คุณรู้หรือไม่? กระบวนการได้เซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื้อต้องทำอย่างไร

MEDEZE ธนาคารรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด

อีกก้าวสำคัญที่ไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อนการเก็บเซลล์ต้นกำเนิด  (Stem cell) กับสุดยอดฝีมือของคนไทย  ก้าวไกลสู่ระดับ ประเทศการเก็บเซลล์ต้นกำเนิด เทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องการการรักษา ด้วยเซลล์ต้นกำเนิด การรักษาด้วยวิธีเซลล์ต้นกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับอาการเจ็บที่ไขสันหลัง โรคหลอดเลือดสมอง พาร์คินสัน โรคอัลไซเมอร์ ข้อต่ออักเสบ และอาการอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีความต้องการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ตามการศึกษาทดลอง

ในวันนี้ เมดีซ พร้อมแล้วที่จะให้บริการทางการแพทย์การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ และที่สำคัญ เมดีซ ยืนหยัดที่จะส่งมอบ ชีวิตที่ยืนยาว ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับของเราทุกคน  เมดีซ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองทั้งในด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญนวัตกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่มีระดับสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่เขารักให้ได้ยืนยาว

MEDEZE  เป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เราได้พัฒนาศักยภาพที่มีความโดดเด่น เพื่อเปิดมิติใหม่ให้กับธุรกิจทางการแพทย์ ด้วยธุรกิจ LONGEVITY

-การรักษาด้วยการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
-การรักษาด้วยเซลล์บำบัด Stem Cells และ NK Cells  เพื่อให้ร่างกาย
ทุกระบบแข็งแรงและอยู่ในสภาวะสมบูรณ์พร้อมตลอดเวลา โดยมีภูมิต้านทานสูงต่อการเป็นมะเร็งและโรคติดเชื้อ
-เวชสำอาง  ที่พัฒนาจากนวัตกรรมการสกัด Natural Growth Factor ของเซลล์ต้นกำเนิดโดยปราศจากสารเคมี เพื่อส่งเสริมความอ่อนเยาว์ให้ผิว

MEDEZE is the biggest depository and developer of stem cell in Thailand. The company’s market share and sales revenue are steadily growing. We have broadened our already outstanding capabilities and debuted a new dimension for medical and healthcare business like no one else has done before – that is the the “Longevity” business.
– Surgeries performed by world’s most renowned surgeons.
– Treatments using “Stem Cells” and “NK Cells” to enable all body systems to stay healthy and remain perfect all the time. Create high level immunity to battle against cancer and infections.
– Medical cosmetics that have been developed through extractions of the Natural Growth Factor without the use of any chemicals, for younger looking skin and better complexions.

MEDEZE by Bangkok Stem Cell  นำระบบขนส่งถ่ายโอนเซลล์ที่ดีที่สุดสำหรับเซลล์ต้นกำเนิด เพื่อการปลูกถ่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแด่คุณคนสำคัญของเรา ด้วย Cryogenic Vapour Shipper ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการขนส่งที่ปลอดภัยของเซลล์ต้นกำเนิดที่อุณหภูมิคงที่ (-190 °C) เป็นเวลา 14 วันด้วยเทคโนโลยีที่กรุงเทพสเต็มเซลล์ตั้งใจคัดสรรมา จึงทำให้เซลล์ต้นกำเนิดของคุณปลอดภัย แข็งแรงและมีประสิทธิภาพพร้อมสำหรับการใช้เพื่อการรักษาโรค การขนส่งถ่ายโอนเซลล์ด้วย Cryogenic Vapour Shipper ช่วยให้การขนส่งเซลล์ต้นกำเนิดทำได้สะดวกทั่วโลก ในหมวดหมู่ “non-hazardous” ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความมั่นใจในศักยภาพของเซลล์ต้นกำเนิด
• รักษาสภาวะแห้งสะอาดปราศจากการรั่วไหลของสภาวะไอระเหยในขณะขนส่ง
• สามารถรักษาอุณหภูมิแช่แข็งได้นานถึง 14 วัน
• มีอุปกรณ์ป้องกันบรรจุภัณฑ์ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดส่งเซลล์จะอยู่ในแนวตั้งตรงจนถึงมือคุณ
• ใช้สารชนิดพิเศษในการรักษาระบบสุญญากาศ
• ใช้ระบบดูดซับความเย็นจากไนโตรเจนเหลว
• น้ำหนักเบาง่ายต่อการขนส่ง
• พร้อมจัดส่งตลอด 24 ชั่วโมง

จากจุดเริ่มต้นของเราในวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 กรุงเทพสเต็มเซลล์
ได้สร้างความประทับใจมาอย่างยาวนานด้วยบริการอย่างมีระดับมาตราฐานทางการแพทย์สูงสุด ยืนยันด้วยการตอบรับของกลุ่มลูกค้าคนพิเศษของเรา นับ 10,000 ราย และรางวัลจากกลุ่มนัก จัดอันดับบริษัทชั้นนำ

Frost & Sullivan ได้มอบรางวัล 2017  Thailand Stem Cell Banking Growth Excellence Leadership Award ในกับ กรุงเทพสเต็มเซลล์ เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ที่มีความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี งานวิจัยและการตลาดดีเด่น รวมทั้งการเป็นธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดที่ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย

ด้วยความเชื่อมั่นจากคนพิเศษของเราทุกท่าน ทำให้วันนี้ กรุงเทพสเต็มเซลล์สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่น่าภาคภูมิใจ ด้วยการก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในงานวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับโลกใบนี้ เราจะไม่ดูแลเพียงแค่เฉพาะอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดเท่านั้น แต่เราจะเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ครอบคลุมธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อจะยืนหยัดที่จะส่งมอบ “ชีวิตที่ยืนยาว” ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับ ในนาม เมดีซ กรุ๊ป MEDEZE GROUP ด้วยทีมงานบริหารและผู้ถือหุ้นชุดเดิมทั้งหมด พร้อมสร้างศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด

เมดีซกรุ๊ป   MEDEZE GROUP  ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับการเติบโตก้าวสำคัญสู่ธุรกิจด้านการแพทย์  ชั้นนำระดับโลก ในนามกลุ่มบริษัททางการแพทย์ เมดีซกรุ๊ป I MEDEZE GROUP ตอกย้ำ  ความเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดของประเทศ ด้วยการก้าวข้ามสู่การปฏิวัติธุรกิจการแพทย์ในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างเหนือระดับด้วยการเปิดตัวกลุ่มบริษัททางการแพทย์ เมดีซกรุ๊ป I MEDEZE GROUP สู่การให้บริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสุดในทุกด้านแบบครบวงจรที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน

นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์,  รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล ซึ่งเป็นทีมผู้ก่อตั้งและบริหารงานที่ทำให้บริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ จำกัด ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมธุรกิจการให้บริการรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ที่สามารถขยายสาขาครอบคลุมความต้องการ  ออกไปสู่ประเทศเวียดนาม เมียนมา  และสิงคโปร์ จนทำให้วันนี้กรุงเทพสเต็มเซลล์ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล สู่การเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่มีผู้คนจากทั่วโลกมา
ใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี


ก้าวต่อไปจากนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของเราในนาม เมดีซ กรุ๊ป MEDEZE GROUP นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฝากเก็บเนื้อเยื่อ และปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ให้ความรู้  เกี่ยวกับสเต็มเซลล์
(Stem Cell) ภายใต้จิตวิญญาณและการบริหารของทีมผู้ก่อตั้งชุดเดิม
พร้อมด้วยศาสตราจารย์ทางการแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ และผู้บริหารจากหลากหลายประเทศที่จะเข้ามาเสริมทัพให้เมดีซเติบโตมากขึ้น เพื่อที่เรา
จะได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ให้กับโลกใบนี้

เมดีซ เดินหน้าอย่างเต็มกำลังที่จะวิจัยและพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิด สู่การรักษาโรคได้อย่างเต็มศักยภาพ ภายใต้การดำเนินงานของเมดีซสเต็มเซลล์ : MEDEZE I STEM CELL ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์ต้นกำเนิดที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศและด้วยความร่วมมือระดับนานาชาติ ทำให้วันนี้เมดีซสเต็มเซลล์ก้าวไปอีกขั้นสู่การสร้างสรรค์เซลล์ต้นกำเนิดรากผม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยจิชิ (Jichi) ประเทศญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเทศไทย และ เมดีซสเต็มเซลล์

MEDEZE ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งแรกในประเทศไทย

นับเป็นก้าวสำคัญของ เมดีซกรุ๊ป MEDEZE GROUP สู่การรักษาผู้ที่ประสบปัญหาศีรษะล้านได้อย่างไม่มีขีดจำกัด รวมทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพสู่นวัตกรรมในการสร้างอวัยวะสำรอง ซึ่งเป็นความร่วมมือของเมดีซสเต็มเซลล์ และรัฐบาลสิงคโปร์ ด้วยการสร้างกระจกตา  จากเซลล์ต้นกำเนิดส่วนบุคคลสู่การป้องกัน และรักษาโรคมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง ภายใต้การกำกับดูแลของเมดีซ เอ็นเคเซลล์ : MEDEZE I NKCELL
ซึ่งเป็นการผนึกกำลังร่วมมือกันระหว่างเมดีซ และ New City Osaki Clinic ของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง  เป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน NK CELL ที่ประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นและระดับโลก

Dr.Junichi Masuyama  และ Dr.Sanehiko Fujita  ท่านเป็นทั้งผู้คิดค้นวิธีการและท่านรักษาคนไข้ด้วยตนเอง ทำให้วันนี้ เมดีซเอ็นเคเซลล์ สามารถเพิ่มการรักษาที่สำคัญให้กับกลุ่มคนไข้ ที่เป็นโรคมะเร็งได้แล้วรวมทั้งสามารถป้องกันก่อนที่จะเป็นมะเร็งได้ด้วย อีกก้าวสำคัญที่ไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อนกับการรักษาแบบขุดรากถอนโคน ภายใต้การบริหารงานของ เมดีซเมดิคอล แอนด์ลอง

จิวิตี้ : MEDEZE I MEDICAL & LONGIVITY นั่นคือการผ่าตัดที่หวังผลความสำเร็จ 100% เพราะเรื่องที่สำคัญเช่นนี้ไม่ควรลองผิดลองถูก เมดีซเมดิคอล แอนด์ ลองจิวิตี้ จึงคัดสรรเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องที่ดีที่สุดมาใช้ และสิ่งสำคัญเราได้นำแพทย์ผ่าตัดที่มีผลงาน และชื่อเสียงระดับโลกมารักษาให้คุณ
ในวันนี้ เมดีซ พร้อมแล้วที่จะผนึกกำลังและก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในระดับโลกของธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพ และที่สำคัญ เมดีซ ยืนหยัดที่จะส่งมอบ “ชีวิตที่ยืนยาว” ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับของเราทุกคน

เมดีซ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองทั้งในด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่มีระดับสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่มีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่เขารักให้ได้ยืนยาวที่สุดนานถึง 120 ปี

เมดีซกรุ๊ป MEDEZE GROUP ผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดของประเทศด้วยการก้าวข้ามสู่การปฏิวัติธุรกิจการแพทย์ในรูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการอย่างเหนือระดับด้วยการเปิดตัวกลุ่มบริษัททางการแพทย์เมดีซกรุ๊ป I MEDEZE GROUP สู่การให้บริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสุดในทุกด้านแบบครบวงจรที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน

นำทีมโดย นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์, รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล ซึ่งเป็นทีมผู้ก่อตั้งและบริหารงานที่ทำให้บริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ จำกัด ประสบความสำเร็จอย่างงดงามและสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมธุรกิจการให้บริการรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถขยายสาขาครอบคลุมความต้องการออกไปสู่ประเทศเวียดนาม เมียนมา และสิงคโปร์ จนทำให้วันนี้กรุงเทพสเต็มเซลล์ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล สู่การเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่มีผู้คนจากทั่วโลกมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี

ก้าวต่อไปจากนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของเราในนาม เมดีซ กรุ๊ป I MEDEZE GROUP ภายใต้จิตวิญญาณและการบริหารของทีมผู้ก่อตั้งชุดเดิมพร้อมด้วยศาสตราจารย์ทางการแพทย์นักวิทยาศาสตร์ และผู้บริหารจากหลากหลายประเทศที่จะเข้ามาเสริมทัพให้เมดีซเติบโตมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้ร่วมสร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ให้กับโลกใบนี้

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฝากเก็บเนื้อเยื่อและปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ให้ความรู้เกี่ยวกับสเต็มเซลล์ (Stem Cell)

MEDEZE พร้อมยืนหยัดที่จะส่งมอบชีวิตที่ยืนยาว (ถึง 120 ปี) ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีระดับ เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่คุณรัก

MEDEZE is prepared to present Longevity (Up to 120 years old)
to the elite target group, helping you to lead wholesome, fulfilling and happy lives with your loved ones.


เพื่อคุณ…คนสำคัญของเรา
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูล การเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell)
โทร.  02-482-2992-4
www.bangkokstemcell.org
info@bangkokstemcell.org
https://www.bangkokstemcell.org

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) ก้าวสู่ Thailand 4.0

จัดทำแผนกลยุทธ์  TPA CLUSTER
เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาไปสู่ธุรกิจใหม่ Social Innovation

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. (Technology Promotion Association or TPA) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2516 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างศักยภาพขององค์กร และบุคลากรในการให้บริการ  การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศไทย ภายใต้อุดมการณ์ เผยแพร่วิทยาการ สร้างฐานเศรษฐกิจ ตลอดระยะเวลา 44 ปี ในการดำเนินกิจกรรมของ ส.ส.ท. มีความก้าวหน้ามาโดยลำดับ และมีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ การฝึกอบรม ศูนย์สอบเทียบเครื่องมือ โรงเรียนสอนภาษา และจัดพิมพ์หนังสือ สรุปได้ดังนี้สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. (Technology Promotion Association or TPA)

-มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม และสัมมนา จำนวนกว่า 1,000,000 คน

– มีผู้เข้ารับบริการสอบเทียบเครื่องมือวัดอุตสาหกรรม เครื่องมือวัดวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม และเครื่องมือแพทย์    จำนวนกว่า 10,000 องค์กร และมีเครื่องมือวัดที่เข้ารับบริการ กว่า 700,000 เครื่อง

– มีผู้เข้าเรียนด้านภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน เกาหลี และไทย
จำนวนกว่า 280,000 คน

– มีการจัดพิมพ์หนังสือ อาทิ ภาษาและวัฒนธรรม วิศวกรรม เทคโนโลยี เทคนิคอุตสาหกรรม และการบริหารจัดการ   จำนวนกว่า 1,400 รายการ
และมียอดพิมพ์ กว่า 6,500,000 เล่ม พ.ศ. 2550

พ.ศ. 2550 .ส.ท. ได้ดำเนินการจัด  ตั้ง สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น หรือ ส.ท.ญ. (Thai-Nichi Institute of Technology or TNI) โดยมีเป้าหมาย
เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้  ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และ
ภาคอุตสาหกรรม ในหลักสูตรระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ซึ่งตลอด
10 ปี นับแต่ก่อตั้งสถาบันมีผู้สำเร็จการศึกษากว่า 4,500 คน และมีอัตรา
เข้าทำงาน 100 เปอร์เซ็นต์ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อน  ด้วยเทคโนโลยี  และนวัตกรรม


พ.ศ. 2558 รัฐบาลได้ประกาศใช้โมเดลประเทศไทย 4.0 หรือ Thailand 4.0 เพื่อนำประเทศมุ่งสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อย่างเป็นรูปธรรม   โดยมีแผนยุทธศาสตร์ให้พื้นที่ใหม่ๆ ของอุตสาหกรรม และการเติบโตจะถูกระบุเป็น 10 S-Curves ใหม่ นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ริเริ่มจัดทำโครงการระเบียง เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC: Eastern Economic Corridor ซึ่งเป็นส่วนที่ผลักดันให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ความท้าทายสำคัญจึงเกิดขึ้นแก่ภาครัฐ และ  ภาคเอกชน ในการเพิ่มขีดความสามารถองค์กร และบุคลากร เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ อาทิ การเพิ่มผลผลิต ความสามารถด้านนวัตกรรม และการพัฒนาธุรกิจด้วยความคิดที่สร้างสรรค์ ดังนั้น หนึ่งในกลไกสำคัญในการผลักดันให้เป็นประเทศไทย 4.0 จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากเดิมที่ขับเคลื่อน   ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตภาคอุตสาหกรรมไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม

รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่ ส.ส.ท. จะครบรอบการก่อตั้ง 45 ปี และ ส.ท.ญ. ครบรอบการก่อตั้ง 10 ปี ในปีนี้ จึงได้ร่วมกันดำเนินโครงการจัดทำแผนกลยุทธ์ TPA Cluster เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาไปสู่ธุรกิจใหม่ Social Innovation โดยเป็นองค์การชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนในด้านการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ สร้างความเข้มแข็งด้านวิชาการ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเข้มข้น เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจไทยสู่ระดับโลก โดยอาศัยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ และความร่วมมือจากเครือข่ายที่เข้มแข็ง ทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.), Japan-Thailand Economic Cooperation Society or JTECS และหน่วยงานอื่นๆ ภายใต้กรอบการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี กลุ่ม ส.ส.ท. ก้าวสู่ Thailand 4.0 อย่างยั่งยืน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานให้ก้าวทันสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสอดคล้องกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับองค์กร (Stakeholders) อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแผนยุทธศาสตร์ชาติ และเทคโนโลยีดิจิทัล ได้แก่ การพัฒนาแบบจำลองการเรียนรู้โดยใช้ระบบสารสนเทศอย่างเหมาะสม ด้วยการเปิดหลักสูตรออนไลน์โดยใช้แพลตฟอร์ม MOOC: Massive Open Online Course ในการฝึกอบรม และการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรเพื่อให้บริการ HRD: Human Resource Development ในพื้นที่ที่จำเป็นและห่างไกล อาทิ

Monodzukuri ในด้านการผลิต เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมการผลิต การสร้างศูนย์ความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ โดยการจัดตั้งศูนย์ความเชี่ยวชาญหลายแขนง อาทิ TQM, TPM, Intelligent System Integration และ Data Science & Analy

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)   ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น จัดงานแถลงข่าวแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี กลุ่ม ส.ส.ท. ก้าวสู่ Thailand 4.0 อย่างยั่งยืน โดยมี รศ. ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) กล่าวเปิดงาน พร้อมแถลงกลยุทธ์ TPA Cluster และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ให้เกียรติเข้าร่วมงาน อาทิ รศ. ดร.บัณฑิต โรจน์อารยานนท์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ เลขาธิการ สวทน. Mr. Takeshi Uchiyamada Chairman of Japan-Thailand Economic Cooperation Society (JTECS) Mr. Hirofumi Miyake Minister-Counselor สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย Mr. Manabu Kahara ประธานคณะกรรมการTNI-JCC Mr. Hiroki Mitsumata ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) Mr. Hiroo Tanaka หัวหน้าสำนักงานผู้แทน JICA Mr. Shinya Kuwayama ประธาน AOTS และ Mr. Yoshinori Furukawa หัวหน้าสำนักงานผู้แทน NEDO

Linksys ลิงค์ซิส ผู้ผลิตเราเตอร์รายแรกทั่วโลก

เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สะดุด
ลิงค์ซิส ยอดจำหน่ายมากกว่า 100 ล้าน
เครื่องทั่วโลก

ลิงค์ซิส คือผู้บุกเบิกในเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย (Wireless Connectivity) นับตั้งแต่ที่บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 ด้วยกลยุทธ์ด้านวิศวกรรม การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เหนือชั้น เทคโนโลยีการออกแบบระดับสุดยอด และการให้บริการลูกค้าที่เหนือระดับ ลิงค์ซิสรองรับวิถีชีวิตแบบ Connected Lifestyle ซึ่งเชื่อมโยงผู้ใช้ทั้งที่บ้าน สำนักงาน รวมถึงในขณะเดินทาง และด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีรางวัลเป็นเครื่องรับประกันคุณภาพจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการควบคุมระบบเครือข่ายภายในบ้าน ความบันเทิง ความปลอดภัย และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยอาศัยฟีเจอร์และแอปพลิเคชั่นที่สร้างสรรค์ รวมถึงระบบเครือข่ายพันธมิตรที่ครบวงจร

นายกวิน อิสระชัยพิสิฐ ผู้จัดการฝ่ายขาย ลิงค์ซิส ประจำประเทศไทย

ลิงค์ซิส บริษัทผู้ผลิตเราเตอร์รายแรกที่มียอดจำหน่ายมากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลกและเป็นผู้นำด้านโซลูชั่นเครือข่ายการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตทั้งสำหรับบ้านพักอาศัยและองค์กร จัดงานเวิร์คช็อปเพื่อนำเสนอประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สะดุดเราเตอร์ขยายสัญญาณแบบไร้สายรุ่นใหม่ Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Gigabit Wi-Fi Router (EA7500)

การสาธิตสมรรถนะของเราเตอร์ Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Gigabit Wi-Fi Router (EA7500)

ลิงค์ซิส ยกระดับโลกออนไลน์ของผู้บริโภคชาวไทย
ด้วยเราเตอร์ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ AC1900+ MU-MIMO
ผู้บริหารของลิงค์ซิส ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ นายกวิน อิสระชัยพิสิฐ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทยของลิงค์ซิส
แถลงรายงานเกี่ยวกับเทรนด์และลักษณะของตลาดในประเทศไทย รวมถึงโซลูชั่นสำหรับผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต อีกทั้งจะทำการสาธิตสมรรถนะของเราเตอร์ Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Gigabit Wi-Fi Router (EA7500) ที่นำเสนอประสบการณ์การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากห้องหนึ่งสู่อีกห้องหนึ่งโดยไร้ปัญหาอินเตอร์เน็ตช้าและกระตุก

เราเตอร์ Next-Gen Wi-Fi AC1900+ (EA7500) และอุปกรณ์ขยายสัญญาณ Max-Stream™ AC1900+ Range Extender (RE7000) ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นด้วยคุณสมบัติการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์
การสตรีมมิ่งวีดีโอ HD แบบต่อเนื่อง และเทคโนโลยีการโรมมิ่งสัญญาณ Wi-Fi ระหว่างห้องได้แบบไม่สะดุด

ลิงค์ซิส บริษัทผู้ผลิตเราเตอร์รายแรกที่มียอดจำหน่ายมากกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลกและเป็นผู้นำด้านโซลูชั่นเครือข่ายการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตทั้งสำหรับบ้านพักอาศัยและองค์กร เปิดตัวเราเตอร์แบบไร้สายประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Gigabit Wi-Fi Router (EA7500) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเทคโนโลยีรุ่นใหม่นี้สามารถผสานการทำงานกับเครื่องขยายสัญญาณ Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Wi-Fi Range Extender with Room-to-Room Wi-Fi (RE7000) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยสร้างเครือข่ายสัญญาณเดี่ยวภายในบ้าน ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการสตรีมมิ่งวีดีโอ  มีความละเอียด ระดับ 4K  และรายการโทรทัศน์ความละเอียดสูงได้ในหลายอุปกรณ์พร้อมกัน โดยไม่มีการขาดหายของสัญญาณตลอดทั่วทั้งอาคาร

เราเตอร์รุ่น Linksys Max-Stream™ AC1900+ (EA7500) ใช้เทคโนโลยี MU-MIMO (Multi-User, Multiple-Input, Multiple-Output) ทำให้เครือข่ายสัญญาณ Wi-Fi มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ช่วยให้คุณสามารถสตรีมมิ่งวีดีโอระดับ 4K ที่ใช้แบนด์วิทสูงในหลายอุปกรณ์พร้อมกันทั่วบริเวณบ้านได้โดยไม่มีการขาดหายของสัญญาณ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ขยายสัญญาณ Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Wi-Fi Range Extender with Room-to-Room Wi-Fi (RE7000) ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น โดยเพิ่มประสิทธิภาพการการเชื่อมต่อ Wi-Fi ของอุปกรณ์ด้วยเครือข่ายสัญญาณแบบ Room-to-Room Wi-Fi การใช้งานเราเตอร์ Max-Stream™ ร่วมกับอุปกรณ์ขยายสัญญาณจะก่อให้เกิดเครือข่ายเดี่ยวภายในบ้าน โดยใช้ชื่อเครือข่าย (SSID) เพียงชื่อเดียว ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถใช้เครือข่ายเดียวทั่วทั้งบ้าน โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสัญญาณกับอุปกรณ์ขยายสัญญาณอีก

เราเตอร์ Next-Gen Max-Stream™ AC1900+ (EA7500) ส่งสัญญาณให้กับผู้ใช้งานอุปกรณ์ด้วยความเร็วสูงสุด 1.9+ Gbps* ครอบคลุมทั่วพื้นที่พักอาศัยได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมเทคโนโลยี Smart Wi-Fi อันล้ำสมัยที่สามารถตั้งค่าและควบคุมการใช้ Wi-Fi ทั้งบ้านได้อย่างง่ายดายจากทุกที่ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น Smart Wi-Fi บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ

การทำงานของ Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Gigabit Wi-Fi Router (EA7500)

• เทคโนโลยี Next-Gen AC Wi-Fi – 802.11ac Wave 2 MU-MIMO (Multi-User, Multiple-Input, Multiple-Output) รุ่นใหม่ ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้แก่อุปกรณ์ในบ้านได้หลายเครื่องพร้อมกันโดยไม่มีการขาดหายของสัญญาณ

• ใช้ย่านความความถี่ Dual-band AC1900+ Wireless ความเร็วสูงสุด 1733 Mbps 5 GHz + 800 Mbps 2.4 GHz
• เสาอากาศภายนอกประสิทธิภาพสูง 3+1 เสา (3+1 High Performance Antenna) แบบสามารถปรับได้เพื่อการกระจายสัญญาณที่มีประสิทธิภาพสูงและครอบคลุมพื้นที่มากกว่า
• พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Gigabit LAN Ethernet 4 พอร์ต และพอร์ตแบบ Gigabit WAN 1 พอร์ตสำหรับการใช้สายเชื่อมต่อ ซึ่งมีความเร็วกว่า Ethernet ความเร็วสูงทั่วไปถึง 10 เท่า
• ช่องเสียบยูเอสบีแบบ USB 3.0 จำนวน 1 ช่อง และแบบ USB 2.0 จำนวน 1 ช่อง เพื่อการเชื่อมต่อกับพริ้นเตอร์ อุปกรณ์เก็บหน่วยความจำ และอื่น ๆ
• การข้ามเครือข่าย (Roaming) ที่ราบรื่นกว่า ด้วยการใช้ชื่อเครือข่ายเดียวเมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องขยายสัญญาณ MAX-STREAM ทำให้การข้ามเครือข่ายสัญญาณจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องมีความราบรื่นมากกว่า
• สามารถบริหารจัดการและควบคุมการใช้ เครือข่ายWi-Fi ของคุณได้อย่างง่ายดายบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณผ่านทางแอปพลิเคชั่น Smart Wi-Fi ของลิงค์ซิส
• การเข้ารหัสแบบ WPA/WPA2 ขั้นสูงและ SPI firewall ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่ายของคุณ

อุปกรณ์ขยายสัญญาณ Linksys Max-Stream™
Range Extender (RE7000) ประกอบด้วยเทคโนโลยี Spot Finder (อยู่ระหว่างการยื่นขอจดสิทธิบัตร) ซึ่งจะแสดงให้ผู้ใช้เห็นว่าควรจะวางอุปกรณ์ขยายสัญญาณไว้ที่ตำแหน่งใดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ เทคโนโลยี Crossband ยังช่วยขยายการใช้ย่านความถี่ทั้งสองให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีเทคโนโลยี Beamforming ช่วยเน้นและเพิ่มความแรงของสัญญาณ Wi-Fi มากยิ่งขึ้น พร้อมคุณสมบัติอื่น ๆ ดังนี้

• การเชื่อมต่อไร้สาย AC1900 สองย่านความถี่ – AC1733 + N300
• การเชื่อมต่อ Wi-Fi จากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี Seamless Roaming
• มาตรฐาน Wi-Fi ล่าสุด – 802.11ac Wave 2 รวมถึง MU-MIMO
• เทคโนโลยี Crossband
• ฟอร์มแฟคเตอร์แบบปลั๊กอินสีขาว กลมกลืนกับการตกแต่งภายในบ้าน
• เลือกใช้งานได้หลายโหมด ทั้งการขยายสัญญาณและจุดเชื่อมต่อ Access Point
• พอร์ต Gigabit Ethernet จำนวน 1 พอร์ต

นายกวิน อิสระชัยพิสิฐ ผู้จัดการฝ่ายขาย ลิงค์ซิส ประจำประเทศไทย เบลคิน อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ กล่าวว่า “ลิงค์ซิส มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมใหม่เพื่อยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบัน ผู้คนมีชีวิตที่รีบเร่งมากขึ้นและต้องใช้อุปกรณ์สื่อสารหลากหลายรูปแบบในการทำงานข้ามแพลทฟอร์ม ทำให้ ลิงค์ซิส นำเสนอความยืดหยุ่นในการใช้งานที่ทุกคนต้องการ เพื่อการใช้ชีวิตที่รวดเร็วฉับไวและสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Wi- Fi เพื่อใช้งานอุปกรณ์ได้หลากหลายฟังก์ชั่น ทั้งการเล่นเกม การท่องอินเตอร์เน็ต การจัดการธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์สื่อสาร (IoT) หรือการดูหนังฟังเพลง ก็สามารถทำได้อย่างอิสระในทุก ๆ ห้องของตัวบ้านด้วยเครือข่ายคุณภาพสูงโดยไม่มีการขาดหายของสัญญาณ

ราคาและศูนย์จัดจำหน่าย
Linksys Max-Stream™ AC1900+ MU-MIMO Gigabit Wi-Fi Router (EA7500-AH) และ Linksys Max-Stream™ Range Extender (RE7000) มีจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านผู้แทนจำหน่าย อีกทั้งขณะนี้ ทางลิงค์ซิสยังนำเสนอโปรโมชั่นสำหรับเราเตอร์รุ่น Linksys Max-Stream™ AC1900+ (EA7500-AH) ในราคา 5,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม), Linksys Max-Stream™ Range Extender (RE7000-AH) ในราคา 3,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม), และสำหรับ “Seamless Roaming” เมื่อลูกค้าซื้อเราเตอร์รุ่น Linksys Max-Stream™ AC1900+ (EA7500-AH) คู่กับ Linksys Max-Stream™ Range Extender (RE7000-AH) จะสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาพิเศษเพียง 8,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 กันยายน พ.ศ.2560 เท่านั้น ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของลิงค์ซิสตามร้านค้าชั้นนำ ได้แก่ Advice, IT CITY, JIB, Power Buy, Power Mall, KSS, Sysinfo, และ TV Dot Com

งานแถลงแนวทางการตลาดของลิงค์สิส ประเทศไทย
ในวันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2560
ณ เดอะ การ์เด้นส์ ออฟ ดินสอ พาเลซ สุขุมวิท กรุงเทพฯ

ผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของลิงค์ซิสตามร้านค้าชั้นนำ
Advice, IT CITY, JIB, Power Buy, Power Mall, KSS, Sysinfo,
และ TV Dot Com

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์  www.linksys.com
ติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook และ Twitter
หรือดูวิดีโอของเราบน YouTube

VESPA เผยเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจ ตระกูล GTS รุ่นใหม่

ค้นหาความหมายของชีวิต
ในแบบที่ไม่เหมือนใคร
ผ่านการเดินทางเวสป้าตระกูล GTS รุ่นใหม่

อนันดา เอเวอริงแฮม, ธาดา วาริช และ รักกิจ ควรหาเวช ชายหนุ่มผู้มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นเผยเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจ ให้ชวนค้นหาความหมายของชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนใครผ่านการเดินทาง กับเวสป้าตระกูล GTS รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมมุมมองในการใช้ชีวิตที่ไม่จำเจจาก
เป๋า วฤธ  และ อาร์ม  วรท ที่จะปลุกให้ออกไปใช้ชีวิตอย่างสนุกและสร้างสรรค์ ในงาน The Launch of Vespa’s Masterpieces, Vespa GTS and Vespa Sprint Sport Edition

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยม
สกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่”  สัญชาติอิตาเลี่ยน  แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

ร่วมเปิดเผยเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจพร้อมกระตุ้นให้ออกเดินทางไปกับเหล่าดาราและศิลปินชั้นนำผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางในรูปแบบที่หลากหลาย ให้ชวนค้นหาความหมายของชีวิตอย่างมีเอกลักษณ์ผ่านการเดินทาง นำโดย นักแสดงฝีมือดีที่สวมบทบาทมาแล้วมากมาย “อนันดา เอเวอริงแฮม” พร้อมด้วยกราฟิกดีไซเนอร์และศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดัง ที่ ณ ตอนนี้ หลายๆ มุมเมืองล้วนมีงานของเขาประดับอยู่เป็นแลนด์มาร์คไปแล้วเรียบร้อยกับผลงานของ “รักกิจ ควรหาเวช” ร่วมด้วยช่างภาพแฟชั่นที่มีงานเป็นเอกลักษณ์และชัดเจนที่สุดคนหนึ่งของวงการ “ธาดา วาริช” ที่มาร่วมเผยความเป็นตัวตนให้ออกไปใช้ชีวิตอย่างอิสระผ่านสมรรถนะที่แร็ว แรง และปลอดภัยยิ่งกว่ากับเวสป้าตระกูล GTS  รุ่นใหม่ล่าสุด ทั้ง “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์  300 ABS (Vespa GTS Super 300 ABS)” และ “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 150 i-Get ABS (Vespa GTS Super 150 i-Get ABS)”พร้อมถ่ายทอดมุมมองในการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ในเมืองแบบไม่จำเจกับ“เป๋า วฤธ” และ “อาร์ม วรท”ผ่าน
“เวสป้า สปริ้นท์ 150 i-Getสปอร์ต อิดิชั่น (Vespa Sprint 150 i-Get Sport Edition)”ในงาน The Launch of Vespa’s Masterpieces, Vespa GTS and VespaSprint Sport Edition

ภายในงาน คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับการเปิดตัวรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์เวสป้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่พร้อมตอบโจทย์ชายหนุ่มที่หลงใหลการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในระยะไกลและการขับขี่ในเมืองที่คล่องตัว ทั้งเวสป้าตระกูล GTS และ Vespa Sprint Sport Edition ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU? ซึ่งเป็นแคมเปญไลฟ์สไตล์ที่ต้องการส่งผ่านเอกลักษณ์และความเป็นแบรนด์ไอคอน เชื่อมโยงถึงผู้ที่รักความโดดเด่นและแตกต่างอย่างมีสไตล์ตามแบบฉบับของตัวเอง โดยแคมเปญได้เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ สาวกเวสป้าอย่างอบอุ่นวันนี้ บริษัทฯ จึงภูมิใจนำเสนอยานพาหนะสองล้อทั้งสองรุ่นที่เปี่ยมด้วยความสง่างามในทุกการเคลื่อนไหวในเมืองใหญ่และสามารถพาคุณท่องเที่ยวไปได้ทุกที่ ขับขี่ได้อย่างสนุกในทุกๆ เส้นทางที่ท้าทาย โดยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากดาราและศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย ได้แก่ “อนันดา เอเวอริงแฮม” และ “รักกิจ ควรหาเวช” ผู้เป็นตัวแทนของผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางด้วย “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 ABS” ที่มอบสมรรถนะความเร็วแรงไร้ขีดจำกัดผสานความสะดวกสบายทุกขณะขับขี่ เติมเต็มสุนทรียภาพการออกเดินทางสไตล์ทัวร์ริ่งอย่างเหนือชั้น และ “ธาดา วาริช” ที่ควงคู่มากับ “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 150 i-Get ABS”โดดเด่นด้วยความหรูหราสไตล์สปอร์ตบนความปลอดภัยเหนือระดับกับฟังก์ชั่นและฟีเจอร์หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของชายหนุ่มอย่างครบถ้วนลงตัว นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งรุ่นที่ถือเป็นขวัญใจของสาวกเวสป้า กับ “เวสป้า สปริ้นท์ 150 i-Get สปอร์ต อิดิชั่น” มาพร้อม 2 สีใหม่พิเศษสำหรับปี 2560 ให้สัมผัสแห่งการขับขี่สไตล์สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม ร่วมถ่ายทอดการใช้ชีวิตแบบไม่จำเจโดย  “เป๋า วฤธ” และ “อาร์ม วรท”

อนันดา เอเวอริงแฮม พระเอกแถวหน้าของประเทศไทย  ที่ควบเก้าอี้มือโปรดิวเซอร์ผลิตงานละครดัง เผยถึงวิธีคิดในการใช้ชีวิตว่า “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือความสุขง่ายๆ ที่เกิดขึ้นในทุกๆ วัน” นอกเหนือจากบทบาทดังกล่าวแล้ว อนันดายังเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของ boutique hotel บนถนนนิมมานเหมินทร์ อีกด้วย ดูเหมือนว่าในตัวตนของเขานั้นมีบทบาทที่หลากหลายและแตกต่างเป็นอันมากที่สามารถสร้างความสมดุลระหว่างความเป็นศิลปินและนักธุรกิจควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เขาสามารถสร้างความสมดุลในชีวิตได้ นั่นคือ “การเดินทาง” อนันดากล่าวว่า

“การที่รู้สึกถึงสายลมปะทะบนใบหน้าผมนั้น มันคือความสุขง่ายๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกและสัมผัสได้ถึงการมีชีวิตชีวา ไม่ว่าสายลมนั้นจะเป็นลมแรงด้วยความเร็วที่ 120 กม.ต่อชั่วโมงก็ตาม หรือจะเป็นสายลมเอื่อยๆ ที่ทำให้ผมละเลียดไปกับวิวจากสองข้างทางก็ตาม ล้วนสร้างอิสระและความสนุก เพราะความสุขง่ายๆ ที่เกิดขึ้นจากการเดินทางในทุกๆ ครั้งนั้นมันช่วยเป็นแรงผลักดันให้ผมลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ ที่ผมต้องทำต่อไป เพราะเรารู้ว่าชีวิตมันมีสิ่งที่สวยงามรอเราอยู่”

อีกหนึ่งคนที่ชีวิตถูกขับเคลื่อนด้วยการเดินทางเช่นกัน สำหรับ รักกิจ ควรหาเวช เจ้าของผลงานกราฟฟิตี้ด้วยเทคนิคสเตนซิล  (stencil)  ที่มีเส้นสายกราฟิกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนมีผลงานมากมายทั้งในระดับประเทศและระดับโลก บอกเล่าความหมายของชีวิตผ่านวิถีการทำงานของตนเองไว้ว่า “เมื่อได้ทำงาน 1 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ นั่นหมายความว่านี่คือโอกาสในการให้คนอื่นได้เห็นถึงตัวตนของเรา ผลงานมันจะสะท้อนถึงความตั้งใจ ความทุ่มเทของเราที่มีต่องานชิ้นนั้น ส่วนตัวแล้วผมชอบทำงานที่ท้าทาย ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และสนุกไปกับงานนั้นๆ อย่างเวลาเรา
ได้พื้นที่มาส่วนหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่มีขนาดจำกัด หรือบางพื้นที่อาจมีอุปสรรคขัดขวางขณะเราทำงาน เราจะต้องออกแบบงานเราอย่างไรเพื่อให้สุดท้ายงานสามารถไปอยู่บนพื้นที่นั้นได้อย่างกลมกลืน  และเป็นที่จดจำ    ” จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นบนหนทางสตรีทอาร์ทของรักกิจ ทำให้เขาต้องเดินทางไปสร้างสรรค์ผลงานในหลายๆ เมืองทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ “ผมรู้สึกแฮปปี้มาก  ที่ผลงานของผมได้กลายเป็นส่วนหนึ่ง ของการท่องเที่ยว นำพาให้คนได้ออกไปสนุกในพื้นที่นั้นๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบสตรีทอาร์ทฝีมือคนไทย” สำหรับตัวตนของรักกิจที่มักจะได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัวที่รายล้อมตัวเขานั้น “เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 ABS” คือตัวเลือกที่ลงตัวและเหมาะสมที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ของผู้รักการเดินทางเพื่อออกไปค้นหาแรงบันดาลใจ

ทั้งคู่กล่าวตรงกันว่า  ถ้าจะต้องเลือกออกเดินทางท่องเที่ยว เวสป้า จีทีเอส
ซูเปอร์ 300 ABS คือพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ที่ตอบทุกความต้องการที่สุดด้วยดีไซน์ที่หรูหรา ให้ลุคที่ดูดุดัน แข็งแกร่ง และยังคงความเท่คลาสสิคในแบบฉบับของเวสป้า อีกทั้งยังให้สมรรถนะที่เร็ว แรง ตอบสนองได้ดั่งใจปรารถนาอีกด้วย โดยรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 ABS มีให้เลือก 3 สี วางจำหน่ายในราคาพิเศษช่วงแนะนำ ได้แก่

สีขาว (Montebianco) ราคา195,900บาท
สีเขียวเมทัลลิก(Verde Speranza) ราคา 195,900 บาท
สีเทาด้าน (GrigioTitanio) ในราคา 196,900 บาท

สำหรับ จอร์จ-ธาดา วาริช ช่างภาพแฟชั่นชั่นนำของเมืองไทย คืออีกหนึ่งคนที่สร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่จดจำด้วยการทำงานที่ไร้กรอบ แหกกฎของการถ่ายแฟชั่นบนหน้านิตยสารในประเทศไทยด้วยสไตล์ที่เน้นการดึงตัวตนของนางแบบและถ่ายทอดเสน่ห์ของบรรยากาศของสถานที่ถ่ายทำนั้นๆ ออกมาอย่างละเอียดที่สุด และสวยที่สุดในแบบที่เป็น ทำให้เกิดกระแสของการถ่ายภาพแฟชั่นในแนวเดียวกันนี้ในบ้านเราอยู่ช่วงหนึ่งโดยภาพส่วนใหญ่ของธาดาจะแสดงอารมณ์ความดิบ ไม่เน้นความสมบูรณ์แบบ ถือเป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดขายของช่างภาพมากประสบการณ์ผู้นี้ ธาดาเปิดเผยถึงการทำงานของเขาว่า “ภาพถ่ายของผมมันก็จะสะท้อนการใช้ชีวิตหรือประสบการณ์ในช่วงนั้นๆ ของผม เช่น “ถ้าผมต้องการหาสถานที่แปลกใหม่ในกรุงเทพเพื่อถ่ายงาน ผมก็จะเฟ้นหาสถานที่แปลกใหม่ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของชิ้นงาน งานผมมันก็จะสื่ออารมณ์ออกมาตามสิ่งที่ผมพบเจอ สำหรับผมแล้ว การเดินทางใช้ชีวิตในเมืองมันช่วยทำให้เราเข้าใจและเข้าถึงว่าความคล่องตัวนั้นสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน“ดังนั้นเวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 150 i-Get ABS คือตัวเลือกที่ลงตัวและเหมาะสมที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ในเมืองและให้ความปลอดภัย มั่นใจ ในทุกๆการเดินทางด้วยระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง โดยมีให้เลือก 3 สี จำหน่ายในราคาพิเศษช่วงแนะนำ ได้แก่ สีขาว
(Montebianco) ราคา 149,900 บาท
สีดำ (Nero Vulcano) ราคา 149,900 บาท
สีแดงด้าน (Rosso Matt) ราคา 150,900 บาท

สำหรับในรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์เวสป้าตระกูล GTS ทั้งสองรุ่นนี้ ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ล้วนมอบความสะดวกสบายที่เหนือกว่าและยังเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับเวสป้าตระกูลนี้ ได้แก่ ระบบ Tilt Sensor ตรวจจับการเอียงของรถเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ รีโมทคอนโทรลสำหรับเปิดเบาะนั่ง และระบบค้นหาตัวรถ (Bike Finder) ซึ่งอำนวยความสะดวกในการค้นหาเวสป้า GTS  ท่ามกลางรถมากมายในลานจอดรถ นอกจากนี้  ยังมีระบบ USB Port ซึ่งสามารถชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงชุดไฟ LED  (LED Daytime Running Light) เพิ่มความโดดเด่นขณะขับขี่ในเวลากลางวัน และล้ำสมัยด้วยชุดหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาดกะทัดรัดที่ระบุข้อมูลที่เกี่ยวกับการเดินทางอันครบถ้วน อาทิ มาตรวัดความเร็ว แผงควบคุมดิจิทัลแบบมัลติฟังก์ชั่น ล้อมรอบด้วยไฟเตือนมากถึง 6 สัญญาณ และแสดงปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมมาตรวัดระยะทาง 2 ตัว
ในงานนี้ยังได้ร่วมพูดคุยไปกับอีกสองหนุ่มเซเลบริตี้ ได้แก่ “เป๋า วฤธ”และดาราหนุ่มหน้าใหม่มากความสามารถ “อาร์ม วรท” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวการใช้ชีวิตโดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นของทั้งคู่ในการสร้างสีสันให้ชีวิตเป็นประจำ เพื่อให้ทุกๆ นาทีไม่จำเจอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ การสังเกตุสิ่งต่างๆ รอบตัว คิดบวกในทุกๆ เรื่องเพื่อให้เป็นพลังบวกทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง รวมถึงการออกไปทำในสิ่งที่ตัวเองรักและหลงใหล เช่น กีฬาฟุตบอล ล้วนแล้วอาจจะเป็นหนทางของการดำเนินชีวิตของใครหลายๆ คน โดยทั้งสองหนุ่มต่างได้จุดประกายไฟแห่งแรงบันดาลใจ ปลุกให้ทุกๆ คนได้ออกไปใช้ชีวิตแบบไร้ขอบเขตผ่านเวสป้า สปริ้นท์
150i-Get สปอร์ต อิดิชั่น ให้สัมผัสอันโดดเด่นและแตกต่างด้วยเฉดสีพิเศษ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเงินด้าน (GialloGelosia) และสีเหลืองด้าน (ArgentoOpaco) ให้ทุกๆ การเคลื่อนไหวมีสไตล์ เท่ และไม่เหมือนใคร และยังโดดเด่น  ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษสีดำด้าน ทั้งล้อแม็กหน้า-หลัง กระจกมองข้าง กรอบหน้าตัวรถ ที่ครอบท่อไอเสีย และตะแกรงหลัง พร้อมชิวด์สั้นสีสโม้ค เสริมความเร้าใจสไตล์สปอร์ตสุดแอคทีฟด้วยลายเส้นกราฟิกด้านข้างตัวถังรถ พร้อมรับชุดของพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ อาทิ หมวกกันน็อคสีเข้าคู่กับตัวรถ หมวกแก๊ป ผ้าเช็ดหน้า และกระเป๋า URFACE เสริมการเดินทางให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น โดยเวสป้า สปริ้นท์ 150i-Get สปอร์ต อิดิชั่น จำหน่ายในราคา 132,900 บาท

สำหรับเวสป้าตระกูล GTS ทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ และ
เวสป้าสปริ้นท์ 150 i-Get สปอร์ต อิดิชั่น

เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่  เดือนสิงหาคม 2560
ที่ตัวแทนจำหน่ายเวสป้าทุกสาขาทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้ที่
www.vespa.co.thหรือ www.facebook.com/vespathailand
และอินสตาแกรม @vespathailand

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท มัลดีฟเมืองไทย เปิดตัวที่พักโซนใหม่

The Day of Adventure
@ Lake Heaven Resort

ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่และสุดประทับใจ กับงาน รับลมริมเขื่อนที่ เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort)สถานที่พักผ่อนตากอากาศที่บรรยากาศดีในทุกฤดู ด้วยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ  ไม่นานนักได้อารมณ์  โรแมนติกนิดๆ

Lake Heaven Resort จัดงานขอบคุณสื่อมวลชน ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2560  ทีมงาน Lake Heaven  สร้างสรรค์ความบันเทิงหลากหลายภายใต้บรรยากาศโลกแห่งความสุขสีฟ้า ประชันชุดราตรีสีฟ้า กับปาร์ตี้โฟมสุดสุดชิค   ในธีม   “Thank Press 2017…  BLUE  PARTY”
ของ  โรงแรม Lake Heaven Resort แบบโซนบนฝั่งที่พักสไตล์มัลดีฟ

เมื่อทีมสื่อมวลชน มาถึงทางเข้าที่พัก เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort) ได้ชมบรรยากาศที่เปรียบเสมือนมัลดีฟส์ในเมืองไทย มีทุ่นแบบมาตรฐานที่ช่วยให้ เรือนแพลอยบนผิวน้ำ  ได้อย่างมั่นคง แข็งแรง  และปลอดภัยมาก ที่พักทุกห้อง สามารถใช้ไฟฟ้าได้ ตลอด 24 ชั่วโมง มีน้ำสะอาดให้เราใช้ได้ตลอดเวลา

ครั้งนี้เราพักกันที่ ที่นี่  โรงแรมแบบโซนบนฝั่ง ที่พักสไตล์มัลดีฟ ในสวนใกล้ชิดติดธรรมชาติ กับความทรงจำ 2 วัน 1 คืน กับความลับน้อยที่เราคอยไปพบท่ามกลางโค้งน้ำที่สวยที่สุด ม่านหมอก แมกไม้ สายลม และ ขุนเขา ดีจังได้มาสัมผัสมหัศจรรย์ความสวยงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ สะดวกสบายด้วยห้องพักเเบบบังกะโลที่เเยกเป็นหลังๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด พร้อมให้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ด้วยพื้นที่แบบเนินสูง ต่ำสลับกันไปมา มองเห็นวิวเขื่อนศรีนครินทร์  ต้นไม้ และหน้าผา ภูเขาอันสวยงาม ในแต่ละห้องประกอบไปด้วย 1 เตียงใหญ่ หรือในแบบ  2 เตียงเล็ก อีกทั้งแต่ละห้องยังมีห้องน้ำในตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้  วยชุดสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้บริการอย่างครบครันเหมาะสำหรับการพักผ่อน แบบส่วนตัว หรือการพักผ่อนแบบหมู่คณะ ซึ่งทางโซนใหม่ของรีสอร์ท  มีสระว่ายน้ำแล้ว  สำหรับบางท่านที่ไม่กล้าลงเล่นน้ำในเขื่อน

โรงแรมที่มีสวนน้ำ โดยแบ่งให้เลือกถึง 3 แบบ การตกแต่งห้องพักเป็นหลังๆ ในรูปแบบวิลล่า เหมือนประเทศมัลดีฟดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบๆ ที่พัก และวิวภูเขา ล้อมรอบด้วยผืนน้ำกว้าง เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้เรารู้สึกราวกับมาพักที่มัลดีฟจริงๆ เลยค่ะ  มีโซนพักผ่อนที่เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายภาพสวยๆ ถูกออกแบบมาได้อย่างโดดเด่นและสง่างาม ใครมาเห็นต้องอดใจไม่ไหว หยิบกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์แบบไม่ยั้ง

ได้รับการรังสรรค์แนวคิดในการตกแต่งจากธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว และมีห้องประชุมสัมนาแบบสมบูรณ์แบบ  สำหรับหลากหลายกิจกรรมที่ต้องการ การเดินทางมาพักผ่อน และยังได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมสันทนาการที่ทางรีสอร์ทสไตล์มัลดีฟส์เมืองไทย รับรองสวยและบรรยากาศดีจนไม่อยากกลับเลย

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท ประกอบไปด้วยที่พัก 2 โซน ด้วยกัน  คือ

โซนบนฝั่ง ที่พักสไตล์มัลดีฟ ในสวนใกล้ชิดธรรมชาติ
เล่นกิจกรรมเหนื่อยทั้งวัน เรามานอนพักผ่อนกันให้เต็มที่ พร้อมสระว่ายน้ำบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในห้องพัก ห้องพักมี 2 แบบ บ้านราชาวดี(ทรงเหลี่ยม) และบ้านราชพฤกษ์(ทรงกลม) เดินลงไปพบกับ

โซนในน้ำ ที่พักสไตล์มัลดีฟ บนน้ำ
พร้อมเครื่องเล่นและกิจกรรมมากมาย สามารถโดดเล่นน้ำหน้าบ้านตัวเองได้เลย ถ้าจะนั่งเรือข้าม 5 นาที ไปก็จะเป็น เฮฟเว่น เบย์ รีสอร์ท

เฮฟเว่น เบย์ รีสอร์ท ที่พักบนน้ำใกล้ชิดธรรมชาติิอย่างแท้จริง
ด้านหน้าติดแผ่นน้ำด้านหลังติดภูเขา พร้อมเครื่องเล่นมากมายไม่แพ้ฝั่ง เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท บ้านพักเป็นแบบพัดลมมทั้งหมด สงบเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสุดเหวี่ยง!กับเครื่องเล่น Water Park ภูเขาจำลองสูง 5 เมตร สไลเดอร์น้ำ จักรยานน้ำ เจ๊ตสกี   เพิ่มเข้ามาอีก 2 ชิ้น   ได้แก่ บิ๊กสไลเดอร์อและเขาวงกตน้ำ เรียกว่าคุณ คุณพลาดไม่ได้ที่จะมาลองกันสักตั้งเลยทีเดียว ขอบอกว่ามันส์สุโค่ยกันเลยทีเดียว

มาชมบรรยากาศ Thanks Press At Lake Heaven Resort
มัลดีฟ  เมืองไทย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี  โดยประธานกรรมการบริหาร ในเครือ ฟังก์ชั่น กรุ๊ป พร้อมคณะผู้บริหารในกลุ่มฟังก์ชั่น กรุ๊ป คุณวิกร ภูวพัชร์ เชิญคณะนักข่าวลงพื้นที่สัมผัสบรรยากาศพร้อมกันในงาน Thanks Press At Lake Heaven Resort  มัลดีฟ  เมืองไทย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์ ที่พักโซนใหม่ของรีสอร์ทฯ ที่มีความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำ อ่างจากุซซี่ อาหาร และกิจกรรมมากมาย พร้อมเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ 2 ชิ้นขนาดใหญ่ และปลายปีนี้เตรียมพบกับ คอนเสิร์ตโอบสายน้ำกอดขุนเขาปี 2 กับ 4 ศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทย อ๊อฟ ปองศักดิ์ บอย Peacemaker ป้าง นครินทร์และ Moderndog

แพเปียก นักท่องเที่ยวทุกท่านได่ชมวิวทะเลสาปรอบเกาะเหนือเขื่อนศรีนครินทร์

 

คุณวิกร ภูวพัชร์ ประธานกรรมการบริหาร ในเครือ ฟังก์ชั่น กรุ๊ป

แดดร่ม ลมเย็น อยากออกไปเล่นเป็นธรรมดา ทีมงาน Lake Heaven
จัดกิจกรรมสนุกๆ สุดพิเศษที่ Water Par สื่อมวลชนได้ตะลุย   ผ่าด่านสุดมันส์ กับเครื่องเล่นต่างๆ ภายในรีสอร์ท ถือว่าหลากหลายนนี้เล่นกิจกรรมเหนื่อยได้ตลอดทั้งวัน

จุดเด่นของที่นี่คือ สไลเดอร์ สูงขนาด 12 เมตร/15 เมตร สำหรับกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด ที่ไม่ใช้น้ำมัน ทางรีสอร์ทให้เล่นฟรี! เล่นได้ มั่นใจ ปลอดภัย มีทีมงานดูแลด้านความปลอดให้ตลอดทริป

อาหารค่ำคืนนี้  พร้อมปาร์ตี้โฟมจัดเต็ม ธีม   “Thank Press 2017  BLUE  PARTY”   พร้อมแจกของรางวัลมากมายจากเลค เฮฟเว้น รีสอร์ท   และ เครื่องสำอาง ISE Cosmetic (อิเซ่ คอสเมติกส์) พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กันน้ำได้จริง! ลองแล้ว…เค้าออกแบบมาสำหรับสาวๆ ที่ชอบกีฬาทางน้ำ

ขอบคุณเรามานอนพักผ่อนกันให้เต็มที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort) อากาศบริสุทธิ์ สูดเข้าเต็มปอด มีกิจกรรมทางน้ำสนุกๆ ให้เล่นเพื่อผ่อนคลายสมอง ส่วนเรื่องอาหารก็มีให้รับประทานทุกมื้อ เยอะมาก  หลากหลายเมนู  ตื่นเช้าคณะสื่อมวลชนร่วมกันใส่บาตรทำบุญ


ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ สไลเดอร์ สูง 12 เมตร สำหรับกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด Lake Heaven Resort ให้เล่นฟรี!
Water Park ลุยกัน ผ่าด่านสุดมันส์

มาชม  2 เครื่องเล่นใหม่  บิ๊กสไลเดอร์  และ เขาวงกตน้ำพร้อมเส้นทางท่องเที่ยวผจญภัยของรถ ATV และ เรือลาก Banana Boat  ที่จะพาคุณลุยไปสัมผัสสนุกสุดเหวี่ยง กับอีกด้านหนึ่งของชีวิต  ส่วนกิจกรรมอื่นๆ  ที่มีในรีสอร์ท สไตล์มัลดีฟได้แก่

ราคารถ ATV 250 บาท / 1 รอบ
Jet Ski 1,600 บาท / ชั่วโมง
เรือ Mini Boat 800 บาท/ ชั่วโมง
เรือลาก Banana Boat, โดนัท ( เรือ AB ) 1,600 บาท / ชั่วโมง
ขี่ม้า 200 บาท / รอบ
นวดแผนไทย 450 บาท/ 2 ชั่วโมง
จักรยาน  60 บาท / ชั่วโมง
คาราโอเกะ คอมพิวเตอร์  2,500 บาท
แคมป์ไฟสุดเกร์  1,000  บาท

ความสุขแทนคำขอบคุณจากใจ  สำหรับมิตรภาพของสื่อมวลชน  ที่มอบให้กับ เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort)  เป็นความทรงจำที่ไม่มีวัน
ลบเลื่อนจากใจ

พลาดไม่ได้เลยนะ เครื่องเล่นภายในรีสอร์ท ถือว่าหลากหลาย กับรีสอร์ทสวย ที่พักดีดี เครื่องเล่นสุโค่ย

ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่และสุดประทับใจ
ขอขอบคุณผู้บริหาร และ ทีมงาน Lake Heaven Resort
และทีมงาน เครื่องสำอาง ISE Cosmetic (อิเซ่ คอสเมติกส์)
ที่ให้การดูแลสื่อมวลชน ตลอดทริปแบบยิ้มกว้างกันทุกท่าน

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก สื่อมวลชนทุกท่าน

ติดต่อสอบถาม: ติดตามกิจกรรมดีดี
เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
โทร. 08-4387-6771, 08-4387-6773
www.lakeheaven.com

6 ชิ้นติดอันดับ เมคอัพกันน้ำพร้อมลุย

อีเซ่ (ISE) แบรนด์ไทยน้องใหม่จัดเต็ม
ที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท แอนด์ ปาร์คเลค 

2 วันกับการพักผ่อนที่ เลค เฮฟเว่น มัลดีฟแห่งแรกของเมืองไทย รีสอร์ท ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยที่สุด  ดีที่สุดท่ามกลางผืนน้ำ ขุนเขา และท้องฟ้า สุดมันส์ท่ามกลางเขื่อนศรีนครินทร์ สถานที่ซึ่งรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยว วันนี้มาตะลุย Lake heaven resort จ.กาญจนบุรี   วิวด้านหน้าเห็นเป็นเครื่องเล่นนานาชนิด ที่คอยล่อตา  ล่อใจ  คอยให้เราเข้าไปสัมผัส สำหรับเพื่อนๆ  ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตกลางแจ้ง ท่ามกลางสายน้ำ แสดแดด ขุนเขา ถ้าคุณเลือก
มาที่นี่พักผ่อนที่นี่ รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ

เริ่มอยากจะเจอท้องฟ้าแบบนี้ทุกทริปเลย  ร้อนแบบนี้ ฤดูแห่งการเล่นน้ำมาแล้ว แต่หนุ่มๆ สาวๆ ฟังทางนี้นะ !  ผิวหน้าบอบบางเกินกว่าจะตากแดดแรงได้ สาวๆ อย่างเราก็ต้องหาตัวช่วยโดยด่วน

เมื่อมาถึงก็ลงเล่นน้ำกลางแดด จนถึงแทบจะ คลานกันลงมา ก่อนออกมาเล่นน้ำ ได้ทดสอบการแต่งหน้า เชื่อได้เลยว่าครีมกันแดดปกป้องแดดขั้นเทพ เป็นครีมกันแดดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเกินคุ้ม ลองดูว่ากันแดดแบบไหนที่เหมาะกับการเล่นน้ำ อีเซ่ (ISE) แบรนด์ของไทย ซึ่งในตอนนี้มีจำหน่ายแล้ว แต่ก่อนหน้านี้หลายคนบอกว่าหาซื้อยากพอสมควร

อากาศไม่ร้อนมากแต่แดดแรงเปรี้ยงๆ อสจจะส่งผลหน้าหมองคล้ำได้ และ หนีไม่พ้นปัญหา หน้ามันเยิ้มตามมาอย่างแน่นอน ไม่ต้องกลัวค่ะ  สาวๆ เรามีไอเท็มเครื่องสำอางคุณภาพดีที่ช่วยปกป้อง พร้อมคุณสมบัติดี๊ดี คือ  ติดทน กันเหงื่อ กันน้ำ มาแนะนำกันค่ะ ต่อให้ร้อนเหงื่อไหลท่วมตัว หรือจะลงไปเล่นน้ำที่ท่องเที่ยวแค่ไหน ใช้แล้ว หน้าคองคุณก็ยังโดดเด้ง สวยเป๊ะกับกิจกรรมทางน้ำตลอดวัน

คุณณัฐรมณ์ ประเสริฐชัยศิริ ที่ปรึกษาอาวุโสด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัฑณ์

วันนี้ Toptotravel  พักเลค เฮฟเว่น บนฝั่ง มัลดีฟแห่งแรกของเมืองไทย และได้รับเกียรติจาก นูดิบรานซ์   Nudibranch ผลิตภัณฑ์เครื่องีสำอางกันน้ำ ที่เหนือกว่าอัญมณีสีสันแห่งท้องทะเล ที่มีจุดเด่นเป็นเครื่องสำอางกันน้ำอย่างแท้จริงจาก อีเซ่ คอสเมติก ความงามที่ไม่มีวันลบเลือน

แนะนำแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่  เน้นงานวอเตอร์พรูฟลงน้ำ ลงทะเล เรียกได้ว่า นวัตกรรมเครื่องสำอาง ที่ช่วยปกป้องให้สวยกระจ่างใสได้ยาวนาน อากาศร้อนๆ แบบนี้ ถ้าไม่อยากให้ผิวหน้าโดนทำร้าย กันแดดเป็นพระเอกตัวช่วยสำคัญ ที่จะมาช่วยปกป้องใบหน้าเราจากรังสี UV ได้ดีค่ะ


เหตุผลดีๆ ทำไมต้องเลือก อีเซ่ (ISE) เพื่อความสวยเป๊ะมากๆ  แบบไม่กลัวน้ำและมาดูความพิเศษของ อีเซ่ (ISE) แบรนด์ไทย ที่มีรองพื้นสูตรน้ำเนื้อบางเบาไม่หนักหน้า สีเบจกลืนกับทุกสีผิวทันที ปกปิดดีเยี่ยม แต่งหน้าติดทนตลอดวัน ที่จะมาช่วยเนรมิตรผิวหน้า ให้แลดูสวย ใสเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ทิ้งคราบ ช่วยอำพรางจุดบกพร่องบนใบหน้า ให้ดูจางลง รูขุมขนดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ กระจ่างใสยาวนานตลอดวัน มอบสัมผัสที่นุ่มลื่น และปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ


ลองทั้งที่  จัดเต็มสะเลย เริ่มด้วย ด้วย ISE Princess Pressed Powder ที่มี ควบคุมความมั นและ กันแดด   Nudibranch Foundation SPF15 PA++ แป้งเพรสรุ่น ซิลกี้ สมูท รับรองความเบาจริงๆ และสุดพิเศษด้วยไมโครบีดส์ในเนื้อแป้ง ที่ไม่ทำให้หน้าแห้ง ชอบตรงที่แพคเกจเรียบหรูเก๋ไก๋ ดีไซน์จากญี่ปุ่น แป้งโปร่งแสงเนื้อเนียนละเอียด ตลับนี้จะช่วยให้ใบหน้าเราเปล่งปลั่งกระจ่างใสตลอดวัน แถมช่วยควบคุมความมันได้อย่างดีเลิศ ให้หน้าเราเป๊ะ เติมคิ้วด้วย Nudibranch Brow Professional Palette แปลกดีที่ปัดคิ้วเนื้อเจลสูตรเฉพาะ ที่ทนต่อน้ำและเหงี่อ ทำให้สีสวยติดทนนาน ต่อด้วย Nudibranch Smothing Eyeshadow อายแชโดว์แบบแท่งที่มีเนื้อสัมผัสเนียน นุ่ม ลื่น ตอบโจทย์ความสวยแบบอยู่หมะด ตามด้วยอายไลน์เนอร์ชนิดเจลพร้อพู่กันสูตรพัฒนามาใหม่ล่าสุด Nudibranch Long-Wear Gel Eye Liner แห้งเร็วไม่เลอะเป้อน สูตรกันน้ำ เรียบเนียนอย่างไร้ที่ติให้ ปิดท้ายด้วย Nudibranch Longlasting Lipgloss สุดยอดเนื้อแมตต์ ให้สำผัสเบาสบายแต่คงสีแบบเข้มๆ กับผิวหน้าตลอดวันเล่นน้ำไป 2 ชั่วโมง ตัวเปื่อยแต่หน้าเป๊ะ หน้าแน่นไม่มีหลุดเลยค่ะ ชอบตรงที่กันน้ำจืดได้ดี จะเล่นน้ำทะเล หรือสระน้ำก็ไม่กลัวค่ะ

ทดสอบการกันน้ำ เมื่อทาครีมกันแดดลงบนผิว ต่อให้ร้อนเหงื่อไหลท่วมตัว หรือลงไปเล่นน้ำแค่ไหนหน้าคองคุณก็ยังโดดเด้ง สวยเป๊ะ

คอสก้า คอสเมติก จำกัด เปิดตัวแบรนด์ อีเซ่  (ISE)  อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยโฉม New Collection  สินค้าใหม่ล่าสุด  Nudibranch อัญมณีสีสันแห่งท้องทะเล ณ. เลค เฮฟเว่น มัลดีฟแห่งแรกของเมืองไทย

บริษัท คอสก้า คอสเมติก จำกัด หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านเครื่องสำอาง  ภายใต้แบรนด์  ISE Cosmetic   เปิดตัวแบรนด์ อีเซ่  (ISE) อย่างเป็นทางการ พร้อมเผยโฉม New Collection สินค้าใหม่ล่าสุด Nudibranch อัญมณีสีสันแห่งท้องทะเลอีกขั้นของ นวัตกรรม กับประสิทธิภาพใหม่ของเครื่องสำอาง ISE
ที่ช่วยปกป้องให้คุณสาวๆ สวยกระจ่างใสได้ ยาวนานเหนือกว่าทุก สถานการณ์โดยจัดมาในชุด Nudibranch Extreme Waterproofที่มีทั้งหมด 6 Collection มาให้สาวๆ ได้เลือกประกอบไปด้วย

1.Nudibranch Brow Professional
ชุดที่ปัดคิ้วเนื้อเจล สูตรเฉพาะที่ทนต่อน้ำและเหงื่อ ให้สีที่สวยติดทนนานระหว่างวัน กรูมขนคิ้วสวยจัดทรงได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ ให้คุณได้เลือกมากกว่า 3 เฉดสีเพื่อความกลมกลืนหรือแต่งแต้มได้หลากสีสันอย่างที่ต้องการในราคา 495 บาท

2. Nudibranch Long-Wear GelEyeLiner
อายไลน์เนอร์ชนิดเจลพร้อมพู่กันสูตรพัฒนาใหม่ สุดยอดของความคมเข้มยาวนาน เพื่อเสน่ห์ดวงตาคมเข้มยาวนานยิ่งกว่า เขียนได้คมชัดเรียบเนียน แห้งเร็ว ไม่เลอะเปื้อนด้วยสูตรกันน้ำ กันเหงื่อและความมันบนใบหน้า ติดทนยาวนานตลอดวันราคา 295 บาท

3.NudibranchFoundation SPF15++
รองพื้นผสมกันแดด SPF15++ ขอแนะนำ รุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการคุมมัน กันน้ำ ซึมเร็ว ทาก่อนแต่งหน้า ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนขึ้น เป็นครีมกันแดดราคาถูกขับต้องได่ คุณภาพดี กันแดดและกันน้ำด้วยสุดยอด นวัตกรรมใหม่ที่สามารถให้การปกปิดได้อย่างแนบเนียน ด้วยระดับการปกปิดแบบปานกลางถึงระดับสูงสุดได้อย่างไร้ที่ติ ติดทนนานระหว่างวันและทนต่อความชื้นจากเหงื่อและน้ำ ไม่เลอะเปรอะเปื้อน และยังช่วยคงความชุ่มชื่นของผิวให้นุ่มนวลราคา590 บาท

4. Nudibranch Longlasting ipgloss
สุดยอดนวัตกรรมสำหรับผู้ตกหลุมรัก เนื้อแมตต์ ให้สัมผัสแห้งเบาสบายแต่ยังคงเนื้อสีแบบเต็มเข้มข้น ด้วยลิปสติกหลากเฉดสี ให้สีชัดจัดแน่น ไม่ว่าจะเลือกสีโทนไหน ก็จัดจ้านหรือดรามาติคได้หลากอารมณ์ ทุกเฉดให้เนื้อสีที่ฉ่ำแน่นในรูปแบบของลิควิดที่ให้สัมผัสนุ่มลื่น แห้งเนียนแนบไปกับเรียวปากได้อย่างยาวนาน ราคา 320 บาท

5.NudibranchSmoothing Eyeshadow
อายแชโดว์แบบแท่งที่มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่มลื่น ให้ความสวยของสีละเอียดขั้นสูงในการลงสีเพียงครั้งเดียว มาในรูปแบบใหม่ Jumbo Pencil ที่ใช้ได้อย่างง่ายดาย  และสามารถใช้ได้หลากหลายความต้องการ ไม่ว่าคุณจะต้องการอายแชร์ฟุ้งหนา หรือจะเป็นอายลายเนอร์แบบเก๋ๆ ก็ตอบโจทย์ทุกความสวยได้อยู่หมัด ให้ความสวยคงทนยาวนาน ราคา 320 บาท

6. Nudibranch Cheek & Lip
เมคอัพเนื้อครีมหนึ่งเดียวที่แต่งแต้มได้ทั้งพวงแก้มและริมฝีปาก  ที่ให้สีสวยเนื้อนุ่มเกลี่ยง่ายและติดทนนานระหว่างวัน ด้วยความละเอียดของเนื้อแป้งที่มากขึ้น จึงให้สีที่สวยชัดติดทนและบางเบา ดูไม่หนักจนเกินไป ตอบโจทย์การแต่งหน้าได้หลากหลาย ให้ผลลัพธ์ที่เนียนสวย ไปกับผิวได้อย่างลงตัว ราคา 295 บาท

ลองสักครั้งจะติดใจในคุณภาพ อีเซ่ (ISE) แบรนด์ไทยที่เน้นคอนเซป… ไม่ต้องเชื่อที่รีวิวทั้งหมดอยากให้เพื่อนๆตัดสินใจและลองสินค้าด้วยตัวเอง อยากแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ

อีกหนึ่งไอเท็มที่ช่วยให้สาวๆ ดูดีได้ง่าย และเร็วได้ในพริบตา
เชื่อว่ายังไงก็น่าจะคุ้มค่ากับการจ่ายเงินไปในการซื้อ NUDIBRANCH อัญมณีสีสันแห่งท้องทะเลพร้อมสัมผัสความสวยกระจ่างใสได้ยาวนานเหนือกว่าทุกสถานการณ์ แวะลองได้แล้ววันนี้ที่ร้าน
Eveandboy , Stardust , Beauty Market

ทุกสาขาและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ ติดตามรับข้อมูลพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  www.vcoska.com

ติดตาม Fanpage  พร้อมร่วมกิจกรรมได้ที่ https://www.facebook.com/ISE.Cosmetics

ขอบคุณภาพสวยๆ กลุ่มช่างภาพสื่อมวลชนงาน
Thanks Press At Lake Heaven Resort

3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 Gether Run & Ride for Life

การรวมตัวครั้งแรกและครั้งสำคัญ
ของ 3 สถาบันการแพทย์

จัดงานพิธีเปิดโครงการ 3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run&Ride for Life  ด้วยการรวมตัวครั้งแรกและครั้งสำคัญของ 3 สถาบันการแพทย์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,  คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อ
ผู้ป่วยยากไร้ใน 3 ภูมิภาค ซึ่งกิจกรรมทั้ง 7 วัน  รวมระยะทางกว่า 2,700 กิโลเมตร  เพื่อรณรงค์ให้ประชาชน  เห็นความสำคัญของการวิ่ง หรือ  ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และได้ร่วมกันทำความดี ด้วยการรณรงค์รับบริจาคเงินตลอดเส้นทาง เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปใช้สำหรับผู้ป่วยในแต่ละภูมิภาค

โครงการ “3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run & Ride for Life”
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2560

โดยตัวแทนของทั้ง 3 สถาบันจะเริ่มต้นออกวิ่งพร้อมกัน ในวันที่ 22 กรกฏาคม 2560 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แล้วมุ่งหน้าสู่ 3 สถาบันการแพทย์ใน 3 ภูมิภาคของประเทศไทย โดยสายเหนือมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สายตะวันออกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสายใต้มุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

โดยกำหนดสิ้นสุดกิจกรรม  ในวันที่ 28 กรกฏาคม 2560 ที่สถาบันแพทยศาสตร์ในจังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น

รศ.นพ. พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

รศ.นพ. พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ป่วยโรคยากและซับซ้อน ใน 14 จังหวัดภาคใต้ มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องใช้ทุนทรัพย์ในการรักษาที่ค่อนข้างสูง จึงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาการรักษาตัว “อาคารเย็นศิระ” จึงเกิดขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ซึ่งตอนนี้อาคารเย็นศิระ 1 – 2 รองรับผู้ป่วยและครอบครัวได้ประมาณ วันละ 500 คน แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นเกินที่ศักยภาพของทั้ง 2 อาคารจะรับได้ เงินบริจาคจากโครงการที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ทางคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงตั้งใจสมทบร่วมสร้าง อาคารเย็นศิระ 3” ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะรอรับผู้ป่วยและครอบครัวได้มากถึง 500 คนต่อวัน “เย็นศิระ” อาจไม่ใช่ที่ที่สะดวกสบาย แต่เป็นสถานที่พักพิง เป็นเหมือนบ้านอีกหลังที่พร้อมจะพยาบาลผู้ป่วยและครอบครัวด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ให้สมกับคำว่า ที่นี่ คือ “ที่ฝากชีวิตของคนในภาคใต้”

ศ.นพ. บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทางด้าน  ศ.นพ. บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เงินบริจาคที่ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะได้รับในครั้งนี้ ทางเราจะนำไปสร้างศูนย์ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้ายของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Palliative Care Center) เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งและโรคเรื้อรัง ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทั้งจัดตั้งโครงการธนาคารอุปกรณ์ สำหรับให้ผู้ป่วยที่ต้องดูแลแบบประคับประคองหรือโรงพยาบาลในเขต 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้มีโอกาสยืมไปใช้ในการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวในด้านค่าใช้จ่ายการเดินทางนำผู้ป่วยกลับไปดูแลระยะท้ายของชีวิตที่บ้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตด้านอื่น ๆ และจัดการฝึกอบรมพัฒนาแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครชุมชน ให้มีความรู้และทักษะในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้าย ซึ่งจะนำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยและครอบครัวต่อไป


รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการจัดโครงการนี้ว่า การร่วมมือของ 3 สถาบันในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะพัฒนาวงการแพทย์ในเขตภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งใจนำเงินบริจาคจากโครงการไปใช้พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของระบบบริการทางการแพทย์ให้สามารถดูแลผู้ป่วยที่มีความยุ่งยากซับซ้อนได้ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมของชาติได้ อีกทั้งจะพัฒนาเครือข่ายผู้ดูแลผู้ป่วย ทางทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกรและทีมวิชาชีพให้มีศักยภาพที่สูงขึ้นมีความสามารถดูแลผู้ป่วยในทุกระดับได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนอีกด้วย

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดงานพิธีเปิดโครงการ “3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run&Ride for Life” งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฏาคม 2560

สำหรับผู้ที่สนใจ ร่วมบริจาคได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนวิ่ง/ปั่นมุ่งหน้าสู่จุดหมาย 3 ภูมิภาค และ สามารถบริจาคได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 641-3-009595
ชื่อบัญชี : 3 สถาบันแพทย์
วิ่ง- ปั่น ปันน้ำใจ เพื่อผู้ยากไร้ / 3 gether: Run & Ride for Life

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของโครงการ
“3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether: Run & Ride for Life”
https://www.facebook.com/3getherRunRideforLife

ใครคือสุดยอดเชฟชุมชนประจำจังหวัดระยอง

ลุ้นแทบขาดใจ…10 เมนูอร่อยนี้ที่ระยอง
BY เชฟชุมพล แจ้งไพร
กับสุดยอดวัตถุดิบหลักประจำจังหวัดระยอง

ใครคือสุดยอดเชฟชุมชนประจำจังหวัดระยอง สายนักชิม สายซีฟู้ด สายนักเดินทาง สายไหนๆ ต้องไม่พลาด ลองสักครั้งหลงรักอาหารระยองแน่นอน

งานประกาศผลและมอบรางวัลแด่ผู้ชนะเลิศในโครงการ “เชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง” เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560  ภายใต้โครงการ  เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน ณ ร้าน Heaven Bangkok อาคาร  Zen World กรุงเทพมหานคร

ไปเที่ยวระยองแล้วนึกถึงร้านอาหารอร่อยๆ ขึ้นชื่อ ร้านอาหารคุ้นลิ้น เรื่องความอร่อยมาได้นานร้อยกว่าปีแล้ว บอกเลยว่าต้องไม่พลาดแวะมาชิม 8 ร้านเด็ดที่ใครได้มากินเป็นต้องประทับใจ ไปแล้วต้องแวะสักครั้ง ไประยองทั้งที่ร้านต้องห้ามพลาด ชวนลิ้ม ชิมรส  8 เมนูเด็ด จาก 8 สุดยอดเชฟจากโครงการเชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชนบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) ร่วมกับจังหวัดระยองและการท่องเที่ยวแห่ประเทศไทย สำนักงานระยอง(ระยอง-จันทบุรี) จัดงานประกาศผล  และมอบรางวัลแด่ผู้ชนะเลิศในโครงการ เชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง


ผู้ที่เข้ารอบสุดท้ายจากการประกวด 10 เมนู ส่งประกวดซึ่งได้ผ่านการพัฒนาแล้วจากเชฟชุมพล และค่ำของวันนี้เราได้ร่วมชิมเมนูเด็ดร่วมพิสูจน์เมนูที่ได้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 8 เมนูเด็ด จากสุดยอดเชฟชุมชน  ประจำจังหวัดระยอง ได้สัมผัสวัตถุดิบท้องถิ่นแท้ๆ ซึ่งหาทานที่ไหนไม่ได้นอกจากระยองที่เดียวเท่านั้น 8 เมนูสุดยอด  จากเชฟระยอง  ในโครงการ  เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน By PTTGC

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อจะยกระดับอาหารท้องถิ่นของชุมชน  จังหวัดระยอง ให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ พร้อมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวตามรอยอาหารเมนูท้องถิ่นที่พลาดไม่ได้ ต่อยอดการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง โดยได้รับความร่วมมือจาก เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญเมนูอาหารไทยมาช่วยพัฒนาสูตรอาหารพื้นถิ่น พร้อมทั้งรังสรรค์สูตรอาหารจานใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่นในชุมชนจังหวัดระยองให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ตลอดจนการสร้างเชฟชุมชนจังหวัดระยองเพื่อนำไปสู่การร่วมสร้างสรรค์อาหารชุมชนขึ้นชื่อประจำจังหวัดต่อไป โดยทุกเมนูจะ ปรุงจากวัตถุดิบท้องถิ่นระยอง เพื่อสร้างเชฟชุมชนต่อยอดการท่องเที่ยวเมืองระยอง


เมนูที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีส่วนผสมที่มาจากวัตถุดิบที่กำหนดอย่างน้อย 1 อย่างจาก 19 วัตถุดิบท้องถิ่นของจังหวัดระยอง ซึ่งได้แก่ กะปิน้ำปลา ชะมวง ผักกูด หน่อกระทือ หอยแมลงภู่ ปลา ปู ปลากะพง ปลาหมึกแห้ง ปลาเค็มแดดเดียว กล้วยน้ำว้า (รสชาติ 3 น้ำ) พุทรา 3 รส ทุเรียน แขนงสับปะรด เส้นจันทร์ เงาะ กระชับ ระกำ และ มังคุด ภายใต้โครงการเชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชนby PTTGC ท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร  ชวนเที่ยวเมืองไทย

หมูชะมวงเนินสว่าง ร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง

8 Signature Dish สุดยอดเมนูอาหารถิ่นประจำจังหวัดระยอง หลังจากได้ 8 สุดยอดเชฟผู้เข้ารอบสุดท้ายของโครงการ “เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน by PTTGC” ที่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินการจัดขึ้นเพื่อต้องการยกระดับอาหารที่ทำมาจากวัตถุดิบท้องถิ่นใน จ.ระยอง ให้เทียบเท่ากับระดับสากล ซึ่งยังเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวมาชม 8 สุดยอดเมนูจากเชฟระยอง

1. หมูชะมวงเนินสว่าง
ร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง
คุณสุวรรณา ชัยพฤกษ์

2. ซี่โครงหมูราย็องซอสชะมวงฮิ
ร้าน Steak @ Good
คุณวาทิต สิงห์ทอง

3. ยำสัมพันธ์ 5 สหาย
ร้าน Lacapanna
คุณขนิษฐา บาร์โบนี

4. เส้นหมี่น้ำแดงโบราณ
วิสาหกิจชุมชนไม้กฤษณาตำบลกระเฉด
คุณพิกุล กิตติพล

5. ยำผักกระชับทอดกรอบ
ร้านชุมชนหมู่บ้านทะเลน้อย
คุณสารภี ถวิล

6. กุ้งทอดซอสใบชะมวง
ร้านบ้านบุญเพ็ชร
คุณภานุพงษ์ ควรหา

7. แกงคั่ว เล พลาฮิ
ร้านครัวพิศมัย
คุณพิศมัย พิลึก

8. แกงส้มปูไข่หน่อไม้ดองผักกระชับ
ร้านมีดีฟาร์มปูนิ่ม
คุณปฤษชนก สุวรรณโชติ

งานประกาศผลและมอบรางวัลแด่ผู้ชนะเลิศในโครงการ “เชฟชุมชนชวนกินถิ่นระยอง” เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560  ภายใต้โครงการ  เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน ณ ร้าน Heaven Bangkok อาคาร  Zen World กรุงเทพมหานคร

 

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดระยอง-จันทบุรี

ผู้ที่ได้รับการโหวตเป็นเชฟผู้ชนะเลิศในโครงการนี้คือ
เชฟสุวรรณา ชัยพฤกษ์ ได้รับการการันตีว่าเมนู “หมูชะมวงเนินสว่าง” เป็น “Signature Dish ของร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง” พร้อมทั้งเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท

เชฟสุวรรณา ชัยพฤกษ์ ได้รับการการันตีว่าเมนู “หมูชะมวงเนินสว่าง” เป็น “Signature Dish ของร้านวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง” พร้อมทั้งเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท

รู้ผลกันแล้วว่าใครจะได้เป็นสุดยอดเชฟ
เชฟหน้าใหม่ไฟแรงประจำจังหวัดระยอง

ขอแสดงความยินดีกับสุดยอดเชฟชุมชน
ประจำจังหวัดระยอง
เชฟนุช – คุณสุวรรณา ชัยพฤกษ์
เจ้าของเมนูอร่อย : หมูชะมวงเนินสว่าง
จากวิสาหกิจชุมชนเนินสว่าง

เชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน อย่าให้ความอร่อยอยู่แค่ในครัวคุณ
สอบถามเกี่ยวกับโครงการได้ที่
http://www.facebook.com/rayongchef

เมื่อแจ็ค จารุพงศ์ เผยแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน

ERNEST CAFÉ & BAR ยิ่งเสพ ยิ่งสร้างสรรค์

วันที่ Toptotravel ได้ไปเยี่ยมชม ERNEST CAFÉ & BAR คาเฟ่แอนด์บาร์สุดชิค มาดูมุม Check point ที่มีการสัมภาษณ์ แจ็ค แบล็คแจ็ค หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ทุ่มทุนเปิดร้าน ERNEST CAFÉ & BAR  บรรยากาศ  Cultured Space เขาบอกเหตุผลที่เลือกตกแต่งสไตล์ลอฟท์สุดเท่ คาเฟ่รูปแบบใหม่เอาใจสายอาร์ต เพราะติดใจในรสชาติของกาแฟ เต็มอิ่มกับงานศิลป์ เคล้าอาหารและเครื่องดื่มรสเยี่ยม ในบรรยากาศสุดคูลคาเฟ่สายอาร์ทสำหรับคนเสพศิลปะ เปิดพื้นที่ให้สำหรับคนโชว์งานศิลปะฟรี จึงหยิบมาเป็นแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน

ส่วนแนวคิดเรื่อง Bkk cultured space แจ๊คตั้งใจมาก เพื่อให้เป็นพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ ภายใต้จินตนาการ และความสนุกของชิ้นงาน ผลงาสร้างสรรค์แปลกใหม่ เพราะเราเข้าใจกฎเกณฑ์และระบบ กฎเกณฑ์อาจไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่คิด แต่อาจเป้นตัวแปรสำคัญในการสร้างผลงานที่มหัศจรรย์ได้

จะเป็นอย่างไร?  เมื่อหนุ่ม แจ็ค-จารุพงศ์ เผยถึงแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน ERNEST CAFÉ & BAR  ออกแบบคล้ายเรือนกระจกที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ  และสวนหย่อมแสนเก๋ นอกจากจะชื่นชอบการดื่มกาแฟ และหลงใหล การเสพงานศิลป์เป็นชีวิตจิตใจ  จากวันนั้นจนถึงวันนี้ทุ่มทุนเปิดร้าน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความชอบเดียวกัน ให้ได้ร่วมเอนจอยไปกับอาหารและเครื่องดื่ม  แจ็ค-จารุพงศ์  ยังได้เปิดพื้นที่ให้ศิลปินหน้าใหม่ได้แสดงผลงานภายในร้าน ทั้งรูปถ่าย  รูปวาด  รูปปั้น  เรียกได้ว่าแทบยกร้านให้ตกแต่งกันเต็มที่!! โดยจะสลับเปลี่ยนผลงานทุกสองอาทิตย์ เหมือนเป็นการเปลี่ยนธีมร้านอยู่ตลอด

ERNEST CAFÉ & BAR   ร้านอาหาร และ  คาเฟ่ ที่รวบรวม งาน ศิลปะ จาก ศิลปิน หลายสัญชาติ Bkk cultured space มาโชว์ไว้ในร้าน ศิลปะทุกชนิดมากมาย  ผลงานจะเปลี่ยน ทุกๆสองอาทิตย์ พื้นที่เปิด Artist หรือ นักศึกษา สามารถเอาผลงานมาแสดง หรือใช้พื้นที่ ที่ร้าน จัด Workshop ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  (ตามข้อตกลงของทางร้าน ) และทางร้านมีที่จอดรถ

เมนูเครื่องดื่มแนะนำ:  เครื่องดื่มเราปลื้มกัน กับสายชา โดยเฉพาะ Long Island Apple Tea  สูตรกลมกล่อมไม่บาดคอ  Fovorite Ernest Festive Drink
Long Island Apple Tea
Blood Orange
Berries & Beet Smoothie
Easy Sparkling Blueberry Lemonade

แนะนำเมนูเครื่องดื่ม: Ernest’s Frappe Menu:
1. Coffee Frappe
2. Chocolate Frappe
3. Caramel Macchiato Frappe
4. Mocha Frappe
5. Green Tea Frappe

และถ้าง่วงๆ แบบนี้ เจอกับกลิ่นกาแฟมาแต่ไกล  ใจก็เอาไม่อยู่ ขอรับกาแฟทางร้านมีเมนูกาแฟให้เลือกลองด้วยเช่นกัน  ฟินมากมานั่ง กินคาปูชิโน่หลายๆ แก้ว กินเค้กหลายๆ ชิ้น มีสวนต้นไม้ และมีดาดฟ้า นั่งรับลมเย็น ๆ ด้านนอก  หรือนั่งภายในร้านเลือกที่ชอบ  ส่วนที่นั่งมีทั้งโซนด้านใน   และโซนเอาท์ดอร์ บรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ นี่คือหนึ่งในร้านกาแฟที่สามารถเข้ามานั่งได้ไม่จำกัดเวลานะคะ แต่งฮิปๆ แบบลอฟต์สไตล์
มีมุมให้เลือกนั่งเยอะเลย อีกอย่าง!!!  ร้านนี้เจ้าของร้านใจดีมากๆ

แจ็ค-จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม

เพราะติดใจในรสชาติของกาแฟ และหลงใหลในงานศิลป์เป็นทุนเดิม ล่าสุด แจ็ค- จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม แจ็ค-แบล็คแจ็ค จึงตัดสินใจทุบกระปุก ร่วมทุนเนรมิตรร้าน ERNEST CAFÉ & BAR คาเฟ่ บาร์ ร้านอาหาร และ Art Space สงบและร่มรื่น  ท่ามกลางสวนสวย  ย่านเลียบด่วนเอกมัยรามอินทรา

ในบรรยากาศ Cultured Space ตกแต่งสไตล์ลอฟท์สุดเท่  เพรียบพร้อมไปด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย และยังเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม  รวมไปถึงยังนำเสนอแรงบันดาลใจ ภายใต้คอนเซปต์ EAT.DRINK.CREATE และได้นั่งชิลล์ ดื่มด่ำกับบรรยากาศชิลล์ๆ  ทำให้ลูกค้าอิ่มท้อง สมองลื่น พร้อมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ได้ทุกวัน โดยจัดงานโอเพนเฮาส์แนะนำร้านในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ที่ร้าน ERNEST CAFÉ & BAR  ร้านอาหาร รวมไปถึงบาร์คราฟท์เบียร์  ให้แวะไปนั่งชิลกันได้สบายๆ นั่งพักผ่อนกับเพื่อนๆ อีกด้วย

ให้บริการอาหารหลากหลาย ทั้งเมนูอาหารไทย และเมนูอาหารฝรั่ง ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เน้นความอร่อย สะอาด และราคาไม่แพง ที่หนุ่ม แจ็ค คอนเฟิร์มว่า อร่อย จัดจ้านทุกเมนู รวมถึงหมวดเครื่องดื่มกาแฟ ซึ่งเป็นอีกเมนูไฮไลท์  ที่ลูกค้าสายชิลล์ห้ามพลาด เรียนเชิญมาร่วมพิสูจน์ความอร่อยในร้าน ERNEST CAFÉ & BAR

ขอขอบคุณ ERNEST CAFÉ & BAR คาเฟ่แอนด์บาร์สุดชิค ขายอาหาร กาแฟ ขนม และ Alcohol Free Wifi


ร้าน ERNEST CAFÉ & BAR

ตั้งอยู่ใน ซอยโยธินพัฒนา 11 ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา
(ด้านหลัง Chic Republic)
บรรยากาศดิบเท่มีสไตล์ รายล้อมด้วยผลงานสุดอาร์ต ได้แล้วที่ร้าน ERNEST CAFÉ & BAR เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 – 24.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 086-992-9582
Line :: @ernestcafeandbar
Facebook: ernestcafeandbar
Instagram :: @ernestcafeandbar

#bkkculturedspace #ernestcafe #eatdrinkcreate
#Repost @jackiblackjack

ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย จังหวัดสมุทรสงคราม

ภายใต้โครงการเที่ยวสุขใจ วิถีชุมชน สมุทรสงคราม เมืองสายน้ำ  สามเวลา

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทยและ  PHOTOTECH   ประกาศผลรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย

โครงการประกวดภาพถ่าย จ.สมุทรสงคราม  หัวข้อ  ”เมืองสายน้ำสามเวลา”

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)  ได้ดำเนินการตามแผนการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2560 ภายใต้แนวคิด  เมืองต้องห้ามพลาด

เพื่อส่งเสริมการเดินทาง  ท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เมืองสายน้ำสามเวลา

คำนิยามของ  สายน้ำสามเวลา  คือ วิถีชีวิตของคนที่นี้ใช้สายน้ำในการดำเนินชีวิต   และที่นี่  มีสามอำเภอ คืออำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนทีจังหวัดสมุทรสงคราม    เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของการท่องเที่ยว  ในจังหวัดหลัก

นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม

นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม  (สมุทรสงคราม  สมุทรสาคร)   เปิดเผยว่า   การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับบริษัทมีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด , สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย , ชมรมถ่ายภาพสมุทรสงคราม กำหนดจัดกิจกรรม  การประกวดภาพถ่าย  ในจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ  เมืองสายน้ำ…สามเวลา ซึ่งในเวลาเช้า ตักบาตรพระสงฆ์ , เวลากลางวัน เที่ยวตลาดน้ำ-ตลาดบก ไหว้พระทางน้ำ หรือล่องเรือนวด , เวลาเย็น-ค่ำ  ล่องเรือชมหิ่งห้อย   ในโครงการเที่ยวสุขใจ  วิถีชุมชน สมุทรสงคราม เมืองสายน้ำสามเวลา ตามแผนการตลาดของสำนักงาน ประจำปี  ๒๕๖๐   กลยุทธ์ที่ ๓    กระจายพื้นที่ท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด
เมืองต้องห้ามพลาด

โครงการ ประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ “เมืองสายน้ำสามเวลา” มีช่างภาพ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจังหวัดสมุทรสงครามเป็น ๑ ใน ๑๒ เมืองต้องห้าม…พลาด   มีผู้สนใจส่งภาพถ่ายเข้าประกวด จำนวน ๗๔ คน มีภาพถ่ายส่งเข้าประกวด จำนวน ๓๒๕ ภาพ ซึ่งแต่ละภาพ
มีความสวยงามที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน หลักเกณฑ์การตัดสิน ๕ ประการ ดังนี้

๑. สวยด้วยแสง บรรยากาศสภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม และมีการแสดงออกซึ่งความสวยงามของสถานที่

๒. แรงด้วยสี อารมณ์ และสีสันของภาพที่ถ่ายทอดออกมา
อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการต้องการเดินทางท่องเที่ยว

๓. ดีด้วยองค์ประกอบ มีความครบถ้วนองค์ประกอบภาพ
ตามหลักการวิจิตรศิลป์

๔. ตอบโจทย์ได้ มีความสอดคล้ององค์ประกอบภาพถูกต้อง
ตามหัวข้อการประกวด คือ เที่ยวสุขใจ วิถีชุมชน สมุทรสงคราม
เมืองสายน้ำ…สามเวลา

๕.ใช้ในการประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวได้ ซึ่งสามารถเผยแพร่
ต่อสาธารณชน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ   ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม

รางวัลชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย คุณอำนาจ  ประเสริฐเขียว   ชื่อภาพ ใส่บาตรพระ

เป็นการกระจายพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไปยังชุมชนต่างๆในจังหวัดสมุทรสงคราม ก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนเพิ่มมากขึ้น และทาง ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม ได้เห็นความสำคัญและต้องการต่อยอดการประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งจากคนในท้องถิ่น จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวทั่วไป รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการรับรู้และเข้าใจในอัตลักษณ์ของการเป็น “ เมืองสายน้ำสามเวลา ”  ของจังหวัดสมุทรสงครามซึ่ง
มีผลทำให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

โครงการ ประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ
เมืองสายน้ำสามเวลา” มีช่างภาพ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ส่งภาพเข้าประกวดจำนวน 74 ท่าน  (กทม. 28  ปริมณฑลและต่างจังหวัด 46 )

จำนวนภาพรวมทั้งหมด 325 ภาพ  ประเภทภาพแบ่งเป็น 4 หัวข้อ

1.ภูมิทัศน์  115 ภาพ

2.สถาปัตยกรรม  82 ภาพ

3.วัฒนธรรมประเพณี  27 ภาพ

4.วิถีชีวิต 100 ภาพ

  1. อื่น ๆ 1 ภาพ

คณะกรรมการตัดสินภาพ หัวข้อ เมืองสายน้ำสามเวลา

ประธานจัดงานการประกวดฯ

คุณอินทิรา วุฒิสมบูรณ์   ผู้อำนวยการสำนักงานสมุทรสงคราม ( ททท. )
ประธานการตัดสินภาพถ่าย    

คุณสวัสดิ์  ปฏิภาณประเสริฐ ประธานสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย

คณะกรรมการตัดสิน    

คุณสุรพล   สุภาวัฒนกุล
ผู้ชำนาญการด้านภาพถ่าย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท )

คุณสมุทร  ชูสกุล  ประธานชมรมถ่ายภาพสมุทรสงคราม

คุณเกรียงจิตร  มิตรยอดวงศ์  บรรณาธิการฝ่ายกิจกรรม PHOTOTECH

รางวัลชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย

คุณอำนาจ  ประเสริฐเขียว   ชื่อภาพ ใส่บาตรพระ
“ใส่บาตรพระ” รางวัลชนะเลิศ ประกวด  เมืองสายน้ำสามเวลา
เงินรางวัล ๒๕,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๑
คุณกมล ชัยมงคลสวัสดิ์   ชื่อภาพ ตลาดน้ำโบราณ
รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๑ ประกวด ”เมืองสายน้ำสามเวลา”
เงินรางวัล ๑๕,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๒
คุณวินนิวัตร ไตรตรงธนรัตน์  ชื่อภาพ  มนต์เสน่ห์อัมพวา
รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๒ ประกวด ”เมืองสายน้ำสามเวลา”
เงินรางวัล ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชมเชย ๕ รางวัล รับประกาศนียบัตร พร้อมเงินรางวัล ๑,๐๐๐ บาท

รางวัลชมเชย คือ คุณศรนนท์  สวงโท  ชื่อภาพ เคี่ยวน้ำตาล

รางวัลชมเชย คือ คุณธนพงษ์  อระวีพร  ชื่อภาพ ดารารถราง

รางวัลชมเชย คือ คุณธีรธัช  โน๊ตศิริ  ชื่อภาพ สนุกสนาน

รางวัลชมเชย คือ คุณสุรีย์  พึ่งฉ่ำ  ชื่อภาพ ยามเย็นที่วัดบางกุ้ง

รางวัลชมเชย คือ คุณชัยวัฒน์  กัณหดุล  ชื่อภาพ ตลาดน้ำยามค่ำ

จากการจัดกิจกรรมประกวดภาพถ่ายในปี ๒๕๖๐ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากหลายภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งภาพที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ ทาง ททท.สำนักงานสมุทรสงครามจะได้นำภาพไปใช้ในการประชาสัมพันธ์และขยายผลทางด้านการตลาดต่อไปในอนาคต

การรับสมัครและตัดสินภาพส่งเข้าประกวด 

เปิดรับภาพ    วันที่ 15 เมษายน – 14 มิถุนายน 2560  ทั้งนี้ หากส่งทางไปรษณีย์ จะถือวันที่ประทับตราฯ  วันที่ 14 มิถุนายน 2560 เป็นสำคัญ

ตัดสินภาพ     วันที่ 22 มิถุนายน 2560
ณ กนกรัตน์ รีสอร์ท   จังหวัดสมุทรสงคราม

ประกาศผล  วันที่ 29 มิถุนายน 2560
www.phototechthailand.com
เฟสบุ๊ค:  นิตยสาร โฟโต้เทค

วันที่  19  กรกฎาคม  2560
ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานสมุทรสงคราม จัดโครงการประกวดภาพถ่ายขึ้น พร้อมทั้งขอแสดงความยินดี  กับช่างภาพที่ได้รับรางวัล  โครงการประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ  เมืองสายน้ำสามเวลา  และขอเป็นกำลังใจให้ช่างภาพทุกท่านที่ร่วมส่งภาพเข้าประกวดในครั้งนี้

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น