Category Archives: Event

“SuperRich สีเขียว” รุกตลาดชานเมือง เปิดสาขาใหม่ พร้อมตอบโจทย์ชีวิตติจิทัล

Thailand Best Rate
ซุปเปอร์ ริช ไทยแลนด์ (สีเขียว) 
เปิดสาขาใหม่รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ

ซุปเปอร์ ริช ไทยแลนด์ (สีเขียว) ผู้นำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศมากว่า 50 ปี เน้นจุดแข็ง “Thailand Best Rate” เปิดสาขาใหม่รองรับกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ พร้อมตอบรับ Cashless society ด้วยบริการรับแลกเงินด้วย QR Code และบัตรเครดิต ทุกสาขา ให้การแลกเงินสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ธณัทร์ษริน สุสมาวัตนะกุล (คุณเจน)  กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาองค์กร บริษัท ซุปเปอร์ริช (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไทยเดินทางออกนอกประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ซุปเปอร์ริช สีเขียว” จึงเปิดสาขาใหม่ล่าสุดที่ เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกต ชั้น 3 โซนธนาคาร เป็น 13 สาขา ขยายพื้นที่ให้บริการจากใจกลางกรุง สู่กลุ่มลูกค้าในกรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันตก ไปถึงจังหวัดนนทบุรี เป็นความตั้งใจ ซุปเปอรืริช ไทยแลนด์ สีเขียว ที่จะดูแลและตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ตรงใจที่สุด

นอกจากนี้ เทรนด์การขยายของตัวเมือง พร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีผลให้ไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้เงินของลูกค้าเปลี่ยนไป “ซุปเปอร์ริช สีเขียว” จึงเพิ่มช่องทางการบริการลูกค้าให้รวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเปิดบริการรับแลกเงินไทยเป็นเงินต่างประเทศด้วยระบบ QR Code ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม แลกได้สูงสุดถึง 300,000 บาท/วัน/พาสปอร์ต และบัตรเครดิต สำหรับจำนวนเงิน 10,000-30,000 บาท/วัน/พาสปอร์ต มีค่าธรรมเนียม 2.2% ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ในทุกสาขา
แล้ววันนี้

ซุปเปอร์ริช สีเขียว ยกระดับการบริการลูกค้าด้วยการขยายพื้นที่บริการ ประกอบกับใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างเข้มข้น เพื่อให้พนักงานสามารถมอบบริการที่รวดเร็ว ละเอียด ครบถ้วน เป็นมิตรกับลูกค้าที่เข้ามารับบริการ มีระบบการทำงานสอดคล้องกับการเคลื่อนตัวของเศรษฐกิจ รองรับไลฟ์สไตล์การใช้เงินของลูกค้าทั้งรูปแบบเงินสด และแบบไร้เงินสดในอนาคต และยังมีช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด

สัมผัสประสบการณ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในอัตราที่ดีที่สุด พร้อมการให้บริการที่ประทับใจได้แล้ววันนี้ ที่ ซุปเปอร์ริช สีเขียว
ทั้ง 13 สาขา

ซุปเปอร์ริช ไทยแลนด์ (สีเขียว) แลกเงิน THB เป็นสกุลเงินต่างประเทศเรทเดียวกันทุกสาขา แลกเงินไทยเป็นเงินต่างประเทศด้วยบัตรเครดิต กับซุปเปอร์ริชไทยแลนด์ (สีเขียว)เช็คเรทแบบเรียลไทม์ได้ที่
http://bit.ly/SuperrichTH-facebook-rate หรือ App SuperrichTH
iOS : bit.ly/SuperrichTH-ios
Android : bit.ly/SuperrichTH-android

บริการสั่งจองเงินล่วงหน้า ได้ที่
Call center 02-254-4444
ช่องทางออนไลน์
Line@ / Facebook / Twitter / Application : SuperrichTH
www.superrichthailand.com

#ซุปเปอรืริชไทยแลนด์สีเขียว #SuperrichTH
#ThailandBestRate #SuperrichLife

 

1 ปีมีครั้งเดียว จัดใหญ่ แจกเยอะ กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ

ฉลองเดือนเกิดคิง เพาเวอร์
KingPower Delights And Surprises

ฉลอง 29 ปี คิง เพาเวอร์ จัดใหญ่ แจกเยอะ ตลอดเดือนตุลาคม
เปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ในคอนเซ็ปต์นักเดินทางบนเรือสำราญสุดหรู
คิง เพาเวอร์ ฉลองครบรอบ 29 ปี จัดใหญ่ แจกแยอะ ลดราคาครั้งใหญ่ในรอบปี สูงสุดถึง  30%  พร้อมความบันเทิงจากศิลปินชื่อดังมากมาย

อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เป็นประธานเปิดงาน “29th Anniversary Delights & Surprises” ฉลองครบรอบ 29 ปี คิง เพาเวอร์ อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงความขอบคุณและคืนกำไรให้แก่ลูกค้าขาช็อปที่อยู่เคียงข้างกันอย่างยาวนาน

คิง เพาเวอร์ จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 29 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้งาน “29th Anniversary Delights & Surprises” ซึ่งมาในคอนเซ็ปต์ “Enchantment of the Cruise Where Celebration Sets Sail”
เพื่อแทนคำขอบคุณให้แก่ลูกค้าที่ให้การสนับสนุน คิง เพาเวอร์ เสมอมา
โดยมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษและของรางวัลต่าง ๆ มากมาย

งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 ตุลาคม 2561 ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ, ศรีวารี, พัทยา และภูเก็ต พิธีเปิดงานจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 18 ตุลาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป  ณ บริเวณ คราวน์ เอเทรียม คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

โดยไฮไลต์ในงานจะได้พบกับโชว์มิวสิคัลแดนซ์จาก หญิง–รฐา โพธิ์งาม และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ทอม Room39 ที่จะมาสร้างความบันเทิงให้กับทุกท่านอย่างเต็มอิ่ม พร้อมกับโปรชั่นสุดพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย

มาร่วมงานในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข พร้อมช้อปแล้วรับโปรโมชั่นสุดคุ้มที่ไม่ควรพลาด วันนี้ ถึง 21 ตุลาคม 2561
ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

#KingPowerDelightsAndSurprises
#DelightsAndSurprises2018
#WeAreTravellersToo
#ExploreEndlessly
#KingPower

จ.อุบลฯ ปักหมุดจุดหมายใหม่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี

‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’
4 ชุมชนใน อ.ตาลสุม

เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่สำหรับโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP  นวัตวิถี    ‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’ อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน โดย นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ณ ริมสระบัว บ้านห่องแดง ต.นาคาย อ.ตาลสุม สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดที่ได้รับความนิยมจากประชาชนและนักท่องเที่ยว มาเดินชมทุ่งนาบัว ถ่ายรูปบนสะพานไม้ เช็คอิน และแชร์ภาพอย่างแพร่หลายอยู่ในขณะนี้

​อ.ตาลสุม อยู่ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีไปทางทิศตะวันออกประมาณ 34 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่มีต้นตาลจำนวนมากอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูล จึงเรียกบริเวณนี้ว่า ‘ตาลชุม’ ต่อมาเพี้ยนเป็น ‘ตาลสุม’ มีคำขวัญประจำอำเภอว่า 

“ผ้าห่มงาม ข้าวหลามรสดี มากมีลูกตาล หวานมันฝักบัว”  โดยมีชุมชนเป้าหมายในโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’ 4 ชุมชน ประกอบด้วย บ้านห่องแดง, บ้านสำโรงใหญ่, บ้านคำหว้า และบ้านนามน

 

​“บ้านห่องแดง ต.นาคาย” เป็นชุมชนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทางธรรมชาติ
ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยต้นตาล ซึ่งให้ลูกตาลรสชาติดีตลอดทั้งปีจนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของชุมชน นอกจากภาพทุ่งนาเขียวขจีที่รายล้อมด้วยต้นตาลแล้ว ล่าสุด ‘ทุ่งนาบัวบ้านห่องแดง’ ก็กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่
ที่ดึงดูดผู้คนมาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสาย เป็นโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ OTOP บ้านห่องแดง ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดอกบัว ได้แก่ น้ำนมเม็ดบัว โดนัทเม็ดบัว ลูกประคำเม็ดบัว ดอกบัวแห้ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น หมวกสาน เสื่อจากใบเตย เสื่อผือ
กระติ๊บข้าว ตาลสดอ่อน และขนมตาล สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจลิ้มรสอาหารพื้นถิ่นของบ้านห่องแดง ต้องไม่พลาดชิม 5 เมนูเด็ด ได้แก่ ยำผัก
จากเม็ดบัว ต้มไก่บ้านใส่ใบมะขาม ปลาทอด ส้มตำ และบัวลอยแก้ว

​“บ้านสำโรงใหญ่ ต.สำโรง” เป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงด้านการอนุรักษ์งานพุทธศิลป์ด้วยฝีมือการวาดภาพพุทธประวัติที่มีสีสันสวยงาม โดยมีการจัดตั้งกลุ่มผลิตผ้าผะเหวด หรือผ้าวาดภาพพระเวสสันดรชาดก ซึ่งถือเป็นงานหัตถกรรม OTOP ที่ขึ้นชื่อและได้รับการยอมรับทั้งในท้องถิ่นและในระดับจังหวัด สอดคล้องกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางจิตใจ นั่นคือ หลวงพ่อพระเจ้าใหญ่ประทานพร วัดสำโรงใหญ่ ที่คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร ขณะที่ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีชื่อเสียงนอกจากผ้าพระเวสสันดรชาดกแล้ว ยังมีกรอบพระ เครื่องจักสาน ผ้าห่มนาโน  พรมเช็ดเท้า พริกป่นแปรรูป แจ่วบอง กล้วยฉาบ และมะยมเชื่อม ส่วนเมนูพื้นบ้านที่คนใ
นชุมชนพร้อมเสิร์ฟนักท่องเที่ยว ได้แก่ แกงหน่อไม้ ต้มไก่บ้าน ป่นปลา-นึ่งผัก แจ่วบอง และข้าวเม่าคลุกมะพร้าวอ่อน

​“บ้านคำหว้า ต.คำหว้า” เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่โดดเด่นด้านการดำเนินชีวิตตามวิถีพอเพียง ทรัพยากรทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ถูกนำมาแปรรูปเป็นของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันก็กลายเป็นสินค้า OTOP หลากหลายประเภทที่สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างน่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็น ไม้กวาดทางมะพร้าว กระเป๋าผ้าฝ้าย ผ้ารองแก้ว พรมเช็ดเท้า เสื่อทอ เปล ยาหม่อง น้ำมันเขียว รวมไปถึงงานสานพลาสติก ได้แก่ พัด ตะกร้าสาน ส่วนเมนูอาหารพื้นถิ่นที่ชาวบ้านคำหว้าตั้งใจจัดให้นักท่องเที่ยวชิม ได้แก่ ต้มไก่บ้าน แกงหน่อไม้ ป่นปลา แจ่วบอง น้องนางทรงเครื่อง (ไข่ตุ๋น) และน้องนางรอดรู (ลอดช่อง)

 

​“บ้านนามน ต.ตาลสุม” เป็นชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำมูล คนในชุมชนส่วนใหญ่จึงออกหาปลาเป็นอาชีพหลัก และสืบสานภูมิปัญญาทางหัตถกรรมจากรุ่นสู่รุ่น พัฒนาต่อๆ กันมาจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ที่น่าสนใจ ได้แก่ ตะกร้าจากไม้ไผ่ ตะกร้าจากพลาสติก เบาะรองนั่ง ผ้ารองจาน ผ้ารองแก้ว เปลผ้า กระเป๋าผ้า ผ้าห่ม พรมเช็ดเท้า และไม้ถูพื้น ขณะเดียวกัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสรสชาติอาหารพื้นถิ่น ชาวบ้านนามนจึงได้จัดสำรับเด็ดมาโดยเฉพาะ ได้แก่ ลาบปลา ยำน้องแก้ว (ปลาแก้ว) สิบล้อยกล้อ (ปูนาทอด) ป่นปลา-ลวกผัก ไข่หน้ามน (ไข่เจียว) และนารีจำศีล (กล้วยบวดชี)

ทั้งนี้ จังหวัดอุบลราชธานีมุ่งหวังว่าโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน จะสร้างรายได้แบบกระจายตัวทั่วถึงทั้งชุมชน และพัฒนาศักยภาพทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

 

สนใจสอบถามข้อมูลชุมชนท่องเที่ยวได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอตาลสุม โทรศัพท์ 081-8234131

กิจกรรมสัญจรหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อุตรดิตถ์

ขับรถผ่านอยู่หลายรอบ อุตรดิตถ์
วันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปแล้ว

จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดอุตรดิตถ์ กิจกรรมสื่อมวลชนเยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์
ดินแดน 3 วัฒนธรรม(ล้านนา ล้านช้าง ไทยกลาง) เสริมสร้างชุมชนให้มีความเข็มแข็ง เพิ่มรายได้ชุมชน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จำนวน 9 อำเภอ 28 หมู่บ้าน

โครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรวมตัวของการท่องเที่ยวระดับชุมชน ‘แอ่งเล็ก’ สร้างเป็นอาชีพที่ยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมบวกกับวิถีชีวิตของชุมชน ยกเสนห์ความงดงามของท้องถิ่น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี และอาหาร พัฒนาเป็น อัตลักษณ์ของชุมชน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวซื้อสินค้าในชุมชน ทำให้รายได้กระจายอยู่ในชุมชน

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 61 สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดอุตรดิตถ์ กิจกรรมสื่อมวลชนเยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ ดินแดน 3 วัฒนธรรม(ล้านนา ล้านช้าง ไทยกลาง) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม 2561

เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสารการดำเนินงาน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ของจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยสื่อมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย สื่อส่วนกลางและสื่อท้องถิ่น มีพื้นที่เป้าหมายในการศึกษาดูงาน ได้แก่ อำเภอพิชัย บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก ทหารคู่ใจพระเจ้าตากสิน / ชมประเพณีหาบจังหัด ที่อำเภอตรอน / อำเภอฝากท่า เภอบ้านโคก ชุมชนทอผ้ามัดหมี่ ชื่อดัง / อำเภอน้ำปาด แวะสักการะพระอกแตก หนึ่งเดียวในโลก และเชคอินสะพานร่วมใจที่ชาวชุมชนพร้อมใจกันทำสะพานไม้ขัด กลางทุ่งนา ธรรมชาติ เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แล้วจะรู้ว่ามีบางสิ่งอธิบายทุกอย่างไว้ลงตัวหมดแล้ว

จังหวัดอุตรดิตถ์ มีชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น เป็นดินแดน 3 วัฒนธรรม คือล้านนา ล้านช้าง และ ไทยกลาง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมและใช้จ่ายได้ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ที่สามารถสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสเสนห์ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และช่วยเสริมสร้างรายได้ ให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

พาไปชมความคึกคัก จุดเช็คอิน 3 ชุมชน เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง

เปิดจุดเช็คอินชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อ.ศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี

โครงการชุมชนท่องที่ยว OTOP นวัตวิถี ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของจังหวัดอุบลราชธานี  ตอนนี้กำลังเดินหน้าไปอย่างคึกคัก ล่าสุด สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี จัดกิจกรรมเปิดชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีและสื่อมวลชนเยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชน ‘เส้นทางธรรมนำวิถีพอเพียง’ ณ วัดศรีบุญเรือง บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่

โดย 3 ชุมชนในเส้นทางนี้ ประกอบด้วย บ้านคำบง บ้านนาเลิน และบ้านดงนา ต่างพร้อมใจกันมาแนะนำชุมชนแบบจัดเต็ม ทั้งการแสดงพื้นบ้าน การออกบูธผลิตภัณฑ์ OTOP และการสาธิตงานฝีมือต่างๆ

อ.ศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี

​เริ่มจาก “บ้านคำบง ต.สงยาง” อีกหนึ่งชุมชนต้นทางเส้นทางธรรม เพราะนอกจากจะเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวัดป่าแล้ว ท่านยังได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีบุญเรืองด้วย ที่บ้านคำบงจึงมีทั้งอนุสรณ์สถานบ้านเกิด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพุทธอุทยานบ้านคำบง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต องค์ใหญ่ที่สุดในโลก  ขนาดหน้าตัก 16 เมตร สูง 29 เมตร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวได้มาสักการะบูชา​ด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ให้นักท่องเที่ยวได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แล้วจะรู้ว่ามีบางสิ่งอธิบายทุกอย่างไว้ลงตัวหมดแล้ว

ผลิตภัณฑ์ OTOP ของบ้านคำบงส่วนใหญ่จึงเป็นงานแปรรูปจากธรรมชาติรอบตัว ได้แก่ เครื่องจักสานไม้ไผ่ เตียงไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์จากกะลา พวงกุญแจไม้มะขาม สบู่ หน่อไม้ส้ม หน่อไม้ถุง เป็นต้น ขณะที่สำรับอาหารที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ ลาบนางเซ (ลาบปู) ซุปนางดิน (ซุปหน่อไม้) แจ่วบอง และขนมต่างๆ อาทิ ขนมดอกจอก ทองม้วน และกล้วยบวดชี

บ้านคำบง ตำบลสงยาง อำเภอศรีเมืองใหม่ เป็นบ้านเกิดของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พื้นที่บริเวณตรงนี้ ก็คือ เป็นที่ดิน เป็นสถานที่ปลูกบ้านอยู่อาศัยของครอบครัว หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

“บ้านนาเลิน ต.นาเลิน” เป็นชุมชนที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย โดยเฉพาะในวนอุทยานน้ำตกผาหลวง ซึ่งมีน้ำตกผาหลวงอันสวยงาม และมี ‘ผาหม้อ’ สามารถสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสเสนห์ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และช่วยเสริมสร้างรายได้ ให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

วนอุทยานน้ำตกผาหลวง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี มีความโดดเด่นในเรื่องของลักษณะภูมิประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยเทือกเขาติดต่อกันคือ ภูแผงม้า มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 399 เมตร ภูพระทราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 392 เมตร ภูหมีเยี่ยม มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 362 เมตร ภูผักหวาน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 282 เมตร ซึ่งภูเขาเป็นลักษณะสูงชัน และมีที่ราบเป็นลานหินบนเขา

ที่ตั้งของเสาเฉลียงรูปร่างคล้ายหม้อดินโบราณ  นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ รวมทั้งจุดชมวิววัดภูกุ้มข้าว ซึ่งล้วนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่น่าสนใจ

​ผลิตภัณฑ์ OTOP ที่น่าสนใจของบ้านนาเลิน ได้แก่ ไม้กวาดหญ้าหางเสือ สาดเตยหรือเสื่อที่ทำจากใบเตย ตะกร้าสานจากซองกาแฟ ตะกร้าสานจากไม้ไผ่ เปลไม้ไผ่ ชิงช้าไม้ หน่อไม้ดอง หน่อไม้ถุง หน่อไม้ดอง แจ่วปู และปลาแดดเดียว ส่วนสำรับอาหารที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวลิ้มรส ได้แก่ หอยหอม ซุปหน่อฟ้าท้าลุย (ซุปหน่อไม้) นึ่งนางหนีบ (ปูนึ่ง) แกงนักเลงพื้นบ้านใส่หน่อฟ้าท้าลุย (แกงไก่หน่อไม้) หลามปลาจอมพลัง (ปลาช่อนกระบอกไม้ไผ่) และหนุมานคลุกฝุ่น (ข้ามต้มคลุกมะพร้าว)

​ปิดท้ายที่ “บ้านดงนา ต.หนามแท่ง” ชุมชนเล็กๆ ริมแม่น้ำโขง เจ้าของคำขวัญ ‘วัดสวนหินผานางคอย ลอยเรือไปออกพรรษา ล้ำค่าปลาน้ำโขง เชื่อมโยงดินแดนไทยลาว’ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวในชุมชนได้ครบถ้วน เพราะจุดแรกที่เป็นเหมือนประตูบ้านดงนาก็คือ วัดสวนหินผานางคอย บนยอดเขาที่เป็นลานหิน มีหน้าผาสูงชันชื่อ ‘ผานางคอย’ ตามตำนานรักอมตะเล่าว่า หญิงสาวสูงศักดิ์แห่งเมืองจำปาสัก มานั่งคอยสามีที่ผาแห่งนี้ทุกวัน แต่ในที่สุดนางก็ได้ข่าวสามีเสียชีวิตในสนามรบ นางจึงเศร้าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

​ถัดลงไปจากวัดสวนหินผานางคอย เป็นที่ตั้งของบ้านดงนา ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการประมง แต่หากนักท่องเที่ยวต้องการชมวิวสองฝั่งโขง ก็สามารถใช้บริการล่องเรือได้จากท่าเรือในชุมชน ก่อนจะขึ้นฝั่งมาช้อปผลิตภัณฑ์ OTOP ได้แก่ ผ้าพันคอผ้าฝ้าย ผ้าคลุมไหล่ผ้าฝ้าย ผ้าห่มนวมยัดฝ้าย เชือกผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า ตะกร้าสานไม้ไผ่ พิมเสนน้ำ น้ำยาล้างจานจากใบย่านางและว่านหางจระเข้ ลานจับปลา และสาดเตย เป็นต้น พร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูพื้นถิ่น ได้แก่ คั่วนักร้องริมโขง (คั่วจิ้งหรีด) ต้มยำปลา ลาบปลา หมกปลาร้า และห่อหมก

สนใจสอบถามข้อมูลชุมชนท่องเที่ยวได้ที่
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีเมืองใหม่ โทรศัพท์ 081-8234293

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ของดีที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ว่ามี!

ระนอง วิถีชีวิต หมู่บ้านที่ซ่อนตัว
ท่ามกลางธรรมชาติ

ระนอง เป็นหนึ่งในชุมชนท่องเที่ยว ซึ่งมีวิถีชีวิต วัฒนธรรม ธรรมชาติ งดงาม มีเสน่ห์ ดึงดูด ชวนให้นักเดินทางได้ไปเยือนสักครั้ง  ท่องเที่ยวทั้งที  ต้องมีในลิสต์  คนชอบทะเลไม่หนีร้อนก็หนีรักไปพักกับบรรยากาศ 28 หมู่บ้าน 5 อำเภอ OTOP นวัตวิถี จังหวัดระนอง

ครั้งนี้เลือกไปเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น ชื่นชมวิถีชีวิตที่เรียบง่าย  ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพแบบธรรมชาติไม่ว่าจะชอบเที่ยว ทะเล เที่ยวภูเขา
หรือชอบหาของกินอร่อยๆ  เลือกซื้อสินค้าในชุมชน เลือกมุมถ่ายรูปสวยๆ กิจกรรมดีดีเหล่านนี้ มีแต่เสียงหัวเราะล้วนแล้ว เป็นความสุขที่ให้กับ
ตัวเองทั้งนั้น

Toptotravel เพิ่งกลับมาจาก จังหวัดระนอง นี่คือ การไปเยือนจังหวัดระนองเป็นครั้งแรก  “ระนอง”  จังหวัดที่มีสโลแกนว่า เมืองฝนแปด แดดสี่ หมาย ความว่า สภาพอากาศตลอดในหนึ่งปี ฝนตกแปดเดือน และแดดออกอีกสี่เดือน  ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ก็แอบลุ้นๆ ว่าจะฝนจะตกสักกี่วัน

เหตุผลที่มาครั้งนี้ก็ เพราะ ระนอง เป็นเมืองที่มีครบทุกอย่างในด้านการท่องเที่ยว ด้านขวาของจังหวัด  ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงเขียวขจี บริเวณโดยรอบมีทั้งป่าและน้ำตก ส่วนฝั่งซ้ายลาดลงไปสู่ทะเลอันดามัน และสามารถข้ามไปเกาะต่างๆ มากมาย

เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ ไป จังหวัด ระนอง ทริปนี้เรามากันทั้งหมด  2 วัน  1 คืน  Totptoravel เดินทางทั้งขาไปและขากลับ โดยสายการบิน นกแอร์ ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เครื่องบินชื่อน่ารัก นกคาปู คือชื่อของนาง สภาพอากาศระหว่างการเดินทางอากาศดีฟ้าใส  เผลอแปร๊ปเดียวถึง  ยังสนามบินระนอง นกแอร์ เที่ยวบินที่ DD7312 เวลา 6.05 น. ถึงระนอง เวลา 7.30 น.
ใช้ระยะเวลาการเดินทางโดยประมาณ 1.25 ชม. หลังจากนั้น เราเดินทางเข้าสู่เมือง จ.ระนอง ไปหาอาหารเช้าพท้นเมืองทานกัน

ระหว่างทาง มองเห็นสถานต่างๆ รอบตัวเมืองระนอง แต่ละที่ดูแล้ว ช่างมีเอกลักษณ์และเสน่ห์แตกต่างกันออกไป และด้วยเวลาที่จำกัด Tototravel จึงเลือกไปชมวิถีชีวิต รูปธรรมชาติ ภูเขา ทะเล และผู้คนให้มากยิ่งขึ้น

สิ่งต่างๆ ที่เราจะได้เห็นจากการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน  สถานที่ต่างๆ อยู่ในชุมชนเกือบทั้งสิ้น   โดยใช้เสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ OTOP​ นวัตวิถี​ ระนอง​ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดรายได้กับชุมชน โดยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดระนอง

OTOP นวัตวิถี เน้นให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน สามารถสัมผัสรายละเอียดของธรรมชาติ วิถีชีวิตแต่ละภาพจะสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตพื้นบ้านที่เรียบง่ายของชาวจังหวัดระนอง ธรรมชาติบำบัด สัมผัสชีวิตคนระนอง เดินฟังเสียงน้ำไหล กินไข่ออนเซน เสน่ห์ของวิถีชุมชน อาหาร การแต่งกาย ที่อยู่อาศัย ประเพณี ภาษา อาชีพ ความเชื่อ ศิลปะพื้นถิ่น น่าอิจฉาวิถีชีวิตของคนที่นี่ และนักท่องเที่ยวทุกท่านมาผล้วไม่ผิดหวัง คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิต  ของชาวระนอง มาเที่ยวระนองทั้งที  ถ้าไม่ได้ลง 5 อำเภอ 28 หมู่บ้าน  ถือว่าคุณยังมาไม่ถึงระนอง

การเดินทางมาเที่ยวครั้งนี้  ได้รับเชิญจาก พช. จังหวัดระนอง   จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่น เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน เสริมสร้างชุมชนให้มีความเข็มแข็ง เพิ่มรายได้ชุมชน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดระนอง จัดโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่นธรรมชาติบำบัด สัมผัสชีวิตคนระนอง เดินผังเสียงน้ำไหล กินไข่ออนเซน OTOP นวัตวิถี  จุดหมายของคนรักสุขภาพแบบธรรมชาติ น่าอิจฉาวิถีชีวิตของคนจังหวัดระนอง

ที่ จ.ระนอง บอกได้เลยว่าดีเทลธรรมชาติ 100%  แห่งหนึ่งในประเทศไทย  จึงทำให้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรวมตัวของการท่องเที่ยวระดับชุมชน ‘แอ่งเล็ก’ สร้างเป็นอาชีพที่ยั่งยืน ชาวบ้านปลูกกาแฟแบบธรรมชาติปลอดสารพิษ ทำให้ผลผลิตกาแฟมีคุณภาพล้ำเลิศทั้งในด้านรสชาติและความหอมหวล ไม่แพ้เมล็ดกาแฟจากแหล่งใดในโลกยังเป็นที่รู้จักในฐานะชุมชน  ที่มีการจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง

ด้วยวิถีชีวิต ความสามัคคี ระบบระเบียบที่ชัดเจน กับความคิดดีๆ โดยใช้นวัตกรรม บวกกับวิถีชีวิตของชุมชน ยกเสนห์ความงดงาม  ของท้องถิ่น
ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ของนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ  ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ผลสำคัญของการท่องเที่ยวทำให้ชาวบ้าน มีรายได้ดี เพื่อ
จุนเจือครอบครัวมากขึ้น  จากการที่ชาวบ้าน ได้มีการร่วมตัวกันจัดตั้งกลุ่มต่างๆ ตามความถนัดและความสนใจของตนเอง

เพื่อรับการอบรมพัฒนาอาชีพเสริม ที่ผู้นำหมู่บ้านจัดกลุ่มนวดแผนโบราณ กลุ่มเครื่องเรือนไม้ไผ่ กลุ่มจักสานหมวก กลุ่มสมุนไพรพื้นบ้าน กลุ่มดนตรีพื้นเมือง กลุ่มฟ้อนรำ กลุ่มไกด์ กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ชา กาแฟ กลุ่มอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งทุกกลุ่มของแต่ละชุมชนมีความเกี่ยวพันและเชื่อมโยงกับ Otop นวัตวิถี กับการท่องเที่ยวทั้งสิ้น

ทุกวันนี้ชาวบ้าน  28 หมู่บ้าน 5 อำเภอ OTOP นวัตวิถี จ.ระนอง  เข้าใจเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และการบริหารจัดการในทุกด้าน รวมถึงรู้จักหน้าที่และบทบาทของตัวเองในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ตลอดจนการร่วมแรงร่วมใจกันในการพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อมิให้เกิดเป็นผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน เช่นในอดีตที่ผ่านมา

เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวซื้อสินค้าในชุมชน ทำให้รายได้กระจายอยู่ในชุมชนที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เดินทางมาทีนี่ทั้งที เพื่อสนันสนุนสถานที่ท่องเที่ยว เรามาชม 8 เส้นทางท่องเที่ยวหมู่บ้านโอทอป นวัตวิถี ในระนองกันดีกว่า มีที่ไหนบ้างไปดูกัน!

เส้นทางที่ 1 ล่องคลอง ท่องเล เสน่ห์ชุมชนท่องเที่ยวOtop​ นวัตวิถี​ หมู่บ้านดีๆ​  ชื่อสุขสำราญ บ้านเหนือ หมู่ 2 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ พื้นที่ป่าชายเลนของจังหวัดระนอง ที่กำลังจะกลายเป็นมรดกโลก ซึ่งอยู่ระหว่างประชาพิจารณ์ ดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2563  Otop นวัตวิถี ที่นี่สื่อถึงสภาพความเป็นจริงของธรรมชาติที่งดงาม เรามีโอกาสได้ล่องเรือชมป่าชายเลนที่งดงามที่สุด หรือสวยเป็นลำดับที่สอง  รองจากประเทศบังคลาเทศ

เดินทางถึงท่าเรือ ป่าชายเลนของระนองยังเป็นเหมือนกำแพงที่ป้องกันการพังทลายของชายฝั่ง

การล่องเรือชมป่าชายเลนที่เส้นทางเชื่อต่อกับทำเล โดยเรือประมงของชาวบ้าน

เส้นทางที่ 2 ชวนมาถ่ายรูป เชคอินสะพานแขวนบ้านเหนือ คำพวน
ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี สะพานไม้ยาว ข้ามธารน้ำสะพานไม้มีความยาวข้ามธารน้ำไปอีกฝั่ง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนอกจากมาแช่บ่อน้ำร้อนแล้ว ยังสามารถมาเดินเล่น นั่งเล่น เก็บภาพได้ที่สะพานไม้ อยู่ในโซนขวาของจังหวัดที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา จุดหมายของคนรักธรรมชาติ ทุกท่านจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวระนอง เพราะที่นี่มีแหล่งงท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว  ล่องเรืองชมบรรยากาศและศึกษาชีวิตชายฝั่ง ป่าชายเลนมรดก  ล่องคลอง ท่องเล สเน่ห์บ้านเหนือ ธรรมชาติสวยที่เมืองรอง

สะพานแขวนบ้านเหนือ คำพวน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี

ตามเราไปเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ ระนอง จังหวัดเล็กๆ ที่มีชุมชนน้อยใหญ่

เส้นทางที่ 3  เยี่ยมชมจุดชมวิว เขาฝาชี
ในพื้นที่บ้าน อำเภอละอุ่น ตั้งอยู่บริเวณยอดเขาฝาชี โดยมีเส้นทางจากถนนเพชรเกษม  ไปยังบริเวณยอดเขาฝาชี เส้นทางไต่เขาลักษณะคดเคี้ยวตามไหล่เขา เดิมบริเวณจุดชมวิวบ้านเขาฝาชี เป็นจุดสังเกตการณ์ในการสู้รบของทหารญี่ปุ่น ซึ่งในยุคนั้นจะเรียนว่า เขาหมาหอน

เส้นทางที่ 4
ชมศิลปวัฒนธรรมการแสดงพื้นบ้าน “ลิเกป่า”
ชุมชนบ้านเขาฝาชีเป็นชุมชนก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่ ๒ และชุมชนบ้านเขาฝาชีได้เป็นพื้นที่ในการตั้งฐานทัพของทหารญี่ปุ่น แหล่งท่องเที่ยวของชุมชนบ้านเขาฝาชีจึงมีความสัมพันธ์เชิงประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ ๒
จุดชมชมวิวที่นี่ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของทะเลอันดามัน และจุดบรรจบของแม่น้ำสามกระแส คือ แม่น้ำละอุ่น แม่น้ำกระบุรี และ แม่น้ำมะลิวัลย์ ประเทศเมียนมาร์ และจะมองเห็นหัวเขาค่าง ซึ่งเป็นจุดด่านสกัดในยุคสงครามโลก มองเห็นหาดโหด เห็นสภาพชุมชนบ้านเขาฝาชี และนอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว สามารถพบทะเลหมอกได้ที่บริเวณจุดชมวิวบ้านเขาฝาชี
ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันนี้ชุมชนดังกล่าวยังคงมีการผลิตกะปิ อาหารทะเล

ชุมชนบ้านเขาฝาชี จะสามารถเห็นวิถีชีวิตแบบชนบท วิถีชีวิตริมแม่น้ำ สูงจากระดับน้ำทะเล 259 เมตร บนยอดเขาเป็นสถานที่ชมทิวทัศน์สวยงาม พระอาทิตย์อัสดง สามารถมองเห็นแม่น้ำกระบุรีไหลบรรจบกับแม่น้ำละอุ่น เกาะแก่งต่างๆ เป็นภาพที่สวยงามสดใสมีชีวิตชีวา ในบริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งฐานทัพญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีหลักฐานสำคัญคือ ซากเรือรบ อุโมงค์ใต้ดิน แนวทางรถไฟ ที่มีการประกอบอาชีพลอกใบห่อยาสูบ การทำกะปิ การแปรรูปอาหารทะเลอาหารทะเลสดจากธรรมชาติ อาหารปักษ์ใต้ อาหารท้องถิ่น ขนมโบราณ ผักเหลียงผักพื้นบ้านผักประจำถิ่น

​เส้นทางที่ 5 เปิดหมู่บ้านOTOP นวัตวิถี
ที่ตลาดนัดชุมชนแห่งนี้ ชาวบ้านนำสินค้า ที่ผลิตเองตากบ้านเหนือ หมู่ 2 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ “ ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดระนอง  มาจัดจำหน่ายเพิื่อเพิ่มรายได้ให้แหล่งชุมชน

เส้นทางที่ 6 ชมเสนห์ชาวฮินดู ที่หมู่บ้านบ้านพรรั้ง 
อำเภอเมือง ระนอง นวัตวิถีบ้านพรรั้ง ที่สืบทอดเชื้อสายชาวฮินดูที่เต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน น่าจะมาจากการทำเหมืองแร่ดีบุกในสมัยก่อน (สมัยต้นตระกูล ณ ระนอง)  สัมผัส ชีวิตคนระนอง เดินผังเสียงน้ำไหล กิสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตพื้นบ้านที่เรียบง่ายของชาวจังหวัดระนอง ธรรมชาติบำบัด สัมผัสชีวิตคนระนอง เดินผังเสียงน้ำไหล กินไข่ออนเซน เสน่ห์ของวิถีชุมชน อาหาร การแต่งกาย ที่อยู่อาศัย ประเพณี ภาษา อาชีพ ความเชื่อ และศิลปะพื้นถิ่น

เส้นทางที่ 7 บ่อน้ำแร่พุหลุมพี
วันนี้ไปแช่น้ำแร่กันที่ บ่อน้ำแร่พุหลุมพี ออนเซ็นเมืองไทยไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น จ.ระนอง  อุณหภูมิสูงประมาณ 65  และต้องห้ามพลาดบ่อน้ำร้อนไหลอุ่นๆ ตามธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่นอย่างมากของชาวชุมชน เป็นบ่อพุน้ำร้อนขนาดเล็กไม่กว้างมาก น้ำแร่ธรรมชาติอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศเงียบ คนไม่เยอะ ลักษณะเป็นบ่อน้ำร้อนตรงกลางและมีที่นั่งรอบๆ บ่อ สำหรับตักอาบแต่ไม่สามารถลงไปแช่ได้

เส้นทางที่ 8  บ้านไร่ ไออรุณ –  BAAN RAI I ARUN RANONG
ดูแล้วน่าพัก คงจะไม่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบในแต่ละวันจากแนวคิดสำนึกรักบ้านเกิดและความอยากอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ วิถีชุมชน บ้านเล็กๆกลางไร่สวนขนาดใหญ่อิงแอบแนบธรรมชาติชวนเที่ยวบ้านไร่ไออรุณ การกินอยู่อย่างพอดี หลายคนพูดได้แต่ทำยาก ที่ บ้านไร่ไออรุณ ฟาร์มสเตย์ ธรรมชาติที่ดีของคนในชุมชน วิถีชีวิตที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้และป่าเขา อากาศเย็นตลอดปี มีทรัพยากรและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์สุดยอดหมู่บ้านโฮมสเตย์ แลนมาร์คนึงที่คนนิยม จุดหมายปลายทางอาจไม่สำคัญเท่าความสุขใจระหว่างทางหมู่บ้านน่ารัก วิวสวยๆ ทำให้คุณมีรอยยิ้มและความสุขได้ในที่แห่งนี้ได้แน่นอน เรามานั่งจิบกาแฟ  เห็นลำธารอยู่ตรงหน้า

ก่อนกลับกรุงเทพฯ แวะเติมพลังด้วยอาหารกลางวันที่ใครมาระนองต้องมานั่งทาน วิวที่นี่หลักล้าน  ร้านส้มตำ ขนมถ้วย ร้านส้มตำภูเขาหญ้าเจ๊จิ๋ม ที่ตั้งอยู่ ตรงข้ามภูเขาหญ้า หรือ เขาหัวล้าน แต่ให้ความสวยคุ้มค่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองระนอง ดังที่ได้กล่าวไว้ในคำขวัญของเมืองระนอง คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง

ร้านส้มตำภูเขาหญ้าเจ๊จิ๋ม(ไม่มีสาขา)

ภูเขาหญ้าเป็นภูเขาหัวโล้น ขนาดไม่สูงสามารถเดินขึ้นไปได้ เนินเขาแต่ละลูกมีทางเดินเชื่อมถึงกัน เมื่อขึ้นไปอยู่ด้านบนจะชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ ในหน้าฝนภูเขาหญ้าจะเป็นสีเขียวดูสวยงามภูเขาหญ้าสีน้ำตาล เดือนพฤศจิกายน ถึง เมษายน , ภูเขาหญ้าสีเขียว เดือนพฤษภาคม ถึง ตุลาคม หน้าฝนควรมาเที่ยวช่วงเช้า หญ้าจะดูเขียวสดชื่น ส่วนหน้าร้อนควรมาตอนเย็นแดดไม่ร้อนมาก

ที่อยู่: ตำบล กะเปอร์ อำเภอ กะเปอร์ ระนอง 85120
โทรศัพท์: 096 938 2981

หากคุณเป็นคนชอบความสะดวก สบาย ชอบใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่าสำหรับการพักผ่อน หรือการเดินทางที่อสนยาวไกล ขอแนะนำ FarmHouse ที่จะทำให้ชีวิตคุณประหยัดเวลามากขึ้น

ทริปนี้ไม่ผิดหวังเราพักที่ โรงแรมฟาร์มเฮ้าส์ระนอง FarmHouse ตัวโรงแรมทั้งภายในและภายนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา  รองรับด้วยเตียงนุ่ม
หลังใหญ่นอนสบายๆ นอกจากนี้โรงแรมยังบมีอาหารเช้าแบบท้องถิ่นให้บริการอีกด้วย แนะนำต้องห้ามพลาด

โรงแรมฟาร์มเฮ้าส์ระนอง FarmHous
ที่อยู่: ตำบล บางนอน อำเภอเมืองระนอง ระนอง 85000
โทรศัพท์: 087 278 4224

ไม่ลืม แวะซื้อของใากจากระนอง

งานจบอารมณ์ไม่จบ ใช้ชีวิตช้าๆ ที่ระนอง  ด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลาย ผสานกับเสน่ห์ที่ยากจะหาจังหวัดใดเหมือน ทำให้นักท่องเที่ยว และผู้ที่
มีโอกาสได้มาสัมผัสบรรยากาศ ต้องหลงรักจังหวัดแห่งนี้อย่างแน่นอน

ขอบคุณ : พช.จังหวัดระนอง พา Totottravel
เยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จังหวัดระนอง

ติดตามเราได้ที่
web site : www.toptotravel.com
google+ : tototravelvariety
blog : www.toptotravelvariety.com

หยุดเวลา 2 วัน 1 คืน @Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin

โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน และสวนน้ำระดับโลก วอเตอร์จังเกิ้ลแห่งแรก
ของเอเชีย

Toptotravel ไปมาแล้ว ก็อยากแชร์ประสบการณ์เที่ยว สนุกสุดมันส์กับเครื่องเล่นระดับโลกความสนุกตื่นเต้นไร้ขีดจำกัดกับที่สุด 19 เครื่องเล่นมาตรฐานโลก

หนีงานไปเที่ยวครั้งนี้ ท่องเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน พิกัดใกล้กรุง
เที่ยวได้ไม่ไกลกรุงเทพ แบบชิลๆ มาฝาก คนรุ่นใหม่เค้าสนใจไปเที่ยว
แชร์ประสบการณ์และโมเม้นท์ความประทับใจ

เริ่มต้นจากกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่ สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ด้วยรถ MG GS SUV ไปถึงสวนน้ำ และโรงแรม อยู่ในบริเวณเดียวกัน ที่นี่ได้รับการออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ กลายเป็นสถานที่เช็กอินที่โด่งดังแห่งใหม่ของไทย พักที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน และสวนน้ำระดับโลก วอเตอร์จังเกิ้ลแห่งแรกของเอเชีย ถือได้ว่าน่าเล่น และมีความทันสมัยเชื่อมต่อกับโรงแรมที่พักสุดหรู พิกัดใกล้กรุงเที่ยวได้ไม่ไกลกรุงเทพ แบบชิลๆ มาฝาก แอบเห็นสวนน้ำจากบนห้องพัก เลยบอกว่าอดใจหน่อย

จะมีที่ไหนชุ่มฉ่ำเท่ากับ สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน และถ้าเป็นครั้งแรก  เชื่อว่าหลายคนต้องตื่นเต้นกับสวนลอยฟ้ากลางเมืองหัวหิน แห่งเดียวของโลก บนทางเดินลอยฟ้า สวนน้ำแห่งนี้ ยังอยู่ใกล้กับ รร.ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหินที่นี่มีความน่าสนใจจนกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Hua Hin Water Jungle) เรื่องที่หลายๆ คนแอบเป็นกังวลนั่นก็คือเรื่องห้องน้ำนั้นบอกเลยว่าสะอาดสะอ้าน อุปกรณ์ต่างๆ มีมาให้ครบ ใครที่ชอบสวนน้ำ ที่นี่เป็นอะไรที่สุดคุ้มมาก เพราะนอกจากได้นอนโรงแรมดีๆ พร้อมอาหารเช้า 1 คืน ไม่ต้องเสียเงินนอนโรงแรมอื่น แถมยังได้ล็อคเกอร์กับผ้าเช็ดตัวในสวนน้ำฟรี

ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหินโรงแรมแห่งนี้สามารถเข้าสวนน้ำได้ฟรี โดยสามารถเข้าสวนน้ำได้ทุกวันตราบเท่าที่เรายังพักอยู่ที่โรงแรมนอกจากนี้ สวนน้ำยังเชื่อมต่อกับอาคารร้านค้าใกล้เคียง ซึ่งจะมี ร้านขนม กาแฟ มีกิจกรรรมให้ช้อป ให้นั่งชิลล์มากมาย ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ toptotravel ชอบมากๆ อยากชวนเพื่อนๆ มาที่นี่เหมือนเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นและฮิปสเตอร์

เช็คอินเสร็จแล้ว  จะได้รับสิ่งนี้ สายรัดข้อมือหรือ Wristband สีน้ำเงินที่ เป็นความเท่ห์ที่ต้องติดตัวในระหว่างที่เราเข้าพักที่โรงแรม เพราะ Wristband จะใช้สำหรับการขึ้นลิฟท์, เปิดประตูห้อง, เข้าสวนน้ำ, เปิด-ปิดล็อคเกอร์ภาย
ในบริเวณของสวนน้ำ คุณสามารถเติมเงินเข้าไปภายใน Wristband
เพื่อใช้ซื้อของต่างๆ ภายในสวนน้ำได้อีกด้วย

โรงแรมขนาดใหญ่ที่มีความสูงทั้งหมด 27 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด  ประมาณ 300 ห้อง ด้วยความที่โรงแรมแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวาง จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน  รวมไปทั้งห้องประชุม, สัมมนา, จัดเลี้ยง, ห้องอาหาร, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ซาวน่า, Kids Club ห้องพักกว้างขวาง สะอาด บรรยากาศดี ที่นอนนุ่ม Facilities ทุกอย่างครบครันมาก Totptotravel ชอบสระว่ายน้ำที่
ชั้น 26 เพราะบรรยากาศดีมี่ มีบริการ สปา, ฟิตเนส, ซาวน่า, Kids Club, ห้องอาหาร รวมไปถึงการบริการของพนักงานที่ดีมากๆ  ตื่นเช้าได่ทานอาหารเช้าหลากหลาย กับวิวหลักล้าน

ส่วนเรื่องของสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Hua Hin Water Jungle)  มาถึงตรงนี่ชอบจัง ชอบมากตรงที่ ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน) โรงแรมที่อยู่ใกล้กับสวนน้ำวานา นาวา ผู้ที่เข้าพักที่โรงแรมนี้ สามารถเข้าสวนน้ำได้ฟรี โดยสามารถเข้าสวนน้ำได้ทุกวัน ในระหว่างวันที่เรายังพักอยู่ที่โรงแรม ใช้สิทธิ์นี้ในวันที่เราทำการ Check in หรือ  วันที่เรา Check out แล้วก็ได้ โดย ในกรณีที่ยังไม่ถึงเวลา Check in หรือกรณีที่เรา Check out ออกไปแล้ว เรายังต้องการจะเข้าสวนน้ำในวันดังกล่าว

โรงแรมออก Ticket พิเศษมาให้ เพื่อให้เรานำไปแลกเป็น Wristband ของสวนน้ำซึ่งสามารถผ่านเข้าออกสวนน้ำในวันดังกล่าวได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว แขกของโรงแรมจะได้รับสิทธิ์ใช้ล็อคเกอร์  และผ้าเช็ดตัวในสวนน้ำฟรี โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าเหมือนกับบุคคลทั่วไป ยกเว้นหากเรายังไม่ได้ Check in หรือทำการ Check out ออกมาจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว จะได้รับเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวเท่านั้น

จากโรงแรมไปยังสวนน้ำได้อย่างสะดวกสบายๆ เล่นน้ำแล้วรู้สึกเหนื่อยเมื่อไหร่ก็สามารถเดินกลับมาพักผ่อน เปิดแอร์เย็นๆ นอนเล่นที่ห้อง ดูทีวีเพลินๆ แอร์เย็นสบาย เตียงนุ่ม หมอนนุ่ม ผ้าห่มดี นอนหลับสบาย ภายในห้องนอกจากจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างทีวี, ตู้เย็น, โซฟา และโต๊ะทำงาน

Facilities ส่วนกลางที่มีความน่าสนใจ สระว่ายน้ำ โดยสระว่ายน้ำของ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin ตั้งอยู่ที่ชั้น 26 วิวสูงที่ทำให้สระว่ายน้ำแห่งนี้ มีวิวสวยที่งดงามเกินกว่าจะบรรยาย สระว่ายน้ำ หรือในร่ม รวมไปถึงสระเด็กเล็กที่แยกตัวออกมาต่างหาก สามารถมองเห็นเขาตะเกียบ เขาเต่าได้อย่างชัดเจน และยิ่งเมื่อทางโรงแรมมีการออกแบบสระที่ดี โดยเฉพาะเรื่องการทำเป็นสระแบบไร้ขอบ (Infinity Edge) อย่าลืมแวะขึ้นไปชมความงามที่ Vana Nana Sky

หลังจากได้พัก พอสรุปความสวยงามของที่นี่จาก 2 คอนเซป เพราะการดีไซน์ออกแบบให้โรงแรมมีความสนุกสนาน ออกแบบได้อย่างลงตัว

“Fisherman Village” และ “Playcation”   นำเอาความเป็นท้องทะเลมาผสมผสานการตกแต่งแต่ละมุม ผนังของโรงแรมกับลวดลายของคลื่นหรือเกล็ดปลาจากท้องทะเล บันไดวนออกแบบจากแรงบันดาลใจอุปกรณ์จับปลาของชาวประมง ทำให้หลายคนเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปมุมเหล่านี้

บอกเลยว่า 2 วัน 1คืน พักที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหินก็เที่ยวได้ง่ายจัง อยู่ใกล้ตัวเมืองหัวหินมากๆ

FB : Fanpage : Holiday Inn Vana Nava Hua Hin
Tel : 032-809999 : Holiday Inn Vana Nava Hua Hin
Tel : 032-809999

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี แอ่งเล็ก เช็คอิน

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี แอ่งเล็กเช็คอิน การจำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวจริง เสมือนได้เยือนอุตรดิตถ์

โครงการ  “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี”   ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ พช. ในการปลุกการท่องเที่ยวระดับชุมชน ที่เรียกว่า “แอ่งเล็ก” ให้เกิดการรวมตัวขึ้นมาสร้างอาชีพที่ยั่งยืน และสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง โดยใช้นวัตกรรมบวกกับวิถีชีวิตของชุมชน ทั้งในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ผสมผสานเข้ากับประเพณี วัฒนธรรม อาหารการกิน สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับหมู่บ้านกลายเป็นหมู่บ้าน เพื่อการท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมเยือน

นายทรงพล วิชัยขัทคะ พัฒนาการจังหวัดอุตรดิตถ์

“พช.อุตรดิตถ์ ยกทั้งจังหวัด งัดของเด็ดมัดใจคนกรุง
แล้วคุณจะรักอุตรดิตถ์ที่สุด”

นายทรงพล วิชัยขัทคะ พัฒนาการจังหวัดอุตรดิตถ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าว จึงผลักดันเป็นงาน  OTOP  นวัตวิถี  ดินแดน 3 วัฒนธรรม รักที่สุดอุตรดิตถ์ขึ้น “จังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นจังหวัดที่มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมมากมาย เพราะเป็นเมืองที่อยู่ในเขตรอยต่อของ
3 วัฒนธรรม ล้านนา ล้านช้าง และไทยกลาง เป็นผลให้มีลักษณะและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่มีอัตลักษณ์ ในแบบฉบับของตนเอง”

จังหวัด อุตรดิตถ์  มีสินค้าที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ ทุเรียนหลง – หลิน ลับแล ลองกอง – ลางสาดหวาน สินค้าผ้าพื้นเมือง ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าทอลายพื้นเมืองยกดอก และผลิตภัณฑ์จาก ผ้าพื้นเมือง ลูกตาวเชื่อม  ขนมเทียนเสวย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ดาบเหล็กน้ำพี้ ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปผักตบชวา และไม้กวาดตองกง ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าในเมืองและทุกอำเภอของจังหวัดอุตรดิตถ์

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว“แอ่งเล็ก เช็คอิน” ที่น่าสนใจ ของอุตรดิตถ์นั้นก็มีอยู่หลายที่ อาทิ ชาวบ้าน นากวาง อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ภายใต้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี
ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันสร้างสะพานประสานใจของชาวบ้าน สะพานไม้ไผ่กว่า 200 เมตร ที่ทอดยาวสู่ทุ่งข้าวเขียวขจีเกือบสุดสายตา นับเป็นจุดไฮไลท์ที่ใครมาเที่ยวก็ต้องถ่ายภาพเก็บเป็นความทรงจำดีๆกลับไป
นายทรงพล วิชัยขัทคะ กล่าว

ด้วยวัฒนธรรมอันหลากหลาย ผสานกับเสน่ห์ที่ยากจะหาจังหวัดใดเหมือน ทำให้นักท่องเที่ยว และผู้ที่มีโอกาสได้มาสัมผัสบรรยากาศ ต่างหลงรักจังหวัดแห่งนี้ ขอเชิญคุณมาร่วมพิสูจน์ “เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวชุมชน 3 วัฒนธรรม ดื่มด่ำมนต์เสน่ห์แห่งภูมิปัญญา

OTOP นวัตวิถี ที่เน้นให้ทุกท่านได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวอุตรดิตถ์ ที่ผสมผสานกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม เสมือนได้มาสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชน “แอ่งเล็ก เช็คอิน” และได้ชื่นชมความสำเร็จในหมู่บ้านหรือชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้อย่างแท้จริง

ภายในงานพบกับ 28 ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี แอ่งเล็กเช็คอิน การจำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวจริง เสมือนได้เยือนอุตรดิตถ์จริง ช้อปเพลินกับที่สุด ผลิตภัณฑ์ OTOP กว่า 300 รายการซึมซับวัฒนธรรมผ่านการแสดงศิลปวัฒนธรรมจาก 3 วัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง อาทิ ไม้เมือง , น้องแนท The voice และ จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ  คาดผลจากการจัดงานในครั้งนี้ จะทำให้มีผู้รู้จักจังหวัดอุตรดิตถ์มากยิ่งขึ้น และชาวบ้านจะได้มีรายได้จากการท่องเที่ยวและการผลิตสินค้าจำหน่าย เกิดเป็นเม็ดเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจจังหวัดต่อไป

พบกันวันที่ 28 – 30 กันยายนนี้
ณ MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ บางกะปิ

ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี

โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี  จังหวัดระนอง

จังหวัดระนอง จังหวัดที่เหมาะสมต่อการต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวแต่ละท้องถิ่น เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน เสริมสร้างชุมชนให้มีความเข็มแข็ง เพิ่มรายได้ชุมชน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน

จัดขึ้นระหว่าง  วันที่ 20-21 กันยายน 2561 เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสารการดำเนินงาน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP  นวัตวิถี ของจังหวัดระนอง

โดยสื่อมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย สื่อส่วนกลางและสื่อท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเปิดหมู่บ้านOTOP นวัตวิถี “บ้านเหนือ หมู่ 2 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ “  พื้นที่ป่าชายเลนของจังหวัดระนอง เป็นมรดกโลก ให้แล้วเสร็จภายในปี 2563

จัดขึ้นระหว่าง  วันที่ 20-21 กันยายน 2561 เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสารการดำเนินงาน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP  นวัตวิถี ของจังหวัดระนอง

หมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี “บ้านเหนือ หมู่ 2 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ “

โดยสื่อมวลชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย สื่อส่วนกลางและสื่อท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเปิด  หมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี  บ้านเหนือ
หมู่ 2 ต.กำพวน อ.สุขสำราญ “  พื้นที่ป่าชายเลนของจังหวัดระนอง เป็นมรดกโลก ให้แล้วเสร็จภายในปี 2563  เน้นสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและสร้างเศรษฐกิจชุมชน สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจโดยได้รับความสนใจจากสื่อทั้งในและนอกพื้นที่ ร่วมกิจกรรมสัมผัสวิถีชุมชนตลอดกิจกรรมเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ในการดำเนินโครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็ง ยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของจังหวัดระนอง

ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำ ประชาพิจารณ์ ชมบรรยากาศและศึกษาชีวิตชายฝั่ง ป่าชายเลนมรดก เชคอินสะพานแขวนบ้านเหนือ ที่สวยงามกลางลำน้ำ รับประทานอาหารทะเลสดๆ   เช่นหอยลักไก่ ปูม้า เยี่ยมชมจุดชมวิว เขาฝาชี ในพื้นที่บ้าน อำเภอละอุ่น ชมศิลปวัฒนธรรมการแสดงพื้นบ้าน “ลิเกป่า”  และเยี่ยมชมหมู่บ้าน”บ้านพรรั้ง” อำเภอเมืองระนองที่สืบทอดเชื้อสายชาวฮินดู และบ่อน้ำแร่พุหลุมพี ของชาวชุมชน เพื่อการเผยแพร่ประชา สัมพันธ์เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี จังหวัดระนอง
ให้นักท่องเที่ยวได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง

OTOP นวัตวิถี ระนอง เน้นให้ทุกท่านได้สัมผัสรายละเอียดของแต่ละภาพจะสะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตพื้นบ้านที่เรียบง่ายของชาวจังหวัดระนอง

โครงการ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี” ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรวมตัวของการท่องเที่ยวระดับชุมชน ‘แอ่งเล็ก’ สร้างเป็นอาชีพที่ยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมบวกกับวิถีชีวิตของชุมชน ยกเสนห์ความงดงามของท้องถิ่น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยว ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี และอาหาร พัฒนาเป็น    อัตลักษณ์ของชุมชน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวซื้อสินค้าในชุมชน ทำให้รายได้กระจายอยู่ในชุมชน

 



ทั้งนี้จังหวัดระนอง มีชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จำนวน 5 อำเภอ 28 หมู่บ้าน เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ มีความโดดเด่น สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมและใช้จ่ายได้ทั้งสถาน
ที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ประวัติศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และอาหาร
ที่สามารถสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสเสนห์ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และช่วยเสริมสร้างรายได้ ให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืน

SACICT CRAFT TREND 2019 OPEN HOUSE

เปิดตัวหนังสือและแกลเลอรี่
SACICT Craft Trend 2019
งานคราฟต์ภายใต้แนวคิดใหม่
Retelling the Detailing

จากความมุ่งมั่นสืบสานวัฒนธรรม  สู่แนวทางพัฒนางานหัตถกรรมในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ  (องค์การมหาชน) นำโดย คุณอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการ ขึ้นเป็นประธานในพิธีเปิดตัวหนังสือ SACICT Craft Trend 2019 พร้อมจัดแสดงนิทรรศการ โดยจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งได้รวบรวมเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่น่าสนใจ
4 เทรนด์หลัก ๆ เพื่อเป็นแนวทาง ในการพัฒนา  และต่อยอดแนวคิดการผลิตผลงานหัตถกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

คุณอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ(องค์การมหาชน)

โดยมีผู้คร่ำหวอดในวงการงานหัตถกรรมและการออกแบบ คุณแสงระวี สิงหวิบูลย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) และ คุณดำรง ลี้ไวโรจน์ บรรณาธิการบริหารนิตยสาร room มาร่วมบอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์ถ่ายทอดความเคลื่อนไหวของงาน Craft Trend ในอนาคต พร้อมทิศทางงานออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก

เพื่อนำแนวคิดไปใช้ต่อยอดด้านการออกแบบได้อย่างตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นซึ่งได้มีการจัดงานเปิดตัวหนังสือและแกลเลอรี่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันอังคารที่18 กันยายน 2561 ณ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

คุณอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “งานศิลปหัตถกรรมมีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นสาขาที่กำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกซึ่งงานศิลปหัตถกรรม
ได้เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์และเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเทรนด์จึงเป็นแนวโน้ม การพัฒนาของโลกและสะท้อนถึงงานศิลปหัตถกรรม กระบวนการผลิต,วัตถุดิบการนำเสนอผลิตภัณฑ์ หรือการนำมาใช้งานผลิตภัณฑ์
จึงเป็นที่มาของเทรนด์โดยทาง SACICT ดำเนินการมาปีนี้เป็นปีที่ 5

โดยจะพยายามให้เทรนด์เหล่านั้น  เข้ามาอยู่เป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน
โดยนำมาใช้ประโยชน์เพื่อให้เป็นการพัฒนางานศิลปะหัตถกรรมและต่อยอดสืบไป ซึ่งเทรนด์ต่างๆ นั้นมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นทางเราจึงมีนโยบายการศึกษาวิจัยตลาดมากขึ้นทำ Trend Talk, Guru panel และ ศึกษาแนวโน้มของต่างประเทศอีกด้วย เรามีมุมมองในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ, นักการตลาด, ผู้ใช้งานผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆที่เข้ามามีส่วนร่วมกับ SACICT ในแต่ละปีก็จะมีความหลากหลาย ช่วยสะท้อนถึงแง่มุมต่างๆในการกำหนดเทรนด์ได้มากขึ้น”

SACICT CRAFT TREND 2019 OPEN HOUSE   ที่ตื่นตา ทั้งการเปิดตัวหนังสือ SACICT Craft Trend 2019 ที่ปีนี้  ได้มีการรวบรวมเทรนด์และ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่น่าสนใจออกมาเป็น 4 เทรนด์หลัก

เทรนด์แรก  ซึ่งเป็นหัวใจหลักของงาน คือ Retelling the Detailing การนำเสนอที่มาที่ไปของสินค้าหัตถกรรมด้วยการ “เล่าเรื่อง” ที่เน้นการตอกย้ำถึงคุณค่าผลิตภัณฑ์ นำเสนอเรื่องราวเชิงลึกในรายละเอียดซึ่งมีอยู่ในขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือชุมชน ต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิมให้มีเรื่องราวเพิ่มขึ้น โดยในนิทรรศการคุณจะได้พบกับผลิตภัณฑ์น่าสนใจจากเทรนด์นี้อาทิ ม้านั่งไม้ ผลงาน Thinkk Studio และกลุ่มแกะสลักบ้านตองกาย จังหวัดเชียงใหม่ จากโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไทยนวัต-ศิลป์ SACICT เก้าอี้พลาสติกหุ้มเศษผ้าเก่าของ ภาสุรี วิรัชวิบูลย์กิจ หรือหูฟังตกแต่งลายเบญจรงค์ การนำบริบทของเบญจรงค์ในรูปแบบที่แปลกใหม่ ใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น โดยคุณกฤษณ์ พุฒพิมพ์ และคุณบุญญารัตน์ เบญจรงค์จากโครงการพัฒนาอัตลักษณ์เบญจรงค์ไทย SACICT

ต่อด้วยเทรนด์ที่สอง ตอบโจทย์ชีวิตผู้คนเมืองใหญ่ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อม กับ Tropical Dream คือ การนำความเป็นธรรมชาติ มาทำให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันด้วยการจำลองบรรยากาศความเขียวไว้ในบ้าน หรือที่ ทำงานรวมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยเติมความสดชื่นให้กับจิตวิญญาณของคนเมือง ผ่านการหยิบชิ้นงานของตกแต่งบ้านชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ใช้ “ไม้” และเส้นใยธรรมชาติเป็นวัสดุหลัก อาทิเก้าอี้สตูลจากไม้ไผ่ขด เส้นสายจากธรรมชาติที่นำไปสู่รูปทรงและลวดลายที่โดดเด่น โดย Plural Designs และชุมชนงานไม้ไผ่ขด บ้านศรีปันครัว จังหวัดเชียงใหม่ จากโครงการไทยนวัตศิลป์ SACICT ร่วมด้วยการใช้รูปทรงรูปลักษณ์และลวดลายของธรรมชาติมาใช้ได้อย่างลงตัว

เทรนด์ที่สาม Righteous Crafts คือความพิถีพิถันในการพิจารณาว่าสินค้านั้น ๆ มีความถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคมอย่างไรหรือไม่ เป็นการหันไปมอง “ที่มาที่ไป” ที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมของสินค้าแต่ละชิ้น การออกแบบที่นึกถึงวัฒนธรรมแบบบริโภคนิยม การไม่ใช้วัสดุแบบทิ้งขว้างจึงขยายวงกว้างในการออกแบบอย่างหยั่งลึก เห็นได้จากผลงานตะกร้าใส่ของ ผลิตภัณฑ์งานจักสานจากเนื้อไผ่และ
ผิวไผ่ ออกแบบ: Plural Designs และกลุ่มจักสานไม้ไผ่ บ้านก๋ายน้อย อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จากโครงการไทยนวัตศิลป์ SACICT ที่
นำมาจัดแสดงในนิทรรศการ เรียกได้ว่า  เป็นการคิดค้นกระบวนการผลิต
ที่ไม่รบกวนสิ่งแวดล้อม หรือเลือกใช้วัสดุทางเลือกรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมา
ใช้ทดแทน รวมถึงการคืนประโยชน์ให้แก่ชุมชนหรือเจ้าของวัตถุดิบ ไม่
ว่าจะเป็นการคืนรายได้ให้ชุมชน พัฒนาองค์ความรู้ร่วมกับเจ้าของภูมิปัญญาอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

สุดท้ายกับเทรนด์ที่เกี่ยวพันกับธุรกิจการท่องเที่ยว Surreal Hospitality
คือ พูดถึงการออกแบบตกแต่งสถานที่ต่างๆ ในรูปแบบที่จะสามารถสร้างความประทับใจจนเกิดการแชร์และบอกต่อได้ ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมส่วนหนึ่งจากกลุ่มเจเนอเรชั่นY โดยเป็นกลุ่มที่น่าจับตาทั้งในฐานะผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่มีผลต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมหาศาล ดังนั้นการออกแบบในพื้นที่เหล่านั้นจึงเป็นโอกาสให้เกิดงานคราฟต์พื้นถิ่นสุดวิจิตรที่จะได้รับการประยุกต์ให้ร่วมสมัยตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายนี้ได้เป็นอย่างดีมากขึ้น อย่างเช่น ผลงานการออกแบบของคุณกฤษณะลักษณ์ ภัครกุทวี หยิบเอาเสื่อกก มาออกแบบให้เป็นชิ้นส่วนประดับตกแต่งผนัง เพิ่มมูลค่าให้แก่สิ่งที่ดูคุ้นตาสะดุดใจ ประกอบกับการใช้  วิธีออกแบบเป็นชิ้นส่วนโมดูลาร์ เพื่อให้ถอดประกอบปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ง่าย  เป็นหนึ่งในผลงาน  จากการประกวด Innovative Craft Award 2018  ซึ่งได้นำมาจัดแสดงนิทรรศการใน
ครั้งนี้อีกด้วย

สนใจสามารถเข้าร่วมงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2561 เวลา 10 โมงเป็นต้นไป ณ Innovative Craft Gallery
ชั้น 2 อาคารศาลาพระมิ่งมงคล ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์กรมหาชน) อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2561 เป็นต้นไป
ณ Innovative Craft Gallery ชั้น 2 อาคารศาลาพระมิ่งมงคล
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sacict.or.th
ติดตามข่าวสารที่ www.facebook.com/sacict/