Mori Grill – Japanese Restaurant : หอมกลิ่นควันของความอร่อย

จัดเต็มเหมือนเดิม เพิ่มเติมหลายอย่าง

ขอชวนทุกคนไปกินอาหารสไตส์ญี่ปุ่น ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลเค้าว่าเด็ดเลยต้องมาลองกับร้านบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม Mori Grill – Japanese Restaurant  ถือได้ว่าเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นของโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ย่านรัชดาภิเษก สำหรับการตกแต่งก็จะเน้นบรรยากาศสบายๆ  ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ที่นี่แสดงความเป็นตัวตนของประเทศญี่ปุ่นอันทันสมัย สะดวกสบาย  รองรับลูกค้าได้ถึง 115 ที่นั่ง มีทั้งโซนนั่งทานอาหารเพลินๆ ถ้ามาเป็นกลุ่ม มีห้อง Private Room โอ่โถง และจอ LED ขนาดใหญ่ รองรับ 5 ห้องในขนาดที่ต่างกัน ถือได้ว่าเป็นสวรรค์ ของคนชอบทาน อาหารสไตส์ญี่ปุ่นแท้ๆ

ห้องอาหารญี่ปุ่น โมริ กริลล์ ร้านอาหารอันดับต้นๆ ที่ทุกคนกล่วถึงจนได้รับฉายา “ต้นตำรับบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นแท้ๆ ขึ้นชื่อมาตลอดกว่า 20 ปี Mori Grill บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นในตำนาน ที่ได้รับการกล่าวขานว่าคุณภาพดี อร่อยสมราคามีแซลมอนก็ว่าคุ้มแล้ว แต่นี่ยังมีเนื้อวัวส่งตรงจากญีปุ่น และเมนูอาหารญี่ปุ่น ที่การันตีว่าสุโค่ยเกินกว่า 100  เมนู ทั้งปิ้ง ย่าง ทอด ซูชิ ซาชิมิ ข้าวปั้น ราเมง เทปันยากิน และยังมีของหวานตบท้าย


โอ้วโหวว…. ถ้าทานไม่อั้นแบบนี้ สั่งเพิ่มได้ตลอด ห้องอาหาร Mori Grill จัดแบ่งโซนให้บริการอย่างชัดเจน
มาถึงต้องไม่พลาด โซน Sushi – Sashimi Couter ที่มีพระเอกอย่าง ปลาหมึกยักษ์ ปลาซาบะ ปลาแซลมอน เกรดเอ นำเข้าจากนอร์เวย์ ข้าวปั้นต่างๆ  แคลิฟอเนียโรล อร่อยลืมไม่ลง เป็นอีกโซนที่ขอซ้ำหลายรอบ


Teppanyaki – BBQ Couter เป็นที่นิยมที่สุด

เมนูแรกที่เราได้สัมผัสในวันนี้่ Teppanyaki – BBQ Couter  ถือได้ว่าตอบโจทย์คนรัก Teppanyaki
ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดจะรออะไรยังงี้ต้องไปจัดอย่าง เนื้อแกะ กุ้งแม่น้ำ รวมถึงเมนูเห็ดต่างๆ มาสัมผัสความอร่อย
ของเนื้อแกะนุ่มๆ รสชาติกล่ม

เป็นมุมโปรดของใครหลายคน ความพิเศษของที่นี่ อยู่ที่เมนูอาหารจะสลับสับเปลี่ยนทุกวัน พร้อมคงเมนูที่ขึ้นชื่ออย่าง หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว มิสโซซุป และแป๊ะก๊วยคั่วเกลือ แนะนำโซนน้องใหม่ Sha Bu Sha Bu Counter ที่มีทั้งอาหารทะเลผักสดใหม่ให้เลือกเติม และน้ำซุปคอมบุสูตรพิเศษ เฉพาะของร้าน ได้ชิมแล้วรสกลมกล่อมเข้มข้น ไม่ใช่แค่อร่อยอย่างเดียว ถ้าได้ชิมแล้วรับรองติดใจ

ส่วนซูชิพรีเมียม ทำสดใหม่ กุ้งเทมปุระ หัวปลาต้มซีอิ้ว แซลมอนย่างซีอิ้ว ทั้งอาหารทะเล ของทานเล่น อาหารญี่ปุ่นมากมาย ของหวาน ไอศกรีม ก็ไม่แพ้ ลองเลย ยังมีเครื่องดื่ม และเมนูอาหารอีกมากมายที่รับรองว่าคุ้มกับเงินที่จ่ายไปแน่นอนค่ะ

เชฟเอ็ดดี้ ยุคิยะซุ ทะคะมะ เชฟฝีมือต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น

โดยมีเชฟเป้ อภิวัติ พระโรจน์ เชฟใหญ่ของห้องอาหาร พร้อมด้วยเชฟเอ็ดดี้ ยุคิยะซุ ทะคะมะ เชฟฝีมือต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น  มาเสริมทัพ สรรค์สร้างปรุงแต่งเมนูสูตรเด็ดพิชิตใจลูกค้าทั้งขาประจำและหน้าใหม่ จุดเด่นของห้องอาหารที่เน้นความสดสะอาด พิถีพิถันทุกกระบวนการผลิต ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้รสชาติอาหารอร่อยเลิศ และบริการอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง

โซน Sushi – Sashimi Couter ที่มีพระเอกอย่าง ปลาหมึกยักษ์ ปลาซาบะ ปลาแซลมอน เกรดเอ


ใครชอบบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น หากท่านใดชอบซูชิ แต่ก็อยากทานอาหารทะเลไปในเวลาเดียวกัน มาที่นี่ค่ะ มีมากกว่าร้อยเมนู  ห้องอาหารโมริ กริลล์  (Mori Grill)  หนึ่งในห้องอาหารที่สุดเอ็กศ์คลูซีฟ ของ รร. เจ้าพระยาปาร์ค ถ.รัชดาภิเษก

อีกหนึ่งไฮไลท์ Buffet A la Carte การันตีได้ว่าถ้าลูกค้าสั่ง เชฟจะปรุงตามชอบกับรสชาติอาหารที่ปรุงแต่งมาใหม่ๆ เสิร์ฟร้อนๆ อาทิ  เช่น เทมปุระกุ้ง อาหารปิ้งย่าง ปลาแซลมอน ปลาไข่ ปลาซาบะย่างเกลือหรือย่างซีอิ้ว และชาบูร้อนๆ ต้นตำหรับแท้ๆ จากญี่ปุ่น รวมในราคานี้ ราคาบุฟเฟ่ต์อาหารไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ
บุฟเฟ่ต์พรีเมี่ยมเพียง 899 บาท(ราคาสุทธิ) เท่านั้น ที่ Mori Grill ทานได้เรื่อยๆ ไม่จำกัดนาที



อิ่มหนำสำราญกับอาหารแล้ว  มาปิดท้ายความสุขแห่งการกินมื้ออร่อย  ด้วยขนมหวานในโซน Dessert Counter เน้นเน้น ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด แป๊ะก๊วยน้ำขิง หรือไอศกรีมชาเขียว สูตรพิเศษของ Mori Grill อร่อยระดับยกนิ้วให้

อิ่มอร่อยพร้อมโปรโมชั่น เบียร์ อาซาฮี เสริฟไม่อั้น ตั้งแต่เวลา 11.30-14.30  และ  รอบเย็น 18.00-22.00 น. บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันและมื้อค่ำบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นพรีเมียมเพียง 899 บาท(ราคาสุทธิ) ถ้ามา 5 คนลดทันที 20%

สำรองที่นั่ง/สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Mori Grill – Japanese Restaurant : ห้องอาหารญี่ปุ่น โมริ กริลล์
โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ถนนรัชดาภิเศก กรุงเทพฯ
โทร. 02 290 0125
www.chaocomphyapark.com

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค – รัชดาภิเษก
โทร: 02-290 0125 , 092-246 2077
อีเมล์: pr@chaophyapark.com , www.chaophyapark.com
เดินทางสะดวกสะบายด้วย รถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) สถานี้รัชดาภิเษก ทางออกที่ 1

www.chaocomphyapark.

Stemcell สกัดจากธรรมชาติมีประโยชน์อย่างไร

PhyToCellTec Malus Domestica วัตถุดิบชิ้นแรกบนพื้นฐานเซลล์ต้นกำเนิดพืช

ใครเคยลองบ้าง  ประโยชน์ของ StemCell นั้นมีมากมายมหาศาล โดยจะเน้นไปที่การรักษาซึ่งในปัจจุบันพบว่า StemCell สามารถช่วยรักษาทั้งโรคทางพันธุกรรม และโรคร้ายแรง ที่เกี่ยวกับอันตรายต่อชีวิต โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับเลือด และเนื่องจากเป็น StemCell ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ จึงเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสุขภาพ และความสวยงามมากขึ้น ผู้บริโภคนักธุรกิจมีความรู้มากขึ้น และตลาดยังเปิดกว้างขึ้นทั้งในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน (AEC)

สเต็มเซลล์แบบบรรจุในซอง จากยุโรปที่ใช้แบบกิน โดยซึมผ่านใต้ลิ้นแล้วส่งผ่านไปส่วนควบคุมประสาทส่วนต่างๆ ของร่างกาย แล้วที่สำคัญเป็นผลิตภัณท์ที่ชนะการประกวดผลิตภัณท์ดีเด่นในยุโรปปี 2008 สกัดจากธรรมชาติ 100% ของเปลือกองุ่นและผลแอปเปิ๊ล สารสกัดที่ดีที่สุดจาก PhyToCellTec กับการได้รับรางวัลการันตี ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดของนวัตกรรม “ต้านความชรา” กับการต้านความเสื่อมได้ถึระดับเซลล์ และ DNA เหล่าบรรดาคนดังมากมายทั่วโลก ที่ใช้

PhytoCellTec™ Malus Domestica (Apple Stem Cell Extract) เป็น stemcell ของแอปเปิ้ล สายพันธุ์ Switzerland (Uttwiler Spatlauber) และ PhytoCellTec™ Solar Vitis PhytoCellTec™ เป็นสเต็มเซลล์ขององุ่น นอกจากนี้ยังมี บลูเบอรี่ (Blue Berry) อาไซอิ เบอรี่(Acai Berry) ซึ่งทั้งหมดถูกบรรจุรวมอยู่ใน Double stemcell เพื่อให้สามารถซึมสู่เซลล์ ช่วยบำรุงผิวจากภายใน บำรุงให้เซลล์ของร่างกายมีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งเป็นผลทำให้ชะลอเวลาอายุของผิวได้ ให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพที่ดี  สารออก ฤทธิ์ PhyToCellTec Malus Domestica ขณะนี้สามารถใช้ได้ทั่วโลก เป็นวัตถุดิบชิ้นแรกบนพื้นฐานเซลล์ต้นกำเนิดพืช

วิธีใช้ อมใต้ลิ้น ละลายทันที ซึมเข้าระบบและเข้าไปฟื้นฟูเซลล์ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทาน เช้า 1 ซอง ก่อนนอน 1 ซอง ทานติดต่อกัน 7 วัน ก็เริ่มเห็นผลแล้ว หน้าตาจะหนุ่มขึ้น ผิวหนังที่หย่อนยานจะตึงชึ้น ตีนกา รอยย่นบนใบหน้าจะ ค่อยหายไป ดูอ่อนวัยขึ้น

Phyto SC Stemcell   ทางเลือกใหม่ ผู้นำด้านสเตมเซลล์ โหมตลาดไม่หยุดดึง บุ๋ม  ปนัดดา  วงศ์ผู้ดี   กลับมาเป็น brand ambassador ผลิตภัณฑ์ “Phyto SC Stemcell” ไฟโต เอสซี สเตมเซลล์สกัดจากธรรมชาติล้วน ๆ ที่มีความปลอดภัย ช่วยทั้งในเรื่องสุขภาพ และความสวยความงาม สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย รสชาติอร่อยทานง่าย ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย Liposomall เป็นอนุภาคขนาดเล็กระดับนาโน ที่เป็นตัวนำพาสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย และสามารถควบคุมการกระจายตัว และออกฤทธิ์ของสาร หรือสเตมเซลล์ที่ถูกกักเก็บไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เป็นอันตราย และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ พร้อมเตรียมบุกตลาด AEC ตั้งเป้าปี 2560 โกย 1,500 ล้านบาท

บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เชิญพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของผลิตภัณฑ์คุณภาพ Phyto SC(ไฟโต้ เอสซี)

นายวิศว์ธิชัย นำทรัพย์เจริญ ประธานบริษัท คัดสรร อินโนเทค จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายสุดยอดผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลสุขภาพที่สุดของวงการความงามในประเทศไทย “ไฟโต เอสซี Phyto SC” เปิดเผยว่า เนื่องจากสังคมการทำงานในเมืองที่ต้องเร่งรีบเกิดการแข่งขันเกิดความเครียด และป่วยง่าย ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจที่เกี่ยวกับกับสุขภาพความงามไม่ว่าจะเป็นอาหาร ออแกนิกส์ พวกคลีนฟู้ด ศูนย์ออกกำลังกาย ฟิตเนส อาหารเสริม, เครื่องดื่มต่าง ๆ ยังคงมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสเตมเซลล์ก็เป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจ แต่จะให้เราไปฉีดราคาแพง ดาราบางคนบินไปฉีดถึงต่างประเทศ หมดเป็นล้านเลยก็มี บ้างกลับมาก็แพ้บ้างเห็นเฉพาะจุดบ้าง แต่ถ้าเราไม่ใช้วิธีฉีดหรือทาแต่ใช้วิธีกินไว้ใต้ลิ้นแทน และได้ผลนวัตกรรมเทียบเท่ากับฉีด และปลอดภัย ราคาไม่แพงสกัดจากธรรมชาติ 100 % และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน พกพาสะดวก รสชาติอร่อย ซึ่งตอบโจทย์ และไม่แพงเห็นผลไวสะดวก และปลอดภัยจึงได้เกิดผลิตภัณฑ์ “Phyto SC StemCell” ขึ้น

ผลิตภัณฑ์ Phyto SC Stemcell เป็น StemCell ที่สกัดจากธรรมชาติซึ่งมี StemCell ถึง 6 ชนิดด้วยกันคือ
1. Apple StemCell (จากแอปเปิ้ลเขียว )
2. Rosehips StemCell (จากกุหลาบ )
3. Cucumis Melon StemCell (จากเมล่อน )
4. CetellaAsiaticaStemCell (จากใบบัวบก)
5. Grape StemCell  (จากองุ่น )
6. Tomato StemCell (จากมะเขือเทศ )
เพิ่มกระดูกอ่อนปลาฉลาม  เพื่อช่วยดูแลซ่อมแซมในส่วนของไขข้อ

สินค้าเพื่อสุขภาพเเละความงาม หยุดความแก่ชรา ด้วย Phytocelltec อร่อย ปลอดภัย หลับลึก ผิวลื่น ลดเลือนริ้วรอย ขาวใส เด้ง สุขภาพดี

นายวิศว์ธิชัย กล่าวว่า แนวโน้มการตลาดทิศทางการเติบโต และโอกาสของธุรกิจนี้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายวิศว์ธิชัย กล่าวต่อไปว่า ผลิตภัณณฑ์ Phyto SC StemCell  มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เรียกได้ว่า Liposomall  ไลโปโซมอล เป็นอนุภาคขนาดเล็กระดับนาโน  ซึ่งเป็นตัวนำพาสารต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย และสามารถควบคุมการกระจายตัว และออกฤทธิ์ของสาร หรือสเตมเซลล์ที่ถูกกักเก็บไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เป็นอันตราย และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้โดย Phyto SC เป็นสเตมเซลล์ที่สกัดจากธรรมชาติล้วน ๆ จึงปลอดภัยช่วยทั้งในเรื่องสุขภาพ และความสวยความงาม สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัยรสชาติอร่อยทานง่าย

นอกจากนี้ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผลิตภัณฑ์ Phyto SC StemCell จึงได้ดึง  คุณบุ๋ม ปนัดดา  วงศ์ผู้ดี มาเป็น Brand Ambassador อีกครั้ง ถ้าพูดถึงคุณบุ๋ม ต้องนึกถึงเรื่องสวยๆ งามๆ โดยเฉพาะเรื่องสเตมเซลล์ ซึ่งคุณบุ๋มเปรียบเสมือนผู้เชี่ยวชาญ และตัวแทนของสเตมเซลล์และบริษัทฯ จะใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์สื่อภาพนิ่ง แม้กระทั่งฟรีทีวี ทั้งโปรโมทไปในโลกโซเชี่ยล เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น  และยังสะดวกง่ายในการซื้อด้วย และตอนนี้คนเราหันมาสนใจความสวยงาม และสุขภาพมากขึ้น จึงทำให้ Phyto SC ได้ผลตอบรับค่อนข้างดีเนื่องจากตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ดีที่สุด

The night of Queen P by Phyto SC

ภายในปี 2560 นี้ บริษัทฯ ก็มองถึงการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทย โดยจะเน้นไปที่กลุ่มตลาดออนไลน์ เพราะเป็นตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย บริษัทฯ มีสินค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ความงาม และสุขภาพ แบ่งเป็นสัดส่วน 60 : 40 อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทจะอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท แต่ในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,500 ล้านบาท โดยจะทำการตลาดและจัดงบประมาณในการทำประชาสัมพันธ์ประมาณ 40–50 ล้านบาท เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น เป็นการและตอกย้ำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย นายวิศว์ธิชัย กล่าวสรุปในตอนท้าย

งาน The night of Queen P by Phyto SC
วันจันทร์ที่ 30  มกราคม  2560  เวลา 18.00-20.00 น.
ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน

พร้อมเผยเคล็ดลับสวยเซี๊ยะ เคลียใจประเด็นแซ่บทุกประเด็น

แบรนด์เสื้อผ้าอับดับ1 ของคุณ คือแบรนด์อะไร?

ARROW
สร้างภาพลักษณ์สู่ระดับความนิยมกับการเป็นที่ 1
เครื่องแต่งกายชาย 

เสื้อ  ถือเป็นเครื่องแต่งกายที่ขาดไม่ได้ เป็นไอเท็มในการแต่งตัวที่คลาสสิค สามารถใส่ได้ในทุกโอกาสและดูสุภาพ มิกซ์แอนแมชได้กับทั้งกางเกงสแลค หรือ จะกางเกงยีนส์ ก็ได้หลายๆ สไตล์ แค่ชื่อ ARROW ก็เชื่อแล้วว่าดี เพราะได้ยินมาตั้งแต่เกิดมั่นใจและเชื่อใจได้ทั้งในคุณภาพและรูปแบบแบรนด์เสื้อผ้าอันดับ1 Arrow เป็นแบรนด์ที่หนุ่มหนุ่มๆ  เริ่มชีวิตการทำงานจะต้องซื้อหามาใส่เป็นตัวแรกในชีวิต  ด้วยความภูมิใจเป็นเอกลักษณ์ของเอกบุรุษ พอใส่แล้วดูดี ดูหล่อภูมิฐานขึ้น มาทันที


ล่าสุด ARROW นำเสนอแคมเปญใหม่เก๋ไก๋ภายใต้ชื่อ  ARROW # 1  (แอร์โวร์นัมเบอร์วัน) โดยสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายชาย ในคอลเลคชั่น  ARROW #1 ตอกย้ำความเป็นที่1 ในผู้นำเครื่องแต่งกายชาย ทั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจในแบบฉบับของผู้ชายทุกวัย ที่ใส่ใจการมอบสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง

แค่ชื่อ ARROW ก็เชื่อแล้วว่าดี เพราะได้ยินมาตั้งแต่เกิด  มั่นใจและเชื่อใจได้ทั้งในคุณภาพและรูปแบบ Arrow
ชื่อที่เก่าแก่มีคนเชื่อถือมานานเนื้อผ้าดี สวมใส่สบาย และราคาไม่สูงจนเกินไปสำหรับคนไทย ดีไซด์เหมาะสมกับทุกวัยและสวมใส่ได้ทุกโอกาส ARROW # 1 (แอร์โวร์นัมเบอร์วัน) หลากหลายด้วยดีไซน์เสื้อใส่ทำงาน เสื้อลำลอง เสื้อโปโล ทั้งแขนสั้น แขนยาว ในรูปแบบ COMFORT FIT, SMARTFIT และ SLIM FIT อีกทั้งยังผสานด้วยนวตกรรม WRINKLE FREE  และ QUICK DRY  อันเป็น  “ที่สุด”  ของเนื้อผ้า  เพื่อการสวมใส่สบายจาก ARROWจึงถือเป็นการเชื่อมต่อให้  ARROW #1 (แอร์โวร์นัมเบอร์วัน) คือ ภาพลักษณ์ความสมบูรณ์ลงตัวกับการเป็น ที่1 ของเครื่องแต่งกายชาย”อย่างแท้ จริง

โลโก้ ARROW ที่ใช้ลูกศร เป็นตัวแทนสัญลักษณ์ มาถึงปัจจุบันเมื่อ ARROW ได้สร้างสรรค์แคมเปญล่าสุด
ภายใต้ชื่อ ARROW #1 (แอร์โวร์นัมเบอร์วัน)จึงเลือกใช้ หมายเลข 1 ซึ่งให้ความหมายที่ดี  มาออกแบบจาก
รูปลูกศร ให้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นที่ 1 โดยจากนี้ไปคุณจะได้พบเห็นโลโก้#1 (นัมเบอร์วัน)เข้ามาร่วม
สร้างสีสันกับผลิตภัณฑ์ARROWหลากหลายรูปแบบขึ้น เพื่อให้คุณได้เลือกสรรไปพร้อมกับความภาคภูมิใจ
ในตัวเอง

สำหรับการเปิดตัว ARROW#1(แอร์โวร์นัมเบอร์วัน)ในครั้งนี้ ARROW มุ่งหวังการตอบรับทั้งจากลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ ให้ได้รับรู้ถึงเจตนารมณ์ของARROWซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาพร้อมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายชาย
และเหล่าของพรีเมี่ยมหลากรูปแบบในระดับคุณภาพให้สมกับภาพลักษณ์การเป็นที่ 1 ของเครื่องแต่งกายชาย
เสมอมา

รายได้ของการจำหน่าย คอลเลคชั่นARROW #1(แอร์โวร์นัมเบอร์วัน)ส่วนหนึ่งนำสมทบทุนสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ เพื่อจัดหาอุปกรณ์สำหรับเด็กพิการโดยคุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯเพียงซื้อผลิตภัณฑ์ ARROW #1 ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

การเปิดตัว คอเลคชั่นใหม่ ของ ARROW และ บอย ปกรณ์ และ celebrity มากมาย

ลูกศร ให้เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นที่ 1 กับการเปิดตัว คอเลคชั่นใหม่ ของ ARROW และ บอย ปกรณ์ และ celebrity มากมาย ที่ TERMINAL 21 Shopping Mall 

พบกับ ARROW #1(แอร์โวร์นัมเบอร์วัน)  และ มาร่วมกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคมของ ARROWมาร่วมบริจาคเสื้อเหลือใช้ กับ ARROWสามารถบริจาคได้ที่ Counter ARROW ทุกสาขาทั่วประเทศ
วันนี้- 28 ก.พ. 2560

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ได้ที่ เคาน์เตอร์แอร์โรว์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

อะไรคือ superbrands?

Superbrands องค์กรอิสระเพียงหน่วยงานเดียวในโลก

Superbrands เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่การันตีตัวแบรนด์ เงื่อนไขการเลือกแบรนด์ที่เป็น Superbrand  ต้องเป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อให้กับตัวเองมากที่สุดในประเภทสินค้าเดียวกันโดดเด่น  ในการให้ความสำคัญแก่ความรู้สึกหรือความสะดวกสบายแก่ลูกค้า โดยสิ่งดังกล่าวเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม และเป็นแบรนด์ที่เป็นที่จดจำของสาธารณะ ตลอดจนทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจที่จะจ่ายเงินภาพพจน์ของแบรนด์ และภาพลักษณ์ของสินค้า ความโดดเด่นของแบรนด์ รวมไปถึงเจตนารมณ์ของแบรนด์ ความภักดีของลูกค้าความเชื่อถือและความรู้สึกผูกพันธ์กับสินค้า


Superbrands ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นองค์กรอิสระเพียงหน่วยงานเดียวในโลก ที่เป็นผู้ตัดสินด้านความเป็นเลิศด้านการสร้างแบรนด์ รางวัล Superbrands แบรนด์ที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องผ่านหลักเกณฑ์ 3 ประการคือ คุณภาพของแบรนด์ ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคและเอกลักษณ์ของแบรนด์ ความเป็นสุดยอดแบรนด์ส่งผลให้ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในสายต่างๆ โดยรางวัลในปีนี้มาจากผลสำรวจ และวิจัยผ่านกลุ่มตัวอย่างซึ่งได้จากการวิจัยผ่านผู้บริโภค เป็นรางวัลที่มอบโดยหน่วยงานอิสระที่ทำงานด้านการวัด และประเมินความเป็นเลิศของการสร้างแบรนด์ เพื่อทำการโปรโมทความสำเร็จของแบรนด์ในแต่ละประเทศ และทั่วโลกกว่า 93 ประเทศ โดยมี Superbrands Thailand เป็นองค์กรที่ดำเนินงานในประเทศไทยเป็นประจำทุกปีประกาศและมอบรางวัล Superbrands 2016 ให้กับสุดยอดแบรนด์ของประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 27 แบรนด์

พิธีมอบรางวัลให้กับแบรนด์ต่างๆ ที่ได้รับเลือกให้เป็น Superbrands ประจำปี 2016

Superbrands Thailand สุดยอดแบรนด์แห่งปี 2016  มาตรฐานการประเมินคุณค่าแบรนด์สินค้า  ในสายตาผู้บริโภค และทำงานด้านการประเมินความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ โดยใช้เกณฑ์ในการคัดเลือก 3 หลักเกณฑ์ คือ
1. BRAND QUALITY   (คุณภาพของแบรนด์)
2. BRAND AFFINITY  (ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค)
3. BRAND PERSONALITY (เอกลักษณ์ของแบรนด์)

ประกาศรางวัล Brand of the Year 2016 ผู้ได้รับรางวัล Brand of the Year 2016

Superbrands Thailand สุดยอดแบรนด์แห่งปี 2016  มาตรฐานการประเมินคุณค่าแบรนด์สินค้า  ในสายตาผู้บริโภค และทำงานด้านการประเมินความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ โดยใช้เกณฑ์ในการคัดเลือก 3 หลักเกณฑ์ คือ
1. BRAND QUALITY   (คุณภาพของแบรนด์)
2. BRAND AFFINITY  (ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค)
3. BRAND PERSONALITY (เอกลักษณ์ของแบรนด์)

เมื่อวันพุธที่ 25 มกราคม 2560 Superbrands 2016 @ Life Style Hall, ชั้น 2, Siam Paragon  พิธีมอบ
รางวัล สุดยอดแบรนด์ประจําปี2016 ให้กับ 27แบรนด์ชั้นนําของประเทศไทย ที่ผ่านมา SUPERBRANDS ให้เป็นแบรนด์ยอดนิยม ประกาศรางวัล Brand of the Year 2016  รางวัล SUPERBRANDS 2016 สุดยอดแบรนด์แห่งปี 2016 จาก Mr. Mike English, Managing Director, Superbrands Organisation และคุณปรีชา แก่นพรหม Superbrand Thailand Director ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ในวันและเวลาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารเช่น คุณปรีชา แก่นพรม – Country Director, Superbrand Thailand, Mr. Mike English – Managing Director, Superbrands Organisation, คุณชาญ ศรีวิกรม์ – Chairman of Council Members, Superbrands Thailand พร้อมด้วยตัวแทนจากแบรนด์ต่างๆ

นำโดย คุณชฎาทิพ จูตระกูล – CEO  สยามพิวรรธน์กรุ๊ป,  ร่วมด้วย   นายสุกิจ หวั่งหลี   ประธานกรรมการ
บริษัทพูลผลจำกัด, คุณสาระ ล่ำซำ – President และ CEO จาก เมืองไทยประกันชีวิต,  พ.ญ.นลินี ไพบูลย์  ประธานกรรมการจาก Giffarine, คุณวิชา พูลวรลักษณ์ – CEO จากMajor Cineplex, คุณมารุต บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), คุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ – ประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจ
สินเชื่อยานยนต์ กลุ่มงานธุรกิจยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ  ผู้บริหารจากทุกแบรนด์ที่ได้รับรางวัล

Superbrands 2016 @ Life Style Hall, ชั้น 2, Siam Paragon พิธีมอบรางวัลสุดยอดแบรนด์ประจําปี  2016 ให้กับ 27  แบรนด์ชั้นนําของประเทศไทย ซึ่งประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ Brand of the Year 2016

AIS,  Blackmores,  Central Food Hall,  Giffarine,  Hi-Kool,  King Power,  Kratingdaeng,
Krungsri Auto, Lamina Films, LG, Major Cineplex, Mali, Mansome, MK Restaurants,
Morakot, Muang Thai Life Assurance, Oishi, Orchid, SB Furniture, Siam Paragon, Sponsor,
Thai Life Insurance, Tiparos, Tonson, Watsons, Yamaha  และ 12plus

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: Superbrands 2016
คุณแชมเปญ เทียนแขวะ โทร:  02-660-1567, 088-956-5556
Email: champagne@superbrandsmena.com
Superbrands 2016 @ Life Style Hall, ชั้น 2, Siam Paragon

 

 

 

 

ฮันยองง DRUMCAT SHOW โชว์ระดับเวิลด์คลาสโด่งดังทั่วโลก

สุดยอดโชว์ที่โด่งดังที่สุดระดับโลก ลีลาการโชว์ของ 6 สาวสวยแดนกิมจิ

ฮันยองงงง... มาถึงเมืองไทยแล้ว  สำหรับสาวสวยแดนกิมจิ 6  คน แห่ง  Drumcat  ตื่นเต้นสุดๆ ครั้งแรกที่ toptotravel  ได้มีโอกาสชมโชว์กลองจากศิลปิน Drumcat Show จากเกาหลี ที่ สตูดิโอ 9 ชั้น1 ศูนย์การค้า SHOW DC กรุงเทพฯ

มาทำความรู้จักกับ DRUMCAT SHOW  ศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิม เข้ากับความเร้าใจ  ของจังหวะดนตรีร่วมสมัยของเสียงกลอง  เพิ่มดีกรีความร้อนแรง  ด้วยหนึ่งไวโอลินสุดบีบหัวใจ ใครไปเกาหลีบอกชื่อนี้รู้เลยเค้าคือ วงเพอร์คัสชั่นหญิงที่โดดเด่นที่สุดในโลก กับสุดยอดโชว์ที่โด่งดัง ได้มาอยู่ที่เมืองไทยแล้ว

DRUMCAT SHOW  ที่เป็นการรวมตัว ไฮไลท์ของงาน  DRUMCAT SHOW  สาวสวยจากแดนโสม ที่โด่งดัง
ไปทั่วโลกเสน่ห์ของการแสดงชุดนี้อยู่ที่หน้าสวยหวาน สไตล์เกาหลี เมคอัพอัดแน่น จังหวะการสะบัดข้อมืออันทรงพลัง รัว ร้อน แรง สาวสวยแดนกิมจิแต่ละคนมีคาแรคเตอร์ต่างกันไป ทั้งแข็งแกร่ง ทรงพลัง ซุกซน ตลก
ขี้เล่น และมีบางจังหวะที่หันมาเล่นกับคนดู ประทับใจระหว่างการแสดงพูดไทยได้ดีมาก และยังไม่รวมจังหวะที่กลองกับไวโอลินหันมาแบทเทิลระหว่างกันและกัน  เป็นการแสดงในกลุ่ม Non Verbal โชว์แล้วทำให้ผู้ชมได้ขยับสายตาตามตลอดเวลา ยิ่งเวลาที่โชว์กลองรัว  ตะลึงมาก เมื่อดูสาวหุ่นดีรัวข้อมือ โยกขา ย้ายสะโพกแบบพลิ้วไร้คำบรรยาย เป็นโชว์ที่สะกดคนดูโชว์ระดับเวิลด์คลาส อันโด่งดังทั่วโลก สมคำร่ำลือจริงๆ


SHOW DC ส่งตรงจากเกาหลี  มากำนัลแด่ผู้ร่วมงานโดยเฉพาะ กับ 6 สาวสวย  แดนกิมจิ OH YOUHYEON
(โอ ยูยอน) SEON SOLE (ซอน โซลอี) KIM JIYOUNG  (คิม จียอง)   LEE HARIM  (ลี ฮาริม) LEE SEULGI
(ลี ซึลกิ) และ LEE ME JOUNG (ลี มีจอง) ที่มาโชว์ลีลาการสะบัดกลอง ผสานด้วยเอกลักษณ์ศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิมของเกาหลี ถ่ายทอดออกมาเป็นโชว์ที่สนุกเร้าใจ ผสานกับแสง สี เสียงที่อลังการและจัดเต็มแบบเอนเตอร์เทนผู้ชมตั้งแต่เริ่มต้น จนจบโชว์อย่างสนุกสนาน เป็นโชว์ที่ผสมผสาน ระหว่างงานศิลปะ ดนตรี  การเต้น แสงสี และความตลกฮาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมเหนือคำบรรยาย  ก่อนปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตของหนุ่มๆ สุดฮอตแห่งยุค Sous The Series ได้แก่ คริส, สิงโต, แอมป์ และกัน-อชิ ที่เรียกเสียงกรี๊ดแบบกระหึ่ม Show DC จากเหล่าแฟนคลับนับพันที่มาเฝ้ารอตั้งแต่เช้าจนค่ำได้อย่างถล่มทลาย

แม้จะเป็นการแสดงครั้งแรกก็รู้สึกตื่นเต้น คนไทยใจดี เธออยากให้คนไทยได้เห็นการแสดงของ Drumcat
ที่สะท้อนความสวยงามของผู้หญิง แต่ยังสามารถแสดงออกซึ่งความแข็งแกร่งด้วยการตีกลองได้ไม่แพ้ผู้ชาย

เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว  สำหรับโชว์อลังการงานสร้างของ SHOW DC  ศูนย์การค้าและเอ็นเตอร์เทนเม้นต์สุดหรูครบวงจรแห่งแรกของไทย บน ถนนพระราม 9 กับ งาน K-Celeb SHOW Time @SHOW DC  ที่ส่งมอบประสบการณ์ความบันเทิงมาให้ลูกค้าโชว์ดีซีแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับ  DRUMCAT SHOW ได้รับความนิยมสูงสุดไปทั่วโลกที่ถูกบรรจุลงในตารางทัวร์ระดับชาติของเกาหลี ด้วยลีลาการสะบัดกลองจาก 6 สาวสวยจาก
แดนกิมจิ  เรียกเสียงฮือฮาในความสวย และความสามารถ ร่วมด้วยกิจกรรมการโชว์ฝีมือการทำอาหารสไตล์เกาหลีของ 4  หนุ่มสุดฮอตจาก  Sotus The Series  กัน-สมาย, นิว, อ๊อฟ และ กัน-อรรถพันธ์
ในกิจกรรม “COOKING WITH SOTUS BROUGHT TO YOU BY KIMCHI BUS”

พร้อมแนะนำร้านอาหารของเหล่าเซเลบริตี้แดนกิมจิที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 1 ภายในโซน K-Celebrity Street Food at SHOW DC อาทิ ร้านราเมงสไตล์เกาหลี ‘PSY-MIEN’ ของศิลปิน ไซ กังนัมสไตล์, ร้าน AFTER THE RAIN ของหนุ่ม เรน, ร้าน BY GRACE ของดาราสาวยูอึนเฮ (นางเอกซีรีส์สุดฮิตเรื่อง Coffee Prince) ฯลฯ ก่อนปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์จากหนุ่มๆ Sotus The Series ได้แก่ คริส, สิงโต, แอมป์, กัน-อชิ  ที่เรียกเสียงกรี๊ด จากแฟนคลับได้อย่างถล่มทลาย

สำหรับบรรยากาศภายในงานเริ่มต้นด้วยกิจกรรม K-Idol Look-Alike Contest การประกวดแต่งตัวตามศิลปินเกาหลีที่ชื่นชอบซึ่งมีน้องๆ วัยรุ่นเข้าร่วมการประกวดเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเวลา 4  หนุ่มสุดฮอต  จาก Sotus The Series กัน-สมาย, นิว, อ๊อฟ และ กัน-อรรถพันธ์ ก็ได้มาโชว์ฝีมือการทำอาหารสไตล์เกาหลี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สนุกและเรียกกรี๊ดจากแฟนคลับสาวๆได้ตลอดทั้งงาน โดยมีแฟนคลับผู้โชคดีที่ได้ชิมฝีมือการทำอาหารของ 4 หนุ่มอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

SHOW DC ยังฝากข่าวจัดกิจกรรมดีๆ อย่างการประกวด K-Pop Cover Dance Championship การแข่งขันเต้น Cover Dance เพลงของศิลปินเกาหลีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ล่าสุดมีวัยรุ่นที่รักการเต้นเพลงสไตล์ K-Pop มาสมัครเข้าร่วมการแข่งขันแล้วกว่า 100 ทีม โดยจะมีการแข่งขันทั้งหมด 6 สัปดาห์ เพื่อคัดเลือก 20 ทีมสุดท้ายเข้าร่วมการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 5 แสนบาท

โดยจะมีการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมการแข่งขันในวันที่ 22-23 มกราคม และ 28-29 มกราคม 2560
เวลา 10.00-22.00 น. ณ บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการแข่งขันได้ที่  www.showdc.co.th

 

“ลื่น…จ้ะ” ลื่นสุด ทะลุจักรวาล

อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ตัวแทนประสบการณ์ความลื่น
Super 4G ลื่นสุด กว้างสุด มอบความลื่นไหลแบบเต็มขั้น

มาร่วมประสบการณ์ลื่นไหลกับซุปตาร์ตัวแม่ “อั้ม พัชราภา” กับงาน “Super 4G  ลื่นสุด กว้างสุด”dtac Super 4G ยิ่งกว้าง ยิ่งลื่น ยิ่งสนุก ครั้งแรก กับดีแทค เปิดเกมใหม่สร้างปรากฏการณ์เผยโฉม  อั้ม พัชราภา  ไชยเชื้อ
ซูเปอร์สตาร์ตลอดกาลมาร่วมมอบประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหลกับ ดีแทค Super 4G บนคลื่น 20MHz ที่กว้างที่สุด ต่อยอดประสบการณ์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ลื่นไหลบนแอปต่างๆ ใช้งานได้ไม่สะดุด  มาชมการออกสเต็ปเต้นของนิ้วที่ลื่นไหลชนิดที่คุณ ไม่เคยเห็นมาก่อน คุณเองก็สัมผัสประสบการณ์ความลื่นแบบนี้ได้ เพียงใช้ดีแทค
แบบอั้มแล้วเตรียมขยับนิ้วลื่นนนตามกันได้เลย

อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ตัวแทนประสบการณ์ความลื่น Super 4G ลื่นสุด กว้างสุด

นายลาร์ส  นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นจำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคได้สร้างสีสันที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของ  ดีแทค Super 4G  ด้วยการนำ ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง
อั้ม  พัชราภา ไชยเชื้อ  มาเป็นตัวแทนถ่ายทอดประสบการณ์ Super 4G  ที่ลื่นไหล ไม่สะดุด เป็นครั้งแรกบนภาพยนตร์โฆษณาทางทีวี และตามสื่อดิจิทัลต่างๆ พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้  (10 ม.ค.)  เวลา  19.00 น. เป็นต้นไป เพื่อเปิดเกมรุกสีสันการทำตลาดในปีนี้”

“อั้ม พัชราภา” โชว์ความสวยเซ็กซี่ในงาน dtac super 4g ที่สยามพารากอน

ครั้งแรกที่คุณจะพบกับอั้ม พัชราภา ในลุคที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน สลัดคราบดีแทคลุคเก่าอย่างสิ้นเชิง งานนี้แม่มาเอง!  ปรากฏการณ์ความลื่นไหลทุกดิจิทัลไลฟ์สไตล์  ดีแทค ได้ตอบสนองความต้องการในการเข้าถึงพฤติกรรมของลูกค้า จากการสำรวจถึงพฤติกรรมการใช้งาน และ การสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย โดยเลือก
อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ มาเป็นตัวแทนถ่ายทอดประสบการณ์ เพราะเป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีคนชื่นชอบ ทุกเพศ ทุกวัย ทั่วประเทศ สะท้อนความมั่นใจถ่ายทอดจุดเด่นดีแทค Super 4G  ที่ให้ลูกค้าดีแทค  ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยสมาร์ทโฟน 4G ทั่วไปในตลาดซึ่งรองรับได้ทุกเครื่อง ไม่จำกัดการใช้งาน 4G ความเร็วสูงเพียงแค่สมาร์ทโฟนเฉพาะกลุ่ม ดีแทคยังตอกย้ำความมุ่งมั่นนำประสบการณ์ 4G ที่ลื่นไหลสู่ลูกค้า เพื่อยกระดับการใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ  และยังตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ดีแทคยังเป็นผู้นำในเทคโนโลยี 4G รายแรกในไทย ที่เปิดให้บริการ 4G Calling | VoLTE   พร้อมทั้งเปิดให้บริการ WiFi Calling หรือVoWiFi (Voice over WiFi) บริการที่ให้ลูกค้าดีแทคสามารถโทรและรับสายโทรศัพท์ผ่านการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณ WiFi ได้จากทุกที่ทั่วประเทศและทั่วโลก นอกเหนือจากการโทรผ่านสัญญาณโครงข่ายมือถือปกติเพียงอย่างเดียว โดยคำนึงถึงบริการเพื่อลูกค้าดีแทคที่จะได้รับประสบการณ์ใหม่ของ
4G ในการใช้งานกับไลฟ์สไตล์ต่างๆ

“ดีแทค  เดินหน้าในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ที่มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ทั้งเทคโนโลยีการสื่อสาร 4G และการสื่อสารการตลาด โดยดีแทคยังมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่แค่เพียงแค่ยกระดับความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือและขยายเสาสัญญาณ 4G อย่างต่อเนื่องจนครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่ยังตอบสนองการใช้งานแอปพลิเคชันให้ลื่นกว่าเดิมอีกขั้นและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  เพื่อลูกค้าดีแทค  ลาร์ส กล่าว

ในวันนี้  การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือและขยายเสาสัญญาณ 4G อย่างต่อเนื่องจนครอบคลุม ทุกจังหวัดทั่วประเทศ  ตอบสนองการใช้งานแอปพลิเคชันให้ลื่นเร็วกว่าเดิมอีกขั้น  เป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  เพื่อลูกค้าดีแทค  ได้จากทุกที่ทั่วประเทศและทั่วโลก

ในวันสบายๆ ของที่อั้ม กับdtac Super 4G  ที่ลื่นไหลต่อเนื่องไม่สะดุด  ความลื่นนี้เอง  ที่ทำให้อั้มหลุดเข้าไปสนุก ในโลกของความไหลลื่น นิ้วมือของเธอสไลด์เลื่อน แชต แชร์ เม้นต์ โพสต์ ไม่มีสะดุด ราวกับว่านิ้วของอั้มเต้นได้!!!

คุณเองก็สัมผัสประสบการณ์ความลื่นแบบนี้ได้ เพียงใช้ดีแทคแบบอั้ม แล้วเตรียมขยับนิ้วลื่นนนตามกันได้เลย dtac Super 4G ยิ่งกว้าง ยิ่งลื่น ยิ่งสนุก ลื่นจนนิ้วเต้นได้ ซึ่งประสบการณ์แบบนี้เป็นได้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ “อั้ม พัชราภา  ไชยเชื้อ”

 

 

โอกาสมาถึงแล้ว! ผจญภัยไปสู่แอนตาร์กติกาในทริปประวัติศาสตร์

TJ’s True South ความฝันของคนธรรมดา…
สู่การเป็นนักเดินทางที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

โครงการ  TJ’s  True South   ภารกิจนี้โดย มูลนิธิไทยซัมมิทพัฒนา เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในการระดมทุนให้
ได้กว่า 50 ล้านบาทจากผู้สนับสนุนต่างๆ  บริษัทฯ เอกชน และประชาชนทั่วไป เพื่อใช้ในการดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ  ทุกอย่างที่เกิดขึ้นและการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติแก่ 10 ท่าน  
ผู้นักผจญภัยทีมแรกของประเทศไทยให้แก่สาธารณะชนให้รับทราบ

อีกหนึ่งความท้าทายที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องเจอเมื่อไปถึงแอนตาร์กติกา  คือความหนาวที่อาจจะติดลบถึง 50ºC!!    ครั้งแรก  ที่ทีมนักเดินทางจากประเทศไทย ร่วมผจญภัยเดินทางสู่แอนตาร์กติกา  ด้วยเท้ามากกว่า
1000 กิโลเมตร ท่ามกลางอากาศติดลบกว่า 30 องศาเซลเซียส เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของคนไทยกลุ่มแรกพิชิตขั้วโลกใต้ จะเดินเท้าสู่ใจกลางขั้วโลกใต้เพื่อสร้างบันทึกการเดินทางหน้าใหม่และระดมทุนเพื่อการกุศลนักผจญภัย

คุณเอก – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (TJ) จุดประกายเฟ้นหานักผจญภัย

โครงการ TJ’s True South เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยมีความมุ่งมั่นที่แรงกล้าในการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่ประเทศไทย นั่นคือการเดินเท้า ระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตรจากขอบทวีปแอนตาร์กติกาสู่ใจกลางขั้วโลกใต้ แรงบันดาลใจจากผู้ก่อตั้งโครงการ คุณเอก – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (TJ) จุดประกายเฟ้นหานักผจญภัย  ที่มีความฝันให้กลายเป็นความจริงแก่นักผจญภัยทั้ง 9 ท่านในการร่วมทีมเป็นจำนวน 10 ชีวิต ผนึกกำลังพิชิตจุดใต้สุดของโลก นำทัพทีมคนไทยทีมแรกจาก TJ’s True South เพื่อนำธงไตรรงค์ไปปักให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งใน 19 ประเทศเท่านั้นเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของคนไทย ด้วยแรงบันดาลใจจากผู้ก่อตั้ง
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้บริหารในกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท และก่อตั้ง โครงการ ภายใต้ชื่อ “TJ’s True South ” เปิดเผยว่า “ ได้ก่อตั้งโครงการผจญภัย TJ’s True South ในปี 2016 นี้มาจากความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะทำตาม ความฝันของคนธรรมดาให้กลายเป็นนักเดินทางที่ยิ่งใหญ่ด้วยการผจญภัย สู่ทวีปแอนตาร์กติกาครั้งแรกกับการเดินทาง แบบพึ่งพาตนเองที่จะกลายเป็นหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้สร้างชื่อเสียงให้ แก่ประเทศไทยในระดับโลก


ผู้ร่วมเดินเท้าในครั้งนี้ ได้มีแนวคิดเปิดโอกาสให้คนธรรมดาทำตามความฝันที่ท้าทายไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ด้วยมีความมุ่งมั่นที่แรงกล้าในการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่ประเทศไทย นั่นคือ  การเดินเท้า ระยะทางกว่า 1,400 กิโลเมตร จากขอบทวีปแอนตาร์กติกาไปสู่ใจกลางขั้วโลกใต้ ระยะเวลา 45 วัน   กับสภาพอากาศ -50 C เพื่อค้นหานักผจญภัยอีก 9 ท่าน มาร่วมทีมเติมเต็มแรงใจและร่วมฝ่าฝันอุปสรรค ระหว่างเดินทางไปด้วยกัน ในปลายปี 2561

นายธนาธร กล่าวว่า ทุกคนล้วนมีความฝันในการทำสิ่งต่างๆ ที่มหัศจรรย์ แต่บางครั้งความฝันนั้นอยู่ไกลจนไม่น่าที่จะทำได้ สำหรับผู้ที่มีความฝันชื่นชอบการผจญภัยและ ต้องการค้นหาประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ  ลองมาทำความฝันให้กลายเป็นจริงเหมือนกับความฝันของ TJ หรือผมธนาธร ที่จะเป็นหนึ่งที่ต้องการเดินเท้าไปถึงขั้วโลกใต้พร้อมกับนักผจญภัยไทยร่วมกว่า 10 ชีวิต เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของคนไทยทั้งประเทศ
สำหรับโครงการ มีการเก็บภาพบรรยากาศทุกแบบการทดสอบก่อน จะเดินเท้าจริงกว่า 1,400 กม. นั้นกว่าระยะเวลา 45 วัน ในสภาพอากาศ -50 องศาเซลเซียส ผู้โชคดีผ่านการคัดเลือก 10 ท่าน จะได้รับเงินคนละ 1 ล้านบาท เพื่อบริจาคให้องค์กรการกุศลหรือกิจกรรมเพื่อสังคมตามต้องการ


เพื่อต้องการคัดเลือกนักผจญภัยที่ผ่านการคัดเลือกจนถึง รอบสุดท้าย 10 ท่าน จะต้องผ่านการทดสอบในรูปแบบต่างๆ เวิร์คช็อปเพื่อรับมือกับสภาพอากาศ การฝึกการอยู่ร่วมกัน การพึ่งพาตนเอง การปฏิบัติตนและโภชนาการ เพื่อให้ปรับตนเองให้ได้ทั้งภายในและภายนอก EQ&IQ รวมถึงการปฐมพยาบาล และการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงเครื่องมือสื่อสารจากขั้วโลกใต้  สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่าน จะได้พบกับอีกหนึ่งด่านทดสอบสุดวิบากกับมาตรฐานกองทัพ ที่จะทดสอบความแข็งแกร่ง การทำงานเป็นทีม และการเอาชนะความกลัว ในการพิชิตขั้วโลกใต้

สมัครร่วมคัดเลือกเป็นส่วนหนึ่งในทีม True South โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เริ่มตั้งแต่การฝึกอบรมสุดท้าทายทั่วโลกเป็นเวลา 2 ปี ไปจนถึงการผจญภัยในทริปเปลี่ยนชีวิต

โครงการ TJ’s True South
เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 มีนาคม 2560

ผ่านทาง FACEBOOK / IG / TrueSouthThailand / www.truesouth.org
www.truesouth.org/thechallenges

รถแข่งคันใหม่ TP12 SINGHA MOTORSPORT

Hanuman of Siam พร้อมลุยซิ่ง5 สนามหินของยุโรป

แน่นอนอยู่แล้วว่า Ferrari488 GT3 เฟอร์รารี 488 จีที3 รถในฝันที่ใครก็อยากจับจองด้วยดีไซน์อันทันสมัย
ที่มีความโค้งมนสวยงามมีเอกลักษณ์โด่ดเด่น สมรรถนะที่แรงและเร็ว  เครื่องยนตร์กลางลำท้าย ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง (RWD) 2 ประตู2 ที่นั่ง ผลิตโดย บริษัทรถยนต์สัญชาติอิตาลี  เป็นรถแข่งคันใหม่  TP12  SINGHA MOTORSPORT  โดยมีชื่อไทยว่า หนุมาน ออฟ สยาม (Hanuman of Siam) จะใช้สู้ศึกในปี  2017   โดย
“ต๊อด” ปิติ ภิรมย์ภักดี  ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ  มีผลงานปีที่ผ่านมา สามารถคว้าแชมป์ จีที เอเชีย 2016 ที่ ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น



คุณต๊อด กล่าวว่า  การเข้าไปแข่งในเวทียุโรปในฤดูกาลนี้  ทีมเน้นไปที่การแข่งขัน บล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์ คัพ ซึ่งต้องขับใน 5 สนามสุดหิน ของยุโรป มีความยาก รวมถึงจำนวนทีมที่เข้าแข่งขัน  ในฐานะนักแข่งคนหนึ่ง
การได้มีโอกาสลงแข่งในสนามที่ยุโรป ถือเป็นสุดยอดของที่สุด โดยเฉพาะ บล็องค์แปง จีที ในปีนี้ ถือเป็นการยกระดับขึ้นไปอีกก้าวของทีม

เป้าหมายรายการนี้สำหรับนักขับจากเอเชียไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขึ้นโพเดี้ยม ที่นี่เป็นสนามที่เหล่านักขับยุโรปมีความคุ้นเคยมากกับสภาพสนาม และภูมิอากาศ รวมไปถึง ทีมที่ร่วมแข่งขันทั้งหมด มีทีมเซอร์วิซที่ดี ในปีนี้
เคซเซล เรซซิ่ง  ทีมงานระดับโลก เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดูแลเรื่องการเตรียมรถและทีมเซอร์วิสทั้งหมดทำให้ลดจุดอ่อนด้านนี้ของทีม ส่วนทีมงานที่ดูแลนักขับทั้งตนเองเและคาร์โล เป็นทีมคนไทยทั้งหมด เป็นทีมเวริ์คที่มีความคุ้นเคย รู้ใจกันและกันดีมาก เชื่อว่าทำให้มีโอกาสขึ้นโพเดี้ยมได้ทุกสนามเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ทีมไทย ภายใต้รถแข่งคันใหม่ เฟอร์รารี 488 จีที 3 โดยมีชื่อไทยว่า หนุมาน ออฟ สยาม รถแข่งคันใหม่ล่าสุด Ferrari 488 GT3 พร้อมแนะนําพาร์ตเนอร์ใหม่ Kessel racing




เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 60 เวลา 16.30 น. ที่  Eight  ทองหล่อ กรุงเทพฯ แถลงข่าวเปิดตัวรถแข่งคันใหม่ ของทีม SINGHA MOTORSPORT ทีมคนไทยมาตรฐานโลก ทีมรถแข่งสัญชาติไทย ที่ขับโดย “ต๊อด”  ปิติ  ภิรมย์ภักดี และ คาร์โล แวน แดมนักขับจากฮอลแลนด์ พร้อมด้วย ทีเซียน่า บอร์กี้ สปอร์ตไดเร็คเตอร์ “เคซเซล เรซซิ่ง” ทีมเซอร์วิสระดับโลกที่จะร่วมงานกันตลอดฤดูกาล 2017 ภายใต้การสนับสนุนของ  บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด, คิง พาวเวอร์, ซีเอ็มวายเค คัลเลอร์ และ อัลไพน์สตาร์ส



สำหรับฤดูกาล 2017 การแข่งขัน “บล็องค์แปง จีที ซีรีส์ สปรินท์ คัพ” รายการแข่งรถซูเปอร์คาร์รายการใหญ่ในยุโรป ที่มีทีมแข่งทั่วโลกกว่า 50 ทีม จะแข่งทั้งสิ้น 5 สนาม  เริ่มจากสนามแรก วันที่ 1-2 เม.ย.60 ที่  มิซาโน ในอิตาลี,  6-7 พ.ค.60  ที่แบรนด์ส แฮทช์ ในอังกฤษ, 2-4 มิ.ย. 60  ที่โซเดอร์ เบลเยี่ยม, 25-27 ส.ค. 60 ที่บูดาเปสท์ ฮังการี และ 15-17 ก.ย.60   ที่นูร์เบิร์กริง ในเยอรมนี

 

ส่งต่อความรู้สึกดีดี โครงการแว่นตาเพื่อน้อง

กิจกรรมส่งมอบความสุขแบบคูณสองที่มอบทั้งแว่นสายตาและของขวัญ
สุดพิเศษสานต่อ  โครงการแว่นตาเพื่อน้อง  ปี 4

โครงการแว่นตาเพื่อน้อง  เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างห้างแว่นท็อปเจริญ และ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เพื่อสนองพระราชประสงค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธาน
กรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย โดยการให้ความช่วยเหลือเยาวชนที่มีปัญห
าทางด้านสายตาทั่วประเทศให้มีสุขภาพตาที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและได้รับการศึกษาอย่าง
มีประสิทธิภาพ ผ่านการดำเนินงานของผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัยจาก  ห้างแว่นท็อปเจริญ ด้วยการ
ลงพื้นที่ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นใหม่ ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการ 10 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2557-2566

เชิญชวนชาวไทยร่วมส่งมอบความสุขคูณสองให้กับเยาวชนที่มีปัญหาด้านสายตาทั่วประเทศห้างแว่นท็อปเจริญ ร่วมกับ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย สานต่อ “โครงการแว่นตาเพื่อน้อง” ปี4 สนองพระราชประสงค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือให้แก่เยาวชนที่มีปัญหาด้านสายตาในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ให้มีสุขภาพตาที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติและได้รับการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านกิจกรรมลงพื้นที่ตรวจสุขภาพดวงตาและประกอบแว่นใหม่ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมเครื่องมืออันทันสมัย ตลอดระยะเวลา 10 ปีเต็ม นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557-2566 โดยในปีนี้มีไฮไลท์พิเศษอยู่ที่กิจกรรมส่งมอบความสุขแบบคูณสอง ที่มอบทั้งแว่นสายตาและของขวัญสุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติให้กับน้องๆ พร้อมเชิญชวนจิตอาสาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในโครงการ โดยมีศิลปินดาราที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมงาน อาทิ มาริโอ้ เมาเร่อ กบ–สุวนันท์และน้องณดา-ปุณณดา ปุณณกันต์ พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้อีกคับคั่ง ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการห้างแว่นท็อปเจริญกล่าวว่า “เนื่องด้วยสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ทรงห่วงใยในคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยในพื้นที่อันห่างไกล รวมถึงทรงเล็งเห็นความสำคัญของการได้รับการศึกษา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเยาวชน  อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ ห้างแว่นท็อปเจริญ  และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย จึงขอมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือแก่เยาวชนที่มีปัญหาทางด้านสายตา
ในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศภายใต้ “โครงการแว่นตาเพื่อน้อง” โดยในปีนี้นับเป็นการสานต่อการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4  ติดต่อกัน”

“นับตั้งแต่ริเริ่มโครงการฯ ในปี พ.ศ.2557 โครงการฯ ได้ออกหน่วยบริการ ตรวจสุขภาพดวงตา ตรวจวัดสายตาและประกอบแว่นใหม่ ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมืออันทันสมัยโดยผู้เชี่ยวชาญและชำนาญการ เพื่อมอบแว่นสายตาให้แก่เยาวชนเป็นประจำ เดือนละ 1 ครั้ง โดยมีจำนวนเยาวชนที่เข้ารับบริการเฉลี่ยครั้งละ 500 คนขึ้นไป โดยหากพบเยาวชนที่มีปัญหาโรคตาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่น ทางโครงการฯ จะส่งตัวผู้ป่วยเหล่านั้นเข้ารับการรักษาต่อ
ที่ ‘ศูนย์รักษาตาท็อปเจริญ’ โดยไม่คิดค่าบริการรักษาแต่อย่างใด ซึ่งในขณะนี้ โครงการฯ ได้ส่งต่อความช่วยเหลือแล้วรวมกว่า 15,000 ราย โดยภายในปี พ.ศ. 2566 โครงการฯ ตั้งเป้าส่งต่อความช่วยเหลือให้กับเยาวชนครอบคลุมทั่วประเทศเพิ่มเป็น 35,000 ราย ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้” นายนพศักดิ์ กล่าว

รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงนวลจันทร์ ปราบพาล กรรมการอำนวยการและเลขาธิการ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย กล่าวว่า “ในปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกทางเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสายตาของเยาวชนในยุคดิจิตอล ในฐานะที่มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ซึ่งมีหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูเด็กหรือผู้เยาว์ที่เป็นเด็กกำพร้า รวมทั้งให้การศึกษา การฝึกวิชาชีพ และการดูแลด้านสุขภาพร่างกายของเด็กให้สมบูรณ์แข็งแรง เราจึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพดวงตาและการมองเห็นของเด็กไทยเป็นอย่างมาก ประจวบเหมาะกับความตั้งใจของห้างแว่นท็อปเจริญที่อาสาให้การสนับสนุนและจัดตั้งโครงการแว่นตาเพื่อน้องขึ้น เพื่อร่วมกันเดินหน้าสานต่อการให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดานที่มีปัญหาสายตาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังนับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่โครงการฯ จะเดินหน้าสานต่อกิจกรรม เพิ่มขึ้นเป็น 10 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557-2566 จึงทำให้โครงการสามารถช่วยเหลือเด็กๆ ได้จำนวนมากขึ้น และเป็นผลทำให้โครงการได้เพิ่มคุณภาพชีวิตและช่วยสร้างอนาคตที่ดีของชาติได้มากขึ้นด้วย”

นายแพทย์นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาตาท็อปเจริญ กล่าวเสริมว่า “ปัญหาทางด้านสายตาที่พบ
มากที่สุดในเด็กไทยที่มีอายุระหว่าง 5 – 18 ปี คือ ปัญหาสายตาสั้นเทียม โรคตาขี้เกียจ และโรคตาเข/ตาเหล่ โดยปัญหาสายตาสั้นเทียมมักพบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากในยุคนี้เราใช้การมองระยะใกล้กันมากขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์มือถือ ทั้งจอเล็กและจ้องดูใกล้ ที่สำคัญเพ่งจ้องดูกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน ไม่ละสายตา รวมถึงจ้องดูในบริเวณที่มีแสงน้อยๆ ดังนั้นดวงตาจึงต้องใช้กล้ามเนื้อเพ่ง ต้องทำงานเกร็งตลอดเวลา ทำให้ไม่คลายตัว อีกปัญหาเรื่องโรคตาขี้เกียจ มีมักพบในเด็กเล็กช่วงวัยเตรียมเข้าโรงเรียน โดยคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกต
ได้จากพฤติกรรมการจ้องมองสิ่งของรอบตัวของเด็ก อาจลองปิดตาเด็กที่ละข้างแล้วตรวจดูว่าการมองเห็นใกล้เคียงกันไหม ถ้าพบลักษณะผิดปกติดังกล่าวอาจต้องพาลูกไปพบจักษุแพทย์ โรคตาขี้เกียจนี้มีผลทำให้ การพัฒนาซีกสมองส่วนการมองเห็นไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมองเห็นภาพข้างนั้นไม่ชัดเจน นานวันสมองซีกนั้นจะหยุดการพัฒนา
การมองเห็น และเป็นผลทำให้ความสามารถในการมองเห็นสิ้นสุดลงจนอาจเป็นตาเขในระยะยาว

และสุดท้ายคือโรคตาเข/ตาเหล่ ซึ่งเป็นอาการของการรวมภาพของดวงตาทั้งสองข้างไม่ดี โดยมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ ปัญหาสายตา อุบัติเหตุที่ตาหรือโรคทางสมอง รวมทั้งพฤติกรรมของตัวเด็กเอง อาทิ การชอบนอนอ่านหนังสือ เป็นต้น ซึ่งเป็นผลทำให้เด็กกลุ่มนี้กะระยะได้ไม่ดี และเมื่อเติบโตขึ้นอาจมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม ไม่มั่นใจและมักขี้อาย โรคตาเขในบางครั้งอาจเป็นตลอดเวลาหรือบางครั้งอาจเป็นแบบซ้อนเร้น ซึ่งอาจปรากฎในช่วงที่อ่อนเพลีย ส่วนการตรวจรักษาโดยจักษุแพทย์จะตรวจวินิฉัยว่าเด็กเป็นโรคตาเขประเภทใด กล้ามเนื้อกลอกตามัดไหนมีปัญหา มุมเขมากน้อยเท่าไร และมีปัญหาสายตาอื่นร่วมด้วยหรือไม่ ส่วนใหญ่จักษุแพทย์จะรักษาต้นเหตุของตาเขก่อน และสุดท้ายจักษุแพทย์จะผ่าตัดกล้ามเนื้อตาเพื่อให้ตาตรงต่อไป”

“เพราะการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ฉะนั้นจึงขอฝากถึงเยาวชนไทยทุกคนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้สายตาอย่างเหมาะสม ถึงแม้ว่าโลกในยุคปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปมาก มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แต่การใช้สายตาจับจ้องมากเกินไปก็อาจจะเกิดโทษได้” นายแพทย์นพวุฒิ กล่าว

ภายในกิจกรรมสานต่อโครงการแว่นตาเพื่อน้องในปีนี้   มีไฮไลท์พิเศษอยู่ที่ กิจกรรมส่งมอบความสุขแบบคูณสอง
ที่มอบทั้งแว่นสายตาและของขวัญสุดพิเศษเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติให้กับน้องๆ ในพื้นที่ห่างไกล พร้อมเชิญชวนประชาชนจิตอาสาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในโครงการ พร้อมเขียนคำอวยพรเพื่อส่งให้กับน้องๆ โดยมีศิลปินดาราที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมงาน อาทิ มาริโอ้ เมาเร่อ กบ–สุวนันท์และน้องณดา-ปุณณดา ปุณณกันต์ พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้อีกคับคั่ง นอกจากนี้สำหรับประชาชนทั่วประเทศ ทางโครงการฯ ยังขอเชิญชวนร่วมกิจกรรมส่งความสุข ด้วยการกดแชร์วีดีโอ “Double Happiness”1 การแชร์มีค่าเท่ากับ 1 ความสุขแบบคูณ 2 ของน้องๆ ติดตามใน  Facebook.com/TopCharoenOpticalOfficial  ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2560
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook.com/TopCharoenOpticalOfficial
หรือเว็บไซต์ www.topcharoen.co.th
หรือโทร. 02–612–4710

 

 

BEAUTY TOHOKU มนเสน่ห์ที่น่าค้นหาและชวนหลงใหล

บรรยากาศจำลอง ของ โทโฮะขุ แบบย่อมๆ  มาให้คนไทยได้สัมผัส

หลังจากที่มีการผ่อนผันวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่น  เมื่อปี 2556  ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทย  เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นถึง  3 เท่า  และมีการเดินทางไปยังภูมิภาคต่างๆทั้ง 8 ภูมิภาค ญี่ปุ่น เพื่อซึมซับและยัง
สัมผัสความแตกต่างของแต่ละภูมิภาค

โทโฮะขุ เป็น 1 ภูมิภาคในประเทศญี่ปุ่นที่มีมนต์เสน่ห์ ชวนให้นักท่องเที่ยวหลงใหล และ แต่ละจังหวัดมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ เช่น ใบไม้เปลี่ยนสีที่เมืองคาคุโนะดาเตะ (kakunodate city)  ผืนป่าที่มีหิมะปกคลุมจนต้นไม้แต่ละต้นดูราวกับปีศาจหิมะ(snow monster) และทะเลสาบซาโอะบนภูเขาไฟซาโอะ

โทโฮะขุ เป็นพื้นที่เหนือสุของเกาะฮอนชูครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด อะโอโมริ(Aomori), อะคิตะ(Akita) และอิวะเทะ  (Iwate)  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โทโฮะขุ   มีท่าอากาศยานและสถานีรถไฟ  JR ชินคันเซ็น ทุกจังหวัดเมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติ นาริตะ ประเทศญี่ปุ่น สามารถเดินทางต่อมายัง โทโฮะขุ  ด้วยรถไฟสายโทโฮคุชินคันเซ็น  หรือโจเอสึชินคันเซ็นจากสถานีรถไฟโตเกียว หรือหากเดินทางมายังท่าอากาศยานโตเกียว (ท่าอากาศยานฮาเนดะ) สามารถเดินทางต่อมายัง โทโฮะขุ  ได้ด้วยเที่ยวบินภายในประเทศ  และยังมีเที่ยวบินประจำของสายการบินต่างประเทศจำนวนมากให้บริการบินมายังโทโฮคุ (โดยมากจุดหมายปลายทางอยู่ที่เซนได)

โอโบะเคะเคียว(obokekyo)ตั้งอยู่ในภาคกลางของเกาะชิโกะกุ คริสตัลหินชีสต์ (Schist) ของเเม่น้ำโยชิโนะ หุบเขาที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ราวกับการขึ้นรูปเเกะสลักหินอ่อน สามารถเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของสี่ฤดูกาล ดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วงมาพร้อมกับใบไม้สีเเดงในฤดูใบไม้ร่วงที่โทโฮะขุ

หุบเขาลึก Iya ในฤดูใบไม้ร่วงตั้งเเต่ด้านล่างหุบเขาจรดยอดเขาจะเต็มไปด้วยใบไม้สีเเดงหน้าผาตามเเนวของเเม่น้ำIya หุบเขามีลักษณะเป็นรอยบากลึกรูปตัวV เเม่น้ำอิยะสีเขียวมรกตไหลผ่าน โขดหินที่ยื่นออกมาจากการก่อสร้างถนนอิยะ บนโขดหินนั้นมีรูปปั้น Little man piss สร้างขึ้นมาจากเรื่องเล่าว่าเดิมทีเด็กในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวใช้ยืนทดสอบความกล้าหาญ เป็นสถานที่ที่ได้รับดาว 2 ดวงใน  Michelin Green Guide Japon

เมือง Udatsu ภูมิทัศน์บ้านเมืองแบบดั้งเดิมที่สูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ใน Mima Wakimachi Udatsu คือ การสร้างกำแพงกันไฟระหว่างบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไฟตอนไฟไหม้ เดิมทีมีพ่อค้ามาทำการค้าเจริญรุ่งเรืองเหมือนกับบ้านเมืองใน ยุคเอโดะ

หมู่บ้าน Ochiai ตั้งอยู่เกือบใจกลางของ  Iya  ฝั่งตะวันออก เป็นหมู่บ้านที่มีความแตกต่างของความสูงประมาณ 390 เมตรเป็นบ้านของชาวบ้านถูกสร้างขึ้นตั้งเเต่ช่วงกลางถึงช่วงปลายเอโดะ ใช้หินเเละหญ้าซ้อนทับกันขึ้นทีละอันเป็นชั้นๆ ทำให้หวนคิดถึงอารมณ์เเบบฉากของหมู่บ้านตามเนินเขา ภายในหมู่บ้านนายอเล็กซ์เคอร์นักวิจัยวัฒนธรรมตะวันออกได้จำลอง  “บ้านมุง Stay” (ที่พัก) บ้านเก่าของชาวบ้านกระเเสน้ำวนนารูโตะ ช่องแคบนารูโตะ การบรรจบพบเจอกันของทะเล Seto กับ น้ำประป า  Kii เป็นหนึ่งในสาม  ของกระเเสน้ำวน  ที่มีขนาดใหญ่ระดับโลกอย่างช่องเเคบเมสซีนา  ของอิตาลี ช่องแคบ Semoa ระหว่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา กระเเสน้ำวนมีความเร็วถึง15 ~ 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่แห่งนี้จึงเกิดกระแสน้ำวนขนาดใหญ่และขนาดเล็กตามธรรมาชาติ

บทความที่เกี่ยวข้องจาก:สารานุกรมคำญี่ปุ่น ยุคเอโดะ

เปิดตัวงาน BEAUTY TOHOKU วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2560 ณ บริเวณ รอยัล พาร์ค พลาซ่า ชั้น 1

นอกจากนี้ในแต่ละช่วงของปี เมือง โทโฮะขุ  มีเทศกาลที่แตกต่างกัน แต่เทศกาลที่ถือว่าเป็น  ไฮไลท์ คือ
เทศกาลเนบูตะที่จัดขึ้น  ในเดือนสิงหาคมของทุกปี ในงานมีขบวนแห่โคมไฟ แสงสีขนาดใหญ่   นำโดย ขบวนกลองไทโกะ เหล่านักดนตรี และการแสดงเต้นพื้นเมือง ที่สร้างสีสันให้กับผู้ที่มาท่องเที่ยว แม้ว่าโทโฮะขุจะมีมนเสน่ห์ที่น่าค้นหา และ ชวนหลงใหลมากแค่ไหน แต่ภูมิภาคนี้ก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยมากนัก จึงได้จัดงาน BEAUTY TOHOKU มีการจำลองบรรยากาศ  ของโทโฮะขุ แบบย่อมๆ  มาให้คนไทยได้สัมผัสทั้ง 3 โซน ไม่ว่าจะเป็นโซนอาหาร ท่องเที่ยว และความสวยงาม ไปอัพเดทเทรนการท่องเที่ยว ชิมของอร่อยส่งตรงจากโทโฮคุ  เพลิดเพลินกับการแสดงบนเวที และ ร่วมสนุกชิงของรางวัลมากมาย
ระหว่างวันที่ 12 – 15 มกราคม 2560


The festival for the Japanese Beauty is here at Paradise Park.
คนที่หลงรักเสน่ห์ญี่ปุ่น งานนี้เน้นโชว์ของดี ของสดอร่อยๆ จากเมืองโทโฮะขุ 

ท่าอากศยานเซนได นำอาหารที่ส่งตรงมาจากภูมิภาคโทโฮะขุ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัวเซนได หอยนางรม ไข่ปลาแซลมอน ชีสทาร์ตเจ้าดัง และสตรอว์เบอร์รีเกรดพรีเมี่ยม และอื่นๆ อีกมากมาย มาให้ชาวไทยได้ลิ้มลอง และ
ยังได้มีเวิร์คช็อปทำอาหารญี่ปุ่น 4 เมนูสุดพิเศษเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์การทำอาหารแบบญี่ปุ่น
พื้นบ้านอีกด้วย ในส่วนของการท่องเที่ยว มีบริษัทนำเที่ยวชั้นนำจากญี่ปุ่นมาแนะนำสถานที่พิเศษภายในโทโฮะขุ และแพคเกการท่องเที่ยวในราคาพิเศษเฉพาะในงานเท่านั้น ในโซนของเครื่องสำอาง แบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามชั้นนำของญี่ปุ่นมากมาย นำสินค้ามาให้ผู้มาร่วมงานได้ซื้อหาในราคาพิเศษ พร้อมทั้งสัมผัสประสบการณ์ด้านความงามสุดประทับใจจากแต่ละแบรนด์อีกด้วย นอกจากนี้ผู้เข้าชมงานยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรม Lucky Draw
เพื่อลุ้นตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ – โทโฮะขุ และของรางวัลอื่นๆอีกมากมาย

เพียงถ่ายรูป บรรยากาศภายในงาน และโพสต์บน Facebook, Instagram หรือ Twitter พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก #beautytohoku หรือจะเป็นการแชร์แบนเนอร์ของงาน และแท็กเพื่อนที่อยากชวนไปเดินงานอีก 3 คนพร้อม #beautytohoku ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลได้แล้ว

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์เด่นๆในแต่ละวัน ดังต่อไปนี้
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม ชมพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ พบกับโชว์ตีกลองสะบัดชัยไทโกะ
และ โชว์ซามูไรจากประเทศญี่ปุ่น

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม ชมทอล์กโชว์จาก คุณฮิโระ พิธีกรรายการ สุโค่ยทีวี ที่จะมาให้คำแนะนำเรื่องการท่อง
เที่ยวในโทโฮะขุ กิจกรรมด้านความงาม เช่น สอนการนวดหน้าด้วยตัวเองจากผู้เชี่ยวชาญโดยแบรนด์ POLA


วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พบกับมินิคอนเสิร์ตจาก แดน วรเวช และการกิจกรรมด้านความงาม  การสอนวิธีตีโฟม
ล้างหน้าอย่างถูกวิธีจากแบรนด์ SENKA


วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พบกับมินิคอนเสิร์ตจากโตโน่ เดอะสตาร์ พร้อมจับรางวัล Lucky Draw ปิดท้ายงาน

กิจกรรมการแสดงต่างๆ ของภูมิภาคโทโฮขุ มาให้ชมกัน  ที่ ชั้น1 รอยัล พาร์ค พลาซ่า Paradise Park
นอกจากนี้ยังจะได้พบกับ โปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษมากมายจาก H.I.S.  สำหรับผู้ที่อาศัยในย่านนี้ หรือ
ผู้ที่สนใจความงามในภูมิภาคโทโฮขุ

งานมีตั้งแต่วันที่ 12 – 15 ม.ค. 2560 นี้นะคะ ชั้น1 รอยัล พาร์ค พลาซ่า Paradise Park

 

 

 

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น