HUAWEI P10 และ P10 Plus ในไทยอย่างเป็นทางการ มาพร้อมกล้อง Leica หน้า-หลัง

Huawei P10 และ P10 Plus มาแล้วคร้า

Huawei P10 และ P10 Plus มาแล้วคร้า!! ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องรอคอยกันนานจริงๆ กับ Huawei P10 และ P10 Plus เพราะวันนี้ได้มาทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย โดยเอามาวางจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่น และเริ่มเปิดให้จองในวันที่ 17-26 มีนาคม นี้ ส่วนจะมีรุ่นอะไรและราคาเท่าไหร่บ้าง ก็ลองมาดูกันเลยHuawei P10 Series จะต่อยอดความสำเร็จและสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดสมาร์ทโฟนโลกอีกครั้งด้วยนวัตกรรมสมาร์ทโฟนที่ร่วมพัฒนาขึ้นกับไลก้าทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง พร้อมชูสุดยอดฟีเจอร์ถ่ายภาพระดับสตูดิโอ ต่อยอดความเป็นผู้นำด้านกล้อง พร้อมเผยสีสันใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ร่วมมือกับPantone Color Institute ผู้นำด้านสีของโลกเพื่อตอบโจทย์ในด้านดีไซน์มากยิ่งขึ้น

 

มาชมบรรยากาศ การเปิดตัวพร้อมปาร์ตี้สุดสนุก  กับสุดยอดสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพ กับคุณสมบัติระดับสตูดิโอถ่ายภาพหัวเว่ย P10 และ P10 Plus คือ สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้กล้องหน้าจากไลก้า เช่นเดียวกับกล้องหลังเลนส์คู่ผสานเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ล้ำสมัยที่สุดของโลกเพื่อการสร้างสรรค์ภาพพอร์ทเทรทที่แฝงความเป็นงานศิลปะร่วมสมัยตามแบบฉบับของภาพถ่ายไลก้า หัวเว่ย P10 และ P10 Plus มาพร้อมอุปกรณ์และคุณสมบัติทุกอย่างระดับสตูดิโอถ่ายภาพมืออาชีพ

เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าแบบ 3 มิติ ที่สามารถตรวจจับลักษณะต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ  ฟีเจอร์การปรับแสง – มีอัลกอริทึ่มการตรวจจับอัตโนมัติซึ่งสามารถตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของแสงสว่างแวดล้อมและปรับค่าคอนฟิเกอร์เรชั่นของการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ ทั้ง การปรับสมดุลสีขาวอัตโนมัติ ความเร็วชัตเตอร์ และอื่น ๆ ถ่ายภาพได้สวยเฉียบในทุกสภาพแวดล้อม  ฟีเจอร์ปรับภาพแต่งพอร์เทรท – มีอัลกอริทึ่มการสร้างภาพที่อาศัยข้อมูลจากการวิจัยอย่างละเอียดในเรื่องรูปทรงของใบหน้าและสีผิวที่แตกต่างและหลากหลาย ใช้ฟีเจอร์การปรับแต่งภาพพอร์เทรทให้สมบูรณ์แบบได้ตามความต้องการเฉพาะและเป็นธรรมชาติ

ฟีเจอร์ถ่ายภาพโบเก้ ที่สวยเหมือนงานศิลปะ – มีอัลกอริทึ่มจึงมีความชัดตื้นชัดลึกที่สามารถสร้างสีสันที่คมชัด สดใสให้กับภาพถ่าย พร้อมทำให้ฉากหลังเบลอ เป็นภาพพอร์เทรทสไตล์โบเก้ที่สวยสะดุดตา นอกจากนัน ยังสามารถหาจุดโฟกัสภาพใหม่หลังจากกดชัตเตอร์

สเปคของ Huawei P10
หน้าจอแบบ FHD ขนาด 5.1 นิ้ว กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass 5
ระบบปฏิบัติการ AndroidTM 7.0 ครอบทับด้วย EMUI 5.1
CPU ชิป Kirin 960 (64-bit) Octa-core
GPU Mali-G71 MP8
RAM 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูล 32GB และ 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิเซล รูรับแสง F 1.9
กล้องหลังคู่ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F 2.2 แบตเตอรี่ 3,200 mAh พร้อม SuperCharge

สเปคของ Huawei P10 Plus
หน้าจอแบบ FHD ขนาด 5.5 นิ้ว กระจก 2.5D Corning Gorilla Glass 5
ระบบปฏิบัติการ AndroidTM 7.0 ครอบทับด้วย EMUI 5.1
CPU ชิป Kirin 960 (64-bit) Octa-core
GPU Mali-G71 MP8
RAM 4GB
พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB รองรับ MicroSD สูงสุด 256GB
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิเซล รูรับแสง F 1.9
กล้องหลังคู่ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงF1.8
แบตเตอรี่ 3,750 mAh พร้อม SuperCharge

ราคา
Huawei P10 ความจุ 32GB ราคาอยู่ที่ 17,900 บาท
Huawei P10 ความจุ 64GB ราคาอยู่ที่ 19,900 บาท
Huawei P10 Plus ความจุ 64GB ราคาอยู่ที่ 23,900 บาท

HUAWEI P10 และ P10 Plus ในไทยอย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นกล้องไลก้าทั้งหน้า/หลัง และฟีเจอร์ถ่ายภาพพอร์ทเทรทระดับสตูดิโอ
พร้อมเปิดพรีออเดอร์ 17 – 26 มีนาคมนี้

Kolour in The Park 2017 ร่วมค้นหาคำตอบกับประสบการณ์ปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใคร

คุณจะหลงรัก เทศกาลดนตรีกลางแจ้ง
แนวเฮาส์และเทคโนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

เราไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ  เพราะใครๆ ก็คงรู้จักเทศกาลดนตรีกลางแจ้งอย่าง Kolour in The Park 2017  เรานอกจากชอบดูหนังแล้ว ฟังเพลงก็ยังเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชื่นชอบมาเช่นกัน House Music  เป็นดนตรีเต้นรำที่ถือกำเนิดในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980  เป็นดนตรีเต้นรำที่เก่าแก่มากที่สุด เพลงอิเล็กโทรนิกแดนซ์  เป็นอีกแนวดนตรีหนึ่งที่ชอบฟังนะทั้งคึกคักสนุกสนาน จิตตื่นตัว ความหวือหวา หัวใจเต้นเร็วขึ้น และแน่นอนว่า เต้นมันขึ้นด้วย

บรรยากาศที่ไทยเวคพาร์คลำลูกกาคลอง 6 สวยน่าเล่นสุด

เทศกาลดนตรีกลางแจ้งอย่าง Kolour in The Park 2017  แนวดนตรีเพลงในแนวเฮาส์ และเทคโน เดินชิมอาหารหรูระดับกูร์เมต์  สินค้าผลงานศิลปะ และงานประดิษฐ์ การแสดง นิทรรศการศิลปกรรม ภาพเขียนแนวกราฟฟิตี้ บริการนวดผ่อนคลาย หรือแม้แต่ นั่งชมวิว กรือจะว่ายน้ำในบึง

งานวันนี้ ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ  มารวมเข้ากับจังหวะแบบเฮ้าส์มาสนุกกันโยกหัวแบบสุดเหวี่ยงอีกครั้งในปีนี่จัดขึ้นครั้งที่ 3 พิเศษกว่าที่เคย ครั้งยกระดับเป็นเทศกาลดนต รี ในแนวเฮาส์ และเทคโนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เหล่าสาวกเพลง House และ Techno ได้ออกสเต็ป เต้น กันอย่างจุใจ ในบรรยากาศริมน้ำสุดชิล ที่ห้อมล้อมไปด้วยทุ่งหญ้า และนาข้าว ณ Thai Wake Park  ย่านลำลูกกา ปทุมธานี

ส่วนช่วงบ่ายๆ อากาศไม่ร้อนมาก พวกเราเดินชมบรรยากาศของงาน โดยรอบ  มีอาหาร เครื่องดื่ม และกิจกรรมมากมาย ที่เริ่มขึ้นในเวลา 16.00 น.
สักห้าโมงเย็น สาวกเริ่มเต้น พอสาวกเหนื่อยเหนื่อยแล้ว สาวกก็ถือโอกาส
ที่จะได้ดูไปจิบเบียร์เย็นๆ ไปในบรรยากาศเป็นกันเอง  สามารถไปพักทานอาหาร ว่ายน้ำ หรือนวดฟรี เพื่อเติมพลังกันได้  ยังไม่หมดยังมีกิจกรรม
เพลินๆ อย่างนิทรรศการศิลปะ  ผลงานกราฟฟิตี้ และการแสดง ให้ร่วมชมตามไปเลือกกันได้ตามใจชอบ

สำหรับคนที่ชืนชอบกีฬาทางน้ำอย่าง เวคบอร์ด ที่นี่แจ่มมากๆ  รู้ไหมว่าเวคบอร์ดไม่ใช่สโนว์บอร์ดที่ใช้เล่นบนน้ำและไม่ใช่เพียงสกีน้ำที่แค่ยืนหันข้างเท่านั้น ความจริงก็คือ กีฬาประเภทที่ถูกพบว่ามีจุดเริ่มต้นที่แท้จริงมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา

เห็นบรรยายในหน้าอีเวนต์แล้วจะร้องอื้อหือกับความเคลมแรง

Kolour In The Park สถานที่อาจดูเหมือนไกล คนไม่มีรถมีแท็กซี่ไว้บริการจัดว่าเป็นอีเว้นท์ภายใต้แนวคิดของ  Kolour  (ฅัลเลอร์) ที่มีเป้าหมายในการนำเสนอซาวน์สด ใหม่ และเพิ่มประสบการณ์ปาร์ตี้ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ให้คอเพลงคนไทยได้สนุกไปพร้อมกัน ปีนี้ก็ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดย Kolour เพื่อเป็นการขยายฐานผู้ฟังเพลงในแนวเฮาส์ และเทคโน ทุกคนที่เข้าร่วมงานได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ  เพิ่มมากขึ้นจากครั้งก่อน เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้จัดงานใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียว ที่เน้นเฉพาะดนตรีในแนวเฮาส์ เทคโน และอิเล็กโทรนิก้าเข้าด้วยกัน

เอาจริงเค้าจัดมาหลายครั้งแล้ว ถ้าใครยังไม่รู้จัก เราแนะนำให้ไปลองฟัง
เพลงอิเล็กโทรนิกในไทย  KOLOUR IN THE PARK 2017  พบกับเหล่าศิลปินดีเจดังระดับโลก สุดเจ๋งอย่าง
Tube & Berger, Wankelmut, Adana Twins, Autograf, Animal Trainer, ATMA, Ava Asante, Roman Rauch, Sameed, Oliver Osborne และเราคิดว่าคงเป็นอีกงานที่คนแน่นเอี้ยด เพราะมี Line Up ทั้ง ศิลปินไทย อย่าง Nakadia, X0809, Koish, Ekception, Dan Buri, Sunju Hargun, Boris Rubin, DOTT & Ellie, Absolud, Dark White, Tek Harrington และที่ขาดไม่ได้คือ Coran ที่จะพาคุณไปพบกับความมันส์ตลอดทั้งงาน



นึกภาพเทศกาลดนตรีแนวเฮาส์ เทคโน และ อิเล็กโทรนิก้า ที่ ฅัลเลอร์  (Kolour) ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานอีเว้นต์และปาร์ตี้แบบเต็มวันมือวางอันดับต้นของไทย ได้ประกาศเผยการจัดงาน ฅัลเลอร์  อิน  เดอะ  พาร์ค (Kolour In The Park)  ประจำปีครั้งที่ 3  โดยที่ผ่านมางาน ฅัลเลอร์ อิน
เดอะ พาร์ค  ถือเป็นเทศกาลดนตรีกลางแจ้งแนวเฮาส์ และ เทคโนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เพื่อยกระดับเป็นเทศกาลดนตรีในแนวเฮาส์และเทคโนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย



ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค จะย้อนตำนานงานปาร์ตี้กลางวันที่สนุกสุดเหวี่ยง ภายใต้บรรยากาศที่แสนผ่อนคลายบริเวณริมบึง ร่วมกับเหล่าศิลปินแนวเฮาส์และเทคโนชั้นนำของโลกที่ต่างตบเท้าเข้ามาสร้างความสุขในงาน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินเก่าที่ขอกลับมาเยือนเวทีในไทย และศิลปินใหม่ที่เพิ่งมาเปิดการแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เติมความสมบูรณ์แบบด้วย สิ่งน่ารื่นรมณ์อีกมากมาย อาหารหรูระดับกูร์เมต์ ตลาดสินค้าผลงานศิลปะและงานประดิษฐ์ การแสดง นิทรรศการศิลปกรรม ภาพเขียนแนวกราฟฟิตี้ บริการนวดผ่อนคลาย หรือแม้แต่จะว่ายน้ำในบึง นอกจากนี้ ยังมีบรรดาดีเจมือหนึ่งของกรุงเทพฯ ตามไปร่วมสร้างความสุขในงานอีกด้วย

โคราน มาโลนีย์ หนึ่งในดีเจแนวเฮาส์และเทคโนที่โด่งดังที่สุดในกรุงเทพฯ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ฅัลเลอร์ ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า

“เรารู้สึกตื้นเต้นสุดๆ สำหรับการจัดงาน ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ครั้งที่สามนี้ ซึ่งตั้งแต่ที่เราเริ่มจัดเทศกาลดนตรีมา ถือได้ว่า ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ได้นำเสนอประสบการณ์อันน่าจดจำไม่รู้ลืมให้กับนักฟังเพลงชาวไทยมาโดยตลอด เป็นงานที่โด่งดังที่สุดของเรา  เป็นการนำเสนอ  แนวเพลงหัวก้าวหน้าในสถานที่ที่สวยจับใจ  มาพร้อมกับศิลปะ กิจกรรมมากมาย และอาหารลิ้มรสหลากหลายในระดับกูร์เมต์ นักออกแบบตกแต่งภายในสุดเก๋า ของวงการเพลงแนวเฮาส์และเทคโนในประเทศไทยนั้นเติบโตขึ้นมาก และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมสร้างความเติบใหญ่”

ร่วมค้นหาคำตอบกับ ฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค เป็นอีเว้นต์หนึ่งในซีรี่ส์อันหลากหลายภายใต้แนวคิดของฅัลเลอร์ ที่มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นก็คือ การนำเสนอซาวน์ใหม่สด และประสบการณ์ในปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใครสู่ผู้เสพดนตรีในประเทศไทย ไปพร้อมๆ กับการขยายฐานผู้ฟังเพลงในแนวเฮาส์และเทคโน ทีมงานที่ประกอบไปด้วยหลากเชื้อชาติหลายวัฒนธรรม ทั้งชาวไทยและเทศที่พำนักในไทย มาร่วมงานกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และภูมิหลังทั้งในเรื่องงานดนตรี งานบันเทิง และงานรื่นเริงยามราตรี เพื่อตอกย้ำจุดยืนในฐานะผู้จัดงานที่ใหญ่ที่สุด  เพียงรายเดียวที่เน้นเฉพาะดนตรีในแนวเฮาส์ เทคโน และอิเล็กโทรนิก้า

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดจากงานฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค ทางทีมงานฅัลเลอร์กำลังวางแผนพัฒนาปาร์ตี้ฉีกแนวสุดเอ็กซ์คลูซีฟภายใต้แนวคิดแบบ “อันเดอร์กราวด์” อาทิ ฅัลเลอร์ แวร์เฮาส์ (Kolour Warehouse) และ
ฅัลเลอร์ ซันเดย์ส  (Kolour Sundays)

ในค่ำคืนนี้ กันถ้าเป็นคนรักเสียงดนตรีที่หลากหลาย เราแนะนำให้ลองไปเยือน Kolour In The Park งานเฟสติวัลเอาท์ดอร์ที่มาพร้อมกับสไตล์ดนตรี House & Techno โดยงานในปี 2017 จะจัดถึง 2 วัน พร้อมกับไลน์อัพสุดยิ่งใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 เวทีด้วยกัน โดยงาน จัดวันที่ 18-19 มีนาคม ตั้งแต่ช่วงกลางวันไปจนถึงดึกที่ Thai Wake Park

ในงานจะมีกิจกรรมมากมาย อาทิ: Graffiti Exhibition, Custom Light Show, Pro Wakeboard Showcase, Arts และ Craft Market, Gourmet Food Vendors & Food Trucks, Art Installations, Swimming Games และกิจกรรมมากมายมีผู้สนับสนุนหลักอย่าง singha corporation



สำหรับลูกค้าที่เดินทางมา นำรถมาฅัลเลอร์ อิน เดอะ พาร์ค  มีสถานที่จอดรถไว้บริการที่วัดเกตุประภา โดยทางเราจะมีรถรับ-ส่งเพื่ออำนวยความสะดวกฟรีทั้ง 2 วันค่ะ   หรือสามารถส่งผู้โดยสารได้ที่จุดรับ-ส่ง บริเวณหน้าโรงงานกระดาษได้ตั้งแต่ เวลา 9.00-12.00 น.  ไปสนุกกับเสียงเพลงมันส์ๆ กันเยอะๆ

ห้ามพลาดงานที่หนึ่งปีมีครั้งเดียวอย่างนำซาวด์ดนตรีหลากหลายแนวมารวมกันใน Kolour in the Park 2017   โดยจะมีขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 18-19 มีนาคม 2560 ณ บึงไทยเวคพาร์ค ลำลูกกาคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี

โดยจะมีขึ้นในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 18-19 มีนาคม 2560 ณ บึงไทยเวคพาร์ค ลำลูกกาคลอง 6 จังหวัดปทุมธานี
ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรได้ทาง   www.kolourinthepark.com
ราคาปกติสำหรับบัตรผ่านเข้างานทั้งสองวันจะอยู่ที่ 1,900 บาท และจะปรับขึ้นเป็น 2,100 บาทในช่วงสุดท้ายก่อนงานจะเริ่ม

หากซื้อบัตรหน้างานราคาจะอยู่ที่ 2,500 บาท   และสำหรับบัตรวันเดียวนั้น
(เลือกวันเสาร์ หรืออาทิตย์)    ราคาจะอยู่ที่ 1,550 บาทเท่ากัน

สถานที่
ไทยเวคพาร์ค ลำลูกกา สนามกีฬา ศูนย์กีฬา และสถานที่จัดแข่งกีฬา
ใน Lam Luk Ka, Pathum Thani, Thailand

 

รองนายกรัฐมนตรีมอบประกาศนียบัตรให้ผู้เข้าอบรมโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย และพิธีเปิดเทศกาลบิ๊กฮอลิเดย์ 2017

ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย
เทศกาลบิ๊กฮอลิเดย์  2017

 

มูลนิธิส่งเสริมการลูกเสือแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับ สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม จัดโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยเหลือคนจมน้ำ เพื่อถวายเป็น พระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9

สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ เปิดคอร์สเรียนว่ายน้ำฟรีแก่ประชาชนผู้สนใจจำนวน 999 คนโดยใช้หลักสูตรอเมริกันเรดคอร์สซึ่งเป็นหลักสูตรการช่วยชีวิตทางน้ำซึ่งสวนสยาม  มีความเชี่ยวชาญมากว่า 37  ปี โดยผู้เรียนจะสามารถว่ายน้ำเป็น ช่วยเหลือตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้เมื่อประสบภัยทางน้ำ ดำเนินการสอนโดยครูฝึกสอนวุฒิปริญญาตรีพลศึกษา พร้อมรับมอบใบประกาศเกียรติคุณเมื่อจบหลักสูตร



พิธีมอบประกาศนียบัตรโครงการ “ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย และช่วยชีวิตคนจมน้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ในหลวงรัชกาลที่ 9

วันที่18 มีนาคม 2560  เวลา15.00 น.  ที่ อาคารบาซาร์ สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ  โดยฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรีมอประกาศนียบัตรให้ผู้เข้าอบรมโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมพิธี

พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมพิธีมอบประกาศนียบัตรโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยงานดังกล่าวกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา/มูลนิธิส่งเสริมลูกเสือแห่งประเทศไทยและ siam park city สวนสยามร่วมกันจัดขึ้น เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงห่วงใยในทุกข์สุขของประชาชนคนไทย ตลอดรัชสมัยที่ทรงครองสิริราชสมบัติ

โครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ จัดขึ้น โดยมีครูฝึกสอน จากสวนสยามที่มีความชำนาญในหลักสูตร America Red Cross

สำหรับโครงการว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัยและช่วยชีวิตคนจมน้ำ จัดขึ้น โดยมีครูฝึกสอน จากสวนสยามที่มีความชำนาญในหลักสูตร America Red Cross สอนให้กับผู้สนใจจำนวน 999 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่อายุน้อยที่สุดคือ 7 ปี และอายุมากที่สุด 72 ปีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้สถิติการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของกลุ่มเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีและเด็กมักจะเสียชีวิตพร้อมกันหลายคนเนื่องจากไม่รู้วิธีการเอาตัวรอดในน้ำและวิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง โครงการดังกล่าวจัดสอนว่ายน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำโดยครูฝึกสอนจากสวนสยามที่มีความชำนาญในหลักสูตรอเมริกา

Big Holiday 2017 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

พร้อมกันนี้ได้ทำพิธีเปิดเทศกาล  Big Holiday 2017 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้  สมาชิกในครอบครัว  รวมถึงนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้พักผ่อนร่วมกันในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 มีนาคม ถึง 7 พฤษภาคม 2560


สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ

โดยจะมีกิจกรรมสร้างสรรค์ตลอดเทศกาล นอกจากนี้ สวนสยามยังได้มอบโปรโมชั่นพิเศษแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติผู้มีถิ่นพำนักในประเทศไทย สามารถซื้อบัตร  Si-Am Big Pack ในราคาพิเศษ เพียง 500 บาท จากราคาปกติ 900 บาท ซื้อบัตรครั้งเดียว  สามารถใช้บริการสวนน้ำ
และเครื่องเล่นทุกชนิดได้ไม่จำกัดรอบตลอดทั้งวัน



สนุกสุดเหวี่ยงไปกับเครื่องเล่นสุดมันส์ ชุ่มฉ่ำไปกับทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ ให้บริการสวนน้ำที่มีทะเลเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกรับรองโดยกินเนส เวิลด์ เรคคอร์ดส ที่มีทั้งธารน้ำวน ธารน้ำตก สไลเดอร์ยักษ์ ซูปเปอร์สไปรัล และเครื่องเล่นทางน้ำใหม่ล่าสุดสำหรับครอบครัว Si-Am Lagoon จากบริษัท Proslide ผู้ผลิตระดับโลกจากประเทศแคนาดา ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในเทศกาลสงกรานต์

 

นอกจากนี้ สยามพาร์คซิตี้ สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯ ยังให้บริการสวนสนุกซึ่งพรั่งพร้อมด้วยเครื่องเล่นมาตรฐานสากลระดับโลกกว่า 30 ชนิด อาทิ
วอร์เท็กซ์ รถไฟเหาะตีลังกาเกลียวสว่านใหญ่ที่สุด1  ใน2 ของโลก, ไจแอ้นดร็อป ยักษ์ตกตึกที่สูงที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ล็อกฟลูมล่องแก่งขนาดยักษ์จากประเทศเยอรมันนี, แอฟริกาแอดเวนเจอร์ ท่องป่าแอฟริกา, แกรนด์แคนยอนเอ๊กเพรส รถไฟหัวม้า, บูมเมอแรงรถไฟเหาะตีลังกาถอยหลังยอดนิยม ฯลฯ

สวนสยามทะเลกรุงเทพ เป็นสวนสนุกและสวนน้ำ ตั้งอยู่ที่  ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว บนเนื้อที่ 300 ไร่ ได้ฉายาว่า ทะเลกรุงเทพ
คำขวัญคือ สวนสยาม โลกแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม

สอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร.0-2919-7200 ต่อ 308, 309
คุณพรศรี 090-8801070
www.facebook.com/siamparkcity.fanpage/

แอปเปิ้ลซันฟูจิ แอปเปิ้ลโอริน จากอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น มาถึงเมืองไทยแล้ว

แอปเปิ้ลสัญชาติญี่ปุ่น
บินมาเสิร์ฟความอร่อยกันถึง 2 สายพันธุ์

แอปเปิ้ลสัญชาติญี่ปุ่น
แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ใช่แค่สด สะอาด ต้องทานแล้วปลอดภัย การทานแอปเปิ้ลจะไปกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เมื่อพอพูดถึง แอปเปิ้ล อดไม่ได้ที่จะคิดถึงแอปเปิ้ล จากญี่ปุ่น แอปเปิ้ลแดงสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ต้องยกให้ แอปเปิ้ลฟูจิ  (Fuji)  มีสีแดงสดใส เนื้อกรอบ รสชาติหวานฉ่ำ การปลูก
แอปเปิ้ลใน จ. อาโอโมริ ญี่ปุ่น  เริ่มเมื่อ 130 ปีก่อน ในขณะนี้มีประมาณ 300 สายพันธุ์ แถมเป็นแหล่งปลูก แอปเปิ้ลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น

นางสาววิภาวี วัชรากร กรรมการผู้จัดการ (กลาง) วางแผนเปิดตัวสินค้านำเข้าตัวแบรนด์ดอสคอย (Doscoy) จากประเทศญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 ที่ผ่าน ดอสคอย ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำ จากจังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น และเป็นการเปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกในประเทศไทย แอปเปิ้ลซันฟูจิหวาน หอม อร่อย แอปเปิ้ลโอริน เป็นตระกูลแอปเปิ้ลเขียว ที่มีรสหวานละมุนลิ้น อร่อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก

นางสาววิภาวี วัชรากร กรรมการผู้จัดการ ผลไม้เกรดพรีเมียมทุกชนิด อันดับ1ของประเทศไทย กล่าวว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยเวลานี้อยู่ในช่วงขาลงเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง ส่งผลให้กำลังซื้อหดตัว ตลาดนำเข้าผลไม้ของประเทศไทย มีดัชนีการจับจ่ายใช้สอยขึ้น – ลง ตามช่วงเทศกาล แต่ถึงกระนั้น ผลประกอบการในไตรมาสแรก ปี 60  ของบริษัทฯ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในไตรมาสแรกนี้ บริษัทฯ  มีการวางแผนเปิดตัวสินค้านำเข้าตัวใหม่ ถึง 2 ประเทศคือ ผลไม้นำเข้าจากประเทศเกาหลี แบรนด์อิพมาชุม (เปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนมีนาคม 60) และ แบรนด์ดอสคอย (Doscoy) จากประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ชั้นนำ จาก จังหวัด
อาโอโมริ เปิดตัวแบรนด์ครั้งแรกในประเทศไทย

สาเหตุในการนำเข้าผลไม้จาก 2 ประเทศนี้ เพื่อเป็นการเปิดตลาดใหม่ และสร้างความคึกคักให้กับตลาดนำเข้าผลไม้ในประเทศไทย ให้มีสีสันมากขึ้น

“เราทุกคน ทำงานกันอย่างหนัก เพื่อทำการวิจัย สำรวจตลาด และค้นหาผลไม้ชั้นดี ที่ไม่ใช่แค่สด สะอาด ปลอดภัย แต่ยังต้องเป็นอะไรที่ทันสมัย
ตรงกับเทรนด์  โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ติดตามข่าวสาร
เพิ่มเติมและกิจกรรมดีๆ จาก วัชมนฟู้ด”

ได้นำเข้า แอปเปิ้ล 2 สายพันธุ์จาก แบรนด์  ดอสคอย  Doscoy
ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำ จาก จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่

1. แอปเปิ้ลซันฟูจิ โดยขนาดที่บริษัทฯ นำเข้ามา จะมีขนาดเล็กลงจากท้องตลาดทั่วไป ทำให้สามารถรับประทานได้ทุกเวลา
ซึ่งยังคงความเป็นเกรดพรีเมียม แต่ในราคาที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถจับต้องได้ ซึ่งแอปเปิ้ลซันฟูจิแท้จากประเทศญี่ปุ่นมีความฉ่ำน้ำ และหวานกว่าแอปเปิ้ลทั่วไป

2. แอปเปิ้ลโอริน เป็นตระกูลแอปเปิ้ลเขียว ที่มีรสหวานละมุนลิ้น อร่อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และแอปเปิ้ลทั้ง 2 สายพันธุ์นี้
สามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือน พฤศจิกายน- เมษายน และสามารถ
จัดจำหน่ายได้ในช่วงเดือน ธันวาคม – สิงหาคม

บริษัท วัชมนฟู้ด จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่าย แอปเปิ้ลขนาดกลาง เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการฉีกกฎเดิมๆ ที่ผู้บริโภคยึดติดกับผลไม้ลูกใหญ่ (เนื่องจากนำมาจัดกระเช้าของขวัญดูสวยกว่า) แต่หากวัดกันที่รสชาติแล้ว แอปเปิ้ลขนาดกลางนั้น มีรสชาติที่อร่อยกว่าขนาดใหญ่มาก  ซึ่งเห็นได้จากผลการวิจัยการสำรวจผู้บริโภคประเทศไต้หวันและฮ่องกง พบว่า แอปเปิ้ลขนาดกลาง เป็นขนาดที่มีการซื้อเพื่อบริโภค อย่างต่อเนื่องบ่อยที่สุด

นอกจากนี้  บริษัทฯ ยังมีการศึกษาเทรนด์จากประเทศไต้หวัน และฮ่องกง ว่าสินค้าอะไรมีความโดดเด่น มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แบรนด์ดอสคอย  Doscoy ถือว่าตอบโจทย์บริษัทฯ ได้ทุกข้อ และคาดว่าจะเป็นที่นิยมในประเทศไทย เช่นกัน บริษัทฯ  มีความคาดหวังอัตราการเติบโต อยู่ที่ 500 เท่าจากปัจจุบัน โดยตั้งระยะเวลาไว้ 3 – 5 ปีในอนาคต โดยมีการวางแผนทำการตลาด ทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว  ด้วยความที่แบรนด์  ดอสคอย Doscoy มีความแข็งแรงมากอยู่แล้วในประเทศญี่ปุ่น จึงไม่ยาก ในการครีเอทแบรนด์ให้น่าสนใจ  สามารถสร้างความแตกต่างจาก แอปเปิ้ลแบรนด์ต่างๆ ในตลาดได้ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ และกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรม ของประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก

แบรนด์ดอสคอย Doscoy ถือว่าตอบโจทย์บริษัทฯ ได้ทุกข้อ

การทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาด  กับการจับมือร่วม  กับ  แบรนด์  ดอสคอย (Doscoy)  มีแผนในการลงพื้นที่ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลองชิมหลายจุดด้วยกัน
อาทิ กูร์เมต์มาร์เก็ต (Gourmet market) และโฮมเฟรชมาร์ท รวมถึงเทสโก้โลตัส ฯลฯ เป็นต้น

การเปิดตัวสินค้าในครั้งนี้ ถ้าใครชื่นชอบแอปเปิ้ลมากๆ ลองแวะไปที่
กูร์เมต์มาร์เก็ต  (Gourmet Market) เอ็มควอเทียร์  เนื่องจากได้รับความ
ร่วมมือเป็นอย่างดี และกูร์เมต์มาร์เก็ต (Gourmet Market)   ยังพร้อมสนับสนุนบริษัทฯ ในอีกหลายแคมเปญ อีกทั้งยังเป็นช่องทาง  การจัดจำหน่ายหลักอีกด้วย

ข้อมูลติดต่อกลับ
@vachamonfood ส่งข้อความเลย
information@vachamon.com
http://www.vachamon.com/
โทร 02 902 9989

Facebook : Vachamon food

งานนี้มีเฮ ใส่บิกินีแล้ว Dance ไปพร้อมๆ กัน เลิฟ กาน เถอะ คอนเสิร์ต

 เลิฟ กาน เถอะ คอนเสิร์ต
@Westwonder Waterpark

 

West Wonder ที่นี่เป็น สวนน้ำแห่งใหม่ และแห่งเดียว กลางเมืองกาญจนบุรี มีสไรเดอหลายแบบ เยอะดี สีสรร สวยงาม เป็นหนึ่งในสถานที่ จัดงานใหญ่ เลิฟ กาน เถอะ คอนเสิร์ต ให้คุณเตรียมจดลงปฏิทิน จะได้มั่นใจได้ว่าไม่พลาดการแสดงสดจากศิลปินคนโปรดแน่นอน

จะหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว กาญจนบุรีเค้าก็มีที่เที่ยว สามารถตอบโจทย์ครบในจังหวัดเดียว ขนาดเดือนนี้เข้าสู่หน้าฝน แต่ที่เที่ยวเปิดใหม่อย่าง Westwonder Waterpark สวนน้ำแห่งใหม่ใหญ่สุดในกาญจนบุรี ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงมีนาคมที่ผ่านมา ยังมียอดคนเข้าเที่ยวเยอะสุดๆ ที่นี่เค้ามีอะไรดี เราตามไปที่ สวนน้ำ West Wonder ดินแดนมหัศจรรย์ตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ทีพื้นที่กว้าง สวนน้ำน่าเล่น มีเครื่องเล่นให้เลือกเยอะ การเดินทางสะดวกห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพียง 2 กิโลเมตร

เลิฟ กาน เถอะ คอนเสิร์ต เป็นอีกหนึ่งเทศกาลดีๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่แวดล้อมไปด้วยวิวของสายน้ำ ภูเขา ทัศนียภาพที่สวยงาม ผสมผสานกับความเป็นฮิปปี้ยิ่งทำให้งานดนตรี  มาใส่บิกินี แล้ว Dance ไปพร้อมๆ กัน
เลิฟ กาน เถอะ คอนเสิร์ต
วันที่ 6 พฤษภาคม 2560
เปิดจำหน่ายบัตรตั้งแต่วันที่  10 มีนาคม นี้ เป็นต้นไป
ที่ All Ticket / 7-11 กว่า 11,000 สาขา ทั่วประเทศ
หรือ ทาง On-line ที่  www.allticketthailand.com

ซื้อบัตรตั้งแต่วันที่ 10-16 มีนาคม นี้…ลดทันที!!!  เหลือเพียงใบละ 800 บาท

บัตร ราคา 1,000 บาท…พิเศษ มา 5 จ่าย 4
(ซื้อพร้อมกัน 5 ใบ ลดเหลือใบละ 800 บาท)
ตั้งแต่ 17 มีนาคม เป็นต้นไป
พบกับศิลปินคุณภาพคอนเสิร์ตสุดมันส์…พร้อมศิลปินสุดฟิน Slot machine ,Thaitanium ,Aof Pongsak ,Seasonfive ,7Days Crazy และ ทีม DJ.TNT / DJ.Suraboon พร้อมด้วย Mc สุดเซ็กซี่ Nicky พริตตี้เงินล้าน…สนุกชุ่มฉ่ำในสวนน้ำ ที่ West Wonder Water Park กาญจนบุรี…แล้วพบกัน!!!

รายละเอียดเพิ่มเติมที่
www.allticketthailand.com
Call centre : 02 7117788

 

Top Knot รูฟท็อปโรแมนติก ย่านเจริญกรุง

Top Knot – Rooftop Bar & Restaurant in Bangkok

วิวสวยของแม่น้ำเจ้าพระยาและบรรยากาศสุดชิลล์

ดินเนอร์สุดหรู  ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฉลองรางวัล KTC Real ครั้งที่ 43  ดินเนอร์สไตล์ Family-Style dinner ที่ร้านภาพรวมให้ความรู้สึกเหมือนโต๊ะดินเนอร์
ที่ดูอบอุ่น  บรรยากาศสุดฟิน ที่มาพร้อมกับวิวโรแมนติก เหมาะสำหรับ  คู่รักที่กำลังมองหาร้านอาหารริมแม่น้ำ  สำหรับมื้อดินเนอร์ที่แสนหวาน ราวกับเป็นเรื่องของความรักใครที่อยากหาโอกาสพิเศษๆ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่วางไว้อย่างลงตัว  ที่นี่ใช้จานขาวเพลนๆ  ธรรมดา ให้เหมือนกับจานสไตล์ครอบครัว มีแก้วคอกเทลแก้ว  โปรดชื่อแกร๋ๆ  เยาวราช เป็นองค์ประกอบของภาพ   และเสริมบรรยากาศด้วยอาหารอร่อยๆ  โดยการใช้ เทียน ดอกไม้ ต้นไม้ ต่างๆ
ให้ดูอบอุ่น โรแมนติกเต็มอิ่มจุใจ

ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกบนชั้นดาดฟ้าดูวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ร้าน rooftop   อาหารTopknot rooftop Bar & restaurant ตั้งอยู่บนโรงแรมสุดชิค Hotel Once Bangkok เคล้าเสียงดนตรีตามแบบไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง กับ Live band or DJ pop music พร้อมเครื่องดื่มนานาชนิดๆ อาทิ ไวน์ เบียร์สด Gin and Vodka บนเคาเตอร์บาร์ขนาดยักษ์ เพียบพร้อมไปด้วยแสงสีเสียงเพลง Hotel Once บูทีคโฮเทล โมเดิร์นคลาสสิกในย่านเจริญกรุง

ถ้าความสุขของคุณ คือการได้ทานอาหารอร่อย ในบรรยากาศริมน้ำ พร้อมสัมผัสวิวสวยสุดโรแมนติก ยามพระอาทิตย์กำลังตกดิน ลักษณะที่นี่เป็นบาร์อยู่บนTOPKNOT รูฟท็อปสไตล์อาร์ตเดโคสุดเก๋ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านเจริญกรุง  ส่วนที่ชั้น 9 เป็นรูฟท็อปที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นอาร์ตเดโค ใช้พื้นหินขัดสีขาวดำสลับกันเป็นแพทเทิร์นต่าง ๆ สามารถมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตก

ส่วนที่ชั้น 9 เป็นรูฟท็อปที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นอาร์ตเดโค ใช้พื้นหินขัดสีขาวดำสลับกันเป็นแพทเทิร์นต่าง ๆ สามารถมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตก เน้นการใช้สีน้ำตาลและสีเขียวมะกอก มีกรอบรูปต้นไม้ใบไม้ต่าง ๆ    เป็นรูฟท็อปที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นอาร์ตเดโค ใช้พื้นหินขัดสีขาว-ดำสลับกัน เป็นแพทเทิร์นต่าง ๆ สามารถมานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตก ที่นี่แบบใกล้ชิด

สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ณ ห้องอาหารโรงแรม โฮเท็ล วันซ์ แบงค็อก

ท็อปน็อต รูทท็อป บาร์ แอนด์ กริล
ห้องอาหารอิตาเลียนบนชั้นดาดฟ้า โรงแรม โฮเท็ล วันซ์ โรงแรมสไตล์บูติกเปิดใหม่ บรรยากาศสบายๆ ชมวิวพระอาทิตย์ตก เหนือท้องน้ำเจ้าพระยา และเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ

◦ลด 15% สำหรับค่าอาหาร (ไม่รวมเครื่องดื่ม)
วันนี้ – 31 มี.ค. 60
สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง โรงแรม โฮเท็ล วันซ์ แบงค็อก
โทร. 02 688 2596

Special Thanks : Hotel Once Bangkok ร้านอาหาร Top Knot
เปิดให้บริการ 17.30-24.00 น. 2074/99
ถนนเจริญกรุง ซอย 72/2 วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120

ร้านอาหาร Top Knot เปิดให้บริการ 17.30-24.00 น
www.hotelonce.com

ความทรงจำหวานๆ โฮเต็ล วันซ์ แบงค็อก (Hotel Once Bangkok)

สไตล์ที่หรูหราสง่างาม ผสมผสานความ
ทันสมัยยุคที่ใครๆ ต่างโหยหาความคลาสสิค

ชีวิตและการเดินทาง เชื่อว่าคงมีหลายคนที่หลงรักการท่องเที่ยว และชอบเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ดิฉันเองเป็นอีกคน  ที่หลงใหลการท่องเที่ยว  อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมจาก Fb: KTC World  ให้บริการการเดินทางและท่องเที่ยวสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ให้บริการข้อมูลท่องเที่ยว สำรองตั๋วเครื่องบิน แพ็คเกจทัวร์ ที่พัก บัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว รถเช่า ทั่วโลก และด้วยความชอบความเก่าแก่ ย่านถนนเจริญกรุง อยากมีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์  จึงส่งใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทริป  KTC Real Team ครั้งที่  43

สวัสดีค่ะ  ชัญญ่า เพิ่งกลับจากเดินทางไปพักผ่อน  ย่านถนนเจริญกรุง สำหรับการท่องเที่ยวครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณรางวัลที่ได้รับจากกิจกรรมสุดหรู  KTC Real Team ครั้งที่ 43 ตอน Once is never enough at Hotel Once Bangkok  ครั้งเดียวไม่เคย พอ ณ โรงแรม วันซ์ แบงคอค ในกรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งโรงแรม ที่สำคัญในการสร้างสีสันให้ทริปนี้ ที่นี่เป็นโรงแรมที่ ถ้าเช็คอินแล้ว อยากบอกคนที่ไปด้วยว่า  ขอนอนอยู่ที่นี่ทั้งวันจะได้ไหม?

เมื่อไปถึงเรียกว่า Hotel Once  ถูกเนรมิตรให้กลายเป็น สถานที่สุดชิค บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ตั้งอยู่ ท่ามกลางความสวยงาม ย่านเจริญกรุง เป็นย่านอยู่อาศัยที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย จัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวทั่วโลก

อีกครั้งในชีวิต กับการได้เดินทางมาเยือน ย่านเจริญกรุงแห่งนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตนี้มีความสุขเหลือเกิน ยิ่งได้ที่พักที่อยู่ใจกลางเจริญกรุง เปรียบได้กับไลฟ์สไตล์สุดหรูตอบโจทย์ยุคนี้อย่างลงตัว

โฮเต็ล วันซ์ แบงคอด ที่มีสาธารณูปโภคที่ทันสมัยครบครัน การบริการดีเยี่ยมดุจญาติมิตร ทำให้ผู้มาเยือนอย่างเราประทับใจอยากที่จะลืมเลือน ทุกบาทคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป ถึงแม้จะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว แนวคิดที่Hotel Once Bangkok กรุงเทพฯ  โลโก้ที่ดูโมเดิร์น เรียบโก้ บวกกับทำเลใจกลางแหล่งช้อปปิ้ง เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์  ศูนย์การค้าริมแม่น้ำ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  หาง่ายระหว่างซ. เจริญกรุง 72-76 โอบล้อมการจัดภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้คัดสรรวิถีชีวิตคนเมือง
เข้ากันอย่างลงตัว

ทริปนี้ เราพักที่ห้อง 407 Executive Jacuzzi หลังเช็คอินเรียบร้อย ห้องพักบริเวณชั้น4  วัสดุที่ใช้ต้องสะท้อนได้ถึงความหรูหรา เช่น เก้าอี้ไม้ ซึ่งเป็นไม้ที่มีลายในตัวเอง มีความสวยงาม อ่อนช้อย แต่ขณะเดียวกันก็ดูสง่างามสไตล์หรูหราสง่างาม ผสมผสานความทันสมัยออกมาโดดเด่น ในรูปแบบของ Art Deco ความเป็นตะวันตกและตะวันออก มีห้องพักจำนวน 43 ห้อง ให้เลือกสรรผ่อนคลายพร้อมจะกล่อมคุณหลับก่อนนอนสบาย ในราคาระดับสามดาว เลือกตามความพอใจ

ดีลักซ์ เตียงแฝด  ( Deluxe Room – Twin Bed )
เอ็กเซกคิวทีฟ จากุซซี่  ( Executive Jacuzzi )
เอ็กเซกคิวทีฟ สตูดิโอ เตียงคิงไซส์ ( Executive Studio King )

รางวัลห้องพัก แบบ Executive Jacuzzi

Check in บริเวณล๊อบบี้ รับคีย์การ์ดกันค่ะ หลังจากพนักงานจัดการเรื่องการเช็ดอินให้เรียบร้อย ทางโรงแรมก็แจ้งว่า ห้องพักเราอยู่ที่ชั้น 4  โดยการการเปิดห้องจะใช้  Key  card แตะที่กลอนประตูก็จะเปิดออกตรงๆ  ภายในห้องขนาดกว้างเท่านี้ เฟอร์นิเจอร์แบบนี้ในห้องมี LCD TV ขนาดน่าจะประมาณ 20 นิ้ว ไม่ใหญ่ก มาก, กาต้มน้ำ แก้วน้ำ ชา กาแฟ, ตู้เซฟ, ผ้าเช็ดตัวสำหรับใช้ในห้อง ผืนใหญ่ 2 ผืน และผืนเล็ก 2 ผืน ไดร์เป่าผม สบู่ หมวกอาบน้ำ สะอาดดี มีน้ำเปล่าให้ฟรี 2 ขวด  Minibar ที่สุดแสนจะอลังการ ห้องเน้นความโปร่งสบาย รับแสงจากธรรมชาติได้อย่างทั่วถึง หน้าต่างทรงสูง

ถึงห้องพักกันแล้วค่ะ รูปนี้เป็นรูปที่ถ่ายตอนเช็คอิน เข้าไปสำรวจในห้องกันดีกว่าเตียงนอน หมอนหอม แสนนุ่ม นุ่มจริง ไรจริง หลับสบายทั้งคืน คอนเฟิร์ม ค่ะอากาศร้อนๆ แบบนี้ แช่น้ำ จิบดริ้งค์ กันไปเพลินๆ นอนชิว นอนสบาย กินลม ชมวิว แช่น้ำ เอาให้ครบกันเลยทีเดียว



ชีวิตดี๊ดี นอนชิว นอนสบาย นอนเอนกาย ที่นอนนุ๊มนุม ขาวสะอาด  ได้เป็นแบบผสมกับธรรมชาติ เพื่อให้ได้บรรยากาศของบ้านตากอากาศที่อาบน้ำแบบเอ็กเซกคิวทีฟ จากุซซี่  ( Executive Jacuzzi ) จะมีประตูกระจกปิดอีกที กันน้ำกระเด็น มีน้ำร้อน น้ำอุ่นให้เลือกด้วยลูกบิดฝักบัวนั่งๆนอนๆ ชมวิว จิบไวน์ เพลินอย่าได้บอกใคร เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ

Hotel Once  ออกแบบตกแต่งเรียบง่ายสบายๆ  หมอน ผ้าห่ม ไม่มีกรอบรูปผลงานของใครต่อใครให้เรียนรู้  และ ในส่วนของห้องน้ำ ดูสวย ดีงาม ใหญ่โต น่านอน ฮ่าๆ เราสามารถเลื่อนมู่ลี่ปิด-เปิด  เผื่อความมิดชิดสบายใจของใช้ครบครัน ดีงามตามท้องเรื่องค่ะ

ไปดูบรรยากาศรอบๆ โรงแรม กันค่ะ ส่วนด้านข้างทั้งสอยฝั่ง จะเป็นอาคาร 8 ชั้น กลับไป เข้าห้องพักกันดีกว่าค่ะ จากโรงแรมเข้า ซ.  เจริญกรุง 72/2 เข้าซอยไปนิดเดียว เราเช็คอิน ขึ้นลิฟท์ไป (ห้องพักเราอยู่ที่ชั้น 4) ที่นี่รายล้อมไปด้วยโรงแรมใหญ่ อันทันสมัย เป็นโรงแรมที่ค้มค่า คุ้มราคา เราขอแนะนำให้เป็น 1 ในโรงแรมน่าพัก

สำหรับมื่อเช้า   ทานอาหารเช้าที่ชั้น 8   ร้านอาหาร Top Knot  แจ้งหมายเลขห้องแล้วเข้าไปนั่งทานได้เลย อาหารเช้าแบบ  Buffet   มีอาหารหลายอย่าง ทั้ง American Breakfast ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ขนมปัง ซีเรียล สลัดผักสดๆ และ อาหารไทยเครื่องดื่ม  น้ำแอปเปิ้ล น้ำส้ม นมสด ชา กาแฟ

ฉลองแด่ค่ำคืนคุณภาพ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกบนชั้นดาดฟ้าดูวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ rooftop ที่ไว้รองรับผู้ที่เครซี่  วิวริมแม่น้ำ พื้นที่สำหรับงานแต่งงาน งานปาร์ตี้พร้อมรูฟท็อป รอให้เพื่อนๆ มาซิ่งแซปกันยันเช้า แล้วค่อยกลับไปนอนห้อง  คอมพลีทมื้่อนี้ ด้วยความฟินกับอาหาร 3 อย่าง

1. Fish & Siamese Flowers Chips

2.Grilled Black Tiger Prawn Watermelon Salad

3.Hokkaido Scallops with truffle & Garlic Cream Sauce

Fish & Siamese Flowers Chips

Grilled Black Tiger Prawn Watermelon Sald
Hokkaido Scallops with truffle & Garlic Cream Sauce

ร้านอาหาร Top Knot ตั้งอยู่ในโรงแรมสุดชิค Hotel Once Bangkok
เคล้าเสียงดนตรีตามแบบไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง กับ   Live band or DJ pop music พร้อมเครื่องดื่มนานาชนิดๆ อาทิ ไวน์ เบียร์สด  Gin and Vodka  เพียบพร้อมไปด้วยแสงสีเสียง  Hotel Once บูทีคโฮเทลสไตล์โมเดิร์นคลาสสิคในย่านเจริญกรุง

มื้่อค่ำที่ห้องอาหาร Top Knot   กันค่ะ ลักษณะเป็นบาร์อยู่บน 2 ชิดติดเส้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา  บรรยากาศดีสุดๆ  ส่วนใหญ่เป็นอาหารทานเล่น และอาหารหนัก รูฟท็อปแห่งใหม่บนชั้น 8 และชั้น 9 ของ Hotel Once อยากชวน จูงมือกันมาชมวิวแม่น้ำ ดินเนอร์สัมผัสวิวแม่น้ำเจ้าพระยา กับ Top Knot Bangkok สัมผัสบรรยากาศโรแมนติกบนรูฟท็อปกันดีกว่า

TopKnot  ชื่อของคุณน็อต หนึ่งในเจ้าของโรงแรม ซึ่งได้รังสรรค์ร้านอาหารแห่งนี้ โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ ชั้น 8 ที่เป็นโซนอินดอร์ ออกแบบภายใต้คอนเซปต์  Botanica Rooftop ร้านอาหารกลาสเฮาส์ในสวน โดดเด่นด้วยกระจกใส ผนังสีขาว ตกแต่งผนังด้วยรูปภาพและนานาพรรณไม้ ซึ่งจะเป็นเสมือนจุดพักเบรกสายตา ทำให้ห้องอาหารแห่งนี้มีชีวิตชีวา

แนะนำสำหรับใครที่อยากมา ควรโทรมาจองล่วงหน้าเสียหน่อย เพราะหลายห้องคิวเต็มยาวร่วมเดือนนะค่ะ

สรุปโดยรวมโรงแรม วันซ์ แบงคอค  สไตล์หรูหราสง่างาม  ผสมผสานความทันเป็นโรงแรมที่ทำเลดี เดินทางง่าย ที่จอดรถสบาย อยู่ติดกับโรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์เป็นอีกหนึ่งโรงแรมชั้นดี  ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าเรือโรงแรมรามาดา เดินมาไม่ไกลมาก สะดวกในการไปเที่ยว One day trip  หรือแวะ เอเชียทีค มาช่วงเย็น นั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสิน ออกประตู 2 เพื่อไปยังท่าเรือสาทร พอมาถึงก็จะพบแถวยาว ด้านซ้ายมือ นั่งเรือขอโรงแรมรามาดา  โรงแรมยังอยู่ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven  การบริการของพนักงานก็ดี สุภาพ และให้คำแนะนำในการท่องเที่ยวได้

รายละเอียดโปรโมชั่น Hotel Once Bangkok ร่วมกับบัตร KTC
โปรโมชั่นห้องพัก

Special Thanks : Hotel Once Bangkok และ ร้านอาหาร Top Knot
เปิดให้บริการ 17.30-24.00 น.
2074/99 ถนนเจริญกรุง ซอย 72/2  วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120
โทร. 0-2688-2596
www.hotelonce.com
Fb:Top Knot – Rooftop Bar & Restaurant in Bangkok

ทริปนี้ ไม่ไปไม่รู้ ชมการแข่งขันฟุตซอลท่าทรายแชมเปี้ยนชิพ จ.สมุทรสาคร

ศิลปินดาราจาก RS ALL TEAM พร้อมแล้วกับการแข่งขันฟุตซอล ท่าทรายแชมเปี้ยนชิพครั้งที่ 5 

ทริปนี้ไปที่ เมืองสามน้ำ ท่าฉลอม ไม่ไปไม่รู้ ..
การเดินทางไปยังเมืองท่าสมุทรสาครครั้งนี้ เพื่อร่วมชมพิธีปิดการแข่งขันฟุตซอลท่าทรายแชมเปี้ยนชิพ ที่ยิ่งใหญ่  และชมฟุตซอลทีมศิลปิน RS ปะทะ ทีม VIP จ.สมุทรสาคร  จัดขึ้นใน วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2560  โดยการเชิญของพีอาร์สาวสวย คุณพาขวัญ ปิ่นทอง  (ปู)  แล ะทีมงานองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย จ.สมุทรสาคร



การเดินทางจาก กรุงเทพ 10 โมงเช้า มุ่งหน้า จังหวัดสมุทรสาคร จุดหมายแรก นมัสการ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง (สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจชาวมหาชัย) ต่อด้วยชมความงดงาม ของ ศาลพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร

ศาลหลักเมือง จังหวัดสมุทรสาคร  เป็นเสาหลักเมืองที่สูงที่สุดในประเทศไทย และเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ประชาชนทั่วไป การสักการะเชื่อว่าหลักเมืองมีเทพยดาสิงสถิตย์  คอยปกปักษ์รักษา  มีอานุภาพที่จะดลบันดาลให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข มีความรุ่งเรืองสถาพรตลอดกาลปาวสาน

นมัสการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร (เจ้าพ่อวิเชียรโชติ)

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร หลังปัจจุบันเป็นอาคารเก๋งจีน ที่มีความสวยงามพร้อมตกแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอกอาคาร  ด้วยศิลปะแบบจีน

เดินทางต่อ ต่อด้วยชมความงดงาม ศาลพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร

ศาลพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่าฉลอม จ.สมุทรสาคร

มื้อเที่ยงแวะ รับประทานอาหารกลางวัน ร้านนี้แนะนำอาหารอร่อย เจ้าของร้านมีฝีมือจริงๆ ราคาเป็นมิตร อร่อยคุณภาพ ราคาแบบบ้านๆ ริมเขื่อน อากาศเย็นดี  ที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย อร่อยมาก คนเยอะเต็มทุกโต๊ะ ใครมาแถวนี้ต้องห้ามพลาด ณ ร้านเจ๊ไพร ท่าฉลอม อิ่มกับอาหารมื้อกลางวันสุดอร่อยแล้ว ไปต่อที่ บ้านดอนไก่ดี หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่หลายคนยังไม่เคยมา

บรรยากาศ บริเวณ ร้านเจ๊ไพร ท่าฉลอม

หนูเล็กเบญจรงค์(หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี). 34 หมู่ 1 ตำบลดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครสถานีต่อไป ต่อที่ บ้านดอนไก่ดี หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งโครงการของที่นี้ หมู่บ้านดอนไก่ดี เห็นถึงความสำคัญของศิลปะไทย โดยสร้างโฮมสเตย์บ้านดอนไก่ดี เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบและอยากเรียนรู้ฝึกฝนศิลปะไทยแหล่งผลิตเบญจรงค์ฝีมือเยี่ยม ชาวบ้านที่นี้มีอาชีพทำเบญจรงค์ จนได้ชื่อว่าหมู่บ้านเบญจรงค์

เดินชมวิถีชีวิต แบบสมดุล ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ เพื่อสร้างมูลค่าใหม่ บ้านเก่าของคนท่าฉลอม เครื่องเบญจรงค์  เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง และปัจจุบันมีชื่อเสียง จนกลายเป็น  สัญลักษณ์ที่ประสานกัน ระหว่างเครื่องถ้วยกับรูปไก่ ซึ่งมาจากชื่อหมู่บ้าน

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตซอล ท่าทราย แชมป์เปียนชิพ ครั้งที่ 5

ด้วยวิถีชีวิต แบบสมดุล ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ เพื่อสร้างมูลค่าใหม่ บ้านเก่าของคนท่าฉลอม เครื่องเบญจรงค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ประสานกัน ระหว่างเครื่องถ้วยกับรูปไก่ ซึ่งมาจากชื่อหมู่บ้าน

ช่วงบ่าย ตามกำหนดการเดินทาง สู่ตำบลท่าทราย ที่ สนามกีฬาท่าทราย ต้านยาเสพติดคลองครุ ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตซอล ท่าทราย แชมป์เปียนชิพ ครั้งที่ 5 ต้ายภัยยาเสพติด   ชิงถ้วยรางวัลของ  ร้อยตำรวจโทอาทิตย์ บุญญะโสภัต  อธิบดีกรมการปกครองและชิงถ้วยของ  นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โดยมี  นายสิริบูรณ์ ทองบางเกาะ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย ข้าราชการ  ผู้บริหาร พนักงาน องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย และ  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน และประชาชน เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก  หลังจากพิธีเปิดเสร็จสิ้น ก็เป็นการแข่งขันฟุตซอลคู่พิเศษ  ระหว่างทีม  VIP  สมุทรสาคร นำโดยนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กับทีมรวมดารา นักแสดงจากค่าย RS ออลสตาร์



นายสิริบูรณ์ ทองบางเกาะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย กล่าวว่า การแข่งขันฟุตซอล ท่าทราย แชมป์เปียนชิพ ครั้งที่ 5 ต้ายภัยยาเสพติด จะจัดระหว่างวันที่ 3-12 มีนาคม 2560 ที่สนามกีฬาท่าทราย  ต้านยาเสพติดคลองครุ ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยกำหนดจัดการแข่งขันกีฬาฟุตซอลขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 ประเภท  ได้แก่

1.ประเภทเยาวชนชาย อายุไม่เกิน 12 ปี
2.ประเภทเยาวชนชายอายุไม่เกิน 14 ปี
3.ประเภทเยาวชนชาย อายุไม่เกิน 16 ปี
4.ประเภทหญิงทั่วไป
5.ประเภทประชาชนทั่วไป

การจัดงานมีวัตถุประสงค์  เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาเด็ก  และเยาวชนให้มีความสามารถทางด้านกีฬาฟุตซอล มีสถานที่ในการแสดงออกทางด้านกีฬารู้จักการเล่นที่ถูกวิธี รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และสร้างพื้นฐานการเป็นนักกีฬาที่ดีให้เกิดประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนตลอดจนการต่อต้านยาเสพติด

ประทับใจการจัดสถานที่และ ระเบียบในบริเวณการจัดงาน  ของทีมงาน  องค์การบริหารส่วนตำบลท่าทราย จ.สมุทรสาคร Toptotravel  ต้องขอขอบคุณที่จากใจจริง ที่ให้โอกาส เรียนเชิญ เข้าร่วมพิธีปิดการแข่งขันฟุตซอลท่าทรายแชมเปี้ยนชิพ ครั้งที่ 5 ที่ จ.สมุทรสาคร สุดยอดนักเตะมืออาชีพ  กับลีลาแบบ VIP ของท่านประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครกับทีมศิลปินหญิงจากอาร์สยาม ในการแข่งขันฟุตซอลท่าทรายแชมเปี้ยนชิพ แล้วพบกันใหม่ในปีหน้าค่ะ

การเดินทางอันน่าอัศจรรย์ไปยังประเทศที่น่าเหลือเชื่อ HOLAI Fly Me To Mexico

เปิดประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับสู่ เม็กซิโก

HOLAI Fly Me To Mexico  สหรัฐเม็กซิโก (United Mexican States) เป็นประเทศที่มีนโยบายทางเศรษฐกิจและการค้าที่น่าสนใจประเทศหนึ่ง รัฐบาลมีการสนับสนุนทางการค้าระหว่างประเทศ  โดยเฉพาะการส่งออก ที่มีการเติบโตติดอันดับ 1 ใน 15 ประเทศผู้ส่งออกสูงสุดของโลก

ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์  ถือว่าเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เปิดเส้นทางบินใหม่สู่เม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก

ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ จัดงาน  HOLA! Fly Me To Mexico  เชิญร่วมเปิดประสบการณ์การเดินทางเหนือระดับ มร.เฉิน หลิ่ง ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย สายการบินไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ กล่าวว่า สายการบิน “ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์” ถือว่าเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องบินประจำการทั้งสิ้นมากกว่า 700 ลำ และมีเครือข่ายการบินที่กว้างขวางครอบคลุมกว่า 1,062 จุดหมายปลายทาง ใน 177 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการบินสู่ทวีปเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา, ตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย อีกทั้งยังมีสถิติการบินอย่างปลอดภัยต่อเนื่องกว่า 17.14 ล้านชั่วโมง ซึ่งในปี ค.ศ.2016 ที่ผ่านมาได้ให้การบริการแก่ผู้โดยสารไปแล้วกว่า 115 ล้านคน และปัจจุบันมีเที่ยวบินไทย – จีน โดยออกจากกรุงเทพฯ, เชียงใหม่ และภูเก็ต จำนวน 260 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เฉลียวันละ 20 เที่ยวบินต่อวัน สู่ 10 เมืองเด่นของประเทศจีน ได้แก่ เมืองกวางเจา, เซินเจิ้น, ซัวเถา, หนานหนิง, กุ้ยหลิน, ฉางซา, อู่ฮั่น, เจิ้งโจว, กุ้ยหยาง และเสิ่นหยาง

เมื่อปี ค.ศ.2016 ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ จำนวน 2 เที่ยวบิน คือ (7 ธันวาคม 2016) บินทุกวันเส้นทางสู่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา และ (10 ตุลาคม 2016) สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน เส้นทางสู่เมืองอะดิเลท ประเทศออสเตรเลีย

และในปี ค.ศ.2017 ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ มีนโยบายที่จะเปิดเส้นทางบินใหม่สู่ เมืองเม็กซิโก ซีตี้ ประเทศเม็กซิโก สัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน คือในวันจันทร์, พฤหัสบดี และเสาร์ (ขาไป) วันอังคาร์, ศุกร์ และอาทิตย์ (ขากลับ) ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 26 ชั่วโมง (รวมเวลาในการต่อเครื่องที่กวางเจา และกวางเจา-เม็กซิโก จะแวะที่แวนคูเวอร์ ประมาณ 1 ชั่วโมง) ซึ่งสามารถประหยัดเวลาได้ถึง 7-14 ชั่วโมง เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางด้วยสายการบินอื่นๆ และสำหรับเครื่องบินที่ใช้ คือ กรุงเทพฯ-กวางเจา ใช้เครื่องบิน 737-800 และกวางเจา-เม็กซิโก ใช้เครื่อง 787 Dream Liner โดยเที่ยวบินปฐมฤกษ์ จะมีขึ้นในวันที่ 10 เมษายน ศกนี้
พร้อมราคาโปรโมชั่นชั้นประหยัด เริ่มต้นที่ 35,730 บาท (รวมภาษี) เท่านั้น

ตลาดหลักๆ ของเส้นทาง กรุงเทพฯ- เม็กซิกัน คือ ชาวเม็กซิกันที่อาศัยอยู่ในไทย รวมถึงนักธุรกิจชาวไทยและชาวเม็กซิกันที่มีการค้าระหว่าง
ไทย-เม็กซิโก ถือว่าตลาดจีนยังคงเป็นตลาดหลักของเส้นทางนี้ เพราะปัจจุบันมีนักธุรกิจทั้งจีนและเม็กซิกัน เดินทางไปมามากขึ้น และยังเป็นการเชื่อมเครือข่ายการบินของ ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ ให้กว้างขวาง ครอบคลุมมากขึ้น เพราะในปัจจุบันเส้นทางในอเมริกาเหนือไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ มีให้บริการมากถึง 6 เมืองด้วยกัน คือ ลอสแอนเจลิส, ซานฟรานซิสโก, นิวยอร์ค, แวนคูเวอร์, โตรอนโต และล่าสุด เม็กซิโก ซีตี้ ประเทศเม็กซิโก

ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ ถือว่าเป็นสายการบินจีนที่ทันสมัย ให้บริการด้วยเครื่องบินที่ทันสมัย เครื่องใหม่ สะอาด ปลอดภัย การบริการแบบ FULL SERVICE AIRLINES ในขณะที่ความได้เปรียบในเรื่องเวลาในการรอเปลียนเครื่อง ซึ่งแต่ละเส้นทางใช้เวลาในการต่อเครื่องเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณเท่านั้น และราคาที่ดึงดูดใจ ยังคงเป็นจุดขาย เนื่องจากมีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งประหยัด และสะดวกสบาย และในเร็วๆ นี้ ไชน่า เซาท์เทอร์น แอร์ไลน์ ยังมีแผนที่จะเปิดเส้นทางบินใหม่ ไม่ว่าจะเป็น กวางเจา-เวียงจันทร์ ประเทศ สปป.ลาว และกวางเจา-โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา อีกด้วย มร.เฉิน หลิ่ง กล่าวปิดท้าย

งานแถลงข่าวเปิดเส่นทางการบินใหม่  ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย สาขาบินไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์  ,มร.จาน เชน วู อุปจีนประเทศไทย,ไฆเม บีร์กิลิโอ นัวลาร์ด ชานเชช   เอกอัครทูตสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทย และ จาน ชิน หง ผู้อำนวยการท่องเที่ยวจีน  ประจำสำนักงานกรุงเทพฯ

จัดงาน เพื่อเผยแพร่ข่าวสารการเปิดเส้นทางบินใหม่สู่ประเทศเม็กซิโก
ณ ห้องอาหารเม็กซิกาโน่

โรงแรมแบรนด์ท์ ในค่ำคืน
วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม 2560

เปิดนิทรรศการ คน เงิน ผี สิ่งเหล่านี้เป็นการเคลื่อนไหวของประวัติศาสตร์และเทคโนโลยี

 จิม ทอมป์สัน เรียนเชิญร่วมงานแถลงข่าวเปิดนิทรรศการ  People, Money, Ghosts (Movement as Metaphor)

นิทรรศการสื่อผสมที่นำเสนอเรื่องราวการอพยพย้ายถิ่นและพลวัตทางสังคมจาก 3 กลุ่มศิลปินอาเซียน   กลุ่มศิลปินอาเซียน มุ่งสำรวจว่าการเดินทางกับการอพยพของประชากรและอุตสาหกรรมทั้งหลาย แนวคิดทฤษฎีกับความเชื่อทางจิตวิญญาณ สุนทรียะกับวิทยาการ และตัวศิลปินเอง มีส่วนสร้างโลกของเราขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งภายในและนอกเหนือภูมิภาค  ที่เราเรียกว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภาวะดังกล่าวปรากฏชัดในการสร้างผลงานของศิลปินผู้แสดงงานครั้งนี้

นิทรรศการนี้จึงเกี่ยวกับกระบวนการของการเคลื่อนย้ายด้วยตัว นิทรรศการเองเฉก  เช่นบานพับที่พลิกแพลงได้หลายทิศทางโดยขึ้นกับตัวงานศิลปะแต่ละชิ้น มากกว่าตัวคำถามภายในชิ้นงานที่เปล่งเสียงได้ทั้งที่นี่และทุกหนแห่ง ผลงานจัดแสดงทั้งหมดของล้วนสร้างขึ้นในพื้นที่ห่างไกลความคุ้นชิน กล่าวคือไม่ใช่เมืองอันเป็น บ้าน ของศิลปิน และต่างได้รับอิทธิพลจากความหมายจำเพาะของพื้นที่ทั้งในแง่มุมเชิงประวัติศาสตร์กับโลกร่วมสมัย ผลงานในนิทรรศการคำนึงถึงการเคลื่อนย้ายทั้งในฐานะประสบการณ์และวัตถุแห่งการสืบค้นวิจัยทางศิลปะ ศิลปินแต่ละคนเลือกคำถามและประเด็นซึ่งเชื่อมโยงกับการไร้ถิ่นฐานของผู้คน ความพลิกผันเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวงของดินแดนอื่น และผลกระทบสืบเนื่องอันหลอกหลอนของสิ่งเหล่านั้น ในฐานะร่องรอยทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่ร่วมสมัย พื้นที่ในความสนใจเหล่านี้  จึงเป็นกระจกส่องสะท้อน  ทั้งประสบการณ์ส่วนตัวในการเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน
ของศิลปิน  และกระบวนการทำงานของพวกเขา


People, Money, Ghosts ผลงานเหล่านี้ ผ่านการคัดสรรโดยภัณฑารักษ์ชาวออสเตรเลีย อาศัยอยู่พนมเปญ โรเจอร์ เนลสันพูดคุยเกี่ยวกับงานนิทรรศการ โดย  คุณกฤติยา กาวีวงศ์ – ผู้อำนวยการ หอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน มิสเตอร์โรเจอร์ เนลสัน ภัณฑารักษ์ประจำนิทรรศการ

ศิลปิน : ไขว สัมนาง, เอมี เลียน &เอ็นโซ คามาโช, เหงียน ธี ธันห์ ไม ได้นำเสนอเรื่องราว การอพยพย้ายถิ่นและพลวัตทางสังคม และการอพยพย้ายถิ่นของประชากรและอุตสาหกรรมต่างๆที่เป็นดั่งฟันเฟืองสำคัญในการสร้างและขับเคลื่อนพลวัตทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม รวมถึงศิลปะร่วมสมัยที่สามารถแพร่ขยายแบบไร้พรมแดนมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอด้วยศิลปะในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งแฝงไว้ด้วยแนวคิด ทฤษฎี ความเชื่อทางจิตวิญญาณ และผลกระทบอันสืบเนื่อง จากการโยกย้ายในลักษณะเหนือจริง (Surreal) อาทิ


ศิลปะแบบจัดวาง  (Installation Art)
ประติมากรรมวิดีโอ  (Video Sculpture)
ศิลปะคอลลาจ  (Collage Art)

ไขว สัมนาง ศิลปินชาวกัมพูชา เอมี เลียน และ เอ็นโซ คามาโช ศิลปินคู่ ชาวฟิลิปปินส์ และ เหงียน ธี ธันห์ ไม ศิลปินชาวเวียดนาม จัดนิทรรศการPeople, Money, Ghosts (Movement as Metaphor)   ศิลปะสื่อผสม ภายใต้คอน
เซปท์ คน เงิน ผี เพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการเคลื่อนไหวขอประวัติศาสตร์และเทคโนโลยี

ศิลปินได้นำเสนอผลงานในรูปแบบความเป็นท้องถิ่นพร้อมกับปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก เช่น ศิลปินชาวฟิลิปปินส์นำเสนอผลงานในรูปแบบ “ผีกระสือ” เป็นรูปแบบประติมากรรมวิดีโอ เพื่อสะท้อนถึงตัวตนที่เคลื่อนย้ายอพยพมากกว่าสงบนิ่งที่บ้าน และผลงานเหล่านี้ ผ่านการคัดสรรโดยภัณฑารักษ์ชาวออสเตรเลีย อาศัยอยู่พนมเปญ โรเจอร์ เนลสัน เริ่มจัดแสดง

นิทรรศการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2560   ตั้งแต่ 9.00 – 20.00 น. ณ หอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน  ผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการ โปรเจ็คต์ทั้งสองของ ไขวสัมนาง (KhvaySamnang)มุ่งสำรวจการเคลื่อนย้ายในบริบทของประเทศกัมพูชาที่ขยายใหญ่ขึ้น– Yantra Man (2015) เป็นการสำรวจประวัติศาสตร์ที่ถูกหลงลืมในวงกว้างเกี่ยวกับทหารกัมพูชาผู้ถูกส่งไปร่วมรบให้กองทัพฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ตัวงานประกอบด้วยการจัดวางประติมากรรมเหล็ก โดยโมทีฟที่ปรากฏในชิ้นงานคือพระเครื่องที่เป็นเครื่องรางและผ้ายันต์แบบเขมร ตัวงานมุ่งพิเคราะห์การสะท้อนไปมาระหว่างประสบการณ์ในประวัติศาสตร์ของเหล่าทหาร และประสบการณ์ร่วมสมัยของคนที่ต้องทำงานไกลบ้าน –Rubber Man (2014) ประกอบด้วยวิดีโอหนึ่งจอที่บันทึกการแสดงของตัวศิลปิน และจัดวางบนประติมากรรมไม้ที่นำเสนอบนดินร่วนแดง ชนิดเดียวกับที่พบได้ในจังหวัดรัตนคีรีทางตอนเหนือของประเทศกัมพูชา งานชิ้นนี้สำรวจผลกระทบทั้งทางสิ่งแวดล้อม สังคม และ
จิตวิญญาณ ของการเพาะปลูกยางพาราในพื้นที่ดังกล่าว


ศิลปินคู่ เอมี เลียน &เอ็นโซ คามาโช (Amy Lien &Enzo Camacho) ร่วมกันเสนอผลงานชุดใหม่ด้วยรูปแบบที่เธอและเขาเรียกว่า ‘ประติมากรรมวิดีโอ’ (video sculpture)– งานศิลปะชุดนี้สำรวจรูปลักษณ์และตัวตนของสิ่งคล้ายผีที่มีผู้พบเจอตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งมีชีวิตในตำนานที่แยกร่างโดยทิ้งส่วนขาไว้ในป่า (ทั้งในความหมายตรงตัวและโดยเปรียบเทียบ) ในขณะที่ส่วนหัวกับเครื่องในบินผ่านเมืองสร้างความตื่นกลัวให้ชาวบ้าน ในไทยเรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่ากระสือ (krasue) ในขณะที่กัมพูชาใช้ชื่อ เอิบ (arb) จุดเริ่มต้นความสนใจของศิลปินที่มีต่อร่างกลายพันธุ์ชนิดนี้คือ
มานานังกาล (manananggal) ของฟิลิปปินส์ และศิลปินเลือกนำเสนอ
กระสือ/เอิบ/มานานังกาล ในรูปสัญลักษณ์อย่างบทกวีที่สะท้อนสัมผัสของตัวตนที่ผันแปรไม่หยุดนิ่ง เป็นสัมผัสของตัวตนที่ไร้ศูนย์กลางตายตัว ตัวตนที่เคลื่อนย้ายอพยพมากกว่าสงบนิ่งที่ ‘บ้าน’ หรือสถานที่จำเพาะ และแข็งขืนต่อการจำแนกประเภทด้วยตรรกะและเหตุผล ศิลปินเสนอว่าสิ่งมีชีวิตนี้ถือเป็น ‘สัตว์ประหลาดโอเพ่นซอร์ส’ (open-source monster) โดยหยิบยืมคำศัพท์ที่สื่อความถึงซอฟต์แวร์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างผู้ผลิต และ/หรือพัฒนาต่อโดยผู้ใช้ มาช่วยอธิบายคุณลักษณะ–ชิ้นงานทั้งสามที่แยกส่วนชัดเจนทว่าสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน (และโต้ตอบระหว่างกันอย่างเงียบเชียบ) สร้างขึ้นใหม่เพื่อนิทรรศการครั้งนี้โดยเฉพาะ


Day by Day (2014-7) โดยเหงียน ธี ธันห์ ไม (Nguyen ThiThanh Mai) สำรวจประสบการณ์ผู้อพยพของชุมชนชาวเวียดนามไร้รัฐที่ใช้ชีวิตในหมู่บ้านลอยน้ำในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม ชุมชนดังกล่าวต้องประสบความยากแค้นนานหลายทศวรรษ ทั้งถูกกวาดล้างระหว่างช่วงสงครามอเมริกันในเวียดนามและภายใต้การปกครองของเขมรแดงในกัมพูชา และถูกปฏิเสธสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่องทั้งการศึกษาและสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน อันเป็นผลสืบเนื่องจากการไม่สามารถเข้าถึงเอกสารยืนยันตัวตนทางกฎหมายในแต่ละชาติ โปรเจ็คต์นี้ประกอบด้วยวิดีโอความยาวหนึ่งชั่วโมง จัดวางร่วมกับ ‘บัตรประชาชน’ ปลอม และชุดคอลลาจภาพถ่ายดิจิตอลติดตั้งในกระท่อมทางมะพร้าวหลังเล็กที่สร้างขึ้นในพื้นที่ของแกลเลอรี   ผลงานทุกชิ้นที่จัดแสดงคราวนี้ล้วนมีศักยภาพในการสะท้อนเข้าหาสภาพแวดล้อมร่วมสมัย และเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่จมอยู่ใต้พื้นผิว ศิลปินในไทยจำนวนมากเองก็รับเอาวิถีปฏิบัติเยี่ยงผู้อพยพหรือชนเผ่าพเนจรไว้กับตัว ซึ่งโดยปริยายพวกเขาได้สำแดงปลดเปลื้องให้เห็นความรู้สึกของประสบการณ์ในระดับภูมิภาค (pan-regional) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ซุกซ่อนไว้ มากกว่าตัวตนที่มีเขตแดนจำกัดของชาติที่ตนเองสังกัดอยู่


เกี่ยวกับศิลปินและภัณฑารักษ์
ไขว สัมนาง (เกิดปี 2525, พำนักในพนมเปญ) คือหนึ่งในศิลปินสาขาทัศนศิลป์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศกัมพูชา เขาทำงานทั้งด้านเพอร์ฟอร์มานซ์, ภาพถ่าย, วิดีโอ, ศิลปะจัดวาง และยังสนอกสนใจสำรวจประเด็นชวนถกเถียงทั้งด้านการเมือง สังคม กับความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม และเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ในกัมพูชากับที่อื่นๆ “ถ้าพูดถึงไม่ได้ แล้วเราจะแสดงให้เห็นได้อย่างไร?”


เอมี เลียน (เกิดปี 2530, พำนักในมะนิลาและนิวยอร์ก) และ เอ็นโซ คามาโช (เกิดปี 2528, พำนักในมะนิลาและเบอร์ลิน) คือคู่ศิลปินที่ทำงานร่วมกันเป็นการเฉพาะตั้งแต่ปี 2552 – ผลงานศิลปะที่พวกเขาให้คำอธิบายด้วยน้ำเสียงจิกกัดว่า “ไม่ใคร่เจาะจงสื่อที่ใช้” มักใช้วิดีโอกับการจัดวางที่เลียนแบบสุนทรียะออนไลน์และสภาพแวดล้อมยามวิกาล ด้วยความสนใจของพวกเขาคือสภาวะกึ่งกลาง (liminal circumstance)เช่น ตัวตนที่ยึดโยงลักษณะระหว่างเพศ กิจกรรมที่คาบเกี่ยวระหว่างสันทนาการกับการใช้แรงงาน หรือผลงานที่อยู่ระหว่างความจริงจังกับความเสียดเย้ย


เหงียน ธี ธันห์ ไม (เกิดปี 2526, พำนักในเว้) อธิบายไว้ว่า “แนวความคิดเกี่ยวกับการต่อสู้ดิ้นรน กับความสนใจต่อความรู้สึกที่แสดงออกได้ยากและถูกกดทับไว้ คือแกนกลางในการสร้างงานศิลปะของฉัน” เธอทำงานโดยใช้สื่อหลากหลาย สำรวจอุปสรรคที่ปัจเจกบุคคลหรือชุมชนต้องเผชิญ ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมและลงพื้นที่วิจัยระยะยาว ในระยะแรกเริ่มเธอได้รับความสนใจจากผลงานที่เกี่ยวพันกับร่างกายของผู้หญิงและประสบการณ์ที่มีเรื่องเพศเป็นพื้นฐาน แต่ผลงานต่อเนื่องที่กำลังทำอยู่อันว่าด้วยชุมชนชาวประมงไร้รัฐในเวียดนามและกัมพูชา นำเสนอประเด็นซ้อนทับระหว่างเรื่องสิทธิความเป็นพลเมืองและประวัติศาสตร์ของสงครามอเมริกันในคาบสมุทรอินโดจีน


โรเจอร์ เนลสัน (Roger Nelson) ทำงานในฐานะนักประวัติศาสตร์ศิลป์และภัณฑารักษ์อิสระผู้พำนักในกรุงพนมเปญ สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกที่ University of Melbourneปี 2560ผลงานวิจัยของเขาศึกษาคำถามที่มีต่อความเป็นสมัยใหม่และสภาวะร่วมสมัยในงานศิลปะ โดยใช้ประเทศกัมพูชาและภูมิภาคโดยรอบเป็นกรณีศึกษา โรเจอร์เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและบรรณาธิการร่วมของวารสารวิชาการเล่มใหม่ Southeast of Now: Directions in Contemporary and Modern Art in Asia ซึ่งตีพิมพ์โดย NUS Press ของ National University of Singapore เขาเขียนบทความวิชาการให้วารสารหลายเล่ม เช่น Stedelijk Studies นิตยสารศิลปะเนื้อหาเข้มข้น เช่น Art Asia Pacific รวมถึงหนังสือและสูจิบัตินิทรรศการศิลปะจำนวนมาก โรเจอร์ทำหน้าที่ภัณฑารักษ์นิทรรศการและโปรเจ็คต์อื่นๆ ทั้งในออสเตรเลีย กัมพูชา สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม


งานเปิดตัวนิทรรศการอย่างเป็นทางการ
People, Money, Ghosts (Movement as Metaphor) นิทรรศการกลุ่มแสดงผลงานศิลปะโดย: ไขว สัมนาง (พนมเปญ) / เอมี เลียน & เอ็นโซ คามาโช (มะนิลา, เบอร์ลิน และนิวยอร์ก) / เหงียน ธี ธันห์ ไม (เว้)


คัดสรรโดย โรเจอร์ เนลสัน(พนมเปญ)
ณ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน, กรุงเทพมหานคร
7 มีนาคม ถึง 18 มิถุนายน 2560, เปิดให้เข้าชมทุกวัน 9.00 – 20.00 น.
เสวนากับศิลปินและภัณฑารักษ์ ในวันอังคารที่ 7 มีนาคม เวลา 16.30 น.
พิธีเปิดนิทรรศการวันที่ 7 มีนาคม เวลา 18.30 น.

 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 20.00 น.
เข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
หมายเลขโทรศัพท์: 02-612-6741
อีเมล์: artcenter@jimthompsonhouse.com
เฟซบุ๊ก: the Jim Thompson Art Center
เว็บไซต์: www.jimthompsonartcenter.org