Category Archives: Event

ฉลอง 25 ปี สกว.ประกาศเดินหน้ากับบทบาท

“สร้างคน สร้างความรู้ สร้างอนาคต”
โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว. จัดงาน 25 ปี สกว. ภายใต้แนวคิด “สร้างคน สร้างความรู้ สร้างอนาคต” จากการสนับสนุนทุนวิจัยอย่างต่อเนื่องจนเกิดองค์ความรู้ใหม่ เกิดนวัตกรรม นโยบาย พัฒนาชุมชนท้องถิ่น เพื่อสร้างคน สร้างความรู้ สร้างอนาคต โดยการสร้างนักวิจัยทุกระดับ ซึ่งในปัจจุบันได้สร้างนักวิจัยมาแล้วราว 60,000 คน จากงานวิจัยกว่า 20,000 โครงการ และมีการสร้างความรู้จากงานวิจัยไปต่อยอดให้เกิดนวัตกรรม เพื่อการมุ่งสู่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป็นพื้นฐานในการสร้างอนาคตของประเทศต่อไป

ภายในงานได้รับเกียรติจากพลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานและปาฐกถานำ เรื่อง “ทิศทางและนโยบายการพัฒนาประเทศ โดยใช้องค์ความรู้จากงานวิจัย” สรุปได้ว่าทางรัฐบาลได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิตงานวิจัยที่มีคุณภาพ รวมไปถึงการสร้างระบบการวิจัยของประเทศที่เข้มแข็ง จึงจัดทำยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ 20 ปีขึ้น มุ่งเน้นที่การปฏิรูประบบวิจัยของประเทศ มีหลักการของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่พัฒนาบนพื้นฐานการวิจัยและนวัตกรรม มีผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ นำองค์ความรู้และนวัตกรรมจากงานวิจัย ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริงในด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน
ผลงานของ สกว. ในช่วง25 ปีที่ผ่านมานี้ เป็นข้อพิสูจน์อันดีว่าศักยภาพของบุคลากรการวิจัยของประเทศไทย สามารถผลิตงานวิจัยรวมถึงนวัตกรรมที่มีคุณภาพสูง และสามารถนำไปใช้ได้จริงนั้นมีอยู่จำนวนมาก แต่เพื่อจะขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาอย่าง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จะต้องอาศัยการผสานพลังวิจัยจากทุกภาคส่วนที่จะกระตุ้นให้เกิดผลงานวิจัยที่มีผลกระทบสูงได้”
นอกจากนี้ งาน 25 ปีสกว. มีกิจกรรมและนิทรรศการ เช่น งานวิจัยท่องเที่ยวตามรอยพระราชดำริ   “แม่ของแผ่นดิน มิ่งขวัญชาวไทย”   ย้อนรอยประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ 10
สปีชีส์เห็ดชนิดใหม่ของโลก ต้นแบบหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิดอีโอดี และงานวิจัยที่พร้อมต่อยอดอีกมากมาย และยังมีการประชุมวิชาการ เสวนาหัวข้อพิเศษ เช่น

· สูงวัยอารมณ์ดี โดย ศ.ดร.เกื้อ วงศ์บุญสิน เมธีวิจัยอาวุโส สกว. รศ.ดร. ศิริยุพา รุ่งเริงสุข คุณสมเกียรติ ชินธรรมมิตร และ ผศ.ดร. ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

· ปฏิรูปประเทศด้วยนวัตกรรม โดย คุณจาง ควายทอง ประธานบริษัท ควายทอง นิว เอเนอร์จี จำกัด, คุณเฉลิมพล ปุณโณทก, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท CT Asia Robotics Co., Ltd., นาวาตรี ดร.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ดำเนินรายการโดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน

· Knowledge farm talk #3 “สถานการณ์ในปัจจุบันและทางออกสำหรับอนาคต” โดย รศ.ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ รศ.ดร.พีระ เจริญพร ผศ.ดร.วีระชาติ กิเลนทอง และ ผศ.ปกป้อง จันวิทย์

· รื้อร้างสร้างใหม่ ประวัติศาสตร์ไทยยุค 4.0 กับ ดร.วินัย พงศ์ศรีเพียร เมธีวิจัยอาวุโส สกว. ดำเนินรายการโดย คุณคุณากร เกิดพันธ์ เป็นต้น

ภายในงานยังมีคลินิกวิจัยจาก สกว.ที่พร้อมให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านงานวิจัย หรือสำหรับนักวิจัยมือใหม่อีกด้วย

ส่วนกิจกรรมพิเศษบนเวทีนอกจากการแสดงต่างๆแล้ว ร่วมพูดคุยกับ
น็อต วรฤทธิ์ และปอย ตรีชฎา 2 นักแสดง ที่นำงานวิจัยไปพัฒนาต่อยอด
เป็นผลิตภัณฑ์ , กิจกรรมพูดพร่ำฮัมเพลง กับ พี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง พร้อมกับการเปิดตัว WiTThai season2 กับนักสื่อสารวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ แทนไท ประเสริฐกุล และ อาบัน สามัญชน ที่จะทำให้เรื่องวิทยาศาสตร์ยากๆ กลายเป็นเรื่องง่าย มีการจัดการแสดงทั้งหมด 2 วันคือ
วันที่ 25-26 สิงหาคม 2560  ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ 2

มูลนิธิสัมมาชีพ มอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2560

รางวัลต้นแบบสัมมาชีพ คัดเลือกผู้นำธุรกิจ
วิสาหกิจชุมชน-เอสเอ็มอี-บุคคลต้นแบบบุคคลและธุรกิจต้นแบบที่โดดเด่น

มูลนิธิสัมมาชีพจึงก่อเกิดขึ้นด้วยความร่วมมือร่วใจของบุคคลสำคัญจากหลากหลาย สาขาอาชีพ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางดำเนินการนำธรรมะและองค์ความรู้ที่ดีงาม ให้เข้าถึงกลุ่ม คนทุกสาขาอาชีพมุ่งเน้นการทำมาหากินอย่างสุจริตเพื่อพัฒนาจิตของตนให้ไปในการทางที่ ถูกต้อง อันจะเป็นการสร้างสังคมที่น่าอยู่ต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน

เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจและสังคมไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมสัมมาชีพเต็มพื้นที่ อันจะช่วยนำประเทศไทยไปสู่สังคมอุดมสุขอย่างแท้จริง มูลนิธิสัมมาชีพ มอบรางวัล-ประกาศเกียรติคุณต้นแบบสัมมาชีพ เชิดชูผู้นำธุรกิจ ครั้งที่ 5 พร้อมวางรากฐานสร้างผู้นำที่แข็งแกร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย

มูลนิธิสัมมาชีพ จัดงานมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ประกาศเกียรติคุณและยกย่องเชิดชูบุคคลสัมมาชีพ ครั้งที่ 5 คัดเลือกบุคคลและธุรกิจต้นแบบที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับจากสังคม พร้อมวางรากฐานสร้างผู้นำที่แข็งแกร่งเพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจและสังคมไทยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมสัมมาชีพเต็มพื้นที่ อันจะช่วยนำประเทศไทยไปสู่สังคมอุดมสุขอย่างแท้จริง

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการการจัดงานกล่าวว่า การจัดงานมอบรางวัล “ต้นแบบสัมมาชีพ” มีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศเกียรติคุณและยกย่องเชิดชูบุคคลและธุรกิจต้นแบบที่มีความโดดเด่น เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากสังคมในการประกอบอาชีพโดยสุจริตและดำเนินธุรกิจตามหลักสัมมาชีพโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้บริโภคและสังคมบนแนวทางสัมมาชีพอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้มูลนิธิสัมมาชีพจัดให้มีรางวัลบุคคลสัมมาชีพแห่งปีตั้งแต่ปี 2552 และในปี 2559 จึงได้ขยายให้มีรางวัลเพิ่มขึ้นอีก 2 รางวัล คือรางวัล SMEs-สัมมาชีพ และวิสาหกิจชุมชน-สัมมาชีพ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อสร้างสัมมาชีพให้เต็มพื้นที่ดังปรัชญาของมูลนิธิ “สร้างให้เต็ม เติมรากฐานให้แข็งแกร่ง” สำหรับบุคคลสัมมาชีพแห่งปีเปรียบเสมือนต้นแบบที่สัมผัสได้และมีตัวตนอีกทั้งยังเป็นผู้จุดประกายสร้างพลังและแรงบันดาลใจให้กับคนในสังคมทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขา อาชีพ ในการตั้งมั่นและยึดถือการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมตามหลักสัมมาชีพ ด้วยการรับฟังและการเรียนรู้ผ่านการปาฐกถาพิเศษการถ่ายทอดแนวคิดและหลักการดำเนินชีวิตที่ดีงามของบุคคลสัมมาชีพ ด้วยอาวุธสำคัญ คือ ประสบการณ์และคมปัญญาที่จะส่งผลให้กับผู้คนในสังคมมีพลังขับเคลื่อนความฝันของตนเองสู่ผู้ประกอบการเพื่อสังคมที่ดีต่อไป

โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นผู้มอบรางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพประจำปี 2560 ซึ่งบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ ในปีนี้ได้แก่ นายตง ธีระนุสรณ์กิจ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่

“ผู้ที่จะได้รับรางวัลนับเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ได้รับการยอมรับจากสังคมในการประกอบอาชีพอย่างซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในการปฏิบัติตนที่ดีต่อบุคคลอื่น ยึดหลักการทำธุรกิจบนความถูกต้องดีงาม คำนึงถึงการรักษาสภาวะแวดล้อมและไม่เอาเปรียบผู้อื่น รวมทั้งเป็นผู้บริหารที่บริหารธุรกิจให้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรคความยากลำบากจากวิกฤติการณ์มาได้” นายประเสริฐ กล่าว

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมามีบุคคลชั้นนำในสังคมไทยได้รับเกียรติเป็นบุคคลสัมมาชีพแล้ว 4 ท่าน ได้แก่ บุคคลสัมมาชีพประจำปี 2552 นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหารเครือสหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ,บุคคลสัมมาชีพ ประจำปี 2553 นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มน้ำตาลมิตรผล จำกัด ,บุคคลสัมมาชีพ ประจำปี 2554 นายไกรสร จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และบุคคลสัมมาชีพ ประจำปี 2555 นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับงานในปีนี้จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 เวลา 09.00 – 13.30 น. ณ โรงแรม Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park (สุขุมวิท22)

ด้าน ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษามูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า การจัดงานมอบรางวัล ต้นแบบสัมมาชีพ มีจุดเริ่มต้นมาจากปรัชญาการดำเนินงานของมูลนิธิสัมมาชีพที่มีความเชื่อมั่นว่า สังคมไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเกิดผู้นำสัมมาชีพในทุกภาคส่วนของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำภาคธุรกิจซึ่งเป็นผู้นำที่มีหลักคิด ทัศนคติ และมีทักษะในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และเป็นพลังอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมสัมมาชีพเต็มพื้นที่ อันจะช่วยนำประเทศไทยไปสู่สังคมอุดมสุขที่เป็นจริงได้ สำหรับเรื่องสัมมาชีพนั้นถือเป็นแนวคิดที่สำคัญที่สุด บ้านเมืองหรือประเทศจะร่มเย็นเป็นสุขได้ก็ต่อเมื่อมีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ ซึ่งสัมมาชีพก็คืออาชีพที่ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่นไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้ ฉะนั้นเวลาเกิดสัมมาชีพเต็มพื้นที่ จึงเกิดความร่มเย็นเป็นสุข เศรษฐกิจก็ดี จิตใจก็ดี สังคมก็ดี สิ่งแวดล้อมก็ดี

ดังนั้น เพื่อให้สัมมาชีพเต็มพื้นที่เกิดขึ้นได้จริงอย่างที่คนคิดดีทำดีหวังไว้ การมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่ง “บุคคลสัมมาชีพ” แห่งปี จึงดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายให้ความคิดและการกระทำของบุคคลสัมมาชีพ กลายแบบอย่างอันดี ทอันควรที่ปฏิบัติได้จริงแก่สังคม

Free ทุกรายการ แรลลี่รถยนต์และจักรยาน สุพรรณหรรษา

กิจกรรมแรลลี่รถยนต์ และจักรยาน
เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว

สุพรรณหรรษา เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ  ของทั้ง 4 จังหวัด เส้นทาง สุพรรณ กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี ที่สำคัญ คือ Free ทุกรายการ เพื่อเป็นการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 4 จังหวัด การแข่งขันแรลลี่รถยนต์
และ จักรยาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ในจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ซึ่งการแข่งขันแรลลี่รถยนต์จะแข่งขันช่วงระหว่างวันที่ 12-16 กันยายน เส้นทาง สุพรรณบุรี – นครปฐม – ราชบุรี – กาญจนบุรี – สุพรรณบุรี รวมระยะทาง 750 กิโลเมตร

ส่วนแรลลี่จักรยาน แข่งขันวันที่ 17 กันยายน ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ระยะทาง 40 กิโลเมตร


จังหวัดสุพรรณบุรี จัดงานแถลงข่าว  การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา : แข่งขันแรลลี่รถยนต์ และจักรยาน “สุพรรณหรรษา” ชูศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้ขับรถยนต์ กลุ่มผู้รักการปั่นจักรยาน และกลุ่มครอบครัว โดยมี นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว ณ ห้องอโนมา 3 ชั้น 3 โรงแรมอโนมาแกรนด์กรุงเทพฯ

นายเสฐียรพงศ์  มากศิริ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี

นายเสฐียรพงศ์  มากศิริ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เผยว่า จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 เป็นกลุ่มจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ การเดินทางสะดวกสบายมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่หลากหลายเช่น น้ำตกไทรโยค อุทยานแห่งชาติพุเตย ฯลฯ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณี ฯลฯ

จังหวัดสุพรรณบุรีได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวภายในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ขึ้น โดยใช้กิจกรรมการแข่งขัน แรลลี่รถยนต์ และจักรยาน เป็นสื่อช่วยในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจการท่องเที่ยวได้ทราบว่าจังหวัดสุพรรณบุรี และกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่สวยงาม ตระการตา น่าประทับใจ เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวพักผ่อนระยะสั้นและระยะยาว พร้อมเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวแบบบุคคลและครอบครัว และยังมีบริการทางการท่องเที่ยวที่สะดวกพร้อมที่จะบริการนักท่องเที่ยวในแบบองค์กรและหมู่คณะ สะดวกต่อการจัดการท่องเที่ยวหลายประการ อีกทั้งมีทรัพยากรทางการท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม กิจกรรมประเพณี ที่น่าตื่นตาตื่นใจทัดเทียมกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วประเทศไทย

สุพรรณหรรษา การแข่งขันแรลลี่รถยนต์และจักรยาน

นายธนเสฏฐ์ สุชามาลาวงษ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี เผยว่า ปัจจุบันการท่องเที่ยวถือเป็นปัจจัยหลักของรายได้เข้าสู่ชุมชนและจังหวัด จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ให้ความสำคัญในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มาโดยตลอด โดยจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมาโดยตลอดทุกปี ดังนั้น จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จึงมีความพร้อมด้านการท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว การบริการด้านการท่องเที่ยว การคมนาคมที่สะดวกสบาย โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ จากความพร้อมดังกล่าว จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จึงมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว ดังนั้น เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จึงได้มีแนวคิดที่จะจัดกิจกรรมการแข่งขันแรลลี่รถยนต์และจักรยานเป็นสื่อ ในการนำกลุ่มผู้รักการท่องเที่ยวทางรถยนต์ และกลุ่มผู้รักการปั่นจักรยานได้ร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ของจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1

นางระพีพร คำสกุล ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า กิจกรรมที่จะจัดขึ้นในครั้งนี้มี 2 กิจกรรมด้วยกัน คือ กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมการแข่งขันแรลลี่รถยนต์เป็นการจัดการแข่งขันแรลลี่รถยนต์เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ของทั้ง 4 จังหวัด ในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ซึ่ง
จะกำหนดจุดทำกิจกรรม RC ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ซึ่งเส้นทางในการแข่งขันแรลลี่รถยนต์จะใช้เส้นทางเริ่มต้นจากจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี แล้วมาสิ้นสุดที่สุพรรณบุรี ระยะทางทั้งหมดรวม 750 กิโลเมตร ส่วนกิจกรรมที่ 2 เป็นกิจกรรมการแข่งขันแรลลี่จักรยาน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวใน จังหวัดสุพรรณบุรี ระยะทางทั้งหมด 40 กิโลเมตร จุดหมายปลายทางคือจุดตั้งต้น

“ผู้เข้าร่วมแข่งขันแรลลี่รถยนต์จะได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีน ในจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ได้แก่ นครปฐม ราชบุรี และกาญจนบุรี โดยจุดท่องเที่ยวที่เป็น TC ในแต่ละสถานที่จะมีไฮไลต์ประจำจุดที่จะสร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมแข่งขันตลอดเส้นทางไม่ว่าจะเป็นอุทยานมังกรสวรรค์ ตลาดร้อยปีสามชุก วัดไผ่โรงวัว บึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี อุทยานเขางู วัดหนองหอย จังหวัดราชบุรี องค์พระปฐมเจดีย์ พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม และปราสาทเมืองสิงห์ วัดถ้ำเสือ จังหวัดกาญจนบุรี ส่วนผู้เข้าร่วมแข่งขันแรลลี่จักรยานจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศของความงามแห่งธรรมชาติของเขื่อนกระเสียว เขื่อนดินที่ยาวเป็นอันดับสองของประเทศไทย และชมความสมบูรณ์ของผืนป่าหนึ่งเดียวในเมืองสุพรรณ ที่อุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง พร้อมกับกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปินดาราที่จะมาสร้างสีสันให้การแข่งขันครั้งนี้คึกคักสนุกสนานเพิ่มมากขึ้น”

ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมแข่งขันแรลลี่รถยนต์และจักรยาน “สุพรรณหรรษา” สามารถ เข้าไปดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่
เว็บไซต์   www.rallyhappysuphan.com
เฟซบุ๊กแฟนเพจ: rallyhappysuphan

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประสานงานกิจกรรมฯ
แรลลี่รถยนต์ โทร. 08-1453-1770, 08-6412-0514
และฝ่ายประสานงานกิจกรรมแรลลี่จักรยาน
โทร. 06-2416-9656, 08-6399-2892

YEC 7 จังหวัดผนึกพันธมิตรร่วมพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย

เพื่อพัฒนาเครือข่ายสมาชิกและธุรกิจ
ภายในภาคตะวันออก ณ.โรงแรมเดอะเวโรน่า @ทับลาน จ.ปราจีนบุรี

เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา Toptotravel มีโอกาสไปร่วมงาน กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC 7 จังหวัดภาคตะวันออก ผนึกพันธมิตร พัฒนาเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC ส่งเสริม และการสนับสนุนเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ ทั้ง 7 จังหวัดภาคตะวันออก พร้อมด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครนายก หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี และสมาคมท่องเที่ยวประจีนบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เตรียมความพร้อมของนักธุรกิจรุ่นใหม่สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ต้องการเปิดโอกาสดีๆ ให้กับตัวเองไปกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและกลุ่ม YEC ที่มีเครือข่ายทั้งทางมิตรภาพและธุรกิจที่เข้มแข็งทั่วประเทศ ในการประสานงานแบบเป็นเครือข่าย ภายในงาน มีการแสดงตัวอย่างของกลุ่ม YEC ของหอการค้าจังหวัดเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไป

YEC 7 จังหวัดภาคตะวันออก@Verona ปราจีนบุรี วันที่ 19-20 สิงหาคม 2560

วัตถุประสงค์ YEC 7 จังหวัดภาคตะวันออก  เพื่อพบปะทำความรู้จักกันและ กันมาร่วมสานสัมพันธ์ และแลกเปลี่ยนความคิด ระหว่างสมาชิก  YEC  ของแต่ละจังหวัด ในภาคตะวันออก เพื่อพัฒนาเครือข่ายสมาชิกและธุรกิจภาย
ในภาคตะวันออกให้เติบโตและมั่นคง และร่วมกันสร้างสรรค์สังคมของของพวกเราชาวภาคตะวันออก  ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ตามหา Cowboy And Cowgirl กิจกรรมประจำปีของภาคตะวันออกกับการประกวด Cowboy And Cowgirl Popular Vote ภูเขา ต้นไม้ โอโซน และดนตรีโฟล์คซอง รอต้อนรับเพื่อนๆจะดีแค่ไหนถึงได้พบปะเพื่อนๆ บนท่ามกลางธรรมชาติ และสถานที่งดงามในแบบมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา มีแต่พวกเราที่เข้าใจกัน

ถ้าพูดถึงด้านการค้า กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC 7 จังหวัด ประกอบไปด้วย 1.ปราจีนบุรี  2. จันทบุรี  3. ฉะเชิงเทรา
4.ชลบุรี   5.สระแก้ว 6. ระยอง 7. ตราด

นายทิวา วัชรกาฬ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี

นายทิวา วัชรกาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า เป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจในการทำธุรกิจกันมากขึ้น ด้วยความสามารถกล้าคิด กล้าตัดสินใจ รวมทั้งยังมองเห็นช่องทางธุรกิจต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างจากผู้ใหญ่ และยิ่งถ้าผู้ใหญ่อย่างเรา ให้การสนับสนุนกลุ่มธุรกิจรุ่นใหม่ เชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาธุรกิจและการท่องเที่ยวให้ประสานกันได้อย่างลงตัว

ผลิตและจำหน่ายโดย กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกบินทร์ร่วมใจ
นายดำริห์ รัตนชินกร นายกสมาคมท่องเที่ยวปราจีนบุรี

นายดำริห์ รัตนชินกร นายกสมาคมท่องเที่ยวปราจีนบุรี กล่าวว่า การรวมตัวของกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC 7 จังหวัดภาคตะวันออก ที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ พวกเขาจะได้ใช้ความรู้ ใช้ประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยน เพื่อพัฒนาธุรกิจ การท่องเที่ยวในพื้นที่ของตนเอง และสามารถเชื่อมโยงต่อยอดให้เกิดประโยชน์เพิ่มมากขึ้น และในฐานะของนายกสมาคมท่องเที่ยวปราจีนบุรี ยินดีที่ได้ต้อนรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ ซึ่งเชื่อมั่นว่านักธุรกิจรุ่นใหม่ จะสามารถพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีความแปลกใหม่และก้าวหน้า เพื่อความยั่งยืนต่อไป

สานสัมพันธ์ภาคตะวันออกครั้งที่ 2 YEC EAST 3 Verona at Tublan ปราจีนบุรี YECEast#2

กิจกรรมต่างๆ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2560 ณ โรงแรมเดอะเวโรน่า @ทับลาน จ.ปราจีนบุรี  กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC 7 จังหวัดภาคตะวันออก พร้อมด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครนายก หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี และสมาคมท่องเที่ยวประจีนบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ ทั้ง 7 จังหวัดภาคตะวันออก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี และสมาคมท่องเที่ยวประจีนบุรี ลงนามบันทึกข้อตกลง(MOU) กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC 7 กับบรรยากาศกิจกรรมแบบ อยู่เมื่องไทยก็เหมือนได้ไปอิตาลี  ที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคมของพวกเราชาวภาคตะวันออก  ให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ตามหา Cowboy And Cowgirl กิจกรรมประจำ
ปีของภาคตะวันออก

เดอะ เวโรน่า แอท ทับลาน (Verona at Tublan)  ตั้งอยู่ใน อำเภอนาดี จ.ปราจีนบุรี  แรงบันดาลใจมาจากเมืองเวโรน่า แห่งแคว้นเวเนตโต้ ประเทศอิตาลี ต้นกำเนิดนวนิยาย โรมิโอ & จูเลียต ที่มีชื่อของโลก ให้กลายเป็นดินดินแดนแห่งรักในเมืองไทย เดอะเวโรน่าแอททับลาน ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา ที่มีอากาศ บริสุทธิ์

เดอะเวโรน่า แอท ทับลาน ตั้งอยู่ ถนนสาย 304 หลักกิโลเมตรที่ 32-33
ตรงข้ามอุทยานแห่งชาติทับลาน เส้นทางเดียวกับทางไป อำเภอวังน้ำเขียวโดนใช้เส้น จ.ปราจีนบุรี ปัจจุบันเปิดให้เข้าพรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เดอะเวโรน่า แอท ทับลาน
251 ม.6 ต.บุพราหมณ์  อ.นาดี  จ.ปราจีนบุรี  25220
เบอร์โทรศัพท์ : 096 324 4423
แฟกซ์ : 037-218736
http://www.veronaattublan.com

 

 

สัมผัสไลฟ์สไตล์สุดหรู TrueSphere

TrueSphere First Year Together Anniversary

มาร่วมฉลอง สัมผัสไลฟ์สไตล์สุดหรู TrueSphere First Year Together Anniversary   เพื่อฉลองหนึ่งปีเเรกแห่งความสำเร็จของ  TrueSphere
ยกระดับการบริการให้เป็น First-Class Experience ที่ให้การดูแลแบบตัว
ต่อตัว

TrueSphere Apple Excellence บริการสำหรับลูกค้าบุคคลที่จะช่วยจัดการ และดูแลทุกปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Apple ได้อย่างมืออาชีพจากพนักงานทรูสเฟียร์ที่เข้ารับการอบรมโดยตรงจาก Apple

TrueCoffee Nitro Cold Brew กาแฟพรีเมี่ยม ด้วยนวัตกรรมการชงกาแฟสุดพิเศษ และก้าวเข้าสู่ปีที่  2 นี้  ด้วยการเพิ่มบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
บริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ  Watson  Analytics เฉพาะลูกค้าธุรกิจ  หรือลูกค้าองค์กรของกลุ่มทรู ให้สามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคสำหรับลูกค้าองค์กรได้อย่างชาญฉลาด

ทั้งหมดนี้  เป็นความตั้งใจจริงที่จะสานต่อพันธกิจของ TrueSphere ในการสร้างสรรค์บริการสู่ First Class Experience มอบประสบการณ์เหนือระดับ สร้างความเป็นเลิศด้วยบริการคอนเวอร์เจนซ์  ที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และที่สำคัญคือการบริการลูกค้าอย่างเหนือระดับผ่านทรูสเฟียร์  8  สาขาทั่วประเทศ

เอ็มควอเทียร์
เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์
เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต
เมกาบางนา ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
เดอะมอลล์ บางกะปิ
บลูพอร์ต หัวหิน
ทรู แบรนดิ้ง ช้อป สยามพารากอน

ดร. ปพนธ์  รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า

“เพราะลูกค้าคือคนสำคัญที่สุด ดังนั้นการดูแลมอบความสุขแก่ลูกค้าที่อยู่กับเรามาตลอด จึงเป็นสิ่งเรายึดมั่นมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทรูสเฟียร์ เฟิร์สคลาส โค–เวิร์คกิ้ง สเปซ แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ได้รองรับลูกค้าด้วยการบริการเหนือระดับ และแก้ไขทุกปัญหาของลูกค้ามาแล้วกว่า 300,000 คน รวมทั้งยังเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ๆให้ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าตลอดเวลา

ดร. ปพนธ์  รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยบริหารงานประธานคณะผู้บริหารด้านแบรนด์และการสื่อสาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น
นายฐานพล มานะวุฒิเวช  ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และบริหารความสุขลูกค้า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก

นายฐานพล มานะวุฒิเวช  ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์และบริหารความสุขลูกค้า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรูยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลความสุขของลูกค้าที่ใช้ทุกบริการอย่างต่อเนื่องผ่าน “ทรูยู” ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

ด้านสิทธิพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า จะเน้นไปในเรื่อง “กินดื่ม–ช็อปปิ้ง และท่องเที่ยว” เช่น ส่วนลดร้านค้า, ร้านอาหารต่าง ๆ และ ส่วนที่ด้านบริการ เช่น บริการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เช่น บริการรถลาก กรณีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ, บริการรถรับส่งที่สนามบิน, บริการส่งของ เป็นต้น ซึ่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้า ทรูแบล็คการ์ดเท่านั้น โดยที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันลูกค้าที่ใช้บริการของกลุ่มทรูที่มีสิทธิใน “ทรูการ์ด” มีมากกว่า 2 ล้านราย เป็นทรูแบล็คการ์ด 3 แสนราย และทรูเรดการ์ด 1.7 ล้านราย ทรูสเฟียร์ถือเป็นบริการเหนือระดับที่ให้กับลูกค้าทรูแบล็คการ์ดซึ่งตอบโจทย์ทั้งในด้านสิทธิพิเศษ และด้านบริการ โดยไม่ได้มีเป้าหมายแค่สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า แต่เป็นการยกระดับการบริการให้เป็น First-Class Experience ที่ให้การดูแลแบบตัวต่อตัว จากการเปิดให้บริการมาเป็นเวลา 1 ปี ได้เสียงตอบรับที่ดีมาโดยตลอด มั่นใจว่า ทรูสเฟียร์จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มฐานลูกค้าทรูแบล็คการ์ดให้เติบโตขึ้นไป อีกด้วย

First Class Experience

สิทธิพิเศษที่เหนือระดับ  จากทรูแบล็คการ์ดพร้อมชวนลูกค้า  โพสต์ภาพความประทับใจ ณ.ทรูสเฟียร์ลุ้นสัมผัสไลฟ์สไตล์สุดหรูจากโรงแรมชั้นนำ

TrueSphere ครบรอบ 1 ปี ชวนโพสต์ภาพความประทับใจ ลุ้นสัมผัสไลฟ์สไตล์สุดหรูจาก 8 โรงแรมชั้นนำ

พิเศษ เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จการให้บริการครบ 1 ปี ทรูยูชวนลูกค้าทรูแบล็คการ์ดคนสำคัญร่วมฉลองวาระพิเศษ
ด้วยการโพสต์ภาพความประทับใจที่ทรูสเฟียร์สาขาใดก็ได้ผ่านเฟสบุ๊ค เเละ อินสตาแกรม พร้อมติดแฮชแทค
#truesphere #Firstyeartogether #TrueBlackCard ตั้งเเต่วันนี้จนถึง 16 กันยายน 2560  รับสิทธิ์สัมผัสไลฟ์สไตล์สุดหรูจากโรงแรมดัง 8 แห่ง ได้แก่

1. Kataliya Mountain Resort & Spa เชียงราย
2. Crest Resort & Pool Villa ภูเก็ต
3. Dusit D2 เขาใหญ่, Foto Hotel ภูเก็ต
4.Kalima Resort & Spa ภูเก็ต
5.Thavorn Palm Beach Resort ภูเก็ต
6. The Vijitt Resort ภูเก็ต
7. The Vijitt Resort ภูเก็ต
8.Asita Eco Resort อัมพวา


สอบถามข้อมูลได้ทาง TrueYou Call Center โทร 0-2999-5555
และ 1236 ตั้งแต่ 5 กันยายน เป็นต้นไป
www.trueyou.co.th

ครั้งแรก งานทานอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีพระดับเหมียวชลินตาร์

ค่ำคืนแสนพิเศษ Meowchelin Season 2
ภายใต้ดินเนอร์สุดหรู

มิ้นต์  ชาลิดา –  ปั้นจั่น ปรมะ ควงคู่แมวสุดรักร่วมกิจกรรม  Fancy  Feast Meowchelin Season 2 แลเซเลบริตี้ที่คุณต้องเซอร์ไพรส์ภายในงาน Meowchelin Season 2 เสิร์ฟความอร่อยตัวจริง และสถานที่สวยหวาน
สุดพรีเมียมยิ่งกว่าใคร แทนความรักความห่วงใยให้น้องเหมียวตัวโปรด
ด้วย   FancyFeast  ที่มีความอร่อยสุดพิถีพิถัน มีให้เลือก เนื้อสัมผัสสุด
เย้ายวน 4 รูปแบบ   ให้เค้าทานได้ทุกวันไม่มีเบื่อ  เลือกเสิร์ฟความอร่อย
ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เสิร์ฟความอร่อยตัวจริงสุดพรีเมียมยิ่งกว่าใคร แทนความรักความห่วงใยให้น้องเหมียวตัวโปรด ด้วย FancyFeast ที่มีความอร่อยสุดพิถีพิถัน มีให้เลือกเนื้อสัมผัสสุดเย้ายวน 4  รูปแบบ ให้น้องเหมียวสุดเลิฟ เค้าทานได้ทุกวันไม่
มีเบื่อ และเลือกเสิร์ฟความอร่อยได้ตลอด 24 ชั่วโมง

มิ้นต์ ชาลิดา  และ  ปั้นจั่น ปรมะ ควงคู่แมวสุดรักร่วมกิจกรรม Fancy Feast Meowchelin Season 2 น้องคามิเลีย แมวตัวโปรดมาร่วมดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ด้านหนุ่มปั้นจั่น ได้นำ น้องปุยฟ้า มาร่วมดินเนอร์ร่วมกัน



เพราะใส่ใจ จึงรู้ใจ มีความรักแมวเหมือนกัน ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย เลยได้โอกาสควงสาวสวย  มิ้นต์  ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง มาร่วมงาน เหมียวชลิน
ซีซั่น 2  กิจกรรมความสุขของคนรักแมวที่จะได้สัมผัสช่วงเวลาพิเศษในการร่วมโต๊ะอาหารกับน้องแมวคู่ใจ  เป็นกิจกรรมดีๆ ที่ แฟนซี ฟีสต์ผลิตภัณฑ์อาหารแมวเกรดพรีเมียม เมนูสุดพิเศษแสนอร่อย ที่นำเข้า จากสหรัฐอเมริกา แต่ละเมนูผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เค้าได้อร่อยกับเนื้อสัมผัส และรสชาติสุดพิเศษ ซึ่งจัดขึ้น เป็นปีที่ 2 เพื่อต่อยอดความสำเร็จอย่างล้นหลามจากปีที่แล้ว

บรรยากาศของงานครั้งนี้ มีความสุดพิเศษมาก สัมผัสประสบการณ์ที่เน้นการตกแต่งสไตล์ กาล่าดินเนอร์สุดหรู ในคอนเซ็ปต์  เอ็กซ์คลูซีฟ ดินเนอร์ โดยปูพรมชมพู ให้เจ้าของและน้องแมว ได้เดินเฉิดฉาย  เข้าสู่งาน พร้อมเสิร์ฟอาหารมื้อพิถีพิถัน ที่คัดสรรเป็นพิเศษ  เพื่อเค้าที่คุณรัก ซึ่งแต่ละเมนูได้รับแรงบันดาลใจมาจากความอร่อยของแฟนซี ฟีสต์ทั้ง 9 รสชาติ โดยอาหารทุกจานที่เสิร์ฟเจ้าของและน้องแมว ได้ผ่านการรังสรรค์  โดยเชฟฝีมือดี ปรุงอย่างพิถีพิถัน คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยถูกใจ ทั้งคนและแมว

อีกหนึ่งความเอ็กซ์คลูซีฟของงาน คือ การมาโชว์ตัวครั้งแรกของ  “ปุยฟ้า” น้องแมวคู่ใจ ปั้นจั่น  ปรมะ ที่เจ้าตัวเก็บมาเลี้ยง หลังจากไปเจอปุยฟ้าได้รับบาดเจ็บอยู่กลางถนนเอกมัย จึงพาไปรักษา ซึ่งคุณหมอตรวจพบว่ามีอาการสะโพกแตก เศษกระดูกตัดเส้นประสาทส่วนรับรู้การขับถ่าย อาจทำให้พิการขาหลังและขับถ่ายเองไม่ได้ แต่จากการรักษาอย่างเต็มที่ อยู่ 2-3 เดือน ก็ช่วยให้ปุยฟ้ากลับมาเดินได้อีกครั้ง

ทางด้าน มิ้นต์-ชาลิดา ที่มาร่วมงานเหมียวชลินเป็นครั้งที่2 พร้อมพาน้องคามิเลีย หนึ่งในน้องแมวคู่ใจ มาเปิดตัว ในงานนี้ เผยให้เห็นความน่ารักมุ้งมิ้งที่สร้างรอยยิ้มให้ทุกคนในงาน โดยคามิเลีย  เป็นแมวพันธุ์เปอร์เซีย อายุ 2  ปี เป็นน้องเล็กสุด ในบรรดาแมวทั้ง 4 ตัว  ของมิ้นต์  นิสัยขี้เล่น ส่วนเมนูโปรดต้องยกให้อาหารเปียก เพราะได้กลิ่นหอมเมื่อไรเป็นต้องวิ่งมา  เป็นตัวแรก

ภายในงานยังมีผู้โชคดีอีก 9 คน ที่ร่วมกิจกรรมกับแฟนซี ฟีสต์ผ่านทาง www.facebook.com/FancyFeastThailand และได้สิทธิ์ในการพาน้องแมวมาร่วมดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับปั้นจั่นและมิ้นต์ พร้อมลิ้มรสความอร่อยล้ำของเมนูพิเศษที่แฟนซี ฟีสต์จัดมาให้ฟินทั้งคนและแมว

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเติมเต็มความรักความผูกพันของคนรักแมว และการมอบรางวัลให้กับสุดยอดเจ้าของแมว ที่ดูแลน้องเหมียวด้วยความรักในแบบฉบับของตัวเอง อาทิเช่น รางวัลเจ้าของจอมอ้อน, รางวัลเจ้าของขี้เล่น, รางวัล เจ้าของสายแบ๊ว ที่ล้วนแล้วตรงใจคนรักแมวสุดๆ

มิ้นต์ ชาลิดา พาน้องคามิเลีย แมวตัวโปรดมาดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยกัน ด้าน หนุ่มปั้นจั่น ก็ได้นำ น้องปุยฟ้า มาร่วมดินเนอร์สุดพิเศษ เช่นกัน สุดท้ายขอฝากกิจกรรมดีๆ แบบนี้ให้กับคนรักแมว

ติดตามข่าวสารได้ ทางเฟซบุ๊ก FancyFeastThailand
www.facebook.com/FancyFeastThailand

 

Little Sprouts Runway 2017 ๙ ตามที่พ่อทำ จากหมื่นวันที่พ่อสร้าง

ครั้งแรกของเมืองไทย การแสดง
แฟชั่นโชว์ ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์

เพื่อน้อมสำนึกรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระผู้ทรงคุณอันประเสริฐแก่แผ่นดินและพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ ด้วยทรงพระปรีชาสามารถในศาสตร์สาขานานับอเนกอนันต์ นำความผาสุกร่มเย็นเป็นอยู่ที่ดีมาสู่ชีวิตของประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าผ่านศาสตร์ของพระราชาโดยเฉพาะ “แนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ภายใต้พระบารมีตลอด 70 ปีของการครองราชย์จึงทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจไทยทั้งชาติและทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานมากที่สุดในโลก แบรนด์เสื้อผ้าเด็กชั้นนำของเมืองไทย นำโดย อมลระดา ทรงพัฒนาศิลป์ เจ้าของ แบรนด์ La Famille และ สายวลี สาครจิตร เจ้าของ แบรนด์ La Lune ร่วมกับอีก 5 แบรนด์ดัง ได้แก่ Cara Kids / Alisa / Little Bella / Fairy Fay และ Baby captain

จึงได้ร่วมกันจัดงานแถลงข่าว
“Little Sprouts Runway ๒๐๑๗ : ๙ ตามที่พ่อทำ จากหมื่นวันที่พ่อสร้าง” การแสดงเดินแฟชั่นโชว์ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ครั้งแรกของเมืองไทย ผ่านเรื่องราวโครงการพระราชดำริที่ทรงคุณค่ายิ่งใหญ่และมีความหมายต่อความรักและความผูกพัน อีกทั้งยังเป็นแนวทางตามที่พระองค์  ทรงทำคุณความดีตลอดพระชนม์ชีพขึ้น​อมลระดา ทรงพัฒนาศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีรินพัฒน์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ La Famille เผยถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานนี้ว่า งาน Little Sprouts Runway ๒๐๑๗ : ๙ ตามที่พ่อทำ จากหมื่นวันที่พ่อสร้าง

 

ในงานนี้ มีการการแสดงเดินแบบแฟชั่นโชว์เด็กจากแบรนด์เสื้อผ้าเด็กชั้นนำของเมืองไทยหลายแบรนด์ดังในบทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลายโครงการจาก 4,000 กว่าโครงการตลอด 70 ปี ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำลำบากพระวรกาย เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยือนอาณาประชาราษฎรชาวไทยทั่วทุกหมู่เหล่าในทุกถิ่นที่ทุรกันดาร ตลอดจนก่อเกิดเป็นโครงการพระราชดำริที่ช่วยพลิกฟื้นผืนป่า เป็นแหล่งชุบชีวิต สร้างรายได้เศรษฐกิจสู่ชาวไทยและประเทศไทยตราบถึงทุกวันนี้ สิ่งที่พระองค์ท่านทำเพื่อพวกเรานั้น
มิอาจเทียบได้กับสิ่งที่พวกเราคิดทำ  เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระเมตตามหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อเราชาวไทย 

วันนี้ เราจึงอยากจะร่วมใจกันจัดงานที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่พวกเราชาวไทยมีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยนำการเดินแฟชั่นโชว์มาประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ครั้งแรกของเมืองไทย  กับการผสมผสานกับการถ่ายทอดเรื่องราวโครงการพระราชดำริที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งใหญ่และอยู่ในความทรงจำของพวกเราถึงสิ่งที่ในหลวง  รัชกาลที่ 9  ซึ่งเพลงพระราชนิพนธ์หลายต่อหลายบทเพลงล้วนไพเราะทั้งท่วงทำนองและเนื้อร้อง แสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านการดนตรีในฐานะคีตราชันย์อีกทั้งยังสามารถนำมาสอดประสานกับการแสดงแบบแฟชั่นโชว์ของเยาวชน ตลอดจนนักแสดงรุ่นใหม่  ที่มาร่วมแรงร่วมใจกันในงานนี้ ให้สามารถน้อมนำแนวคำสอนของพระองค์ท่านไปปรับใช้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข สมดังแนวคิดของการจัดงานที่ว่า ๙ ตาม
ที่พ่อทำ จากหมื่นวันที่พ่อสร้าง”



สายวลี สาครจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีรินพัฒน์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ La Lune กล่าวถึงรูปแบบของการจัดงานครั้งสำคัญนี้ว่า “จากแรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ใพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่การแสดงแบบแฟชั่นโชว์แบรนด์เสื้อผ้าเด็กชั้นนำ ส่งต่อให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงศาสตร์ของพระราชาที่ทรงคุณค่า รวมด้วยการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์จากนักร้องมีชื่อเสียง ซึ่งพิธีเปิดมีการแสดงพิเศษจาก เก่ง ธชย แสดงขับเสภาโหมโรง และการแสดงโชว์ปิดจากศิลปินระดับประเทศร่วมกับนักร้องประสานเสียงและนักแสดงที่ผ่านการออดิชั่นในโครงการและโชว์ชุด Finale ของทุกแบรนด์

ภายในงานมีการแสดงเดินแฟชั่นโชว์โดยเด็ก ๆ กว่า 200 ชีวิต ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์กับพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 อาทิ
เพลงชะตาชีวิต – พระมหาชนก ตอนที่ 1 เพลงสายฝน-โครงการฝนหลวง เพลงใกล้รุ่ง – กังหันน้ำชัยพัฒนา เพลงยิ้มสู้ – ด้านการเกษตร (หญ้าแฝก แกล้งดิน แก้มลิง) เพลงยามเย็น – โครงการหลวง เพลงเกาะในฝัน – ด้านการกีฬา เพลง Oh I Say – ด้านการศึกษา เพลง Still on my mind – การถ่ายภาพ เพลง Echo – คีตราชชันต์ เพลงความฝันอันสูงสุด และเพลงแสงเทียน – เศรษฐกิจพอเพียง เพลงแผ่นดินของเรา – พระมหาชนก ตอนที่ 2 โดยทุกบทเพลงพระราชนิพนธ์บรรเลงโดยวงดุริยางค์ทหารเรือและโชว์พระมหาชนกทั้ง 2 ตอนได้นักแสดงเยาวชนรุ่นใหม่คือ ยอร์ช ยงศิลป์ วงศ์พนิตนนท์ นำแสดง ขับร้องการแสดงชุดพระมหาชนกโดย เก่ง ธชย และเหล่าศิลปิน
อีกมากมาย ได้แก่ จอห์นนิเฟอร์ The Voice, เข้ม ศุภกิจ The Voice, อ้น กันณพงศ์ The Voice, ไตเติ้ล สุทธิชาติ The Voice, โอ๊ด จีรวุฒิ The Voice, สวย สโรชา The Voice, ฝ้าย อาภาภัทร The Voice, แต๊ก วิชย The Voice, ทีม วรัสสรร AF8, ฟาง กฤติยาภรณ์ (นักร้องรางวัลพระราชทาน) และ Saxpackgirl ร่วมด้วยการแสดงพิเศษ บทเพลงของพ่อจาก โดม ปกรณ์ ลัม นอกจากนี้ยังมีการประกวดภาพวาดระบายสี หัวข้อ ‘พระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9” ทั้ง 9 ด้านนั้นของในหลวง นิทรรศการและการแสดงผลงานภาพวาดดังกล่าว โดยจัดแสดงภาพวาดของผู้ชนะการประกวดทั้งหมด 9 เรื่องจะจัดแสดงในส่วนนิทรรศการด้านหน้างาน และผลงานภาพวาดจาก
ผู้เข้าประกวดทุกชิ้นจะนำมาฉายในจอ LED บนเวทีในช่วง Final Show   และบูธพิเศษของ มูลนิธิคุณพุ่ม


ทั้งนี้รายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานยังมอบเป็นพระราชกุศล เข้ามูลนิธิคุณพุ่มเพื่อช่วยเหลือเด็กพิเศษอีกด้วย

​ทั้งนี้งาน Little Sprouts Runway ๒๐๑๗ :
๙ ตามที่พ่อทำ จากหมื่นวันที่พ่อสร้า
จะจัดขึ้นในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 ศกนี้
ผู้สนใจเข้าชมสามารถซื้อบัตรได้ตั้งแต่ปลายเดือน สิงหาคมเป็นต้นไปที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือ โทรสอบถามรายละเอียดการจองบัตรได้ที่ โทร.090-990-9292

หมิง ตระการตา นพวงศ์ คว้าตำแหน่ง

Mrs Noble Queen Thailand 2017

เข้มข้นกันเลยทีเดียว  เวทีของผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว  กับการประกวด
Mrs Noble Queen Thailand 2017 บรรยากาศยามบ่าย ณ เวทีกิจกรรมศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน  กับการประกวดรอบชิงฯ เป็นไปอย่างคึกคัก  เพราะได้รับความสนใจจากลูกค้าของห้างฯ กองเชียร์นางงามและ บรรดาแขกรับเชิญกิติมศักดิ์ นางงามมากมายหลายคน สื่อมวลชน และสปอนเซอร์ใจดีหลากหลายแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนฯ และจากหลายๆหน่วยงานของเมืองหัวหินที่มาร่วมชมร่วมเชียร์นางงามคนใหม่ขวัญใจชาวหัวหิน

พิธีกรได้กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่ได้ให้เกียรติมาร่วมงาน กล่าวเปิดงานโดยคุณนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้ทำหน้าที่เป็นประธานฯกล่าวเปิดงาน นอกจากนี้  ยังมีบรรดาแขกผู้ใหญ่ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมงานได้แก่ คุณมนตรี ชูภู่ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน, คุณวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และ คุณปรานอม
ชูภู่ ประธานชมรมหัวหินวูแมนคลับฯ และสมาชิกชมรมหัวหินวูแมนคลับฯ
คุณจริยา หรรษาวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน
คุณสิฤดี  ชูตระกูล  ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมหัวหิน กู๊ดวิวฯ คุณรัชดาภรณ์ เกตุเทศ กรรมการผู้จัดการที่รัก สตูดิโอ และสปอนเซอร์ใจดีอีกมากมาย รวมไปถึงหน่วยงานราชการ  องค์กรทุกภาคส่วนของเมืองหัวหินฯ

คุณณชพัฒน์  หอมขจร  ในฐานะผู้จัดการกองการประกวด Mrs Noble Queen Thailand 2017  นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นางงามที่มีชื่อเสียงที่ได้มาร่วมงาน เช่น ดร. กันธิช า ฉิมศิริ  Mrs International 2016
คุณซี จิตรลดา กันธาลักษณ์  Mrs World Thailand  2016 และลูกสาวคนสวยที่กำลังเตรียมความพร้อมเดินตามรอยตามคุณแม่เป็นนางงามคนใหม่ ต่อไป  คุณแขก  Mrs.Elite international Thailand 2017  คุณตุ๊กตา Mrs World Wilde Thailand 2017 ซึ่งทั้งคู่จะได้ไปประกวดเวทีนานาชาติที่ประเทศสิงคโปร์ในเร็วๆ นี้ และ ลูกนัท วิมพ์วิภา บุหงางาม มิสแกรนด์ภูเก็ต 2017 น้องต้นข้าว ฐานิกา อุบล มิสแกรนด์สมุทรสงคราม  2016   น้องจูน
Miss World Beauty Queen Thailand 2015 และนางงามอีกมากมายหลายท่าน รวมทั้งนางงามจากต่างประเทศที่ได้ให้เกียรติเดินทางมาร่วม
งานจนทำให้บรรยากาศ รอบชิงชนะเลิศ แน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากมาย

เปิดงาน  ด้วยการเดินแบบจากนางงามรุ่นพี่ นำทีมโดย ดร กันธิชา ฉิมศิริ Mrs International 2016 คุณซี Mrs World Thailand 2016 และคณะเหล่านางงามอีกหลายท่านได้โชว์ลีลาเดินแบบได้อย่างสวยงามทุกๆคน งานนี้ทุกคนจัดเต็มทั้งเสื้อผ้า หน้าผม เครื่องประดับ และการเปิดตัวเหล่าสาวงามผู้เข้าประกวดทั้ง 15 คน ทุกคนเดินโชว์รอบแรกด้วยชุดไทยประยุกต์จากร้านสปอนเซอร์ใจดี ชุดราตรีที่สวยงาม และการแสดงจากคณะนักแสดงกิติมศักดิ์ จากเมืองหัวหิน และวินาทีประกาศรางวัลพิเศษต่างๆ และผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย  เพื่อตอบคำถาม พิชิตมงกุฎ ผู้ที่ผ่านรอบ 3 คน สุดท้ายได้แก่ หมายเลข 6 หมายเลข 9 และหมายเลข 5 ทุกคนได้ซองคำถามจากคณะกรรมการกิติมศักดิ์หลากหลายท่านหลายๆวงการ

ลีลาการเดินแบบของเหล่าผู้เข้าประกวดในชุดว่ายน้ำที่แต่ละคนต่างมีลีลาไม่เหมือนใคร

คำถามของหมายเลข 5 : สื่อออนไลน์ มีความรุนแรงเวลาวัยรุ่นตีกัน  แล้วมีการโพสต์ลงบนโซเชี่ยลไม่ว่าจะเป็นการโพสต์โดยกลุ่มของการตีกันหรือผู้พบเห็นก็ดี คุณคิดว่าเกิดจากสาเหตุใด และมีความคิดเห็นเช่นไร

คำตอบ : การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งไม่เหมาะสม ควรใช้เหตุผลมากกว่าความรุนแรงและความรุนแรงอาจส่งผลร้ายแรง เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยส่วนตัวของครอบครัวของเธอไม่มีการใช้ความรุนแรงในครอบครัวอย่างแน่นอน และตัวเธอและสามีจะทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกๆตามคติที่ว่า”ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน” ได้รับเสียงปรบมืออย่างดังกึกก้องจากกองเชียร์

คำถามของหมายเลข 6 : ปัญหาเด็กแว้นที่สร้างความเดือดร้อนและทำให้เกิดอุบัติเหตุตามท้องถนน คุณมีความคิดเห็นเช่นไร

คำตอบ : ปัญหาเกิดขึ้นจากครอบครัว เพราะเด็กติดเพื่อน พ่อแม่ไม่มีเวลาให้เด็กๆ ควรใช้ความรัก ความอบอุ่น เข้ามาแก้ปัญหา  เพราะฉะนั้น เมืองหัวหินเมืองแห่งความรัก คนหัวหินควรมอบความรักให้ครอบครัว และครอบส่งต่อความรัก จะช่วยทำให้สังคมนี้มีแต่ความรัก

คำถามของหมายเลข 9 : ปัญหาการตั้งครรภ์ การตั้งท้องก่อนวัยอันควร หรือคุณแม่วัยใส นั้นทางสังคมต้องการสิ่งใดและจะแก้ไขปัญหานี้อย่างใด

คำตอบ : เกิดจากครอบครัวที่ไม่มีเวลาให้บุตรหลาน เราต้องมอบความรักและสอน และให้ความรู้เรื่องการใช้ถุงยางอนามัยให้บุตรหลานด้วย

ในที่สุดเวทีของผู้หญิงที่แต่งงาน กับผลการตัดสิน Mrs.Noble Queen Thailand 2017

Mrs.Noble Queen Thailand 2017  ได้แก่  หมายเลข 5
คุณตระการตา นพวงศ์ (หมิง) อาชีพ พิธีกร นางแบบ และ นักธุรกิจนำเข้าอาหารเสริมจากญี่ปุ่น และมีร้านตัดเย็บและจำหน่ายชุดวิวาห์ และยังเป็นคุณแม่ลูกชายน่ารัก 2 คน

ผลการประกวด Mrs Noble Queen Thailand 2017

รองอันดับ 1 หมายเลข 6 คุณกัญภัส งาดีสงวนนาม (โฮป) เป็นเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างติณณ์เซ็นเตอร์ จ.สงขลา และคลินิคศัลยกรรมความงาม แกรนด์คลินิค หาดใหญ่

รองอันดับ 2 หมายเลข 9 คุณวารุณี ม่วงกลาง (โอ๋) ทำธุรกิจร้านอาหารไทย

รางวัลพิเศษ “Mrs Noble Queen Thailand 2017”

Mrs.Popular vote เบอร์ 11 คุณอ้อ พัทธนันท์ เพียยา

Mrs. Beautiful Shape เบอร์ 11 (ชุดว่ายน้ำยอดเยี่ยม) คุณอ้อ พัทธนันท์ เพียยา

Mrs. Smart & Brain เบอร์ 2 คุณเปิ้ล วรรณธิดา แสงพุทธา

Mrs. Photogenic เบอร์ 8 คุณจ๋า วิลาสินี โฆษิตชัยวัฒน์

Mrs. DD Beauty & Science เบอร์ 12 คุณเฟ นีรนัชชาพรรษ์ จิวะพงศ์

Mrs. Punnawat Clinic เบอร์ 3 คุณนี มลธิรา กุซซาร์

Mrs. Social Network by Veerawan เบอร์ 6 คุณโฮ๊ป กัญภัส งาดีสงวนนาม

Mrs. Beautiful Evening Gown เบอร์ 7 คุณเรียม ฉวีวรรณ อีสเลอร์

น้องหมิง  Mrs Noble Queen Thailand 2017 คนแรกของไทย ต้องทำหน้าที่ไปเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยและเข้าร่วมประกวด “Mrs Asia Noble Queen International 2017” ที่ประเทศเมียนมาร์ เดือน กันยายน ศกนี้

Mrs.Noble Queen Thailand 2017  หมายเลข 5 คุณตระการตา นพวงศ์ (หมิง)

งานนี้เธอให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า
”หมิง รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ทำสำเร็จแล้วในวันนี้ การคว้ามงกุฎ
Mrs Noble Queen Thailand 2017 คนแรกของไทย พยายามทำหน้าที่ของตัวเองในการประกวดที่ประเทศเมียนมาร์ให้ดีที่สุด  และค่อนข้างรู้สึกมั่นใจ พร้อมมากและได้มีการเตรียมตัวมาอย่างดี และเคยมีประสบการณ์ในเวทีประกวดระดับประเทศมาบ้าง เมื่อครั้งยังโสด ที่ชนะมาได้ในวันนี้เพราะความมั่นใจและเข้าร่วมทำทุกกิจกรรมของกองประกวด  นอกจากมงกุฎที่ได้รับแล้ว ดีใจมากที่ได้มิตรภาพและประสบการณ์จากเพื่อนใหม่ๆ  เพิ่มขึ้นอีก
ซื่งเพื่อนๆ ทุกท่านเหมือนไม่ได้มาแข่งขันกัน บรรยากาศสนุก สนาน ขอขอบคุณกองประกวดฯ และชาวหัวหินที่น่ารักทุกๆ ท่านที่ส่งกำลังใจเชียร์
หมิงอย่างเต็มที่  หลังจากได้รับตำแหน่งจะช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวเมืองหัวหิน  ขอขอบคุณกำลังใจจากกองเชียร์อย่างล้นเหลือ จากลูกชายทั้ง  2 และ สามีที่เคียงข้างและคอยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทำให้เราทำหน้า
ที่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งการงาน การเลี้ยงลูกหรืองานบ้านต่างๆ ต่อไปก็คือหน้าที่เพื่อสังคม การเป็นนางงามไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเรามีใจรัก แม้จะเหน็ดเหนื่อยบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าเราได้เป็นผู้ให้ ความเหนื่อยล้าจะหายไป เมื่อเห็นรอยยิ้มผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยสนับสนุน Mrs Noble Queen Thailand 2017 ต้องสวยและสตรอง ทั้งหน้าที่เพื่อสังคม และครอบครัวต้องทำควบคู่ไปพร้อมๆกัน ผู้หญิงยุคใหม่ต้องมีไฟอย่าหยุดฝัน และจะต้องทำหน้าที่ให้ดีไปพร้อมๆ นิยามของผู้หญิงยุคใหม่

การเตรียมตัวเพื่อไปประกวด เธอบอกว่าจะนำรำไทยไปรำโชว์เพื่อเผยแพร่ ศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่สวยงาม และเป็นหนึ่งอันแสดงถึงความเป็นชาติไทย ด้านภาษาก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และยังเรียนจบด้าน

เข้มข้นกันเลยทีเดียว กับการประกวด น้องหมิง นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงและยังเป็นคุณแม่คนสวย  คว้ามงกุฎ Mrs Noble Queen Thailand 2017  คนแรกของไทยไปอย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งสวย ทั้งเฟอร์เฟคทุกด้านแบบนี้ พร้อมโชว์ศักยภาพความเป็นไทยสู่เวทีสากล

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ณ บริเวณลานชั้น 1 ศูนย์การค้าบลู
พอร์ต หัวหิน ได้จัดงานประกวด   Mrs Noble Queen Thailand 2017
รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับผู้ที่ได้ครอบครองมงกุฎ คือน้องหมิง คุณแม่ลูก 2 กับ ลูกชายวัยน่ารักทั้งคู่ ปัจจุบันเธอเป็นนักธุรกิจ
รุ่นใหม่ไฟแรงที่ประสบผลสำเร็จทุกๆด้าน กับครอบครัวที่อบอุ่น

เส้นทางรอยไหม ใยฝ้าย เปิดตำนานผืนผ้าเชื่อมโยงชุมชน 4 จังหวัด

ถัก ทอ สายใย ตำนานแห่งผืนผ้า

มนต์เสน่ห์ล้านนาตะวันออก สี่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ชูมรดก ภูมิปัญญา
ผ้าล้านนาตะวันออก เปิดเส้นทางท่องเที่ยว รอยไหมใยฝ้ายเชื่อมโยงชุมชน 4  จังหวัด เพื่อดึงนักท่องเที่ยวสัมผัสอารยธรรมผ้าล้านนา ภายใต้คอนเซ็ป

แพร่ :   “ซิ่นงาม นามจกเมืองลอง”
น่าน :  “เสน่ห์ซิ่นน่าน สืบสานงานเครื่องเงิน”
พะเยา :   “พะเยาผ้าทอมรดกแห่งภูมิปัญญา”
เชียงราย : “อารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก ผ้าทอพื้นถิ่นไทยสู่สากล

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย (แพร่ น่าน พะเยาเชียงราย)ทั้งนี้เพื่อพัฒนาสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าทอท้องถิ่นผลิตภัณฑ์ชุมชนอันเกิดจากมรดกภูมิปัญญาของชาวล้านนาตะวันออก

บรรยากาศการร่วม  บทสนทนาระหว่าง Miss universe thailand และดารานักแสดง  เชื่อมโยงชุมชน 4  จังหวัด ในงานแถลงข่าว เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย ล้านนาตะวันออก สวยขนาดไหนสัมผัสใกล้ชิดเธอได้ในงาน เส้นทางรอยไหม ใยฝ้าย  ของ  จังหวัดแพร่, น่าน, พะเยา, เชียงราย  กันยายน 2560
Miss Universe Thailand 2017 คุณมารีญา พูลเลิศลาภ ในงานเเถลงข่าว

กล่าวถึงการได้รับคัดเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของโครงการ ว่า ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ  โครงการ ทำให้เห็นว่ากว่าจะมาเป็นผ้าทอล้านนาในแต่
ละผืนนั้น ไม่ได้มีแค่กระบวนการผลิตที่ละเอียดทุกขั้นตอนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของผืนผ้าแต่ละชนิด แต่ละแบบที่มีความประวัติความเป็นมาแตกต่างกันมีความหมายที่สะท้อนในลวดลายของผืนผ้า ซึ่งเกิดจากการสั่งสมภูมิปัญญาของชาวล้านนาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต ดังนั้น  การนำเอาผ้าทอล้าน
นามาต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ย่อมทำให้คนในรุ่นปัจจุบันมี
เปิดโอกาสเดินทางไป

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ  ตอนบน 2 โดย สำนักงานการเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ ชูมรดกภูมิปัญญาผ้าล้านนา สู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชวนสัมผัสอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก  บนเส้นทางรอยไหมใยฝ้ายใน 4 จังหวัด
ช่วงโลว์ซีซั่น ทั้งผลิตสารคดีท่องเที่ยวประกวดแข่งขันออกแบบสินค้าท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกายจากผ้าพื้นเมือง พร้อมจัดเวทีแฟชั่นโชว์อัตลักษณ์ความงดงามของผ้าทอล้านนาตะวันออกสู่สากล นำโดย มารีญา พูนเลิศลาภ Miss Universe Thailand 2017

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์  ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นางนาถนรี  ธนะปัญโญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่  นายเสริฐ ไชยานันตา  ท่องเที่ยวและกีฬา
จังหวัดน่าน  นายคมสันต์  สุมะนาถ  ท่องเที่ยวและกีฬา  จังหวัดพะเยา นางสาวปราณปริยา พลเยี่ยม  ท่องเที่ยวและกีฬา  จังหวัดเชียงราย
นางสาวเอิบลาภ  ศรีภิรมย์  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่  รวมทั้  งน.ส. มารีญา พูนเลิศลาภ Miss Universe Thailand 2017  น.ส. สุภาภรณ์  ฤทธิพฤกษ์  รอง Miss Universe Thailand 2017
และ นายพุทธิพงษ์ คล้ำจีนภาณุวงศ์  ร่วมกันแถลงข่าว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย  (แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย) ตามโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์และการตลาดท่องเที่ยว ณ. ลาน Event Hall The Mall 3 สาขา  รามคำแหง
จ. กรุงเทพมหานคร

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า
การท่องเที่ยวนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาท  ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยปัจจุบันได้มีนำเสนอจุดแข็งของไทย คือ  วิถีไทย อันเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความเป็นไทยแท้ ดั้งเดิม จึงมีการต่อยอดนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวที่ผูกโยงกับวิถีไทย  ที่ลงลึกมากขึ้น เพื่อนำรายได้และความเข้มแข็งสู่เศรษฐกิจฐานราก ทำให้คนท้องถิ่นเกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว  นำไปสู่ความยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในอนาคต  ซึ่งกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน  2 ประกอบด้วย จังหวัดแพร่ น่าน พะเยาและเชียงราย หรือกลุ่มจังหวัด  ล้านนาตะวันออก สนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งเชิง ประวัติศาสตร์  ศิลปวัฒนธรรม  และนิเวศ มีการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และการส่งเสริมการตลาดแต่ที่ผ่านปริมาณนักท่องเที่ยวจะมีมากเฉพาะในฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ ไฮซีซั่น
(High Season) เท่านั้น

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์ การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม  และการท่องเที่ยวชุมชนที่เกิดขึ้นมาใหม่อีกหลายชุมชน ดังนั้นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ จึงได้ดำเนินโครงการ
ส่งเสริมประชาสัมพันธ์และการตลาดท่องเที่ยวขึ้น โดยกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย (แพร่ น่าน พะเยาเชียงราย)ทั้งนี้เพื่อพัฒนาสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าทอท้องถิ่นผลิตภัณฑ์ชุมชนอันเกิดจากมรดกภูมิปัญญาของชาวล้านนาตะวันออก นำมาส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวทางด้านศิลปวัฒนธรรมในช่วงโลว์ซีซั่น (Low Season) หรือ นอกฤดูกาลท่องเที่ยว กระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือน  จังหวัดแพร่ น่าน พะเยาและเชียงราย เพิ่มมากขึ้น อันจะนำไปสู่ การเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่  กล่าวว่า  ภายใต้โครงการ
ดังกล่าวมีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดทำสารคดีท่องเที่ยวทางโทรทัศน์ “เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย”  นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในแหล่งผ้าทอแต่ละจังหวัด และเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลทีวี28 ช่อง 3 (SD) การจัดประกวดแข่งขัน  ออกแบบสินค้าทางการท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกายโดยใช้ผ้าพื้นเมืองพร้อมทั้งยังมีกำหนดจัดเวทีแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าทอล้านนาตะวันออก ใน 4 จังหวัด

จังหวัดแพร่ : งาน “ซิ่นงาม นามจกเมืองลอง” และงาน “Thailand Indigo Fashion Week” วันที่ 1-3 ก.ย. 2560

จังหวัดน่าน : งาน “เสน่ห์ซิ่นน่าน สืบสานงานเครื่องเงิน” วันที่ 8-10 ก.ย. 2560

จังหวัดพะเยา : งาน “พะเยาผ้าทอมรดกแห่งภูมิปัญญา” วันที่ 15-16 ก.ย. 2560

จังหวัดเชียงราย : งาน “อารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออกผ้าทอพื้นถิ่นไทยสู่สากล”   วันที่ 22-24 ก.ย. 2560

ทั้งนี้ โครงการได้รับเกียรติจาก น.ส. มารีญา พูนเลิศลาภ  Miss Universe Thailand 2017 ตัวแทนสาวไทยที่จะไปร่วมการประกวด Miss Universe 2017 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนนี้มาเป็นพรเซนเตอร์ (Presenter)  เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ความงดงามของผ้าทอล้านนาตะวันออกสู่สากลโดย น.ส. มารีญา  พูนเลิศลาภ เข้าร่วมในพิธีเปิดงาน และเดินแบบแฟชั่นโชว์  ในชุดผ้าทอ ล้านนาตะวันออก  บนเวทีของทั้ง 4  จังหวัด
อีกด้วย

ด้าน นางนาถนรี  ธนะปัญโญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ กล่าวเพิ่มเติมถึงการประกวดแข่งขัน การออกแบบสินค้าทางการท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกายโดยใช้ผ้าพื้นเมืองในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2  หรือรางวัล Eastern Lanna Design Award 2017  เป็นความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ  ที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน  จากมรดกทางภูมิปัญญา  ผ้าทอท้องถิ่นโดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมส่งผลงานชิงเงินรางวัลรวมกว่า 8 แสนบาท โดยรูปแบบการประกวดผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยประเภทชุดแต่งกายจากผ้าพื้นเมือง เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษหรือสตรี (อย่างใดอย่างหนึ่ง) จำนวน 1 ชุด ประเภทสินค้าทางการท่องเที่ยวจากผ้าพื้นเมือง เช่น ของที่ระลึก ของฝาก ชนิดใดก็ได้ จำนวน 1 ชิ้นซึ่งผู้สมัครต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปสัญชาติไทย และสามารถเข้าร่วมทุกกิจกรรมของโครงการทั้งนี้กำหนดเปิดรับสมัครส่งผลงานตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 18 สิงหาคม นี้

โดยส่งผลงานด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ไปได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอซอยตรีมิตร ถนนพระรามที่ 4 แขวงอพระโขนงเขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

สนใจส่งผลงานออนไลน์ทาง
Facebook fanpace : เส้นทางรอยไหมใยฝ้ายผ้าล้านนาตะวันออก หรือ Link การสมัคร

การจัดกิจกรรม  ส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก
เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย (แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย) ภายใต้โครงการส่งเสริมสัมผัสเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่เป็นแหล่งผลิตผ้าทอล้านนาสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ลึกซึ้งและยังได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน
ผ้าทอล้านนา

ประชาสัมพันธ์และการตลาดท่องเที่ยว
ณ ลาน Event Hall The Mall รามคำแหง 3  จ.กรุงเทพมหานคร

#TheMallThailand #MissUniverseThailand #เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย

คุณรู้หรือไม่? กระบวนการได้เซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื้อต้องทำอย่างไร

MEDEZE ธนาคารรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด

อีกก้าวสำคัญที่ไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อนการเก็บเซลล์ต้นกำเนิด  (Stem cell) กับสุดยอดฝีมือของคนไทย  ก้าวไกลสู่ระดับ ประเทศการเก็บเซลล์ต้นกำเนิด เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องการการรักษา ด้วยเซลล์ต้นกำเนิด การรักษาด้วยวิธีเซลล์ต้นกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับอาการเจ็บที่ไขสันหลัง โรคหลอดเลือดสมอง พาร์คินสัน โรคอัลไซเมอร์ ข้อต่ออักเสบ และอาการอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีความต้องการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ตามการศึกษาทดลอง

ในวันนี้ เมดีซ พร้อมแล้วที่จะให้บริการทางการแพทย์การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ และที่สำคัญ เมดีซ ยืนหยัดที่จะส่งมอบ ชีวิตที่ยืนยาว ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับของเราทุกคน  เมดีซ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองทั้งในด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญนวัตกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่มีระดับสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่เขารักให้ได้ยืนยาว

MEDEZE  เป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เราได้พัฒนาศักยภาพที่มีความโดดเด่น เพื่อเปิดมิติใหม่ให้กับธุรกิจทางการแพทย์ ด้วยธุรกิจ LONGEVITY

-การรักษาด้วยการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
-การรักษาด้วยเซลล์บำบัด Stem Cells และ NK Cells  เพื่อให้ร่างกาย
ทุกระบบแข็งแรงและอยู่ในสภาวะสมบูรณ์พร้อมตลอดเวลา โดยมีภูมิต้านทานสูงต่อการเป็นมะเร็งและโรคติดเชื้อ
-เวชสำอาง  ที่พัฒนาจากนวัตกรรมการสกัด Natural Growth Factor ของเซลล์ต้นกำเนิดโดยปราศจากสารเคมี เพื่อส่งเสริมความอ่อนเยาว์ให้ผิว

MEDEZE is the biggest depository and developer of stem cell in Thailand. The company’s market share and sales revenue are steadily growing. We have broadened our already outstanding capabilities and debuted a new dimension for medical and healthcare business like no one else has done before – that is the the “Longevity” business.
– Surgeries performed by world’s most renowned surgeons.
– Treatments using “Stem Cells” and “NK Cells” to enable all body systems to stay healthy and remain perfect all the time. Create high level immunity to battle against cancer and infections.
– Medical cosmetics that have been developed through extractions of the Natural Growth Factor without the use of any chemicals, for younger looking skin and better complexions.

MEDEZE by Bangkok Stem Cell  นำระบบขนส่งถ่ายโอนเซลล์ที่ดีที่สุดสำหรับเซลล์ต้นกำเนิด เพื่อการปลูกถ่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแด่คุณคนสำคัญของเรา ด้วย Cryogenic Vapour Shipper ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการขนส่งที่ปลอดภัยของเซลล์ต้นกำเนิดที่อุณหภูมิคงที่ (-190 °C) เป็นเวลา 14 วันด้วยเทคโนโลยีที่กรุงเทพสเต็มเซลล์ตั้งใจคัดสรรมา จึงทำให้เซลล์ต้นกำเนิดของคุณปลอดภัย แข็งแรงและมีประสิทธิภาพพร้อมสำหรับการใช้เพื่อการรักษาโรค การขนส่งถ่ายโอนเซลล์ด้วย Cryogenic Vapour Shipper ช่วยให้การขนส่งเซลล์ต้นกำเนิดทำได้สะดวกทั่วโลก ในหมวดหมู่ “non-hazardous” ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความมั่นใจในศักยภาพของเซลล์ต้นกำเนิด
• รักษาสภาวะแห้งสะอาดปราศจากการรั่วไหลของสภาวะไอระเหยในขณะขนส่ง
• สามารถรักษาอุณหภูมิแช่แข็งได้นานถึง 14 วัน
• มีอุปกรณ์ป้องกันบรรจุภัณฑ์ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดส่งเซลล์จะอยู่ในแนวตั้งตรงจนถึงมือคุณ
• ใช้สารชนิดพิเศษในการรักษาระบบสุญญากาศ
• ใช้ระบบดูดซับความเย็นจากไนโตรเจนเหลว
• น้ำหนักเบาง่ายต่อการขนส่ง
• พร้อมจัดส่งตลอด 24 ชั่วโมง

จากจุดเริ่มต้นของเราในวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 กรุงเทพสเต็มเซลล์
ได้สร้างความประทับใจมาอย่างยาวนานด้วยบริการอย่างมีระดับมาตราฐานทางการแพทย์สูงสุด ยืนยันด้วยการตอบรับของกลุ่มลูกค้าคนพิเศษของเรา นับ 10,000 ราย และรางวัลจากกลุ่มนัก จัดอันดับบริษัทชั้นนำ

Frost & Sullivan ได้มอบรางวัล 2017  Thailand Stem Cell Banking Growth Excellence Leadership Award ในกับ กรุงเทพสเต็มเซลล์ เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ที่มีความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี งานวิจัยและการตลาดดีเด่น รวมทั้งการเป็นธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดที่ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย

ด้วยความเชื่อมั่นจากคนพิเศษของเราทุกท่าน ทำให้วันนี้ กรุงเทพสเต็มเซลล์สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่น่าภาคภูมิใจ ด้วยการก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในงานวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับโลกใบนี้ เราจะไม่ดูแลเพียงแค่เฉพาะอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดเท่านั้น แต่เราจะเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ครอบคลุมธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อจะยืนหยัดที่จะส่งมอบ “ชีวิตที่ยืนยาว” ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับ ในนาม เมดีซ กรุ๊ป MEDEZE GROUP ด้วยทีมงานบริหารและผู้ถือหุ้นชุดเดิมทั้งหมด พร้อมสร้างศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด

เมดีซกรุ๊ป   MEDEZE GROUP  ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับการเติบโตก้าวสำคัญสู่ธุรกิจด้านการแพทย์  ชั้นนำระดับโลก ในนามกลุ่มบริษัททางการแพทย์ เมดีซกรุ๊ป I MEDEZE GROUP ตอกย้ำ  ความเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดของประเทศ ด้วยการก้าวข้ามสู่การปฏิวัติธุรกิจการแพทย์ในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างเหนือระดับด้วยการเปิดตัวกลุ่มบริษัททางการแพทย์ เมดีซกรุ๊ป I MEDEZE GROUP สู่การให้บริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสุดในทุกด้านแบบครบวงจรที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน

นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์,  รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล ซึ่งเป็นทีมผู้ก่อตั้งและบริหารงานที่ทำให้บริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ จำกัด ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมธุรกิจการให้บริการรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ที่สามารถขยายสาขาครอบคลุมความต้องการ  ออกไปสู่ประเทศเวียดนาม เมียนมา  และสิงคโปร์ จนทำให้วันนี้กรุงเทพสเต็มเซลล์ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล สู่การเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่มีผู้คนจากทั่วโลกมา
ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี


ก้าวต่อไปจากนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของเราในนาม เมดีซ กรุ๊ป MEDEZE GROUP นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฝากเก็บเนื้อเยื่อ และปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ให้ความรู้  เกี่ยวกับสเต็มเซลล์
(Stem Cell) ภายใต้จิตวิญญาณและการบริหารของทีมผู้ก่อตั้งชุดเดิม
พร้อมด้วยศาสตราจารย์ทางการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และผู้บริหารจากหลากหลายประเทศที่จะเข้ามาเสริมทัพให้เมดีซเติบโตมากขึ้น เพื่อที่เรา
จะได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ให้กับโลกใบนี้

เมดีซ เดินหน้าอย่างเต็มกำลังที่จะวิจัยและพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิด สู่การรักษาโรคได้อย่างเต็มศักยภาพ ภายใต้การดำเนินงานของเมดีซสเต็มเซลล์ : MEDEZE I STEM CELL ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์ต้นกำเนิดที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศและด้วยความร่วมมือระดับนานาชาติ ทำให้วันนี้เมดีซสเต็มเซลล์ก้าวไปอีกขั้นสู่การสร้างสรรค์เซลล์ต้นกำเนิดรากผม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยจิชิ (Jichi) ประเทศญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเทศไทย และ เมดีซสเต็มเซลล์

MEDEZE ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งแรกในประเทศไทย

นับเป็นก้าวสำคัญของ เมดีซกรุ๊ป MEDEZE GROUP สู่การรักษาผู้ที่ประสบปัญหาศีรษะล้านได้อย่างไม่มีขีดจำกัด รวมทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพสู่นวัตกรรมในการสร้างอวัยวะสำรอง ซึ่งเป็นความร่วมมือของเมดีซสเต็มเซลล์ และรัฐบาลสิงคโปร์ ด้วยการสร้างกระจกตา  จากเซลล์ต้นกำเนิดส่วนบุคคลสู่การป้องกัน และรักษาโรคมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง ภายใต้การกำกับดูแลของเมดีซ เอ็นเคเซลล์ : MEDEZE I NKCELL
ซึ่งเป็นการผนึกกำลังร่วมมือกันระหว่างเมดีซ และ New City Osaki Clinic ของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง  เป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน NK CELL ที่ประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นและระดับโลก

Dr.Junichi Masuyama  และ Dr.Sanehiko Fujita  ท่านเป็นทั้งผู้คิดค้นวิธีการและท่านรักษาคนไข้ด้วยตนเอง ทำให้วันนี้ เมดีซเอ็นเคเซลล์ สามารถเพิ่มการรักษาที่สำคัญให้กับกลุ่มคนไข้ ที่เป็นโรคมะเร็งได้แล้วรวมทั้งสามารถป้องกันก่อนที่จะเป็นมะเร็งได้ด้วย อีกก้าวสำคัญที่ไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อนกับการรักษาแบบขุดรากถอนโคน ภายใต้การบริหารงานของ เมดีซเมดิคอล แอนด์ลอง

จิวิตี้ : MEDEZE I MEDICAL & LONGIVITY นั่นคือการผ่าตัดที่หวังผลความสำเร็จ 100% เพราะเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ไม่ควรลองผิดลองถูก เมดีซเมดิคอล แอนด์ ลองจิวิตี้ จึงคัดสรรเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องที่ดีที่สุดมาใช้ และสิ่งสำคัญเราได้นำแพทย์ผ่าตัดที่มีผลงาน และชื่อเสียงระดับโลกมารักษาให้คุณ
ในวันนี้ เมดีซ พร้อมแล้วที่จะผนึกกำลังและก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในระดับโลกของธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ และที่สำคัญ เมดีซ ยืนหยัดที่จะส่งมอบ “ชีวิตที่ยืนยาว” ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับของเราทุกคน

เมดีซ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองทั้งในด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่มีระดับสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่เขารักให้ได้ยืนยาวที่สุดนานถึง 120 ปี

เมดีซกรุ๊ป MEDEZE GROUP ผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดของประเทศด้วยการก้าวข้ามสู่การปฏิวัติธุรกิจการแพทย์ในรูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างเหนือระดับด้วยการเปิดตัวกลุ่มบริษัททางการแพทย์เมดีซกรุ๊ป I MEDEZE GROUP สู่การให้บริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสุดในทุกด้านแบบครบวงจรที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน

นำทีมโดย นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์, รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล ซึ่งเป็นทีมผู้ก่อตั้งและบริหารงานที่ทำให้บริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ จำกัด ประสบความสำเร็จอย่างงดงามและสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมธุรกิจการให้บริการรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถขยายสาขาครอบคลุมความต้องการออกไปสู่ประเทศเวียดนาม เมียนมา และสิงคโปร์ จนทำให้วันนี้กรุงเทพสเต็มเซลล์ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล สู่การเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่มีผู้คนจากทั่วโลกมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี

ก้าวต่อไปจากนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของเราในนาม เมดีซ กรุ๊ป I MEDEZE GROUP ภายใต้จิตวิญญาณและการบริหารของทีมผู้ก่อตั้งชุดเดิมพร้อมด้วยศาสตราจารย์ทางการแพทย์นักวิทยาศาสตร์ และผู้บริหารจากหลากหลายประเทศที่จะเข้ามาเสริมทัพให้เมดีซเติบโตมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ให้กับโลกใบนี้

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฝากเก็บเนื้อเยื่อและปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ให้ความรู้เกี่ยวกับสเต็มเซลล์ (Stem Cell)

MEDEZE พร้อมยืนหยัดที่จะส่งมอบชีวิตที่ยืนยาว (ถึง 120 ปี) ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับ เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่คุณรัก

MEDEZE is prepared to present Longevity (Up to 120 years old)
to the elite target group, helping you to lead wholesome, fulfilling and happy lives with your loved ones.


เพื่อคุณ…คนสำคัญของเรา
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูล การเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell)
โทร.  02-482-2992-4
www.bangkokstemcell.org
info@bangkokstemcell.org
https://www.bangkokstemcell.org