ่งบอกความเป็นตัวเองได้อย่างมั่นใจ

บริษัท บีสลิม เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอาง “Merz” ลิปสติกใหม่ล่าสุดแบรนด์ในเครือ Charmer Clinic คลินิกความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมีกระแสอย่างต่อเนื่อง ก่อตั้งและบริหารงาน โดย คุณนันท์นภัส อัครวงษ์ภาคิน ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทฯ ที่ประสบความสำเร็จกับธุรกิจด้านคลินิกความงาม ล่าสุดลุยตลาดเครื่องสำอางเพื่อตอบโจทย์ผู้หญิงไทย ที่ต้องการสวยแบบปลอดภัย

ด้วยราคา ที่สมเหตุสมผล โดยในครั้งนี้ได้จัดงาน “Thank you Party” พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Merz Silky Matte Lips อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Merz Silky Matte Lips
(เมอรซ์ ซิลกี้ แมท ลิป) ที่ติดทนนานมากกว่า 12 ชั่วโมง ไม่ทำให้ปากแห้ง ริมฝีปากสวยสดใส ไม่ดำคล้ำ พร้อมให้ความชุ่มชื้นด้วยวิตามินอี ที่ช่วยบำรุง เติมเต็มปากสวย อิ่มน้ำ โชว์เสน่ห์เรียวปากได้อย่างมั่นใจ พร้อมตอบโจทย์ทุกปัญหาของลิป เนื้อแมท สำหรับเวิร์กกิ้งวู้แม้น ที่มีคาแร็กเตอร์ เปรี้ยว เท่ห์ ทันสมัย ชัดเจน เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ทุกโอกาส ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจากดาราชื่อดัง แซมมี่ เคาวเวลล์ พร้อมเหล่าหนุ่มหล่อ Secret Guys และ Fashion Dance และกิจกรรมถ่ายภาพ  Photo Magnet สนุกสนานกับบรรยากาศปาร์ตี้ สุดคลาสสิก แสนอบอุ่น ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น ณ เดอะพุด การ์เด้น เลียบทางด่วนรามอินทรา-เกษตรนวมินทร์


แบรนด์ Merz (เมอรซ์) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชั้นนำ ที่ได้รับการยอมรับ
จากกลุ่มสาวๆ ยุคใหม่ที่รักสวยรักงาม และมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะ เปรี้ยว ซ่า เท่ห์ ท้าทาย มีเสน่ห์ โดยในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Merz Silky Matte Lips สู่ตลาดความงามอย่างเป็นทางการ ชูจุดขายด้วยเนื้อลิปสติกที่มาพร้อมคุณภาพสีนำเข้าจากอเมริกาโดยไม่ทำให้ปากแห้งแตก หรือคล้ำดำ ผสานส่วนผสมโซเดียมไฮยาลูโรเนต หรือ ไฮยารูลอนิค เอซิด ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก ทำให้ปากดูอิ่มไม่เป็นร่อง เหมือนเติมฟิลเลอร์ให้ริมฝีปาก และวิตามินอี ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น จากญี่ปุ่น ทำให้ปากไม่แห้งดำคล้ำ ซึ่งขณะนี้มีให้เลือกกว่า 12 เฉดสี ได้แก่ Orange Joop, Lovly Pink, Pink Rosie, Mocha Choco, Sugar Brown,  Peach Nudy, Fever Glam, Secret Love, Red Wine, Please me, Muffin Brick, Red Rose

คุณนันท์นภัส อัครวงษ์ภาคิน กล่าวว่า Merz ได้ให้ความสำคัญในการ เลือกใช้ส่วนผสมที่ดีที่สุด มีคุณภาพสูง เพื่อให้ผู้หญิงไทยสวย ปลอดภัย ในราคาที่สมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศ ซึ่งมีประสิทธิภาพเดียวกันแต่ราคาสูงมาก นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีแผนการผลิต ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์เพิ่มเติมในกลุ่มเมคอัพ เช่น Eyeliner ซึ่งมีแผนในการจำหน่ายในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินธุรกิจด้านความงาม และประสบความสำเร็จ กับ  Charmer Clinic คลินิกความงาม  ปัจจุบัน มี 5 สาขา ต้องการขยายธุรกิจในกลุ่มเครื่องสำอางค์ และสกินแคร์ เพื่อรองรับกับกระแสด้านความงามที่ยังได้รับความนิยมและมีการเติบโตอย่างโตเนื่อง โดยวางแผนด้านการตลาดเน้นการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อออนไลน์เป็นหลัก  รวมถึงโซเชียลมีเดีย ที่ได้รับความนิยม และสำหรับปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขาย ไว้ที่ 5-10 % โดยมีกิจกรรมส่งเสริมการขายเช่นโปรโมชั่นต่างๆ และการสะสมแต้มรับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าในเครือ โดยใช้ช่องทางการขายออนไลน์, ตัวแทนจำหน่าย, และคาดว่าจะวางจำหน่ายที่ ร้าน Evenandboy ในเร็วๆ นี้

พบกับผลลัพธ์อันน่าประทับใจ เพื่อเสน่ห์แห่งเรียวปาก แต้มสีสันสวยสดใส ด้วยผลิตภัณฑ์ Merz Silky Matte Lips ราคาแท่งละ 350 บาท  พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษมากมาย และสะสมแต้ม สามารถนำมาแลกเป็นสินค้าในเครือ

พิเศษสุด! สำหรับตัวแทนจำหน่าย ที่มียอดขายสูงสุด รับสิทธิ์ลุ้นรับทองคำ และตั๋วเครื่องบินท่องเที่ยวต่างประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
จัดขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะงานนี้เท่านั้น

ในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2560 เวลา 18.00 น.
ณ เดอะพุด การ์เด้นเลียบทางด่วนรามอินทรา-เกษตรนวมินทร์
ติดตามรายละเอียดได้ที่   FB: Merz cosmetics

เปิดโชว์รูมแห่งใหม่ AAS Harley-Davidson(R) of Bangkok ย่านวิภาวดี รังสิต

ขอต้อนรับ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
AAS Harley-Davidson® of Bangkok

เปิดโชว์รูม AAS Harley-Davidson(R) of Bangkok  ย่านวิภาวดี  รังสิตค็อก ไรเดอร์ ทุ่มงบกว่า 400 ล้าน  เปิดโชว์รูม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ย่านวิภาวดี-รังสิต เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2560 

Totptotravel เข้าร่วมงาน แบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson®) ได้เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการครบวงจรมาตรฐานระดับสากลแห่งที่ 6 ของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “AAS Harley-Davidson® of Bangkok” บนถนนวิภาวดี-รังสิต โดย AAS Harley-Davidson® of Bangkok เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม

โดย  โลโก้ AAS Harley Davidson® ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนุมาน
ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครเอกของวรรณคดีรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งหนุมานถือเป็นลิงที่มีฤทธิ์มาก ได้ชื่อว่าเป็นอมตะ มีความสามารถอันเป็นที่ประจักษ์ ทำงานที่มอบหมายได้สำเร็จเสมอ มีความเฉลียวฉลาด รอบรู้ มีวินัย แต่ก็ยังเป็นตัวแทนของความสนุกสนาน

บริษัท แบงค็อก ไรเดอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ แบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson®) ได้เปิดโชว์รูม  และศูนย์บริการครบวงจรมาตรฐานระดับสากลแห่งที่ 6 ของประเทศไทย ภายใต้ชื่อ AAS Harley-Davidson® of Bangkok บนถนนวิภาวดี-รังสิต โดย AAS Harley-Davidson® of Bangkok เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม  รวมถึงตั้งเป้าบุกเบิกลูกค้ากลุ่มใหม่ซึ่งเป็น Young Generation พร้อมมุ่งนำเสนอไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ของชาวสองล้อแบบครบวงจรบนพื้นที่ให้บริการที่กว้างขวางและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย

จากความสำเร็จของโชว์รูม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน สาขาแรกของบริษัทในเครือที่พัทยาภายใต้ชื่อ Harley-Davidson® of Pattaya ที่เปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2559 ซึ่งได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าหลากหลายกลุ่ม และในการเปิดตัวครั้งนั้นเองก็ยังถือเป็นการเปิดตลาดในภาคตะวันออก  อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน อีกด้วย

มิสเตอร์ ปีเตอร์ แม็คเคนซีย์ กรรมการผู้จัดการ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน เขตตลาดเศรษฐกิจใหม่ในเอเชีย กล่าวว่า ฮาร์เล่ย์ – เดวิดสัน มีการเติบโตอย่างเหลือเชื่อในประเทศไทย ต้องขอขอบคุณบรรดาแฟนๆ ฮาร์เล่ย์ ที่ให้การสนับสนุนเราเป็นอย่างดีตลอดมา ฮาร์เล่ย์ – เดวิดสัน เองนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฐานะของตัวแทนแห่งอิสรภาพ ความเป็นปัจเจกชนแต่เต็มไปด้วยการแสดงออกของความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นฉันพี่น้องระหว่างเพื่อนผู้หลงใหลในสิ่งเดียวกันนั่นก็คือการได้ครอบครองและขับขี่ฮาร์เล่ย์ฯ ที่จะนำพาพวกเขาไปสู่อิสรภาพที่ไม่สามารถหาได้จากแบรนด์รถจักรยานยนต์อื่นใด เราขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสกับประสบการณ์ ที่ไม่เหมือนใคร  ในโชว์รูม  AAS Harley-Davidson® of Bangkok แห่งนี้


บริษัท แบงค็อก ไรเดอร์ จำกัด โดย คุณอนุวัชร อินทรภูวศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ผู้มีประสบการณ์ในวงการยานยนต์มาอย่างยาวนาน ได้สานต่อนโยบายที่วางไว้ พร้อมเชื่อมั่นเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยเฉพาะตลาดในกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออก จึงทุ่มงบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท เปิดโชว์รูม Flagship Dealership และศูนย์บริการแห่งใหม่ที่พรั่งพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อันทันสมัย บนถนนวิภาวดี-รังสิต บนพื้นที่กว่า 2,400 ตารางเมตรภายใต้ชื่อ “AAS Harley-Davidson® of Bangkok”

คุณอนุวัชร เผยว่า  สำหรับโชว์รูม AAS Harley-Davidson® of Bangkok แห่งนี้ เปรียบเสมือน Homequarter (บ้านหลังที่ 2) ของชาวไบค์เกอร์
ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ความชอบที่เหมือนกัน เราจะสร้างโชว์รูม

แห่งนี้ให้เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ของชาวสองล้อที่ครบครัน ทั้งในส่วนของโชว์รูมและศูนย์บริการซึ่งเราจะเน้นระบบการทำงานและเทคโนโลยีทันสมัยต่างๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ให้สมกับเป็นศูนย์บริการที่ได้รับการคาดหมายจาก  ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน อเมริกาว่าจะเป็น Flagship Dealership  แห่งใหม่ของภูมิภาคนี้  นอกจากนั้นทางเรายังมีความตั้งใจที่จะสร้างประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับฮาร์เล่ย์ฯแก่ลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้าง และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์

กับลูกค้า และที่จะขาดไม่ได้เลย  คืองานบริการที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาถึงโชว์รูมแห่งนี้

สำหรับภายในพื้นที่โชว์รูมมีการจัดแสดงรถฮาร์เล่ย์ฯ รุ่นล่าสุด สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่น อุปกรณ์การขับขี่ และอุปกรณ์ตกแต่งรถมากมายพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่หลงใหลในแบรนด์ไม่แพ้กัน ศูนย์บริการเองก็สามารถรองรับรถที่จะเข้ามาใช้บริการได้เดือนละกว่า 400 คัน โดยทีมงานที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ นอกจากนี้ภายในโชว์รูมยังมี Exclusive Customer Lounge ไว้บริการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นพิเศษอีกด้วย

ในส่วนของสมาชิก H.O.G (Harley-Davidson Owners Group) มีห้องรับรองโดยเฉพาะได้รับการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมี่ยม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ครบครันเพื่อให้บริการกลุ่ม

ผู้ขับขี่ฮาร์เล่ย์ฯ รวมถึงเป็นศูนย์กลางสังคมของผู้ขับขี่ ฮาร์เล่ย์ – เดวิดสัน ประเทศไทย ที่จะรองรับการพบปะสังสรรค์ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการสร้างสาธารณะประโยชน์แก่สังคมอีกด้วย”

“อีกหนึ่งในไฮไลท์มากมายในงานนี้ คือแอพลิเคชัน AAS H-D ที่ได้รวบรวมเอาข้อมูลสินค้าบริการ การนัดหมายเข้ารับบริการซ่อมบำรุง ข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ มาไว้เพียงปลายนิ้วสัมผัสแล้ว ที่พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับสมาชิก  H.O.G Chapter ในกลุ่มของ  AAS Harley-Davidson® of Bangkokและ Pattaya ก็คือสิทธิพิเศษในการใช้บริการกับ partner อันหลากหลายของเราตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ  ฟิตเนส และโรงแรมชื่อดังต่างๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์แห่งอิสรภาพแบบฮาร์เล่ย์ในสไตล์ของAAS Harley-Davidson® ที่รับรองว่าจะไม่มีที่ใดเหมือนแน่นอน”คุณอนุวัชร กล่าว


AAS Harley-Davidson® of Bangkok ตั้งอยู่เลขที่ 99 ถนนวิภาวดีรังสิต (ติดซอยวิภาวดีรังสิต 66)
แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210
www.aasharley-davidsonbangkok.com
https://www.facebook.com/aasharleybangkok
IG: @aasharleybkk
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 02 521 4545

ทิปให้สนุกทุกตอน

ทิปโก้ สร้างปรากฎการณ์ใหม่!


รับซัมเมอร์ย้ำภาพลักษณ์ผู้นำตลาดและมิติใหม่ๆด้วยการเปิดตัวน้ำผลไม้ ทิปโก้ ม็อกเทล เป็นการมิกซ์น้ำผลไม้ที่มีคุณค่าหลากหลายด้วยรสชาติที่แสนอร่อยรับซัมเมอร์สดชื่น แบบสุขภาพดี กับ 2 รสชาติ  Tipco Mocktail Passion Summer และ Tipco Mocktail Magic Lychee  ซึ่งมีส่วนผสมของ ม็อกเทล 0Flavor สูตรลับเฉพาะของทิปโก้ ที่คงคุณประโยชน์เต็มกล่องชูจุดขายแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ ที่รักสุขภาพและชื่นชอบการปาร์ตี้ แบบไร้แอลกอฮอล์เจ้าแรกและเจ้าเดียวของตลาดน้ำผลไม้กลุ่มพรีเมี่ยมในเมืองไทยทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาทรุกกลยุทธ์มาร์เก็ตติ้งมิกซ์การตลาดมัดใจผู้บริโภคมั่นใจกวาดยอดขายเพิ่ม 30%

เปิดตัวสุดมันส์ของน้ำผลไม้ Tipco Mocktail สูตรใหม่ Magic Lychee และ Passion Summer  นอกจากจะได้ลองรสชาติใหม่ของ Tipco Mocktail แล้ว คุณยังได้มันส์ไปกับดีเจ EDM คู่หูสุดแสบ Future The XXX ตบท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง แบบใกล้ชิด พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมมันส์ๆ มากมาย

Tipco Mocktail

นายเอกพล พงศ์สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ เอฟแอนด์บี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์ ทิปโก้ ผู้นำตลาดน้ำผลไม้ในเมืองไทยมานานกว่า 20 ปี เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน มีการแข่งขันกันสูงทำให้เกิดความเครียดและส่วนใหญ่คลายเครียดด้วยการพบปะสังสรรค์ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ

ดังนั้นซัมเมอร์นี้  ทิปโก้ จึงสบโอกาสเปิดตัวแคมเปญ   TIPCO Mocktail : Tip มันส์ๆ ไม่มีวันเลิกรา  ภายใต้แนวคิด สนุกได้โดยไม่มีแอลกอฮอล์ ดื่มหนักแค่ไหนก็ไม่เมา มีแต่ความมันส์ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องเมาไม่ขับ อีกทั้งได้เปิดตัวนวัตกรรมน้ำผลไม้ชูความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครกับ “ทิปโก้ ม็อกเทล” (Tipco Mocktail) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มิกซ์น้ำผลไม้ที่มีคุณค่าหลากหลายโดยไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับงานปาร์ตี้  ที่จะทำให้บรรยากาศสนุกสนานมากขึ้น เพราะมีส่วนผสมของ Mocktail Flavor สูตรลับของทิปโก้ คงคุณประโยชน์ ด้วยส่วนผสมของน้ำผลไม้หลากหลายรสชาติในกล่องเดียวเหมาะกับผู้บริโภคที่มองหาสิ่งใหม่ๆ ที่ต้องการเครื่องดื่มอร่อย สนุกและไม่ทำร้ายสุขภาพ



สำหรับ ทิปโก้ ม็อกเทล (Tipco Mocktail) บริษัท  ได้วางโพสิชั่นนิ่งของสินค้าไว้ในกลุ่มของน้ำผลไม้ระดับพรีเมี่ยม เนื่องจากมีช่องว่างทางการตลาดที่ค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี สืบเนื่องจากการดูแลสุขภาพของคนยุคปัจจุบันมีมากขึ้น และโดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานที่ใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ในทุกๆด้าน ทั้งการออกกำลังกาย การดื่มการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงส่งผลให้น้ำผลไม้มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับบริษัทมั่นใจว่า ทิปโก้ ม็อกเทล  Tipco Mocktail  จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบการดื่มน้ำผลไม้อยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ขยายฐานเข้าสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกันโดยการทำตลาดรับซัมเมอร์ เปิดตัว 2 รสชาติ คือ

1.Tipco Mocktail Passion Summer (น้ำแอปเปิ้ล น้ำส้ม น้ำเสาวรส)รสกลมกล่อม ออกเปรี้ยวนิดๆ จากน้ำเสาวรส ที่มาพร้อมกับความสนุกจาก Mocktail Flavor

2.Tipco Mocktail Magic Lychee (น้ำแอปเปิ้ล น้ำองุ่น น้ำลิ้นจี่)หอมหวานกับรสชาติลิ้นจี่ และความสนุกจากความเป็นMocktail

บริษัททุ่มงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท ในการผสานมาร์เก็ตติ้งมิกซ์รุกตลาดแบบครบวงจร ทั้ง above the line และ below the line โดยเน้นสื่อทางด้านทีวี สื่อดิจิตอลสื่ออินเตอร์เน็ตรวมทั้งสื่อนอกบ้านเนื่องจากต้องการให้เข้าถึงกลุ่มเป้าอย่างทั่วถึงขณะเดียวกันการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
ณ จุดขาย กิจกรรมโรดโชว์ และ Sampling ห้างสรรพสินค้า แหล่งชุมชน มหาวิทยาลัย ฯลฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค โดยตรงและรวดเร็ว

ภาพยนตร์โฆษณาชื่อชุด “Tip for Fun” มีความยาว 30 วินาที เป็นเรื่องราวจากเหตุการณ์จริงที่ใกล้ตัวของกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 20-29 ปี ของกลุ่มคนวัยทำงาน ที่ต้องเจอกับการประชุมที่เคร่งเครียด หรือบางคนทำงานภายใต้แรงกดดัน ไม่มีความสุขในการทำงาน หรือ ตอนแฟนงอน ตอนช่วงเวลาที่ไม่แฮปปี้… แต่สุดท้ายหลังเลิกงานทุกคนก็จะมารวมตัวกัน เพื่อพบปะสังสรรค์ ในงานปาร์ตี้สุดมันส์ ที่ทุกคนได้ปลดปล่อย สนุกสุดเหวี่ยง จนได้เวลากลับบ้าน และเจอด่านตรวจแอลกอฮอล์ แต่ในที่สุดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะพวกเขาดื่ม น้ำผลไม้ ทิปโก้ ม็อกเทล นั่นเอง โดยแนวความคิดของภาพยนตร์โฆษณาเราต้องการสื่อให้ทราบถึงโมเม้นท์ว่าเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยล้า ทั้งกายและใจ หรือรู้สึกถึงวันแย่ก็ให้คิดถึง

ทิปโก้ ม็อกเทล (Tipco Mocktail)  เปิดประสบการณ์ ความสนุกให้คุณได้ นอกจากนั้นบริษัทฯ ยังได้จัดกิจกรรม ให้ผู้บริโภคได้ร่วมสนุกด้วย คือ การนำเทคโนโลยี AR มาใช้ทำให้กล่องน้ำผลไม้พูดได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยง่าย ๆ แค่ โหลด app Layar แล้วไปส่งสแกนโลโก้ทิปโก้จะเห็น vdo clip ที่เป็น Tip for Fun จาก Tipco Mocktail

บริษัทฯ เชื่อว่าหลังจากเปิดตัวแคมเปญฯ และวางจำหน่าย  ทิปโก้ ม็อกเทล (Tipco Mocktail) ทั้ง 2 รสชาติลงตลาดในช่วงเดือนนี้แล้วเรามั่นใจว่าต้องได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และจะสามารถผลักดันยอดขายเติบโตถึง 30 % ในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน

ปัจจุบันตลาดรวมน้ำผลไม้มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท และกลุ่มน้ำผลไม้พรีเมี่ยมมีมูลค่ารวม 5,200 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตประมาณ 6% นายเอกพลกล่าวในท้ายสุด

ปาร์ตี้สุดมันส์ใจกลางเมือง และครั้งแรกกับกล่องพูดได้
ที่จะพาคุณไปพบกับ Tipมันส์ๆ มากมาย
ณ. ลานเอเทรียม 2 สยามเซ็นเตอร์

เผยโฉมครั้งแรก ม้าลำพอง LaFerrari Aperta มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี
เฟอร์รารี่ในประเทศไทย

Ferrari 70th
Anniversary Celebration in Thailand

พร้อมเผยโฉมครั้งแรกของสุดยอดม้าลำพอง LaFerrari Aperta เพื่อสร้างปรากฏการณ์อันตื่นตาตื่นใจกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน ของรถซูเปอร์คาร์ลักชัวรี่ระดับตำนานแบรนด์ เฟอร์รารี่ จากสนามแข่งสู่ท้องถนน มุ่งตรงสู่ประเทศไทย พร้อมร่วมเฉลิมฉลองความมุ่งมั่นในวาระครบรอบ 70 ปี  การเผยโฉมของแบรนด์แห่งสัญลักษณ์ ม้าลำพอง ทั่วโลก

คุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี รองประธาน กรรมการบริหาร บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์

ในปี 2017 กว่า 60 ประเทศทั่วโลกจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและมอบประสบการณ์แปลกใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Driven by Emotion” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ เฟอร์รารี่เสมอมา ไม่ว่าจะเป็นด้านการมอบประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและเติมเต็ม สไตล์ที่โดดเด่นของเฟอร์รารี่ หรือนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับรถแต่ละรุ่นตลอด 70 ปีที่ผ่านมา

สำหรับในประเทศไทยจะมีการจัดงาน Ferrari 70th Anniversary Celebration in Thailand  สุดยอดอลังการในวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2560
ณ อุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยมี คุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี รองประธาน กรรมการบริหาร บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด และคุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บ. คาวาลลิโน มอเตอร์ จก.ร่วมเปิดงานอย่างเป็นทางการ

คุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด

คุณวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี รองประธานบริษัท กรรมการบริหาร บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์  จำกัด กล่าวถึง  วัตถุประสงค์ของการจัดงาน Ferrari 70th Anniversary Celebration in Thailand ครั้งนี้ว่า ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของเฟอร์รารี่ ทั้งยังเป็นยานยนตร์สายพันธ์ Racing DNA ตัวจริง เพียบพร้อมไปด้วยความหรูหรา สมรรถนะ และสุดยอดการดีไซน์ของยนตรกรรมที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกกับ “เฟอร์รารี่” ทำให้วันนี้รถสปอร์ตสุดหรูจากประเทศอิตาลี กลายเป็นยนตรกรรมในฝันตั้งแต่ปีแรกจวบจนปีที่ 70 แห่งการเฉลิมฉลองในปีนี้ก็ยังคงอยู่ในหัวใจของแฟนม้าลำพองทุกคน

การเฉลิมฉลองในครั้งนี้  นับว่าเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของเมืองไทยในการรวมตัวกันของสุดยอดรถเฟอร์รารี ที่จะร่วมขบวนมุ่งไปยังอุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยความงดงามและทรงคุณค่าแห่งตำนานในงานศิลปะที่คงทนผ่านกาลเวลาจวบจนถึงปัจจุบันจนเป็นที่ประจักษ์ดั่งเช่นมรดกโลก และอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ จึงเป็นสถานที่
อันทรงคุณค่าเฉกเช่นเดียวกับความเป็นสุดยอดซูเปอร์คาร์นั่นเอง

สำหรับวาระการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ คาวาลลิโน  มอเตอร์  พร้อมเผยโฉมไฮไลท์พิเศษสุดยอดม้าลำพอง LaFerrari Aperta  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 70 ปี โดยรถซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ผสมผสานคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมเข้ากับประสบการณ์ของการขับรถเปิดประทุน เป็นรถพลังงานไฮบริดชนิดเดียวกับรุ่นคูเป้ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำเลิศ ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สไตล์ และความพิเศษ คือหัวใจของเฟอร์รารี่ และทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติที่สะท้อนผ่านรถยนต์รุ่นพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองวาระนี้โดยเฉพาะ LaFerrari Aperta เป็นรถรุ่นลิมิเต็ด เอ็ดดิชั่น  มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ที่ผลิตมาเพื่อลูกค้าคนพิเศษเพียง 209 คันทั่วโลกเท่านั้น และสำหรับในประเทศไทย ผู้ที่ได้มีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของ มีเพียง 1 คันเท่านั้น

คุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายและซ่อมบำรุงรถยนต์เฟอร์รารี่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และสุดยอดดีลเลอร์เจ้าของรางวัล  “South East Asia Dealer of the Year” ในปี 2014 และ ปี 2015 และรางวัล  “Showroom of the Year” ปี 2015 รวมถึงรางวัล “Sales of the Year” ปี 2016 ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี แบรนด์เฟอร์รารี่ โดยเฟอร์รารี่ ในประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นประเทศแรก ๆ ของโลกที่ได้จัดงานเฉลิมฉลองวาระสุดพิเศษนี้ โดยเชิญชวนเจ้าของรถเฟอร์รารี่ทั่วประเทศไทย

70 คัน ร่วมกิจกรรมขับเคลื่อนขบวนคาราวานสุดยอดม้าลำพองจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่อุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมงานเปิดตัวสุดยอดยนตรกรรม LaFerrari Aperta ในบรรยากาศสุดอลังการ โดยกิจกรรมคาราวานรถเฟอร์รารี่ดังกล่าวถือเป็นการรวมสุดยอดซูเปอร์คาร์ระดับตำนานสัญชาติอิตาลี ถึง 70 คัน ร่วมขับเคลื่อนขบวนสุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน

ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี  เฟอร์รารี่   นอกจากงาน  ที่จะจัดขึ้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัด พระนครศรีอยุธยาแล้ว คาวาลลิโน มอเตอร์
ยังขอเชิญชวนแฟนพันธุ์แท้เฟอร์รารี่และคนรักรถซูเปอร์คาร์ทั้งหลาย ร่วมยลโฉม LaFerrari Aperta สัญลักษณ์ครบรอบ 70 ปี สุดยอดการดีไซน์ของยนตรกรรมที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกของม้าลำพอง เฟอร์รารี่ รถสปอร์ตสุดหรูจากอิตาลีที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน

ที่ศูนย์การค้าพารากอน ชั้น Crystal Court M
ระหว่าง วันที่ 26-29 มีนาคม ศกนี้
ร่วมพิสูจน์ความล้ำสมัยของเฟอร์รารี่ได้แล้ววันนี้
ที่ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด
ตัวแทนจำหน่าย และซ่อมบำรุงรถยนต์ เฟอร์รารี่แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

สอบถามรายละเอียด เฟอร์รารี่
เพิ่มเติมได้ที่  02-319-6109
อีเมล info@cavallino.co.th
เว็บไซต์ www.bangkok.ferraride alers.com

HUAWEI P10 และ P10 Plus ในไทยอย่างเป็นทางการ มาพร้อมกล้อง Leica หน้า-หลัง

Huawei P10 และ P10 Plus มาแล้วคร้า

Huawei P10 และ P10 Plus มาแล้วคร้า!! ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องรอคอยกันนานจริงๆ กับ Huawei P10 และ P10 Plus เพราะวันนี้ได้มาทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย โดยเอามาวางจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่น และเริ่มเปิดให้จองในวันที่ 17-26 มีนาคม นี้ ส่วนจะมีรุ่นอะไรและราคาเท่าไหร่บ้าง ก็ลองมาดูกันเลยHuawei P10 Series จะต่อยอดความสำเร็จและสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดสมาร์ทโฟนโลกอีกครั้งด้วยนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ร่วมพัฒนาขึ้นกับไลก้าทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมชูสุดยอดฟีเจอร์ถ่ายภาพระดับสตูดิโอ ต่อยอดความเป็นผู้นำด้านกล้อง พร้อมเผยสีสันใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ร่วมมือกับPantone Color Institute ผู้นำด้านสีของโลกเพื่อตอบโจทย์ในด้านดีไซน์มากยิ่งขึ้น

 

มาชมบรรยากาศ การเปิดตัวพร้อมปาร์ตี้สุดสนุก  กับสุดยอดสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพ กับคุณสมบัติระดับสตูดิโอถ่ายภาพหัวเว่ย P10 และ P10 Plus คือ สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้กล้องหน้าจากไลก้า เช่นเดียวกับกล้องหลังเลนส์คู่ผสานเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ล้ำสมัยที่สุดของโลกเพื่อการสร้างสรรค์ภาพพอร์ทเทรทที่แฝงความเป็นงานศิลปะร่วมสมัยตามแบบฉบับของภาพถ่ายไลก้า หัวเว่ย P10 และ P10 Plus มาพร้อมอุปกรณ์และคุณสมบัติทุกอย่างระดับสตูดิโอถ่ายภาพมืออาชีพ

เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ ที่สามารถตรวจจับลักษณะต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ  ฟีเจอร์การปรับแสง – มีอัลกอริทึ่มการตรวจจับอัตโนมัติซึ่งสามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของแสงสว่างแวดล้อมและปรับค่าคอนฟิเกอร์เรชั่นของการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ ทั้ง การปรับสมดุลสีขาวอัตโนมัติ ความเร็วชัตเตอร์ และอื่น ๆ ถ่ายภาพได้สวยเฉียบในทุกสภาพแวดล้อม  ฟีเจอร์ปรับภาพแต่งพอร์เทรท – มีอัลกอริทึ่มการสร้างภาพที่อาศัยข้อมูลจากการวิจัยอย่างละเอียดในเรื่องรูปทรงของใบหน้าและสีผิวที่แตกต่างและหลากหลาย ใช้ฟีเจอร์การปรับแต่งภาพพอร์เทรทให้สมบูรณ์แบบได้ตามความต้องการเฉพาะและเป็นธรรมชาติ

ฟีเจอร์ถ่ายภาพโบเก้ ที่สวยเหมือนงานศิลปะ – มีอัลกอริทึ่มจึงมีความชัดตื้นชัดลึกที่สามารถสร้างสีสันที่คมชัด สดใสให้กับภาพถ่าย พร้อมทำให้ฉากหลังเบลอ เป็นภาพพอร์เทรทสไตล์โบเก้ที่สวยสะดุดตา นอกจากนัน ยังสามารถหาจุดโฟกัสภาพใหม่หลังจากกดชัตเตอร์

สเปคของ Huawei P10
หน้าจอแบบ FHD ขนาด 5.1 นิ้ว กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass 5
ระบบปฏิบัติการ AndroidTM 7.0 ครอบทับด้วย EMUI 5.1
CPU ชิป Kirin 960 (64-bit) Octa-core
GPU Mali-G71 MP8
RAM 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB และ 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิเซล รูรับแสง F 1.9
กล้องหลังคู่ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F 2.2 แบตเตอรี่ 3,200 mAh พร้อม SuperCharge

สเปคของ Huawei P10 Plus
หน้าจอแบบ FHD ขนาด 5.5 นิ้ว กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass 5
ระบบปฏิบัติการ AndroidTM 7.0 ครอบทับด้วย EMUI 5.1
CPU ชิป Kirin 960 (64-bit) Octa-core
GPU Mali-G71 MP8
RAM 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิเซล รูรับแสง F 1.9
กล้องหลังคู่ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงF1.8
แบตเตอรี่ 3,750 mAh พร้อม SuperCharge

ราคา
Huawei P10 ความจุ 32GB ราคาอยู่ที่ 17,900 บาท
Huawei P10 ความจุ 64GB ราคาอยู่ที่ 19,900 บาท
Huawei P10 Plus ความจุ 64GB ราคาอยู่ที่ 23,900 บาท

HUAWEI P10 และ P10 Plus ในไทยอย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นกล้องไลก้าทั้งหน้า/หลัง และฟีเจอร์ถ่ายภาพพอร์ทเทรทระดับสตูดิโอ
พร้อมเปิดพรีออเดอร์ 17 – 26 มีนาคมนี้

Kolour in The Park 2017 ร่วมค้นหาคำตอบกับประสบการณ์ปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใคร

คุณจะหลงรัก เทศกาลดนตรีกลางแจ้ง
แนวเฮาส์และเทคโนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

เราไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ  เพราะใครๆ ก็คงรู้จักเทศกาลดนตรีกลางแจ้งอย่าง Kolour in The Park 2017  เรานอกจากชอบดูหนังแล้ว ฟังเพลงก็ยังเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชื่นชอบมาเช่นกัน House Music  เป็นดนตรีเต้นรำที่ถือกำเนิดในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980  เป็นดนตรีเต้นรำที่เก่าแก่มากที่สุด เพลงอิเล็กโทรนิกแดนซ์  เป็นอีกแนวดนตรีหนึ่งที่ชอบฟังนะทั้งคึกคักสนุกสนาน จิตตื่นตัว ความหวือหวา หัวใจเต้นเร็วขึ้น และแน่นอนว่า เต้นมันขึ้นด้วย

บรรยากาศที่ไทยเวคพาร์คลำลูกกาคลอง 6 สวยน่าเล่นสุด

เทศกาลดนตรีกลางแจ้งอย่าง Kolour in The Park 2017  แนวดนตรีเพลงในแนวเฮาส์ และเทคโน เดินชิมอาหารหรูระดับกูร์เมต์  สินค้าผลงานศิลปะ และงานประดิษฐ์ การแสดง นิทรรศการศิลปกรรม ภาพเขียนแนวกราฟฟิตี้ บริการนวดผ่อนคลาย หรือแม้แต่ นั่งชมวิว กรือจะว่ายน้ำในบึง

งานวันนี้ ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ  มารวมเข้ากับจังหวะแบบเฮ้าส์มาสนุกกันโยกหัวแบบสุดเหวี่ยงอีกครั้งในปีนี่จัดขึ้นครั้งที่ 3 พิเศษกว่าที่เคย ครั้งยกระดับเป็นเทศกาลดนต รี ในแนวเฮาส์ และเทคโนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เหล่าสาวกเพลง House และ Techno ได้ออกสเต็ป เต้น กันอย่างจุใจ ในบรรยากาศริมน้ำสุดชิล ที่ห้อมล้อมไปด้วยทุ่งหญ้า และนาข้าว ณ Thai Wake Park  ย่านลำลูกกา ปทุมธานี

ส่วนช่วงบ่ายๆ อากาศไม่ร้อนมาก พวกเราเดินชมบรรยากาศของงาน โดยรอบ  มีอาหาร เครื่องดื่ม และกิจกรรมมากมาย ที่เริ่มขึ้นในเวลา 16.00 น.
สักห้าโมงเย็น สาวกเริ่มเต้น พอสาวกเหนื่อยเหนื่อยแล้ว สาวกก็ถือโอกาส
ที่จะได้ดูไปจิบเบียร์เย็นๆ ไปในบรรยากาศเป็นกันเอง  สามารถไปพักทานอาหาร ว่ายน้ำ หรือนวดฟรี เพื่อเติมพลังกันได้  ยังไม่หมดยังมีกิจกรรม
เพลินๆ อย่างนิทรรศการศิลปะ  ผลงานกราฟฟิตี้ และการแสดง ให้ร่วมชมตามไปเลือกกันได้ตามใจชอบ

สำหรับคนที่ชืนชอบกีฬาทางน้ำอย่าง เวคบอร์ด ที่นี่แจ่มมากๆ  รู้ไหมว่าเวคบอร์ดไม่ใช่สโนว์บอร์ดที่ใช้เล่นบนน้ำและไม่ใช่เพียงสกีน้ำที่แค่ยืนหันข้างเท่านั้น ความจริงก็คือ กีฬาประเภทที่ถูกพบว่ามีจุดเริ่มต้นที่แท้จริงมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

เห็นบรรยายในหน้าอีเวนต์แล้วจะร้องอื้อหือกับความเคลมแรง

Kolour In The Park สถานที่อาจดูเหมือนไกล คนไม่มีรถมีแท็กซี่ไว้บริการจัดว่าเป็นอีเว้นท์ภายใต้แนวคิดของ  Kolour  (ฅัลเลอร์) ที่มีเป้าหมายในการนำเสนอซาวน์สด ใหม่ และเพิ่มประสบการณ์ปาร์ตี้ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ให้คอเพลงคนไทยได้สนุกไปพร้อมกัน ปีนี้ก็ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดย Kolour เพื่อเป็นการขยายฐานผู้ฟังเพลงในแนวเฮาส์ และเทคโน ทุกคนที่เข้าร่วมงานได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ  เพิ่มมากขึ้นจากครั้งก่อน เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้จัดงานใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียว ที่เน้นเฉพาะดนตรีในแนวเฮาส์ เทคโน และอิเล็กโทรนิก้าเข้าด้วยกัน

เอาจริงเค้าจัดมาหลายครั้งแล้ว ถ้าใครยังไม่รู้จัก เราแนะนำให้ไปลองฟัง
เพลงอิเล็กโทรนิกในไทย  KOLOUR IN THE PARK 2017  พบกับเหล่าศิลปินดีเจดังระดับโลก สุดเจ๋งอย่าง
Tube & Berger, Wankelmut, Adana Twins, Autograf, Animal Trainer, ATMA, Ava Asante, Roman Rauch, Sameed, Oliver Osborne และเราคิดว่าคงเป็นอีกงานที่คนแน่นเอี้ยด เพราะมี Line Up ทั้ง ศิลปินไทย อย่าง Nakadia, X0809, Koish, Ekception, Dan Buri, Sunju Hargun, Boris Rubin, DOTT & Ellie, Absolud, Dark White, Tek Harrington และที่ขาดไม่ได้คือ Coran ที่จะพาคุณไปพบกับความมันส์ตลอดทั้งงาน



นึกภาพเทศกาลดนตรีแนวเฮาส์ เทคโน และ อิเล็กโทรนิก้า ที่ ฅัลเลอร์  (Kolour) ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานอีเว้นต์และปาร์ตี้แบบเต็มวันมือวางอันดับต้นของไทย ได้ประกาศเผยการจัดงาน ฅัลเลอร์  อิน  เดอะ  พาร์ค (Kolour In The Park)  ประจำปีครั้งที่ 3  โดยที่ผ่านมางาน ฅัลเลอร์ อิน
เดอะ พาร์ค  ถือเป็นเทศกาลดนตรีกลางแจ้งแนวเฮาส์ และ เทคโนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เพื่อยกระดับเป็นเทศกาลดนตรีในแนวเฮาส์และเทคโนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย



ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค จะย้อนตำนานงานปาร์ตี้กลางวันที่สนุกสุดเหวี่ยง ภายใต้บรรยากาศที่แสนผ่อนคลายบริเวณริมบึง ร่วมกับเหล่าศิลปินแนวเฮาส์และเทคโนชั้นนำของโลกที่ต่างตบเท้าเข้ามาสร้างความสุขในงาน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินเก่าที่ขอกลับมาเยือนเวทีในไทย และศิลปินใหม่ที่เพิ่งมาเปิดการแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เติมความสมบูรณ์แบบด้วย สิ่งน่ารื่นรมณ์อีกมากมาย อาหารหรูระดับกูร์เมต์ ตลาดสินค้าผลงานศิลปะและงานประดิษฐ์ การแสดง นิทรรศการศิลปกรรม ภาพเขียนแนวกราฟฟิตี้ บริการนวดผ่อนคลาย หรือแม้แต่จะว่ายน้ำในบึง นอกจากนี้ ยังมีบรรดาดีเจมือหนึ่งของกรุงเทพฯ ตามไปร่วมสร้างความสุขในงานอีกด้วย

โคราน มาโลนีย์ หนึ่งในดีเจแนวเฮาส์และเทคโนที่โด่งดังที่สุดในกรุงเทพฯ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ฅัลเลอร์ ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า

“เรารู้สึกตื้นเต้นสุดๆ สำหรับการจัดงาน ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ครั้งที่สามนี้ ซึ่งตั้งแต่ที่เราเริ่มจัดเทศกาลดนตรีมา ถือได้ว่า ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ได้นำเสนอประสบการณ์อันน่าจดจำไม่รู้ลืมให้กับนักฟังเพลงชาวไทยมาโดยตลอด เป็นงานที่โด่งดังที่สุดของเรา  เป็นการนำเสนอ  แนวเพลงหัวก้าวหน้าในสถานที่ที่สวยจับใจ  มาพร้อมกับศิลปะ กิจกรรมมากมาย และอาหารลิ้มรสหลากหลายในระดับกูร์เมต์ นักออกแบบตกแต่งภายในสุดเก๋า ของวงการเพลงแนวเฮาส์และเทคโนในประเทศไทยนั้นเติบโตขึ้นมาก และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสร้างความเติบใหญ่”

ร่วมค้นหาคำตอบกับ ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค เป็นอีเว้นต์หนึ่งในซีรี่ส์อันหลากหลายภายใต้แนวคิดของฅัลเลอร์ ที่มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นก็คือ การนำเสนอซาวน์ใหม่สด และประสบการณ์ในปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใครสู่ผู้เสพดนตรีในประเทศไทย ไปพร้อมๆ กับการขยายฐานผู้ฟังเพลงในแนวเฮาส์และเทคโน ทีมงานที่ประกอบไปด้วยหลากเชื้อชาติหลายวัฒนธรรม ทั้งชาวไทยและเทศที่พำนักในไทย มาร่วมงานกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และภูมิหลังทั้งในเรื่องงานดนตรี งานบันเทิง และงานรื่นเริงยามราตรี เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้จัดงานที่ใหญ่ที่สุด  เพียงรายเดียวที่เน้นเฉพาะดนตรีในแนวเฮาส์ เทคโน และอิเล็กโทรนิก้า

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงานฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ทางทีมงานฅัลเลอร์กำลังวางแผนพัฒนาปาร์ตี้ฉีกแนวสุดเอ็กซ์คลูซีฟภายใต้แนวคิดแบบ “อันเดอร์กราวด์” อาทิ ฅัลเลอร์ แวร์เฮาส์ (Kolour Warehouse) และ
ฅัลเลอร์ ซันเดย์ส  (Kolour Sundays)

ในค่ำคืนนี้ กันถ้าเป็นคนรักเสียงดนตรีที่หลากหลาย เราแนะนำให้ลองไปเยือน Kolour In The Park งานเฟสติวัลเอาท์ดอร์ที่มาพร้อมกับสไตล์ดนตรี House & Techno โดยงานในปี 2017 จะจัดถึง 2 วัน พร้อมกับไลน์อัพสุดยิ่งใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 เวทีด้วยกัน โดยงาน จัดวันที่ 18-19 มีนาคม ตั้งแต่ช่วงกลางวันไปจนถึงดึกที่ Thai Wake Park

ในงานจะมีกิจกรรมมากมาย อาทิ: Graffiti Exhibition, Custom Light Show, Pro Wakeboard Showcase, Arts และ Craft Market, Gourmet Food Vendors & Food Trucks, Art Installations, Swimming Games และกิจกรรมมากมายมีผู้สนับสนุนหลักอย่าง singha corporation



สำหรับลูกค้าที่เดินทางมา นำรถมาฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค  มีสถานที่จอดรถไว้บริการที่วัดเกตุประภา โดยทางเราจะมีรถรับ-ส่งเพื่ออำนวยความสะดวกฟรีทั้ง 2 วันค่ะ   หรือสามารถส่งผู้โดยสารได้ที่จุดรับ-ส่ง บริเวณหน้าโรงงานกระดาษได้ตั้งแต่ เวลา 9.00-12.00 น.  ไปสนุกกับเสียงเพลงมันส์ๆ กันเยอะๆ

ห้ามพลาดงานที่หนึ่งปีมีครั้งเดียวอย่างนำซาวด์ดนตรีหลากหลายแนวมารวมกันใน Kolour in the Park 2017   โดยจะมีขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 18-19 มีนาคม 2560 ณ บึงไทยเวคพาร์ค ลำลูกกาคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี

โดยจะมีขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 18-19 มีนาคม 2560 ณ บึงไทยเวคพาร์ค ลำลูกกาคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี
ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรได้ทาง   www.kolourinthepark.com
ราคาปกติสำหรับบัตรผ่านเข้างานทั้งสองวันจะอยู่ที่ 1,900 บาท และจะปรับขึ้นเป็น 2,100 บาทในช่วงสุดท้ายก่อนงานจะเริ่ม

หากซื้อบัตรหน้างานราคาจะอยู่ที่ 2,500 บาท   และสำหรับบัตรวันเดียวนั้น
(เลือกวันเสาร์ หรืออาทิตย์)    ราคาจะอยู่ที่ 1,550 บาทเท่ากัน

สถานที่
ไทยเวคพาร์ค ลำลูกกา สนามกีฬา ศูนย์กีฬา และสถานที่จัดแข่งกีฬา
ใน Lam Luk Ka, Pathum Thani, Thailand

 

รองนายกรัฐมนตรีมอบประกาศนียบัตรให้ผู้เข้าอบรมโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย และพิธีเปิดเทศกาลบิ๊กฮอลิเดย์ 2017

ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย
เทศกาลบิ๊กฮอลิเดย์  2017

 

มูลนิธิส่งเสริมการลูกเสือแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับ สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม จัดโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยเหลือคนจมน้ำ เพื่อถวายเป็น พระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9

สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ เปิดคอร์สเรียนว่ายน้ำฟรีแก่ประชาชนผู้สนใจจำนวน 999 คนโดยใช้หลักสูตรอเมริกันเรดคอร์สซึ่งเป็นหลักสูตรการช่วยชีวิตทางน้ำซึ่งสวนสยาม  มีความเชี่ยวชาญมากว่า 37  ปี โดยผู้เรียนจะสามารถว่ายน้ำเป็น ช่วยเหลือตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้เมื่อประสบภัยทางน้ำ ดำเนินการสอนโดยครูฝึกสอนวุฒิปริญญาตรีพลศึกษา พร้อมรับมอบใบประกาศเกียรติคุณเมื่อจบหลักสูตร



พิธีมอบประกาศนียบัตรโครงการ “ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย และช่วยชีวิตคนจมน้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ในหลวงรัชกาลที่ 9

วันที่18 มีนาคม 2560  เวลา15.00 น.  ที่ อาคารบาซาร์ สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ  โดยฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรีมอประกาศนียบัตรให้ผู้เข้าอบรมโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมพิธี

พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมพิธีมอบประกาศนียบัตรโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยงานดังกล่าวกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา/มูลนิธิส่งเสริมลูกเสือแห่งประเทศไทยและ siam park city สวนสยามร่วมกันจัดขึ้น เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของประชาชนคนไทย ตลอดรัชสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติ

โครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ จัดขึ้น โดยมีครูฝึกสอน จากสวนสยามที่มีความชำนาญในหลักสูตร America Red Cross

สำหรับโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ จัดขึ้น โดยมีครูฝึกสอน จากสวนสยามที่มีความชำนาญในหลักสูตร America Red Cross สอนให้กับผู้สนใจจำนวน 999 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่อายุน้อยที่สุดคือ 7 ปี และอายุมากที่สุด 72 ปีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้สถิติการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของกลุ่มเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีและเด็กมักจะเสียชีวิตพร้อมกันหลายคนเนื่องจากไม่รู้วิธีการเอาตัวรอดในน้ำและวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง โครงการดังกล่าวจัดสอนว่ายน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำโดยครูฝึกสอนจากสวนสยามที่มีความชำนาญในหลักสูตรอเมริกา

Big Holiday 2017 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

พร้อมกันนี้ได้ทำพิธีเปิดเทศกาล  Big Holiday 2017 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้  สมาชิกในครอบครัว  รวมถึงนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้พักผ่อนร่วมกันในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 มีนาคม ถึง 7 พฤษภาคม 2560


สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ

โดยจะมีกิจกรรมสร้างสรรค์ตลอดเทศกาล นอกจากนี้ สวนสยามยังได้มอบโปรโมชั่นพิเศษแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทย สามารถซื้อบัตร  Si-Am Big Pack ในราคาพิเศษ เพียง 500 บาท จากราคาปกติ 900 บาท ซื้อบัตรครั้งเดียว  สามารถใช้บริการสวนน้ำ
และเครื่องเล่นทุกชนิดได้ไม่จำกัดรอบตลอดทั้งวัน



สนุกสุดเหวี่ยงไปกับเครื่องเล่นสุดมันส์ ชุ่มฉ่ำไปกับทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ ให้บริการสวนน้ำที่มีทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกรับรองโดยกินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส ที่มีทั้งธารน้ำวน ธารน้ำตก สไลเดอร์ยักษ์ ซูปเปอร์สไปรัล และเครื่องเล่นทางน้ำใหม่ล่าสุดสำหรับครอบครัว Si-Am Lagoon จากบริษัท Proslide ผู้ผลิตระดับโลกจากประเทศแคนาดา ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในเทศกาลสงกรานต์

 

นอกจากนี้ สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ ยังให้บริการสวนสนุกซึ่งพรั่งพร้อมด้วยเครื่องเล่นมาตรฐานสากลระดับโลกกว่า 30 ชนิด อาทิ
วอร์เท็กซ์ รถไฟเหาะตีลังกาเกลียวสว่านใหญ่ที่สุด1  ใน2 ของโลก, ไจแอ้นดร็อป ยักษ์ตกตึกที่สูงที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ล็อกฟลูมล่องแก่งขนาดยักษ์จากประเทศเยอรมันนี, แอฟริกาแอดเวนเจอร์ ท่องป่าแอฟริกา, แกรนด์แคนยอนเอ๊กเพรส รถไฟหัวม้า, บูมเมอแรงรถไฟเหาะตีลังกาถอยหลังยอดนิยม ฯลฯ

สวนสยามทะเลกรุงเทพ เป็นสวนสนุกและสวนน้ำ ตั้งอยู่ที่  ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว บนเนื้อที่ 300 ไร่ ได้ฉายาว่า ทะเลกรุงเทพ
คำขวัญคือ สวนสยาม โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม

สอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร.0-2919-7200 ต่อ 308, 309
คุณพรศรี 090-8801070
www.facebook.com/siamparkcity.fanpage/