ย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก

“ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” ประจำปี 2561

เชื่อว่า “ดอกเข้าพรรษา” เมื่อนำมาตักบาตรจะได้บุญกุศลแรง และสีของกลีบประดับมีหลายสี เช่น สีเหลือง สีขาว และ สีม่วง ซึ่งแต่ละสีมีความเชื่อ ดังต่อไปนี้ สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์แห่งพระพุทธศาสนา สีเหลือง
หมายถึง สีแห่งพระสงฆ์ สีม่วง เป็นสีที่หายากที่สุด และ ชาวอำเภอพระพุทธบาทเชื่อว่าการใส่บาตรด้วยดอกสีม่วงจะได้บุญกุศลมากที่สุด

ซึ่งเมื่อพระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตแล้วก็จะนำไปสักการะรอยพระพุทธบาท อันจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ดอกเข้าพรรษาหรือดอกหงส์เหิน   ซึ่งหนึ่งปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เฉพาะในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาเท่านั้น ในท้องที่อำเภอพระพุทธบาท พบว่ามี 2 สกุล ได้แก่ สกุลกระเจียว มีดอกสีขาวหรือขาวอมชมพู และสกุลหงส์เหิน ดังกล่าวไว้ข้างต้น เมื่อถึงวันเข้าพรรษา คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาวอำเภอพระพุทธบาทจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษา  ตามไหล่เขาโพธิลังกาหรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุในเขต อำเภอพระพุทธบาท นำมาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อตักบาตรถวายพระ  ที่จังหวัดสระบุรีได้จัดพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารพระอารามหลวง ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และเป็นสถานที่ประดิษฐาน

“รอยพระพุทธบาท” อันศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา ซึ่งมีความเชื่อในคติชาวลังกาว่า พระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ 5 แห่ง และรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทฯ แห่งนี้ เป็น 1 ใน 5 แห่ง ต่อมารอยพระพุทธบาทนี้ถูกค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม

จังหวัดสระบุรีร่วมกับเทศบาลเมืองพระพุทธบาท เตรียมจัดงานประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวสระบุรี “ตักบาตรดอกเข้าพรรษา” ประจำปี 2561 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และเผยแพร่อีกหนึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศไทย ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2561 นี้

นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า การจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน จังหวัดสระบุรีเป็นงานที่จัดขึ้นระหว่างจังหวัดสระบุรี ร่วมกับเทศบาลเมืองพระพุทธบาท วัดพระพุทธราชวรมหาวิหาร และภาคเอกชน เพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีของท้องถิ่น จนมาเป็นประเพณีของจังหวัด และปัจจุบันเป็นประเพณีระดับประเทศ และได้ชื่อว่าเป็น “ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก” และเป็นประเพณีสำคัญที่อยู่คู่กับวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารมาช้านาน พี่น้องประชาชนชาวพระพุทธบาท และพื้นที่ใกล้เคียง จะถือเอาวันเข้าพรรษาของทุกปีเป็นวันตักบาตรดอกเข้าพรรษา

งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา เป็นประเพณีสำคัญ ถือเป็นหนึ่งเดียวของไทย ที่อยู่คู่กับวัด พระพุทธบาทราชวรมหาวิหารมาช้านาน โดยพี่น้องประชาชนชาวพระพุทธบาท และใกล้เคียง ที่นำดอกเข้าพรรษามาบูชาสักการะรอยพระพุทธบาท เป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ ของชาวจังหวัดสระบุรี โดยวันจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา จะถือเอาวันเข้าพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หรือช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาของทุกปี เป็น วันจัดงาน ตามความเชื่อที่มีสืบต่อกันมานั้น โดยผู้เฒ่าผู้แก่ ประชาชน และคนหนุ่มสาว ทุกเพศ ทุกวัย ต่างพากันไปทำบุญตักบาตรดอกเข้าพรรษา เนื่องในวันเข้าพรรษาที่วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร

ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของท้องถิ่น และจังหวัดสระบุรี ตามนโยบายของรัฐบาล และแผนยุทธศาสตร์ รวมทั้งนโยบายของจังหวัด ที่ได้ผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด ในปี พ.ศ. 2561 นี้ จังหวัดสระบุรีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนทุกแขนง รวมทั้งประชาชนชาวจังหวัดสระบุรีตื่นตัว และเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางมาชมงานครั้งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมย้อนตำนานสระบุรี สืบสานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก
-ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าว

นายชนัตถ์ นันทปัญญา ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงานฯ หนึ่งในคณะกรรมการการจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาฯ กล่าวว่า เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของประเทศไทย และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของท้องถิ่นทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรีอีกทางหนึ่งด้วย เทศบาลเมืองพระพุทธบาท จึงได้กำหนดให้มีการจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพระราชทาน ประจำปี 2561 โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2561 ณ บริเวณถนนสายคู่ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี

ในวันแรกของการจัดงาน จะเป็นพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ในอาณาบริเวณพระพุทธบาท การแสดงศิลปะพื้นบ้าน วัฒนธรรม และขบวนต่างๆ จะเริ่มเคลื่อนขบวนออกจากหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองพระพุทธบาท ไปตามถนนพหลโยธิน และเลี้ยวเข้าบริเวณวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร โดยดอกไม้ที่ใช้ตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์นั้นจะต้องเป็น “ดอกเข้าพรรษา” เท่านั้น ซึ่งในปีนี้จะมีพิธีเปิดงาน ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2561

สำหรับขบวนรถบุปผชาติที่มีความสวยงาม เป็นที่สนใจของทั้งชาวสระบุรีและนักท่องเที่ยวที่มาชมนั้น ในปีนี้ประกอบด้วย ขบวนที่ 1 ขบวนพยุหยาตราและขบวนเจ้าเมืองสระบุรี ขบวนที่ 2 ขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน ขบวนเทียนพรรษาสระบุรี ขบวนที่ 3 ขบวนรถบุปผชาติ ขบวนที่ 4 ขบวนศาสนาและวัฒนธรรม

ในอดีตเมื่อถึงวันเข้าพรรษา คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาวอำเภอพระพุทธบาทและบุคคลทั่วไปจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษาตามไหล่เขาโพธิลังกาหรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุในเขตอำเภอพระพุทธบาท นำมาจัดรวมกับธูปเทียนเพื่อตักบาตรถวายพระ ซึ่งในปัจจุบันทางจังหวัดสระบุรีได้ร่วมอนุรักษ์โดยการจัดพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง และเป็นสถานที่ประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาท” อันศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพบูชา ซึ่งมีความเชื่อในคติชาวลังกาว่า พระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ 5 แห่ง และรอยพระพุทธบาทที่วัด พระพุทธบาทฯ แห่งนี้ เป็น 1 ใน 5 แห่ง ต่อมารอยพระพุทธบาทนี้ถูกค้นพบในสมัยพระเจ้าทรงธรรม เมื่อพระสงฆ์ได้รับบิณฑบาตแล้วก็จะนำไปสักการะรอยพระพุทธบาท อันจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตรได้ขึ้นสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์

สำหรับ ดอกเข้าพรรษา หรือ ดอกหงส์เหิน เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูลขิง เป็นไม้ดอกเมืองร้อน และเป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นเป็นหัวประเภทเหง้าแบบมีรากสะสมอาหาร คล้ายกระชาย กาบใบเรียงตัวกันแน่น สูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยวรูปหอก ออกเรียงสลับซ้ายขวาเป็นสองแถว ส่วนดอกมีลักษณะอ่อนช้อยสวยงามยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร มีสีเหลืองสดใสคล้ายรูปหงส์กำลังเหินบิน และสีของกลีบประดับมีหลายสี เช่น สีเหลือง สีขาว และสีม่วง ซึ่งหนึ่งปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เฉพาะช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา เท่านั้น

เผยเคล็ดลับ แผนประกันภัยสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์ 

Thaivivat Health แผนประกันภัยสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์  

ไทยวิวัฒน์ อัดฉีดคน Active Health‎ ซื้อวันนี้รับเลย Fitbit Versa รับส่วนลดค่าเบี้ยถึง40% เมื่อออกกำลังกายตามเกณฑ์ ให้จ่ายเบี้ยเป็น รายเดือน OPD สูงสุด 3,000.-/ครั้ง IPD ค่าห้องถึง 10,000.- เจ็บป่วย ไม่ต้องสำรองจ่าย คุ้มครองกีฬาอันตราย ดีแบบนี้รีบเลย

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ในฐานะผู้ที่พัฒนาด้านนวัตกรรมประกันภัยมาอย่างต่อเนื่อง ตามแนวคิด  “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต” และเล็งเห็นถึงความสำคัญ ของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้บริการให้สามารถมี  Work Life Balance ไปพร้อมๆ กัน จึงเป็นเหตุผลหนึ่งในการสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ โดยการออกผลิตภัณฑ์ “ประกันภัยสุขภาพ ไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์” เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการออกกำลังเพื่อสุขภาพ รวมถึงชื่นชอบการใช้เทคโนโลยีด้าน Health Tech และ Wearable Technology ในการส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อเป็นการสร้างวินัย และปรับพฤติกรรมผู้ใช้บริการในระยะยาว รวมทั้งผู้ที่กำลังเริ่มต้นออกกำลังกายให้มีแรงผลักดันในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น

ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ผู้นำด้าน  นวัตกรรมประกันภัยเจาะเทรนด์สุขภาพปี 2018 เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันภัยสุขภาพ “ไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์” เพื่อสนับสนุนคนไทยให้แอคทีฟ ยิ่งออกกำลังกาย เบี้ยยิ่งลดสูงสุดถึง 40% ทุกเดือน เนื่องจากประกันสุขภาพที่ บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ เปิดตัว จ่ายเป็นรายเดือน มีสัญญา ปีต่อปี

เพียงทำประกันตามเงื่อนไขก็สามารถรับ อุปกรณ์ Fitbit Versa อุปกรณ์ smart watch รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่า 8,500 บาทให้ฟรี เพียงใช้เทคโนโลยี IoT ร่วมกับ Smart Watch และแอปพลิเคชัน Thaivivat Health ช่วย Trackข้อมูลการออกกำลังกาย พร้อมเปิดตัวหนังโฆษณา THAIVIVAT ACTIVE HEALTH และดึงพันธมิตร JOOX, Grab food, Fitbit รวมถึงสถาบันการออกกำลังกายและศูนย์ Fitness ต่างๆ ร่วมมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการ

แผนประกันภัยสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์ นอกจากจะเป็นแผนประกันที่ช่วยส่งเสริม และสร้างวินัยให้ผู้ใช้บริการใส่ใจสุขภาพแล้ว ยังเป็นแผนที่เพิ่มแรงผลักดันให้ผู้ใช้บริการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้เทคโนโลยี IoT ร่วมกับอุปกรณ์ Smart watch และนวัตกรรมด้าน Wearable Technology เข้ามาเป็นส่วนเสริมในการ Trackข้อมูลการออกกำลังกาย พร้อมกับแอปพลิเคชัน “Thaivivat Health” ที่ถูกออกแบบเพื่อใช้งานควบคู่กับประกันสุขภาพเพื่อบริการข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านสุขภาพ ข้อมูลด้านการออกกำลังกายในแต่ละวัน ช่วยให้ผู้ใช้บริการวางแผนเรื่องสุขภาพได้ รวมถึงสร้างความตื่นตัวให้กับผู้ใช้บริการโดยการนำข้อมูลการออกกำลังกายทั้งหมดมาคิดคำนวณเป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันทุกเดือนได้สูงสุดถึง 40% เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการเกิดพฤติกรรมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากจะเป็นประกันที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวแล้ว ยังเป็นประกันสุขภาพที่พร้อมดูแลคนไทยแบบครบวงจรโดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 1 ล้านบาท/ต่อปี   รักษาได้ทุกโรงพยาบาลในเครือโดยไม่ต้องสำรองจ่าย พร้อมกับค่าห้องผู้ป่วยในสูงสุดถึง 10,000 บาทต่อวัน คุ้มครองทั้ง IPD และ OPD โดย OPD สามารถเบิกได้ถึง 3,000 บาทต่อครั้ง สูงสุดถึง 30 ครั้งต่อปี ที่สำคัญยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการเล่นหรือแข่งขันกีฬาอันตราย โดยสามารถใช้ควบคู่กับสวัสดิการอื่นๆได้ รวมถึงคุ้มครองค่ารักษา จากอุบัติเหตุได้ทั่วโลก

ส่วนของสิทธิประโยชน์ด้านความคุ้มครองนั้น นอกจากจะเป็นประกันที่ช่วยสร้างแรงจูงใจในการดูแลสุขภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวแล้ว ยังเป็นประกันสุขภาพที่พร้อมดูแลคนไทยแบบครบวงจรโดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 1 ล้านบาทต่อปี รักษาได้ทุกโรงพยาบาลในเครือโดยไม่ต้องสำรองจ่าย พร้อมกับค่าห้องผู้ป่วยในสูงสุดถึง 10,000 บาทต่อวัน คุ้มครองทั้ง IPD และ OPD โดย OPD สามารถเบิกได้ถึง 3,000 บาทต่อครั้ง สูงสุดถึง 30 ครั้งต่อปี ที่สำคัญยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการเล่นหรือแข่งขันกีฬาอันตราย โดยสามารถใช้ควบคู่กับสวัสดิการอื่นๆได้ รวมถึงคุ้มครองค่ารักษา จากอุบัติเหตุได้ทั่วโลก

นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการตลาดของประกันภัยสุขภาพในปี 2561 นั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นไปตามนโยบายภาครัฐที่ให้การสนับสนุนด้วยมาตรการลดหย่อนภาษี ทำให้หลายบริษัทตื่นตัว เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ หาจุดขายที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลล์ จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีอิสระในการเลือกใช้บริการและมีความต้องการทั้งสิทธิประโยชน์ด้านความคุ้มครองและความคุ้มค่า เพราะนอกจากจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังมีอิสระในการกำหนดส่วนลดค่าเบี้ยได้ด้วยตัวเอง ยิ่งออกกำลังกายได้ตามเป้าหมาย เบี้ยประกันยิ่งลดสูงสุดถึง 40% โดยค่าเบี้ย เริ่มต้นเพียง 2,500 บาทต่อเดือน แต่หากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและได้คะแนนตามเป้า จะสามารถลดค่าเบี้ย โดยจ่ายเบี้ยต่ำสุดเพียง 1,700 บาทต่อเดือนโดยประมาณ พร้อมรับอุปกรณ์ Fitbit Versa อุปกรณ์ smart watch รุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่า 8,500 บาท ทันทีที่ทำประกันภัย

พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวหนังโฆษณา ไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์ ภายในงานที่สื่อให้เห็นถึง  ความทุ่มเทและความแอคทีฟของคนไทย  ที่ถึงแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยจากหน้าที่หลัก แต่ก็ไม่เคยละทิ้งสุขภาพ ยังคงดูแลสุขภาพตนเองอย่างสม่ำเสมอ ประกันภัยไทยวิวัฒน์ในฐานะผู้พัฒนาด้านนวัตกรรมประกันภัยมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่สนับสนุนให้คนไทยใส่ใจสุขภาพ พร้อมดูแลแบบครบวงจร ด้วยประกันภัยสุขภาพไทยวิวัฒน์ แอคทีฟ เฮลท์ ประกันอัดฉีด คน Active

สนใจรายละเอียดศึกษาข้อมูลก่อนทำประกันได้ที่
www.thaivivat.co.th
Facebook Fanpage ประกันภัยไทยวิวัฒน์
สอบถาม โทร. 02-200-7111

ต้อนรับน้องใหม่ Seffer ’s cosmetic แบรนด์ไทยในอีเวนต์ระดับโลก

แบรนด์  Seffer ’s cosmetic
เครื่องสำอางน้องใหม่จากประเทศไทย 

คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ใครในโลก  ด้วยศักยภาพของคนไทย แหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ แนวคิดและไอเดียใหม่ๆ ทำให้แบรนด์ไทยน้องใหม่อย่าง  Seffer ’s cosmetic  แบรนด์คุณภาพ เริ่มเฉิดฉายอยู่ในเวทีโลก

Seffer ’s cosmetic บริษัท หางโจว โกลเด้น พิโร้ว และ ห้องเสื้อ HIRUN BANGKOK

ปฏิเสธไม่ได้ การเดินทางของคนไทยที่ไปร่วมงานในระดับนานาชาติถือเป็นอีกหนึ่งสีสันและเป็นการกระตุ้นเรตติ้งของเทศกาลดังกล่าวในหมู่คนไทย แต่ในฐานะพรีเซนเตอร์ของสินค้า กลับได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น ยิ่งกว่าคนไทยที่นำผลงานต่างๆ เพื่อโชว์ไปสร้างชื่อในงานดังกล่าวเสียอีก

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีทั้งกระแสชื่นชมและคัดค้าน พร้อมทั้งกระแสดราม่าที่ตามมามากมาย แต่หนึ่งในผลพลอยได้ที่ไม่อาจมองข้ามจากงานดังกล่าว คือ นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญในการผงาดของแบรนด์ไทยในอีเวนต์ระดับโลกโดย สองสัญชาติ 3 วงการนั่นคือ ประเทศไทย ประเทศจีน วงการเครื่องสำอาง เสื้อผ้า และ วงการ ดารานางแบบระดับเอเชียจากประเทศจีนได้ จับมือ ร่วมกันโดย Seffer ’s cosmetic บริษัท หางโจว โกลเด้น พิโร้ว และ ห้องเสื้อ HIRUN BANGKOK

คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้ใครในโลก ด้วยศักยภาพของคนไทย แหล่งวัตถุดิบที่อุดมสมบูรณ์ แนวคิดและไอเดียใหม่ๆ ทำให้แบรนด์ไทยหลายแบรนด์เริ่มเฉิดฉายอยู่ในเวทีโลก โกอินเตอร์ให้กับแฟชั่นแบรนด์ไทย พร้อมด้วยดารานางแบบจากจีน นำผลงาน แฟชั่นโชว์จากผ้าไทยภาคเหนือ ดูหรูหราด้วยการตัดเย็บที่ประณีต เห็นชุดก็สนุกแล้ว ซึ่งจะไปแสดงในงาน New York fashion week เป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหมู่แฟชั่นนิสต้า ในครั้งนี้จัดที่ TERMINAL 5 HALL 610 W 56th St,
New York, NY 10019, USA

ณันฑภรณ์ ประโมจนีย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเลี่ยนแคท อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด กับการเตรียมความพร้อมกับการขยับตัวครั้งใหญ่   Seffer ’s cosmetic   เครื่องสำอางน้องใหม่!!!

ประเทศไทย เป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการ  ไม่เพียงแต่สาวไทยเราเท่านั้น
ที่เฝ้ารอคอลเล็กชั่นใหม่ Seffer ’s cosmetic อย่างใจจดจ่อ แบรนด์มีความโดดเด่นสะดุดตาที่กำลังไปได้ดี และเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวในการช่วยโปรโมทแบรนด์ไทยในเวทีโลก อย่างเครื่องสำอางและเสื้อผ้าจากประเทศไทย รวมทั้งดารานางแบบจากเอเชียที่ได้มีโอกาสเชิดฉายสู่สายตาระดับอินเตอร์และถือเป็นโอกาสของแบรนด์ไทย และเอเชียว่าโลกแฟชั่นยุคนี้ไม่ได้จำกัดแค่ดีไซเนอร์จากยุโรป

เครื่องสำอางที่ดีต้องมาจาก ต่างประเทศเท่านั้น และโอกาศที่ดีๆ จะมีแต่ ดีไซเนอร์ยุโรปเท่านั้นอย่าง อเล็กซานเดอร์ แวง ก็มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลก เจสัน วู ดีไซเนอร์ชาวไต้หวันที่ได้ออกแบบชุดให้ มิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ ซึ่งพลังหรือเรื่องราวเหล่านี้ คือ แรงบันดาลใจสำคัญต่อวงการดีไซเนอร์ในเอเชียว่า ต่อให้เป็นดีไซเนอร์จากประเทศเล็กๆ ที่ไม่ใช่เมืองแฟชั่นของโลก ก็มีโอกาสแจ้งเกิดในเวทีโลกได้เช่นกัน


เอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท เอเลี่ยน แคท อินเตอร์เนชั่แนล เทรดดิ้ง จำกัด
อาคารพร้อมพันธุ์ 3 ชั้น 13 R.1301-1037 ลาดพร้าวซอย3
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900
โทร 02-024-6703 หรือ 062-582-8556

โนโวเทล สุวรรณภูมิ จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าประจำปี 2561

เวิล์ด มิวสิค แอท โนโวเทล

เมื่อเร็วๆ นี้ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต นำโดย คริสตอฟ เจอโฟรย์ (ที่ 4 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าประจำปี 2561 ในธีม “เวิล์ด มิวสิค แอท โนโวเทล” จำลองบรรยากาศงานคอนเสิร์ตระดับโลก ณ ห้องสุวรรณภูมิ

แกรนด์บอลรูม โดยมีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากนักแสดงหน้าเหมือนศิลปินดังจากไทยและต่างประเทศ อาทิ เลดี้ กาก้า, บีเอ็นเค 48, ไมเคิล แจ็คสัน, มาดอนน่า, เบิร์ด ธงไชย, หญิงลี และติ๊ก ชีโร่ นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมลุ้นรับรางวัลพิเศษมากมาย โดยมีรางวัลใหญ่คือตั๋วเครื่องบินไป-กลับเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น พร้อมที่พักโรงแรมเมอร์เคียว ซับโปโรและไอบิซ สไตล์ ซัปโปโร ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลนี้ได้แก่  Vanak Choup (ที่ 4 จากซ้าย),  First Secretary of the Royal Embassy of Cambodia งานดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณ, พันธมิตรทางธุรกิจและสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนที่ดีตลอดมา

เมื่อเร็วๆ นี้ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต นำโดย คริสตอฟ เจอโฟรย์ (ที่ 4 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าประจำปี 2561 ในธีม “เวิล์ด มิวสิค แอท โนโวเทล” จำลองบรรยากาศงานคอนเสิร์ตระดับโลก ณ ห้องสุวรรณภูมิ

แกรนด์บอลรูม โดยมีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากนักแสดงหน้าเหมือนศิลปินดังจากไทยและต่างประเทศ อาทิ เลดี้ กาก้า, บีเอ็นเค 48, ไมเคิล แจ็คสัน, มาดอนน่า, เบิร์ด ธงไชย, หญิงลี และติ๊ก ชีโร่ นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมลุ้นรับรางวัลพิเศษมากมาย โดยมีรางวัลใหญ่คือตั๋วเครื่องบินไป-กลับเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น พร้อมที่พักโรงแรมเมอร์เคียว ซับโปโรและไอบิซ สไตล์
ซัปโปโร ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลนี้ได้แก่  Vanak Choup (ที่ 4 จากซ้าย),  First Secretary of the Royal Embassy of Cambodia งานดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณ, พันธมิตรทางธุรกิจและสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนที่ดีตลอดมา

ภาพที่ 2 ดร. เทเรซา วิรัชนีพรหมสุนทร (กลาง) อุปนายก สภาวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซาและสุวัฒน์ เบญจธรรมธร (ที่ 2 จากขวา) มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดีแก่ คริสตอฟ เจอโฟรย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป พร้อมวอนมี โร (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดและบุญสิตา เปล่งฮวด (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย ภาคองค์กร

ภาพที่ 3 พรเลิศ กาญจนนิตย (ที่ 9 จากซ้าย) รักษาการประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินและกลุ่มสมาชิกให้เกียรติร่วมงาน โดยมี คริสตอฟ เจอโฟรย์ (ที่ 5 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไปและวราภรณ์ ใจการ (ซ้ายสุด) ผู้จัดการฝ่ายขาย สายการบิน ให้การต้อนรับ


ภาพที่ 4 เจอราลด์ ฮูการ์ดี้ (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้จัดการโรงแรมและพรรณพิมล วงศ์ทองศรี (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ, กิจการร่วมค้า ยูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที มอบของรางวัลแก่ผู้โชคดี โดยมี โตชิคุนิ คาชิวากิ (ขวาสุด) ผู้จัดการทั่วไป สายการบิน ออลนิปปอนแอร์เวย์ สำนักงานกรุงเทพฯ ร่วมมอบรางวัลบัตรโดยสารไปกลับกรุงเทพฯ-โตเกียว

ภาพที่ 5 วอนมี โร (กลาง) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดและปริม เฮลด์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายขาย มอบรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดการแสดงลิปซิงค์, รองอันดับหนึ่งและสอง

 ภาพที่ 6 จากซ้ายไปขวา: อัญชลี ศรีมานพ – ผู้บริหารระดับสูง บริษัทมิตซูบิชิอิเล็คทริคกันยงวัฒนา จำกัด, สุดา เหมสมัน – ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ลิกซิล (ประเทศไทย) จำกัด, ปริม เฮลด์ – ผู้อำนวยการฝ่ายขายโรงแรมและอภิรดี วรรณวงศ์สอน – กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภิภาดี จำกัด

ภาพที่ 7 พรกมล อำนรรฆสรเดช (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการกองบริการพิเศษ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)และกลุ่มสายการบิน ร่วมงาน


ภาพที่ 8 การแสดงชุดเลดี้ กาก้า

เปิดตัวโรงพยาบาลพานาซี พระราม2

มิติใหม่ของโรงพยาบาลเฉพาะทางมาตรฐานระดับสากลจากประเทศเยอรมนี

มิติใหม่ของโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ให้บริการทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกแบบองค์รวม เน้นการรักษาจากต้นเหตุของการเกิดโรครวมไปถึงการป้องกันการเกิดโรค ที่มีความปลอดภัย  การชะลอวัยและการส่งเสริมสุขภาพ โดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับมาตรฐานสากล  จากประเทศเยอรมนีเพื่อผลลัพธ์ที่ประสิทธิภาพในการรักษา ด้วยการบริการอย่างเหนือระดับในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน

รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ ผู้อำนวยการรพ.พานาซี พระรามสอง (มหาชน) ยุรนันท์ ภมรมนตรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พานาซีเมดิคอลเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) และ ศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด

ใครๆ ก็อยากมีสุขภาพดี เพราะการไม่มีโรคถือเป็นลาภอันประเสริฐประโยคคุ้นเคยที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริงไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันและการดูแลตนเองของแต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกัน โดยคนส่วนใหญ่มักเจ็บป่วยแล้วจึงหาหนทางรักษาโรคมากกว่าการป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรคเอกลักษณ์ในด้านการบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 การป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เจ็บป่วยก่อนถึงจะเข้ารับการรักษาเน้นดูแลรักษาการเจ็บป่วยที่ต้นเหตุ ทั้งกายและใจ

วิษณุ  เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด

วิษณุ  เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)และยุรนันท์ ภมรมนตรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พานาซีเมดิคอลเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดตัวโรงพยาบาลพานาซี พระราม2

รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ ผู้อำนวยการรพ.พานาซี พระรามสอง

โรงพยาบาลพานาซี พระราม2 นำนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์จาก  ประเทศเยอรมนีมาประยุกต์ใช้ให้ ผู้รับบริการมีสุขภาพที่ดี และชีวิตที่ยืนยาว ด้วยการรักษา แบบองค์รวมจากแพทย์เฉพาะทางซึ่งออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ดูแลรักษาโรคจากสาเหตุได้อย่างตรงจุด โดยไม่ใช้ยา สารเคมี หรือการผ่าตัด การบริการของโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 ประกอบไปด้วย ศูนย์ตรวจสุขภาครอบคลุมทุกระบบของร่างกายและทราบผลอย่างรวดเร็ว,  ศูนย์วัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในการต้านทานโรค ด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพ  ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล  ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก,วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบและวัคซีน อื่นๆ  ที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย

เพื่อตอบสนองการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ของทุกเพศทุกวัย   ศูนย์ข้อและกระดูกโดยไม่ต้องผ่าตัดใช้เทคโนโลยีระดับเซลล์ ผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และศาสตร์การชะลอวัยลดการเสื่อมสภาพของกระดูกและข้อ ที่มีผลมาจากวัย  และการใช้งานรวมถึงอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา,  ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระและภาวสุขภาพที่สมบูรณ์ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค รวมถึงยืดระยะเวลาเริ่มต้นการเกิดความเสี่ยงของอวัยวะที่สำคัญภายในร่างกายโดยให้การดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ ผู้อำนวยการรพ.พานาซี พระรามสอง เภสัชกร ภัทรพงศ์ กาฬภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พานาซี เมดิคอล กรุ๊ป และศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)

เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุด  ศูนย์พัฒนาศักยภาพสมอง ปลุกศักยภาพสมองโดยการตรวจประเมินและปรับคลื่นสมอง ด้วยโปรแกรม Mind Detoxพร้อมทั้งโปรแกรมฝึกฝนและพัฒนาสมองโดยไม่ใช้ยาใช้เทคโนโลยีใหม่คลื่นเสียง  Emo wave & Emo Pill
ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหลายประเทศทั่วโลกให้สมองมีการปรับตัวและเกิดความสมดุลเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง  ศูนย์ผิวพรรณ และความงาม ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางกับเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยพร้อมดูแลผิวให้สวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภาย นอก, ศูนย์สุขภาพชายและหญิง คืนความสุขให้ชีวิตคู่ด้วยการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ พร้อมการเสริมสร้างฮอร์โมน  ที่มีโครงสร้างทางโมเลกุลแบบเดียวกับฮอร์โมนธรรมชาติ  ที่ร่างกายผลิตได้เองกับการรักษาที่คลอบคลุมโดยใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย

นอกจากนี้โรงพยาบาลพานาซีพระราม 2 ยังรับผู้ป่วยโรคทั่วไป  อาทิ เบาหวาน,ความดัน อีกด้วย ในอนาคตโรงพยาบาล พานาซี พระราม 2 วางแผนไว้ว่าในปลายปี 2561 จะเปิดศูนย์การแพทย์ที่คลอบคลุมมากยิ่งขึ้น อาทิ ศูนย์ผู้มีบุตรยาก ทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากสามารถช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ และคัดเลือกยีนเด่นได้อีกด้วย,ศูนย์ศัลยกรรมความงามด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ใส่ใจในเรื่องการดูแลความงามอย่างแท้จริงกับนวัตกรรมและ เทคโลยีที่ทันสมัยเพื่อความงามที่ผู้ใช้บริการสามารถออกแบบได้,ศูนย์ทันตกรรม สร้างสรรค์รอยยิ้มของคุณโดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางชั้นนำ

ศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)
รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ/เภสัชกร ภัทรพงศ์ กาฬภักดี /ศิริญา เทพเจริญ

ศิริญา  เทพเจริญ  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ณุศาศิริ  จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดโรงพยาบาล พานาซีพระราม 2 เป็นความตั้งใจตั้งแต่เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่คุณปู่เสีย  เลยคิดว่าถ้าพ่อแม่เราไม่สบาย จะมีโรงพยาบาลที่ไหนที่ช่วยดูแลฟื้นฟูรักษาและใช้ยาเคมีที่น้อยที่สุด ก็เลยเกิดแนวความคิดอย่างเดียวเลยว่า…เราต้องสร้างโรงพยาบาล

นโยบายของพานาซีพระราม 2 คือ เพราะความเจ็บป่วยป้องกันได้ จึงเน้นในเรื่องของการดูแลรักษาจากต้นเหตุการเกิดโรค แนวทางการป้องกัน ตรวจลึกไปถึงดีเอ็นเอ เพื่อทำการรักษาให้ถูกเฉพาะบุคคล เพราะคนแต่ละคนการให้วิตามินหรือการรักษาย่อมแตกต่างกัน  ยีนส์ของแต่ละคนจะสามารถบอกได้ว่าในอนาคตคุณมีความเสี่ยงจะเป็น โรคต่างๆ  เป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่
จึงจ่ายการรักษาให้ตรงจุดและเสริมสร้างการป้องกันโรคให้ถูกต้อง

เภสัชกร ภัทรพงศ์ กาฬภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พานาซี เมดิคอล กรุ๊ป

ด้านนักร้องสาวมั่นในวัยเลขสามต้นๆ อย่าง ดิษยา กรกชมาศ  ให้ความคิดเห็นว่า “ส่วนตัวไลฟ์สไตล์ติวเต็มที่กับ ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องกิน ทำงานเที่ยว สุขภาพทั้งตัวติวเองและคนในวัยเดียวกับติวจะเริ่มตระหนัก และเข้าใจคำพูดที่ว่าให้ดูแลสุขภาพของตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังสุขภาพดี ก็ไม่ควรชะล่าใจ ถ้าเรารู้ถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายก็มีโอกาส
ที่จะป้องกันได้ค่ะ”

อภินรา ศรีกาญจนา สาวเก่งความสามารถรอบด้าน กล่าวว่า   เป็นคนกิจวัตรแน่นมากในแต่ละวัน พยายามบาลานซ์ชีวิตการทำงานและแบ่งเวลาไปพักผ่อนบ้าง คนเราต้องคอยตรวจเช็คร่างกายอย่างสม่ำเสมอ บางทีภายนอกดูสดใสแต่ภายในอาจจะไม่เวิร์คก็เป็นได้ปรางค์คิดว่าถ้าเรามีการรักษาแพทย์ทางเลือกที่ช่วยป้องกันสุขภาพเราให้ดีขึ้นได้เราก็ควรจะทำ อย่างโรคมะเร็งก็สำคัญค่ะ เป็นโรคที่รักษาไม่ได้ แคมเปญของรพ.พานาซี พระราม 2ที่เชิญชวนให้มาตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งน่าสนใจมากค่ะ การทำบุญกับคนทำบุญกับเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ

เนื่องในโอกาสเปิดโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2  จัดแคมเปญพิเศษเปิดบ้านชวนคุณร่วมทำบุญ 9,999 บาท  ต่อชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งกับโปรแกรม “อย่ารอให้ถึงวันที่สายมะเร็งรู้ก่อนป้องกันได้” (Before It’s Too Late) ตรวจหาความเสี่ยงโรคเรื้อรังและโรคมะเร็ง, สารบ่งชี้มะเร็งในร่างกาย สารพิษโลหะหนัก , การตรวจ Apo-E คัดกรองความเสี่ยงโรคหัวใจและอัลไซเมอร์

รวมถึงการตรวจวัดความแข็งแรงของหลอดเลือด และความสมดุลของระบบต่างๆภายในร่างกาย  ในราคาพิเศษที่สุด 9,999 บาท

พิเศษยิ่งไปกว่านั้น รับฟรีอีก 1 โปรแกรม Detoxification Treatment
ที่คุณเลือกได้ (Ozone Therapy, Colon Detox , Facial Detox ,Chelation จำนวน 1 ครั้ง) รวมมูลค่ากว่า 32,900 บาท
เปิดรับตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2561จำนวน 1,000 คนเท่านั้น

โดยนำรายได้ทั้งหมด  ไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้โรงพยาบาสมุทรสาครเพื่อดูแลผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ มีเหล่าเซเลบริตี้และคนดังมากมายเข้าร่วมแคมเปญ อาทิ ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล, อภินรา ศรีกาญจนา, ขนิษฐา ดรุณเนตร, จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล, ดิษยา กรกชมาศ, ปรัชญมน บุรณศิริ,  แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา, หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยาและ จรสพรรณ สวัสดิวัฒน์
ณ อยุธยา พานาซีขอเรียนเชิญให้คนไทยมาร่วมทำบุญ พร้อมป้องกันความเสี่ยงโรคมะเร็ง

“Before It’s Too Late…อย่ารอให้ถึงวันที่สาย ….โรคร้ายรู้ก่อนป้องกันได้ ” PANACEE HOSPITAL RAMAII มิติใหม่ของโรงพยาบาลเฉพาะทาง เน้นการป้องกันโรคอย่ารอให้ถึงวันที่สายมะเร็งรู้ก่อนป้องกันได้ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการที่เราหันมาดูแลตัวเองก่อนถึงวันที่สายไปปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ในทุกวันนี้ก้าวไปไกลกว่าที่คิด

ร่วมสัมผัสกับโรงพยาบาลแนวใหม่พร้อมเหล่าเซเลบริตี้และคนดังอีกมากมายที่มาร่วมงาน

ในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน  2561 ที่โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : PANACEE HOSPITAL RAMAII
โทร. 02-452-2999
@panacee_hospital

กลุ่มรถคลาสสิคเชียร์บอลโลกที่ทัชดาวน์ สปอร์ต บาร์

โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต

คุณสยาม เศรษฐบุตร ประธานบริหาร เมอร์เซเดส เบนส์ คลับ (ประเทศไทย) เเละ คริสติน่า เศรษฐบุตร ภรรยาสาวไฮโซชื่อดัง และกลุ่มรถคลาสสิค “Classic Car” การลงทุนที่สร้างมูลค่าแถมยังได้ความสุขทางใจ ให้เกียรติมาร่วมเชียร์ศึกฟุตบอลโลก 2018 ทัชดาวน์ สปอร์ตบาร์ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต แห่งแรกและแห่งเดียวในบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ ชมการแข่งขันอย่างเต็มอรรถรสด้วยจอแอลอีดีขนาดใหญ่กว้างถึง 165 นิ้ว และอีก 7 จอทีวีให้ได้เลือกรับชมพร้อมโปรโมชั่น

นอกจากนี้ ยังมีเกมมันส์ๆ ให้คุณได้สนุกกัน ที่ทัชดาวน์ สปอร์ตบาร์ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แล้วพบกัน!

สยาม เศรษฐบุตร (นั่งที่ 3 จากขวา) ประธานเมอร์เซเดส-เบนซ์คลับ (ประเทศไทย) นำกลุ่มรถคลาสสิคร่วมพบปะสังสรรค์และรับชมฟุตบอลโลกที่ทัชดาวน์ สปอร์ตบาร์ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต

เมื่อเร็วๆนี้ สยาม เศรษฐบุตร  ประธานเมอร์เซเดส-เบนซ์คลับ (ประเทศไทย) นำกลุ่มรถคลาสสิคร่วมพบปะสังสรรค์  และรับชมฟุตบอลโลกที่ทัชดาวน์ สปอร์ตบาร์ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต โดยได้รับเกียรติจาก
เปรมิกา พาเมล่า มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 และรองทั้ง 3 อันดับร่วมงาน โดยมี นฤมล  เฑียรฆโรจนกุล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด  ของโรงแรมให้การต้อนรับ

เปรมิกา พาเมล่า (ยืนที่ 5 จากขวา) มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017 และรองทั้ง 3 อันดับร่วมงาน โดยมีนฤมลเฑียรฆโรจนกุล (ยืนที่ 3 จากซ้าย)

ภายในงานได้จัดให้มีการจำหน่ายของที่ระลึกและรับบริจาค เพื่อจะนำเงินบริจาคที่มิได้หักค่าใช้จ่ายดังกล่าว  ไปมอบให้กับ  มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย

จากซ้ายไปขวา:เปรมิกา พาเมล่า – มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017, ทวีพร พริ้งจำรัส – รองอันดับ 3 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017, กมลรัตน์ ทานนท์ – รองอันดับ 4 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017และศรุชา นิลจันทร์ – รองอันดับ 2 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017

 

Sabai Sabai At Sukhumvit รู้แล้วจะหลงรัก!

โรงแรม สบาย  สบาย @สุขุมวิท
รางวัลคุณภาพระดับ Excellence
4 ปีซ้อนจาก Trip Advisor

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน กรุงเทพมหานคร เป็นจังหวัดที่สมบูรณ์แบบ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามหลากหลายรูปแบบที่รอการมาเยื่อนของนักท่องเที่ยวทุกช่วงอายุ รออะไรอยู่ละจ๊ะ มาค้นหาตัวตนที่ใช่กับอีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากให้คุณไปเช็คอิน อัพรูปอวดโซเชียลรัวๆ กัน เลือกในสิ่งที่ใช่ สนุกในสิ่งที่ชอบ ถ่ายรูปให้โดนใจต้องมาถือเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่อยากแนะนำให้คุณเลือกใช้บริการ

ในครั้งนี้พาท่านผู้ชมมาเที่ยวโรงแรมสบาย สบาย@สุขุมวิท โรงแรมขวัญใจนักท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร ยังคงครองอันดับหนึ่งเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาเยือนมากที่สุด ติดต่อกันเป็นปีที่สอง ตามมาด้วยกรุงลอนดอน จากการสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ด ประจำปี 2560 นี้ กรุงเทพฯ ยังติด 1 ใน 5 ของเมืองที่นักท่องเที่ยวพักค้างคืนมีการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุดถึง 14.08 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เทรนด์ยุคนี้จะไปไหนทีก็ต้องมีภาพลงอินสตาแกรม เลยก่อให้เกิดกระแสนิยมใหม่ในหมู่นักท่องเที่ยวยุคปัจจุบันในการมองหาที่พักที่ดูแล้ว “เกิด” สุดๆ อยากจะขอเอาใจคนที่อยากเข้ามาท่องเที่ยวหรือมาทำธุระสำคัญในกรุงเทพ หรือที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเดิมที่ต่างจังหวัด มาเดินชอปปิ้งในกรุงเทพ มาเสพวัตถุนิยม ซื้อของสะสมเล็กๆ น้อยๆ มานอนนั่งอ้อยสร้อยในเมืองฟ้าอมร แนะนำโรงแรมในกรุงเทพ ครั้งนี้อยากขอเอาใจคนที่อยากหาโรงแรมหรือที่พักแนวน่ารัก น่ารัก กิ๊บเก๋ยูเรก้า ดูเท่ห์ มีสไตล์ อย่างโรงแรมสบาย สบาย @สุขุมวิท สวยอลังการสะท้านโลก

เพราะนี่คือ โรงแรมที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ โรงแรมสบาย สบาย @สุขุมวิท ที่พักสุดโรแมนติก สวย อลังการ  ปัจจุบันโรงแรมแต่ละแห่งนอกจากจะเน้นเรื่องการบริการที่ต้องมาเป็นที่หนึ่งแล้ว ตัวโรงแรมทั้งภายนอกและออกแบบตกแต่งด้วยโทรสีสดใส  ภายในโรงแรมและห้องพักเองก็ต้องมีการ Build in ตกแต่งให้ดูดี น่าพักสุดๆ ที่มีบรรยากาศอบอุ่น สบายๆ ผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน แต่แฝงความหรูหรา  พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ

 

ทันทีที่เข้ามาในบริเวณ Lobby สัมผัสได้ถึงความโอ่โถง โปร่ง สบาย เพิ่มความสดชื่นด้วยเฟอร์นิเจอร์สีแดงสด ในกลิ่นอายที่ผสมผสานความอบอุ่นแบบสบาย สบาย สวยบรรยากาศดี๊ดีที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมสงบ กลางใจเมืองกรุงเทพ นอกจากสถานที่จะสวยงาม อุปกรณ์ทันสมัย ห้องอาหารพร้อมให้บริการอาหารเลิศรสหลากหลายสไตล์  พนักงานทุก  คนเอาใจใส่ผู้เข้าพักและพร้อมให้บริการด้วยรอยยิ้มที่สุดแสนประทับใจ

โรงแรม สบาย สบาย ตั้งอยู่ใจกลางย่านสุขุมวิท71 ใกล้สถานที่สำคัญ เรียกว่าเดินไปไม่กี่เก้าก็เห็นแต่โรงแรมแล้วค่ะ สะดวกต่อการเดินทางโรงแรมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS พระโขนง เชื่อมต่อกับทุกสถานีรถไฟฟ้า  ช่วยให้การเดินทางง่ายขึ้นตลอดสายสุขุมวิท เช่น อ่อนนุช, เอกมัย, ทองหล่อ, อโศก, สยาม, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, หมอชิต เป็นต้น  ยังไม่นับรวมสายรถไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกันอีกในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า เช่น สายสีลม, สายสีเขียว, สายสีม่วง, สายสีน้ำเงิน, สายสีแดง เกตเวย์ เอกมัย ห่างจากเอกมัยเพียง 10 นาที สนามบินสุวรรณภูมิ 30 นาที  เรียกว่าหากมาพักผ่อนกับโรงแรม สามารถเดินทางเที่ยวได้ทั่วกรุงเทพแน่นอน คุ้มค่าต่อการมาพักผ่อนอย่างแน่นอน

โรงแรมสุดน่ารัก ที่จอดรถกว้างขวาง มีห้องพักราคาประหยัดรองรับหลายประเภทมากถึง 42 ห้อง 42 แบบ แบ่งเป็นห้อง EXECUTIVE ROOM เพนท์เฮ้าส์ ห้องสวีท ห้องดีลักซ์ ห้องดีลักซ์ทวินแบบครอบครัว  ห้องดีลักซ์ดับเบิลบัลโคนี ห้องซูพีเรียน์ขนาดมาตราฐาน รองรับด้วยเตียงนอนนุ่มใหญ่
Slumberland ที่นอนช่วยรองรับน้ำหนักด้วยวัสดุเสริม ดีไซน์ไทยโมเดิร์น ฝรั่งเศส จีน โมรอคโค ยุโรป  และตุ๊กตาหมีน่ารักๆ ตัวนุ่มๆที่มาใช้ตกแต่ง ภายนอกมีมุมนั่งเล่นที่เป็นโต๊ะไม้ หมอนอิง  เบาะนั่งหมอนอิงที่เป็นลายผ้าจากแคชเมีย สวยงามน่านั่ง  มีนี่บริการสปา และห้องอาหารผัดไทยเสวย ที่ได้รับการการันตีจากเชลล์ชวนชิม

ชั้น1 Lobby/RESTAURANT DELIGHT สำหรับ Breakfast เช้า/Spa

ชั้นลอย  ห้องออกกำลังกาย/ห้อง  Co-Working Space

ชั้น2  ทางเดินและห้องพักแบบโมเดริ์นสไตล์ แบบคลูๆ มีเสน่ห์กระจุ๊กกระจิ๊ก

ชั้น3 ไชนิสสไตล์เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความร่ำรวยทาง
ศิลปวัฒนธรรม/ห้องพัก

ชั้น4 ความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทยโมรอกโก

ชั้น5 สุคชิคสไตล์วินเทจ แบบยูโรเปียนสไตล์

ชั้น6 EXECUTIVE ROOM เพนท์เฮ้าส์แบบคุณหนูหรูหรา ที่มีสวน และมีการตกแต่งสวนหย่อมแบบสวยงามที่สุดขยับร่างไปดริ้งค์พร้อมเสพวิวได้เลยสร้าง

 

หากคุณเป็นคนชอบความสะดวกสบาย ใช้เวลาทุกนาทีให้คุ่มค่ากับวันพักผ่อนอันแสนอบอุ่นกับการเดินทางที่แสนยาวไกล ขอแนะนำที่พักเล็กๆ น่ารัก เจ้าของดูแลด้วยตัวเอง การบริการดีมาก ห้องพักสะอาด สวยสง่าไม่ได้มีแพ้โรงแรมใด มาที่นี่เหมือนกับหลุดอยู่ในเมืองเทพนิยายของยุโรป

แนวความคิดของโรงแรม สบาย สบาย นี้คือต้องการให้คนมาพักได้เข้าถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง แต่ละห้องมีความแตกต่างที่แอบแฝงด้วยความเก๋ไก๋ อยากพักแบบชิคๆ ชิลๆ ก็ต้องที่นี่เลยล่ะ บวกกับสายลมเบาๆท่ามกลางสวนต้นไม้ เสียงนกร้อง ธรรมชาติยามพัดผ่านร่างกาย มันช่างสบายเสียจริงๆ พร้อมผ่อนคลายไปกับสวนสวยที่เงียบสงบนับว่า สบาย สบาย เป็นอีกโรงแรมที่น่าพักผ่อนของนักท่องเที่ยว

คุณบุญศิริ ตระกูลแสงรัศมี (เล็ก) กรรมการผู้จัดการ (เจ้าของ) ผู้ก่อตั้งและดูแลการทำตลาดให้กับโรงแรมสบาย สบาย @สุขุมวิท

ถ้าเอ่ยถึง  โรงแรมสบาย สบาย @ สุขุมวิท  นาทีนี้ คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
คุณบุญศิริ ตระกูลแสงรัศมี (เล็ก) กรรมการผู้จัดการ (เจ้าของ) ผู้ก่อตั้งและดูแลการตลาด  ให้กับโรงแรมสบาย สบาย @สุขุมวิท โรงแรมที่กำลังเป็น Talk of the Town ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ และเธอยังได้ปลีกเวลาที่แสนวุ่นวายจากการเดินทางไปทั่วโลกมานั่งเล่าเรื่องราวในชีวิตให้เราได้ฟังกัน เริ่มต้นจากการเป็นลูกสาวในครอบครัวของนักธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ความเป็นครอบครัวของนักธุรกิจ ก็จะสอนและฝึกหัดให้ลูกๆ รู้จักทำงานมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ยังเรียนหนังสือตั้งแต่ชั้นประถม  เรียกได้ว่าถูกหล่อหลอมมาด้วยความคาดหวังว่าจะได้เกิดและเติบโตในสายงานนักธุรกิจอย่างแท้จริง หลังจากเรียนจบด้านการโรงแรมจากประเทศออสเตรเลีย คุณเล็ก มีความชอบทางด้านของการให้บริการ และ ชอบพบปะผู้คน เป็นทุนเดิม ที่ทำให้ เล็กเลือก ตัดสินใจในการที่จะเข้าประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริหารโรงแรม

“จากจุดเริ่มต้นมาจนถึงทุกวันนี้ รู้สึกภูมิใจในผลของการทำงานที่ผ่านมา นอกจากจะภูมิใจในตัวเองแล้ว ยังสร้างความภูมิใจให้กับครอบครัว การเดินทางทุกๆ เส้นทาง เล็กต้อง ขอบคุณทุกๆ คำแนะ
นำที่ช่วยสอนช่วยแนะนำสนับสนุนให้เล็ก เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง”

นอกจากนี้  คุณเล็กกล่าวว่า… “ที่นี่ไม่ใช่เพียงทำให้ผู้มาเยือนอิ่มเอมใจกับห้องพักสวยๆ ได้เท่านั้น แต่ยังมี จุดเด่นที่ทำให้ โรงแรมสบาย สบาย ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก ด้วยทำเลที่ตั้ง ข้อเสนอที่ตรงใจ โดนใจ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทย และ ชาวต่างชาติ ของโรงแรมแห่งนี้ ที่มีบริการรับส่ง BTS  ,Airport link,  ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไวไฟ มินิบาร์ ทีวี ตู้เย็น เรียกว่าถ้าสู้แดดร้อนๆไม่ไหว แค่นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่ห้องสบายๆ ก็แฮปปี้แล้วค่ะ”

Sabai Sabai at Sukhumvit Hotel
Goodplace Bestprice Niceroom

เสน่ห์ดึงดูดใจของที่นี่ คือการออกแบบตกแต่งอย่างสวยงาม  ความสะอาด บริการเรื่องการให้ความช่วยเหลือ ลูกค้า  ตัวอาคารที่คงเอกลักษณ์โครงสร้างเดิม ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก โดดเด่นด้วยสีสันต่างแต่ละชั้นแต่ละห้องพัก เช่นโทนขาว-ฟ้า ซึ่งสร้างบรรยากาศอบอุ่นสบายตาได้เป็นอย่างดี  และมีการแต่งแต้มสีสดใสเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา
-คุณบุญศิริ ตระกูลแสงรัศมี (เล็ก)

อีกทั้งยังมีการเล่นระดับทางเดินเพื่อสร้างมิติและมุมมองที่น่าสนใจ รวมถึงมีกิมมิกน่ารักๆ เป็นข้าวของตกแต่งที่ประยุกต์ใช้เศษวัสดุธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็นงานแฮนด์เมด จากเชียงราย แพร่ โดยฝีมือคนท้องถิ่น

ปัจจุบันวันนี้มีจำนวนลูกค้ามากพอที่จะต่อยอดสู่บริการที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นได้รับรางวัลการันตีและเป็นที่ยอมรับจากสื่อมากมาย อาทิ  Sabai Sabai at Sukhumvit โรงแรมหรูหราไฮโซเทียบเท่า 4 ดาว   การันตีด้วยรางวัลคุณภาพระดับ Excellence 4 ปีซ้อน  จาก Trip Advisor 2013-2016

นอกจากนี้ยังมีห้องประชุม ห้องสัมมนาไว้รับรอง ราคาก็ไม่แพง จะอยู่รายวัน หรือจะอยู่แบบรายเดือน  ห้องสวย เก๋ มีสไตส์ ไม่ซ้ำแบบ บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง แบบสบายๆ ท่ามกลางแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหาร ชนิดเดินเพียงไม่กี่ก้าว เงินในกระเป๋าก็ดีดดิ้นเต้นระบำแล้ว

บอกแล้วว่าที่ ความเป็นโรงแรมหรือที่คนทั่วไปเรียกว่า โรงแรมสบาย สบาย อยู่ที่ความสะดวก สบาย คุ้มค่า ซึ่งเป็นเสียงสะท้อนที่ชัดมากจากการสำรวจและได้รับรางวัลจาก นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของรูปลักษณ์ที่มีความเฉพาะตัวของโรงแรมที่มีความปลอดภัย ต่างเคยได้ยินชื่อแบรนด์มาก่อนวันนี้โรงแรมสบาย สบาย @สุขุมวิท เปิดให้บริการสู่ปีที่ 7

Sabai Sabai At Sukhumvit
โปรโมชั่นพิเศษ!!!  สำหรับลูกค้าจาก  Toptotravel.com   (แจ้งพนักงาน)
ไปพักกันเลย Deluxe room จาก 3,000 บาท เหลือเพียงราคา 999 บาทแถมฟรีอาหารเช้า  เก็บกระเป๋าแล้วพุ่งตัวไปวันพรุ่งนี้ยังได้เลยเสมือนกับ
คุณอยู่บ้านพักของตัวเองแบบสบายๆ สมชื่อ

Welcome to Sabai Sabai!!
Sabai-Sabai @ Sukhumvit Boutique Resort and Spa takes pride in being one of the hotels located at the centre of the Sukhumvit road.
This area is about 20 kilometers from Suvannabhumi Airport, few kilometers from the Airport Link BTS.

It is very convenience to go by BTS to the restaurant and the entertainment at Nana, Thong Lor and Ekkamai for shopping at the Emporium, Central World, Siam Paragon, Isetan, Gaysorn Plaza, MBK, Platinum, Big C, Index Shopping Mall, Secon Square and Paradise Park.

It also takes about one hour by car to the beach, Pattaya (by highway) and as well, there are many tourist attractions near by, such as Anciently City Crocodile Farm Temples.

Sabai-Sabai @ Sukhumvit Resort and Spa
984/22-27 Sukhumvit 71 Rd., Soi Pridi Banomyong 40,Prakanong, Vadhana, Bangkok 10110
Tel. 66(0)-2255-7592-3, 66(0)-2391-6498-9
Fax. 66(0)-2655-5711, 66(0)-2672-7697

สนใจติดต่อ โรงแรมสบาย สบาย แอท สุขุมวิท
984/22-27 ซอยปรีดีพนมยงค์40 ถนนสุขุมวิท71 แขวงพระโขนง
เขตวัฒนา กทม. 10110
โทร. 02 391 6490

เว็ปไซต์ : http://sabai-sabai-sukhumvit.com
facebook: www.facebook.com/sabai.sabai.sukhumvit/

กินกิน เที่ยวเที่ยว ใกล้กรุงกันดีกว่า ตลาดอิงน้ำสามโคก

ตลาดอิงน้ำสามโคกสุดคึกคักฉุดเศรษฐกิจชุมชนโตต่อเนื่อง พร้อมช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น

มาชวนไปหาของอร่อยแถวสามโคก ปทุมธานี ตลาดนี้เพิ่งเปิด ตลาดเล็กๆ มีเจ้าเสือพ่นน้ำเป็นสัญลักษณ์ ชาวบ้านใจดี ร้านค้าจัดน่ารัก น่าเดินเล่นและซื้อหาของ ด้วยความผูกพันของชาวชุมชน พร้อมใจกัน  สรรหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นภูมิปัญญาและฝีมือของท้องถิ่นออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ชม ชิม ช้อป อาทิเช่น ข้าวแช่ แกงมะตาด ขนมจีนชาวน้ำ หรือการปักสะไบมอญ  ด้วยอัธยาศัยการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของชาวสามโคกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมภายในตลาดอิงน้ำสามโคก

ชวนไปหาของอร่อยแถวสามโคก ปทุมธานี ตลาดนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นาน
ด้วยบรรยากาศชุมชนที่ยังคงวัฒนธรรมประเพณีและวิถีความเป็นอยู่ ซึ่งมีแม่น้ำลำคลองเป็นเส้นทางสัญจร เป็นตลาดเก่าดั้งเดิมที่ทำมาค้าขายทางเรือกันมาอย่างราบรื่นหลายชาติพันธุ์ชาวไทย ชาวมอญ ชาวจีน และชาวมุสลิม ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันอย่างมีความสุข ตลอดระยะเวลาจาก
เริ่มโครงการจนเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยว

นอกจากนั้นยังเสริมสร้างให้เด็ก เยาวชน ในท้องถิ่น โดยมีเวทีในการแสดงทางวัฒนธรรม เกิดทัศนคติที่ดีและหวงแหนชุมชน ภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเองผ่านการแสดงในทุกวันจัดกิจกรรมที่เวทีการแสดง

ธรรมชาติยังดีเหมือนเดิม มีชุมชนอาศัยอย่างปกติทีความเป็นกันเองกับผู้มาเยี่ยมเยือนมีร้านค้าพอสมควรมี ร้านอาหารให้เลือกทานมีร้านอาหารริมน้ำอร่อยมีศาลเจ้าติดริมน้ำมีมุมสวยๆหลายมุมให้จับภาพมี ร้านกาแฟมุมสวยให้พักผ่อน ร้านผัดไทยกุ้งสดขายดี มีร้านหมูสะเต๊ะอร่อย มีร้านทอดมันกุ้งทอดให้ลอง มีกล้วยทอดให้ชิม มีห่อหมกร้านอร่อยให้ซื้อกลับบ้าน แล้วมานั่งทานขนมจีนซาวน้ำ

จังหวัดปทุมธานีเผยผลสำเร็จโครงการถนนสายวัฒนธรรม  ตลาดอิงน้ำสามโคก ชาวชุมชนพร้อมใจต้อนรับนักท่องเที่ยวสัมผัสวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชุมชน อาหารอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยอิทธิพลไทย รามัญ จีน มุสลิม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของภาครัฐ เตรียมนำความสำเร็จจากโครงการนี้เป็นแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาต่อยอดสู่โครงการอื่นๆ ต่อไป

นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวในงานแถลงข่าวความสำเร็จของโครงการ ถนนสายวัฒนธรรม ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี ว่า หลังจากจังหวัดปทุมธานี ได้จัดโครงการถนนสายวัฒนธรรม ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา พบว่าชาวชุมชนที่เคยค้าขายอยู่ในตลาดอิงน้ำสามโคก

ทั้งที่เลิกค้าขายไปแล้วและที่ออกไปค้าขายที่อื่นตามการเปลี่ยนแปลงของชุมชน ได้กลับมาค้าขายในพื้นที่ตลาดอิงน้ำสามโคกอีกครั้งเป็นจำนวนมาก จากที่ก่อนเปิดโครงการมีร้านค้าเพียง 20 กว่าร้าน จนในปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 120 ร้าน จำนวนนักท่องเที่ยวจากที่เคยมีเพียงไม่เกิน 100 คน/วัน ในช่วงวันหยุด ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกว่า 1,500 คนต่อวันและมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งจากการประเมินตามร้านค้าพบว่าในแต่ละวันที่ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมมีเงินหมุนเวียนภายในชุมชนกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งหากนับจากวันเริ่มโครงการ มีเงินสะพัดภายในตลาดเกือบ 30 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 เดือน

“การจัดโครงการถนนสายวัฒนธรรม ตลาดอิงน้ำสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นการเปิดเส้นทางและพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมีพื้นที่ในการนำเสนอและจำหน่ายสินค้า ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีรายได้ กินดีอยู่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายของภาครัฐ ความสำเร็จที่เกิด
ขึ้นจากโครงการนี้ จะเป็นแนวทางในการส่งเสริมพัฒนา เพื่อเป็นการพัฒนาต่อยอดสู่โครงการอื่นๆ อีกมากมาย” รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าว

ตลาดอิงน้ำสามโคก ตั้งอยู่ที่อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พาครอบครัวเดินมาเดิเล่นชมวิถีชุมชนริมน้ำแบบใกล้กรุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย-ต่างชาติ ได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชุมชน อาหารอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยอิทธิพลไทย รามัญ
จีน มุสลิม จากชาวบ้านในพื้นที่ ราคาไม่แพง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชน และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เช่น อาคารที่ว่าการอำเภอสมัย รัชกาลที่ 6 อนุสาวรีย์สุนทรภู่ วัดบางเตย ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ ฯลฯ
พร้อมมุมถ่ายรูป ชิค ชิคทั้ง  Wall Art  วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา

สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยลงทางด่วน ที่ด่านถนนบางพูน (รังสิต-ปทุมธานี) ลงแล้วเลือกไปทางปทุมธานี ขับตรงมาอีกไม่ไกลเจอสามแยกไฟแดงโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส แล้วเลี้ยวขวา ขับชิดซ้ายตรงมาเรื่อยๆไม่ต้องขึ้นสะพานไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ขับตามป้ายปทุมธานีไว้ จะเจอสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ขับข้ามสะพานตรงมา จะเจอสะพานข้ามแยก (สันติสุข) ไม่ต้องขึ้นสะพาน ให้เลี้ยวขวาใต้สะพานไปทางอำเภอสามโคก ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตปั้ม PT ไว้และต่อมาจะเจอวัดบางเตยนอกและวัดบางเตยกลางจะอยู่ติดกัน ข้ามสะพานข้ามคลองเล็กๆลงมาชิดขวาไว้จะเจอช่องทางให้กลับรถ (ตรงที่กลับรถ มีป้ายบอกว่า สถานีตรวจคนเข้าเมือง  จังหวัดปทุมธานี) เลี้ยวขวาที่ช่องกลับรถเข้าซอยมา จอดรถที่ท่าน้ำ

ตลาดอิงน้ำสามโคก เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว
ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 09.00–16.00 น.

ธุรกิจการถ่ายภาพ แถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม Photo Fair 2018

เตรียมตัวให้พร้อม  ไปงานของพวกเรา คนรักการถ่ายภาพ 

Toptotravel  มีโอกาสร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว PHOTO FAIR 2018 ผู้ที่รักการถ่ายภาพได้มาร่วมงาน PHOTO FAIR 2018  ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆมากมาย และจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของการจัดงานในปีนี้ที่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่สนใจ เพราะทุกวันนี้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย เราควรต้องตามให้ทัน

เมื่อวันที่  19 มิถุนายน 2561  ที่  โรงแรมดิเอ็มเมอรรัล ถนนรัชดาภิเษก กทม.สมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ จัดพิธีมอบตำแหน่งคณะกรรมการสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ สมัยที่ 26 ปี พร้อมนายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพท่านใหม่ นางณริภา ศรีสว่างวัฒน์ พร้อมแถลงข่าวการเปิดตัวกิจกรรม PHOTO FAIR 2018

สมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ แถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม Photo Fair 2018
คุณณริภา ศรีสว่างวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ สมัยที่ 26 ปีบริหาร 2561-2562 หลังจากรับตำแหน่ง พร่้อมทำงานจัดแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม Photo Fair 2018 งานแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการถ่ายภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ภายใต้แนวคิด Photo Graphy Power รวมพลังแห่งการถ่ายภาพอยู่ในงานเดียวกัน สื่อถึงความมีพลังสามัคคีและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

นางณริภา นายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพคนใหม่ กล่าวว่า งานกิจกรรม PHOTO FAIR 2018 จุดนัดพบของคนรักการถ่ายภาพ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – วันที่ 2 ธันวาคม 2561 จำนวน 5 วัน ณ ไบเทคบางนา โดยทางสมาคมธุริจการถ่ายภาพได้จัดกิจกรรมนี้มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2522 ถึงปัจจุบัน ถือเป็นปีที่ 39 บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร วัตถุประสงค์เพื่อเป็นสื่อกลางของผู้ประกอบการธุรกิจการถ่ายภาพที่มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินการธุรกิจถ่ายภาพต่อไป ภายในงานจะมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้กับนักถ่ายภาพทั้งสมัครเล่นและมืออาชีพ ซึ่งจะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายภาพใหม่ๆที่ทันสมัยมากมาย รวมทั้งจะมีผู้ประกอบการด้านการถ่ายภาพที่ตอบรับมาเข้าร่วมงานครั้งนี้จะนำสินค้าที่แตกต่างจากประเทศไทยเ ได้แก่ จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ เป็นต้น จึงอยากเชิญชวนผู้ที่รักการถ่ายภาพว่าไม่ควรพลาดที่จะมาเข้าร่วมงานในครั้งนี้

นางณริภา ศรีสว่างวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ สมัยที่ 26 ปี (บริหาร 2561-2562) หลังจากรับตำแหน่ง พร้อมทำงานจัดแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม PHOTO FAIR 2018 งานแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการถ่ายภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ภายใต้แนวคิด PHOTO GRAPHY POWER รวมพลังแห่งการถ่ายภาพอยู่ในงานเดียว

ประวัตินายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ สมัยที่ 26 
คุณณริภา (นวรัตน์) ศรีสว่างวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ สมัยที่ 26 เป็นบุตรสาว นายชัยพันธ์ วงจันทร์ศิลป์ และนางขาเฮียง แซ่อึ้ง เกิดในครอบครัวร้านถ่ายภาพวงจันทร์ เริ่มเป็นช่างภาพตั้งแต่อายุ 13 ปี มีความสามารถตั้งแต่สมัยที่วงการถ่ายภาพใช้ฟิล์มกระจก ซึ่งต่อมาก็เป็นฟิล์มแผ่นจวบจนถึงปัจจุบันนี้กว่า 50 ปี มีความสามารถในการถ่ายภาพทั้งในและนอกสถานที่ รวมทั้งการแต่งรูป แต่งฟิล์ม และขยายภาพ ได้สมรสกับคุณชาริษ (ชาลี) ศรีสว่างวัฒน์ ซึ่งเป็นเจ้าของ บริษัท ภาพยนตร์วีดีโอโปรดักชั่น จำกัด และห้างหุ้นส่วนภาพยนตร์โฟโต้ ซึ่งได้มีการถ่ายภาพหมู่โดยใช้กล้องหมุนและถ่ายวีดีโอ พร้อมทั้งถ่ายภาพในการรับพระราชทานปริญญาบัตรในสถานบันมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้รับเชิญให้ไปถ่ายภาพหมู่กล้องหมุนหลายประเทศ ทั้งประเทศอเมริกา ฝรั่งเศส จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน มาเก๊า มาเลเซีย อินโดนีเซีย เขมร ลาว เป็นต้น ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างมากมาย

ประวัติทางสังคม

-เป็นอุปนายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพหลายสมัย และดูแลฝ่ายต่างประเทศ

-เป็นอุปนายกสมาคมตระกูลเฮ้งแห่งประเทศไทย

-เป็นที่ปรึกษากลุ่มสตรีสมาคมตระกูลเฮ้งแห่งประเทศไทย

-เป็นที่ปรึกษากลุ่มสตรีสมาคมฮงสูนแห่งประเทศไทย

-เป็นสมาชิกไลออนส์ที่เป็นองค์กรการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลกมากว่า 15 ปี สังกัดสโมสรไลออนส์จอมทอง กรุงเทพ ภาค 310D เคยดำรงตำแหน่งอดีตผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310 D ปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารสภาภาครวม 310 ประเทศไทย

พิธีมอบตำแหน่งคณะกรรมการบริหารสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพสมัยที่ 26 คุณณริภา (นวรัตน์) ศรีสว่างวัฒน์ ปีบริหาร 2561-2562 และงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม โฟโต้แฟร์ 2018  งานแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการถ่ายภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ภายใต้แนวคิด Photo Graphy Power รวมพลังแห่งการถ่ายภาพอยู่ในงานเดียว สื่อถึงความมีพลังสามัคคี และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – วันที่ 2 ธันวาคม 2561ณ ไบเทคบางนา

สำหรับผู้สนใจจองพื้นที่ในงาน ติดต่อสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ
งาน PHOTO FAIR 2018 จุดนัดพบของคนรักการถ่ายภาพ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา บนพื้นที่กว่า 15,000 ตร.ม.
ติดต่อที่ สมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ 02-803-7570-1
โทรศัพท์ 0 2803 7570-1

#PhotoFair2018
#โฟโต้แฟร์2018
#PhotoFairThailand

โตชิบา ไทยแลนด์ รุกหนักครึ่งปีหลัง 2018

เปิดตัวสินค้าใหม่ 34 รุ่น หวังรายได้โต 2 ดิจิต

นายโตชิโระ อิชิวาตาริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส คอร์ปอเรชัน (TLSC) ประเทศญี่ปุ่น ร่วมด้วยนายไบรอัน จ้าว ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าว “A New Chapter Beyond All Limits ” เปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อม
ชูนโยบายและแผนการตลาดเชิงรุกในครึ่งปีหลัง

นายโตชิโระ  อิชิวาตาริ  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส คอร์ปอเรชัน (TLSC) ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า…

โตชิบา ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดี ภายใต้มาตรฐานการดีไซน์และการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้น ด้านคุณภาพชีวิต และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค  จากการรวมกัน ของ TLSC และ Midea Group เรามุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดโลก (Global Market) มากยิ่งขึ้น ขยายกลุ่มสินค้าให้หลากหลาย

นอกจากนี้ นายโตชิโระ  อิชิวาตาริ   ยังกล่าวตอกย้ำว่า TLSC   ยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะลงทุนในประเทศไทย ทั้งในแง่เป็นฐานการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการขายและการทำตลาด และโตชิบาจะยังคงเติบโต ยั่งยืน และก้าวไปด้วยกันกับคนไทย เรามุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพตามมาตรฐานญี่ปุ่น และคำนึงถึง
ไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก  เพื่อนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตคน
ไทย ตามสโลแกนโตชิบา

นายไบรอัน จ้าว ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด

นายไบรอัน จ้าว ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับตลาดในประเทศไทย ภาพรวมเศรษฐกิจ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน อยู่ในช่วงฟื้นตัว และมีแนวโน้มดีขึ้น  โดยคาดว่าปีนี้จะเติบโตสูงถึง 4.1%   ซึ่งถือว่าเติบโตสูงสุดตั้งแต่ปี 2555 ส่วนค่า GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 4.8% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงแนวโน้มในเชิงบวกว่าธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจะดีขึ้น

สำหรับไตรมาสแรก  ของปี 2561 ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน  ยังคงทรงตัวที่อัตราการเติบโต 0.2% เนื่องจากสภาพอากาศ ส่งผลกระทบต่อยอดขายกลุ่มเครื่องปรับอากาศ มีผลติดลบ 9% อย่างไรก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเล็ก ยังมีการเติบโตสูงขึ้นถึง 7% ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าอนาคตจะเป็นไปในเชิงบวก

สำหรับผลประกอบการของโตชิบาในครึ่งปีแรก ภาพรวมยอดขายโตชิบา โตขึ้นถึงกว่า 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ในส่วนของการเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก โตชิบาเผยโฉมสินค้าใหม่มากถึง 8 หมวดหมู่ รวม 32 รุ่น ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างโตชิบาและไมเดีย และจากการลอนช์สินค้าดังกล่าว  จึงเป็นที่มาของยอดขายที่เติบโตสูงขึ้น

นายฮิโรยูกิ ทากาเสะ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและทีวี

สำหรับแผนการตลาดครึ่งปีหลัง โตชิบายังคงใช้ความได้เปรียบจากการรวมกันของ 3 ประเทศ ได้แก่สินค้าคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น ความรวดเร็วในการผลิตและการพัฒนาจากประเทศจีน และประสบการณ์  การทำตลาดอันยาวนานจากประเทศไทย เปิดตัวคอนเซปต์ A New Chapter Beyond All Limits เพื่อตอกย้ำ โตชิบายุคใหม่ ที่จะก้าวทะยานไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด โดยคาดหวังจะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า Top 3 ในประเทศไทย ภายใน 3 ปี และต้องเติบโตอย่างน้อย 2 ดิจิตขึ้นไป เราวางแผนที่จะขยายธุรกิจของเราให้เติบโตยิ่งขึ้น จากการที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มมากมาย โดยในครึ่งปีหลัง แผนเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มอีก 8 หมวดหมู่ 34 รุ่น

นายฮิโรยูกิ ทากาเสะ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและทีวี กล่าวเสริมว่าจากข้อมูลเดือนมกราคมถึงเมษายน 2561 ที่ผ่านมา มูลค่าการตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย เติบโตขึ้น 0.2% โดยสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นเยอะได้แก่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (SDA – Small Domestic Appliances) ซึ่งมีสัดส่วนการตลาด 31% ในขณะที่เครื่องปรับอากาศ 32% ตู้เย็น 19% และเครื่องซักผ้า 18% ส่วนการเติบโตสินค้ากลุ่มความเย็นและกลุ่มซักผ้า เติบโต 4% ในขณะที่เครื่องปรับอากาศ ติดลบ 9% ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโตสูงถึง 7.1% โดยเครื่องทำน้ำอุ่นโตถึง 31% และไมโครเวฟ 15%

ส่วนผลประกอบการของโตชิบาในครึ่งปีแรก ยอดขายโตชิบาโตถึงกว่า 20% โดยมาจากตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ และเครื่องทำน้ำอุ่นที่เติบโตถึง 38%, 35%, 189% และ 146% ตามลำดับ ส่วนเครื่องปรับอากาศ เติบโตเพียง 1%

ส่วนแผนการตลาดครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 34 รุ่น ทั้งกลุ่มตู้เย็น เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว เครื่องปั่นน้ำผลไม้ และเครื่องทำน้ำอุ่น เพื่อมาเติมเต็มช่องว่างของสินค้าที่โตชิบาขาดหายไป และถือเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้หลากหลายและครบถ้วนยิ่งขึ้น

นายบุนยรัตน์ ไตรสิริสมบัติ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

นายบุนยรัตน์ ไตรสิริสมบัติ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กล่าวเสริมว่า ในครึ่งปีหลังนี้ โตชิบาจะเปิดตัวสินค้ามากมาย โดยเฉพาะตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ที่จะมาขยาย Market Share ของโตชิบาให้กว้างขึ้น ทั้งตลาดพรีเมียมและตลาดแมส สำหรับสินค้ากลุ่มตู้เย็น โตชิบาเป็นที่ 1 ในเรื่องตู้เย็นประตูเดียวมาตลอดหลายปีต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีตู้เย็น 2 ประตู และตู้เย็นมินิบาร์ แต่ในปีนี้ เราจะมาครบไลน์อัพ เติมเต็มช่องว่างเค้กก้อนใหญ่ในส่วนของตู้เย็นมัลติดอร์ (Multi Doors) และตู้เย็นไซด์บายไซด์ (Side By Side) ที่มีมูลค่าการตลาดถึงหนึ่งพันล้านบาท โดยมีแผนออกสินค้าในไตรมาส 4 ส่วนในไตรมาส 3 เราส่งตู้เย็น 1 ประตูรุ่นใหม่ FIT ที่ปรับโฉมใหม่ เพื่อยังคงรักษาความเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตู้เย็น 1 ประตู ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเกือบ 30%

ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โตชิบาจะใส่ใจเรื่องความต้องการของลูกค้า รวมถึงดูเทรนด์ผู้บริโภคเป็นหลัก เฉกเช่นการพัฒนาตู้เย็น ที่ผู้หญิงทำงานนอกบ้านมากขึ้น เวลามีจำกัด ดังนั้นการซื้อของกินของใช้ในแต่ละครั้งจึงมาก และเมื่อต้องเก็บมาก เราจึงออกแบบตู้เย็นให้ใหญ่ขึ้น รวมถึงต้องเก็บรักษาความสดได้ยาวนาน และต้องออกแบบตู้เย็นให้จัดสรรของกินแต่ละประเภทให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม จึงเป็นที่มาของการเกิดตู้เย็นไซด์บายไซด์ และมัลติดอร์

ตู้เย็นมัลติดอร์ โดดเด่นด้วย 3 Cycle Real Inverter มาพร้อมระบบทำความเย็น 3 Cooling กระจายความเย็นได้ทั่วถึง และระบบการกำจัดกลิ่นชั้นยอด นอกจากนี้ยังแบ่งช่องต่างๆ ในตู้เย็นได้มากถึง 26 ช่อง เพื่อให้คุณเลือกแช่ได้ตามใจ

ส่วนตลาดเครื่องซักผ้า เราตั้งเป้าเติบโต 50% โดยขยายไลน์อัพเพิ่ม ด้วยการเปิดตัวเครื่องซักผ้า 2 ถังสำหรับจับตลาดกลางถึงล่าง และเพิ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้า และ 2 in 1 เครื่องซักอบผ้าฝาหน้า เพื่อจับกลุ่มคอนโด และตลาดกลางถึงบน ซึ่งใน 2 ตลาดดังกล่าว มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาช่วยเติมเต็มมาร์เก็ตแชร์ของกลุ่มเครื่องซักผ้าของโตชิบามากขึ้น

ในไตรมาส 3 นี้ โตชิบามีแผนเปิดตัวเครื่องซักผ้า 2 ถัง ซึ่งมาด้วยดีไซน์ที่สวยหรู ตัวถังกันสนิม พร้อมจุดเด่นท่อเติมน้ำแบบคู่ ที่ทำให้การซักและการปั่นสะดวก สะอาดยิ่งขึ้น มีให้เลือกมากถึง 4 ความจุ คือ 7.5 กก. 8.5 กก. 11 กก. และ 13 กก. เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า หรือ Front Load จะมาด้วยเทคโนโลยี Great Wave ที่ช่วยให้ผ้าสะอาดโดยไม่ต้องใช้น้ำร้อน จึงทำให้ประหยัดไฟ ประหยัดเวลา รวมถึงช่วยปกป้องสีสันของเสื้อผ้าให้อยู่ยาวนานยิ่งขึ้น มาพร้อม 3 ความจุให้เลือก คือ 7.5 กก. 8.5 กก. และ 9.5 กก.

ส่วนตัวไฮไลท์ เป็นเครื่องซักอบฝาหน้า ที่มีความจุทั้งซักและอบที่เท่ากัน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งมีให้เลือก 2 ความจุ คือ 10/10 กก. และ 8/8 กก. ซึ่งแพลนวางขายในไตรมาส 4

นายชาตรี พลสอนดา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาไม่สูงมาก มีความต้องการใช้ต่อเนื่อง และด้วยความที่สินค้ามีหลากหลาย จึงตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้แตกต่างกัน สำหรับแบรนด์โตชิบา เราตั้งเป้าขึ้นเป็น Top 3 ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กภายใน 3 ปี โดยในครึ่งปีแรก เห็นผลชัดเจนว่าเราเติบโตมากในกลุ่มสินค้ากลุ่มไมโครเวฟ ซึ่งโตขึ้นถึง 189% จากการที่เราเปิดตัวไมโครเวฟใหม่ 7 รุ่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งโตขึ้นถึง 146% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้ใน ไตรมาสที่ 3 นี้ เราแพลนออกเครื่องทำน้ำอุ่นใหม่อีก 8 รุ่น เพื่อเตรียมรับหน้าหนาวที่จะมาถึงในปลายปีนี้ สำหรับตลาดหม้อหุงข้าว เราตั้งใจขยายตลาดระดับกลางถึงล่าง โดยส่งหม้อหุงข้าวประเภท Jar Type หรือหม้ออุ่นทิพย์ดีไซน์ใหม่ สดใส และทันสมัยกว่าเดิม มีให้เลือก 2 ความจุ 5 รุ่น 3 ดีไซน์ มากไปกว่านั้น โตชิบากำลังขยายไลน์สินค้ากลุ่มเครื่องปั่นน้ำผลไม้เพิ่ม ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงเช่นกัน เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน และคนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น เครื่องปั่นน้ำผลไม้ของโตชิบา มาด้วยเทคโนโลยี Off Center ที่ช่วยให้น้ำผลไม้ปั่นละเอียดยิ่งขึ้น

นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า นอกจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อตลาดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยโดยตรงจากกลุ่มผู้บริโภคด้วย อย่างแนวโน้มหรือเทรนด์ เรื่องความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งแนวโน้มดังกล่าว จะส่งผลต่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องความสะดวกสบาย คุณภาพและเทคโนโลยี ดีไซน์ของสินค้า ที่อาจนับได้ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน รวมถึงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ อย่างเรื่องการประหยัดเวลา นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ยังรวมถึงการรักษ์โลก ประหยัดพลังงาน และการรักสุขภาพ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของโตชิบา จึงถูกออกแบบมา โดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นปัจจัยหลัก เพื่อให้แน่ใจว่า เราจะ “นำสิ่งที่ดี มาสู่ชีวิต” ให้กับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับกิจกรรมการตลาดในครึ่งปีแรก อัตราส่วนการลงทุน จะมุ่งเน้นที่ การสร้างแบรนด์ สร้างภาพลักษณ์ และการจดจำต่อสาธารณชน ซึ่งรวมไปถึง ณ จุดขาย การส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น และนอกจากการลงทุนข้างต้นแล้ว ทางบริษัทยังให้ความสำคัญกับ พนักงานขาย อีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคได้มากที่สุด นอกเหนือจากการจัดจำหน่าย สินค้า ที่มีคุณภาพ หลากหลาย และแข่งขันได้

ส่วนแผนการตลาดครึ่งปีหลัง เน้นเรื่อง 4P ได้แก่ สินค้า อย่างเรื่องการเพิ่มไลน์สินค้า การอัพเกรดสินค้าให้มีคุณภาพและทันสมัยยิ่งขึ้น รวมไปถึง การขยายช่องทางการขาย ช่องทางการจัดจำหน่าย ให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น รวมถึงแพลนปรับโฉมร้านค้าให้ดูทันสมัย และสวยงามยิ่งขึ้น แผนการสื่อสารและการตลาดงบกว่า 12% เพื่อการลงทุนด้านโฆษณาและส่งเสริมการขาย ทั้ง Above the line และ Below the line เพื่อสร้างการรับรู้ และความเชื่อมั่นในตราสินค้า ทั้งนี้ ภาพรวมการตลาดจะผ่านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะ Online & Social Media เป็นหลัก โดยเน้นเรื่อง Digital Marketing, Localized Marketing รวมไปถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายให้เหมาะกับกลุ่มสินค้า ฤดูกาล และพื้นที่การขาย โดยจะมีแคมเปญออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ แคมเปญรับหน้าฝน แคมเปญฉลองวันเกิด แคมเปญรับปีใหม่ หรือแม้แต่การทำ Road Show และ Work Shop ไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้สินค้า และสุดท้าย เรายังคงให้ความสำคัญกับ พนักงานขาย ที่ไม่ได้ต้องการให้เป็นตัวแทนขายสินค้า แต่เขาคือที่ปรึกษาส่วนตัว (Personal Consultant) เราจึงมีแผนพัฒนาบุคลากรให้ความรู้และฝึกอบรมทั้งในส่วนการขาย การสร้างประสบการณ์การใช้งาน การเป็นเลขาส่วนตัว รวมถึงการให้คำแนะนำหลังการขายอีกด้วย

นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง ประธานกรรมการบริหารบริษัท

นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง ประธานกรรมการบริหารบริษัท กล่าวเสริมว่า นอกจากบริษัทฯ จะเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และแผนการตลาดต่างๆ ตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว บริษัทฯ ยังได้มีแผนการพัฒนาระบบสารสนเทศ ระบบงานบริการหลังการขาย ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล และระบบต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ขอให้เชื่อมั่นในโตชิบา เรายังคงเป็นแบรนด์ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

นางกนิษฐ  กล่าวเสริมว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นคนไทย เรายังเชื่อมั่นในโตชิบา และในการรวมพลังของเรา 3 ประเทศ จะนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดี ที่รวดเร็ว และเติบโตอย่างยั่งยืน และที่สำคัญ เรายังคงมุ่งเน้นนโยบายด้านส่งเสริมกิจกรรมที่ดีเพื่อสังคม (CSR – Corporate Social Responsibility) เช่นที่ผ่านมา โตชิบาจะต้องเป็นตัวอย่างของบริษัทที่มีธรรมาภิบาลของสังคมไทย เป็นบริษัทที่ไม่ได้เน้นเพียงเรื่องการขายและการบริการเท่านั้น แต่ต้องเป็นบริษัทที่รับผิดชอบต่อท่านผู้แทนจำหน่าย ต่อสังคม ต่อคนรุ่นต่อไป ต่อประเทศชาติที่รักของพวกเราทุกคน และจะ “มุ่งมั่น …นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต”

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น