ส่วนเรื่องของสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Hua Hin Water Jungle) มาถึงตรงนี่ชอบจัง ชอบมากตรงที่ ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน) โรงแรมที่อยู่ใกล้กับสวนน้ำวานา นาวา ผู้ที่เข้าพักที่โรงแรมนี้ สามารถเข้าสวนน้ำได้ฟรี โดยสามารถเข้าสวนน้ำได้ทุกวัน ในระหว่างวันที่เรายังพักอยู่ที่โรงแรม ใช้สิทธิ์นี้ในวันที่เราทำการ Check in หรือ วันที่เรา Check out แล้วก็ได้ โดย ในกรณีที่ยังไม่ถึงเวลา Check in หรือกรณีที่เรา Check out ออกไปแล้ว เรายังต้องการจะเข้าสวนน้ำในวันดังกล่าว
โรงแรมออก Ticket พิเศษมาให้ เพื่อให้เรานำไปแลกเป็น Wristband ของสวนน้ำซึ่งสามารถผ่านเข้าออกสวนน้ำในวันดังกล่าวได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว แขกของโรงแรมจะได้รับสิทธิ์ใช้ล็อคเกอร์ และผ้าเช็ดตัวในสวนน้ำฟรี โดยที่ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าเหมือนกับบุคคลทั่วไป ยกเว้นหากเรายังไม่ได้ Check in หรือทำการ Check out ออกมาจากโรงแรมเรียบร้อยแล้ว จะได้รับเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวเท่านั้น
“เอซเก้”ผุดโปรเจ็คยักษ์ ลงนามตั้ง
Drop Point Plus ศูนย์บริการครบวงจร
Drop Point Plus หรือ DPP เป็นศูนย์บริการครบวงจรแห่งแรกของไทย โดย บริษัท เอซเก้ จำกัด ก่อตั้งขึ้นด้วยแนวคิดการยกระดับ E-Commerce ในไทย ซึ่งศูนย์บริการ DPP จะให้บริการภายใต้โมเดล LPDE (Logistic Pay station Drop point E-Commerce) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น L-Logistic ที่สามารถเลือกเซอร์วิส เลือกบริการขนส่งที่หลากหลาย ทั้งภายในและนอกประเทศ
บริษัท เอซเก้ จำกัด ร่วมกับบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของไทย ทั้ง ไปรษณีย์ไทย, DHL, TNT, CJ Logistics ผนึกกับองค์กรธุรกิจแถวหน้า ร่วมลงนามในพิธีลงนามความร่วมมือการเปิดศูนย์บริการ Drop Point Plus (DPP) ศูนย์บริการครบวงจรแห่งแรกของไทย ผลักดันธุรกิจ E-Commerce ผ่านโมเดลธุรกิจ LPDE (Logistic Pay station Drop point E-Commerce) รวมทุกค่ายมาอยู่ที่เดียวกัน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้บริการเลือกใช้งาน พร้อมขยายศูนย์ DPP สร้างธุรกิจทางเลือกแก่ชุมชน มุ่งเป้าขยาย 600 สาขาทั่วประเทศในปี 2562
นายเทิดไท แก้วพิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอซเก้ จำกัด เปิดเผยว่า เอซเก้ ได้ลงนามความร่วมมือการเปิดศูนย์บริการ Drop Point Plus (DPP) ร่วมกับ บริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำอย่าง ไปรษณีย์ไทย, DHL, TNT, CJ Logistics รวมถึงยังได้ผนึกกับองค์กรธุรกิจแถวหน้าของประเทศอย่าง บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์, แอดวานซ์ เอ็มเปย์, บมจ. ไทยเศรษฐกิจประกันภัย และแอดไวซ์ ซึ่งการลงนามในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับธุรกิจ E-Commerce ไทยให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยศูนย์บริการครบวงจรที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้บริโภคครบทุกขั้นตอน ด้วยโมเดล LPDE (Logistic Pay station Drop point E-Commerce) ตั้งแต่บริการขนส่งสินค้าทั้งภายในและนอกประเทศ จุดบริการชำระเงินที่สะดวกครอบคลุม จุดรับสินค้าออนไลน์ที่เข้าถึงง่าย อีกทั้งยังเป็น จุดบริการ Micro Insurance ประกันความปลอดภัย Non Life สร้างความอุ่นใจ ปลอดภัยทุกการขนส่ง
“การโลดแล่นอยู่ในแวดวงธุรกิจไอทีมาร่วม 16 ปี ทำให้เรามองเห็นการเติบโตของตลาดออนไลน์อย่างใกล้ชิด รวมไปถึงโอกาสในการสร้างแพลตฟอร์มให้ผู้บริโภคได้เลือกช่องทางการขนส่งที่หลากหลายมากขึ้น อยู่ใกล้กับชุมชน ให้การบริการที่ครอบคลุม ซึ่งสิ่งที่สามารถตอบโจทย์แนวทางของเราได้คือแพลตฟอร์ม Drop Point Plus (DPP) นายเทิดไท กล่าว
Drop Point Plus หรือ DPP เป็นศูนย์บริการครบวงจรแห่งแรกของไทย
โดยทำการขนส่งร่วมกับบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำอย่าง ไปรษณีย์ไทย, DHL, TNT และ CJ Logistics ภายใต้ค่าบริการตามจริง ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม สะดวก รวดเร็ว และประหยัดทั้งเงินและเวลา, P-Pay station จุดชำระเงินครบวงจร